::: #สถาปนิกหล่อบอกต่อด้วย ::: ตอนพิเศษ 2 ::: P.26 ::: 08/04/17
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ::: #สถาปนิกหล่อบอกต่อด้วย ::: ตอนพิเศษ 2 ::: P.26 ::: 08/04/17  (อ่าน 279173 ครั้ง)

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
เริ่มชอบน้องก็บอกมาเถอะพรต

ออฟไลน์ ROCKLOBSTER

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-4

ออฟไลน์ hello_lovestory

  • >>I'm C-Z@<<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
พรตกำลังทำอะไรอยู่กันแน่นะ

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เปลี่ยนพระเอกเลยค่าาาา

ออฟไลน์ ycrazy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 461
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
อ้าว พี่พรต ยังไงเนี่ย  :a5:

ออฟไลน์ khuan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 353
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
อะไร  ยังไง  ทำไม  มาต่อไวๆ ค้างงงงงงงง   อิอิอิ

ออฟไลน์ magarons

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 967
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +68/-6
พี่พรต คือผู้บูชารัก
พากันไปแซลฟี่เร็วววว(เมนต์อะไรเนี่ยย)
ผู้หญิงคนนั้นคือใครอ่ะ คู่หมั้นรึป่าว พี่สาวของพี่ชายที่เป็นลูกของอาญาติทางฝ่ายพ่อลำดับที่สิบแปด ใช่ม่ะ
รอตอนต่อไปว่านางนั้นคือใครรร


ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
นั่นน่ะสิ พรตเป็นคนยังไงกันแน่
พรานอย่าพึ่งถลำลึกก็แล้วกัน

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2276
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ powl-the-2nd

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 71
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-1



:: CHAPTER 11 ::



 

            “สามร้อยยี่สิบเจ็ด!”

            เมื่อเสียงนับจำนวนของคนสุดท้ายหมดลง ก็ตามด้วยเสียงสูดลมหายใจเฮือกใหญ่อย่างไม่สบายใจของแทบทุกคนในห้องเชียร์ ปีหนึ่งทั้งหมดมีประมาณสามร้อยกว่าคนแต่ในวันนี้กลับขาดไปเกือบแปดสิบผมไม่อยากคิดเลยว่าจะโดนพี่ว้ากทำโทษอย่างไร เพราะเมื่อวานเหมือนพี่เขาจะโกรธเรื่องการมาไม่ครบคนมากเป็นพิเศษ และขู่ไว้ว่าถ้าวันนี้ยังมาไม่ครบตามจำนวนที่เขาขอ ‘พวกมึงโดนแน่’

            “เมื่อวานกูขอเท่าไหร่”
            “สามร้อย...ห้าสะ..”

            ทุกคนตอบตะกุกตะกักเหมือนไม่กล้าพูดออกมาเต็มเสียง ทั้งที่รู้จำนวนกันแน่ๆ อยู่แล้ว

            “กูถามว่าเท่าไหร่”

            “สะ...สามร้อยห้าสิบ”

            “เท่าไหร่!!!”

            “สามร้อยห้าสิบครับ!”

            ถึงเสียงทุกคนจะเริ่มสั่น แต่พอโดนพี่ว้ากตะคอกจนแทบสะดุ้งเลยต้องตอบเสียงดังฟังชัดทั้งที่ตัวเริ่มสั่นด้วยความหวาดกลัวปนตื่นเต้น เพราะวันนี้คงต้องโดนทำโทษอะไรอย่างแน่นอน

            “ขอแค่นี้ยังทำไม่ได้เหรอวะ!”

            ...เอาแล้วไง

            ผมเห็นเพื่อนข้างๆ แอบส่งสายตาเป็นกังวลเหมือนพยายามจะสื่อว่า ‘ชิบหายแล้วมึง’ ซึ่งผมก็ทำได้เพียงพยักหน้าตอบเบาๆ แบบที่มั่นใจว่าจะไม่เป็นจุดสังเกตของพี่ปีสาม เนื่องจากการเข้าห้องเชียร์นั้นมีกฎว่าห้ามคุยกับเพื่อนเด็ดขาดและต้องยืนนิ่งตัวตรงมองไปข้างหน้าตลอดเวลา

            หลังจากผ่านช่วงนาทีชีวิตของปีหนึ่งไปแล้ว พี่ว้ากก็ไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้อีก และเริ่มสอนร้องเพลงเชียร์คณะเพิ่มอีกเพลงจากเมื่อวาน ซึ่งทุกคนก็ตั้งหน้าตั้งตาแหกปากร้องกันอย่างสุดเสียง จนเป็นที่พอใจสำหรับพี่ว้ากแล้วถึงได้ไม่ต้องตะโกนร้องให้แสบคอต่อไปอีก

            “วันนี้พอแค่นี้ เชิญ”

            ทุกคนลอบถอนใจอย่างโล่งอก ก่อนพี่นำแถวจะเข้ามายืนประจำที่เตรียมพาปีหนึ่งออกไปจากห้องเชียร์ แต่แล้วน้ำเสียงเย็นเยือกจนน่าขนลุกของพี่ว้ากกลับดังขึ้นอีกครั้ง


            “เพื่อนข้างๆ ใครไม่มา อยู่ก่อน”


            ...เชี่ย

            คราวนี้ทุกคนมีทีท่าแตกตื่น ต่างหันซ้ายหันขวาอย่างลืมตัวเพื่อเช็คอีกทีว่าเพื่อนข้างๆ ตนเองมาแน่รึเปล่า และผมก็โชคดีพอที่เพื่อนรหัสติดกันของผมมาทั้งคู่ แต่ดูเหมือนว่าเพื่อนผู้หญิงที่ยืนอยู่ฝั่งซ้ายของผมนั้นจะโชคไม่ดีเท่าไหร่ เพราะหมายเลขที่อยู่ถัดจากผมไปสองเบอร์นั้นกลับเป็นที่ว่างที่ไม่มีใครยืนอยู่

            ผมมองใบหน้าที่เจื่อนลงและสีหน้าที่ไม่สู้จะดีนักของเธอแล้วก็อดเห็นใจไม่ได้ ท่าทางดูหวาดกลัวเหมือนจะร้องไห้อย่างไรอย่างนั้น แต่ผมก็สงสารเพื่อนได้ไม่นานก่อนจะถูกพาตัวออกไปจากห้องเชียร์ ทิ้งให้เพื่อนคนนั้นยืนเหลืออยู่คนเดียวในแถวกับเพื่อนแถวอื่นที่ยืนกันอยู่ประปราย

 

 

            ผมเดินลงมาข้างล่างช้าๆ และเมื่อลงมาถึงก็ได้ยินกลุ่มเพื่อนร่วมรุ่นที่พากันพูดคุยเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ทุกคนดูร้อนรนมากเมื่อรู้ว่าเพื่อนบางคนต้องมารับบาปแทนคนอื่นที่ไม่มา

            “วันนี้กูแอบคิดว่ารุ่นเราจะรอดแล้วนะเว้ย แม่ง...โหดสัด”

            “ไอ้แทนมันเข้าห้องเชียร์ทุกวัน ทำไมต้องโดนวะ”

            “ถ้าทุกคนมาก็ไม่มีใครต้องโดนด่าแล้วป่ะ”

            เสียงพูดคุยดังผ่านเข้าหูตลอดทางที่ผมเดินไปประตูด้านหลังคณะ วันนี้ผมต้องออกประตูเล็กเพราะด้านหน้าเต็มไปด้วยกลุ่มเพื่อนที่ยืนรอคนที่ยังอยู่ในห้องเชียร์ ส่วนวันนี้ผมไม่ต้องรอใครเพราะไอ้โอมไม่มาครับ แต่มันมีเหตุผลคือแม่ไม่ค่อยสบายเลยต้องรีบกลับบ้านช่วงนี้ ผมเลยได้แต่ภาวนาในใจให้คนที่ยืนข้างๆ ไอ้โอมอยู่รอดปลอดภัย

            “แม่ง ทำไมไอ้พวกนี้ไม่รักเพื่อนเลยวะ”

            “กูไม่อยากร่วมรุ่นกับมันเลย”

            ผมนึกตกใจกับประโยคที่เพิ่งได้ยินแล้วก็ครุ่นคิดกับตัวเองซ้ำไปมา คำพูดเมื่อกี้ถือว่าแรงมากพอควร ไม่รู้ว่าการรับน้องที่พูดกันว่ามีจุดประสงค์ให้ทุกคนรักกันและรวมกันเป็นรุ่น ถึงเวลาแล้วมันกลับกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนไม่ชอบกันแล้วไม่อยากเป็นรุ่นขึ้นมา คิดแล้วก็เหมือนวนไปมานั่นแหละครับ จากเพื่อนกันกลายเป็นเกลียด และจากเกลียดเลยต้องทำให้เป็นเพื่อน พูดกันตามจริงคือผมยังตัดสินใจไม่ได้เลยว่ามันดีหรือไม่ดี ส่วนตัวแล้วก็มีทั้งได้เพื่อนและมีคนที่เห็นแล้วไม่อยากเข้าไปยุ่งด้วยเช่นเดียวกัน

            ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยๆ เพิ่งมาเห็นวันนี้แหละที่เพื่อนในรุ่นเหมือนแตกแยกกันเป็นกลุ่มที่ขึ้นห้องเชียร์กับพวกไม่ขึ้นห้องเชียร์ ถึงจะไม่พอใจเท่าไหร่ในฐานะคนขึ้นห้องเชียร์ทุกครั้งแต่ผมว่ายังไงเราก็ควรเคารพการตัดสินใจของเพื่อนเหมือนกัน อย่างไอ้โอมมันก็มีเหตุผลของมัน คนอื่นก็คงมีเหตุผลของเขาเช่นเดียวกัน

            ผมส่ายหน้าไล่ความคิดที่ตีกันจนยุ่งเหยิงเต็มหัวออกไปก่อนจะเอื้อมมือผลักประตูเล็กด้านหลังคณะออกไป แต่แล้วกลับต้องหยุดชะงักลงอีกครั้ง


            ...พี่พรต


            คนๆ นี้ก็เป็นอีกคนที่เข้ามากวนความคิดของผมอยู่บ่อยๆ ในช่วงนี้ คนที่ผมต้องคอยถามตัวเองว่าเขาเป็นคนยังไงกันแน่ แต่ละครั้งที่เจอกันนั้นเขา...เป็นคนเดียวกันหรือเปล่า

            ตามปกติแล้วด้านหลังของคณะจะไม่ค่อยมีคนมานั่งเล่นเท่าไรนัก เพราะบรรยากาศมันไม่โสภาสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณที่ใช้ขนขยะออกไปทิ้ง หรือให้ร้านอาหารเอาของเข้าร้าน อธิบายง่ายๆ คือเป็นส่วนเซอร์วิสที่เน้นการใช้สอยเบื้องหลังมากกว่า และอีกประเด็ที่ทำให้ผมสงสัยคือพี่พรตมาอยู่ที่นี่ได้ไง ทั้งที่ปีสามยังอยู่บนห้องเชียร์ทั้งหมด

            “ก็พรตบอกไปแล้วไงครับ”

            พี่พรตคุยโทรศัพท์อยู่โดยมีผู้หญิงคนเดิมยืนอยู่เหมือนวันนั้นไม่มีผิด และผมก็ได้แต่ยืนนิ่งๆ เท่านั้นเนื่องจากไม่มีที่ไหนให้หลบได้เลย ยังดีที่พี่เขานั่งหันหลังอยู่ และน้ำเสียงที่เขาใช้กรอกลงไปในโทรศัพท์นั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรจากวันก่อน ชวนให้รู้สึกไม่ดียังไงไม่รู้

            ...โกหก

            เป็นคำเดียวที่ผมสามารถใช้อธิบายน้ำเสียงของเขาได้ เมื่อไหร่ที่เขาพูดแบบนี้ผมจะมีความรู้สึกว่าสิ่งที่กำลังหลุดออกมาจากปากของพี่พรตนั้นไม่ใช่ความจริง

            “พรตไม่ว่างจริงๆ มิวก็รู้”

            ผมสงสารมิวครับ นี่เป็นความรู้สึกที่รุนแรงกว่าความรู้สึกแปลกๆ ที่มีกับพี่พรต ตั้งแต่ตอนที่รู้ว่าเขาเป็นพี่ปีสามครั้งแรก ตอนที่เซลฟี่กัน นั่งตัดโม กินข้าว จับมือกันหรือตอนไหนๆ ผมไม่ปฏิเสธเลยครับว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดี แต่ในความรู้สึกเหล่านั้น ถ้าถามตรงๆ แล้วผมคงจะยอมเอามาแลกกับความสงสารในตอนนี้อย่างแน่นอน

            ในขณะนั้นเอง ผู้หญิงที่กำลังกอดอกยืนอยู่ข้างๆ พี่พรตก็สะกิดเบาๆ ลงที่ไหล่ของเขา เธอชักสีหน้ามองเหมือนรำคาญเต็มทนโดยที่มั่นใจว่าพี่พรตจะไม่เงยขึ้นมาเห็น ส่วนพี่พรตนั้นทำเพียงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วใช้มืออีกข้างที่ว่างอยู่รวบเอามือบางที่เอื้อมมือมาสะกิดเมื่อครูเอาไว้

            ...จู่ๆ ผมก็นึกไม่ชอบกริยา ‘จับมือ’ ของพี่พรตเอาซะเลย

            “โอเคมิว พรตต้องไปแล้ว”

            “…”

            “ไว้คราวหน้าเนอะ”

            พี่พรตกดวางสายแล้วเก็บมือถือลงในกระเป๋าอย่างรวดเร็วก่อนจะค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นมาโดยไม่ยอมปล่อยมือที่จับกับผู้หญิงคนนั้นไว้ เขาส่งยิ้มให้เธอเหมือนไม่เคยได้โกหกมิวและพากันเดินออกไปจากคณะด้วยท่าทีสบายใจ

            แต่เดินไปได้เพียงสามก้าวพี่พรตก็หันกลับมา


            ...และสบตากับผม


            ทั้งผมและพี่พรตชะงักไปทันที เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่งลงที่สายตาผม ระหว่างผมกับพี่พรตนั้นไม่มีใครขยับหรือเอ่ยอะไรขึ้นมาก่อน ในดวงตาของเขาฉายแววตกใจที่มีความเจ็บปวดแฝงอยู่เล็กน้อยเหมือนเจ้าตัวพยายามซ่อนเอาไว้ แต่ทั้งที่เห็นเพียงแค่ความตกใจและความเจ็บปวด ทำไมผมรู้สึกว่าเขากำลังขอร้องอะไรบางอย่าง

            หรือผมรู้สึกไปเอง

            ผมไม่รู้ว่าแววตาของผมสื่ออะไรออกไปบ้างแต่ผมก็เลือกที่จะเป็นฝ่ายหลบสายตา มือของผมจับสายกระเป๋าไว้แน่นอย่างไม่รู้ตัว ผมตัดสินใจเดินหลบคนทั้งคู่ที่ยังยืนนิ่งอยู่แล้วเดินผ่านออกไปทางหน้าคณะ

 

            “...นายพราน”


            ผมลังเลอย่างหนักว่าจะยอมหันไปคุยกับเขาดีหรือเปล่า ผมรึ้กว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตัวเองและไม่ใช่เรื่องที่ผมควรจะเข้าไปยุ่งเลยสักนิด แต่ผมก็ยังจำสายตาที่มีความรู้สึกหลากหลายเมื่อกี้ได้ดี เหมือนว่าพี่พรตกำลังส่งสายตาพูดกับผมว่า ‘อย่าไป’

            ชั่วขณะหนึ่ง ผมนึกเกลียดความลังเล ความใจอ่อน และความขี้สงสารของตัวเองขึ้นมา

            และเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ประโยคที่สองของพี่พรตดังขึ้นอีกครั้ง

            “นุ่น ไปก่อนเถอะ วันนี้ฉันไม่ว่างแล้ว”

            เสียงอิดออดของผู้หญิงที่พี่พรตเรียกว่า ‘นุ่น’ เหมือนเรียกสติผมกลับมาอีกรอบว่ากำลังจะกลายเป็นตัวกลางในปัญหาของคนสองคนรึเปล่า ผมพยายามลืมเรื่องที่ผ่านมา เหมือนก้าวถอยหลังหนึ่งก้าวแล้วมองมาที่ตำแหน่งของตัวเอง ผมเป็นเด็กปีหนึ่งที่บังเอิญไปเห็นว่าผู้ชายบูชาความรักกำลังอยู่กับผู้หญิงคนอื่น ผมไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของพี่พรตกับผู้หญิงคนนี้เป็นไปในแนวทางไหน แต่ถ้ามันทำให้เขาต้องถึงกับโกหกมิว ผมว่ามันคงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง

            เอาวะ ยังไงก็ต้องหันกลับไปคุยให้รู้เรื่อง

            “พี่พรต...ไม่ต้อง”

            “นุ่น เมื่อกี้ฉันพูดว่าไง”

            กลับกลายเป็นผมเองที่อดตกใจกับท่าทีและคำพูดของพี่พรตไม่ได้ ทำไมคนที่ขี้แกล้งขนาดนั้นกลับพูดด้วยน้ำเสียงห้วนจัด แววตาที่เพิ่งหยอกล้อกับเธอคนนี้ จู่ๆ ก็กลับกลายเป็นสายตาเยือกเย็นจนน่ากลัว

            ผมไม่เคยเห็นพี่พรตเป็นแบบนี้

            อย่าว่าเป็นแบบไหนเลยดีกว่า เพราะจากคนที่กำลังเริ่มสนิทกันกลายเป็นว่าผมรู้สึกว่าตัวเองก้าวถอยห่างออกไปอีก

            “แต่พรตบอกว่าว่างแล้วไง”

            ผู้หญิงชื่อ ‘นุ่น’ เริ่มโวยวายขึ้นมา จะโทษเธอที่ทำตัวเหมือนเหวี่ยงก็ไม่ได้ล่ะมั้งเพราะถ้าเป็นผมก็คงไม่ยอมเหมือนกันแหละ ถ้าจะถามว่าใครเป็นต้นเหตุของเรื่อง คงต้องตอบว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหน้าผมนี่แหละ     

            “ก็ตอนนี้ไม่ว่างแล้ว”


            “อย่าบอกนะว่า...นี่ก็เป็นแฟนพรตอีกคนงั้นเหรอ”


            คำว่า ‘อีกคน’ ทำให้ผมเผลอหันไปมองพี่พรตซึ่งหันมามองผมตั้งแต่แรกแล้ว หมายความว่าพี่พรตไม่ได้มีแค่มิวคนเดียวอย่างแน่นอน และก่อนที่ผมจะได้ถามอะไรต่อ เสียงของพี่พรตก็ดังขึ้นเบาๆ

 

             “อือ”                 




-------------------------------------------------------------------------------------------
50%อีกแล้ว เมื่อไหร่เราจะเพิ่มสปีดการเขียนของตัวเองได้สักที  :katai4:
จะพยายามมาเร็วๆ นะะ

ขอบคุณคนอ่านค่ะ  :กอด1:


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ห่ะพี่พรต ทำไมนายเป็นคนอย่างนี้
จับฟาดเลยลูก นายพราน

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-7
เหอะ พรานคนแบบนี้ต้องอยู่ให้ห่าง  สงสารมิวจับใจ  สายตาที่ส่งมาจะบอกอะไรก็ขั่งมันดูไ่มีค่าเลยนะแบบนี้

ควรบอกมิวดีมั๊ย เดี๋ยวก็หาว่าจุ้น ทำไรก็ไม่ได้อีกเห้อ เห็นในายพรานจิงๆ

ไม่ได้มีแฟนคนเดียวจิงดิ งงจริง เป็นคนยังไงกันแน่พรต ใหนว่าบูชาความรัก สร้างภาพชัดๆ แหวะ

ถอยออกมาโดยเร็วนายพราน ไมควรไปยืนในที่แบบนั้น  :katai4:

ออฟไลน์ ROCKLOBSTER

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-4

ออฟไลน์ panitanun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
พี่พรตเป็นคนเเบบนี้เหรอนึกส่าเข้าใจผิด :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ manami_01

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 980
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +72/-1
ตามที่เรามโนเองนะ

บางทีที่พรตทำอาจเพราะมีเหตุผลบางอย่าง

มโนว่า พรตอาจจะแอบชอบพรานตั้งแต่เรียนม.ปลายแล้ว? เพราะเรียนที่เดียวกัน? แต่ด้วยความที่นายพรานยังเด็ก?

หรือเพราะกลัวนายพรานปฎิเสธเลยไม่กล้า? หรือตอนนั้นพึ่งคบกับมิว?

ตอนนี้เลยอยากเลิกเลยหาเรื่องมีผู้หญิงอีกคนจะได้เลิกแล้วจีบนายพรานแบบจริงจังอะไรเงี่ย

อันนี้มโนเองหมดแบบว่ามันอาจเป็นไปได้

หรือ นี่อาจจะคือเรื่องจริง ๆ ใอ้พี่พรตมันเจ้าชู้หลบในว่ะงง?   :m28: :m28:

ออฟไลน์ ice.sp0211

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 224
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
เดินหนีไปเลยยยย

ออฟไลน์ Misakiiz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
พรตจะเอายังไงกันแน่!??  :m31:

ออฟไลน์ pannuna

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 449
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
พี่พรตของเรามีเหตุผลอยู่แล้ววว
คนที่จะมาเป็นพระเอกคงไม่เลวขนาดนั้นหรอกกกก

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
พรตหน้าด้านไปมั้ย ตัวตนจริงๆของแกนี่ไว้ใช้กับแฟนคนไหนเหรออ หรือยังมีที่ซุกซ่อนไว้อีก
น้องพรานอย่าถลำลึกไปกว่านี้นะ สงสารน้องมิวด้วย

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
พี่พรตมีอาชีพรับจ้างเป็นแฟนเหรอ แฟนเยอะดี

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ badbadsumaru

  • ♡ caramel macchiato
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-2
งานงอกแล้วพราน
ทำไมพี่พรตทำแบบนี้อ่ะ ชอบน้องรึไง?

ออฟไลน์ becrazie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
พี่พรตมีแฟนเยอะอย่างแรง

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4
กระทืบพรตไหม

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
เปลี่ยนพระเอก

ออฟไลน์ hpimmc

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
เออ มันยังไงกันวะผู้ชายคนนี้
ถ้าเราเป็นนายพรานเราไม่คงไม่หันกลับไป
เชิญจัดการปัญหาสับรางกันเอาเอง

บูชาความรักแค่กับปากอะสิ การกระทำคนละเรื่องเลย
ถึงจะบอกว่ามีเหตุผลส่วนตัวอะไรก็เหอะ ใช่เรื่องไหมต้องมาทำอะไรแบบนี้
ประสาท

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
พี่พรตทำไรอยู่เนี่ย สงสารมิววววววววว  :sad4:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เกิดอะไรขึ้นกับคนบูชาความรัก
ไม่ชอบให้ใครๆจับคู่ให้
แต่ก็จับหลายคนเหรอ

ออฟไลน์ fangiily

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +741/-12
พึ่งเข้ามาอ่านค่ะ ตอนนี้จะเรียกว่าเป็นสถาปนิกได้ไหมไม่รู้ อย่าพึ่งเลย พึ่งจะจบมาเมื่อไม่กี่เดือนนี่เอง ฮ่ะๆๆๆๆ

อ่านตอนแรก... คิดในใจเลยนะว่าพรตเนี่ยเป็นพี่เนียนชัวร์ๆ (เคยเจอมาเมื่อตอนปีหนึ่ง เลยมีสัญชาตญาณบอกว่าต้องมีพี่เนียนแน่ๆ!) ไม่รู้อะไรดลใจให้คิดแบบนั้น แต่คิดว่าใช่ แล้วยิ่งตอนที่น้องใบพลูส่งรูปมาให้บอกให้ไปหาไลน์มาให้หน่อยคิดเลยว่าต้องพรตอ่า พอมาเจอตอนสองเฉลย นั่นไง... ใช่จริงด้วย 55555555 แต่เรื่องจริงกับในนิยายต่างกันนิ๊ดนึง ในชีวิตจริงหาคนหล่อๆ ยาก 5555555

ตอนแรกๆ อ่านคือกำลังคิดว่าพี่พรตรักกับแฟนขนาดนี้จะมีสาเหตุอะไรให้เลิกรักกัน แล้วมาสนใจพราย แต่พออ่านมาถึงตอนล่าสุดแล้วชักจะไม่แน่ใจ

ที่พรตซีกับคำว่า บูชาความรัก เป็นเพราะแกล้งทำเพื่อให้ใครๆ มองว่าเป็นคนแบบนั้นจริงๆ อย่างนั้นหรอ

แลดูกลายเป็นคนไม่น่าเชื่อถือไปซะอย่างนั้นอะ แต่อาจจะมีเหตุผลอะไรอีกก็ได้นินะ

รอดูต่อไปก่อนแล้วกัน....

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 666
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
งงกับพรต

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด