59. คริสต์มาส
เกรซขยับตัวอย่างอึดอัดเมื่อสบสายตาคมที่หันมาโดยบังเอิญ เขามองเธอนิ่งครู่หนึ่งแล้วหันกลับไปคุยกับคุณเจมส์ต่อ ภายใต้ท่าทียิ้มแย้มร่าเริงตามปกติของเขา เกรซรู้ว่าเขาแสร้งทำเพื่อให้เธอไม่ต้องตอบคำถามกับพ่อแม่ สาวน้อยกำมือที่วางบนตักแน่นพลางคิดอย่างกังวล
‘นี่เธอกำลังทำอะไรอยู่กันแน่’ เธอกับพีทตกลงจะหมั้นกันเพื่อให้เขายอมถอนตัวออกไป แต่เขากลับต้องมานั่งร่วมโต๊ะอาหารค่ำพร้อมหน้าครอบครัวของเธอในวันคริสต์มาสจากคำเชิญของคุณพ่อ
“กับข้าวไม่อร่อยหรือลูก แม่เห็นลูกไม่ค่อยกินอะไรเลย” คุณแม่หันมาถามอย่างห่วงใย ทำให้เธอต้องรีบปฏิเสธแล้วตักอาหารกินไปคำหนึ่งเพื่อเอาใจผู้เป็นแม่และกลบเกลื่อนอาการผิดปกติของตน
สายตาเขามองมาอีกแล้ว เกรซได้แต่ก้มหน้านิ่ง รู้สึกผิดอย่างไรบอกไม่ถูก รู้สึกผิดต่อครอบครัวที่คิดจะปฏิเสธคนที่พ่อกับแม่หาให้ รู้สึกผิดต่อนายแคนกับสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้
หลังอาหารมื้อค่ำที่ผ่านไปด้วยความกระอักกระอ่วน พ่อกับแม่ก็ขอตัวไปจิบชากันสองคนในห้องดูหนังส่วนตัวเพื่อเปิดโอกาสให้เธอและคู่หมั้นมีโอกาสได้พูดคุยกันทั้งที่มันไม่จำเป็นเลย เพราะเธอกับเขาคงไม่มีอะไรต้องพูดกันแล้วในเมื่อเธอเป็นคนขอให้เขาถอนหมั้นแต่ดูท่าทางแคนจะไม่คิดเช่นนั้น
“ผมขอโทษที่ทำให้คุณอึดอัดที่ต้องมาทำตัวเป็นคู่หมั้นของคุณในวันนี้ ทั้งที่ผมควรจะบอกพ่อกับแม่คุณเรื่องที่เราจะถอนหมั้นกัน ผมเสียใจที่ทำให้คุณไม่สบายใจ”
น้ำเสียงที่พูดมาไม่มีร่องรอยของการประชดประชันเหมือนทุกครั้ง ใบหน้าเขานิ่งไม่แสดงความรู้สึกใด
“ผมมีเรื่องจะตกลงกับคุณ”
“เรื่องอะไรคะ”
เกรซเงยหน้าขึ้นมองเมื่อเขาบอกว่ามีเรื่องจะตกลง ยังมีเรื่องอะไรอีกหรือ?
เขามองหน้าเธออยู่ครู่ ดวงตาคมที่มองมากำลังไหวระริกราวกับเขาต้องกลั้นใจอย่างมาก
“ผมรู้ว่าคุณอึดอัดที่ต้องหมั้นหมายกับคนที่คุณไม่ต้องการแต่คุณจำเป็นต้องทำเพราะพ่อกับแม่เป็นห่วง ผมจะไม่ทำให้คุณอึดอัดอีกแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องหมั้นกับพีทก็ได้เพราะผมรู้ว่ายังไงคุณก็ไม่ได้รักพีทอยู่ดี พวกคุณเป็นเพื่อนกันแล้วผมก็แน่ใจว่าพี่ฮั่นคงไม่ยอมแน่ คุณแค่ต้องการอิสระใช่ไหม”
“ผมจะให้ของขวัญคริสต์มาสคุณ ผมจะให้อิสระคุณเอง ผมจะไม่มาวุ่นวายอะไรกับคุณอีก คุณอยากทำอะไรหรือจะคบใครก็ตามใจคุณ ผมจะไม่ห้ามแต่ผมจะไม่ถอนหมั้น ปล่อยให้ผู้ใหญ่รับรู้ว่าเราเป็นคู่หมั้นกันเหมือนเดิมคุณจะได้ไม่ต้องเหนื่อยหาใครต่อใครมาหมั้นกับคุณอีก เพราะถึงแม้ไม่ใช่ผมหรือพีทพ่อแม่คุณก็ต้องหาใครคนอื่นมาให้คุณอยู่ดี คุณเลี่ยงมันไม่ได้ซึ่งผมก็คิดว่าคุณเข้าใจดีอยู่แล้ว...”
“วันข้างหน้า ถ้าคุณรักใครสักคนที่คุณต้องการอยู่กับเขา คุณค่อยมาบอกผมก็แล้วกัน ผมจะถอนหมั้นให้”
“ผมสัญญา”
เกรซนิ่งตะลึงไปกับสิ่งที่เขาพูด
‘นายนี่มันเอาแต่ใจจริง ๆ จะคิดจะทำอะไรไม่เคยถามฉันสักคำ อยากจะหมั้นก็ประกาศหมั้น อยากจะไปก็ไป เคยถามความเห็นฉันบ้างไหม ฉันโกรธคุณเพราะคุณมันคิดเองเออเองนี่แหละ’“เพียงเท่านี้แหละที่ผมอยากจะบอก”
แคนมองหน้าคู่หมั้นของตนเองคล้ายกับจะเป็นการลาจากนั้นขยับตัวเดินจากไป เกรซที่กำลังอึ้งจึงเพิ่งรู้สึกตัว
“เดี๋ยว...นาย”
ไม่ทันแล้ว ร่างสูงของคู่หมั้นเดินออกจากห้องนั่งเล่นนั้นไปแล้ว และตั้งแต่นั้นมาเธอก็ไม่ได้เห็นหน้าเขาอีกเลย
ในขณะที่คู่หมั้นกำลังตกลงกัน อีกสองคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็กำลังตกลงกัน
“พี่ฮั่นช่วยผมคิดหน่อย ผมจะบอกเกรซยังไงดี”
คนเป็นน้องนอนคว่ำอยู่บนเตียงกว้าง วางคางเรียวของตนบนหมอนนุ่ม เอ่ยถามคนพี่ที่วุ่นวายแกะของขวัญกองใหญ่อยู่ที่พรมหน้าเตียง
หลังจากปรับความเข้าใจกันแล้วความจริงบางสิ่งก็ค่อยกลับเข้าสู่สมองของน้องชาย เมื่อนึกได้ว่าตัวเองกับเกรซตกลงอะไรกันไว้ ใบหน้าพีทเป็นกังวลเมื่อคิดว่าต้องถอนคำพูดตัวเองทั้งที่เวลายังผ่านไปไม่ถึงเดือน
‘แย่ชะมัด ก็ตอนนั้นพี่ฮั่นบอกว่าเป็นพี่น้องกันนี่ แต่ดูตอนนี้สิ ตอนนี้พี่ฮั่นทำอะไรกับเขาไว้แล้วยังไม่สนใจจะช่วยเขาอีก’เขามองไปที่พี่ชายที่ขะมักเขม้นแกะของขวัญอย่างตั้งใจ ของขวัญชิ้นแรกที่พี่ฮั่นแกะออกจากกล่องเป็นหมวกสีแดง พี่ชายลองสวมทันทีแล้วเอียงหมวกไปมาเพื่อเช็คว่ามุมไหนดูดีที่สุดดูเหมือนเด็กโข่งได้ของขวัญยังไงยังงั้น
น้องชายแอบอมยิ้มที่เห็นพี่ฮั่นดีใจขนาดนั้นเพราะเขาก็ดีใจมากเหมือนกัน
คนพี่นั้นแทบไม่สนใจจะตอบคำถามเพราะกำลังดีใจกับของขวัญเกือบสามสิบชิ้นที่กองอยู่ตรงหน้า หลังจากที่พวกเขาใช้เวลาอยู่บนเตียงพูดคุยกันอยู่นานเขาก็ทวงของขวัญคริสต์มาสจากน้อง
“พี่ให้ของขวัญคริสต์มาสพีทแล้ว ไหนล่ะของขวัญของพี่”
พีทมองหน้าเขาอย่างรู้ทัน รู้ดีว่าถ้าตัวเองไม่มีของขวัญให้พี่ชายแล้วพี่ชายคงหาโอกาสขอ ‘ของขวัญพิเศษ’ เองแน่ น้องยิ้มให้เขาแต่หลบตา ยกมือปัดผมตัวเองไปมา อาการแบบนี้ทำให้เขาประหลาดใจ
พีทเขิน?
“ของขวัญของพี่อยู่ในห้องผม” พีทว่า ใบหน้าเริ่มซับสีเลือดขึ้นทีละน้อย
“พี่ไปเอาเองได้ไหม อยู่ในลังไม้ใต้เตียงนะ” พีทพูดเสียงอู้อี้เมื่อซบหน้าลงกับหมอน ชี้ไม้ชี้มือไปทางห้องนอนของตน
‘เอ๊ะ ทำไมต้องเอาของขวัญไว้ใต้เตียงด้วยล่ะ?’
เขามองคนที่ซุกหน้ากับหมอนใบใหญ่ ในหัวเต็มไปด้วยคำถามแต่น้องไม่ยอมตอบอะไรอีก ดังนั้นขายาวของเขาจึงก้าวออกจากห้องไปยังห้องน้องชาย คำตอบรออยู่ใต้เตียงตามที่พีทบอก แต่ลังไม้ที่ลากออกมานั้นทำให้เขาประหลาดใจอย่างที่สุด ลังไม้นั้นสูงประมาณสามสิบเซนติเมตรกว้างขนาดแรมโบ้ลงไปนอนในนั้นได้
‘ของขวัญคริสต์มาสของเขาอยู่ในนี้งั้นเหรอ?’
เขายกลังไม้นั้นกลับเข้ามาในห้องของตัวเอง มันหนักพอสมควร
พีทเงยหน้าจากหมอนเมื่อได้ยินเสียงเขาเดินกลับเข้าห้อง มองมาที่ลังไม้นั้นแล้วก็ยิ้มเขิน
“อะไรน่ะพีท ทำไมต้องเก็บในลังนี่ด้วย ทำยังกับหีบสมบัติ” เขาถามอย่างสงสัย
“ก็หีบสมบัติน่ะสิ ของขวัญของพี่เป็นสมบัติที่มีค่าของผม”
เขาวางลังไม้อัดบนพรมหน้าเตียงก่อนจะเปิดฝาไม้นั้นออก กวาดสายตามองดูของทุกชิ้นที่วางอยู่ในนั้นอย่างแปลกใจ
‘ของขวัญ? ทำไมเยอะขนาดนี้ล่ะ?’
กล่องของขวัญหลายกล่องวางอยู่ในนั้น มีหลายขนาด ห่อด้วยกระดาษสีสดใสที่เริ่มซีดจาง มือใหญ่หยิบกล่องหนึ่งขึ้นมาดู
การ์ดบนกล่องนั้นเขียนว่า “Merry Chirstmas 2009”
เขาหยิบอีกกล่องขึ้นมาอีก
การ์ดบนกล่องอีกใบเขียนว่า “สุขสันต์วันเกิดปีที่ 19”
อีกกล่องเขียนว่า “...สุขสันต์วันเกิดปีที่ 22...”
อีกกล่องหนึ่ง “Happy New Year 2010”
เขาเงยหน้ามองน้องอย่างประหลาดใจ
“ของขวัญของพี่ตั้งแต่พี่ไปอังกฤษ ผมอยากจะให้พี่แต่พี่ไม่กลับมา ผมก็เลยเก็บมันไว้” น้องชายบอกแล้วก็หลบตา
“หมดนี่ เป็น..เป็นของขวัญที่พีทจะให้พี่แต่เก็บไว้งั้นเหรอ” เขาถามพลางชี้ไปที่ลังไม้ตรงหน้า
“ครับ” พีทพยักหน้า ซบหน้าลงกับหมอนอีก หน้าแดงจัด
“โอ๊ยพี่! ผมหนัก”
พีทโวยวายไม่จริงจังนักเมื่อเขากระโดดขึ้นเตียงโถมเข้ากอดน้องทั้งตัว พวกเขากลิ้งไปมา เขารัดร่างน้องชายไว้แน่น
“พีท-พีท พีท-พีท” เขาเรียกน้องด้วยความดีใจแกมขัดเขิน
สิ่งของที่เห็นยังไม่เท่ากับความรู้สึกปลาบปลื้มใจที่ได้รู้ว่าพีทไม่เคยลืมวันสำคัญของเขา พีทแสดงออกมาตลอดว่าโกรธเขาอยู่ แต่กลับมีของขวัญวันเกิดให้เขาทุกปี แม้จะไม่ได้ให้เขาแต่น้องก็เก็บไว้
ดีใจ ความรู้สึกนี้อาบไปทั้งตัว
“พีท น่ารักจัง”
เขาว่าแล้วก็พรมจูบไปทั่วใบหน้าน้องชาย ทำเสียงจ๊วบจ๊าบไปด้วย พีทพยายามส่ายหน้าหนีแต่ก็หนีไม่พ้นเพราะเขาจูบลงไปทุกที่ ในที่สุดน้องก็พลิกตัวขึ้นมาทับเขาไว้ ใช้ศอกทั้งสองข้างยันที่นอน ยกหน้าตนเองขึ้นเพื่อไม่ให้เขาทำอะไรได้
“ดีใจจังเลย”
เขาบอกพลางยิ้มกว้าง ยกมือแตะข้างแก้มแล้วสอดมือของตนไปตามเส้นผมนุ่มของน้องชาย ใช้นิ้วโป้งไล้เบา ๆ ทุกสัมผัสเต็มไปด้วยความรู้สึกอันเปี่ยมล้น ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับพีทเพียงคนเดียว มืออีกข้างกอดร่างที่อยู่ด้านบนไว้ มองใบหน้าคนที่เขารัก
‘พีทจะรู้ไหมนะว่าเขามีความสุขขนาดไหน’
สายตาที่เปี่ยมด้วยความสุขของพี่ชายทำให้พีทที่มองอยู่รู้สึกเขิน เพราะเขาเองก็มีความสุขที่เห็นพี่ฮั่นมีความสุขเช่นกัน
“อะไรเล่า ก็พี่ยังเคยฝากแรมโบ้มาให้ผมเลย” พีทว่าก่อนจะหลบตา เปลี่ยนมาทิ้งตัวซบไว้บนร่างหนาของพี่ชาย เท้าคางไว้บนมือข้างหนึ่ง ใบหน้าพวกเขาอยู่ใกล้กัน
“ผมดีใจที่ได้ให้ของขวัญพี่ ไม่ต้องแอบเก็บไว้อีก” พีทพูดพลางเลื่อนมือไปแตะข้างแก้มของพี่ฮั่น ลูบไปตามคางพี่ชายแผ่วเบา มองสบตา
“รู้ไหมว่าผมดีใจมากขนาดไหนที่พวกเราได้อยู่ด้วยกันอีก”
สัมผัสของน้องชายช่างนุ่มนวล เขาชอบที่พีททำแบบนี้ มันทำให้เขารู้สึกดี
“ไม่รู้หรอก พีทก็ทำให้พี่รู้สิ”
พี่ชายว่าเสียงเบาลง ดวงตาแพรวพราวอย่างมีความหมาย เขาคาดว่าพีทคงจะเขินกับคำพูดแฝงความนัยของเขาแต่กลับต้องประหลาดใจเมื่อน้องก้มลงมา
เขาหลับตาลงเมื่อจูบอ่อนโยนของน้องชายแตะลงที่หน้าผาก พีทลากริมฝีปากแตะเพียงแผ่ว ๆ ไปตามสันจมูก หยุดนิ่งเหนือริมฝีปากเขาครู่หนึ่ง ทำให้เขารอคอยจนต้องลืมตาขึ้นมา และเมื่อตาสบตาทุกอย่างรอบกายเหมือนเลือนหายไป หัวสมองเขาว่างเปล่า มีเพียงสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรักที่ส่งมาก่อนที่น้องชายจะกดจูบที่ริมฝีปาก
เขาหลับตาลงอีกครั้ง กระแสความรู้สึกบางอย่างไหลผ่านริมฝีปากนุ่มที่บดคลึงอยู่แทรกซึมไปทั่วร่าง ทำให้เขาเกิดความปิติ อิ่มเอิบใจ เขาปล่อยให้น้องชายเป็นฝ่ายสัมผัส ผ่อนคลายร่างกายตามสบายเพื่อรับความรักที่ถ่ายทอดผ่านริมฝีปากนุ่มนั้นอย่างเต็มที่ พีทเคลื่อนริมฝีปากช้า ๆ บดริมฝีปากนุ่มกับเขาเบา ๆ ก่อนจะเพิ่มแรงมากขึ้นทีละนิด
“อืม”
เขาครางในลำคอกับความรู้สึกรัญจวนใจจนต้องกอดน้องชายที่ซบอยู่บนร่างเขาไว้แน่น พีททำให้เขารู้สึกวูบวาบในช่องท้อง มือของน้องชายลูบไปตามเส้นผม ลำคอ ใช้นิ้วโป้งดันปลายคางเขาให้เงยขึ้นอีกนิดเพื่อให้ริมฝีปากได้แนบสนิทกันมากขึ้น
จูบนี้ช่างอ่อนหวาน สัมผัสเหล่านั้นเต็มไปด้วยความรัก นุ่มนวลและลึกซึ้ง ลิ้นนุ่มแตะแผ่วเบาที่ริมฝีปากก่อนจะสอดมาภายใน ตวัดพัวพันกับลิ้นเขาเพียงนิดอย่างหยอกล้อแล้วถอยไป
พีทกดริมฝีปากนุ่มลงอีกครั้งเนิ่นนาน ยังรู้สึกเหมือนมันผ่านไปเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้นเองเมื่อพีทผละไป
ความรักที่ส่งมานั้นยังไหลวนอยู่ทั่วร่าง เขาใช้เวลาซึมซับมันไว้ในใจก่อนจะลืมตาขึ้นช้า ๆ สายตาน้องชายที่มองมาบอกทุกสิ่งทุกอย่าง เขารู้แล้วว่าพีทยินดีเพียงใดที่เขากลับมาอยู่ข้างกายน้องอีกครั้ง
“พีทอ่า..”
กลับกลายเป็นว่าเขาเขินซะเอง
“พี่ฮั่น ได้ยินที่ผมถามไหม”
พีทถามย้ำอีกครั้งเมื่อพี่ชายยังไม่มีทีท่าจะตอบคำถาม ตอนนี้พี่ฮั่นใส่หมวกสีแดง สวมสร้อยเงินเส้นยาวที่มีจี้เป็นตัวอักษร H ขนาดใหญ่ ใส่นาฬิกาที่ข้อมือทั้งซ้ายและขวา พีทจำของขวัญของตัวเองได้ทุกชิ้น เวลานี้พี่ฮั่นกำลังแกะของขวัญคริสต์มาสเมื่อสองปีที่แล้วและพี่ชายคงไม่รีรอที่จะลองสวมรองเท้าหนังสีดำหุ้มข้อนั้นทันที
“ช่วยไม่ได้นี่ นายอยากผูกเรื่องขึ้นมาเองก็แก้เองสิ จะมาให้พี่ช่วยทำไม”
พี่ชายว่าแล้วทำท่าไม่สนใจ เมื่อกำลังลุกขึ้นเดินไปมา หลังจากลองสวมรองเท้าหนังที่ดุนด้วยกระดุมสีเงินเป็นลวดลายแปลก ใบหน้าพี่ชายสดใสเพราะได้ของขวัญถูกใจ
“พี่อ่ะ มันก็เพราะพี่นั่นแหละ ถึงทำให้ผมตกลงหมั้นกับเกรซน่ะ”
“อ๋อ งั้นก็ยอมรับแล้วสิว่าตอนนั้นจะหมั้นกับเกรซประชดพี่ใช่ไหม”
พี่ชายหยุดเดินแล้วหันมาทางเขา ยกมือกอดอกแล้วยิ้มเยาะ
“เอ่อ ไม่ ไม่ใช่นะ ผมแค่คิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ต่างหาก พี่อย่าคิดเข้าข้างตัวเองสิ ตอนนั้นผมไม่สนพี่แล้วตะหาก”
“จริงเหรอ” พี่ฮั่นเดินกลับมาทรุดตัวนั่งบนเตียงใกล้กับเขาที่นอนขวางเตียงอยู่
“จริง” เขายืนยัน ทำหน้าจริงจังทั้งที่ความจริงแล้วก็แอบยอมรับกับตัวเองอยู่ลึก ๆ ว่าส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาตกลงจะหมั้นกับเกรซก็เพราะพี่ฮั่นนั่นแหละ
พี่ฮั่นส่ายหน้าราวกับไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วย วางมือใหญ่บนหัวเขาแล้วโยกไปมาราวกับเขายังเป็นเด็ก
“ไม่ต้องบอกเกรซหรอก พี่บอกแคนแล้วให้จัดการเรื่องนี้เอง มันเป็นเรื่องของเขาสองคน คนนอกอย่ายุ่งเข้าใจไหม”
พี่ฮั่นพูดพร้อมกับเอานิ้วชี้จิ้มหน้าผาก ‘คนนอก’ ออกแรงผลักเบา ๆ อย่างหมั่นไส้
“พี่อ่ะ ผมตั้งใจดีนะ แค่อยากช่วยเพื่อนเท่านั้นเอง ก็เกรซเศร้าขนาดนั้น ถ้าไม่หนักหนาจริง ๆ เกรซไม่เล่าให้ผมฟังหรอก” เขาตอบ รู้อยู่หรอกว่ามันเรื่องของคนสองคนแต่ตอนนั้นเขาเองก็สับสนวุ่นวายใจอยู่นี่นา ใครจะไปคิดอะไรออก
“ยังไงเราก็ไม่ควรไปยุ่ง รู้ไหม คราวหน้าห้ามนะ พี่ไม่ยอมให้พีทไปหมั้นกับใครแน่”
“ทำไมผมจะต้องเชื่อพี่ด้วยล่ะ” พีทพลิกไปนอนหงาย เอียงหน้าไปมองพี่ชาย หน้างอเมื่อโดนพี่ฮั่นว่า
“ก็พีทเป็นของพี่นี่ ต้องเชื่อฟัง”
“อ๊า...”
พี่ฮั่นพูดอะไรเนี่ย พีทพลิกหน้าหนีเพราะกำลังเขินแต่พี่ฮั่นกลับจับไหล่เขาทั้งสองข้างกดไว้กับเตียง ก้มลงมาจนชิดก่อนจะเอ่ยเสียงเบาแฝงความหมาย
“หรือต้องให้ทบทวนไหม พี่ไม่เกี่ยงหรอกนะ จะทบทวนท่าไหนก็ได้ทั้งนั้น”
พี่ชายหยุดการแกะของขวัญของปีก่อนไว้ชั่วคราว แล้วหันมาเรียกร้องของขวัญคริสต์มาสของปีนี้จากน้องแทน
“เฮ้ย พี่ ไม่เอา พี่ ไม่เอา พีทไม่...”
พีทไม่มีโอกาสปฏิเสธ ได้แต่คิดอยู่ในใจคนเดียว
‘พี่ฮั่นนะพี่ฮั่น ระวังตัวให้ดีเถอะ พีทเอาคืนแน่’---------------------------------
ขอโทษที่หายไปนานค่า อีกไม่กี่ตอนก็จะจบแล้วค่ะ ขอบคุณที่ติดตามนะคะ จุ๊บๆ