♥ หัวหน้าแก๊งค์ - เหตุเกิดจากความเข้าใจผิด จบแล้วค่ะ หน้า 5 (20.04.58)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥ หัวหน้าแก๊งค์ - เหตุเกิดจากความเข้าใจผิด จบแล้วค่ะ หน้า 5 (20.04.58)  (อ่าน 88307 ครั้ง)

ออฟไลน์ ennewiis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม


*****************************************************************************************

นิยายทั้งหมด
หัวหน้าแก๊งค์
จำแลงรัก


คำแนะนำ
อ่านตามที่เรียงไว้ให้บนสารบัญ จะสามารถเรียงไทม์ไลน์ได้ดีกว่านะคะ เนื่องจากผู้แต่งคิดอะไรก็แต่ง ไทม์ไลน์เลยอาจจะชวนงง ขออภัยมา ณ โอกาสนี้ค่ะ



♥ หัวหน้าแก๊งค์ (ก่อนจะรัก)
ตอนที่ 1 เริ่มต้นความสัมพันธ์
ตอนที่ 2 พี่น้องและผองเพื่อน
ตอนที่ 3 เรื่องราวดี ๆ
ตอนที่ 4 กระดึ้บ กระดึ้บ
ตอนที่ 5 ติวสอบ
ตอนที่ 6 อันตราย
ตอนที่ 7 สิ่งสวยงาม
ตอนที่ 8 โซ่ทองคล้องใจ
ตอนที่ 9 วุ่นวาย (ครึ่งแรก)
ตอนที่ 10 วุ่นวาย (ครึ่งหลัง)
ตอนที่ 11 เอาคืน
ตอนที่ 12 สุดปลายความฝัน (ตอนจบ)
ตอนพิเศษ สานสัมพันธ์ครั้งใหม่
ตอนพิเศษ เพื่อนสนิท
ตอนพิเศษ ลมหนาว
ตอนพิเศษ วันว่าง
ตอนพิเศษ อมยิ้ม VS น่ารัก


♥ หัวหน้าแก๊งค์ (เมื่อได้รัก)
ตอนที่ 1 น้องของหัวหน้า
ตอนที่ 2 ชื่อเล่นของหัวหน้า
ตอนที่ 3 วิธีตามใจของหัวหน้า
ตอนที่ 4 วันหยุดของหัวหน้า
ตอนที่ 5 ผู้ช่วยของหัวหน้า
ตอนที่ 6 ครอบครัวของน้องกับหัวหน้า
ตอนที่ 7 (คู่)เพื่อนของหัวหน้า
ตอนที่ 8 ความสุขของหัวหน้า
ตอนพิเศษ เหตุเกิดจากความเข้าใจผิด
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-09-2015 23:03:29 โดย ennewiis »

ออฟไลน์ ennewiis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
หัวหน้าแก๊งค์
ตอน น้องของหัวหน้า

เสียงของหนักกระทบของหนักดังสะท้อนไปทั่วห้อง หยาดเลือดไหลอาบใบหน้าของผู้ที่ถูกกำปั้นหลุ่นๆกระแทกเข้าที่หน้า คาดว่าคิ้วคงจะแตกไปแล้ว แต่บาดแผลคงยังไม่หนักพอ ผู้กระทำถึงได้เหวี่ยงขาไปอัดหน้าท้องหนักๆอีกหนึ่งที

"ไอ้รูท หยุด"

คนที่ยืนกอดอกอยู่มุมห้องเอ่ยเสียงนิ่ง ตมคมกริบจ้องมองร่างที่นอนคุดคู้อย่างทรมาน ไม่มีคำว่าเมตตา ไม่มีความปราณี เพราะเคยพูดแล้ว เตือนแล้วมันดันไม่ฟังเอง

"กูเคยเตือนมึงแล้วใช่มั้ย"

กล่าวทั้งใบหน้านิ่งใส่คนที่นอนขดอยู่ ร่างที่โดนรุมสกรัมจนถึงเมื่อครู่ถ่มเลือดออกปากจากก่อนเหลือบตามองด้วยความอาฆาต

"ทำไมกูต้องเชื่อคนอย่างมึงด้วย เหี้ยก็เหี้ยเหมือนกัน นึกอยากเป็นคนดีขึ้นมาหรือไง"

"ปากดีนักนะมึง! หาเรื่องซวยมาให้พวกกูแล้วยังพูดจากวนส้นตีน ถึงจะเหี้ยแต่พวกกูก็ไม่ขายยาให้เด็กนะเว้ย!"

เป็นรูท หนุ่มร่างเล็กเลือดร้อนที่อดรนทนไม่ได้ต้องออกมาเถียงแทนเพื่อนสนิทควบตำแหน่งหัวหน้า กล้ามากที่เอายามาขายให้ลูกน้องกับคนเด็กในถิ่นทั้งที่ไอ้กิวมันก็บอกแล้วว่ามันขอเรื่องยาเรื่องเดียว แล้วยังจะมาปากดี แบบนี้มันน่าจับหมกถังถีบลงทะเลจริงๆ

แรงกดดันในห้องเพิ่มสูงขึ้นเมื่อรูทกระหน่ำฝ่าเท้าลงไม่ยั้งแบบที่คนร่างใหญ่ที่ยืนข้างกันยังรั้งไว้ไม่ทัน ส่วนคนที่มีอำนาจห้ามก็เลือกจะไม่ห้าม คนที่พูดด้วยปากแล้วไม่เข้าหัวบางทีก็ต้องใช้แรงอัดมันให้เข้า

ครืดดด ครืดดด

แรงสั่นของโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุดที่วางอยู่บริเวณโต๊ะตรงมุมห้องส่งผลให้เกิดเสียงซ้อนกับกำปั้นที่อัดกระแทกเข้าใบหน้า

"รูท เงียบก่อนน้องโทรมา"

หันไปบอกอีกด้านให้เงียบเมื่อเห็นว่าชื่อบนหน้าจอเป็นใคร แค่คนนี้เท่านั้นที่จะให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง

"ครับ พายว่าไง"

กรอกเสียงไปตามสายแทรกเสียงเพลงที่ดังลอดมาจากอีกฝั่ง จำได้ว่าวันนี้น้องบอกจะไปดูหนังกับเพื่อน  สงสัยคงจะดูเสร็จแล้ว

"ฮัลโหลๆ พี่กิวว่างมั้ย มารับพายหน่อยได้มั้ยครับ พายซื้อของมาเยอะเลย ขึ้นรถเมล์ไม่ไหวแน่ๆแท๊กซี่ก็แพง ตั้งใจจะให้พี่พัพมารับแต่พี่พัพแม่งก็ไม่รับโทรศัพท์ ไปติดสาวที่ไหนก็ไม่รู้"

เสียงบ่นงุ้งงิ้งของน้องทำเอาคนหน้านิ่งต้องกระตุกยิ้มที่มุมปาก รู้สึกผิดเล็กๆที่ลากพี่ชายน้องมาร่วมปฏิบัติการในวันนี้ด้วย ทำน้องลำบากต้องใช้นิ้วเรียวกดโทรศัพท์หลายต่อหลอยรอบ

"พัพอยู่กับพี่ ขอโทษครับที่ไม่ได้บอกก่อน"

"อ๋อออ แสดงว่าวันนี้มีแสดงโชว์ยำรุมตีนของพี่รูทแหงเลย งั้นพี่กิวให้พี่พัพมารับพายได้มั้ยครับ พี่กิวจะได้ไม่ต้องลำบากขับมาเอง"

น่ารักรู้ใจยันเรื่องแย่ๆของแฟนตัวเอง ชื่อยำประหลาดนั่นก็คงได้มาจากรูทที่ไปเล่าต่อนั่นแหละ เห็นสนิทกันเหลือเกิน กิวหัวเราะเบาๆ ชอบใจคำพูดของคนปลายสาย

"เดี๋ยวคุยกับพัพแล้วกันครับว่าจะเอายังไง... พัพ"

ว่าแล้วก็เรียกร่างสูงที่กำลังรั้งตัวรูทไว้ด้วยสองแขน ไม่รั้งไว้มีหวังคนตัวเล็กต้องปรี่เข้าไปถีบคนที่นอนปางตายแต่ยังปากดีอยู่บนพื้นต่อเป็นแน่ พัพพยักหน้าให้เพื่อนร่วมแก๊งค์อีกคนที่ยื่นใกล้ๆมาคอยดูรูทไว้แล้วจึงเดินมารับโทรศัพท์ไปคุยต่อ

"ว่าไงพาย โทษทีพี่ไม่ได้ยินปิดเสียงไว้ อ้าว... กวนตีนยันพี่เลยนะตัวเล็ก ใครเขาจะไปเหมือนแฟนคุณล่ะครับ ไม่ไปรับละ ให้เฮียไปแล้วกัน... โอเค แล้วเจอกัน"

ดูเหมือนจะตกลงกันได้แล้ว พัพจึงยื่นโทรศัพท์คืนให้แล้วกลับประจำตำแหน่งของตน คอยห้ามมวยยกใหม่ที่จะเกิดขึ้นหลังเฮียออกไปรับน้องชายตัวเอง

“รูท อย่าให้มันถึงตาย ซ้ำอีกสักทีสองทีแล้วปล่อยมันกลับไป เดี๋ยวพ่อมันก็มาเก็บไปเอง”

กิวคว้ากุญแจรถยนต์คันโปรดของตนก่อนหันไปสั่งมือขวาคนสนิทพร้อมพยักหน้าให้พัพเป็นการส่งสัญญาณว่าฝากดูแลต่อเพราะตนจะไปทำภารกิจที่ยิ่งใหญ่กว่าการมากระทืบเศษสวะสังคมคนนึง ภารกิจรับน้องพาย น้องชายคนเล็กของไอ้พัพ ที่ตอนนี้มีศักดิ์เป็นหวานใจคนสำคัญของหัวหน้าแก๊งค์อย่างกิวด้วย

มือแกร่งเสียบกุญแจเข้าช่อง สตาร์ทรถพลางคิดถึงเส้นทางที่เร็วที่สุดที่จะไปรับคนตัวเล็กที่บ่นว่าเจ้าตัวถือของเยอะจนไม่สามารถขึ้นรถโดยสารประจำทางมาได้ ถ้าพูดแบบนั้นแสดงว่าของต้องเยอะจริงเพราะปกติน้องจะขี้เกรงใจฃนาดกับพี่ชายตัวเองยังนานๆที่ถึงโทรมาเรียกให้ไปรับ เรื่องแท๊กซี่ยิ่งแล้วใหญ่ เด็กคนนี้ไม่มีทางขึ้นหรอก

“มันแพงตั้งแต่ก้าวขึ้นแล้วอ่ะพี่กิว แถมชอบพาอ้อมโลกอ้างว่าทางนี้ใกล้กว่าทั้งบ้านทั้งอู่ อู่แม่งคงอยู่ดาวอังคาร”

คิดถึงคำพูดที่ไม่เหมาะกับหน้าตาแล้วก็ต้องขำ ยอมรับว่าตั้งแต่มีน้องเข้ามาในชีวิตเขายิ้มมากขึ้น มีความคิดมากขึ้น คนที่เคยทำตัวเหลวแหลก กระทั่งไม่ยอมไปเรียน เอาเวลาไปไล่ส่งยา จนถึงขนาดตั้งแก๊งค์ดักทำร้ายคู่อริ มันเปลี่ยนไป ยอมกลับไปเข้าเรียนใหม่ มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบตัว ขนาดพ่อแม่ยังดีใจที่เขากลับไปเรียนสายวิศวะอย่างที่พวกท่านอยากให้เรียน ดีใจที่เขาเอาเวลาให้ครอบครัวกลับไปช่วยงานที่บ้านแทนทำเป็นเหมือนแต่ก่อน ครอบครัวที่อบอุ่น จะมีก็แค่บางครั้งอย่างวันนี้ที่ต้องรวมตัวกันกำจัดเนื้อร้ายในกลุ่มทิ้ง

แม้ตอนนี้จะยังมีแก๊งค์มีสมัครพรรคพวกล้อมกายก็ไม่ได้ทำเรื่องแย่ๆแบบเดิม แค่คอยดูแลพื้นที่ของตนเอง จากที่ขายยาก็เป็นสายสืบหาต้นตอให้มันหมดไปจากถิ่นของตน

ตอนแรกก็ตั้งใจว่าจะยุบแก๊งค์ ไม่ทำอีกแล้วเพราะไม่อยากให้น้องมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องแย่ๆแบบนี้ไปด้วย แต่ถ้ายุบไปคนที่มันยังกลับขึ้นมาเป็นปกติไม่ได้ก็ไม่มีที่พึ่ง ปรึกษากับพัพกับรูทที่เป็นเพื่อนสนิทแล้วสุดท้ายก็ต้องรวมแก๊งค์ต่อไป เพียงแค่เปลี่ยนเป้าหมายใหม่เท่านั้น

“พายครับ พี่มาถึงหน้าห้างแล้ว เราออกมารอพี่ที่เดิมได้เลย”

กิวหักเลี้ยวพวงมาลัยรถยนต์คันโปรดเข้าห้าง รถคันนี้เป็นคันแรกที่ตนตั้งหน้าตั้งตาทำงานกับทางบ้านเพื่อเก็บเงินซื้อ ความจริงเขามีนินจา มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันโปรดที่พ่อซื้อให้อยู่แล้ว แต่เวลาน้องนั่งแต่ละทีดูจะตกได้ทุกเมื่อเขาเลยตัดสินใจเปลี่ยนรถคันใหม่เพื่อให้น้องนั่งได้สบายขึ้น

ควันสีหม่นลอยจากปลายบุหรี่สีส้มเพียงไม่นานก็ถูกดับลงเมื่อตาคมเห็นว่าคนที่กำลังรออยู่เดินตรงมาที่รถแล้ว น้องเดินถือของพะรุงพะรัง เยอะอย่างที่ว่าไว้จริงๆเสียด้วย ของจำนวนมากทั้งสองมือยิ่งทำให้ร่างเล็กๆไม่สมวัยและเพศของน้องดูเล็กลงกว่าเดิมอีก จะว่าไปก็รู้จักกับน้องได้เกือบห้าปี คบกันมาแล้วเกือบปี น้องไม่เคยเปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อยขนาดพัพยังล้อน้องตัวเองว่าไม่เปลี่ยนกระทั่งความสูงด้วยเลยมั้ง

“หนักมากอ่ะ พี่กิวก็ใจร้าย ไม่มีลงไปช่วยน้องช่วยนุ่งเลย” ขึ้นรถมาก็บ่นปอดแปดพาลไปถึงคนที่อุตส่าห์มารับ

“เพราะเป็นน้องไงเลยไม่ช่วย ถ้าบ่นว่าไม่ลงไปช่วยแฟนเลยคราวหลังถึงจะช่วย”

“อ้าว ไรอะ... ตัวเป็นแฟนตัวก็ต้องรู้หน้าที่สิไม่ใช่ให้พายบอก”

น้องหันมามุ่ยหน้าใส่ บอกกี่ทีก็ไม่เชื่อเลยว่าการเอาหน้าขาวๆ ปากแดงๆ และพยายามเบิกตาที่มันโตอยู่แล้วให้โตขึ้นอีกมันไม่ได้ดูน่ากลัว กลับเหมือนลูกแมวที่พยายามขู่สุนับหมาป่าเสียมากกว่า ถึงน้องจะไม่ได้หน้าหวานจ๋าจนคนทั่วไปเข้าใจผิดว่าเป็นผู้หญิง นิสัยก็ห้าวสมกับเป็นเด็กผู้ชาย แต่เพราะธรรมชาติของน้องมันน่ารักในตัวเอง ให้ทำหน้าน่ากลัวยังไงคนหน้าเถื่อนแต่เกิดอย่างกิวก็ไม่สะดุ้งสะเทือนนักหรอก

ฝ่ามือใหญ่ยีหัวน้องแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว แล้วใช้นิ้วโป้งเกี่ยวเส้นผมที่เจ้าตัวไปย้อมมาซะเป็นสีแดงสตอเบอรี่ให้เข้าที่ ใบหน้าน้องที่ชื้นเหงื่อน้อยๆทำให้กิวรู้สึกผิดที่ไม่ยอมไม่ไปช่วยน้องแบกของขึ้นรถเพราะอารมณ์อยากแกล้งแท้ๆ และดูเหมือนน้องจะเข้าใจจากการสัมผัสเจ้าตัวจึงส่ายหน้าไปมาแล้วแจกยิ้มโชว์เขาเสียอย่างนั้น

“พายเป็นผู้ชายนะพี่กิวของแค่นี้พายถือได้ พายแค่ล้อเล่นเฉยๆ อย่ามาทำหน้าตาเหมือนบับเบิ้ลบีตอนไม่ได้ขนมสิ”

แซวแฟนยังพาดพิงไปถึงสุนัขพันธุ์โกเด้นตัวโปรดที่กิวเลี้ยงไว้ที่บ้าน ชื่อที่ตั้งให้เหมือนรถสีเหลืองในหนังฟอร์มยักษ์มาจากความชอบของน้องล้วนๆ เจ้าตัวบอกว่าออพติมัทอะไรสักอย่างนี่หล่อเหมือนกิว ลูกน้องใต้อาณัติอย่างโกเด้นที่เลี้ยงก็ต้องเป็นบับเบิ้ลบี เหมือนว่าวันนี้จะไปดูตอนใหม่ที่มันเข้าโรงด้วยล่ะมั้ง



จะว่าไปหน้ากูไปเหมือนยางรถตอนไหนของออพติมัสวะ



“แล้วซื้ออะไรมาตั้งเยอะแยะ เสื้อผ้าที่ซื้อมาครั้งก่อนยังใส่ไม่หมดเลย พี่ให้เงินไปนี่ก็คงไม่พอมั้ง?”

ปกติกิวจะให้เงินน้องใช้เป็นอาทิตย์ ถ้าไม่พอก็ให้น้องมาขอเพิ่มแล้วแต่ความต้องการ แต่ปกติน้องไม่เคยขอเพิ่ม กลับจะไม่เอาเงินกิวเสียด้วยซ้ำ เพราะบ้านน้องก็มีเงินไม่ได้ขัดสนเรียกได้ว่ารวยพอๆกับบ้านกิวด้วยซ้ำ ที่สำคัญน้องไม่อยากให้ใครมาบอกว่าตัวเกาะแฟนกิน

กลับกันกิวต่างหากที่อยากให้ อยากให้น้องสบาย อยากให้น้องหัดใช้เงินเป็น หัดแบ่งสรรปันส่วนจากที่มีกับที่กิวให้ ซึ่งน้องก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เอาเงินตัวเองเข้าบัญชีเสียหมดแล้วเอาเงินที่กิวให้มาใช้แทน

"พอๆ ที่พี่กิวให้พายเอามาใช้ครึ่งเดียวเอง แล้วนี่ก็เสื้อแค่ตัวเดียวนะ นอกนั้นของทำรายงานล้วนๆ เออๆ พายบ่นหน่อยดิ คือพายเรียนออกแบบเครื่องประดับใช่ป่ะแต่อาจารย์ดันสั่งให้ออกแบบบ้านมาส่งเว้ย คืออาจารย์งงป่ะว่าคลาสพายไม่ได้จำเป็นต้องฝึกออกแบบบ้านเหมือนบางคลาสของพี่กิว"

ตุ๊กตาหน้ารถบนเจื้อยแจ้วขณะที่กิวเริ่มออกรถกลับบ้าน เขากับน้องเรียนมหาลัยเดียวกันเพียงแต่คนละคณะและชั้นปี เด็กแฟชั่นจ๋าเข้าเรียนสายออกแบบเครื่องประดับหวังออกแบบแบรนด์ของตัวเองอย่างที่ใฝ่ฝัน จนตอนนี้จะขึ้นปีสองแล้ว ส่วนกิวเลือกวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา กำลังจะขึ้นชั้นปีสี่ ชั้นปีสุดท้าย เหตุผลที่เลือกตอนนั้นเพราะแค่อยากจะสร้างบ้านของเขาและน้องก็เท่านั้น

บอกไปใครจะเชื่อว่าคนที่คะแนนสอบตกมันแทบทุกตัวไม่เว้นภาษาไทยจะมีแรงฮึ้ดเข้าคณะที่ยากติดอันดับต้นๆได้เพราะอยากสร้างบ้านในฝันให้ตนเองกับแฟน

'ไร้สาระชิบหาย แต่ถ้าเป็นน้องพายกูก็พอเข้าใจว่ะ'

รูทเคยด่าเขาไว้ รายนั้นเรียนเก่งเป็นทุนเดิมไม่มีปัญหาอะไรที่จะเข้าคณะระดับต้นๆแบบนี้ ส่วนพัพพี่ชายคนเดียวของพายก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ อยากเข้าก็เข้าได้เลย ส่วนกิว ความจริงไม่ใช่หัวไม่ดี แต่เกมากไปจนคะแนนมันตกลงเรื่อยๆ พอมาฮึ้ดแล้วได้เพื่อนทั้งคู่ช่วยก็เข้าได้ไม่ยาก

"ให้พี่ช่วยมั้ยล่ะ แลกกับรางวัลเหมือนเดิม"

"พายต้องเปลืองตัวอีกดิ ไม่เอาอ่ะให้พี่พัพช่วยดีกว่า แลกกับรูปถ่ายพี่รูท ง่ายๆไม่เปลืองตัว"

แต่เอาเรื่องซวยให้รูทที่ไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทมันกำลังคิดไม่ซื่อเนี่ยนะ น่ารักมากแฟนกู

"จะบอกไอ้รูท จะได้ตัดทางเลือก"

"อ้าว... กวนตีนเหรอพี่กิว นี่มันหลอกลวนลามแฟนชัดๆ พายจะฟ้องม๊า"

ม๊าที่น้องหมายถึงคือคุณนายประจำบ้านกิวที่ทั้งรักทั้งเอ็นดูน้องอย่างกับอะไรดี ปกติน้องว่าไงม๊ากิวก็แทบจะว่าตามน้องอยู่แล้ว เรียกได้ว่ารักแทบจะลืมว่าใครกันแน่ที่เป็นลูกจริงๆของบ้าน แต่น้องคงจะลืมว่าม๊าที่น้องพูดถึงก็คือม๊ากิว ฟ้องไปม๊าก็จะแค่เอ็ดว่ากิวแกล้งน้องผลสุดท้ายกิวก็ได้รางวัลเหมือนเดิม

"ก็ให้เลือกนี่ไง ให้พี่ช่วยทำดีๆหรือจะโดนมะเหงกจากพัพแล้วมาให้พี่ช่วยทำทีหลัง"

พายมองหน้าด้านข้างของสารถีรูปหล่อ พูดจาเหมือนตัวเองใจดีเห็นใจน้องทั้งที่จริงก็หวังจะเอารางวัลจากน้องแท้ๆแล้วพี่กิวจะพูดทำไมเนี่ย

พายนั่งขบริมฝีปาก ครุ่นคิดถึงงานที่จะต้องทำให้เสร็จกับความเหมาะสมของรางวัล เทียบกับความเสี่ยงที่จะไปขอให้พี่ชายแท้ๆของตนช่วยกับความลับของพี่ที่อุตส่าห์ปกปิดมานานพอตัว สุดท้ายเจ้าตัวก็ช่างใจหันไปใช้นิ้วที่สวมแหวนวงโตคู่กับใครอีกคนสะกิดแขนเบาๆเรียกความสนใจ

“ครับ?”    

กิวตอบรับแต่สายตายังคงมองอยู่กับถนนเบื้องหน้า แต่หางตาสามารถเห็นว่าน้องขยับสายเข็มขัดเล็กน้อยแล้วค่อยๆเยื้อนตัวมาใกล้ ไม่นานนักลมหายใจอุ่นๆก็กระทบข้างแก้มตามมาด้วยริมฝีปากนุ่มนิ่มที่กดลงมาเสียฟอดใหญ่ ปลายจมูกโด่งของน้องถูไถไปมาก่อนเจ้าตัวจะเขยิบกลับไปนั่งที่ตามเดิม ทำเนียนเป็นมองนอกน้าต่างไม่สนใจว่าเมื่อครู่ตนทำอะไรลงไป

“ให้รางวัลแล้วช่วยพายทำงานให้เสร็จด้วย ไม่งั้นมีเรื่องแน่”

ข่มขู่ได้สมกับเป็นตัวเล็กของไอ้พัพ น้องพายของไอ้รูท และคนครองตำแหน่งแฟนของไอ้กิว หัวหน้าแก๊งค์ประจำถิ่นมาก

“ยังจะยิ้มอีก พี่กิวหาเรื่องพายใช่มั้ย กลับไปเจอดีแน่”

ครับๆ เจอดีครับ กลัวมากเลยครับคนที่นั่งทำหน้าแดงอมชมพูตามสีผมที่ไปย้อมมาเนี่ย ยังอีก ยังจะเหลือบมาค้อนแล้วรีบหันหนีอีก เอาเลยครับทำตัวน่ารักเสียให้พอ


สำหรับน้องคนนี้หัวหน้าแก๊งค์ยอมจริงๆ   


จบตอน น้องของหัวหน้า


--------------------------------------------------------------------------------------------


นิยายลงเล้าเรื่องแรก กระทู้แรกในชีวิตเลยค่ะ ตื่นเต้นมากนะเนี่ย (≧◇≦)

ยังเป็นน้องใหม่ในเล้านี้ที่ติดตามมาสักพักจนติดใจอยากจะลงเรื่องของตัวเองบ้างค่ะ อยากจะลองแต่งอะไรที่มันเป็นออริ ไม่อิงฟิค ไม่อิงการ์ตูนเรื่องไหนมานานแล้ว เลยออกมาเป็นเรื่องสั้นครั้งละตอนอย่าง “หัวหน้าแก๊งค์” นี่ล่ะค่ะ เนื้อเรื่องมันมาในหัวเอง ทุกอย่างแว้บมาเอง แต่เราจะทำให้พวกเขามีชีวิตและโล้ดแล้นไปเรื่อยๆค่ะ

ขอบพระคุณที่อ่านจนถึงประโยคนี้นะคะ ขอฝากตัวด้วยค่ะ ♪(>ω<o)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2015 13:40:20 โดย ennewiis »

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
 :L2: มารอเรื่องใหม่ค่ะ

ออฟไลน์ ennewiis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
หัวหน้าแก๊งค์
ตอน ชื่อเล่นของหัวหน้า


ไม่ว่าใครบนโลกนี้ต่างก็มีชื่อจริงและชื่อเล่น บางคนอาจจะมีมากกว่าสองชื่อที่ว่ามา อาจจะมีทั้งฉายา นามปากกา ชื่อกลาง ชื่อสมัยเด็กก็ว่ากันไป

แม้กระทั่งนาย กวินท์ อัครเดชไพศาลสกุล หรือนาย กิว คนนี้ก็มีทั้งชื่อจริงชื่อเล่นไม่ต่างกับชาวบ้านเค้าเหมือนกัน เพียงแต่วิธีเรียกแต่ลัคนจะไม่เหมือนกันก็เท่านั้น


ป๊ากับม๊าเรียกกิวว่าตี๋ใหญ่ เพราะเป็นลูกชายคนโตและเป็นลูกคนเดียวของบ้าน ป๊ากับม๊าเคยคิดอยากจะมีน้องให้กิว แต่พอเจอนิสัยตามประสาเด็กแล้วคงรู้สึกว่าเลี้ยงไม่ไหวเลยเลือกไม่มีซะเลย

เพื่อนเรียกกิวว่า กิว ไอ้กิว หัวหน้าแก๊งค์ พาลไปจนถึง เหี้ยกิว ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะเด็กวิศวะมันก็มาแนวนี้กันอยู่แล้ว

เด็กในแก๊งค์ที่มาช่วยทำงาน ทั้งธุรกิจของที่บ้านและนอกบ้านมักจะเรียกกิวว่า เฮียกิว

ส่วนน้องจะเรียกกิวว่า พี่กิว เรียกมาเสมอตั้งแต่ยังไม่คบกัน จนตอนเริ่มจีบ คบกัน จนมาถึงตอนนี้น้องก็ยังเรียกพี่กิว


แต่ตอนนี้ของตอนนี้ที่คุยกันอยู่ตอนนี้รู้สึกว่ามันจะเปลี่ยนไป


"ป๊า ป๊าอยู่กับพี่พัพมั้ย ให้พี่พัพมาคุยกับพายหน่อยสิครับ"

ตอนได้ยินครั้งแรกกิวนึกว่าน้องโทรผิด แต่มานึกขึ้นได้ว่าป๊าแท้ๆของพายเสียไปตั้งแต่พายยังเด็กด้วยโรคร้าย ทิ้งไว้เพียงมรดกจำนวนมหาศาลกับธุรกิจที่รอให้สองพี่น้องมาดูแลต่อ ตอนนี้ที่บ้านจึงมีแค่คุณแม่ พัพและพายเพียงสามคนเท่านั้น แล้วป๊าที่ว่านี่มันใครล่ะ หรือว่า...



กูเหรอ?



"ป๊า ป๊าฟังพายอยู่มั้ย ป๊ากิว~"

ไม่ต้องเอ่ยถามน้องก็ตอบให้เสร็จสรรพ กิวพยักหน้าให้คนในสายอย่างลืมตัวว่าน้องคงไม่เห็น แม้หน้าจะยังคงนิ่ง ดิบ เถื่อนเป็นปกติแต่ตอนที่ส่งเครื่องมือสื่อสารให้พัพที่นั่งอยู่ข้างๆสตินี่หลุดลอยออกจากร่างไปแล้ว

".......... กิว ไหวป่ะวะ หน้ามึงเหมือนผู้หญิงปวดท้องเมนส์มากอ่ะ"

รูทที่นั่งมองท่าทางของเพื่อนสนิทอยู่นานเอ่ยทัก อะไรของมัน ทำหน้าอย่างกับจะแยกเขี้ยวสลับกับนั่งหน้าตึง จากที่หน้าตาไม่รับแจกอยู่แล้วยิ่งเหมือนจะวิ่งไปกัดหัวคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแถวตึกเรียนได้ น้องไปพูดอะไรใส่มันล่ะเนี่ย

"มันคงไม่ไหวหรอก ตัวเล็กคงเล่นมันซะเครื่องแฮงค์เลย"

พัพว่าพลางยัดมือถือเข้ากระเป๋าเสื้อช้อปสีเข้มของเพื่อนสนิทที่ตอนนี้สติคงหลุดไปนอกอวกาศแล้ว แล้วย้ายตัวเองมานั่งข้างรูท เท้าแขนไว้ที่บ่าในขณะที่อีกคนกำลังโบกมือไปมาเรียกสติให้กิว

มองเพื่อนแล้วก็นึกขำ ตัวเล็กนี่มันร้ายจริงๆ ทำเอาคนที่เขาจำได้ว่าตั้งแต่รู้จักกันยันมาเป็นเพื่อนสนิทจนถึงตอนนี้มันไม่เคยเปลี่ยนสีหน้ามากกว่าหนึ่งหน้าให้กลายมาเป็นคนยิ้มได้ เปลี่ยนสีหน้าได้ถึงขนาดนี้ แล้วนี่มันกำลังทำหน้าอะไรวะ เขิน?



เขินได้หน้าเหมือนบลูด็อกมากเพื่อนกู



"น้องพายทำอะไร? บอกเลิก? คงไม่ใช่สินะ... ถ้าน้องบอกเลิกมันคงไปโดดตึกตาย หัวหน้าแก๊งค์ PUPRootQ คงสิ้นชื่อไม่ใช่นั่งแฮงค์แบบนี้"

"ช่วงนี้ตัวเล็กกับม๊าติดหนังเกาหลี ดูกันอีท่าไหนไม่รู้  รู้อีกทีนัดแนะกันว่าจะตั้งชื่อเล่นเฉพาะให้ไอ้กิว ไม่รู้ว่าชื่ออะไรหรอกนะ แต่ตัวเล็กมันชอบน่าดู"

คนตัวเล็กที่สุดในกลุ่มเลยถึงบางอ้อ ที่แท้นี่คือหน้าดีใจที่แฟนตั้งชื่อเล่นให้ ถ้าไม่ใช่เพื่อนสนิทกันจริงๆอย่างพักคงดูไม่ออกหรอกนะว่ามันเขิน ขนาดรูทที่ว่าคบมานานถึงจะไม่เท่าพัพยังนึกว่ามันอกหัก



คนเหี้ยอะไรเขินซะหน้าเบี้ยวเชียว



เพราะเสียพ่อไปด้วยโรคร้ายตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ พายจึงโตมากับคุณแม่คนสวยและพี่ชายสุดหล่ออย่างพี่พัพ แต่แม้ครอบครัวจะไม่สมบูรณ์แต่พายก็ไม่ได้เติบโตมาเป็นเด็กมีปัญหา ซ้ำยังเป็นเด็กดี เชื่อฟังทั้งแม่ทั้งพี่ชาย และตอนนี้ก็เชื่อฟังเพิ่มขึ้นมาอีกคนคือพี่กิว

ไม่สิ ตั้งแต่ตอนนี้ต้องเรียกป๊ากิว

เรียกแฟนที่อายุห่างกันแค่สองปีว่าป๊าอาจจะมีหลายๆคนคิดว่ามันแปลก แต่สำหรับพายแล้วไม่แปลกเลย เพราะพี่กิวที่พายรู้จักตั้งแต่ยังมีตำแหน่งเป็นเพื่อนสนิทของพี่ชาย ค่อยๆพัฒนามาเป็นพี่ชายที่ตามจีบ จนกระทั่งเป็นแฟนที่คบกันมาได้เกือบปี พายคิดว่าตลอดว่านอกจากพี่พัพที่ดูแลพายเหมือนพ่อแล้ว พี่กิวนี่แหละที่เป็นอีกคนที่พายคิดว่าถ้าพ่อยังอยู่พ่อก็คงดูแลพายแบบนี้

เพราะงั้นพายจึงตกลงกับแม่ว่าจะเรียกพี่กิวว่าป๊ากิวเป็นบางครั้ง และแม่ก็ตกลงแล้วด้วย

"ตัวเล็ก กลับบ้านกัน"

เงาที่ทาบทับพร้อมคำเรียกอันคุ้นเคยแม้ไม่ต้องหันไปพายก็รู้ว่าเป็นใคร พี่ชายสุดหล่อของพายนั่นเอง

'ตัวเล็ก' เป็นชื่อที่พี่พัพใช้เรียกพายตั้งแต่พายจำความได้ ทั้งที่แม่อุตส่าห์ตั้งชื่อตามของโปรดของท่านทั้งสองคนแท้ๆ ยังจะมาเปลี่ยนชื่อให้น้องอีก แถมความจริงแล้วพายก็ไม่ได้เตี้ยม่อต่อ ความสูงเกือบ 170 เซนติเมตรนั้นดูยังไงก็ไล่เลี่ยกับพี่รูท เพื่อนสนิทที่พี่ตัวเองแอบคิดไม่ซื่อด้วยซ้ำ แต่กลับไม่เคยได้ยินพี่ตัวเองเรียกคนที่ชอบว่าตัวเล็กเลย



'ก็มึงตัวเล็กกว่ากู เรียกตัวเล็กนั่นแหละดีแล้ว'



เหตุผลง่ายๆที่ตอนแรกพายก็ไม่เข้าใจเถียงกันแทบตายพี่ชายก็ยืนยันจะเรียกเขาแบบนี้ พอนานเข้าพายก็ตัดใจจะเถียงยอมให้คนมีศักดิ์เป็นพี่เรียกตามแต่ต้องการ

“วันนี้ไปเรียกอะไรไอ้กิวมัน มันแฮงค์จนเรียนไม่รู้เรื่องเลย”

คนเป็นพี่เอ่ยถามทันทีที่น้องชายปีนขึ้นมาซ้อนท้ายและจัดการสวมหมวกกันน๊อคเรียบร้อยแล้ว วันนี้วันสุดสัปดาห์และแก๊งค์เค้าก็มีนัดแข่ง จึงช่วยไม่ได้ที่จะต้องเอาบิ๊กไบค์คันโปรดที่ตั้งชื่อว่าพายอาร์มารับน้องถึงหน้าคณะ รู้แหละว่าน้องมันไม่ถูกกับบิ๊กไบค์เท่าไหร่ ก็เล่นตัวเล็กซะขนาดนี้ กว่าจะปีนขึ้นมาทีนึกว่าลูกแมวตะแง้วๆจะเอาของกิน แต่ให้ทำไงได้ ยังไงเขาก็ไม่อยากให้น้องต้องกลับไปก่อนแล้วไปนั่งหง่าวอยู่ที่บ้านคนเดียว วันนี้ม๊าก็ไปทำธุระต่างจังหวัด สู้ให้มันมากับเขาทีเดียวจะได้ไม่ต้องกังวลว่าน้องมันจะทำอะไรยังไง แถมน้องมันจะได้ไปเป็นกำลังใจให้เพื่อนสนิทด้วย

“พายเปล่านะ แค่โทรหาพี่กิวขอคุยกับพี่พัพแค่นั้นเอ๊ง!”

เสียงสูงซะกลัวไม่รู้ว่าโกหก พัพหันหน้ามองตัวเล็กแล้วเคาะหมวกกันน็อคที่น้องสวมอยู่จนเกิดเสียงป๊อกเบาๆ ส่วนเจ้าตัวแสบก็นั่งหัวเราะรอพี่ชายสตาร์ทเครื่องออก ไม่มีทีท่าว่าจะยอมบอกว่าเมื่อกลางวันทำอะไรกับเพื่อนเขาไป แต่ด้วยความที่พัพเป็นคนเงียบๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การจะให้ไปเซ้าซี้มันไม่ใช่แนวทาง ไม่รู้ตอนนี้เดี๋ยวยังไงก็ได้รู้อยู่ดี สู้อยู่เฉยๆไม่ต้องเปลืองแรงอ้าปากจะดีกว่า





การเดินทางโดยใช้รถมอเตอร์ไซค์แม้จะเป็นคันใหญ่แค่ไหนยังไงก็ไวกว่าการเดินทางด้วยรถยนต์ ยิ่งเป็นช่วงเวลากลับบ้านแถมสุดสัปดาห์เช่นนี้ยิ่งแล้วใหญ่ ลงจากรถเดินเอาจะง่ายเสียกว่า พายนั่งคิดพลางเอนหน้าซบหลังพี่ชายเพื่อกันฝุ่นควันและแรงลมที่พัดเข้ามา ด้วยความที่พัพสูงเดินกว่า 185 เซนติเมตร แม้จะนั่งก็ยังดูสูงและสามารถบดบังทุกอย่างให้น้องชายได้

หลังซิ่งบิ๊กไบค์คันใหญ่ฝ่ารถทั้งหลายมาสักพักหลังคาบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ที่คุ้นเคยก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าเป็นสัญญาณว่าพวกเขาใกล้จะถึงบ้านของหัวหน้าแก๊งค์แล้ว

มอเตอร์ไซค์และบิ๊กไบค์หลากหลายสีสันจอดอยู่ภายในบริเวณที่จอดรถของบ้าน เสียงทักทายเซ็งแซ่จากเพื่อนร่วมเป็นร่วมตายกันมานักต่อนักดังเป็นระลอกคลื่นเมื่อเห็นว่ารถของใครเข้ามาจอดในบริเวณที่เว้นว่างรอไว้ให้ คนที่ซ้อนอยู่ด้านหลังก้าวขาลงพร้อมถอดหมวกกันน็อคยื่นให้ แขนเรียวยกกอดอกสีหน้าท่าทางหาเรื่องพี่ชายตัวเองเต็มที่

“ทำไมตัวโตไม่ยอมใส่หมวกกันน็อค มันอันตราย”

ชื่อเรียกที่นานๆจะได้ยินเวลาน้องไม่พอใจถูกนำมาใช้อีกครั้ง พายเรียกพี่ชายว่า ‘ตัวโต’ เพราะเหตุผลติงต๊องที่พัพฟังแล้วต้องส่ายหน้า



‘ก็พายเป็นตัวเล็กพี่พัพก็ต้องเป็นตัวโตไง คิดเยอะไม่ดี พายเลยไม่คิดซะเลย’



ก็ไม่รู้ว่าพัพสอนน้องผิดหรือน้องมันติงต๊องของมันเองอยู่แล้ว วิธีคิดมันเลยออกมาเป็นแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้เถียงหรืออะไร ในเมื่อน้องมันมีความสุข พี่ชายที่แสนดีอย่างเขาก็ได้แต่คอยตามใจมันก็เท่านั้น

“ให้ตัวเล็กใส่ก็พอ ปิดหัวแดงๆไว้เดี๋ยวคนเข้าใจผิดว่าผีสตอเบอรี่เกาะหลัง”

“ไม่เกี่ยวเลย พายใส่ตัวโตก็เอาอีกใบมาสิ ทำไมต้องเอาของตัวเองมาให้ แล้วหัวตัวเองก็เขียวเป็นสาหร่ายทะเลไม่ต้องมาทำพูดดี”

“แล้วใครมันย้อมให้กู”

“ก็พายเนี่ยแหละ ตัวโตไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง ตัวโตแม่งดื้อว่ะ สอนไม่รู้จักจำว่ามันอันตรายให้ใส่หมวกๆ”

เสียงหัวเราะดังสนั่นแบบไม่แคร์ใครจากผู้ที่เดินเข้ามาใหม่หยุดสงครามประชันริมฝีปากของสองพี่น้องต่างไซส์ให้หันไปสนใจเจ้าตัวแทน รูทเดินกุมท้องหัวเราะมาตามทางก่อนจะมากระโดดล็อคคอยีสาหร่ายทะเลแบบที่น้องของเฮียมันบอก

"ไงล่ะมึง น้องสอนไม่รู้จักจำแบบนี้ให้กูสอนแทนมั้ยว่าขับมอเตอร์ไซค์ไม่สวมหมวกมันอันตราย"

ว่าแล้วก็หัวเราะอีกรอบ ไม่ได้รู้เลยว่าทำให้เพื่อนสนิทคิดไปไหนต่อไหน ส่วนคนเป็นน้องที่ยืนมองก็ยักคิ้วให้พี่ชายตัวเองย่างรู้ทัน

"แกล้งพี่"

กลิ่นโคโลญอันคุ้นเคยกับแรงกอดรัดบริเวณเอวทำให้รู้ว่าคนที่อยู่ด้านหลังคือใคร พายสอดนิ้วเข้ากระชับแล้วบีบมือแกร่งเบาๆ หัวเราะร่ากับคำกล่าวอ้างแล้วส่ายหัวไปมา

“พายเปล่าแกล้งนะ ก็พูดจริงนี่หน่า พี่พัพมันดื้อไม่ยอมฟังน้องฟังนุ่งเลย”

“เค้าเป็นพี่เรา เราต้องฟังเค้าไม่ใช่เหรอ?”

“พี่ทำผิดน้องเตือนพี่ก็ต้องฟังสิ ไม่งั้นป๊ากิวจะเตือนให้พายมั้ยล่ะ”

สรรพนามแปลกๆทำให้คนด้านหลังเงียบไป มือที่กระชับกันเกร็งกระตุกไปวูบนึงเรียกความสงสัยให้อีกคนต้องหันไปมอง ใบหน้าขาวใสที่ยามนี้เปื้อนคราบไคลจากฝุ่นและควันเผยรอยยิ้มกว้าง เมื่อเห็นว่าคนที่ตนอัพตำแหน่งให้มีสรรพนามเหมือนคุณพ่อทำหน้าปุเลี่ยนแบบอธิบายไม่ถูกจะยิ้มก็ไม่เชิง จะแยกเขี้ยวก็ไม่ใช่ ยิ่งมองยิ่งกลั้นยิ้มไว้ไม่ได้

“ป๊ากิวเป็นอะไร ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ? เขินอ่ะดิ?” พูดอย่างรู้ทันแถมยักคิ้วแบบที่เจ้าตัวชอบทำเวลามั่นใจในคำพูดของตนเอง ยิ่งมีเสียงโห่แซวของไอ้พวกปากบอนที่มองอยู่สีหน้าเบี้ยวๆก็เบี้ยวหนักเข้าไปอีก

“................ใครเขิน มั่วว่ะ”

เงียบไปชั่วอึดใจใหญ่ๆก่อนรู้ตัวเพราะรอยยิ้มจากไอ้คู่เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อที่น่าหมั่นไส้ซะเหลือเกิน คนในอ้อมแขนนี่ก็อีก ยิ้มน่าหมั่นเขี้ยวแบบนี้คิดจะทำให้ใจเขาเหนื่อยไม่หยุดไม่หย่อนเลยหรือไงกัน ผละมือมายีหัวสีสตอเบอรี่แรงๆจนน้องต้องร้องประท้วงเพราะทรงผมมันยุ่งเป็นรังนกไปหมด แต่กิวไม่สนใจยีมันเข้าไปอีกให้สมกับที่กล้าแซวเขาต่อหน้าเพื่อนและลูกน้อง






“วันนี้พวกพี่รูทจะไปแข่งกับใครเหรอครับ?”

ร่างโปร่งที่ตอนนี้ย้ายมานั่งกอดหมอนพร้อมทำตัวเป็นหมอนบนตักของหัวหน้าแก๊งค์เอ่ยถาม เห็นพี่ชายตัวเองนั่งปรับพายอาร์อยู่นานสองนาน คงต้องเป็นนัดสำคัญจริงๆ แล้วพี่ชายตนก็คงจะลงแข่งคนแรกๆด้วยไม่งั้นต้องรอให้พี่รูทด่านู้นถึงจะยอมไปเช็คความพร้อมให้บิ๊กไบค์สุดที่รักของตัวเอง

“พวกไอ้ดอมน่ะน้องพาย จำได้ป่ะคนที่เคยมีเรื่องจะต่อยกับไอ้พัพนั่นแหละ”

ได้ยินชื่อก็ถึงบางอ้อ ใครมันจะจำไม่ได้กับอีแค่คนที่เคยมาตามกอร่อกอติด เคยเกือบจะมีเรื่องกับพี่กิวเหมือนกันแต่แค่เจอพี่พัพยังต้องถอยกลับไปอย่างกับหมา มาเจอพี่กิวคงกลายเป็นปรสิตติดตามพื้นเลยมั้ง พายพยักหน้าหงึกหงักรับ ท่าทางเหมือนตุ๊กตาหัวดุ๊กดิ๊กที่มีคนชอบเอาไปตั้งตรงหน้าคอนโซลรถทำเอาคนที่ชอบอะไรน่ารักๆอย่างรูทอดใจไม่ไหวบีบแก้มน้องแล้วส่ายไปมาเบาๆ

“น่ารักนะเราเนี่ย ไม่แปลกใจทำไมป๊ามันทั้งรักทั้งหลง” ว่าแล้วก็ขำก๊ากเมื่อเห็นคนโดนพาดพิงที่กำลังนั่งหาเศษหาเลยกับร่างกายน้องมันสะอึกไป

“เงียบไปเลยสัดรูท”

ด่าเพื่อนตัวเองไปหนึ่งที แต่ดูท่าจะไม่สามารถทำอะไรคนที่ยังหัวเราะอยู่ได้เลย รูทยื่นหน้าจากโซฟาที่ตนนั่งอยู่มาขโมยหอมแก้มน้องเสียฟอดใหญ่ก่อนรีบลุกหนีฝ่าเท้าที่ลอยมาในทันที วิ่งไปหัวเราะไปยังทางที่พี่ชายตัวโตของน้องตัวเล็กนั่งปรับแต่งรถอยู่

“นี่ก็หัวเราะอยู่นั่น ชอบจังนะโดนคนอื่นหอมแก้มเนี่ย”

“อ้าว พี่กิวอย่ามาพาลนะ ตัวเขินจนเขาแกล้งเองแท้ๆ” พายหน้าเหวอ อะไรกันตัวเองแค่นั่งหัวเราะแถมเป็นฝ่ายถูกกระทำดันมาโดนเม้งใส่ แบบนี้ไม่ยอมหรอกนะ ต้องมีเถียงกับกันไปข้าง หมอนข้างมีชีวิตหันไปแว้ดใส่ทันทีด้วยใบหน้าที่กิวบอกกี่ครั้งก็ไม่ยอมฟังว่ามันไม่ได้น่ากลัวอะไรเลย

“แล้วใครทำให้เขิน”

พอเจอคำถามนี้น้องก็เงียบไปก่อนเจ้าตัวจะลุกขึ้นยืน ดวงตาคมเข้มมองตาม สงสัยเล็กน้อยว่าน้องงอนหรือเปล่าแต่ก็ไม่ใช่น้องเพียงลุกเพื่อเปลี่ยนท่านั่งมามองหน้าเขาได้ตรงๆก็เท่านั้น มือแกร่งโอบรั้งเอวบางไว้กลัวคนตัวบางจะหงายหลังตกลงไป ส่วนพายก็ไม่ว่าอะไรเพียงคล้องแขนโอบรอบคอบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าคนรักไว้แล้วชนหน้าผากเข้ากับอีกคนเบาๆ

“พี่กิวเขินอย่างเดียวใช่มั้ย ไม่ใช่ไม่ชอบนะ? ถ้าไม่ชอบพายไม่เรียกก็ได้นะครับ”

จมูกโด่งคลอเคลียไปมาคล้ายออดอ้อนและขอโทษไปในที สลับกับเหลือบมองสบตาคนตรงหน้าไปด้วย น้องชอบทำแบบนี้เสมอเมื่อคิดว่าตนเองผิดนิดหน่อยกับสิ่งที่ทำลงไป ย้ำว่านิดหน่อยเท่านั้นนะ

คนที่กำลังโดนอ้อนยิ้มรับ ส่ายหัวไปมาทำให้หน้าน้องก็ส่ายน้อยๆตามไปด้วย ยอมคนนี้เลยจริงๆ ไม่รู้จะทำตัวน่ารักไปถึงไหน คิดว่าหัวใจคนเราอดทนกับความน่ารักได้สักเท่าไหร่กัน

“วันนี้พี่ต้องแข่ง...”

“ครับ พายรู้แล้ว” เปิดประเด็นไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่คุยกันก่อนหน้าแม้แต่น้อย น้องขมวดคิ้วงุนงงทั้งที่หน้าผากก็ยังชนกันอยู่แต่ก็เอ่ยรับ

“ให้กำลังใจพี่ทีนึงยอมให้เรียกตามใจไปทั้งชาติเลย”

เผยความต้องการหรือเรียกอีกอย่างว่าข้อแลกเปลี่ยนให้คนบนตักฟัง ยังไงน้องก็ต้องเรียกตามที่ตัวเองต้องการอยู่แล้ว จะเขินจะอะไรก็ช่างแม่งให้น้องยิ้มได้มีความสุขกับสิ่งที่ทำก็พอ คิดแบบนั้นถึงได้เลือกหาเศษหาเลยกับน้องด้วยวิธีนี้ ฝั่งน้องพอได้ฟังก็เบิกตาโตแล้วหัวเราะถูไถหน้าผากเนียนเหมือนลูกแมวอ้อนเจ้าของแล้วจัดการแนบริมฝีปากนิ่มกับความนุ่มหยุ่นที่อยู่เบื้องหน้าแรงๆหนึ่งทีตามที่อีกฝ่ายยื่นข้อเสนอมา พายถือคติกล้าขอกล้าให้อยู่แล้วเพราะงั้นกับเรื่องที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรงแถมพายยินดีที่จะทำมันก็ไม่ได้ลำบากอะไร ติดจะเต็มใจ ไม่ต้องขอยังไงเจ้าตัวก็จะบังคับให้ด้วยซ้ำ

กระทำการยื่นขอแลกเปลี่ยนแล้วจึงผละหน้าห่างออกมา แล้วส่งยิ้มกว้างตามประสาคนอารมณ์ดีให้อีกครั้ง



“แข่งนัดนี้ต้องสู้ๆนะครับป๊ากิวของพาย”


จบตอน ชื่อเล่นของหัวหน้า


--------------------------------------------------------------------------------------------


หัวหน้าแก๊งค์ตอนที่สองมาส่งแล้วค่ะ รีบลงไว้ก่อนกลัวงานจะหนักแล้วไม่ได้มาลง

คือเนื้อเรื่องกับชื่อเรื่องไม่ได้ไปด้วยกันเลย มันควรจะชื่อรักหวานๆของนายมุ้งมิ้งอะไรแบบนี้แทนมั้ยนะ 5555555555  :-[

อยากจะให้มันออกมาเป็นหัวหน้าแก๊งค์ที่แหวกแนวและแตกต่างกันไป ถือว่าเป็นอีกมุมนึงที่คนเป็นหัวหน้าแก๊งค์อาจจะมีเมื่อมีความรักก็ว่าได้ล่ะมั้ง? วางแผนให้แต่ละตอนดำเนินไปแบบค่อยเป็นค่อยไปด้วยล่ะค่ะ มันจึงออกมาเป็นแบบเก็บรายละเอียด ค่อยๆรู้เรื่องของตัวละคร แต่ไม่รู้ว่าจะยืดเยื้อไปมั้ย ถ้ายังไงก็ฝากแนะนำและติชมด้วยนะคะ

ขอบคุณที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้ค่ะ
:pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2015 13:41:43 โดย ennewiis »

ออฟไลน์ ennewiis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
หัวหน้าแก๊งค์
ตอน วิธีตามใจของหัวหน้า




ตั้งแต่ที่ยังไม่คบกันกิวก็มักจะโดนบอกว่าตนตามใจน้องเกินไปเสมอ ยิ่งมาคบกันนี้เรียกว่าได้ยินทุกวันจนหูเปื่อยเลยก็ว่าได้ แต่ถ้ามองจากมุมเขาแล้ว ถามว่าตัวเองตามใจน้องมากเกินไปมั้ยเขารู้สึกว่ายังไม่พอด้วยซ้ำ ถ้าทำได้ก็อยากให้น้องมากกว่านี้ อยากตามใจน้องให้มากขึ้นๆแบบที่คนอื่นก็สู้ไม่ไหว

"พี่พัพนั่งดีๆดิเดี๋ยวมันก็เลอะหน้า"

กิวหันไปมองทางต้นเสียง เห็นน้องกำลังวุ่นวายอยู่กับหัวของพี่ชายตัวเอง มือนึงถือถ้วยสำหรับผสมสีย้อม ส่วนอีกมือก็ถือแปรงแหวกๆแปะๆหนังหัวพี่ชายตัวเอง รอบนี้จะออกมาเป็นสีอะไรกิวก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

ปกติสไตล์การแต่งตัวของพัพก็ดูดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะเจ้าตัวสูงจากกรรมพันธุ์ของพ่อพอออกกำลังนิดหน่อยก็มีมัดกล้าม ใส่เสื้อผ้าแบบไหนก็เท่ห์ ดึงดูดสายตาของคนที่ผ่านไปมานัก ยิ่งพอมาได้น้องช่วย ใช้วิชาการออกแบบที่เจ้าตัวร่ำเรียนมา มาทดลองกับพี่ชาย จากพัพที่แค่ใส่เสื้อกล้ามกางเกงยีนส์หลุดลุ่ยก็ดูดีกลายมาเป็นเจ้าพ่อแฟชั่นนำสมัยได้ไม่ยาก



อันที่จริงแล้วก็ไม่ใช่แค่พัพหรอกที่น้องจะคอยเลือกนู่นเลือกนี่ให้ กิวก็เป็นหนึ่งในคนที่น้องชอบเอาสิ่งที่เรียนมาใช้ฝึกด้วยเหมือนกัน ทั้งเสื้อผ้า ทั้งเครื่องประดับ ยาวไปจนถึงของแต่งบ้าน ทั้งหลายแหล่ สามารถพูดได้เลยว่าเป็นตามสไตล์ที่น้องต้องการทั้งสิ้น แต่ในเมื่อมันดูสวยไม่ได้น่าเกลียดอะไรเขาก็จะตามใจ

"ทำไมต้องมาใช้หัวพี่วะตัวเล็ก ไปใช้หัวเฮียนู้น"

"อ๋อ พี่กิวต้องเป็นอีกสี ไม่ต้องห่วง เอาหัวตัวโตให้เสร็จก่อน พอเสร็จแล้วรับรองพี่รูทยังต้องชมว่าหล่ออ่ะ!"



หัวกูด้วยเหรอ?



คนโดนพาดพิงนั่งหน้านิ่งมองเพื่อนด้วยสายตายากจะอธิบายสลับกับเจ้าของคำพูดที่ตอนนี้อยู่ในสภาพเสื้อยืดคอวีพับแขนกับบ๊อกเซอร์ขาสั้นตัวโปรดที่เคยเป็นของกิวมาก่อน พอสบตากับพัพมันก็แค่ยักไหล่ไม่สนใจ ไอ้นี่มันถือคติตามใจน้องไว้ก่อนส่วนเพื่อนไว้ทีหลังอยู่แล้ว

"ป๊ากิว มานั่งตรงนี้เร็วครับ พายตื่นเต้น อยากลองสีใหม่แล้วเนี่ย"



แล้วน้องพายจะไม่ถามพี่เลยเหรอครับว่าพี่ตื่นเต้นมั้ย?



น้องกวักมือหยอยๆเรียกคนที่นั่งมองคู่พี่น้องให้เดินไปนั่งที่ประจำ เมื่อเห็นว่าคนรักยอมเดินมานั่งประจำที่แล้วเจ้าตัวก็หันไปวุ่นวายกับการผสมสีตามที่ตัวเองกะจะให้มันมาโปะบนหนังหัวเขา ความจริงเขายังชอบสีผมช็อคโกแลตที่น้องย้อมให้เมื่อประมาณสามสัปดาห์ก่อนอยู่เลย แต่ในเมื่อน้องอยากจะย้อมเขาก็จะยอมให้น้องย้อมด้วยแล้วกัน ไม่อยากจะขัดใจ แล้วสีผมแต่ละสีที่น้องย้อมให้มันก็เหมาะกับเขาไม่ใช่น้อย ถือว่าน้องเลือกไม่ผิดที่หันมาเอาดีด้านการออกแบบเช่นนี้

“ตามใจมันตลอด”

คนที่อยู่ในสภาพหัวแฉะเพราะฝีมือน้องยังมีหน้ามาว่าเขา กิวยิ้มมุมปากยักไหล่เหมือนที่เพื่อนตัวเองทำใส่เขาก่อนหน้านี้แล้วเอี้ยวตัวไปนั่งเท้าแขนกับโซฟามองคนในชุดเสื้อยืดคอวีพับแขนกับบ๊อกเซอร์ของเขา น้องชอบกางเกงตัวนั้นมากชนิดที่ว่าทุกครั้งที่มาค้างบ้านเขาน้องจะยึดมันไปใส่เสมอ ความจริงแล้วตอนที่เขาใส่มันก็พอดีตัวไม่ได้โคร่งเท่าไหร่แต่พอน้องเอาไปใส่เท่านั้น มันกลับกลายเป็นกางเกงขาบานซะได้ แม้ว่าเขาจะชอบลายของมันแต่ในเมื่อน้องชอบเขาก็เลือกจะยกบ๊อกเซอร์ตัวนั้นให้กลายเป็นกางเกงนอนของน้องไปโดยปริยาย

“.....สีอะไร” มองชามสีประหลาดในมือน้องเท่าไหร่ก็มองไม่ออกสักทีว่ามันจะกลายเป็นสีอะไร เพราะงั้นเลือดถามเอาเลยคงจะง่ายกว่า

“แดงเลือดหมูประกายชมพูสตอเบอรี่!”

แค่ฟังชื่อก็ปวดหัวแล้ว ไม่รู้น้องไปเอาสูตรมาจากไหนถึงได้คิดสีประหลาดที่ไม่เคยเห็นมาใช้กับหนังหัวของเขาได้ กิวเหลือบมองหัวสีสตอเบอรี่ของน้อง ด้วยความที่น้องเป็นคนผิวขาวจะผมสีอ่อนแค่ไหนมันก็ดูสวยเข้ากับใบหน้าและการแต่งกายของน้อง แต่พอมาคิดว่าสีแดงเลือดหมูประกายอะไรสักอย่างที่ฟังแล้วโคตรจะไม่เข้ากับหน้ามันจะมาอยู่บนหัวไปอีกเดือน หรืออาจจะเร็วกว่านั้นก็แอบหนักใจอยู่ไม่น้อย

“ไม่ใช่ชมพูแบบพายแน่นอน สัญญาเลย หน้าอย่างพี่กิวไม่เหมาะกับสีชมพูหรอก”

ไม่รู้ว่าหลอกด่าหรือเปล่า แต่พอพูดจบเจ้าตัวก็หันไปไฮไฟว์กับพี่ตัวเองแล้วหัวเราะเอิ้กอ้าก ก่อนหันมาให้ความสนใจกับการละเลงหนังหัวเขา กิวยอมรับเลยว่ามือน้องยังนิ่มเหมือนเคย ความรู้สึกสบายแล่นผ่านเมื่อเรียวนิ้วค่อยๆเกี่ยวเส้นผมจับเป็นช่อแล้วบรรเลงสีอะไรสักอย่างที่น้องตัดสินใจว่ามันเหมาะกับเขาลงไป ก่อนค่อยๆขยุ้มให้สีเข้ากันด้วยมือเล็กๆนั้น

“พี่กิวเงยหน้าหน่อยครับ พายจะดูว่ามันถึงโคนผมด้านหน้ามั้ย”

บอกมาแบบนี้มีหรือที่กิวจะไม่ทำตาม กิวเงยหน้าจนเหมือนนอนคุยกับน้อง สีหน้ามุ่งมั่นที่อยู่เหนือขึ้นไปช่างดูเพลินตา เขาจำได้ว่าน้องจะทำหน้าแบบนี้เวลาที่ตั้งใจทำการบ้าน ออกแบบเสื้อผ้าหรือโปรเจคต่างๆ แล้วก็ยามเวลาแบบนี้ ยามที่พยายามหาอะไรมามิ๊กซ์แอนด์แมทให้มันเข้ากับร่างกายของเขา ปลายนิ้วเรียวใต้ถุงมือพลาสติกค่อยๆเกลี่ยสีที่เกินจากขอบผมให้เบาๆ ก่อนจะซนแปะสีที่ย้อมผมบนแก้มเขาแล้วหัวเราะชอบใจ

“ซน... เป็นแมวหรือไง”

คนตัวโตกว่าส่งมือไปบีบจมูกโด่งของคนที่ยังหัวเราะอยู่ รอยยิ้มสนุกสนานของน้องมีค่ามากกว่าจะดุด่าที่ทำอะไรไม่รู้เรื่องแม้ตอนนี้คันยิบๆบนรอยที่น้องแต้มเอาไว้ และดูท่าว่าอีกไม่นานจะต้องมีสิวมาบุกไม่ก็ขึ้นปื้นแดงกันไปข้างแต่เอาเถอะ

“เปล่าเป็นแมวนะ เป็นแฟน อะไรกันจำแฟนตัวเองไม่ได้ แย่จริงๆ”

พูดเสียงอู้อี้เพราะโดนบีบจมูกอยู่ แต่คำพูดคำจาช่างน่ารักน่าหมั่นเขี้ยวจนต้องยื่นหน้าไปให้รางวัลโดยการสูดความหอมจากแก้มนิ่มเสียแรงๆหนึ่งที ถึงพี่ชายน้องจะนั่งมองพร้อมกระแอมในลำคอให้รู้ว่ากูยังนั่งอยู่ตรงนี้แต่กิวก็ไม่ยี่หระอะไร ยังไงมันก็แค่ส่งเสียงมาแซวเพราะรู้อยู่แล้วว่าไม่มีอะไรมากเกินไปกว่านี้



แค่ตอนนี้เท่านั้นน่ะนะ



“อื้ออ หนวดทิ่มหน้าแล้ว เมื่อเช้าไม่ได้โกนเหรอ” ลูบหน้าตัวเองป้อยๆตรงที่โดนโคนหนวดสากๆทิ่มเข้าไป

“ตั้งใจไว้” กิวตอบไปตามตรง อยากจะลองไว้หนวดดูบ้าง เปลี่ยนสไตล์ให้มันดูเข้มขึ้นกว่านี้ แต่ดูท่าน้องจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ มือที่ขยุ้มผมนวดวนไปมาถึงได้หยุดชะงักแล้วมาทำหน้ายู่ใส่เขาแบบนี้

“ไม่เอาดิ หน้าพี่กิวไม่ได้เหมาะกับหนวดเลย คืนนี้ต้องโกนทิ้ง”



อ้าว... แล้วไอ้สีที่มีคำว่าสตอเบอรี่มันเหมาะกับหนังหน้ากูมากเลยงั้นสินะ





หนึ่งชั่วโมงที่ทนให้น้องเล่นกับหนังหัวและอดทนกับความคันเหมือนมดร้อยตัวมากัดก็ผ่านพ้นไป ยามนี้หัวที่โดนน้องจับล้างแล้วสระให้พร้อมนั่งไดรทั้งสองหัวก็เปลี่ยนสีเป็นที่เรียบร้อย ดูท่าว่าน้องจะพอใจในฝีมือตัวเองอยู่เหมือนกันเจ้าตัวถึงได้กอดอกมองหน้าพี่ชายสลับกับคนรักด้วยใบหน้าปลื้มในฝีมือตัวเองเต็มที่

ตอนนี้หัวของพัพกลายเป็นสีเทาอมเขียว ไม่ได้เป็นสีสาหร่ายทะเลแบบที่น้องเคยบอกไว้อีกแล้ว

ส่วนของกิว เขาเข้าใจแล้วว่าสีเลือดหมูประกายสตอเบอรี่มันเป็นยังไง ทำไมน้องไม่บอกว่ามันคือสีแดงแข้มประกายสีแดงที่อ่อนลงมาไม่กี่ระดับวะ

“เข้ากันอย่างที่คิดเลย! โชคดีนะเนี่ยที่ป๊าม๊าเบ่งออกมาหล่อ ไม่งั้นคงหน้าเหี้ยกว่าเด็กแว๊นซ์”

แยกไม่ถูกเลยว่าเป็นคำชมหรือคำด่า กิวกับพัพหันมามองหน้าน้องที่ยืนยิ้มแฉ่งไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดของตัวเองเลยแม้แต่น้อย

กระจกเงาบานขนาดพอดีมือถูกส่งให้ทั้งสองคนเพื่อดูสภาพที่เปลี่ยนไป ยอมรับว่ามันไม่ได้น่าเกลียดอย่างที่ตอนแรกคิด ออกจะเข้ามากกว่าด้วยซ้ำ สำหรับพัพที่ความจริงแล้วตัวขาวเป็นหยวกเหมือนน้องชายแต่ชอบไปเล่นกีฬากลางแดดและขับมอเตอร์ไซค์จนผิวเจ้าตัวคล้ำขึ้นมาหน่อย ผมสั้นกำลังดีที่ไถด้านล่างทิ้งกับสีผมเขียวประกายเทาไม่ได้ทำให้ผิวดำขึ้นแต่กลับช่วยสะท้อนให้หน้าคมดูคมเข้มและสว่างเสียมากกว่า ด้านกิวที่ผิวกร้านแดดพอๆกับเพื่อนในทรงผมไถข้างเพียงด้านเดียวและซอยด้านหน้าเฉียงไล่ระดับซึ่งก็เป็นฝีมือของช่างประจำตัวตรงหน้านี่แหละกับสีผมแดงประกายที่ไม่จัดจนเกินไปนักก็เข้าท่าไม่หยอก ดูเด็กกว่าผมสีน้ำตาลเข้มเมื่อก่อนหน้าอีกด้วยมั้ง

“สุดท้ายก็มีแค่ต่างหูที่ไม่เข้า ตัวโตถอดเพชรด้านซ้ายออกมาแลกกับพายหน่อย”

เพชรที่น้องหมายถึงคือต่างหูรูปเพชรที่เจ้าตัวออกแบบแล้วเอามาให้พี่ชายใส่ มือเล็กรับไปแล้วส่งต่างหูสีเงินอันเล็กที่ปกติจะใส่อยู่บริเวณติ่งหูซ้ายให้พี่ชาย พอพัพใส่เสร็จน้องก็มองอย่างพิจารณาแล้วพยักหน้าหงึกหงักๆด้วยความพอใจให้

“ของพี่กิวเอาหมุดมาแลกกับห่วงของพายดีกว่า น่าจะเข้ากว่า หูพี่กิวสวย ใส่อันใหญ่ๆมันปิดหมดเลย” พูดเองเออเองแล้วก็ลงมือถอดเอง จัดการถอดต่างหูหมุดยาวบริเวณกระดูกอ่อนของอีกฝ่ายออกแล้วสวมห่วงอันเล็กของตัวเองให้แทน

“ดีนะเนี่ยที่พายเจาะหูเยอะไม่งั้นไม่มีต่างหูเปลี่ยนหรอก”

ยักคิ้วให้คนทั้งสองที่ยอมนั่งนิ่งๆให้น้องทำตามใจเต็มที่ ตอนแรกที่เจ้าตัวอยากจะเจาะหูเป็นพวกเขาสองคนนี่แหละที่ไม่ยอมให้น้องเจาะ จนน้องแอบดอดหนีไปให้ไอ้รูทเจาะให้ หลังจานั้นรูที่สองที่สามมันก็ตามมา ดีหน่อยที่น้องห้ามใจตัวเองไม่ให้มันเพิ่มขึ้นมาได้จึงหยุดอยู่มราด้านละสามรูเยื้องคนละสถานที่เท่านั้น

“ข้ออ้างว่ะตัวเล็ก”

“เปล่านะ!”

“เบื่อเถียงกับแมว กูไปละกิว ฝากมันด้วย” พัพขยี้หัวที่อุตส่าห์จัดให้เนี๊ยบสองสามที่แล้วลุกยืน

วันนี้เป็นวันเสาร์ เพราะตกลงกันไว้แล้วว่าวันเสาร์เมื่อไหร่น้องจะเจียดเวลามาค้างที่บ้านกิวเสมอจึงเป็นหน้าที่ของพัพที่ต้องมาส่งน้องตัวเองและหลังจากนั้นก็แล้วแต่ บางทีอาจจะกลับบ้านเลย ใช้ชีวิตแบบคนไม่มีน้องมาวอแว ช่วยงานแม่ หรืออาจจะไปเฮฮาตามประสาชายหนุ่มเช่นวันนี้

"เบื่อหรือจะรีบไปรับใครกันแน่" ตัวเล็กมันรู้ทัน ต้องเป็นมันแน่ๆที่แอบเปิดมือถือเขาดูเมื่อเช้า

พัพไม่ตอบอะไรเพียงแค่ดีดหน้าผากเนียนของคนรู้ทันแล้วเดินไปสตาร์ทพายอาร์ออกไปทำธุระของตนต่อ ทิ้งน้องยืนหน้ามุ่ยลูบหน้าผากที่มันไม่ได้เจ็บอะไรเลยแม้แต่น้อยไว้ด้านหลัง

"ห้าโมงกว่าแล้ว จะกินอะไร"

รั้งเอวบางมานั่งตักแล้วเอ่ยถามเมื่อเหลือบมองเวลาบนหน้าปัดมันชี้ว่าเป็นเวลาของข้าวเย็นแล้ว เพราะมัวแต่ยุ่งกับหัวของพวกตน น้องเลยไม่ได้สนใจทั้งที่ปกติแค่เข็มสั้นชี้เลขห้าก็เด้งตัวร้องหาของกินแล้ว

"กินชาบูไม่ใช่เหรอ? พายเห็นในตู้มีของเตรียมไว้ พี่กิวซื้อมาเองยังจะถามอีก"

ครับ ครับ กิวรับคำน้องแล้วลุกยืนอุ้มคนตัวเล็กไว้ขณะที่เดินตรงมุ่งสู่ห้องครัวด้านในสุดของบ้าน คนตัวเล็กกว่าก็จัดการคล้องแขนเข้ารอบคอพร้อมหนีบขาไว้ที่เอวสอบห้อยเป็นลิงปีนมะพร้าวตามหน้าที่ สุดท้ายอาหารเย็นวันนี้เป็นยังเป็นชาบูอาหารโปรดของน้องที่กิวเตรียมอุปกรณ์ไว้ให้พร้อมเหลือแค่คนมานั่งทำนั่งกินด้วยกันเท่านั้น





"ป๊ากิวครับเข้ามาห้องน้ำหน่อยสิ"

เสียงของน้องที่ดังมาจากห้องน้ำกระตุ้นให้คนที่นอนดูหนังแอคชั่นบนเตียงผลุดร่างขึ้นยืนแล้วสาวเท้าเข้าไปหา ไม่แน่ใจว่าตัวเองเผลอทิ้งของใช้ส่วนตัวอะไรไว้ในห้องน้ำหรือเปล่าน้องถึงจะตามให้เข้าไปเก็บ

"ว่าไงครับ?"

กิวเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปถาม จึงได้เห็นว่าน้องนั่งรออยู่บนขอบอ่างล้างหน้า พื้นที่ที่เหลือไม่ไกลจากตัวน้องเท่าใดนักมีอุปกรณ์โกนหนวดของเขาวางกองอยู่ แค่มองก็รับรู้ได้ว่าความปรารถนาที่จะไว้หนวดครั้งนี้ก็คงไม่แคล้วต้องล่มลงเพราะมันจะไม่มีวันได้ยาวอีกต่อไป

"ป๊ามานี่เร็ว~ เดี๋ยวพายโกนหนวดให้จะได้หล่อๆ"

"ระดับนี้ไม่โกนก็หล่อว่ะ"

"ไม่จริงเหอะ โกนหล่อกว่าเพราะงั้นโกนนะครับป๊ากิว"

กิวคิดว่าตนเองเริ่มจับทางได้แล้ว่าเมื่อไหร่ที่น้องต้องการให้เขาทำอะไรน้องจะอ้อนเขาด้วยคำว่า 'ป๊ากิว' เพราะรู้ว่าเขาต้องเขินแล้วใจอ่อน แม้จะตั้งใจแล้วว่าจะทำตัวให้เคยชินให้ได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆไม่รู้ทำไมใจอ่อนต้องยอมตามใจเสียทุกที

เสียงถอนหายใจของคนหน้าดุเป็นสัญญาณให้รู้ว่าตนได้รับชัยชนะอีกครั้ง พายยิ้มตาหยีขณะที่อีกคนเดินเข้ามาใกล้ เมื่ออยู่ในรัศมีที่เอื้อมขาถึงเจ้าตัวก็จัดการล็อคเอวกิวเอาไว้ไม่ปล่อยให้หนีไปกลางคัน

"น่ารักแบบนี้สิถึงจะเป็นป๊ากิวของพาย" ได้อะไรที่ต้องการก็พูดจาหวานหูเป็นรางวัล

พายจัดการป้ายครีมโกนหนวดทีละน้อยบนใบหน้าคม แม้ความจริงการโกนหนวดที่มันเพิ่งขึ้นเช่นนี้ไม่จำเป็นต้องใช้ครีมเพื่อให้นิ่มแต่น้องก็ยังจะลงเพราะความสนุกส่วนตัวนั่นเองและแน่นอนว่ากิวก็ตามใจน้องเช่นเคย ปล่อยให้จัดการตามใจน้องไหนๆก็มีแต่ได้กับได้ไม่มีเสียหายอะไร

"ทำไมชอบใส่แบบนี้ ตอนนอนไม่หนาวหรือไง"

เพราะไม่รู้จะทำอะไรกิวเลยสาดสายตาสำรวจเรือนร่างของคนตรงหน้าแทนเสียเลย น้องใส่เพียงเสื้อเนื้อบางตัวใหญ่ที่ดูก็รู้ว่าต้องเป็นของเขากับบ๊อกเซอร์สั้นๆลายหัวกะโหลกของเจ้าตัว ด้วยความที่บ่าของน้องกับคอเสื้อตัวโตของเขามันไม่เข้ากันจึงทำให้คอเสื้อย้วยจนเผยให้เห็นไหล่ขาวเนียนไปจนถึงไหปลาร้าสวยได้รูป แถมพอก้มมองยังไปปะทะกับต้นขาเล็กแถมยังขาวเตะตาที่โผล่พ้นชายเสื้อกับขอบกางเกงออกมาอีก ดูแล้วเจ้าตัวหน้าจะหนาวแต่เขานี่สิรู้สึกว่าร้อนขึ้นมาแบบแปลกๆ

"ไม่หนาวหรอก พี่กิวกอดพายอยู่ตลอดจะไปหนาวได้ไง"

"พูดจาแบบนี้ปล้ำได้มั้ย" ไม่พูดเปล่าฝ่ามือใหญ่ที่วางอยู่บริเวณต้นขาก็แกล้งลูบไล้แล้วสอดเข้าไปใต้บ๊อกเซอร์ตัวบาง มืออีกข้างกดแผ่นหลังเล็กให้ลดระยะห่างระหว่างทั้งคู่ลง

นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่สวยมองคนที่กระทำการลวนลามแล้วยิ้มหวาน ยกที่โกนหนวดขึ้นมาแนบแก้มด้วยท่าทางสุดจะน่ารักแต่คำพูดที่ตามมาไม่ได้น่ารักตามซะเลย

"อยากโดนปาดไปให้เป็ดกินก็ลองดูสิครับ"


โหดสมกับเป็นแฟนหัวหน้าแก๊งค์


ในสายตาคนนอกอาจจะคิดว่าเขากับน้องได้เสียกันไปเป็นชาติแล้ว เพราะการแสดงออกที่ไม่แคร์ใคร อยากจูบก็จูบ อยากแลกลิ้นกันตอนไหนก็ทำ อยากนั่งตักในที่สาธารณะก็นั่ง อยากจะกอดก็หันไปกอดซะดื้อๆ ใครมองยังไงก็ไม่ได้ใส่ใจ ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำซะทั้งคู่ แต่ในความไม่แคร์ใครนั้นพวกเขาก็รู้ว่ามันไม่ถึงเวลา และการเมคเลิฟก็ไม่ใช่ตัวตัดสินความรักทั้งหมดของพวกเขา ความเข้าใจ การที่เขาทั้งสองคนค่อยๆเดินเคียงข้างกันไปต่างหากที่เรียกว่าความรักอย่างแท้จริง

"โหดชิบหายว่าที่เมียใครวะ" ปากก็พูดเหมือนกลัวแต่มือก็ไม่หยุดที่จะลูบไล้ผิวเนียนละเอียด บางจังหวะก็บีบเค้นเบาๆพอแก้หมั่นเขี้ยว

"ก็ว่าที่เมียพี่กิวนั่นแหละ ถ้าจะยังลามกอยู่แบบนี้ปาดเป็นแผลไม่รับผิดชอบนะ"

เพราะคำพูดนั้นทำให้กิวยอมหยุดมือที่ลูบไล้ขาขาวเนียนผละออกมาโอบรอบเอวคอดไว้ให้คนตรงหน้าได้มีสมาธิโกนหนวดโดนไม่ต้องมีใครเสียเลือดเนื้อ ปลายมีดโกนที่ตัดผ่านช่างเบานักเมื่อเทียบกับยามที่เขาทำด้วยตนเอง สงสัยว่าน้องจะได้ตำแหน่งใหม่นอกจากสไตล์ลิสกับช่างทำผม เป็นช่างโกนหนวดประจำตัวของกิวนี่แหละ ไม่ชอบให้ไว้หนวดนักก็ต้องมาโกนให้ด้วยตัวเอง ถือว่าเจ๊าท์กันไป

เพราะหนวดที่เริ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยทำให้พายใช้เวลาไม่นานนักกับการกำจัดส้วนเกินบนใบหน้าหล่อเหลาออก ยังไงเขาก็ชอบพี่กิวที่หน้าใสเด้งเป็นหนุ่มเกาหลีมากกว่าพี่กิวที่ริจะไว้หนวดรุงรังเหมือนโจรป่าเป็นไหนๆ

ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่พายจัดการให้คนรัก ค่อยๆซับบริเวณที่ลงครีม เซ็ดออกอย่างเบามือเพราะพื้นที่ที่เพิ่งจัดการลงมีดคงยังระคายไม่น้อย ไม่อยากจะให้คนรักต้องมาบอกว่าแสบหน้าทีหลัง ไม่นานนักใบหน้าเกลี้ยวเกลาแต่ยังคงความดุที่พายรู้ว่าข้างในนั้นใจดีมากกับตนมากขนาดไหนก็เผยให้เห็น คนตัวเล็กยิ้มกว้างจนตาหยี ชอบอกชอบใจในฝีมือตัวเองอีกครั้ง

"คิดอยู่ล่ะสิว่าคนอะไรแม่งโคตรหล่อ"

"ชมตัวเองได้ด้วย ไม่กระดากปากเหรอ"

"รู้ว่าแฟนต้องชมในใจ แค่นี่กล้าพูดดังๆก็พอว่ะ" กระชับคนในอ้อมกอดแล้วจ้องหน้า หยอกล้อแฟนตัวเองเก่งเป็นที่หนึ่งล่ะคนนี้

"อู้ยยย รู้ดีพอๆกับบับเบิ้ลบีเลยนะ" พาดพิงไปถึงหมาตังโตที่นอนเฝ้าอยู่หน้าห้องแล้วขำลั่น ทำตัวหน้าหมั่นไส้เสียเหลือเกินนะตัวเล็ก

กิวระดมหอมแก้มน้องทั้งซ้ายทั้งขวาฟอดใหญ่ๆเน้นๆ แล้วซุกหน้าไปไซร้ซอกคอขาวเก็บกลิ่นสบู่และกลิ่นกายหอมๆที่เป็นเอกลักษณ์ของน้องด้วยความหมั่นเขี้ยว จมูกโด่งที่ซุกอยู่ตรงจุดอ่อนทำเอาคนตัวเล็กหัวเราะคิกคักด้วยความจักจี้

"พอแล้วพี่กิว พายจักจี้นะ!"

แม้จะขำไปประท้ววไปแต่กิวกก็ไม่หยุด จนกระทั่งเห็นน้องหน้าแดงเหมือนจะหัวเราะมากไปจนจะขาดอากาศหายใจแล้วนั่นแหละเจ้าตัวถึงยอมหยุด ไม่ลืมที่จะตีตราเป็นรอยฟันบนไหล่ลาดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะผละออกมาอีกด้วย

"จะให้พี่พัพกับพี่รูทมากระทืบ โทษฐานทำรอยติดตัว" หอบหน้าแดงแล้วยังปากดีแบบนี้กิวล่ะชอบนักแถมคำพูดคำจาห้าวเป้งไม่เหมาะกับหน้ายังทำเอาคนหน้าเหี้ยมต้องมีรอยยิ้มอย่างไม่ทันรู้ตัว

พายมองแล้วรู้สึกหมั่นไส้นักไอ้รอยยิ้มแบดบอยที่ทำให้ตนหลงมาติดกับได้ จึงจัดการกัดเข้าที่บ่ากว้างเต็มแรงเสียเขี้ยวในปากกดเนื้ออีกคนเสียเลือดซิบ แถมไม่ใช่ข้างเดียวยังทำเสียสองข้างซะด้วย ได้แก้แค้นเสียอีกคนได้เลือดแล้วมีความสุขสมใจ ผละมาส่งรอยยิ้มที่กวนตีนได้น่ารักที่สุดในความคิดของกิว

"มีรอยคนเดียวมันเสียเปรียบ พายไม่ชอบ"

ดวงตาคมเบิกกว้างยิ่งกว่าตอนที่รู้ตัวว่าโดนกัด คำพูดของน้องผู้กระทำการอุกอาจกัดเขาซะบ่าสองข้างเสียเลือดซิบกับดวงตาที่ประสานกันมันฟาดฟันอยู่ครู่นึงจนสุดท้ายกิวต้องเป็นฝ่ายยอม ยอมที่จะไม่ว่าอะไรยิ่งทำให้น้องยิ้มกว้างกว่าเดิม

แต่พอคนตัวเล็กตายใจว่าตนชนะแล้วเท่านั้นแหละแขนแกร่งก็จัดการอุ้มพายขึ้นพาดบ่ามุ่งหน้าสู่ห้องนอน ไปกระทำการ "ปกป้องความยุติธรรม" แบบไม่สนใจเสียงโวยวายจากคนที่ดิ้นไปมา



ก็บอกแล้วว่าตามใจน้อง น้องอยากทำอะไรก็จะให้ทำ อยากกัดก็กัด ตามใจน้องอยู่แล้ว




แต่พี่ลืมบอกไปว่าเวลาพี่เอาคืนเมื่อไหร่พี่ก็เอาคืนคุ้มเหมือนกัน



จบตอน การตามใจของหัวหน้า

-----------------------------------------------------------------


หัวหน้าแก๊งค์ตอนที่สาม มาลงทิ้งทวนก่อนจะหายไปทำภารกิจของตัวเองค่ะ คิดว่าหลังจากนี้คงจะมาลงไม่เกินอาทิตย์ละ 2 ครั้ง คือพล็อตหมด...  :katai2-1:

แต่ไม่ว่ายังไงหลังจากนี้ก็จะเป็นความรักของทั้งคู่ที่ดำเนินต่อไป ถามว่าจะมีดราม่ามั้ย... อันนี้ยังไม่มีในแพลนค่ะ แต่อาจจะต้องมีบ้าง ชีวิตรักของแต่ละคนมันไม่ได้อีกแค่ความหวานอย่างเดียวเนอะ ซึ่งคู่นี้ก็เช่นกันค่ะ

**เพิ่มเติมค่ะ ใครมีทวิตเตอร์สามารถพูดคุยกันได้นะคะ หรือสามารถแท็ก #หัวหน้าแก๊งค์ #พี่กิวกับน้องพาย ก็ได้ค่ะ**

ขอบคุณที่ติดตามจนถึงบรรทัดนี้นะคะ  :3123:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-07-2014 12:00:55 โดย ennewiis »

ออฟไลน์ k00_eng^^

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 647
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-2
พี่กิวละมุนมาก
ชอบๆ

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
น้องพายน่ารักมุ้งมิ้งมากอ่า
>.<

ออฟไลน์ ennewiis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
หัวหน้าแก๊งค์
ตอน วันหยุดของหัวหน้า



ยามสายที่ไร้เสียงนาฬิกาช่างเป็นสวรรค์บนดินของคนที่เพิ่งจะหามรุ่งหามค่ำปั่นโปรเจคแล้วล้มตัวนอนได้ไม่นาน หากแต่ความสุขของคนบนเตียงคงจะไม่ยืนยาวเท่าไหร่นักเมื่อเสียงจังหวะหนักๆของเพลงร๊อคต่างชาติแผดเสียงคำรามเสียดแทงแก้วหูอยู่ไม่ไกลแถมแรงสั่นสะเทือนก็น่ารำคาณจนทำให้ต้องตื่นจากภวังค์

“โทรมาทำไมตอนนี้วะไอ้เหี้ย!”

ร่างสูงแผดคำผรุสวาทตามสายโทรศัพท์อย่างหงุดหงิดเพราะโดนปลุกทั้งที่นอนไม่พอ นิ้วเรียวยาวประดับแหวนเงินวงเรียบสางผมสีแดงเข้มที่ใครอีกคนเรียกมันว่า ‘สีเลือดหมูประกายสตอเบอรี่’ ขยี้มันอย่างหงุดหงิดแต่ก็ต้องชะงักเพราะเสียงอันคุ้นเคยที่ตอบกลับมาด้วยความหงุดหงิดไม่ต่างกัน

“มึงสิเหี้ยไอ้พี่กิว อย่ามาหงุดหงิดใส่พายนะ!”

คนเขาโทรมาเพื่อจะถามไถ่แท้ๆว่างานที่บอกต้องรีบส่งทำไปถึงไหน เห็นพี่ชายตัวเองกลับมาก็ไม่พูดอะไรนอนตายไปเป็นวันแล้วเพิ่งจะออกไปเรียนสภาพครึ่งคนครึ่งซอมบี้เมื่อสักครู่นี้เลยคิดว่าคนรักก็ไม่น่าจะต่างกันเลยจะถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงแต่ไหงพอรับโทรศัพท์ก็มาด่าซะงั้น พายก็ไม่ใช่หนุ่มน้อยเรียบร้อยในโอวาทใครมาแต่ไหนแต่ไรพอโดนพูดแบบนี้ก็ขึ้นเอาง่ายๆเหมือนกัน

ด้านกิวที่ชะงักไปชั่วครู่เพราะรู้ตัวว่าตนพลาดแล้วที่ไม่ดูหน้าสิ่วหน้าขวานด่าออกไปแบบนั้น ปกติเขาจะรอบคอบดูเบอร์ก่อนเสมอ แต่วันนี้มันง่วงจนขาดสติจริงๆจนพลาดไป

“พี่ขอโทษครับพาย พี่ไม่ได้ดูเบอร์”

“.......ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเพราะพายก็ด่าพี่เหมือนกัน ขอโทษนะครับ”

เสียงหัวเราะทุ้มหวานที่ส่งมาพร้อมคำขอโทษแค่นั้นก็ทำให้กิวสบายใจ ร่างสูงหยัดกายมานั่งพิงขอบเตียง ลอมมองนาฬิกาจึงรู้ว่าตอนนี้เกือบจะสิบโมงเข้าไปแล้ว เขาจำได้ว่าเข้านอนตอนที่เห็นดวงอาทิตย์เริ่มโผล่พ้นขอบฟ้าคงสักสามถึงสี่ชั่วโมงซึ่งไม่เพียงพอต่อร่างกายที่เหนื่อยล้าเลยสักนิด

“แล้วพี่กิวไม่รีบไปส่งงานเหรอ พี่พัพเพิ่งแบกแบบจำลองขึ้นมินิออกไปเมื่อกี้เอง”

มินิในที่นี้คือมินิคูเปอร์ที่หนุ่มติสอย่างพัพเลือกใช้แทนรถคันอื่นใยบ้าน เพราะเจ้าตัวชอบสีสันและรูปทรงแถมน้องชายอย่างพายก็บอกว่ามันเข้าจึงจัดว่าเป็นคันโปรดเลยก็ว่าได้

“อืม... เดี๋ยวอาบน้ำแล้วออกครับ วันนี้เรียนแค่รอบบ่ายใช่มั้ย?”

กิวจำตารางเรียนทุกตัวของน้องได้ดีพอๆกับตารางเรียนของตัวเอง ไม่สิ ต้องบอกว่ากิวจำทุกอย่างที่เกี่ยวกับน้องได้ดีพอๆกับของตัวเองต่างหาก เหมือนเป็นนิสัยที่ติดตัวไปแล้วตั้งแต่เริ่มจีบน้องด้วยซ้ำ แต่กิวจะไม่ยุ่ง ไม่เข้าไปก้าวก่ายในความเป็นส่วนตัวน้องมากเกินความจำเป็น เหมือนที่น้องก็ให้พื้นที่และความเป็นส่วนตัวกับเขาเสมอ

“อาทิตย์นี้ไม่มีเรียนแล้วกั๊บผม อาจารย์ยกคลาสเพราะไปสัมนาอะไรสักอย่าง” ว่าแล้วก็หัวเราะชอบใจ ถึงจะชอบเรียนแค่ไหนแต่เวลายกคลาสใครๆก็ต้องดีใจกันทั้งนั้นแหละ

“ตัวดื้อเลยสบายใจเพราะการบ้านไม่เสร็จ” มุมปากยกยิ้มเพราะคำพูดคำจาที่น่ารักของอีกฝ่าย พร้อมใช้สรรพนามที่นานๆจะเรียกที่ น้องชอบบ่นว่าขี้เกียจทำการบ้าน แต่เห็นก็ทำเสร็จทุกทีแม้บางทีเขาจะต้องช่วยแล้วแลกกับของรางวัลที่หลัง คราวนี้ก็คงอีหรอบเดิมใกล้วันที่ต้องเรียนถึงจะเริ่มทำ พออาจารย์ประกาศยกคลาสก็สบายเจ้าตัวไปสิ

“แน่ะ รู้ทันสมเป็นพ่อบับเบิ้ลบี”

“งั้นเราก็แม่มันน่ะสิ”

เจ้าโกลเด้นตัวโตอาจจะได้ยินชื่อตัวเองผ่านการเทเลพาธีหรือเปล่ากิวก็ไม่แน่ใจเพราะทันทีที่พายพูดชื่อมันก็ตะกุยพื้นประตูเสียงดังแกรกๆแล้วเห่าเรียกความสนใจอีกหนึ่งคำรบเหมือนจะบอกว่าให้มันเขามาคุยโทรศัพท์กับแม่มันด้วยยังไงอย่างงั้น ซึ่งเสียงก็คงดังพอให้น้องที่อยู่อีกฝั่งของสายได้ยิน เจ้าตัวหัวเราะร่าแถมยังเรียกชื่อบับเบิ้ลบีๆไม่หยุด

"เดี๋ยวส่งงานเสร็จจะไปรับที่บ้าน ม๊าว่ามั้ย?"

'ม๊าว่ามั้ย' คือประโยคที่กิวใช้ถามน้องแทนคำว่าจะมาค้างที่บ้านมั้ย เพราะครั้งแรกที่กิวลากน้องมาค้างคืนที่บ้านโดยไม่บอกม๊าของน้องก่อนเล่นเอากิวถึงกับหูดับมาแล้ว ก็คุณนายบ้านวิรุฬธนกิจเขาหวงลูกชายคนเล็กอย่างกับจงอางหวงไข่ พอรู้ว่าลูกโดนเพื่อนสนิทลูกชายคนโตลากไปก็สวดยับแบบไม่ไว้หน้าบุพการีเลยทีเดียวเชียว

"อืม~ ถ้าพรุ่งนี้มาส่งม๊าไม่ว่าแล้ววันเสาร์พายค่อยไปอีกรอบ"

เท่ากับอาทิตย์นี้เค้าจะได้ใช้เวลากับน้องเพิ่มอีกคืนจึงไม่เป็นปัญหาแม้พรุ่งนี้จะต้องตื่นเช้าไปส่งน้องกลับบ้านทั้งที่เขามีเรียนเสียช่วงบ่าย อย่างว่าพาลูกเขามาก็ต้องดูแลให้ดีอย่าให้เขาว่าได้

นัดแนะกันเสร็จเรียบร้อยคนที่ยังมีรอยยิ้มเปื้อนหน้าก็พาร่างตนเองไปจัดการธุระส่วนตัวในห้องน้ำ แต่งกายในชุดนักศึกษาที่ดูไม่ค่อยเข้ากับสีผมสักเท่าไหร่ก่อนแบกบ้านจำลองของตนเองออกจากห้องเตรียมตัวสำหรับการส่งโปรเจคที่จะมีในอีกไม่ถึงชั่วโมงข้างหน้า แต่หิวก็หาได้รีบร้อน ฝีมือการขับรถยนต์ของเขาและระยะทางไม่เป็นปัญหาในการเดินทางสักเท่าไหร่นัก

"เฝ้าบ้านด้วย เดี๋ยวพาแม่มาหา"

กิวว่าพร้อมตบเบาๆที่บริเวณคอของสุนัขตัวใหญ่ประจำบ้าน บับเบิ้ลบีนั่งมองเจ้านาย พวงหางส่ายไปมาคล้ายจะแทนคำตอบรับ และนั่นทำให้กิววางใจที่จะร่วมโครงการฝากบ้านไว้กับสุนัขของตน



ใช้เวลาไม่นานรถบีเอ็มคันสวยก็ถึงจุดหมาย ก่อนเวลาที่จะต้องเริ่มรายงานโปรเจคประมาณสิบนาที เขากะเวลาไว้ไม่ผิด กิวมองนาฬิกาแล้วสาวเท้าพาตนเองขึ้นตึกเรียนเพื่อตรงสู่หอประชุมที่เพื่อนสนิททั้งสองต่างก็รอจ้องที่ให้เขาพร้อมอยู่แล้ว แม้ตามปกติที่นั่งประจำของพวกเขาคือใต้ตึกเรียนแต่หากเป็นโอกาสสำคัญอย่างการพรีเซนต์โปรเจคเช่นวันนี้พวกเขาจะนัดแนะกันว่าไม่ต้องรอ ใครถึงแล้วเตรียมตัวกับงานโปรเจคให้เต็มที่มาเจอกันอีกทีก็ตอนที่จัดการเรื่องโปรเจคเสร็จแล้วทีเดียว

“อีกห้าคน”

ทันทีที่ทรุดตัวลงนั่งคนด้านข้างก็เอ่ยเสียงเบาบอกจำนวนเพื่อนร่วมคลาสที่ต่อคิวจนกว่าจะถึงตน กิวพยักหน้ารับ มือแกร่งประคองแบบจำลองของตนที่พร้อมสำหรับการพรีเซนต์

“พัพ วันนี้ขอน้องมาค้างบ้านนะ”

ไม่ใช่ประโยคคำถามแต่เป็นประโยคบอกเล่าให้รับรู้เท่านั้น คนเป็นพี่ชายก็ไม่ถือสาอะไรพยักหน้ารับ กิวมันรู้ว่าเขาไม่ว่าถ้าเพื่อนสนิทจะพาน้องชายเขาไปไหนมาไหนหรือพาไปค้างด้วยเพราะยังไงคนรักกันย่อมอยากจะมีเวลาอยู่ด้วยกันแน่นอนอยู่แล้ว เพียงแค่มาบอกให้สบายใจรับรู้ไว้เท่านั้น

“อ้าว งี้ก็อดไปก๊งเหล้าโต้รุ่งดิ เดี๋ยวพี่กิวจะอดสวีทกับน้องพาย”

รูทเย้าเพื่อนแล้วหัวเราะ คนตัวเล็กสุดในกลุ่มตั้งใจว่าวันนี้จะลากพี่ชายของน้องพายไปซดเหล้าฉลองทำงานเสร็จทันส่งเสียหน่อย แต่พี่กิวเล่นพูดแบบนี้ก็ปิดทางหาเหล้ากินฟรีชัดๆ แต่เขาไม่ซีเรียสหรอกนะความสุขของเพื่อนคนดีอย่างนายรูทไม่ขัดอยู่แล้ว

“มึงก็ไปสวีทกับไอ้พัพสิ” กิวส่งลูกหยอดให้ด้วยรู้ว่าอะไรเป็นอะไร สายตาของพัพที่มองเพื่อนตัวเล็กมันเกินคำว่าเพื่อนไปสักพักหนึ่งแล้วจะมีก็แต่เจ้าตัวนั่นแหละที่ไม่รู้

“โธ่ ไม่ต้องสวีทมากกว่านี้ก็หลงกูจะตายแล้วครับ เนอะคุณภรรยา”

พูดเองหัวเราะเองช่างน่าหมั่นเขี้ยวนักในสายตาของคุณภรรยาคนที่ว่า เจ้าตัวเลยจัดหนักหยิกแก้มนิ่มที่แอบลอบมองอยู่บ่อยครั้งเบาๆโดยไม่พูดตอบอะไร กิวได้ลอบมองคนที่ไม่รู้อะไรเอาเสียเลยกับสายตาของเพื่อนอีกคนที่สื่อออกมาว่า ‘ใครจะเป็นสามีใครจะเป็นภรรยาเดี๋ยวรู้กัน’



การพรีเซนต์งานผ่านไปแบบไม่ยากเท่าที่คิด หลังสิ้นสุดภารกิจประจำวันร่างสูงก็พารถบีเอ็มคันสวยมาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ในหมู่บ้านจัดสรรไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเท่าใดนัก ไม่นานหลังจากที่วางสายโทรศัพท์ร่างของคนที่รออยู่ก็แบกเป้สะพายออกมาจากบ้านเดินตรงมาที่รถของเขา ดูท่าทางน้องคงจะแบกของเล่นไปเล่นกับสัตว์เลี้ยงตัวโปรดที่รออยู่ที่บ้านเต็มที่ดีไม่ดีอาจจะมีพ่วงการบ้านที่เจ้าตัวทำไม่ได้ไปให้เขาสอนด้วยถึงได้พกเป้แทนที่จะเป็นกระเป๋าตังค์กับมือถือเครื่องเดียวแบบที่พกทุกครั้งยามไปบ้านเขา

น้องไม่เคยต้องพกเสื้อผ้าสำหรับค้างคืนหรือของใช้จำเป็นอะไรก็แล้วแต่จากบ้านของตัวเองเพราะที่บ้านของกิวมีของใช้สำหรับน้องอยู่แล้วทั้งเสื้อผ้าสำหรับเที่ยวหรือใส่นอน หมอน ผ้าห่ม เครื่องใช้ส่วนตัวอย่างแปรงสีฟัน ผ้าขนหนู แม้กระทั่งชุดชั้นในบ้านกิวมีเตรียมพร้อมให้น้องอยู่เสมอ ก็บอกแล้วว่าดูแลอย่างดี

“พี่กิวแวะซื้อของลาบหน้าปากซอยก่อนนะครับ เย็นนี้กินอาหารอีสานกัน”

“ชอบจังนะอาหารอีสาน เป็นคนอีสานเหรอเรา” เย้าน้องก่อนเปลี่ยนเกียร์ออกรถ พายชอบกินอาหารเผ็ดประจำยิ่งของโปรดเจ้าตัวอย่างลาบ น้ำตก ส้มตำนี่ต้องมีให้กินตลอดที่มาค้างบ้าน

“เปล่าสักหน่อย นี่อิมพอร์ตจากเกาหลีนะ ที่จริงพายเป็นบอยแบรนด์รู้เปล่า”

“เป็นบอยแบรนด์มั้ยไม่รู้หรอก แต่เป็นเมียพี่อันนี้รู้อยู่แล้ว”

“......ขี้มั่วเหอะ เมียอะไรเขายังเป็นว่าที่”

ไม่คิดว่าคนโตกว่าจะมามุกนี้ พายอึ้งก่อนกระชับเป้ในอ้อมกอดแน่น วงหน้าขาวเนียนมีริ้วแดงด้วยความเขินอายฉายให้เห็น ปกติน้องไม่ใฃ่พวกขี้อายแต่ถ้าเจอคำหยอดเข้าไปแบบไม่ทันตั้งตัวอาการไปไม่เป็นแบบนี้ก็มีมาให้เห็นอยู่เหมือนกัน สารถีรูปงามหัวเราะชอบใจ ฝ่ามือใหญ่ลูบผมนุ่มเบาๆอย่างเอ็นดูในขณะที่อีกข้างก็บังคับพวงมาลัยรถไปด้วย เมื่อถึงหย้าปากซอยบ้านก็ไม่ลืมจะเทียบรถเข้าข้างทางแล้วลงมาซื้อข้าวเย็นตามที่น้องรีเควสไว้



ใช้เวลาไม่นานทั้งรถทั้งคนและกับข้าวก็มาถึงบ้านโดยที่มีสุนัขตัวโตนั่งคอยอยู่บริเวณสนามหญ้าอยู่แล้ว ทันทีที่ได้ยินเสียงรถที่คุ้นเคยมันจึงวิ่งมารอต้อนรับอยู่ไม่ห่าง

“บับเบิ้ลบี คิดถึงจังเลย!”

พอรถหยุดปุ๊บคนที่นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถก็สะพายเป้ก้าวขาลงไปเล่นกับลูกรักของตัวเองทันที กอดฟัดอยู่สักพักก็วิ่งเข้าบ้านทั้งคนทั้งสุนัขทิ้งให้กิวที่เพิ่งล็อครถเสร็จต้องเป็นคนแบกถุงอาหารเข้าบ้าน

ห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ที่ยามปกติจะเงียบเหงาเพราะมีเพียงหนึ่งคนกับหนึ่งตัวเท่านั้นที่ได้ใช้มาบัดนี้กลับมีเสียงหัวเราะและพูดคุยงุ้งงิ้งของพายเพิ่มเข้ามา กิวรู้สึกดีที่ได้ยินเสียงและได้เห็นรอยยิ้มกับของน้องในบ้านที่มีเพียงเขาอยู่อาศัยแบบนี้ ความจริงเขาจะย้ายกลับไปอยู่บ้านใหญ่กับพ่อแม่ของเขาก็ได้ทั้งสะดวกสบายและไม่ต้องเหงาอยู่คนเดียวยามที่ไม่มีน้องหรือเพื่อนมาบ้าน เพียงแต่กิวรู้สึกว่าตนอยากได้เวลาเป็นส่วนตัวอยู่ในตอนนี้จึงเลือกที่จะยังอาศัยอยู่ที่นีแล้วกลับเข้าบ้านใหญ่อาทิตย์ละครั้งหรืออย่างมากก็สองครั้ง บางครั้งก็อดรู้สึกผิดกับคนเป็นพ่อแม่ไม่ได้จึงเลือกที่จะใช้วิธีโทรศัพท์หาวันเว้นวันรายงานการใช้ชีวิตให้พวกท่านสบายใจแทน

“ไม่บอกว่าเป็นเจ้าของจะนึกว่าแม่ลูกกัน... แทบดูไม่ออกว่าไหนคนไหนหมา”

ขาเพรียวพาร่างสูงสมส่วนมานั่งอยู่ข้างน้องที่นั่งหยอกนั่งฟัดกันกับบับเบิ้ลบีตรงโซฟา ความจริงกิวไม่ใช่คนรักสัตว์ ไม่เคยคิดที่จะเลี้ยงสัตว์ทุกประเภทเลยด้วยซ้ำ แต่วันนั้นที่เขาไปเดินเล่นกับน้องที่สวนจตุจักรเจ้าตัวดันไปติดใจกับโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ที่ได้สบตากันเข้า จากที่ตั้งใจไปเดินเล่นเลยได้สัตว์เลี้ยงมาหนึ่งตัว ตอนแรกน้องกะจะเอาไปเลี้ยงที่บ้านแต่เพราะไม่สะดวกเท่าไหร่ผลกรรมจึงตกมาอยู่ที่กิวซึ่งไม่เคยเลี้ยงสัตว์ใดมาก่อนเลยในชีวิต ตอนแรกก็ขยาดแต่เลี้ยงไปเลี้ยงมากลับชอบในความแสนรู้ของมันเข้าซะได้ ตอนนี้บับเบิ้ลบีโตขึ้นมาก มันสูงจนเกือบถึงหน้าขาน้องแล้ว เรียกได้ว่าพอมันจะกระโดดอ้อนน้องทีน้องถึงกับจะล้มหงายหลังได้เลย

“คุณพ่อน้อยใจก็บอกมาครับ อย่าปล่อยน้องบับเบิ้ลบีมาเล่นข้างนอกแบบนี้” ยิ้มกว้างแต่วาจาเฉือดเฉือนนัก ถ้าไม่ใช่คนรักคงโดนกระทืบไปนอนอยู่กับพื้นห้องแล้ว

“คุณแม่ก็มาเก็บน้องหน่อยครับ คงคิดถึงแม่มากเลยออกมาวิ่งเล่นกันใหญ่” อีกคนก็ไม่น้อยหน้า ท่อนแขนแกร่งตวัดไปรัดเอวคนตัวเล็กกว่าให้มานั่งบนตักโดยพ่วงเจ้าบับเบิ้ลบีที่ตอนนี้มาเกาะหน้าขาพาดขาไว้บนตักน้องอีกที

คิ้วเรียวยกขึ้นอย่างรู้ทันว่าคนรักของตนเองต้องการจะสื่ออะไร ใบหน้าคมที่วางเกยอยู่บนไหล่ลาดนั้นยังนิ่งอยู่จะมีก็เพียงมุมปากที่ทำระดับสูงกว่าปกติคล้ายจะพอใจกับคำพูดของตนเองก่อนใช้จมูกโด่งชนเข้ากับแก้มใสคลอเคลียไปมา ท่าทางแบบนั้นทำให้พายรู้สึกเหมือนเวลาบับเบิ้ลบีเอาจมูกมาดุนแก้มตัวเองอยู่ไม่น้อย จากที่บอกว่าเขาเป็นแม่ลูกกับบับเบิ้ลบีต้องบอกว่าพี่กิวต่างหากที่เป็นพ่อของเจ้าตัวโตที่หอบแฮ่กๆบนหน้าขาเขาตอนนี้ท่าทางเวลาอ้อนเหมือนกันไม่มีผิด

พายกัดริมฝีปากตนเองกลั้นรอยยิ้ม รู้สึกถึงจังหวะการเต้นของหัวใจที่พองโตขึ้นจากการออดอ้อนของคนรัก เวลาพี่กิวอยู่กับเขาจะต่างกับเวลาที่อยู่กับคนอื่นเสมอพายรับรู้ได้ตั้งนานแล้ว มันเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ตอนที่พี่จีบเขาใหม่ๆ ความมุ่งมั่นในแบบที่พายไม่เคยเจอ การแสดงออกที่ทำให้พายรู้สึกว่าตนเองสำคัญ สองสิ่งหลักๆที่ไม่เคยเปลี่ยนไปนั้นทำให้คนที่เคยคบแต่ผู้หญิงอย่างพายยอมเปิดใจรับคนปากร้ายใจดีคนนี้เข้ามาในชีวิต ยิ่งคิดถึงเรื่องเก่าๆก็ยิ่งทำให้ยิ้มกว้างขึ้น น้องบีบสันจมูกโด่งที่ยังหาเศษหาเลยกับแกมลามไปยังส่วนอ่อนไหวบริเวณต้นคออย่างหยอกเย้า

“เก็บลูกแล้วต้องเก็บพ่อด้วยมั้ย ลามกตลอด”

“เก็บลูกก่อนเดี๋ยวรู้เลย”

พายหัวเราะกับความยียวนกวนอารมณ์ของคนรัก ร่างบางเกาหัวสุนัขตัวโปรดก่อนปล่อยให้มันนอนลงกับพื้นตามใจชอบแล้วหัวกายไปนั่งคร่อมคนรัก ตาประสานตาสบกันชั่วครู่ก่อนจะถึงคราวที่ริมฝีปากสีชมพูอมส้มจะประกบปิดทับกับความนิ่มหยุ่นของอีกฝ่าย เม้มเบาๆให้เกิดเสียงจุ๊บแต่ไม่ยอมผละออกพร้อมงับฟันซีเล็กลงบนริมฝีปากล่างของอีกฝ่ายในขณะที่แขนเรียวก็เลื่อนไปคล้องกับตันคอคนสูงกว่า

ปากนิ่มเผยอขึ้นรับลิ้นที่ค่อยๆสอดแทรกเข้ามาในปาก ยอมให้สำรวจภายในด้วยความนุ่มนวลเจือความร้อนรุ่ม พายขยับตัวเข้าแนบชิดเสียดสีกับร่างที่รองรับอยู่ด้วยแรงอารมณ์ไม่หยุดที่จะส่งลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัดปล่อยตัวปล่อยใจไปกับจูบอันหอมหวานอย่างเต็มที่เสียจนน้ำใสเชื่อมต่อกันแม้จะผละใบหน้าออกห่างแล้วก็ตาม

“.....สงสัยต้องให้พายเก็บพ่อมันด้วย”

นิ้วโป้งเกลี่ยแก้มใสของคนบนตักแล้วว่าเย้า รสจูบอันหอมหวานที่หมายจะจัดการวคามยียวนของเขากับการเสียดสีร่างกายของน้องมันดันไปกระตุ้นอะไรบางอย่างที่น้องนั่งทับอยู่ให้ตื่นขึ้นมาเสียได้ พายเบิกตากว้างเข้าใจในคำพูดทันทีเมื่อตนก็สัมผัสอกไรบางอย่างที่มันดุนดันผ่านเนื้อผ้าขึ้นมาโดนด้านหลังของเขา เมื่อรู้สึกตัวหน้าใสก็แดงเอาเรื่อ พายแปะมือเข้าที่สองข้างแก้มกร้านแล้วจับให้ไบหน้านั้นส่ายไปมาก่อนส่งจมูกโด่งปะทะกับแก้มกร้านอีกครั้งแล้วยิ้มหวาน ก่อนลุกจากตักอย่างอ้อยอิ่งพร้อมทิ้งไว้เพียงคำพูดที่ทำเอากิวต้องหัวเราะอย่างห้ามไม่อยู่



“อนุญาตให้มีชู้เป็นมือขวาวันนึงแล้วกันนะครับที่รัก”
 
พูดจาน่ารักสมกับเป็นว่าที่เมียหัวหน้าแก๊งค์เสียจริง


จบตอน วันหยุดของหัวหน้า

-------------------------------------------------------------------


สวัสดีค่าตอนสี่มาลงอย่างไว กลัวลืมจะลงค่ะเพราะหลังจากนี้ยังมีพล็อคอีกหลากหลายเรื่องที่อยากจะแต่ง แถมงานหลักงานรองก็มาเต็มสตรีมแบบไม่ให้หายใจกันเลยทีเดียว

มีเรื่องอยากจะทำเยอะแยะแต่ไม่มีเวลาพ่วงความขี้เกียจนี่มันลำบากจริงๆนะคะ // ความขี้เกียจนี่สิแย่สุด
ขอบคุณที่อ่านจนจบตรงนี้ค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2015 13:45:25 โดย ennewiis »

ออฟไลน์ QueenPedGabGab

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
น่ารักมากเลย
อ่านแล้วไม่เครียด ฟิลกู้ดดดด >♥<

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ennewiis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
หัวหน้าแก๊งค์
ตอน ผู้ช่วยของหัวหน้า



ร้านรับซ่อมและขายรถขนาดใหญ่ย่านใจกลางเมืองวันนี้ก็คับคั่งไปด้วยลูกค้ามากหน้าหลายตาเช่นปกติ เสียงเครื่องมือดังคลอกับเสียงเร่งเครื่องยนต์ ควันดำสลับขาวจากกระบวนการเผาไหม้มีลอยมาให้เห็นเป็นระยะ คนที่เพิ่งขับมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่มาจอดนิ่งอยู่ข้างประตูเลื่อนมองภาพวุ่นวายด้วยความคุ้นชิน

เครื่องยนต์ดับลงพร้อมขาเรียวที่ตวัดลงจากรถ ร่างผอมเพรียวส่วนสูงเกือบ 170 เซนติเมตรจัดการถอดหมวกรวมไปถึงเสื้อคุมตัวเก่งของตนรวบไว้ที่แขน วันนี้พี่พัพเอามินิออกไปรับเพื่อนสนิทที่ดูท่าใกล้จะได้เลื่อนตำแหน่งมาเป็นพี่สะใภ้ของพายในเร็ววันก่อน แล้วทิ้งพายอาร์คันสวยสุดหวงของตนให้น้องใช้โดยสารแทน

"น้องพาย น้องพายยยยย"

พายรู้สึกเหมือนมีลมวูบนึงพัดมาแล้วร่างของตนก็โดนรวบเข้าไปกอดแน่น เสียงห้าวแต่เจือหวานในน้ำเสียงกับกลิ่นกายที่คุ้นเคยทำให้พายรู้ว่าคนที่ทำการอุกอาจกับแฟนหัวหน้าแก๊งค์คือใคร

"พี่รูท พี่รูททททท สวัสดีครับผ้ม~" พูดจายอกย้อนแล้วกอดตอบอีกฝ่ายโยกไปมา ช่างน่ารักจนรูทอดไม่ได้ต้องยีหัวสีชมพูสตอเบอรี่ของอีกฝ่ายจนยุ่ง

"สวัสดีครับผม น้องพายน่ารักจังไม่เหมือนพี่ชาย เหี๊ยเหี้ย!"

จงใจพูดเสียงดังให้คนที่เดินออกมาในชุดเอี๊ยมหมีแบบที่ช่างชอบใส่พร้อมถือไขควงอันใหญ่ได้ยิน คิ้วเข้มเลิกขึ้นขณะมองใบหน้าด้านข้างของคนที่จู่ๆมาพาลใส่เขาให้น้องฟัง ไม่พาลเปล่าหันมาส่งสายตาค้อนให้เสียอีก ไอ้คนน้องนี่ก็น่ารักไม่ช่วยแก้ตัวแถมยังหัวเราะที่พี่มันโดนด่า


ก็แค่ขอรางวัลที่ไปรับมันถึงบ้านแค่นี้ กูเหี้ยขนาดนั้นเลยเหรอวะ?


"พี่รูทอย่าว่าพี่ชายพายสิ ว่ามากๆโดนลากลงน้ำไม่รู้ด้วยนะ"

"เดี๋ยวพี่ชิงโยนไก่ให้มันก่อนมันจะได้ไม่มาลากพี่" ว่าแล้วก็หัวเราะร่าในความฉลาดของตัวเอง ถ้ามันจะลากกูกูก็จะโยนไก่ใส่หัวมันก่อนเลย วะฮะฮ่า

"เดี๋ยวกูจะลากคนโยนไก่ก่อนนี่แหละ ไป ไปช่วยกูทำรถต่อ มัวมายืนเล่นฉากเลสเบี้ยนเดี๋ยวก็ไม่เสร็จพอดี"

"เลสเบี้ยนบ้านป้ามึง กูเป็นผู้ชาย ผู้ชายเข้าใจมั้ย!? "

ด่าพี่น้องในขณะที่มือยังลูบหัวน้องน้อยพร้อมทำเสียง 'โอ๋ๆ' ไปด้วยโดยที่พายได้แต่หัวเราะไปกับการต่อปากต่อคำที่มักจะเห็นได้ตลอดจากสองคนนี้ ก็ขนาดกับพายตัวโตมันยังไม่ค่อยเถียงด้วยเลยมันกลัวแพ้แต่กับพี่รูทนี่เถียงเอาๆ สงสัยลูกในปากจะร้องหาแม่

"พาย"

พายหันไปมองตามเสียงเรียกจึงพบกับว่าที่วิศวกรในคราบช่างชุดหมีแล้วยิ้มกว้าง คนตัวเล็กชอบเห็นแฟนตัวเองใส่ชุดหมีลงมือซ่อมรถของลูกค้ามาก ไม่ใช่ว่าราศีเจ้าของธุรกิจไม่จับนะ แต่มันดูเท่ห์และทะมัดทะแมนมากกว่าปกติก็เท่านั้น แถมหัวยุ่งๆกับหน้าเปื้อนเขม่าก็ดูเข้ากันสุดๆ

ร้านซ่อมรถแห่งนี้เป็นของขวัญชิ้นใหญ่ชิ้นสุดท้ายที่พ่อแม่ของชายหนุ่มยกให้บริหารจัดการด้วยตัวเองเนื่องในโอกาสที่กิวกลับมาตั้งใจเรียนและสอบเข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์แบบที่พ่อแม่ต้องการได้ จึงสามารถพูดแบบไม่อายปากเลยว่าเงินที่กิวมีใช้และเผื่อแผ่ให้น้องในทุกวันนี้เป็นเพราะธุรกิจส่วนตัวไม่ใช่แบมือขอพ่อแม่แต่อย่างใด

"พี่กิวหน้าเปื้อน" บอกแล้วชี้ที่แก้มตัวเองบริเวณเดียวกับที่ติดอยู่บนแก้มของคนตรงหน้า

"เช็ดให้หน่อย"

พูดแล้วยื่นหน้ามามองใกล้ๆ ท่าทางแบบที่แถวบ้านพายเรียกว่าอ้อน ทำหน้ารอซะน่ารักจนคนตัวเล็กใจอ่อนยอมเดินไปเช็ดหน้าให้แต่โดยดี นิ้วโป้งประดับแหวนวงใหญ่ค่อยๆเช็ดรอยเขม่าควันออกให้จนหมดแบบไม่แคร์สายตาดุๆเวลาที่ตนออกแรงบี้แก้มอีกฝ่าย

"แกล้งพี่มากๆเดี๋ยวจะโดน"

"จะฟ้องพี่พัพ"

"มึงจะทำอะไรทำไปเลยกิว" ดูท่าตัวช่วยจะไม่อยากช่วยเท่าไหร่ เห็นดีเห็นงามกับเพื่อนเสียอย่างนั้น

"พี่พัพ! โหยเคือง" เง้างอนได้น่ากลัวขนาดที่พัพต้องอมยิ้ม ร่างสูงขยี้หัวน้องน้อยก่อนลากคอคนที่เอาแต่จะอู้งานกลับไปประจำตำแหน่งรถคันที่ตนต้องลงมือซ่อม



อย่างที่รู้ว่าร้านนี้พ่อแม่ยกให้กิวเป็นคนบริหารจัดการ ดังนั้นจะให้เลือกคนสุ่มสี่สุ่มห้ามาทำก็เห็นจะไม่ได้ แม้จะมีลูกจ้างที่ทำงานตั้งแต่ก่อนที่กิวจะมาบริหารแต่ยังไงเสียหน้าที่จัดการรถคันสำคัญสู้เอาคนที่รู้ใจมีสไตล์และมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องการเงินเด็ดขาดอย่างเพื่อนมาช่วยงานคงจะดีกว่า

ซึ่งแน่นอนว่าเพื่อนสนิททั้งสองแถมอีกคนยังควบตำแหน่งเพื่อนเขยย่อมติดอันดับแรกๆของคนที่กิวจะเลือก แถมแต่ละคนยังมีฝีไม้ลายมือจากการซ่อมรถของตัวเองอยู่แล้วไม่ต้องห่วงเรื่องจะทำรถคนอื่นพังแน่นอน และการมาช่วยทำงานย่อมมีค่าจ้างให้แม้เพื่อนตัวดีทั้งสองจะรวยถึงขนาดไม่ต้องการก็เถอะ แต่ในเมื่อเขาพูดแล้วว่าจะให้ก็ต้องทำตามคำพูด

และนอกจากจะมีเพื่อนมาช่วยงาน บางครั้งบางคราวหากน้องอารมณ์ดีเหมือนวันนี้กิวก็จะมีพนักงานพิเศษมาช่วยเติมพลังให้ชื่นใจทั้งวัน

"พี่กิวให้พายทำคันไหนเหรอ? อ้ะ พี่พล พี่หมี่ พี่นัน สวัสดีครับ!"

เจ้าตัวยุ่งเดินเกาะชายชุดหมีของคนรักต้อยๆ ตากลมวาวน้ำมองไปรอบร้านพลางเอ่ยทักทายคนนั้นคนนี้ตามประสาคนรู้จักกัน เห็นแต่งตัวแรงพูดจาขวางโลกแต่ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนพายก็เป็นที่รักของทุกคน

"มีคนทำทุกคันแล้ว มาช่วยพี่ดีกว่า"

"อีกแล้ว? มาทีไรก็ช่วยพี่กิวตลอดเลย อยากทำเองบ้าง" ทำหน้างอใส่แผ่นหลังแกร่งอย่างขัดใจ

"ไม่อยากช่วยพี่ว่างั้น?"

"ก็เปล่า... อย่ามาทำหน้าน้อยใจแบบนั้นนะ"

น้อยใจแบบนั้นคือน้อยใจแบบไหนกิวก็ไม่เข้าใจ เขามั่นใจว่าเขาหันมามองน้องด้วยสีหน้าที่ปกติมากแต่ถ้าน้องบอกว่าเขาน้อยใจเขาก็จะไม่เถียง



รถคันที่กิวรับหน้าที่วันนี้คือรถสปอร์ตคันสวยของลูกชายคนใหญ่คนโตประจำท้องถิ่น อาการหลักของเจ้านี่คือเกียร์ค้างทั้งที่เพิ่งถอยมาได้ไม่เท่าไหร่ ความจริงการจัดการไม่ยากนักจะให้คนอื่นดูแลก็ได้แต่เพื่อความน่าเชื่อถือที่จะสร้างชื่อต่อไปในอนาคตว่าที่วิศวกรอย่างกิวจึงเลือกจะลงมือทำเองกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น

"ขอไขควงเล็กหน่อยครับ"

"สอง สาม สี่ เอากี่แฉกดีครับ?" ไม่ว่าเปล่าเอามาถือโชว์เสียเหมือนพรีเซนเตอร์เครื่องสำอางค์ที่เคยเห็นตามโฆษณา กิวยิ้มพร้อมตอบรับว่า 'สองครับ' ก่อนรับไขควงที่ตนต้องการมาตัดการกับงานตรงหน้าต่อ

"ไขควง"

"กูไม่ให้ มีมือมีตีนก็มาหยิบเอง"

"ถ้ากูพลาดไปหยิบไขควงมึงแทนก็อย่ามาร้องละกัน"

"ไอ้เหี้ยพัพ! ไอ้:฿(@"-);"/&"

พายหัวเราะลั่นกับบทสนทนาของว่าที่คู่รักที่ดูก็รู้ว่าพี่พัพอยากจะเลียนแบบบ้างแต่พี่รูทกลับไม่อยากเล่นด้วย ท่าทางกลับไปแขนพี่พัพอาจจะมีรอยสวยๆประทับไว้เพราะเจอฝ่ามืออรหันต์เข้าไปหลายทีก็เป็นได้



"ป๊าครับหันมาเช็ดเหงื่อหน่อย”

ผ้าขนหนูผืนนิ่มที่กิวฝากไว้บนตักน้องถูกมือเล็กหยิบมาซับแก้มกร้านชื่นเหงื่อเบาๆ คนตัวโตกว่าไม่วายกุมมือนิ่มแล้วแนบหน้าเข้ากับผืนผ้าส่งผ่านความอบอุ่นของแก้มกับมือของพาย น้องหัวเราะเสียงใสกับการอ้อนแบบไม่ใช้คำพูดของเขา แถมใจดียอมให้ขอกำลังใจอยู่แบบนั้นก่อนจะยื่นขวดน้ำเย็นที่มีหยดน้ำเกาะพราวเพราะอากาศที่ค่อนข้างร้อนในอู่ซ่อมรถ

“อะ รดน้ำด้วยจะได้โตไวๆ”

“ประสาท ไม่ใช่ต้นไม้”

เสียงเข้มตอบกลับพลางขยี้หัวทุยของผู้ช่วยจำเป็นที่ยิ้มร่าให้ ทั้งเช็ดหน้าทั้งป้อนน้ำให้ก็ชื่นใจอยู่หรอก แต่การเอาขวดน้ำมาสะบัดใส่นี้ท่าทางอยากจะก่อกวนมากกว่าอยากจะช่วยเสียแล้ว แถมเจ้าตัวดียังมาบ่นงุ้งงิ้งที่โดนมือเปื้อนคราบมาโดนทรงผมที่เจ้าตัวบรรจงตัดแล้วย้อมสีซะสดใสของตนอีก เห็นแล้วเกิดอารมณ์หมั่นเขี้ยวอยากจะจับไปย้อมสีดำคืนเสียให้เข็ด จะว่าไปไรผมน้องก็ชื้นเหงื่อไม่น้อย กิวคงได้มีแพลนติดแอร์รอบอู่ซ่อมไม่ก็สร้างออฟฟิศเล็กๆให้น้องน้อยมานั่งตากแอร์ให้กำลังใจแทนมานั่งใกล้ๆแต่ทนร้อนแบบนี้

“หิวมั้ยเดี๋ยวให้พี่หมี่ไปซื้อข้าวให้”

“ยังไม่หิวเลย ไว้รอป๊าทำเสร็จค่อยกินข้าวกัน”

“ต้องกินยาไม่ใช่?” กิวหมายถึงยาแก้โรคกระเพาะของน้อง เพราะแต่ก่อนเจ้าตัวดีไม่ค่อยชอบกินข้าวให้ตรงเวลาสักเท่าไหร่ เลยโดนโรคกระเพาะเล่นงานเอาเสียเป็นลม ร้อนถึงเขานี่แหละที่ต้องพาน้องไปโรงพยาบาล

“เอาหน่า ป๊ากิวอย่าบ่นดิ บ่นมากแก่เร็วนะ”


แล้วที่บ่นนี่เพราะใครวะ?


ไม่ต่อความยาวสาวความยืดให้น้องต้องพาลอารมณ์เสีย กิวส่ายหัวในความดื้อดึงแล้วเข้าไปจัดการงานของตัวเองต่อ อยากจะรีบทำให้เสร็จไวๆ ยิ่งไวเท่าไหร่น้องจะได้กินข้าวเสียที แต่อากาศนี่ก็ร้อนจังเว้ย นั่งทำแล้วอึดอัดจนต้องเข้าๆออกมาให้น้องเช็ดหน้าเช็ดตาอยู่หลายรอบ บางครั้งก็สลับมาเช็ดหน้าให้น้องบ้างเมื่อเห็นว่าเหงื่อเริ่มไหลซึมบนหน้าผากเนียนน่ากดจมูกนั่น เห็นแล้วก็สงสารหน้าขาวๆเริ่มแดงเพราะความร้อนทั้งที่อยู่ในอู่ซ่อมรถสภาพกลับเหมือนน้องไปวิ่งผลัดในงานกีฬาสีมา

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมาการซ่อมเกียร์รถคันงามก็เสร็จสิ้น แอบหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจ รถเหี้ยอะไรส่วนประกอบหยุมหยิ๋มชิบหาย พอทำจนเสร็จก็หันไปแท๊กมือกับคนตัวขาวที่นั่งอมยิ้มแกว่างขารออยู่บนที่วางเครื่องมือช่างทั้งหลายแหล เหนื่อยแทบตายแต่พอเจอรอยยิ้มคนๆนี้เข้าไปความเหนื่อยก็เหมือนหายไปเป็นปลิดทิ้ง

กิวเช็ดมือกับผ้าที่น้องยื่นมาให้แล้วจัดการโอบคนตัวเล็กกว่าให้เข้ามากอดทั้งที่ยังนั่งอยู่ ดีหน่อยที่พายไม่โวยวายแถมยังโอบตอบเขาอีก ทั้งที่ร่างกายจะมีแต่เหงื่อน้องกลับไม่ได้รังเกียจหรือผลักไสสำหรับกิวการกระทำเล็กน้อยนั้นเป็นเหมือนรางวัลและการให้กำลังใจแสนสำคัญของเขา ฝ่ามืออุ่นลูบหัวกลมที่วางเกยบนไหล่แล้วหอมกลุ่มผมนุ่มย้ำหลายๆทีจนตุ๊กตาในอ้อมกอดหัวเราะร่าแม้ร่างกายจะมีเหงื่อแต่กลิ่นกายก็ไม่ได้เยอะจนน่ารังเกียจอาจเพราะโคโลญจน์กลิ่นประจำตัวที่น้องเลือกให้ช่วยได้เยอะก็ได้

 “ป๊ากิว วันนี้พายเป็นผู้ช่วยที่ดีมั้ย?”

คำถามประจำวันมาอีกแล้ว วันไหนที่น้องมานั่งรอ มาป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆพอกิวเสร็จงานน้องจะถามคำถามนี้เสมอ มองนัยน์ตากลมสีน้ำตาลเข้มก็รู้ว่าเจ้าตัวคาดหวังในคำตอบมาก และแม้น้องจะแค่มานั่งเช็ดหน้า ป้อนน้ำ เดินไปเดินมาเล่นกับคนนู้นคนนี้บ้างแต่แค่เห็นหน้าแล้วทำงานได้ถือว่าน้องช่วยงานได้มาก

“มากอ่ะ”

“งั้นชมหน่อยสิ” ออดอ้อนเสียงเบาตัวก็โยกไปด้วย ดูท่าวันนี้จะสิ้นฤทธิ์เพราะอากาศร้อนไปเสียแล้วถึงได้อ้อนแบบนี้

กิวกระชับกอดพร้อมโยกตัวไปด้วยตามน้องเหมือนเวลาคุณแม่กล่อมลูกน้อย พรมจูบแก้มใสละไปถึงใบหูให้พายจักจี้เล่น ก่อนจะกระซิบคำชมที่ทำเอาแก้มเนียนแดงปลั่งแถมยังต้องหัวเราะเสียงดังที่สุดของวันด้วยความชอบใจ



“เก่งแบบนี้สนใจมาช่วยงานพี่ทั้งชีวิตมั้ยครับ ที่รัก?”


พูดแบบนี้ไม่ยอมช่วยก็ไม่ใช่น้องพายแฟนพี่กิวแล้ว!


จบตอน ผู้ช่วยของหัวหน้า

-------------------------------------------------------------------


สวัสดีค่ะ หายไปอาทิตย์กับอีกสามวันจะมีใครรอพี่กิวกับน้องพายอยู่ไหมนะ? :katai2-1:
ตอนนี้แอบมีคู่ของพัพรูทมาให้เห็น เขาพัฒนากันมากขึ้นแล้วนะ!

ตอนนี้ตั้งใจว่าจะแต่งเรื่องของสองคู่นี้เป็นเรื่องยาวค่ะ ตั้งแต่ที่พี่กิวยังเป็นหัวหน้าแก๊งค์เต็มตัวจนมาเจอน้อง อยากจะรู้ว่าคนพูดน้อยต่อยหนักแบบพี่กิวจะจีบน้องยังไง และก็เรื่องราวของคู่เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออย่างพัพกับรูท พัพไปปิ๊งรูทยังไงนะแล้วคนกวนตีนสองคนมาเจอกันจะเกิดอะไรขึ้น? ตอนนี้เลยนั่งคิดๆพล็อตทั้งหลายแหล่อยู่ค่ะ เรียกได้ว่าเป็นสปินออฟของหัวหน้าแก๊งค์จะได้มั้ยนะ? (ทั้งที่เรื่องสั้นนี้ควรจะเป็นสปินออฟไม่ก็ภาคพิเศษแท้ๆ ขอโทษค่า) :mew2:

ปิดท้ายตอนนี้ด้วยคำขอบคุณสำหรับทุกคนที่เข้ามาอ่านและขอบคุณทุกๆคอนเม้นค่ะ ตอนนี้ยังไม่คุ้นกับระบบบอร์ดเท่าไหร่เลยอาจจะไม่ได้ตอบเม้น จะพยายามเล่นให้ชินไวๆแล้วมาคุยกันนะคะ ขอบคุณมากจริงๆค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-03-2015 13:43:15 โดย ennewiis »

ออฟไลน์ mapreaw

  • เคยคิดว่า "รักแท้มีอยู่จริง"
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 615
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
หวานกันจริงจิ๊ง ชอบพัพกับรูทอ่ะกัดกันมันส์ดี o18

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
เมื่อไหร่จะได้เป็นเมียจริงๆ
หวานมากกกกกน่ารักมากกกกกกก
รูทไม่รู้หรือแกล้งไม่รู้เนี่ย

ออฟไลน์ Fellina

  • mgKapleGD
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
ชอบจังเลยค่ะ
ละมุนเอามากๆ

พายกับป๊ากิว><
แต่คิดว่าถ้าเป็น ป๋ากิว จะเหมาะกว่าป๊านะคะ ^^

ออฟไลน์ himecrazy

  • Alon€ In th€ DarK
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 :-[ อ่านไปยิ้มไปเรื่องนี้น่ารักมากค่ะ :L1: :L2:

ออฟไลน์ ennewiis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
หัวหน้าแก๊งค์
ตอน ครอบครัวของน้องกับหัวหน้า



นาฬิกาปลุกเรือนเล็กบริเวณหัวนอนแผดเสียงทำลายโสดประสาท ตั้งใจทำหน้าที่ปลุกคนที่ยังหลับใหลอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ แต่ไม่ว่ามันจะร้องดังขนาดไหนคนที่ยังมีความสุขกับห้วงนิทราก็ไม่มีวี่แววว่าจะตื่นมาปิดมันแม้แต่น้อย สำหรับคนตื่นยากแถมยังเป็นโรคความดันต่ำช่วงเช้าแค่เสียงแค่นี้ไม่สามารถทำอะไรเขาได้หรอก

“ตากิว ตื่นได้แล้วลูก เสียงนาฬิกาดังไปจนถึงข้างล่างแล้ว”

กลับเป็นเสียงเคาะประตูจากมารดาผู้ให้กำเนิดต่างหากที่ทำให้ผู้ที่นอนอุตุอยู่ใต้ผ้าห่มลืมตาตื่นมาใช้ชีวิตในอีกวัน กิวขยี้หัวที่ไร้การจัดทรงจนยุ่งไม่เป็นท่าแล้วตอบรับในลำคอ ไม่ลืมจะปิดเสียงนาฬิกาที่ยังทำหน้าที่ได้ดีมากเกินเสียด้วย



“สวัสดีครับพ่อ แม่” ลูกชายคนเดียวของตระกูลอัครเดชไพศาลสกุลเดินงัวเงียมาประจำที่โต๊ะอาหาร กลิ่นซุปไก่หอมชวนน้ำลายสอกระตุ้นสมองที่ยังมึนงงให้ได้สติขึ้น

“กลับมาก็นอนยาวเลยนะเจ้ากิว งานเยอะหรือกวนน้องมากไปห้ะเรา”

คุณการุณย์เอ่ยเย้าลูกชาย เขารู้เรื่องความสัมพันธ์ของกิวและพายมาตลอด แม้ยามแรกจะรับไม่ได้เพราะกลัวเสียหน้าด้วยตระกูลของตนก็เป็นถึงคนใหญ่คนโต มีธุรกิจที่สร้างชื่อมากมายกลับต้องมาบอกกับสังคมว่าสะใภ้ในอนาคตเป็นผู้ชาย แต่เมื่อเห็นแล้วว่าลูกชายที่เคยสำมะเลเทเมากลับมาเป็นผู้เป็นคนได้ขนาดนี้เขาก็ต้องยอมรับว่าพ่อแม่เลี้ยงลูกได้แค่ร่างกายความคิดและการตัดสินใจลูกต้องเป็นคนเลือกเอง

“คุณก็ไปแซว... กวนน้องมากระวังน้องไม่ยอมมาบ้านนะรู้มั้ย”

“แม่จะช่วยผมก็ช่วยให้สุดทางสิครับ...” คุณหญิงประภัสสรหัวเราะกับคำแง่งอนของลูกชาย โตจนป่านนี้ยังมาทำหน้ามุ่ยใส่อีก อย่าไปบอกใครเขาเชียวว่าตานี่เคยเกรกมะเหรกเกเรขนาดไหน!

“ว่าแต่งานที่พ่อเสนอให้เราว่าไงล่ะ สนใจไหม พ่อจะได้ไปบอกคุณทวีให้ว่าเราจะไปฝึกงานกับเขา”

“สนใจครับ สองคนนั้นก็บอกว่าสนใจ ถึงจะคนละไซต์ก็ไม่มีปัญหา”

เพราะครึ่งปีสุดท้ายเด็กวิศวะอย่างพวกเขาก็ต้องไปฝึกงานกับสถานที่จริง ซึ่งในวงการธุรกิจแล้วหุ้นส่วนของคุณการุณย์ก็มีไม่น้อยที่ทำงานด้านออกแบบก่อสร้าง คุณการุณย์จึงเห็นโอกาสที่จะเอาลูกชายตัวเองและเพื่อนร่วมกลุ่มของลูกชายไปฝึกงานใกล้หูใกล้ตาเสียเลย ไม่ใช่ว่ากลัวลูกจะเหลวไหลอีก แต่เพราะอยากจะชมฝีมือของเด็กๆพวกนี้เผื่ออนาคตจะช่วยหาช่องทางการทำงานให้บ้าง

“ยังไงก็เตรียมเอกสารไว้แล้วกัน พ่อจะบอกทางคุณทวีให้ก่อน”

“ขอบคุณครับพ่อ”

“แล้วน้องล่ะกิว แม่อยากให้น้องมาฝึกงานกับแม่นะ ตลาดธุรกิจของแม่ยังขาดคนมีฝีมืออยู่เลย”

คุณหญิงประภัสสรมีธุรกิจอัญมณีเป็นของตนเอง ทั้งออกแบบ ขายส่งออกนอกและขายในไทย ซึ่งเธอก็รู้ว่าลูกชายคนเดียวของเธอไม่มีทางสืบทอดธุรกิจที่เจ้าตัวไม่มีความสนใจแน่นอน แต่กับเด็กอีกคนที่เธอมองว่าเป็นลูกชายแท้ๆและรับเข้ามาเป็นหนึ่งในครอบครัวแล้วอย่างพายนั้น ดูก็รู้ว่ามีพรสวรรค์ เพราะการแต่งตัวและของใช้แต่ละอย่างที่เจ้าตัวใช้และเลือกแม้จะมีขัดหูขัดตาแต่หากจะมองด้านแฟชั่นและความแปลกใหม่นั้นช่างโดนจริตเธอยิ่งนัก

“น้องยังอีกตั้งสองปีนะครับแม่ รีบจองตัวเลยเหรอ”

“ก็เหมือนที่แกจองตัวเขาตั้งแต่ยังไม่เข้าปีหนึ่งนั่นแหละย่ะ”

คุณการุณย์ผิวปากหวือเมื่อได้ยินภรรยาตัวเองตอกกลับลูกชายเช่นนั้น กิวได้แต่พยักหน้ารับว่าครับๆแล้วก้มหน้าก้มตาตักซุปฝีมือคุณแม่เข้าปาก เห็นปกติเรียกว่าลูก พูดจาสุภาพแต่อย่าไปกวนเข้าแล้วกัน คุณหญิงคนนี้ไม่ยอมน้อยหน้าที่จะตอกกลับหน้าหงายเหมือนที่ลูกชายตัวเองโดนเมื่อครู่



บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเคล้าเสียงพูดคุยที่เมื่อนานมาแล้วไม่เคยเกิดขึ้นยามนี้กลับมีให้เห็นและได้ยินอยู่ทุกวัน จากที่แต่ก่อนมีเพียงความเงียบ เสียงช้อนกระทบขอบจานและเสียงเปิดหนังสือพิมพ์ อาหารก็เป็นเพียงอาหารอุ่นง่ายๆที่สั่งให้คนรับใช้จัดหามา ยามนี้คุณหญิงของบ้านจะเป็นคนลงมือทำอาหารเช้าด้วยตัวเอง ทุกคนเริ่มทานข้าวด้วยกัน พูดคุยกัน แม้จะเป็นเรื่องไร้สาระ แบบที่แต่ก่อนจะให้มาคุยหยอกกันแบบนี้ไม่มีเสียหรอก มีแต่มองหน้าแล้วเมินไม่สนใจเท่านั้น แม้แต่คำทักทายหรือร่วมโต๊ะอาหารในยามเช้าแทบจะไม่มี พอมาเห็นภาพตอนนี้เธอก็เข้าใจแล้ว




เงินใช้ซื้อความสุขไม่ได้แต่ความรักความเข้าใจของคนในครอบครัวต่างหากที่ทำให้ชีวิตมีความสุข





ตู้อบส่งเสียงร้องเมื่อถึงเวลาตามที่ตั้งไว้ บราวนี่รสชอคโกแลตกลิ่นหอมหวานฝีมือลูกชายคนเล็กประจำบ้านวิรุฬห์ธนกิจออกมาได้รูปทรงน่ารับประทานนัก เจ้าตัวทำหน้าดีใจยกใหญ่ขณะเคลื่อนถาดออกจากเตา ในหัวก็จัดสรรจำนวนชิ้นและขนาดโดยการคำนวณจากจำนวนคนที่เจ้าตัวตั้งใจจะมอบให้ ไม่รู้หรอกว่าจะอร่อยมั้ยแต่ทำตามสูตรของม๊าแล้วลดน้ำตาลลง ในเมื่อพายว่าอร่อยมันก็ต้องอร่อยแหละน่ะ!


“หอม...” พัพเดินหัวฟูพลางทำจมูกฟุดฟิดเข้ามาในห้องครัว เขาตามกลิ่นหอมของชอคโกแลตที่ลอยไปกระทบจมูกขณะที่กำลังนอนอยู่ ไม่รู้หรอกว่าเป็นขนมอะไร แต่รู้ว่าหอมแล้วเป็นฝีมือของคนในบ้านไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ต้องอร่อยทั้งนั้น

“อ้ะ พี่พัพม๊าอยู่ข้างนอกมั้ย? พายจะให้ม๊าชิม”

"ทำงานอยู่ กินนะ"

"อย่าเพิ่งสิ! พายยังไม่ได้แบ่งเลย" ตีหลังมือพี่ชายที่ยื่นมาดังเพี๊ยะแล้วเดินถือถาดไปอีกด้านของห้องครัวไม่สนสายตาเอาเรื่องที่จ้องตามมา พี่พัพก็เป็นแบบนี้แหละชอบทำตาดุใส่แต่ไม่เห็นกล้าทำอะไรน้องสักที

ถุงขนมสำเร็จรูปอย่างง่ายของผู้เป็นแม่ถูกพายแอบเอามาใช้ใส่ส่วนแบ่งของแต่ละคนที่เจ้าตัวตั้งใจไว้ ไม่ลืมที่จะเหลือไว้ให้พี่ชายของตัวเองมากหน่อยเพราะรู้ว่ารายนั้นชอบของหวานที่ไม่หวานจนเกินพอดีอย่างบราวนี่มาก ก่อนจะเอาเข้าตู้อบคาไว้เพื่อรักษาอุณหภูมิให้คงตัว

“หนึ่ง สอง สาม สี่... ครบแล้ว บับเบิ้ลบีกินไม่ได้ให้พี่พัพแทนแล้วกัน”

คนเป็นพี่คิ้วกระตุกอีกครั้งเมื่อได้ฟังคำบ่นพึมพำจากน้องชาย เพิ่งจะรู้ก็ตอนนี้แหละว่ามันนับลำดับหมาสำคัญกว่าพี่...



   “ม๊าครับม๊า ลองชิมขนมฝีมือลูกชายสุดหล่อหน่อยสิครับ”

   ร่างของลูกชายถลามานั่งกับพื้นข้างโต๊ะรับแขกพร้อมถาดใส่ขนมกลิ่นหอมชวนรับประทาน คุณอรอนงค์ละสายตาจากเอกสารสี่ห้าแผ่นที่เอากลับมาตรวจเช็คที่บ้านมองขนมสีน้ำตาลเข้มที่ลูกชายทำมาให้ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าที่แม้จะมีร่องรอยของอายุแต่ยังคงความสวยไว้เหมือนสมัยสาวๆ เอกสารถูกรวบแล้ววางกองไว้ข้างตัว ถึงเวลาที่เธอจะต้องให้ความสำคัญกับลูกมากกว่างานแล้ว

   “ไหนดูสิลูกชายม๊าทำอะไร”

   “บราวนี่ครับผม สูตรม๊าแต่ลดน้ำตาลสามช้อน!” ว่าแล้วก็ตัดบราวนี่ชิ้นพอดีคำให้ผู้เป็นแม่ มีบริการเสริมเป็นป้อนจากมือเพิ่มความอร่อยและชื่นใจให้ด้วย “อร่อยมั้ยครับ?” แถมบริการสบตาด้วยความตื่นเต้นเต็มที่ซึ่งน่ารักน่าชังมากในสายตาคนเป็นแม่

   “อร่อยมาก มีพรสวรรค์ทั้งทำขนมทั้งออกแบบเลยนะเนี่ย” หยิกแก้มนิ่มอย่างเบามือ ไม่ใช่แค่แกล้งยอลูกชายตัวเองแต่อรอนงค์รู้สึกว่าบราวนี่ฝีมือพายอร่อยมากจริงๆ

   “ม๊าอย่าไปยอมันมาก แค่นี้มันก็หลงตัวเองจะตายแล้ว”

   “พี่พัพอีกแล้วนะ!”

   พายมองค้อนพี่ชายที่นั่งอยู่ข้างม๊า ผู้เป็นแม่หัวเราะกับความช่างแกล้งของพัพและความไม่ยอมใครของพาย แต่ถึงจะงอนผู้เป็นพี่ชายมือก็ยังส่งบราวนี่ชิ้นโตตรงเข้าสู่ปากอีกฝ่ายอยู่ดีแล้วเจ้าพัพก็ยังให้รางวัลด้วยการยีเส้นไหมสีชมพูแปลกตาของน้องเป็นคำขอบคุณพ่วงคำชมด้วย ลูกชายทั้งสองของเธอเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่ยังเล็ก ถึงแม้จะดูเหมือนตีกันทุกเมื่อแต่ความจริงแล้วพัพทั้งรักทั้งหวงน้องอย่างกับอะไรดีและพายเองก็รักพี่ชายมากทำให้ทั้งสองคนไม่เคยทะเลาะกันแบบจริงจังเลยสักครั้ง

   หลังจากที่สามีซึ่งเป็นหัวเรียวหัวแรงเสียไปด้วยอุบัติเหตตั้งแต่พายเพิ่งอยู่อนุบาลสาม เธอต้องขึ้นเป็นประธานบริษัทเบเกอรี่ชั้นนำและต้องทำหน้าที่ทุกอย่างแทนผู้เป็นสามีทำให้ไม่มีเวลาเลี้ยงดูลูกน้อยเท่าใดนัก แต่พัพผู้เป็นพี่ชายก็ช่วยเธอได้มาก ยามที่เธอต้องฝากลูกไว้ที่บ้านคุณพ่อคุณแม่ของเธอก็ได้พัพที่อยู่ในวัยประถมนั่นแหละที่คอยช่วยเลี้ยงพายตลอด พัพเปรียบเสมือนคุณพ่อคนที่สองของน้องเลยก็ว่าได้ ยิ่งกว่านั้นตอนนี้ยังมีกิว เด็กหนุ่มท่าทางเกเรแต่เนื้อแท้แล้วเป็นคนดีอีกคนที่มาช่วยดูแล

   “จริงสิ พัพเราจะไปฝึกงานกับตากิวใช่ไหมลูก?”

   “ครับม๊า ที่ไซต์งานเพื่อนคุณอาการุณย์” ว่าทั้งที่เอียงหน้าให้น้องเอาเศษบราวนี่ที่ติดขอบปากออกให้ ว่าน้องแต่ไม่วายอ้อนน้องจริงๆลูกชายคนโตคนนี้ คุณอรอนงค์พยักหน้ารับแล้วหันไปถามทางฝ่ายลูกชายคนเล็ก

   “แล้วตัวเล็กล่ะหืม? จะไปฝึกงานที่บริษัทคุณหญิงประภัสสรหรือกับม๊าดีล่ะ?”

   เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายมาทาบทามให้ลูกชายไปลองฝึกงานกับบริษัทอัญมณีของตนอยู่ แม้ตนจะมีบริษัทที่รอให้มาสืบทอดแต่อย่างไรเสียความต้องการของลูกก็มาเป็นอันดับหนึ่งอยู่ดี ไม่มีการบังคับฝืนใจใดใดทั้งสิ้น เธอเลี้ยงลูกมาให้คิดเองเป็นไม่ใช่การกดดันจนเด็กเสียคน

   “อีกตั้งนาน พายยังไม่รู้เลยครับม๊า ถ้าไม่ต้องทำตรงสายพายกะจะไปกับม๊าแต่ถ้าต้องตรงสายมีใบรับรองก็จะไปทำกับม๊าพี่กิวครับ” ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ไม่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายนึงต้องผิดหวังมากนัก คุณอรอนงค์เองก็เห็นดีด้วยกับความคิดนี้

   “แล้วนี่ทำไปเผื่อพี่เขาหรือยัง จะไปบ้านเขาอย่าลืมของติดไม้ติดมือไปนะลูก”

   “รายนี้เขาไวครับม๊า จะเตรียมยันหมาแต่ดีที่นึกมาได้ว่ามันกินไม่ได้” เย้าน้องไปอีกครั้ง ท่าทางจะยังเจ็บช้ำไม่น้อยที่โดนเอาไปเทียบกับหมาสุดรักที่ป่านนี้คงนอนกระดิกหางไปฮัดชิ่วไปเพราะโดนคนนินทา

   “พี่พัพเข้าใจคำว่าคนมีมารยาทมั้ย เดี๋ยวของพี่รูทพายไม่ฝากไปด้วย”

   “เดี๋ยวโดนหรอกตัวเล็ก”

   “ตัวโตเริ่มเองนะ”

   มารดาส่ายศีรษะกับคำพูดของทั้งสองฝั่ง รู้ว่ารูทที่พายพูดถึงคือใคร คงเป็นเด็กหนุ่มตัวเล็กอีกคนที่ชอบมาบ้านเสมอ รูทเป็นคนพูดเก่งและน่าเอ็นดูพอๆกับเจ้าพาย ความแก่นก็ไม่เป็นรองใครเพียงแค่พายใจเย็นกว่าจึงไม่ค่อยมีเรื่องต่อยตีกับใครไปทั่วแบบอีกฝ่ายเท่านั้น

   จากที่ฟังหลายๆครั้งคาดว่าลูกชายคนโตคงไม่แคล้วจะคบผู้ชายแบบคนน้อง ถึงจะไม่พูดออกมาตรงๆแต่คนเป็นแม่มีหรือจะไม่รู้ ถ้าเป็นพ่อแม่คนอื่นคงหัวอกแตกตายไปแล้วหากรู้ว่าผู้สืบสกุลไม่สามารถทำตามที่คาดหวังได้ ช่วงแรกเธอยอมรับว่ารับไม่ได้กับการตัดสินใจของลูก แต่หากต้องขัดความสุขของลูกเพื่อความสุขของเธอเธอก็ไม่สามารถทำได้เช่นกัน ท้ายที่สุดแล้วเธอก็เลือกที่จะปล่อยให้มันเป็นไปตามแต่ที่มันต้องเป็น



เพราะไม่ว่าลูกจะเป็นเช่นไร สำหรับผู้เป็นพ่อแม่ลูกคือดวงใจเสมอ


จบตอน ครอบครัวของน้องกับหัวหน้า

-------------------------------------------------------------------


สวัสดีค่ะ เอาตอนใหม่มาเสิร์ฟแล้ว ช้ากว่าวันแม่เพราะนี่มัวแต่อู้...  :katai5:
ตอนนี้ไม่มีบทคู่กันของคู่หลักและคู่รองเลย เพราะเราอยากเน้นความรักในครอบครัวค่ะ ตอนนี้มันอาจจะดูเป็นครอบครัวที่ยอมรับง่ายๆ น่ารักและเอาใจใส่กันเนอะ ซึ่งในภาคหลักจะไม่ใช่แบบนี้เลยค่ะ... ซึ่งร่างไว้แล้วว่าจะเป็นยังไงแต่ยังออกมาเป็นตัวหนังสือไม่โดนใจสักที แย่ที่สุดเลย

สำหรับชื่อที่น้องเรียกกิว ตอนแรกเราตั้งใจให้เป็นป๋าเหมือนกันค่ะ แต่พอมาคิดอีกทีกิวเหมือนเสี่ยเลี้ยงต้อยเลย... สุดท้ายเลยมาจบที่ป๊า 555555

ต้องขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านด้วยนะคะ มีเม้นท์ให้กำลังใจและชอบเรื่องของเราด้วย ต้องขอบคุณมากจริงๆค่ะ   :L1: :pig4::3123:
แค่รู้ว่าทำให้ทุกคนยิ้มได้ก็มีความสุขแล้ว เหมือนทำความฝันให้เป็นจริงได้ ฮาาาา

ป.ล. ครบสิบตอนเมื่อไหร่ตอนหลักจะมาค่ะ
ป.ลล. ตอนนี้แกลบกินเพราะมัวแต่สอยหนังสือจนลืมเก็บเงิน แย่มากกกกกกก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-08-2014 21:55:36 โดย ennewiis »

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
แม่พี่พัพกะพายน่ารักมากกกกกกกกกกกกก
มองโลกในแง่สุดๆ ครอบครัวพี่กิวก็เหมือนกัน
อ่านแล้วแบบฟีลกู๊ดค่ะ ชอบบบบบ
ชอบอ่านตอนเค้าหวายกันด้วย เขิน55

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ yaoisamasang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Yaoi-Sama/463499467036395?ref=hl

ออฟไลน์ ennewiis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
♥ หัวหน้าแก๊งค์ (ภาคหลัก)
ตอน เริ่มต้นความสัมพันธ์




เคยมีคำกล่าวว่าหากเริ่มต้นความสัมพันธ์ดี ช่วงกลางของความสัมพันธ์ก็จะดี และปลายทางของความสัมพันธ์ก็จะดีตาม

แล้วถ้าหากว่าเริ่มต้นความสัมพันธ์ไม่ดีแต่อยากจะให้ตอนจบดีต้องแบบนี้ต้องทำยังไงล่ะ?





“นี่พี่จะตามผมไปถึงไหนกัน?"


เด็กหนุ่มร่างเล็กเอ่ยขึ้นโดยไม่ผ่อนปรนฝีเท้าหรือแม้แต่จะหยุดแล้วหันไปคุยซึ้ง ๆ หน้า แต่ถึงกระนั้นเขาก็รับรู้ว่าชายหนุ่มผู้กำลังเข็นบิ๊กไบค์คันใหญ่เดินตามหลังเขามาจะต้องได้ยินชัดทุกถ้อยคำเป็นแน่


"จนกว่าพายจะยอมให้ไปส่งถึงบ้าน"


“ผมกลับเองได้ ให้พี่พัพออกมารับก็ยังได้" เสียงทุ้มปนหวานของคนที่เพิ่งแตกหนุ่มมาไม่นานตอบปฏิเสธแบบไม่รักษาน้ำใจ แต่คำพูดแค่นั้นไม่ทำให้คนฟังยอมแพ้แล้ววนรถกลับ หากชายหนุ่มยังคงเดินเข็นรถบิ๊กไบค์ตามโดยไม่เอ่ยตอบโต้อะไร


พายแอบหันหน้ามองคนที่อยู่เยื้องไปด้านหลังเมื่อไม่ได้ยินเสียงโต้ตอบกลับมา เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายยังคงดึงดันที่จะเดินตามมา พายก็จะไม่ขัดศรัทธา อยากเดินตามก็เดินไป เดี๋ยวพอใกล้ถึงบ้านเขาก็คงกลับไปเองเหมือนเคย เหมือนอย่างที่เป็นมาตลอดเกือบจะสัปดาห์ เด็กหนุ่มคิดพลางถอนหายใจ ก้มหน้าก้มตาเดินเข้าซอยบ้านต่อโดยมีบอดี้การ์ดหน้านิ่งเข็นบิ๊กไบค์ตามมาด้วย




ความสัมพันธ์แปลกประหลาดนี้เริ่มมาจากเรื่องที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่






เช้านี้อากาศไม่สดใสเท่าที่มันควรจะเป็น เมฆดำครึ้มตั้งเคล้ามาแต่ไกล หากเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์อย่าหวังเลยว่าเขาจะก้าวเท้าออกจากบ้านมาเสี่ยงเดินถนนให้สภาพอากาศกลั่นแกล้งเล่น แต่วันนี้ดันเป็นวันธรรมดากลางสัปดาห์ที่เหล่าเด็กนักเรียนจะต้องทำหน้าที่ของตน และเด็กนักเรียนมัธยมปลายอย่างพายก็เป็นหนึ่งในนั้น


ความจริงพี่พัพ พี่ชายคนเดียวของพายจะต้องเป็นคนขับรถมอเตอร์ไซค์ไปส่งเหมือนปกติ แต่เห็นวันนี้บอกว่าจะต้องรีบไปเพราะเพื่อนในกลุ่มโทรตามก่อนหรือไงเนี่ยแหละ ลำบากให้น้องต้องเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางมาเอง


แต่ยังไม่ทันจะถึงโรงเรียนเอกชนที่ตนเรียนอยู่ เสียงโหวกเหวกโวยวายที่ดังมาทางตรอกไม่ไกลจากป้ายรถเมล์นักก็ดึงดูดความสนใจจากคนตัวเล็กให้มุ่งหน้าไปทางนั้นแทน ไม่ใช่ว่าอยากยุ่งเรื่องของชาวบ้านหรอกนะ แค่คิดว่าถ้าเป็นเรื่องด่วนอย่างมีคนบาดเจ็บตนอาจจะช่วยอะไรได้บ้าง แต่ดูท่าจะคิดผิด เพราะเมื่อยิ่งเดินเข้าไปใกล้ก็รู้ว่าต้นเสียงไม่ใช่มาจากการขอความช่วยเหลือแต่เป็นเสียงคนทะเลาะกันเสียงอย่างนั้น


เด็กชายมองภายในตรอกด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย เห็นคนตีกันบ่อยครั้งนักแต่ทุกทีก็เพราะเรื่องไร้สาระ ครั้งนี้ก็คงเช่นกัน ขาเรียวที่โผล่พ้นกางเกงน้ำเงินขาสั้นตั้งท่าจะหันกลับ แต่ต้องชะงักเมื่อเหมือนเหลือบไปเห็นว่าในวงล้อมของเด็กในชุดนักเรียนมีคนกำลังโดนรุม และพายก็ไม่ใช่คนใจร้ายที่จะเห็นคนโดนรุมแล้วจะเดินผ่านไปง่าย ๆ ตีกันธรรมดาพายไม่สนหรอก แต่มีคนรุมแบบนี้คงกะเอาให้ถึงตาย พายยอมอยู่เฉยไม่ได้จริง ๆ แต่ร่างกายกับเรียวแรงของคนเดียวคงสู้กับคนหลายคนไม่ได้แน่ หนทางการช่วยเหลือของพายจึงมีเพียงวิธีเดียวเท่านั้น

“ค... คุณครูครับ!! มีคนกำลังโดนรุมอยู่ในซอยครับ ซอยนี้เลยครับ! มาเร็วครับครู!!!”

เสียงตะโกนคงจะได้ผลเพราะกลุ่มคนที่รุมสกรัมสหบาทาอยู่หยุดการกระทำในทันทีก่อนหันรีหันขวาง ยิ่งเมื่อรู้แน่ว่าเสียงที่ตะโดนหมายถึงพวกตนก็รีบเผ่นแน่บไป เหลือไว้แต่ร่างของคนบอบช้ำที่นอนทรุดอยู่บนพื้น

รอจังหวะจนแน่ใจว่าคนพวกนั้นจะไม่ย้อนกลับมาอีกคนตัวเล็กก็วิ่งห้อเข้าไปใกล้ร่างที่นอนนิ่งอยู่ ค่อย ๆ ใช้มือช้อนหัวคนที่หลับตามานอนบนตักอย่างระมัดระวัง “คงยังไม่ตายหรอกนะ...”

“ยังไม่ตาย...” พึมพำตอบกลับพร้อมลืมตามอง ดวงตาคมกริบแฝงแววเย่อหยิ่งสบกับตากวางคู่โตที่ก้มมองมาแล้วนิ่งค้างอยู่แบบนั้น นอนมองนิ่งไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัวจนเจ้าของตักเป็นฝ่ายทำอะไรไม่ถูกแทน

“อะ... เอ่อ คุณลุกก่อนได้มั้ย ผมจะได้เรียกรถพยาบาล”

คนเจ็บค่อย ๆ ยันกายลุกนั่งพิงกำแพงแล้วส่งเครื่องมือสื่อสารเครื่องสวยให้ “โทรไปหาคนชื่อรูทให้ก็พอ”

ขยับได้แล้วทำไมไม่โทรเอง... อยากจะถามแต่ก็ไม่ ยอมทำตามคำขอของคนเจ็บ เหมือนคนที่โทรไปจะเป็นเพื่อนมากกว่าคนในครอบครัวและคงกำลังตามหาเพื่อนคนคนนี้อยู่ด้วย เพราะทันทีที่รับสายก็ถามหาสถานที่เป็นอย่างแรก


“ไอ้กิว! มึงอยู่ไหนเนี่ย จะไม่เข้าเรียนหรือไง”

“ขอโทษครับ คือเพื่อนคุณให้ผมโทรมา” พายตอบขณะมองคนที่นั่งพิงกำแพงจ้องกลับมาอยู่ ตาคนชื่อกิวนี่ไม่คิดจะมองที่อื่นนอกจากหน้าเขาเลยหรือไงกัน...

“เอ๊ะ? อ้าว แล้วกิวมันอยู่ไหนครับ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”

“สักครู่นะครับ... คุณคุยเองสิ” ว่าพร้อมส่งมือถือรุ่นล่าสุดคืนแก่เจ้าของ หากคนเจ็บกลับไม่รับไปคุย เพียงส่ายหน้าแล้วจ้องเขานิ่ง ๆ เหมือนจะสื่อว่าให้เขาเป็นคนคุยให้จบไปเลย พายถลึงตามองกลับเป็นการประท้วงบุยใบ้ให้อีกฝ่ายคุยเองแต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายพายก็ต้องยอมบอกรายละเอียดเรื่องที่เกิดขึ้นให้ปลายสายฟัง ทางคนที่ชื่อรูทพอได้ฟังก็เอ่ยปากขอบคุณเขาพร้อมบอกว่าจะรีบออกมาทันที

เมื่อจบบทสนทนาเจ้าของโทรศัพท์ถึงยอมรับของของตนคืนแต่โดยดี แต่คนที่ชื่อกิวก็ยังไม่ยอมถอนสายตาจากใบหน้าเของพายจนคนตัวเล็กเริ่มจะหงุดหงิดมองตอบกลับไปเหมือนกัน ตาสวยสำรวจบาดแผลบนใบหน้า มีทั้งรอยฟกช้ำ คิ้วแตก มุมปากยังเจ่อและมีรอยเลือดซึม ท่าทางจะโดนกระแทกเข้าเต็มรักแบบไม่ทันให้ได้หลบ แค่เห็นบาดแผลแตกพายยังเจ็บแทนแล้วตอนโดนกับตอนระบมมันจะเจ็บขนาดไหนกันนะ มองแผลแล้วก็ฉุดคิดขึ้นมาได้ มือนิ่มล้วงเข้ากระเป๋าเป้ที่ใช้แบกหนังสือมาโรงเรียนควานหาอยู่ครู่นึงก่อนจะหยิบเอาพลาสเตอร์ลายเสือมุ้งมิ้งขึ้นมาโชว์พลางยิ้มร่า เขยิบตัวเข้าไปใกล้คนเจ็บที่จนบัดนี้ก็ยังไม่เลิดมองสำรวจเขา

“จะทำอะไร...?” เหมือนกิวจะสัมผัสได้ถึงลางสังหรณ์บางอย่างจึงขมวดคิ้วแล้วชิงถาม

“พยาบาลเบื้องต้นไงคุณ ไม่รู้จักเหรอ”

แต่นี่มันยังไม่ได้ล้างแผล... สีหน้าคนเจ็บเหมือนจะพูดแบบนั้นแต่คนที่ตั้งใจจะทำแผลให้คงไม่สามารถรับรู้ได้ ก็เล่นบรรจงติดพลาสเตอร์ลายน่ารักไม่เข้ากับหน้าตรงรอยช้ำใต้มุมปากซ้ายให้แบบไม่รอฟังคำประท้วงเสียนาดนี้ พอได้ทำตามใจก็ฉีกยิ้มกว้างเหมือนเด็กได้ของเล่น

หน้าเถื่อน ๆ โฉด ๆ เหมาะกับลายเสือมากกว่าม้าลายอย่างที่คิดเลย!



พายเพิ่งได้สำรวจคนเจ็บแบบจริง ๆ จัง ๆ เป็นครั้งแรกก็ตอนที่นั่งหันหน้าแล้วมองหน้ากัน คนชื่อกิวหน้าตาดีมากถ้าไม่มีรอยแผลเหมือนตอนนี้ ดวงตาคมดุดันแฝงแววเย่อหยิ่งไม่น้อยบอกให้รู้ว่าเอาแต่ใจพอควร จมูกโด่ง ปากไม่หนามากนัก ส่วนสูงจากที่ดูช่วงขาน่าจะประมาณเดียวกับพี่พัพ ผิวเข้มที่พ้นเครื่องแบบดูเข้มกว่าพายแต่ไม่จัดว่าดำเกินไป เรียกได้ว่าดูดีถ้าไม่นับท่าทางที่ดูเกเร จะให้เทียบก็คงประมาณไอดอลเกาหลีที่สาว ๆ ในห้องพายชอบพูดถึงล่ะมั้ง? จะว่าไปเครื่องแบบคุ้นตาเหมือนว่าจะเคยเห็นทีไหนสักที่...

“.....ไม่เข้าเรียนหรือไง?”

นั่งมองอยู่นานจนมารู้สึกตัวก็ตอนที่กิวเอ่ยทัก พายก้มมองนาฬิกาถึงได้รู้ว่านี่มันเลยเวลาเข้าเรียนคาบแรกมานานโข เข้าไปก็คงจะไม่ทันคาบแรก คิดได้ดังนั้นจึงส่ายหน้าไปมา “ไม่เป็นไร อยู่กับคุณจนกว่าเพื่อนจะมาก็ได้”

พอตอบไปแบบนั้นอีกฝ่ายก็ทำหน้าเหมือนเจอเรื่องขัดใจอะไรบางอย่างแล้วกล่าวว่า “ชื่อกิว”

“หือ?”

“ชื่อกิว เรียกกิวไม่ต้องเรียกคุณ”

อ๋อ... พายพยักหน้าหงึกหงักตอบรับอีกคน แต่เหมือนกิวจะยังไม่พอใจถึงได้ขมวดคิ้วมุ่นใส่แล้วจ้องพายอยู่แบบนั้นจนพายเป็นฝ่ายอึดอัด ตั้งใจจะถามความต้องการแต่กิวเป็นฝ่ายชิงพูดก่อน

“คนเขาบอกชื่อแล้วก็บอกชื่อตัวเองตอบสิ”

แน่ะ... มีการมาสั่งเขาอีก คนคนนี้น่าจะเอาแต่ใจมากกว่าพายที่เป็นน้องคนเล็กของบ้านเสียแล้ว พายเบิกตาโตมองหน้าคมเข้มอย่างไม่พอใจแล้วกระแทกเสียงตอบกลับไป

“ชื่อพาย น้องพี่พัพ ขึ้นม.4 โรงเรียนเอกชนแถวนี้ พอใจหรือยัง?”

กิวนิ่งไปสักพักก่อนพยักหน้าตอบ ทั้งคู่เงียบใส่กันไปอีกพักใหญ่ คราวนี้เป็นพายที่เปิดปากพูดกับอีกคนก่อน “ทำไมถึงโดนสหบาทาล่ะ? ไปกวนตีนอะไรพวกนั้นเหรอ?”

“โก่งราคามากไปเลยโดนกระทืบ”

“โก่งราคา?”

คนเจ็บหน้าดุนั่งนิ่งเหมือนชั่งใจว่าควรจะตอบคำถามดีหรือเปล่าจนพายยักไหล่ไม่คิดจะรอฟังคำตอบอะไรอีก แต่เมื่อเห็นซองสีขาวขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไปที่บรรจุผงสีขาวในมืออีกใหญ่พายก็เข้าใจในคำตอบของคำถามที่เขาได้ถามไป คนชื่อกิวคนนี้เพิ่งจะทำหน้าที่ส่งยาไอซ์ในซอยไม่ใกล้ไม่ไกลจากโรงเรียนเขาเท่าไหร่นัก...

“...ฉันไม่ได้เสพ เลิกนานแล้ว แต่จะแจ้งตำรวจก็ได้”

เขาไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดคนชื่อกิวถึงได้มาขายยา อาจจะเพราะเหตุผลทางบ้าน ความสนุกที่ได้เสี่ยง หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่พอได้ยินคำพูดที่เหมือนไม่แคร์ว่าตัวเองจะโดนจับหรือไม่ทำให้พายรู้สึกปวดหนึบตรงอกข้างซ้าย ซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเขาถึงได้รู้สึกแบบนั้น

แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อเสียงรถมอเตอร์ไซค์สองคันก็แล่นมาจอดจนหน้าซอยที่พวกเขานั่งคุยกันอยู่ พอหันไปมองตามต้นเสียงก็เห็นเด็กหนุ่มในชุดเครื่องแบบเหมือนกับกิวรีบร้อนเดินเข้ามา น่าจะเป็นคนชื่อรูทที่พายคุยด้วยทางโทรศัพท์ เยื้องไปด้านหลังเป็นผู้ชายอีกคนที่พายคุ้นหน้าคุ้นตาเหลือเกิน พอสังเกตดี ๆ ตาที่หรี่มองก็เริ่มเบิกกว้าง และยิ่งกว้างมากขึ้นอีกเมิ่อเห็นว่าผู้ที่เดินมาไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็นคนที่ตนคุ้นหน้าคุ้นตามาตลอดชีวิต

“พี่พัพ!?”

“ตัวเล็ก?”

คนที่เดินรั้งท้ายมาคือพี่ขายแท้ ๆ พายมองไปทางพัพ กิว และคนตัวเล็กอีกคนที่น่าจะชื่อรูทด้วยความงุนงง อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ เขาก็ว่าแล้วว่าทำไมชุดที่กิวใส่ถึงได้ดูคุ้นนัก

“น้องชายมึงเหรอพัพ?”

ผู้มาใหม่อีกคนเดินมาเกาะไหล่พัพแล้วเอ่ยถาม ฝ่ายพี่ชายแค่เอ่ยตอบ ‘อือ’ แล้วปลีกตัวไปช่วยพยุงร่างของเพื่อนที่ทรุดนั่งพิงกำแพงอยู่ไม่ไกลนัก

“โลกกลมชะมัดเลย พี่ชื่อรูทนะครับที่คุยกันเมื่อกี้ ขอบคุณมากที่ดูแลไอกิวให้ แล้วก็ขอบคุณสำหรับพลาสเตอร์น่ารักที่ไม่เหมาะกับหุ่นควาย ๆ อย่างมันด้วย ฮะฮะ”

คนชื่อรูทตัวเล็กกว่าพี่ชายเขาและกิวพอสมควร แต่ความสดใสร่าเริงนำโด่งมามาก ตาเรียวรีสไตล์หนุ่มตี๋ที่ยิ้มทีก็ตี่จนพายต้องยิ้มตามแล้วเอ่ยแนะนำตัวกลับ ก่อนฝ่าเท้าเน้น ๆ จะทำให้ร่างบาง ๆ นั่นต้องปลิวตามแรงถีบของคนเจ็บ

“รีบไปสตาร์ทรถเลย”

“มึงบอกขอบคุณคนที่มารับมึงแบบนี้เหรอวะกิว!? ไม่น่ารีบมาเลยแม่ง ถ้าไม่เกรงใจว่าน้องพายต้องรอนานกูไม่มารับหรอกนะ”

รูทหันมาว้ากใส่คนที่บังอาจถีบเขาเสียจนกางเกงนักเรียนเป็นรอยเปื้อน แต่ก็ยอมที่จะเดินไปสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์คันที่ตนขับมาแต่โดยดีโดยไม่ลืมหันกลับมาบ๊ายบายพายด้วย ฝั่งพัพก็หันมาคุยกับน้องชายทั้งที่ยังแบกร่างสะบักสะบอมของกิวอยู่ “จะกลับหรือจะไปเรียน?”

“คงกลับเลย พี่พัพล่ะ?”

“พี่ไปส่งไอ้นี่ก่อน เดี๋ยวคุยกันที่บ้านแล้วกัน” สมกับเป็นพี่ชายที่อยู่ด้วยกันมาตลอดถึงได้รู้ว่าน้องชายกำลังสับสน พายพยักหน้าหงึกหงักให้ ว่าง่ายตามคำบอกของพี่ชายจึงได้โดนฝ่ามือใหญ่ยีหัวเป็นคำชม

“ขอบคุณ... แล้วเจอกัน”

“พี่ก็หายไวไว...”

กิวพยักหน้ารับแล้วปล่อยให้พัพแบกเขาไปตามทางในซอย ไม่วายจะหันกลับมามองพายอีกรอบเหมือนที่มองก่อนหน้านี้.. มองจ้องเหมือนจะค้นหาอะไรสักอย่างที่อยู่ในตัวพาย ช่างเป็นสายตาที่แปลกจนไม่กล้าสบตาแต่ก็ยอมยืนส่งจนทุกคนขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไปอย่างทุลักทุเล




หลังจากวันนั้นก็ล่วงเลยมาจนเกือบสัปดาห์ที่คนชื่อกิวเข้ามาวนเวียนในชีวิตพาย ไม่รู้เพราะอยากจะตอบแทนที่ช่วยเอาไว้หรืออย่างไรเจ้าตัวจึงคอยเทียวรับเทียวส่งทั้งเช้าเย็น บางครั้งก็มีชวนไปกินข้าว แต่พายยังไม่ใคร่อยากจะตามเพื่อนพี่ชายคนนี้ไปสักเท่าไหร่ ไม่ใช่ว่ากลัวงานที่อีกฝ่ายทำหรืออย่างไร แต่เพราะยังทำใจให้ชินกับสายตาที่เหมือนมองทะลุเข้ามาถึงจิตใต้สำนึกของเขาไม่ได้ต่างหาก แล้วไอ้การไปรับไปส่งผู้ชายด้วยกันมันก็ดูแปลก ๆ ไม่ใช่หรือไง สุดท้ายเลยกลายเป็นว่าอีกฝ่ายขับรถมอเตอร์ไซค์ตามรถเมล์ที่เขานั่งแล้วเข็นรถตามมาส่งถึงหน้าปากซอยบ้านที่พี่พัพจะออกมารับเสียงอย่างนั้น...




เป็นความสัมพันธ์ที่แปลกประหลาด



“ส่งผมแค่นี้ก็พอ ดึกแล้ว พี่กลับไปเถอะ”

“รอพัพมารับก่อน”

ดื้อตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ พายยักไหล่เป็นเชิงว่าตามใจ อยากจะทำอะไรก็ทำ เห็นน้องทำท่าทางแบบนั้นกิวก็พิงรถบิ๊กไบค์คันสวยที่คุ้น ๆ ว่าเจ้าตัวเรียกว่า “นินจา” แล้วจุดบุหรี่ขึ้นสูบ พายย่นจมูกน้อย ๆ เมื่อได้กลิ่นเหม็นที่ไม่ถูกกับจมูกของตนเอง ไม่รู้อีกคนสูบเข้าไปได้ยังไง ทำร้ายสุขภาพตัวเองชัด ๆ

“โทษที” เหมือนกิวจะสังเกตเห็นท่าทีของพายจึงดับบุหรี่ที่เพิ่งจุดลงกับพื้นแล้วดับมันด้วยเท้า

“เราเจอกันแค่ครั้งเดียว ผมช่วยพี่ไว้ก็จริงแต่แค่ขอบคุณผมก็โอเคแล้ว ไม่ต้องคิดว่าผมเป็นน้องพี่พัพเลยเกรงใจด้วย ผมเต็มใจ แต่พอมาเจอพี่ทำแบบนี้แล้วผมไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าพี่ต้องการอะไร” พายมุ่นคิ้วด้วยความไม่เข้าใจแล้วเอ่ยตามความคิดที่ตนรู้สึก เขาไม่เข้าใจคนชื่อกิวคนนี้เลยจริง ๆ

“.....อยากรู้จริง ๆ เหรอว่าพี่ต้องการอะไร”

พายพยักหน้าเมื่อสดับฟังคำถาม กิวทำหน้าชั่งใจเหมือนตอนที่ไม่รู้ว่าควรจะตอบคำถามเขาดีหรือไม่ ยิ่งเมื่อเห็นแสงไฟของรถสกูปปี้ที่พัพใช้รับส่งน้องเคลื่อนมาจากไกล ๆ ก็ดูเหมือนจะไม่ยอมตอบ พายจึงใช้สายตากดดัน หวังให้อีกฝ่ายรีบ ๆ ไขข้อข้องใจที่เขาสงสัยมาทั้งอาทิตย์เสียที และมันก็ได้ผลเมื่อกิวพยักหน้ารับ

   “ที่ต้องการมันอาจจะยากก็พอรู้หรอก”

   “อ่าฮะ”

   “แต่ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่า”

   “แล้ว? พี่อย่ามายืดเยื้อได้ป่ะ ให้ไวดิ๊”

ชิงพูดก่อนอย่างหงุดหงิดเพราะดูเหมือนอีกคนจะพยายามพูดให้มันเสียเวลาซะเหลือเกิน กิวยกมุมปาก เหลือบมองแสงไฟที่ใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ มือใหญ่ที่จับแฮนด์บิ๊กไบค์เข็นมาตลอดทางลูบเส้นไหมสีละเอียดบนหัวกลมพลางก้มหน้ามากระซิบข้างหูพายที่ตอนนี้นิ่งไปแล้วเพราะการกระทำที่คาดไม่ถึง




   “ต้องการได้พายมาเป็นแฟน ตอบแบบนี้เข้าใจแล้วนะครับ?”



To be continue


-------------------------------------------------------------------


แหะ ๆ สวัสดีปลายเดือนสิงหาคมค่ะ

จากตอนแรกที่คิดว่าลงสักสิบตอนจะมาลงภาคหลัก คิดว่าเก็บไว้ลงเป็นภาคพิเศษหลักจบภาคหลักน่าจะดีกว่า เลยแต่งภาคหลักไปก่อนแล้วค่ะ  :katai2-1:
อาจจะสั้นเพราะแก้พล็อตเรื่องหลายรอบมาก ที่ลงตอนแรกนี่ก็ไม่ใช่ในพล็อตนะคะ แหวกมาจากไหนไม่รู้ 5555555555
แต่เปิดเรื่องได้ตอนต่อก็จะมาเรื่อย ๆ แล้วล่ะค่ะ สู้ต่อไป!

รายละเอียดที่ไม่ได้ลงไว้แต่แรกตอนนี้จะค่อย ๆ คลี่ยคลาย(?)ทีละอย่างแล้วค่ะ
ขอบคุณสำหรับทุกคอนเม้นด้วยนะคะ อ่านแล้วชอบ มีความสุข ยิ้มได้ก็ดีใจมากแล้วค่ะ  :L1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ pigarea

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 748
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ไม่อยากเป็นพี่ ไม่อยากเป็นเพื่อน 5555

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
พี่กิวรุกน้องตั้งแต่ม4เลย
แน่มาก555555555555555
จะตอนหลักตอนพิเศษก็น่ารักเสมอ

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
ิอ่านได้สองตอน ทนไม่ไหว
ขอเม้นท์ก่อนนะคะ ฮือออออออ ตอนแรกกะจะเม้นท์รวบยอดทีเดียวแหละ แต่ไม่ไหวแล้วววว

ทำไมชอบพี่กิวววววววววววววววววววว กรี๊ดดดดดดดดดด  :hao5:
โอ้ยยย บอกไม่ถูก แต่ชอบพี่กิว ป๊ากิว ของน้องมากกกกกกกกกก
เรื่องนี้น่ารักมาก เราอ่านไปยิ้มไป เขินไปเลยค่ะ ฮืออออออออออ
น้องก็น่ารัก ชอบที่เรียกกันกับพี่พัพว่าตัวเล็กกับตัวโต มันดูแบบ เออ มุ้งมิ้งงุ้งงิ๊ง
ไม่ทนอ่ะ คือ รู้สึกว่าน้องเป็นความมุ้งมิ้งของผู้ชายเถื่อนๆ แก๊งค์นี้เลย

ตอนน้องเรียกป๊ากิวนี่เราสติหลุดไปกับพี่กิวแล้วเรียบร้อย
ฮือออ น่ารักกก อยากจับมาฟัดแรงๆ

ไม่ไหวแระ ขอตัวไปอ่านต่อก่อนนะคะ เดี๋ยวมาเม้นท์ใหม่ค้าาาา 55555

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
เราอ่านทันแล้วววว เก่งมั้ยยยยยยยยยย 55555555555 (อวดทำไม?)

 :laugh:

ยิ่งอ่านยิ่งชอบพี่กิวจังเลยค่ะ  :hao5:
ชอบผู้ชายดุๆ เถื่อนๆ แต่มีความอบอุ่นอ่อนโยนให้กับคนสำคัญ
เพราะมันทำให้เรารู้สึกว่าน้องพิเศษมากๆ สำหรับพี่กิว >__<
ชอบอีกอย่างคือ ทั้งที่แสดงออกถึงความสัมพันธ์ขนาดนั้น แต่ก็ยังไม่เคยมีอะไรกัน
เราว่ามันดีนะ ที่พี่กิวถนอมน้องไว้อย่างนั้น คือแค่ตอดเล็กตอดน้อยพอให้สุขใจ
รอเวลาให้น้องพร้อมก่อนละกันเนอะ (สารภาพว่าคิดไปแล้ว ถ้าเกิดคู่นี้ชู้วับกันขึ้นมามันต้องหวานจนหมดไต่แน่ๆ กร้ากกกก คือบางทีก็อยากอ่าน แต่บางทีก็แบบ.. เห้ยย เอาเท่านี้ก็พอ ชอบแบบนี้ 55555 งงมั้ยคะ? XD)

ดีใจที่คนเขียนบอกจะเป็นเรื่องยาว
เราจะติดตามอ่านต่อไปค่ะ! ชอบมากกก อ่านเรื่องนี้แล้วเขินมาก อยากได้พี่กิว แงงง

รอตอนหน้านะคะ ^^

ออฟไลน์ boonpa

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-9
 :impress2: อ่านไปยิ่มไปชอบความน่ารักใสๆของน้องพาย ความแมนของพี่กิวบวกความเกรียนของพี่รูทกับพี่พัพมากๆ

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
พี่กิวน่ารักมากๆเลยแบบว่ามาเร็วเคลมเร็ว :z1:

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
เพิ่งได้เข้ามาอ่าน น่ารักมากๆๆ เลย อบอุ่นมาก ชอบที่พี่กิวที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็จะคิดถึงน้องพายก่อนเป็นอับดับแรก น่าร้ากกกกกกก

ออฟไลน์ ennewiis

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-0
♥ หัวหน้าแก๊งค์ (ภาคหลัก)
ตอน พี่น้องและผองเพื่อน




เคยมีคำกล่าวไว้ว่าการมีพี่น้องดี มีเพื่อนดีจะทำให้ชีวิตของคนเราเจริญก้าวหน้าเพราะคนดี ๆ มักจะเรียกแต่สิ่งที่ดีเข้ามาในชีวิต เกื้อหนุนกันและกันจนทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง

แล้วเคยมีใครกล่าวมั้ยว่าการที่เพื่อนที่ไม่ค่อยดีหวังจะเคลมน้องที่ค่อนข้างดีชีวิตมันจะออกมาเป็นแบบไหนกัน?





“ทำไมทำหน้าบึ้งแบบนั้น?”
   
ผู้มีศักดิ์เป็นพี่ชายซึ่งกำลังนั่งแทะป๊อกกี้รสช็อคโกแลตสุดโปรดปรานถามขึ้นเมื่อเห็นคนที่ถือวิสาสะเดินเข้าห้องนอนส่วนตัวมาทำหน้าบูดเป็นตูดลิง แถมยังมาโถมตัวพุ่งลงเตียงที่อุตส่าห์จัดให้ฟูนุ่มอย่างไร้ความเกรงใจ แล้วนั่นแต่งตัวอะไร... บอกกี่หนว่าอย่าใส่บ๊อกเซอร์สั้นจู๋จนก้นแลบก็ยังจะใส่ อุจาดตาคนมองชะมัด

“เพราะตัวโตนั่นแหละ” ตอบอู้อี้เพราะยังเอาหน้าแนบไปกับผืนผ้าห่ม กลิ่นพี่ชายหอมแบบไหนก็หอมแบบนั้นตลอดเลยแหะ

“กู? โบ้ยว่ะ ยังไม่ทันทำอะไรให้”

ตาเขียวปั้ดตวัดมามองเขาทันทีที่พูดจบ น้องน้อยลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิแล้วจ้องหน้าชายหนุ่มเหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่างบนนั้น ฝ่ายพัพก็มองตอบ สงสัยไม่น้อยว่าตัวเองไปทำอะไรให้ไอ้เด็กนี่ถึงได้เดินเข้ามาหาเรื่องถึงห้องนอน ทั้งที่ก็ยอมยกห้องนอนห้องใหญ่รองมาจากห้องแม่ให้แล้วนะ

“ก็พี่พัพอ่ะ เพื่อนพี่พัพด้วย อะไรก็ไม่รู้ วุ่นวายอยู่นั่นทุกวันเลย”

พัพร้องอ๋ออยู่ในใจ น้องคงหมายถึงเรื่องที่ไอ้กิวคอยตามตื้อจะไปรับไปส่งที่บ้านกับที่โรงเรียนตั้งแต่เมื่อราว ๆ สองอาทิตย์ก่อน หลังจากที่น้องเผอิญไปช่วยมันจากการโดนรุมกระทืบไว้

“ก็ไม่เห็นเป็นไร มันไปรับไปส่งก็ดีจะตาย สาว ๆ อยากซ้อนท้ายมันกันทั้งนั้น”

“แต่พายไม่ใช่ผู้หญิงนะ! แล้วพายก็ไม่อยากนั่งรถคันใหญ่ด้วย!”

“ขาตัวเล็กไม่ถึงไงเลยไม่อยากขึ้น”

“พี่พัพ!”

หมอนใบโตลอยมาหมายปะทะใบหน้าแต่มือใหญ่คว้าไว้ได้ทัน เจ้าตัวดีเลยแก้แค้นคว้ากล่องป๊อกกี้ของเขาไปนั่งกินบนเตียงด้วยใบหน้าเคียดแค้นสุด ๆ คนที่แค้นมันควรจะเป็นเขาที่โดนปาหมอนใส่แถมยังโดนแย่งขนมไปกินต่อหน้าไม่ใช่เหรอ แต่พัพก็ไม่ได้เอ่ยปากว่าหรือเอาคืนน้องแต่อย่างใด กลับกันยังเปลี่ยนที่ไปนั่งบนเตียงข้างน้องแล้วมองใบหน้าด้านข้างแทน

พายเป็นเด็กหน้าตาดีและนิสัยก็ดีพอ ๆ กับหน้าตาถ้าไม่ติดความกวนตีนที่ที่ชอบปล่อยลูกในปากวิ่งออกมาไล่กัดชาวบ้านเขา ต้องขอบคุณสายเลือดของคุณพ่อกับคุณแม่ที่ส่งยีนส์ดี ๆ มาปั้นรูปร่างหน้าตาของเจ้านี่ และต้องขอบคุณตัวเขาเองด้วยที่คอยช่วยแม่เลี้ยงดูน้องให้เป็นผู้เป็นคนมาจนถึงตอนนี้ที่ไม่มีคุณพ่อเป็นผู้นำครอบครัวเหลือเพียงแค่คุณแม่ คุณหญิงอรอนงค์คนเดียวเท่านั้น

“..........ตัวโต พายถามอะไรหน่อยได้มั้ย?”

พัพรู้ดีเพราะตนช่วยเลี้ยงน้องมาตั้งแต่ยังเล็ก หากน้องเกริ่นประโยคนำเช่นนี้ขึ้นมามันหมายความว่าน้องกำลังจริงจังกับเรื่องที่กำลังจะพูด และน้องจะต้องเอาคำตอบให้ได้ไม่ว่าจะต้องบังคับหรือทำตัวยุ่งวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวของคนอื่นขนาดไหนก็ตาม “ว่ามาสิ” และการตอบรับว่าจะฟังคำถามของน้องถือเป็นการตอบรับที่ดีที่สุด

“ตัวโต... ตัวโตขายยาแบบพี่กิวหรือเปล่า? พายอยากรู้เรื่องจริงไม่เอาคำตอบโลกสวย ไม่เอาอ้อมค้อม แค่ตอบว่าขายหรือไม่ขายก็พอ”

ก็พอจะรู้ว่าน้องต้องถามเรื่องนี้สักวัน ตั้งแต่เจอกันในตรอกวันนั้นกลับมาถึงบ้านพัพก็คิดไว้แล้วว่าน้องต้องถามแต่กลับไม่ น้องเพียงแค่เอ่ยทักทายตามปกติแล้วขึ้นห้องทำการบ้าน พอเวลากินข้าวก็ลงมากิน ไม่ได้เอ่ยถาม ไม่ทำหน้าเสียใจ ไม่โมโห ไม่อะไรทั้งนั้น เป็นธรรมชาติขนาดที่เขาเสียอีกที่เป็นฝ่ายกระอักกระอ่วนใจ แต่ก็ตามนิสัย พัพไม่ใช่คนที่จะเอ่ยอะไรออกมาง่าย ๆ หากไม่คิดว่ามันถึงเวลา ทั้งสองคนจึงยังไม่ได้คุยเรื่องนี้กันเลยจนล่วงเลยมาถึงวันนี้

"ไม่ได้ขาย ทั้งพี่ทั้งรูทไม่ได้ขาย มีแค่กิวคนเดียว"

ฟังคำตอบแล้วพายก็มีสีหน้าโล่งใจก่อนถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา ดูท่าทางเจ้าตัวก็จะคิดมากไม่น้อย นับว่าเก่งมากทีเกียวที่อดทนไม่พูดออกมาได้จนถึงตอนนี้

"ความจริงพายก็คิดอยู่แล้วว่าพี่พัพไม่ขายหรอก แต่แค่อยากได้ยินจากปากพี่เฉย ๆ"

พัพลูบหัวน้องอย่างเบามือ พายก็ช่างน่ารักเขยิบมานั่งเอียงหัวซบไหล่พี่ชายเหมือนเด็กฟาที่พึ่ง "อือ แต่ก็ช่วยมันดูต้นทางบ้างนั่นแหละ ยังไงก็เพื่อนกัน" ตอบไปตามความจริง เขาไม่เคยปิดบังอะไรน้องถ้ามีเหตุจำเป็นให้ต้องทำจริง ๆ

"พี่พัพไม่บอกให้พี่เขาเลิกขายล่ะ? ดูสนิทกันออก น่าจะฟังเพื่อนบ้าง หรือเคยบอกแล้วแต่พี่เขาเลิกไม่ได้"

พายพูดได้ถูกที่สุด ถ้าบอกกิวยังไงกิวก็ฟังเพื่อนและเลิกขายยาแน่นอน ซึ่งพวกเขาทั้งคู่ ทั้งพัพและรูทก็ได้คำตอบว่าอีกฝ่ายจะเลิก แต่วงการดำมืดที่ก้าวเท้าเข้าไปแล้วการจำก้าวออกมามันไม่ง่ายเฟมือนที่เดินเข้าไป ตอนนี้เพื่อนสนิทของเขาเลยยังต้องเดินย่ำเท้าวนเวียนอยู่ในวงการอันตรายนั่นอย่างไม่รู้จะแยกตัวออกมายังไง ยังดีที่กิวไม่ขายยาให้คนในแก๊งค์หรือเพื่อนอย่างเขา แต่เลือกจะปล่อยมันออกไปให้ไกลตัวมากที่สุด

"ก็แบบนั้นแหละ"  แรงขยับที่ลาดไหล่ทำให้พัพรู้ว่าพายพยักหน้ารับรู้ เด็กคนนี้เข้าใจอะไรง่ายเสมอ "แล้วว่าไง จะใจอ่อนให้เบอร์มันหรือยัง"

ตอนแรกก็ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาหรอกเพราะไม่คิดว่ากิวมันจะทำอะไรแบบนี้ แต่หลังจากที่เพื่อนหน้านิ่งบอกน้องเขาว่าอยากได้น้องไปเป็นแฟน เจ้าตัวก็ปรี่มาฟ้องเขาใหญ่บอกว่าโดนกิวแกล้ง พูดจาน่ากลัวเหมือนลุงหื่น ๆ แต่เขาเห็นนะว่าตอนเปิดปากเล่าเรื่องน้องหน้าแดงขนาดไหน เด็กม.ปลายมันจะประสีประสาอะไรกับเรื่องแบบนี้กัน ยิ่งเป็นพายยิ่งหนัก อย่าว่าเรื่องจับมือหรือจูบแรกเลย คำพูดตรง ๆ อย่าง 'อยากได้พายมาเป็นแฟน' แบบที่เพื่อนเขาพูดก็คงเพิ่งมีครั้งแรกเนี่ยแหละ ตอนคบคนก่อน ๆ ก็คงเพราะอยากรู้ตามประสาเด็กกำลังโต แถมเขายังไม่เคยเห็นเจ้าเด็กนี่เล่าเรื่องความรักของตัวเองอย่างที่เด็กวัยเดียวกันมักจะทำอีกด้วย นับได้ว่าพายยังเป็นเด็กหนุ่มวัยม.ปลายที่ไม่เชี่ยวชาญเรื่องความรักเลยประมาณนั้น

"ไม่รู้ว่าจะให้ไปทำไมเลยไม่ให้ พี่พัพเหอะ ไม่คิดว่าแปลกเหรอที่ผู้ชายจะบอกว่าอยากได้ผู้ชายเป็นแฟน แถมยังเป็นเพื่อนพี่กับน้องพี่อีกนะ"

"แปลก แต่ยังไงก็เป็นเรื่องของคนสองคน ถ้าตัดสินใจแล้วคนอื่นก็ไม่เกี่ยว"

ตอนรู้เรื่องจากน้องก็ยอมรับว่าข้องใจในตัวเพื่อนเหมือนกัน กิวเป็นคนหน้าตาดีถึงจะนิ่งจนทำให้ดูเหมือนอารมณ์เสียตลอดเวลาก็เถอะ ยิ่งเรื่องฐานะไม่ต้องพูดถึง บริษัทยักษ์ใหญ่ของที่บ้านทำเงินให้มหาศาลชนิดติด 1 ใน 10 ของคนรวยระดับประเทศ มีรถขับทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์แม้จะยังอยู่ในวัยมัธยมปลายก็ตาม แค่คุณสมบัติแค่นี้ก็พอจะทำให้เจ้าตัวกระดิกนิ้วเรียกใครคน ๆ นั้นก็คงรีบวิ่งมาประเคนพร้อมรับใช้ถึงที่ แต่เจ้าตัวดันมาสนใจเด็กที่อายุน้อยกว่าตัวเองสองปี แถมยังเป็นเด็กผู้ชายอีกเนี่ยนะ? ถึงเขาจะรับได้เรื่องที่เพศเดียวกันจะคบกัน แต่จะไม่ให้ห่วงเลยก็ใช่ที่ ยังไงพายก็เป็นน้องชายคนเดียวของเขา

"ตอบซะหล่อเลย มิน่าล่ะสาวถึงหลง"

"ไม่ตอบก็หลงเหอะว่ะ คนมันหล่อ"

"กล้าว่ะตัวโต หล่อนักวันนี้นอนพื้นแล้วกัน พายจะนอนห้องนี้" ไม่ว่าเปล่าผละศีรษะจากไหล่พี่ชายมานอนหนุนหมอนใบโตบนเตียงแทน แถมยังมีการเอาขามาก่ายไว้บนหน้าตักทั้งสองข้างอีก การกระทำของน้องชายชักจะหยามเจ้าของเตียงมากเกินไปแล้ว

พัพมองขาขาวที่โผล่พ้นกางเกงลามไปยันแก้มก้นที่แลบออกมา ยิ่งน้องเอาขาเกยมันยิ่งรั้งกางเกงขาสั้นให้ขึ้นไปจนเห็นอะไรต่อมิอะไรหมดแล้ว แถมมันยังไม่ใส่ชั้นในให้เรียบร้อยอีก... มือหนาเลยจัดการถกกางเกงตัวจิ๋วของน้องลง "เหี้ย! พี่พัพเล่นเหี้ยไรเนี่ย!?" คนโดนดึงเด้งตัวขึ้นมาอย่างไวแถมยังจะยันขาถีบเข้าหน้าเขา แต่ชายหนุ่มไวกว่า พัพหลบขายาวของน้องแล้วล้มตัวนอนแทนที่ทันที

"นี่ที่กู จะนอนก็กลับไปนอนห้องตัวเอง แล้วเปลี่ยนกางเกงซะด้วย อะไรที่มันเล็ก ๆ สั้น ๆ จะได้ไม่โผล่มาให้คนอื่นเขาเห็น"

"พี่พัพทะลึ่ง! เขาเรียกวัยกำลังโตเว้ย!"

"โตเหี้ยไร ไข่ฝ่อสิไม่ว่า" เมื่อเห็นหน้าแดงแปร๊ดและปากที่กำลังจะขยับด่าอีกรอบพัพก็รีบชิ่งพูดก่อนไม่งั้นก็คงจะต้องเถียงกันไปอีกนาน แล้วเขาก็จะไม่ได้นอนโดยปกติสุขสักที "ไปเปลี่ยนกางเกงแล้วจะให้นอนด้วย ให้เวลาห้านาที แปรงฟันเสร็จยังไม่มากูล็อค"

"เออ! ห้ามล็อคนะเดี๋ยวมา"

มองคนที่วิ่งปร๋อออกไปหากางเกงเปลี่ยนแล้วพัพก็ถอนหายใจ มีน้องชายไม่ระวังตัวแบบนี้จะไม่ให้เป็นห่วงได้ยังไง ถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้คงโดนลากไปไหนต่อไหนแล้ว





อย่างที่ว่าไว้ พายเป็นเด็กหน้าตาดี หน้าได้รูป ตากลมโตเรียวสวยเหมือนตาจิ้งจอก ตัวเล็กแถมยังขาวตามแบบฉบับคนเชื้อสายจีน ที่สำคัญมันไม่ได้เหมือนพี่ตอนอยู่ในวัยเดียวกันเลย พัพตัวใหญ่กว่าเด็กในชั้น ผิวเข้มกว่าหน่อยเพราะออกกำลัง หน้าคมกว่าแต่ตาโตเหมือนน้อง จำได้ว่าพอพัพเห็นสภาพน้องที่ต่างกับตัวเองลิบลับก็ถึงกับต้องจับน้องหัดมวย หัดเล่นกีฬาหวังให้น้องป้องกันตัวได้ ซึ่งจัดว่าน้องฝีมือดีทีเดียว แต่ด้านร่างกายกลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยจนพัพต้องยอมรับว่าน้องคงได้โครงร่างจากแม่มากกว่าได้จากพ่อ

นอนคิดเรื่องเก่า ๆ ได้เพียงครู่ร่างสูงก็จัดแจงเดินเข้าห้องน้ำทำภารกิจส่วนตัว เสียงตึงตังจากข้างห้องเป็นสัญญานว่าคนตัวเล็กใกล้จะกลับมาถล่มเตียงนอนเขาอีกครั้งแล้ว แต่ยังไม่ทันจะจัดการกับตัวเองเสียงโทรศัพท์ก็ดังเรียกร้องความสนใจเสียก่อน เมื่อมองดูแล้วว่าคนที่โทรเข้ามาคือใคร นิ้วชี้ที่สวมแหวนเงินก็เลื่อนรับทันที “ว่าไง” กรอกเสียงตอบรับกลับไป


“ไอ้คุณพิศุลย์มึงจะมามั้ยครับวันนี้ สายสอง เงินเดิมพันเยอะพอตัว มึงคงซื้อบิ๊กไบค์ที่แต่งเสร็จได้”

คนที่โทรเข้ามาเรียกชื่อเต็มเขาก่อนจะบอกธุระแบบนี้มักจะเป็นรูท ดูเหมือนวันนี้จะมีตารางแข่งรถนอกรถมอเตอร์ไซค์นอกรอบ ตั้งใจจะตอบว่าไม่ไปแต่เมื่อได้ยินว่าเงินเดิมพันคราวนี้อาจจะทำให้เขาซื้อบิ๊กไบค์แบบที่ตั้งใจไว้ก็ชวนให้ชั่งใจ เขาอยากได้บิ๊กไบค์มานานแล้วแต่ก็ไม่อยากจะลำบากแม่ที่ทำงานอยู่คนเดียว ถึงวิธีหาเงินมันจะไม่ค่อยดีนักแต่มันได้เร็วกว่าวิธีอื่น งานพิเศษที่ทำอยู่ที่อู่รถเดือน ๆ นึงยังได้ไม่ถึงครึ่งของการแข่งต่อครั้งด้วยซ้ำ

“มาแล้ววววว เร็วกว่าด้วย!”

ยังคิดไม่ตกว่าจะไปดีไหมไอ้ตัวดีที่เขาไล่ไปเปลี่ยนกางเกงก็วิ่งตื้อเข้ามาพุ่งลงเตียง ห่อตัวอยู่ใต้ผ้าห่มแล้วกลิ้งไปมาเสียสนุกสนาน เห็นน้องอยากมานอนด้วยขนาดนั้นพัพก็มีคำตอบเรียบร้อยแล้ว “คงไม่ว่ะ วันนี้นอนกับน้อง น้องมันมาอ้อนขอนอนด้วย”

“ไม่ได้อ้อน! มาแย่งที่ พี่พัพพูดให้ถูก ๆ ดิ๊” พายที่ได้ยินพี่ชายบอกคนปลายสายแบบนั้นก็ผุดลุกมาแก้ตัวทันที รูทที่ฟังอยู่ก็คงได้ยินถึงได้หัวเราะซะดังขนาดนั้น


“ขอคุยกับน้องมึงหน่อย เด็กอะไรวะโคตรกวนตีน โคตรน่ารัก กูชอบ”

“กูเลี้ยงมากับมือ มันต้องได้พี่มันอยู่แล้ว” พัพยิ้มเมื่อได้ยินเพื่อนตัวดีทำเสียงอ้วกเข้ามาในสาย เครื่องมือสื่อสารยื่นไปตรงหน้าคนที่นอนมองหลังพี่ชายแบบเพลิน ๆ พายทำหน้างงนิดหน่อยตอนเห็น แต่ก็รับโทรศัพท์ไปแนบหูก่อนจะยิ้มกว้างจนตาหยีเมื่อรู้ว่าคนปลายสายคือใคร ไม่รู้สองคนนั้นเขาไปสปาร์คติดกันตอนไหน พอเจอน้องรูทก็เอาแต่ร้องเย้ว ๆ ว่าน้องน่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ ไอ้นี่มันชอบของน่ารักก็เลยไม่แปลกใจ แต่ไอ้น้องตัวดีของเขานี่สิ ปกติเคยสนใจเพื่อนพี่ชายที่ไหน มาเจอรูทดันระริกระรี้ไปสนิทกับเขา ท่าทางที่เขาบอกว่าคนประเภทเดียวกันมักจะดึงดูกันคงจะจริง ถ้าจะบอกว่าเหมือนกันตรงไหนก็คงจะเป็นความเตี้ย เล็ก สั้น ปากดี แถมกวนตีนเป็นที่สุดนี่แหละ พัพบุ้ยใบ้ให้น้องรู้ว่าตัวจะไปแปรงฟัน พายก็ช่างรักพี่โบกมือไล่เสียอย่างกับพี่มันเป็นแมลงวัน สรุปนี่ใครเป็นพี่น้องกับมันกันแน่ เขาหรือไอ้รูท?
   
แปรงฟันจนเสร็จน้องก็ยังคงคุยติดลมอยู่ ร่างสูงเดินมานั่งข้างเตียงมองน้องที่นอนกลิ้งไปมาคุยโทรศัพท์ของเขา ท่าทางจะคุยถูกคอ เห็นว่าให้เบอร์โทรศัพท์กันไปด้วย ฟังแล้วก็สงสารเพื่อนอีกคนที่ป่านนี้คงจะแข่งรถรอบแรกอยู่ ตื้อขอเบอร์มาตั้งสองอาทิตย์ไม่ได้ ไอ้คนที่เจอกันสองครั้งแถมเพิ่งได้คุยโทรศัพท์กันมันได้ไปแล้วแบบง่ายดาย

“นั่นแหละพี่รูท พี่พัพแม่งลามกมาดึงกางเกงคนอื่นเขา... หือ? พี่รูทว่าไงนะพี่รูท พี่ พี่..... กิว”

ฟังพายเล่าเรื่องเมื่อกี้แล้วมาเห็นน้องตัวแข็งไปก่อนจะเรียกชื่อเพื่อนอีกคนที่เขาเพิ่งนึกถึงเมื่อครู่พอดี ช่างตายยากเสียจริง แบบนี้ก็คงจะสนุกไม่น้อย พัพล้มตัวนอนมองปฏิกิริยาของน้องที่นอนคว่ำชันตัวคุยโทรศัพท์พลางทำหน้าเหรอหราไปด้วย ได้ยินเสียงโวยวายจากรูทมาไกล ๆ สงสัยว่าจะโดนกิวแย่งโทรศัพท์ไปเพราะไปกวนตีนว่าคุยกับน้องอยู่แน่ ๆ สันดานเพื่อนเป็นยังไงก็รู้กันอยู่

“อื้อ ไรอ่ะจะคุยอะไร ไปคุยกับพี่พัพดิ๊... พี่พัพ ๆ พี่กิวจะคุยด้วย”

พายรีบว่ารวดเดียวแล้วยัดเครื่องมือสื่อสารให้พี่ชาย คนเป็นพี่ก็รับมาแบบงง ๆ แล้วกรอกเสียงลงไปตามสาย “ว่าไงมึง แข่งเป็นไง”


“ชนะ แต่มันเล่นพวกรถเลยพังไปคัน... โคตรเหี้ย”

“มึงไม่เจ็บก็พอ หัวหน้าอย่างมึงเป็นอะไรขึ้นมาพวกกูก็ลำบาก” พัพพูดเรื่องจริง กลุ่มของพวกเขาถือได้ว่ามีชื่อเสียงในเรื่องแข่งรถพอตัว ยิ่งกับกิวที่อาจหาญลงแข่งตั้งแต่ยังไม่ทันมีใบขับขี่ยิ่งมีรคนอยากไล่บี้ถึงฝีมือ การที่รถพังถือว่าแย่ แต่ถ้าคนมีฝีมืออย่างกิวเจ็บไปจะลำบากยิ่งกว่า พัพเอ่ยถามเรื่องราวในสนาม เรื่องทีมและเรื่องสายส่งยาในกลุ่มที่ช่วงนี้เหมือนจะมีปัญหาติดขัดเล็กน้อย คุยกันได้สักพักพัพก็รู้สึกถึงสายตาของคนที่นอนอยู่ด้านข้าง พายนอนมองและดูท่าคงจะตั้งใจฟังทุกประโยคที่เขาพูดเสียด้วย เห็นแล้วก็อยากแกล้งน้องตัวเองขึ้นมาตะหงิด ๆ

“กิว เมื่อกี้กูไล่ตัวเล็กไปเปลี่ยนกางเกง มึงรู้มั้ยเพราะอะไร?”

“พี่พัพ! ตัวโต อย่าเล่านะเว้ย!” เหมือนจะรู้ว่าภัยมาถึงตัวน้องทำท่าจะยื้อแย่งโทรศัพท์จากเขาไปกดวาง แต่ช่วงตัวที่ต่างกันทำให้พัพเคลื่อนตัวไวกว่า อีกฝ่ายลุกเดินพร้อมกดเปิดลำโพงให้เสียงดังขึ้น กิวดูจะงงเล็กน้อยมที่ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง แต่ก็ตอบรับกลับมาด้วยความอยากรู้กึ่งนึงและพอจะเข้าใจสิ่งที่เพื่อนต้องการอีกกึ่งนึง

“เพราะมันอยากโชว์แต่เสือกไม่เจียมว่าของตัวเองทั้งเล็กทั้งสั้น”

“พี่พัพเลว! บอกว่าเรียกว่ากำลังโต เล็กสั้นที่ไหนล่ะเว้ย!” พายหน้าแดงระเบิดเสียงพร้อมรัวหมอนอิงใส่พี่ชายที่นั่งหัวเราะกับเพื่อนอีกคนทางปลายสาย “ไอ้พี่กิวก็เลว ได้ยินนะเว้ย! มาหัวเราะคนอื่นเขาแบบนี้ได้ไง!” พาลไปยันอีกคนที่หัวเราะอยู่ถึงแม้จะมีมารยาทแค่หัวเราะหึออกมาแต่พอเปืดลำโพงแค่เสียงหึมันก็ทิ่มแทงไปถึงหัวใจ


“กูขอคุยกับน้องหน่อย”

คำพูดของกิวขับให้คิ้วเรียวของคนที่ยังหน้าแดงขมวดเข้าหากัน พัพพยักเพยิกหน้าให้น้องพร้อมโทรศัพท์ พายทำหน้ายุ่งใส่พี่ชายแล้วรับมาแนบหู ยังเขินไม่น้อยที่พี่ชายไปเล่าอะไรแบบนั้นให้คู่กรณีของตนเองฟัง มันคนละอารมณ์กับที่เล่าให้พี่รูทฟังน่ะสิ เล่าเองกับโดนเอาไปเล่ามันไม่เหมือนกันไม่เข้าใจหรือไง!
   
“อะไร ถ้าจะมาล้อก็วางไปเลยนะ”


“เปล่า จะมายื่นข้อเสนอ”

“ข้อเสนอ? ข้อเสนออะไร?” สงสัยไม่น้อยจู่ ๆ ก็มาพูดเรื่องข้อเสนอหลังจากขำคนอื่นเขาไปแล้วจึงลองถามหยั่งเชิง ตั้งใจฟังอยู่ได่ไม่นาน พายที่อือออรับคำอยู่ ๆ ก็หน้าแดงขึ้นมาอีกรอบ เหมือนจะหนักกว่าที่โดนแกล้งเมื่อครู่ซะด้วย เจ้าตัวรีบยื่นโทรศัพท์คืนให้พี่ชายก่อนพุ่งหลาวลงเตียงแล้วห่อตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ไม่วายตะโกนสำทับตามหลัง “ไม่เอาโว้ย! ไอ้พี่กิวแม่งโรคจิต!”
      
พัพมองท่าทีของน้องแล้วต่อมความอยากรู้ก็พุ่งพล่าน “มึง...” ไม่ทันทีจะเอ่ยถามคนที่อยู่ปลายสาย อีกฝ่ายก็ชิ่งตอบมาก่อน และคำตอบก็ทำให้พัพสามารถเอาไปล้อน้องทีหลังได้อีกหลายสัปดาห์เลยทีเดียว



“กูบอกน้องไปว่าถ้าไม่ให้เบอร์กู กูจะขับนินจาไปถกกางเกงน้องในห้องมึงตอนนี้เลย”



To be continue


-------------------------------------------------------------------


สวัสดีต้นเดือนพร้อมตอนล่าสุดค่ะ

ตอนนี้เน้นพี่น้องรัวๆเพราะเป็นการปูเรื่องให้ตอนต่อๆไปและก็เอาใจแฟนคลับพี่พัพน้องพายไปด้วยในตัว ฮา
ยอมรับว่าแต่งไปแต่งมาแล้วอยากจะแยกมาเป็นตอนพิเศษให้พี่น้องได้กันเอง... ทำไมมันมุ่งมิ้งฟรุ้งฟริ้งจังนะพี่น้องคู่นี้  :hao3: :hao3:

พี่กิวเราบทน้อยค่ะตอนนี้ เพราะเดี๋ยวต้องมีตอนหลักเปิดตัว แฟนคลับพี่กิวอดใจรอหน่อยนะ ส่วนรูทยังไงก็ต้องมีออกมาเรื่อยๆค่ะ ตัวละครสำคัญนะเนี่ย! (เหรอ)

อ่านคอนเม้นของทุกคนแล้ว บอกตรงๆว่าเขินมากค่ะ อ่านไปยิ้มไปแล้วอ่านในที่ทำงาน แม่ขา พี่ๆถามว่ายิ้มทำไม ไม่กล้าบอกเลย  :laugh:
ขอบคุณมากๆนะคะที่ชอบเรื่องราวของทั้งสองคู่นี้ ติชมได้เลยนะคะะเพื่อจะได้ปรับปรุงฝีมือต่อไปเรื่อยๆ
แล้วจะรีบกลับมาร่วมด้วยช่วยทำให้ฟินค่ะ  :pig4:

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
ดูวิธีขอเบอร์ของพี่กิวสิ55555
ออกมาไม่กี่ประโยคนะเนี่ย เขินนน
ตอนนี้พี่พัพยังไม่สปาร์คกับรูทใช่ม้าาา

ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
พี่พัพพพพพพพจะเป็นพี่ชายที่น่ารักไปไหนเนี่ย
พี่กิวเนี่ยวิธีขอมีตั้งเยอะแล้วไปพูดเหมือนแกล้งน้องมัน น่าสงสารน้าาา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด