[เรื่องสั้น] MR.CHU ~ รักนี้เงียบไว้หรือบอกไป.. (จบ) / ชี้แจงนิดหน่อย 23/11/14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] MR.CHU ~ รักนี้เงียบไว้หรือบอกไป.. (จบ) / ชี้แจงนิดหน่อย 23/11/14  (อ่าน 25266 ครั้ง)

ออฟไลน์ AeRoMoZa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
หน่วงตั้งแต่พี่เมมาคุยกับธันแล้ว เครียดเลย
แล้วไม่ชอบจริงๆเวลาที่ผู้ใหญ่เอ็นดู แต่ในใจก็ไม่ได้รับเต็มร้อยงี้ โอ๊ย คือหน่วง
สงสารมาร์ค สงสารธัน แล้วเมดก็คงไม่ได้อย่างแต่งงานกับธันหรอก
แล้วมาร์คจะหนีไปไหนได้นะ ต้องเลิกทั้งๆที่ยังรักนี่มันยากมากนะ
พ่อแม่ธันนี่ไม่รักลูกเหรอ เอาจริงๆ ถ้าไม่บังคับนะ ซักวันก็อาจจะเลิกกับมาร์ค อาจจะแต่งงานกับผู้หญิงก็ได้
บังคับไปงี้ก็ไม่มีอะไรดี แถมยังเรียนอยู่ ไม่น่าพูดถึงเรื่องแต่งงาน คู่หมั้น ดูตัวไรงี้เลย

อยากจะบอกว่าจริงๆแต่งตอนพิเศษยาวขนาดนี้ ไม่น่าเรียกว่าตอนพิเศษนะคะ
ไม่น่าบอกรีบจบแล้วให้ย้ายเข้าห้องนิยายจบแล้วเลย บางทีคนอ่านไม่ค่อยเข้ามาเจออ่ะค่ะ

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
หน่วงกันเลยทีเดียว แอบน้ำตาคลอเบาๆ สงสารทั้งคู่เลย
แอบเห็นด้วยกับคุณ AeRoMoZa เรื่องกดจบนิยายและตอนพิเศษ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
เพิ่งเข้ามาอ่าน สนุกมากๆค่ะ
รอตอนต่อไปนะค๊าาาา
ขอไปซับน้ำตาก่อน ฮือๆๆๆๆ

ออฟไลน์ PJansam

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
โห ลุ้นจังเลย  ไม่ต้องเสียใจนะคะ ก็เขียนใช้ได้แล้วนะแต่นี่ก็เพิ่งเห็นว่าอัพอะค่ะเลยเพิ่งมาอ่าน คือมันไม่เด้งให้เห็นจริงๆ  ยังไงจะคอยแวะว่าดูเผื่ออัพตอนใหม่แล้วเนอะ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ไม่รู้หรอกนะว่าคุณแม่ตั้งใจยังไงกันแน่

แต่ใจเราชักอยากให้ดราม่ากว่านี้ เอาแบบมาร์คหนีไปจากธัน
ให้ธันมันตามหา และยืนหยัดกับครอบครัวว่ารักมาร์คจริงๆอะไรงี้

หวังว่าชะนีเงือกจะไม่มาอยากได้ปั๋วอะไรตอนนี้นะ

หึ๋ย ถึงยังไงก็เหอะ ธันมันทำอี๋อ๋อกับผู้หญิงเกินหน้าเกินตามาสองครั้งแล้วนะ  :fire: :fire:
ถึงจะบอกว่าเพื่อน แต่ยังงี้มันไม่ดีนะเฟ้ยยยยยยยยย

ขอให้มาร์คแรงเข้าไว้ จัดการมานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน  :m31:

ออฟไลน์ orange332

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ตอนพิเศษ : 6


-   ธันวา

ผมกับเมอร์เมดออกมาเดินที่สวนหลังบ้าน เนื่องจากเมอร์เมดชวนผมออกมาเพราะบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ผมกับเมอร์เมดเดินมาหยุดที่ชิ่งช้าไม้ตรงสวนอีกฝั่งของบ้านเพื่อไม่ให้ใครรบกวน เมอร์เมดทันทีที่เห็นชิ่งช้าก็รีบวิ่งไปนั่งอย่างร่าเริงทันที

“ธันๆ มานั่งนี่เร็ว” เมอร์เมดกวักมือเรียกผม ผมเองที่ปฏิเสธอะไรกับรอยยิ้มน่ารักๆแบบนั้นไม่ได้ (มึงไม่รู้ชะตากรรมตัวเองซะแล้วสินะธันวา : คนเขียน) ผมได้แต่ยิ้มแล้วก็เดินตามไป


“ว่าไง คนสวย มีเรื่องอะไรถึงให้ออกมาคุยกันข้างนอก” ผมหยอกเธอเล่นครับ (จริงๆแม่งไม่รู้ชะตากรรมตัวเองจริงๆ ไว้อาลัยแด่ธันว่า สามวิ #สงบนิ่ง : คนเขียน)

“ปากหวานอีกแล้ว ฮิๆ ธัน .... เมดว่าเมดได้วิธีการจัดการกับเรื่องที่พวกเราต้องหมั้นกันแล้วนะ”


“ห๊ะ !! จริงเหรอเมด ทำไงอะๆ ” ผมถามด้วยความตื่นเต้นครับ ดีใจมาก ที่จะไม่ต้องฝืนอะไรแบบนี้อีก เมดเป็นคนฉลาดครับผมเชื่อว่าวิธีของเมดจะต้องได้ผลแน่ๆ !!


“ก็ไม่ยังไง เมดจะพาแฟนเมดไปหาคุณแม่ที่บ้าน แล้วก็บอกยกเลิกงานหมั้นซะ !”

“อ๊อ พาแฟนไปหา คุณ มะ ...  เฮ้ย เดี๋ยวดิ เมดมีแฟนแล้วเหรอ ?”โอ้ย ทำไมวันนี้มีแต่เรื่องทำให้ผมตกใจอะไรขนาดนี้ จะช๊อคตายหลายเรื่องแล้ว = =

“มีแล้ว แหมธันยังมีได้เลย เมดก็มีเหมือนกันแล่ะ ฮิๆ เอาเป็นว่า เมดจะไปขู่คุณแม่เอง ถ้าเขายังจะจับเมดแต่งงานกับธันเมดจะหนีไปอยู่อเมริกาเหมือนเดิม คุณแม่ท่านทนไม่ได้หรอกที่ไม่ได้เห็นหน้าเมด”

“มันจะได้ผลเหรอเมด” ผมถามไปด้วยความสงสัย

“ต้องได้ผลอยู่แล้วล่ะ เมดไม่เคยขัดใจแม่เลย แต่ถ้าเมดขัดใจเมื่อไหร่ คุณแม่จะยอมทุกอย่าง ฮิๆ”

“เฮ้ออออออออ งั้นก็โล่งอกแล้วล่ะ ถ้าเมดจัดการได้แบบนี้ ขอบคุณนะ” ผมพิงชิงช้าไปเลยครับรู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ

"คราวนี้ก็เหลือแต่ ธันต้องไปเครียกับพ่อแม่ธันแล้วนะ"

“เครียกับพ่อแม่ตัวเองนี่แล่ะธันว่า ธันจะไม่ไหว ฮาๆๆ ” ผมยิ้มเจื่อนๆให้เมดไป มันก็จริงนะครับเครียกับพ่อแม่ตัวเองเนี่ยล่ะคืองานลำบากสำหรับผม แต่ก็โล่งใจไปเปาะใหญ่เลยที่งานหมั้นคงจะไม่มีอีกแล้ว

"เมดเป็นห่วงมาร์คจังเลยอะ ธัน"

อยู่ดีดี เมอร์เมดก็พูดถึงไอ้มาร์คขึ้นมา ก็จริงครับ ผมเป็นห่วงมันจะแย่อยู่แล้ว จากที่แอบรอบสังเกตุโดยที่มันไม่รู้ตัวบนโต๊ะอาหารเมื่อกี้ ข้าวสักเม็ดแม่งไม่แตะเลย ทำหน้าเหมือนคนใกล้จะตายแล้ว ผมเข้าใจนะครับว่ามันคงเครียดมากจริงๆ แต่ไม่เป็นไรนะมึง กูจะทำเพื่อมึงทุกอย่างเลย


แค่มึงอย่าไป อย่าหายไปจากกูก็พอ


“ธันก็เป็นห่วง เมื่อกี้เห็นหน้ามันแล้วธันจะขาดใจอยู่แล้ว ” ผมได้แต่พูดเสียเศร้าออกไปครับ มันไม่มีความรู้สึกอื่นๆแทรกเข้ามาเลย จริงๆ

“งั้นเรากลับเข้าไปในบ้านกันไหม ไปดูใจว่าที่ลูกสะใภ้บ้านธันกันดีกว่า >o^ ” เมอร์เมดเอาศอกมากระทุ้งๆ ผมเป็นการล้อผมนั่นแล่ะ ร้ายนักนะเพื่อนตัวแสบเนี่ย

“บ้า มาล้อธันทำไมเนี่ย ไปๆ เข้าหน้าบ้านดีกว่า เดี๋ยวธันจะไปหยิบของด้วย”

ผมกับเมดตัดสินใจเดินอ้อมกันไปหน้าบ้านเพื่อที่จะเข้าทางประตูใหญ่เนื่องจากผมจะไปหยิบหนังสือที่วางไว้ที่ชั้นหน้าบ้านสักหน่อย พวกผมเดินกันมาเรื่อยๆ จนถึงประตูจนกำลังจะก้าวเท้าเข้ามาในบ้าน ภาพที่ผมเห็นทำให้ผมเปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทันเลยทีเดียว


ไอ้มาร์คที่วิ่งจากบันไดชั้นสองลงมาแล้วกำลังมุ่งหน้ามาทางผม ใบหน้าของคนตัวเล็กที่กำลังวิ่งมาทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยน้ำตาและ ตาแดงกร่ำ  ใคร ?!!!! ?! ใครทำอะไรคนของผม !! ใคร !!!!!!!


ในใจตอนนี้ของผม ทั้งโกรธและรู้สึกใจหายลงไปที่ตะตุ่มเลยครับ ในขณะที่ไอ้มาร์คกำลังวิ่งเข้ามาใกล้เรื่อยๆ ผมได้จังหวะจึงจับแขนคนตัวเล็กที่กำลังจะวิ่งผ่านผมไปพร้อมกับพยายามจะปลดกระเป๋าเป้ใบสวยของมันที่มันสะพายอยู่ ดูสภาพก็รู้ว่าพร้อมจะออกจากบ้านในทันที


“เฮ้ยยยยยยยยยยยยย มาร์ค มึงเป็นไร ร้องไห้ทำไม นี่มึงจะไปไหน” ทันทีที่ผมจับมันได้ ผมก็ร้องถามลั่น ด้วยความตกใจ  ใครทำอะไรมึงวะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้

“ปล่อยกู ฮึก ฮึก … ” มันสะอื้นซะตัวโยนเลยครับ ผมก็มือสั่นไปเลย ไม่เคยเห็นมาร์คมันร้องไห้ขนาดนี้

“ไม่ กูไม่ปล่อย มาร์คมึงเป็นอะไรทำไมร้องไห้ขนาดนี้ใครทำอะไรบอกกูมา !! ” ผมผลิกตัวมันเข้ามาประจันหน้ากับผม แต่ไอ้เจ้าตัวเล็กตรงหน้านี่ก็ไม่รู้ไปเอาแรงมาจากไหน ดิ้นได้สุดแรงเกิดเลยจริงๆ

“กูบอกให้ปล่อยไง !!!!!!!!!! ” มันตวาดผมซะเสียงดังไปทั่วโถง จนคนอื่นๆได้บ้างเริ่มเดินออกมาดูแล้วครับ

“มาร์ค มึงใจเย็นๆดิ มึงหยุดก่อน !” ผมยังพูดไม่ทันจบดี

“โอ้ย !!!! ” ไอ้ร่างบางๆตรงหน้าก็กระทืบเท้าผมซะเต็มรักเลย ทำให้ผมต้องปล่อยเจ้าตัวก่อน ที่มันจะรีบวิ่งไปที่ประตูหน้าบ้าน

“มาร์คเดี๋ยวก่อน !!!!!!!!!!!!!!!” ผมรีบพยายามกึ่งวิ่งกึ่งเดิน พร้อมกับความเจ็บที่ปลายเท้า ไปที่หน้าบ้าน พยายามจะตามคนตัวเล็กให้ทันแต่ก็ไม่ทัน

บังเอิญมีแท็คซี่ผ่านมา คันนึงที่หน้าบ้านผม และเป็นโอกาสให้ไอ้มาร์คซะดิบดีรีบกระโดดขึ้นรถแล้วรถก็แล่นออกไปอย่างรวดเร็ว ผมพยายามแล้วที่จะวิ่งตามรถคันนั้นแต่ก็ไม่เป็นผล เท้าก็เจ็บ เหนื่อยก็เหนื่อย แม่งเอ้ย !!!!!!!!!!

“โธ่เว้ย !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ” ผมตะโกนลั่นซอยเลยครับ พร้อมกับภาพรถที่ไอ้มาร์คนั่งหายไปในความมืด

“ธัน ๆๆๆ หนูมาร์คไปไหนแล้วลูก ” ม๊าผมที่วิ่งหน้าตื่นออกมาไม่แพ้ผมก็หันมาถามผม

“ธันไม่รู้ม๊า.... ”ผมได้แต่ตอบด้วยเสียงที่ไม่สู้ดีนัก ผมทำอะไรไม่ถูกเลยจริงๆ  แม่งมึงเป็นเหี้ยไรวะมาร์คบอกกูดิทำไมไม่บอกกูใครทำอะไรมึงทำไมมึงไม่พูดมาวะ โว้ยยยยยยยย !!

“ธัน ไปเอารถออกเร็วไปตามหนูมาร์คกลับมานะลูกนะ ”ม๊าผมที่ดูจะหน้าเสียมากเหมือนกันซึ่งผมก็ไม่รู้สาเหตุที่ม๊าเป็นแบบนั้น แต่ทำไมม๊าต้องให้ผมไปตามมาร์คกลับมาด้วย แม้ผมจะสงสัยแต่ความสงสัยก็ไม่เท่ากับความสับสนทีเกิดขึ้นในใจผมตอนนี้ ผมยอมรับเลยจริงๆว่าผมทำอะไรไม่ถูกแล้ว

"ธันไม่เป็นไรใช่ไหม …. คุณน้าคะหนูว่าเข้าไปคุยกันในบ้านก่อนเถอะค่ะตามไปตอนนี้คงไม่มีประโยชน์" เมอร์เมดที่วิ่งตามออกมา บอกให้ผมและม๊าเข้าบ้าน

เมอร์เมดที่วิ่งตามผมออกมาเป็นผู้คุมสถานการณ์ได้ดีเลยทีเดียวแล่ะครับ ทั้งผมแล้วก็ม๊าของผมเองก็ต่างรู้สึกตกใจแล้วก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ม๊าผมเขาเป็นคนอ่อนไหวมากๆอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเห็นใครเศร้าหรือร้องไห้หรือเป็นอะไรขึ้นมาเขาจะสงสารมากๆ จนบางทีม๊าเองก็ร้องไห้ออกมาเลยก็มี และผม การที่เห็นคนที่รักหนีหายไปอย่างไม่ใยดีกันเลยสักนิดนั่นแล่ะคือสิ่งที่ทำให้ลูกผู้ชายอกสามศอกแบบผมต้องถึงขั้นทรุดลงไปกับพื้นเลย ผมไม่รู้จริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมาร์คถึงวิ่งร้องไห้และหนีผมออกไปแบบนี้ ผมทำอะไรผิดหรือเปล่า ?

พวกเราทยอยกันเข้ามาในบ้าน พร้อมกับป๊าผมที่สั่งให้ทุกคนกลับไปทำหน้าที่ของตัวเองไม่ต้องมาสนใจ เมอร์เมดเองที่เป็นห่วงผมจึงลบเล้าคุณแม่ของเธอให้กลับไปก่อน ในตอนแรกคุณแม่ของเธอเหมือนจะไม่ยอมเพราะอยากทราบเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นด้วยแต่เมอร์เมดก็ทำสำเร็จส่งคุณแม่เธอขึ้นรถส่วนตัวกลับไปก่อนพร้อมบอกว่า เดี๋ยวผมจะไปส่งเธอเองที่บ้านไม่ต้องเป็นห่วง

ผม เมอร์เมด คุณป๊าและคุณม๊าของผม พากันเดินเข้ามาในห้องรับแขก โดยมีป๊าที่คอยพยุงม๊าที่น้ำตาเอ่อขึ้นมาในดวงตาคู่สวยนั้นไม่หยุด พวกเราจัดแจงที่นั่งกันก่อนที่ป๊าจะเป็นคนเปิดประเด็นเรื่องทุกอย่างขึ้นมา

"ธัน ทำไมหนูมาร์ควิ่งออกไปแบบนั้น "

"ธันไม่รู้ป๊า ธันยังไม่ได้คุยอะไรกับไอ้มาร์คเลย ธันมาถึงธันก็เห็นมันวิ่งร้องไห้ออกมาจากบนบ้านแล้ว" ผมที่นั่งกุมขมับตัวเองอยู่ก็ได้แต่ส่งเสียงตอบป๊าไปแบบนั้น ณ จุดๆนี้ พูดไม่ออกบอกไม่ถูกจริงๆว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น

"เพราะเมดหรือเปล่าธัน ... " อยู่ดีดีเมดก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เศร้าผิดถนัดไปเลย เธอคงเข้าใจดีถึงสิ่งที่ไอ้มาร์คเองกำลังเจอ เมดเป็นคนเข้าอกเข้าใจคนอื่นก็ไม่แปลกที่เมดจะคิดมากตามไปด้วย

"ไม่ใช่หรอกเมด อย่าโทษตัวเองแบบนั้นดิ " ผมที่เห็นเมดดูเศร้าไปถนัดตาก็อดไม่ได้ที่จะเอามือไปกุมเพื่อให้กำลังใจเธอและเป็นการแสดงให้เธอรู้ว่า เธอเองก็ไม่ได้ผิดอะไรเลย

ม๊าผมที่ฟังมาถึงตรงนี้ อยู่ดีดีก็ร้องไห้ออกมาซึ่งทำให้ทั้งผม เมอร์เมด และ ป๊าตกใจกันอีกระรอกนึง

"คุณๆ เป็นอะไรร้องไห้ทำไม" ป๊าที่เห็นม๊าร้องไห้จึงรีบเข้าไปสวมกอดทันที

"มันคงเป็นเพราะฉันเองแล่ะค่ะคุณ ฮึก ฮึก ... " ม๊าผมที่ได้แต่งนั่งเอาเท็ดชู่เช็ดน้ำตา ทำให้ผมงงไปหมดตกลงมันเกิดอะไรขึ้น ??????

"ทำไมม๊า ม๊าพูดอะไรกับมาร์คเหรอครับ !!?? " ผมที่ได้ยินดังนั้นก็ถึงกระลุกพรวดเดินไปนั่งข้างๆม๊า เพื่อจะถามว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

"ม๊าแค่ พยายามจะอธิบายให้มาร์คเข้าใจถึงสิ่งที่ต้องเจอถ้าต้องอยู่กับธันในอนาคต ม๊าเองแค่เป็นห่วงว่ามาร์คกับธันจะเจ็บปวดกับสังคมภายนอกที่ต้องเจอนับจากนี้ ม๊าแค่อยากให้เราทั้งคู่มีความสุขม๊าเลยไปคุยกับมาร์คเป็นการส่วนตัวข้างนอก แต่ดูเหมือนม๊าจะผิดเอง ที่ทำร้ายจิตใจของเด็กคนนึงได้ขนาดนั้น ม๊าผิดเองที่ไม่คิดถึงจิตใจคนอื่นทั้งๆที่เขาก็มีหัวใจเหมือนกับที่ม๊ามี" ม๊าพูดไปก็สะอื้นไปด้วย ผมเห็นภาพนี้แล้วก็เจ็บปวดจับใจเลยครับ

"ม๊าเล่าได้ไหมว่าม๊าคุยอะไรกับมาร์คไปบ้าง" ผมถามไปแค่นั้นก่อนที่ม๊าจะเริ่มเล่าเหตุการณ์เมื่อกี้พร้อมน้ำตาอีกครั้ง



“มาร์ค ม๊าถามอะไรหน่อยสิ”
“คะ... ครับ”
“มาร์ครักธันมานานแล้วเหรอ”
“ตั้งแต่ ปี 2ครับ
“แล้วตอนนี้คบกันหรือเปล่า ”
“ถ้าผมบอกว่าคบ ม๊าจะว่ายังไงล่ะครับ”
“ก็ไม่ว่ายังไงหรอก ม๊าแค่ถามดูเฉยๆน่ะ”
“ครับ”
“’งั้นม๊าขอถามอีกคำนึงได้ไหม ”
“ครับม๊า ”
“มาร์คเลิกกับธันให้ม๊าได้ไหม ”
“แล้วถ้าผมบอกว่าไม่เลิกล่ะครับ”
“ม๊าจะอธิบายให้มาร์คฟังนะ สังคมในอนาคตที่ธันต้องไปเจอ คือการรับช่วงต่อจากธุรกิจและหน้าตาทางสังคมต่อจากป๊าและม๊า และครอบครัวของเราก็ยังคงจำเป็นต้องใช้สิ่งตรงนี้ เพื่อรักษาความมั่นคงของธุรกิจไว้ ธันเองก็เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวเรา ม๊าและป๊าก็อยากจะฝากความหวังทุกอย่างไว้ที่กับธัน”

“มาร์ครู้ไหมว่า ความสุขของคนเป็นพ่อเป็นแม่คือการเห็นลูกๆของเขานั้นประสบความสำเร็จมีความสุขมีชีวิตที่ดี และเพราะอย่างงั้นแล่ะ ป๊าและม๊าจึงทุ่มเททุกอย่างให้ธันและเมษาอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเท่าที่จะทำได้”

“และเพราะแบบนั้นแล่ะ ม๊าเลยจะบอกมาร์ค วะ .... ”




ม๊าเล่ามาถึงตรงนี้ ผมถึงกับทำอะไรไม่เป็นไรเลยครับ นี่ไม่รู้ว่าวันนี้มันเป็นวันโลกแตกห่าเหวอะไรที่ชีวิตผมถึงต้องมาเจอความขัดแย้งขั้นสุดเนี่ย อีกข้างนึงก็แฟน อีกข้างนึงก็พ่อแม่ ผมไม่รู้จริงๆว่าจะต้องทำยังไงเลยเนี่ย

"ม๊า ทำไมม๊าไปพูดกับมาร์คมันแบบนั้นล่ะ"

ผมไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรม๊าเลยที่ไปพูดกับมาร์คแบบนั้นแต่ผมแค่ไม่เข้าใจว่าต้องการอะไร ทั้งๆที่ผมต้องการจะค่อยๆทำทุกอย่างให้มันเป็นไปตามระเบียบระบบ แต่ทำไมมันถึงเกิดเรื่องอะไรแบบนี้ขึ้นได้

"ม๊า ฮึก ฮึก แค่หวังดี ฮึก ฮึก กับเด็กๆ ทะ ... ทั้งสองคนนะ ฮึก ฮีก "

"ธัน ป๊าถามตรงๆนะ"

"ครับป๊า ! "

"ธันคิดว่า ความสัมพันธุ์แบบนี้จะช่วยให้ชีวิตเรามีความสุขได้งั้นเหรอ?" ป๊าผมถามมาเสียงเรียบเลยครับและนี่คงเป็นโอกาสที่จะได้เปิดใจพูดสักที

"ธันไม่รู้ ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แล้วธันก็ไม่รู้ว่าความสุขในนิยามของป๊าคืออะไรกันแน่ แต่สำหรับธัน มาร์คคืออนาคต มันคือความสดใสที่มอบให้ธันในทุกๆวัน ความสุขของธันเกิดจากคนคนนี้ และทุกวันของธันตอนนี้ก็มีความสุข ธันไม่รู้เลยจริงๆครับว่าอนาคตจะมีอะไร แต่ธันรู้แค่ ธันมีแล้ว มีคนที่พร้อมจะดูแลธันและก้าวไปพร้อมกับธัน มาร์คอาจจะไม่ใช่คนที่ป๊าและม๊าต้องการ แต่ธันเชื่อ ว่าสักวัน ป๊าและม๊าจะต้องเข้าใจ และยอมรับในตัวคนที่ธันรักและรักธันได้ "

ผมยืนขึ้น ก่อนจะอธิบายทุกอย่างให้ป๊าฟังอย่างตั้งใจ ใช่ครับ ผมและมาร์คเราไม่รู้เลยจริงๆว่าอนาคตจะเป็นยังไง ผมไม่รู้ว่าความสุขในแบบของป๊าและม๊าที่พวกท่านต้องการคืออะไร แต่ความสุขของผมสะกดได้เป็น ' ม า ร์ ค ' ครับ ถ้าผมไม่มีคนนี้ แล้วความสุขในแบบของผมจะเกิดขึ้นได้ยังไง ...

"แล้วถ้าเกิด เขาทิ้งแกล่ะธัน แล้วถ้าเกิดแกเจอคนที่ดีกว่าเขาล่ะ ?" ป๊าผมถามกลับ เป็นคำถามที่ดีครับ

"คนที่ดีสำหรับธัน ไม่ใช่คนที่ดีและพร้อมไปทุกสิ่งอย่าง คนที่ดีสำหรับธันคือคนที่พอดีกับธัน และมาร์คคือคนนั้น ผมคงไม่เจอคนที่ดีกว่านี้แล้วครับป๊า หรือถ้าเจอ มันคงเป็นส่วนผสมที่เกินจนไม่พอดี เหมือนอย่างป๊าดื่มกาแฟ ถ้าป๊าปรุงรสที่ไม่ชอบ ป๊าก็ไม่ดื่มใช่ไหมล่ะครับ ส่วนมาร์คจะทิ้งธันไหม อันนี้ธันตอบไม่ได้จริงๆครับ ถ้าวันนึงเราจะต้องเดินจากกันธันก็จะมีแค่มาร์คอยู่ข้างใน เหมือนที่ป๊าบอกม๊าเสมอ 'ถ้าเราจากกันแล้วคุณจะอยู่ในนี้กับผมเสมอ' ไงครับ " พร้อมกับทำท่าชี้ไปที่ก้อนเนื้อที่เต้นอยู่ในหน้าอกข้างซ้ายของผมเอง

ป๊าทำสีหน้าขึมจนผมเองก็เกร็งไปเล็กน้อยเหมือนกันครับ แต่ทั้งหมดที่ผมตอบป๊าไปคือเรื่องจริงผมรู้สึกแบบนั้นและผมเองก็ไม่คิดจะรักใครแล้วนอกจากความสุขของผม

"แกพร้อมเหรอ ที่จะต้องโดนคนนินทา รวมไปถึงความลำบากในอนาคตถ้าแกยังจะมีความสัมพันธ์แบบนี้อยู่"

"แล้วป๊าคิดว่า ลูกชายป๊าจะเหมือนป๊าไหมล่ะครับ นิสัยที่กล้าได้กล้าเสียนี่มาจากใครล่ะ " ผมมองจ้องเข้าไปในดวงตาสีนิลนั้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงเจตจำนงอันแน่วแน่ของผม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ขอแค่มีคนที่รักอยู่ข้างๆ ผมเองก็พร้อมจะเดินก้าวต่อไป

"ฉันล่ะยอมใจแกจริงๆเลยว่ะ ธันวา" ป๊าพูดแค่นั้นก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา

"ป๊าหมายความว่าไง " ผมที่เห็นป๊ายิ้มแล้วก็สงสัยตกลงว่าจะเอายังไงกันแน่วะเนี่ย !!!


"เมื่อตอนเย็น ม๊าแกเขามาคุยกับป๊า เรื่องของแกกับหนูมาร์คนั่นล่ะ ป๊ากับม๊าเองถ้าให้ยอมรับแบบแมนๆเลยรู้สึกถูกชะตากับหนูมาร์คมากเหมือนกัน แต่อย่างที่ธันรู้เรามีหน้าตาทางสังคมและแวดวงธุรกิจที่จะต้องประคับประครองและทำให้มันพัฒนามากขึ้น แต่ทั้งป๊าและม๊าเองก็อยากเห็นลูกๆทุกคนมีความสุข ม๊าแกมาเตือนสติป๊าว่า 'ความสุขของคนในบ้านมีค่ามหาศาลมากกว่าเงินทองทั้งหมดที่เรามี' ป๊าเลยตัดสินใจที่จะไม่ให้แกหมั้นกับหนูเมอร์เมดตั้งแต่แรกแล้วและป๊าจะให้โอกาสพวกแกสองคนได้พิสูจน์ ว่ารักแท้ มันมีอยู่จริงไหมสำหรับโลกใบนี้ .... " ป๊าพูดแค่นั้นก่อนจะยิ้มอ่อนๆมาให้ผม


"ม๊ารักธันมาก ม๊าไม่อยากเห็นใครสักคนในบ้านต้องเจ็บปวดเพราะการกระทำของคนในครอบครัวเดียวกัน ที่ม๊าทำไปทั้งหมด ม๊าแค่อยากรู้ว่าลูกชายม๊าเลือกคนไม่ผิดใช่ไหม และนั่นก็คือความจริง ลูกชายม๊าเลือกคนไม่ผิด เพราะถ้าเป็นม๊า ม๊าก็จะวิ่งหนีไปแบบนั้นเหมือนกัน "

"แล้วทำไม มาร์คมันต้องหนีธันไปแบบนั้นด้วยม๊า " ผมก็ยังคงไม่เข้าใจคำพูดของม๊าเหมือนกัน ถ้าม๊าบอกว่ามาร์คคือคนที่ใช่สำหรับผม แล้วทำไมมาร์คไม่คิดจะอยู่กับผมเพื่อต่อสู้ปัญหานี้ไปด้วยกัน

"เขายอมได้ ที่จะเสียธันเพื่อให้ธันมีชีวิตที่ดีกว่ายังไงล่ะ" อยู่ดีดีเมอร์เมดก็แทรกขึ้นมาครับ

"คนเรานะธัน ความรักไม่ใช่แค่ครอบครองความเสียสละคือความรักที่ยิ่งใหญ่ คุณน้าคงแค่อยากลองใจมาร์คเฉยๆ แต่มันดันบานปลายกลายเป็นทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายแทนยังไงล่ะ"

ผมที่ได้ยินดังนั้นถึงกับวิ่งเข้าไปกอด ม๊าและป๊าที่นั่งอยู่ตรงหน้าท่านทั้งสองเอามือลูบหัวผมปอยๆ ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีมากขึ้นแล้ว จริงๆ ต้องขอบคุณพระเจ้าที่มอบสิ่งที่วิเศษขนาดนี้ให้ผม นั่นคือครอบครัวที่เข้าอกเข้าใจและพร้อมมอบโอกาสให้ผมเสมอ

"ม๊าขอโทษนะธันที่ทำให้ทุกอย่างมันวุ่นวายแบบนี้" ม๊าผมก้มลงมากอดผมด้วยไอรักเต็มอ้อมกอด ผมรู้ครับว่าม๊าไม่ได้ตั้งใจและเป็นห่วงผมมากเท่านั้นเอง

"ม๊าไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ม๊าไม่ได้ผิดอะไรสักหน่อย" ผมพูดแค่นั้นก่อนจะหอมแก้มนิ่มๆของม๊าไปทีเพื่อเป็นการปลอบขวัญ

"เอาล่ะธัน ถึงเวลาแล้วนะ"

"เวลาอะไรอะป๊า "

"ถึงเวลาไปตามว่าที่ลูกสะใภ้ป๊ากับม๊ากลับบ้านได้แล้วน่ะสิ !"


.
.
.
.

TO BE CONTINUE

ช่วงคนเขียนคุยคุ้ยคุยกับผู้อ่าน

มาแล้ว หายไปซะหลายวันกลับมาอัพแล้วคิคิ งุงิ เห็นมีหลายคนพูดถึงเรื่องตอนพิเศษว่าทำไมมันยาวจัง

คำตอบง่ายๆเลยคือ คนเขียนติดลมมาก ตอนแรกว่าจะซัก 3 ตอนดราม่ากรุบกริบ แต่มันมันส์จนเขียนยาวมาขนาดนี้

นี่เห็นด้วยกับทุกคนว่ามันควรจะไปเป็นตอนยาว 5555 แต่คือเรื่องใหม่ของมาร์คกับธันวา มีพล๊อตแล้วบอกใบ้เลยว่า กางเกงน้ำเงิน 55555555555  ที่ยังคงอยากใช้มาร์คกับธันอยู่เพราะ รู้สึกวา นี่คือตัวละครตัวแรก ที่สร้างขึ้นมาเลยอยากให้มาร์คกับธันได้รับบทในอีกเรื่องด้วย เรื่องยาวจะพยายามเขียนให้สนุกมากกว่านี้

ขอบคุณที่ติดตามฮะ ^^

ออฟไลน์ HISY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3645
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
ไปตามมาร์คกลับมาให้ได้น้าา

ออฟไลน์ nokkaling

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เพิ่งเห็นว่ามาต่อตอนพิเศษให้

แต่แล้วมาร์คก็ดันมาหายไปซะนี่

เรื่องนี้คุณม๊าผิดเต็มๆ ถึงจะลองใจก็เถอะ

ธันไปตามกลับมาให้ได้นะ

ออฟไลน์ PJansam

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 344
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
หนีไปไกลๆเลย ให้รู้ซะบ้างว่าความรู้สึกคนไม่ใช่ของเล่น

ออฟไลน์ orange332

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ตอนพิเศษ : 7


เรื่องคืนนี้มันอาจจะเหมือนฝันร้ายสำหรับผมเลยก็ว่าได้ ผมที่ไม่เคยเผชิญกับความรู้สึกกดดันและไม่เป็นตัวเองขนาดนั้นทำให้ความอดทนที่เป็นฟางเชือกสุดท้ายขาด ทุกความเสียใจถูกถ่ายทอดผ่านน้ำใสๆที่ไหลออกมาจากดวงตาคู่โตๆของผมเอง ผมไม่สามารถควบคุมจิตใจได้ในตอนนี้

"หนู เป็นอะไรมากหรือเปล่า" ลุงขับแทคซี่ที่ขับออกมาจากซอยเอกมัยจอดรถที่หน้าปากซอย ก่อนจะหันมาถามผมด้วยความห่วงใย

"มะ .... ฮึก ฮึก ไม่เป็นไรครับ ลุง " ผมตอบไปทั้งๆที่น้ำตายังเปื้อนอยู่บนใบหน้าเต็มไปหมด

"แล้วนี่จะไปไหน นี่ก็ สี่ทุ่มกว่าแล้ว" ลุงถามผม

"กลับบ้านครับลุง ... ฮึก ฮึก ลุงช่วยอ้อมเข้าขนส่งเอกมัยทีนะครับ " ผมที่เริ่มควบคุมสติได้ก็บอกให้ลุงมุ่งหน้าไปตามเส้นทางที่บอก ซึ่งจากซอยเอกมัยตรงนี้ไปถึงขนส่งใช้เวลาแค่สิบนาทีเท่านั้นเอง


แทคซี่สีเขียวสดจอดเทียบท่าเข้ากับสถานนีขนส่งเอกมัยในเวลา สี่ทุ่มห้าสิบนาทีพอดี ผมซื้อตั๋วกลับรถโดยสารปรับอากาศชั้นหนึ่งก่อนจะเดินไปรถที่ชานชลา นั่งรอได้สักพัก ไม่ถึงสิบห้านาที คนตรวจตั๋วที่อยู่ในชุดสีฟ้า ก็ประกาศให้ผู้โดยสารขึ้น
ผู้โดยสารทุกคนเข้ามานั่งประจำนี่ของตัวเองจนเสร็จสิ้นก่อนที่รถจะมุ่งหน้าไปกลับบ้านของผม


ตลอดเวลาที่นั่งรถผมทบทวนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ใช้เวลารวบรวมทั้งสติและภาพต่างๆที่เกิดขึ้น


'นี่ตัวเราจะต้องเลิกกับธันมันจริงๆใช่ไหม'


คำถามที่แย้งอยู่ในใจนี้ถูกประมวลคำตอบด้วยเหตุผลที่มาจากสมองทันทีว่า 'ใช่'


ในระหว่างทางที่รถวิ่งเป็นเวลากว่าสองชั่วโมง ในสมองมีแต่ภาพความทรงจำของผมและธันวา สลับกับเสียงของคุณม๊าธันที่พึ่งพูดกับผมเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านั้น การตัดสินใจแบบนี้แล้วหนีออกมาจากปัญหาที่อยู่ตรงหน้าคือทางออกที่ดีที่สุดแล้วใช่ไหม ? ผมทำแบบนี้คงจะถูกต้องที่สุดแล้ว ธันสมควรเจอคนที่ดีกว่าผมอย่างเช่นเมอร์เมด ธันควรจะมีสิ่งที่ดีกว่าผมนั่นคืออนาคตที่พ่อแม่มอบให้ และธันควรจะไม่มีผมในชีวิตอีกต่อไป ถ้านั่นเป็นสิ่งที่จะทำให้ธันวาก้าวหน้าแล้วก็มีความสุข ยอมเสียใจซะตั้งแต่ตอนนี้ ยอมเสียสละเพื่อใครสักคนนึงตั้งแต่ตอนนี้ ดีกว่าให้มันถลำลึกมากไปกว่านี้จริงๆ ไม่ต้องแลกด้วยอะไรมากมาย ก็แค่หัวใจทั้งดวงของผม พังไม่มีชิ้นดีแค่นั้นเอง


เป็นเวลากว่าสองชั่วโมงที่รถวิ่งมาเลื่อยๆตามทางของถนนจนมาถึงจุดหมายปลายทางนั่นก็คือ บ้านของผม ผมลงป้ายหน้าห้างสรรพสินค้าใหญ่ใจกลางอำเภอที่ผมอยู่ก่อนจะมองหน้ามอร์ไซด์ซักคนเพื่อเรียกรถเข้าไปในบ้าน เพราะจากตรงนี้เข้าไปถึงบ้านผมก็ช่างแสนไกลเหลือเกินแล้วดึกๆเวลากว่าเกือบตีหนึ่งนี้ไม่ดีแน่ๆที่ผมจะเดินเข้าไปเปลี่ยวๆคนเดียว
พี่วินที่ผมเรียกมาผมมาส่งหน้าบ้านหลังใหญ่ของผมอย่างปลอดภัย ผมสำรวจบ้านหลังสีขาวใหญ่ๆนี้ที่ไม่ได้กลับมาในรอบสองสามเดือนที่ผ่านมานี้อีกครั้ง ไฟในบ้านเปิดไว้สลัวแสดงให้เห็นว่าคนในบ้านคนหลับไปแล้ว
ผมเปิดประตู้รั้วบานใหญ่ก่อนจะปิดมันลงแล้วใส่แม่กุญแจไว้แบบเดิม ทันทีที่ย่างกลายเข้ามาในส่วนของสวนในบ้านที่เป็นที่ราบกว้างกว่าอีกเกือบกว่า สองร้อยเมตรก่อนจะถึงตัวบ้านเสียงเห่าดัง 'โฮ่งๆ' ก็โพล่มาจากโรงรถที่มีรถคันงามจอดนิ่งสนิทอยู่



"ไอ้กี้ เห่าอะไรของแก อ้าวมาร์คลูก !! " ผู้หญิงมีอายุคนนึงเปิดประตูออกมาจากบ้านหลังใหญ่นั่นก่อนจะหันมาเห็นผม

"คุณแม่ !!!! " ผมไม่พูดเปล่า ทิ้งทุกอย่างลงพื้นทั้งหมดพร้อมวิ่งไปสวมก่อนหญิงวัยกลางคนตรงหน้าอย่างคนึงหาที่สุด และแทนคำพูดมากมายจากความรู้สึกผม กลับเป็นน้ำตาและเสียงแห่งความเสียใจที่ถูกปล่อยออกมาทั้งหมดอย่างไม่อายใครเลยจริงๆ

"มาร์คเป็นอะไร !!!!!! ร้องไห้ทำไมลูก ใครทำอะไรลูกแม่บอกมาสิ๊" หญิงคนที่ว่านี้ก็คือแม่ของผมเอง แม่ผมก็ดูตกใจมากเช่นกันที่เห็นอาการที่สาหัสสากันของผม

ไม่มีเสียงตอบรับจากคำถามที่แม่ถามผม ผมปล่อยให้ความรู้สึกทั้งหมดไปกับอ้อมก่อนของผู้หญิงพียงคนเดียวในโลกที่ไม่เคยแม้แต่จะทอดทิ้งผมไปไหน เอาใจใส่ผมและรับฟังผมทุกอย่าง

ผมร้องไห้จนตัวโยนร้องจนไม่มีน้ำตาจะไหลออกมาอีก บนชุดนอนของแม่เต็มไปด้วยคราบน้ำตาของผมที่ไหลลงมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด แม่เก็บของทุกอย่างก่อนจะเห็นผมที่เริ่มร้องไห้ไม่ออกแล้ว ก็พาเข้าบ้านจัดแจงให้ตัวผมที่อ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจได้นั่งตรงโซฟาอย่างสบายตัวพร้อมกับแก้วน้ำเย็นๆและไอ้ตูบในบ้านผมตัวนึงที่มานั่งร้องหงิงๆ ที่เห็นใบหน้าผมแบบยับเยินยิ่งกว่ากระดาษโดยขยำซะอีก


"กินน้ำก่อน มาร์ค " แม่ยื่นแก้วน้ำให้ผม ก่อนที่ผมจะค่อยๆบรรจงดื่มทีละเล็กละน้อยทดแทนน้ำตาที่เสียไปเมื่อกี้

"...................." ผมยังคงเงียบและไม่อยากพูดอะไร

"เล่าให้แม่ฟังได้ไหม ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกแม่"  พอแม่ถามออกมาแบบนั้นผมเองก็ได้แต่ก้มหน้านิ่ง

"มาร์ค !! " แม่เริ่มกดเสียงต่ำลงเพี่อขุ่ผม แม่เป็นพวก ทนอะไรไม่ได้นานสำหรับเรื่องอะไรก็ตามที่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตัวผมหรือทำให้ผมเสียใจเสียน้ำตาเรื่องพวกนี้แม่จะความอดทนต่ำมาก ถ้าไม่ได้จากปากผมก็จะต้องได้ข้อมูลจากที่อื่นมาจนได้


"มาร์คผิดใช่ไหมแม่ ที่ไม่ได้เกิดเป็นผู้ชายปกติทั่วไป... " ผมถามออกไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ


ใช่ ! มันน่าน้อยเนื้อต่ำใจจริงๆที่สังคมปัจจุบันของเราทำเหมือนจะยอมรับกับเพศทางเลือกที่มีมากขึ้นในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามแต่ แต่คุณๆคิดกันผิดแล้วล่ะครับ นั่นมันก็แค่ฉากหน้าของพุ่มไม้สวยงามที่ถูกประดับตกแต่งไว้อย่างสวยงาม สังคมของเราใช้คำว่าใจกว้างเข้ามาทำให้โลกนี้ดูสวยงามมากขึ้น แต่เปล่าเลย ใจคนเรากว้างไม่เท่ากัน คนบางคนก็แคบเหลือเกินแต่สำหรับเขามันคือกว้างที่เขามี สำหรับบางคนมันแคบสำหรับตัวเขาแต่กว้างใหญ่ดั่งมหาสมุทรสำหรับคนอื่นๆ ความสวยหรูในสังคมที่ถูกเคลือบไปด้วยการปรุงแต่งและจินตนาการเอาเองว่า จริงๆแล้ว เราสามารถอยู่ร่วมกับใครและรักใครก็ได้ตามที่เราต้องการ แต่ความจริงกับแตกต่างออกไป เราไม่สามารถรักใครได้แบบเต็มหัวใจ ในเมื่อยังมีเส้นแบ่งกั้นของ ฐานะ สังคม เพศสภาพ ที่เป็นตัวบ่งชี้และแบ่งแยกคนในสังคมให้เห็นด้วยอัตลักษณ์บ้าบอนี่ ผมที่ไม่เป็นแม้แต่ธรรมชาติที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา หรือจะเรียกได้ว่าอะไรดี ความผิดพลาดของธรรมชาติ ? คนอย่างผม สมควรแล้วใช่ไหมที่ไม่ควรจะได้แม้แต่โอกาสที่จะมอบหัวใจให้ใครสักคนนึง

"แล้วมาร์คคิดว่า มาร์คผิดไหมล่ะ แต่สำหรับแม่ มาร์คไม่เคยผิดนะ มาร์คเจ็บได้ มาร์คร้องไห้เป็น มาร์คมีสองมือมาร์คมีสองตาและทำอะไรได้ดีกว่าใครหลายๆคน อะไรกันที่เรียกว่าผู้ชายปกติ อะไรกันที่เรียกว่าผู้หญิงธรรมดา สำหรับแม่ มาร์คคือคุณลูกแสนธรรมดาที่หน้าตาออกจะน่ารักและเป็นที่รักของทุกคนจะตายไป"


ผมที่ได้ฟังแม่พูดแบบนั้นพร้อมกับไออุ่นจากมือหยาบๆที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าผู้หญิงคนนี้ผ่านอะไรในชีวิตมาบ้างกว่าจะทำให้ผมและครอบครัวมีทุกวันนี้  ถึงกับน้ำตาไหลเป็นก๊อกที่สองของวันเลยก็ว่าได้

"เข้าเรื่องสักทีมาร์ค แม่พร้อมจะจัดการทุกอย่างที่สามารถทำให้มาร์คได้ แม่สัญญาว่าถ้าแม่ทำให้ได้ ทำให้ลูกของแม่หายเจ็บแม้เพียงสักนิดเดียวก็ยังดีตอนนี้ แม่ก็พร้อมจะทำ" แม่เอามืออีกข้างมาจับแก้มผมไว้ก่อนจะค่อยๆปาดน้ำตาที่ไหลลงอาบหน้าผมอีกครั้งอย่างช้าๆและอ่อนโยน


"มาร์คพึ่งออกมาจากบ้านของคนคนนึงแม่ คนคนนั้นเป็นคนที่มาร์คคิดว่า มาร์คน่าจะอยู่กับเขาได้ เป็นคนที่มาร์คอยากจะอยู่ข้างๆเขาเวลาเขาเจอปัญหา เป็นคนที่มาร์คคิดว่าทุกเช้ามาร์คอยากจะลุกขึ้นมาทำอาหารเช้าแล้วให้เขายิ้มกับสิ่งที่มาร์คทำให้ และสุดท้าย เขาเป็นคนที่มาร์ครักอะแม่"

"รักเขาแล้วหนีเขามาทำไม" แม่ผมย้อน

"วันนี้มาร์คไปเจอครอบครัวเขามาน่ะแม่ สิ่งที่มาร์คเสียใจที่สุดไม่ใช่การที่มาร์คโดนคนอื่นดูถูก หรือเหยียดอะไรก็ตามแต่ แต่สิ่งที่มาร์คเสียใจที่สุดคือ มาร์คเป็นอะไรให้เขาไม่ได้เลยตั้งหากแม่ ........."


แม่ผมเงียบไปก่อนจะค่อยลูบหัวผมไปมาเป็นสัญญาณให้ผมระบายทุกสิ่งที่อยู่ในใจออกมาให้หมดสิ้น ผมที่กอดแม่ไว้อยู่แล้วเริ่มซุกกับตัวแม่มากกว่าเดิมรู้สึกขาดความอบอุ่นแบบบอกไม่ถูก แต่เป็นเพราะแม่ทำให้ทุกอย่างดูสบายขึ้นและดีขึ้น แม่เป็นแบบนี้เสมอแม่ทำให้ผมสบายใจเมื่อได้อยู่ในอ้อมก่อนผู้หญิงคนนี้เสมอ


"มาร์คไม่คู่ควรกับเขาทั้งทางสังคมและฐานะ เขาทั้งดูดีและมีค่า มีค่าเกินกว่ามาร์คจะดึงเขาลงมาแปดเปื้อนหรือเป็นข้อครหาของสังคม มาร์คเป็นไม่ได้แม้กระทั่งความสุขของเขาแม่ ในจุดที่เขายืนอยู่ แม้แค่ความสุข มาร์คก็ให้เขาไม่ได้แม่ เพราะมาร์คเป็นแบบนี้ใช่ไหม เป็นความสกปรกของสังคม มันถึงทำให้อะไรๆก็ดูแย่ไปซะหมด .... " ไม่สะอื้นไม่ร้องไห้ แต่น้ำตาจากตาบวมๆของผมยังคงไหลมาอย่างต่อเนื่อง


"มาร์คฟังแม่นะ"

"....................."


"แม่ไม่สน ว่าสังคมนี้จะเรียกมาร์คว่าอะไร จะทำให้มาร์คดูน่ารังเกียจขนาดไหน แม่ไม่เคยสนใจว่ามาร์คจะเป็นอะไร ที่แม่สนอย่างเดียวคือ ลูกแม่ต้องมีความสุข และลูกแม่ต้องไม่น้อยหน้าใคร ..... แม่ยอมให้หนูเป็นหนู ยอมให้มาร์คเป็นตัวเองเพื่อความสุข แม่ไม่เคยบังคับมาร์คให้ทำอะไรที่มาร์คไม่ชอบ แม่ไม่เคยแม้แต่คิดจะเสียใจที่ลูกแม่เป็นแบบนี้ และแม่ไม่เคยอายใครที่ลูกชายแม่รักในสิ่งที่ตัวเองเป็น แม่กับภูมิใจ ภูมิใจที่เห็นมาร์คเติบโตมาด้วยภูมิต้านทานที่แข็งแรง ทั้งทางด้านจิตใจและร่างกาย มาร์ค ทั้งโลกล้วนมีทั้งสองด้านขาวและดำ แม่ไม่รู้ว่ามาร์คมีความสัมพันธ์ขนาดไหนกับคนที่มาร์คพูดถึงนี้ แต่แม่ขอพูดเลยว่า ความรักที่แม่ทุ่มเททั้งชีวิตให้มาร์คไปจะต้องไม่ใช่น้ำตาในวันนี้ แม่อยากให้มาร์คเข้มแข็งและเชื่อมั่น เชื่อแม้ไม่มีความหวัง เวลามาร์คล้ม มาร์คจะเห็นแม่ เห็นปาป๊า เห็นน้องเอสยืนอยู่ข้างหลัง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นนะมาร์ค แม่ไม่ทิ้งหนูและแม่ก็จะรักหนูรักหนูให้มากกว่าที่หนูรักใครที่ทำให้หนูเสียใจแบบนี้ หนูรู้ใช่ไหมว่าป๋ากับแม่รักหนูขนาดไหน ทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง อย่าคิดมากไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนนะ "


ผมที่ได้ยินคำพูดของแม่แล้วก็หยุดร้องไห้ไปในทันที แม่พูดถูก พูดถูกทุกอย่าง แม่สามารถให้ความรักที่มากกว่าใครจะให้ผมได้ทั้งโลกความรักของแม่ต้องไม่ใช่น้ำตาที่ผมต้องเสียไปเพื่อใครสักคนนึงตอนนี้ มันเป็นแค่เรื่องไร้สาระที่ผมเก็บมาใส่ใจ
ไม่ว่าใครจะพูดยังไง ผมก็ยังคงเป็นผมที่ยืนอยู่และไม่มีใครสามารถมาเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีก  ผมยังมีครอบครัวที่อบอุ่นและเพื่อนฝูงอีกมากมาย แค่คำสบประมาทนิดหน่อยถึงกับทำให้ผมคิดมากถึงชนาดนี้ เอาล่ะมาร์ค ถึงเวลาใช้ความคิดกับตัวเองพร้อมกับหาคำตอบและทางออกของเรื่องนี้สักที



.
.
.



เช้าวันนี้ผมตื่นขึ้นมาเช้ากว่าปกติ ปกติหกโมงครึ่งแบบนี้ยังไม่ตื่นหรอก เมื่อคืนก็นอนน้อยแต่ไม่รู้ว่าร่างกายมันทรยศผมทำไมปลุกให้ผมตื่นตั้งแต่ไก่โฮ่แบบนี้ ผมหยิบไอโฟนขึ้นมาดูว่ามีอะไรอัพเดทหรือมีอะไรเข้ามาหรือเปล่า แต่ลืมไปว่าเมื่อวานปิดเครื่องเลยจัดแจงเปิดเครื่องให้เรียบร้อย ทันทีทีเปิดเครื่องขึ้นมานั้น

'คุณมีสายที่ไม่ได้รับ 450 สาย หมายเลข 083-****-**** '



เป็นข้อความจากค่ายโทรศัพท์ที่ผมใช้อยู่เนี่ยล่ะครับ มันแสดงให้ผมดูว่าเบอร์นี้โทรมาทั้งหมดกี่ครั้ง และดูจากเบอร์ที่โชว์อยู่บนหน้าจอไอโฟนของผมก็ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าใครโทรมา มันเป็นเบอร์ที่ผมกดเป็นประจำ ลองจากเบอร์ปาป๊า คุณแม่ แล้วก็ไอ้เอส น้องชายตัวแสบเลยก็ว่าได้

เช้าวันจันทร์ของอาทิตย์ใหม่เริ่มขึ้นด้วยเสียงนกร้องอย่างสดใส แต่ใจผมกับไม่สดใสเอาซะเลยจริงๆหลังจากเห็นข้อความในโทรศัพท์ หลังจากที่เห็นเวลา ตอนนี้ก็หกโมงสิบห้าแล้ว ผมตัดสินใจที่จะลุกขึ้นไปอาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ก่อนจะรีบแต่งตัวในชุดนิสิตเพื่อจะออกไปมหาลัย อาทิตย์นี้ทุกคณะในมหาลัยมีกิจกรรมพิเศษรวมไปถึง การชดเชยบางวิชาสำหรับช่วงปลายภาคที่กำลังจะมาถึง ปิดเทอมสามอาทิตย์ไม่ได้ให้กูพักผ่อนเลย ให้กูหยุดอาทิตย์ เว้นอาทิตย์ เรียนอาทิตย์ทำกิจกรรมอาทิตย์โอ้ย ถ้ามันจะหนักหน่วงเจียนตายขนาดนี้ ไม่ต้องให้หยุดก็ได้  = =


ผมวิ่งจากชั้นสองลงมาข้างล่าง ตอนนี้ก็เป็นเวลา สัก เจ็ดโมงกว่าๆได้แล้วหลังจากที่ผมจัดการธุระส่วนตัวเสร็จ ผมลงมาก็เห็นไอ้เอสในชุดนักเรียนกางเกงน้ำเงินที่กำลังนั่งกินข้าวแก้มตุ้ยๆอยู่ พร้อมกับแม่ที่กำลังจัดสำรับข้าวอีกชุดนึงไว้ซึ่งนั่นต้องเป็นของผมแน่ๆ

"แม่จัดข้าวให้ใครอีกที่นึงอะ แม่กินไม่อิ่มเหรอ ?" ไอ้เอสมันถามแม่ที่กำลังง่วนจัดอาหารอยู่

"พี่มาร์คกลับมานอนบ้าน เมื่อคืน"

"ห๊ะ !! ไอ้มาร์คกลับมานอนบ้านเหรอ ไหนอะ มันอยู่ไหน ? " มันทำท่าหาผมไปทั่วบ้าน ผมเลยเดินกระทืบเท้าลงมาจากบนบ้านให้มันได้ยิน

"เฮ้ยยยยยยยยยย เจ้กลับมาบ้านด้วยเว้ย " พอมันเห็นผมเท่านั้นแล่ะรีบวิ่งไปรอบบ้านเลย มึงดีใจอะไรของมึงเนี่ย แล้วสาเหตุที่มันเรียกผมว่าเจ้ก็ไม่ต้องแปลกใจ กูผู้ชายเต็มร้อยซะเมือไหร่ล่ะกูมันผู้ชายน่าร๊ากกกกกกกกกกกกก

"เป็นห่าไร ไม่เคยเห็นฉันกลับบ้านเหรอ" ปกติผมจะแทนตัวเองกับน้องว่าฉัน และแทนชื่อตัวเองกับแม่

"เปล่า ไม่ได้กลับมานานอะ กำลังอยากกินของฟรีพอดีเลย เย็นนี้พาไปกินฟูจิหน่อยดิ" เสร็จแล้วมันก็วิ่งถลามากอดขาผมกลางบ้านพร้อมกับอ้อนให้พาไปกินฟูจิ = = ! ไอ้น้องเวรตะไล

"พอเลยทั้งสองคนลุกมากินข้าวดีดี เดี๋ยวกับข้าวเย็นหมด แล้วมาร์คแต่งตัวจะไปมหาลัยเหรอลูก " แม่ถาม เพราะดูจากสภาพชุดนิสิตเต็มยศขนาดนี้ ฮาๆ โชคดีที่ที่บ้านมีชุดนักศึกษาเตรียมพร้อมไว้ครบเลยมีใส่ไปมหาลัย   

อาทิตย์ป่วยๆของมหาลัยในช่วงปิดกลางภาคที่อาจารย์เรียกไปเมคอัพคราสนิดหน่อยและกิจกรรมในมหาลัย หวังว่าอาทิตย์นี้คงจะมีสีสันบ้างแล่ะ


"ใช่แล้วแม่ เดี๋ยวมาร์คขับรถไปนะ ส่วนแกไอ้เอส เย็นนี้กลับจากโรงเรียนช้าอดแดกฟูจิแน่ !! แม่ไปแล้วน้า สวัสดีฮะ เดี๋ยวจะรีบกลับ" ผมบอกแม่แค่นั้นก่อนจะรีบทานข้าวบนโต๊ะที่จัดไว้อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่รอช้าหยิบกุญแจรถดิ่งออกจากบ้านทันที


ผมขับรถจากบ้านมามหาลัยใช้เวลาประมาณสักยี่สิบนาทีน่าจะได้ แต่ในช่วงยี่สิบนาทีนั้นเป็นอะไรที่ปั่นป่วนเหี้ยๆเลยล่ะครับท่านผู้ชม คนที่ผมยังไม่ประสงค์จะเจอหน้าตอนนี้แม่งโทรมา พอมันโทรติดมันก็โทรไม่หยุดเลยโทรจนผมต้องปิดเสียงโทรศัพท์ ไม่ใช่ว่าผมรังเกียจหรือผมไม่รักธันแล้ว แต่ตอนนี้ไม่พร้อม ไม่พร้อมจะคุยอะไรเลยจริงๆ ผมยังคงมีความคิด ความคิดที่จะปล่อยธันไปเจอสิ่งที่ดีกว่า พร้อมให้ธันได้เจอคนที่ดีกว่าโดยแลกกับความเสียใจทั้งหมดที่ผมได้เจอ มันอาจจะดูน้ำเน่า แต่นั่นก็เป็นเพราะผมรักธันมาก แม้มันจะแค่ไม่กี่เดือนแต่ความสัมพันธ์ตลอดสองสามปีที่ผ่านมามันเป็นตัวบ่งชี้ได้ดีว่าผู้ชายคนนี้สำคัญกับผมมากแค่ไหน ความสุขของเขาถ้านั่นคือสิ่งที่ต้องแลกมาด้วยหัวใจที่ยับเยินของผม ก็เอาเถอะครับผมจะให้ ......

จะบอกว่า มาเมคอัพคราสกับอาจารย์ต่างชาติ บอกเลยจริงๆว่าฟังไม่รู้เรื่องเลย ไม่ใช่เพราะสกิลตกต่ำจนอับจนหนทางแก่การเรียนหรืออย่างไร แต่ไม่มีสมาธิเลย เพราะโทรศัพท์ผมยังคงขึ้นหน้าจอเตือนว่ามีผู้โทรเข้ามาในโทรศัพท์เพื่อต้องการติดต่อผม ตั้งแต่ผมขับรถมาจนถึงตอนนี้ มันก็ยังโทรมาตอนนี้ราวๆสักสองร้อยสายได้แล้ว จนไอ้หมิวที่นั่งเรียนข้างๆผมถึงขนาดมากระซิบด่าว่ารำคาญ ทำไมไม่ยอมรับโทรศัพท์แฟน ผมได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ และบรรดานังเพื่อนๆตัวดีก็จับสังเกตุได้ว่ามันมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับผมและธันมา (แม่งโครตขี้เสือกอะแสดด)


หลังจากเรียนเสร็จไอ้นิวกับไอ้พลอยก็ลากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ผมจากชั้นแปดของตึก(โดยไม่ให้ขึ้นลิฟลงมาด้วยนะ) มาหลังคณะ เพื่อทำการสอบสวนผู้ต้องสงสัยอย่างผม

"มึงมีปัญหาอะไรกับธัน " ไอ้เหี้ยพลอยย มึงจะเสือกอะไรวะโอ้ยยยย อีด๊อกกก พอก่อนคำถามตรงเกินไป

"กูไม่ได้มีปัญหาอะไรนิ" ผมตอบปัดๆไป

"ไม่ค่อยมีเลยเนอะ ดอกกก ไม่รับโทรศัพท์เขาตลอดสองร้อยสายที่เขาโทรมาเนี่ย"

"ขยายมามึง มอยยย มอยให้พวกกูฟังว่ามึงทะเลาะอะไรกับธันวาสุดหล่อของกู"

"เออ เล่าก็ได้ๆๆๆ "

หลังจากนั้นผมก็เล่าสิ่งที่อัดอั้นตันใจเกี่ยวกับเรื่องที่ผมไปบ้านไอ้ธันแล้วดันมีปัญหาตรงที่พ่อแม่เขาอยากให้ผมเลิกกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเขารวมไปถึงปัญหาคู่หมั่นคู่หมายและปัญหาคุณป๊าคุณม๊าของไอ้ธันที่ดูแล้วไม่น่าจะปลื้มผมสักเท่าไหร่ให้พวกมันฟัง พวกมันก็เป็นเพื่อนที่ดีนะครับตั้งใจฟังมาก .....

"โอ้ยย มึง ชีวิตมึงแม่งดราม่าว่ะ" ไอ้พลอยถึงกับกุมขมับเลยทีเดียว

"แล้วมึงจะเอาไงต่อวะ มาร์ค " นิวถามผม







"กูว่ากูจะเลิกว่ะ"





TO BE CONTINUE

ช่วงคนเขียนคุยคุ้ยคุยกับผู้อ่าน


มาอัพแล้วคิดถึงเขาหรือเปล่า หรือคิดถถึงธันวาอย่างเดียว ใกล้จะจบแล้วคาดว่าอีก 3 ตอนจบพอดี ฮาาา
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านแม้จะไม่มีคอมเม้นก็ตาม แต่ยังไงซะก็ขอบคุณมากๆนะฮะ

เจอกันตอนที่ 8

ปล ฝากนิยายอีกเรื่อวที่พิ่งเปิดด้วยน้า

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=43343.0

:: อลหม่านกางเกงน้ำเงิน ( TIME TO SHOW HOW MUCH I ♥ U )


ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
เรื่องนี่ล่ะอยากให้พ่อกับแม่ธัน มันได้รับความเจ็บปวดจริงๆที่มันกำลังจะทำชีวิตลูกชายตัวเองพัง  :z2:
มั่นเข้าไว้มาร์คในเมื่อตัดสินใจแล้ว
อีกอย่างทำไมไม่รู้ ฉันยังไม่เชื่อใจอิธันมัน คือยังไงมันก็อี๋อ๋อกับยัยเมอร์เมดป๊ะ  :fire:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
โฮๆๆๆ มาร์คน่าสงสารอ่ะ
เรื่องพ่อแม่นี่เป็นปัญหาโลกแตกจริงๆนะ
คู่ไหนที่พ่อแม่ครอบครัวเข้าใจนี่โครตโชคดีอ่ะ เฮ้อออ...

ขอบคุณค่ะ รอตอนต่อไปจ้า  ^^

ออฟไลน์ orange332

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0


ตอนพิเศษ : 8


- ธันวา -


สายที่หมื่น มันก็ไม่รับโทรศัพท์ผมโว้ยยยยย จะเอายังไงกับกูครับคุณเมียที่เคารพรัก กูจะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว ... !! ตั้งแต่วันเกิดเรื่องเมื่อวานนี้ ผมก็กระหน่ำโทรหาไอ้มาร์คแบบยิกๆๆเลยโทรไปจะพันสายได้แล้วมั้ง เมื่อวานผมอยู่บ้านวันนี้ขับรถกลับมาจากบ้านเพื่อมาที่มหาลัย มาใช้ชีวิตช่วงปิดเทอมกลางภาคที่หยุดอาทิตย์เว้นอาทิตย์เพราะอาทิตย์ขั้นกลางนี้มีกิจกรรมในมหาลัยรวมไปถึงคราสชดเชยนิดหน่อยของทุกคณะ ผมเองวันนี้ไม่มีก็เลยขับรถออกจากบ้านช่วงเที่ยงๆมาถึงมหาลัยก็บ่ายๆ  ระหว่างขับรถผมก็โทรนะครับ คราวนี้เปิดเครื่องไม่ปิดเครื่องเหมือนเมื่อวาน แต่ไม่รับ ผมโทรตลอดทางที่วิ่งรถกลับจาก บ้านมามหาลัยก็ยังไม่รับ กลับไปที่หอก็ไม่มีล่องลอยเข้ามาใช้ห้องเลย ผมเปิดประตูห้องเข้ามาก็ไปนั่งลงที่โซฟาสีขาวตัวโปรดของเราสองคนที่จะชอบมานั่งดูทีวีกันบ่อยๆเวลาเราว่างกัน ผมมองไปที่หน้าจอโทรทัศน์เครื่องใหญ่ที่จอนั้นดับสนิทอยู่ พร้อมภาพของคนที่เคยอยู่ข้างๆผมในห้องนี้ตลอดเวลา



'มาร์ค มึงหายไปไหนวะ'

'มึงกำลังใจเข้าใจผิด กลับมาเหอะนะ กลับมาให้กูได้อธิบายให้มีงเข้าใจ'




ผมเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่ก็ไม่รู้หลังจากที่เข้าเอาเสื้อผ้ามาเก็บที่ห้องนอนแล้วก็จัดแจงอาบน้ำอาบท่านอนคิดอะไรบนเตียง รู้ตัวตื่นมาอีกทีก็ห้าโมงครึ่งเข้าไปแล้ว ผมมองไปรอบๆห้องเห็นรูปครอบครัวที่ไอ้มาร์คเอามาตั้งไว้ข้างๆรูปที่ผมกับมันถ่ายคู่กันวันงานสานสัมพันธ์คณะ ... เดี๋ยวนะ ครอบครัว .... ไอ้มาร์คเคยพูดว่า


'เวลากูเหนื่อยๆนะมึง กูจะชอบหนีกลับไปนอนกอดแม่ที่บ้าน ไปเล่าโน่นเล่านี่ให้แม่ฟัง'



ใช่แล้ว !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ไอ้มาร์คต้องหนีกลับไปบ้านแน่ๆ ถ้าไปตามที่บ้านต้องเจอ ต้องได้คุยแน่ๆ

ผมคิดได้ดังนั้นก็รีบหยิบกุญแจรถและกระเป๋าตังค์ทันทีแล้วรีบลุกจากที่นอน แต่ก็มาสะดุดนึกขึ้นได้ว่า




กูไม่รู้จักบ้านไอ้มาร์คนี่หว่า !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!



ผมขับรถออกมาด้วยความเซ็ง เพราะไม่มีข้อมูลบ้านไอ้มาร์คเลยหลังจากที่ลองค้นๆดูในห้อง ผมก็ลืมไปสนิทเลยว่าไอ้มาร์คยังไม่เคยพาผมไปบ้านเลยสักครั้งแต่เหมือนมันเคยบอกว่า บ้านอยู่ถัดไปอีกอำเภอใกล้ๆไม่ถึงสิบกิโลจากมหาลัยผมก็นึกออกอยู่แค่ที่เดียวก็เลยลองขับมาดูก็คิดว่าน่าจะใช่ทีนี่แล่ะผมลองขับวนๆไปตรงนั้นตรงนี้ในตัวอำเภอมันเล็กน่ะครับมีนิดเดียวเอง ขับประมาณ 30 นาทีก็ไปทุกซอกทุกมุมแล้ว ผมก็เลยยอมจอดที่ห้างใจกลางอำเภอซึ่งดูเหมือนจะใหญ่สุดตรงนี้
ผมจอดรถเสร็จสับก็เดินเข้ามาปล่อยอารมณ์ในห้างขนาดกลางที่มีครบครันทุกสรรพสิ่งตั้งแต่ซุปเปอร์มาร์เก็ต โรงหนัง ร้านอาหารใหญ่ๆ เต็มไปหมด ถ้ารู้ว่ามันจะใกล้และสะดวกขนาดนี้ไม่ดักดานอยู่แถวมหาลัยมาจนถึงตอนนี้ หรอก = =


ตอนนี้ก็หกโมงกว่าแล้วผมก็เริ่มจะหิวเลยเดินขึ้นไปชั้นสามเพื่อไปหาร้านอาหารสักร้านนั่งกินก่อนจะกลับไปหอเพราะพรุ่งนี้มีชดเชยเช้า คงต้องรีบไปนอนเอาแรง บ่ายต้องไปว๊ากน้องที่คณะอีกเดี๋ยวพลังกูหมดแล้วกูทำห่าไรไม่ได้ ยิ่งอารมณ์เสียเรื่องแฟนตัวเองอยู่ด้วย


บ่นทันหมียังไม่ได้กินผึ้ง ผมที่กำลังจะเลี่ยงเดินไปอีกด้าน หลังจากสุดบันไดเลื่อนแล้ว สายตาผมก็หลุบไปเห็นใบหน้าคุ้นเคยที่ผมโทรตามมาตั้งแต่เมื่อวาน ผมรีบหันกลับไปจ้องแต่เจ้าตัวกำลังเดินหันหลังให้ผมอยู่ แต่แม้จะเป็นแค่ข้างหลังทำไมผมจะจำไม่ได้ว่านั่นใคร


ไอ้มาร์ค !!!!!!!!!!!!!!!!!!


ผมที่กำลังจะเดินเข้าไปหาก็ต้องชะงักเพราะ . ..... ข้างๆคนตัวเล็กของผมมีเด็กนักเรียนน่าจะอยู่สัก ม.5 ม. 6 อยู่ในชุดนักเรียนโรงเรียนกางเกงสีน้ำเงินที่ดังที่สุดในย่านนี้ ไอ้เด็กนั่นก็ให้แฟนผมเกาะแขนคุยกันสนุกสนานหัวเราะร่า ดวงตาฉายแววความสุข ต่างจากเมื่อวานโดยสิ้นเชิง ภาพสุดท้ายที่ผมเห็นคือคนของผมน้ำตาอาบหน้ามีแต่แววตาที่เจ็บปวดและทรมาน แต่วันนี้ เขากลับยิ้มแถมยังสบายดีและดูมีความสุขมาก เขากลับมีความสุขกับใครอีกคนที่ไม่ใช่ผม กับได้เด็กเหี้ยคนนั้น ไอ้เด็กคนนั้นก็หน้าตาไม่จัดว่าธรรมดาเลยครับ จัดว่าดีมากเลยซะด้วยซ้ำ ตอนนี้ทุกอย่างในหัวผมตีกันให้วุ่น  ผมกำลังจะเดินเข้าไปกระชากสองคนตรงหน้าให้แยกออกจากกันแต่ก็ต้องระงับอารมณ์เอาไว้เพราะไม่อยากให้เรื่องบานปลาย ผมเปลี่ยนความคิดเป็นเดินตามไปแทนเพื่อดูว่าคนของผมพยายามที่จะทำอะไรกันแน่ พยายามจะปั่นหัวผม พยายามที่จะลืมผม พยายามที่จะทำร้ายผม ?


ผมเห็นทั้งสองคนเดินตรงมาทางมุมร้านอาหารต่างๆในชั้นสามก่อนจะชี้โน่นชี้นั่นกันสักพัก แม่งโครตหน้าหมั่นไส้ไอ้เด็กเหี้ยนั่นก็อะไรไม่รู้ หัวเราะต่อกระซิกแฟนผมอยู่นั่นแม่งอยากเดินไปต่อยให้ปากแตกสักที่สองที่ สัส หงุดหงิด !!


เหมือนเลือกร้านกันอยู่แล้วพวกมันสองคนก็เดินเข้าฟูจิไปอย่างสบายอารมณ์ ผมทิ้งระยะห่างให้ทั้งสองคนเดินเข้าไปได้สักพักก่อนจะเดินตามเข้าไปนั่งหมือนกัน  พอเข้ามาผมพยายามมองหา สองคนนั้นและแล้วก็เจอ ทั้งสองนั่งอยู่ที่โต๊ะติดริมกระจก ผมเลยมองหาองศาโต๊ะแถวๆนั้นที่จะแอบมอง ทั้งสองคนได้อย่างไม่มีพิรุธ โต๊ะมันมุมอับครับแล้วก็ไม่ไกลจาก โต๊ะของสองคนนั้นมากด้วยเลยทำให้ผมสามารถได้ยินบทสนทนาของสองคนได้อย่างชัดเจน
ผมจัดแจงสั่งอาหารให้เรียบร้อยก่อนจะนั่งเงียบๆ ฟังไอ้สองคนนั้นคุยกันโดยไม่เงยหน้าขึ้นมา ว่ามันคุยอะไรกันอยู


"พี่มาร์ค อยากกินแซลม่อนอะ" อ้อน ไอ้หอกหัก อ้อนอะไรนักหนา !!

"กินดิ มื้อนี้ฉันจ่ายอยู่ละนิแกจะสั่งไรก็สั่ง รีบกินๆ เดี๋ยวจะได้กลับบ้านเรากัน" หึ เลี้ยงไอ้เด็กนี่ด้วย ! นี่อยู่กับผมนะไม่เคยจ่ายเลยไอ้ผมก็ควักจ่ายๆ

แต่เดี๋ยวนะ อะไรนะ

บ้านของเรา บ้านของเรา

เฮ้ย !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

นี่มันสองคนอยู่ด้วยกันเหรอ อะไรยังไงวะ !!!  ??

ผมที่ได้ยินบทสนทนานั้นก็ได้แต่กัดฟันกรอดๆ โมโห หึง หวง ทุกอย่างมันปนเปกันสารพัดเต็มไปหมด ผมรู้สึกตัวอีกนี่ก็เพราะปวดฟันกรามที่กัดเข้าไปเพราะแรงโมโหนั่นล่ะครับ

"โหยเจ้ จะรีบกลับไปไหนอะ แม่ไม่ว่าหรอก ก็บอกแม่ไว้ละไงว่ามากินข้าวอะ"

"เดี๋ยวป๊าด่า กลับบ้านดึกดื่นแกก็รู้ว่าป๊าไม่ชอบให้กลับบ้านดึก"

สนิทกันมากขนาดนั้น .... รู้จักกันมากขนาดนี้ นี่รู้จักกันมานานขนาดไหนแล้ว หรือ รู้จักกันมาตั้งแต่ก่อนจะคบกับผมซะอีก ไอ้เด็กเหี้ยเนี่ยแม่งเป็นใครวะ บทสนทนาระหว่างไอ้ตัวยุ่งของผมกับไอ้เด็กเหี้ยนั่นเป็นสิ่งที่ผมไม่รู้เรื่องเลย ทำไมผมถึงไม่รู้อะไรเกี่ยวกับไอ้มาร์คเลยวะ ทำไมพอเห็นเขาสนิทสนมกันขนาดนั้น มันทำให้ผมอดน้อยใจไม่ได้เลยว่า ทำไมเหมือนผมไม่รู้จักไอ้มาร์คเลย ทั้งๆทีมั่นใจว่าผมรู้จักมันดี แต่มันกลับมีอีกมุมที่ทำไมผมไม่เคยรู้ อย่างเช่น เรื่องครอบครัว ตลอดเวลาที่คบกันมามาร์คไม่เคยเล่าเรื่องครอบครัวหรือเรื่องที่บ้านให้ฟัง จะมีก็พูดถึงแต่แม่และป๊าของมัน ไม่เคยพาผมไปรู้จักที่บ้าน ไม่เคยบอกว่าบ้านอยู่ที่ไหน ไม่เคยแม้แต่จะพูดถึง ความสัมพันธ์ในครอบครัว ทำไมผมเหมือนรู้จักมาร์คแค่ด้านเดียว แต่ไอ้เด็กที่มันนั่งคุยด้วยเหมือนรู้ทุกอย่าง ? ความคิดมากมายตีกันจนผมไม่ได้สนใจอาหารตรงหน้าที่ค่อยๆทยอยมาเสริฟเลยครับ


"เจ้แซลม่อนมาแล้ว ซูชิมาแล้ว ป้อนเอสหน่อยๆๆ !! " ดูแม่งทำ ไอ้เด็กเหี้ยยยยยยยย ถ้ามึงไม่หยุดอ้อนให้เมียกูป้อนข้าวป้อนน้ำมึงนะ กูจะพังโต๊ะฟูจิเดี๋ยวนี้แล่ะไอ้สัส !

"อะๆ เดี๋ยวเอาซอสใส่ถ้วยก่อน ไม่เอาวาซาบิด้วยใช่ไหม " คนดีของผมก็บ้าจี้ว่าตาม จัดแจงเทซอส เอาซูชิจิ้มซอสพร้อมป้อนเต็มที่

"เจ้รู้ใจเอสเสมอแล่ะ ฮิๆ" โตเป็นควาย หน้าก็หล่อ แม่งแอ๊บแบ๊วชิบหาย สัส !

"ก็พี่รักแกไงล่ะ" พูดแค่นั้นก่อนจะส่งซูชิเข้าปากไอ้เด็กเปรตที่นั่งตรงข้าม แล้วก็เอามือไปลูบๆ หัว
รักงั้นเหรอ รักงั้นเหรอ แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมา ความรักที่มึงให้กูคือไรวะมาร์ค ... มึงเปลี่ยนใจรักใครง่ายๆได้ขนาดนี้เลยเหรอ


... มึงไม่เคยรู้สึกเหมือนที่กูรู้สึกเลยเหรอ มึงไม่เจ็บปวด ไม่คิดถึงกู ..... จริงเหรอวะ


ผมเองที่ได้แต่มอง ภาพตรงหน้าด้วยสายตาที่เจ็บปวด แว๊บนึงที่เหมือนไอ้มาร์คจะมองๆ สอดส่ายสายตามาทางผมแต่ผมก็ก้มหน้าทำเป็นกินข้าวไปไม่ได้สนใจจนเจ้าตัวเลิกสนใจและไปสนใจ คนร่วมโต๊ะของตัวเองต่อ


ชั่วโมงนึงผ่านไปทั้งสองคนตรงโต๊ะที่ผมแอบมองอยู่เหมือนจะอิ่มแล้ว ไอ้มาร์คเหมือนจะเรียกพนักกงานมาคิดเงินค่าอาหารก่อนมันจะจัดแจงจ่ายค่าอาหารให้ไอ้เด็กนั่นด้วย หลังจากเครียค่าอาหารไอ้เด็กนั่นก็หยิบกระเป๋านักเรียนยืนเต็มความสูงก่อนจะ ทำแขนคล้องเป็นวงเหมือนส่งสัญญานให้อีกฝ่ายว่า 'เกาะเลยพี่'  ไอ้มาร์คแม่งก็บ้าจี้ เห็นไอ้เด็กเวรนั่นทำแล้วก็เอามือเรียวๆไปคล้องแขนก่อนจะพากันเดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ออกจากร้าน


พอไอ้สองคนนั้นเดินไป สาวออฟฟิศสองคนที่นั่งโต๊ะข้างๆผมก็เริ่มเม้าส์ทันทีเลยครับ


"แกๆ เห็นเด็กผู้ชายสองคนที่เดินควงกันออกไปเมื่อกี้มะ" สาวออฟฟิศในเสื้อสีขมพูพูดขึ้น

"เห็นๆ หน้าตาดีทั้งคู่เลยอะแก คนที่ใส่ชุดนิสิตโครตน่ารัก" สาวออฟฟิศอีกคนที่อยู่ในเสื้อขาวรัดรูปบอกเพื่อนตัวเองด้วยหน้าตาเคลิ้มสุดๆ

"แต่ฉันว่าน้องคนที่ใส่ชุดนักเรียนหล่ออะ คือแกว่าสองคนนั้นเขาเป็นแฟนกันใช่มะ"

"แหม ดูจากท่าทางก็รู้แล้วปะ เล่นป้อนข้าวป้อนน้ำกันขนาดนั้น "

"เสียดายทรัพยากรผู้ชายในโลก แต่ทั้งคู่ดูเหมาะกันมากอะ ไม่เป็นไรฉันอภัย"

ผมที่ทนฟัง บนสนทนาละคายหูได้สักครู่ก็โมโหหน้าดำหน้าแดง ก่อนจะควักแบงค์พันในกระเป๋าพร้อมตบโต๊ะปัง แล้วเดินไปหาสาวออฟฟิศ โต๊ะข้างๆ


"คนนั้นแฟนผมตั้งหาก !!!!!!!!!!! ไม่ใช่ของไอ้เด็กยักษ์นั่น !!!!!!!!!!!!!!!!!!! "



หลังจากโวยวายในร้านอาหารเสร็จผมก็วิ่งออกมาด้วยอารมณ์ที่แม่งโครตเหี้ยๆจะเสีย เพราะต้องตามติดไอ้สองคนที่เดินควงกันออกมาเมื่อกี้ แถมแม่งต้องได้ยินเรื่องส้นตีนอะไรแบบนี้อีกไม่เคยโมโหจนปวดหัวแบบนี้มาก่อน 


ผมรีบวิ่งออกมาจากร้านพร้อมมองซ้ายมองขวา ก็ไม่เห็นไอ้สองคนนั้นแล้ว ก็เลยวิ่งลงบันไดเลื่อนมาก มุ่งไปยังสตาร์บัคเพราะว่า ไอ้มาร์คเป็นคนติดสตาร์บัคถ้ากินเสร็จเมือไหร่มันต้องไปหาของหวานกินแน่ๆ เมือ่กี้ตอนเข้ามาก็เห็นว่าที่นี่มีสตาร์บัคผมเลยวิ่งตามไปดู แล้วก็เจอไอ้ตัวปัญหายืนซื้อสตาร์บัคอยู่ตามที่คาดไว้ ผมเลยหยิบมือถือโทรเข้าเครื่องไอ้มาร์คดูว่ามันจะรับสายผมไหมไม่นานนักมันก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก่อนจะ เก็บกลับเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเหมือนเดิม แม่งไอ้เหี้ยเอ้ย ทำไมมึงไม่รับวะมาร์ค มึงไม่รักกูแล้วเหรอวะ ... !


ไม่นานนักไอ้สองคนนั้นก็เดินออกจากสตาร์บัคแล้วเดินทะลุไปยังลานจอดรถ ผมเห็นดังนั้นก็เลยวิ่งไปอีกทางเพื่อขึ้นไปอ้อมดักรอดูว่ามันจอดรถไว้ที่ไหน ผมทิ่วิ่งนำหน้าไปก็เห็นมินิคันสวยสีเทาของไอ้มาร์คจอดอยู่ และโชคทีที่ผมจอดรถไว้แค่ชั้นถัดไปจากมัน ผมเลยวิ่งขึ้นไปอีกชั้นด้วยบันไดลานจอดรถแล้วรีบถอยรถอ้อมลงมาอีกชั้นนึง และก็เป็นไปตามคาดไอ้มาร์คกำลังจะขับลงไปชั้นล่างเพื่อมุ่งสู่ทางออก โชคทีที่ก่อนหน้ารถผมมีรถอีกสองสามคันกั้นอยู่ไอ้มาร์คคงไม่สังเกตุเห็นรถผมหรอก


หลังจากออกจากห้างมาผมก็ค่อยๆขับตามแบบเว้นระยะไม่ให้รถไอ้มาร์ครู้ตัว ผมขับตามมันเข้ามาในตรอกตามซอยเข้ามาเลื่อยๆ เลี้ยวไปเลี้ยวมา จนมาเจอบ้านหลังใหญ่สีขาวหลังนึง ผมมองเข้าไปในบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวางก็เห็นมินิของไอ้มาร์คจอดอยู่ จึงค่อนข้างมั่นใจแล้วล่ะว่านี่คือบ้านไอ้ตัวแสบของผม


ดูเวลาตอนนี้ก็สามทุ่มกว่าแล้วผมยังคงนั่งอยู่ในรถตัวเองที่จอดตรงข้ามบ้านไอ้มาร์ค เนื่องจากถนนมันไม่ใหญ่มาก ผมเลยถอยรถมาไม่ให้ตรงกับประตูใหญ่ของบ้านหลังมหึมาสีขาวฝั่งตรงข้าม เพื่อไม่ให้เป็นการผิดสังเกตุ ผมยังคงนั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆครับว่าไอ้มาร์คจะลืมผมได้เร็วขนาดนั้นเลยเหรอ คนเคยรักกัน มันจะลืมรักของกันและกันได้เร็วขนาดนั้นจริงๆเหรอ  แล้วไอ้เด็กที่มาควงไอ้มาร์คเป็นใคร รู้จักกันตอนไหน ... ทำไมมันไม่เคยเล่าให้ผมฟังเลย


ด้วยความเครียดผมเปิดลิ้นชักในรถแล้วเอาบุหรี่ซองออกมา หยิบขึ้นมาหนึ่งมวนพร้อมไฟแช็ค แล้วเปิดประตูรถพิงรถคันเก่งก่อนจะสูบมันเข้าไปเพื่อคลายความเครียด  เอาจริงๆแล้วผมเลิกบุหรี่มาพักใหญ่แล้วล่ะครับ ไอ้มาร์คมันขอว่าไม่อยากให้สูบเพราะสุขภาพจะเสียเอา ผมก็ทำตามอย่างว่าง่ายพยายามเลิกอยู่เป็นเดือนแล้วก็สำเร็จ ที่ทำไปทั้งหมดเพราะผมรักมันมาก และผมก็พร้อมจะเสียสละทุกอย่างที่ทำให้มันมีความสุขได้ ทำไมทุกอย่างต้องกลายเป็นแบบนี้ด้วยก็ไม่รู้ ผมที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ก็เห็นผู้หญิงคนนึงเดินออกมาที่หน้าประตูใหญ่ของบ้านดูจากสภาพแล้วก็น่าจะเป็นสาวใช้ในบ้านแล่ะครับ ผมจึงตัดสินใจเดินเข้าไปถามให้แน่ใจว่า นี่คือบ้านของไอ้มาร์คจริงๆหรือเปล่า ไม่ใช่มานอนกกอยู่บ้านไอ้เด็กยักษ์เมื่อกี้ !


"ขอโทษนะครับ" ผมเอ่ยทักผู้หญิงสาวใช้ที่กำลังจะปิดประตูใหญ่ของบ้าน

"คะ คุณ ?"

"ที่บ้านนี้มีคนชื่อมาร์คปะครับ "

"หมายถึง คุณมาร์คเหรอคะ ? คุณหนูของบ้านใช่หรือเปล่าคะ"

"ใช่ครับๆ อยู่บ้านนี่ใช่หรือเปล่า"

"ใช่ค่ะคุณ มีธุระอะไรกับคุณหนูหรือเปล่าคะ"

ในจังหวะที่ผมกำลังจะบอก ก็มีผู้หญิงอีกเสียงนึงแทรกขึ้นมาซะก่อน






"คุยกับใครน่ะนวล"


TO BE CONTINUE




ช่วงคนเขียนคุยคุ้ยคุยกับผู้อ่าน

เขากลับมาแล้วทุกคน ขอโทษที่ไม่ได้มาอัพซะนานเลยพอดีช่วงที่ผ่านมาอีเว้นท์เยอะออกงานบ่อย 5555
เลยหายหน้าหายตาไปเลย กลับมาอัพแล้วน้า เม้นให้เขาด้วย กดบวกให้เขาด้วย T T
คือเข้ามากี่รอบเม้นก็น้อยมาก นี่แบบเอ๊อออออออ 5555555555555555 มันร้างเกินไปหรือเปล่าท่านผู้ช๊มมมม

แล้วเจอกันตอนหน้าน้า

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
ธันเอ๋ยนี่แกเห็นแค่นี้ทำเป็นโกรธ
ตอนมาร์คเห็นแกอี๋อ๋อกับเมอร์เมด ต่อหน้สแถมไม่สนใจมาร์คอีก ตั้งสองครั้งสองครา
แถมยังมีออกไปด้วยกันสองต่อสองอีก
ที่แกเจอยังน้อยไป คุณพ่อคุณแม่ไล่มันกลับบ้านมันไปเลย  :hao3:

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
ธนเอ้ย ไม่ลองคิดตอนที่มาร์คเห็นแกอยู่กับเมดบ้างละ
แล้วอีกอย่างถ้าอยากรู้ก็เข้าบ้านไปถามเลย เข้าไปคุยกับพ่อแม่เค้าซะ
ลูกผู้ชาย อยากเป็นเขยก็กล้าๆหน่อย

ออฟไลน์ hoshinokoe

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-0
อุ๊ยกลับมาแล้วววววววว
รีบๆไปเคลียร์เล้ยยยยย   

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
เอาล่ะซิ จะเป็นไงต่อ ลุ้นๆๆๆๆ
รอตอนต่อไปนะค๊าบบบบ ^^

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
อยากให้มาต่อจังเลย  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2

ออฟไลน์ orange332

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
ชี้แจงนิดหน่อยจากคนเขียน ><

ทุกคนมาแล้ววววววววว สวัสดี เราหายไปนานเราขอโทษ เราขอโทษจริงๆ T T

รู้สึกผิดไปยันลูกบวชเลยเราขอบอก T T คือตลอเกือบสองเดือนที่ผ่านมาเรามีงานด่วนแล้วก็เรียนด้วยการบ้านเยอะเกินไป

ทำไมเราไม่สามารถมาต่อ ธันวา มาร์คได้ แต่ไม่ได้ทิ้งไปไหนน้า เรายังอยากมาต่ออยู่ และคงมาต่อได้เร็วๆนี้

ขอบคุณหลายๆคนที่ยังติดตามอยู่แม้มันจะน้อยนิดก็ตาม แต่เราจะมาต่อให้เร็วที่สุดไม่ได้หายไปไหนนะ T T

รอ มาร์คกับ ธนัวาด้วยนะทุกคน T T

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
แค่รู้ว่าคนเขียนไม่ได้หายไปไหนก็อุ่นใจแล้วค่ะ
รอได้ๆ ^^

ออฟไลน์ AeRoMoZa

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
ตอนนี้เครียดแทนธันละ555
ค้างตอนที่ธันจะได้เจอหน้าแม่ยายพอดี โอ๊ย รีบมาต่อนะคะ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด