ประตูสู่ห้องใต้ดินที่ทั้งกว้างและมืดมิด ราวกับอีกมิติที่ปราศจากแสงถูกเปิดแง้มอย่างช้า ๆ
เด็กหนุ่มควานหาสวิตซ์ไฟอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานนักแสงสว่างสีขาวก็ก่อกำเนิดขึ้น ลำแสงสว่างวาบจากหลอดไฟนีออน สาดกระทบผนังที่ทาด้วยสีขาว ห้องโล่ง ๆที่มีเพียงตู้เหล็กไม่กี่ใบจัดวางชิดผนังอย่างเป็นระเบียบ
ตรงกลางห้องนั้น มีร่างของบางสิ่งนอนหมอบอยู่ ไอ้สัตว์ประหลาดฟุ่บนิ่งคล้ายกำลังหลับใหล ทว่าดวงตาของมันยังคงลืมโพลงค้างไว้อย่างนั้น มันได้ยินเสียงเปิดประตู และเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคย แต่ทิฐิในตัวมันสั่งให้มันนอนนิ่งไม่ไหวติง ไม่หันไปดูและแสดงท่าทางดีใจอย่างทุกครั้ง
“กูเอาเนื้อสดมาฝากมึง.....สดจริง ๆไม่ปรุงรส หวังว่าคงจะแก้ขัดได้บ้าง.....”
“.......”
“ไอ้โจ๊ก”
มันส่งเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ และไม่ยอมหันไปมองผู้เป็นนาย ต้นกล้ายืนจ้องมันอย่างลังเลอยู่อึดใจหนึ่ง คล้ายกำลังชั่งใจที่จะทำบางอย่าง เขาค่อย ๆวางถาดเนื้อลง และมืออีกข้างหนึ่งกำลังกำบางสิ่งแน่น
เธอต้องฆ่ามันนะ....
ฆ่ามัน
ฆ่ามัน
ฆ่ามันเสีย!!!!เด็กหนุ่มเงื้อมือขึ้นสุดแขน สายตาจับจ้องไปที่คอของมันอย่างแน่วแน่ ชั่วพริบตา เจ้าสัตว์ประหลาดหันมาเผชิญหน้ากับเขา....
ดวงตาของมัน สบกับดวงตาของเขา
เขามองเห็นความรวดร้าวในแววตาคู่นั้น
และมันเองก็มองเห็นความรู้สึกผิดไหววูบในดวงตาของเขาเช่นกัน
“กล้า.....เกลียด.....โจ๊ก.......ฆ่า.....ฆ่า....ฆ่าโจ๊ก....เลย”
“.......”
วันที่ 21เขาทำไม่ได้จริง ๆ ภาพของมันที่หมอบราบอยู่ตรงแทบเท้าของเขา ไม่ใช่การอ้อนวอนขอชีวิต แต่เป็นการมอบชีวิตให้อย่างศิโรราบ หัวของมันถูที่ท่อนขาของเขา คล้ายลูกหมาที่กำลังออดอ้อน ทว่าตัวมันในยามนี้กลับดูละม้ายคล้ายผู้ชายตัวโตคนหนึ่ง กำลังวิงวอนต่อเด็กหนุ่มธรรมดาอย่างเขา
มันทำให้เขาเจ็บปวดไปด้วย
ทำไมมึงต้องเป็นสัตว์ประหลาดด้วยไอ้โจ๊กเอ๋ย
ทำไมมึงถึงต้องหล่อเลี้ยงชีพด้วยเลือดเนื้อด้วย
“กล้า....ตื่นได้แล้ว วันนี้นายต้องไปโรงเรียนสักที ไม่งั้นหมดสิทธิ์สอบ”
เขาเอาแต่นอนคิดเรื่องของมันจนนอนไม่หลับทั้งคืน ทั้งคำพูดของกะเทยกุหลาบ ตัวประหลาดที่เจ้าหล่อนเคยเห็นจะแสนรู้และภักดีได้อย่างไอ้โจ๊กไหม
เขาลุกขึ้นจากเตียงด้วยความอ่อนล้าเหลือกำลัง ภายในเวลาไม่ถึงเดือน มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายเกินจะแบกรับได้ไหว ทั้งการฆ่านองเลือด ทั้งคำโกหกคำโต
เขานั่นแหละที่น่าจะเป็นฝ่ายตาย ๆไปเสียตั้งนานให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
มือขาวซีดฉวยโทรศัพท์ขึ้นมาดู มิสคอลเกือบร้อยสายจากแม่ของเขา และข้อความอีกเป็นสิบที่หล่อนส่งมา ต้นกล้ามองมันอย่างชั่งใจ
ก่อนจะกดลบทุกอย่างทิ้งไป
กี่วันแล้วที่เขาไม่ได้กลับบ้าน
แค่ไม่กี่วัน แต่ดูเหมือนยาวนานเหลือเกิน แต่เป็นความยาวนานที่ไม่ได้รู้สึกทุรนทุรายอะไรนัก
เด็กหนุ่มล้างหน้าล้างตาอย่างลวก ๆและแต่งตัวไปเรียนพร้อมลูกเต๋า ก่อนออกไป เขาไม่ลืมแวะเอาถาดเนื้อสดให้มัน ไอ้โจ๊กยังคงนอนอยู่ในท่าเดิมเหมือนเมื่อวาน นอนหมอบคว่ำอย่างหงอยเหงา มันไม่หันมามองเขาด้วยซ้ำไป
.
.
.
.
.
ตลอดทั้งวัน สรรพเสียงต่าง ๆในห้องเรียนไม่ได้เข้าสู่สมองเขาเลยสักนิด
ตุ่บ!!!!
แปรงลบกระดานตกลงกระทบหัวของเขาด้วยความแรงไม่ใช่น้อย เพียงแค่นั้นก็พอจะเรียกสติของเขากลับมาได้ชั่วขณะหนึ่ง เพื่อน ๆในห้องต่างหัวเราะคิกคัก สภาพของเขาคงดูไม่จืดเลยทีเดียวในตอนนี้ ทั้งผมและเสื้อพละเปรอะเปื้อนไปด้วยผงช็อค
“มึงน่ะ.....ถ้าไม่ตั้งใจเรียนก็ออกไปเลย กูอนุญาต”
เขาได้ยินเสียงลูกเต๋าโวยวายใส่อาจารย์คนนั้น.....นี่หรือคำพูดของคนเป็นครู ทำไมกับพวกไอ้เสือ ครูพวกนี้ไม่กล้าเหมือนอย่างที่ทำกับเขาบ้างนะ ทำไมทุกครั้งที่เขาโดนแกล้ง ถึงไม่มีใครหน้าไหนยื่นมือเข้าช่วยเลยล่ะ ทำไมอาจารย์พวกนั้นถึงได้ทำเป็นมองไม่เห็น ตอนที่เนื้อตัวของเขาเปียกปอนไปด้วยฉี่เหม็น ๆ หรือหน้าตาที่บวมปูดกลับบ้านเกือบทุกวัน
เขานั่งอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งมีใครสักคนมากระชากแขนของเขา ฉุดกระชากให้ลุกขึ้นยืน เสียงอาจารย์ด่าทอ สลับกับเสียงของลูกเต๋าที่พยายามจะปกป้องเขา
“โว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!” เด็กหนุ่มแผดเสียงลั่นอย่างเหลืออด เขาสะบัดแขนออกจากการฉุดกระชากนั้น และผลักอาจารย์สอนสุขศึกษาวัยกลางคนจนหงายหลังล้มก้นกระแทกพื้น
สรรพเสียงจ้อกแจ้กนั้นเงียบสงัดลงไปในทันที
.
.
.
.
.
เขาวิ่งจากมา
จากมาจากความวุ่นวายทั้งหลาย
วิ่งออกมาจากโรงเรียนที่เปรียบดั่งขุมนรกมาตลอดหลายปี
วิ่งตัดผ่านสวนสาธารณะซึ่งเป็นทางผ่านกลับบ้าน
เหนื่อยเหรอเกินแล้ว
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เขาคงหาทางทำให้อาจารย์คนนั้นกลายเป็นอาหารของไอ้โจ๊ก แต่เขาทำแบบนั้นไม่ได้อีกแล้ว เขาทรุดกายลงพิงต้นไม้ใหญ่ สวนสาธารณะในยามสายแบบนี้ผู้คนดูบางตา แต่ก็ไม่ถึงกับรกร้างว่างเปล่า
เขาหลับตาลง
สายลมเย็นเอื่อย ๆผัดผ่านใบหน้าของเขา จนเหงื่อนั้นระเหยจนแห้งไป
เขาฝันถึงชายแก่ที่มีฟันน่าเกลียดคนนั้น เจ้าของคนก่อนของไอ้โจ๊ก
คนที่เขาไม่เคยคิดหาคำตอบ ว่าเป็นใครกันแน่
คนหรือว่าปิศาจ
ชายแก่คนนั้นดักรอเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เหมือนกับที่ดักรอเขา
‘รับไปสิ......มันเป็นของเธอแล้ว’
ชายแก่พูดกับเด็กคนนั้น บรรยากาศที่รายล้อม พอจะบอกได้คร่าว ๆ ว่าเป็นยุคสมัยใด
Rrrrrrrrr…..ไม่รู้ว่าเขาหลับไปนานแค่ไหน รู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่เสียงโทรศัพท์นั้นดังขึ้น เขาล้วงมันออกมาจากกระเป๋ากางเกง ลูกเต๋านั่นเองที่โทรหาเขา
“ฮัลโหล”
“กล้า.....ตอนนี้กล้าอยู่ไหน”
“อยู่ที่สวน”
“ไอ้บ้าเอ๊ย ทำคนอื่นเขาเป็นห่วงไปหมดเลยรู้ไหม นายเล่นเอาทุกคนตกใจหมดเลย ขนาดไอ้แก่ขาโหดยังหน้าซีดเลย เราเลยบอกว่ากล้าป่วย....”
“เหรอ.....แล้วแกว่าไง เราจะโดนทัณฑ์บนไหมวะเต๋า”
“ตอนแรกอ่ะจะโดนแล้ว เรากับเพื่อน ๆช่วยกันพูดให้ มีคนเห็นใจหลายคน พวกเราช่วยกันพูดเรื่องไอ้เสือด้วย ไอ้แก่(ฉายาอาจารย์คนนั้น)แม่งเงียบเลย มันก็รู้ว่ากล้าโดนมาหนัก แต่ไม่เคยช่วย.....”
“ขอบใจนะ”
“เออ...รออยู่นั่นแหละ เดี๋ยวไปหา......เฮ้ยยยยยยย ปล่อยยยยยยย....อื่ออออออออออ”
“ลูกเต๋า......เป็นอะไร ลูกเต๋า!!!!”
เด็กหนุ่มตาสว่างเป็นปลิดทิ้ง เมื่อได้ยินเสียงกุกกักเล็ดลอดออกมาจากทางปลายสาย เสียงต่อสู้ขัดขืน และเสียงหัวเราะที่คุ้นหูเหลือเกิน
“ไง.....ไอ้เหี้ยกล้า”
“อ่ะ.....ไอ้เสือ.....”
“เออ....กูเอง กูขอยืมตัวน้องเต๋าไปเล่นด้วยสักสองสามวันได้ไหมวะ ฮะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
.
.
.
.
.
แย่แล้ว
เขาลืมพวกมันไปเสียสนิท
ไม่น่าหลงวางใจว่าเรื่องทุกอย่างจะเรียบร้อยเลย
ลูกเต๋าบอกกับเขาว่าพวกมันตอนนี้กำลังถูกตำรวจไล่ล่าตามตัวอยู่ และมีข่าวลือแว่วมาว่าพวกมันได้หนีออกไปกบดานตามชายแดนบ้าง ประเทศเพื่อนบ้านบ้าง ต้นกล้าเองก็พอรู้ ว่าบ้านของไอ้เสือนั้นค่อนข้างจะมีฐานะ และคนในครอบครัวล้วนเป็นคนมีอิทธิพล เกี่ยวข้องกันกับพวกมีสี ไม่อย่างนั้นแล้วจะหายาเสพย์ติดมาในปริมาณมาก ๆ แบบนั้นได้จากที่ไหน แถมทุกเรื่องที่มันเคยก่อกันเอาไว้ ตัวมันและเพื่อนพ้องก็ลอยตัวรอดไปได้ทุกครั้ง
แต่หนนี้ไม่เหมือนที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องยาหรือหรอกพาเด็กสาวมาคร่าสวาท แต่เป็นคดีฆาตกรรมโหดสะเทือนขวัญ ไม่มีใครสาวมาถึงเขาและไอ้โจ๊ก ใครเล่าจะคิดว่าศพเละ ๆ ที่เหมือนกับถูกเทออกมาจากเครื่องบดเหล่านั้น จะเป็นฝีมือของไอ้สัตว์ประหลาดมีปีก
“โจ๊ก.....มึงต้องช่วยกูนะ....เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”
ต้นกล้าวิ่งกระหืดกลับหอบกลับไปยังบ้านของลูกเต๋า ตรงดิ่งไปยังห้องใต้ดิน แต่ภาพที่เห็นตรงหน้ากลับทำเอาตัวของเขาแข็งทื่อและสั่นสะท้าน ไอ้โจ๊กนั้นกำลังเหยียดกายยืนขึ้นเต็มความสูงและกางปีกของมันออกจนสุด ดวงตาออดอ้อนของมันบัดนี้กลับดูน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก มันจ้องมองเขา ในมือของมันกำแขนของซากศพหญิงสาวที่ปราศจากหัว กลิ่นเน่าเหม็นตลบคลุ้งไปทั่ว ที่พอมองรู้ว่าเป็นผู้หญิงนั้น เขาดูเอาจากเสื้อผ้าของศพที่สวมใส่อยู่
มันไปจับผู้หญิงคนนี้มาจากไหน ต้นกล้าพยายามคิดหาคำตอบ เขากับลูกเต๋าขังมันเอาไว้ ตอนที่ออกไปเรียน แล้ว......
ประตูที่เปิดออกไปสู่ทางระบายน้ำที่ลูกเต๋าเคยบอก เปิดออกกว้าง เป็นไปได้หรือ ที่มันจะออกไปฆ่าใคร....ในเมื่อขนาดตัวของมันในตอนนี้ ไม่สามารถผ่านช่องประตูไปได้แน่ ๆ
ไม่ทันได้คิดหาคำอธิบายอื่นที่ตามมาอีก ไอ้สัตว์ประหลาดกระโจนขึ้นเพียงครั้งเดียวก็ประชิดถึงตัวเขา ร่างของเด็กหนุ่มล้มตัวลงนอนราบไปกับบันไดห้องใต้ดิน ต้นกล้าได้แต่จ้องมองไอ้โจ๊กที่แปรเปลี่ยนไปด้วยความหวาดกลัว
ไม่มีเสียงพูด
ไม่มีคำออดอ้อนตัดพ้อ
มีเพียงลมหายใจที่อบอวลไปด้วยกลิ่นคาวเน่าของซากศพ มันหายใจรดเขาและขู่คำรามอย่างโหดร้าย
“แฮ่”
“อ่ะ....ไอ้โจ๊ก....นี่กูเอง กูไง.....ต้นกล้า....ที่รักของมึงไง”
“ที่....รัก.....” มันทวนคำของเขา ก่อนจะคำรามออกมาสุดเสียง เด็กหนุ่มรู้สึกหวาดกลัวจนแทบหยุดหายใจก็คราวนี้ เมื่อนึกถึงความตายที่กำลังจะมาเยือน
“ไม่...มี....ไม่...มี....ที่รัก.....อีกแล้ว”
ไอ้โจ๊กเหวี่ยงร่างของต้นกล้าลงไปกองบนพื้นห้องใต้ดิน เด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่าง มันกระโดดขึ้นมาคร่อมร่างของเขา กรงเล็บของมันฉีกกระชากเสื้อผ้าของผู้เป็นนายออกจนเกือบจะเปลือยเปล่า
“ยะ....อย่า....ไอ้โจ๊ก”
ลิ้นสาก ๆของมันเลียไปทั่วร่างของเขาจนชุ่ม มันจ้องมองเขา....ไม่ใช่สายตาของผู้ล่าที่จ้องมองอาหาร ต้นกล้าคุ้นชินกับสายตาแบบนั้นดี
สายตาของไอ้ชดที่จ้องมองเด็กชายตัวน้อย
กลัวเหลือเกิน
นี่มันไม่ใช่ไอ้โจ๊กที่เขารู้จัก
ไม่มีอีกแล้ว
กรงเล็บของมันตะครุบข้อมือของเขาเอาไว้ เด็กหนุ่มสิ้นไร้เรี่ยวแรง ปล่อยให้มันสูดดมร่างกายของเขาอยู่อย่างนั้น มันเป็นตัวผู้ และโตเต็มที่แล้ว สิ่งที่มันต้องการ นั่นก็คือการผสมพันธุ์
ทว่าเขาไม่ใช่สัตว์ประหลาดแบบมัน
เขาไม่ใช่เพศเมียเสียด้วยซ้ำไป
แล้วทำไมมันถึงได้.....
“ไป.....ไปปปปปป......ออออกกกกกกไปปปปปป”มันกุมหัวอย่างเจ็บปวด และปล่อยเขาเป็นอิสระในที่สุด ไอ้โจ๊กขดตัวเป็นก้อนกลมขนาดใหญ่ยักษ์ ท่าทางของมันในตอนนี้เหมือนกำลังอดกลั้นอย่างสุดความสามารถ
“โจ๊ก.....โจ๊กกกก....รักกก....รักกก....กรรรร์”
สุดท้ายแล้วมันเป็นฝ่ายจากไป ต้นกล้าได้แต่นั่งกอดตัวเองอย่างหวาดกลัวสุดชีวิต ไม่มีสติแม้แต่จะคิดหนี นานที่เดียวกว่าเขาจะรู้สึกว่าไอ้โจ๊กไปจากห้องนี้แล้ว เด็กหนุ่มไม่ได้ยินแม้แต่เสียงโครมคราม และเสียงกระจกแตก เขานั่งอยู่อย่างนั้นทั้งคืน และไม่มีใครสักคนที่โผล่มาช่วยเขา
“ฮะฮะฮะ....ต้องช่วยเต๋า....ช่วยเต๋า......ช่วยคนเดียวก็ได้....ฮะฮะ....”
กว่าสติจะกลับคืนมาได้ เด็กหนุ่มกลับรู้สึกว่าตัวเองโชคดี ที่ไม่มีใครโผล่เข้ามาช่วย ต้นกล้าจ้องมองศพของหญิงสาวผู้เคราะห์ร้ายฝีมือของไอ้โจ๊ก และมองไปยังทางระบายน้ำที่อยู่ติดกันกับห้องนี้
อันดับแรกเขาต้องซ่อนศพก่อนสินะ.
.
.
.
.
To be con
อีก 9 วัน
(คำผิดเอาไว้มาสกรีนดูทีหลังนะคะ เหนื่อยมว๊ากกก ขอไปปั่นอีกเรื่องก่อนเน้อ)
.............................
และขอฝาก
ข้างบ้านของจ่อยมีปิศาจอาศัยอยู่
แนวเด็กน้อยจิตป่วน ครอบครัวหรรษาเด้อค่า
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=44423.0