Chapter 21
แสงสีทองสาดส่องผ่านผ้าม่านของโรงพยาบาลกระทบพื้นห้อง ภายในห้องพักผู้ป่วยปรากฏร่างของหนึ่งคนป่วยและหนึ่งคนเฝ้าไข้
เบียร์นั่งนิ่งอยู่ที่โซฟา สายตาจับจ้องไปยังร่างของโซดาบนเตียงผู้ป่วย ที่แขนข้างซ้ายของโซดามีสายน้ำเกลือห้อยอยู่… เบียร์นั่งอยู่อย่างนี้ตั้งแต่พาโซดามาถึงโรงพยาบาลเมื่อคืน ความง่วงทำอะไรเบียร์ไม่ได้เลยสักนิด … เขาอยากให้โซดาอยู่ในสายตาตลอดเวลา
หมอบอกว่าโซดาพักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายได้รับสารอาหารน้อย โซดาถึงได้เป็นลมแบบนั้น
…นึกถึงสภาพโซดาที่เขาเห็นเมื่อคืนแล้วยิ่งตอกย้ำความเจ็บปวดในใจ
ทำไมโซดาต้องร้องขายตัวแบบนั้น…
เขาเชื่อว่าโซดาต้องมีเหตุผลอะไรแน่ๆ…. และเหตุผลนั้นต้องเป็นเหตุผลที่สำคัญกับโซดามากๆ…. หรือว่า…เพราะสปาย?
เบียร์ขมวดคิ้วมุ่น สองมือประสานกันแน่น … นึกถึงสปายแล้วอดคิดถึงน้องชายตัวเองไม่ได้ ช่วงนี้ไอ้น้ำแข็งมันหงุดหงิดง่ายมาก หงุดหงิดกับทุกสิ่งทุกอย่าง เขาพยายามบอกให้มันสงบใจแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผลอะไรเลย เบียร์ในตอนนี้ทั้งห่วงไอ้น้ำแข็ง ทั้งห่วงสปาย … ได้แต่ภาวนาให้ทุกอย่างดีขึ้นในเร็ววัน
เบียร์ได้ยินเสียงคนบนเตียงร้องครางเบาๆ เบียร์ลุกขึ้น เข้าไปนั่งชิดขอบเตียง โซดาขมวดคิ้วทั้งที่ยังหลับตา สองมือเล็กๆกำแน่น
“สปาย!!” โซดาร้องลั่น พลันดวงตาเบิกโพลง หยาดน้ำใสรินไหลออกตา แผ่นอกบางกระเพื่อมรุนแรง เบียร์ยื่นมือไปคว้ามือเล็กๆมากุมไว้ หากแต่โซดาสะบัดมือออก สองมือน้อยๆปัดป้องตัวเองพัลวัน
“ไม่! ไม่เอา! อย่า!”
“โซดา…ไม่ต้องกลัว ฉันเอง.. โซดา มองฉันสิ” เบียร์นั่งลงบนเตียงผู้ป่วย กุมมือน้อยแน่นๆ ค่อยๆประคองร่างเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมกอด ไม่สนว่าโซดาจะทุบตีแรงแค่ไหน
“โซดา…ฉันเอง เบียร์ไง”
โซดาเงยหน้าสบตากับเบียร์… ดวงตาใสฉายแววหวาดกลัว เบียร์โอบศีรษะโซดาซุกแนบอก ไม่นานก็สัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นที่อกเสื้อ ร่างเล็กในอ้อมกอดค่อยๆสะอื้นฮัก ฝ่ามือหนาลูบผมคนตรงหน้าเบาๆ
“ไม่เป็นไรแล้วนะ…. ไม่เป็นไร…”
“สปาย…” โซดาครางเสียงเบาปนสะอื้น
“สปายจะต้องไม่เป็นอะไร… เชื่อฉัน…”
โซดาสะอื้นฮักอยู่พักใหญ่ เบียร์ต้องกล่อมอยู่นานกว่าโซดาจะสงบลง… หลังจากนั้นต้องกล่อมให้โซดาทานข้าวต่อ… แม้จะเป็นอาหารอ่อนๆอย่างข้าวต้มหมูสับ แต่ดูเหมือนว่าโซดาจะกลืนลงคอได้ยากกว่าอาหารปกติเสียอีก…
หลังจากโซดาทานข้าวเสร็จ.. เบียร์จัดแจงให้โซดานั่งพิงหัวเตียง ดวงตากลมโตฉาวแววเหม่อลอย เบียร์มองดวงตากลมโตแล้วต้องตกใจเมื่อเห็นว่ามีหยาดน้ำใสเอ่อคลอหน่วยตา
ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก เบียร์ลุกไปเปิดประตู
“เป็นไงบ้าง?” อ๋องเอ่ยทัก ด้านหลังอ๋องคือไกรและน้ำแข็ง
“ดีกว่าเมื่อคืน” เบียร์ตอบออกไปพลางเขยิบให้คนมาใหม่เข้ามาในห้อง
โซดาไล่สายตามองทุกคนในห้องด้วยความหวาดระแวง
“ดีขึ้นแล้วนะโซดา” ไกรเข้าไปนั่งริมขอบเตียง ส่งรอยยิ้มอ่อนโยนให้ โซดาสบตาไกรไม่นานก็เบือนหน้าหนี ไกรหันไปสบตากับเบียร์
“โซดายังไม่ได้เล่าอะไรให้กูฟังหรอก” เบียร์เอ่ยเสียงเบา
ไกรลุกไปนั่งบนโซฟาที่มีอ๋องกับน้ำแข็งนั่งอยู่
“เรื่องสปาย เอาไงต่อวะ?” เบียร์ถามเสียงเบาแทบกระซิบ ได้แต่หวังว่าระยะห่างระหว่างเตียงผู้ป่วยกับโซฟาคงมากพอที่คนป่วยบนเตียงจะไม่ได้ยิน
“คงต้องรอโซดา…” ไกรเอ่ยเสียงเบา ทุกสายตาในห้องนิ่งมองไปยังร่างเล็กบนเตียง
ตอนนั้นเองที่ทุกคนสังเกตเห็นว่าร่างของโซดาสั่นเทาน้อยๆพร้อมแรงสะอื้น สองมือเล็กกำผ้าห่มแน่น
“…พวกมัน…. จับตัวสปายไป..” เสียงใสเอ่ยเบา
เบียร์เข้าไปนั่งบนเตียงผู้ป่วย คว้าสองมือน้อยๆมาจับไว้แน่น
โซดาเงยหน้าสบตาเบียร์ หยาดน้ำใสอาบแก้ม เบียร์ยื่นมือปาดน้ำใสๆนั้นทิ้ง
“พูดออกมาเถอะ…. “ เบียร์เอ่ยเสียงเบา โซดากัดริมฝีปากแน่น ใบหน้าเหยเก
“พวกมัน…จะเอาตัวสปาย…ไป….ประมูล”
น้ำแข็งลุกพรวด ดวงตาแข็งกร้าว สองมือกำแน่น
“ใจเย็นเว้ย” อ๋องฉุดน้ำแข็งนั่งลงที่เดิม น้ำแข็งถอนหายใจแรงๆอย่างหงุดหงิด
“ต้องช่วยสปาย…. ต้องไปช่วยสปาย สปายต้องทรมานมากแน่ๆ” โซดาเบิกตากว้าง ตั้งท่าจะก้าวลงจากเตียง แต่เบียร์คว้าร่างโซดาไว้ได้ทัน รั้งร่างเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมกอดแน่น
“สปายจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ พวกมันจะทำอะไรสปายบ้าง สปายกำลังรอ สปายหนีออกมาไม่ได้ สปายไม่เคยไปที่นั่น สปายไม่รู้วิธีออกมา!” โซดาดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดอุ่น เบียร์ลูบผมคนตัวเล็กเบาๆ
“ไม่เป็นไร….สปายต้องไม่เป็นอะไร….เชื่อฉันนะ….” เบียร์ว่าพลางหันไปสบตากับบุคคลอีก 3 คนภายในห้อง เบียร์พยักหน้าให้คนทั้งสามหนึ่งครั้ง
“พวกมันคือใครหรอโซดา….” ไกรถามพลางเขิบตัวเข้ามาใกล้เตียง
โซดาผละออกจากอ้อมกอดเบียร์ ใบหน้าใสไม่เงยหน้ามองใครแม้แต่นิด ก้มมองเพียงมือตัวเองที่กำแน่น
“ไอ้เพียว….” โซดาเอ่ยชื่อนี้ด้วยเสียงอันสั่นเครือ
“มันมีลูกน้องเป็นร้อย เด็กในซ่องมันอีกไม่รู้ตั้งเท่าไร!” โซดาร้องลั่น เบียร์กระชับมือที่จับมือโซดาไว้แน่นๆ
“ซ่องที่ว่า…อยู่ที่ไหนเหรอ..บอกพวกพี่ได้ไหม?” ไกรถามอีกครั้ง
โซดาเงยหน้ามองไกร ไกรส่งยิ้มอ่อนโยนให้…
“พวกพี่จะได้ไปช่วยสปายไง…”
โซดาหันไปสบตาเบียร์ เบียร์พยักหน้าให้โซดาหนึ่งครั้ง
โซดาเล่ารายละเอียดทั้งหมดให้บุคคลทั้ง 4 ในห้องฟัง ทั้งที่ตั้งของตึกแถว ที่ตั้งของซ่อง ที่ตั้งของบ้าน โซดาเล่าทุกอย่างที่เกี่ยวกับไอ้เพียว แต่ที่โซดาไม่ได้เล่าคือ…เรื่องที่โซดาเคยทำงานที่ซ่องของมัน
น้ำแข็งตั้งใจฟังและจดจำรายละเอียดต่างๆที่โซดาเล่า...จำรายละเอียดของแผนที่จนขึ้นใจ
“ขอบคุณมากนะโซดา” น้ำแข็งลูบผมโซดาเบาๆก่อนเอ่ยต่อ
“ฉันรับรองว่าสปายจะต้องปลอดภัย”
น้ำแข็งขมวดคิ้วแน่น … ครุ่นคิดถึงสิ่งที่ต้องทำต่อไป
“พี่ไกร…” น้ำแข็งเรียกแค่นั้นก็ต้องชะงักเมื่อไกรสวนขึ้นมา
“กูไปด้วยแน่นอน”
“พี่อ๋องอยู่กับไอ้เบียร์” น้ำแข็งเอ่ยต่อ อ๋องรับคำ
“ไอ้เบียร์ มึงอยู่กับโซดา” เบียร์พยักหน้ารับ
น้ำแข็งควักสมาร์ทโฟนมาโทร.ออกหาเพื่อนสนิททั้ง 3 คน เรื่องที่คุยไม่ใช่เรื่องส่วนตัวนัก น้ำแข็งจึงไม่ต้องเลี่ยงไปคุยเงียบๆ
“ไอ้เปรมกับไอ้โอมจะไปดูร้านให้ กันไว้ เผื่อมีเรื่อง” น้ำแข็งบอกพี่ชายแท้ๆของตัวเอง
“ผม พี่ไกร ไอ้แมน เรา 3 คนจะไปด้วยกัน”
น้ำแข็งเข้าไปนั่งข้างเตียงโซดา จับมือโซดาข้างหนึ่งมากุมแน่น
“ฉันไม่ปล่อยให้สปายเป็นอะไรแน่ๆ”
น้ำแข็งว่าจบก็เตรียมตัวออกจากห้อง ก่อนออกจากห้องได้ยินพี่ชายตะโกนไล่หลัง
“อย่าวู่วามนะเว้ย มึงต้องใจเย็นๆ”
น้ำแข็งพยักหน้าตอบไป แต่เบียร์ก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไรว่าน้ำแข็งจะทำตามที่เขาพูด
น้ำแข็งและไกรรุดออกไปจากห้อง ทั้งสองคนตรงไปยังรถยนต์ของตัวเอง
“ไอ้แมนกำลังมา” น้ำแข็งพูดเพียงแค่นั้นก่อนตรงไปขึ้นรถเบนซ์ของตัวเอง ไกรประจำที่คนขับในรถของตัวเองเช่นกัน รอไม่นานรถสปอร์ตคันหรูก็ขับมาสมทบ แมนจอดรถก่อนลงมาขึ้นรถน้ำแข็งด้านข้างคนขับ
“กูไม่ให้มึงขับรถคนเดียวแน่ๆ” แมนว่าพลางคาดเข็มขัดนิรภัย น้ำแข็งหันไปส่งสัญญาณให้ไกรก่อนทะยานรถออกสู่ท้องถนนโดยมีไกรขับตามไปติดๆ
น้ำแข็งเร่งความเร็วรถมาเรื่อยๆตั้งแต่ขับออกมา ไม่กลัวหลงทางแม้แต่นิด ในหัวมีภาพของแผนที่ที่โซดาวาดให้ดู
“ใจเย็นๆไอ้น้ำแข็ง! มึงตั้งสติหน่อยสิวะ!” แมนตะโกนลั่น
“กูเย็นไม่ไหวแล้วเว้ย! ป่านนี้สปายจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้!”
“มึงฝ่าไฟแดงมาห้าแยกแล้วนะเว้ย! กูรู้ว่ามึงห่วงสปาย แต่มึงตั้งสติหน่อย! มึงจะเอาชีวิตตัวเองมาทิ้งหรือไง!”
น้ำแข็งขมวดคิ้วแน่น ลดความเร็วลงเล็กน้อย หายใจเข้าออกแรงๆ
น้ำแข็งพาเบนซ์คันหรูเลี้ยวเข้าไปยังอาคารสูงใหญ่ใจกลางเมือง มองเผินๆแล้วดูคล้ายโรงแรมห้าดาวทั่วไป ถ้าน้ำแข็งไม่รู้มาก่อนเขาก็คงคิดว่าที่นี่เป็นโรงแรมธรรมดา… แน่นอน เบื้องหน้าของอาคารสูงใหญ่นี้คือโรงแรม…. แต่เบื้องหลัง…. มันคือซ่องโสเภณีของคนมีเงิน!
น้ำแข็งนึกถึงคำพูดของโซดาที่พูดถึงสถานที่แห่งนี้…. ความกักขฬะ โสมมที่แวดล้อมสถานที่แห่งนี้…. ยิ่งคิด ยิ่งนึกห่วงสปาย…. สปายไม่ควรก้าวเข้ามาในสถานที่น่ารังเกียจแบบนี้!
น้ำแข็งยื่นบัตรอะไรสักอย่างที่ไกรยัดใส่มือเขาตั้งแต่ตอนอยู่โรงพยาบาลให้พนักงานรับรถ น้ำแข็งและแมนลงจากรถ ด้านหลังคือรถของไกรที่ขับตามมาติดๆ
น้ำแข็งและแมนสบตาไกร คล้ายตั้งคำถามว่าจะเอายังไงต่อ ไกรตอบคำถามนั้นด้วยการชูบัตรเชิญพร้อมบัตรสมาชิกของสถานที่แห่งนี้
“ก็อปมาแล้ว ไม่มีอะไรที่เจ้าพ่อทำไม่ได้” ไกรว่าพลางเดินนำแมนและน้ำแข็งเข้าไปในงาน …งานถูกจัดในห้องประชุมภายในอาคารแห่งนี้ เป็นห้องประชุมที่ใหญ่พอสมควร…. กะคร่าวๆแล้วคงจุคนได้เป็นพัน
“ 3 คน ” ไกรบอกพนักงานชายชุดดำที่หน้าประตูพร้อมยื่นบัตรสมาชิก พนักงานชายไล่สายตามองแขกทั้งสาม
“เชิญด้านใน” พนักงานชายคนนั้นผายมือต้อนรับ ไกรเดินนำเข้าไป น้ำแข็งและแมนเดินตามไม่ห่าง
“สวัสดีครับ” เสียงทักทายมาพร้อมกับการเข้ามาของใครอีกคน ไกร น้ำแข็ง แมน หยุดเดิน มองชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหา
“ทราบที่นั่งหรือยังครับ?” ชายคนนั้นเอ่ยถาม แขกทั้งสามไล่สายตามองชายตรงหน้า .. คงเป็นพนักงานของที่นี่
ไกรส่ายหน้าตอบ รอดูปฏิกิริยาของพนักงาน
“เชิญทางนี้ครับ” พนักงานผายมือ เดินนำไป แขกทั้งสามลอบมองหน้ากัน เดินตามไปเงียบๆ
“ 3 ท่าน นะครับ” พนักงานผายมือไปยังที่ว่าง 3 ที่ที่โต๊ะตัวยาว… เป็นที่นั่งที่ไม่ติดเวทีนัก แต่ก็ไม่ใกล้ประตูทางออกเกินไป แขกทั้ง 3 เข้าประจำที่ของตัวเอง
น้ำแข็งเหลือบมองไปยังพนักงานคนนั้น… น้ำแข็งไม่แน่ใจว่าคิดไปเองหรือเปล่า…. เขารู้สึกคล้ายว่าพนักงานคนนั้นจ้องมองเขาตลอดเวลา
“ไอ้ต้อง คุณเพียวเรียก” เสียงนั้นทำให้น้ำแข็งหันขวับ พนักงานคนนั้นหายไปแล้ว…. ชื่อที่ถูกเอ่ยถึงทำให้น้ำแข็งขมวดคิ้วแน่น…
เพียว…
“เป็นอะไรวะ?” แมนถามน้ำแข็งเสียงเบา น้ำแข็งส่ายหน้าตอบน้อยๆ
หลังจากนั้นไม่นาน พิธีกรบนเวทีเริ่มพูดคุยกับแขกในงาน เป็นงานที่น้ำแข็งรู้สึกว่าแทบไม่มีพิธีรีตองอะไรเลย.. ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อยๆอย่างที่มันควรจะเป็น…. สนองเป้าหมายของคนที่มาร่วมงาน
“คนแรกนะครับ… สาวน้อยของเรา …” พิธีกรเริ่มพูด น้ำแข็งแทบกลั้นใจกับคำพูดของพิธีกร เบื้องหลังพิธีกรคือผ้าม่าน… หลังจากที่พิธีกรเริ่มพูดถึง
”สินค้า”คนแรก ผ้าม่านค่อยๆเลื่อนขึ้น
พิธีกรบอกถึงคุณสมบัติของ”สินค้า”ก่อนเริ่มต้นการประมูล…
เสียงตะโกนโหวกเหวกของผู้ร่วมงานดังไม่หยุด กฎของการประมูลคือต้องบอกราคาผ่านไมโครโฟน การตะโกนปากเปล่านั้นไร้ประโยชน์ ทำให้เสียงจากไมโครโฟนตีกันระงม มันน่าหนวกหูมากในความรู้สึกของน้ำแข็ง
น้ำแข็งนิ่งมอง”สินค้า”บนเวที หญิงสาวผมยาว ผิวขาวเนียน อยู่ในชุดนอนเดรสสั้นผ้าลูกไม้สีขาวนวล มันคงเป็นชุดนอนธรรมดา ถ้าหญิงสาวมีชั้นในปกคลุมร่าง… ผ้าลูกไม้บางเบา…. มองเผินๆแล้วดูเหมือนว่าหญิงสาวบนเวทีกำลังเปลือยอยู่ด้วยซ้ำ!
หญิงสาวบนเวทีถูกจับตัวไว้ด้วยชายฉกรรจ์ชุดดำสองคน บนใบหน้าหญิงสาวนั้นไร้รอยยิ้ม…. สายตาของเธอเหม่อลอย
น้ำแข็งรู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อพิธีกรประกาศราคาสุดท้ายของ”เธอ” หญิงสาวคนนั้นหายกลับเข้าไปหลังเวที ผ้าม่านเลื่อนลง
คนแล้วคนเล่าที่ถูกปฏิบัติดังหญิงสาวคนแรก.. ทั้งเด็กหนุ่ม.. หญิงสาว ทุกครั้งที่”สินค้า”ปรากฏกายบนเวที จะตามมาด้วยเสียงโหวกเหวกของผู้ร่วมงานดังระงมทั่วบริเวณ..
น้ำแข็งไม่อยากจะนึกว่าถ้าสปายต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้….
“ต่อไปนะครับ… หนุ่มน้อยน่ารักวัยใส….” พิธีกรพูดไปยิ้มไป
น้ำแข็งนิ่งมองภาพบนเวที.. ผ้าม่านค่อยเลื่อนสูงขึ้น… ปรากฏร่าง 3 ร่างบนเวที
1 ในนั้นคือคนที่น้ำแข็งเป็นห่วงสุดหัวใจ! คนที่ถูกจับตรึงอยู่บนเวทีในตอนนี้!
สปาย!
น้ำแข็งลุกพรวด
“ทำบ้าอะไรวะ?!” ไกรกดไหล่น้ำแข็งแรงๆให้นั่งลงที่เดิม
“ไปช่วยสปายสิวะ!” น้ำแข็งขมวดคิ้วแน่น
“พวกมันได้ยิงมึงทิ้งก่อนที่มึงจะได้ช่วย!” ไกรขมวดคิ้วใส่น้ำแข็ง
ไกรหยิบไมโครโฟนที่วางนิ่งตรงหน้ายื่นให้น้ำแข็ง
“เต็มที่ ไม่ต้องกลัวจะสู้เงินไม่ได้” ไกรว่าจบน้ำแข็งก็รับไมค์มาถือไว้
น้ำแข็งไม่อยากฟังว่าพิธีกรพล่ามคุณสมบัติของ”สินค้า”ชิ้นนี้ว่าอะไร สายตาคมนิ่งมองเด็กตัวเล็กบนเวทีด้วยแววตาปวดร้าว
…ร่างของสปายถูกจับไว้ด้วยชายฉกรรจ์ชุดดำสองคน แขนของสปายทั้งสองข้างถูกล็อคแน่นโดยชายฉกรรจ์เหล่านั้น ใบหน้าใสเหยเก… สปายพยายามก้มหน้า แต่ก็ถูกมือหยาบโลนของชายฉกรรจ์คนหนึ่งดันใบหน้าสปายให้เงยขึ้น ร่างน้อยๆนั้นพยายามออกแรงดิ้น สองขาเล็กหนีบเข้าหากันแน่น….พยายามปกป้องเรือนร่างของตัวเอง..เพราะเสื้อยืดสีขาวตัวเดียวที่สปายสวมอยู่มันสั้นเกินไป…! ความยาวของชายเสื้อยังไม่ถึงครึ่งของต้นขาสปายด้วยซ้ำ!
“เอาเลย” แมนเอ่ยเสียงเข้ม น้ำแข็งกำไมโครโฟนแน่นก่อนเอ่ยบอกราคาเป็นคนแรก
ระหว่างนั้น ชายฉกรรจ์คนหนึ่งที่ล็อคตัวสปาย เอาน้ำเปล่าราดลงไปบนร่างกายของสปาย ความเปียกชื้นกระจายทั่วร่างเล็กๆ เผยร่างบอบบางสู่สายตาของคนทั้งห้องประชุม เสียงฮือฮาต่อราคายิ่งสูงขึ้นไปอีก น้ำแข็งกำมือแน่น!
ความต่างของราคาตอนนี้อยู่ที่หลักแสน!
“หกล้านสาม!” น้ำแข็งตะโกนต่อ
“หกล้านแปด!” อีกครั้งที่มีคนสู้ราคามา
“เจ็ดล้านสาม!” น้ำแข็งตะโกนต่อไปอีกครั้ง
ระหว่างนั้นน้ำแข็งเห็นพิธีกรหันไปพูดอะไรสักอย่างที่หลังเวที
“เอาล่ะครับ.. เราจะหยุดที่หกล้านแปดนะครับ”
“เฮ้ย!” น้ำแข็ง แมน ไกร ร้องลั่น
“ เจ็ดล้านห้า!” น้ำแข็งตะโกนตอบออกไป แต่ดูท่าว่าพิธีกรจะไม่สนใจคำพูดของน้ำแข็งแล้ว
พิธีกรเอ่ยแสดงความยินดีกับคนที่ได้”สินค้า”ชิ้นนี้ไป ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่น้ำแข็ง…
“อะไรวะ!” น้ำแข็งสบถลั่น
น้ำแข็งมองไปยังบนเวที ร่างของสปายหายไปแล้ว… ผ้าม่านเลื่อนลง
สปายถูกพาตัวไปยังด้านหลังเวที ร่างของสปายถูกลากไปมาเหมือนสิ่งของ สองขาเล็กอ่อนแรง แต่ละก้าวแทบพาตัวเองล้ม ร่างกายเหนื่อยอ่อนด้วยไม่มีอะไรตกถึงท้องมาเป็นวัน
“เอามันไปขังไว้ รอส่งให้แขก” เสียงของชายฉกรรจ์คนหนึ่งเอ่ยออกมา พร้อมส่งร่างของสปายให้ใครอีกคนที่สปายคุ้นหน้าดี… ไอ้ต้อง
สปายเดินตามต้องอย่างอ่อนแรง
“เข้ามา” มันสั่ง
ไอ้ต้องพาสปายเข้ามาในห้องเล็กๆห้องหนึ่ง สปายไม่รู้ว่ามันคือที่ไหน แต่ไม่ใช่ที่เดียวกับที่ๆสปายเพิ่งออกมา ในห้องนี้ไม่มีใครนอกจากไอ้ต้องและสปาย
“กินซะ” ต้องยื่นขวดน้ำให้สปาย สปายสะบัดหน้าหนี ไม่รับสิ่งของทุกอย่างที่ไอ้ต้องยื่นให้ สปายได้ยินต้องจิ๊ปากเสียงดัง
“ไม่กินก็ไม่ต้องกิน” ต้องว่าก่อนเอาผ้าปูโต๊ะสีครีมผืนใหญ่คลุมตัวสปาย สปายยื้อผ้านั้นออกจากตัว ต้องดึงมาคลุมตัวสปายไว้อีกครั้ง
“เอาออกทำไมวะ!” ต้องสบถ ยอมเอาผ้าออกจากตัวสปาย
“ช่างแม่ง! ไม่คลุมก็ไม่ต้องคลุม” ต้องว่าพลางฉุดสปายลุกขึ้น สปายเดินตามอย่างทำอะไรไม่ได้ สปายคงเดินไม่ทันใจมัน มันถึงได้เอาแต่เร่งสปายให้เดินเร็วๆ
เบื้องหน้าคือทางเลี้ยว ต้องรั้งร่างสปายให้หยุดเดิน มันดันสปายให้พิงกำแพง ส่วนตัวมันยื่นหน้าไปดูทางด้านหน้า มันฉุดให้สปายวิ่ง สปายวิ่งตามด้วยความทุลักทุเล
ต้องฉุดสปายเข้าไปในงาน เดินเลียบผนังห้องประชุมไปเรื่อยๆ จากเดินเปลี่ยนเป็นวิ่ง สปายต้องออกแรงวิ่งตามแรงฉุดของไอ้ต้อง… มันไม่ได้พาสปายมาขังอย่างที่สปายคิด มันพาสปายไปไหน?
“เร็วๆสิวะ” อีกครั้งที่ไอ้ต้องเร่งสปาย สปายวิ่งไปหอบไป
จู่ๆไอ้ต้องก็หยุดวิ่ง สปายเกือบวิ่งไปชนมัน จังหวะที่สปายชะลอความเร็วนั้นเอง ไอ้ต้องออกแรงกดไหล่สปายให้นั่งลงกับพื้น มันใช้ขาดันตัวสปายเข้าไปในโต๊ะแถวนั้น สปายเวียนหัวกับการกระทำของต้อง ไม่เข้าใจว่ามันต้องการจะทำอะไร สปายได้ยินไอ้ต้องคุยกับใครไม่รู้ ฟังจากบทสนทนาแล้ว ไอ้ต้องคงทักใครสักคนที่เป็นลูกน้องไอ้เพียวเหมือนกับมัน หลังจากพวกมันยุติบทสนทนา สปายถูกไอ้ต้องดึงตัวออกมาจากใต้โต๊ะ มันดันตัวสปายให้วิ่งนำ ตัวมันวิ่งประกบด้านหลัง สปายถูกดันตัวให้วิ่งตรงไปเรื่อยๆ
“ทางนี้” ไอ้ต้องพูดเบาๆก่อนกระชากแขนสปายให้หยุดวิ่ง มันลากสปายตรงไปยังโต๊ะตัวยาวตัวหนึ่งในห้องประชุมแห่งนี้ ไอ้ต้องลากสปายมาโยนใส่คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ สปายเบิกตากว้างมองร่างคุ้นตาที่นั่งอยู่ตรงนั้น
“สปาย!” เสียงเรียกชื่อพร้อมแววตาห่วงใยถูกส่งมา สปายแทบไม่อยากจะเชื่อว่าคนๆนี้จะอยู่ตรงหน้า…. คุณน้ำแข็ง!
“ออกไปเร็ว” ต้องเอ่ยเสียงเบา น้ำแข็งขมวดคิ้วมองต้องสลับกับสปาย….
“บอกให้รีบออกไปไงวะ! ไม่ได้ยินหรือไง!” ต้องเร่งเร้า น้ำแข็งโอบไหล่สปายแน่น พาสปายเดินผ่านต้องไป แมนกับไกรเหลือบมองต้องก่อนวิ่งตามน้ำแข็ง
น้ำแข็งพาสปายเดินเร็วๆไปยังทางออก แต่ทว่ายังไม่ทันถึงประตู ก็มีกระสุนปืนพุ่งดักทางน้ำแข็งไว้ เฉียดไหล่น้ำแข็งไปหวุดหวิด
“ก้ม!” น้ำแข็งร้องบอกสปาย ร่างเล็กค้อมต่ำทันที เสียงปืนดังลั่นสนั่นทั้งห้องประชุมใหญ่ ผู้คนแตกตื่นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้ำแข็งควักปืนลูกซองที่เอวออกมาถือไว้ ชักปืนเตรียมยิง
“มันมาจากข้างบน!” ไกรตะโกนมาจากด้านหลังน้ำแข็ง
กระสุนปืนตรงเข้ามาหาน้ำแข็งหลายนัด เห็นได้ชัดว่าคนยิงมีเป้าหมายชัดเจน
“มัน!” สปายชี้ไปยังชั้นสองของห้องประชุม … หน้าต่างกระจกที่เปิดไว้เผยร่างของเจ้าของสถานที่แห่งนี้ที่กำลังเล็งปืนตรงมาทางน้ำแข็ง….
ไอ้เพียว!
น้ำแข็งยิงสวนกลับ ไอ้เพียวยิงกลับมา
“รีบออกไปสิวะ!” ต้องตามมาไล่น้ำแข็ง “ไปสิ!”
น้ำแข็งเอาตัวบังสปายไว้แทบมิด โอบไหล่สปาย พาค้อมตัวต่ำ หลบกระสุนตามซอกโต๊ะ
ลูกน้องไอ้เพียวหลายร้อยชีวิตต่างยิงปืนโต้ตอบกับไกร แมนและต้อง ทั้งสามคนยิงดักลูกน้องเพียวไว้ เปิดทางให้น้ำแข็งพาสปายหนีออกไปให้ได้ก่อน
ต้องคอยประกบหลังน้ำแข็ง ยิงสวนทุกคนที่พุ่งกระสุนมาทางน้ำแข็งและและสปาย
“โอ๊ย!” ต้องร้องลั่น…. กระสุนนัดหนึ่งฝังเข้าที่ไหล่ซ้าย
น้ำแข็งและสปายหันไปตามเสียงร้องของต้อง ต้องทรุดนั่ง ไหล่ซ้ายโชกเลือด
“วิ่งไป!” ต้องตะโกนไล่มา
น้ำแข็งหันหลังพาสปายวิ่งค้อมตัวต่ำไปยังประตูต่อ โชคดีที่กระสุนยังไม่หมด น้ำแข็งยิงปืนใส่ลูกน้องไอ้เพียวทุกคนที่ดาหน้าเข้ามา
ทันทีที่ออกมาถึงประตู รถยนต์สี่ประตูคุ้นตาของไกรก็ขับเข้ามาหยุดตรงหน้า คนขับรถลดกระจกรถลงให้เห็นว่าตัวเองเป็นใคร…. น้ำแข็งเห็นแมนประจำที่คนขับแล้วจึงเปิดประตูเบาะหลัง ดันตัวสปายเข้าไปในรถก่อนกระโดดตามขึ้นไป ประตูปิดสนิท รถกระชากตัวออกทันที
“พี่ไกรให้กูเอารถเขามา ส่วนรถมึงเดี๋ยวพี่ไกรจะขับตามมาอีกที พี่เขาก็อปกุญแจไว้หลายแบบ คงใช้ได้อยู่” แมนพูดไปหอบไป รถยนต์คันงามเข้าสู่การจราจรบนท้องถนน แมนขับเลนนอกสุด เหยียบคันแร่งแทบไม่แตะเบรก
“เบนซ์มึงนั่งได้แค่ 2 ที่นั่ง มันทำแบบนี้ไม่ได้” แมนพูดคล้ายพล่ามไปเรื่อย
น้ำแข็งไม่ได้สนใจว่าแมนพูดอะไรออกมาบ้าง ไม่ได้สนใจว่ารถเขาจะเป็นยังไง ไม่สงสัยว่าไอ้แมนออกมาเอารถตอนไหน ที่น้ำแข็งสนใจตอนนี้มีเพียงร่างเล็กอันสั่นเทาในอ้อมกอด….
เสื้อสีขาวตัวเดียวที่สปายสวมอยู่เลิกขึ้นมาจนแทบจะปิดอะไรไม่ได้แล้ว น้ำแข็งถอดเสื้อสูทตัวนอกคลุมท่อนล่างของสปายไว้
สปายเงยหน้ามองน้ำแข็ง … แววตาของสปายเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความสับสน น้ำใสๆเอ่อรื้นขอบตา….
“ไม่เป็นไรแล้วนะ…. เธอปลอดภัยแล้ว” น้ำแข็งโอบไหล่บาง ซุกร่างบอบบางไว้แนบอก มือข้างหนึ่งลูบเรือนผมของคนตัวเล็ก แนบริมฝีปากกับหน้าผากของคนในอ้อมกอด
“..มัน….มันพาผมหนี…” เสียงสปายสั่นเครือ ดังอู้อี้เล็ดลอดออกมา
น้ำแข็งเข้าใจว่าสปายคงหมายถึงพนักงานคนนั้นที่พาสปายหนีออกมา
“ไม่เป็นไรแล้วนะ…ไม่เป็นไรแล้ว…” น้ำแข็งโอบรัดร่างเล็กแน่น ร่างของสปายสั่นเทาขึ้นเรื่อยๆด้วยแรงสะอื้น
“พี่ไกรมาแล้ว” แมนพึมพำพลางมองกระจกหลัง เบนซ์คุ้นตาขับไล่ตามมาเรื่อยๆ…
น้ำแข็งแทบไม่ได้สนใจว่าแมนพูดอะไร ทำอะไร ตอนนี้เขาเป็นห่วงความรู้สึกสปายที่สุด… นึกถึงตอนพวกหื่นกามจับจ้องสปายบนเวที… ตอนที่พวกโสโครกพวกนั้นแตะต้องสปาย… ยิ่งคิดยิ่งเจ็บ ยิ่งนึกถึงยิ่งโมโห!
…สปายไม่ควรเจอเรื่องแบบนี้….สปายต้องไม่เจอเรื่องแบบนี้!
แค่นี้ก็มากเกินกว่าที่สปายจะรับไหวแล้ว!
น้ำแข็งฝังจมูกลงบนเรือนผมของร่างน้อยๆในอ้อมกอด
…ต่อจากนี้ เขาไม่ยอมให้สปายเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้อีกแล้ว! ไม่ยอมให้ดวงใจของเขาต้องเจ็บปวดอีกเด็ดขาด!
… จะปกป้องดูแลยิ่งกว่าชีวิต… จะทะนุถนอมให้มากที่สุด…
…จะรักให้มากเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะรักได้….
…พอสักทีกับเรื่องเลวร้าย…
ฉันจะดูแลเธอเอง…
ฉันสัญญา…
แค่ทำงานกลางคืน
[/i]
สวัสดีค่ะ.. /พับเพียบกราบ
หายไปนานมาก T T ยอมรับผิดแต่โดยดีค่ะ T T …
ขอโทษมากๆค่ะที่หายไปนานมากๆ T T ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆค่ะ แอมแบ่งเวลาไม่เป็นเอง T T
ในที่สุดก็ได้มาต่อแล้ว > < ทำไมแอมตื่นเต้นก็ไม่รู้ T T คิดถึงมาก…
แอมยังเชื่อในแรงใจและแรงทวงเสมอนะคะ > < ขอบคุณทุกคนมากๆค่ะ <3 ^ ^
เจอกันตอนต่อไปค่ะ ^^
