{CH15 Danger }
งืม … นอนยาวเลยแหะ กี่โมงแล้วเนี้ย แฝดล่ะ … ผมพลิกตัวไปอีกด้าน อ้าวเตียงสองแฝดหายไปไหนล่ะอ่ะ และพื้นก็นุ่มนิ่มชะมัด อะเด้ะ … แปลกแล้วแฮะ … ผมลุกพรึบขึ้นมามองไปรอบๆ … ห้องไอปิศาจน้องจอมร้ายโรคจิตนี้หว่า แง๊ะ !
ผมรีบวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทันทีที่นึกได้ว่าต้องป้องกันเอกราชประตูหลัง ค่อยยันชั่วหน่อย … กางเกงสามชั้นผมยังสามารถป้องกันเอาไว้ได้ โล่งอกไปที ผมล้างหน้าแปรงฟันก่อนจะเดินออกมายืนเอียงคอมองเตียงที่ผมนอนอยู่ทั้งคืน … ผมมานอนนี้ได้ยังไงนะ ก่อนนอนจำได้ว่าทะเลาะกับไอ้บ้านี้นี้หน่า แกล้งผมสินะ ไอ้บ้านั้นแกล้งให้ผมตกใจสินะ!!!! ไหนไอ้บ้านั้นอยู่หน่ายยยยยยยยยยย!
ผมย่นปากก่อนจะโยนหมอนที่หล่นอยู่ที่พื้นลงบนเตียงอย่างแรง ก่อนจะนั่งลงถอนหายใจเฮือกใหญ่ … ทำไมนะ ไอ้บ้านั้นถึงชอบแกล้งผมนัก
“ฝ้าย / ฝ้าย” ผมเดินลงบันไดมาสองแฝดที่นั่งเล่นของเล่นอยู่กลางห้องรับแขกพร้อมกับคุณหญิงที่นั่งจิบชาสบายอารมณ์อยู่ วันนี้วันเสาร์ไอ้สองแสบเลยได้ดูการ์ตูนอยู่บ้านพุงป่องสบายใจ ดูดิกินจนแก้มแทบแตกแล้วน่ะ ไอ้เด็กอ้วนเอ้ย โตขึ้นไปไม่หล่ออย่ามาร้องนะ
“หนูฝ้ายกินข้าวไหมจ๊ะ เดี๋ยวแม่ไปเอาให้”
“ไม่เป็นไรครับเดี๋ยวผมไปกินในครัวเอง … ว่าแต่ …”
“แหม คิกๆ ตาจอมไปทำงานแต่เช้าแล้วล่ะจ๊ะ เห็นว่าเมื่อวันก่อนไปดูงานที่ญี่ปุ่นมาที่ไม่ได้บอกเพราะงานเร่งด่วนจริงๆ” เชอะ งานด่วน จะด่วนอะไรนักหนา โทรมาบอกที่บ้านแค่ 2 นาทีจะเสียเวลามากนักหรือไง เย็นชาชะมัด !
“ทำไรลูกหมู”พอนั่งลงกับพื้นใกล้ๆจุดสองแฝดอยู่ปุ๊บ ไอ้หมูน้อยสองตัวก็กระเด้งขึ้นมานั่งตีกันฟ้องผมใหญ่เลยว่าตอนที่ผมนอนอยู่เกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่อยู่ๆเจ้าทัพก็ทำท่าเหมือนนึกออกและพูดโผล่งขึ้นจนผมตกใจ =_=’
“เมื่อคืนทัพเห็นด้วยล่ะฝ้าย”
“พลก็เห็น”
“พลไม่เห็นทัพเห็นคนเดียว”
“พลเห็นนะเห็นกับตาสองลูกเลย”
“ตาเค้าเรียกคู่นะพล”
“แหะๆครับ ผลเห็นกับตาคู่นี้เลย”
“ทัพก็เห็นกับตาคู่นี้เลย”
“ตกลงเห็นอะไรกันน่ะ ทัพพล ฝ้ายถามอย่าถ่างตาใส่กันแบบนั้นมันหยาบคาย” ผมเอ็ดเมื่อเห็นสองแฝดเอานิ้วเล็กๆถ่างเปลือกตาทำตาถลนใส่กัน สองแฝดเลิกทำและขยี้ตายิกๆ หึหึ เป็นไงล่ะดื้อคู่ก็แสบตาทั้งคู่เลย
“แต่ทัพเห็นจริงๆนะ” เอาล่ะไง แววตาแมวน้อยออร่าพิฆาต
“พลก็เห็น …” เบอร์ 2 ก็มา แหมนะ ตาแบบนี้แหละที่จะทำให้ได้ทุกอย่างที่อยากได้ เจ้าเล่ห์ชะมัด
“โธ่หนูน้อยยยยย” คุณหญิงทำหน้าปริ่มลงมานั่งพับเพียบอุ้มสองแฝดไปหอมคนล่ะฟอด ไอ้2 แฝดนี้มันแสบจริงๆ มัดใจคนแก่ได้อยู่มัด
“ไหนบอกสิสองขุนเห็นอะไร”
“… ทัพเห็น …ซุปเปอร์เรดมาหาถึงห้องด้วยล่ะ!!!!!!”
“ใช่ๆ พลก็เห็น พลน่ะนะ กรี๊ดเลยยยยยยย อิอิ แปลงร่างแบบนี้เลยนะ”
และไอ้สองมหาแสบก็ลุกขึ้นทำท่าแปลงร่างพิลึกๆพร้อมกันให้ผมกับคุณหญิงดู ตลกชะมัดไอ้สองแสบฝันเหมือนกันสินะ ก็ก่อนนอนพี่แกเล่นดูและเล่นกันยิ่งเป็นแฝดกันบ่อนครั้งที่จะฝันเหมือนกัน ไอ้แสบเอ้ย ไอ้เราก็นึกว่าเห็นอะไร
“วันนี้ไปเที่ยวกันไหมสองแฝด”
“เย้!!! เที่ยวๆ พลอยากไปสวนสนุก”
“ไม่เอาทัพอยากว่ายน้ำ”
“โอเคงั้นไปสวนสยามกันเนอะไม่ได้ไปนานแล้วคุณหญิงก็ไปด้วยกันนะครับ” ไอ้เจ้าสองแฝดตีลังกาวิ่งขึ้นไปเปลี่ยนชุดกันบนห้อง
“ว้ายตายจริง แม่นัดคุยเรื่องสำคัญกับคุณหญิงหยาดทิพซะด้วยสิ ไปกันเลยนะจ๊ะ”ปีล่ะครั้งที่ผมจะพาน้องไปพล่านตังไม่ได้ไปบ่อยนัก เย็นนี้แวะไปหาไอ้เดชสักหน่อยมันโทรมาหลายวันล่ะ เดี๋ยวจะกลายเป็นยักษ์ขี้งอนผมอยู่คุยเป็นเพื่อนคุณหญิงอีกพักนึงก็ตามแฝดขึ้นไปเมื่อได้ยินเสียงโครมคราม
“ซุปเปอร์เรดพลแปลงร่าง ย๊ากกกกกกกกกกกก!”
ตุบ … ผมตกใจเมื่อเห็นเจ้าพลกระโดดลงมาจากเตียงชั้นล่างและหน้าคว่ำลงไปแน่นิ่ง ยังไม่ทันที่ผมจะเข้าไปหาไอ้ตัวแสบก็พยุงตัวเองขึ้นมาหัวเราะล่า … หน่อยแหนะ! ผมวิ่งเข้าไปเข็กหัวไอ้เด็กบ้าโทษฐานทำให้ผมใจหาย เจ้าพลหันมามองผมกุมหัวตัวเองเบะปากจะร้องไห้
“ไม่ต้องร้อง ใครบอกให้กระโดดลงมาแบบนั้น อยากจมูกหักหรือไง” ผมบ่นพยายามไม่ตะคอกน้อง ไอ้เจ้าพลสะอึกฮักแต่ไม่ร้องออกเสียงพอเจ้าแสบแฝดน้องเดินออกมาจากห้องน้ำเห็นแฝดพี่จะร้องไห้ก็เตรียมร้องตาม อ่ะ เอาเข้าไป
“ถ้าร้องฝ้ายจะไม่พาไปและ ไม่อยากเจอไอ้เดชใช่ไหม”
“ยะ อยากครับ”
“ถ้าทำแบบนั้นอีกฝ้ายจะไม่พาไปไหนแล้วนะ”
“ฮึก พลจะไม่ทำอีกแล้ว”
“ทะ ทัพจะไม่ทำแล้ว”
“ทำอะไรเราอ่ะ” ผมหันไปถามเจ้าทัพที่ยืนบิดไปมาอย่างกลัวความผิด
“กะ ก็ทัพจะไม่เอากางเกงในเปื้อนฉี่ไปซ่อนไว้ในตู้เสื้อผ้า … เอ่อ … ความจริงทัพไม่ต้องบอกก็ได้ใช่ไหม”
“ไอ้แสบบบบบบบบบบบบบ!!!!” ผมแว๊ดขึ้นเสียงดังจนสองแฝดกระเจิงไปคนล่ะทาง หน่อยยยยย! อย่าให้จับได้นะจะจับหัวเหม่งๆมาดีดให้ดังโป๊กคนล่ะทีสองที !!!!
.
.
.
“ฝ้ายๆ ดูนะ นี้! ซุปเปอร์เรดกระโดดน้ำ!!!!”
“ทัพเป็นเรดด้วย!!!!”
“หยุดเลยสองแสบ” ผมเข้าไปเบรกไอ้หัวเหม่งสองคนที่อยู่ในชุดไว้น้ำพุงพุ้ยแว่นตากันน้ำหมวดกันน้ำพร้อม เจ้าสองแสบทำตัวพองเป็นอึงอ่างผมยิ้มเหี้ยมๆให้รู้ตัวก่อนที่สองแฝดจะทำหน้างอและยืนตรงเหมือนเกณฑ์ทหาร
ผมยิ้มก่อนจะเดินจูงมือสองแฝดไปที่สระเด็ก ทำซ่าจะกระโดดลงสระผู้หญิงเดี๋ยวก็เป็นเรื่องดื้อไม่มีใครเกินจริงๆ พอมาถึงสระเด็กได้ก็มีพี่สาวนมโตคอยดูเด็กๆเล่นอยู่กลางสระมารับไอ้สองแฝดไป ผมมานั่งดื่มน้ำส้มมองสองแฝดเล่นอยู่ที่เก้าอี้สำหรับผู้ปกครอง …
ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันนะว่าผมกำลังนอยอะไร แต่มันรู้สึกน้อยใจ น้อยใจทั้งๆที่ผมไม่รู้ว่าน้อยใจเรื่องอะไร พอคิดถึงหน้าไอ้บ้าโรคจิตที่ทำร้ายผมเมื่อคืนผมก็อดเหม่อลอยไม่ได้ ไม่สบายที่ทะเลาะกันงั้นหรอ ทำไมผมต้องไปใส่ใจด้วย … ผมไม่เข้าใจตัวเองเลย
“ฝ้ายเล่นก๊านนนนนนนนนนนนนนน” ผมสะดุ้งมองไปที่ไอ้สองเหม่งที่นั่งอยู่บนแพยางรูปกบควักมือเรียกผมหย่อยๆ ผมวางกระป๋องน้ำลงก่อนจะวิ่งลงสระไปหาพี่สาวนมตูม เอ้ย หาสองแฝด
เฮ้อ นั่งซึมไปทำใยเรื่องอะไรต้องมาคิดมากเพราะไอ้บ้าปิศาจนั้นด้วยจะทำอะไรก็ทำสิ ในเมื่ออยากจะแกล้งผมนักก็ตามใจ ผมไม่เอามาใส่ใจซะอย่าง เดี๋ยวชีวิตนางทาสในคาบนางซินก็คงผ่านไป … ไปนานๆยิ่งดีไม่มีคนแกล้งผมก็ดี … ผมจะได้ไม่ต้องปวดหัวไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องร้องไห้อีกต่อไป ในบ้านหลังนั้นถ้าเมื่อไหร่ที่หนี้กรรมหนี้เวรนี้หมดสิ้น … ผมจะพาน้องไปตามทาง
.
.
.
“แล้วยังไง มึงก็ต้องอยู่บ้านนั้นโดยไม่ได้เงินเดือนสักบาท”
ผมพยักหน้าก่อนจะกระดกน้ำเต้าหู้อึกใหญ่เข้าไป ระ ร้อน ชะมัด แต่อร่อยจริงๆนะ ผมเหมือนได้กลับบ้านได้เจอถังเก็บความลับใบใหญ่ที่ไม่ว่าผมจะพูดอะไรออกไปไอ้กล่องเก็บความลับของผมไม่มีทางไปเล่าให้ใครฟัง ยกเว้นเพียงเรื่องที่ผมอยู่ในฐานะเมียของไอ้โรคจิตนั้นเรื่องเดียวที่ไอ้กล่องเก็บความรับของผมไม่จำเป็นต้องรู้
“ไปอยู่บ้านกูที่บ้านนอกไหมมึง และค่อยส่งเงินให้เค้า …”
“น้องกู … ที่นั้นเค้าเอ็ดดูน้องกูมาก มึงรู้ไหมน้องกูอยู่ที่โน้นมีห้องส่วนตัวเตียงสองชั้นมีตุ๊กตาของเล่นประเคนให้ไม่ขาดสาย … น้องกูมีความสุขขนาดนั้นกูไม่อยากทำลายมัน” ผมพูดและลูกหัวเด็กสองคนที่นั่งนอนหลับซบอกผมหันหน้าเข้าหากัน เล่นเยอะกันไปหน่อยหลับสนิทเชียว หึหึ สนุกกันเยอะๆน่ะดีแล้ว เด็กก็ต้องสนุกแบบนี้ล่ะ …
“แต่มึงลำบาก”
“กูไม่เป็นไร กูทนได้”
“เดี๋ยวนะ นี้มึงมีอะไรมากกว่าเรื่องนี้อีกรึเปล่า”
“มะ ไม่มี”
“เสียงสูงขนาดนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ”
“มะ … เฮ้ย มาได้ไง!!!!”ผมเผลอตะโกนออกมาจนสองแฝดสะดุ้งตื่นและจะเบะปากร้องได้ไอ้เดชรีบเอาเจ้าขุนทัพไปอุ้มโอ๋ทันที ผมก็รีบโอ๋ขุนพลให้นิ่ง ก่อนจะขวดคิ้วมองรถคันสีดำที่เทียบท่าอยู่หน้าร้านไอ้เดช … ผมจำได้ว่าเจ้าของรถนั้นเป็นใคร … ไอ้ปิศาจมาทำอะไรที่นี้
ยังไม่ทันจะได้คิดอะไรไอ้ปิศาจก็เดินลงมาจากรถหน้าตึงมากนี้ยังไม่รวมสูทสีดำเหมือนมาเฟียนั้นอีก ลุคนี้ชั่วมาก =_=’
“กลับบ้าน”
“ไม่ เดี๋ยวฉันกลับเอง”
“ส่งไอ้เด็กนั้นมา” ไอ้โรคจิตไม่ได้สนใจผมแต่หันไปบอกไอ้เดช ขนาดว่าไอ้เดชเพื่อนผมตัวโตแล้วนะ ไอ้น้องจอมร้ายตัวโตกว่าเยอะเลยอ่ะ ยักษ์ชัดๆไอ้พวกบ้านี้ ผมกลายเป็นคนแคระเลยอ่ะ น่าเจ็บใจชะมัด
“ไม่ครับ”
“ฮึก คุณลุงกับพี่เดชอย่าทะเลาะกันนะ ฝ้ายบอกทะเลาะกันไม่ดี” เจ้าขุนทัพหน้าตาตื่นร้องไห้เอาหน้าซุกไหล่เจ้าเดชแต่ผละออกมาเอื้อมมือจะไปหาไอ้จอมร้าย …
ผมรีบเดินไปกั้นกลางเมื่อเห็นท่าไม่ดีก่อนจะรับขุนทัพมาอุ้มไว้แขนอีกข้างนึงมองหน้าไอ้จอมปิศาจก่อนจะพูดขึ้นเสียงเย็นเฉียบ
“แค่กลับก็พอใช่ไหม … ไอ้เดชข้ากลับก่อนนะ” ผมว่าแล้วก็เดินมาเปิดประตูหลังไม่ได้หันกลับไปมองไอ้ยักษ์บ้าสองตัว พอเอาสองแฝดขึ้นรถมาได้ก็เอื้อมตัวไปกดแตร่รถจนมันดังลั่นซอย ก่อนที่หมาสองตัวจะแง๊มเข้าหากัน
เหมือนไอ้โรคจิตจะพูดอะไรสักอย่างก่อนเดินขึ้นรถมา ผมเม้มปากอย่างไม่สบายใจไอ้สองตัวนี้อะไรกันนะ … ผมไม่ใช่นางเอกหนักนะอย่ามาต่อยทะเลาะกันแย่งผมเชียว พ่อกระโดดงับหูทั้งคู่แน่ๆ
“หึ มีความสุขเชียวนะได้กลับมาเยี่ยมผัวเก่าเนี้ย” ผมเม้มปากกับคำหยาบช้าของไอ้บ้าที่กำลังเข้าเกียร์รถ … ผมไม่อยากเถียงให้เมื่อยปากหรอกอยากจะเข้าใจยังไงก็ตามใจอยากจะทำอะไรก็ทำผมไม่สนแล้ว ไม่อยากจะเจอหน้าด้วย ผมเอาหน้าซุกกับสองแฝดที่หลับไปอีกรอบด้วยความเพลียก่อนที่จะหลับตามน้องไป …
ไม่อยากเจอกับคนบ้าแบบนี้อีกแล้ว…
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดด!!! “ก้มหัวลง!!!!!!” เสียงตวาดกับรถที่กระชากเบรกจนหัวทิ่มนั้นทำให้ผมสะดุ้งตื่นและรีบผมตามโดยไว โดยที่กอดสองแฝดหัวไว้ด้วย เสียงปืนดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว … กะ กะ เกิดอะไรขึ้น ผมไอ้ยินไอ้น้องจอมค้นหาอะไรสักอย่างอยู่หน้ารถ ก่อนจะเกิดเสียงปืนดังใกล้ๆหูสองสามนัด และก็เงียบไป
“ฮึก แงงงงงงงงงง ฝ้ายเสียงอะไรทัพกลัว ฮึก กลัวๆ ฮึก” สองแฝดผสานเสียงร้องไห้จนผมที่ใจหายแว๊บอยู่จะค่อยๆตั้งสติและพูดปลอบใจเบาๆเงยหน้าขึ้นอย่างระมัดระวัง …
“เดี๋ยว … ก้มลงไปอย่าเพิ่งลงมา” เสียงนั้นดังขึ้นทำให้ผมไม่มีทางเลือกต้องทำตามเจ้าแฝดทั้งสองร้องไห้ไม่เลิกด้วยความตกใจแต่จะมีใครรู้บ้างว่าผมก็ช็อกไม่ต่างกัน นี้อะไรกันผมอยู่ในหนังบู๋รึเปล่า
แก๊ก ผมสะดุ้งดีดตัวมาอีกข้างกอดน้องไว้แน่นตัวสั่นอย่างควบคุมไม่ได้เมื่อประตูถูกเปิดออก แต่แล้วแขนใหญ่ก็รวบผมทั้งสามคนเข้าไปโอบไว้ก่อนที่เสียงทุ้มต่ำอบอุ่นที่เคยโหดร้ายจะพูดปลอบประโลมขึ้น
“ไม่เป็นไร … ไม่ต้องกลัวไม่บาดเจ็บก็ดีแล้ว”
“ละ ละ เลือด” ผมพูดตะกุกตะกักขึ้นเมื่อเลือดจากแขนที่โอบผมกำลังไหลลงมาเลอะเปรอะพวกเราสามพี่น้องน้ำตาที่ผมกลั่นเอาไว้ไหลทะลักออกมาอย่างห้ามไม่ได้เงยหน้ามองไอ้โรคจิตที่เต็มไปด้วยเหงื่อผ่านม่านน้ำตาก่อนจะเห็นบาดแผลที่อยู่ใต้ร่มผ้าที่หัวไหล่ด้านขวากลิ่นเลือกคละคลุ้งไปทั่วรถเสียงร้องไห้ของสองแฝดทำให้ผมสติแทบหลุด ฮึกผมกลัวอ่ะ ผมกลัวจริงๆนะ …
กลัวไอ้บ้านี้เป็นอะไรไป ฮึก ผมกลัว
============================
เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ ความสัมพันธ์ยิ่งกรุ่นๆยังจะมาเกิดเรื่องอีก
น่ารำคาญคนเขียนชะมัด ฮ่าๆๆๆๆๆ 
เจอกันตอนหน้าจ้า
