ตรงนั้นคือหน้าที่ ตรงนี้คือหัวใจ บทส่งท้าย จบแล้วค่ะ หน้า 12 อัพเดต 9/8/2558
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ตรงนั้นคือหน้าที่ ตรงนี้คือหัวใจ บทส่งท้าย จบแล้วค่ะ หน้า 12 อัพเดต 9/8/2558  (อ่าน 94827 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tigerintherain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
45. เผลอ



เขากลับเข้ามาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง  พี่ฮั่นยังคงนอนหลับอยู่  คุณโรสนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงไม่ห่าง  พีทเดินไปกอดไหล่แม่เลี้ยงของเขาไว้แน่น  คุณโรสก็กอดตอบเขาแน่นเช่นกัน  คนที่พวกเขารักสุดหัวใจยังไม่พ้นจากขีดอันตราย  พวกเขากำลังถ่ายเทความเจ็บปวดของกันและกัน

“น้องพีท ขอบคุณมากนะลูกที่ช่วยพี่ฮั่นไว้  ถ้าไม่ได้พีท  พี่ฮั่นคง...”  คุณโรสพูดทั้งน้ำตา

“คุณโรสอย่าพูดแบบนั้นสิครับ พี่ฮั่นก็เคยช่วยผมไว้ตั้งหลายครั้ง” 

พีทเอื้อมมือไปเกลี่ยน้ำตาให้แม่เลี้ยงของเขาอย่างนุ่มนวล  แต่ตัวเองกลับน้ำตาไหล  คุณโรสกอดเขาแน่นแทนคำพูดใด  พวกเขากอดกันและกันอยู่แบบนั้นครู่ใหญ่

“คุณโรสนอนเถอะครับเดี๋ยวพีทเฝ้าต่อให้เอง” ในที่สุด พีทก็เอ่ยทำลายความเงียบอันน่ากลัวนี้
 
คุณโรสอิดออดอยู่ครู่หนึ่งจึงยอมเดินไปพักในห้องพักสำหรับญาติภายในห้องพักผู้ป่วย  พ่อของเขาหลับไปแล้วเพราะอ่อนเพลียจากการตระเวนหาเสียงโค้งสุดท้าย 

เมื่อคุณโรสปิดประตูห้องพักไปแล้ว  พีทจึงหันมามองพี่ฮั่นที่นอนหลับบนเตียง

ตาพี่ฮั่นกลับมาเป็นปกติแล้ว  ผื่นที่ขึ้นตามตัวก็ยุบเหลือแต่รอยแดงจาง ๆ ยังคงมีรอยยาสีขาวป้ายตามแขนเพื่อบรรเทาอาการคันจากอาการแพ้

เขามองใบหน้านั้นอยู่นาน  ความรักความเป็นห่วงท่วมท้นหัวใจ  นึกถึงตอนที่พี่ฮั่นกำลังดิ้นทุรนทุรายในวินาทีแห่งความเป็นความตายแต่เขาเองกลับทำอะไรไม่ได้ก็แทบจะขาดใจ  เพิ่งรู้ว่ารักคนคนนี้มากขนาดไหนก็ตอนที่พี่ฮั่นกำลังตกอยู่ในอันตรายที่สุดนั่นเอง

เขาเอื้อมมือไปสัมผัสมือของพี่ฮั่นที่วางอยู่บนอก จับไว้เหมือนต้องการความมั่นใจ  เอื้อมมืออีกข้างไปลูบผมคนที่หลับอยู่

‘พี่ฮั่น..พีทขอโทษ ขอโทษแทนคุณปู่ด้วย ต่อจากนี้ไปจะไม่มีใครทำอะไรพี่ฮั่นอีก’

ดวงตาเขาจับอยู่ที่ใบหน้าของพี่ชายที่นอนหลับ  มือที่ลูบผมเลื่อนมาแตะที่ใบหน้า  ใช้นิ้วโป้งไล้แผ่วเบาแถวขมับคนที่นอนอยู่

พี่ฮั่นของเขา...

อยู่ ๆ ความรู้สึกมากมายที่มีต่อพี่ชายคนนี้ก็ไหลทะลักออกจากใจ  ความรักที่เขาเก็บไว้ไม่ให้พี่ฮั่นรู้เหมือนเก็บไว้ไม่ไหวอีกต่อไป  มันมากมายเกินกว่าที่เขาจินตนาการ  ทำให้เขาลืมทุกสิ่งทุกอย่าง 
 
พีทก้มหน้าลงไปใกล้ใบหน้าพี่ชายที่นอนหลับอยู่
 
สัมผัสริมฝีปากบางเบาที่เปลือกตาที่ปิดสนิท  ปลายจมูก  หยุดนิดหนึ่งอย่างชั่งใจแล้วกดจูบที่ริมฝีปากแผ่วเบา

เพียงชั่วขณะเดียวเท่านั้นเขาก็ถอนริมฝีปากตัวเองออก  เมื่อเงยหน้าขึ้นก็ต้องชาวาบไปทั่วร่างเมื่อสบตากับคนที่นอนอยู่

“พี่ฮั่น!!”     

‘พี่ฮั่นตื่นตั้งแต่เมื่อไร!’


“พีท  ทำอะไร”

พีทไม่ตอบ  คิดไม่ถึงว่าพี่ฮั่นจะตื่นมาพอดี  ไม่ทันตั้งตัว  เขาหันหน้าเดินหนีแต่พี่ฮั่นกลับคว้าแขนเขาไว้ได้ทัน  มือนั้นจับแขนเขาแน่น 

“เดี๋ยวก่อน”  พี่ฮั่นพูดเสียงแหบ

พีทหันหน้าไปทางอื่น  ไม่กล้าสบตา  หัวใจกำลังเต้นรัวราวกับมีใครมาตีกลองอยู่ในอก

“พีท  ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง  เรา...เป็นพี่น้องกัน”

“ผมรู้”  พีทหลับตา  เขาทำอะไรลงไป?

“อย่าทำแบบนี้อีก”

ประโยคนั้นทำให้เขาลืมตารวดเร็ว  หันไปมองสบตาคนที่อยู่บนเตียงนิ่ง  เขาเห็นแต่ความจริงจัง  พี่ฮั่นไม่ต้องการให้เขาทำแบบนี้  ความรู้สึกบางอย่างแล่นขึ้นมาจนจุกอก  พีทกัดฟันถาม

“พี่ไม่อยากรู้หรือว่าทำไมผมทำแบบนี้”   

“เอ่อ  มะ  ไม่  พีท  มันไม่ถูกต้อง”

เขากล้ำกลืนความรู้สึกนั้นลงไป  ตัดสินใจกะทันหันที่จะพูดบางสิ่งบางอย่าง

“ผม..”   

“พีท!  ไม่ต้องพูดแล้ว  แล้วพี่ห้ามเราทำแบบนี้อีก  เราเป็นพี่น้องกันเข้าใจไหม!”

คำพูดที่ได้ยินเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางอก  เผาไหม้จิตใจเขา   

ความรู้สึกมากมายของเขาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้  ความรักที่ทำให้เขาลืมตัวไปชั่ววูบกลับถูกทำลายลงภายในพริบตาจากประโยคนั้นของพี่ฮั่น 

พีทเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยด้วยดวงตาปวดร้าว  ตาพร่ามัวมองอะไรไม่เห็น  จำไม่ได้ว่ากลับมาอยู่ที่ห้องนอนตัวเองในบ้านริมสระได้อย่างไร

-------------------------------------------



ร่างผอมบางของชายวัยเจ็ดสิบเศษพยุงร่างขึ้นจากเตียงอย่างยากลำบากจากอาการป่วยและอ่อนเพลียเห็นได้ชัด   

หลายวันก่อนเขาสั่งให้เจเจจัดการ ‘เก็บ’ ไอ้หลานคนทรยศนั่นซะ  ไอ้ฮั่นหลานของคนที่เขาเกลียด  ยิ่งมันใกล้ชิดกับตระกูลเขาเท่าไรเขาก็ยิ่งทวีความโกรธมากขึ้นเท่านั้น  มันกลับมาตอกย้ำความเจ็บปวดของเขาตลอดเวลา

มือที่เต็มไปด้วยรอยย่นสอดเข้าไปใต้หมอน  หยิบภาพขาวดำเก่าแก่นั้นออกมาลูบแผ่วเบา

‘หลิว  นายตายไปตั้งนานแล้วยังส่งหลานชายมาหลอกหลอนชั้นอยู่อีก  ต้องการแก้แค้นชั้นใช่ไหม  นายคงเกลียดชั้นมากใช่ไหมถึงทำอย่างนี้....’

เขานิ่งไปนาน  ตลอดสี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีความสุขสักครั้งในชีวิตตั้งแต่หลิวแต่งงานกับลิลลี่ 

'ไอ้ฮั่นมันกำลังจะย้อนรอยตาของมัน มันต้องไม่อยู่ทำร้ายหลานของเขาอีก' มือที่กำลังลูบภาพนั้นแปรเปลี่ยนเป็นกำแน่น 

‘เจเจจัดการไปถึงไหนแล้วนะ’


“ใครที่อยู่ข้างนอก  เรียกเจเจให้หน่อย” 

ชายแปลกหน้าคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมพยาบาลประจำตัวของเขา  คุณฟงขมวดคิ้วทันที

“แกเป็นใคร  เข้ามาได้ยังไง  แล้วเจเจอยู่ที่ไหน?”  ท้ายประโยคเขาหันไปถามพยาบาลส่วนตัวที่เดินหน้าซีดเข้ามา

“เจเจถูกคุณชายยิงเมื่อคืนครับท่าน  ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลครับ”

“อะ อะไรนะ!“  ชายสูงวัยร้องอย่างตื่นตระหนก   พีทยิงเจเจ  ทำไม?  หรือว่าเจเจทำพลาด

ใบหน้าชายสูงอายุนั้นดูแก่ลงสักสิบปีเมื่อรับรู้ข่าวร้าย  เขาหันมาถามชายแปลกหน้าที่ยืนอยู่ด้วยดวงตาหวั่นเป็นครั้งแรก

“แล้วแกเป็นใคร” 

“ผมเป็นคนของคุณคริสครับ   ตอนนี้คุณคริสสั่งให้ผมมาคอย ‘ดูแล’ ท่านที่บ้านนี้จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยครับ”

“อะไรนะ  แล้วคนของชั้นไปไหนหมด  เล่ย  ตง  อู๋  เข้ามาเดี๋ยวนี้” 

คุณฟงตะโกนเรียกลูกน้องเสียงแหบแห้ง

“ไม่มีใครอยู่แล้วครับ  ที่บ้านนี้มีเพียงแม่บ้าน  พยาบาลและคนของคุณคริสเท่านั้นครับท่าน  หากท่านต้องการอะไรท่านสั่งผมได้ครับ”

ชายแปลกหน้านั้นพูดอย่างสุภาพแต่ท่าทีที่แสดงออกนั้นราวกับเป็นคนออกคำสั่งเสียมากกว่า

“ไอ้  ไอ้  คริส  แก  ไอ้หลานทรยศ  ไอ้หลานอกตัญญู  แก  รักคนอื่นมากกว่าอาตัวเองงั้นรึ  แล้วเราจะได้เห็นดีกัน!!” 

คุณฟงเริ่มต้นอาละวาดด้วยการหยิบข้าวของใกล้ตัวขว้างปา  ตะโกนด่าหลานชายตัวเอง  แต่ทำได้ไม่นานก็เริ่มหายใจอย่างยากลำบาก  มือผอมบางนั้นกดแน่นที่หน้าอก

“คุณท่าน  คุณท่านคะ  นาย  ช่วยเรียกรถพยาบาลด่วน!!” 

-------------------------------------



พีทนั่งจมอยู่บนเตียงนานเท่าไรไม่รู้  ตั้งแต่เขากลับมาจากโรงพยาบาลเมื่อคืนเขาก็นั่งอยู่ตรงนี้ไม่ได้ขยับไปไหน 

ว่างเปล่า  ไม่เหลือสิ่งใดในสมอง  คิดอะไรไม่ออก  น้ำตาเหือดแห้งไปนานแล้ว 

พี่ฮั่นไม่แม้แต่จะยอมฟังว่าสิ่งที่เขาต้องการพูดคืออะไร  สิ่งที่เขารู้สึกคืออะไร 

พี่ฮั่นย้ำแต่เพียงว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน  เรื่องนั้นเขารู้อยู่แล้ว! 

ไม่แม้แต่จะยอมรับรู้ความรู้สึกของเขา  ทำไม? 

เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขึ้น  คนเพียงคนเดียวที่จะกล้าเปิดประตูห้องนอนเขาเข้ามา 

พีทยังนั่งนิ่งอยู่เช่นเดิมเหมือนไม่ยอมรับรู้ว่ามีใครเข้ามาในห้อง 

บรรยากาศในห้องคล้ายถูกบีบ  อัดแน่นเต็มไปด้วยความอึดอัด  ไม่มีใครพูดอะไร  คนที่เข้ามาในห้องยืนนิ่งไปเหมือนพูดอะไรไม่ออกเช่นกัน  นานทีเดียวกว่าจะมีเสียงเรียกชื่อเขา 

พีทไม่ตอบ  ไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ ทั้งสิ้น  เขายังคงนั่งนิ่ง  แววตาไม่รับรู้เมื่อกำลังจมดิ่งลึกไปในทะเลของความเสียใจ เขาสำลักความเจ็บปวดที่ไหลเข้าท่วมปอด  ความเสียใจแทรกอยู่ทุกอณูของร่างกาย  เจ็บจนชาไปหมด

เตียงยวบเมื่อมีคนนั่งลง

“พีท  พี่ขอโทษ”

ดวงตาพีทมีแววรับรู้ขึ้นมาชั่วขณะ  เขาหันมาเหมือนเพิ่งรู้สึกตัวว่ามีคนกำลังพูดด้วย 

น้ำเสียงอ่อนโยนจากพี่ชายคนเดิม  แต่ทำไมไม่รู้พีทกลับรู้สึกว่าคำพูดนั้นกรีดแทงเข้าไปในใจเขา  บาดซ้ำตรงแผลเดิมที่ได้รับคืนก่อน  เสียงอ่อนโยนเคยปลอบประโลมใจเขาเสมอเวลาที่เขาเสียใจ  แต่ครั้งนี้เสียงนั้นกลับทำให้เขาปวดร้าว  เพราะรู้ว่ามันมาจากความเสียใจที่ไม่อาจตอบสนองความรู้สึกของเขาได้  เสียใจที่ทำตามที่เขาต้องการไม่ได้

พีทมองหน้าพี่ฮั่นนิ่ง  รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีเหลือเพียงน้อยนิด

“ผมรักพี่ฮั่น”

ความรู้สึกทั้งหมดส่งผ่านคำพูดสั้น ๆ และแววตาของเขา  บอกทุกสิ่งทุกอย่างที่เขารู้สึกต่อคนตรงหน้า  ความรู้สึกพิเศษที่มีให้แค่คนเพียงคนเดียว

“ไม่”   พี่ฮั่นปฏิเสธทันทีแล้วหลบตา

เหมือนน้ำกรดราดซ้ำลงไปบนใจที่เต็มไปด้วยบาดแผลเมื่อได้ฟังคำปฏิเสธซ้ำอีก  พี่ฮั่นพูดออกมาแทบไม่เสียเวลาคิดอะไรเลย  มันคงน่ารังเกียจมากสินะที่เขาคิดเช่นนี้กับพี่ชาย  ทั้งที่สิ่งนี้เป็นความรู้สึกที่พิเศษที่สุดของเขา

“พีท  เราเป็นครอบครัวเดียวกัน”

“พีท พี่  พี่ไม่รู้จะพูดยังไง  พีทจะโกรธ จะด่าว่า จะทำอะไรพี่ก็ได้  แต่พี่อยากให้เราเป็นเหมือนเดิม พีท ได้ยินพี่รึเปล่า”

พีทไม่ตอบ  แววตาที่มองมาไร้ความรู้สึกอีกต่อไป

จะให้เขารู้สึกอะไรได้อีกในเมื่อความรู้สึกทั้งหมดของเขาได้ส่งไปแล้ว  และพี่ฮั่นได้ทำลายมันลงไปพร้อม ๆ กับหัวใจของเขา

...ด้วยมือของพี่ฮั่นเอง...

พีทเพียงแต่หันหน้ากลับไปเหมือนเดิมไม่สนใจอะไรอีก  พี่ฮั่นยังพูดอะไรต่ออีกยืดยาวแต่เขาไม่ได้ยินเสียแล้ว  เขานั่งนิ่งเหมือนเดิมจนกระทั่งได้ยินเสียงประตูปิดลง

เมื่ออยู่คนเดียวอีกครั้ง  หยดน้ำก็ไหลจากตา  จากหัวใจที่ย่อยยับไป

...เพียงแค่ชั่วคืน....


-----------------------------------------



 :hao5:  :mew6:





ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
ไหงมามาม่ายับแบบนี้อ่ะ แล้วไอ่พี่ฮั่นมันเป็นอะไรของมันทำไมถึงทำกับน้องแบบนี้

ออฟไลน์ ST.tuktik

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 7
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
พี่ฮั่นนิสัยไม่ดี ทำน้องพีทร้องไห้  :sad12: :sad12:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
แต่เดิมไม่ได้คิดมากเรื่องใครรุกใครรับ

แต่พอมาแนวนี้แล้ว หมั่นไส้ฮั่นค่ะ พีทปล้ำมันเลย :ling2:

โอย เกลียดคนคิดเยอะมีอะไรไม่ยอมพูด

ไม่ชัดเจน หวงก้างแต่ไม่ชัดเจน ไม่ยอมรัยความรู้สึกคนอื่น ทำน้องร้องไห้ไม่อนุญาตให้เป็นพระเอกย่ะะะ  :beat:

ไม่ต้องมาคิดแทนน้องได้ปะว่าอะไรดีไม่ดีต่อน้อง พีทลูก ซบอกป้านะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
เอ่อ คือก็เข้าใจความคิดพี่ฮันนะ แต่หมั่นไส้ว่ะ สงสารพีท

ออฟไลน์ cross

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
สงสารพีทอ่ะ เจ็บจนไม่รู้จะเจ็บยังไงแล้วนั่น

kjkjji

  • บุคคลทั่วไป
 :katai1:
คะ..คุณปู่คะ อะไรกันคะ ยกมือรีเควสต์ตอนพิเศษค่ะ!

สำหรับอีพี่ฮั่น  :z6:

นี่นี่นี่ :beat: :beat: :beat:

ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยรึเปล่าน่อ  :เฮ้อ: คุณปู่ดูแค้นเคืองมากแสดงว่าอดีตคุณตาต้องทำอะไรให้เจ็บช้ำน้ำใจมากแน่ๆ เดาว่าไม่ใช่เรื่องคุณย่าแบบที่ทุกคนเข้าใจ หรือเราจะคิดเยอะไปเนี่ย555
ยิ่งอ่านยิ่งเคืองอีพี่ฮั่นนะ ความดีที่พี่ทำมาตอนต้นๆเรื่องถูกหักล้างไปหมดแล้ว ลาก่อนค่ะ ต่อจากนี้จะทำอะไรก็ทำไป อย่ามาเข้าใกล้น้องอีกนะ
สนับสนุนให้น้องพีทมีเมีย หาแฟนสวยๆ เลิศๆแล้วแต่งงานไปเลยลูกก เอาให้คนพี่มันเจ็บช้ำน้ำใจตายไปเลย เชอะ
พี่ฮั่นทำฉันโกรธมาก! แบบมากมาก!
 :m31: :m31:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-10-2014 15:08:30 โดย kjkjji »

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
อิพี่ฮั่น
ปฏิเสธความรู้สึกน้องทำไม
แล้วก่อนหน้านี้แกจะหวงก้างน้องเพื่อ?
 คนใจร้าย

ออฟไลน์ Tigerintherain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
46. เสียใจ



‘เสียง เสียงอะไร??’

ต้องใช้เวลาอยู่นานทีเดียวกว่าเขาจะนึกออกว่าเสียงนั้นคือเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาเอง

‘อยู่ที่ไหน??’  มือเขาควานหาเจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมแบนไปทั่วเตียง

เสียงหายไปแล้ว เขานิ่งไปอีก

‘เสียงมาอีกแล้ว  มาจากไหนนะ?? ตอนนี้กี่โมง ทำไมถึงได้มืดแบบนี้’

เขาลืมตาขึ้นแทบไม่ไหว  ตอนนี้ตาเขาคงบวมแน่ ๆ พีทพยายามยกเปลือกตาอันหนักอึ้งของตัวเองขึ้นอย่างยากลำบาก  เห็นแสงสว่างจากมือถืออยู่ห่างไปเล็กน้อย  เขาเอื้อมมือไปกดรับ

“พีท  นี่พี่เองนะ”

“พี่โดม!!  ฮึก ๆ” 

ทันทีที่ได้ยินเสียงพี่โดม  พีทก็ร้องไห้หนักทันที  พูดอะไรไม่ออกอีกต่อไป 

นานทีเดียวกว่าจะตั้งสติได้  พี่โดมยังคงรออยู่ในสายอย่างใจเย็น

“พีทพี่มีเรื่องจะคุยด้วย  ออกมาได้รึเปล่า  พี่รออยู่หน้าบ้านนะ”  น้ำเสียงพี่โดมอ่อนโยนเหมือนกับรู้ว่าเขากำลังมีปัญหา

‘พี่โดมอยู่หน้าบ้าน?’

เรื่องที่ได้ยินทำให้เขาได้สติขึ้นมา  ร่างสูงของพีทพยายามยกตัวขึ้นนั่ง  เวลานี้มืดแล้ว  ห้องเขามืดไปหมดไม่รู้ว่ากี่โมงกี่ยาม  พีทกัดฟันลุกไปห้องน้ำจัดการตัวเองอยู่ครู่แล้วเดินออกจากบ้าน 

พี่โดมยืนรออยู่ที่ข้างรถของตัวเอง  พีทเดินไปถึงก็โผเข้ากอดพี่โดมทันที  พี่โดมไม่ถามอะไรเลย  มืออบอุ่นตบที่ไหล่เหมือนให้กำลังใจ  ชวนเขาขึ้นรถแล้วขับออกไป   

พวกเขาไปนั่งคุยกันที่ร้านกาแฟที่ไม่วุ่นวาย  พีทนั่งจมอยู่ในเก้าอี้ ปล่อยน้ำตาให้ไหลอยู่นานก่อนจะรวบรวมสติกลับมา  เขาเล่าเรื่องทุกอย่างให้พี่โดมฟังทั้งหมด  ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในใจ  สิ่งที่เขาต้องการบอกพี่ฮั่นแต่เจ้าตัวไม่ยอมรับฟัง  เขาเล่าให้พี่โดมฟังแทนทั้งหมด

พี่โดมไม่แปลกใจอะไรเลย  ไม่ได้มองเขาเหมือนตัวประหลาด  มีเพียงสายตาแสดงความห่วงใยและคำปลอบใจให้เขา พี่โดมนั่งฟังไปเงียบ ๆ บางครั้งก็ยกมือขึ้นตบไหล่บีบอย่างให้กำลังใจ 

หลังจากพีทได้เล่าทุกสิ่งทุกอย่าง  พวกเขานั่งเงียบกันไปนานจนในที่สุดโดมก็พูดขึ้น

“พีท  พี่ไม่รู้ว่าพี่ฮั่นทำแบบนั้นเพราะอะไร  แต่สิ่งที่พี่ยืนยันได้คือพี่ฮั่นก็รักพีทนะ แต่ในรูปแบบไหนพี่ก็ไม่รู้  พีทอย่าเสียใจไปเลย”

โดมนึกถึงวันที่พี่ฮั่นพาพีทออกมาจากโรงแรมที่พวกเขาถูกจับตัวไป  ใครที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นรับรู้ได้ทันทีว่าพี่ฮั่นเป็นห่วงน้องชายมากขนาดไหน พี่ฮั่นเดินตามเปลพยาบาลที่เข้าไปรับตัวพีทที่หมดสติไม่ยอมห่างจนถึงโรงพยาบาล   แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่ในรถพยาบาลคันนั้นด้วยแต่ดูเหมือนพี่ฮั่นไม่เห็นเขาเลยแม้แต่นิดเดียว   เพราะพี่ฮั่นเฝ้าแต่มองไปยังคนที่นอนสลบไม่รู้สึกตัวตลอดเวลา  นี่ยังไม่นับรวมเรื่องอื่นอีกตั้งมากมายที่เขาสังเกตเห็น

แม้กระทั่งเวลานี้  เขาไม่ได้โทรหาพีทโดยบังเอิญ  แต่เป็นเพราะมีคนที่ร้อนใจโทรตามให้เขามาอยู่เป็นเพื่อนน้องชายต่างหาก

โดมมองไปยังเพื่อนรุ่นน้องที่นั่งเงียบ  พีทคงกำลังเสียใจอยู่  คงต้องให้เวลาสักหน่อย




พี่โดมขับรถมาส่งพีทที่หน้าบ้าน  ให้กำลังใจเขาก่อนจะขับรถจากไป 

พีทเหม่อมองตามท้ายรถพี่โดมจนลับตา  แม้พี่โดมจะไม่มีทางออกให้เขาแต่พีทก็รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง  หลังจากได้ระบายสิ่งที่อัดแน่นในใจออกมา  ได้แต่ขอบคุณพี่โดมที่เสียสละเวลามาอยู่เป็นเพื่อนยามที่เขาไม่มีใคร  ก่อนหน้านี้เขารู้สึกโดดเดี่ยวกว่าครั้งไหนในชีวิต   แต่ตอนนี้เขาอุ่นใจมากขึ้นที่รู้ว่า  อย่างน้อยยังมีพี่โดมที่เข้าใจและรับฟังเขา

พีทกลับเข้าบ้านริมสระ  ภายในบ้านเงียบสงัดในเวลาเกือบตีหนึ่งแบบนี้  มีเพียงแสงไฟจากภายนอกที่ลอดเข้ามาภายในบ้าน
 
เขาหยุดยืนอยู่หน้าห้องพี่ฮั่น  คิดอะไรอยู่นานจากนั้นจึงหมุนตัวเข้าห้องตนเองไปเงียบเชียบ

---------------------------------------------



“พี่หายดีแล้วเหรอ  มากินเหล้าเนี่ย  เดี๋ยวก็หามส่งโรงพยาบาลไม่ทัน” 

แคนเอ่ยถามพี่ฮั่นที่คราวนี้เป็นฝ่ายโทรเรียกให้เขามานั่งเป็นเพื่อนกินเหล้า  ซึ่งเขาก็เต็มใจทีเดียวเพราะตนเองก็มีเรื่องกลุ้มใจเช่นกัน  แต่ดูเหมือนพี่ฮั่นจะมีเรื่องที่หนักหนากว่าเขา  ใบหน้าเศร้าหมองของเพื่อนรุ่นพี่เป็นเครื่องยืนยันคำสันนิษฐานได้ดี  พี่ฮั่นไม่เคยเศร้าเสียใจมากขนาดนี้มาก่อน

“หายแล้ว”  คนตัวใหญ่ว่าแล้วก็ยกแก้วขึ้นดื่ม

“น้องพี่นี่เก่งนะ เห็นอาการแวบเดียวก็ดูออกเลย  ถ้าไปช้ากว่านี้อีกนิดคงแย่  ไม่อยากจะคิดเลย”

แคนที่รู้จักพี่ฮั่นมาตั้งหลายปียังไม่เคยรู้เลยว่าพี่ฮั่นแพ้กุ้งหนักขนาดนี้  เขาเอื้อมมือมาตบไหล่พี่ฮั่นด้วยความรู้สึกโล่งใจที่พี่ฮั่นปลอดภัย  ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพี่ฮั่น  แค่คิดก็ใจหายแล้ว

คนที่นั่งกุมแก้วเหล้าบีบมือแน่นเพียงแค่ได้ยินแคนเอ่ยถึง ‘น้องชาย’

ใช่  พีทรู้ทันทีที่เห็นเขามีอาการทั้งที่เขายังไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังเกิดอาการแพ้กุ้ง  เขาแค่รู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อยเท่านั้น    แต่พีทกลับสังเกตเห็นและพาเขาไปโรงพยาบาลได้ทันเวลา
 
เขาคาดคั้นเคนจนรู้ว่าใครเป็นคนลงมือ  โกรธแทบทนไม่ได้ที่ถูกลอบทำร้ายอีกครั้งจากไอ้คนใจร้ายนั่น  แทบแล่นไปจัดการมันด้วยตัวเองทีเดียว  แต่สิ่งที่เคนเล่าต่อมาทำให้เขาถึงกับนิ่งไป  พีทยิงเจเจกับลูกน้องเข้าโรงพยาบาลแทนเขาแล้ว   เขาไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองถ้าเคนไม่ยืนยันว่าเห็นกับตาว่าพีทยิงปืนแม่นขนาดไหน   

พีท  คนที่แม้แต่คำว่า ‘ฆ่า’ ยังไม่กล้าพูด  เด็กน้อยจิตใจอ่อนโยนคนนั้นกล้ายิงคนได้  สิ่งนี้ทำให้เขาหยุดความโกรธไว้ได้  อย่างน้อยน้องก็เป็นเดือดเป็นร้อนแทนเขา

เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมพีทถึงตามติดเขาตลอดเวลา  พีทรู้มาตลอดว่า ‘มัน’ จ้องจะทำร้ายเขาอยู่  น้องเป็นห่วงเขา  ยอมให้เขาต่อว่าอย่างไม่พอใจบ่อย ๆ  ก่อนหน้านั้นเขากลับไม่สนใจ  ไม่พูดคุยกับน้อง  ทั้งที่พีททำไปทั้งหมดเพราะกลัวเขาเป็นอันตราย  การที่พีทวนเวียนอยู่ใกล้เขาตลอดเวลา  ทำให้คนของมันหาโอกาสลงมือได้ยากขึ้นเพราะกลัวว่าหลานชายตัวเองจะเป็นอันตรายไปด้วย

‘พีท’   เขาเรียกชื่อนี้อยู่ในใจ   ‘พี่ขอโทษ’

“รักพี่มากๆ นะ” 

คำพูดเดิมยังก้องอยู่ในหัวไม่เคยจางหาย  พีทเคยพูดแบบนี้  เขาดีใจที่รู้ว่าน้องก็รักเขาไม่แพ้กัน   ตอนนั้นเขารู้ว่าน้องรักเขาเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง

แต่....

“ผมรักพี่ฮั่น”

เผลอยกมือแตะริมฝีปากตัวเอง  ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ยินคำนั้น....ไม่เคยคิด  ความรู้สึกนุ่มนวลนั้นยังติดตรึงอยู่ที่เดิมไม่ยอมจางหาย  เขายังจำความรู้สึกนั้นได้ดีแม้จะตกใจแทบสิ้นสติที่จู่ ๆ พีทก็ทำแบบนั้น   

มันทั้งซาบซ่าน  อ่อนหวาน  แต่ขณะเดียวกันเขาก็เจ็บปวดเพราะรู้ว่าทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ 

เขาย้ำเตือนตัวเองมาตลอด  หน้าที่ความรับผิดชอบ  หน้าตาทางสังคม  และที่สำคัญ  บุญคุณของลุงคริสท่วมท้น  ทำให้เขาต้องหยุดทุกสิ่งทุกอย่างแต่เพียงเท่านี้ก่อนจะสายเกินไป

“ฮั่น  ลุงฝากน้องด้วยนะ  ฮั่นเป็นคนที่ลุงไว้ใจมากที่สุด” 

ประโยคสั้น ๆ ของลุงคริสที่พูดกับเขาก่อนที่เขาจะย้ายกลับจากอังกฤษ   

คำพูดเพียงไม่กี่คำแต่เต็มไปด้วยความหมายมากมายที่ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา  มือที่บีบไหล่เขาไว้ราวกับจะถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมด

เขารู้ว่าลุงคริสเป็นห่วงพีทมากขนาดไหนเมื่อตัดสินใจจะลงเล่นการเมือง  รู้ว่าลุงคริสฝากความหวังไว้ที่เขามากมายเพียงใด  เขารู้จักลุงคริสดีพอ ๆ กับที่ลุงคริสรู้จักเขา

พีทต้องไปได้ไกลกว่านี้  พีทคือน้องของเขา  น้องเล็กที่เขาดูแลมาตั้งแต่เด็ก
 
ทั้งที่รู้  ทั้งที่ย้ำเตือนตัวเองตลอดเวลา  ยิ่งเขาคอยย้ำกับตัวเองมากเท่าไรเขากลับจดจำความรู้สึกถึงสัมผัสนั้นได้แม่นยำ
 
ฝังแน่นในหัวใจ

------------------------------------------



พีทไม่อยากจะออกจากห้องไปพบหน้าใครทั้งนั้น  แต่เขาต้องไป แม้ว่าเขาจะต้องฝืนใจมากขนาดไหน  หน้าที่และความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่เขาถูกปลูกฝังมาตั้งแต่จำความได้ 

เขารีบออกจากบ้านแต่เช้าตรู่  เคนปล่อยให้เขาขับรถออกจากบ้านโดยไม่มีท่าทีห้ามปรามแต่อย่างใด  ทำเพียงแค่ก้าวขึ้นรถโฟร์วิลด์คันใหญ่ขับตามมาห่าง ๆ

‘หึ’  พีททำเสียงประชดกับตัวเองเมื่อมองกระจกหลังเห็นรถของเคน

พี่ฮั่นรู้จักเขาดีเสมอและคงจะเดาได้ว่าเขาต้องทำแบบนี้  มือที่กำพวงมาลัยบีบแน่นขึ้นเพียงแค่นึกถึงพี่ฮั่น   ความทรงจำไหลย้อนกลับไปถึงวันก่อน  เรื่องราววันนั้นปรากฎแจ่มชัดอยู่ตรงหน้า 

เขามองไม่เห็นสิ่งใดนอกจากภาพพี่ฮั่นลอยไปมาเต็มไปหมด  ยิ่งเห็นก็ยิ่งเจ็บปวด ไม่รู้ตัวสักนิดว่าเหยียบคันเร่งจมลงไปมากขึ้น ใบหน้าเคร่งเครียดของพี่ฮั่นที่เอ่ยย้ำว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน  ความเจ็บปวดแทรกซึมไปทั่วร่าง พีทไม่รับรู้ว่ารถกำลังเร่งความเร็วขึ้น  ซูเปอร์คาร์ทะยานไปข้างหน้า  เขาเหยียบลงไปจนเข็มบนหน้าปัดบอกความเร็วแตะที่ระดับสูงสุด
 
320  กิโลเมตรต่อชั่วโมง!

“......”   เสียงเปียโนที่คุ้นเคยดังแทรกเข้ามา
 
พีทสะดุ้งเฮือก  ดวงตาที่เหม่อลอยกลับมาโฟกัสภาพข้างหน้าแล้วต้องเบิกตากว้าง  ไฟท้ายรถบรรทุกแก๊สสว่างกระแทกตาเขา
 
รถข้างหน้ากำลังเบรก!!!

“เอี๊ยดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!!”

แอสตัน มาร์ติน One-77 คันงามหักซ้ายออกได้ทันชนิดเส้นยาแดงผ่าแปดก่อนจะแฉลบเข้าจอดข้างทางกะทันหัน  เสียงเบรกดังเสียดแก้วหู  ทิ้งรอยล้อสีดำบนถนนเป็นทางยาวเกือบร้อยเมตรก่อนที่ซูเปอร์คาร์คันนั้นจะจอดสนิท 

คนที่อยู่ภายในรถถอนหายใจพลางทิ้งศีรษะกับเบาะรถอย่างอ่อนแรง

‘เกือบไปแล้ว’ 

เสียงโทรศัพท์มือถือยังคงดังติดต่อกันไม่ยอมหยุด  พีทคว้ามือถือขึ้นมากดไว้กับหน้าอกตัวเอง  ปล่อยน้ำตาให้ไหล

‘พี่ฮั่นโทรหาเขา’

เสียงเรียกเข้าที่ตั้งไว้เฉพาะสายเรียกของพี่ฮั่นไม่น่าจะดังแทรกเสียงเพลงที่เขาเปิดกระหน่ำในรถได้  แต่เขากลับได้ยิน  และเสียงเล็ก ๆ นั่นดึงสติเขาให้กลับมา 

เสียงเรียกเข้าที่อัดจากเปียโน  ‘Canon in C’

พีทนั่งอยู่ในรถอยู่นาน  จนกระทั่งเคนมาเคาะเรียกที่หน้าต่างกระจก

“คุณชาย  ผมขอโทษครับ” เคนพูดพร้อมกับดึงตัวเขาออกมาจากรถ เปลี่ยนให้เขาไปนั่งฝั่งผู้โดยสารแล้วตัวเองก็เข้าประจำที่คนขับแทน

“ขออนุญาตนะครับคุณชาย”  เคนเอ่ยอีกครั้งก่อนจะดึงมือถือในมือเขาขึ้นกดรับเพื่อบอกปลายสายว่าเขาปลอดภัย




ในที่สุดเขาก็มาถึงโรงแรม  เวลาเช้าเช่นนี้มีเพียงพนักงานเดินไปมา  พีทเดินไปทรุดตัวนั่งที่ซุ้มกุหลาบขาวในสวน  ใจยังเต้นแรงอยู่เมื่อเพิ่งเฉียดความตายมาเมื่อครู่  เขานั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น  จมอยู่กับความคิดจนได้เวลาทำงาน

พี่โดมเข้ามากอดเขาไว้แน่นทันทีที่เห็นเขาเดินเข้ามาในแผนก   

“พีท  ดีขึ้นรึยัง” 

ใบหน้าเศร้าของเขาคือคำตอบ  พี่โดมมองหน้าเขาด้วยแววตาหนักใจ แต่ไม่พูดอะไรต่อ   ทำเพียงแค่ตบไหล่ให้กำลังใจแล้วชวนเขาคุยเรื่องงานตามปกติ

------------------------------------------



พีทหลบหน้าพี่ฮั่น  หลายวันแล้วที่หลังจากออกจากโรงแรมเขาก็แวะไปที่ผับของเกรซ  นั่งอยู่เงียบ ๆ ในมุมหนึ่ง  รอจนกระทั่งผับเลิกจึงขับรถกลับบ้าน

ชินร้องเพลงเก่งทีเดียวและก็เต้นเก่งมาก  พีทยิ่งมองเขาก็ยิ่งนึกถึงคำพูดของพี่ฮั่นที่บอกให้เขาลาออกเพื่อเปิดโอกาสให้คนที่พร้อมกว่าเขาขึ้นมาทำหน้าที่ 

พี่ฮั่นพูดถูก  ชินเป็นมืออาชีพมาก  เขาเอนเตอร์เทนคนดูให้สนุกสนานตลอดเวลาชั่วโมงครึ่งได้อย่างไม่มีเหน็ดเหนื่อย

‘พี่ฮั่น’ เขายิ้มเยาะกับตัวเอง  แม้จะหลบหน้าพี่ฮั่น  แต่ตลอดเวลาเขาไม่เคยไม่นึกถึงพี่ฮั่นเลย  ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีเรื่องของพี่ฮั่นเกี่ยวข้องเต็มไปหมด 

‘พี่ฮั่น’  แค่คิดถึงก็เจ็บปวด

เขาได้แต่เฝ้ามองไปที่เวทีแต่จิตใจกลับล่องลอยไปที่อื่น  ไม่ใช่ผับดังแห่งนี้




“พีท  นายเป็นอะไรรึเปล่า”

เกรซทรุดตัวลงนั่งใกล้ ๆ  เธอเห็นพีทเป็นแบบนี้มาหลายวันแล้วและได้แต่เฝ้ามองด้วยความเป็นห่วง  เมื่ออดไม่ได้จึงลองเข้ามาถาม

“อกหัก”  เขาตอบตรง ๆ

“เฮ้ย!  อะไร  นายไปรักใครตอนไหน  ทำไมเราไม่เคยรู้เลย” 

เกรซทำตาโต  เธอแปลกใจอย่างมากที่พีทบอกว่าอกหัก  ก็ไม่เคยเห็นพีทมีทีท่ากับใครเลยนี่  แล้วอกหักได้ไง?

พีทกลับพูดไม่ออก  แค่นึกถึงน้ำตาก็มารอที่หัวตาแล้ว  เขาต้องเงยหน้าพิงศีรษะกับเบาะนุ่มไว้ไม่ให้น้ำตาไหลออกมา

เกรซมองอาการนั้นของเพื่อนแล้วก็คิ้วขมวด  หัวสมองทำงานเร็วรี่เพื่อทบทวนเรื่องราวตั้งแต่แรกที่เธอกับพีทรู้จักกันมา 

ใครที่เข้ามาในชีวิตเขา  คนที่เธออาจจะรู้จัก  ต้องเป็นคนที่ช่วงนี้พีทสนิทด้วย  ต้องเป็นคนที่พีทให้ความสนใจเป็นพิเศษ  ต้อง...

“อย่าบอกนะว่า นายรัก  เอ่อ...”  คำพูดติดอยู่ที่ปลายลิ้น  เกรซไม่กล้าพูดออกมา

พีทหันมามอง  ใบหน้าของเพื่อนเหมือนคนกำลังลำบากใจ

“อย่าว่ากันนะ”  เกรซถามเหมือนขออนุญาต  สบตาคุณชายแล้วก็รวบรวมความกล้าพูดออกมา

“นายรักพี่ฮั่นใช่...มั้ย?”  หางเสียงเบา

คราวนี้พีทเป็นฝ่ายทำตาโตบ้าง

“เกรซ เธอรู้ได้ไง”

เขาแปลกใจอีกครั้ง  คราวก่อนริท  ล่าสุดก็พี่โดม  นี่เกรซอีกคน  ทำไมทุกคนเดาถูก  ทำไมทุกคนถึงดูออกว่าเขารักใคร  นี่เขาออกอาการอะไรขนาดนั้นเลยเหรอ 

“เฮ้อ”  สาวสวยถอนหายใจ  ใช่จริง ๆ ด้วย

เกรซเงียบไปอย่างตั้งสติ  จากนั้นจึงเริ่มต้นพูด

“ตอนแรกเราก็คิดไม่ออกเพราะเรารู้ดีว่านายไม่ได้คบกับสาวที่ไหน นายไม่เคยสนใจใครเลยทั้งที่มีแต่คนชอบนายตั้งเยอะแยะ  แต่พอนึกดูดี ๆ คนที่เข้ามาอยู่ในความสนใจของนายน่ะมีแค่คนเดียว  แม้ว่าตอนแรกนายจะทำท่าไม่สนใจก็เหอะ”

“พอพี่ฮั่นมา นายก็เปลี่ยนไป  รู้ตัวไหม” คราวนี้เกรซยิ้มเมื่อนึกถึงพฤติกรรมที่แปลกไปของเพื่อน 

พีทส่ายหน้า  มือที่วางพนักเก้าอี้ขยุ้มเบาะนุ่มนั้นไว้แน่น  แค่ได้ยินคนพูดถึงพี่ฮั่น  นี่เขาเป็นขนาดนี้เชียวหรือ?

“เรารู้ว่าพีทน่ะชอบความเป็นส่วนตัว  ไม่ชอบให้ใครมายุ่งเรื่องของนายใช่ไหม  ไม่ว่าใครก็ตาม  แต่กับพี่ฮั่นนายกลับยอมให้พี่ฮั่นตามติดได้ขนาดนั้น  แล้วพี่ฮั่นยังสามารถทำให้นายทำตามที่เขาต้องการได้ด้วย  เราว่าคนอย่างนายถ้าไม่ยอมซะอย่าง ไม่ว่าใครก็คงเปลี่ยนใจนายไม่ได้แต่พี่ฮั่นทำได้.....” 

“....ความจริงต้องบอกว่า  พีท ‘ยอม’ ให้คนคนนี้  ถูกไหมล่ะ”   สาวสวยว่าพลางยิ้ม

“นายเป็นคนน่ารักนะ  กับเรา  นายไม่เคยโกรธหรือว่าอะไรเรารุนแรงสักที  ขนาดพี่ร็อกกี้แซวแรง ๆ ไม่เห็นนายเคยโกรธเลย  แต่กลับโมโหใส่พี่ฮั่นอยู่คนเดียว  เราว่าพี่ฮั่นคงจับจุดนายถูกใช่ไหมล่ะว่าทำยังไงถึงจะทำให้คุณชายโมโหได้  หรือไม่ก็คงเป็นเพราะนายให้ความสำคัญกับเขาไงถึงได้เป็นเดือดเป็นร้อนเวลาถูกยั่วโมโหน่ะ  ปกติคนเราถ้าไม่สนใจซะอย่าง  ไม่ว่าเขาจะทำอะไรมันก็ไม่มีความหมายอะไรเลย....” 

คราวนี้เกรซยิ้มกว้างเมื่อนึกถึงตอนที่เธอเห็นพีททะเลาะกับผู้ดูแลบ่อย ๆ ในร้าน

“คนมีโลกส่วนตัวอย่างนายกลับต้องการให้มีพี่ฮั่นอยู่ด้วยตลอดเวลา  นายน่ะไม่เคยห่างจากพี่ชายเลยนะตั้งแต่พี่ฮั่นกลับมา  แสดงว่าคนคนนี้ต้อง ‘พิเศษ’ นายถึงต้องการอยู่ใกล้เขา”

“จำคราวก่อนนั้นได้มั้ย  ที่เรานัดไปฟังเพลงที่ร้านพี่โดมกันน่ะ” 

เกรซยิ้มเมื่อนึกถึงเดือนก่อนที่เธอโทรไปชวนพีทให้ไปนั่งฟังพี่โดมร้องเพลงที่ร้านอาหารกึ่งผับที่พี่โดมร้องประจำอยู่   

“เรามาถึงร้านแล้วหลบไปยืนอยู่แถวเคาน์เตอร์บาร์  แล้วแอบมองนายเอาแต่คุยกับพี่ฮั่น ไม่สนใจใครเลย.....”



เธอเดินเข้ามาในร้านก็สังเกตเห็นทั้งคู่ทันที  ภาพสองหนุ่มที่นั่งเคียงกันจนชิดทั้งที่เก้าอี้นวมตัวใหญ่ก็ยังมีที่เหลือเฟือ  ทั้งคู่พูดคุยกันสนุกสนาน พีทที่คอยโอบไหล่พี่ชายตลอดเวลา  ทำไมไม่รู้  มันทำให้เธอรู้สึกไม่อยากเข้าไปทำลายบรรยากาศ 

'ทำเหมือนโลกนี้มีแค่พวกเขาสองคนอย่างนั้นแหละ'  เกรซมองไปแล้วก็ยิ้มให้ภาพนั้น

พีทดูสดใสขึ้นมากตั้งแต่พี่ฮั่นกลับมา  เมื่อก่อนเพื่อนเธอก็เป็นคนร่าเริง  เวลาร้องเพลง  เวลาเต้น  เขามักจะยิ้มอย่างเป็นสุขเสมอเพราะได้ทำในสิ่งที่เขารัก  แต่คราวนี้มันแปลกไป  เธอรู้สึกว่าพีทดูมีชีวิตชีวามากกว่าเดิม 

เพราะมีพี่ฮั่นใช่ไหมล่ะ




ตอนนั้นเธอคิดว่าพีทอาจจะกำลังมี ‘ความรัก’  เพราะสายตาของพีทนั้นแสดงชัด  แต่คนตรงหน้าพีทเป็นพี่ฮั่น  ทำให้เธอคิดเพียงว่าพีทคงจะรักพี่ชายคนนี้มาก

“เราว่านายคงไม่รู้ตัวหรอก  ตอนนั้นน่ะ  เวลาเรารักใครแววตามันปิดไม่มิดหรอก”   

สาวสวยทำหน้าตาแก่ประสบการณ์เมื่อกล่าวประโยคนั้น  มองหน้าเพื่อนที่นั่งฟังเงียบ

ใบหน้าพีทตอนนี้อมทุกข์ หม่นหมอง ไม่เหมือนที่ผ่านมา

“นี่แล้วเรื่องเป็นยังไงถึงอกหัก  พี่ฮั่นเขารักคนอื่นหรือเพราะ เอ่อ..”   คราวนี้เกรซกลับพูดไม่ออก

พีทถอนหายใจหนักหน่วง  ก่อนจะเอ่ย

“มันเป็นไปไม่ได้ ใช่  แบบที่เธอคิดไงล่ะ” เขายอมรับ  ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปิดบัง

“เราเป็นพี่น้องกันแค่นี้มันก็จบแล้ว  ยังไม่ทันเริ่มด้วยซ้ำ” 

พอมีคนรับฟังความรู้สึกเขา  เขากลับพูดถึงมันได้อย่างไม่เจ็บปวดมากนัก  อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนที่คอยรับฟังเขาอยู่  ทั้งริท  พี่โดมและเกรซ

'แต่พวกเขาไม่ได้เป็นพี่น้องกันจริง ๆ นี่'  สาวสวยแย้งอยู่ในใจ 
 
“แล้วพี่ฮั่นเขาคิดยังไงกับนายล่ะ  เราหมายถึงความรู้สึกที่แท้จริงของพี่ฮั่นน่ะ” 

เกรซย้อนถามพลางนึกไปถึงพี่ฮั่นที่เธอเคยเห็น 

คนที่เป็นห่วงความปลอดภัยของพีทมากถึงกับยอมเป็นคนอื่นเพื่อมาดูแลน้องชาย  ทั้งที่เป็นถึงรองประธานบริษัทแต่ก็ยอมมาเป็นคนคอยรับคำสั่งคุณชายยอมให้พีทต่อว่าอย่างไม่พอใจบ่อย ๆ 

ตลอดเวลาที่พี่ฮั่นอยู่  เธอเห็นพี่ฮั่นดูแลพีทเป็นอย่างดี  จะว่าไปพี่ฮั่นทำอะไรเพื่อพีทมามาก  มากกว่าพี่ชายทั่วไปจะทำให้น้องซะอีก

‘เป็นไปได้ไหมว่าพี่ฮั่นอาจจะ...’

“เขาไม่ยอมรับความรู้สึกของเราด้วยซ้ำ เขาเอาแต่พูดว่าเราเป็นพี่น้องกัน  เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน” 

พีทพูดแทรกความคิดของเกรซ  ใบหน้าสลดลงเมื่อต้องพูดประโยคนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก  คำพูดที่ตอกย้ำเขามากขึ้น

'แต่ยังไงมันก็คงแปลกนั้นแหละ ถ้าพี่น้องจะรักกันเอง  แล้วลุงคริสกับคุณโรสจะยอมรับได้หรือ  อืม  เรื่องนี้มันก็จบตั้งแต่ไม่เริ่มจริง ๆ นั่นแหละ'

เกรซเงียบไปเมื่อครุ่นคิดถึงปัญหานี้  แววตาที่มองเพื่อนเต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ 

เท่าที่เธอรู้พีทไม่เคยรักใครมาก่อน  เขาแค่ยิ้มเวลามีสาวสวยมาทำท่าสนอกสนใจแต่ไม่เคยสานต่อกับใคร  เกรซยังเคยแซวเพื่อนเธอบ่อย ๆ

“เราเฉย ๆ นะ ไม่รู้สึกอะไรจะให้สานต่อทำไม  เอาไว้ไปตกหลุมรักใครแล้วค่อยว่ากัน”  พีทเคยตอบเธอแบบนั้น
 

แล้วพอเขามีความรักขึ้นมา  ก็กลับเป็นความรักที่ยาก   

“เฮ้อ”   ที่ปรึกษากลับกลายเป็นฝ่ายถอนหายใจเสียเอง

“พีท  เราก็ไม่รู้จะช่วยนายยังไง  เอาเป็นว่าขอให้นายดีขึ้นไว ๆ ละกันนะ”  เกรซบอกแล้วยิ้มให้เพื่อนอย่างจริงใจ

พีทหันไปยิ้มกับเกรซอย่างขอบคุณ  อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้โดดเดี่ยว 

“ขอบใจนะเพื่อน  โย่ว”  หนุ่มน้อยยกกำปั้นชนกับเกรซ   

เธอหัวเราะให้กับท่าทางเด็กฮิปอกหักของคุณชาย 

--------------------------------------



 :mew1: :mew1:




ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
สงสารพีทอ่ะ
เห้อ หนีออกจากบ้านไปเลยดีมั้ย 555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
ตัดอกตัดใจต่างคนต่างเดินทางใครทางมันดีที่สุด ปู่ฟงก็เคยเตือนแล้วนิ

ออฟไลน์ Onlymin

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-4
แปะไว้ก่อนนะคะ เดี๋ยวหลังสอบเสร็จจะมาอีดิท

ตอนที่แล้วไม่ได้เมนท์ให้เลยขอโทษนะ ติดสอบจริง ๆ ค่ะนี่ก็ยังไม่เสร็จ  :m15:

ออฟไลน์ plugie

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านทีเดียวเลย ชอบอ่ะสนุกดี
สงสารคุณพี่ชายจัง รักแหละแต่ทำอะไรไม่ได้

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
กลัวจนไม่กล้าเดินหน้านี่น่าตีตูดที่สุดเลยค่ะพี่ฮั่น ฮึ่ย

ช่างเถอะ น้องพีทตั้งใจทำงานนะคะลูก ดูแลตัวเองดีๆด้วย

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
มาอ่านอีกรอบก็แค้นอิพี่ฮั่นอีก

ออฟไลน์ Tigerintherain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
47. การต่อสู้



เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าเสมอเวลาที่เรามีความทุกข์  พีทแทบจะนับทุกนาทีให้ผ่านไปโดยเร็ว  แต่เวลาก็ทำงานได้อย่างเที่ยงตรง  คงเป็นเพราะจิตใจของเขาเองที่ไม่มีความสุข  เฝ้าแต่นับคืนวันให้ผ่านไป
 
พีทยังคงไปที่ร้านเกรซอยู่ทุกวัน  เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำแบบนี้ไปอีกนานเท่าไร 

แอสตัน มาร์ตินขับเข้ามาในบ้านใหญ่กลางกรุงนั้นอย่างรวดเร็ว  เสียงเบสหนัก ๆ ของเพลงฮิปฮอปจากเครื่องเสียงชั้นดีดังลอดออกจากซูเปอร์คาร์คันงามท่ามกลางความสงบยามราตรีแล้วเงียบเสียงกะทันหันพร้อมกับเครื่องยนต์ที่ดับสนิท   เจ้าของรถก้าวลงมาหยุดนิ่งอยู่ข้างรถ  พลางเหม่อมองผ่านกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่ไปยังหน้าต่างกระจกบานสูง  ห้องที่เขาเห็นปิดไฟมืด
 
‘...คงหลับไปแล้ว...’


เขาเดินอย่างเชื่องช้าไปตามทางเดินอันเปล่าเปลี่ยวในเวลาดึกเช่นนี้ ถ้านี่เป็นเมื่อก่อนเขาคงเพิ่งจะกลับจากผับของเกรซหลังจากที่ร้องเพลงเสร็จ  ตอนนี้เขาก็เพิ่งออกจากผับของเกรซเช่นกัน  แต่เขาไม่ได้ไปร้องเพลง  เขาแค่ไปนั่งฟังเพลง  ไปนั่งดูบรรยากาศคึกคักของผู้คน  เขาไปเพียงเพราะเขาอยู่เงียบ ๆ ตามลำพังไม่ได้  จะอยู่ได้ยังไงในเมื่อ.....

ร่างสูงก้าวเข้าไปในบ้าน  ปิดประตูเสียงเบา  ในบ้านไม่มืดนักเพราะมีแสงไฟจากห้องครัว

“พีท” 

เสียงเรียกชื่อทำให้เขาสะดุ้ง หันไปตามเสียงนั้น 

พี่ฮั่นที่นั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารในครัวกำลังลุกขึ้น  ดูเหมือนกำลังรอเขาอยู่  พีทไม่หยุดกลับก้าวเท้าเร็วขึ้นเพื่อไปห้องนอนของตัวเอง  แต่ไม่ทัน  พี่ฮั่นก้าวเข้ามาคว้าแขนเขาไว้ก่อนที่เขาจะถึงบันได

“พี่มีเรื่องจะคุยด้วย”  น้ำเสียงนั้นอ่อนล้า  ใบหน้ามีแต่ความเศร้าเสียใจ  แต่พีทไม่เห็นเพราะเขาไม่มองหน้าพี่ฮั่นเลย
 
พีทไม่ตอบ  พยายามจะดึงแขนออก   แต่มือที่จับแขนเขาไว้นั้นไม่ยอมปล่อย  กลับดึงให้เขาเดินตามเข้าไปในครัวที่เปิดไฟสว่าง

“พีท  อย่าทำแบบนี้เลย  พี่เป็นห่วง”   
 
ร่างสูงใหญ่ของพี่ชายหันกลับมาเมื่อทั้งคู่เข้าไปในครัวแล้ว

“พี่จะเป็นห่วงผมเรื่องอะไร  ผมไม่ได้ทำอะไรเสียหาย  ผมแค่ออกไปนั่งฟังเพลง  อีกอย่างพี่ก็ส่งเคนคอยตามผมอยู่แล้วนี่  ไม่มีอะไรที่ต้องห่วง ที่สำคัญผมไม่ต้องการความห่วงใยจากใคร!”   
 
น้ำเสียงนั้นขุ่นมัวแบบที่เคยใช้กับ ‘นายหมี’  พีทหันหน้าไปอีกทาง ไม่อยากเห็นหน้า
 
“จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง  พีทเป็นน้องพี่”  น้ำเสียงของพี่ชายยังคงนุ่มนวลแม้จะถูกเขาต่อว่า

“ผมรู้แล้ว!  พี่ไม่ต้องมาคอยย้ำหรอก  พ่อยังไม่เคยห้ามผมเลย  พี่จะห้ามผมด้วยเหตุผลอะไร?” 

คราวนี้เขาหันหน้ามา สายตากร้าว

“ผมจะทำอะไรก็ได้  มันเรื่องของผม  อย่า  มา  ยุ่ง!”  เขาพูดเน้นทีละคำ  จ้องเข้าไปในดวงตาของพี่ฮั่น  แววตาเอาเรื่อง

“พีท...”

เสียงพี่ฮั่นเรียกเหมือนคนกำลังอ่อนล้า  มือที่กำแขนเขาไว้คลายออกเล็กน้อย  แต่เมื่อเขาพยายามสะบัดออก  พี่ฮั่นกลับไม่ยอมปล่อย

“พีท  เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ” 

“มันจะกลับไปเหมือนเดิมได้ยังไง  ในเมื่อความรู้สึกผมเปลี่ยนไปแล้ว พี่จะมาแคร์อะไร  เพราะยังไงพี่ก็ไม่สนอยู่แล้วนี่ว่าผมจะคิดอะไร  จะรู้สึกอะไร  ปล่อย!” 

เขาพยายามกระชากแขนกลับมา  แต่พี่ฮั่นก็ไม่ยอมเช่นกัน  กลับดึงเขาให้เข้าไปใกล้มากขึ้น

“พี่ขอโทษที่...ต้องพูดแบบนั้น  แล้วพีทจะให้พี่ทำยังไง  เราก็รู้อยู่แล้วว่ามัน.....”

“ผมไม่สนหรอกว่ามันจะเป็นยังไง  ผมสนแค่พี่คนเดียว  ผมแค่อยากรู้ว่าพี่คิดยังไง  คนอื่นผมไม่สนใจ!”

“ว่าไงล่ะ  พี่จะตอบได้ไหม"

พีทมองตรงไปยังดวงตาของพี่ชาย  พี่ฮั่นอ้างว่าพวกเขาเป็นพี่น้องกัน  มันเป็นไปไม่ได้ 

แต่สิ่งที่เขาอยากรู้คือความรู้สึกของพี่ฮั่น  ความรู้สึกที่มีต่อเขา

“พีท  พีทยังไม่เข้าใจ  ชีวิตคนเรามันไม่ได้มีแต่ความรักอย่างเดียวนะ   พีทยังมีอนาคตที่ดีรออยู่  ชีวิตพีทเพิ่งจะเริ่มต้น  ยังมีอีกหลายสิ่งที่จะต้องทำต่อไปอีกมากมาย  มีอะไรดี ๆ  รออยู่ข้างหน้า.....”

“พีทเป็นทายาทคนเดียวของตระกูล  เป็นลูกชายของลุงคริส  ต้อง....”

“ก็บอกว่าผมไม่สนไงล่ะ!!  พี่ไม่เข้าใจรึไง ไอ้เงินทอง  เกียรติยศ ชื่อเสียงของตระกูล  หน้าตาในวงสังคม  สิ่งจอมปลอมพวกนั้นผมไม่ต้องการ  สิ่งเดียวที่ผมต้องการคืออะไร  พี่จำไม่ได้รึไง!”   

เสียงนั้นสั่นอย่างคนที่แทบคุมอารมณ์ไม่อยู่  มือที่ทิ้งข้างตัวกำแน่น

พี่ฮั่นลืมมันไปหมดแล้วหรือ  สิ่งที่เขาเคยบอก  เพลงนั้น...

“แล้วยังไงล่ะพีท  พี่จะคิดยังไงแล้วมันสำคัญตรงไหนในเมื่อไม่ว่ายังไงเราก็เป็นครอบครัวเดียวกันอยู่ดี เราเปลี่ยนแปลงความจริงข้อนี้ไม่ได้หรอกนะ  พีทจะให้พี่ทำยังไง”

อีกแล้วสินะที่พี่ฮั่นเอาเรื่องพวกนี้มาตอบเขา  ความจริงที่เจ็บปวด ทิ่มแทงใจเขาครั้งแล้วครั้งเล่า   

พีทหันหน้าหนีเมื่อน้ำตาไหลอย่างคุมไม่อยู่   มือที่จับเขาไว้แน่นคลายออกอย่างรวดเร็ว  พีทจึงรีบก้าวเท้าออกจากครัว

“...ปล่อย!...”   

เขาสะบัดตัวอย่างแรงเมื่อสองแขนของพี่ฮั่นสวมกอดเขาไว้จากด้านหลัง   พี่ฮั่นรวบแขนแนบติดกับลำตัวจนเขาดิ้นไม่หลุด   แขนอีกข้างของพี่ฮั่นกอดไหล่เขาไว้แน่น   พี่ฮั่นขยับร่างเข้ามาจนชิด  พีทพยายามแกะมือพี่ฮั่นแต่ไม่สำเร็จ เขาพยายามดิ้นอีก  ยิ่งเขาร้องไห้หนักพี่ฮั่นก็ยิ่งกอดเขาไว้แน่น 

“พีท  พี่ขอโทษ  ขอโทษจริง ๆ  ขอโทษที่ทำให้พีทเสียใจ”  เสียงอู้อี้ของพี่ฮั่นดังอยู่ข้างหู  ซบใบหน้าตัวเองกับไหล่เขา  พร่ำขอโทษ

แต่พีทไม่ยอม  เขาพยายามจะดิ้นให้หลุดจากสภาพนี้  เขาไม่ต้องการฟังคำขอโทษ 

สิ่งที่เขาอยากรู้คือความรู้สึกของพี่ฮั่นต่างหาก   

เขากลั้นเสียงสะอื้นไว้  กัดฟัน   

“ผมบอกให้ปล่อยไงเล่า!” 

แขนที่กอดรัดเขาอยู่คลายออก  ความอบอุ่นที่อยู่ข้างหลังหายวูบไป  พีทกลับหนาวสะท้านเมื่อพี่ฮั่นถอยห่างไป  แต่แล้วพี่ฮั่นก็จับไหล่ให้เขาหันกลับไปแล้วสวมกอดเขาไว้อย่างรวดเร็ว  คราวนี้พีทแทบขยับไม่ได้ 

“พีทร้องไห้  พี่ไม่เคยปล่อยให้พีทร้องไห้คนเดียว  พีทก็หยุดร้องก่อนสิ  แล้วพี่จะปล่อย”

“ฮึก ๆๆ  ไม่  ปล่อยผม!” 

ทำไมพี่ต้องจำเรื่องเก่าได้ด้วย  พี่ฮั่นคอยปลอบเขาเสมอเพื่อทำให้เขาคลายความโศกเศร้า  แต่คราวนี้มันเจ็บปวดเพราะคนที่ทำให้เขาเสียใจ  คนที่ทำให้เขาร้องไห้ก็คือคนที่กำลังกอดปลอบใจเขาอยู่ 

“ปล่อย!”   

“พี่จะทำให้ผมสับสนไปถึงไหน  พี่ไม่ยอมรับความรู้สึกผม  เอาแต่พูดเรื่องพวกเราเป็นพี่น้องกันแล้วพี่จะมาปลอบใจผมทำไม ไม่รู้รึไงว่าผมเจ็บ  เจ็บแทบตายอยู่แล้ว”

พี่ฮั่นจะมาสนใจใยดีเขาอีกทำไม  ทำไมไม่ปล่อยให้เขาไป

พีทเริ่มสะอื้นหนักเมื่อได้กลับมาอยู่ในอ้อมกอดของพี่ชาย  ความรู้สึกอ้างว้างตลอดหลายวันที่ผ่านมายิ่งทำให้เขาโหยหาอ้อมกอดนี้  คนที่เขาต้องการเพียงคนเดียว  เขาอยากจะทิ้งตัวซบกับไหล่หนานั้นไว้  ไม่อยากจะคิดอะไรต่อไปเพราะเหนื่อยเหลือเกิน
 
สองแขนเขายกขึ้นช้า ๆ  อยากจะกอดคนคนนี้ไว้ไม่ให้ห่างไปไหน   

“พีท  พีทเป็นน้องพี่”

มือที่กำลังจะกอดตอบชะงักค้าง  ร่างกายเขานิ่ง  เจ็บแปลบที่หน้าอกด้านซ้ายจนแทบไม่ไหว  เขากำมือแน่นก่อนที่คนที่กอดน้องชายไว้จะถูกผลักออกอย่างแรง  พีทใช้กำลังทั้งหมดผลักพี่ฮั่นออก

“พอได้แล้ว! ไม่ต้องย้ำหรอก  เท่านี้ผมก็เจ็บปางตายแล้ว”   

เขาตะโกนใส่หน้าพี่ฮั่นก่อนจะวิ่งหนีไป




พีทขังตัวเองไว้ในห้อง  ทรุดตัวลงกับพื้น ไหล่สั่นสะท้านอย่างหนัก

‘เป็นน้อง....แล้วพี่ทำแบบนั้นทำไม’   

เขายังจำสัมผัสนั้นได้แม่นยำและแอบดีใจทุกครั้งที่นึกถึง  แต่ตอนนี้เขาได้แต่สับสน
 
คืนที่พวกเขาทะเลาะกันเรื่องเฌอเบลล์  พี่ฮั่นไม่รู้หรอกว่าคืนนั้นเขานอนไม่หลับเพราะเสียใจที่พี่ฮั่นตวาดใส่เขาเสียงดัง ได้แต่นอนปล่อยน้ำตาให้ไหล  เฝ้าแต่คิดวนเวียนถึงเรื่องที่พี่ฮั่นบอกว่าคบกับเฌอเบลล์  จนกระทั่งเตียงนอนสั่นเพราะพี่ฮั่นขยับตัว

เขารู้สึกว่าที่นอนใกล้ตัวยวบลง  ได้แต่หลับตานอนนิ่ง  มีแต่ความเงียบจนได้ยินเสียงพี่ฮั่นถอนหายใจแผ่วเบา 

แต่แล้วเขาแทบสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสนุ่มนวลซับน้ำตาให้  จากนั้นสัมผัสนั้นก็หายไป  พี่ฮั่นนอนลงเคียงข้างแล้วขยับตัวเข้ามากอดจากด้านหลัง เขาแทบจมอยู่ในอ้อมกอดของพี่ฮั่น  มือใหญ่ของพี่ฮั่นวางทับมือเขาแล้วจับไว้แน่น  เสียงแผ่วของพี่ฮั่นกระซิบขอโทษแต่กลับชัดเจนในความเงียบกลางดึก
   
เขาถึงได้หายโกรธพี่ฮั่นง่ายดายขนาดนั้น  พี่ฮั่นคงคิดว่าเขาไม่รู้...

พี่ชายที่ไหนจะแอบจูบซับน้ำตาให้น้องล่ะ  เป็นพี่น้องแล้วพี่ทำแบบนั้นทำไม?

น้ำตาไหลเป็นทางเมื่อคิดถึงเรื่องคืนนั้น  พีทยกมือขึ้นแตะบริเวณหางตา  ลากนิ้วไปตามรอยน้ำตาของตัวเอง  ตรงที่ที่พี่ฮั่นเคยฝากรอยไว้บางเบา 

น้ำตาไหลออกมาอีก  เขากลับใช้หลังมือถูที่ผิวบริเวณนั้นอย่างแรงเหมือนต้องการเช็ดรอยนั้นออก

แต่มันไม่เคยจางหาย 
 
เพราะรอยนั้นได้ฝังรากลึกลงไปในหัวใจ




‘พี่ชาย’  ยืนนิ่งอยู่ในครัว  กำหมัดแน่น   
 
ความพยายามที่จะกล้ำกลืนความรู้สึกเสียใจของตนไว้พังทลายเมื่อพีทหันหลังหนีไป  ในที่สุดร่างนั้นก็ค่อย ๆ ทรุดตัวลงกับพื้น  ปล่อยน้ำตาไหลเป็นทางยาว   

เป็นฝ่ายปฏิเสธก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เจ็บปวด  ใครเล่าจะรู้และเข้าใจ?

-----------------------------------------



หลังจากที่พีทหนีเข้าห้องตัวเองไปแล้ว  เขาก็กลับไปนอนแต่ข่มตาลงไม่ได้เลยเพราะเอาแต่ครุ่นคิดถึงเรื่องเมื่อคืน   

สายพอสมควรทีเดียวเมื่อเขาเห็นน้องชายเดินลงบันไดตรงมาที่โต๊ะอาหารที่เขานั่งจิบกาแฟอยู่  ใบหน้าเรียบเฉยของพีททำให้เขารู้สึกเสียใจแต่ต้องทำเป็นปกติ   

จู่ ๆ พีทก็ลุกขึ้นมาท้าสู้เขา

“พี่เคยสัญญาว่าถ้าผมชนะพี่ได้ พี่จะยอมทำตามคำสั่งผมใช่ไหม  วันนี้ผมขอลองอีกที”

“แล้วพีทอยากให้พี่ทำอะไรล่ะ บอกมาเลยก็ได้  ถ้าทำได้พี่จะทำให้”  เขาหันไปบอกน้องเสียงอ่อน 

“พี่ไม่ทำให้ผมหรอก  เรามาสู้กันตามสัญญาดีกว่า  ถ้าผมแพ้ พี่ก็ไม่ต้องผิดคำสัญญาอะไร  หรือพี่ไม่กล้า”     

ทำไมไม่รู้เขาคิดว่ามีอะไรบางอย่างในสายตานั้น  เขาจำใจต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดยูโดแล้วลงไปที่ห้องออกกำลังกายที่บ้านใหญ่ 

พีทรออยู่แล้ว 

ระหว่างที่เดินไปบ้านใหญ่  ใจก็คิดอย่างกังวลว่าอะไรที่ทำให้พีทอยากออกคำสั่งเขา  แล้วเขาจะทำอย่างไร  จะสู้อย่างเต็มที่หรือจะแกล้งแพ้  จะได้จบเรื่องกันไป 

เขาคิดว่าพีทคงจะเอาชนะยากอยู่สักหน่อย  เขารู้ทันน้องทุกอย่างน่ะแหละ  พีททำเหมือนลืมไปแล้วว่าใครเป็นคนสอนให้พีทเล่นยูโด  แค่ท่ายืนเขาก็รู้แล้วว่าพีทจะจู่โจมเข้ามาอย่างไร   เทคนิคพวกนั้นเขาเป็นคนสอนน้องเองทั้งหมด  แล้วจะไม่ให้เขารู้ทันได้ยังไง?




“ไม่ว่าจะอย่างไร  ถ้าผมชนะพี่  อย่าลืมคำพูดตัวเองล่ะ” 

ใบหน้าพีทเคร่งเครียด แววตาน้องชายเปลี่ยนไป  ดูเหมือนพีทมุ่งมั่นที่จะเอาชนะมากกว่าครั้งใด ๆ ที่พวกเขาสู้กัน

“ตกลง”

ทั้งสองคนก้าวขึ้นไปบนเบาะคนละมุม   ต่างคนต่างจ้องมองกันและกันพร้อมกับเดินวนเป็นวงกลมเพื่อหาช่องว่างในการโจมตี

ครั้งนี้พีทไม่ยอมลงมือก่อน  พวกเขาเพียงแต่เดินวนไปมาอยู่อย่างนั้น  ทั้งคู่เดินวนซ้ายขวาสลับกันไปมาอยู่นานราวกับกำลังทดสอบความอดทนของแต่ละฝ่าย  ว่าใครจะหมดความอดทนก่อนกัน

ในที่สุดเขาตัดสินใจลงมือก่อน  จังหวะที่พีทเปลี่ยนจากการเดินวนขวาเป็นวนมาทางซ้ายเขาพุ่งเข้าไปจับสาบเสื้อยูโดไว้  อาศัยร่างกายที่หนากว่ากระแทกตัวเข้าใส่  เท้าข้างขวาสอดไปเตะปัดเท้าซ้ายของพีทอย่างแรง  คนตรงหน้าเสียหลักถูกเขาจับทุ่มลงทันที   

แต่ก่อนที่หลังคู่ต่อสู้จะกระทบพื้นเบาะ คราวนี้พีทใช้เท้ายันพื้นเบาะไว้ได้ทันก่อนที่ตัวจะกระแทกพื้น   มือน้องที่จับสาบเสื้อเขาไว้เช่นกัน  ดึงลงมาในจังหวะที่เขาก้มตัวทุ่มทำให้เขาต้องแก้ไขด้วยการม้วนหน้า  ดีดตัวออกจากการถูกดึง  ต่างคนต่างปล่อยมือออกจากเสื้อแต่ละฝ่าย
 
เขาผุดลุกขึ้นยืนรวดเร็ว  พีทก็ลุกขึ้นรวดเร็วพอกัน  พวกเขากลับมาอยู่ในท่าเตรียมพร้อมสำหรับโจมตีอีกครั้ง
 
“ไม่เลวนี่  รู้จักดัดแปลง  ไม่ใช้ท่าเดิมอีก”  เขาเอ่ยชมคนตรงหน้า

ทั้งคู่เริ่มเดินวนรอบเป็นวงกลมอีกครั้ง  พีทไม่วอกแวกเลยแม้แต่นิดเดียว  แม้เขาจะพยายามหลอกล่อด้วยการชวนคุยเพื่อให้น้องเสียสมาธิ ใบหน้าเรียวที่เขามองเห็นมีแต่ความจริงจัง   ตามองตรงจับที่ใบหน้าอีกฝ่ายแน่วแน่ทำให้พี่ชายต้องคิดอย่างรวดเร็ว

พวกเขาพุ่งตัวเข้าหากันพลางกระชากเสื้อกันไปมาเพื่อหาจังหวะ  ดันตัวฝ่ายตรงข้ามไปมา  พีทพยายามหาช่องว่างเพื่อเตะตัดขาคู่ต่อสู้  เขายกขากันไว้ได้ทันก่อนจะใช้ร่างกายที่หนากว่ากระแทกตัวใส่คนตรงหน้า  ทำให้พีทต้องถอย 

“โอ๊ย!”

พีทร้องเหมือนเสียหลักทำให้เขาชะงักไปชั่วขณะ 

น้องชายใช้จังหวะนั้นพุ่งเข้าใส่  กลายเป็นเขาเองที่เสียจังหวะหลุดให้พีทคว้าตัวไว้  วินาทีสุดท้ายที่พีทจับเขาเหวี่ยง  เขากลับใช้ข้อได้เปรียบที่ตัวหนักกว่าทิ้งตัวลงต่ำทำให้จุดศูนย์ถ่วงในการทุ่มต่ำลง   แรงกระชากลงต่ำทำให้พีทเสียจังหวะทันที  ฮั่นจึงเป็นฝ่ายดึงน้องลงมาพลิกตัวรวดเร็ว

“โครม!” 

เสียงร่างกระทบพื้นเบาะ  กลับเป็นพีทที่ถูกกดอยู่  คนถูกกดอยู่ใช้เท้าทั้งสองยกตัวขึ้นเพื่อสะบัดตัวเองออกจากการกดของพี่ชาย  แต่เขาไม่ยอมหรอก  พีทไม่เคยดิ้นหลุดเวลาถูกเขากดด้วยท่ายูโดแบบนี้สักครั้ง

พีทพยายามสะบัดตัวอย่างแรงแต่ไม่เป็นผล  ใบหน้าเรียวนั้นดูมุ่งมั่นจะเอาชนะให้ได้  เขาก้มเข้าไปใกล้มากขึ้นพร้อมกับออกแรงกดมากกว่าเดิม  เริ่มนับ

1… 2… 3…. 4…..พีทใช้เท้ายันตัวเพื่อสะบัดอีก 

15…16....




ก่อนที่เขาจะชนะ จู่ ๆ พีทก็หยุดดิ้นรน  หันมามองหน้าเขานิ่ง 

สายตานั้นหยุดทุกการกระทำของเขาเมื่อเผลอสบตาคู่นั้นเข้า  สองมือของน้องชายที่จับเสื้อยูโดเขาไว้กลับคลายออก  พีทเอื้อมมือมาจับใบหน้าเขาไว้ จากนั้นจึงสอดมือไปด้านหลังรั้งคอเขาให้ก้มลง  เขาตกใจเมื่อพีทยื่นหน้ามาใกล้แล้วฉกวูบไปที่ด้านข้าง

“อ๊ะ”

“พะ พีท  ปล่อย”  เขากัดฟันพูดเสียงพร่า 

ริมฝีปากนุ่มของพีทกำลังเม้มแน่นที่ติ่งหู  ซึ่งเป็นจุดอ่อนของเขา!

“พีท..อย่า..ปล่อย”

เขาพยายามร้องบอก   ความรู้สึกบางอย่างทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว พีทบดริมฝีปากกับผิวบริเวณนั้นไปมา  ทำให้เขาอ่อนแรง

ก่อนที่จะคิดอะไรออกน้องกลับเป่าลมอ่อนใส่หูแล้วใช้ลิ้นนุ่มเลียอย่างแผ่วเบา  คนที่อยู่ด้านบนขนลุกซู่อย่างห้ามไม่ได้ 

“อ๊ะ  พีท  หยุด  พะ  พอ ได้แล้ว”  เขาพยายามห้ามเสียงติดขัด  ไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอปล่อยมือตั้งแต่เมื่อไร 

พีทใช้โอกาสนี้พลิกตัวอย่างรวดเร็ว  พริบตาเดียวเขากลับเป็นฝ่ายที่ถูกพีทกดไหล่ไว้  คนที่อยู่เหนือเขาใช้ทั้งร่างของตัวเองกดทับเขาไว้  ใบหน้าเรียวยังคงก้มลงมาคลอเคลียที่ข้างแก้ม   

พีทไม่ยอมหยุด  กลับใช้ริมฝีปากเม้มแน่นที่ติ่งหูอีก ใช้จมูกซุกไซ้อยู่บริเวณนั้น  ปล่อยลมหายใจร้อนรดใบหูทำให้เขาขนลุก

“พีท  พีท  อย่า”

เสียงตะกุกตะกักของเขาพยายามร้องบอกให้หยุด  แต่พีทกลับทำสิ่งตรงกันข้ามเมื่อกดจูบลงไปบริเวณข้างแก้ม  เม้มปากเบา ๆ ไปบริเวณที่อ่อนไหวของเขา  มือที่พยายามผลักน้องกลับไร้เรี่ยวแรง  ทำได้เพียงยึดไหล่ของคนข้างบนไว้แน่น  ได้แต่ปล่อยให้ตัวเองนอนหมดท่าอยู่อย่างนั้น 

พีทเปลี่ยนมาใช้ริมฝีปากเม้มที่ติ่งหูอีกข้าง  ทำแบบเดียวกัน  ยิ่งทำให้เขาคิดอะไรไม่ออก

‘ไม่ไหวแล้ว’   

ความรู้สึกเสียวซ่านแผ่ไปทั่วร่าง  เขาถึงกับอ่อนไปหมดแค่ถูกขบเบา ๆ 

แรงขบที่ใบหูเขาเม้มแรงขึ้นเหมือนทิ้งทวนก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงแผ่ว ดึงสติเขากลับมา 





“อิปป้ง”



-----------------------------------------


 :mew2:


ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
ถ้าพี่ฮั่นมันเยอะมากพีทก็ปล่อยมันไปดิ จะไปสนมันอยู่อีกทำไม

ออฟไลน์ cross

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
หวังว่าชัยชนะครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นให้พีทเลิกสนใจฮั่นนะ
ตัดใจเถอะพีท ฮั่นไม่แม้แต่จะมีความกล้า ไม่กล้าแม้แต่จะรับความจริงว่ารู้สึกยังไง ฮั่นแค่คนขี้ขลาดแค่นั้นเอง ถ้ารักกันจริงๆอุปสรรคหรือสิ่งที่ตามมามันจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย รักไม่ได้ก็ไม่ต้องรักนะพีท  ความเจ็บสักวันมันต้องหาย

ออฟไลน์ Onlymin

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 465
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +215/-4
สมน้ำหน้าพี่ฮั่น!  แพ้ไปเถอะโดนน้องเลียหูแค่นี้ก็อ่อนระทวยแล้ว

แอร๊ยยย เชียร์ให้พีทเป็นรุกเลยดิ่  พี่ฮั่นขี้กลัว คิดโน่นนี่นั่นเยอะนิสัยเคะชัด ๆ น้องพีทสิถึงจะแมนแท้สมชาย

รอตอนต่อไปค่ะ :katai4:

ออฟไลน์ Tennyo_Y

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 739
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-2
555 พีทร้ายกาจมาก รู้จักใช้ความเจ้าเล่ห์ เอาเถอะพีท ใครจะว่าไงอย่าไปสน ในเมื่อเราอยากได้เราก็ต้องทำทุกวิถีทางถูกปะ ตราบใดทางที่เราทำไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน อ่านจบแบบฮาก๊ากอะ รู้สึกพี่ฮั่นอาจจะโดนน้องกดนะ คิกๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12
ชิ เดี๋ยวอิพี่ฮั่นก็อ้างนู้นนี่นั่นอีกแหละ
แต่เอ พี่ฮั่นเกรงใจคริสาเปล่านะ ถึงทำแบบนี้
แต่ มันต้องกล้าๆหน่อยสิ ชิ

kjkjji

  • บุคคลทั่วไป
 :a5:

ขุ่นพระ *ยกมือทาบอก* หรือน้องพีทจะเป็นรุกคะ!!!!!!!!!!!? คุณพี่ฮั่นโดนแค่นี้ทำเป็นระทวย ความแมนที่ผ่านมาของพี่หายไปไหนหมด!
มันจุ๊งเลย นี่ถึงขั้นพูดไม่ออก...
น้องพีท....

 o22

ไม่กล้าเดาอะไรอีกต่อไปแล้ว ช็อค กรี๊ดดด ทำไมน้องพีทเธอแมนเหลือเกิน :o12:


ออฟไลน์ zenixs

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เพิ่งได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้ค่ะ สนุกมากๆ เลย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ :L2:
เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้นเลย สงสารทั้งคู่นะ
อยากอ่านตอนต่อไปเร็วๆ ว่า น้องจะจัดการกับพี่ฮั่นยังไง
 :ling1:

ออฟไลน์ Tigerintherain

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 89
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
48. คำสั่ง



หลังคำพูดนั้น  พีทยกหน้าขึ้นจ้องมองเขาที่เพิ่งได้สติ 

“พี่แพ้แล้ว” 

หน้าเรียวที่อยู่ห่างเพียงนิดเดียวนั้นบอก  แววตาคนเป็นน้องที่จ้องมาเต็มไปด้วยความพึงพอใจในชัยชนะของตนเอง
 
แต่กลับไม่มีรอยยิ้ม

“อะไร  ขี้โกงนี่  ทำแบบนี้”  เขาประท้วง  หายใจแรง ยังคิดอะไรไม่ออกเมื่อสบตาที่มองนิ่ง

“เราไม่ได้ตกลงกันนี่ว่าจะชนะกันด้วยวิธีไหน พี่ปล่อยให้ผมกดได้ตั้งเกือบนาที  หรือไม่จริง  พี่คงไม่ตั้งใจจะลืมสัญญาของเราใช่ไหม  ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำ พี่เคยพูดกับผมวันแรกที่พี่กลับมา จำได้ไหม”

“พี่ไม่ได้ลืมหรอก แต่นี่มันขี้โกงนี่  เล่นมาทำแบบนี้”

พีทมองตาเขาอย่างไม่แคร์  ไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร  ยังไงเขาก็ชนะพี่ฮั่นแล้ว  เขาสบตาน้องแล้วก็เข้าใจ  พีทไม่ยอมแน่ถ้าเขาไม่ยอมรับว่าตัวเองแพ้  เขาถอนหายใจ

“ก็ได้พี่แพ้แล้ว พี่จะยอมทำตามคำสั่งของพีท พีทจะให้พี่ทำอะไรล่ะ” 

เขาทิ้งศีรษะตัวเองกับพื้นเบาะอย่างอ่อนแรงเหมือนจำนนต่อความพ่ายแพ้ของตัวเอง  พวกเขายังพูดกันทั้งที่พีทยังทับอยู่บนตัวเขา  ดูเหมือนไม่มีใครสนใจที่จะขยับเปลี่ยนท่าไป

“พี่สัญญาแล้วนะว่าจะทำตามคำสั่งผม” 
   
ดวงตาพีทมองอย่างต้องการความมั่นใจก่อนที่จะพูดอะไรออกมา

“พี่สัญญา”



“ถ้างั้นจูบผมสิ”    เสียงเบาแทบกระซิบ



“อะไรนะ!  พีท  นะ  นายว่าอะไร” 

ดวงตาที่จ้องกลับมาไม่มีร่องรอยว่าพูดเล่น 

“ผมบอกว่าให้จูบผม!”  คราวนี้พีทเสียงดังขึ้น

“แต่...”  เขาสบตาน้องชายแต่กลับพูดไม่ออกไปเสียเฉย ๆ     

แววตาพีทที่มองมาไม่ได้มีความล้อเล่นอยู่เลย  ดวงตาคู่นั้นกลับเหมือนกำลังจะร้องไห้อยู่แล้ว  ดูเหมือนว่าพีทก็กลั้นใจที่จะเอ่ยคำสั่งนี้ออกไป 

น้องชายไม่ฟังอะไรอีกแล้วเมื่อเลื่อนมือมาประคองใบหน้าพี่ชายไว้  ก้มลงไปหาริมฝีปากที่กำลังจะเอ่ยปฏิเสธนั้นทันที

เขาตกตะลึงเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสนุ่มที่ริมฝีปากตัวเอง สัมผัสแบบเดียวกับคืนที่เขาเข้าโรงพยาบาลกลับมาอีกครั้ง  เขาไม่เคยลืมมัน  เพราะเขาเฝ้าแต่วนเวียนคิดถึงสัมผัสนั้นตลอดเวลา 
 
เพียงแค่ริมฝีปากอันอ่อนนุ่มแตะบางเบา  เกราะเหล็กหนาที่ห่อหุ้มหัวใจไว้ก็ปริร้าวไปทั่ว   

พริบตาเดียวเปลือกนอกอันแข็งแกร่งก็แตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ  ความรู้สึกทั้งหมดที่เก็บซ่อนไว้พลันไหลทะลักออกจากใจ   ความรู้สึกล้นปรี่ที่แทบเก็บไว้ไม่อยู่  ได้ชะเอาทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางกั้นเขาไว้ออกไป   

เพียงแค่ริมฝีปากสัมผัสเขาก็ลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง  ไม่มีคำว่าพี่น้อง  ไม่มีคำว่าเหมาะสม  หน้าตา  ชื่อเสียง  ไม่มีอะไรทั้งนั้น
 
กำแพงความถูกต้อง  บุญคุณ  หน้าที่ที่เขาเพียรสร้างไว้จนสูงใหญ่  กลับพังทลายไปในพริบตาที่พวกเขาสัมผัสกันและกัน

มีเพียงเขากับคนในอ้อมแขนนี้ 

เท่านั้น



มือเขายกขึ้นประคองใบหน้าที่แนบชิดนั้นไว้บ้าง มืออีกข้างสอดไปตามเส้นผมนุ่ม  เลื่อนไปด้านหลังกดท้ายทอยคนข้างบนให้ชิดเข้ามามากอีกในขณะที่เงยหน้าขึ้นจูบตอบ




จูบตอบสนองนั้นทำให้พีทกลายเป็นฝ่ายที่ตั้งรับไม่ทันเมื่อพี่ฮั่นจูบเขา  สมองว่างเปล่าเมื่อลิ้นร้อนสอดเข้ามาสัมผัสกับลิ้นเขาช้า ๆ แล้วก็เกี่ยวกระหวัดพันไว้  เขาไม่รู้ว่าเป็นเขาเองที่เผลอร้องครางหรือเป็นเสียงของพี่ฮั่นที่ครางออกมา

เพียงครู่เดียวพี่ฮั่นก็ถอนจูบออกทำให้เขารู้สึกตัว  ลืมตาขึ้น 

แต่แล้วเขากลับถูกจับพลิกตัวลงแล้วพี่ฮั่นเป็นฝ่ายอยู่ด้านบนแทน  ปากแดง ๆ นั้นก้มลงมาอย่างรวดเร็ว  จูบเขาอย่างร้อนแรง

ลูกเสือที่ยังไม่เคยออกล่าเหยื่อหรือจะอาจหาญมาสู้เสือหนุ่มวัยฉกรรจ์ที่ใช้ชีวิตผ่านป่าดงดิบรกชัฎมามากมาย  ออกล่าเหยื่อด้วยประสบการณ์ ไม่เพลี่ยงพล้ำและไม่ให้โอกาสเหยื่อตัวไหนมีโอกาส  แม้แต่จะรู้ตัวว่ากำลังจะถูกโจมตี!

สัมผัสอันวาบหวามช่ำชองนั้นก็ไม่ให้โอกาสหนุ่มน้อยได้ตั้งตัวเช่นกัน   

“อื้อ...”   เสียงครางอู้อี้ของเขา 
 
จูบเร่าร้อนนั้นทำให้เกิดความรู้สึกซาบซ่านไหลอาบไปทั่วร่าง  เขาไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเพราะไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกเช่นนี้ 

พีทคิดอะไรไม่ออกอีกแล้ว ได้แต่ปล่อยให้พี่ฮั่นเป็นฝ่ายทำอะไรตามใจชอบ  รับรู้เพียงแต่ว่าตัวเองกอดคนด้านบนไว้ 

“อา..” ไม่รู้ตัวว่าร้องครางออกไปเมื่อพี่ฮั่นเลื่อนริมฝีปากไปจูบที่คางเรียว  แตะจูบหนักเรื่อยลงไปที่ซอกคอแล้วเม้มแน่นที่ผิวบริเวณนั้น
 
“พี่...พี่ฮั่น”

เขากลับอ่อนแรงไปหมดเมื่อพี่ฮั่นทำแบบนั้น  ริมฝีปากนั้นซุกไซ้ไปทั่ว มือใหญ่ของพี่ฮั่นสอดเข้าไปในเสื้อยูโดที่หลุดลุ่ย  ลูบไล้ไปตามลำตัว  หัวสมองเขาว่างเปล่า  แค่จูบของพี่ฮั่นก็ทำให้เขาหัวหมุนตามไม่ทันแล้ว แต่นี่พี่ฮั่นยังลากมือใหญ่สัมผัสไปทั่วตัวเขา  ทำให้เขาร้อนไปทุกจุดที่มือพี่ฮั่นลากผ่าน   

ได้ยินเสียงร้องครางของตัวเองเมื่อพี่ฮั่นยังคงขบเม้มตามซอกคอเขา จมูกโด่งนั้นกดแรง ๆ ไปตามจุดที่ทำให้รู้สึกวาบหวิวอย่างคนมีประสบการณ์ สร้างความปั่นป่วนให้ก่อตัวมากขึ้น 

ความรู้สึกแปลกใหม่ที่เกิดขึ้นได้มอมเมาเขา  หนุ่มน้อยได้แต่จมดิ่งไปกับความรู้สึกใหม่นี้อย่างห้ามไม่ได้   

ได้แต่ปล่อย...ปล่อยใจไป

“...พี่..ฮั่น”

พี่ฮั่นกลับมากดจูบปิดเสียงร้องครางของเขาไว้  มันเป็นจูบที่เรียกร้องให้เขาตอบสนอง  เขาทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ทำตามที่พี่ฮั่นทำเมื่อสอดมือไปตามเส้นผมหนาลูบไปตามหลังคอ  กดให้พี่ฮั่นแนบริมฝีปากชิดลงมาอีก  มืออีกข้างสอดไปใต้เสื้อยูโด  สัมผัสร่างกายที่เต็มแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของคนข้างบนบ้าง  ได้ยินพี่ฮั่นครางเสียงต่ำในลำคออย่างพอใจ

เวลาผ่านไปเท่าไรไม่รู้เมื่อจูบร้อนแรงนั้นช้าลงทีละนิดอย่างนุ่มนวล จนกระทั่งเหลือแต่เพียงริมฝีปากแตะไปมา  พี่ฮั่นหยุดนิ่ง  ยกใบหน้าขึ้นเล็กน้อย  จมูกพวกเขาแตะกันอยู่แต่ริมฝีปากนั้นถอยออกไป 

พีทจึงเริ่มรู้สึกตัว  เงยหน้าขึ้นเพื่อจะสัมผัสริมฝีปากนั้นอีกเหมือนยังไม่เต็มอิ่ม  แต่พี่ฮั่นกลับถอยไปอีกคล้ายกับต้องการแกล้ง  เมื่อไม่ได้ดังใจพีทจึงผลักคนเป็นพี่ออก  เขายกตัวขึ้น  เป็นฝ่ายอยู่เหนือพี่ฮั่นอีกครั้งแต่คราวนี้มือพี่ฮั่นกลับจับใบหน้าเขาดึงลงไปประกบกับริมผีปากที่รออยู่แล้ว

จูบร้อนแรงกลับมาอีกครั้ง  พีทหัวหมุนติ้ว  ลิ้นทั้งคู่พันกระหวัดกันไปมา  ริมฝีปากที่บดเบียดกัน ร่างกายที่เคลื่อนไหวแนบชิด  สัมผัสของพี่ฮั่นทำให้เขารู้สึกร้อนรุ่ม  วูบวาบในช่องท้อง 
 
“อื้อ...” เขาครางออกมาอย่างสุดจะทน 

แทบจะรับความรู้สึกที่เกิดขึ้นทั้งหมดไว้ไม่ไหว  มือเขาขยุ้มไหล่คนเป็นพี่ไว้แน่นตามแรงอารมณ์ที่ค่อย ๆ ไต่ระดับสูงขึ้น  สติกระเจิดกระเจิงไปแล้ว

พีทเริ่มรู้สึกเบาหวิวลมหายใจหอบกระชั้นเหมือนกำลังลอยสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ  เขากำลังจะหายใจไม่ออกเมื่อจูบนั้นเร่าร้อนขึ้นทุกวินาทีที่ผ่านไป  เขาเริ่มดิ้นรน ไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอบีบไหล่ของพี่ชายแรงแค่ไหน

ในที่สุดความเร่าร้อนนั้นก็ค่อยผ่อนลง   พี่ฮั่นขยับไปจูบปลายคางทำให้เขามีโอกาสหายใจก่อนที่ริมฝีปากนั้นจะกลับมาอีกครั้ง
คราวนี้เปลี่ยนเป็นความอ่อนหวานเมื่อริมฝีปากนั้นเล็มจูบอย่างเชื่องช้า  พี่ฮั่นออกแรงเม้มริมฝีปากล่างของเขาแล้วบดเบียดไปมา

พี่ฮันเงยหน้าจูบหนัก ๆ ที่ริมฝีปากเขาเป็นครั้งสุดท้าย  ก่อนที่มือใหญ่ที่ประคองใบหน้าเขาไว้จะดึงให้เขาซบลง
 
พีทหอบหนัก  ซบหน้าลงที่ข้างแก้มของคนเป็นพี่  มือเขายังจับแน่นที่ไหล่พี่ชาย  หัวใจเต้นแรงแทบทะลุออกมานอกอก ไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรต่อไป  ได้แต่ปล่อยตัวให้ซบอยู่แบบนี้ 

พี่ฮั่นกอดเขาไว้แน่น  มืออบอุ่นลูบไปมาบนหลังเขาเหมือนจะปลอบ  เขารู้สึกว่าพี่ฮั่นก็หอบน้อย ๆ จากแรงสะท้อนขึ้นลงบนอกหนาเป็นจังหวะเดียวกัน

พวกเขาซบกันและกันอยู่ครู่ใหญ่ ไม่มีใครพูดอะไร 

พายุอารมณ์ที่โหมกระหน่ำคนทั้งคู่ในห้องออกกำลังกายนั้นเริ่มอ่อนแรงลงทีละน้อย จนกระทั่งเหลือเพียงสายลมบางเบา พร้อมกับสำนึกผิดชอบค่อยคืบคลานเข้าสู่สมอง ทุกสิ่งที่ถูกพัดหายไปชั่วคราวกลับก่อเกิดอย่างรวดเร็วชั่วขณะเดียวก็กลายเป็นกำแพงหนา

ทันใดนั้นพี่ฮั่นก็พลิกตัวเขาให้ลงไปนอนบนเบาะ  พีทมึนงงเมื่อพี่ฮั่นลุกขึ้นนั่ง
 
“พี่ทำตามที่พีทสั่งแล้ว  พอใจแล้วใช่ไหม”  ถามทั้ง ๆ ที่นั่งหันหลังให้

พีทมองแผ่นหลังของพี่ฮั่นอย่างไม่เข้าใจกับเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไปกะทันหัน

“เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”

พี่ฮั่นพูดรวดเร็วแล้วลุกขึ้น  ออกจากห้องซ้อมไป   

ไม่แม้แต่จะหันกลับมา


------------------------------------------

ขอบคุณสำหรับคำคอมเม้นต์นะคะ

ขอโทษด้วยที่อาจทำให้ใครเข้าใจอะไรผิดไป  หวังว่าอ่านตอนนี้แล้วคงเห็นแล้วว่าใครรุกใครรับนะคะ 555

ดูเหมือนว่าจะมีแต่คนไม่ชอบพี่ฮั่นอ่า  พี่ฮั่นไม่ดีหรือเราเขียนไม่ดีรึเปล่า   :mew2:



4life

  • บุคคลทั่วไป
ไม่ชอบพระเอก อ้ำอึ้งโลเล เหมือนจะเข็งเเกร่งเเต่จริงๆ เเล้วไม่ได้เรื่องเล้ย
ทั้งชีวิตมีเเต่คงชี้ทางให้ไป
 ที่สำคัญเกลียดนังโรสคู่ขามัน

//อินจัดดดดดดด :hao7:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-10-2014 18:50:20 โดย 4life »

ออฟไลน์ shikyu3211

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1537
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-1
มันก็ไม่ใช่พี่ฮั่นไม่ดีหรอกนะแต่การกระทำต่างหากที่ไม่ดีที่ทำพีทเสียใจซ้ำแล้วซ้ำอีกในเมื่อใจก็รักแต่กลับปฏิเสธน้องยังกล้ามากกว่าที่จะยอมรับ. เพราะงั้นจากที่พิจารณาดูแล้วฮั่นไม่สมควรได้รับความรักจากน้องอีกต่อไปแค่นั้นเอง.ฮั่นจะทำเหมือนตาของตัวเองที่ทิ้งปู่ฟงไปแต่งงานแล้วให้พีทเจ็บไปจนตายเหมือนปู่ฟงหรือไง. อย่างนี้ก็จะเป็นการยืนยันคำพูดที่ว่าไม่มีรักแท้ในหมู่เกย์หรือชายรักชายงั้นหรือ. อันนี้เราวิจารณ์จากเนื้อเรื่องแล้วก็การแสดงออกของตัวละครนะไม่ได้ว่านิยายไม่ดี. แต่ว่านิยายแต่ละเรื่องมันก็ต้องมีตัวละครที่เรารักและที่เราเกลียดเช่นเดียวกันใช่ว่าจะเกลียดเฉพาะตัวร้ายที่ไหน.  ตัวดีที่ทำอะไรขัดหูขัดตาไม่เป็นไปตามที่เราอยากให้เป็นเราก็เกลียดได้เช่นกัน. เคนะจ๊ะ ;)

ออฟไลน์ cross

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 272
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-1
ตัดใจเถอะพีท เจ็บซ้ำๆแบบนี้ทำร้ายใจตัวเองเกินไป คนเรามันจะเจ็บเจียนตายได้อีกนานแค่ไหนเชียว
ฮั่นเป็นคนที่ขี้ขลาดสุดๆ เป็นไปได้อยากให้พีทเจอคนที่ดีกว่านี้ คนที่พร้อมจะสู้ ฝ่าฟันไปด้วยกัน ไม่ใช่คนที่ผลักให้พีทถอยห่าง ทำร้ายกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าบอกว่าฮั่นเองก็เจ็บไม่ต่างจากพีท มันก็ใช่ แต่พีทเจ็บมาเยอะกว่าไหม ถ้ากลับมาเป็นแบบนี้อย่ากลับมาหาพีทตั้งแต่ต้นยังจะดีกว่า

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ andaseen

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 742
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-1

ออฟไลน์ becrazie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 710
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
 :mew4: หนักใจแทนทั้งคู่

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด