...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ...พี่เลี้ยง..THE DAY’ I was your man [15/05/57] The End.  (อ่าน 408803 ครั้ง)

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
มันสงสารทรายไม่ลง เสือกทำตัวอ่อนแอเอง
โง่เอง ที่ไม่ยอมพูดความจริงและพิสูจน์ตัวเอง
คือเป็นนายเอกที่โง่มากๆอ่ะ จะไปโทษใครก็ไม่ได้
เพราะมันผิดที่ตัวเองเป็นคนยอมๆๆๆ ถ้าไม่คิดจะลุกขึ้นสู้
ก็เจ็บอยู่อย่างนี้แหละอย่ามาแหกปากอ้อนวอนให้สงสารเลย
ถามจริงเกิดมา30กว่าปีประสบการณ์ชีวิตไม่สอนให้แข็งแกร่ง
ขึ้นเลยรึยังไง ทั้งๆที่ตัวเองก็เจอเรื่องเลวร้ายมาแล้วตั้งเยอะ

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
อ่านทีเดียว 18 ตอนรวดเลย แบบว่ามันหยุดไม่อยู่

อ่านถึงตอนล่าสุดกลับจบแบบเศร้าๆ จังเลย

ตัวละครในเรื่องต่างมีเหตุผลของตัวเอง

สงสาร และเห็นใจทุกตัวละครในเรื่อง

โดยเฉพาะทรายต้องเจ็บแบบนี้ไปอีกกี่ตอน (อยากให้เข้มแข็ง และกล้ามากกว่านี้)

แบบว่าอ่านแล้วปวดหนึบอยู่ในหัวใจ

ว่างๆ เมื่อไร มักคิดถึงเรื่องราวในเรื่องนี้อยู่ตลอดว่าเรื่องราวจะดำเนินไปเช่นไร

คนเขียนสุดยอดมาก ที่เขียนนิยายให้ผู้อ่านได้มีอารมณ์ร่วมได้มากขนาดนี้

เข้ามารอตอนต่อไป อยากให้มาลงทุกวันเลย 555

ออฟไลน์ nutjisub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
เชียร์คุณทัตสุดใจ น่าจะหมดยุคพระเอกเลวเสียที ทำผิดข่มขืนนายเอก นายเอกหนีไป แล้วพระเอกสำนึกผิดนิดหน่อยตอนใกล้ๆ จบ พล๊อตเรื่องแบบนี้มันมองล้นตลาดแล้ว
คุณทัต ไปเคลียร์กับวิเลยนะ เลวร้ายมาก บุญคุณที่ทดแทนมานานมันไม่ใช่เหตุผลที่ต้องทนต่อไปนะค่ะ
สู้เพื่อครอบครัวหน่อย ทั้งภรรยาเก่า -ภรรยาใหม่และลูก เชียร์คุณทัต  :L2:

ออฟไลน์ P.PIM

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 236
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-0
ทำไมไม่ลองบอกก่อนละทราย
แต่เชื่อเหอะ ธารคงไม่ฟัง แต่อย่างน้อยขอให้บอกซักครั้ง
อย่าปล่อยให้นานไป ไม่งั้นมันจะแย่กว่าเดิมมาก
เพราะถ้าธารมารู้ทีหลังคงเจ็บมากก ทั้งรุ้สึกผิด ทั้งไม่เข้าใจว่าทำไมไม่บอกกันแต่แรก
 :hao5: :hao5:
ปล.ขออ่านพาร์ทของคุณภัครหน่อยยยย  :sad4:

ออฟไลน์ Spelling_B

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0
โอ๊ยพี่ทร้ายยยยยยย อิชชี่สุดๆธารรักมากมายจริง ๆ ถึงปากจะด่าว่าสารพัดแต่ขัดกับจิตใจตลอด เลยแสดงออกมาแบบก้าวร้าวขนาดนี้  นี่แค่เพิ่งเริ่มเข้าไปอยู่นะ เราเข้าใจว่าเรื่องต้องค่อย ๆ ดำเนินไปใช่ว่าจะรู้ความจริงดีกันสรุปจบแค่นั้นแฮปปี้ โนโน แบบนั้นไม่เมคเซ้นต์เราชอบอ่านเรื่องยาว ๆ ค่อย ๆ ดำเนินไปแบบนี้แหละดี จะได้เสพรสชาดที่คนเขียนนำเสนอให้เต็มอิ่ม

คิดว่าคนเขียนคงกำหนดให้คาแรคเตอร์ทรายเป็นนายเอกที่อ่อนๆโง่ๆซื่อๆและใจดีกับทุกคนใช่ไหม บทของทรายเลยต้องออกมาในแนวนี้ จะให้แข็งแกร่งด่าพระเอกปาวๆฉลาดรอบจัดทันไปทุกสถานการณ์มันก็ไม่ใช่คาแรคเตอร์เขานี่เนาะ(พยายามเข้าใจสุดขีด :ling1:) เรื่องนี้นายเอกต้องซื่อและอ่อยเก่งส่วนพระเอกต้องร้าย อืมๆเข้าใจๆ

แอบไปเห็นในบล็อกบอกไว้ว่า *แฮปปี้* แค่นี้เราก็ดีใจแล้ว    ชอบเรื่องนี้มากๆๆ นะคะ จะรออ่านเรื่อยๆ  :hao5:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
อยากให้ถึงวันที่ธารรู้ความจริง เชียร์ธารนะ
ถึงจะชอบทัตพลมากกกกกกกกก ก็เถอะ

ออฟไลน์ manutty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 846
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-0
อยากอ่านต่อแล้ว คิดถึงงงงง ถ้าว่างแล้วรีบมานะ :ling1:

และก็ขอพูดเรื่องการจับคู่นิดนุงนะ (แต่เขียนยาวมาก อิอิ) อ่านที่เม้นท์ๆกันแล้วสนุกดี  o18

ธารกับทราย ถ้าได้กลับมาเป็นคู่กัน (ขอให้เป็นนะ แหะแหะ) สิ่งแรกเลย ธารจะต้องพยายามลืมเรื่องที่ผ่านมาแล้วให้ได้ ต้องมีความเชื่อมั่น ไว้ใจ หนักแน่น ในตัวเองและทรายให้มากขึ้น โดยที่ทรายต้องช่วยด้วย ไม่ใช่ให้ธารคิดเองเออเองไปคนเดียว  เพราะคิดว่ายังไงธารก็อดคิดไม่ได้ถึงเรื่องที่ผ่านมา ถึงจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ยิ่งเห็นหน้ากันก็ต้องมีหลุดคิดบ้าง  โดยเฉพาะ ทรายที่มีนิสัยทำร้ายคนรอบข้างที่ตัวเองรักและรักตัวเองด้วยความดีความน่ารักแบบไม่รู้ตัวเหมือนให้ความหวังไปทั่ว ไม่ใช่แค่กับพ่อธารเท่านั้น แม้แต่กับพี่ซีเอง ธารก็ต้องคิดลึกจนเกิดความหึงหวง ตามมาแน่นอน กับการแสดงออกของสองพี่น้องที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน ในกรณีที่ธารรู้ แต่ถึงไม่รู้ก็ต้องสังเกตได้อยู่ดี ด้วยความที่ธารเป็นคนหวงคนรักของตัวเองอยู่แล้ว ย่อมไม่อยากให้คนที่ตัวเองรักไปสนิทนัวเนียกับคนอื่น มากกว่าตัวเอง  เกิดธารพูดออกไป กลายเป็นว่าเหมือนไปห้ามทรายไม่ให้ใกล้ชิดกับพี่ตัวเองที่รักมากที่สุดในชีวิต เพราะมีแต่พี่ที่ดูแลเลี้ยงดูทรายมาตลอด ทรายก็จะต้องมีแต่ความทุกข์ที่คนรักไม่เข้าใจตัวเอง แต่ถ้าทรายคิดให้ลึกซึ้งถึงขอบเขตการแสดงออกระหว่างพี่น้องได้ ก็จะไม่มีปัญหา รวมถึงซีด้วยที่ต้องเลิกกอดทรายแบบเกินเลยได้แล้วไม่ใช่แค่ดีทั้งสองฝ่าย แต่จะดีกับซีด้วย ถ้าวันหนึ่งเกิดซีมีคนรักขึ้นมา เชื่อเถอะว่าคนๆนั้นก็ต้องคิดเหมือนธาร และเสียใจเช่นกัน
เราเชื่อว่าธารรักทรายจริงๆ แม้กระทั่งพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองหลายอย่างให้ดีขึ้น เพื่อที่ให้ทรายยอมรับ ให้ทรายสบายใจ เหมือนกับที่เชื่อว่าทรายก็รักธารเช่นกัน ไม่อย่างนั้นคงไม่พูดคำว่า รัก ออกไป มันให้ความรู้สึกต่างจากที่พูดกับซี  แต่ถ้าไม่ใช่ นี่คือความเจ็บปวดที่สุดกับคำพูดมักง่ายที่พูดไม่ตรงกับที่ใจคิด  ไม่เคลียร์ว่ารักแบบไหน เพราะธารชัดเจนแล้ว แถมทรายก็ย้ำแล้วนะว่าให้คิดดูก่อน แต่ธารก็ยืนยันคำเดิม และพร้อมจะพิสูจน์ตัวเองด้วย ถ้าไม่เกิดเรื่องซะก่อนนะ เราคิดว่างั้น  ชอบคำพูดของธารมาก (คนเขียน: ต้องชอบฉันสิ เพราะฉันแต่งให้มันพูดเอง  เขา: ชอบก็ได้ อิอิ) o18

ได้โปรดอย่ากลัวที่จะรัก  ช่องว่างสิบสองปีผมถมยังไงก็ไม่มีทางตามพี่ได้ทันหรอก
ขอเพียงแต่พี่เดินรอผมบ้างก็พอแล้ว ผมจะไม่บังคับจะให้อิสระ
:-[

มันฟังดูจริงใจ มากกว่าจะพูดเพราะหลง (ถ้าเป็นความจริงนะ ถ้าไม่ใช่ แหลสุดๆ) แต่ฟังอีกทีก็เศร้า เหมือนธารจะยอมปล่อยมือจากทราย ถ้าเกิดทรายไม่ต้องการจะอยู่ด้วย อุ้ย นี่ฉันเข้าข้างธารมากไปใช่ไหม FC ทรายคู่กับคนอื่นอย่าหมั่นไส้อิฉันเลยนะคะ เพราะฉันชอบธาร ใครไม่รักเขารักเอง  :กอด1:

 และเตรียมสงสารธารล่วงหน้าเลยถ้ารู้ความจริง เขาจะต้องเจ็บช้ำกว่าใครทั้งหมด เหมือนว่า สุดท้ายคนที่ผิดคือฉันเอง :monkeysad:

เพราะไม่มีใครพูดใครบอกกูเลย คิดว่ากูไม่ฟังแน่ๆ คิดถูกแล้วล่ะ :laugh: แต่มีความพยายามที่จะบอกหน่อยสิโว้ย :angry2:
 
ส่วนทรายอย่างที่บอกเป็นคนที่อ่อนไหวมากจนมองว่าโลเล ให้ความรู้สึกน่าสงสารและน่าหมั่นไส้ในคราวเดียวกัน ไร้เดียงสาซะจนไม่คิดว่าคนอายุขนาดนี้จะเป็นไปได้ ถึงจะถูกเลี้ยงดูมาแบบประคบประหงมแต่ด้วยความที่ตัวเองเป็นผู้ชายก็น่าจะเข้มแข็งและรู้อะไรในแบบผู้ชายบ้างนะ ยอมรับที่ทรายเป็นคนดี มองโลกในแง่ดี นิสัยจิตใจดี เสียแต่ไม่ชัดเจนในการกระทำเท่าไหร่ อยากให้ทรายปรับตัวเองในเรื่องนี้ คือแยกแยะให้ได้ว่าควรจะรักและแสดงออกกับใครในรูปแบบไหน อย่างไร เข้าใจไหม :serius2:
 
ซี ก็เหมือนกัน ถ้าพยายามจะรักทรายแบบน้องก็ต้องคิดให้ได้รวมถึงการกระทำด้วย มันเหมือนคนปากอย่างใจอย่าง ห้ามความรู้สึกไม่ได้เอาซะเลย คนแบบนี้ก็ทำให้คนรักเสียใจไม่รู้ตัวได้เช่นกัน ถ้าทรายจะคู่กับซี ก็เหมาะนะ ด้วยความผูกพันและลักษณะนิสัยไปด้วยกันได้ ซียอมรับทรายในแบบที่เป็นได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซีก็ยังจะรักแน่นอน ตัดกันไม่ขาดหรอกกับความผูกพันของทั้งคู่  มันมากกว่าใครๆที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่สนับสนุน เอาไว้เป็นตัวเลือกที่สอง :katai2-1:

ส่วนทรายกับคุณทัตพล มองว่ามันไม่ได้เกิดจากความรัก ความผูกพันความสนิทสนมแทบจะไม่มีเลย มันเกิดจากความผิดพลาด แล้วกลายมาเป็นเห็นอกเห็นใจกัน ไม่ใช่ว่าคุณทัตไม่ดี แต่ถ้าคู่กันรับไม่ได้ตรงที่ ครั้งหนึ่งทิ้งเมียทิ้งลูกที่ปากบอกว่ารักนักรักหนาไปทำหน้าที่ตอบแทนบุญคุณหลายปี แล้วอยู่ๆเกิดมาหวั่นไหวอยากจะรับผิดชอบกับสิ่งที่ทำลงไป ทำให้ทรายลำบากเจ็บปวดเพราะตัวเองเป็นต้นเหตุ มันไม่ควร มันเสียความรู้สึกมากกว่าเหตุการณ์ที่ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดซะอีก เพราะถ้าเป็นจริงนี่คือความตั้งใจที่ผิดมาก สู้เอาเวลาไปพิสูจน์ตัวเองให้เมียกับลูกเห็นว่า รักทั้งคู่มากแค่ไหนจะดีกว่า และจัดการปัญหาที่คาราซังสักที เพื่อให้เกิดผลดีทุกฝ่าย รวมถึงธิปด้วยที่ดูแล้วน่าสงสารไม่แพ้ใคร ถึงจะมีแม่ที่รัก และพ่อที่ไม่รู้ว่าใช่พ่อแท้ๆหรือเปล่า  ถ้าไม่ใช่ก็น่าสงสารธิปเช่นกัน แต่ดูแล้วคุณทัตก็รักธิปไม่น้อย ทุกอย่างมันเริ่มจากคุณทัตก็ต้องจบที่คุณทัตเป็นคนแก้ไขให้ดีซะ ไม่ได้โทษว่าคุณทัตเป็นต้นเหตุหรือเป็นคนไม่ดีนะ แต่ถ้าเราเป็นคุณทัต ในฐานะพ่อ เราขอเลี้ยงดูลูกทั้งสองคนดีกว่า หรือไม่ก็ไปบวชซะ คิดง่ายไปไหมตู  :laugh: ทัตพลกับทรายที่จริงภาวะความเป็นผู้ใหญ่สูงนะถ้าพูดถึงวัยวุฒิ ควรจะคิดอะไรให้รอบครอบและลึกซึ้งมากกว่านี้ อย่าหวั่นไหวกับอารมณ์ที่ถูกปลุกไม่ได้ตั้งใจให้เกิดตามปาก ครั้งเดียวมันให้อภัยกันได้ แต่หลังจากนั้นถ้าใจล้วนๆ มันเหมือนกลืนน้ำลายตัวเองทั้งคู่ เราเป็นธารกับภัครจิรารับไม่ไหวแน่นอนถึงจะรู้ความจริงแล้วก็เถอะ และกว่าจะรับได้คงใช้เวลานานมากๆ  รู้ว่าทั้งทรายและทัตพลเป็นคนดี มีเจตนาดี ไม่ได้มีความผิดอะไรสักนิดกับเรื่องที่เกิด ก็เหมือนกับธารและแม่ ทำผิดอะไรที่ต้องมาเจอเรื่องนี้เช่นกัน คือยังไม่ได้เกิดหรอก แต่ตูอินเลยคิดเอาไว้ก่อน  :jul3:

แต่ที่สำคัญที่สุด มันขึ้นอยู่กับว่า ถ้าธารกับทรายรักกันด้วยใจจริง ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าทั้งสองคิดได้ว่าที่ผ่านมาไม่ใช่ความรักก็จบ บังคับใจกันไม่ได้  ทีนี้จะไปคู่กับใครก็สุดแท้แต่วาสนาเถอะค่ะ   :m15: กระซิบ: ที่จริงมันสุดแท้แต่ใจของคนเขียน หุหุ  :hao3:

ส่วนเรื่องพล็อต คนเขียนเต็มที่เลยนะคะ วางไว้ยังไงก็ตามนั้น ทำในสิ่งที่คิดไว้ดีกว่ามันจะได้ลื่นไหลไม่ซีเรียส คนอ่านก็เม้นท์ไปตามใจชอบของตัวเองเท่านั้น เพราะคุณเขียนให้เราอินจนเม้นท์ได้ขนาดนี้ เก่งมากเลยค่ะ สู้ๆนะคะ o13 :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-03-2014 10:46:37 โดย manutty »

ออฟไลน์ smile_aex

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
เว๋ยคุณทัตออกแป็บเดียวเอง
เชียร์ธารนะ แต่ชอบคุณทัตง่ะ เขาผิดป่ะเนี่ย :hao5:

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
อยากอ่านต่อแล้ว วันนี้จะมามั้ย  :m15:

ออฟไลน์ PapermintReal

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 556
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-13
ลงแดง ลงเขียว ลงฟ้า ลงสีรุ้ง เมื่อไหร่จะอัพพพพพพพพพพ  :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kuro

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 415
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-12
หวังว่าธาราธารคงไม่ต้องร้องเพลงผิดที่ฉันเองนะคะ
เพราะแกผิดมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เชื่อไปได้
การจะรักใครสักคนแบบที่เจ้าสัวในเรื่องสามีตีตราพูดเนื่ยว่าไงนะ
"ถ้าไม่เลว ให้เห็นกับตา ไม่ชั่วให้ได้ยินกับหู ก้ต้องเชื่อในความดีของคนของเราไว้ก่อน"
แต่นายมันไม่มีเลยความเชื่อใจหรือไรทั้งนั้น
นายเห็นกับตาหรือไง
แค่คลิปก็เชื่อเหรอ?
สุดๆกับธาราธาร
แต่เพราะนายเป็นพระเอก(หรือเปล่า)แต่เราอยากให้นายเป็น เราเลยอยากให้นายได้คู่กับวารินจริงๆ และคงไม่ต้องร้องเพลงผิดที่ฉันเองนะคะ

ออฟไลน์ coffeeQbread

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1218/-29


บทที่19 Way Back Into Love
 


ร่างกายสูงใหญ่ในชุดสูทสากลเต็มยศก้าวขึ้นไปนั่งที่เบาะรถสีดำคันใหญ่เรียบหรู ทินกรที่เคยขับรถให้ภัครจิราเสมอ บัดนี้เปลี่ยนมาขับให้ลูกชายคนเดียวของบ้านอย่างธาราธาร สุดสัปดาห์นี้เขาต้องเข้าประชุมบอร์ดบริหาร ทินกรมองใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มผ่านกระจกมองหลัง วันนี้เจ้านายของเขาหวีผมปัดเรียบขึ้นไป ไม่ปล่อยตกลงมาเหมือนทุกวันคงเพื่อให้เข้ากับชุดที่สวมใส่  ทว่าสีหน้าอิดโรยเหมือนคนนอนไม่พอนั้นยังไม่อาจทำลายความรูปหล่อดูดีของเจ้านายเขาลงได้ 

 
‘คุณธาราธารดูดีมากจริงๆ’ 
 

ทินกรไม่เคยอ่านสีหน้าของธาราธารออกเลยตั้งแต่ไหนแต่ไรไม่รู้ว่าคิดอะไรชอบหรือไม่ชอบ เขามักเย็นชาไม่ค่อยพูด แต่จะมีอยู่ช่วงหนึ่งตอนที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีแรกๆเขายิ้มบ่อยขึ้นกลับมาบ้านทีไรมักทำตัวน่ารักกับภัครจิราเสมอ จนเธอเอ่ยชมอยู่บ่อย ๆ ภัครจิราเคยบอกว่าเป็นเพราะวารินเลขาของเธอที่เธอให้ช่วยมาดูแลธาราธารให้
 

ทว่าตอนนี้วารินเข้ามาอยู่ด้วยกัน แต่ธาราธารกลับมีทีท่าห่างเหิน เขาไม่ยิ้มอีกเลยนับตั้งแต่ภัครจิราป่วยและดูเป็นคนเย็นชาขึ้นมากกว่าเดิม ทินกรเองก็ยังแปลกใจกับท่าทีของทั้งสองคน
 

“ที่จริงแล้วคุณทรายรู้เรื่องงานโรงแรมดีมากเลยนะครับ คุณธารไม่ลองให้คุณทรายเข้ามาช่วยดูแลตรงนี้ไปก่อน คุณเองก็เรียนหนักไม่ได้พักผ่อนเลยแบบนี้ร่างกายจะแย่เอานะครับ” 
 

ทินกรชวนเจ้านายคุยทำลายความเงียบ โดยที่ไม่ได้รู้เรื่องความบาดหมางระหว่างเจ้านายของตนกับวารินเลย
 

“พอเถอะทินกร พูดเรื่องนี้กับผมเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วล่ะ” ธาราธารพรูลมหายใจแล้วเอนศีรษะเข้ากับพนักพิงหลับตาเพื่อผ่อนคลาย
 

“เรื่องจริงนี่ครับอย่างวันนี้ถ้าพาคุณทรายมาด้วยล่ะก็ คุณคงไม่ประหม่าและดูกดดันแบบนี้หรอก” ทินกรตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางให้ไกลขึ้นอีกนิดเมื่อดูเวลาแล้วว่ายังพอมีเหลือเฟือ เขาอยากให้ธาราธารดูผ่อนคลายลงหน่อย
 

“หึ  นี่ผมดูออกง่ายขนาดนั้นเลย?” เขาว่ายิ้ม ๆ ทั้งที่ยังหลับตา
 

อันที่จริงแล้ววันนี้ธาราธารประหม่ามากจริง ๆ เขาต้องเข้าร่วมประชุมบอร์ดบริหารชุดใหญ่แทนภัครจิรา ซึ่งมีแต่ระดับผู้อาวุโสแทบทั้งนั้นแต่คุณแม่ของเขากลับเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่  เรื่องของวารินทำไมเขาจะไม่เคยคิดแต่ในเมื่อเห็นแม่ของเขานอนแน่นิ่งอยู่แบบนั้นแล้วกลับคิดไปว่าที่เธอต้องกลายเป็นแบบนั้นก็เพราะใครกัน  เขาจึงทำใจให้ดีกับคนแบบวารินไม่ได้จริง ๆ เจ้าตัวเองก็คงรู้ เพราะเขารู้มาว่าวารินยื่นใบลาออกตั้งแต่มีเรื่องมีราวกันคราวนั้น
 

“เอาเถอะไว้ผมจะค่อยคิดก็แล้วกัน”
 

โรงแรมหรูริมน่านน้ำเจ้าพระยังคงตั้งตระหง่านโดดเด่นอยู่เช่นเดิม ร่างสูงใหญ่หล่อเหลาดูภูมิฐานแต่แฝงไปด้วยความอ่อนเยาว์ก้าวเข้ามานั่งที่หัวโต๊ะ ศศิธรเลขาเก่าของภัครจิราเริ่มเดินวางเอกสารเพิ่มเติมในบางส่วน ธาราธารกวาดสายตาดูบรรดาผู้ถือหุ้นทั้งหมดแล้วก้มลงอ่านเอกสารเพิ่มเติมคร่าว ๆ
 

การประชุมดำเนินไปเรื่อยๆ จบจบลง ยังไม่มีความเห็นอะไรเพิ่มเติมจากเขา เขายอมรับอย่างไม่อายเลยว่าไม่มีความรู้เรื่องงานโรงแรมเลยจริง ๆ การที่ต้องมารับหน้าที่ต่อจากคุณแม่แบบนี้มันทำให้เขาหนักใจเป็นอย่างมาก แต่เขาจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้งานทางด้านนี้ให้เร็วที่สุด
 

ธาราธารนึกถึงใบหน้าวารินขึ้นมาทันที จริงอย่างที่ทินกรว่าถ้าหากเขาได้วารินเข้ามาช่วย มันจะทำให้เขาไม่กดดันและการตัดสินใจอะไรๆจะรอบคอบมากขึ้น
 

“น้องธาร”
 

 เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้เขาต้องหยุดก้าวเดินและหันกลับไปมอง ศศิธรเลขาที่หอบแฟ้มเอกสารอยู่เต็มอ้อมอกถอยร่นออกไปให้หญิงสาวอีกคนเดินแทรกเข้ามาได้
 

“น้องธารจำป้าได้ใช่ไหมลูก ป้าเข็มไง  ป้ากับคุณภัครเป็นหุ้นส่วนกันหลายที่ เรารู้จักกันมาตั้งแต่ภัครเขายังสาว ๆ โน่นเลยนะ”
 

เขามองผู้หญิงที่มีวัยใกล้เคียงกับคุณแม่ของเขาและนึกได้ในทันที หนึ่งในผู้ร่วมประชุมเมื่อสักครู่ ธาราธารจึงเชิญเธอเข้าไปนั่งคุยในห้อง
 

“ป้าเสียใจด้วยนะเรื่องคุณภัคร สักวันเธอจะต้องหายดีได้แน่ ธารต้องเข้มแข็งดูแลคุณแม่ดีๆนะลูกนะ”
 

“ขอบคุณครับคุณป้า”
 

“ป้าเข็มเพิ่งรู้ว่าน้องธารเรียนหมอ แล้วยังเรียนอยู่ที่เดียวกับลูกสาวของป้าอีก ไม่รู้ว่ารู้จักกันรึเปล่าลูกสาวป้าชื่อ ‘บัวชมพู’ แต่บัวเป็นรุ่นพี่น้องธารนะ ตอนนี้พี่เขาเรียนปีสามแล้วล่ะ”
 

“...อ้อ รู้จักครับ”
 

ธาราธารพยักหน้ารับ ในใจคิดไปถึงว่าเขารู้จักและสนิทสนมดีถึงขั้นตัวติดกันมาแล้วด้วย ‘บัวชมพู’ พี่รหัสของเขาเอง
 

“แบบนี้ดีมากๆเลยลูก สนิทสนมกันไว้เยอะๆ เดี๋ยวเรื่องงานป้าเข็มช่วยดูให้เอง ธารไม่ต้องเป็นห่วงนะลูกนะ ผลประโยชน์ไม่มีหายไปไหนแน่นอน ส่วนเรื่องเรียนมีอะไรก็ถามบัวเขาได้รายนั้นใจดียิ้มง่ายที่สำคัญเรียบร้อยเหมือนคุณภัครเลยนะลูก”
 

หญิงสาวดูกระตือรือร้น ยิ้มร่าให้เขาราวกับถูกรางวัลที่หนึ่งพันสองร้อยล้าน ธาราธารได้แต่หัวเราะหึหึในใจ ทำไมเขาจะดูไม่ออกว่าเธอคิดจับคู่เขากับลูกสาวสุดที่รักของเธอ
 

“งั้นก็ฝากด้วยแล้วกันนะครับคุณป้า”
 

เขาตอบเรียบๆทว่ายังคงความนอบน้อมกับผู้ใหญ่ งานบริหารเป็นงานที่เขาไม่ถนัดเลยจริง ๆ แฟ้มเอกสารมากมายถูกศศิธรนำมากองไว้ให้ที่โต๊ะ  แค่เปิดอ่านคร่าว ๆ ก็ทำเอาเขาถึงกับมึนตึ๊บ ไม่เข้าใจง่ายเหมือนเรื่องราวทางกายภาพที่กำลังเรียนอยู่เลยสักนิด อย่างว่าคนเราถนัดและชอบไม่เหมือนกันจริง ๆ
 

ร่างสูงใหญ่ลุกจากเก้าอี้ตัวโต กวาดตามองภายในห้องที่ก่อนหน้านั้นไม่นานคุณแม่เขายังเป็นเจ้าของบัดนี้กลายเป็นเขาที่ต้องเข้ามานั่งแทนทุกสุดสัปดาห์ เขากดโทรออกหาทินกรแล้วบอกให้เอารถมารอที่ด้านหน้า ธาราธารตรงกลับบ้านโดยไม่ได้แวะที่ไหนอีก
 

.
 
.

 
อีกด้านหนึ่งของกรุงเทพมหานคร
 

“คุณจะไปไหนคะทัต?!”
 

วิลาสินีที่เพิ่งกลับเข้ามาในบ้านถามขึ้น  ทัตพลลากกระเป๋าเสื้อผ้าใบโตกำลังจะออกจากบ้าน
 

“คอนโด” เขาตอบอย่างเฉยชาตั้งท่าจะก้าวออกไปอย่างเดียว
 

“ไม่ให้ไป!” 
 

เธอตวาดลั่น ปรี่เข้าไปดึงแขนเสื้อเชิ้ตเขาทันที  “ทำไมคะทัต คุณติดใจอะไรมันนักหนารึไงทำไมคุณทำแบบนี้กับวิ  ทำแบบนี้ได้ยังไง!!” เธอตวาดลั่น ใบหน้าสวยเริ่มมีน้ำตารื้นขึ้นมา ทัตพลค่อยหันกลับไปมองด้วยสีหน้าเย็นชา เอ่ยคำพูดที่ทำเอาเธอร้าวไปทั้งใจ
 

 “วิ...เราแยกกันอยู่เถอะนะ”
 

“กรี๊ดดดดดดดด ไม่ให้ไป! คุณทัตคุณจะทำแบบนี้กับวิไม่ได้ คนใจร้าย วิไม่ยอม ๆ คุณจะไปอยู่กับมันใช่ไหม คิดจะทิ้งวิแล้วจริง ๆ คนใจร้ายๆ วิไม่ยอม!” วิลาสินีกรีดร้องดังลั่น เธอทุบตีเขาจนทัตพลต้องยกแขนขึ้นกันไว้ 
 

“วิ ใจเย็นๆ........วิ!” ทัตพลตะคอกเรียกดังลั่น เขากระชากแขนเล็กแล้วผลักออกอย่างแรง “คุณจะโวยวายไปทำไมคุณทำตัวเองทุกอย่างนะวิ อย่านึกว่าผมไม่รู้!” เขาพูดขึ้นอย่างเหลืออด
 

“วิทำอะไร! คุณไปกับมันมาจริงๆพามันไปกกไปกอดไกลถึงพังงา นี่ถ้าวิไม่ให้คนคอยตามดูวิก็คงยังโง่อยู่แบบนี้ใช่ไหม!” เธอยังตวาดลั่นขึ้นเสียงใส่เขาอย่างไม่เกรงใครจะได้ยิน
 

“ใช่!  ผมกอดกับเขาจริง แต่นั่นมันเป็นเพราะคุณสั่งให้ใครบางคนทำให้ผมต้องกอดกับเขาใช่ไหม คุณทำเพื่ออะไร แอบใส่ยาเพื่อให้ผมกับเขามีอะไรกันเพื่อที่คุณจะได้ส่งรูปงี่เง่านั่นไปทำลายภัครกับลูกชายของผมอย่างนั้นหรือ คุณนี่มันที่สุดของความเลวจริง ๆ”  ทัตพลเหลืออดพรั่งพลูคำพูดที่ไม่เคยคิดจะพูดออกมา วิลาสินีพอรู้เรื่องยา สีหน้าเจื่อนลงทันที นึกไปถึง ‘รุ่ง’ คนที่เธอจ้างวานให้ตามติดทัตพลไม่นึกว่ารุ่งจะเห็นแก่เงินได้ขนาดนั้น

 
“ผมไม่พูดไม่ใช่ว่าผมไม่รู้หรือไม่รู้สึกอะไร  ผมเพียงแค่สงสารชนาธิป ถ้าหากว่าพ่อกับแม่ต้องมาเลิกกันตอนเขาโตขนาดนี้ ทั้งที่ใจจริงแล้วผมอยากจะหย่ากับคุณใจจะขาดก็เถอะ”
 

เขาคว้าเอากระเป๋ามาลากต่อ วิลาสินีถลาเข้ามาดึงไว้ทันทีแรงลากทำให้ตัวเธอครูดไปกับพื้นหินอ่อนมันวับ
 

“พี่ทัต วิไม่ให้พี่ทัตไปนะ วิรักพี่ทัตรักมากที่สุดรักมานานแค่ไหนพี่ทัตเองก็รู้ วิรักพี่คนเดียว วิอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่ อย่าไปวิไม่ให้ไป!” เธอร่ำไห้อย่าลืมอายน้ำตานองอาบลงสองแก้มบวมช้ำ ทัตพลยืนนิ่งไม่ขยับไปไหน เมื่อไหร่ที่วิลาสินีอ้อนเขาจะเรียกเขาว่าพี่แต่ไหนแต่ไร ดวงตาคมกล้าจดจ้องที่ใบหน้าสวยที่บัดนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำตา
 

“คนที่ทำให้เรื่องราวมันเป็นแบบนี้ก็คือวิเองนะ พี่เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าให้วิเชื่อใจพี่ในเมื่อพี่เลือกมาอยู่กับวิแล้วทำไมถึงไม่เชื่อใจกัน ทำตัวร้ายๆแบบที่ใครก็ให้อภัยไม่ได้แบบนี้วิคิดว่าพี่จะสามารถอยู่กับวิได้อีกอย่างนั้นหรือ”
 

เขาแกะมือเล็กที่ดึงหูกระเป๋าเขาออกอย่างไร้เยื่อไยวิลาสินีจึงลุกขึ้นคว้าจับท่อนแขนเขาไว้ “แยกกันอยู่เถอะนะ ที่ผ่านมาพี่ไม่เคยเสียใจเลยที่ได้เลี้ยงดูชนาธิป  ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ลูกของพี่ก็ตาม  วิก็รู้นี่ว่าคนที่พี่รักมาตลอดน่ะคือใคร ให้พี่ได้ชดใช้ให้กับเขาบ้างเถอะ”
 

“แต่นังนั่นมันนอนเป็นอัมพาตไปแล้ว พี่ทัตจะไปอยู่กับมันได้ยังไงคนมักมากแบบพี่ไม่มีทางที่จะอยู่ได้โดยไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก พี่ต้องอยู่กับวิสิ วิรักพี่นะพี่ทัต อยู่กับวิ  พี่ทัตต้องอยู่กับวิ ฮือๆๆ” เธอร้องไห้อย่างหมดอายเมื่อเขาพูดถึงคนที่เขารักอย่างหมดหัวใจใส่หน้าเธอ
 

“ที่ผ่านมาวิได้จากพี่ไปเยอะแล้ว จากนี้ไปให้พี่ได้ชดเชยให้กับเขาบ้างเถอะนะ....ปล่อยพี่ไปเถอะ”
 

เขากระชากตัวออกจากการเกาะกุมของเธอเป็นครั้งสุดท้าย ก้าวเดินอย่างมั่นคงออกจากบ้านที่เคยอยู่ร่วมกันมาถึงยี่สิบปีอย่างไม่ใยดี วิลาสินีทรุดฮวบลงกับพื้นร้องไห้เหมือนดั่งจะขาดใจ  เครื่องสำอางค์ชั้นดีสีจัดจ้านที่เธอชอบใช้อยู่เสมอเลอะเปรอะเต็มใบหน้าสวย
 

“พี่ทัต อย่าไป วิขอโทษ ฮือๆๆๆ วิรักพี่ ฮือๆๆวิขอโทษ วิผิดไปแล้ว จะให้วิทำยังไงก็ได้ วิผิดไปแล้ว วิขอโทษ... ”
 

เธอพึมพำอยู่คนเดียวโดยที่เขาไม่มีวันจะหันกลับมามองอีกต่อไปแล้ว นี่หรือคือผู้กำชัยชนะของจริง เธอคิดทบทวนถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ได้ทำมาตลอดยี่สิบปีที่อยู่กับเขา ร่างเล็กๆร้องไห้โฮอย่างหมดแรง เวลายี่สิบปีไม่สามารถซื้อจิตใจเขาได้เลย เธอแย่งชิงเขามาได้ ดำเนินชีวิตร่วมกันมา แล้วยังไง? สุดท้ายเธอก็ได้แต่ร่างกายของเขาอยู่ดี  ส่วนตัวตนและจิตใจของเขาต่อให้เธอบังคับขู่เข็ญปรารถนาเช่นไร เธอก็ไม่มีวันนั้น วันที่จะได้มันมาจากเขา
 

หัวใจของเขา...ไม่ใช่ของเธอ...ตั้งแต่ไหนแต่ไร
 

บางครั้ง...การอยู่ใกล้ชิดกันโดยที่เขาไม่เคยรักเลย มันแสนเจ็บปวดยิ่งกว่า การตัดใจให้ขาดเสียตั้งแต่แรก...
 

.

.
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-03-2014 14:04:27 โดย coffeeQbread »

ออฟไลน์ coffeeQbread

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1218/-29


-ก๊อก ก๊อก-


เสียงเคาะประตูดังขึ้นวารินที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จหันไปมองที่ต้นเสียง มือเล็กกำลังจับหวีขึ้นมาจะหวีผม หลังเวลาอาหารค่ำวารินช่วยดาวล้างจานเก็บเช็ดห้องครัวหลังจากนั้นถึงได้แยกย้ายกันพักผ่อน


“พี่ทราย คุณธารเรียกแน่ะพี่ บอกว่าให้เอากาแฟขึ้นไปให้”


คนตัวเล็กหน้าซีดลงทันที ก้าวถอยหลังจนขาชนกับขอบเตียง ห้องแคบ ๆ ไม่มีที่ให้ถอยได้มากนัก นับดาวเองก็หน้าเจื่อนลง เธอรู้ทั้งรู้ว่าวันนั้นวารินโดนธาราธารทำอะไรบ้างแต่จะให้พูดออกไปคงไม่ได้เพราะขนาดตัววารินเองยังไม่ยอมพูด เธอเองก็ไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย


“อ..อือ เดี๋ยวพี่ไป ดาวไปนอนเถอะ”


วารินทรุดนั่งลงที่เตียงอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี เดินไปกดล็อคประตูให้แน่นหนาปิดบานเกร็ดลง ปิดม่านหน้าต่างให้มิดชิด ปิดไฟแล้วซุกตัวลงนอนใต้ผ้าห่มผืนบาง หยิบโทรศัพท์ที่สอดไว้ใต้หมอนมากดโทรออกหาภูวดลเหมือนทุกๆวันที่เคยทำ


“ว่าไงเรา” เสียงนุ่มทุ้มที่แสนอบอุ่นแผ่ซ่านจากปลายสายดั่งน้ำทิพย์มาชโลมจิตใจร้าวรานของวารินให้กลับมาสดใสได้อีกครั้ง ร่างเล็กๆยิ้มกว้างแค่ได้ยินเสียงพี่ชายที่รักที่สุด


“พี่ซีทำอะไรอยู่ครับ กินข้าวรึยัง ดูทีวีอยู่รึเปล่า วาดรูปเสร็จแล้วเหรอ ล้างพู่กันรึยัง หรือว่ากำลังจะขึ้นนอน” เสียงเล็กรัวถามจนปลายสายส่งเสียงหัวเราะเบาๆออกมา


“ใจเย็นๆครับทรายค่อย ๆ ถาม พี่ซีไม่รีบวางไปไหนหรอก”


“ก็ทรายคิดถึงพี่ซีนี่ อยากรู้ทุกอย่างเลยพี่ซีตอบมาเร็วๆเข้าสิ” วารินทำแก้มพองลมแกล้งงอนหัวซุกลงในผ้าห่มส่งเสียงอู้อี้ เดือดร้อนภูวดลต้องเข้าโอ๋อีก แม้จะแค่โทรคุยกันแต่บางคืนวารินถึงขนาดหลับคาสายโทรศัพท์ไปเลยก็มี หลังจากเล่าเรื่องชีวิตประจำวันให้ฟังทั้งหมดแล้ว เขาก็ถามกลับคนตัวเล็กบ้าง


“วันนี้ทรายไปจ่ายตลาดกับดาวตอนสาย ๆได้แผ่นเกมส์มาด้วยเดี๋ยวไว้ทรายกลับไปจะเอาไปให้พี่ซีนะครับ แล้วก็วันพรุ่งนี้ทรายกะว่าจะชวนดาวไปดูต้นไม้ที่สวนฯหน่อย ไม่รู้ว่าดาวจะยอมไปกับทรายรึเปล่าเห็นร่ำๆว่าอยากจะดูหนังมากกว่า”


“อะไรกันทรายน้อยของพี่ซีกลายไปเป็นพ่อบ้านเต็มตัวแล้วเหรอเนี่ย ไหนว่าจะไปดูแลคุณภัครจิราไง นี่มันมีแต่โปรแกรมหนีเที่ยวนี่นา” ภูวดลแกล้งเย้า แต่วารินดันเจื่อนลงจริง ๆ เพราะความจริงแล้วเขาไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปดูแลภัครจิราแม้แต่น้อย


“ก็....ดูอยู่ครับ” วารินเสียงอ่อนพูดไม่เต็มปาก


“ไงเราง่วงแล้วสิ เสียงเบาเชียว”


วารินหลับตาลงแน่นถ้าเขามีภูวดลอยู่ข้าง ๆ ป่านนี้มือใหญ่คู่นั้นคงจะเข้าลูบศีรษะเล็กเพื่อปลอบประโลมแล้ว น้ำใสๆจากหางตาไหลตกลงโดยที่คนตัวเล็กไม่สามารถกลั้นไว้ได้ วารินยกมือปิดหน้าแล้วร้องไห้ออกมาโดยไม่ให้คนที่อยู่ปลายสายได้ยิน หัวใจของเขามันเต็มไปด้วยความชอกช้ำและเจ็บปวด มีเพียงภูวดลเท่านั้นที่เป็นหลักพักพิงให้ได้


ไม่รู้เผลอหลับไปนานแค่ไหนวารินสะดุ้งเฮือกอีกทีเหมือนได้ยินคนไขกุญแจห้องตัวเอง ร่างเล็กลุกพรวดขึ้นจากเตียงแต่โดนมือใหญ่ของใครบางคนปิดปางบางเฉียบไว้แน่น วารินทั้งดิ้นทั้งทุบ


“อื้ออ..” ตาเล็กๆเบิกโพลงเมื่อเห็นได้ชัดๆเต็มตาว่าเป็นใครที่บุกรุกเข้ามากลางดึกแบบนี้  ร่างสูงใหญ่ขึ้นทาบทับเตียงเล็กๆส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังลั่น


“พยศนักนะ เรียกแล้วทำเล่นตัว คิดว่ายังไงเสียคนอย่างผมก็ต้องตามลงมาใช่ไหม” ธาราธารกระชากสองมือเล็กกางออกแล้วกดจนจมมิดลงที่เตียง


“ร้องสิ ร้องดัง ๆ ใครต่อใครเขาจะได้รู้ว่าผมลงมาเอาพี่ถึงที่นี่ไง”


“ธารปล่อย!” ร่างเล็กดิ้นพราดอยู่ภายใต้อ้อมกอดใหญ่ของเขา


“ปล่อยพี่! ไม่เอา..อื้ออ” เขาฉกจูบลงมาวารินเม้มริมฝีปากไว้แน่น ลิ้นร้ายดุนดันเข้ามาจนปากเล็กต้องอ้าออกเพื่อกวาดต้อนเอาลมหายใจ เรียวลิ้นบุกทะลวงเข้าจู่โจมอย่างหยาบคายและป่าเถื่อน เขาดูดดึงเกี่ยวกระหวัดกวาดต้อนเอาความหอมหวานในโพรงปากเย้ายวนจนแดงเจ่อ ปลายลิ้นเล็กๆโดนดูดกลึงจนคนที่ไม่ประสาอ่อนระทวยลงในอ้อมแขน น้ำจากตาดวงน้อยทะลักลงสองแก้มขาว  เขาหยุดแล้วขยับตัวขึ้นดูทันที


“ทำไมต้องขัดขืนด้วย ทำไมทีกับพ่อผม พี่ถึงร่านเข้าหาขนาดนั้นแล้วทำไมกับผมพี่ถึงต้องขัดขืนอยู่ตลอดด้วยฮึ!”


เขาละตัวออกแล้วลุกขึ้นยืนอย่างหัวเสีย  เมื่อคิดไปถึงภาพในวีดีโอนั่นแล้วเจ็บใจอย่างถึงที่สุด วารินร่านเข้าหาพ่อของเขาเหมือนคนโหยหาในเซ็กส์ แต่เรื่องจริงที่เขาได้รับรู้ก็คือวารินจะต่อต้านเขาอยู่ตลอดเวลาที่มีอะไรกัน  ความโกรธแค้นน้อยใจและหึงหวงแล่นพ่านจากปลายเท้าขึ้นมาจนถึงขั้วหัวจิตหัวใจ มือแกร่งเข้ากระชากคอเสื้อคนตัวเล็กที่กำลังจะวิ่งหนีออกนอกห้องเหวี่ยงโครมเข้าไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ของล้มระเนระนาด


“ธาร!” เสียงเล็กอุทานอย่างหวาดกลัวเมื่อเขาเดินหน้าเข้าหาแล้วกระชากคอเสื้อรั้งขึ้นมา


“อย่าคิดว่าผมจะหลงกล แสร้งทำเป็นบริสุทธิ์ไร้เดียงสาทั้งที่ความเป็นจริงคืออะไรก็เห็นกันอยู่ ร่าน!” เขามองวารินด้วยแววตาที่มีแต่ความโกรธเกรี้ยวชิงชัง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบจับขั้วหัวใจแล้วตะโกนใส่หน้า ร่างเล็กเจ็บจนพูดไม่ออกส่ายหน้าร้องขออย่างคนไม่มีหนทางไป


“ธาร..ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนั้น ฟังพี่ก่อน”


มือเล็กๆสองมือขึ้นมาเกาะกุมมือใหญ่ที่ดึงรั้งคอเสื้อตัวเองอยู่ เขาดันตัววารินจนแผ่นหลังบางติดกระจกเงาแล้วกระชากเสื้อนอนออกอย่างแรงเม็ดกระดุมปลิวว่อนตกไปทั่วห้อง สาบเสื้อนอนแยกออกจากกันหลุดลุ่ย เผยให้เห็นผิวขาวยั่วยวน ขณะที่มือหนึ่งบีบรอบลำคอเล็กอีกมือกลับบุกเข้าหาอย่างหยาบคายบดขยี้ลงที่เม็ดสีสวยวารินร้องลั่นคว้าจับมือเขาไว้แน่น


“ธารอย่า! ไม่  อย่าทำนะ!”


เสียงเล็กๆร้องสั่นพร่า ดวงตาสั่นระริกจ้องเขาอย่างขอความเห็นใจ แต่ทว่าเขาไม่ละสายตาโกรธเกรี้ยวออกจากใบหน้าเล็กเลย ดวงตาคมเข้มจดจ้องราวกับจะจองจำให้อีกคนเจ็บปวดไปกับความทรมานที่เขาเป็นคนมอบให้ 


“จำไว้นะ จดจำผมไว้ให้ดี ผมคนนี้คนเดียวเท่านั้นที่จะทำกับพี่แบบนี้ได้! คนอื่นหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์อีกแล้ว! ไม่มีสิทธิ์!”


น้ำเสียงเย็นเฉียบตะโกนลั่นย้ำอย่างไม่แคร์ ความโกรธความหึงหวงแล่นพล่านจนไม่ฟังเหตุผลใดๆทั้งสิ้น เขาเลื่อนมือมาบีบเข้าที่ปลายคางเล็กอย่างแรงจนวารินหน้าเบ้ เจ็บปวดจนแสนสาหัสกับทั้งคำพูดดูถูกดูแคลน เขาฉกจูบลงมาอีกหนปลายลิ้นหยาบคายสอดแทรกอย่างดื้อรั้น


“อื้ออ..” วารินน้ำตาไหลเป็นทางทั้งทุบทั้งตี ข้อขาเล็กทั้งถีบทั้งเตะแต่ร่างกายเขาดั่งหินผาที่ผลักไสและทุบตีเท่าไหร่ก็ไม่สะทกสะเทือน ปากเล็กๆบวมเจ่ออย่างเจ็บปวด รสเลือดฝาดพร่าแปร่งอยู่เต็มปาก


“อย่ามาทำเป็นดีดดิ้น! ทีกับผมทำเป็นรังเกียจ กับพ่อผมล่ะก็ ยิ้มร่าเข้าใส่เชียวนะ”


“ไม่ใช่! ธารอย่าทำฟังก่อน!”


เสื้อตัวเล็กถูกเขากระชากขาดวิ่นไม่ต่างไปจากผ้าขี้ริ้วพูดอย่างไรเขาก็ไม่ฟังแล้ว  วารินถดตัวจนสุดทางโต๊ะเครื่องแป้งราคาถูกไม่อาจต้านทานแรงกระแทกจากเขาได้ เขาคว้าท่อนแขนเปลือยเปล่ากระชากแล้วเหวี่ยงร่างทั้งร่างโครมลงบนเตียงแคบวารินจุกจนตัวงอเพราะกระเด็นไปติดผนังปูน ร่างสูงใหญ่ขึ้นคร่อมทับทันที เขาไม่รอช้ากระชากกางเกงนอนขายาวของคนตัวเล็กลงมาแล้วเหวี่ยงปลิวไปออกอย่างไม่แคร์ ขาแข็งแรงกดทับหน้าขาเล็กจนวารินหน้าเบ้ด้วยความเจ็บปวด เขาโน้มตัวลงทาบทับกระชากผมหอมแล้วรั้งลงจนใบหน้าหวานแหงนเงย  ซุกไซ้ใบหน้าคมสูดดมความหวานหอมที่ลำคอขาวขบเม้มจนขึ้นรอยสีกุหลาบไปทั่วทุกตารางนิ้วแค่ได้กลิ่นนมส่วนตัวของวารินทำเอาเขาแทบคลั่ง ริมฝีปากร้ายกาจลากผ่านตีตราไปถ้วนทั่วทุกตารางนิ้ว วารินทุบตีจิกแผ่นหลังเขาแน่น


“ธาร พี่เจ็บ!”


เสียงเล็กๆที่น่าเวทนาส่งไปอย่างไรก็ไม่มีวันถึง  เรือนร่างที่เขาหลงใหลนอนเปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้าต่อตาเขาแบบนี้ให้ตายก็หยุดลงไม่ได้แล้ว มือหนาเค้นคลึงที่สะโพกกลมกลึงของคนตัวเล็กขณะที่อีกมือบดขยี้อยู่ที่ยอดอกสีสวย


วารินครางฮือ “ฮ..ฮ้าา.ธาร..อย่าพอแล้ว..” เสียงเล็กเรียกชื่อเขาจนสั่น ลิ้นร้อน ๆ ลากไล้ลงมาจับจองครอบครองอยู่ที่ยอดอก ดูดดึงราวกับมันจะหลุดติดออกมากับริมฝีปากของเขา วารินเสียวสะท้านจนต้องแอ่นอกรับ


เขายิ่งเห็นคนตัวเล็กทรมานบิดกายเร่าร้อนแบบนั้นมันยิ่งเร้าให้เขาได้ใจ  ยิ่งต่อต้านเขาแค่ไหนมันเหมือนยิ่งจุดประกายไฟเติมเชื้อเข้าไปให้โหมฮือ เขาเปลี่ยนเป้าหมายเข้าครอบครองเม็ดสีสวยอีกข้างดูดและดึงอย่างเอาแต่ใจไม่มีความปราณีกันแม้แต่น้อย  วารินข่วนหลังเขาลากยาวจนขึ้นรอย “ฮ..อ๊าา” เขากระตุกยิ้มร้าย ทว่าเป็นรอยยิ้มของซาตานที่สุดแสนร้ายกาจ


“ถอดเสื้อให้ผม” เขาสั่ง โดยที่ทั้งริมฝีปากและสองมือยังทำงานประสานกันได้ยอดเยี่ยมไม่ยอมหยุด  “ถอดให้เร่าร้อนเหมือนที่พี่ถอดให้คุณพ่อผมนะ”  เขาละริมฝีปากขึ้นมากระซิบเสียงเย็นเฉียบชิดริมหูเล็ก วารินเหมือนถูกใบมีดคมกริบกรีดลงกลางหัวใจ ใบหน้าเล็กส่ายอย่างยอมรับไม่ได้น้ำตาไหลนองจนไม่รู้จะทำอย่างไรได้แล้ว


“ธาร..ไม่ใช่แบบนั้น พี่กับคุณทัต...”


“ไม่ต้องมาแก้ตัว! อย่ามาเรียกชื่อเขาในขณะที่ผมนอนกอดพี่อยู่แบบนี้!” เขาตวาดลั่นในดวงตาเหมือนมีไฟลุกโชนแค่ได้ยินวารินเอ่ยชื่อทัตพลเท่านั้น  ความริษยาแล่นพล่าน


“ทำเดี๋ยวนี้! ถอดเสื้อให้ผม!” เขากระชากมือเล็กขึ้นมากุมไว้ที่กระดุมเสื้อของเขา วารินสะดุ้งเฮือกมองใบหน้าโกรธเกรี้ยวของเขาแล้วนึกกลัวจนจับใจ


“ผมนับถึงสาม ถ้าไม่ถอดผมจะลากพี่ออกไปเอาอยู่ที่หน้าห้องให้ได้งามหน้าในความร่านกันไปเลย  ทำ!” เขาเน้นคำแล้วตะคอกใส่  วารินกลัวจนตัวสั่นได้แต่หลับตาปี๋กลั้นใจยื่นมือเล็กที่สั่นสะท้านปลดเปลื้องกระดุมเสื้อของเขาลง เขาละตัวออกนิดหน่อยเพื่อให้วารินถอดออกได้สะดวก “กางเกงด้วย” น้ำเสียงเย็นเยียบมองใบหน้าเล็กไม่ให้หลุดรอดไปสักวินาที


วารินค่อยเลื่อนมือลงมาสัมผัสที่ขอบกางเกงนอนของเขา เพียงแค่นั้นธาราธารก็ต้องข่มกลั้นอารมณ์ที่ลุกโชนในตัวไว้ให้ลึกที่สุด แค่มือเล็กๆของวารินแตะสัมผัสเข้าที่ผิวกายของเขาราวกับตัวเขาจะระเบิดความร้อนทะลักออกมา วารินดึงขอบกางเกงเขาลงได้แค่นิดเดียวก็ต้องหยุดและร้องไห้โฮออกมา


“ธาร..ขอร้อง พอเถอะ” เสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้น เขาคว้าจับท่อนแขนเล็กแล้วบีบแน่นอย่างขัดในอารมณ์ “ทำไม  กับผมนี่ทำไมได้? ทีกับพ่อผมนี่ถอดให้เองกับมือเลยนะ ร่านเอ๊ย!”


ในแววตาที่ลุกโชนดั่งเปลวเพลิงกำลังแผดเผาวารินลงไปทีละน้อยด้วยคำพูดถากถางและหยาบคาบเหยียบให้จมดินของเขา  ในเมื่ออีกคนทำไม่ได้เขาจึงจัดการสะบัดมันออกไปอย่างรวดเร็วด้วยตัวเอง ในที่สุดร่างเปล่าเปลือยสองร่างกำลังทาบทับกันอยู่ เขาจูบโลมเลียสัมผัสผิวสีน้ำนมถ้วนทั่วอย่างหื่นกระหาย  เรียวนิ้วร้ายกาจลากไล้จากโคนขาขาวผ่องยาวขึ้นมาตามร่องสีสวยขณะที่ริมฝีปากปรนเปรอกวาดต้อนเอาความหอมหวานในโพรงปากอุ่นร้อน เขาทั้งดูดดันตวัดเกี่ยวเรียวลิ้นเล็ก ๆ ที่เฝ้าหลบหลีกเขาอยู่ตลอดเวลา ริมฝีปากกดจูบลงมาที่ยอดอกชูชัน เม็ดทับทิมสีสวยถูกเขาบดขยี้ดูดดึงครั้งแล้วครั้งเล่า ปลายลิ้นลากต่ำลงมาที่หน้าท้องขาวเนียนเขาตวัดเรียวลิ้นรุกไล่ร่างกายที่แอ่นครางเสียงกระเส่า มือเล็กทั้งสองสอดลงบนกลุ่มผมนุ่มของเขาแล้วออกแรงจิกทึ้งในยามที่เขาตวัดเลียที่หัวหัวสีชมพูนุ่มนิ่ม วารินครางฮืออย่างลืมอายแอ่นสะโพกร่อนขึ้นรับสัมผัสเขาอย่างลืมตัว “ฮ..ฮ้าา..” ริมฝีปากหนารูดรั้งเข้าออกขณะที่ดวงตาคมกล้าเฝ้าจดจ้องใบหน้าหวานที่บิดเบี้ยวเหยเกเพราะความเสียวซ่าน


สีหน้าที่เขาเคยอยากจะเห็นยิ่งกว่าสิ่งใด วารินกรีดร้องตัวเกร็งสั่นปลดปล่อยลาวารักอุ่นร้อนแตกคาริมฝีปากของเขา ธาราธารตั้งใจไม่เอาออกไปทั้งที่รู้ว่าอีกคนกำลังจะปลดปล่อยเขาตั้งใจดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างของคนๆนี้  ลิ้นร้อนๆลากไล้ลงมายาวจนถึงกลีบร่องทางด้านหลังขณะที่สองมือจับโคนขาขาวผ่องแยกกว้างออก วารินอายจนหน้าร้อนฉ่า รีบคว้าหมอนขึ้นมาปิดบังใบหน้า เขาเอื้อมมือขึ้นมากระชากแล้วเหวี่ยงปลิวหายไปทันที ลิ้นร้อน ๆ แหย่ลงไปที่รูสีสวยวารินครางระส่ำไม่เป็นภาษา


“อ๊าา..ซี้ดส์..” ตัวเกร็งจิกผ้าปูที่นอนแน่นจนแทบจะติดมากับมือเล็กเมื่อเขาเร่งจังหวะที่ปลายลิ้นฉกเข้าออกอยู่อย่างนั้น ร่างกายบอบบางยกสะโพกบิดเร่าๆร้องครวญครางด้วยความรัญจวนใจจนถึงที่สุด ดวงตาคมจดจ้องใบหน้าบิดเบี้ยวของวารินแล้วกดลึกเข้าไปในหัวใจ แม้จะเกลียดจะแค้นแต่แค่คนนี้คนเดียวเท่านั้นที่เขาจะทำแบบนี้ด้วย แค่คนๆนี้เท่านั้น!


เขาอ้อยอิ่งอยู่ตรงนั้นจนพอใจแล้วจึงละตัวขึ้นมากดจูบลงที่ริมฝีปากบางขบกัดอย่างเอาแต่ใจ ขณะที่นิ้วร้ายกาจเริ่มสอดแทรกเข้าไปที่ช่องทางรักสีชมพูสด เขาจับสองแขนเล็กยกขึ้นโอบรอบคอเขาเอาไว้ วารินหลับตาพริ้มกัดริมฝีปากแน่นเมื่อเขาเปลี่ยนจากปลายนิ้วเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นเยอะ เขากำลังจะเข้าไป เข้าไปทีละนิดๆจนคนตัวเล็กร้องลั่นเมื่อเขาอดรนทนไม่ไหวเพราะช่องทางที่คับแคบบีบรัดเขามากเกินไปเขาจึงดันกายเข้ามาทีเดียวมิดด้าม


วารินกรีดร้องลั่นอย่างลืมอายเมื่อร่างกายเหมือนถูกจับแยก ร่างสูงใหญ่ละตัวออกมาตระหง่านอยู่ที่กึ่งกลางลำตัวคนตัวเล็ก จับสองขาขาวแยกกว้างหลับตาแน่นซู้ดปากอย่างเสียวกระสันเมื่อต้องห้ามใจตัวเองไม่ให้เผลอปลดปล่อยออกมาก่อนเวลาอันควร ดวงตาคมกล้าจับอยู่ที่สีหน้าเหยเกของวารินขณะที่เขาค่อย ๆเคลื่อนตัวเข้าออกอย่างช้า ๆ  เขาถอดออกเกือบหมดแล้วใส่เข้ามาอย่างแรงจนวารินสะท้านวาบ ทำแบบนั้นอยู่สามสี่ครั้งจนเริ่มเข้าจังหวะ


บทรักของเขายังคงร้อนแรงโหมเรือนร่างบอบบางสะท้านสะเทือน เตียงราคาถูกส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดลั่นไปทั่วทั้งห้องเล็ก วารินกัดริมฝีปากกลั้นเสียงร้องมือเล็กยกขึ้นมาปิดปากเล็กๆไว้ เขาโน้มตัวลงมาเอาท่อนขาเรียวเกาะเกี่ยวสะโพกเขาไว้ จับสองมือวารินแยกออกแล้วกดลงกับเตียง


ส่งเสียงกระซิบเย็นเฉียบเข้าใส่  “ร้องสิ ความร่านของพี่ ปลดปล่อยมันออกมา”


วารินตาเบิกกว้างสติกลับมาทันทีหลังจากหลงใหลในรสกามจากเขาอยู่นาน  ธาราธารตอกย้ำจิตใจที่บอบช้ำด้วยคำพูดกับการกระทำที่แสนโหดร้าย ร่างเล็กปล่อยโฮออกมาอย่างหมดอาย ขณะที่เขาโหมจังหวะกระแทกกระทั้นลงไปอีก วารินเริ่มกลับมาต่อต้านอีกครั้งทั้งดิ้นทั้งถดถอยออกจากร่างกายของเขา


“หยุดนะ! ออกไป! ออกไป!” เสียงเล็กๆร้องประท้วงลั่น หัวใจปวดร้าวเจียนตายกับความเป็นจริงตรงหน้า



...เขาแค่อยากทำลาย เขาไม่ได้มีความรักให้กันเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว...



“ออกไปนะ!”  กำปั้นเล็กๆทุบตีเขาทั้งผลักไสทั้งดันออกขณะที่เขาคว้าจับท่อนแขนเล็กรวบไว้ที่เหนือหัวแล้วฉกจูบลงไปปิดริมฝีปากไว้ ดุนดันสอดลิ้นจาบจ้วงเข้ามาใหม่ ธาราธารครางลั่นเมื่อเขาสุดจะทนกลั้นได้อีกต่อไป กระหน่ำสะโพกใส่ไม่มียั้ง


“อาา...” เขาถอนกายพรวดออกมาก่อนที่จะทานทนอีกไม่ได้ ล้มตัวลงนอนหงายแล้วจับคนตัวเล็กคว่ำลงบนร่างกายของเขา วารินดิ้นเท่าที่เรียวแรงจะมีแต่โดนขาแข็งแรงเกี่ยวรัดเอาไว้ แก่นกายร้อนผ่าวถูกจับยัดลงไปแล้วกดสะโพกกลมกลึงให้กลืนเอาแท่งร้อน ๆ ของเขาจมมิดหายเข้าไปจนสุด


“อ๊าา...” เสียงหวานร้องครวญครางไม่เป็นภาษาเมื่อเขากระหน่ำสะโพกสวนขึ้นไม่มียั้ง วารินที่ยังนอนนิ่งซบแผงอกกว้างกัดปากแน่นจิกทึ้งเนื้อหนังของเขาปัดป่ายมั่วไปหมด ทั้งเจ็บทั้งกระสันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เสียงเล็กๆครางลั่นห้องไม่มีอะไรจะต้องอายอีกแล้ว ธาราธารกัดฟันกรอดเมื่อความอดทนเขาถึงที่สุดเขากอดคนตัวเล็กไว้แนบอกแล้วลุกขึ้นนั่งผลักตัววารินให้นอนหงายลง กายใหญ่ขึ้นทาบทับทั้งที่ยังเชื่อมติดกันอยู่ ขาเรียวถูกเขาใช้สองแขนเกี่ยวไว้แน่นวารินสอดมือเข้าเกาะสองบ่ากว้างส่ายหน้าครางลั่นไม่เป็นภาษาเมื่อเขากระหน่ำซอยไม่มียั้งไม่มีกั๊ก เสียงเนื้อหนังกระทบกันดังพับๆๆๆลั่นห้อง เตียงแคบ ๆ โยกไหวไปตามจังหวะส่งเสียงเอี๊ยดๆดังลั่น


ธาราธารไม่รั้งรออะไรอีกแล้วเมื่อมองเห็นแก่นกายชูชันของอีกคนตั้งชันมีน้ำไหลเยิ้มออกมาน้อย ๆ เขาควงสะโพกเพื่อหาจุดเสียวกระสัน วารินร้องจ้าเมื่อโดนสัมผัสเขากระหน่ำลงมาที่จุดนั้นจนร่างเล็กกระตุกเกร็งจิกบ่าเขาลากเป็นรอย


“ไม่...ไม่ไหวแล้ว”เสียงหวานดังแผ่ว ส่ายหน้าไปมาด้วยความรัญจวนก่อนที่สายน้ำร้อน ๆ จะพวยพุ่งออกมาอีกครั้งดั่งลาวาร้อนรัก


“อ๊าา..ธาร..ธาร” ธาราธารบดกรามจนนูนเขาข่มอารมณ์ไม่ได้อีกต่อไปเมื่อได้ยินเสียงที่ตนปรารถนาพร่ำเรียกชื่อของเขาเมื่ออยู่ในห้วงแห่งความรัญจวนจนถึงที่สุดช่องทางคับแคบกระตุกบีบรัดจนเขาเองทานทนไม่ได้อีกต่อไปปลดปล่อยธารรักร้อนแรงพุ่งเข้าใส่เรือนร่างที่เขาปรารถนาครอบครอง


“อ่าา.....พี่ทราย..อาา” เขาคำรามลั่น ยามความหวานล้ำไหลทะลักราวกับน้ำป่าที่สาดซัดโอบอุ้มเอาความสุขสมทั้งหมดทั้งมวลลอยล่อง


ร่างสูงใหญ่ซบตัวลงนอนบนที่นอนแคบ ๆ เอียงหน้ามองคนตัวเล็กที่นอนหอบหายใจขึ้นลงด้วยความเหนื่อยอ่อนเช่นกันกับเขา มือใหญ่จะเอื้อมไปดึงร่างบอบบางเข้ามาสวมกอดแต่จำต้องหยุดแค่กลางทาง เมื่อเสียงหอบหายใจถี่ๆกับใบหน้าที่แสนจะยั่วยวนในวีดีโอนั่นลอยเข้ามาในห้วงความคิดเขาอีกครั้ง วารินต่อต้านเขาทุกครั้งในขณะที่ไขว่คว้าหาทัตพลพ่อของเขาราวกับคนหิวโหยรักกันหวานซึ้ง แววตาเขาแข็งกร้าวขึ้นทันที เขาลุกพรวดขึ้นจากเตียงคว้าเอาเสื้อและกางเกงขึ้นมาสวม โน้มตัวลงบีบปลายคางมนแน่นจนวารินดิ้นพราดขึ้นมาอีกเพราะความเจ็บ


“ถึงใจไหม กับคนร่านๆแบบพี่!”


ผ้าห่มผืนเล็กที่หล่นอยู่บนพื้นห้องถูกเขาคว้าขึ้นมาแล้วปาเข้าใส่ร่างเล็กอย่างแรง ก่อนเสียงประตูห้องจะปิดลงดังปัง!


วารินประคองเนื้อตัวสั่นเทาขึ้นนั่งในความมืด เสียงสะอื้นแห่งความเจ็บช้ำดังสะท้อนอยู่ภายในใจเพียงลำพัง ปวดรวดร้าวไปทั้งร่างกายและจิตใจ ร่างเล็กๆค่อยก้มไปหยิบกางเกงขึ้นมาสวม ส่วนเสื้อนั้นถูกฉีกขาดจนไม่เหลือชิ้นดี เมื่อขาเล็กลุกขึ้นยืนสายน้ำร้อน ๆ ก็ไหลทะลักออกมาจากช่องทางรักจนรู้สึกเหนียวเหนอะ เดินขาสั่นไปควานหาเสื้อยืดขึ้นมาสวมใส่แล้วหยิบผ้าเช็ดตัวออกไปที่หน้าห้อง


หลังบานประตูห้องน้ำเล็กๆคับแคบสายน้ำจากฝักบัวสาดรดลงมา  วารินค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างหมดแรง หวังใช้บานประตูเป็นที่พักพิงหัวใจที่เหนื่อยล้า เมื่อมันโดนทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดวงตาคู่สวยแดงก่ำ เสียงสะอื้นโรยแรงเหลือเกินแต่กลับเต็มไปด้วยความชอกช้ำนักหนา ใบหน้าเล็กซบลงกับสองเข่าที่ตั้งชันขึ้น


ถ้าเพียงแต่บอกออกไป....


ทว่าความผิดของเขาก็ไม่มีวันลบล้างออกไปได้หมดอยู่ดี ตราบาปที่ติดลึกฝังแน่น จะต้องล้างเท่าไหร่ ล้างอย่างไร แม้ว่าอยากให้สายน้ำชโลมลูบความเจ็บปวดให้ทุเลา ชะล้างทั้งเนื้อทั้งตัวให้สะอาดไร้ราคีย์ อยากจะล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกฝังติดตรึงอยู่ในร่างกายนี้ มือเล็กทั้งขัดทั้งถูกลิ่นกายของใครต่อใครโดยไม่กลัวผิวขาวบางจะชอกช้ำเลยสักนิด


...กับร่างกายที่มีราคีแบบนี้  คงจะรังเกียจกันมาก ถึงได้เอ่ยคำพูดมากมายบ่งบอกให้รู้ว่าเรือนกายของเขานั้นแสนไร้ค่าเสียเหลือเกิน...



...หัวใจที่กลัดหนอง...แสนร้าวราน....



              “พี่รักผมไหม”


              “รักนะ ผมรักพี่”


              “ตอนนี้ยังไม่ต้องเชื่อหรอก แต่ให้พี่คอยดูผมไปเรื่อยๆ เราดูกันไปจนแก่เลยดีไหมครับ”





“...รัก...พี่รักธาร...ขอโทษ...พี่ขอโทษ...”



... เสียงเล็กๆสั่นเครือ พึมพำร่ำไห้ผ่านสายน้ำเย็นเฉียบ สำลักความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เขารู้ทำให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำมากมายแค่ไหน.....




...จะมีหนทางใดไหมที่เรา...จะกลับไปรักกันได้ดังเก่าอีกครั้ง...


 


Tbc.
*โอ๊ยยยพี่ทรายยยยยย  บทนะบท! บทมันเป็นอย่างนั้นนน  :katai1: ไม่ได้ดั่งใจเลยฮึ่ยยย* (แต่ถ้าพูดไปแล้วธารมันจะฟังไหม??)
*คนอ่านอินจัดเลย  อ่านแต่ละเมนท์แล้วอมยิ้ม....ทำไมคนอ่านฉันน่ารักขนาดเน้...ชอบนะชอบมากๆเลยไอ้ยาวๆอ่ะ..ขอบคุณคราบ*   
*ช่วงสี่ห้าตอนนี้จะมีเอ็นซีปนเยอะหน่อย ธารมันกำลังคลั่ง อย่าเพิ่งเบื่อกันเน๊ะ*

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30-03-2014 20:40:33 โดย coffeeQbread »

ออฟไลน์ AMINOKOONG

  • ฝากติดตามนิยายด้วยนะคราฟฟฟฟ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +183/-12
สมน้ำหน้าอินังวิน่าโง่ โง่ที่หลอกตัวเองมาตลอด
โง่ที่ทำเรื่องเลวๆต่ำช้าไม่รู้จักหยุด โง่ทั้งๆที่รู้ว่า
ที่เรื่องทั้งหมดก็แกเองนั่นแหละเป็นคนก่อขึ้นมา
อยู่ดีไม่ว่าดี เค้าอุตส่าห์ทนอยู่ด้วยมาตั้ง20ปี
ยังหาเรื่องใส่ตัว แต่โดนแค่นี้มันยังน้อยไป น้อยไปจริงๆ   :katai1:

ออฟไลน์ w1234

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 626
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
สงสารทราย และธาร หากทรายบอกไปว่าโดนวางยาธารจะเชื่อป่าว หรือที่ทรายไม่อยากบอกกลัวว่าธารจะเกลียดพ่อ ว่าเป็นคนทำ โอ๊ย!!! ทั้งรักทั้งแค้นจะปรับความเข้าใจกันได้ป่าวนะ  :mew2: :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ lightseeker

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
ถ้าพี่ทรายลองฟังดูดีๆจะสัมผัสได้ถึงความน้อยใจ ความอิจฉา ความรักในประโยคประชดประชันของน้องธารมันนะ
น้องมันรักมากน่ะแหละถึงทำแบบนี้

คุณทัตหมดบทรึยังอ่ะ เราว่ามันน่าจะดีนะที่หลังจากตอนนี้คุณทัตจะปลีกตัวและหายไปเงียบๆและไม่กลับมาอีก  :เฮ้อ:
พอน้องธารมันหายคลั่งแล้ว ไม่มีอะไรมากระตุ้นให้ลมหึงตีขึ้นหน้าอีก อะไรๆคงจะดีขึ้นกว่าเดิม

ออฟไลน์ บ๊ายบายโพ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
เริ่มจะสงสารพี่ทรายขึ้นมานิดตอนที่ได้ยินคำรักธารออกมาในตอนสุดท้าย  :o12: ไม่ๆ เราจะยังไม่ใจอ่อน เราสติลซัพพอร์ตน้องธารอยู่

ออฟไลน์ EARTHYSS :)

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-1
ถ้าป้าวิรู้ตัวแล้วก็ควรแก้ปัญหาได้แล้วนะ คุณพ่อก็ด้วย แล้วถึงทรายจะอยากบอกแค่ไหน
มันก็เป็นไปไม่ได้หรอกหลักฐานมันคาตาขนาดนั้น ขออย่าพึ่งมีใครมาแทรกแซงก็พอ  :เฮ้อ:

ออฟไลน์ waza

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
รอเรื่องนี้ทุกวัน เพราะชอบคนเขียน มีวินัย แล้วก็สม่ำเสมอดีค่ะ สำนวนการเขียนก็เป็นแบบที่ชอบ  อยากรู้มากเลยว่าบทบาทของพี่ซีจะเป็นยังไง  จะเข้ามาช่วยทรายรึเปล่า สองตอนที่แล้วไม่ได้เม้นท์ จบที่ฉากน้องทรายโดนกระทำชำเราแล้วนึกถึงประโยคบอกรักของตัวเองกับธาร ลุ้นให้ทรายพูด  เฮ้อ แต่สุดท้ายธารก็ยังไม่รู้อะไรอยู่ดี  มันขัดใจตรงนี่ล่ะ
ด้านทัตพลก็เริ่มขยับแล้ว  เราก็ไม่อยากคาดเดาว่าทัตพลจะทำอะไรต่อไป  จุดหักเหใหญ่ของเรื่องนี้คงจะเป็นตอนที่ทรายมีอะไรกับคุณทัตพลนี่ล่ะ  ทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง  กำลังตั้งตารอเหตุการ์ณที่ทำให้เรื่องราวดำเนินต่อไปอีก  เป็นกำลังใจให้นักเขียน :pig4: :L1:

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
บาดเจ็บกันทุกคน ฮือๆๆๆ

พี่ทรายกับน้องธารต้องทนให้ไหวนะคะ

 :mew2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ U_Ton

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 753
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 :o12: ไม่ไหวๆ ทรายหัวใจกลัดหนอง แต่คนอ่าน... หัวหนองเเตกแล้วค่าาาาาาาา!!!
สงสารมากอ่ะ ถ้าเป็นอย่างนี้ทุกวันทุกคืนทรายจะทรุดเอานะ ทั้งกายทั้งใจมันถูกบั่นทอน ไม่มีความฝัน ไม่มีอนาคต ไม่มีเเม้เเต่
ความฝันลมๆแล้งๆ เลยด้วยซ้ำ ธารก็นะเมื่อความโกรธ อิจฉา ริษยา(พ่อตัวเอง)เข้าครอบงำ ทรายทำอะไรก็เป็นเพียงการท้าทาย
อำนาจไปซะหมด ตอนนี้ที่ธารทำเป็นทั้งการเเสดงความรัก ความเเค้น และเหมือนจะเอาชนะพ่อตัวเองด้วย  :เฮ้อ: สักวันธารนั่น
เเหละที่จะต้องเสียใจ ทรายโทษตัวเองอีกเเล้ว ยังดีที่คราวนี้ได้ลองพยายามที่จะบอกแม้จะไม่สำเร็จ แต่การที่ทรายต้องมานั่งโทษ
ตัวเองทุกครั้งที่เกิดเรื่องเเบบนี้กับตัว ไม่ใช่เเค่จะทับถมตัวเองนะ เเต่มันเป็นการบั่นทอนพลังชีวิตตัวเองลงด้วย คนเราเจ็บเพราะ
ศัตรูก็เเค่เปลี่ยนความเจ็บเป็นความเเค้น แต่การเจ็บเพราะคนที่รักถ้าไม่เเค้นเเสนสาหัสอย่างธารก็คงอ่อนเเอลงอย่างทราย แต่เดิม
ทรายค่อนข้างเข้มเเข็งเลย แม้รูปร่างจะไม่ใช่ เเต่ใจทรายก็เเข็งเเรง มาตอนนี้ไม่เหลือเค้าเลยนะ ทั้งทรายทั้งธารมีใจรูปร่างบิดเบี้ยวไปหมดเเล้ว... :hao5: จะหาทางออกยังไงล่ะทราย คุณทัตตัดช่องเอาตัวออกห่างจากคุณศรีภรรยาไปแล้ว(พ้นรึเปล่าก็ไม่รู้) ส่วน
ธารก็ระบายอารมณ์รักอารมณ์แค้นกับทรายไปตามเรื่อง แล้วทางออกของทรายล่ะ จะออกทางไหนดีลงที่ใคร หรือจะลงที่ตัวเองอีก

ยัยคุณป้ากำลังนำพาลูกสาวมาถวายตัวเเล้ว ธารจะรับไว้พิจารณารึเปล่า? ถ้ารับไว้ที่ธารเคยพูดว่าให้เวลาพิสูจน์ ทรายคงได้ประจักษ์แหละนะ... คงเจ็บยาวอ่ะงานนี้ แต่ถ้าไม่รับก็คงดี แต่อย่างนั้นธารคงอดหาคนมาควงเหยียบหัวใจทรายอีกครั้งเหมือนก่อน
จะบอกรักกัน... โอ้ยยยยยย!!! บีบคั้นอารมณ์ เดาไม่ถูจริงๆกับอารมณ์ธารต่อจากนี้ ยังไงก็เบาๆมือกับทรายหน่อยนะ ก่อนจะไม่มีที่ให้ระบายอารมณ์เเค้นอีกต่อไป :z3: ทรายของป้าาาาาาาา :mew6:

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10
เฮ้ออออออ สงสารพี่ทรายอ่ะ ถ้าบอกความจริงกับธาร แล้วธารจะฟังไหม ในเมื่อตอนนี้ในใจธารมีแต่โกรธ
เฮ้ออออออ ขอให้เข้าใจกันเร็วด้วยเถอะนะ ไม่อยากอ่านไป เช็ดน้ำตาไป เพราะสงสารพี่ทราย
เฮ้ออออออออออ

ปล.เราชอบ NC ของคนแต่งนะ อิอิ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :katai1: ไอ้เราก็นึกว่ามาม่ามันจะแซ่บขึ้นเรื่อยๆ
ที่ไหนได้อยู่ๆก็เอาน้ำมาเจือจางซะงั้น รึว่าเป็นการพักระหว่างเตรียมเครื่องต้มแซ่บชุดใหม่

ตอนนี้อ่านแล้วหมายธารมันร้ายน้อยกว่าเดิมอ่ะ แต่ก็ยังสงสารธารอยู่เหมือนกลับไม่ได้ไปไม่ถึง
คือธารมันอยากจะดีกับทรายแต่ความผิดที่ทรายทำยังไงก็ให้อภัยไม่ได้
ทำไมหลายๆคนถึงคิดว่าพอบอกความจริงแล้วมันจะจบ ธารจะเป็นพระเอกแสนดี เข้าใจและให้อภัยง่ายๆ
แต่เราไม่รู้สึกยังงั้นเลยนะ เราว่าถึงจะโดนวางยาแต่ไอ้ที่มีอะไรมันคือเรื่องจริง
ถึงไม่มีอะไร แต่ไอ้ที่มุ้งมิ้งกับคุณทัตทั้งๆที่ทรายรักกับธารอันนี้ก็ผิดมากแล้วนะ
เราว่ามันเป็นความผิดที่มีเหตุผลแต่ยากที่จะให้อภัยแถมคุณภัครดันนอนแดดิ้นบนเตียงทำอะไรไม่ได้

 :z6: อิบัวกับอิแม่บัวนี่จะมาเป็นก้างตัวใหม่ป่ะเนี่ย ระริกระรี้ทั้งแม่และลูก
สงสัยจริงๆ """"""ทำไมผู้ในเรื่องไม่มีคนไหนแลดูนิสัยดีเลย""""""" ขนาดคุณภัครเราว่าชียังเป็นผู้หญิงมาดคุณนายที่ทุกอย่างต้องเป๊ะในความคิดของตัวเองและไม่ยอมคนอื่น ชีมั่นว่างั้น
ในอนาคตธารอาจจะเอาตัวไปผูกติดกับสองคนนี้ก็ได้ ซึ่งจะก่อเกิดมาม่ารสต้มยำกุ้งมาให้เราชิมกัน
ถ้าอิดอกบัวเป็นคนดีไม่อ้อร้อ ฉันก็อยากจะเชียร์ให้ธารไปคบกับมันซะแล้วจบนอร์มอลไปหนึ่งคู่
ส่วนทรายก็ส่งมาให้คุณทัตของฉัน(หึหึหึหึหึหึหึหึ อันนี้แหละจุดประสงค์ พอดีอยากฟินนนนนนนน)

 :a5: ส่วนอิวิ บอกตรงๆตอนนี้พลิกล็อกมาก อยู่ๆก็คิดได้และสำนึกผิด แล้วดันมาใจอ่อนเพราะอินักสืบทำเกินเหตุ
มันแลดูไม่ค่อยสมกับนิสัยอิวิเลย อย่างชีน่าจะต้องครอบครองตัวคุณทัตให้ได้ (อยากจะไปจอกหัวตบแย่งคุณทัตจากมันมาจริงๆ)
และชีก็ไม่น่ามีความคิดที่จะเชื่อสามีในขณะที่ยังโกรธขนาดนั้น แต่บทก็ให้คุณทัตของเราหนีออกมาง่ายๆ
ยังกะตอนจบละคร = =!

บทเอ็นซีนี่นับวันยิ่งดูเบาบาง มันแลดูไม่แรงสมกับที่แค้นเลยนั่นแสดงให้เห็นได้ชัดว่า ธารรักทราย
ซึ่งอิทรายมันแอ๊บโง่เป็นนางเอกในดาวพระศุกร์ ว่าเขาคงไม่รักเราแล้ว  :z3: อยากจะจับหัวมันโขกสิบเจ็ดครั้ง

แต่ตอนนี้ทำให้ฉันชอบเด็กเปรตมากขึ้นจนอยากดูแล
ตอนนี้จึงขอสถาปนาตัวเองเป็น เจ้าของสองพ่อลูก'ทัตธาร' ตัวจริง ฮ่าฮ่าฮ่า
ตอนนี้เริ่มกรี๊ดกร๊าดกับสองพ่อลูก อยากได้ๆๆๆๆๆๆ  :hao7: :hao7: :hao7:

อยากเห็นโดจินสองพ่อลูกจัง มันต้องฟินจนแผ่นดินถล่มฟ้าทลายแน่นอน ฟันเฟิร์ม  :mew1:

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
หน่วง หนัก แต่ชอบมากค่ะ ชอบพระเอกแนวหวงหน้ามืดแบบนี้แหละ แต่ใจคนนะธารไม่ใช่หิน
เจอเรื่องเจ็บเรื่องเสียใจทุกวันจะทนไหวเหรอ สงสารทรายมาก แค่อ้าปากจะพูดเขาก็ไม่ฟังแล้ว
ให้พี่ทรายไปช่วยงานสิ ต้องดีแน่ๆ  ตอนทรายคุยโทรศัพท์ร้องไห้จนหลับน่าสงสารมาก
ถ้าไม่เป็นคนดีนี่คงหนีหายไปแล้ว จะมาชดใช้ไปเพื่ออะไร คิดดูดีๆ นะธาร

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ naruxiah

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 913
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
ไม่เบื่อเลยค่ะ เอ็นซีเหมาะสมกับบทอยู่ เฮ้ออออออ

ธารเอ๊ย ทรายเอ๊ยยย สงสารพวกเธอ ติดตาม เราจะติดตามยันจบเลย

โคตรลุ้นอ่ะ  :เฮ้อ: :z3: :z3: :z3: :z3:

ออฟไลน์ sweetbasil

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ใครเป็นไงไม่รู้แต่หนูชอบพ่อทัต 
ตอนนั้นพ่อทัตแกคงไม่มีทางเลือกหรอก
ทั้งอายุ ถานะ  ไม่มีใครอยากเลือกทำลายหัวใจตัวเองหรอก
ไม่ได้เป็นพระเอกก็ไม่เป็นไร :จุ๊บๆ:
พี่ทรายก็รักธารด้วยแหละ ไม่งั้นไม่ยอมอย่างงี้หรอก
สู้ต่อไปนะทาเคชิ<ทราย> :angellaugh2:

ออฟไลน์ viewier

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 213
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-2
กรี๊ดดดดด อิวิ อิเลวว อิชั่ววว แกทำอย่างนี้ได้ยังไง
แกมันไม่ใช่คนนน สงสารพี่ทรายอ้ะ เอาเราไปแทนได้มั้ย ?
เมื่อไหร่ธารจะรู้ความจริงอ้ะ ไม่ไหวๆๆ แม้จะชอบฉาก
โซเดมาคอมกัน แต่ก็สงสารอ้ะ ฮือออออออ
มาต่อไวไวนะ แม้เราจะไม่ชอบมาม่า แต่เราก็จะอ่าน



ออฟไลน์ enjoy_13

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 14
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สงสารพี่ทราย ทำไมธารถึงไม่ฟังพี่ทรายบ้าง   :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
สมน้ำหน้านังคุณวิ สะใจจริงจริ๊งง ถือว่าเป็นการชดใช้กรรมในขั้นแรก
แย่งชิงเค้ามา ท้ายที่สุดตัวเองก็ไม่ได้ครอบครอง ไม่รู้จะคิดแผนการชั่วร้ายอะไรอีก
สำหรับธาร เห็นใจกับภาระงานที่ต้องแบกรับเอาไว้ คิดว่าเดี๋ยวอยู่ๆไปก็คงต้องให้พี่ทรายเข้ามาช่วย
เพราะธารก็ไม่ได้ถนัดงานบริหาร เท่ากับพี่ทรายที่ทำงานด้านนี้มานาน และพี่ทรายก็ถือว่าไว้ใจได้มากที่สุด
ถ้าเทียบกับคนอื่น ที่คอยแต่จะหวังผลประโยชน์

ฉากบนเตียงที่พี่ทรายต้องเป็นที่รองรับอารมณ์เกรี้ยดกราดของธาร ถึงจะหนักหน่วงสาหัสสากรรจ์
แต่บางเสี้ยวก็แฝงไปด้วยความหวานปนขมนิดๆ พี่ทรายก็พยายามจะพูดจะอธิบาย แต่ก็ติดตรงที่ธารหึงหวงหน้ามืด
ไม่คิดฟังอะไรเลย นี่ถ้าธารได้รับรู้ความจริงไปบ้าง ธารก็คงไม่โหดร้ายกับพี่ทรายเท่าที่เป็นอยู่
ช่วงนี้พี่ทรายเสียน้ำตาตลอดเลย เฮ้อ....สงสารและเห็นใจนะ เอาใจช่วยละกัน ขอให้ผ่านพ้นช่วงเวลาร้ายๆไปเร็วๆ

ปล.คิดถึงน้องธิปนะ เมื่อไรจะมีบทบ้างคะ

ออฟไลน์ loveaaa_somsak

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-3
ถ้าทรายพูดความจริงทั้งหมดไป ธารก็คงไม่รับฟัง และก็คงไม่เชื่ออยู่ดี

ทำให้ทรายทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจให้มากที่สุด

แล้วสักวันเมื่อความจริงเปิดเผย คงที่เจ็บจวนตาย ก็น่าจะรู้ว่าเป็นใคร


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด