“ธารออกไปเถอะ พี่จะนอนแล้ว ถ้า ‘อยาก’ นักก็ขับรถไปหาเขาสิ มีคนของตัวเองอยู่แล้วจะมายุ่งกับพี่ทำไม!”
ในที่สุดคำพูดทั้งหมดที่อยากพูดก็พรูออกมาจากปากจนเกลี้ยง แขนเล็กถูกเขากระชากเข้าหาทันที วารินทำเขาโมโหอีกแล้ว
“ปล่อยนะ!”
“ยั่วโมโหผมนี่ งานถนัดของพี่เลยใช่ไหมฮึ!”
“พี่บอกให้ปล่อย!”
“เสียใจด้วย ไม่ทันแล้ว”
เขาประกบเรียวปากร้อนผ่าวลงมาหนักหน่วง “อื้ออ...” วารินร้องประท้วงดิ้นจนเขาต้องกอดรัดเอาไว้ ลิ้นร้ายกาจบุกทะลวงเข้าไปเกี่ยวเกาะ สัมผัสที่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกทั้งหมดของเขาทำเอาวารินเคลิ้มไปกับรสจูบที่เขากำลังปรนเปรอให้ ฝ่ามือร้ายเข้ากระตุกปลดปมผ้าเช็ดตัวผืนหนาร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น สองมือขึ้นกอบกุมทรวงอกแล้วบดบี้ส่วนชูชันอยู่อย่างนั้น ขณะที่ริมฝีปากร้ายยังตักตวงเอาความหวานหอมของโพรงปากหวานปานน้ำผึ้งไม่ยอมหยุด วารินครางประท้วงในลำคอ
“อื้ออ...ธาร”
“ทำผมโกรธแบบนี้ รู้ไหมว่าจะต้องโดนโทษหนักขนาดไหน” เขาว่าแล้วรั้งแขนเรียวให้หันหน้ามาทางเขาก่อนที่จะกดวารินลงบนเตียงอย่างรวดเร็ว ดวงตาคมกวาดมองเรือนร่างของคนใต้ร่างกายตนอย่างพอใจ
“ไม่เอา! อย่าทำนะ” วารินดิ้น ผลักเขาออกแต่ดูเหมือนทุกอย่างจะสายไปเสียแล้ว
“ช้าไปแล้วพี่ทราย”
เขาว่าแล้วยืดตัวขึ้นถอดเสื้อยืดที่สวมออกทางศีรษะอย่างรวดเร็ว สองมือกดข้อมือเล็กจมลงที่เตียงอีกหน
“ชอบให้ผมใช้กำลังด้วยใช่ไหม ถึงหาเรื่องมายั่วกันเนี่ย”
“ไม่ใช่! ปล่อยนะ! ธารกอดคนอื่นแล้วอย่ามาทำแบบนี้กับพี่ ไม่เอา! ออกไปให้พ้น!” วารินเริ่มตะคอกเสียงดัง
“ปากเล็ก ๆ นี่ประชดประชันกันเก่งจริงนะ หืมม”
เขาว่าแล้วไล้เรียวนิ้วไปตามริมฝีปากสวยก่อนจะสอดเข้าไปอย่างหยอกล้อ วารินอยากกัดลงไปใจจะขาด แต่เพราะว่าเป็นธาราธารที่เขารัก เพราะอย่างนั้นจึงได้แต่นอนนิ่งมองหน้าเขา นิ้วร้ายเริ้มชักเข้าออกอย่างแก่นเซี้ยว วารินถึงกับหน้าแดงปลั่ง เขาอมยิ้มแล้วโน้มใบหน้าเข้าหา
“ทำให้ผมบ้างนะ” เสียงกระซิบสั่นพร่า เริ่มปวดปร่าไปทั้งร่าง สิ่งเดียวที่เขาต้องการในตอนนี้คือ ‘ครอบครอง’ คนๆนี้เท่านั้น
วารินส่ายหน้าทันที “พี่ อื้ออ...ไม่เป็น” เสียงเล็กอู้อี้เขายังไม่ยอมเอานิ้วลามกนั้นออกจากโพรงปากอุ่นง่าย ๆ น้ำลายไหลเยิ้มออกมาตามมุมปากสวยเป็นสายยาว เขายกยิ้มน้อย ๆ กับคำตอบที่ดูเหมือนไร้เดียงสานั่น ก้มลงจูบตวัดลิ้นเลียลงที่มุมปากคนใต้ร่าง
“ไม่เป็นไร ทำตามที่ผมสอน เดี๋ยวผมจะทำให้ดูเดี๋ยวนี้เลย”
เขาเริ่มไล้ฝ่ามือไปตามส่วนเว้าโค้งราวกับกำลังสำรวจประติมากรรมชั้นเยี่ยม สัดส่วนบนเรือนกายที่เรียบลื่นและบอบบางลงตัวเร้าใจเขายิ่งนัก หน้าอกชูชันสีชมพูทั้งนุ่มและหอมหวาน สัมผัสมาแล้วกี่ครั้งๆก็ยังติดใจไม่รู้ลืม หน้าท้องแบนราบที่น่าซุกไซ้แบบนั้น กลิ่นนมอ่อนๆที่กระจายไปทั่วทุกอณูของผิวกาย
เขาทอดสายตาลงไปที่แท่งสีชมพูชูชันโดดเด่นอยู่กลางลำตัว กายหนาสั่นสะท้านขึ้นมาอย่างครามครัน เมื่อเขาไล้ฝ่ามือลงไปบดบี้ที่ส่วนหัว น้ำเยิ้มๆ ไหลรินออกมาริมฝีปากเขาโน้มลงมาใกล้ชิดริมฝีปากเล็ก
“จูบผมสิ”
เขาสั่งเสียงพร่าต่ำ สายตาอัดแน่นไปด้วยความปรารถนาแรงกล้า ขณะที่มือยังบดบี้รูดรั้ง และลากไล้ วารินสะท้านจนกายสั่นเกร็ง เขายอดเยี่ยมเรื่องบนเตียงไม่เคยเปลี่ยน คราวนี้ถึงขนาดจะทำให้เขารุกให้ได้
....นิ้วมือของเขา...ริมฝีปากของเขา...คล้ายมีอะไรบางอย่างในตัวแทบระเบิดออกมาเพียงความอบอุ่นนั้น แนบกาย.... มือเล็กยกขึ้นคล้องคอเขาอย่างลืมตัวโน้มดึงให้ต่ำลงมาก่อนจะเอียงคอเล็กน้อยเพื่อแตะริมฝีปากเข้าหาเรียวปากหนานุ่มของเขา
วารินพยายามจูบเร้าเขาเหมือนอย่างที่เขามักทำให้เสมอ ลิ้นเล็ก ๆ รุกล้ำไปในโพรงปากอุ่นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ แต่กลับทำให้เขาครางกระหึ่ม ธาราธารสอดมือลงไปที่แผ่นหลังบางรั้งให้แอ่นขึ้นมาเพื่อแนบชิด ก่อนจะเป็นฝ่ายบดเรียวปากลงไปเพื่อแสดงให้เห็นว่าการจูบที่แท้จริงมันต้องเป็นเช่นไร วารินกลับต้องเป็นฝ่ายครางเสียงแผ่วเสียเอง
เขาลากลิ้นจูบลงที่ลำคอขาวเนียน ตีตราทุกตารางนิ้ว เนื้อผิวเนียนนุ่มที่มีเขาเป็นเจ้าของถือครองสิทธิ์ ลิ้นร้ายลากไล้มาสะกิดที่ยอดชูชันสีชมพูสวยงาม วารินแอ่นอกรับสัมผัสจากเขาขณะที่มืออีกข้างเข้าบดบี้เร่งเร้า คนตัวเล็กยิ่งกว่าเสียวสะท้านเมื่อเขาเปลี่ยนเป้าหมายให้ต่ำลงมาจนถึงหน้าท้องขาวเนียนซุกไซ้ใบหน้าฝังลงที่แอ่งกลางลำตัว ก่อนจะแตะลิ้นร้อน ๆ ลงที่แก่นกายคนตัวเล็ก วารินหอบผวาเมื่อเขาแกล้งดูดดุนแรง ๆเข้าที่ส่วนหัว แล้วรูดรั้งขึ้นลง ก่อนจะครอบริมฝีปากร้ายแสนร้อนลุ่มลงที่ส่วนนั้น เสียงเล็กครางกระเส่าเมื่อเขาเร่งเร้าจังหวะช้าเร็ว
“อื้ออ...ธาร”
ธาราธารชอบที่จะได้ยินวารินเรียกชื่อเขาในเวลาแบบนี้ที่สุด มือเล็กสอดแล้วจิกลงบนเรือนผมดำขลับของเขา สะโพกสวยแอ่นสวนเข้ากับริมฝีปากร้อนด้วยใจที่รัญจวนอย่างที่สุด
“ธาร..อ๊าา..” น้ำสีขาวขุ่นพุ่งออกมาเป็นสาย ลิ้นร้ายรอรับของร้อน ๆ แล้วลากยาวเข้าแตะที่ส่วนอ่อนไหวปราการทางด้านหลังทันที วารินครางฮือสะดุ้งสุดตัว ใบหน้าเล็กแหงนเงย สูดปากจนลืมอายยามเมื่อเขาตวัดเรียวลิ้นไปรอบ ๆ แล้วฉกเข้าออกอยู่อย่างนั้น
“ธาร..ไม่ไหว พอแล้ว” เสียงเล็กกระเส่าปานจะขาดใจ เขาเลื่อนริมฝีปากจูบขึ้นมาเรื่อยจนถึงกลางลำตัว ราวนม แล้วขบลงที่หัวไหล่ปิดท้าย ส่งเสียงกระซิบพร่าสั่นที่ริมหูเล็ก เป่าลมหายใจร้อนผ่าวเข้าใส่
“ชอบไหม หืมม อยากได้หรือยัง”
“ธารอย่าแกล้งกัน”
“ทำให้ผม”
เขาว่าจบยืดตัวขึ้นแล้วเลื่อนขยับลำตัวขึ้นมาคร่อมลงที่ใบหน้าเล็ก จับแท่งร้อน ๆ ของเขาที่ผงาดล้ำเต็มที่จ่อลงที่ริมฝีปากสวย วารินหน้าซับสีแดงปลั่งเต็มไปด้วยความกระดากอาย
เรียวปากเล็กค่อยเปิดออกอย่างช้า ๆ ก่อนจะส่งลิ้นเล็กแต่ร้อนแรงไม่แพ้กันออกมาแตะชิมตวัดเลียเข้าที่ส่วนนั้นแล้วครอบครองลงไปอย่างยากลำบากเพราะเนื้อแท้ที่อัดแน่นไปด้วยไฟปรารถนาของธารนั้นใหญ่เกินไปจริง ๆ ปากเล็กดูดดุนได้แค่ส่วนหัว สองมือประคองแท่งร้อนของเขาไว้อย่างทะนุถนอม ลิ้นร้อนนุ่มนิ่มพยายามทำในแบบที่เขาทำให้ ธาราธารที่คุกเข่าคร่อมใบหน้าเล็กอยู่ด้านบนถึงกับต้องยืดตัวขึ้นยกมือยันฝาผนังเงยหน้าสูดปากระบายความเจ็บร้าวแทบอยากระเบิดมันเสียตอนนี้ เสียงเขาคำรามต่ำดังลั่น พยายามสะกดกั้นไฟแห่งความปรารถนาที่ประทุจนแทบทะลักอย่างบ้าคลั่ง ปวดหนึบไปทั้งร่าง
เขาจะไม่ยอมให้ทุกอย่างในคืนนี้จบเร็วเกินไป วารินกำลัง ‘ทำ’ ให้เขา นั่นคือภาพที่เขาต้องการที่จะเห็นมาโดยตลอด เขาก้มหน้ามองใบหน้าเล็กที่กำลังจดจ่ออยู่กับลูกชายคนเก่งของเขา ดวงตาคมเต็มไปด้วยไฟราคะ สอดมือหนาลงที่เรือนผมนุ่มสลวย กดหัววารินให้เสพแก่นกายของเขาลึกยิ่งขึ้นไปอีก
“พี่ทราย อืมม” เขาครางต่ำ เมื่อวารินไม่ยอมครอบครองเขาลงทั้งหมดจนมิดแท่ง ปากเล็ก ๆ พยายามแล้วพยายามอีก อย่างมากก็ลงไปได้แค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ เท่านั้น
“พอ พอแล้ว ผมไม่ไหว”
เขาว่าแล้วถอนกายออกจากริมฝีปากสวย จูบเร่าร้อนถูกบรรจงมอบเป็นรางวัลกับคนใต้ร่าง มือหนาปัดป่ายไปทั่วลำตัวขาวอย่างหื่นกระหาย วารินทำเขาแทบคลั่ง คืนนี้เร่าร้อนว่าทุกครั้งเสียเหลือเกิน
“พร้อมนะ” เขาว่า
“ธาร หยุดตอนนี้ได้ไหม”
“ผมไม่มีทางหยุดได้หรอก”
ให้ตายก็หยุดลงไม่ได้แล้ว เขาแทบจะคลั่งตายกับการควบคุมกายร้อนไม่ให้มันระเบิดก่อนเวลาอันควร นิ้วร้ายลากไล้ตั้งแต่โคนขาขาวไล่ขึ้นมาจนถึงสะโพกด้านในก่อนจะขยับสอดแทรกเข้าไปที่โพรงนุ่มหยุ่นร้อนที่ตอดรัดแม้กระทั่งเรียวนิ้วของเขา ร่างกายที่แสนวิเศษณ์นอนทอดให้เขาได้เชยชมอยู่ต่อหน้าแบบนี้ไม่มีอะไรจะมาหยุดเขาลงได้อีกต่อไปแล้ว
“อื้ออ..ธาร เร็วอีก”
เสียงเล็กครางบอกความต้องการของตัวเองนั่นทำเอาเขาถึงกับอมยิ้ม วารินไม่เคยพูดความรู้สึกออกมาแบบนี้สักครั้งเวลาร่วมรัก แสดงว่าคราวนี้เขาเหนือชั้นมากจริง ๆ เขาเร่งจังหวะที่ปลายนิ้วกดลงที่จุดกระสัน และเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นสามขณะที่อีกฝ่ายร้องระงมแทบคลั่ง ทั้งจิกทั้งทึ้งผ้าปูที่นอนจนยับย่นไปหมด ใบหน้าหวานส่ายไปมาเหยเกด้วยความเสียวซ่านและรัญจวนแทบขาดใจ น้ำหวานมากมายไหลเยิ้มออกมาจากส่วนหัวที่ชูชันทั้งของเขาและของคนตรงหน้า
เพราะสัมผัสปลุกเร้าที่ช่ำชองจนร่างเล็กถึงกับอ่อนระทวย ทำได้เพียงส่งเสียงร้องเพื่อลดทอนความทรมานที่ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง เขาจ้องมองเรือนร่างที่บิดแอ่นเพราะความเสียวซ่านด้วยความอิ่มเอมใจ ก่อนจะพลิกคนตัวเล็กขึ้นทาบทับส่วนตัวเขานอนลงไปแทนที่ แก่นกายร้อนผ่าวถูกจับยัดแล้วกดสะโพกเล็กค่อยครอบลงจนจมมิด
“อ๊าาา...ธาร”
ไม่มีเสียงใดจะหวานฉ่ำเท่าเสียงเรียกชื่อเขาเมื่อครู่อีกแล้ว เขาตั้งเข่าสองข้างขึ้นแล้วเด้งสะโพกสวนใส่ทันที วารินยันหน้าอกเขาไว้พยายามประครองกายรับสัมผัสหวามไหวจากเขา ธาราธารคำรามหนักในลำคอความปวดหนึบรุนแรงขึ้นเป็นเท่าตัว เขาสูดปากครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อระบาย ทว่าอีกฝ่ายก็ยังกดสะโพกขึ้นลงสู้จนแทบขาดใจไม่ต่างกัน มือหนาขยับเข้ามาเฟ้นลงที่ก้นงามงอน ขณะที่มืออีกข้างเข้าสะกิดหยอกล้อที่หน้าอกเนียนผิวขาวนวลย้อมเป็นสีชมพูระเรื่อ ถูกประทับด้วยรอยจูบเมื่อเขารั้งแผ่นหลังบอบบางเข้ามากกกอด วารินซบลงที่อกเขาอย่างหมดแรง สะโพกแกร่งยังสวนขึ้นลงไม่ยอมหยุด สอบเข้าหากันเสียงดังพับ ๆๆดังและแรงจนเตียงเล็กสั่นสะเทือน
“ฮ.อ๊าา..ธาร ไม่ไหว” วารินจวนจะระเบิดออกมาอีกหน แท่งสีสวยร้อนผ่าวจนเจ็บร้าวไปหมด ละลำตัวขึ้น แล้วยกสะโพกตอบรับให้เร็วขึ้นไปอีก
“ธารเร็วอีก” ธาราธารจัดให้ไม่รอช้า เลื่อนมือเข้ารูดรั้งเพื่อเร้าความรัญจวนให้อีกทาง เสียงเนื้อกระทบกันถี่รัวจนมองแทบไม่ทันสอบเข้าใส่เสียงดังลั่นห้อง วารินอย่างสุดที่จะเสียวรู้สึกราวกับว่าโลกทั้งโลกไร้ซึ่งแรงดึงดูดและตัวเขาที่เบาหวิวลอยละล่องอยู่บนท้องฟ้ากว้าง จุดอ่อนไหวถูกโจมตีพร้อมกันสองจุดอย่างหนัก เขาหอบหายใจถี่ ขณะที่ธาราธารทนแทบไม่ไหวต้องฝืนตัวขึ้นมาจูบเข้าที่ริมฝีปากสวยทั้งที่ส่วนนั้นยังสอบเข้าออกไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
สองร่างเปลือยเปล่ากอดก่ายกันแนบชิด เชื่อมโยงลึกถึงตัวตนของกันและกัน แขนเรียวโอบรอบกายกำยำแน่นกระชับความเร่าร้อนที่สอดแทรกเข้าภายใน
“พี่ทราย อืมม เก่ง...เก่งมาก เร็วอีกนิด”
วารินถูกเขาโหมเข้าใส่อย่างไม่ปราณี แรงบีบรัดของช่องทางนุ่มนิ่มและแรงเสียดสีจากการสอดประสานที่ล้ำลึกซึมซาบลงไปถึงทรวงเพิ่มความร้อนระอุให้แก่ร่างทั้งสองจนยากจะหยุดยั้ง โพรงอ่อนนุ่มโอบรัดความร้อนผ่าวที่แข็งขึงของเขาไว้ได้อย่างพอดีราวกับว่าพระเจ้าสร้างสรรค์ให้สองคนเกิดมาเพื่อกันอย่างไรอย่างนั้น อาวุธแกร่งขยับเข้าออกเป็นจังหวะ สะโพกบางขยับตอบรับ ช่องทางนุ่มนิ่มบีบรัดกายแกร่งที่ผงาดล้ำอยู่ภายในหนักขึ้นไปอีกยามที่อารมณ์ของวารินพุ่งสูงกระฉูดจนธาราธารต้องคำรามเสียงลั่นออกมาเพื่อลดทอนความทรมานแสนหวานนี้ลง
“อ่าา....พี่ทราย...อื่มม..” เขาถอนกายออกทันทีเมื่อความอดทนที่อั้นไว้จวนทะลัก จับวารินนอนคว่ำรั้งสะโพกเล็กขึ้นมาก่อนจะสอดแทรกแก่นร้อนฝังลึกลงไป
“ฮ..อ๊าา....” ปากเล็กกัดลงบนหมอนลดทอนความเสียวซ่านเมื่อเขาค่อยเคลื่อนกายแนบชิดสองมือหนาขยำขยี้เข้าที่แก้มก้นสวยก่อนอีกมือจะละออกไปรวบเอาเรือนผมนิ่มมาจับดึงไว้สอดแทรกเล่นอยู่อย่างนั้น เขาเปลี่ยนให้ตัวเองนั่งลงแล้วจับวารินขึ้นนั่งบนตัวเขาหันหน้าออกไปทางปลายเท้า ทั้งๆที่ส่วนนั้นยังแนบชิดเชื่อมต่อ เสียงครางสั่นลั่นไปทั้งห้องเมื่อเขารั้งแผ่นหลังบางเข้ามากอดไว้วารินที่นั่งยอง ๆ ตัวตรงจำต้องเอนหลังพิงเข้าที่บ่ากว้าง มือเขาโอบเข้าที่เอวเล็ก สะโพกสอบขึ้นลงโหมใส่กันกระแทกกระทั้นร้อนแรง แท่งร้อน ๆ ถูกจับยัดแล้วยัดอีกยามที่มันเคลื่อนหลุด วันนี้เขาเล่นท่ายากวารินคงจะเหนื่อยมากแน่เพราะกะจังหวะลึกตื้นไม่ค่อยถูก มือของเขาเอื้อมไปคว้าเอาแก่นกายร้อนของคนที่นั่งทับเขาอยู่รูดรั้ง
“ธาร...ธาร..” เสียงหวาน ๆ ที่ครางเรียกหาเขาแผ่วเบาพาให้หัวใจที่กำลังเต้นรัวถี่กระชั้นตามจังหวะการกระแทกกระทั้นเชื่อมประสานอุ่นซ่านอย่างประหลาด
วงแขนกว้างขยับเข้าโอบที่หน้าอกคนด้านหน้า ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวทรมานยามที่เขาเร่งเร้าจังหวะขึ้น เขาลุกขึ้นนั่งแล้วจับร่างเล็กนั่งหันหน้าเข้าหา กดสะโพกเล็กให้กลืนกินตัวเขาจนจมมิด เขาโอบร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนเคลื่อนไหวอย่างชำนิชำนาญนัก วารินซบลงที่บ่ากว้างอย่างหมดแรง ปากเล็กๆโดนเขาจับเข้ามาดูดลงอีกหนคราวนี้เป็นจูบมาราธอนอีกครั้งเพราะเขาทั้งดูดปากทั้งขยับกายเร็ว
เขาจิกรั้งที่ผมนุ่มสลวยอย่างรัญจวนถึงขีดสุดเมื่อสะโพกสอบเข้าหากันอย่างไม่มีใครยอมใคร เสียงสูดปากลดทอนความเสียวซ่านขณะที่ทั้งดูดทั้งดึงปากเล็กๆอย่างหื่นกระหายไปด้วย
วารินส่งเสียงสั่นพร่าแสดงความสุขสมหลุดออกมาเป็นห้วง ๆ
จะมีเวลาไหนที่เขาจะรู้สึกแบบนี้ได้อีก....ถ้าไม่ใช่ในอ้อมแขนนี้
หยาดน้ำใสซึมจากหางตาคู่สวยร่วงกระทบท่อนแขนแกร่งเมื่อถูกความรัญจวนไล่ต้อนจนทนไม่ไหว ร่างกายปั่นป่วนแทบขาดใจ เผยความต้องการได้โดยไร้ความละอาย จะมีก็ต่อหน้าคน ๆ นี้เท่านั้น
เขาผลักวารินให้นอนลงที่ปลายเตียงอย่างหมดความอดทน ขึ้นคร่อมสวนสะโพกขึ้นลงทั้งแรงและเร็วต่อเนื่องยาวนาน
“ฮ้าา..ธาร..อ๊าา” เสียงร้องสุดข่มกลั้นดังสะท้อน ธาราธารกระแทกกายจนสุดราวกับจะบดเบียดเรือนร่างบอบบางจนแหลกสลาย กายเล็กกระตุก แอ่นสะโพกเพรียวรับการสอดใส่อย่างลืมอาย เสียงเล็กร้องเรียกชื่อเขาดังลั่นไม่สนใจใครจะได้ยินหรือไม่อีกแล้ว ศีรษะส่ายไปมาอย่างหมดความอดทน
“ธาร...ธาร...อ๊าา!” ของเหลวอุ่นร้อนทะลักทะลาย หยาดหยดไหลไปตามเรียวขาเป็นหลักฐานของความสุขสม
“อ่าา...พี่ทราย....” เขาคำรามลั่นดังกว่าทุกครั้ง วารินจิกเล็บลงบนแผ่นหลังเปลือยเปล่า ช่างเป็นความทรมานอันอ่อนหวานเหลือเกิน ร่างบอบบางสั่นระริก จุดเชื่อมต่อร้อนลุ่มดุจเปลวเพลิง หลอมละลายเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์
ดวงตาสีอ่อนพร่ามัวไปด้วยหยดน้ำ มือใหญ่เข้าประคองพวงแก้มสีชมพูระเรื่อ กดจูบลงที่ริมฝีปากอย่างลุ่มหลง ปลายลิ้นสอดแทรกเข้าหยอกเย้าโพรงปากอุ่นร้อนรสชาติแสนหวานปานน้ำผึ้ง
“รู้สึกดี....รึเปล่า?”
“จะทำอีกหรือ?” วารินหายใจหอบถี่ สองมือที่เกาะบ่าเขาไว้ตกลงข้างลำตัวอย่างหมดแรง เขายังไม่ยอมถอนกายออก
“ได้ไหม? พี่ไหวรึเปล่า”
“พอแล้วนะ พอก่อน”
“พี่ทราย ผมระ.....”
เหมือนกับเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ในที่สุดไม่ยอมพูดออกมา เอาแต่จ้องวารินนิ่งอยู่อย่างนั้น เสียงเล็กจึงเอ่ย
“พี่เหนื่อย พอก่อนเถอะนะ” ร่างเล็กพยายามเคลื่อนกายออก เขายอมคลายอ้อมแขนที่กอดไว้แต่โดยดี คนตัวเล็กจึงลุกไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินออกไปที่ด้านนอก ธาราธารขยับกายนอนลงอีกครั้ง ดวงตาคมทอดมองไปที่เพดานมืด
เฝ้านึกซ้ำ ๆ ถึงสิ่งที่เกือบจะหลุดออกมาจากปากเขาเมื่อตะกี้
..........ผมรักพี่.......... หากว่าพูดออกไปอีกสักครั้ง จะเป็นอย่างไรต่อไป....ระหว่างพวกเขาสองคน..... ไม่นานนักวารินก็กลับเข้ามา ชุดนอนสีขาวคอปกถูกสวมใส่เรียบร้อย
“ธาร ขึ้นไปนอนที่ห้องดี ๆ เถอะ” เขาเขย่าเรียกเมื่อเห็นว่าธาราธารนั้นหลับไปแล้ว ทว่าแขนเล็กจู่ ๆ ถูกคว้าจับแล้วดึงลงไปหาหากแต่วารินยังยั้งไว้ได้เลยถูกเขาที่นอนเปลือยอยู่บนเตียงจ้องมองอย่างคนที่แววตาเต็มไปด้วยสิ่งที่อยากบอกกล่าวมากมาย
“ขึ้นไปนอนดี ๆ ดึกแล้ว นี่มันห้องคนใช้นะ ธารจะมานอนที่นี่ไม่ได้” เขานิ่งไปครู่หนึ่ง ขณะที่สองสายตาสบประสาน
“พรุ่งนี้ผมจะเริ่มเข้าไปทำงานที่โรงแรม พี่ไปกับผมนะ”
“ไปในฐานะอะไร? พี่ลาออกจากที่นั่นแล้ว ตอนนี้ก็มาเป็นคนใช้อยู่ที่บ้านธารนี่ไง”
เขาลุกขึ้นนั่งแล้วรั้งวารินให้นั่งลงบนตักของเขา
“ไม่ประชดกันสักวันจะได้ไหม” ริมฝีปากร้ายประทับจูบลงบนต้นคอขาว วารินเอียงตัวหลบ ปลายจมูกโด่งยังซอกซอนหาความหอมหวานไม่ห่าง
“เลขา ผมจะคืนตำแหน่งเลขาให้พี่ จากวันนี้ไปพี่ต้องไปทำงานพร้อมผมทุกวัน ดูแลทุกๆเรื่อง”
“ไม่! พี่จะดูแลคุณภัคร ท่านต้องมีคนคอยกายภาพให้ทุกวันพี่ไปเรียนมาแล้ว ธารไปเถอะ”
“อย่าดื้อได้ไหม ผมรู้พี่สอนป้าวันเขาไว้แล้ว วันไหนที่ผมไม่ได้เข้าไปที่โรงแรมพี่จะอยู่บ้านก็ได้ผมไม่ได้ว่าเลยนี่”
“ไม่ได้หรอกธาร พี่อ้อก็อยู่ ธารให้พี่อ้อจัดการเรื่องตารางงานให้ธารเถอะนะ”
“นี่ดื้อกับผมอีกแล้วนะ ไม่เข็ดใช่ไหมบทลงโทษเมื่อกี้ยังเหนื่อยไม่พอใช่ไหม”
“ธาร! อย่าทำแบบนี้นะ” เขากดวารินลงที่เตียงอีกหนขึ้นคร่อมไว้เหมือนเมื่อคราวเริ่มต้นไม่มีผิด เสียงเล็กจึงร้องลั่น
“งั้นก็รับปากผมมา ว่าจะยอมเป็นเลขาให้ผม ดูแลผม ช่วยงานผม ถ้าคิดจะเป็นพี่เลี้ยงต้องเป็นให้ได้ตลอด ไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่ทำงาน แม้แต่เรื่องบนเตียงก็ด้วย!” เขาจ้องลงที่ตากลมที่ตอนนี้หลบเลี่ยงสายตาของเขาอยู่ เหมือนวารินกำลังคิดตรึกตรองอะไรบางอย่าง
“รู้ไหม คุณอ้อเขาให้หมายกำหนดการงานของสัปดาห์นี้มาแล้ว วันพรุ่งนี้มีงานการ์ล่าดินเนอร์ หนึ่งในรายชื่อนั้นมีชนาธิปร่วมด้วยนะ ถ้าพี่ไม่รับปากคนที่จะต้องไปกับผมก็จะกลายเป็นคุณอ้อ แล้วจะมาว่าผมไม่ได้ ถ้าหากคืนพรุ่งนี้ผมจะไม่กลับมาค้างที่บ้านเรา”
“ธาร!” วารินจ้องหน้าเขานิ่ง เขาตั้งใจว่ายั่วกันชัด ๆ
“รับปากผมสิ”
สองสายตาสบประสาน ขณะที่แววตาของวารินอัดแน่นไปด้วยความน้อยใจที่เขาพูดจาข่มขู่แบบนั้น แต่ทว่าดวงตาคมที่จ้องลงมาของเขากลับเต็มไปด้วยแววขอร้องอ้อนวอน หวังจะให้วารินรับปากเขาให้ได้
“ไหนลองบอกผมซิ รับปากแล้วใช่ไหม” เขาโน้มลงมาอีกครั้งกระซิบลงใกล้ ๆ วารินเอียงตัวหนีแต่ถูกรั้งไว้อยู่ดี เมื่อเขาทำท่าขู่เหมือนจะจูบลงมาอีกหน
“ธารจะจ่ายเท่าไหร่” วารินโพล่งขึ้น เขาชะงักทันที
“ถ้าอยากให้พี่เป็นเลขาให้ ธารต้องว่าจ้างพี่ใหม่ แล้วบอกมาให้ชัดเจนด้วยว่าจะจ่ายเท่าไหร่ พี่จะไม่ยอมทำงานให้ฟรี ๆ หรอกนะ”
“อยากได้เท่าไหร่ล่ะ” แววตาเขาซุกซนมองลงมาที่คนใต้ร่างอย่างคนรู้ทัน วารินไม่ใช่คนเห็นแก่เงินเขารู้ดี แต่พูดออกมาแบบนี้คงมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงแน่
“ธารลองเสนอมาสิ”
“แบล็คการ์ดฟรีไซน์ที่ให้ไว้นี่ยังไม่พออีกเหรอ? ไม่ต้องห่วงหรอกฝ่ายการเงินเขาจัดการให้พี่แน่นอนอยู่แล้ว”
“ไม่เอา! พี่ไม่ต้องการเงินเดือนแบบนั้น”
“แล้วจะเอาแบบไหน” เขาพลิกตัวนอนลงข้าง ๆ กอดเอวเล็กไว้แนบชิด ลองตั้งใจฟังสิ่งที่วารินจะพูด
“เงินเดือนของพี่ต้องมาจากเงินเดือนของธาร ถ้าธารอยากให้พี่เป็นเลขาให้จริงธารต้องเข้าทำงานที่นั่นทุกวัน จริงจังและรับผิดชอบ รับเงินเดือนในฐานะผู้บริหารคนหนึ่งเหมือนกับคุณภัครจิรา ไม่เกี่ยวกับเงินปันผลหรือรายได้ทางอื่นของบริษัท ธารรับปากพี่ได้ไหมว่าจะไม่ทิ้งงานโรงแรม แล้วพี่จะรับปากช่วยงานธารให้ถึงที่สุด”
นี่คือหน้าที่สำคัญที่ภัครจิราเคยฝากฝังกับเขาไว้ บัดนี้ธาราธารกำลังจะก้าวเข้าไปทำงานโรงแรมเต็มตัวแล้ว แม้จะเป็นแค่ช่วงปิดเทอมสั้น ๆ แต่ทว่าวารินก็อยากให้เขาได้เรียนรู้งานจริงจังเพื่ออนาคต ในฐานะพี่เลี้ยงเขาจะต้องสอนทุกอย่างให้กับเด็กคนนี้
“ต้องให้ผมลาออกจากมหาวิทยาลัยด้วยเลยไหม หืมม” เขาแกล้งกระเซ้า
“ไม่ต้องขนาดนั้นหรอก ธารรักที่จะเป็นหมอก็ทำให้เต็มที่ของธารไปเถอะ ขอแค่ช่วงปิดเทอมธารตั้งใจเรียนรู้งานโรงแรมจริงๆจังๆก็พอ อย่าลืมว่าโรงแรมและหมู่บ้านที่ธารต้องดูแลอยู่มีหลายที่ไม่ใช่แค่เท่าที่ธารรู้หรอกนะ ยิ่งคุณภัครต้องมาป่วยแบบนี้หุ้นส่วนแต่ละคนมีแต่เขี้ยวลากดินทั้งนั้น ถ้าหากธารยังดูอ่อนแบบนี้ รับรองได้ว่าแค่ไม่กี่ปีหุ้นที่มีอยู่ในครอบครองต้องถูกกว้านซื้อไปจนหมดแน่ ถ้าธารมั่นใจว่าจะลงไปดูแลจริงจัง พี่จะเป็นกำลังคอยซัพพอร์ตให้ธารเอง”
วารินพลิกตัวหันมามองที่ในดวงตาเขา หวังบอกให้เขารู้ว่าเรื่องที่พูดนั้นจริงจังแค่ไหน ธาราธารจูบลงที่ปลายจมูกรั้นเบา ๆ
“ได้สิ ผมรับปาก ยกให้หมดเลยทั้งเงินเดือนเงินปันผล แบบนั้นดีไหม”
เขาว่าแล้วกอดเอาคนตัวเล็กเข้ามาซุกลงที่บ่ากว้างจนจมมิด
“พี่จะทำหน้าที่ของพี่ให้ดีที่สุด หน้าที่ของ
‘พี่เลี้ยง’ ”
เสียงเล็กพึมพำ เฝ้าคิดถึงถ้อยคำเมื่อนานมาแล้วที่ภัครจิราฝากฝังเด็กคนนี้ไว้กับเขา
“รับปากฉันว่าฉันจะไว้ใจเธอได้วาริน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอจะต้องคอยประคับประคองให้เขาเดินไปในทางที่ถูกต้องเสมอ”
“ครับผมรับปากจะดูแลคุณธารให้ดีที่สุด” “จนกว่าจะถึงวันนั้น...วันที่ธารเข้มแข็งพอและสามารถที่จะก้าวเดินไปบนเส้นทางธุรกิจได้ด้วยตัวเอง พี่เลี้ยงคนนี้ คงจะหมดหน้าที่ทุกอย่าง รวมไปถึงหน้าที่บนเตียงแบบนี้ด้วย” เสียงพึมพำของวารินเบามากธาราธารที่กอดเอาไว้จึงได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้าง จับใจความไม่ได้เลยว่าวารินพูดเรื่องอะไรอยู่
“ไม่พูดเรื่องงานแล้ว คืนนี้นอนที่นี่แล้วกันนะ”
ผ้าห่มผืนบางถูกเขาดึงขึ้นมาห่มกระชับให้ เสียงฝนตกโปรยปรายดังแว่วมาจากด้านนอก
“หายเหนื่อยหรือยัง ต่ออีกยกได้ไหม” เขาว่าแล้วอมยิ้มเจ้าเล่ห์ขณะวารินเบิกตาขึ้นด้วยความตกใจแล้วเงยหน้ามองดูเขา ว่าพูดจริงหรือพูดเล่น
แต่ทว่าเขาหลับตาลงแล้ว คนตัวเล็กเลยขยับซุกเข้าไปอีกนิด อดที่อมยิ้มออกมาหน่อย ๆ ไม่ได้เมื่อนึกถึงเรื่องลากมกที่เขาสองคนเพิ่งผ่านพ้นมันมาด้วยกัน
Tbc.
*สวัสดีปีใหม่ไทยนะ สุขภาพแข็งแรงกันทุกคน* จัดเสิร์ฟอีโรติคซีนยาวเหยียดให้ แฮ่ๆ(แน่นอนว่ามีเหตุผล ) นิยายเรื่องนี้จะมีซีนพวกนี้เยอะเราเลยเปลี่ยนหัวเรื่องให้เป็น Erotic drama คนที่ไม่ชอบจะได้ไม่หลงเข้ามาอ่าน แต่จะพยายามระวังไม่ให้น่าเกลียดมากนัก ตอนเขียนอึน ๆ ไงไม่รู้ถ้ามีผิดพลาดก็มองข้าม ๆ ไปเน๊ะ
*อันซีน สั้น ๆ หลังจากสองคนนี้ตื่น ตามไปอ่านกันได้ที่เดิม*
*สำหรับใครที่รอดูพี่ทรายร้าย เกือบแล้วคราบ นี่ก็แพลม ๆ ออกมาหน่อยแล้วนะ พี่ทรายร้ายแบบมาดนายเอก ร้ายลึก ๆ ส่วนจะร้ายกับใคร? เอิ่ม....รออ่าน*
ปอลอ(ลับ) Isdeer ทิ้งที่อยู่ไว้หลังไมค์หน่อยดิ มันเยอะมากจริง ๆ เอาไปแบ่ง ๆ กันอ่านเร็วเข้า!!