{ CH 6 The Adversary }
โอ้แม่นางฟ้าทั้งหลาย อย่าเพิ่งหนีพี่ไปสิจ๊ะผมกำลังเริงร่าอยู่ท่ามกลางนางฟ้าปีกน้อยตัวเล็กๆนับร้อยตัวที่รายล้อมหัวเราะคิกคักใส่ผม ต้องเก็บใส่ขวดโหล่และเอาไปให้เจ้าแฝดให้ได้น้องจะได้ดีใจที่มีทิงเกอร์เบลล์ไว้ดูเล่น ว่าแต่มันกินอะไรนะ …ฟันน้ำนมรึเปล่า! บ้าน้องผมก็ฟันหลอสิ ช่างมันเถอะเอาให้ได้ก่อน ผมวิ่งไปตามปุยเมฆสีทองใส่จับนางฟ้าน้อย ทิงเกอร์เบลล์ที่บินเป็นแมลงปออยู่ อ่ะ! ตัวนั้นผมสีเขียวด้วย น่ารักต้องจับ!!!
ฟุบ!!!! “ได้แล้ว!!!!” ผมยิ้มร่าเมื่อรู้สึกว่าจับเจ้านางฟ้าผมสีเขียวที่หมายปองได้แล้ว ก่อนจะค่อยๆปิดฝามือตัวเองส่องดูแต่แล้วก็ต้องผงะแทบจะสะบัดมือทิ้งเมื่อที่อยู่ในมือมันคือเดวิลน้อยหน้าตาละม้ายคล้ายไอ้น้องหนูจอมขี้หยิ่งกำลังเก๊กหน้าตายใส่ผมอยู่!!!!!
“ว๊ากกก (โครม) โอ๊ยยยยยยยย!!!!!!” จะ เจ็บ ๆๆๆๆ ตูดกูพังแล้วมั่งเนี้ย เดี๋ยวก่อนเรื่องตูดเอาไว้ก่อน ไอ้เดวิลเมื่อกี้ล่ะอยู่ไหนๆ อ่ะ … เดี๋ยวนะนี้ผมมาส่งข้าวไอ้หนูจอมนี้กว่า … งั้นก็แสดงว่าพื้นที่ผมนั่งวัดอยู่นี้ก็คือ …
“ทำอะไรน่ะ”
“เดวิลจอมน้อย!!!!!” ผมชี้ไปที่ไอ้น้องจอมที่หน้านิ่วคิ้วขมวดชะโงกหน้ามามองผม พอพูดจบเท่านั้นแหละไอ้จอมน้อยที่ตัวเท่ายักษ์ก็เอื้อมมือใหญ่มากระชากผมลุกขึ้นและผลักให้นั่งลงที่เดิม และยัดเอาบร็อกโคลี่เข้าปากผม!!!!! อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!!! ไม่ชอบกินนนนนนนนนน!!!! ฮึก ไม่อยากกินผักอ่า
“ไม่ต้องมาร้องกินเข้าไปจะได้เลิกหายบ้า”
“…”ผมส่ายหัวอมบล็อกโคลี่ไว้ในปากจนผักขมๆมันเริ่มทำให้ปากผมเหม็นเขียว ฮึกกกกก! ไอ้จอมบ้า!!!!! ฝันสินะเมื่อกี้ผมฝันว่าอยู่บนสวรรค์แต่พอเจอกับเดวิลตัวจิ๋วเท่านั้นผมก็ตกนรกมานั่งอมบร็อกโคลี่เฉยเลย ไม่เอา จะคายแล้วไม่กิน ไม่อยากกินไม่ชอบกิน ไม่เอา!
“ถ้าคายเห็นดีกันแน่” เสียงนิ่งๆของมันกับสายตาที่เหมือนปิศาจทำให้ผมต้องจำใจกลื่นไอ้สิ่งเหม็นเขียวลงกระเพาะ … โฮ๊กกกกกกกกก!!!! น้ำตาไหลเย้ย นิสัยแม่งชั่วมาก เดี๋ยวเหอะเอาไว้ก่อนแกล้งดีนัก ทีใครทีมันนะไอ้น้องจอม
“ผักไม่กินสิตัวถึงหยุดอยู่แค่เนี้ย อ่ะนี้น้ำ เสร็จแล้วก็กลับไปได้ล่ะ เกะกะจริงๆ ห้องฉันก็ขึ้นไปทำความสะอาดให้ไว กลับไปถ้ามีฝุ่นแม้แต่มิลเดียวเจอดีแน่” ผมรับน้ำขวดมาก่อนจะบิดด้วยความใจเย็น กระดกอึกๆเข้าปาก …
ฮึก … “…” แก๊ซในท้องมันมันตีขึ้นจนผมจะพ่นออกจากปากอยู่แล้วทำไงดีทำไงดี ผมเหลือบไปมองไอ้น้องจอมยืนกอดอกมองผมอยู่ … ฮึฮึ ก็ไม่เห็นต้องทำอะไรนี้ ไหนๆก็ไหนๆล่ะน้องผักเหม็นเขียวจะได้ไม่เสียของ
พรู๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!! “ไปก่อนน๊าคร้าบบบบ อร่อยมากเลย จุ๊บๆ” ผมรีบวิ่งใส่เกียร์หมาออกมาจากห้องเมื่อพ่นน้ำใส่อกไอ้บ้าน้องจอมเสร็จ ฮึฮึ น้องจอมก็น้องจอมเถอะบังอาจมาบังคับน้องฝ้ายให้กินผัก น้องจอมเลยเจอน้องฝ้ายพ่นพิษ บร็อกโคลี่เหม็นเขียวใส่เลย ฉ่ำปอดไหมล่ะ!!!!
.
.
.
แก๊ก
ผมค่อยๆชะเง้อหัวเข้าไปในห้องของจอมน้อยมองไปรอบๆห้องสำรวจว่ามีไอ้ปิศาจที่เจอท่าไม้ตายพ่นน้ำผักเหม็นเขียวใส่ด้วยความรักไป ป่านนี้คงจะหัวเสียเต้นเป็นเจ้าเข้าอยู่ที่รังปิศาจแหละคงไม่วาปกลับมาได้เร็วขนาดนั้นหรอก เพราะผมให้ลุงชัยเบิ่งรถกลับมาไวกว่าสายฟ้าซะอี๊กกกกกกกกก พอเห็นทางปลอดโปร่งผมก็กระโดดเข้าไปยืนจังก้าเหล่มองไปรอบๆก่อนจะแสยะยิ้มเพราะรู้สึกถึงชัยชนะที่เต็มเปี่ยม หึหึ ห้องนี้สินะที่ไอ้น้องจอมน้อยเคยแบกผมจะมาทำมิดีมิร้าย แต่ดันโดนผมกระแทกไข่จุกชักดิ้นชักงอ ฮ่าๆๆๆ เอ๊าล่ะอาวุธพร้อม !!!!! ทำความสะอาดโลดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!
ห๊ะ! อะไรนะคิดว่าผมจะเอาหมามุ่ยมาโรยหรือ เปล่าสักหน่อย ผมออกจะใจดีเป็นนางสาวไทยรักเด็กและช่วยคนแก่ข้ามถนน แถมยังมีน้องอีกสองคนที่ต้องดูแล ไม่พร้อมที่จะโดนไล่ออกหรอกนะแหมมมมมมมมม!!! ... แต่ก็นะ ก็ไม่ใช่ว่าผมไม่ได้พกมาด้วยหรอกนะ ขืนมาหือกับผมสิ พ่อจะเอากรอกปากเสียให้เข็ด!!!
งานแรกเลยก็คือต้องจัดการเปิดผ้าม่านที่ปิดทึบนี้ออกซะก่อนอยู่ได้ยังไงนะห้องเหม็นอับขนาดนี้ไม่เคยให้แม่บ้านมาดูแลเลยหรือไง ซกมกจริงๆ พอเอื้อมมือไปเปิดผ้าม่านสีขาวครีมออกได้ก็จัดการเปิดหน้าต่างให้แสงแดดยามบ่ายเข้ามาสังเคราะห์แบคทีเรียภายในห้องออกไป รื้อผ้าปูที่นอนหมอนมุ่งสีดำสนิทออกให้หมด เอาใส่ตะกร้าที่เตรียมมาด้วย ก่อนจะเอาสเปรย์ฆ่าเชื้อฉีดให้ทั่วที่นอนสปริงเด้งทีแทบติดเพดาน ก่อนจะหันมาจัดการกับชั้นหนังสือเล็กๆภายในห้องที่เก็บรักษาหนังสือเป็นอย่างดี แต่เล่มที่วางสลับที่กันก็ทำให้เห็นว่าน้องจอมเป็นคนขี้เกียจมากแค่ไหน ดูท่าจะชอบอ่านหนังสือน่าดูเหมือนกันเห็นที่ทำงานก็มีตู้วางตั่งหลายตู้ แถมเคยได้ยินคุณหญิงบอกบ้านหลังใหญ่โตที่ผมเดินแทบหลงนี้ก็มีห้องหนังสืออยู่ด้วย อ่ะ! มีเพชรพระอุมาด้วย!!!! โห!!! ครบชุดเลยนะเนี้ย เคยยืมมาอ่านสมัยยังเรียนอยู่ ค้างไว้ตั้งนานล่ะไม่มีโอกาสได้อ่านเลย ว่างๆจะต้องมาขอยืมน้องจอมไปอ่านสักหน่อย ถ้าไม่ให้จะพ่นน้ำใส่อีกเอาสิ เอาสิ!!!!
พอจัดการเรียงหนังสือเสร็จแล้วก็หันไปทางประตูห้องเสื้อผ้าที่เจาะลึกเข้าไปแต่ดูเหมือนในห้องนี้ผมจะไม่ต้องจัดการอะไรมากเพราะชุดสูทมากกว่า 20 ชุดที่เรียงตามสี กับเสื้อผ้าร้องเท้าที่จัดเข้าที่เป็นระเบียบในห้องไฟสีส้มสวยนี้มันก็ทำให้ผมรู้ว่าเจ้าจอมรักษาห้องนี้เป็นอย่างดี แน่สิ ข้าวของบริษัทต้องมีรูปลักษณ์ในการแต่งตัวที่เนี้ยบตั้งแต่หัวจรดเท้า … ง่ะ! ผมไปทำชุดสูทราคาแพงมีราคีซะแล้ววววว! ช่างสิก็แกล้งกันก่อนอ่ะ ใครจะไปยอมล่ะ เชอะ แต่พอหันไปเห็นตะกร้าผ้ากองใหญ่ ผมก็ต้องเดินเข้าไปและไปลากไปเข็นมันออกมา เดี๋ยวจะซักให้หอมเลยน๊า จากนั้นผมก็เริ่มปัดกวาดเช็ดถู ชัดห้องน้ำที่ใหญ่กว่าห้องพักที่ผมเคยอยู่หลายร้องเท่านัก เอาผ้าเช็ดตัวสะอาดมาวางไว้ที่ราว ก่อนจะเสร็จสิ้นพิธีการร่ายมนต์ของพ่อมนต์น้อยฝ้าย จุบุๆ พอห้องสะอาดเนี้ยบทุกสัดส่วนแล้ว ผมก็หันมามองผ้ากองโต และถอนหายใจอย่างหนักใจ นี้ไอ้น้องจอมไม่เคยซักเลยหรือไงนะ!!!!
“อ้าวฝ้าย มาป้าช่วยขนนะจ๊ะ ไอ้ปลาไอ้น้ำเอ้ยมาช่วยกันขนผ้าไปห้องซักรีดเร็ว!!!” ยังไม่ทันจะร้องห้ามอะไร พี่ปลาและพี่น้ำรวมทั้งป้าน้อมที่เดินผ่านมาพอดีก็แบกผ้า 5 ตะกร้าใหญ่ๆเดินไปเรียบร้อย ผมรีบเก็บอุปกรณ์ออกรบของตัวเองวิ่งตามไปทันที
ผมวิ่งตามป้ากับพวกพี่ๆมาจนถึงห้องซักรีดที่อยู่หลังบ้านใหญ่ภายในเป็นพื้นกระเบื้องสีฟ้าสะอาดมีเครื่องซักผ้าอยู่สามเครื่องและลานสำหรับผ้าที่ต้องใช้มือซัก กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มหอมไปทั่ว
“ป้าจ้ะ เดี๋ยวฝ้ายทำเองครับ ฝ้ายใช้เป็น” ผมรีบเข้าไปช่วยผ้าน้อมที่กำลังแยกผ้าที่ต้องใช้เครื่องซักกับต้องใช้มือซักออก ป้าแกยิ้มก่อนจะยอมให้ผมทำ
“หนูเป็นคนแรกเลยนะที่คุณจอมยอมให้เข้าไปทำความสะอาดห้องแต่โดยดีน่ะ ปกติต้องให้คุณหญิงเป็นคนนำทัพเข้าไปก่อน” ผมหันไปยิ้มให้ป้าน้อมไม่พูดอะไรและหันมาแยกผ้าเอาใส่ถังปั่นแต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อตะกร้าผ้าของใครก็ไม่รู้ที่มีทั้งเสื้อในและกางเกงในผู้หญิงม้วนเป็นเกรียวมาวางตรงหน้าผม ผมเงยหน้ามองคนที่ทำแบบนี้นิ่ง
“ถ้าอยากซักนักก็ซักให้ฉันด้วยสิย่ะ พ่อเด็กเส้น!!!”
“อีน้อย! ทำไมทำแบบนี้ เอาผ้าของเอ็งไปซักเองโน้นเครื่องโน้นว่าง”
“เรื่องอะไรล่ะป้า ให้คนที่เค้ามาอยู่ทำงานสบายๆแถมค่าจ้างสูงกว่าพวกเราตั้งเยอะทำไปสิ” ผมมองยัยนมโตตรงหน้าที่กอดอกเบะปากอยู่ในชุดเดียวกับผ้าน้อมแสดงว่าเป็นแม่บ้านเหมือนกันก่อนจะแสยะยิ้มและพูดขึ้นเบาๆ
“ได้จ๊ะ เดี๋ยวผมจะซักให้เอง”
“หนูฝ้ายไม่ต้องหรอกให้มันซักเอง”
“ไม่เป็นไรครับ ผมทำได้ แค่นี้เอง ป้าน้อมกับพี่น้อยออกไปพักเถอะครับ”
“ย๊ะ ซักให้ดีๆนะพ่อเด็กเส้น” ยัยน้อยนมโตเชิดนมเดินออกไปพร้อมกับป้าน้อมที่เดินไปต่อว่า มีเพียงผมที่แสยะยิ้มร่าตามหลังให้ ได้เลยจ๊ะพี่น้อย แหมฉันว่าหมามุ่ยที่ผมเตรียมมาจะไม่ได้ใช้แล้วเชียวนะเฮ้อ แย่จังเห็นทีต้องจัดการใส่ลงไปซักพร้อมกับผ้าของน้องน้อยนมโตนิสัยทรามสักนิดแล้วล่ะสิ อุ้ย! เผลอใส่เยอะไปหน่อย หึหึ จะเอ็นดูให้คันยันไส้ติ่งเลยยยยยยยยยยยย!!!!
.
.
.
“ฝ้ายยยยยยยยยย ย ” ผมเดินลงมาจากห้องน้องจอมหลังจากที่เปลี่ยนผ้าปูใหม่เสร็จเรียบร้อยกำลังจะเข้าไปดูผ้าที่ซักตากไว้ ต้องสะดุ้งเล็กๆหันไปมองตามเสียงผสานของเจ้าแก้มซาลาเปาขุนพลขุนทัพที่เพิ่งกลับมาจากโรงเรียนหมาดๆโดยมีคุณหญิงเดินตามมาด้านหลังและผมก็ต้องเอียงคอมองเมื่อมีคนรับใช้อีกสองสามคนถือของตามมาด้านหลังพะรุงพะรังเต็มไปหมดนั้นคุณหญิงไปเหมาของห้างไหนมาอีกล่ะนั้น สองแฝดวิ่งมาเกาะขาผมคนล่ะข้างทำให้ผมต้องค่อยๆทรุดตัวลงนั่งไปหอมแก้มคนล่ะที
“ฝ้ายรู้ไหมวันนี้คุณป้าพาพวกเราไปซื้อขนมของเล่นมาเยอะมากเลยล่ะ ขุนพลได้หุ่นยนต์มาด้วย” ขุนพลชูนิ้วให้ผมดูทั่งสิบนิ้วเพื่อบอกว่ามันเยอะมาก
“ขุนทัพก็ได้ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่มากเลยนะ เท่านี้แหนะ” ขุนทัพทำผมแสดงว่ามันใหญ่มากให้ผมดู
“หือ ไปมาตอนไหนฮึ นี้ก็เวลากลับบ้านปกติของเราไม่ใช่หรือไงเจ้าแฝด”
“คือว่านะ …” ขุนพลทำท่าจะพูดแต่คุณทัพทำมือจุ๊ๆไม่ให้พูดขุนพลเลยต้องเอามือขึ้นปิดปากตัวเองตาโต
“ฮ่าๆๆ ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ ฉันอยากจะไปแอบดูสองแฝดเพราะอยากเจอน่ะ แต่แหมพอดีวันนี้โรงเรียนมีงานผู้ปกครองพอดี
ฉันเลยเป็นพบผู้ปกครองให้สองแฝด พอเสร็จธุระโรงเรียนเขาปล่อยให้กลับได้น่ะจ๊ะ ฉันเลยพาไปซื้อของ” ผมยกมือไหว้คุณหญิงอย่าง งงๆก่อนจะหันมามองสองแฝกที่ก้มหน้ามองมือตัวเองไม่กล้าเงยมองผม
“ทำไมไม่เห็นบอกพี่ว่ามีประชุมผู้ปกครอง ?” ผมถามขึ้นเสียงนิ่ง ขุนพลเหลือบตาขึ้นมามองผม พอเห็นว่าผมมองอยู่ก็รีบก้มหน้า เสียงขุนทัพดังขึ้นเบาๆ ผมจึงหันไปมองทันทีสองแฝดก็พร้อมใจกันกระโดดกอดคอผมซุกหน้าลงอย่างอ้อนๆ
“พวกเราไม่อยากให้ฝ้ายไปเพราะฝ้ายเหนื่อย” เสียงขุนพลพูด ผมสะอึกนิดๆเหมือนน้ำตาจะไหลออกมาเสียให้ได้
“พวกเราเลยอยากให้ฝ้ายพัก” พอขุนทัพพูดแค่นั้นแหละ น้ำตาผมแตกทันที ผมเลยกอดเจ้าสองแฝดแน่น หอมแก้มไปคนล่ะทีสองที คุณหญิงที่ยืนปาดน้ำตาอยู่ข้างๆยิ้มเล็กยิ้มน้อยก่อนจะพูดขึ้นเบาๆ
“ถ้างั้นวันนี้เรามาทำบัวลอยให้สองแฝดกินกันเถอะหนูฝ้ายปลอบใจน้องกันหน่อย”
“คะ ครับ ขอบคุณคุณหญิงมากนะครับ แต่เดี๋ยวผมขอเก็บผ้าก่อนนะครับ เห็นกรมอุตุบอกว่าวันนี้ช่วยเย็นๆจะมีฝนตก และเมื่อตอนบ่ายแดดก็แรงสงสัยจะแห้งแล้ว สองแฝดอยู่กับคุณหญิงก่อนนะเดี๋ยวพี่ทำงานก่อน”
“ให้พวกเราช่วยนะ” ขุนทัพบอกเสียงเบาๆ เงยหน้ามาจุ๊บแก้มผมไปหนึ่งที ขุนพลพยักหน้าตาม ผมกำลังจะพยักหน้าแต่คุณหญิงพูดขึ้นเสียก่อน
“ไม่ต้องหรอกจ๊ะ ปล่อยให้คนอื่นทำเถอะ เดี๋ยวจะเสร็จไม่ทันพี่จอมกลับบ้านนะ น้อยเธอไปเก็บผ้าทีนะ”
“ค่ะ คุณหญิง” ยัยนมโตที่ดูเหมือนแอบฟังอยู่สะบัดก้นเดินไปหลังบ้านทันที ผมได้แต่มองตามและหัวเราะคนเดียวอยู่ในใจ เดี๋ยวเถอะยัยน้อยนมโต เดี๋ยวก็รู้ฤทธิ์พ่อ!!!!!
ผมกับน้องๆช่วยกันปั้นลูกบัวลอยโยนลงไปในน้ำเดือน มันมีทั้งรูปหัวใจรูปดาวและเต่าที่เหมือนตะพาบกับไดโดเสาที่เหมือนกบ นี้ยังไม่รวมสัตว์กลายพันธุ์ตัวอื่นๆที่สองแฝดแก้มแดงจะสรรค์สร้างออกมาหรอกนะ =_=’ แม่ครัวอีกสามสี่คนก็ช่วยทำส่วนของน้ำบัวลอย เพียงเวลาไม่นานขนมบัวลอยไข่หวานก็เสร็จทันเวลาพอดี ผมเลยพาสองแฝดไปอาบน้ำก่อนและนัดคุณหญิงไว้อีก 1 ชั่วโมงจะมาบ้านใหญ่เพื่อกินข้าวพร้อมกัน
พอมาถึงบ้านเรือนไทยผมก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ วันทั้งวันยังไม่ได้กวาดปัดบ้านเลย ก็ภาวนาอย่าเพิ่งให้สองแฝดแพ้ฝุ่นขึ้นมา เอาว่ะ พรุ่งนี้ต้องทำความสะอาดบ้านให้ได้ ก่อนอื่นต้องจับไอ้ลูกลิงแฝดอาบน้ำเสียก่อน
“นี้ อย่าเล่นนะ วันนี้ต้องไปกินข้าวกับคุณหญิงนะ”
“คร้าบบบบบบบ” สองแฝดพูดพร้อมกับแก้ผ้าโชว์ตูดลิงวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำ
ผมรอไม่นานตัวเปียกๆลื่นๆของสองแฝดก็ออกมาให้ผมเช็ดตัวให้ ผมจับน้องใส่ชุดฮูดกีฬาน่ารักโดยขุนทัพใส่สีขาว ส่วนขุนพลใส่สีดำกับกางเกงขาสั้นสีขาวและสีดำสลับกับเสื้อไป พอสองแฝดแต่งตัวเสร็จก็ต้อนให้น้องไปอยู่ในห้องก่อนไม่ให้ออกมาข้างนอกเพราะกลัวจะตกน้ำตกท่าไป เมื่อผมและน้องตัวหอมฉุยเสร็จเรียบร้อย ก็พากันเดินเข้ามาในบ้านใหญ่ ซึ่งมีคุณหญิงและเจ้าปิศาจร้ายกำลังจ้องมาที่ผมนิ่งสองแฝดวิ่งไปหาคุณหญิงที่อ้าแขนรับก่อนจะถูกอุ้มขึ้นไปนั่งเก้าอี้เด็กขนาบข้างคุณหญิงเชียวแหละ ผมเลยต้องจำใจไปนั่งข้างน้องจอมน้อยแทน
“ทานข้าวก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวเสร็จแล้วจะให้คนเสริฟบัวลอย”
ผมยิ้มให้คุณหญิงก่อนจะก้มหน้ากินข้าว เหลือบขึ้นไปมองเห็นขุนทัพนั่งจะเอามือจับอาหารเข้าปากเลยวางช้อนซ้อมเดินไปนั่งข้างๆสอนน้องใช้ช้อนส้อมทันที เจ้าขุนพลพอเห็นลิงผู้น้องใช้ช้อนซ้อมไม่เป็นก็โชว์เทพบ้าง แต่เนื้อหมูก็กระเด็น ข้ามโต๊ะไปตกในจานของจอมน้อยหน้าโหด!!! น้องผมงี้หน้าซีดไปเลยครับก็ไอ้ปิศาจน่ะสิมองอย่างกับจะฆ่าอย่างงั้นแหละ!!!!
“เอ่อ ขอโทษแทนน้องด้วยนะครับ เดี๋ยวผมตักข้าวให้ใหม่” ผมว่าและจะเดินหยิบจากใหม่ให้ แต่พอเดินเข้าไปใกล้ไอ้ปิศาจ ก็ถูกรวบตัวลงไปนั่งตัก ก่อนจะถูกไอ้มือยักษ์ยัดบีบปากผมให้อ้าออกก่อนที่ช้อนที่ผมคะน้าผัดน้ำมันหอยจะกระทุ้งเข้าไปในปากเต็มๆ ผมสะอึกฮักก็ไอ้กลิ่นเหม็นเขียวมันกระจายไปทั่วทั้งปากเลยน่ะสิ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก ไอ้จอมปิศาจ ไอ้บ้า ไอ้หน้าแมวววววววววววว แมวน่ารักไปไอ้หน้าวรนุชชชชชชชชชชชชช!!!!!
“ว้าย ตาจอมแกล้งอะไรน้องอย่างงั้น ป้าน้อมพาหนูฝ้ายไปห้องน้ำทีนะจ๊ะ!” ป้าน้อมขารรับก่อนจะพาผมไปห้องน้ำ ผมอ้วกแตกอ้วกแตนออกมาจนหมดใส้หมดพุงหน่อยแหนะไอ้หนูจอมร้าย!!!! อย่าหวังว่าศึกนี้จะชนะเลย!!!!!!!
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด” ผมตกใจเมื่อเสียงกรี๊ดเหมือนเปรตขอส่วนบุญดังขึ้น จนต้องถลาออกไปชะเง้อมอง เห็นยัยนมโตวิ่งพล่านไปมาทำท่าคันเป็นหนุมาร โดยมีป้าน้อมและคนอื่นๆพากันหัวเราะกับท่าทางนั้น
“เอ๊า! ทำอะไรกันและยัยน้อยเป็นอะไร”
“คันค่ะคุณหญิงคันไปหมดต้องเป็นเพราะไอ้ฝ้ายแน่ๆ มันต้องทำอะไรกับผ้าของน้อยแน่ๆเลยค่ะคุณหญิง!!!!! ” ยัยน้อยชี้มาที่ผมอีกมือก็เกาเป็นลิง
"อย่ามาว่าฝ้ายนะ!!!!" ขุนทัพกับขุนทัพตะโกนขึ้นพร้อมกันเสียงดังกำมือเล็กๆแน่นน้ำตาคลอ ทำท่าจะเอาเรื่อง ผมเลิกคิ้วสูงก่อนจะเดินเข้าไปหาคุณหญิงและนั่งลงคุกเข่าที่พื้นรวบน้องสองแฝดเข้ามากอดไว้ แผนนางซิน ปฏิบัติการ!!!!
“ผมไม่ได้ทำอะไรนะครับ ผมก็ซักผ้าให้พี่น้อยปกติ …”
“ตายแล้ว! และเรื่องอะไรหนูต้องซักผ้าให้ยัยน้อยด้วยล่ะไม่ได้การล่ะ เห็นทีต้องอบรมกันเสียหน่อย ยัยน้อยไปอาบน้ำอาบท่าหายาทาซะและมาหาฉัน!”
“ค ค่ะคุณหญิง”
“ส่วนเราก็ไปกินข้าวกันต่อนะจ๊ะ อะไรกันทำไมทำกันแบบนี้นะยัยน้อยนี้ไม่ได้เรื่องจริงๆ” ระหว่างที่คุณหญิงเดินนำไป ผมก็แอบแสยะยิ้มน่ารักๆไปให้ยัยนมโตที่ดิ้นพล่านมองผมอย่างโกรธแค้นป่านจะกินเลือดกินเนื้ออยู่ เอ๊าซิ๊!!!! ก็ลองดูจะมาไม้ไหนก็ลองดู!!!!!
“จะไปกินข้าวได้หรือยัง ไอ้เด็กแสบ”
ผมหันไปค้อนใหญ่ให้ไอ้น้องจอมร้ายที่กอดอกยืนมองผมอยู่ ผมเชิดใส่ก่อนจะอุ้มสองแฝดเดินกลับไปที่โต๊ะกินข้าวต่อ …รอบนี้ถ้ามายัดผักใส่คนอื่นเขาอีก พ่อจะเอาหมัดยัดปากมึงให้อ้วกแตกบ้าง ไอ้จอมปิศาจบ้า!!!!!!!!!
=========================
ก็ตามชื่อตอน ฮ่าๆๆๆ หนูฝ้ายไม่ยอมใครอยู่แล้วนะจ๊ะ อย่ามาคิดแกล้ง
โดนไปดิ โดนไปดิ ฮ่าๆๆๆ
เจอกันตอนหน้าค่ะ ขอบคุณทุกกำลังใจและขอกำลังใจด้วยนะค่ะ
* "เพชรพระอุมา" บทประพันธ์ของ "พนมเทียน" หรืออาจารย์ ฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ (สนุกมากหาอ่านหาฟังกันได้นะค่ะ มีแบบอ่านเพื่อคนตาบอดด้วยในยูทูปเค้าฟังจบไปสองรอบ แต่หาอ่านเป็นเล่มไม่ได้สักที)
