Not Fat
{CH 28 ปังปังโดนทำร้าย}
“ปังปัง!!!”
ผมสะดุ้งหันไปมองตัวเล็กที่เท้าเอวมองผมตาปริบๆ ทำไมต้องเสียงดังด้วย ตกใจหมดเลยนึกว่าใครมาทำโมอายเกาะอิสเตอร์ที่อุตส่าห์ทำจนเสร็จเหลือแค่รอให้แห้งก็ส่งได้แล้ว เฮ้อ … ผมผวาไปหมดแล้วเชียวนะ ยังโชคดีที่ผมขออาจารย์ส่งก่อนสามทุ่มได้ ไม่อย่างงั้น วิชานี้ผมคงต้องไปดรอปไว้ก่อนแน่ๆ ถ้าเป็นแบบนั้นผมคงต้องลงไปกลิ้งๆดีดดิ้นกับพื้นให้สมกับที่ผมพยายามมาซะเยอะ ผมเหลือบมองไปรอบๆเห็นพี่ๆเพื่อนๆนั่งทำพร็อบของงานภาคกันอย่างสนุกสนานแต่ไม่เห็นชินโด เพราะผมให้ชินโดไปทำงานที่ร้านกาแฟใกล้ๆ ม. ชินโดไม่รับเงินผมเค้าบอกรู้สึกผิดมากกับเรื่องที่ทำลงไป ผมไม่โกรธเลยนะ ผมคิดว่าเค้าน่าสงสารด้วยซ้ำ … ต่อไปนี้ชินโดคงไม่ทำเรื่องแบบนี้อีกแน่ๆ …
สองวันมาแล้วที่ทุกอย่างเป็นปกติสุขดี เฮ้อ ผมก็ได้แต่ภาวนาให้มันสงบอย่างงี้ต่อไปเรื่อยๆนะ เบอร์ที่ผมได้มาผมลองใช้เบอร์ตู้โทรไปมาแล้ว … มันถูกปิดบริการเฉยเลย … ผมเลยไม่รู้ว่าใครที่สั่งชินโดมา และตอนนี้ผมก็ตัดสินใจแล้วว่าไม่อยากจะรู้แล้ว บางทีนะ ผมอาจจะต้องระวังตัวให้มากขึ้น แค่นั้นเอง …
“เหม่ออะไรนักหนาเนี้ยปัง” ตัวเล็กท่าทางอารมณ์ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก
“มีอะไรรึเปล่าเล็ก”ผมถามขึ้นในขณะที่มองไปที่โมอายของผมที่กำลังตากพัดลมอยู่ใกล้ๆ ตอนนี้ก็จะสองทุ่มแล้ว ผมควรเอางานไปส่งอาจารย์ก่อนที่อาจารย์จะกลับซะก่อนดีกว่า
“เล็กเดี๋ยวปังกลับมาคุยนะไปส่งงานที่ตึกแปปนึง” ผมว่าเมื่อเห็นว่าเล็กไม่ยอมบอกความจริงกับผม
“เล็กไปด้วย”
โมอายถูกผมอุ้มขึ้นมาอยู่บนอ้อมแขนมันค่อยข้างจะชื้นหน่อยๆเพราะผมเพิ่งทำเสร็จตอน 6 โมงกว่าๆ แต่พรุ่งนี้เช้าคงจะแห้งสนิท เราสองคนพากันมาที่ตึกศิลปกรรมด้านหลังที่ทำเป็นห้องพักครูโดยรอบอาจจะเงียบกว่าตอนกลางวันแต่ก็ยังมีนักศึกษาทำกิจกรรมกันอยู่บ้างปะปายไม่ถึงกับน่ากลัวมากนัก
“ปังปังเดินทางนี้จิ ทางนั้นมันน่ากลัว” ตัวเล็กเรียกผมออกมาเดินข้างถนนเลียบตึก
“แต่ทางนี้มันทางลัดนะ”
ผมว่าและชี้ไปทางสะพานข้ามสระบัวที่ค่อนข้างยาวแต่จะลัดกว่าทางเดินเลียบถนนเพราะแค่ข้ามไปก็เข้าทางตึกเรียนด้านหลังได้เลยแต่มันก็หน้ากลัวอย่างที่เล็กบอกนั้นแหละ เพราะว่าไม่มีไฟ แถมยังมีไม้เลื้อยมาพันที่สะพานอีก มีประวัติเรื่องผีตามภาษามหาลัยเก่าแก่ด้วยว่ามีเด็กนิเทศมากระโดดน้ำตาย จะตายได้ยังไง ด้านล่างลึกแค่เอวเองนะ …ผมล่ะงงมาก
“มันน่ากลัวไม่มีคนเลย” ตัวเล็กยังส่ายหน้า ผมก้มมองนาฬิกา ตอนนี้ 2 ทุ่มครึ่งแล้ว
“มาเถอะตัวเล็ก เรารีบเดินนะ ตรงนั้นมันไกลเดินอ้อมเยอะเลย”
“รู้งี้เล็กให้เสาร์มาส่งดีกว่า” เล็กบ่นและวิ่งมาเกาะแขนผมหมับ ผมหันไปยิ้มให้ตัวเล็กที่ไม่เคยกลัวอะไรกับเค้าแต่กลัวผีเป็นชีวิตจิตใจ ขนาดนอนยังต้องปิดโคมไฟเล็กๆไว้ตรงฝั่งของตัวเองเลย
เราพากันเดินมาจนเกือบๆถึงกลางสะพานเล็กก็หันกลับไปมองด้านหลังเหมือนจะรู้สึกอะไรบางอย่าง ผมไม่เห็นจะรู้สึกเลยไม่อยากถามเดี๋ยวเล็กจะกลัว พากันเดินมาให้ไวที่สุดตัวเล็กนี้แทบวิ่งแต่ติดที่ยังเกาะแขนผมอยู่
“ปังปัง … เล็กว่ามันแปลกๆ”นั้นไง … เริ่มหลอนแล้ว
“เล็กวิ่งไปรอปังฝั่งโน้นก่อนก็ได้” ผมว่า
เล็กส่ายหัวดิก เราเลยพากันเดินมาเรื่อยๆ แต่แล้วเล็กก็ร้องออกมาเสียงหลงเมื่อเห็นเงาของคนตัวใหญ่กำลังเดินมาจากทางด้านหน้าผมขมวดคิ้วคงเป็นใครสักคนที่ใช้ทางลัดไปหลังช้อปล่ะมั่ง
“มาทำอะไรกัน”
“พี่ใหญ่” ผมพึมพัมออกมาเบาๆ จำได้เสียงแบบนี้มีคนเดียว เค้าเดินเข้ามาใกล้ก่อนที่ตาดุๆจะมองผมที่อุ้มตุ๊กตาปั้นโมอายกับตัวเล็กที่หัวแต่ซุกแขนผมตัวสั่น
“ผีๆ ปังผี ฮืออออออ”
“ไม่ใช่ผีตัวเล็กพี่ใหญ่ต่างหาก” เล็กเงยหน้าขึ้นมามองก่อนที่แก้มขาวๆจะแดงปรั่งด้วยความอาย ฮ่าๆๆๆ แมวเสียฟอร์ม
“ผมจะไปส่งงานอาจารย์ครับ”
“ป่านนี้เนี้ยนะ”ผมก้มหน้าลงมองโมอายที่อุ้มอยู่ทันที … จะบอกยังไงดีว่าต้องทำงานใหม่ …เลยส่งช้ากว่าเพื่อนคนอื่น
“ผมลืมส่งครับ”
ผมแถไปเรื่อยพี่ใหญ่ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างหน่ายใจ … วันนี้เค้าดูเหนื่อยๆนะ ยิ่งเจอผมเป็นแบบนี้อีกเค้าคงจะเหนื่อยคูณสอง ผมรู้สึกผิดมากไม่กล้าสบตาเค้าแม้แต่น้อย ผมไม่กล้าบอกนี้ว่าโดนแกล้งถ้าบอกขินโดต้องตายแน่ๆ แล้วถ้าบอกเรื่องวุ่นวายก็ต้องตามมา เรื่องนี้เป็นเรื่องของผม ตัวของผมถ้ายังปกป้องตัวเองไม่ได้ ผมก็คงทำอะไรไม่ได้อีกแน่ๆ
“เดี๋ยวไปส่งเป็นเพื่อน” ผมเม้มปากก่อนจะเดินตามเค้าไปเงียบๆตัวเล็กย่นจมูกอย่างไม่พอใจคันปากยิบๆอยากจะบอกพี่ใหญ่ให้ได้ แต่ผมทำมือห้ามไว้ก่อนเล็กจึงหยุด
น่าแปลกที่บรรยากาศน่ากลัวๆหายไปทันทีที่มีพี่ใหญ่เดินมาด้วย แต่ความดุระดับ 10 ของเค้าทำให้ผมรู้ว่ากลับไปผมคงต้องโดนเสือขยำแน่ๆเตรียมแก้มไว้ให้ดึงเลย แค่คิดก็แก้มชาแล้ว
เราพากันเดินมาถึงหลังคณะในเวลาไม่นานนัก ก่อนที่พี่ใหญ่จะพาเดินขึ้นไปบนชั้นสามที่เป็นห้องพักอาจารย์ ในระหว่างทางมีกลุ่มคนนั่งทำงานวาดรูปเป็นระยะๆ เป็นตึกที่ไม่เคยเงียบจริง พอเดินมาถึงห้องพักครู ผมก็โล่งอกเมื่อเจออาจารย์กำลังเก็บ
ของกลับพอดี
“อาจารย์ครับผมเอางานมาส่ง” อาจารย์เงยหน้าขึ้นมามองผมก่อนจะยิ้มกว้างหยิบหนังยางมารัดผมสีเขียวอ่อนๆของแกไว้อย่างหลวมๆอาจารย์แกค่อนข้างจะติสๆสมกับเป็นอาจารย์ของศิลปกรรมนะครับ
“นึกว่าจะมาไม่ทันซะแล้วเชียว เห็นเจ้าตัวเล็กบอกนะว่ามีคนแกล้ง แย่จริงๆเลยนะคนทำเนี้ย” ผมสะดุ้งกึก …ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ อาจารย์มองผมสามคนสลับกันก่อนจะพูดขึ้นต่อเบาๆ
“เอ่อ … ผมพูดอะไรผิดรึเปล่า”
“ไม่ผิดหรอกครับ เอางานไปวางสิ” เสียงของพี่ใหญ่เย็นเยือก … ผมตัวสั่นน้อยๆก่อนจะเดินเอางานไปวางกับเพื่อนก่อนจะเดินกลับมายืนที่เดิมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหุ่นยนต์เลยแหะ
พอส่งงานเสร็จพี่ใหญ่ก็เดินแยกกลับออกไปทันที ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ซวยแล้ว ผมคงไม่โดนแค่หยิกแก้มแล้วล่ะ ดูท่างานนี้จะเป็นเรื่องใหญ่โต เฮ้ออออออออออออ
“เล็กขอโทษถ้าเล็กไม่แอบบอกอาจารย์ อาจารย์จะไม่ให้ปังส่งหลังเพื่อน” เล็กพูดและเอาหน้าซุกกับแขนผม
“ไม่เป็นไรตัวเล็ก ยังไงความลับก็ไม่มีในโลก”ผมพูดและยิ้มให้
เราพากันมาหน้าตึกก่อนจะเห็นเสาร์นั่งคร่อมรถมอเตอร์ไซค์อยู่ก่อนแล้วเห็นว่าเล็กไลน์ให้มาหาตั้งแต่อยู่บนสะพาน ผมเลยให้เล็กกับเสาร์กลับไปทำงานภาคต่อที่หลังมหาลัยส่วนผมเองก็แยกตัวออกมาเดินกลับหอ เอายังไงก็เอา แต่ขอกลับไปดูผู้ใหญ่ขี้งอนอย่างพี่ใหญ่ก่อน ไม่รู้ป่านนี้เสือร้ายโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปถึงไหนแล้ว
ผมเดินออกมาจากมหาลัยแวะซื้อหมูปิ้งไปง้อเสือแต่ก็ต้องชะงักมือที่กำลังยกน้ำเปล่าขึ้นดูดเมื่อเห็นรถตู้คันสีขาวมาจอดปร๊าดเข้าตรงหน้า ลางสังหรณ์แปลกของผมเตือนว่ามันไม่ดีแน่นอนถ้าผมยังอยู่ตรงนี้ ผมรีบปลีกตัวจะวิ่ง แต่ก็โดนกระชากจากด้านหลังอย่างแรงและเหวี่ยงเข้าไปในรถตู้จนหลังผมกระแทก ฮื่ออออออออออ ผมไม่ได้น่ารักเหมือนใครนะ จะมาลักพาตัวผมทำไม!!!
“พวกคุณเป็นใคร อึก!!!” ผมจุกอั๊กเมื่ออยู่ๆไอ้คนที่จับผมเหวี่ยงเข้ามารถก็ชกเข้าที่ท้องน้อยจนตัวผมงอ
“ออกรถ” สิ้นคำสั่งรถก็ถูกเคลื่อนออก ใครก็ได้ช่วยด้วย ผมทำอะไรผิดนักหนา ฮึก พี่ใหญ่ ฮึก พ่อจ๋า T^T
“ร้องไห้หาพ่อมึงหรอน้ำหน้าอย่างมึงกูไม่ทำอะไรหรอก แค่มีคนฝากมาบอกมึงว่าถ้าขืนยุ่งกับคุณใหญ่อีก มึงโดนหนักกว่านี้แน่!!!!” เสียงตะคอกนั้นทำให้ผมเจ็บจี๊ดไปทั้งส่วนท้องที่โดนชกและเจ็บใจมาก ฮึก ผมไม่รู้ว่ามันมีกันกี่คน แต่ผมเกลียดกลิ่นบุหรี่กลิ่นเหล้าที่ไม่ใช่ของพี่ใหญ่ ฮึก พี่ใหญ่
“จะพาผมไปไหน” ผมกลั่นเสียงเจ็บปวดนั้นก่อนจะถามขึ้นเบาๆ
“จนกว่าจะถึงฟาร์มจระเข้ถ้ามึงยอมรับปากว่าจะไม่ยุ่ง กูจะปล่อยมึงไป” ฮืออออออออออออออ ผมจะโดนจระเข้กินหรอ ผมไม่อร่อยหรอกนะมีแต่ไขมัน ต่อให้ตายยังไง พี่ใหญ่เคยบอกผมว่าห้ามหนีไปจากเค้า ห้ามผมหมดรักเค้า และรักเค้าเพียงคนเดียว ผมจะไม่เลิกยุ่งกับพี่ใหญ่ ฮึก ไม่เอา
“พูดสิว่ะไอ้อ้วน ไอ้ห่าไม่เจียมตัว อ้วนก็อ้วนดำก็ดำ จนก็จน!เสือกอยากแดกของแพง!!!” อีกเสียงตะคอกผมขึ้น ฮึก ไม่เอา
“ไอ้ห่านี้ปากแข็ง…”
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด “เฮ้ย เบรกทำไมว่ะ”
“มีมอเตอร์ไซค์มาขวางหน้าพี่”
ผมได้ยินแค่นั้นก็ได้ยินเสียงประตูเปิดกระชากออกเสียงปุกๆปั๊กๆดังขึ้นสนั่น ผมหลับตาปี๋ไม่กล้ามอง ฮึก อย่ามีเรื่องกันสิ ใจคอไม่ดีเลย พี่ใหญ่ช่วยปังปังด้วย คนพวกนี้เป็นบ้าไปแล้ว ผมยังไม่อยากไปเป็นอาหารจระเข้ ฮึก
“ใครใช้พวกมึงมา!!!!!!!!” เสียงตะคอกนั้นทำให้ผมสะดุ้งโย่งก่อนจะลืมตาโผลงขึ้นเมื่อสติสัมปชัญญะรู้แล้วว่าคือใคร
“พี่ใหญ่” ผมพึมพำเบาๆกัดปากตัวเองไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
ฮึก พี่ใหญ่มาช่วยจริงๆด้วย ฮึก ตอนนี้พี่ใหญ่หน้ากลัวมาก ฮึก ผมได้แต่อ้าปากค้างเมื่อเค้าชกลงบนหน้าของคนที่ตะคอกใส่ผมเมื่อกี้เสียงดังโครมใหญ่… ถ้าผมโดนหมัดแบบนั้นบ้างหัวผมคงจะหมด 360 องศาแน่ๆ
“กูถาม!!!!! ใครใช้พวกมึงมา!!!!!!!”
“พี่ใหญ่ พอเถอะครับเดี๋ยวเค้าตาย”
ผมกระโจนออกไปคว้าแขนของเค้าที่จะวาดหมัดลงไปอีกรอบ พวกคนที่มากับคนๆนี้ก็นอนหมอบกันเป็นแถวๆ ในซอยนี้ห่างจากมหาลัยผมไม่มาก แต่ผมไม่เคยมาเพราะเล็กบอกผีดุเลยไม่เคยพาผมมาสักครั้ง ก็จริงนะเพราะซอยนี้ทั้งมืดทั้งเปลี่ยวไม่มีบ้านสักหลังเป็นที่ที่ไม่น่ามาจริงๆ แต่ผมก็มา …
“ไม่รู้ ผมไม่รู้ เบอร์นี้ครับ เค้าว่าจ้างพวกมึงมา” คนนั้นรีบคว้าเอากระดาษที่ขยำจนเละส่งมาให้พี่ใหญ่ เค้าคว้ามันมาถือไว้ก่อนจะเตะเข้าที่ชายโครงของคนๆนั้นอีกตั๊บใหญ่ๆ ฮึ้ยยยย … น่ากลัว
“ไม่เป็นไรใช่ไหม”เค้าหันมาถามผม สีหน้าของเค้าตอนนี้ดูโกรธจัดมาก ผมพยักหน้าก่อนจะเหวี่ยงผมขึ้นรถมอเตอร์ไซค์คันโต และขับแล่นออกมาจนผมต้องกอดเอวเค้าไว้แน่น … พี่ใหญ่โกรธแล้ว …
“คิดจะบอกกันเมื่อไหร่” พอกลับมาถึงได้ก็เป็นเรื่องเลย ผมนั่งลงที่เตียงของผมใหญ่เอามือกุมท้องที่ยังเจ็บจี๊ดๆนั้นให้พี่ใหญ่เห็นใจและเลิกดุกันก่อน
“สักพักแล้วครับ …ผมไม่อยากบอกกลัวเป็นเรื่องใหญ่” ผมก้มหน้าบอก
“และนี้มันเรื่องใหญ่รึยัง!!!!!!” ผมสะดุ้งเฮือกทันที น้ำตาที่หายไปเมื่อกี้กลับมาอีกครั้ง หยดแหมะๆลงที่มือตัวเอง ฮึก ผมไม่ได้ตั้งใจ
“หลายครั้งแล้วนะไอ้ปัง ทำไมมึงชอบทำให้กูโมโหว่ะ เอามือออก!!!”ผมรีบเอามือที่กุมท้องไว้ออกทันที พี่ใหญ่นั่งลงที่พื้นก่อนจะถลกเสื้อผมขึ้น จะ จะ จะ ทำอะไรผมอ่ะ
“ไอ้เหี้ยแม่งสารเลว อย่าให้กูจับได้นะไอ้สัตว์”ก่อนที่เสียงสบถด่าหยาบคายจะดังขึ้นจนผมให้ผมกลั้นใจแทบตาย ก่อนจะเหลือบไปมองพุงตัวเองที่พี่ใหญ่เดินไปค้นหาอะไรที่โต๊ะทำงานริมห้อง โห … เขียวปั๊ดเลย นี้ชกกะให้ไขมันผมละลายเลยใช่ไหมล่ะ
“ไอ้ดิ้นปั้นที่พังนี้ฝีมือใคร” พี่ใหญ่เดินหน้าโหดท่าทางโมโหมากพร้อมกับยาหม่องในมือมานั่งที่เดิม ผมส่ายหน้าไม่เอาผมไม่บอกว่าเป็นชินโด เดี๋ยวชินโดโดนดุ ฮึก
“เลิกร้องไห้สักทีได้ไหมว่ะ รำคาญ!!!” เค้าทายาให้ผมไปก็ดุผมไป ฮึก ผมไม่ได้ตั้งใจจะร้องไห้แต่มันออกมาเอง
“ไอ้เล็กรู้รึเปล่า เรื่องที่ผ่านมา” ผมพยักหน้า เค้าถอนหายใจเฮือกใหญ่และลุกขึ้นมาทิ้งตัวนอนลงข้างๆผม เหงื่อไคลของเค้าทำให้ผมรู้ว่าเค้าเหนื่อยแค่ไหน …
“ผมขอโทษ” ผมว่าและเอื้อมมือไปจับมือเค้าที่วางอยู่ข้างตัวเค้าเหลือบตาคมมามองผมก่อนจะลุกขึ้นมาจับหน้าผมให้มองหน้าเค้าตรงๆ
“มีอะไรกันไหม เรื่องจะได้จบๆ”
“อะ อะ อะไรนะครับ” ผมอึ้งตาโต … พี่ใหญ่พูดอะไร _/////_
“ก็ถ้าเรื่องมันเยอะนักก็ตัดปัญหาไปซะจะได้จบๆ ไอ้พวกเห็บไรจะได้หมดไปสักที” ผมยันหน้าเค้าไว้ทันที อ๊ากกกกกกกกกก หื่นกาม คนหื่นกามมมมมมมมมมมมมมมม
“ดะ เดี๋ยวพี่ใหญ่ … ผมยังไม่พร้อม ขอผมลดน้ำหนักก่อน พี่เองก็ยังเลิกบุหรี่ไม่ได้ด้วย” ผมหาข้ออ้างมาทันที บางทีเรื่องนี้อาจจะมีทางอื่นอีกนะ ทำไมสถานการณ์ถึงเปลี่ยนไปขนาดนี้ล่ะ ทำไมคนที่ใบหน้าขึงขังเมื่อกี้ถึงได้ทำหน้าเจ้าเล่ห์เหมือนตอนนี้ได้ล่ะ ทำไมอ่ะๆๆๆ
“หึหึ ก็ได้ งั้นเอาแบบนี้แล้วกัน จุ๊บ” เค้าจู่โจมผมไวมาก ริมฝีปากหนักๆจูบเข้ามาปากผมที่ปิดสนิทเสียงชัตเตอร์ดังขึ้นจนผมตกใจ พอเค้าปล่อยผมเป็นอิสระ ก็หันไปสนใจโทรศัพท์ตัวเองทันที ทิ้งให้ผมนั่งเอียงคอเอ๋ออยู่คนเดียว
“แค่นี้ก็น่าจะพอ คราวหน้าถ้ามีอะไรอีกไม่บอกฉันนายตายแน่”
เค้าว่าและหอมแก้มผมไปหนึ่งทีก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปพร้อมผ้าเช็ดตัวผมยังคงเอ๋อๆอยู่บนเตียงมองไปที่โทรศัพท์ของพี่ใหญ่ที่แน่นิ่งอยู่ก่อนจะตัดสินใจหยิบขึ้นมาดู … พระเจ้าแค่ปลดล็อก หน้าอินตราแกรมที่เปิดค้างก็เด้งขึ้นมา … ภาพของผมกับพี่ใหญ่ … คนกดถูกใจ 100 กว่าคน ในเวลาไม่ถึง 5 นาที …
ผมก้มมองหมูปิ้งที่ตกอยู่บนพื้นห้องอย่างไร้จุดหมายใบหน้าร้อนฉ่าเหมือนจะระเบิด …
ช็อก …
.
.
.
เช้าวันเสาร์ วันชี้ชะตานรกของผมก็เริ่มขึ้นเมื่อรถเก๋งของพี่ใหญ่เคลื่อนตัวออกจากหอพักพร้อมๆกับตัวเล็กที่นั่งอยู่ด้านหลังที่ใบหน้ายิ้มแฉ่งเหมือนกำลังจะได้ไปสวนสนุก ไม่ใช่นะตัวเล็กมันไม่สมควรสนุกขนาดนั้น เฮ้อ … ผมไม่อยากไปบ้านพี่ใหญ่เลย ไม่รู้ว่าไปผมจะไปเจออะไรอีกบ้าง ถ้าเป็นแม่พี่ใหญ่ที่เป็นคนจ้างชินโดล่ะ ถ้าเป็นแม่พี่ใหญ่ที่ส่งคนมาทำร้ายผมล่ะ ผมจะทำตัวยังไงดี
“ปังปังไม่ต้องกลัวนะ พี่ใหญ่อยู่มาม๊าไม่กล้าทำอะไรหรอก” ตัวเล็กโผล่หน้ามากระซิบข้างหูผม
ผมเม้มปากก่อนจะถอนหายใจยกใหญ่ พี่ใหญ่หลังจากวันนั้นก็ไม่ค่อยให้ผมไปไหนมาไหนคนเดียวเท่าไหร่นัก กลับก็ต้องกลับพร้อมกันเค้ามักจะมารอผมเสมอในทุกๆวันที่ผมทำงานห้องสมุดหรือทำงานช้อปและก็บังคับผมเสมอถ้าเค้าจะไปเล่นบอลผมก็ต้องไปนั่งรอ ผมเลยต้องแบกงานประกวดไปนั่งทำด้วย ตอนนี้แบบโครงสร้างใกล้เสร็จแล้วครับ เหลือแค่รายละเอียดนิดหน่อยที่ผมต้องต่อเติมลงไป คืนนี้ผมจะกลับไปทำให้เสร็จเพื่อที่เล็กกับเสาร์จะได้ลงมือทำสักที
“ไอ้เล็กลงไปซื้อขนมร้านนี้ให้แม่ นี้ตังค์” พี่ใหญ่เลี้ยวเข้าจอดหน้าร้านขนมชื่อดัง
“ฮุ้ย ใช้ตลอด”
“เออ และจะซื้ออะไรก็ซื้อมา” ตัวเล็กตาเป็นประกายก่อนจะวิ่งลงจากรถไป พี่ใหญ่หันมามองผมก่อนจะเอื้อมตัวมาบิดแก้มผมอย่างแรก เจ็บอ่ะ!!!!
“เจ็บนะ”
ผมร้องขึ้น เหมือนโดนคีมดัดลวดหนีบแก้มเลยเมื่อกี้อ่ะ ยังไม่ได้คิดเรื่องรูปที่เป็น ท็อปอ๊อฟเดอะทาวส์อยู่เลยนะ รู้ไหมจากที่ไม่มีใครรู้ไม่มีใครสนใจ ตอนนี้ข่าวดังไปทั่วมหาลัย แถมยังมีคนตั้งเพจแอนตี้ผมด้วย!!! อะไรจะอินกันขนาดนั้น ฮื่อ! แต่ตัวเล็กก็ตาม
ไปเตะคนตั้งในเวลาอันรวดเร็วเลยล่ะ ผมล่ะงง ทำไมต้องทำกันขนาดนั้นด้วย ยิ่งตัวเล็กนี้ดีใจออกนอกหน้าตีลังกาไปสามสี่ตลบ
“เลิกหน้าบึ้งสักที ไหน” เค้าว่าก่อนจะบิดจมูกผมอีกที โอ้ย อะไรกับหน้าผมนักหนาก็ไม่รู้งอนแล้วนะ!
“พี่ใหญ่มันเจ็บ”
“ก็ถ้ายังหน้าบึ้งอยู่ก็โดนแบบนี้ต่อไป” เค้าว่าแล้วมือยาวๆนั้นก็เขกหัวผมไปอีกที อะไรนักหนาเนี้ยยยยย
“อย่าแกล้งผมดิ๊” ผมว่าและปัดไปตามหน้าตาตัวเองที่พี่ใหญ่ป่วนซะจนผมเริ่มรำคาญ
“หึหึ ไม่แกล้งก็ได้” เค้าหันไปจับพวกมาลัยเคาะตามจังหวะเพลง ผมย่นปากนิดๆก่อนจะหันไปมองตัวเล็กที่กำลังเลือกของอยู่ในร้าน
“หมูแดง จุ๊บบบบบบบ” ผมหน้าค้างทันที … ไม่น่าหันมาเลย เสร็จกันกับคนเจ้าเล่ห์ … ผมเม้มปากตัวเองที่โดนขโมยจูบเมื่อกี้ก่อนจะพูดพึมพัมออกมาเบาๆ
“พี่ใหญ่บ้า”
“ก็ดีกว่าไอ้หมูบ้าแล้วกัน” เค้าว่าก่อนจะถือโอกาสหอมแก้มผมตรงที่เค้าหยิกอย่างแรงไปเมื่อกี้อีกที ยังไม่เลิกอีกนะ เดี๋ยวผมจะหาผ้ามาห่อแก้มห่อหัวตัวเองแล้ว แต่ผมก็ยิ้มออกมาได้หายหน้าบึ้งตามที่เค้าต้องการแล้วล่ะนะ …
“แหนะ แอบทำอะไรกันตอนที่เล็กไม่อยู่” ตัวเล็กถือไอติมขึ้นรถมาพร้อมขนมกล่องใหญ่สองถุงใหญ่ ผมเม้มปากก้มหน้าซ้อนยิ้ม
“พี่ใหญ่รอบนี้ไม่รู้เจ้า บ๊อบแอนส์โทนี่จะโตแค่ไหนแล้วเนอะ ตอนมามันยังเด็กอยู่เลยผ่านมาจะปีแล้วคงตัวใหญ่แล้วเนอะ นี้ไอติมอร่อยมากเลยปังปังกินไหมเล็กให้คำนึง แค่คำเดียวนะ อ้วน … อ่ะพี่ใหญ่เปิดอีกเพลงสิเพลงนี้ไม่เพราะ”
เสียงตัวเล็กแจ๋วๆไปเรื่อย … ว่าแต่อะไรคือ บ๊อบแอนส์โทนี่ …
=========================
ทายกันเล่นๆนะ ถ้าไม่ใช่ขุ่นแม่ จะเป็นใคร ??
โอ้ยยยย ฉันฟิน ฮ่าๆๆๆ
เจอกันตอนหน้าจ้า ฝากเพจติดตามผลงานพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ที่เพจ
ห้องเก็บนิยาย pa_pa
