พี่ครับ...ได้สักครั้งผมจะตั้งใจเรียน
ตอนที่17
Part ป่าน
ผมนายปัณณท วิสิทธกุล ชื่อเล่นป่านครับ ผมมีน้องชายหนึ่งคนชื่อเปรม ไอ้เปรมมันอยู่ม.3ละ วัยกำลังซ่าเลยละ ผมละเบื่อที่คุยกับมัน
“ป่านไปเลี้ยงกับเพื่อนมาไม่เมาใช่ไหมลูก”
ผมเดินเข้ามาในบ้านแม่ก็ถามผมขึ้น แม่ยังไม่นอนเพราะแม่ติดซีรี่ส์ตอนดึกๆ
“ไม่ครับแม่ แค่มึนๆเล็กน้อย”
ผมตอบพร้อมยิ้มน้อยๆให้แม่ แม่พยักหน้าเข้าใจแล้วก็หันไปทาเล็บดูซี่รี่ส์ต่อ แม่ผมเป็นผู้หญิงที่เปรี้ยวที่สุดในโลก ทำงานเป็นบก.นิตยสารเกี่ยวกับผู้หญิงชื่อดัง แต่ไม่ค่อยจะมีใครรู้หรอกเพราะผมไม่ชอบเข้าสังคม ชอบอยู่กับฟุตบอลมากกว่า
“แม่ ไอ้เปรมกลับมารึยัง”
ผมถามแม่ต่อถึงน้องชายตัวแสบของผม มันตัวสูงเกือบเท่าผมละทั้งๆที่ยังม.3 มันชอบเล่นบาส ชอบทุกอย่างเกี่ยวกับบาสซึ่งแตกต่างจากผมที่ชอบฟุตบอล
“ยังเลย บอกแม่ว่าจะนอนบ้านเพื่อนมั้ง”
แม่ยังตอบพร้อมกับทาเล็บไปเรื่อยๆไม่ใส่ใจผมมากนัก
“ไอ้เปรมมันเที่ยวบ่อยจริงๆเลยนะแม่”
“ใช่ ตอนนี้ปิดเทอมน้องเที่ยวแม่ไม่ว่าหรอก แต่ถ้าเปิดเทอมแล้วจะเที่ยวแบบนี้ไม่ได้ ยิ่งวัยแบบเปรมยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ห้ามไปก็เท่านั้น คุยกันตรงๆดีกว่า”
แม่ผมตอบแล้วไล่ให้ผมไปนอน แม่ผมก็เป็นแบบนี้เสมอเป็นผู้หญิงที่เข้าใจลูกที่สุด แม่เลี้ยงลูกแบบไม่บังคับแต่ทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบที่เหมาะสม แม่เลี้ยงลุกแบบวัยรุ่น ทำให้ผมกับน้องเมื่อมีอะไรก็จะคุยกับแม่เสมอ เราไม่ค่อยมีอะไรปิดบังกันหรอก
ผมเข้าไปในห้องนอนก็ถอดเสื้อถอดกางเกงแล้วอาบน้ำ หลังจากอาบเสร็จผมก็ใส่กางเกงบอลตัวเดียวนอน ผมไม่ค่อยใส่เสื้อนอนหรอก ผมเป็นประเภทขี้ร้อน ผมนั่งเล่นโทรศัพท์ไปเรื่อยๆก็เจอกับรูปซินดี้ที่ผมแอบถ่ายไว้
ผมยอบรับผมแอบชอบซินดี้มานานแล้ว ตอนแรกผมก็ไม่แน่ใจในความรู้สึกตัวเองหรอก อาจเพราะเราเป็นเพื่อนกันมานาน นานจนไม่แน่ใจว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นมันเป็นความรักหรือความผูกพัน ผมเห็นซินดี้ตั้งแต่ม.1 ตอนม.1มันเป็นกะเทยช่างเม้าท์คนหนึ่งที่ยังไม่ฉายแววความสวยนัก ผิวขาวเหลือง ตัวสูงไม่มาก หุ่นอวบๆนิดๆเพราะมันกินเก่งนะเมื่อก่อน หน้าตาก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร แต่มันเริ่มมาฉายแววสวยช่วงม.3 เริ่มดูแลตัวเองมากขึ้น สวยมาก จนบางครั้งที่ผมเผลอจ้องมันนานเกินไป ผมยิ้มกับตัวเองแล้วคิดถึงตอนนั้น
ตอนม.3
“ซินดี้ช่วงนี้มึงสวยขึ้นนะ”
ไอ้พีทชมซินดี้ที่ไปห้องน้ำกับพีมา
“แน่นอน กูรู้ตัวกูดี”
ซินดี้ยิ้มอย่างภูมิใจจนผมอดแซวไม่ได้
“สวยตรงไหนวะ กูเห็นแม่งก็ยังเหมือนเดิม ไม่เห็นสวยสักนิด”
ผมแกล้งมันเสร็จซินดี้ก็มองหน้าผมอย่างจิกกัดพร้อมตบตี
“หุบปากมึงไปเลยไอ้ป่าน ปากแบบนี้ไงถึงไม่มีใครเอา”
“ไม่หรอกโว้ย หล่อๆแบบกูไม่เอาใครตังหาก”
ผมพูดพร้อมยืดอกอย่างภูมิใจ ไม่ได้อยากจะโม้นะ ผมนี่นักบอลโรงเรียนสาวแท้สาวเทียมกรี๊ดกันให้ตรึม
“หมั่นหน้านะมึง”
ซินดี้พูดจบก็สะบัดบ็อบใส่ผม แมทที่นั่งไม่ไกลนักถามขึ้น
“แล้วคุณพีละคุณซินดี้”
“พีเหรอ มันไปกับพี่เอสอะ พี่เอสชวนมันโดดเรียนอีกแล้วมั้ง”
“แม่ง พี่เอสนี่เริ่มพาพีเสียละ ชอบชวนมันโดดเรียน”
ไอ้พีทพูดขึ้นแบบโมโหนิดๆ จริงแหล่ะ ช่วงนี้พีมันติดพี่เอสมาก
“ทำไมมึงไม่ห้ามเพื่อนวะซินดี้”
ผมพูดขึ้นซินดี้มันก็หันมามองหน้าผม
“มึงคิดว่าคนอย่างอีพีห้ามได้ปะ มึงก็รู้ว่าช่วงนี้มันหลงพี่เอสยังกับอะไรดี”
ซินดี้พูดจบพวกเราก็พยักหน้าไม่พูดอะไรต่อ มันก็เป็นอย่างที่ซินดี้พูดจริงๆ พีมันเป็นคนดื้อ ดื้อเงียบ
ตอนนี้โรเงรียนเลิกละ ผมขี้เกียจกลับบ้านก็เลยไปเตะบอลเล่นกับเพื่อนนักบอลที่สนาม เล่นไปเรื่อยๆก็เหนื่อยไปนั่งพักข้างสนาม
“เอา กูซื้อมาให้”
ผมหันไปก็เจอซินดี้ยื่นน้ำมาให้ ผมยิ้มรับแล้วรับน้ำมาดื่ม
“ขอบใจมึงมากซินดี้”
ซินดี้ไม่ตอบอะไรมานั่งข้างๆผม ผมเลยชวนมันคุย
“มึงไม่กลับบ้านเหรอวะ นึกว่ากลับตั้งแต่ตอนแยกกันแล้ว”
“ยังหรอก กูไปครูเอมอรมา แกให้กูไปช่วยตรวจงาน กูลงมาเห็นมึงเล่นบอลอยู่เลยซื้อน้ำมาให้”
“แหม๋ นางเอกสาสสสส”
ผมลากเสียงยาวล้อเลียนมัน
“เพิ่งรู้จ้ะว่าฉันนะ นางเอก”
ซินดี้เล่นด้วยแล้วยิ้มร่า ผมมองมันที่ยิ้มอยู่ข้างๆแล้วเผลอยิ้มตามไม่ได้ ซินดี้มันจะรู้ตัวไหมว่าเวลามันยิ้มแล้วมันน่ารักมากๆเลย ผมเผลอมองมันนานไปจนมันต้องเรียก
“ไอ้ป่าน มึงจะจ้องกูอีกนานไหม”
“ห้ะ เอ่อ ใครจ้องมึงวะ หลงตัวเองละ”
ผมเหรอหราแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ
“แหม๋ หลงในความสวยของกูละสิ ถึงจ้องไม่หยุดเลย”
ซินดี้พูดพร้อมเอาหน้ามาใกล้ผม จนผมต้องผละออก
“ใครจ้อง ไม่มี๊”
ผมพูดแค่นั้นแล้วรีบวิ่งไปเตะบอลต่อทันที ให้ตายเหอะ รู้สึกหน้าร้อนๆอย่างบอกไม่ถูก
ผมยิ้มให้กับภาพที่นึกขึ้นมา เป็นครั้งแรกที่ผมเริ่มหวั่นไหวกับซินดี้ หลังจากนั้นผมก็มองมันบ่อยไป อยู่ใกล้มันก็เริ่มใจเต้นแรง แล้วไม่ชอบเลยเวลามันเข้าไปเล่นกับผู้ชายคนอื่น
ผมพยายามหาทางออกให้ตัวเองว่าไม่ได้ชอบซินดี้ด้วยการตกลงคบกับเด็กโรงเรียนหญิงล้วนข้างๆ เธอชื่อเอม ตอนนั้นผมคิดว่าการที่คบกับเอมอาจทำให้ผมลืมซินดี้ได้บ้าง
“ป่านไปดูหนังกับเอมนะคะ”
ผมกับเอมเรานัดเจอกันหลังเรียนเสร็จที่บีทีเอส พอเจอปุ๊บเอมก็เข้ามาชวนผมดูหนังเลย
“อื้มก็ได้ ว่าแต่เอมจะดูเรื่องอะไรละ”
ผมตอบเสร็จ เอมยิ้มกว้าง รอยยิ้มของเอมน่ารักดี แต่บางทีผมก็แอบคิดว่ามีบางคนที่ยิ้มได้น่ามองมากกว่านี้
เราสองคนเดินจับมือกันไปดูหนัง ผมยอมรับเวลาผมอยู่กับเอมผมรู้สึกดีนะ เอมน่ารัก เป็นผู้หญิงที่ไม่แอ๊บแบ๊ว ตรงๆ นิสัยเหมือนแม่ผมดีมั้งผมเลยเลือกที่จะคบกับเอม
ในโรงหนังเราสองคนนั่งซบไหล่กัน ผมยอมรับว่าตื่นเต้นตามฮอร์โมนวัยรุ่น เล็กครั้งนั้นก็เป็นครั้งแรกที่เราจูบกัน เราจูบกันเบาๆก็ผละออกจากกัน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ผมจูบครั้งแรกก็ตื่นเต้นเป็นธรรมดา แต่บางทีผมก็อดคิดไม่ได้ว่าคนที่ยิ้มสวยกว่านี้เวลาจูบจะเป็นยังไงนะ
ผมกับเอมเราคบกันมาเรื่อยๆจนได้3เดือน เอมน่ารักตรงที่ไม่จุกจิกไม่งี่เง่า
“สาสป่าน ช่วงนี้ติดแฟนนะมึง”
ไอ้พีทแซวผม ผมก็ได้แต่ยิ้มไม่ตอบอะไร
“ช่วงนี้รู้สึกว่าซินดี้มันจะเหงาๆนะ คู่กัดมันอย่างมึงไม่ค่อยอยู่กัดมัน เลิกเรียนปุ๊บก็ออกไปหาแฟนปั๊บ”
พี ที่นั่งตรงข้ามผมหันมาแซวผม ซินดี้เลยมองหน้าผมแล้วทำตาโต
“อิพีมึงก็เวอร์ ว่าแต่ไอ้ป่านมึงก็แฟนโอเคปะ”
ซินดี้ถามผมแบบอย่างรู้ตามนิสัยมัน ผมแอบจี๊ดนิดๆบางทีถ้ามันหึงผมผมอาจจะรู้สึกดีกว่านี้
“ก็โอเค เอมเขาน่ารักดี”
ผมตอบแค่นั้นไม่พูดอะไรต่อ
หลังจากนั้นช่วงปิดเทอมผมก็ได้ไปเที่ยวบ้านเอมครั้งแรก ที่บ้านเอมไม่มีคนอยู่ พ่อแม่ไปต่างจังหวัดหมด เราสองคนอยู่กันสองต่อสองในห้อง ผมตื่นเต้นมาก ผมก็ไม่โง่ขนาดที่ไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรได้
“ป่านมานั่งบนเตียงเอมสิ ยืนหมุนอยู่ได้”
เอมพูดพร้อมหัวเราะเบาๆกับท่าทีของผม ผมเลยไปนั่งบนเตียงข้างๆเอม เอมก็ซบตรงไหล่ผม ผมก็จับมือเอม เราสงอคนอยู่แบบนั้นสักพักก็ไม่พูดอะไร เอมเลยเงยหน้ามองผม เราสองคนจ้องตาสักพักผมเลยก้มลงไปจูบเอมเบา จากจูบเบาๆก็ค่อยๆร้อนแรงมากขึ้นตามอารมณ์ เอมเอนตัวลงบนเตียงผมก็ทับตามไป เราสองคนยังจูบกันไม่หยุด แม้ว่ามันจะดูขัดๆเพราะครั้งแรกที่เต็มรูปแบบขนาดนี้
เอมถอดเสื้อผมออกไปแล้วเราสองคนก็จนกันต่อ มือผมก็ลูบคลำไปตามสัดส่วนของเอม ผมพอจะดูหนังแบบนั้นมาบ้าง ของแบบนี้ไม่ต้องให้ใครมาสอน จูบกันไปเรื่อยๆผมก็รู้สึกมึงภาพซ้อนเข้ามา ภาพของใครบางคนที่ยิ้มสดใส ยิ้มหวานจนผมละสายตาออกไปไม่ได้ ผมผละออกจากเอมแล้วมานั่งที่ปลายเตียง
“ป่านหยุดทำไมละ”
เอมถามขึ้นโมโหนิดๆที่ผมหยุดกลางคัน
“ป่านว่าเรายังเด็กทั้งคู่อย่างเพิ่งเถอะ”
ผมแถออกไปข้างๆคูๆ ไม่อยากใฃจะให้เอมรู้เพราะภาพใครบางคนตังหากที่ทำให้ผมหยุด
เอมได้ยินอย่างนั้นก็เข้ามากอดผมจากด้านหลัง อกอวบอิ่มของเอมใกล้ชิดกับหลังของผม ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมจะไม่ปฎิเสธแน่
“ไม่หรอกป่าน เราเป็นแฟนกัน เรารักกัน จะทำแบบนี้ไม่ผิดหรอกถ้าเราป้องกัน”
เอมอ้อนผม ผมจ้องหน้าเอมจนเกือบใจอ่อนแต่คิดถึงใครอีกคนทำให้ผมลุกขึ้นหยิบเสื้อมาใส่แทน
“ไม่ดีกว่าเอม ป่านอยากให้เกียรติเอม”
“ไม่ใช่ป่าน ป่านไม่ได้ให้เกียรติเอม แต่ป่านไม่ได้รักเอม ป่านมีใครอยู่ในใจที่ไม่ใช่เอมใช่ไหม”
เอมพูดเสียงดังขึ้นจนผมต้องหันไปมอง ตอนนี้เอมน้ำตาคลอ เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเอมงี่เง่า เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเอมอ่อนแอ
“เอมคิดมากไปรึเปล่า ป่านแค่อยากให้เกียรติเอม”
ผมยังแถไปเรื่อยๆ
“พอทีเถอะป่าน อย่าคิดว่าเอมไม่สังเกต ป่านมาหาเอมบ่อย คอยเอาอกเอาใจเอมก็จริง แต่เวลาเอมอยู่กับป่าน ป่านไม่เคยมองเอมอย่างที่คนรักกันมองเลย ป่านมองเอมเหมือนเป็นตัวแทนของใครสักคน”
เอมพูดเสร็จมายืนหน้าผมแล้วพูดต่อ
“ที่เอมยอมลดคุณค่าตัวเองวันนี้เพราะเอมอยากพิสูจน์ป่านว่าป่านจะทำลงไหม สุดท้ายป่านก็ทำไม่ลงเหมือนที่เอมคิดไว้ ป่านจูบเอมเพราะความใคร่ไม่ใช่ความรัก ป่านหยุดเพราะป่านรู้ว่าคนที่ป่านจูบไม่ใช่คนที่ป่านรัก ป่านรักใครก็รักไปสิ ป่านมาทำให้เอมรักป่านทำไม”
เอมพูดพร้อมน้ำตาไหล ผมรู้สึกสงสารเอมเลยเข้าไปกอดเอมไว้
“ป่านขอโทษนะเอม”
“ป่าน ถ้าป่านยังไม่พร้อมที่จะรักใครจริงๆ อย่าเอาใครมาเป็นตัวแทนเพื่อลืมอีกคนเลย รู้ไหมคนที่เป็นตัวแทนมันเจ็บ”
เอมผละออกจากผมแล้วมองหน้าผม ผมเลยหยักหน้าให้เอม
“เอมจะไม่ถามว่าเขาคือใคร แต่เอมก็ขอบใจป่านนะที่ไม่ยอมนอนกับเอมเพราะความใคร่ เพราะถ้าป่านไม่หยุดแล้วยอมมีอะไรกับเอมทั้งๆที่ไม่ได้รักเอม เอมคงเจ็บกว่านี้”
ผมยิ้มให้เอมแล้วเช็ดน้ำตาให้เอม
“ป่านขอบใจนะที่เอมเข้าใจ แล้วป่านขอโทษนะครับ”
หลังจากวันนั้นผมกับเอมก็เลิกกัน หลังจากนั้นผมก็ไม่คบใครอีก ผมไม่อยากให้ใครต้องมาเจ็บเพราะผมอีก ถ้าวันใดที่ผมรู้สึกว่าไม่คิดอะไรเกินเลยกับซินดี้แล้วจริงๆ วันนั้นคงจะเป็นที่ผมยอมเปิดใจให้ใครเข้ามา แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมไม่เคยทำได้เลย การที่ได้อยู่ใกล้ชิดซินดี้นิดเดียวมันก็ทำให้ผมมีหวัง มันก็ทำให้ผมมีความสุข ผมจะสารภาพกับมันก็กลัวเสียเพื่อน เวลาที่ผมได้ขับรถไปรับไปส่งมันมันคงไม่รู้หรอกว่าผมพยายามขับช้าขนาดไหนเพื่อให้ถึงบ้านมันช้าที่สุด มันจะได้อยู่กับผมนานๆ ซินดี้ไม่รู้หรอกเวลามันเศร้าคนที่เจ็บกว่ามันคือผม ผมรู้มันมีปัญหากับพี่มาร์ท แล้ววันนี้ผมก็พอเดาออกว่ามันโสดแล้ว ยิ่งวันนี้มันขอกอดผม รู้ไหมว่าผมดีใจขนาดไหม หัวใจผมพองโตแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แบบนี้จะให้ผมตัดใจจากมันได้ยังไง ถ้าผมจะลองสารภาพรักกับมันแล้วจีบมัน ผมจะมีความหวังไหมนะ
.....................................................................................
“ป่านตื่นสายนะลูก”
ผมลงมาหาอะไรกินในตอนเกือบเที่ยงของอีกวันก็เจอแม่นั่งอ่านหนังสืออยู่
“นิดหน่อยครับแม่ แล้วแม่ไม่ไปทำงานเหรอ”
“ไม่ละ วันนี้จะหยุดสักหน่อย”
ผมพยักหน้าเข้าใจแล้วเข้าไปหาอะไรกินในครัว กินเสร็จก็มานั่งข้างๆแม่
“ไอ้เปรมจะกลับบ้านกี่โมงอะแม่”
“เย็นๆนู้นแหล่ะ เปรมโทรมาบอกแม่เมื่อกี้”
แม่ตอบแล้วมองหน้าผม ผมยิ้มให้แม่แล้วก็ถามอะไรไปสักอย่าง
“แม่ว่าถ้าเราแอบรักเพื่อนตัวเองแล้วสารภาพนี่เปอร์เซ็นผิดหวังเยอะไหม”
แม่มองหน้าผมอย่างสงสัยก่อนจะยิ้มแล้วตอบ
“มันแล้วแต่กรณีนะ ในความคิดแม่ ความรักไม่มีสูตรตายตัวหรอก ต้องลองเอง”
“เหรอครับ”
ผมตอบแค่นั้น แม่ก็ยิ้มแล้วแซวผมทันที
“ไปแอบชอบเพื่อนที่ไหนมาละ แต่เอ๊ะ ป่านเรียนโรงเรียนชายล้วนนิลูก”
ผมหน้าแดงทันทีที่แม่พูดจบ ตายละ แบบนี้แม่ก็รู้หมดดิ แม่ผมยิ่งฉลาดๆอยู่แล้ว
“ก็ เอ่อ”
ผมอ้ำๆอึ้งๆไม่รุ้จะตอบยังไง แม่เลยยิ้มแล้วลูบหัวผม
“เราไม่เคยมีความลับกันไม่ใช่เหรอลูก มีไรบอกแม่สิ”
“คือ ป่านแอบชอบเพื่อนตัวเองครับ”
ผมตอบแล้วก้มหน้าอย่างคนทำความผิด ถ้าแม่จะเข้าใจว่าผมเป็นเกย์ผมก็ไม่ว่าหรอก แต่กลัวแม่รับไม่ได้
“ไม่ต้องก้มหน้า เงยหน้ามองแม่สิ”
แม่พูดเสร็จก็เชยหน้าผมขึ้นแล้วพูดต่อ
“ป่านเป็นเกย์เหรอลูก”
“ป่านก็ไม่รู้เหมือนกัน กับผู้ชายคนอื่นป่านเฉยๆนะ แต่กับมันคนเดียวที่ป่านหวั่นไหว หวั่นไหวมานานแล้วด้วย จะว่ามันเป็นผู้ชายก็ไม่ถูก มันเป็นกะเทยอะแม่”
“หื้ม คนที่ลูกแอบรักเป็นกะเทย แล้วเป็นเพื่อนลูก ซินดี้เหรอ”
ผมตาโตทันทีที่แม่พูดจบ ตายละ ลืมไปเลยว่าแม่เคยเจอเพื่อนๆผมบ่อย
“ก็ใช่ครับ”
ผมตอบเสร็จแม่ยิ้มแล้วพูดต่อ
“แม่ไม่ว่าอะไรป่านหรอกลูก เดี๋ยวนี้ความรักมันไม่จำกัดเพศหรอก แค่รู้ว่ารักก็คือรัก แม่ไม่รังเกียจถ้าป่านจะคบกับซินดี้ ดูอย่างแม่สิ คบกับพ่อเราสุดท้ายก็เลิกกัน ไม่มีอะไรเป็นหลักประกันหรอกว่าจะยั่งยืนต่อให้เป็นชายจริงหญิงแท้ก็เถอะ ฉะนั้นป่านจะรักใครแม่รักด้วย”
ผมยิ้มกว้างให้แม่แล้วเข้าไปกอดแม่ แม้จะเขินบ้างเพราะผมไม่ค่อยจะแสดงออกมากนัก แต่ตอนนี้ผมอยากจะชอบคุณแม่ที่สุดเลย
“ป่านรักแม่นะครับ ป่านดีใจที่แม่เข้าใจป่าน”
“แม่เข้าใจป่านอยู่แล้วลูก เพราะยังไงป่านก็ลูกแม่ตลอดชีวิต แต่ก่อนอื่น สารภาพรักแล้วสมหวังก่อนเถอะ”
แม่ผละออกจากผมแล้วยิ้มล้อเลียนผม
“โถ่แม่ ให้กำลังใจกันหน่อย”
ผมหน้ามุ่ยทันทีที่แม่พูดจบ
“ฮ่าๆ เอาเป็นว่ามีอะไรให้แม่ช่วยก็บอก ถ้าเรารักจริงซะอย่าง สารภาพไปเลย ถ้าเขาตัดเพื่อนก็ดี จะได้จีบเป็นแฟนไปเลยไง”
ผมยกนิ้วกลไลค์ให้แม่
“ใช่เลยแม่ ป่านจะสู้สักตั้ง ไหนๆก็เก็บมาหลายปีแล้ว”
__________________________________________________________
เอาใจช่วยป่านกันด้วยเด้อ อิอิ พาร์ทป่านแต่แอบมีอดีตน้องพีมาเสิร์ฟนิดๆ
ตอนนี้คู่พี่เพลงกับแมทน้อยมาแรงมากกกกกกกก รอหน่อยนะ
คุณ auntreory คนเขียนเห็นด้วยกับคุณมากครับเรื่องนี้ คนเขียนเลยเขียนซินดี้เพื่อมาให้ตัวเองมีความฝันที่จะรอผู้ชายแบบป่าน (อินี้มโน)
สุดท้ายขอบคุณสำหรับทุกคนที่อ่านและคอมเม้นต์ครับ
