นิยายรักของขวัญ 7 ปี <หนุ่ม IT กับ DJ สุดหล่อ>
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: นิยายรักของขวัญ 7 ปี <หนุ่ม IT กับ DJ สุดหล่อ>  (อ่าน 598258 ครั้ง)

kiyomine

  • บุคคลทั่วไป
ป้อนส้ม 5555
เอาไปใช้มั่งดีกว่า (ดีกว่าอะไร?)
รออ่านอยู่นะคร้าบบบบ  o13

ออฟไลน์ A-ram 70

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 765
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
อิ่มบุญหรือยังคับ........ o13
วันนี้มารออ่านคับผม  :oni1: :oni1: :oni1:

ไปแระ :bye2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-05-2008 21:36:33 โดย A-ram 70 »

sarin

  • บุคคลทั่วไป

BABY_CHICK

  • บุคคลทั่วไป

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
บทที่สิบหก --- ออกค่าย


หลังจากที่ผมตกลงเลือกพี่นิค(อย่างเป็นทางการในใจแล้ว) ผมก็ทำตัวกับทุกคนเหมือนเดิมตามปกติ ไม่ได้ลดน้อยลงแต่ประการใด แต่สำหรับพี่นิคแล้วผมเพิ่มให้มากเป็นพิเศษเท่านั้น และดูเหมือนว่าพี่นิคก็พอจะรู้อยู่เป็นนัยๆ ช่วงระยะนี้ชีวิตของผมเป็นปกติสุขมากขึ้น ถ้ามันไม่ใช่ระยะเวลาสอบปลายภาคของเทอมหนึ่ง

“สวัสดีครับคุณพ่อ วันนี้เอสอบวันสุดท้ายแล้ว  เอขอโทรมาขอพรคุณพ่อครับ”ผมพูดโทรศัพท์ก่อนออกจากหอไปสอบวิชาสุดท้าย (ผมมีความเชื่อส่วนตัวของผมว่า ก่อนสอบทุกครั้งจะต้องโทรไปขอพรคุณพ่อคุณแม่  เพราะพรที่ได้จากคุณพ่อคุณแม่คือสิ่งที่วิเศษสุดแล้วสำหรับผม  ผมทำอย่างนี้ทุกทีตั้งแต่ม.1แล้ว)

“สอบวันสุดท้ายแล้วซินะ  พ่อรู้ว่าเอต้องทำได้  ทุกอย่างอยู่ที่ความตั้งใจ  ถ้าเอตั้งใจและพยายามทำมันก็จะสำเร็จ  เอต้องเป็นคนที่เข็มแข็งและอดทนนะ อนาคตของพ่อ คุณแม่และโอ๊ตก็อยู่ที่เอนะ”นั่นคือพรของคุณพ่อ

“ครับ”

“แล้วนี่จะกลับบ้านหรือเปล่า สอบเสร็จแล้ว”คุณพ่อถาม

“เอว่าจะไปค่ายที่ชัยภูมิก่อนห้าวัน แล้วถึงจะกลับครับ ฝากบอกคุณแม่ด้วย”ผมตอบ

“งั้นก็มาถึงวันที่ 12 พอดีเลยวันที่ 13 เป็นวันอาทิตย์เดี๋ยวจะพาไปเที่ยวด้วยกัน  เราไม่ได้ไปเที่ยวแบบครบสี่คนด้วยกันนานแล้ว ตั้งแต่เอไปอยู่มหาลัย”คุณพ่อบอก

“แต่คุณพ่อก็แอบพาคุณแม่ไปสวีทบ่อยๆทิ้งโอ๊ตให้อยู่บ้านคนเดียว ใช่ม้า”ผมแซว

“เจ้าโอ๊ตรายงานเหรอ พ่อชวนแล้วมันไม่ยอมไปเอง ทีโอ๊ตยังแอบไปเที่ยวกับสาวๆได้เลย  เอ อยู่นั้นก็เที่ยวบ่อยละซิ  อาอี๊บอกเอไม่ค่อยไปบ้านอาอี๊เลย”คุณพ่อแก้ตัวแล้วถามคืน

 “ไม่เลย ตั้งแต่มาอยู่ในมอยังไม่ได้ไปไหนเลย มีแต่เรียนกับทำงานส่งอย่างเดียว”ผมรีบบอกคุณพ่อ

“รีบปฏิเสธเชียว มีพิรุธ สงสัยจะมีแฟนแล้วแน่ๆเลย พามาให้พ่อดูตัวบ้างนะ”คุณพ่อแซวเล่น แต่ผมรู้สึกเหมือนอะไรมันมาทำให้ผมเสียวสันหลัววาบ

“ยังไม่มีๆ ครับ  เอจะไปชอบใครได้ แล้วอีกอย่างจะมีใครมาชอบเอ ยังไม่มีครับ”ผมบอกออกไปอย่างไม่เต็มปาดมากนัก

“เรื่องอย่างนี้มันเป็นธรรมดาของวัยรุ่น พ่อเข้าใจ ชายหนุ่มเจอหญิงสาวมันก็มีบ้างแหละ แต่พ่อไม่อยากให้เอ จริงจังอะไรมากนัก เพราะชีวิตเอยังต้องเจออะไรอีกเยอะ”คุณพ่อบอก ใจผมแป้วๆยังไงชอบกล (ชายกับหญิง แล้วถ้าชายกับชายล่ะ)

“ครับๆ งั้นแค่นี้นะครับ เอไปสอบแล้วสวัสดีครับ”ผมรีบตัดบทเอาดื้อๆ ก็ที่จะมีเรื่องให้คิดมากก่อนเข้าห้องสอบ

และแล้วการสอบวิชาสุดท้ายก็จบลง  ผมกับเพื่อนๆพากันไปหาอะไรกินกันก่อนที่จะเข้าไปประชุมเตรียมค่ายที่องค์การนักศึกษา  เหมือนเป็นทำเนียมประเพณีปฏิบัติของชมรมต่างๆที่พอหลังจากสอบเสร็จในภาคเรียนที่หนึ่งจะมีระยะปิดเทอมสั้นๆประมาณเดือนกว่าๆ ก็มักจะพากันออกค่ายตามแต่และแนวของรูปแบบชมรมนั้นๆ อย่างเช่น ชมรมอาสาพัฒนา ก็จะพาสมาชิกไปออกค่ายตามโรงเรียนหรือหมู่บ้านที่ชนบทเอามากๆ ไปสร้างอาคารเรียน ศาลาที่พักกลางหมู่บ้านหรืออะไรทำนองนี้  ถ้าเป็นชมรมพุทธศาสน์ก็จะพากันไปปฏิบัติธรรมที่วัด  ชมรมอนุรักษ์ธรรมชาติก็จะพากันไปเดินป่า  ไปแต่ละทีก็ขึ้นอยู่กับจำนวนคนและงบประมาณที่ได้ ส่วนใหญ่จะเป็น 3วัน 5วัน เป็นอาทิตย์เลยก็มี

ค่ายขององค์การนักศึกษาที่เราจะไปกันในครั้งนี้เป็นค่าย 5วัน เรียกว่าเป็นค่ายประยุกต์ก็ว่าได้ เพราะเปิดรับทุกคนที่อยากไปและงานที่จะลงไปทำกันที่ค่ายก็หลากหลาย ไม่ว่าจะไปสร้างห้องน้ำให้กับวัด ซ่อมโรงอาหารให้โรงเรียน สอนหนังสือเด็กนักเรียน ตรวจสุขภาพชาวบ้าน ตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยง ให้ความรู้และแนะนำเรื่องพืชผลทางการเกษตร ซ่อมดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้า ฯลฯ  

ชาวค่ายทุกคนจะมีหน้าที่ให้ทำโดยเลือกตามความสนใจและความถนัดในงานนั้นๆ การไปอยู่คราวนี้พวกเราจะไปพักกันที่โรงเรียนซึ่งอยู่ติดกับวัด อยู่ในจังหวัดชัยภูมิ ห่างออกจากตัวอำเภอไปไกลพอสมควร เรื่องอาหารการกินก็ต้องทำกินอยู่กันเอง อาจจะมีชาวบ้านเอามาเลี้ยงสมทบบ้างเป็นบางมื้อ

ผมกับเพื่อนทั้งจากกลุ่มโรงเรียนเก่าและเพื่อนกลุ่มในคณะ ที่เคยลงสมัครองค์การเอาไว้เลยตัดสินใจว่าจะไปด้วยกันทั้งหมดเลย ผมก็ชวนหนึ่งไปด้วย  ตอนแรกหนึ่งทำท่าไม่อยากไป ผมบอกว่าลองดูไปหาประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆ น่าสนุกดีออก หนึ่งเลยยอมไป

...

“แหวว ช่วยเช็คให้พี่หน่อยว่า พวกชมรมต่างๆตอบรับมากี่ชมรม”ผมได้ยินเสียงพี่นิคถามพี่แหววขณะที่พวกผมกำลังเดินเข้าไปในองค์การ เห็นพวกพี่ๆกำลังยุ่งเลยยกมือไหว้แบบเงียบๆ

“ค่ะๆ อ้าวพวกน้องๆ มาพอดีเลย มาช่วยกันจัดเอกสารเข้าร่วมประชุมหน่อยเร็ว”พี่แหววทักพร้อมส่งเอกสารตั้งใหญ่มาให้พวกเราช่วยเรียงหน้าแล้วเย็บเล่ม ผมแอบมองหน้าพี่นิคนิดหนึ่ง ก่อนที่พี่นิคจะหันมามองผมแล้วยิ้มให้

“เอ เดี๋ยวเรามาช่วยพี่เอารายชื่อนี่ลงในคอมที่ห้องประชุมเล็กให้หน่อย”พี่นิคบอกผม

“หนูช่วยอีกคนคะพี่”ทรายเสนอตัว

“ไม่เป็นไรคนเดียวก็พอ”พี่นิคบอกแล้วเดินเข้าไปในห้องประชุมเล็ก  ผมเดินตามไป  หนึ่งกับอ๊อฟหันมามองผมแล้วยิ้มให้

“พี่รายชื่อคนไปค่ายนี่ใช่ไหมครับ”ผมถามพร้อมนั่งลงหน้าคอมแล้วพิมพ์อย่างรวดเร็ว

“อืม... เอ พี่ดีใจนะที่เรากับพวกเพื่อนๆเราไปค่ายขององค์การ”พิ่นิคพูดขึ้นหลังจากผมพิมพ์ไปได้ซักพัก

“ครับ ก็อยากลองหาประสบการณ์ดูอ่ะครับ”ผมตอบ แล้วพี่นิคที่นั่งอยู่ก็ลุกเดินเข้ามายืนข้างๆผม

“เอ แต่ไปค่ายมันไม่ใช่สนุกอย่างเดียวนะ ไปครั้งนี้ค่อนข้างกินอยู่ลำบากและงานที่ไปทำก็หนัก
 เอจะไหวหรือเปล่า”พี่นิคพูดแล้วมองจ้องหน้าผม (อย่าจ้องดิ่ฟ่ะ เขินนะโว้ย พิมพ์ไม่ออกเลย)

“ได้ดิ่พี่ เห็นผมเป็นคุณหนูไปได้ แค่นี้เอง  เสร็จแล้วพี่ปริ๊นเลยป่าว”ผมบอกแล้วกด SAVE งาน

“เอ พี่เป็นห่วงเอนะครับ ไม่อยากให้เอลำบาก”พี่นิคไม่พูดเปล่า เอามือมาลูบผมเหมือนกับทำกับเด็กๆ (จะมาไม้ไหนว่ะเนี่ยะ หลอกใช้งานป่าว)

“เออ  เพื่อนผมไปได้  ผมก็ไปได้ครับ  พี่ห่วงตัวเองเถอะ เป็นถึง ผอ.ค่าย เหนื่อยกว่าผมอีก งานตั้งแยะ”ผมบอกพร้อมก้มหน้าลงอาย  แล้วพี่นิคก็เอามือพี่เขามาจับมือผมยกออกจากแป้นพิมพ์

“นิ้วเอ ยาวเรียวสวยดี มือก็นุ่ม ไหนจะหอมหรือเปล่าน้า”พี่นิคพูดพร้อมยกมือผมจะขึ้นไปดม หัวใจผมพองโต เลือดสูบฉีดอย่างแรง

“เอ.....”เสียงอ๊อฟเรียกพร้อมเปิดประตูเข้ามา  พี่นิคที่กำลังจะหอมมือผมต้องรีบปล่อยมือผมอย่างเร็ว

“เอ ปริ๊นออกมาเลย เร็วๆด้วย ทำงานชักช้าจริงๆ”พี่นิคสั่งผมด้วยเสียงที่เข้ม (อะไรว่ะ เมื่อกี้ยังเสียงหวานๆอยู่เลย ปรับอารมณ์ไม่ทัน) แต่ผมก็รับคำแต่โดยดี “ครับ”

“เอ เสร็จยัง  ออกมานี่หน่อย”อ๊อฟบอกผมมองหน้าพี่นิคอย่างหลบสายตา  แล้วผมก็เดินตามมันออกไป

“มีอะไรอ๊อฟ”ผมถาม

“ที่หลังจะทำไรกันนะ ล็อคประตูหน่อยนะ จะได้ไม่เข้าไปขัดจังหวะ”อ๊อฟพูดประชดเล็กๆ

“ทำไรก็ทำงานอยู่”ผมอ้าง

“ทำงาน หรือจะทำอะไรกันในที่ทำงาน”อ๊อฟแซว

“มั่วแล้วๆ ว่าแต่มีอะไร”ผมถามแบบตัดบท

“นี่ๆ แกมาดูนี่ เห็นสองคนนั่นไหม นั่นไง นั่นแหละพี่คิมกับพี่ตี๋แหละ เห็นว่าจะไปค่ายนี้ด้วยนะ”อ๊อฟบอก ผมมองตาม เห็นผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่เสื้อคณะวิดวะกำลังป้อนลูกชิ้นให้ผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่เสื้อกราวน์สั้นของคณะสัดแพทย์ เห็นแล้วดูน่ารักดี

“อือ  แล้วไหมอ่ะ”ผมถามอย่างไม่เข้าใจ

“อ้าว  แกนี่  ก็ถือโอกาสนี้ไปทำความรู้จักพี่เขา แล้วแกก็ค่อยๆแอบสืบเรื่องพี่หมอใสซื่อกับพี่นายกดีเจไง ว่าเขาเคยคบกันจริงไหม แล้วเลิกกันเพราะแกเป็นมือที่สามจริงป่าว”อ๊อฟอธิบาย

“ไร้สาระว่ะ”ผมบอก (แต่ในใจพี่เขาเคยคบกันจริงเหรอ  แล้วเราเป็นมือที่สามเหรอว่ะ)แล้วเดินขึ้นไปที่ห้องประชุมใหญ่ชั้นสอง

...

ที่ห้องประชุมใหญ่ชั้นสองมีคนประมาณแปดสิบกว่าคนได้ ส่วนใหญ่เป็นคนที่เคยสมัครองค์การเอาไว้ในงานวันเปิดโลกกิจกรรม มีบางส่วนที่มาจากสโมสรนักศึกษาของคณะต่างๆและที่มาเป็นตัวแทนของชมรมต่างๆก็มี (ก็มีพี่เก่งมาในนามชมรมถ่ายภาพ  พี่แป้งมาในนามชมรมเชียร์ พี่คิมมาในนามสโมสรสัดแพทย์  พี่ตี๋มาในนามชมรมฟันดาบ พี่ริชมาในนามสโมสรวิดวะ ส่วนพี่หมอทีพี่แหวว พี่ปอ พี่นิคเป็นคนมีตำแหน่งขององค์การอยู่แล้ว)

พี่นิคเข้ามากล่าวทักทายทุกคนในนาม ผอ.ค่าย แล้วชี้แจงวัตถุประสงค์ของการออกค่าย สถานที่ วันระยะเวลาที่จะไป สุดท้ายลงเอ่ยด้วยการวางกำหนดการในแต่ละวันและแบ่งบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบให้แต่ละคน  โดยแบ่งตามเนื้องานเป็นหลักและให้แต่ละฝ่ายมีหัวหน้าฝ่ายคอยดูแลอีกที
อย่างเช่นพี่หมอทีและพวกสายแพทย์ก็จะอยู่ฝ่ายสุขภาพ มีหน้าที่ตรวจสุขภาพและให้ความรู้เรื่องสุขภาพแก่พวกชาวบ้านในชุมชน  อย่างพวกที่มาจากชมรมกีฬาต่างๆก็จะมีหน้าที่จัดตารางการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างชาวค่ายกับชาวบ้าน  พวกที่มาจากศึกษาศาสตร์ก็จะมีหน้าที่สอนหนังสือเด็ก  พวกที่มาจากวิดวะก็จะสร้างห้องน้ำซ่อมโรงอาหาร  พวกคณะเกษตรก็จะลงพื้นที่ในไร่ในสวนให้ชาวบ้านอย่างนี้เป็นต้น  พอประชุมเสร็จก็เกือบๆหนึ่งทุ่ม พวกพี่เลยชวนพวกผมไปกินหมูกระทะที่อยู่แถวกังสดาล  พวกเราก็ยินดีอย่างยิ่ง(ของฟรีนี่ เจ้าภาพมื้อนี้ก็ไม่ใช่ใคร พี่ริชนั่นเอง)

พอไปถึงร้านหมูกระทะพวกเราก็ต่อโต๊ะกันยาวเลยเพราะไปกับยี่สิบกว่าคน ผมนั่งข้างหนึ่งอีกข้างก็เป็นอ๊อฟ มีพี่นิคนั่งหัวโต๊ะ ไล่ลงมาก็เป็นพี่ริช พี่ปอ พี่แหวว พี่แป้ง พี่เก่ง พี่หมอที พี่คิม พี่ตี๋ แล้วค่อยเป็นกลุ่มพวกเพื่อนของพวกผม

“น้องๆ ขอเบียร์สดสองเหยือก”พี่ริชตะโกนสั่ง แล้วหันมาถามทางพวกผมว่า “จะเอาด้วยป่าว”
พวกผู้หญิงปฏิเสธ  มีโจ้กับเอ็กซ์และไอ้ปอนด์พยักหน้า ผมกับหนึ่ง ต้าร์ บอย นั่งเฉยๆ พี่ริชเลยสั่งมาเพิ่มให้อีกเหยือก

“ไอ้พี่คนนี้มันเป็นใครว่ะ  โคตรซกมก สั่งของไม่เกรงใจคนเลี้ยงบ้างเลย”น้อยบ่นเบาๆแบบไม่ค่อยพอใจพี่ริช ผมหันไปมองกำลังจะบอกว่านี่แหละคนเลี้ยง แต่อ๊อฟมันก็ชวนผมไปตักอาหารก่อน

ระหว่างกินหมูกระทะผมก็แอบสังเกตว่าพี่ตี๋คอยเอาใจพี่คิมดีมากๆ  เดี๋ยวตักโน่นตักนี่ ป้อนนั่น เห็นแล้วน่าอิจฉา พี่ปอก็เอาใจพี่แหววดี ผมแอบมองพี่แป้ง พี่เก่ง พี่หมอที พี่นิค ต่างคนต่างกินแล้วก็คุยกันอย่างออกรสออกชาติเรื่องงานค่าย (ไม่เห็นมาเอาใจเราเลยว่ะ  หรือเขาจะคิดว่าเราหลายใจเลยทิ้งเราไปพร้อมๆกันเลย – ผมคิดในใจ) ผมสังเกตเห็นต้าร์เอาใจปูเป้  คอยชวนให้กินนั่นกินนี่ (มันคงเอาจริงซินะ  ปกติไอ้ต้าร์จะคุยกับใครที่ไหน) น้อยก็ดูหงุดหงิดพิลึกคอยมองแต่พี่ริชแล้วก็บ่นว่า กินแต่เหล้าแต่เบียร์ไม่เกรงใจคนที่เขาจะจ่ายเงินเลย (น้อยคงยังไม่รู้ว่าพี่ริชนี่แหละเจ้ามือ และบ้านพี่เขาก็รวยมากๆเลยด้วย)

ซักพักพี่ริชก็เดินไปเข้าห้องน้ำ น้อยเดินตามไปทันที  น้อยกลับมานั่งที่โต๊ะแล้วดูหน้าตาหายหงุดหงิด แต่พี่ริชยังไม่กลับ  อีกซักครู่ใหญ่ๆ พี่ริชก็เดินเข้ามาหาผมบอกว่าขอคุยอะไรด้วยหน่อย ผมเดินตามออกไปทันที

“อะไรนะครับพี่  ผมขอโทษแทนน้อยจริงๆนะครับ เพื่อนผมมันคงไม่รู้อ่ะครับ ก็ถ้าใครเห็นพี่ริชก็คงคิดว่าเป็นพวกแบบว่า...เกาะเพื่อนกินอ่ะครับ....”ผมรีบขอโทษทันทีหลังที่พี่ริชเล่าให้ฟังว่าพอเข้าห้องน้ำเสร็จเดินออกมาก็เจอน้อยยืนอยู่ น้อยเข้าไปต่อว่าพี่ริชต่างๆนานาเรื่องที่สั่งเหล้าเบียร์มาดื่มมากมาย ไม่มีความเกรงใจเห็นว่ามีคนเลี้ยงก็จะกินเอาๆ  พี่ริชบอกว่าตอนแรกโกรธมากถ้าไม่ใช่ผู้หญิงจะซัดปากซักสองสามที แต่พอน้อยพูดคำว่า “ยังเรียนอยู่แท้ๆ เงินก็ขอพ่อมาใช้ จนแล้วไม่เจียม”  ออกมาแล้วตบหน้าพี่เขาไปหนึ่งที พี่ริชก็อึ้งแล้วน้อยก็เดินหนีไปที่โต๊ะทันที

“ไม่เป็นไรๆ  พี่ชอบว่ะ  ตรงดี อย่างนี้น่ารัก  เราช่วยพี่ได้ไหม” พี่ริชถาม

“ห๊า....อะไรนะครับ”ผมงงกับพี่ริช

“หาอะไรว่ะ เราอย่าเพิ่งไปเปิดเผยกับน้อยนะว่าพี่เป็นยังไง ให้เขาคิดอย่างนี้แหละว่าพี่มันจน  พี่มันเกาะเพื่อนกิน  พี่มันดิบๆเถื่อนๆ เข้าใจ”พี่ริชกำชับผม

“ครับๆ”ผมรับปาก

“เอ่อ  แล้วเพื่อนเรามีใครที่รู้จักพี่บ้าง ไปบอกด้วยนะว่าห้ามบอกน้อย”พี่ริชย้ำ

“ก็มีหนึ่งที่รู้มั้งครับผมเคยเล่าให้ฟัง แต่คนอื่นๆก็คงคิดว่าพี่จนมาก พี่เกาะเพื่อนกินเหมือนน้อยมั้งครับ”ผมบอกออกไป

“อะไรว่ะ กูมันดูสถุนขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ”พี่นิคสบถ

“ก็ถ้าพี่ลองเปลี่ยนการแต่งตัว วางบุคลิกใหม่ ผมว่าพี่ก็โอแล้วครับ”ผมเสนอ

“ช่างมันเถอะ เราไปได้แล้ว อย่าลืมนะ นี่ถือเป็นการชดใช้ขวดเหล้าที่เราทิ้งของพี่ไป”พี่ริชย้ำ ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อก  ไม่คิดว่าพี่เขาจะจำได้อยู่

ผมเดินกลับมาที่โต๊ะ น้อยมองมาทางผม ผมทำเป็นไม่เห็นแล้วแกล้งหันไปพูดกับหนึ่งว่า พี่เขาเรียกไปถามเรื่องค่ายไม่มีอะไร  แล้วบนเวทีที่นักดนตรีกำลังเล่นเพลงอยู่ก็เงียบแล้วมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาว่า

“เพลงนี้ผมร้องให้กับคนที่ไปสั่งสอนผมหน้าห้องน้ำครับ”พี่ริชพูดแล้วดนตรีก็ขึ้น  ทุกคนในโต๊ะอึ้ง งงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พี่ปอจะไปลากตัวพี่ริชลงมาเพราะคิดว่าพี่ริชเมาจนไม่รู้เรื่อง แต่พี่นิคกับพี่แหววห้ามไว้  ผมแอบมองน้อยเห็นน้อยทำหน้าทั้งอายทั้งหงุดหงิดรำคาญไม่พอใจ

(เพลงที่พี่ริชร้องให้น้อย   http://www.imeem.com/hurty/music/aRK3E5Fy/ )
<object width="300" height="80"><param name="movie" value="http://media.imeem.com/m/CV0e8iwERQ"></param><param name="wmode" value="transparent"></param><embed src="http://media.imeem.com/m/CV0e8iwERQ" type="application/x-shockwave-flash" width="300" height="110" wmode="transparent"></embed></object>

...................รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง  รู้ว่าเหนื่อย ถ้าอยากได้ของที่อยู่สูง  ยังไงจะขอลองดูสักที

รู้ว่าเราแตกต่างกันเท่าไร  รู้ว่าเธออยู่ไกลอยู่สูงขนาดไหน
ใครๆ ก็รู้เป็นไปไม่ได้หรอก  แต่คำว่ารักมันสั่งให้ฉันต้องปีนขึ้นไป
ได้เกิดมาเจอเธอทั้งที  ไม่ว่ายังไงจะลองดีสักวัน
อยากรักก็ต้องเสี่ยง  ไม่อยากให้เธอเป็นเพียงภาพในความฝัน

ลำบากลำบนไม่สนใจ  ตะเกียกตะกายสักเพียงใด
ก็ดีกว่าปล่อยเธอไปจากฉัน  ตกหลุมรักจริงๆ เพราะรักจริงๆ  เธอคงไม่ว่ากัน
แม้ต้อยต่ำ แต่ยังมีหัวใจ  แม้ต้องเจ็บ แต่มันก็คุ้มก็สุขใจ
ไม่ผิดใช่ไหมที่ฉันไม่เจียมตัว
เมื่อคำว่ารักมันสั่งให้ฉันทำตามหัวใจ ...................

พี่ริชร้องเพลงไปก็มองมาที่โต๊ะ  (น้อยเอ๊ย  ตกถังข้าวสารไม่รู้ตัวซะแล้ว  เพลงที่พี่เขาร้องนะ  น้อยมันน่าจะร้องให้พี่เขามากกว่า ถ้ามันรู้สถานที่จริงของพี่ริชจะเป็นไงว่ะเนี่ยะ  ไม่อยากคิดเลย  พี่ริชนี่ก็พิลึกคน  อย่างพี่ริชก็ไม่น่าหาผู้หญิงยาก มาชอบน้อยได้ไงก็ไม่รู้ น้อยออกจะสวยทึกบึกบึนขนาดนั้น แปลกคนจริงๆ  --- ผมคิด)  พี่ริชร้องเพลงจบกลับมานั่งที่โต๊ะแอบมองมาทางน้อยทีหนึ่ง น้อยทำตาเขียวใส่ พวกเพื่อนพากันแซวพี่ริช เราพากันนั่งกินกันอีกซักพักก็กลับ

...

 

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
<<หนุ่ม IT กะ DJสุดหล่อ >>
«ตอบ #545 เมื่อ20-05-2008 21:38:38 »

                บทที่สิบหก --- ออกค่าย(ต่อ)

และแล้ววันออกค่ายก็มาถึง  เราเดินทางจากมหาวิทยาลัยตอนแปดโมงพี่นิค พี่ปอ พี่หมอทีเป็นตัวแทนชาวค่ายแวะไหว้เจ้าพ่อมอดินแดงเพื่อคุ้มครองให้พวกเราเดินทางอย่างปลอดภัยและไปสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับชุมชนได้สำเร็จตามเป้าหมาย ตลอดระยะเวลาสองชั่วโมงกว่าๆที่อยู่บนรถที่ทางมหาวิทยาลัยจัดให้ พวกเราเกือบๆแปดสิบคนก็พากันร้องเพลงของมหาวิทยาลัย เพลงชาวค่ายที่มีความหมายดีๆ พากันเล่นกิจกรรมสันทนากาบนรถอย่างสนุกสนานแล้วเราก็ถึงที่หมาย

สถานที่ที่เราจะใช้ตั้งค่ายเป็นโรงเรียนประถมศึกษาขนาดกลาง มีนักเรียนสองร้อยกว่าคน พอไปถึงเราก็เห็นทั้งเด็กนักเรียน คุณครู ชาวบ้านมาคอยต้อนรับ ดูอบอุ่นและเอาใจใส่ดี  พวกเราก็ทำการแนะนำตัว  ผู้ใหญ่บ้านและครูใหญ่ก็แนะนำสถานที่ข้อควรรู้ต่างๆ  ดูนักเรียนและชาวบ้านจะตื่นเต้นเป็นพิเศษที่นานๆจะมีนักศึกษาลงมาในชุมชนอย่างนี้

พอจัดทุกอย่างเข้าที่เข้าทาง พวกเราก็เริ่มดำเนินงานตามแผนงานของแต่ละฝ่ายทันที ผมอยู่ฝ่ายประสานงานกับอ๊อฟ ทรายโดยมีพี่แหววเป็นหัวหน้าฝ่าย  ตอนแรกนึกว่างานจะง่ายๆที่ไหนได้ ต้องคอยวิ่งประสานกับทุกฝ่าย ประสานกับโรงเรียน ชาวบ้านชุมชน ใช้ทั้งหัวใช้ทั้งแรงเลย เหนื่อยจริงๆแต่ก็สนุก  เป็นประสบการณ์ใหม่ๆที่หาไม่ได้ในห้องเรียนสี่เหลี่ยม  ชาวบ้านที่นี่ดูแลเราเหมือนเป็นลูกเป็นหลานเลย  ถึงแม้ว่าฐานะเขาจะค่อนข้างจนแต่ไม่จนน้ำใจ  ที่บ้านมีกับข้าวกับปลาอะไรก็จะแบ่งมาให้พวกเราที่ค่าย  เอาเสื้อ มุ้ง หมอน ผ้าห่มมาให้ (คิดถึงตอนนั้นแล้วขนลุกเลย) ชาวบ้านให้ความร่วมมือดีมากเกินกว่าที่พวกเราประเมินกับไว้ ทำงานต่างๆไปได้เร็วและไว  แต่ละคืนหลังจากทำกิจกรรมต่างๆเสร็จแล้ว ก่อนนอนเราจะมานั่งประชุมกันเพื่อวางแผนของวันต่อไป กว่าจะประชุมเสร็จก็ตีหนึ่ง ตีสอง ตื่นอีกทีก็ตีห้าครึ่ง

ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ผมกับพี่นิค พี่หมอที พี่เก่ง พี่แป้ง ไม่ค่อยได้เจอกันเพราะอยู่คนละฝ่าย จะเจอก็ตอนทานข้าวหรือไม่ก็ตอนประชุมก่อนนอน ผ่านไปสามวันทุกคนก็ดูเริ่มอ่อนแรงกันเพราะว่าทำงานภารกิจแต่ละอย่างหนักๆกันทั้งนั้นแถมยังนอนดึกตื่นเช้าอีก แต่ไม่มีใครท้อเลยเพราะกำลังใจที่มีให้กัน รอยยิ้มของเด็กนักเรียน ความร่วมมือของชาวบ้านที่มีให้มามันทำให้ความเหนื่อยเหล่านั้นหายไปเป็นปลิดทิ้ง

“ไง ไหวป่ะ บอกแล้วว่าเหนื่อยลำบาก”พี่นิคเดินเข้ามาทักผมหลังจากทานข้าวกลางวันเสร็จ ผมมานั่งทอดอารมณ์ที่ต้นไม้ใหญ่หลังโรงเรียน

“อ้าว พี่นิคนึกว่าใคร ไม่เหนื่อยหรอกครับ  ถึงเห็นผมเห็นทุกคนช่วยกันผมก็หายเหนื่อยแล้ว  พี่ล่ะเป็นถึงผอ.ค่าย ยุ่งกว่าพวกผมอีก คงเหนื่อยมากซินะครับ”ผมบอกพร้อมยิ้มให้

“พี่ก็เหมือนเอแหละ เห็นทุกคนช่วยกันก็หายเหนื่อยแล้ว อีกอย่างรู้ว่าเอไม่เหนื่อยพี่ก็ยิ่งไม่เหนื่อยเลย”พี่นิคพูดแล้วเดินเข้ามาใกล้ผม ยื่นหน้ามาใกล้ๆผม แล้วก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังทำให้ผมกับพี่นิคหลบไปหลังต้นไม้

“พอแล้วๆ ตี๋เอาคิมลงนะ เล่นขี่ม้าส่งเมืองกับเด็กๆอยู่ตรงนั้น วิ่งมาที่นี่ทำไมล่ะ”เสียงพี่คิมที่ขี่หลังพี่ตี๋ดังขึ้น

“ก็ตี๋เหนื่อยแล้วอ่ะ ตี๋อยากได้กำลังใจจากคิม”พี่ตี๋เอาพี่คิมลงจากหลัง แล้วก็คว้าตัวพี่คิมมากอดหอมที่แก้มเบาๆหนึ่งทีแล้วปล่อยตัวพี่คิมพร้อมบอกว่า “ชื่นใจที่สุดเลย กำลังใจเต็มร้อย” ผมกับพี่นิคดูพี่ตี๋กับพี่คิมแล้วก็หันหน้ามามองกัน ต่างคนต่างเขินอายใส่กัน หลบหน้ากัน

“บ้า เดี๋ยวเด็กๆก็มาเห็นหรอก อย่าทำแบบนี้อีกนะ”พี่คิมบอก

“ไม่มีใครเห็นหรอก นี่มันหลังโรงเรียนนะ”พี่ตี๋บอกพร้อมทำท่าจะขอหอมอีกที

“อึ่ม !” พี่นิคแกล้งกระแอมขึ้นดังๆแล้วเดินออกมาจากหลังต้นไม้ ผมเดินตามออกมา

“นิค”พี่คิมเรียก  “พี่นิค”พี่ตี๋เรียก แล้วมองมาทางผมกับพี่นิค

“พอดีมาเดินเล่นแถวนี้หน่อย กำลังจะไปดูที่เขาซ่อมโรงอาหารนะ”พี่นิคบอก

“อ๋อ” พี่คิมพูดพร้อมพยักหน้าน้อยๆ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่างกับพี่ตี๋ที่ดูอายๆ

“พี่คิม กับตี๋ไปดูด้วยกันไหม”พี่นิคชวน

“นิคไปเถอะ เดี๋ยวพี่ต้องไปดูวัวให้ชาวบ้านอีกสองสามบ้านนะ”พี่คิมตอบ (พี่คิมเป็นหัวหน้าฝ่ายในการให้ความรู้เรื่องสัตว์ของค่ายนี้เพราะพี่แกเรียนสัตวแพทย์)

“ผมไปกับพี่ดีกว่าครับ ผมว่างตอนเย็นถึงมีแข่งเตะบอลกับชาวบ้าน”พี่ตี๋บอก  พี่นิคก็เดินจากไปพร้อมกับพี่ตี๋ ผมกำลังจะเดินตามเห็นพี่คิมเดินแยกไปอีกทาง  (แกก็ถามพี่คิมซิ เรื่องพี่หมอใสซื้อกับพี่นายกดีเจน่ะ เสียงของอ๊อฟดังขึ้นมาในหัวผม) ผมหันกลับไปกำลังตัดสินใจอะไรบางอย่างแล้วก็

“พี่คิมครับ  พี่คิม”ผมเดินกลับมาแล้วเรียกพี่คิม  พี่คิมหันมามองแล้วยิ้มให้ผมนิดหนึ่งเป็นเหมือนยิ้มเพชฌฆาต

“อะไรเหรอ”พี่คิมถามขึ้น

“คือ  พี่ว่างคุยกับผมไหมครับ ผมอยากคุยกับพี่สิบนาทีก็ได้ครับ”ผมบอกอย่างกล้าๆกลัวๆ

“ได้ซิ”แล้วพี่คิมกับผมก็เดินกลับมาตรงต้นไม้ใหญ่ที่เดิม

“พี่คิม เหนื่อยไหมครับ”ผมทักไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดี

“ก็ไม่เหนื่อยนะ”พี่คิมตอบ

“พี่คิมกับพี่ตี๋น่ารักดีนะครับ”ผมชวนคุยต่อ (ในใจตอนนี้จะเข้าเรื่องยังไงดีว่ะ  คิดไม่ออก  ไม่น่าเรียกพี่เขามาคุยเลย)

“ก็ธรรมดา”พี่คิมตอบใบหน้าเรียบเฉย

..........เงียบ..............

“เราชื่อเอ ใช่ไหม”พี่คิมถามผม

“ใช่ครับ ผมชื่อเอครับ”ผมตอบ

“มีอะไรอีกไหม ถ้าไม่มีพี่ขอตัวก่อน”พี่คิมบอก

“คือ....คื..อ....ไม่มีแล้วครับ”ผมตัดสินใจบอกไป

พี่คิมหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนพูดว่า “เรานี่ไม่เด็ดขาดเลยนะ พี่ว่าสิ่งที่พี่รู้มากับสิ่งที่พี่สงสัยคงไม่ใช่แล้ว”

ผมงงกับคำพูดของพี่คิม “อะไรนะครับ”

“ก็เขาพูดกันว่า คนที่ชื่อเอ เป็นมือที่สามระหว่างไอ้หมอเพื่อนพี่กับนิค”พี่คิมเปิดฉาก ผมใจหายวาบหล่นไปที่ตาตุ่ม

“คือ...คื...อ...ผม...”ผมเป้นคนติดอ่างทันที

“แต่พี่ว่าไม่ใช่หรอก ดูแล้วอย่างเราเนี๊ยะจะไปมีพิษสงอะไรกับใครได้ ใช่ม่ะ”พี่คิมพูด

“ค..ครั..บ”ผมบอกออกมาเบาๆ

“ไม่มีอะไรหรอก คิดมากน่า  แค่เสียงลือ”พี่คิมบอกผมพร้อมเอามือมาจับที่ไหล่ผม  ทำให้ผมคลายความกังวลไปได้เยอะ

“ที่พี่บอกว่าพี่หมอทีเพื่อนพี่กับพี่นิค.....เอ่อ....เคย...เอ่..อ...คบกันเหรอครับ”ผมถามออกไปอย่างใจตุ้มๆต่อมๆ

“อืม.......รักกันมากเลยแหละ  น้อยคนนะที่จะรู้  เพราะเขาทั้งสองคนอยู่ในสถานะที่ไม่สามารถเปิดเผยบอกใครได้ คนหนึ่งนักเรียนแพทย์ว่าที่คุณหมอ  อีกคนเด็กกิจกรรมเป็นถึงนายกองค์การนักศึกษาแถมยังเป็นดีเจอีก พูดไปแล้วน่าสงสารสองคนนั้นนะ  ตอนแรกๆไอ้หมอมันก็รับตัวเองไม่ได้ มันมาเสียเงินเลี้ยงข้าวพี่อยู่ตั้งหลายมื้อ กว่ามันจะยอมรับในสิ่งที่มันเป็นและความรักที่เกิดขึ้นได้ แต่ก็ไม่รู้เพราะอะไรสองคนนี้ถึงดูเหินห่างๆกันพิกล”พี่คิมพูดเสียงเศร้าๆมองออกไปทางต้นไม้ไม่ได้มองหน้าผม  ผมฟังที่พี่คิมพูดเหมือนโดนฟ้าผ่าลงมาอย่างแรง  ใจหวิวๆบอกไม่ถูก แรงที่ยืนอยู่แทบจะไม่มี  ในหัวมีคำถามผุดขึ้นมามากมาย “เขาไปคบกันตอนไหน  คบกันยังไง  แล้วมีใครรู้บ้าง  ทำไมต้องเลิกกัน ฯลฯ” แต่ผมถามออกมาไม่ได้เหมือนมีอะไรมาอุดอยู่ตรงลำคอ

“เราอย่าเอาไปเล่าให้ใครฟังนะ  พี่ขอตัวก่อนแล้วกัน ชาวบ้านจะคอย”พี่คิมบอกแล้วเดินไป ปล่อยให้ผมยืนอึ้งพูดอะไรไม่ออก  ทำอะไรไม่ถูก  ผมปล่อยให้ตัวเองเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้ตัว

“เอๆ เอทางนี้”เสียงไอ้อ๊อฟตะโกนเรียกผม แล้วผมก็เดินไปหาอ๊อฟกับพรรคพวกอีกหลายคนที่กำลังนั่งทำพานบายศรีกับชาวบ้าน เพราะพรุ่งนี้ก่อนเดินทางกลับปิดค่ายจะมีพิธีบายศรีสู่ขวัญให้กับพวกนักศึกษา ซึ่งชาวบ้านเขาจะจัดให้เป็นประเพณีของเขา

“เดินเป็นอะไรหรือเปล่า”หนึ่งถามผม  ผมส่ายหน้าช้าๆ(ในใจผมคิด เขาชอบกันจริงๆเหรอ  เขาเป็นจริงๆเหรอ  พี่หมอทีกับพี่นิคเนี่ยะนะ  เป็นไปได้ไง) ผมนั่งลงกับกลุ่มพวกนี้

ติ๊ด........ติ๊ด............เสียงโทรศัพท์ผมดังขึ้น

“สวัสดีครับคุณพ่อ”ผมรับสาย

“เอ คุณพ่อวางโปรแกรมแล้ว เราจะไปนอนที่เกาะล้านกัน สองคืน  ห้ามเบี้ยวนะ  เสร็จค่ายพรุ่งนี้แล้วกลับชลเลยใช่ไหม”คุณพ่อถาม

“ครับพรุ่งนี้ปิดค่ายตอนบ่าย ถึงขอนแก่นก็เย็นๆ ก็จะแวะไปที่บ้านอาอี๊ก่อนค่อยไปขึ้นเครื่องอ่ะครับ”ผมบอก

“อืม แล้วพ่อจะไปคอยรับ  เอเป็นอะไรหรือเปล่า ฟังดูเสียงไม่ดีเลย”คุณพ่อถาม

“ก็เหนื่อยๆนิดหน่อยครับ ไม่เป็นไร”ผมบอกออกไป (ที่จริงมันเหนื่อยใจมากกว่า)

“เหนื่อยก็ต้องเข้มแข็งไว้นะลูก  เพราะเราเป็นคนเลือกแล้วว่าจะทำ  การที่คนเราจะเข็มแข็งได้  เราก็ต้องอดทน  เอจำได้ไหมที่คุณพ่อบอกว่าอดทนหมายถึงอะไร”คุณพ่อถาม

“ได้ครับ อดคือไม่ได้ในสิ่งที่เราอยากได้  ทนคือได้ในสิ่งที่เราไม่อยากได้  เราเลยต้องมีทั้งอดทั้งทน  รวมกันเป็นอดทนเพื่อเป็นคนที่เข้มแข็ง”ผมตอบประโยคที่คุณพ่อมักสอนผมเป็นประจำ

“ดีแล้ว  พ่อโทรมาบอกแค่นี้แหละ  โชคดีนะลูก”คุณพ่อบอก

“ครับ สวัสดีครับ ฝากหวัดดีคุณแม่ด้วยนะครับ”ผมบอกแล้ววางสาย แล้วไปหาปลั๊กไฟเพื่อชาร์ตแบต

เราต้องอดทน แต่เราต้องอดต้องทนไปถึงเหมือนไหร่ เมื่อไหร่ที่เท่าเข้มแข็งพอก็เมื่อนั้น  ผมนั่งทำบายศรี(ดูซะมากกว่า)จนเย็น แล้วชาวค่ายก็ทานข้าวเย็นร่วมกันกับชาวบ้านและเด็กนักเรียนเพราะคืนนี้มีการแสดงรอบกองไฟทุกคนมีรอยยิ้มเสียงหัวเราะ  พี่ตี๋นั่งข้างๆพี่คิมเอาอกเอาใจกันพี่ตี๋ถอดเสื้อแขนยาวของตัวเองจะใส่ให้พี่คิมเพราะรอบกองไฟนั่งกลางแจ้งอากาศเริ่มหนาวและน้ำค้างเริ่มลง พี่คิมไม่ใส่แต่เอามาผึ่งออกแล้วคลุมตัวเองกับพี่ตี๋เหมือนใช้แทนผ้าห่ม(อิจฉาจังโว้ย)  ต้าร์ก็คอยแอบถ่ายรูปปูเป้ทำให้ปูเป้ยิ้มขวยเขินเอียงอาย  พี่ริชก็พยายามหาเรื่องแหย่น้อยตลอด ทำเป้นเดินไปนั่งใกล้บ้าง  เดินผ่านบ้าง น้อยก็ฉุนๆ  พี่นิค พี่หมอที พี่ปอ พี่แหววนั่งคุยกับลุงผู้ใหญ่บ้านและครูใหญ่  พี่แป้งก็นั่งเล่นกับเด็กนักเรียน  พี่เก่งก็ถ่ายรูปพวกเด็กๆและชาวบ้านอย่างมีความสุข  คนอื่นๆก็ดูการแสดงรอบกองไฟไปหัวเราะไปยิ้มไป มองดูใครเขาก็มีความสุขแต่เราทำไมมันใจคอไม่ดีเลย  เป็นกังวลๆยังไงก็ไม่รู้  หาสาเหตุไม่เจอ  เหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย

พอเสร็จจากรอบกองไฟ เราก็ประชุมกันต่อถึงพิธีปิดค่ายในวันพรุ่งนี้ กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปตีสอง  ผมเดินจะไปนอน ก็เดินไปหยิบโทรศัพท์ที่ชาร์ตแบตไว้ตั้งแต่ตอนกลางวันออกมาเพื่อตั้งปลุก  ผมกดมือถือดูมีสายไม่ได้รับ ห้าสาย เป็นเบอร์คุณแม่สองสาย กับเบอร์โอ๊ตสามสาย  ผมว่าจะโทรกลับแต่มันตีสองแล้ว ไว้พรุ่งนี้แล้วกัน สงสัยคงโทรมาเรื่องที่เราจะกลับชลบุรีมั้ง  แล้วผมก็เข้านอน

..............................................................................

เสียงมือถือที่ผมตั้งปลุกดังขึ้นตอนตีห้าครึ่ง  ผมเลยไปปลุกหนึ่งกับอ๊อฟและพวกที่นอนข้างๆกันให้ตื่น  พวกเราพากันงัวเงียตื่นขึ้นมา ทำภารกิจส่วนตัว(แค่ล้างหน้าปรงฟันยังไม่อาบน้ำ เพราะยังหนาวจะพากันอาบตอนสายๆ)แล้วก็ลงไปช่วยจัดสถานที่ใช้สำหรับพิธีปิด  ตอนนี้หลายคนเริ่มตื่นมาช่วยกันแล้ว  พี่นิคเดินตรวจงานแต่เช้า  โดยมีพี่ปอกับพี่หมอทีเดินตาม  พี่แหววกับพวกผู้หญิงพากันจัดดอกไม้  พวกผู้ชายที่เหลือก็จัดแจงยกโต๊ะ เก้าอี้ชุดรับแขก  พี่หมอทีนัดแนะความพร้อม  ผมมองออกไปด้านนอกพระอาทิตย์เริ่มจะขึ้นแล้ว  กำลังจะหกโมงเช้า  ผมช่วยเพื่อนจัดโซฟาไว้ต้อนรับแขกผู้ใหญ่ที่จะมาร่วมในวันนี้  แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น

“ว่าไง โอ๊ต  ตื่นเช้าเป็นกับเขาเหมือนกันเหรอ”ผมทักเจ้าน้องชายตัวดีของผม

“พี่เอ”เสียงโอ๊ตตอบกลับมา

“จะฝากซื้ออะไรก็บอกมา จะกลับชลวันนี้แหละ  เอาหมูหยองกุนเชียงแล้วก็ถั่วกระจกใช่ม่ะ  รู้หรอกน้าว่าของโปรด ไม่ลืม”ผมบอก

“พี่เอ  ...  พี่เอสอบเสร็จแล้วใช่ไหม”โอ๊ตถาม

“อืม...ตอนนี้อยู่ค่ายที่ชัยภูมิ  ทำไม”ผมบอก

“พี่เอ.......พี่เอ.......ทำใจดีๆ....นะ”เสียงโอ๊ตบอกกลับมาเบาๆ

+++ จบบทที่สิบหก +++


*** ข้อคิดคำคมประจำบท ***
-   จนแล้วไม่เจียม
-   เป็นประสบการณ์ใหม่ๆที่หาไม่ได้ในห้องเรียนสี่เหลี่ยม 
-   เหนื่อยก็ต้องเข้มแข็งไว้นะลูก  เพราะเราเป็นคนเลือกแล้วว่าจะทำ  การที่คนเราจะเข็มแข็งได้  เราก็ต้องอดทน
-   อดคือไม่ได้ในสิ่งที่เราอยากได้  ทนคือได้ในสิ่งที่เราไม่อยากได้  เราเลยต้องมีทั้งอดทั้งทน  รวมกันเป็นอดทนเพื่อเป็นคนที่เข้มแข็ง

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
Re: <<หนุ่ม IT กะ DJสุดหล่อ >>
«ตอบ #546 เมื่อ20-05-2008 21:42:53 »

มาแล้ว  มาแล้ว

แวะ มาจิ้ม ก่อน

ไปอ่าน ละ

เด๋ว มาเม้น ให้นะ


 :bye2: :L2: :bye2:

ออฟไลน์ A-ram 70

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 765
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
ทุกอย่างกำลังไปด้วยดี.....
แต่...แต่...แต่ .....ทำไมต้องมีเรื่องให้ปวดหัวด้วย :serius2:

.....ตอนหน้าคงไม่เศร้า ใช่ป่ะ :o12: :o12:



แก้ว

  • บุคคลทั่วไป
ทำไมตัดตอนอย่างนี้ล่ะ  o12


ขออย่าให้เกิดเรื่องไม่ดีเลย ใจยิ่งไม่ดีอยู่  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
“เอ ปริ๊นออกมาเลย เร็วๆด้วย ทำงานชักช้าจริงๆ”พี่นิคสั่งผมด้วยเสียงที่เข้ม (อะไรว่ะ เมื่อกี้ยังเสียงหวานๆอยู่เลย ปรับอารมณ์ไม่ทัน) แต่ผมก็รับคำแต่โดยดี “ครับ” ---> ขัดใจอะดิ มีคนมาขัดจังหวะ


 :m1:


“อะไรว่ะ กูมันดูสถุนขนาดนั้นเลยเหรอว่ะ”พี่นิคสบถ --->  พิมพ์ ผิดแล้วค่ะพี่เอ ..สงสัยชื่อมันฝังใจ


 :m13:



ถึงแม้ว่าฐานะเขาจะค่อนข้างจนแต่ไม่จนน้ำใจ  --->  คำพูดนี้โดนอะ   :mc4:



มีเรื่องจาบอกพี่เอเรื่องนึง :m23:




ตอนนี้ ค้างงงงงงงงงงงงง     :serius2:

อย่าง แรง ทำกันด้ายน้า   :m15:


รอตอนต่อ ไปนะค่ะ




 :bye2: :L2: :bye2:




CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kdds

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1471
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
ขอพรแม่ก่อนไปสอบเหมือนกันเเถมต้องให้ลูบหัวด้วย (นึกว่าไม่ค่อยมีคนทำ) เพื่อนชอบบอกว่าเราเล่นไสยศาสตร์ทุกที
ชอบพี่ริช อิ อิ อิ :o8:

Electrolyte

  • บุคคลทั่วไป
นายเอเกิดอะไรขึ้นอ่ะ. :serius2:..............รีบๆๆมาต่อนะเร็วๆๆๆเราเป็นห่วง o12.....นายเอคุงคับ

uME_HeRo

  • บุคคลทั่วไป
นั่งรอน้องเอน่ะเนี่ย  ว่าแต่อย่าให้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเลย
รีบมาต่อด่วน  ค้างอย่างแรง

ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
 :o ช็อคมหาศาล คนที่บ้านโทรมาพูดแบบนี้คงได้หัวใจวายก่อนฟังรู้เรื่องเป็นแน่
 
กรุณารีบมาชี้แจ้งด่วน ตัดตอนแบบนี้ไม่เท่อ่ะ  คนอ่านหัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มแล้ว

ขออย่าให้มีอะไรรุนแรงเลย สาธุ

ออฟไลน์ Otaku

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 792
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +314/-1
 :o :o  ง่ะ ทำไมตัดตอนกันอย่างนี้เนี่ย  :serius2:

BABY_CHICK

  • บุคคลทั่วไป
 :m13:ค้าง อย่างแรง แต่วันนี้ ของเอยาวมากนะ ปวดดาเลย ฝันดีครับ :L2:

ออฟไลน์ cassper_W

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2052
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-1
โหยยยยยยย   ค้างมากมายยยย  อ่ะ เอจ๋า

เกิดอารายขึ้นนนนน     :o

พรุ่งนี้จามาตามอ่าน :o8:

ออฟไลน์ Joobperman

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 648
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
เรื่องของพี่นิคกะพี่หมอที...อดีตก็คืออดีต..ใช่มั้ยน้องเอ..  :a11:
ปัจจุบันสำคัญกว่านะ...พี่นิคกะน้องเอก็หวาน ๆ น่ารัก โรแมนติกอยู่เสมอ
พี่ยังอ่านไป..ยิ้มไปเลยน้า...ต้องตามอ่านทุกวัน  :m1:
น้องเอจ๋า...น้องจบแบบนี้ทำให้พี่เม้นท์ไม่ออกเลยนะ...  :sad2:
รบกวนพรุ่งนี้ช่วยมาต่อเร็ว ๆ นะจ๊ะ...
ป.ล.
รูปใหม่น้องเอ...ภาพนี้น่ารัก..ดูหน้าเต็มอิ่มดีจริง  
      :L1: :กอด1:

meawmeaw

  • บุคคลทั่วไป

Estel

  • บุคคลทั่วไป
โหพี่เอคร๊าบ ค้างอย่างแรงอ่ะ

มาต่อนะครับผม

รักและเป็นห่วง จากน้องสะใภ้ หุหุ    :m13:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






paulla

  • บุคคลทั่วไป
กลับมาต่อเร็ว ๆ นะครับ รออยู่.....

ออฟไลน์ สมุนไพร

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1581
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-3
 :o :o :o

เกิดไรขึ้น...พ่อเป็นไรรึป่าว??

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
 :m4:พี่ริชจะมีแฟนแล้ว ชอบๆ น่ารักทุกคู่เลย :m4:



 :เฮ้อ:อย่าเป็นข่าวร้ายเลย :เฮ้อ:

jurassic

  • บุคคลทั่วไป
ความรักเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว.........มาเป็นคู่ๆ เลย

แต่จบแบบนี้....มันติดอยู่ในใจจัง

รักษาสุขภาพด้วยนะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
 :serius2: ไม่น่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ [€]ŝĊörŦ

  • ความพยามครั้งที่100 ดีกว่าคิดท้อถอยก่อนที่จะทำ
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2077
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +142/-0
คือตอนแรกอ่านไปๆ แล้วกำลังมีความสุขจะเลยนะ

แต่พอจบแบบนี้ช็อคเมนท์ไม่ถูกซ๊ะงั้นอะคับ

ถ้าเจอแบบนี้บ้างผมว่าช็อคก่อนจะได้รู้ความจริงแน่ๆ เลย

 :o     :o     :o     :o

ja ne

  • บุคคลทั่วไป
ขออย่าให้มีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นเลย

ส่งกำลังใจให้เอนะ

เขียนเก่งมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

ไม่ตามอ่าน ไม่ได้แย้วววววววววว

ออฟไลน์ imon

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +106/-10

A_wAy_G_mAn

  • บุคคลทั่วไป
แอบแวะมาดู :m22:

มาวิ่งเล่น  :oni1:

นอนเล่น :a12:

แล้วก็ออกไป :oni2: (นั่งปั่นตอนต่อไป มันเขียนอยากจริงๆนะตอนต่อไปเนี่ยะ เห่อ....... :เฮ้อ:)

gift_deb

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยสสส์ รีบมาต่อเหอะค่ะ อยากรู้แล้ว :serius2: :serius2: :serius2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด