...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.  (อ่าน 422124 ครั้ง)

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :mew1: ตอนนี้มายาวสะใจจริงๆ

ไม่น่าเชื่อว่าอิเด็กธารมันจะเทพขนาดนี้  o22
คือบริหาร กับ แพทย์ มันต่างกันมากเลยนะ ทั้งทักษะและเทคนิคเข้าสังคม หมอกับนักธุรกิจมันต่างกันมากจริงๆ
นี่หรือคือความเทพของธาร พี่ทรายเจอยังอึ้งเลย

อ่า่นตอนนี้แล้วแทบไม่คิดเลยนะเนี่ยว่าที่ผ่านมามีดราม่า
คือเป็นตอนพักอารมณ์อย่างเหลือเชื่อ ช่วงแรกๆแลดูจริงจังดี ให้บรรยากาศเคร่งขรึม
ตอนธารสั่งงานถ้าเราเป็นเลขาเจอยังงี้คงอึ้งเหมือนกัน

 :jul1: อ๊ายยยยยยยยยยยย อิธารอิเนียน แต๊ะอั๋งตลอด พอเข้าใจตัวเอง ทำใจยอมรับได้แล้วเอาใหญ่เลยนะ
ลวนลามกันเข้าไป สบายใจอยู่คนเดียวแต่พี่ทรายไม่รู้ว่าแกให้อภัยขนาดไหนแล้ว
พี่ทรายยังเก็บไปคิดเล็กคิดน้อยอยู่เลยนะนั่น มีดราม่ากระตุกเล็กๆได้ใจจริงๆ
แต่ไอ้เรื่องพี่ทรายกับธาร เราว่าสักพักน่าจะมีคนสังเกตเห็นนะ มันแสดงออกชัดเหมือนกัน
เลขาอะไรกินข้าวกับนายบนห้อง ให้ถอดกล้องจากลิฟท์ส่วนตัว หวงพี่ทราย คอยลวนลามอีกต่างหาก


แอบคิดว่าฝ่ายจัดซื้อนี่จะแอบตลบหลังในอนาคตป่าวเนี่ย แลดูมีบทพอสมควรนะ
ส่วนดอกเข็ม ฉันขอโทษฉันมองเธอผิดไป

ธารมันแสดงตัวคล้ายๆว่าอยู่กับทรายอย่างนี้เรื่อยๆก็ไม่เป็นไร เหมือนมันคิดว่าปัญหาจบแล้ว
แต่สำหรับทรายมันเป็นการเพิ่มความเครียดกว่าเดิมอีกมั้ง ทั้งเรื่องงานและหัวใจ
คือยังไม่เรียบร้อยซักเรื่อง ว่าจะเป็นยังไงต่อ แต่เรื่องงานก็พอวางใจได้ แต่ก็ต้องดูนานๆอ่ะนะ ธุรกิจมันดูแป๊ปเดียวไม่ได้หรอก

ก่อนจบตอนดันมีชื่อ ธิป มาซะงั้น รู้สึกรำคาญมันแฮะ คราวนี้มาจะมาแหลหรือดราม่าอะไรใส่อีกล่ะ  :angry2:

ปอลิง : แอร๊ยยยยยยยยย  :m3: ช่างเป็น unseen ที่เลอค่ามาก
ทัตซีมาทีไรฟินกระจายนำกน้าคู่หลักสิบแปดหลุม ไอ้บรรยากาศที่เลยคำว่ามุ้งมิ้งไปแล้วนี่คืออะไร
จะบอกว่าเพื่อนไม่เชื่อเด็ดขาด อย่างน้อยต้องมากกว่าเพื่อนแน่นอน
พูดจายังกะสามีภรรยาที่อยู่กินมาตั้งนาน คู่นี้ไม่ต้องเอ็นซีก็ฟินกะจายแล้ว
สุดท้ายขอให้ได้คบกันเถอะ  :m5:

ออฟไลน์ janji

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 118
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
หลงรักเรื่องนี้มากมาย  :mew1: :mew1: :mew1: :L2: :3123:

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
หวานกำลังดี แต่เสียงสุดท้ายทำเอาหลอนเลย  :katai1:
มาทำไมเนี่ยธิป กลับบ้านไปกินนมนอนเลยไป :angry2:

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
นิยายเรื่องนี้สนุกมากครับ น่าติดตาม คนเขียนอย่าเพิ่งหมดไฟนะ คนอ่านรอคอยตอนใหม่อยู่ทุกวัน

buakaly

  • บุคคลทั่วไป
 :katai2-1:


อ่า .......แบบว่า

คุณหนมปังกาแฟ ขอรับ
กระผมอยากอ่าน coz you ต่อ นะขอรับ
ช่วยลงต่อได้มั๊ยขอรับ
............
นะขอรับ

ออฟไลน์ NumPing

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 502
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-2
อร๊าย ตอนนี้มันน่ารักนะนัก ในมุมของคนทำงาน ธารนี่มันไม่เด็กน้อยนะ ทำงานเก่งนะเรา ไม่ธรรมดาทุกเรื่องจริงๆ

แต่สำหรับเรื่องอื่น เด็กน้อยว่ะ อ้อนตลอดเว คลุกวงในหม่ำเหมอ แกนี่มันติดพี่เลี้ยงจริงๆ ว่ะ ไหนตอนแรกๆ บอกว่าโตแล้ว ไม่เอาพี่เลี้ยงไงหา  :z1:

ชนาธิป เบื่อ ช่างเป็นคนที่น่าเบื่อจริงๆ แบบเหมือนเห็นหมามุ่ยอ่ะ ประมาณนั้น  :m16:

นักเขียนเก่งจริงๆ ดึงความรู้สึกเราได้ขนาดนี้

ออฟไลน์ love AJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
 o13 o13

น้องธารเก่งมากธิปนี่ขัดอารมณ์จริงๆ

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
ต้องบอกว่าตอนนี้ก็เป็นตอนที่หวานและฟินมากกกกกกขึ้นนนนนนนน :heaven

อีเด็กน้อยเริ่มไปทำงานแล้ว มาดผู้บริหารให้มากเลยอ่ะ นึกภาพออกเลยว่าใสสูทแล้วดูเป็นยังไง มันต้องแน่นเปรี้ยะ ฟิตแน่น รัดเป็นมัดๆแน่เลย ตูอยากเป็นทรายจังเบย  :haun4:

ต้องชมว่าธารปรับตัวได้เร็วดีมาก รู้จักเรียนรู้ได้ดี สนใจศึกษา ทักษะการพูดจาการวางตัว ทำเอาปลื้มมมมมม o13 ต้องยกความดีความชอบให้แม่ที่สอนอบรมมาอย่างดีถึงคุณลูกจะเอาแต่ใจแต่เพราะความรักก็ทำให้ธารทำเพื่อแม่ได้ :กอด1:  และอีกหนึ่งความรักและกำลังใจที่ไม่ชมไม่ได้ พี่ทรายยยยยย ของมันนั่นแหละ o13 ที่ทำตามสัญญาที่รับปากภัครไว้ว่าจะช่วยดูแลธารเป็นอย่างดี  ย้อนไปอ่านแล้วเพิ่งรู้สึกว่ามันเหมือนเป็นคำพูดที่เป็นลางว่าวันหนึ่งอาจจะเกิดอะไรขึ้นกับตน แล้วธารจะไม่มีใครช่วยเหลือ  :เฮ้อ: ต้องบอกว่า ภัครไว้ใจทรายมาก ทรายไม่ทำให้คุณภัครผิดหวังจริงๆ เชื่อว่าวันหนึ่งถ้าภัครหายดีและรู้ถึงความสัมพันธ์ของธารกับทราย คิดว่า ภัครคงรับได้ไม่ยาก แต่อาจจะมีอุปสรรคนิดหนึ่งก็ได้ ตามประสาคนเป็นแม่ที่ต้องเลือกสิ่งที่ลูกมีความสุขก่อน ภัครอาจจะต้องพิสูจน์เชิงขัดขวางเพื่อทดสอบทั้งสองคนว่ารักกันจริงหรือแค่หลงทางไป เรามั่นใจในตัวธารนะ แต่กับทราย กลัวจะคิดเยอจังเลย ไม่ใช่ว่าทรายไม่รักธาร ก็เพราะรักเลยไม่อยากเป็นคนทำให้ธารและภัครเกิดปัญหาตามประสานิสัยทรายที่ต้องคิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง เพราะฉะนั้นธาร นอกจากงานราช งานหลวง รวมถึงงานบ้านที่แกทำกับพี่ทรายเป็นประจำด้วยความเชื่อมั่นว่า ตูหื่น เสียว เอาพี่ทรายแค่คนเดียวเท่านั้น แกต้องทำให้ทรายเชื่อมั่นในความรักที่มีให้อย่างแท้จริงด้วย ไม่ใช่แค่เพราะเป็นที่ระบายเหมือนที่ปากพูดออกไปไม่ตรงกับใจ พูดและทำซะ ว่ารักทรายมากจนไม่มีจะไปเหลือให้ใครแล้ว อย่าทำให้ทรายและฉันผิดหวัง ตูขอเอี่ยวด้วย จะได้เจี๊ยวทั้งวง  :jul3:

งานดี วางตัวดี ดีหมด รวมถึงไอ้เรื่อง  :pighaun: แกก็มากขึ้นตามลำดับ ห้องทำงานก็ไม่เว้น :haun4: อีเด็กนี่บอกขอลังใจหน่อย แรกๆกอดจูบลูบคลำขยำขยี้ สักพักอีเด็กนี่เริ่มขอออกกำลังแทนแล้ว  :oo1:  ไม่ได้กลัวอะไรเล๊ยยย อย่างนี้สิลูกผู้ชายตัวจริง ในลิฟท์เมิงก็ไม่เว้น สั่งคนถอดกล้องแม่งเลย แสดงว่ามันเป็นเด็กที่จริงจัง มุ่งมั่นสู่จุดหมายมั๊กมากๆ หายากนะคนแบบนี้ พูดจริงทำจริง พร้อมแสดงความรักได้ทุกสถานที่โดยไม่แคร์ใคร แค่มีพี่ทรายกับตัวมันเองทำได้หมด ทราย แกคว้าไว้เถอะ ฉันคอนเฟริม์ o18
  ถ้าไม่คิดว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นก่อนหน้า นับเป็นคู่รักที่น่าอิจฉามากกกกกกกก :hao5: ทั้งคู่รักกัน ปรึกษาหารือช่วยเหลือซึ่งกันและกันทุกเรื่อง ธารทำได้ดีมากจนทรายชื่นชมและแว่บหนึ่งก็อดสงสารธารที่ต้องมาแบกรับหน้าที่ใหญ่เกินวัย แค่เรื่องเรียนก็หนักพอแล้ว ทำให้ทรายโทษตัวเองอีก แต่ทั้งคู่ก็ดึงอารมณ์กลับมาได้ไว ชอบเวลาที่ทั้งคู่อยู่ด้วยกันแบบเป็นตัวของตัวเอง ชอบธารที่อ้อนพี่ทราย งอนพี่ทรายที่ไม่หวงตัวเองให้คนอื่นมาจับตัว แหม่ๆ ทำตูอิจฉาที่เมิงรักนวลสงวนตัวให้เมียเกินไปแล้ว :serius2:  แต่ก็อดจะสงสารไม่ได้ ถ้าวันหนึ่งทรายเดินจากไปไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ธารคงเจ็บปวดน่าดู ทรายก็เช่นกัน ก่อนถึงวันนั้น จัดเต็มฉากหวานและฉากหื่นนนนเต็มที่เลยนะ คนเขียน จะตุนเอาไว้รอมาม่าที่จะคืบคลานเข้ามาอีก :z1:

กำลังฟินอยู่ดี ๆ อีธิปเมิงมาทำไม อยากโดนพี่ทรายจัดมากชิมิ๊ ทะเร่อทะร่าวิ่งมาไม่ได้ดู ตูเป็นทรายจะเอาตีนยันให้ :z6: ถ้าเขามาใกล้ในอาณาเขตที่ทำไว้ อย่าได้ถอยจัดไปเลยพี่ทราย ธารด้วย จะยั่วจะอะไรก็ให้พอดีหน่อย อย่าให้มากนัก เอาแบบพี่ทรายออกอาการนิดๆแล้วกลับไปคิดทบต้นออกดอกที่บ้านหลายๆดอก :hao6: ส่วน อีธิปให้มันคันหน่อยๆ เพราะไม่มีใครเกาไข่ให้ก็พอนะ ถ้ามันค่อยขยับเราก็ขย้ำจัดเต็มทีเดียวเลย  o18 

ออฟไลน์ taengoo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
วันนี้อัพมั้ยคะ
อัพเถอะนะๆๆ เค้ารออยู่ ><
อยากอ่านแล้วววว~

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ U_Ton

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 :เฮ้อ: เค้ากำลังหวานเเหววกันเเล้วเชียว ชนาธิปนี่เเสรนมาเเต่ไกลเชียว... ตะโกนซะอย่างกับหลงป่า! ให้ตายเถอะ

หวังว่าคราวนี้จะไม่เป็นอย่างคราวที่แล้ว ขอให้ได้เห็นด้านดีดีของเธอบ้างเถอะชนาธิป อย่าพยายามทำตัวตกต่ำเลย

ได้โปรด :z3: ทรายช่างน่ารักที่หัวเราะธาร แหมๆ... ก็คนมันน้อยใจ อยากให้หึงให้หวง เป็นธรรมดาของคนมีคนรัก

ธารหื่นนะ :z1: เผลอเป็นจับ กอด ลูบไล้ อยู่เรื่อย... ไม่เกรงใจสถานที่ไม่ว่า เพราะยังไงก็เป็นห้องทำงานส่วนตัวของ

ธาร แต่น่าจะพูดอะไรหวานหูหน่อยนะ ลวนลามแต่ไม่บอกรักบอกชอบหรือพูดอวยเลย ทรายน้อยใจนะนั่น คนปกติถ้า

เจอแบบนี้บ่อยๆยังต้องสงสัยเลยว่าเรามีความสำคัญต่อเขาอย่างไร แล้วกับทรายที่ธารเคยพูดร้ายๆในทางนี้อยู่ด้วยจะ

ไม่คิดมากได้อย่างไร... เข้าใจกันเเละกันเยอะๆหน่อยนะ อิอิ จะได้มีอะไรหวานๆ เปรี้ยวๆ โผล่มาให้กระชุ่มกระชวย

 :call: ขอให้ชนาธิปหยุดตัวเองเพื่อหยุดวงจรอุบาทว์ด้วยเถิด... ไม่ไหวอ่ะถ้าเป็นคนเเบบเเม่ของเขาจริงๆ แย่นะ แย่มากๆ

เป็นคนดีไม่ได้ เเต่ก็อย่าร้ายให้มันมาก อย่าทำตัวริษยาเป็นตัวบ่อนทำลายชีวิตคนอื่นเขา นรกมันอยู่ในใจตัวเองนะ ดูเเม่

ตัวเองเป็นตัวอย่างก็ท่าจะดี

ออฟไลน์ omuya

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2023
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +121/-9
มันได้หลากหลายอารมณ์มากๆ อะ ยิ่งอ่านยิ่งชอบ แม้จะมีบางช่วงที่ขัดใจ แต่ก็ยังชอบบบบบ ^^

ออฟไลน์ Spelling_B

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
พี่ทรายเก่งอ่ะ  ธารก็เก่งนะดูเหมือนจะออกแววเก่งกว่าอยู่แล้ว เพราะต่อไปต้องเป็นบอสเต็มตัวนี่เนาะ
โอ๊ยยยนังชนาธิป แค่ได้ยินเสียงเรียกธารก็แบบ :katai1:
รักคนแต่งมากมายอ่ะ รักเรื่องนี้ :กอด1:

ออฟไลน์ ♥인사다소♥

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 22
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
ความสัมพันธ์ของทั้งสองกำลังไปได้ดีเลย อย่ามีเรื่องอะไรอีกเลยเน้อออ :m5:
บอส  :oo1: เลขา  :m3: อร๊างงง ฟินเด้อออ
ชอบเรื่องนี้มาก มาต่อเร็วๆนะจ๊าาาา :L2: เป็นกำลังใจให้

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
ดีจัง สถานการณ์เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ
แต่กลัวใจพี่ทราย กลัวว่าเมื่อทุกอย่างไปได้ดี จะแอบคิดไปเองว่า หน้าที่ของพี่เลี้ยงสิ้นสุดลงแล้ว
น้องธารสู้ๆนะ เรื่องบางเรื่องมันก็ต้องใช้เวลา ดีใจนะที่น้องธารให้โอกาสคนที่เรารัก ก่อนที่มันจะสายเกินไป

ปล. คิดถึงคุณพ่อและพี่ซี

ออฟไลน์ Theznux

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 197
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
อนุญาตให้พี่ทรายโหดกับชนาธิปหนักๆเลยนะ
55555 ฉันหมั่นไส้นางจัง ..


ออฟไลน์ smile_aex

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ coffeeQbread

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1218/-29

บทที่ 30  I’m Your
 


เมื่อรถหรูคันใหญ่มาจอดลงที่หน้าล็อบบี้ทางเข้า ทั้งเขาและวารินเดินตามกันลงมา ดรอแมนเปิดประตูแล้วโค้งต่ำให้เขาสองคนอย่างสุภาพ ท่านประธานหนุ่มรูปหล่อเรือนร่างสูงใหญ่ในชุดสูททักสิโด้เต็มยศกับเลขาหนุ่มที่ดูดีไม่แพ้กันเดินตีคู่กันเข้ามาที่ลิฟต์แก้วสวยก่อนพนักงานภายในจะกดนำขึ้นไปจอดลงที่ชั้นจัดงานเลี้ยงหรูหราของเหล่าบรรดาเซเลปดังชั้นนำของเมืองไทย
 

เพียงแค่ประตูลิฟต์เปิดออกเท่านั้น

 
“ธาร!”
 

เสียงสดใสจากคนที่ช่างบังเอิญเดินผ่านมาพอดีเรียกเข้าอย่างดัง ทั้งนายทั้งเลขาหันมองเป็นตาเดียว
 

ชนาธิป!
 

“ว่าแล้วธิปต้องเจอธารที่นี่ เห็นรายชื่อตั้งแต่คุณเลขาเขาจัดส่งมาแล้ว”
 

ไหล่เล็กเบียดเข้าชิดเดินตีคู่กับธาราธารอย่างถือวิสาสะ ชนาธิปตวัดหางตามองวารินแวบหนึ่ง แต่ไม่มีการทักทายใดๆ  ขณะที่เลขาสาวของอีกฝ่ายเดินเข้ามาค้อมหัวลงให้วารินอย่างสุภาพ เขาสองคนเดินตามหลังประธานหนุ่มใหม่ไฟแรง 2 ขั้ว ทายาทกลุ่มเงินทุนใหญ่ชื่อดังในวงการธุรกิจ
 

เมื่อเข้ามาถึงด้านในเป็นหน้าที่ของเลขา ที่ต้องแนะนำเจ้านายของตนเองให้ทักทายบรรดาชนชั้นหรูหรา
 

“เดี๋ยวผมจะแนะนำคนสำคัญท่านหนึ่งให้บอสรู้จักไว้นะครับ ว่ากันว่าท่านจัดงานนี้ขึ้นมาเพื่อโปรโมทลูกชายที่เพิ่งจะกลับจากนอกโดยเฉพาะ” วารินเร่งฝีเท้าเดินตีคู่ขึ้นมากระตุกแขนเสื้อนอกของเจ้านายตนแล้วเขย่งกระซิบดึงธาราธารให้เดินไปกับตัวเอง
 

“ขอโทษนะครับคุณชนาธิป ผมต้องขอตัวบอส ‘ของผม’ สักครู่”
 

วารินตั้งใจเน้นคำว่า ‘ของผม’ ลงไปแบบชัด ๆ ปรายสายตา ยกยิ้มมุมปากนิด ๆ  ชนาธิปมองหน้าวารินนิ่งสายตาแฝงไว้ด้วยความนัยมากมาย ค่อยปล่อยมือที่เกาะแขนธาราธารออกช้า ๆ
 

“เชิญครับ  ผมเองก็มีคิวต้องไปแนะนำตัวกับท่านอื่น ๆ เหมือนกับธารเขาเหมือนกัน ก็เราตำแหน่งสูงพอๆกันนี่เนอะธาร” ว่าจบแล้วก็เดินแยกไปอีกทาง
 

ขณะที่วารินเดินนำบอสหนุ่มไปหาชายสูงวัยดูภูมิฐานมากท่านหนึ่ง  ที่ข้าง ๆ กันมีชายหนุ่มหน้าตาดีรูปร่างสูงใหญ่ ดูเหมือนจะสูงเท่า ๆ กับธาราธารยืนทักทายแขกเหรื่ออยู่อย่างสุภาพ
 

“บอสครับ นี่ทนายศักดิ์ดา เจ้าของบริษัทที่ดูแลผลประโยชน์ให้กับกลุ่มธุรกิจ CR ของเราครับ ท่านเป็นประธานการจัดงานครั้งนี้”
 

“สวัสดีครับ ผมธาราธาร จาก CR กรุ๊ป ครับ”
 

“ไหว้พระเถอะลูกไหว้พระ  ตั้งแต่ไปเยี่ยมคุณภัครคราวนั้นยังไม่มีโอกาสได้ไปอีกเลย ผมเป็นเกียรติมาเลยนะที่คุณธารยอมมาร่วมงานครั้งนี้ รู้จักกันไว้ นี่ ‘ปวีย์’  ลูกชายของผมเอง ต่อไปพี่วีเขาจะเข้ามาดูแลกลุ่มธุรกิจของคุณธารแทนลุงแล้วนะ ไว้ใจเขาได้เมื่อก่อนก็เป็นอัยการเหมือนกับลุงนี่แหละ กว่าจะบังคับให้ลาออกมาช่วยงานที่บริษัทได้ ต้องขอร้องกันอยู่นานเลย” 
 

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ คุณธาราธาร” ปวีย์ส่งยิ้ม ยื่นมือมาขอเชคแฮนด์ ธาราธารจึงยื่นออกไปจับอย่างสุภาพเช่นกัน
 

“เช่นกันครับคุณปวีย์” เขาตอบไปตามมารยาท ส่งยิ้มการค้าออกไป
 

“เรียกผมพี่วีก็ได้นะครับ น้องธาร”


ทันทีที่คำว่า ‘น้องธาร’ หลุดออกมาจากปาก ธาราธารตวัดสายตาขึ้นมองเขาทันที แต่ปวีย์ยังทำเฉยคล้ายมองไม่เห็นกิริยานั้นของอีกคน
 

“ดีๆ คนหนุ่ม ๆ สนิทสนมกันไว้ดีแล้ว ต่อไปคงต้องติดต่องานกันบ่อย  เด็กหนุ่มยังไงก็คุยกันเข้าใจง่ายกว่าคนแก่ ๆ เยอะ”
 

ชายสูงวัยว่าแล้วเดินยิ้มเลี่ยงออกไป ปล่อยให้เด็กหนุ่มสองคนคุยกัน วารินเองก็ถอยห่างออกมาหน่อยเพื่อให้เจ้านายของเขาได้คุยเป็นการส่วนตัว ปวีย์ค่อนข้างมีความสำคัญ เขาจะเข้าดูแลผลประโยชน์ให้กับบริษัทในสายธุรกิจที่หลากหลาย หากธาราธารรู้จักมักคุ้นไว้บ้างคงจะดีกว่า
 

“คุณธารนี่ตัวสูงนะครับ สูงกว่าที่ผมคิดไว้เสียอีก ผมคิดว่าตัวเองสูงมากๆแล้วคุณธารนี่เกือบ ๆ จะเท่ากับผมเลยนะ” ปวีย์ใช้ประโยคง่าย ๆ เริ่มต้นบทสนทนา เขาทำท่าคล้ายรู้จักธาราธารมาก่อน
 

“เคยเห็นตามแมกกาซีนในแวดวงน่ะครับ  ว่าที่คุณหมอหนุ่มทายาทคนเดียวของ CR กรุ๊ป หน้าตารูปร่างงดงามหมดจด คุณดังมากเลยนี่”
 

“ผมเป็นผู้ชายครับ ถ้าจะชมกรุณาใช้คำให้ถูกต้องด้วย ‘งดงามหมดจด’ นั่นคุณเก็บไว้ใช้กับผู้หญิงน่าจะดีกว่า”
 

“ขอโทษทีครับ แต่ผมกลับมีความรู้สึกตามที่พูดจริง ๆ  ถ้าทำคุณไม่พอใจต้องขอโทษด้วยจริง ๆ”
 

เขายิ้มให้อย่างแพรวพราว  ขณะที่ธาราธารมองเขาอย่างครุ่นคิดในใจ รู้สึกไม่ถูกชะตาเอาเสียเลย สายตาที่เหมือนพวกเสือกำลังล่าเหยื่อแบบนั้นไม่รู้มาทำอาชีพทนายความได้อย่างไร
 

“คุณเป็นทนายความ?”
 

“ใช่ครับ เมื่อก่อนผมเป็นอัยการ ตอนนี้ลาออกมาช่วยงานที่บริษัทเต็มตัวแล้ว คุณธารไม่ต้องห่วงนะกลุ่ม CRของคุณ ผมดูแลผลประโยชน์ให้เต็มที่อยู่แล้ว ฝากตัวด้วยนะครับ”
 

ธาราธารไม่ชอบสายตาเจ้าเล่ห์และคำพูดแปลกๆแบบนั้น  พอคุยกันต่ออีกสักพักจึงเลี่ยงออกมาหาวาริน  เลขาคนเก่งจึงเริ่มทยอยแนะนำบอสคนใหม่ให้คนสำคัญทางธุรกิจแต่ละท่านได้รู้จักไว้อย่างคร่าว ๆ ธาราธารทำหน้าที่ได้ดีมากทีเดียว เขาดูนอบน้อมไปพร้อม ๆ กับความน่าเชื่อถือของท่าทีที่มีอยู่ภายในตัวยิ่งเขาเรียนหมอจึงยิ่งเป็นที่กล่าวถึง  นักข่าวจากหนังสือพิมพ์และนิตยสารชั้นนำต่างทยอยเข้ามาขอสัมภาษณ์ ขณะที่ชนาธิปเองก็ไม่แตกต่าง
 

มีการถ่ายรูปร่วมกันระหว่างบรรดานักธุรกิจหน้าใหม่ไฟแรง ซึ่งธาราธาร  ชนาธิป และปวีย์ ดูโดดเด่นมากกว่าคนอื่น ๆอย่างเห็นได้ชัด  พวกเขาจึงถูกขอถ่ายรูปกันมากหน่อย รวมถึงบทสัมภาษณ์ที่จ่อคิวรอกันหลายสำนัก  จนวารินที่ยืนมองอยู่ห่าง ๆ อดที่จะปลื้มใจแทนภัครจิราเจ้านายเก่าของเขาไม่ได้
 

ทั้งสื่อสปอตทั้งแฟลตที่สะท้อนออกมา ต่างโฟกัสเข้าที่เจ้านายของเขาทั้งนั้น
 
 

....โตขึ้นอีกก้าวแล้วสินะ....โตขึ้นมากจริงๆ.....
 
 


“ทราย” วารินสะดุ้งนิดหน่อยเพราะมัวแต่โฟกัสไปที่เจ้านายของตนเอง เมื่อจู่ ๆ มีคนพูดขึ้นใกล้ ๆเขาจึงดูตกใจเล็กน้อย
 

“โทษที  ฟางทำทรายตกใจเหรอ”
 

“ฟาง?”
 

“ใช่ค่ะ  ทรายจำฟางไม่ได้จริงๆ หรือเนี่ย มิน่าแหละตอนเจอกันที่หน้าลิฟต์ทรายเฉยเชียว ไม่ยิ้มให้ฟางเลย”
 

วารินพิจารณาคนข้างๆเขาอีกหนอย่างอึ้ง ๆ  นี่เขาความจำสั้นขนาดลืมหน้าผู้หญิงที่เขาเคยชอบตั้งแต่สมัยเรียนไปได้ยังไงกันนะ ผู้หญิงคนเดียวที่ทำเอาเขาต้องถ่อไปขอเบอร์เธอถึงหน้าคณะ
 

“ขอโทษครับฟาง ผมไม่ทันได้มองจริง ๆ”
 

“ทรายเป็นเลขาอยู่ที่ CR เหรอ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
 

“ครับใช่  เป็นตั้งแต่จบมาเลย  แล้วฟางอ่ะ เป็นไงมาไงถึงได้ทำงานเป็นเลขาคุณชนาธิปได้”
 

“ทำไมล่ะแปลกเหรอ ฟางจบครุศาสตร์อิ้ง ฟางมาเป็นเลขาไม่เห็นแปลก ว่าแต่ทรายเหอะจบวิศวคอมไหงมาเป็นเลขาได้ล่ะเนี่ย”
 

เธอว่าแล้วยิ้มกว้างส่งให้ท่าทางคุยจ้อดีใจสุดขีดเมื่อได้เจอคนเคยรู้จักกัน  วารินถึงกับหน้าขึ้นสีเมื่อโดนแซวกลับแบบนั้น อดไม่ได้ที่จะนึกไปถึงเรื่องราวเมื่อนานมาแล้วตอนเขาพยายามเข้าใกล้เธอ เคยเดทกันด้วยหนึ่งครั้งแต่ก้เหมือนไม่ได้เดทเพราะเธอปฏิเสธเขาทันทีแถมทำท่าทีรู้ทันจนเขาอายมากต้องเป็นฝ่ายล่าถอยออกไปเหตุเพราะเธอดักเขาได้ทุกทาง
 

“คิคิ อายแล้วหน้านี่แดงไปหมด  ทรายไม่เปลี่ยนเลยจริง ๆ นะ”
 

วารินอมยิ้มอายจนหน้าซับสีแดงระเรื่อจริงอย่างเธอว่า ทำตัวไม่ถูกเมื่อจู่ ๆ ได้มาเจอคนที่ไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เจอ สิบสองสิบสามปีที่ไม่ได้เจอกันเลย ฟางยังคงสวยน่ารักเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
 

“แล้วฟางแต่งงานยังอ่ะ” ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาถามเธอออกไปแบบนั้น
 

“ยังเลย...รอทรายนี่ไง”
 

“เฮ้ย!”
 

“ล้อเล่นนนนน” เธอแก้ตัวแทบไม่ทันเมื่อวารินอุทานเฮ้ยออกมาอย่างดัง
 

“อย่าไปพูดเรื่องแต่งงานเล้ย  ฟางคิดว่าจะไม่แต่งหรอกฟางอยากทำงานมากกว่า มีแฟนก็เหมือนมีห่วงผูกคอน่ารำคาญออก”
 

ฟางข้าวเปลี่ยนไปมากจริง ๆ เมื่อก่อนเธอฮอตมากควงผู้ชายไม่เคยซ้ำหน้า ไม่เคยได้ว่างจากคำว่า ‘มีแฟนแล้วค่ะ’ พอมาถึงตอนนี้เธอกลับบอกเขาว่าจะไม่แต่งงานซะงั้น
 

“ดูโน่นสิ เจ้านายของพวกเราโดนสื่อโฟกัสซะขนาดนั้น คุณธิปเจ้านายของฟางยังยิ้มอยู่เลยนะ แต่ดูคุณธาราธารเจ้านายทรายสิ มองมาทางนี้เป็นรอบที่สิบแล้วมั้ง  หน้าหล่อๆนี่เริ่มไปแล้วนะทราย  ไม่เข้าไปดูบอสทรายหน่อยเหรอ”
 

วารินหันมองธาราธารทันที่ที่ฟางข้าวพูด ธาราธารหน้าหงิกแล้วจริง ๆ มองมาทางเขาตาเขียวเลย วารินรีบเดินเข้าไปหาทันที ธาราธารตวัดสายตามองถามเสียงเข้ม
 

“ใคร? ผู้หญิงคนนั้น”
 

“เพื่อนเก่าน่ะ  บังเอิญมากเลย เขาเป็นเลขาของคุณชนาธิป จวนจะเสร็จแล้วล่ะธารอดทนอีกหน่อยนะ” วารินพูดเสียงเบา ส่งสายตาให้กำลังใจเขาเพราะคิดว่าที่เจ้านายตนเองหน้าบูดเป็นเพราะรำคาญกับการต้องโดนถาม โดนถ่ายรูปแบบไร้กำหนดแบบนี้
 

“อยู่แถวนี้ ข้าง ๆ ผม” เขาว่าแล้วเริ่มต้นให้สัมภาษณ์นิตยสารอีกเล่มต่อ หลังจากช่วงพักเบรก หน้าตายังบูดบึ้งไม่เปลี่ยน
 

“ธารยิ้มหน่อยสิ ทำหน้าดี ๆ นะ” วารินกระซิบลงอีกครั้งแล้วเลี่ยงออกมายืนอยู่ไม่ไกลนัก ชนาธิปที่หมดคิวสัมภาษณ์ก่อนจึงเดินเข้ามาหาใกล้ ๆ
 

“เพิ่งรู้นะครับว่าพี่รู้จักกับคุณฟางข้าวด้วย เห็นคุยกันสนิทสนม”
 

“เพื่อนเก่าน่ะครับ ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยโน่นแหละ”
 

“ดูเหมาะสมกันดีนะครับ คุณฟางเองก็ยังโสด เดี๋ยวผมติดต่อให้พี่ทรายเลยดีไหมนะ” เขาว่าแล้วยิ้มให้อย่างใสซื่อ
 

“เราเป็นเพื่อนกันน่ะครับ”
 

“แหม ไม่เห็นต้องอายเลยครับ"
 

ชนาธิปทำหน้าไร้เดียงสาสุด ๆ พูดคุยกับวารินสักพักก็เดินเข้าไปนั่งลงข้าง ๆ ธาราธารที่กำลังถูกชักภาพถ่ายรูปในอิริยาบทต่าง ๆ อยู่
 

เสียงสื่อเซ็งแซ่เกี่ยวกับเรื่องที่พวกเขาสองคนเป็นเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกัน ชนาธิปจึงชิงตอบ  “ผมกับธารค่อนข้างสนิทกัน เรารู้จักกันตั้งแต่วันปฐมนิเทศเลยล่ะครับ”
 

“ถ้าอย่างนั้นโอกาสที่เราจะได้เห็นกลุ่มเงินทุนใหญ่สองกลุ่มร่วมจับมือกันในอนาคตคงมีความเป็นไปได้สูงน่ะสิคะ” นักข่าวสาวยังสัมภาษณ์ต่อ
 

“แน่นอนครับ ในอนาคตผมกับธารจะยังคงรักษามิตรภาพดีๆอย่างนี้ไว้แน่นอน” ชนาธิปตอบรับขณะที่ธาราธารยังนั่งเฉย  ปวีย์ที่เพิ่งจบจากบทสัมภาษณ์หนังสือเล่มดัง เดินเข้ามาใกล้หย่อนก้นนั่งลงข้าง ๆ   เขาสามคนถ่ายรูปร่วมกันอีกไม่กี่ช็อต พวกสื่อก็หมดคิวสัมภาษณ์ลงพอดี
 

“เหนื่อยหน่อยนะครับธาร เหนื่อยหน่อยนะธิป” ปวีย์พูดขึ้นอย่างเป็นกันเอง
 

“ไม่เป็นไรพี่วี ผมเต็มใจ” ชนาธิปยิ้มกว้างเบียดตัวเข้าหาธาราธารอย่างไม่สนใจใครจะมอง  ธาราธารขยับออกนิดหน่อยอย่างรำคาญ ตัวเขาจึงเบียดเข้าหาปวีย์อย่างช่วยไม่ได้  ปวีย์ตัวสูงใหญ่พอกันกับเขาเพราะอย่างนั้นตอนนี้โซฟาที่ทั้งสามคนนั่งจึงดูแคบลงไปถนัดตา ธาราธารนึกรำคาญจึงลุกขึ้นขอตัว บอกจะไปเข้าห้องน้ำ พอเดินออกมาได้เขาหันหาวารินทันที กะจะให้เดินออกไปพร้อมกัน แต่ดันเห็นเลขาตัวเองยืนคุยอยู่กับเลขาสาวของชนาธิปเสียนี่  ธาราธารหัวเสียขึ้นมาอีกแล้ว
 

“เดี๋ยวพี่วีไปเป็นเพื่อนก็ได้ครับ ห้องน้ำอยู่ตรงนี้เอง  ปล่อยคุณเลขาบ้างเถอะนะ”
 

เสียงปวีย์ดังขึ้นด้านหลัง ธาราธารหันมองแต่ไม่สนใจ เขาเดินเลี่ยงออกไปทันที ปวีย์รีบเดินตาม ขณะที่ชนาธิปเองเดินเข้าไปหาวารินอีกครั้งอย่างตั้งใจ
 

“คุณฟาง ผมอยากได้ขนมเค้กที่ขายอยู่ชั้นล่างไปฝากคนที่บ้านสักหน่อย รบกวนคุณลงไปซื้อให้ผมด้วยนะ”
 

ฟางข้าวรับคำแล้วเดินแยกออกไปโบกมือให้วาริน  ขณะที่วารินกวาดตามองหาบอสตัวเองแต่ไม่เจอ
 

“ปล่อยธารเขาบ้างเถอะครับ บางทีอาจกำลังคุยธุระอยู่ก็ได้ เขาไม่หายไปไหนหรอก รายนี้ถ้าไม่สนิทจริง ๆ อย่าหวังว่าเขาจะคุยด้วยนาน ขี้เบื่อง่ายจะตาย”
 

ชนาธิปพยายามจะสื่อให้รู้ว่าเขาสนิทและรู้จักนิสัยธาราธารดี แต่วารินไม่อยากต่อบทสนทนาอีก จึงบอกขอตัว
 

“พี่ทรายครับ”  ชนาธิปเรียกขึ้นวารินที่กำลังจะเดินไปอยู่แล้วจึงหันกลับมามอง คนตัวเล็กกว่าเดินเข้าหาใกล้ ๆ  ตั้งใจพูดถ้อยคำบางอย่างให้เขาได้ฟัง
 

“คืนนั้น...ที่เราค้างด้วยกัน ธารเขาเมามากจริง ๆ พี่ทรายอย่าตำหนิเขาเลยนะครับ ตอนเช้าพอที่บ้านโทรมาว่าคุณแม่เข้าโรงพยาบาลเขาร้อนใจมาก จนธิปไม่อยากปล่อยให้เขาขับรถมาคนเดียว เห็นว่าเหนื่อยมาทั้งคืนเลยต้องนั่งรถมาเป็นเพื่อน กลัวเขาจะง่วงแล้วเผลอหลับน่ะครับ”
 

“อ้อ...เหรอครับ ผมก็ไม่ได้ตำหนิอะไรเขานะ”
 

“ขอบคุณนะครับที่พี่ทรายเข้าใจพวกเรา พูดแล้วก็รู้สึกอายแต่ธารเขาเร่าร้อนมากเลยนะครับ เวลาที่เขาเมาแบบนั้น”
 

ชนาธิปอมยิ้มก้มหน้าที่ขึ้นสีลงนิด ๆ เม้มปากอย่างเอียงอายเมื่อพูดถึงทีท่าที่เร่าร้อนแบบนั้นของอีกคน
 

“ธิปรู้ว่าพี่ทรายคงจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างผมกับเขา พี่ทรายเป็นเลขาคนสนิทของธาร เขาคงจะเล่าทุกเรื่องให้พี่ฟังใช่ไหมครับ”
 

วารินเริ่มแสดงสีหน้าอึดอัดไม่เข้าใจชนาธิปจะมาพูดเรื่องแบบนี้ให้เขาฟังทำไม  ขณะกำลังจะเอ่ยปากขอตัวอีกครั้ง  เป็นชนาธิปที่พูดแทรกขึ้นอีก
 

“ธิปไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าธารเป็นผู้ชายที่ใจดีแล้วก็จูบเก่งมาก เห็นเขาเย็นชาแบบนั้นแต่เวลาจูบนี่ ธิประทวยไปกับอ้อมกอดของเขาเลยนะครับ  ขนาดสร้อยที่ใส่ติดคอตัวเองมาตลอดยังยอมยกให้ธิปง่าย ๆ  ธิปต้องขอบคุณพี่ทรายจริง ๆ นะครับที่ช่วยดูแลธารได้ดีขนาดนี้ อ้อมกอดของเขาอุ่นมากๆ  พอดีวันนั้นธิปมีเรื่องไม่สบายใจ ธารใจดีกับธิปมาก เราสองคนนอนกอดกันตลอดทั้งคืนเลย”
 

วารินไม่อยากจะเชื่อว่าชนาธิปจะกล้าพูดเรื่องแบบนี้ออกมา
 

“อุ้ย ขอโทษนะครับ ปกติธิปไม่ใช่คนที่จะมาพูดจาอะไรแบบนี้นะ แต่เห็นว่าธารติดพี่ทรายมาก เขาเคยบอกว่าพี่ทรายเป็นพี่ชายของเขา คงจะรักพี่เหมือนพี่ชายแท้ ๆ น่ะครับ ลูกคนเดียวก็แบบนี้แหละโหยหาอยากได้พี่ชาย  ขอบคุณอีกครั้งนะครับที่ช่วยดูแลธาร”
 

“จะขอบคุณทำไมครับ หน้าที่ดูแลคุณธารเป็นหน้าที่ของพี่โดยถูกต้องอยู่แล้วคุณแม่เขาถึงขนาด-มอบ- ให้ผมเป็นคนดูแล ความจริงกรณีอย่างคุณชนาธิปนี่เกิดบ่อยนะครับ ผมโดนเด็กในสต๊อกของเขาร้องเรียนมาบ่อยเลย  เดี๋ยวผู้หญิงคนโน้น เดี๋ยวผู้ชายคนนี้ ธารเขาเสน่ห์แรงน่ะครับ ใคร ๆ ก็อยากใกล้ชิดเขาทั้งนั้น”
 

“รวมทั้งพี่ด้วยใช่ไหมครับ” ชนาธิปสวน
 

“สำหรับผมคงไม่ต้องพยายามหรอกครับ เพราะธารเขามักจะเข้าหาก่อนทุกครั้งอยู่แล้ว  คุณก็บอกเองนี่ว่าธารเขา ‘ติด’ ผมมาก คุณชนาธิปเข้าใจได้ถูกต้องแล้วล่ะครับ  เด็กคนนี้แปลก เลือก ‘ติด’ แต่ของดี ๆ ซะด้วย ของที่เป็นแค่ทางผ่านแวะชิมนิดชิมหน่อยเขาก็เบื่อแล้วล่ะครับ คุณก็บอกเองนะว่าเขาเป็นคนเบื่อง่ายนี่   ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัว”
 

วารินว่าแล้วเดินแยกออกมาทันทีปล่อยให้ชนาธิปคำรามเสียงต่ำอยู่ในลำคออย่างอัดอั้น เขาไม่ได้หันไปดูหรอกนะว่าเจ้านายของฟางข้าวเพื่อนเก่าของเขาขยี้เท้าไม่ได้ดั่งใจด้วยรึเปล่า แต่ไหน ๆ ก็ได้ตอกกลับไปแล้วต้องเอาให้เจ็บกันไปเลย
 

.
 


“ห้องน้ำอยู่นี่ครับ น้องธารจะเดินไปถึงไหนน่ะ” ปวีย์ดึงแขนเสื้อธาราธารไว้เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะเดินเลยออกไป 
 

“เลิกเรียกผมแบบนั้น  ผมไปเป็นน้องคุณตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วนี่ทำไมต้องพามาไกลขนาดนี้ห้องน้ำแถวนั้นไม่มีหรือยังไง”
 

“แถวนั้นคนเยอะพลุกพล่านไม่ติดระเบียงนี่ครับ ตรงนี้วิวสวยเป็นส่วนตัว จบงานแล้วเราแวะนั่งฟังเพลงที่เลาจน์ที่นี่ก็ดีนะ เขาเปิดเพลงเพราะนะครับ”
 

ธาราธารส่ายหน้าอย่างรำคาญเดินเลี่ยงเข้าห้องน้ำทำธุระครู่เดียวก็เดินออกมา ปวีย์ยังคงยืนรออยู่ที่เดิม
 

“จะทำอะไร!” เขาถามเสียงเครียดเมื่อโดนปวีย์ดักทางไม่ให้ออกจากห้องน้ำได้
 

“ต่อไปพี่คงต้องติดต่องานกับน้องธารบ่อย นี่เบอร์โทรศัพท์พี่นะครับ” เขาว่าแล้วก้าวเข้าหาทันที ธาราธารจึงต้องถอยอัตโนมัติ
 

“ขอเบอร์ส่วนตัวของน้องธารจะได้ไหม” ขาธาราธารชนขอบเคาน์เตอร์พอดี ขณะที่อีกฝ่ายยังก้าวเข้ามาไม่ยอมหยุด ธาราธารมองหน้าเขานิ่งเอนตัวหนี  วิธีการรุกเข้ามาแบบนี้มันเหมือนกับฝ่ายชายทำกับฝ่ายหญิงไม่มีผิด เจ้าทนายคนนี้เป็นเกย์งั้นหรือ?
 

“เป็นเหรอ?” ธาราธารถามสั้น ๆ มองตาสื่อความนัยน์ถึงเรื่องที่ถาม ขณะที่มือยกขึ้นดันหน้าอกเขาไว้ เมื่อเขายังเดินหน้าเข้าหาไม่หยุด
 

“เราสองคนก็เหมือนกันนี่” ปวีย์ตอบกลับมา นัยน์ตาคมกริบหรี่บอกเป็นนัยน์ๆ ‘ได้ทั้งหญิงทั้งชายเหมือนกัน’
 

“ผมไม่มีรสนิยมแบบคุณ ถอยไป” ธาราธารผลักทีเดียวเขากระเด็นออกไปทันที
 

“แล้วมีรสนิยมแบบไหน อย่าบอกว่าแบบเลขาหน้าจืดนั่นนะ”
 

“เงียบ! ถ้าไม่อยากเจ็บตัวถอยไปให้ห่าง คุณไม่มีสิทธิ์พูดดูถูกใครทั้งนั้น”
 

“นี่ขนาดโมโหก็ยังสวยเลยนะ”
 

ผั๊วะ!!!!
 

“ไอ้เหี้ย  กูเป็นผู้ชายเรียกสวยอยู่ได้ มึงรู้ไหมว่ากูรำคาญ”
 

ธาราธารขึ้นสุดขีดสบถคำหยาบไม่สนใจใครหน้าไหนแล้ว ซัดปากปวีย์เข้าอย่างแรง  เนื่องจากมือที่เริ่มอยู่ไม่สุขของอีกฝ่ายเริ่มลามปามมาแถวๆสาบเสื้อสูทของเขา   ปวีย์เซลงที่พื้นทันที หมัดธาราธารไม่เบาเลย เขาสองคนตัวสูงใหญ่พอ ๆ กัน ปวีย์ที่ล้มลงไปเงยหน้ามองธาราธารแล้วยิ้มยั่ว
 

“สวยแล้วยังดุอีกด้วย น่าสนใจจริงๆ” เขายกมือลูบคางเดาะลิ้นดุนดันกระพุ้งแก้มรับรสเลือดฝาด
 

“หลีกไป!” ธารก้าวเท้าข้ามท่อนขายาวแข็งแรงที่ขวางทางไว้แล้วเลี้ยวหายออกไปอย่างหัวเสีย  ปวีย์ลุกขึ้นมองตามตาวาว ในมือกำไอโฟนสีดำของใครบางคนบีบไว้แน่น


.
.

 
“คุยกับใคร  เสร็จหรือยัง กลับได้แล้วใช่ไหม”  เขาเดินมาถึงตรงที่วารินยืนคุยโทรศัพท์อยู่พอดี ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
 

“ธารไปไหนมา พี่หาเราตั้งนาน  นี่ก็โทรหาอยู่”
 

ธาราธารรีบจับดูที่กระเป๋าเสื้อสูท โทรศัพท์เขาไม่อยู่กับตัวแล้ว นึกไปถึงเรื่องเมื่อสักครู่  คิดว่าเจ้าทนายโรคจิตนั่นคงหยิบไปตอนเขาเผลอแน่
 

“กลับเถอะ”
 

เขาว่าตัดบท แล้วเขากับวารินก็เดินตามกันออกมา แขกเหรื่อบางตาลงมาก วารินพาบอสของตัวเองไปบอกลาคนสำคัญบางท่านก่อนจะขอตัวกลับ
 

“แล้วเจอกันอีกนะครับ คุณธาร!” ปวีย์ว่ายิ้ม ๆ แล้วยื่นโทรศัพท์มือถือคืนให้ ธาราธารคว้าเอาไว้อย่างแรง พร้อมดึงแขนวารินให้เดินออกไปด้วยกันทันที
 

“ธารใจเย็น ๆ ช้า ๆก็ได้ หิวอะไรไหม กินเค้กรึเปล่า” วารินที่ไม่ได้รู้เรื่องราวระหว่างปวีย์กับธาราธารถามขึ้น
 

“ไม่อ่ะ  รีบกลับเถอะ ผมง่วงแล้ว” เขาว่าพร้อมก้าวเดินออกไป ขณะที่ทินกรขับรถเข้ามาจอดเทียบรออยู่แล้วอย่างรู้งาน ไม่นานนักรถหรูคันใหญ่ก็มาหยุดลงที่หน้าคฤหาสน์หลังงาม วารินก้าวตามหลังเขาลงมา
 

“เดี๋ยวขึ้นมานอนกับผมนะ ขี้เกียจลงไปนอนข้างล่าง ร้อน”
 

เขาว่าแล้วเดินเข้าบ้าน ขณะที่มือขยับถอดโบว์ของทักสิโด้ที่สวมอยู่ออก ปลดกระดุมที่รัดแน่นไปทุกส่วนสัดออกเพื่อความสบาย
 

“ไม่เอาหรอก ธารนอนไปเถอะ พี่เหนื่อยแล้วอยากพักผ่อนเหมือนกัน”
 

“พี่ทราย” ทันทีที่วารินพูดจบแล้วทำท่าจะเดินแยกไปหลังบ้าน เขาเรียกไว้ทันที เสื้อนอกถูกโยนโครมลงบนโซฟาอย่างไม่สนใจ
 

“จะให้ผมลงไปนอนด้วยงั้นใช่ไหม” เขาเดินหน้าเข้าหา ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ข้อมือ
 

“ม..ไม่ใช่แบบนั้น คือพี่เหนื่อยอยากจะอาบน้ำพักผ่อนเหมือนกัน”
 

“พี่ก็ทำให้เสร็จแล้วขึ้นมานอนพักข้างบน แค่นั้นเอง มันไม่พักผ่อนตรงไหน หรืออยากให้ผมลากขึ้นไปเหมือนเมื่อก่อนอีก”
 

“ธาร!”
 

“ครึ่งชั่วโมง อาบน้ำให้เสร็จแล้วเอากาแฟขึ้นมาให้ผมด้วย” เขาว่าแล้วเดินขึ้นบันไดไป ท่าทางไม่ค่อยสบอารมณ์นัก แต่วารินไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-04-2014 00:21:21 โดย coffeeQbread »

ออฟไลน์ coffeeQbread

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1218/-29


สามสิบนาทีหลังจากนั้น วารินในชุดนอนขายาวสีขาวผ้านิ่มเนื้อดี กำลังยืนชงกาแฟดำอยู่ที่ห้องครัว  นึกเกลียดคำว่า ‘กาแฟ’ ของคนสั่งจริง ๆ เอาขึ้นไปให้ทีไรไม่เคยได้กลับลงมา ต้องป้อนกันถึงปากเสียทุกครั้ง
 

เผลอแอบคิดว่าวันนี้อาจไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ธาราธารทำงานมาทั้งวันคงจะเหนื่อยและหมดพลังไปแล้ว เผลอๆอาจจะนอนหลับไปแล้วด้วยซ้ำ
 

“กำลังนึกว่าพรุ่งนี้จะให้ช่างมาติดแอร์ที่ห้องเล็กหลังบ้านอยู่พอดี”
 

กาแฟร้อนหอม ๆถูกบรรจงวางลงบนโต๊ะ เขานั่งรออยู่ที่ห้องหนังสือ วารินมองดูหนังสือที่เขากำลังอ่าน ตำราแพทย์เล่มโตเนื้อหาทางกายภาพวิทยา นึกสงสารเขาขึ้นมาจับใจกลับมายังต้องมานั่งอ่านหนังสือเรียนอีก
 

“ถ้าบอกให้ขึ้นมานอนข้างบนพี่คงไม่ยอม งั้นตึกเล็กติดแอร์มันเสียทุกห้องเลยก็แล้วกัน”
 

“ธารนอนเถอะนะ ดึกมากแล้ววันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน พรุ่งนี้ค่อยอ่านต่อดีไหมหนังสือน่ะ”
 

“พี่ทราย” วารินว่าแล้วจะเดินกลับออกไปแต่เขาเรียกเอาไว้ก่อน
 

“ผมลืมมือถือไว้ใต้หมอน เดินเข้าไปเอาให้หน่อยสิ”
 

ห้องหนังสืออยู่ติดกันกับห้องนอนของเขา เพียงแค่เปิดบานประตูเชื่อมออกก็สามารถเดินเข้าออกระหว่างสองห้องนี้ได้เลย วารินหันมองเขานิดหน่อยก็จำใจเดินไปที่ประตูเชื่อมเปิดมันออก แสงไฟหรี่สีส้มที่หัวเตียงถูกจุดไว้รออยู่แล้วกลิ่นหอมของลาเวนเดอร์ระรวยรินทั่วห้อง  ขณะวารินก้มลงหยิบหยิบโทรศัพท์ที่ใต้หมอนใบนุ่มออกมา ไม่ทันจะได้เดินพ้นจากขอบเตียงด้วยซ้ำ มือใหญ่เข้าผลักร่างเล็กกดลงบนที่นอนหนานุ่มของเขาด้วยความรวดเร็ว
 

“ธาร!”
 

“บอกไว้แล้วนี่ วันนี้จะลงโทษหนัก เพราะพี่ไม่ยอมให้ผมทำที่นั่น ความผิดพี่ไม่ใช่เหรอ”
 

“ไม่เอาธาร พี่เหนื่อยง่วงนอน”
 

“อย่ามาโกหก เหนื่อยอะไรกันเห็นคุยกับใครสีหน้าร่าเริงขนาดนั้น? อย่าคิดว่าผมไม่เห็นนะ  ท่าทางสนิทสนมกันมากเลยนี่”
 

เขาว่าแล้วล้มตัวลงนอนข้าง ๆ กอดเอววารินไว้แน่น ไม่ยอมให้อีกคนลุกได้
 

“บอกผมหน่อยสิ พี่คุยกับใครเหรอ? ผู้หญิงคนนั้น” เขาแกล้งกัดไหล่เล็กเบา ๆ ผ่านเสื้อนอนบาง ๆ ที่วารินสวมใส่
 

“เพื่อนเก่าน่ะ ไม่เจอกันเป็นสิบปีแล้ว”
 

“แล้วไป อย่าให้รู้นะว่าเป็นแฟนเก่า”
 

วารินกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ไม่คิดจะบอกออกไปหรอกว่าเคยชอบฟางข้าวถึงขนาดถ่อไปขอเบอร์มาแล้ว นี่ขนาดแค่คุย เขายังถามซอกแซกขนาดนี้ ถ้ารู้ว่าเคยชอบผู้หญิงคนนี้ รับรองคืนนี้โดนจัดจนถึงเช้าแน่
 

“นอนนี่แหละนะ นอนด้วยกัน ง่วงแล้ว”
 

เขาพูดว่าง่วงแล้วแต่ปลายจมูกโด่งแสนซนของเขาเริ่มฝังลงซุกไซ้กับซอกคอหอมกลิ่นนม ขณะที่ฝ่ามืออุ่นเริ่มล้วงผ่านชายเสื้อเข้าไปลูบไล้เอวบางอย่างนุ่มนวล
 

ที่จริงแล้ววารินควรจะสะท้านกับรสสัมผัสของเขามากกว่านี้ แต่เพราะคำพูดแบบนั้นของชนาธิปที่ยังวนเวียนอยู่ในหัว จึงทำให้ความรู้สึกดี ๆ ที่ควรจะมีหดหายไปหมด ร่างกายเริ่มต่อต้านเขาขึ้นมา
 

“ธาร”
 

วารินเรียกแล้วลุกขึ้น มือเล็กยันร่างเขาไว้ ธาราธารชะงักแล้วเงยหน้ามองทันที
 

“เข้าห้องน้ำเดี๋ยวนะ” ว่าแล้วลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำไป
 

ในห้องน้ำที่มีแท่นดินปั้นเล็ก ๆ จุดเทียนหอมกลิ่นลาเวนเดอร์กลิ่นรวยรินกระจายไปถึงด้านนอก    วารินมองเงาสะท้อนของตนเองในกระจกบานใหญ่เหนืออ่างล้างหน้า ในสมองยังเต็มไปด้วยคำบอกเล่าของชนาธิป ยิ่งธาราธารมาทำแบบนี้ด้วยก็ยิ่งคิดมาก
 

“พี่ทราย”
 

เสียงทุ้มดังขึ้นที่หน้าประตูห้องน้ำที่วารินไม่ได้ปิดเอาไว้  เรียกให้วารินต้องหันขวับไป
 

“เป็นอะไรรึเปล่า? สีหน้าพี่ไม่ค่อยดีนะ” เขายืนเท้าแขนกับกรอบประตูมองคนที่ยืนอยู่ด้านใน เขาช่างสังเกตมากจริง ๆ
 

“เปล่า ไม่มีอะไร” วารินค่อยแทรกกายเดินผ่านออกมา
 

“ธาร พี่ลงไปนอนข้างล่างได้ไหม คือว่า....”   ยังว่าไม่ทันจบแขนเล็กก็ถูกเขากระชากแล้วดึงไปเหวี่ยงลงบนเตียงทันที ร่างกายสูงใหญ่ขึ้นทาบทับอย่างไม่รอช้า
 

“เป็นอะไร”
 

วารินเลี่ยงไม่อยากมองเขา “เปล่า ใจเย็น ๆ ธาร”
 

“ถ้าเปล่าจริง ๆ ก็ต้องนอนที่นี่”
 

“อย่าธาร ไม่เอา”  วารินปัดมือเขาออกทันทีที่เขาทำท่าจะแกะกระดุมเสื้อของวารินออก
 

“ทำไม?” คราวนี้เขาหน้าเครียดขึ้นมาแล้วจริง ๆ “หรือว่าอยากจะให้ผมใช้กำลังเหมือนเมื่อก่อนอีก”
 

“พี่...ไม่มีอารมณ์น่ะ”
 

“ไม่เป็นไรนะ เชื่อมือผมเถอะ เดี๋ยวจะทำให้ร้องดัง ๆ เลยดีไหม”
 

พอวารินตอบออกมาแบบนั้นเขาดูผ่อนคลายขึ้นนิดหน่อยกระตุกยิ้มนิดๆ มือไม้เริ่มสอดเข้าลูบไล้เรือนกายนุ่มนิ่ม ส่งเสียงกระซิบลงที่ริมหูเล็ก “ไม่ใช้มือแกะแล้วก็ได้  เดี๋ยวใช้ปากค่อย ๆ แกะดีกว่านะ”
 

วารินจนใจที่จะขัดขืน หลับตาลงปล่อยให้เขาใช้ริมฝีปากค่อย ๆ ปลดเปลื้องกระดุมออกที่ละเม็ด ทีละเม็ด ในที่สุดอาภรณ์ชิ้นสุดท้ายก็หลุดออกมาจากร่าง เขายืดตัวขึ้นถอดเสื้อที่สวมใส่ออกทางศีรษะ นัยน์ตาคมกริบกวาดมองร่างเปลือยเปล่างดงามอย่างชื่นชมหลงใหล ในขณะที่วารินยังคงพริ้มตาแน่น
 

หัวใจทำไมต้องเฝ้านึกถึงแต่คำพูดบ้า ๆ แบบนั้นของชนาธิปด้วยก็ไม่รู้
 

“พี่ทราย” ธาราธารพึมพำด้วยน้ำเสียงที่สั่นพร่าขณะสอดมือเข้าที่แผ่นหลังเนียนแล้วรั้งร่างเล็กขึ้นมาแล้วจูบลงที่ซอกคอขาวเนียนไล่ขบเม้มไปจนถึงริมฝีปากสวย เขาตักตวงความหอมหวานของกลีบปากนุ่มและเรียวลิ้นเล็กอย่างอ่อนหวานระคนเร่าร้อน
 

จูบของเขาทำให้วารินอ่อนระทวยเหมือนทุกครั้งก็จริงแต่จิตใจกลับไม่อาจมีความสุขไปกับรสสัมผัสที่เขามอบให้เลยเมื่อนึกไปถึงว่าเขาเพิ่งจะมอบจูบที่เร่าร้อนแบบนี้ให้กับใครอีกคน
 

จู่ ๆ ดวงหน้าสวยน่ารักก็พลิกหลบจุมพิตดื่มด่ำของเขา ธาราธารชะงักทันทีจ้องมองกิริยานั้นอย่างงงงัน โดยเฉพาะเมื่อวารินพลิกตัวนอนตะแคงดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดบังร่างกายส่วนล่างแล้วหันหลังให้เขา
 

“พี่ทราย?” เสียงทุ้มครางเรียก หากแต่วารินไม่ยอมตอบ ธาราธารชั่งใจครุ่นคิดก่อนจะก้มลงแตะริมฝีปากกับลาดไหล่เนียน ค่อย ๆ ไล้ไปตามเรียวแขนสวย
 

“ธาร” เสียงเล็กเรียกสั่นพร่า ในยามที่เขาลากไล้ริมฝีปากลงไปจนถึงเอวบางเนียนนุ่ม
 

“กับชนาธิปธารก็ทำแบบนี้ด้วยเหมือนกันใช่ไหม?  จูบที่เร่าร้อนแบบนี้ ธารชอบจูบคนที่ธารนอนด้วยทั้งเนื้อทั้งตัวทุกคนนี่นะ”
 

ธาราธารละตัวขึ้นทันที ขยับขึ้นมาดึงไหล่บางให้พลิกกลับมาหาเผชิญหน้ากับเขาไม่เบาเลย จ้องหน้าวารินนิ่ง
 

“คุยอะไรกับชนาธิปมาใช่ไหม” เขาถามเสียงเข้ม
 

“เมื่อกี้ที่งานเลี้ยงก่อนผมจะเดินเลี่ยงไปห้องน้ำเห็นชนาธิปเดินเข้าไปหาพี่ คุยเรื่องอะไรกัน เขาพูดอะไรให้ฟังใช่ไหม”
 

วารินหันไปอีกทางไม่อยากตอบเขา ปัดมือเขาออก
 

“พี่หึง?”
 

“ไม่ได้หึง”วารินสวนขึ้นทันที
 

“อย่ามาโกหก ไม่หึงแล้วจะงอนผมแบบนี้ทำไม”
 

“พี่ไม่ได้งอนนะ ธารนั่นแหละ มีคนของตัวเองอยู่แล้วจะมายุ่ง.....”
 

“ปากพี่นี่ยั่วผมได้ดีเยี่ยมจริง ๆ เลยนะ ตลอดอ่ะ ว่าจะไม่ทำอะไรรุนแรงแล้วแต่ก็โดนยั่วเข้าจนได้” วารินพูดไม่ทันจบเขากดไหล่เล็กลงที่เตียงทันที  กระชากผ้าห่มออกไปให้พ้นร่างกายคนใต้ร่างอย่างนึกรำคาญ
 

“ฟังนะ ฟังดี ๆ วันนั้นผมจูบกับเขาจริง ผมเมามากเห็นหน้าเขาเป็นหน้าพี่ตั้งหลายหน แต่เราไม่มีอะไรกัน แค่จูบ”
 

“แต่ธารกอดเขา นอนกอดเขาไว้ทั้งคืน”
 

“ใช่ ผมกอดเขาจริง ผมผิด โอเคจบนะ”
 

“ธารขี้โกง”
 

“อย่าพูดเรื่องคนอื่นเลยได้ไหม เลิกคิดเลิกพูดเรื่องเครียดๆ ผมอยากให้พี่รู้ไว้นะ ผมไม่เคยมีใครอื่นอีกนับตั้งแต่วันแรกที่ตัดสินใจบอกรักพี่แล้ว”
 

วารินเบิกตามองเขาทันที ธาราธารไม่เคยเอ่ยคำๆนี้กับเขานานแล้วนับตั้งแต่เกิดเรื่องจนเขาคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้ฟังมันจากปากของเขาคนนี้อีกแล้ว
 

“เชื่อใจผม”
 


.....เชื่อมั่นในความรักของผม.....
 


“...ธาร...”
 

“วินาทีนี้ผมเป็นของพี่แล้ว อย่านึกถึงคนอื่น อย่าคิดถึงคำพูดใคร  ผมคนนี้เป็นของพี่คนเดียวเท่านั้น...พี่ทราย”
 

วารินสะท้านน้อย ๆ ทันทีที่สิ้นคำพูดนั้น  ริมฝีปากร้อนงับเม้มลงบนจุดชีพจรบนลำคอขาว สัมผัสที่สร้างความรู้สึกเสียวซ่านบาดอารมณ์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ร่างเล็กเปลือยเปล่าบิดสะท้านขนลุกเกรียวไปทั้งร่าง พร้อมๆกับเสียงครางผะแผ่วในลำคอถูกระบายออกมาอย่างซาบซ่านในอารมณ์
 

เขาละริมฝีปากร้อนออกจากซอกคอหอมกรุ่น ไล่พรมจุมพิตไปทั่วทั้งร่างและมาหยุดลงที่ยอดอกชูชัน ตั้งใจเก็บเกี่ยวความหอมหวานให้สาสมกับที่รอคอยมาตลอดทั้งวัน ริมฝีปากร้อนและเรียวลิ้นนุ่มดูดดึงอย่างเร่าร้อนกระหายหิว ร่างเล็กแอ่นสะท้านราวกับจับไข้ เสียงหวานครางเครือต่อเนื่องกับความไม่รู้จักอิ่มของเขา
 

วารินหน้าแดงก่ำไปด้วยฤทธิ์เสน่หา มองเห็นแล้วว่าเขากำลังค่อยเคลื่อนตัวต่ำลง จนกระทั่งเรียวขาสวยถูกมือแข็งแรงดันให้แยกห่างออกจากกัน หน้านวลยิ่งซับสีหนักยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นนัยน์ตาคมกริบจับจ้องนิ่งอยู่ที่ปราการทางด้านหลังขณะที่แท่งสวยชูชันชุ่มเยิ้มไปด้วยหยาดหยดน้ำค้างใส
 

“ยะ..อย่ามองนะธาร”
 

อายจนไม่รู้จะพูดอย่างไรดีแล้ว เมื่อได้เห็นสายตาทอดนิ่งของเขาเฝ้ามองสิ่งหวงแหนของตนอย่างหลงใหล
 

“อายทำไม ผมเห็นไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแล้ว เพิ่งจะมาอายเอาป่านนี้?”
 

เขาว่ายิ้มๆ ขณะมือผลักสองขาเรียวที่พยายามจะหุบเข้าหากันให้แยกกว้างออกยิ่งกว่าเดิมเพื่อให้เขาได้เห็นอย่างเต็มสายตา เอื้อมตัวมาเปิดลิ้นชักที่หัวเตียงหยิบอะไรบางอย่างออกมา
 

วารินหลับตาลงแน่น ไม่อยากมองแล้วว่าเขากำลังจะทำอะไรอีกบ้างจนกระทั่งรับรู้ถึงสัมผัสเย็นจากปลายนิ้วแข็งแรงที่กรีดไล้ตรงรอยแยก นวดวนอยู่รอบ ๆ ก่อนจะค่อยแทรกสอดปลายนิ้วร้อนเข้ามาผ่านผนังนุ่มนิ่ม ขณะเดียวกันมีบางอย่างนุ่มชื้นแตะสัมผัสเข้าที่ส่วนชูชันและครอบลงจนจบมิดขณะที่นิ้วร้ายเริ่มขยับเข้าออก  เขาโจมตีจุดอ่อนไหวพร้อมกันอย่างไม่ปราณีส่งผลให้ร่างบอบบางแอ่นเกร็งสะท้านไปกับความเสียวปลาบรุนแรง ยิ่งเขาใช้ริมฝีปากร้อนดูดดึงที่ส่วนหัวจนเกิดเป็นเสียงน่าอาย วารินยิ่งสะท้านครางเสียงออกมาอย่างเต็มที่กับรสสัมผัสแสนรัญจวน
 

เขาถอนริมฝีปากออกจากส่วนนั้นเมื่อเห็นว่าวารินเริ่มจะไม่ไหว ยังไม่อยากให้ไปถึงเส้นของฟ้าก่อนอยู่ฝ่ายเดียว ปลายลิ้นร้อนกวาดไล้ไปทั่วทุกตารางนิ้วของซอกนุ่มหยุ่น น้ำค้างใสยังคงไหลปริ่มออกมาอย่างน่าตีเป็นที่สุด
 

“กลั้นไว้ก่อน รอไปพร้อมผม” เขาเงยหน้าขึ้นมากระซิบสายตาเต็มไปด้วยไฟเสน่หา วารินส่ายหน้าอย่างทนไม่ไหว เขาบอกให้กลั้นเอาไว้ก่อนหากแต่ไม่ยอมละเรียวนิ้วร้ายกาจที่สอดแทรกเข้า ๆ ออกๆอยู่ที่ส่วนอ่อนไหวนั้น
 

“ผมไม่อยากให้พี่เจ็บมาก อดทนนิดนึงนะ”
 

“อ้ะ...” นิ้วที่สองที่สอดแทรกตามเข้ามาสร้างความคับตื้อเพิ่มขึ้นอีก วารินเกร็งร่างเมื่อเขาเริ่มขยับปลายนิ้วอีกครั้ง ขณะที่ริมฝีปากตรงเข้ารูดรั้งทั้งดูดทั้งเล็มเร่งเร้าไปทั้งสองอย่างควบคู่กัน วารินเสียวซ่านแทบขาดใจ
 

“ธ...ธาร พี่ไม่ไหว”
 

เสียงครางเร่าร้อนท่อนขาเรียวรัดไหล่เขาไว้แน่น เมื่อรู้สึกถึงเกลียวคลื่นที่พัดวนรุนแรง สัญญาณที่บ่งบอกว่าจุดสุดยอดแห่งความปรารถนากำลังจะมาเยือน
 

“ชู่ว์อย่าเพิ่งไป รอผมก่อน”
 

เขาเลื่อนกายขึ้นมากระซิบจับวารินพลิกคว่ำเปลี่ยนท่วงท่า ดวงตากลมลืมขึ้นอย่างงุนงง ภาพสะท้อนดวงหน้าแดงก่ำของตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่หน้าตูเสื้อผ้าทำเอาวารินถึงกับอึ้งไป เขาเปลี่ยนมาทำที่มุมนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
 

“ธาร....ธาร...”
 

เสียงเล็กพึมพำเรียกชื่อเขา สายตาจับภาพสะท้อนของร่างสูงใหญ่ในกระจกกำลังรั้งสะโพกมนของตัวเองยกสูงขึ้น กว่าที่วารินจะได้ตั้งตัว บางสิ่งที่ร้อนแรงและอลังการกว่านิ้วมือมากมาย ก็สอดแทรกเข้ามาภายในกายอย่างดุดัน วารินผวาเฮือกมือเล็กกำจิกผ้าปูที่นอนแน่นพร้อมส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวด “อื้ออ..”
 

“พี่ทราย” เขาโน้มใบหน้าลงมากระซิบ “เจ็บนิดเดียวนะ ผมไม่ไหวแล้ว ร่างกายพี่ทำผมแทบคลั่ง ทนนิดนึงนะครับคนดี”
 

“ธ...ธาร...”
 

วารินข่มความเจ็บปวด ตอบเขาด้วยน้ำเสียงขาดห้วงเป็นระยะตามแรงที่เริ่มขยับ แรงบีบรัดจากช่องทางคับแคบที่ถูกล่วงล้ำเข้าไปบีบรัดเขาแน่นเหลือเกิน อีกทั้งเจ้าของร่างนุ่มนิ่มยังเกร็งตัวกว่าทุก ๆ ครั้งที่ผ่านมา มือหนานวดคลึงบั้นท้ายอวบอิ่มเพื่อให้อีกคนผ่อนคลาย จนกระทั่งเมื่อเขารู้สึกได้ว่าอาการเกร็งของอีกฝ่ายลดลงแล้ว จึงกระชับจับเอวบางไว้มั่นก่อนจะกระแทกร่างเข้าหาถี่ ๆ เพื่อนำพาตัวเองไปจนสุดทาง
 

“ธาร!” วารินร้องลั่นเรียกชื่อเขา ใบหน้าเล็กฟุบลงไปกับที่นอนนุ่ม “ธาร..อื้ออ...อื้อ..”
 
 

“ทำแบบนี้ ทำแบบนี้แล้วจะไม่เจ็บ” ธาราธารหยุดขยับสะโพก แต่ยังไม่ยอมถอนร่างออกไป ดึงแขนเล็กจับบังคับให้สอดผ่านเข้าใต้ร่างเจ้าตัว มือใหญ่เข้าประคองมือเล็กให้รูดรั้งแก่นกายเร่าร้อน
 

“ขยับนะ แล้วจะไม่เจ็บ ทำไปพร้อม ๆ กับผม”
 

เสียงครางเสียวซ่านจากคนตัวเล็กที่เขาจับบังคับให้ทำกับตัวเอง ดังลั่นขึ้นเป็นเท่าตัว ความรู้สึกเจ็บปวดจุกแน่นถูกแทนที่ด้วยความกระสันเสียวไปตามหน้าท้องลามลงไปจนถึงปลายขา เขายังจับมือเล็กเข้ารูดรั้งอยู่ไม่ห่างขณะที่สะโพกแกร่งเริ่มขยับไปพร้อม ๆ กัน
 

“พี่ทราย..” เสียงสั่นพร่าดังจากด้านหลัง “เงยหน้าขึ้นหน่อย ผมอยากเห็นหน้าพี่”
 

วารินเงยหน้าขึ้นตามที่เขาบอก ดวงตาสวยแดงก่ำด้วยฤทธิ์พิศวาส
 

“มองไปที่กระจก มองผมให้เต็ม ๆ ตา” 
 

เขาบอกวารินเช่นนั้น แต่เป็นตัวเขาต่างหากที่กำลังจับสายตาคมดั่งเหยี่ยวอยู่ที่ร่างกายเล็ก ๆ ที่เชื่อมต่ออยู่กับตัวเขา วารินหน้าร้อนผ่าว ยิ่งเห็นก็ยิ่งอายรีบเบือนสายตาหลบไปทางอื่น
 

“อายเหรอ?  ไม่ต้องอายหรอก ดูซิเราสองคนทำอะไรกันอยู่”
 

เขาโถมร่างกายใส่ เอ่ยเสียงปนหอบ ภาพสะท้อนที่กระจกแสดงถึงบทรักเร่าร้อน มือใหญ่จับเอวขอดกระชากรั้งให้ขยับรับแรงกระแทกถี่เร็วตามอารมณ์ที่กำลังพุ่งสูงขึ้น วารินครางออกมาอย่างลืมแล้วซึ่งความอาย มือเล็กขยับรูดรั้งส่วนเร่าร้อนของตัวเองทั้งแรงทั้งเร็ว จนใกล้จะถึงจุดแตกดับ
 

“ธาร...อื้อ..ธาร..” เสียงเล็กครางอ้อนวอน เขาโอบท่อนแขนรั้งตัวบอบบางให้ยืดตัวขึ้นจูบลงไปที่ต้นคอหอม กระซิบชิดลงที่ริมหูเสียงกระเส่า
 

“ไปพร้อมกัน...อ่าา”
 

นัยน์ตาคู่สวยฉ่ำปรือ มองสบดวงตาคมที่สะท้อนอยู่ในเงาของกะจก เห็นเขากัดฟันข่มกรามแน่น ดวงหน้าคมเข้มบิดเบี้ยวด้วยความทรมานระคนกระสันรุนแรงไม่ต่างไปจากตัวเอง สะโพกแข็งแกร่งถูกเร่งจังหวะจนถึงขีดสุด เสียงครางต่ำดังลั่นห้อง กลีบนุ่มนิ่มตอดรัดร้อนผ่าวด้วยแรงเสียดสีของความแข็งแกร่งกำยำ
 

เขาปัดมือเล็กของวารินที่ขยับของตัวเองออกแล้วเข้าปรนแปรอให้ด้วยฝ่ามือองเขา  จังหวะที่เขามอบให้ทั้งสองจุดร้อนทำเอาวารินครางฮือขึ้นมาอีกหน  ร่างกายเล็กมิอาจทานทนต่อรสพิศวาสของเขาได้อีกต่อไปแล้ว เสียงกรีดร้องแห่งความสุขสันต์ดังระงมเมื่อเขาสวนกายกระแทกเข้าหาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่หัวใจดวงเล็กจะโค้งสูงแตะเส้นขอบฟ้า ธารรักร้อนแรงพวยพุ่งออกมาเลอะเต็มมือของเขา 
 

ธาราธารเองก็ไม่ต่าง เขาปล่อยเสียงครางลั่นยาว ขณะที่ความเร่าร้อนภายในกายฉีดพล่านพุ่งเข้าสู่ความอ่อนนุ่มที่บีบรัดความแข็งแกร่งของเขาอยู่ ร่างกายเบาโหวงราวกับว่ากำลังจะหลุดลอยไป กายหนาขยับทาบทับลงไปที่แผ่นหลังเนียนนุ่มที่ฟุบคว่ำลงไปกับที่นอนอย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง อ้อมแขนแกร่งตวัดกอดรัดร่างกายบอบบางนั้นไว้ราวกับว่าเป็นของรักของหวงที่มีแค่ชิ้นเดียวในโลกหล้า ริมฝีปากร้อนพรมจูบที่ไหล่ขาวเนียน เขาชอบขบไหล่เล็กเล่นมากจริง ๆ
 

“นี่คือบทลงโทษ” เขากระซิบ
 

“ลงโทษ?”วารินทวนคำพยายามจะหันมามอง
 

“ลงโทษคนที่ชอบยั่วให้ผมโมโห  ยั่วให้ผมโกรธ  ลงโทษคนขี้หึงแล้วยังปากแข็งว่าตัวเองไม่ได้หึง”
 

จมูกซุกซนของเขาซอกแซกแถว ๆ ต้นคอเล็ก วารินย่นคอหนีอีกฝ่ายก็ยังตามมาไม่ยอมปล่อยให้ห่าง
 

“ไม่คิดอะไรมากแล้วใช่ไหม  เรื่องชนาธิปผมยืนยันได้ผมไม่มีอะไรกับเขาแน่นอน เชื่อใจผมต่อไปขึ้นมานอนกับผมที่นี่นะ ได้ใช่ไหมครับ”
 

“ธาร” พอได้ยินเขาพูดแบบนั้น วารินรีบลุกขึ้น ยื้อกายออกจากวงแขนของเขา ธาราธารมองตามอย่างไม่เข้าใจ
 

“เมื่อไหร่ก็ตามที่ธารต้องการพี่ ๆจะขึ้นมาหา แต่ถ้าหากจะให้พี่ขึ้นมานอนที่นี่กับธารพี่คงทำอย่างนั้นไม่ได้ พี่อยากให้ธารตระหนักถึงสถานะของเราทั้งคู่ด้วย”
 

“คืออะไร??”
 

“ธารเคยบอกไว้เองว่าพี่อยู่ที่นี่ในฐานะคนรับใช้ เป็นแค่ที่ระบายอารมณ์เวลาที่ธารอยากและต้องการ คำพูดของธารพี่....”
 

....พี่ไม่เคยจะลืมลงได้เลย....
 

“พี่ทราย...” 
 

ดวงตาคมกริบแดงก่ำเมื่อได้ฟังถ้อยคำที่เขาเคยพูดทำลายหัวใจคนที่เขารักไปแบบนั้น แววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดจับจ้องอยู่ที่ดวงหน้าเล็ก
 

เขารู้...ในตอนนั้น เขาเคยพูดสิ่งเลวร้ายมากมายกับคน ๆ นี้
 

เขารู้...เขาทำเรื่องไม่ดีและรุนแรงมากมายใส่ เพียงเพื่อให้ตัวเองได้ระบายความโกรธแค้น
 

คำพูดเลวร้ายรุนแรงถูกระบายออกมาเพื่อความสะใจเท่านั้น
 

ทว่าตอนนี้ ถ้อยคำที่วารินพูดออกมานั้นเต็มไปด้วยแววตัดพ้อ....น้อยใจ
 

“ธาร  สถานะของเรา....”
 

“ไม่เอา ไม่พูดแล้ว” เขาปรามไม่ให้พูดต่อ รั้งแขนเล็กให้ร่างบอบบางลงมานอนแนบชิดกันอีกครั้ง  “ลืมมันไปให้หมดได้ไหม สิ่งไม่ดีที่ผ่านเข้ามาระหว่างเรา พี่จะลืมมันไปได้รึเปล่า”
 

“ธาร!”
 

“ถ้าพี่สัญญาว่าจะลืมมันได้ เรื่องราวไม่ดีของพี่ผมเองก็จะทำใจให้ลืมมันไปเหมือนกัน ผมจะพยายาม...พี่ทราย”
 

วารินหันไปมองหน้าเขาชัด ๆ สบในตาคมคู่นั้นนิ่ง เห็นชัดถึงประกายหนักแน่นและจริงใจ ปะปนไปกับความรู้สึกผิดอยู่เต็มอก  มือแกร่งเชยคางมนขึ้นมาจูบแผ่วเบา
 

“...ผมเป็นของพี่....” กระซิบลงที่ริมหูเล็ก จ้องหน้าวารินนิ่ง
 


...โปรดเชื่อใน ‘รัก’ ของผม....
 


ตากลมโตยังจับอยู่ที่ดวงหน้าหล่อเหลาของเขาไม่ยอมขยับไปไหน ในดวงตาคมของเขานั้นเหมือนกำลังร้องขอให้วารินทำอะไรสักอย่างกับคำพูดจากหัวใจที่เขาเพิ่งกลั่นมันออกมา
 


ในที่สุดมือเล็กค่อยเอื้อมไปกอดเอวเขาไว้ เอ่ยถ้อยคำที่ทำให้หัวใจดวงโตได้กลับมาสดใสขึ้นอีกครั้ง
 


“พี่ก็เป็นของธาร”
 


วงแขนใหญ่รวบเอาร่างเล็กเข้าแนบชิดกอดเอาไว้ทั้งตัวอย่างรักใคร่ เฝ้าจูบลงที่เรือนผมหอมซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่รู้จะกล่าวคำขอบคุณกับใครเมื่อวารินเอ่ยคำๆนี้ออกมา
 

สักวันหนึ่ง......
 

เขาจะเอ่ยคำว่า ‘รัก’ มอบให้กับคนในอ้อมกอดด้วยใจที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง
 

วันเวลาจะช่วยให้เขาลืมเลือนเรื่องไม่ดีที่ผ่านเข้ามาได้...และเมื่อถึงตอนนั้น
 

คนในอ้อมกอดนี้จะได้คำว่า ‘รัก’ จากเขาอย่างเต็มหัวใจ และไม่มีอะไรเคลือบแฝงอีก เขาอยากจะรอจนถึงวันนั้นแล้วเขาจะเอ่ยมันออกมา
 

ขณะที่วารินหลับตาลงแน่น รับรู้ถึงความอุ่นซ่านที่กระจายอยู่ทุกอณูเนื้อ...อ้อมกอดจากเขา...ถ้อยคำที่มีความหมายมากมายจากเขา
 


.....ขอบคุณนะธาร ขอบคุณที่ยังรักพี่อยู่ ทั้งที่พี่ทำเรื่องราวใหญ่โตขนาดนั้น ธารก็ยังคิดที่จะให้อภัย.....
 


.....พี่เองก็เป็นของธาร....
 


.....เป็นตั้งแต่วันแรกที่ตกลงรับปากจะดูแลธารแล้ว....
 


.....เป็นพี่เลี้ยง......ไม่ใช่คนรัก....
 


Tbc.

*ทำไมตอนนี้มันยาวงี้ล่ะ อ่านอาทิตย์นึงนะ*
*ในที่สุดพระเอกก็ออกได้สักที  อ๊ะ! ล้อเล่นนนน น้องธารฉันจะถูกจับกดเหรอนี่!! :hao7:
*ตกลงว่าธารได้กินไหม กาแฟ!
*เขียนบทอีโรติกแล้วมันเพลิดเพลินจริง ๆ ยาวไปเรื่อยเลย อิอิ ถ้ารู้สึกว่ามันหยาบคายทักท้วงได้ทันทีเลยนะเดี๋ยวเราแก้ไขให้*
*ตอนนี้ไฟในตัวกำลังมอด.......T.T*


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-04-2014 23:57:55 โดย coffeeQbread »

ออฟไลน์ monaligo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
โอ๋ๆๆๆ คุณผู้แต่งอย่าท้อเลยน๊าาาาเค้าเป็นกำลังใจให้นะ :mew1:
ชนาธิปนี่ยังเบบี๋นะจ๊ะอย่าคิดเทียบรุ่นกับคุณพี่วาริน
ส่วนคุณปวีร์นี่น่ากลัวนะรุกขนาดนี้น้องธารก็ยอมๆหน่อยเถอะให้พี่แกเต๊าะบ้างไรบ้าง5555555 :hao7:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ love AJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
น้องธารจะโดนรุก ขำอ่ะ ตาวีย์อะไรนั่นก็นะ... แกจะกล้ามชนกล้ามเรอะ อย่ามายุ่งกับพระเอกชั้น
น้องธารขี้หึง พี่ทรายก็ขี้หึง แต่ธิปนี่แบบด้านเนอะ พูดออะไร หมดคุณค่าเลยอ่ะ ผู้ชายเขาไม่ไรด้วยเล้ย อยากจับนางหมกถังขยะค่ะ
พี่ทรายสติลอยากเป็นแค่พี่เลี้ยง เฮ้อ น้องธารเจ็บ ใข่ว่าพี่ทรายไม่เจ็บกับเรื่องที่ผ่านมา เธอเจ็บแล้วจำด้วยคนนี้

ขอบคุณค่ะ อาทิตย์นึงเลยเหรอคะ นานไป๊ จะรอนะคะ

ออฟไลน์ zombi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +63/-5
ไฟกำลังมอด -> ต้องเติมเชื้อเพลิงแบบไหน เดี๋ยวจัดให้

น่าจับพี่ทรายมาตีก้นจริงๆ น้องธารพยายามลืมเรื่องร้ายๆแล้วกลับมารักกันเหมือนเดิม
พี่ทรายก็หวังน้อยเสียจริงอยากเป็นแค่พี่เลี้ยง ถ้าธารรู้คงต้องมีลงโทษกันถึงเช้าแน่

น้องธารระวังตัวหน่อยก็ดีนะ เดี๋ยวนี้กรรมติดจรวจ กดพี่ทรายมาเยอะ ระวังจะโดนกดเสียเอง

ยังคิดถึงคุณพ่อและพี่ซีเสมอนะคะ

ออฟไลน์ Cockroach

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ตายๆน้องวาริน มีคู่แข่งที่เหนือกว่านังทิปมาละ ปวีย์สินะ แอบเมมเบอร์ธารไว้ละสิตัวเองเค้ารู้นะตัวว :hao7: :hao7:  ระวังเจอวารินโหมดฮาร์ทคอร์ละอยากเห็น :z3: :z3:

ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
โอ้ยยยย อ่านประโยคสุดท้ายของพี่ทรายแล้วรู้สึกสงสารธารขึ้นมาเลยอ่ะ ฮือออออออ

คนเขียนสู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ enjoy0189

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 119
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
ปวีย์นี้น่ากลัวสุดๆๆ :katai1:

ทรายเป็นของธาร ธารเป็นของทราย อ๊ายยยย เขินนนน :katai2-1: :-[

ออฟไลน์ U_Ton

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 :jul1: ฉากอินเลิฟนี่มันชวนเพ้อจริงๆ... ยอมรับว่าเรทจริงเเต่อบอุ่นมากกกกก ละมุนเเละร้อนเเรงในขณะเดียวกัน ถ้ามี
องค์ประกอบเป็นคำว่ารักเพิ่มมาอีกนิด ชีวิตของคนคู่นี้คงจะสมบูรณ์แบบที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ดีใจกับทรายจริงๆที่ธาร
เอ่ยปากว่าเขาเป็นของทรายเหมือนที่ทรายเป็นของธารตลอดมา... ตอนนี้ก็แค่รอยลคำว่ารักของธารซึ่งอาจต้องใช้เวลา
หวังว่ามันจะมาในไม่ช้า ก่อนที่จะมีอะไรมาแทรกแซงให้เข้าใจผิด (แต่ถ้ามาพูดยุแต่กลายเป็นทำให้คนเขารักกันมากกว่า
เดิมแบบชนาธิปตอนนี้ก็ดีนะ 555... หัวเราะเเบบสะใจมากกกก) ธารน่ารักมากที่ขอให้ทรายเชื่อใจ บอกตรงๆไม่เลือกที่จะ
โกหก ยอมรับว่าจูบจริงเเต่ไม่มีซัมติงในมุ้งนอกมุ้ง ยอดเยี่ยม  o13 จากที่เคยมองว่าธารช่างโหด (ปนน่าสงสาร) เจอตอน
นี้เข้าไป ธารเหมาะกับทรายมาก ความรักของทั้งคู่คู่ควรกันเเล้วเเหละ

 :katai1: ชนาธิปในตอนนี้ขอให้คำที่รุนเเรงนิดนึง ร่าน มากกกกกกกก... พูดมาได้ไม่อายปาก ถ้าเป็นเรื่องจริง ธารไปฟัด
มาด้วยจริงก็จะไม่ว่าเลย นี่ถนัดนะสร้างความร้าวฉานให้คนที่เขารักกัน ตัวว่าอยู่สูงเเต่จิตใจต่ำอยู่ก้นนรกภูมิ จิตสำนึกหน้าตา
เป็นยังไงสะกดไม่เป็น พูดมาได้ว่าอยากมีพี่ชาย แต่ไอ้ที่บรรยายนี่เเถวบ้านเรียกว่า ฉากซั่ม ตกต่ำจริงๆ ครอบครัวมีปัญหาขาด
ความรักใช่ข้ออ้างมั้ย ไม่มีปัญญาสร้างความรักที่สวยงามด้วยตนเองเลยทำตัวน่ารังเกียจเป็นมลภาวะโลกอยู่นั่นเเหละ ทำใจ
รักชนาธิปได้ยากจริงๆ ช่างเป็นตัวละครที่ยากจะเยียวยา ใจกล้า หน้าด่าน ร่านไม่เเคร์ใคร  :เฮ้อ: คนเขาจะว่าเอาได้นะว่าติด
สันดรมารดาชอบเเย่งมาน่ะ... เสนอตัวเเล้วเสียใจทำไมไม่สำเหนียก ความอายม้วนเก็บไว้กรุไหน จะได้ไปช่วยเอาออกมาปะ
หน้าให้มันมียางบ้าง... รักทรายมากขึ้นเป็นร้อยเป็นพันเท่า เพราะถ้าเทียบกับชนาธิปเเล้ว จิตใจทรายดูดีกว่ามากรูปร่างไม่
บิดเบี้ยวพิกลพิการอย่างใจชนาธิป... ตกลงชนาธิปเป็นสายน้ำผึ้งใช่มั้ย (ยังยืนยันว่าอยากให้ชนาธิปกลับใจนะ เพราะโดย
พื้นฐานแล้วก็เป็นคนน่าสงสารอยู่หรอกไหนจะเเม่ ไหนจะเรื่องพ่อ แล้วยังการเเสวงหาความรักเเบบผิดๆ อีก)

มีตัวร้ายเพิ่มขึ้นเเล้ว เเถมเเรงมากด้วย เปิดตัวมาก็จะจับธารกลืนลงท้องเเบบไม่เคี้ยวซะเเล้ว ช่างตะกละตะกลามเสียจริงๆ...
 o22 ปวีย์ต้องเป็นคนที่มั่นในหนังหน้าตัวเองมากเลยถึงกล้าไปว่าคนอื่นเขาว่า จืด (อันที่จริงชนาธิปก็เป็นนะเเบบนี้ ปากมีไว้
พูดร้ายๆเสมอ... ปากน่าจับไปดูดส้วมเสียจริง) จะจืดยังไงทรายก็เป็นคนที่ธารรักเเหละ สวยน่ารักในสายตาคนที่เรารักก็พอ
เอาความจริงมีคนชอบทรายเยอะเเยะ น่ารักออก ...ปวีย์ทำตัวน่ารังเกียจตั้งเเต่เเรกพบเลยนะเนี่ย ไม่อยากใช้คำว่ารุกหนักเพราะ
อันนี้ดูไร้ขอบเขตเกินไปชนิดที่ว่าอย่าเผลอไม่ว่าคุณจะหันหน้าหรือหันหลังอยู่ก็ตาม... เป็นคนเหลือเชื่ออีกคน เเต่ในตอนนี้ไม่มี
ความรู้สึกว่าน่าสงสารหลงเหลืออยู่เลยเเบบชนาธิป (รายนี้ความสงสารเริ่มลดลงเรื่อยๆเเล้ว) เป็นสิ่งมีชีวิตที่สุดกู่จริงๆ :katai4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-04-2014 01:01:51 โดย U_Ton »

ออฟไลน์ Min61

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เอ่อ... ปวีย์น่ากลัว นี่ถ้าเป็นเรื่องใหม่นี่เชียร์ให้เป็นพระเอกละ
แต่เรื่องนี้ ไม่ได้นะ ธารเธอต้องเป็นตัวพระนะ อย่าเผลอไปเป็นนางเชียว  :katai1:

ส่วนชนาธิป ไม่มีคำจะพูด หมดแล้วคำด่า ปล่อยไป สุดท้ายเธอก็ไม่ได้อยู่ดีแหละย่ะ  :laugh:

ออฟไลน์ momo9476

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 562
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-2
เค้ารักกัน ให้อภัยกันแล้ว

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :a5: อุต๊ะ มีมหาเสะกำเนิดขึ้นมาแล้ว คิดยังไงนะขุ่นพี่ปวีร์ มองยังไงว่าธารมันสวย
อย่างธารที่ถอดแบบมาจากพี่ทัตต้องหล่อโฮกสิขุ่นพี่
แสดงว่าขุ่นพี่วีนี่ต้องชอบกดคนแมนๆแน่เลย

ชนาธิปนี่ไม่ไหวนะ ทำตัวแรดเกินทน  :z6: ดีที่ทรายเอาคืนบ้างอะไรบ้าง
ใจจริงน่าจะอัดคลิปเสียงส่งให้แม่มันไม่ก็แบล็คเมล์นะ
มันจะได้อาย ถึงไม่อายถ้าคนในธุรกิจรู้ว่าธิปเป็นคนแบบนี้คงไม่รอดแน่
เพราะคงมีคนจ้องจะ'เอา' ได้ผัวสมใจแน่แกเอ๋ย

 :jul1: ว๊ายยยยยยยยยยย กินกาแฟกินอีกแล้ว
อีสองคนนี้กินกาแฟทีไร เลือดฉันไหล ความดันฉันขึ้นทุกที  :haun4:
เอ็นซีพวกเธอนี่ยาวมากนะ บรรยายละเอียดเหมือนนั่งดูระยะประชิดเลย หุหุ
 
:pighaun: อร๊ายยยยย เจอช็อตภาพในกระจกของเด็กธารไปนี่ทำเอา.....
ทำให้รู้ว่าอิเด็กธารมันจิต หื่น ทะลึ่ง ลามก (แต่ฉันก็ชอบพระเอกแบบนี้น่ารักดี   :laugh5:)

พวกเธอกำลังจะคืนดีแล้วเริ่มกันใหม่ได้แล้วเย้ ดีใจมากๆ
ถ้าไม่มีความคิดพี่ทรายที่ลากมาดราม่าก็จบอ่ะนะ ขาดดราม่าไม่ได้ซักตอนเลยให้ตายสิ นึกว่าตอนนี้จะไม่มีแล้วแท้
ถ้าธารบอกคำว่า 'รัก' อาจจะดีขึ้นล่ะมั้งนะ
หึหึหึหึ ไม่หรอกรอบนี้พี่ทรายต้องเอาคืน  :z4:
จัดการนะพี่ทราย ในเมื่อแอบ SM มาแล้วเราต้องเปลี่ยนขั้วมากุมบังเหียนอิเด็กธารมันบ้าง
ให้มันรู้ว่าเคะน้อยๆคนนี้ก็เป็นราชินีได้  o18

ปอลิง: เอาอิธิปไปเก็บที เกะกะจริงๆ ไม่งั้นก็ส่งมันไปหาขุ่นพี่วีให้พี่แก SM จนอิธิปร่านให้พอ
// ความจริงฉันเป็นคนใสๆนะพวกเธอ แค่วิจารณ์ไปตามเนื้อผ้า  :m13:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด