-ก๊อก ก๊อก-
เสียงเคาะประตูดังขึ้นวารินที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จหันไปมองที่ต้นเสียง มือเล็กกำลังจับหวีขึ้นมาจะหวีผม หลังเวลาอาหารค่ำวารินช่วยดาวล้างจานเก็บเช็ดห้องครัวหลังจากนั้นถึงได้แยกย้ายกันพักผ่อน
“พี่ทราย คุณธารเรียกแน่ะพี่ บอกว่าให้เอากาแฟขึ้นไปให้”
คนตัวเล็กหน้าซีดลงทันที ก้าวถอยหลังจนขาชนกับขอบเตียง ห้องแคบ ๆ ไม่มีที่ให้ถอยได้มากนัก นับดาวเองก็หน้าเจื่อนลง เธอรู้ทั้งรู้ว่าวันนั้นวารินโดนธาราธารทำอะไรบ้างแต่จะให้พูดออกไปคงไม่ได้เพราะขนาดตัววารินเองยังไม่ยอมพูด เธอเองก็ไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของเจ้านาย
“อ..อือ เดี๋ยวพี่ไป ดาวไปนอนเถอะ”
วารินทรุดนั่งลงที่เตียงอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี เดินไปกดล็อคประตูให้แน่นหนาปิดบานเกร็ดลง ปิดม่านหน้าต่างให้มิดชิด ปิดไฟแล้วซุกตัวลงนอนใต้ผ้าห่มผืนบาง หยิบโทรศัพท์ที่สอดไว้ใต้หมอนมากดโทรออกหาภูวดลเหมือนทุกๆวันที่เคยทำ
“ว่าไงเรา” เสียงนุ่มทุ้มที่แสนอบอุ่นแผ่ซ่านจากปลายสายดั่งน้ำทิพย์มาชโลมจิตใจร้าวรานของวารินให้กลับมาสดใสได้อีกครั้ง ร่างเล็กๆยิ้มกว้างแค่ได้ยินเสียงพี่ชายที่รักที่สุด
“พี่ซีทำอะไรอยู่ครับ กินข้าวรึยัง ดูทีวีอยู่รึเปล่า วาดรูปเสร็จแล้วเหรอ ล้างพู่กันรึยัง หรือว่ากำลังจะขึ้นนอน” เสียงเล็กรัวถามจนปลายสายส่งเสียงหัวเราะเบาๆออกมา
“ใจเย็นๆครับทรายค่อย ๆ ถาม พี่ซีไม่รีบวางไปไหนหรอก”
“ก็ทรายคิดถึงพี่ซีนี่ อยากรู้ทุกอย่างเลยพี่ซีตอบมาเร็วๆเข้าสิ” วารินทำแก้มพองลมแกล้งงอนหัวซุกลงในผ้าห่มส่งเสียงอู้อี้ เดือดร้อนภูวดลต้องเข้าโอ๋อีก แม้จะแค่โทรคุยกันแต่บางคืนวารินถึงขนาดหลับคาสายโทรศัพท์ไปเลยก็มี หลังจากเล่าเรื่องชีวิตประจำวันให้ฟังทั้งหมดแล้ว เขาก็ถามกลับคนตัวเล็กบ้าง
“วันนี้ทรายไปจ่ายตลาดกับดาวตอนสาย ๆได้แผ่นเกมส์มาด้วยเดี๋ยวไว้ทรายกลับไปจะเอาไปให้พี่ซีนะครับ แล้วก็วันพรุ่งนี้ทรายกะว่าจะชวนดาวไปดูต้นไม้ที่สวนฯหน่อย ไม่รู้ว่าดาวจะยอมไปกับทรายรึเปล่าเห็นร่ำๆว่าอยากจะดูหนังมากกว่า”
“อะไรกันทรายน้อยของพี่ซีกลายไปเป็นพ่อบ้านเต็มตัวแล้วเหรอเนี่ย ไหนว่าจะไปดูแลคุณภัครจิราไง นี่มันมีแต่โปรแกรมหนีเที่ยวนี่นา” ภูวดลแกล้งเย้า แต่วารินดันเจื่อนลงจริง ๆ เพราะความจริงแล้วเขาไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปดูแลภัครจิราแม้แต่น้อย
“ก็....ดูอยู่ครับ” วารินเสียงอ่อนพูดไม่เต็มปาก
“ไงเราง่วงแล้วสิ เสียงเบาเชียว”
วารินหลับตาลงแน่นถ้าเขามีภูวดลอยู่ข้าง ๆ ป่านนี้มือใหญ่คู่นั้นคงจะเข้าลูบศีรษะเล็กเพื่อปลอบประโลมแล้ว น้ำใสๆจากหางตาไหลตกลงโดยที่คนตัวเล็กไม่สามารถกลั้นไว้ได้ วารินยกมือปิดหน้าแล้วร้องไห้ออกมาโดยไม่ให้คนที่อยู่ปลายสายได้ยิน หัวใจของเขามันเต็มไปด้วยความชอกช้ำและเจ็บปวด มีเพียงภูวดลเท่านั้นที่เป็นหลักพักพิงให้ได้
ไม่รู้เผลอหลับไปนานแค่ไหนวารินสะดุ้งเฮือกอีกทีเหมือนได้ยินคนไขกุญแจห้องตัวเอง ร่างเล็กลุกพรวดขึ้นจากเตียงแต่โดนมือใหญ่ของใครบางคนปิดปางบางเฉียบไว้แน่น วารินทั้งดิ้นทั้งทุบ
“อื้ออ..” ตาเล็กๆเบิกโพลงเมื่อเห็นได้ชัดๆเต็มตาว่าเป็นใครที่บุกรุกเข้ามากลางดึกแบบนี้ ร่างสูงใหญ่ขึ้นทาบทับเตียงเล็กๆส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดดังลั่น
“พยศนักนะ เรียกแล้วทำเล่นตัว คิดว่ายังไงเสียคนอย่างผมก็ต้องตามลงมาใช่ไหม” ธาราธารกระชากสองมือเล็กกางออกแล้วกดจนจมมิดลงที่เตียง
“ร้องสิ ร้องดัง ๆ ใครต่อใครเขาจะได้รู้ว่าผมลงมาเอาพี่ถึงที่นี่ไง”
“ธารปล่อย!” ร่างเล็กดิ้นพราดอยู่ภายใต้อ้อมกอดใหญ่ของเขา
“ปล่อยพี่! ไม่เอา..อื้ออ” เขาฉกจูบลงมาวารินเม้มริมฝีปากไว้แน่น ลิ้นร้ายดุนดันเข้ามาจนปากเล็กต้องอ้าออกเพื่อกวาดต้อนเอาลมหายใจ เรียวลิ้นบุกทะลวงเข้าจู่โจมอย่างหยาบคายและป่าเถื่อน เขาดูดดึงเกี่ยวกระหวัดกวาดต้อนเอาความหอมหวานในโพรงปากเย้ายวนจนแดงเจ่อ ปลายลิ้นเล็กๆโดนดูดกลึงจนคนที่ไม่ประสาอ่อนระทวยลงในอ้อมแขน น้ำจากตาดวงน้อยทะลักลงสองแก้มขาว เขาหยุดแล้วขยับตัวขึ้นดูทันที
“ทำไมต้องขัดขืนด้วย ทำไมทีกับพ่อผม พี่ถึงร่านเข้าหาขนาดนั้นแล้วทำไมกับผมพี่ถึงต้องขัดขืนอยู่ตลอดด้วยฮึ!”
เขาละตัวออกแล้วลุกขึ้นยืนอย่างหัวเสีย เมื่อคิดไปถึงภาพในวีดีโอนั่นแล้วเจ็บใจอย่างถึงที่สุด วารินร่านเข้าหาพ่อของเขาเหมือนคนโหยหาในเซ็กส์ แต่เรื่องจริงที่เขาได้รับรู้ก็คือวารินจะต่อต้านเขาอยู่ตลอดเวลาที่มีอะไรกัน ความโกรธแค้นน้อยใจและหึงหวงแล่นพ่านจากปลายเท้าขึ้นมาจนถึงขั้วหัวจิตหัวใจ มือแกร่งเข้ากระชากคอเสื้อคนตัวเล็กที่กำลังจะวิ่งหนีออกนอกห้องเหวี่ยงโครมเข้าไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง ของล้มระเนระนาด
“ธาร!” เสียงเล็กอุทานอย่างหวาดกลัวเมื่อเขาเดินหน้าเข้าหาแล้วกระชากคอเสื้อรั้งขึ้นมา
“อย่าคิดว่าผมจะหลงกล แสร้งทำเป็นบริสุทธิ์ไร้เดียงสาทั้งที่ความเป็นจริงคืออะไรก็เห็นกันอยู่ ร่าน!” เขามองวารินด้วยแววตาที่มีแต่ความโกรธเกรี้ยวชิงชัง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบจับขั้วหัวใจแล้วตะโกนใส่หน้า ร่างเล็กเจ็บจนพูดไม่ออกส่ายหน้าร้องขออย่างคนไม่มีหนทางไป
“ธาร..ไม่ใช่ ไม่ใช่แบบนั้น ฟังพี่ก่อน”
มือเล็กๆสองมือขึ้นมาเกาะกุมมือใหญ่ที่ดึงรั้งคอเสื้อตัวเองอยู่ เขาดันตัววารินจนแผ่นหลังบางติดกระจกเงาแล้วกระชากเสื้อนอนออกอย่างแรงเม็ดกระดุมปลิวว่อนตกไปทั่วห้อง สาบเสื้อนอนแยกออกจากกันหลุดลุ่ย เผยให้เห็นผิวขาวยั่วยวน ขณะที่มือหนึ่งบีบรอบลำคอเล็กอีกมือกลับบุกเข้าหาอย่างหยาบคายบดขยี้ลงที่เม็ดสีสวยวารินร้องลั่นคว้าจับมือเขาไว้แน่น
“ธารอย่า! ไม่ อย่าทำนะ!”
เสียงเล็กๆร้องสั่นพร่า ดวงตาสั่นระริกจ้องเขาอย่างขอความเห็นใจ แต่ทว่าเขาไม่ละสายตาโกรธเกรี้ยวออกจากใบหน้าเล็กเลย ดวงตาคมเข้มจดจ้องราวกับจะจองจำให้อีกคนเจ็บปวดไปกับความทรมานที่เขาเป็นคนมอบให้
“จำไว้นะ จดจำผมไว้ให้ดี ผมคนนี้คนเดียวเท่านั้นที่จะทำกับพี่แบบนี้ได้! คนอื่นหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์อีกแล้ว! ไม่มีสิทธิ์!”
น้ำเสียงเย็นเฉียบตะโกนลั่นย้ำอย่างไม่แคร์ ความโกรธความหึงหวงแล่นพล่านจนไม่ฟังเหตุผลใดๆทั้งสิ้น เขาเลื่อนมือมาบีบเข้าที่ปลายคางเล็กอย่างแรงจนวารินหน้าเบ้ เจ็บปวดจนแสนสาหัสกับทั้งคำพูดดูถูกดูแคลน เขาฉกจูบลงมาอีกหนปลายลิ้นหยาบคายสอดแทรกอย่างดื้อรั้น
“อื้ออ..” วารินน้ำตาไหลเป็นทางทั้งทุบทั้งตี ข้อขาเล็กทั้งถีบทั้งเตะแต่ร่างกายเขาดั่งหินผาที่ผลักไสและทุบตีเท่าไหร่ก็ไม่สะทกสะเทือน ปากเล็กๆบวมเจ่ออย่างเจ็บปวด รสเลือดฝาดพร่าแปร่งอยู่เต็มปาก
“อย่ามาทำเป็นดีดดิ้น! ทีกับผมทำเป็นรังเกียจ กับพ่อผมล่ะก็ ยิ้มร่าเข้าใส่เชียวนะ”
“ไม่ใช่! ธารอย่าทำฟังก่อน!”
เสื้อตัวเล็กถูกเขากระชากขาดวิ่นไม่ต่างไปจากผ้าขี้ริ้วพูดอย่างไรเขาก็ไม่ฟังแล้ว วารินถดตัวจนสุดทางโต๊ะเครื่องแป้งราคาถูกไม่อาจต้านทานแรงกระแทกจากเขาได้ เขาคว้าท่อนแขนเปลือยเปล่ากระชากแล้วเหวี่ยงร่างทั้งร่างโครมลงบนเตียงแคบวารินจุกจนตัวงอเพราะกระเด็นไปติดผนังปูน ร่างสูงใหญ่ขึ้นคร่อมทับทันที เขาไม่รอช้ากระชากกางเกงนอนขายาวของคนตัวเล็กลงมาแล้วเหวี่ยงปลิวไปออกอย่างไม่แคร์ ขาแข็งแรงกดทับหน้าขาเล็กจนวารินหน้าเบ้ด้วยความเจ็บปวด เขาโน้มตัวลงทาบทับกระชากผมหอมแล้วรั้งลงจนใบหน้าหวานแหงนเงย ซุกไซ้ใบหน้าคมสูดดมความหวานหอมที่ลำคอขาวขบเม้มจนขึ้นรอยสีกุหลาบไปทั่วทุกตารางนิ้วแค่ได้กลิ่นนมส่วนตัวของวารินทำเอาเขาแทบคลั่ง ริมฝีปากร้ายกาจลากผ่านตีตราไปถ้วนทั่วทุกตารางนิ้ว วารินทุบตีจิกแผ่นหลังเขาแน่น
“ธาร พี่เจ็บ!”
เสียงเล็กๆที่น่าเวทนาส่งไปอย่างไรก็ไม่มีวันถึง เรือนร่างที่เขาหลงใหลนอนเปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้าต่อตาเขาแบบนี้ให้ตายก็หยุดลงไม่ได้แล้ว มือหนาเค้นคลึงที่สะโพกกลมกลึงของคนตัวเล็กขณะที่อีกมือบดขยี้อยู่ที่ยอดอกสีสวย
วารินครางฮือ “ฮ..ฮ้าา.ธาร..อย่าพอแล้ว..” เสียงเล็กเรียกชื่อเขาจนสั่น ลิ้นร้อน ๆ ลากไล้ลงมาจับจองครอบครองอยู่ที่ยอดอก ดูดดึงราวกับมันจะหลุดติดออกมากับริมฝีปากของเขา วารินเสียวสะท้านจนต้องแอ่นอกรับ
เขายิ่งเห็นคนตัวเล็กทรมานบิดกายเร่าร้อนแบบนั้นมันยิ่งเร้าให้เขาได้ใจ ยิ่งต่อต้านเขาแค่ไหนมันเหมือนยิ่งจุดประกายไฟเติมเชื้อเข้าไปให้โหมฮือ เขาเปลี่ยนเป้าหมายเข้าครอบครองเม็ดสีสวยอีกข้างดูดและดึงอย่างเอาแต่ใจไม่มีความปราณีกันแม้แต่น้อย วารินข่วนหลังเขาลากยาวจนขึ้นรอย “ฮ..อ๊าา” เขากระตุกยิ้มร้าย ทว่าเป็นรอยยิ้มของซาตานที่สุดแสนร้ายกาจ
“ถอดเสื้อให้ผม” เขาสั่ง โดยที่ทั้งริมฝีปากและสองมือยังทำงานประสานกันได้ยอดเยี่ยมไม่ยอมหยุด “ถอดให้เร่าร้อนเหมือนที่พี่ถอดให้คุณพ่อผมนะ” เขาละริมฝีปากขึ้นมากระซิบเสียงเย็นเฉียบชิดริมหูเล็ก วารินเหมือนถูกใบมีดคมกริบกรีดลงกลางหัวใจ ใบหน้าเล็กส่ายอย่างยอมรับไม่ได้น้ำตาไหลนองจนไม่รู้จะทำอย่างไรได้แล้ว
“ธาร..ไม่ใช่แบบนั้น พี่กับคุณทัต...”
“ไม่ต้องมาแก้ตัว! อย่ามาเรียกชื่อเขาในขณะที่ผมนอนกอดพี่อยู่แบบนี้!” เขาตวาดลั่นในดวงตาเหมือนมีไฟลุกโชนแค่ได้ยินวารินเอ่ยชื่อทัตพลเท่านั้น ความริษยาแล่นพล่าน
“ทำเดี๋ยวนี้! ถอดเสื้อให้ผม!” เขากระชากมือเล็กขึ้นมากุมไว้ที่กระดุมเสื้อของเขา วารินสะดุ้งเฮือกมองใบหน้าโกรธเกรี้ยวของเขาแล้วนึกกลัวจนจับใจ
“ผมนับถึงสาม ถ้าไม่ถอดผมจะลากพี่ออกไปเอาอยู่ที่หน้าห้องให้ได้งามหน้าในความร่านกันไปเลย ทำ!” เขาเน้นคำแล้วตะคอกใส่ วารินกลัวจนตัวสั่นได้แต่หลับตาปี๋กลั้นใจยื่นมือเล็กที่สั่นสะท้านปลดเปลื้องกระดุมเสื้อของเขาลง เขาละตัวออกนิดหน่อยเพื่อให้วารินถอดออกได้สะดวก “กางเกงด้วย” น้ำเสียงเย็นเยียบมองใบหน้าเล็กไม่ให้หลุดรอดไปสักวินาที
วารินค่อยเลื่อนมือลงมาสัมผัสที่ขอบกางเกงนอนของเขา เพียงแค่นั้นธาราธารก็ต้องข่มกลั้นอารมณ์ที่ลุกโชนในตัวไว้ให้ลึกที่สุด แค่มือเล็กๆของวารินแตะสัมผัสเข้าที่ผิวกายของเขาราวกับตัวเขาจะระเบิดความร้อนทะลักออกมา วารินดึงขอบกางเกงเขาลงได้แค่นิดเดียวก็ต้องหยุดและร้องไห้โฮออกมา
“ธาร..ขอร้อง พอเถอะ” เสียงร่ำไห้สะอึกสะอื้น เขาคว้าจับท่อนแขนเล็กแล้วบีบแน่นอย่างขัดในอารมณ์ “ทำไม กับผมนี่ทำไมได้? ทีกับพ่อผมนี่ถอดให้เองกับมือเลยนะ ร่านเอ๊ย!”
ในแววตาที่ลุกโชนดั่งเปลวเพลิงกำลังแผดเผาวารินลงไปทีละน้อยด้วยคำพูดถากถางและหยาบคาบเหยียบให้จมดินของเขา ในเมื่ออีกคนทำไม่ได้เขาจึงจัดการสะบัดมันออกไปอย่างรวดเร็วด้วยตัวเอง ในที่สุดร่างเปล่าเปลือยสองร่างกำลังทาบทับกันอยู่ เขาจูบโลมเลียสัมผัสผิวสีน้ำนมถ้วนทั่วอย่างหื่นกระหาย เรียวนิ้วร้ายกาจลากไล้จากโคนขาขาวผ่องยาวขึ้นมาตามร่องสีสวยขณะที่ริมฝีปากปรนเปรอกวาดต้อนเอาความหอมหวานในโพรงปากอุ่นร้อน เขาทั้งดูดดันตวัดเกี่ยวเรียวลิ้นเล็ก ๆ ที่เฝ้าหลบหลีกเขาอยู่ตลอดเวลา ริมฝีปากกดจูบลงมาที่ยอดอกชูชัน เม็ดทับทิมสีสวยถูกเขาบดขยี้ดูดดึงครั้งแล้วครั้งเล่า ปลายลิ้นลากต่ำลงมาที่หน้าท้องขาวเนียนเขาตวัดเรียวลิ้นรุกไล่ร่างกายที่แอ่นครางเสียงกระเส่า มือเล็กทั้งสองสอดลงบนกลุ่มผมนุ่มของเขาแล้วออกแรงจิกทึ้งในยามที่เขาตวัดเลียที่หัวหัวสีชมพูนุ่มนิ่ม วารินครางฮืออย่างลืมอายแอ่นสะโพกร่อนขึ้นรับสัมผัสเขาอย่างลืมตัว “ฮ..ฮ้าา..” ริมฝีปากหนารูดรั้งเข้าออกขณะที่ดวงตาคมกล้าเฝ้าจดจ้องใบหน้าหวานที่บิดเบี้ยวเหยเกเพราะความเสียวซ่าน
สีหน้าที่เขาเคยอยากจะเห็นยิ่งกว่าสิ่งใด วารินกรีดร้องตัวเกร็งสั่นปลดปล่อยลาวารักอุ่นร้อนแตกคาริมฝีปากของเขา ธาราธารตั้งใจไม่เอาออกไปทั้งที่รู้ว่าอีกคนกำลังจะปลดปล่อยเขาตั้งใจดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างของคนๆนี้ ลิ้นร้อนๆลากไล้ลงมายาวจนถึงกลีบร่องทางด้านหลังขณะที่สองมือจับโคนขาขาวผ่องแยกกว้างออก วารินอายจนหน้าร้อนฉ่า รีบคว้าหมอนขึ้นมาปิดบังใบหน้า เขาเอื้อมมือขึ้นมากระชากแล้วเหวี่ยงปลิวหายไปทันที ลิ้นร้อน ๆ แหย่ลงไปที่รูสีสวยวารินครางระส่ำไม่เป็นภาษา
“อ๊าา..ซี้ดส์..” ตัวเกร็งจิกผ้าปูที่นอนแน่นจนแทบจะติดมากับมือเล็กเมื่อเขาเร่งจังหวะที่ปลายลิ้นฉกเข้าออกอยู่อย่างนั้น ร่างกายบอบบางยกสะโพกบิดเร่าๆร้องครวญครางด้วยความรัญจวนใจจนถึงที่สุด ดวงตาคมจดจ้องใบหน้าบิดเบี้ยวของวารินแล้วกดลึกเข้าไปในหัวใจ แม้จะเกลียดจะแค้นแต่แค่คนนี้คนเดียวเท่านั้นที่เขาจะทำแบบนี้ด้วย แค่คนๆนี้เท่านั้น!
เขาอ้อยอิ่งอยู่ตรงนั้นจนพอใจแล้วจึงละตัวขึ้นมากดจูบลงที่ริมฝีปากบางขบกัดอย่างเอาแต่ใจ ขณะที่นิ้วร้ายกาจเริ่มสอดแทรกเข้าไปที่ช่องทางรักสีชมพูสด เขาจับสองแขนเล็กยกขึ้นโอบรอบคอเขาเอาไว้ วารินหลับตาพริ้มกัดริมฝีปากแน่นเมื่อเขาเปลี่ยนจากปลายนิ้วเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้นเยอะ เขากำลังจะเข้าไป เข้าไปทีละนิดๆจนคนตัวเล็กร้องลั่นเมื่อเขาอดรนทนไม่ไหวเพราะช่องทางที่คับแคบบีบรัดเขามากเกินไปเขาจึงดันกายเข้ามาทีเดียวมิดด้าม
วารินกรีดร้องลั่นอย่างลืมอายเมื่อร่างกายเหมือนถูกจับแยก ร่างสูงใหญ่ละตัวออกมาตระหง่านอยู่ที่กึ่งกลางลำตัวคนตัวเล็ก จับสองขาขาวแยกกว้างหลับตาแน่นซู้ดปากอย่างเสียวกระสันเมื่อต้องห้ามใจตัวเองไม่ให้เผลอปลดปล่อยออกมาก่อนเวลาอันควร ดวงตาคมกล้าจับอยู่ที่สีหน้าเหยเกของวารินขณะที่เขาค่อย ๆเคลื่อนตัวเข้าออกอย่างช้า ๆ เขาถอดออกเกือบหมดแล้วใส่เข้ามาอย่างแรงจนวารินสะท้านวาบ ทำแบบนั้นอยู่สามสี่ครั้งจนเริ่มเข้าจังหวะ
บทรักของเขายังคงร้อนแรงโหมเรือนร่างบอบบางสะท้านสะเทือน เตียงราคาถูกส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดลั่นไปทั่วทั้งห้องเล็ก วารินกัดริมฝีปากกลั้นเสียงร้องมือเล็กยกขึ้นมาปิดปากเล็กๆไว้ เขาโน้มตัวลงมาเอาท่อนขาเรียวเกาะเกี่ยวสะโพกเขาไว้ จับสองมือวารินแยกออกแล้วกดลงกับเตียง
ส่งเสียงกระซิบเย็นเฉียบเข้าใส่ “ร้องสิ ความร่านของพี่ ปลดปล่อยมันออกมา”
วารินตาเบิกกว้างสติกลับมาทันทีหลังจากหลงใหลในรสกามจากเขาอยู่นาน ธาราธารตอกย้ำจิตใจที่บอบช้ำด้วยคำพูดกับการกระทำที่แสนโหดร้าย ร่างเล็กปล่อยโฮออกมาอย่างหมดอาย ขณะที่เขาโหมจังหวะกระแทกกระทั้นลงไปอีก วารินเริ่มกลับมาต่อต้านอีกครั้งทั้งดิ้นทั้งถดถอยออกจากร่างกายของเขา
“หยุดนะ! ออกไป! ออกไป!” เสียงเล็กๆร้องประท้วงลั่น หัวใจปวดร้าวเจียนตายกับความเป็นจริงตรงหน้า
...เขาแค่อยากทำลาย เขาไม่ได้มีความรักให้กันเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว...
“ออกไปนะ!” กำปั้นเล็กๆทุบตีเขาทั้งผลักไสทั้งดันออกขณะที่เขาคว้าจับท่อนแขนเล็กรวบไว้ที่เหนือหัวแล้วฉกจูบลงไปปิดริมฝีปากไว้ ดุนดันสอดลิ้นจาบจ้วงเข้ามาใหม่ ธาราธารครางลั่นเมื่อเขาสุดจะทนกลั้นได้อีกต่อไป กระหน่ำสะโพกใส่ไม่มียั้ง
“อาา...” เขาถอนกายพรวดออกมาก่อนที่จะทานทนอีกไม่ได้ ล้มตัวลงนอนหงายแล้วจับคนตัวเล็กคว่ำลงบนร่างกายของเขา วารินดิ้นเท่าที่เรียวแรงจะมีแต่โดนขาแข็งแรงเกี่ยวรัดเอาไว้ แก่นกายร้อนผ่าวถูกจับยัดลงไปแล้วกดสะโพกกลมกลึงให้กลืนเอาแท่งร้อน ๆ ของเขาจมมิดหายเข้าไปจนสุด
“อ๊าา...” เสียงหวานร้องครวญครางไม่เป็นภาษาเมื่อเขากระหน่ำสะโพกสวนขึ้นไม่มียั้ง วารินที่ยังนอนนิ่งซบแผงอกกว้างกัดปากแน่นจิกทึ้งเนื้อหนังของเขาปัดป่ายมั่วไปหมด ทั้งเจ็บทั้งกระสันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร เสียงเล็กๆครางลั่นห้องไม่มีอะไรจะต้องอายอีกแล้ว ธาราธารกัดฟันกรอดเมื่อความอดทนเขาถึงที่สุดเขากอดคนตัวเล็กไว้แนบอกแล้วลุกขึ้นนั่งผลักตัววารินให้นอนหงายลง กายใหญ่ขึ้นทาบทับทั้งที่ยังเชื่อมติดกันอยู่ ขาเรียวถูกเขาใช้สองแขนเกี่ยวไว้แน่นวารินสอดมือเข้าเกาะสองบ่ากว้างส่ายหน้าครางลั่นไม่เป็นภาษาเมื่อเขากระหน่ำซอยไม่มียั้งไม่มีกั๊ก เสียงเนื้อหนังกระทบกันดังพับๆๆๆลั่นห้อง เตียงแคบ ๆ โยกไหวไปตามจังหวะส่งเสียงเอี๊ยดๆดังลั่น
ธาราธารไม่รั้งรออะไรอีกแล้วเมื่อมองเห็นแก่นกายชูชันของอีกคนตั้งชันมีน้ำไหลเยิ้มออกมาน้อย ๆ เขาควงสะโพกเพื่อหาจุดเสียวกระสัน วารินร้องจ้าเมื่อโดนสัมผัสเขากระหน่ำลงมาที่จุดนั้นจนร่างเล็กกระตุกเกร็งจิกบ่าเขาลากเป็นรอย
“ไม่...ไม่ไหวแล้ว”เสียงหวานดังแผ่ว ส่ายหน้าไปมาด้วยความรัญจวนก่อนที่สายน้ำร้อน ๆ จะพวยพุ่งออกมาอีกครั้งดั่งลาวาร้อนรัก
“อ๊าา..ธาร..ธาร” ธาราธารบดกรามจนนูนเขาข่มอารมณ์ไม่ได้อีกต่อไปเมื่อได้ยินเสียงที่ตนปรารถนาพร่ำเรียกชื่อของเขาเมื่ออยู่ในห้วงแห่งความรัญจวนจนถึงที่สุดช่องทางคับแคบกระตุกบีบรัดจนเขาเองทานทนไม่ได้อีกต่อไปปลดปล่อยธารรักร้อนแรงพุ่งเข้าใส่เรือนร่างที่เขาปรารถนาครอบครอง
“อ่าา.....พี่ทราย..อาา” เขาคำรามลั่น ยามความหวานล้ำไหลทะลักราวกับน้ำป่าที่สาดซัดโอบอุ้มเอาความสุขสมทั้งหมดทั้งมวลลอยล่อง
ร่างสูงใหญ่ซบตัวลงนอนบนที่นอนแคบ ๆ เอียงหน้ามองคนตัวเล็กที่นอนหอบหายใจขึ้นลงด้วยความเหนื่อยอ่อนเช่นกันกับเขา มือใหญ่จะเอื้อมไปดึงร่างบอบบางเข้ามาสวมกอดแต่จำต้องหยุดแค่กลางทาง เมื่อเสียงหอบหายใจถี่ๆกับใบหน้าที่แสนจะยั่วยวนในวีดีโอนั่นลอยเข้ามาในห้วงความคิดเขาอีกครั้ง วารินต่อต้านเขาทุกครั้งในขณะที่ไขว่คว้าหาทัตพลพ่อของเขาราวกับคนหิวโหยรักกันหวานซึ้ง แววตาเขาแข็งกร้าวขึ้นทันที เขาลุกพรวดขึ้นจากเตียงคว้าเอาเสื้อและกางเกงขึ้นมาสวม โน้มตัวลงบีบปลายคางมนแน่นจนวารินดิ้นพราดขึ้นมาอีกเพราะความเจ็บ
“ถึงใจไหม กับคนร่านๆแบบพี่!”
ผ้าห่มผืนเล็กที่หล่นอยู่บนพื้นห้องถูกเขาคว้าขึ้นมาแล้วปาเข้าใส่ร่างเล็กอย่างแรง ก่อนเสียงประตูห้องจะปิดลงดังปัง!
วารินประคองเนื้อตัวสั่นเทาขึ้นนั่งในความมืด เสียงสะอื้นแห่งความเจ็บช้ำดังสะท้อนอยู่ภายในใจเพียงลำพัง ปวดรวดร้าวไปทั้งร่างกายและจิตใจ ร่างเล็กๆค่อยก้มไปหยิบกางเกงขึ้นมาสวม ส่วนเสื้อนั้นถูกฉีกขาดจนไม่เหลือชิ้นดี เมื่อขาเล็กลุกขึ้นยืนสายน้ำร้อน ๆ ก็ไหลทะลักออกมาจากช่องทางรักจนรู้สึกเหนียวเหนอะ เดินขาสั่นไปควานหาเสื้อยืดขึ้นมาสวมใส่แล้วหยิบผ้าเช็ดตัวออกไปที่หน้าห้อง
หลังบานประตูห้องน้ำเล็กๆคับแคบสายน้ำจากฝักบัวสาดรดลงมา วารินค่อยๆ ทรุดตัวนั่งลงบนพื้นอย่างหมดแรง หวังใช้บานประตูเป็นที่พักพิงหัวใจที่เหนื่อยล้า เมื่อมันโดนทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดวงตาคู่สวยแดงก่ำ เสียงสะอื้นโรยแรงเหลือเกินแต่กลับเต็มไปด้วยความชอกช้ำนักหนา ใบหน้าเล็กซบลงกับสองเข่าที่ตั้งชันขึ้น
ถ้าเพียงแต่บอกออกไป....
ทว่าความผิดของเขาก็ไม่มีวันลบล้างออกไปได้หมดอยู่ดี ตราบาปที่ติดลึกฝังแน่น จะต้องล้างเท่าไหร่ ล้างอย่างไร แม้ว่าอยากให้สายน้ำชโลมลูบความเจ็บปวดให้ทุเลา ชะล้างทั้งเนื้อทั้งตัวให้สะอาดไร้ราคีย์ อยากจะล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกฝังติดตรึงอยู่ในร่างกายนี้ มือเล็กทั้งขัดทั้งถูกลิ่นกายของใครต่อใครโดยไม่กลัวผิวขาวบางจะชอกช้ำเลยสักนิด
...กับร่างกายที่มีราคีแบบนี้ คงจะรังเกียจกันมาก ถึงได้เอ่ยคำพูดมากมายบ่งบอกให้รู้ว่าเรือนกายของเขานั้นแสนไร้ค่าเสียเหลือเกิน...
...หัวใจที่กลัดหนอง...แสนร้าวราน....
“พี่รักผมไหม”
“รักนะ ผมรักพี่”
“ตอนนี้ยังไม่ต้องเชื่อหรอก แต่ให้พี่คอยดูผมไปเรื่อยๆ เราดูกันไปจนแก่เลยดีไหมครับ”“...รัก...พี่รักธาร...ขอโทษ...พี่ขอโทษ...”
... เสียงเล็กๆสั่นเครือ พึมพำร่ำไห้ผ่านสายน้ำเย็นเฉียบ สำลักความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เขารู้ทำให้อีกฝ่ายเจ็บช้ำมากมายแค่ไหน.....
...จะมีหนทางใดไหมที่เรา...จะกลับไปรักกันได้ดังเก่าอีกครั้ง...
Tbc.
*โอ๊ยยยพี่ทรายยยยยย บทนะบท! บทมันเป็นอย่างนั้นนน
ไม่ได้ดั่งใจเลยฮึ่ยยย* (แต่ถ้าพูดไปแล้วธารมันจะฟังไหม??)
*คนอ่านอินจัดเลย อ่านแต่ละเมนท์แล้วอมยิ้ม....ทำไมคนอ่านฉันน่ารักขนาดเน้...ชอบนะชอบมากๆเลยไอ้ยาวๆอ่ะ..ขอบคุณคราบ*
*ช่วงสี่ห้าตอนนี้จะมีเอ็นซีปนเยอะหน่อย ธารมันกำลังคลั่ง อย่าเพิ่งเบื่อกันเน๊ะ*