-7-
Special …ความคิด
ใครๆก็หาว่าผมเพอร์เฟ็ค เพียบพร้อมไปหมดซะทุกอย่างทั้งหน้าตานิสัยการเรียนฐานะ ซึ่ง....ถ้าคุณไม่เป็นผมคุณก็ไม่รู้หรอกว่าที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นมันไม่จริงเลยสักนิด
....บนโลกนี้ไม่มีใครเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบหรอก.......
ผมชื่อคิด... นายจินตนา จิราเดชโภคิน ชื่อเล่นของผมไม่ได้มาจากคำว่าKidที่แปลว่าเด็ก แต่มาจากความคิด ความคิดที่ผิดพลาดของคุณแม่และคุณพ่อ เพราะคุณแม่ตั้งมั่นว่าจะอยู่ร่วมกันกับคุณพ่อได้อย่างมีความสุขแต่ทว่านั่นเป็นความคิดที่ผิด แม่ผมเป็นชู้เขาโดยที่เจ้าตัวเองก็ไม่รู้ และพ่อผมก็ไม่นึกว่าแม่ผมจะท้องผมออกมา... นามสกุลผมเป็นนามสกุลของพ่อที่มีชื่อเสียงวงการธุรกิจ ผมรู้....พวกเขาไม่ได้อยากให้ผมใช้นามสกุลนี้นักหรอก และถ้าเป็นไปได้...ผมก็ไม่อยากใช้มัน
แม่อยู่ได้ไม่กี่ปีก็ฆ่าตัวตายด้วยแรงกดดันของสังคม
ผมทนอาศัยอยู่กับครอบครัวนี้มาตั้งแต่เกิดจนกระทั่งเข้ามหาลัย ที่ผมทนมาได้ก็เพราะยังคอยมีป้าสิ ป้าแม่บ้านที่คอยช่วยดูแลเลี้ยงดูผมเสมอมานั่นแหละครับ ผมใช้เงินเก็บส่งตัวเองเข้าเรียนถึงแม้จะค่อนข้างยากเอาการเลยล่ะเพราะค่าเทอมคณะผมไม่ใช่ถูกๆ แต่นับว่าผมโชคดีที่สอบได้อันดับต้นๆทำให้ทางคณะออกทุนค่าเทอมให้ถึง70%แลกกับการที่ผมต้องมีเกรดเฉลี่ยมากกว่า3.25 แม้ว่าผมจะต้องทำงานพิเศษช่วงปิดเทอมเพื่อหารายได้แต่นั่นก็ไม่ได้แย่นักหรอก ส่วนพวกเขาก็ไม่สนใจผมหรอกว่าผมจะทำอะไรหรือเรียนอะไร ผมรู้ว่าผมไม่ได้โตมาในครอบครัวที่อบอุ่นนัก แต่ผมก็ไม่อยากทำตัวเกเรเพื่อเป็นปัญหาให้กับสังคม
ดังนั้นสิ่งที่ผมทำคือการทำตรงข้ามกับการเป็นนักเลง...คือผมกลายเป็นคนยิ้มง่าย ผมยิ้มได้ตลอดเวลา เพราะผมเชื่อว่าแม้จะเจอเรื่องร้ายแรงมาแค่ไหนก็จงอย่าทำให้มันเลวร้ายลงด้วยจิตใจของตนเอง
ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่ร้องไห้ และยิ้มเรื่อยๆมา
จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมมีปัญหากับครอบครัวและทะเลาะกันรุนแรงมากโดยที่เรื่องทั้งหมดผมไม่มีส่วนผิดด้วยเลยแม้แต่นิด แต่กลับถูกทุกคนตอกหน้า ด่าทอ กล่าวว่าร้ายด้วยถ้อยคำเจ็บแสบ ผมตัวคนเดียวในตระกูลนี้อยู่แล้ว ไม่มีใครอยู่ข้างผม แม้ว่าป้าสิจะคอยให้กำลังใจผมอยู่ห่างๆแต่เพราะท่านไม่ได้เป็นคนในตระกูล ดังนั้นท่านจึงไม่มีสิทธิ์ออกปากเสียงได้ และนั่น...ทำให้ผมร้องไห้ออกมาอย่างหนักด้วยความสมเพชในโชคชะตาตัวเอง
และผมก็ได้เจอเขา...
ผมนั่งร้องไห้อยู่ระหว่างทางไปโรงเรียน สภาพจิตใจตอนนั้นของผมเจ็บช้ำมากจนไม่อาจพาร่างกายตัวเองไปเรียนตามปกติได้
“เป็นอะไรไหมครับ..”
ผมหยุดร้องก่อนหันไปหาเจ้าของเสียงที่อยู่ตรงหน้าผม ...ผมคิดว่าผมแอบร้องในที่ๆไม่มีคนสัญจรแล้วนะ เขา...มองมาที่ผมด้วยสีหน้าสงสัยและดูเป็นห่วง... แต่ผมส่ายหน้าแล้วพยายามยิ้มให้เขา คนตรงหน้าชะงักเล็กน้อยก่อนจะเอื้อมมือมา...ลูบหัวผม...
ความอบอุ่นจากมือเขานั้นทำให้ผมน้ำตาทะลักออกมาอีกครั้ง
เขาทำในสิ่งที่ผมไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนในชีวิตนี้นั่นก็คือ การกอด... ผมรู้ว่านั่นเป็นเรื่องที่แปลก แปลกมาก เรียกได้ว่าผิดปกติเลยล่ะที่จะมีใครยอมกอดคนแปลกหน้าเนี่ย
“ถ้าตอนที่พี่ร้องไห้..คุณแม่ก็จะกอดพี่ไว้แบบนี้น่ะครับ เพราะฉะนั้นน้อง...ไม่เป็นไรนะครับ”
เขาเอ่ยพร้อมกับกระชับอ้อมกอดทำให้น้ำตาผมไหลไม่หยุด
และในวันนั้นก็เป็นครั้งแรกที่ผมโดดเรียน
เขาไม่ได้อยู่กับผมทั้งวันหรอก พอผมร้องไห้เสร็จเขาก็ลูบหัวผมแล้วบอกให้เข้มแข็งเอาไว้ ก่อนจะเดินจากไปเมื่อรู้ว่าผมสามารถกลับบ้านได้เอง และเพราะคำพูดของเขาทำให้ผมเข้มแข็งได้มากกว่าเดิม เขาทำให้ผมรู้ว่าโลกนี้ไม่ได้เลวร้ายเสมอไปนักหรอก
นั่นเป็นเรื่องตอนผมอยู่ม.สอง ผมไม่ได้เจอเขาอีก แต่เขาทำให้วิถีชีวิตผมเปลี่ยนไปมากโขเลยแหละ จากแต่ก่อนผมชอบผู้หญิง ผมก็มองสาวๆตามปกติแต่พอมีเขาเข้ามาทำให้ผมเริ่มมอง...ผู้ชายด้วยกัน แต่ผมก็ไม่ได้เกลียดผู้หญิงนะ
ผมสอบเข้าม.ปลายที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง ชีวิตผมดำเนินไปตามปกติจนกระทั่งขึ้นม.ห้า ผมได้พบกับเขา! ผมก็เพิ่งรู้ว่าเขาอายุเท่ากับผม(แต่ทำไมตอนนั้นเขาเรียกผมว่าน้องล่ะ!)และอยู่โรงเรียนนี้มาพร้อมกับผมตั้งแต่ตอนม.สี่แล้ว เชื่อผมเถอะว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาผมไม่เคยเห็นหน้าเขาเลย เขาเริ่มมีตัวตนก็เพราะเขาได้เลิกคบกับรุ่นพี่สาวสวยคนหนึ่งในโรงเรียน เห็นว่าพวกเขาเริ่มคบกันมาตั้งแต่ก่อนเขาขึ้นม.สี่ แต่มาเลิกกันเอาตอนนี้ เป็นข่าวดังเลยแหละครับเพราะไม่มีใครคิดว่าเขาจะกล้าบอกเลิกผู้หญิงสวยๆแบบนี้ และนั่นทำให้ผมสังเกตเห็นเขา น่าแปลกที่เขาเปลี่ยนไปมากแต่ผมกลับยังจำเขาได้
เขาเปลี่ยนไปค่อนข้างมากเลยจากตอนแรกที่ผมเห็น ก่อนหน้านี้เขายังไม่ใส่แว่นและก็ตัวเตี้ยกว่านี้ ผมเขาตอนนั้นยังเกรียนอยู่เลย แต่ตอนนี้เขากลับใส่แว่นหนาเตอะ ผมยุ่งๆและก็ตัวสูงใหญ่ขึ้นมาก ถ้าเดินผ่านเขาระหว่างทางเชื่อได้เลยว่าไม่เป็นที่สังเกตแน่ๆ เขาทำตัวไม่สะดุดตาเอาซะเลย
ตั้งแต่ที่ผมรู้ว่าเขามีตัวตนอยู่ในโรงเรียนเดียวกับผม กิ๊กทั้งหลายที่ผมคุยด้วยไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชายผมก็พยายามเลิกรากันไปครับ เห็นอย่างนี้แต่ผมน่ะป็อปไม่หยอกเลยนะ มีคนเข้ามาคุยกับผมเยอะแยะไปหมด แต่ผมก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อน ผมแค่รู้สึกว่ามันยังไม่มีคนที่ผมอยากจะเรียกได้ว่าแฟนในที่นี้น่ะ (แต่ตอนนี้ดูเหมือนผมจะเจอคนๆนั้นแล้วล่ะ ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเขาอยากเป็นแฟนกับผมรึเปล่าก็เหอะ)
ผมแอบไปถามเพื่อนในห้องเขามาและได้รู้ว่าเขาชื่อ แรม นายข้างแรม กรภัควัฒน์ อ่า...ชื่อเท่ชะมัด ผมอยากพูดคุยกับเขา อยากขอบคุณเขาในเรื่องวันนั้นสักครั้งแต่ผมก็ไม่กล้าเข้าไปหาเขาเสียที ผมตื่นเต้นทุกครั้งที่มีความคิดว่าวันนี้จะเข้าไปคุยกับเขาให้ได้(แม้จะล้มเหลวทุกครั้งก็เถอะนะ) จนกว่าผมจะรู้ตัวว่าชอบเขาก็ปาไปตอนเกือบจบม.ห้า ทีแรกผมนึกว่าผมแค่ปลื้มๆเขานี่...
จนแล้วจนรอดตลอดชีวิตมัธยมของผมนั้นก็ได้คุยกับเขาแค่..
‘นายๆอ.สุภัคเรียกน่ะ’
โถ่...ชีวิตม.ปลายที่เป็นช่วงชีวิตของรักแรกแย้มของผมจบสิ้นแล้ว....
แต่มันยังไม่จบง่ายๆแค่นี้หรอกครับ! เพราะผมไปตามสืบมหาลัยที่เขาจะไปต่อ และ...ผมก็เลือกมหาลัยเดียวกับเขาโดยไม่ต้องสงสัย แต่คณะที่จะเข้านี่ผมเลือกเองนะไม่ได้ลอกเขา บังเอิญหรือพรหมลิขิตมิอาจทราบได้ที่ทำให้เขาอยากเรียนคณะเหมือนกันกับผม (โถ่..ถ้ารู้ว่าอยากเรียนสถาปัตย์เหมือนกันล่ะก็ ป่านนี้มีเรื่องชวนคุยไปแล้ว..)
พอเข้ามหาลัยผมก็ได้รู้จักเพื่อนๆที่นี่จากเพื่อนที่รู้จักกันตอนมัธยมเป็นส่วนใหญ่ และผมก็ได้รู้จักกับนัน นันเป็นเพื่อนของเปเปอร์ที่เป็นเพื่อนในกลุ่มของผมอีกที นันอยู่สาขาภูมิสถาปัตย์และอยู่กลุ่มเดียวกับเขาด้วย นั่นทำให้เวลาว่างนันจะมาเล่าเรื่องของแรมให้ผมฟังเป็นพักๆ เขารู้ว่าผมชอบแรมจากท่าทางของผมน่ะ ผมไม่ได้บอกเขาหรอกแต่เขาจับได้ แต่เขาก็ไม่เคยเอาเรื่องนี้ไปพูดกับใครนั่นทำให้ผมค่อนข้างที่ประทับใจในตัวนันพอสมควรเลยแหละ
แรมในมุมมองของผมดูเป็นคนธรรมดาทั่วๆไป ผมเขาดำและยุ่ง และเพราะผมเขามาปรกหน้าเขาด้วยทำให้สังเกตเห็นหน้าเต็มๆไม่ค่อยชัดบวกกับการที่เขาใส่แว่นหนาเตอะเทอะหน้าด้วยแล้ว ตัวเขาสูงมากแต่ดูสมส่วน ผมเดาว่าเขาสูง180ขึ้นแน่ๆ แรมยิ่งดูเป็นคนธรรมดามากเมื่ออยู่ในคณะนี้เพราะส่วนใหญ่คณะผมหล่อเซอร์ก็มีอยู่เยอะครับ แต่หล่อสถุลเยอะกว่า ไอ้พวกไว้ผมยาวหนวดเครารุงรังนี่มีเป็นกองทัพ แรมกลายเป็นคนธรรมดาสาธารณะชนไปเลยล่ะ
แต่ใครจะสนล่ะ ผมไม่ได้ชอบเขาที่หน้าตาซะหน่อย จะมีใครสักกี่คนกันที่ยอมช่วยเหลือคนแปลกหน้าได้อย่างจริงใจ(และสนิทชิดเชื้อ)เท่าเขา แน่นอนเขาไม่ได้ช่วยเหลือแค่ผมหรอก ผมสังเกตเขาตลอดแหละ แรมเป็นคนที่ถ้าใครไหว้วานให้ช่วยอะไรแล้วเขาจะยอมช่วยแบบไม่อิดออดเลยล่ะ เขาดูจริงใจมากจนไม่น่าเชื่อ ผมได้ยินมาแรมเป็นคนซื่อๆและขี้อายแต่ถ้าเขาทำเพื่อใครแล้วล่ะก็ลืมแรมคนเก่าได้เลย ในตอนรับน้องผมเคยเห็นเขาเสนอตัวออกไปยอมโดนลงโทษด้วยการยืนย่อแทนเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งในสาขาเขาน่ะครับ(ผู้หญิงคนนั้นน่าอิจฉาชะมัด!)
และนั่นแหละเสน่ห์ของเขาที่ทำให้ผมหลงหัวปักหัวปำ
แต่ทว่า จวบจนกระทั่งปีหนึ่งผ่านไปผมก็ยังไม่ได้คุยกับเขาซะที ฮืออออออ แม้ว่าจะผ่านการรับน้องมาด้วยกันหรือมีนันเป็นสายให้ผมก็ตาม แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยให้ผมสนิทกับเขามากขึ้น อีกทั้งงานแต่ละสาขาก็ประเคนเข้ามาเสียเหลือเกินจนแทบไม่มีเวลาหาทางเข้าไปคุยกับเขาเลย แม้ผมจะแอบสอดส่องเขาอยู่ห่างๆก็เถอะ
ถึงแม้ผมจะชอบเขาก็เหอะ แต่การจะให้บอกความจริงข้อนี้ให้เขารู้หรือไอ้ที่เรียกกันว่าสารภาพรักนั่นน่ะ ไม่ได้อยู่ในหัวผมหรอก ผมก็คนปกตินะ ผมย่อมกลัวการผิดหวังเป็นธรรมดา อีกทั้งยังเป็นการชอบผู้ชายด้วยกันแล้วเนี่ย จะมีผู้ชายสักกี่คนกันที่ยอมรับเรื่องนี้ได้
มาขึ้นปีสองอยู่ในยุคปัจจุบัน ผมพยายามป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆสาขาเขาบ่อยๆ ผมไม่ยอมแพ้หรอก และความพยายาม(แบบบังเอิญ)ของผมก็ทำให้ผมได้คุยกับเขาคาบเลคเชอร์ปอศอ ผมถือโอกาสนี้เป็นการแนะนำตัวเองให้มีตัวตนอยู่ในสายตาของเขา
ผมยิ้มทักเขาบ่อยๆ แม้ว่าที่จะได้รับกลับมาเป็นแค่การพยักหน้าน้อยๆของเขาก็เหอะ ในตอนบ่ายวันพุธผมได้รับข้อความจากนันว่าแรมนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟท่าน้ำคนเดียว และนั่นเป็นโอกาสของผมสินะ
ไม่รอช้า ผมเดินหาชื่อร้านกาแฟนั้นตามที่นันบอก แต่ใครจะไปคิดว่าฝนมันจะเสือกตกลงมาเล่า! ผมวิ่งหลบฝนจนมาเจอร้านกาแฟที่นันว่า และก็....เจอเขาจริงๆด้วย
ผมใช้ความหน้าด้านเข้ามาหาเขาทันทีที่เข้าถึงร้าน เขาสั่งโกโก้ร้อนให้ผม ให้ผมดูสมุดเสก็ตของเขาและภาพที่เขาวาดนั่นมันสวยเอามากๆ ผมพยายามหาเรื่องคุยกับเขาโดยยกเรื่องเรียนมาอ้าง ผมฟังเขาอธิบายเรื่องต้นไม้ตามที่เขาถนัด(ตามข้อมูลที่ได้มาจากนัน)จนผมเริ่มหมดมุกจะถามเขาเพื่อต่อบทสนทนาต่อแล้ว
แต่ผมไม่ยอมจบแค่นี้หรอก!!
ผมถามกึ่งบังคับให้เขาอยู่เป็นเพื่อนผมกินเค้ก และเมื่อผมถามเค้กจากเขา บลูเบอร์รี่ชีสเค้กเป็นชื่อเค้กชื่อแรกที่เขาเอ่ยออกมา นั่นทำให้ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเขาต้องชอบมันแน่ๆ ผมเลือกบลูเบอร์รี่ชีสเค้กแบบไม่ลังเลพร้อมกับนมวนิลาอุ่นๆมาช่วยบรรเทาอาการหนาวของผมตอนนี้
เขาได้ยื่นเสื้อคลุมของเขามาให้
นั่นทำให้ผมเขิน....ไม่น้อยเลยทีเดียว
ผมบอกว่าคิดว่าเขาจีบผมไปอย่างหน้าด้านๆ เพราะอยากรู้ปฏิกิริยาของเขา แต่ผมก็ต้องใจแป้วเมื่อเขาทำแค่เม้มปากแล้วก้มหน้าหลบตาผม....
อ่า....ทำไมผมถึงคิดว่าเขาจะชอบผู้ชายกันล่ะ
แต่ผมก็ยังคงทักเขาอยู่เสมอ เพราะหวังจะใช้ความสนิทสนมที่มากขึ้นนี้เป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์
โอกาสมาอีกครั้งเมื่อนันโทรมาบอกผมว่าอยู่ร้านเหล้าร้านเดียวกับพวกเปเปอร์ และแรมก็กำลังจะตามมาในไม่ช้า ผมไปที่ร้านนั้นแบบแทบไม่ต้องคิด(แม้จะแอบโกรธไอ้เป๊ปที่มันไม่ยอมชวนผมก็เหอะ)
แต่พอไปถึงนันกลับบอกว่าเขายังไม่มาแต่น่าจะมาในไม่ช้า นั่นทำให้ผมสลดอยู่พักหนึ่ง ผมโดนไอ้พวกเปเปอร์สั่งห้ามไม่ให้กินเหล้าอีกตลอดชีวิต(ใครมันจะทำได้!) เห็นพวกเพื่อนผมกินเหล้ากันสนุกสนานเฮฮาแล้วทิ้งผมแกร่วกับน้ำโค้กเนี่ย ผมยอมไม่ได้หรอก ผมพยายามแอบเติมเหล้าใส่แก้วตัวเองบ่อยๆ แม้มันจะไม่สำเร็จก็เถอะ เมื่อแอบเหลือบไปมองโต๊ะนันอีกครั้งก็พบว่าเขามาแล้ว! เขานั่งอยู่ข้างหลังผม ชิ...วิวไม่ดีเอาเสียเลย
ผมพยายามหันหน้าไปทางไอ้โคมที่อยู่ทางขวาของผมบ่อยๆ เพราะอยากจะแอบเหล่แรมน่ะ ดูเหมือนไอ้โคมจะรู้ว่าผมมีเจตนาอะไรเลยโดนผลักหัวบ่อยๆ(โคมกับเปเปอร์เป็นอีกสองคนที่รู้ว่าผมชอบแรมครับ) ผมพยายามหันไปมองแรมบ่อยๆพอๆกับพยายามรินเหล้าให้ตัวเอง และผมก็รินได้สำเร็จจนได้
ไม่มีใครรู้ว่าผมกินเหล้าจนกระทั่งผมเมานั่นแหละ วงแตกเลย ผมเคยเมากับไอ้พวกนี้อยู่ครั้งสองครั้งตอนอยู่ปีหนึ่ง พวกเพื่อนผมก็ช่วยดูผมนั่นแหละครับพร้อมกับให้คำปฏิญาณว่าจะไม่ดูแลผมอีกถ้าผมเมา ซึ่ง...ผมก็รู้ตัวนะว่าตอนตัวเองเมาเป็นไง แต่มันควบคุมไม่ได้(ก็เมานี่ครับ) แต่สาบานได้ว่าผมไม่คิดจะเมา ผมแค่อยากจิบแอลกอฮอล์เหมือนคนอื่นๆบ้างแค่นั้นเอง แต่ดูเหมือนผมจะใส่เหล้าเยอะไปหน่อยล่ะมั้ง...
เขาว่ากันว่าคนเมาจะมีอยู่สองประเภทใหญ่ๆ คือเมาแล้วจะเพิ่มนิสัยเดิมของตัวเองให้รุนแรงมากขึ้น กับเมาแล้วจะดึงอีกนิสัยของตัวเองออกมา
ผมเป็นประเภทอย่างหลังครับ ผมเฝ้าหาอ้อมกอดของใครๆอยู่เสมอเพราะตอนเด็กผมไม่เคยมีใครกอดผมแม้แต่แม่ผม ผมอยากมีใครให้อ้อนได้สักคนเพราะตอนเด็กผมไม่เคยมีใครให้อ้อน ผมร้องไห้ได้ตลอดเวลาตอนเมาเพราะในชีวิตจริงผมจะไม่ร้อง พูดง่ายๆก็คือตัวตนของผมอีกแบบต้องการความรัก ความดูแลเอาใจใส่ครับ ผลมันมาปรากฏตอนเมานี่แหละ และดูเหมือนเพื่อนๆผมจะรับสภาพนี้ไม่ได้สักเท่าไหร่(นั่นก็น่าน้อยใจนะครับ)
วงเหล้าโต๊ะผมแตกตื่นเมื่อเห็นสภาพผม ไม่นานนักไอ้เป๊ป(หรือเปปอร์)ก็กลับมาพร้อมกับแรม จริงๆผมตกใจมากเลยนะที่เห็นเขา ผมนึกสงสัยที่คนที่เป๊ปตามมาทำไมไม่ใช่นันที่เป็นเพื่อนของเขา(ภายหลังมารู้จากไอ้เป๊ปว่านันมันไว้ใจไม่ได้ครับ) เพื่อนเป๊ปและเพื่อนคนอื่นก็ผลักไล่ไสส่งผมให้ไปอยู่กับแรม ซึ่งพอผมปะทะเข้ากับอกเขาผมก็กอดหมับทันที(...)
แรมพาผมกลับคอนโดเขา...ล่ะมั้ง ผมกอดเขาไม่ปล่อยและการที่แรมไม่ได้ว่าอะไรที่ผมกอดเขานั่นทำให้ผมรู้สึกดี ไม่เหมือนไอ้พวกเพื่อนบ้าบอที่พยายามหลีกหนีไม่ยอมให้ผมกอด ผมควบคุมตัวเองตอนเมาไม่ได้หรอกครับแม้จะรู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปก็ตาม ในช่วงระหว่างเมานั้นไม่มีหรอกนะความอายน่ะ
แรมดูแลผมดีมาก มากๆ มากถึงมากที่สุด แม้ผมจะดื้อ เอาแต่ใจหรืองอแงใส่เขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะโกรธผมเลย แม้แต่ตอนที่ผมทำแก้วเขาแตกเขาก็แค่อุ้มกึ่งลากผมไปไว้ในห้อง และกลับเข้ามาหาผมในห้องด้วยสีหน้าปกติ นั่นทำให้ผมได้ใจ
จนเผลอ...จูบเขาลงไป.......
เพราะตอนนั้นยังไม่มีสติจึงยังไม่ทันได้ฉุกคิดว่า ไม่ว่าใครก็ต้องมีขีดจำกัดความอดทนบ้างแหละ แรมก็เช่นกัน เขาผลักผมลงบนเตียงอย่างแรงด้วยความตกใจ สีหน้าของเขาในตอนนั้นทำให้ผมคิดว่าเขาคงเกลียดผมเข้าแล้วล่ะ...
นึกแล้วก็น้ำตาคลอขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
เขาเม้มปากเบือนหน้าหนีผมก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไป ผมทำอะไรไม่ถูก ผมไม่อยากถูกเขาเกลียดนี่ ผมพร่ำขอโทษเขาและขอร้องให้เขาเปิดประตูให้เพื่อที่จะได้ปรับความเข้าใจกัน ผมร้องไห้จนเสียงแหบพร่า แต่บานประตูก็ยังคงปิดสนิท นี่ผมทำอะไรลงไป! ผมกำลังทำลายความสัมพันธ์ดีๆของเขากับผมที่กว่าผมจะสร้างมันขึ้นมาได้
พระเจ้า...ได้โปรดช่วยย้อนเวลาให้ผมที
_____________________________________________________________
ติดนิยายเรื่องอื่นจนเกือบลืมเอานิยายตัวเองมาลง55555 (คนอ่าน :

)
พาร์ทนี้เป็นความในใจของคิดค่ะ
ใครเดาว่าคิดชอบแรมนี่เดาถูกแล้วค่า ฮึ่ม....ไม่คิดว่าจะดูง่ายขนาดนั้น เล่นเอาเราช็อคนิดๆที่มีคนจับไต๋ได้55
เพราะอยากให้ทุกคนเห็นว่าคิดไม่ได้เลิศเลออย่างที่ใครว่ากัน
เขาก็เป็นมนุษย์มีจิตใจเหมือนกันไม่ได้คิดว่าตัวเองเลิศเลอ คิดแค่พยายามทำตัวให้เพอร์เฟ็คน่ะค่ะ
บนโลกนี้ไม่มีใครเพียบพร้อมสมบูรณ์แบบจริงๆหรอก
ที่วางคาแรคเตอร์ให้คิดก็ชอบแรมเพื่ออยากบอกแรมที่คิดว่าตัวเองเป็นคนธรรมดาอย่างเขาเองก็ถูกรักและสมหวังในรักได้เหมือนกัน แล้วแรมที่เอาแต่ดูถูกตัวเองตลอดจะรู้สึกอย่างไรเมื่อนางฟ้าของเขาเองก็ชอบเขาเช่นกันน่ะค่ะ
เอาใจช่วยคนเล่นของ(สูง)สุดๆ อิอิ
โมเม้นคู่นี้จะมุ้งมิ้ง เขินกันไปเขินกันมาตามประสาคนแอบชอบกัน

อ่านพาร์ทความคิดนี้แล้ว มีความเห็นอย่างไรกันบ้างคะ

บอกเค้าหน่อยก็ดีนะตัว...
ปล.สังเกตดีๆสิสังเกตๆ เค้าแต่งยาวกว่าเดิมแล้วนะๆๆๆ ดูดีๆ5555555555555
_____________________________________
ตอบเม้นค่ะ

bulldog17 คิดงอแงสุดๆไปเลย...
warin ใช่เลยยย อุอุ
yisren. ม.6ก็สู้ๆนะคะ ใช้ชีวิตม.6ให้คุ้มค่า5555
PetitDragon พระเอกสุดๆ
kongxinya แรมเป็นคนดีเกินไปค่ะ 55//จริงๆมันก็ไม่ได้เลวร้ายนักหรอกค่ะแต่หวังมากกว่านี้ หุ ขอบคุณสำหรับกำลังใจมากๆนะคะ

KhunMay นั่นสิ สงสารคิดเนอะ T_T
Ra poo กรี๊ดดด ใจเย็นค่ะะะ อย่าทำร้ายคิดดด55555555555
tsundere ผนังบางเพราะความงอแงของคิดค่ะ จริงๆนะ อุอุ

ตอน7มาแล้วค่าๆ
hoshinokoe แรมคงบันทึกเอาไว้เป็นตำนานของเขาเลยล่ะค่ะ 5555
pockypocky ฮือ..ทำไมทายถูกล่ะ 55555 มาต่อแล้วค่ะๆ
BeeRY สงสารทั้งคนเก็บและคนถูกเก็บเลยค่ะ อิอิ
AMINOKOONG ไม่ใช่แผนการแต่อย่างใดค่ะ แต่ทายถูกนะประโยคหลังน่ะ

mystery Y ไม่คิดว่าชื่อเรื่องจะน่าดึงดูดใจค่ะ55555555555 ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ//เอาพระเอกซื่อบื้ออย่างแรมมาถ่วงดุลอำนาจค่ะ 5555
Jthida นั่นสิ แม้แต่คนเขียนยังชอบรังแกแรมเลย(....)
ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นค่ะ

____________________________________________________