✣✤|แมว หมา ดอกไม้ และพี่ชายข้างบ้าน|✤✣ ตอนพิเศษวันสงกรานต์ P.29
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ✣✤|แมว หมา ดอกไม้ และพี่ชายข้างบ้าน|✤✣ ตอนพิเศษวันสงกรานต์ P.29  (อ่าน 269229 ครั้ง)

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
ดีใจ เรื่องใหม่ มาลงแล้ววว

พี่เอกจะได้มีความสุขกับเค้าบ้าง

ออฟไลน์ bew

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

Der_Schwammkopf

  • บุคคลทั่วไป
รอเห็นพี่เอกยิ้มได้อีกครั้งค้าบ จะรออ่านน้าค้าบ

ออฟไลน์ junjou

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 179
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
    • www.facebook.com
พล็อตเรื่องน่าสนใจมากค่ะ :katai2-1:
ขอรอดูตอนต่อไป  :katai5:

ออฟไลน์ pure_ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 250
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
พี่เอก จะมีคนมาช่วยรักษาแผลใจแล้ว ถ้าเป็นเฮียใหญ่กลับชาติมาเกิด ก้อจะยิ่งดีมากเลยค่ะ

อยากให้พี่เอกยิ้มอย่างมีความสุขได้เต็มที่อีกครั้ง  อยู่คนเดียวเหงาๆ มานานแล้ว ^^

Der_Schwammkopf

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
 :heaven

มาต่อแล้ว คู่นี้ก็เป็นอีกคู่ที่ลุ้นสุดๆ
อยากให้ทั้งสองคนมีความสุขจริงๆ สักที

ออฟไลน์ narunarutoboyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
เเยกเรื่องออกมาเเล้ว ดีใจจังเลย ไม่รู้ว่าบรรยากาศเรื่องนี้จะยังแฝงความหม่นเทาอยู่มากน้อยเเค่ไหน
แต่เชื่อว่ายังไงความอบอุ่นก็น่าจะยังอบอวลเรื่องนี้อยู่เช่นกัน

เป็นกำลังใจให้อีกเช่นเคยกับผลงานของเรนนี่น้าาาา ติดตามตอนต่อไปจ้าาาาา
ปล.อย่ามัวแต่หลงเด็กแฝดจนลืมคู่นี้นะคะ  :กอด1: :L2:

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
“แมว หมา ดอกไม้ และพี่ชายข้างบ้าน”


บทที่ 1 เมล็ด






นายของดุ๊กดิ๊กนั่งมองออกไปนอกหน้าต่างอยู่นานมากแล้ว

ปกตินายเหม่อบ้างเวลาอยู่คนเดียว แต่ครั้งนี้ดูจะนานกว่าที่เคยสักหน่อย มันเดินป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัวนายมาพักใหญ่จนไม่รู้จะทำอะไร ทรุดตัวลงเอาคางเกยตักรอมือมาลูบ นายวางมือบนหัวมันอย่างเคย แต่ขยับได้พักเดียวก็นิ่งไปแล้วค้างเช่นนั้นเป็นนาน สายตาล่องลอยอยู่แถวรั้วบ้านซึ่งแบ่งอาณาเขตระหว่างบ้านหลังนี้กับบ้านครึ่งอิฐครึ่งไม้อีกฝั่งรั้ว

ดุ๊กดิ๊กอ้าปากหาว นึกถึงชื่อที่เด็กหน้าง่วงเพิ่งเรียกมันตอนเจอกันก่อนหน้านี้

‘โรลล์’

โรลล์อะไรกันเล่า? มันชื่อดุ๊กดิ๊กต่างหาก

แต่ก็น่าแปลกใจอยู่ไม่น้อย ตรงที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มันเคยได้ยินชื่อโรลล์ นายเคยบ่นถึงหมาขนทองพันธุ์เดียวกับมันที่เคยเลี้ยงแต่ตายไปแล้ว และยังพึมพำเสมอว่าคิดถึงคนรักที่เคยเล่นกับโรลล์ด้วยกันเมื่อก่อน ทว่าตอนนี้ก็ไม่อยู่แล้วเช่นกัน

คนรักของนายชื่อวสันต์ คนเดียวกับที่มีรูปอยู่เต็มห้องสีขาวของนาย ทั้งรูปวาดและรูปถ่ายมากมายไปหมด มันไม่เคยได้รับอนุญาติให้เข้าไปในห้องนั้น แต่เคยมองเห็นจากด้านนอกผ่านประตูซึ่งเปิดค้างอยู่ ส่วนหมาตัวก่อนของนายเป็นโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ชื่อโรลล์ ดุ๊กดิ๊กที่มาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตนายในภายหลังเข้าใจเรื่องราวอยู่ประมาณนี้

“โรลล์...”
 
มันได้ยินชื่อนั้นอีกครั้ง คราวนี้ดังแผ่วออกมาจากปากนายที่ยังนั่งเหม่อเช่นเดิม แววตานายหม่นลงเมื่อเอ่ยชื่อที่ว่า แต่อึดใจต่อมากลับมีความสงสัยปรากฏขึ้นแทน

“..เดาเอาหรือ...บังเอิญไปไหม”

มันพยักหน้ากับตัวเอง สนับสนุนความคิดนาย ท่าทางคงหมายถึงเจ้าเด็กหน้าง่วงริมรั้วคนนั้นที่จู่ ๆ ก็โพล่งชื่อในความทรงจำคนอื่นออกมา แล้วช่างให้เหตุผลมาได้ว่าเดาเอา ใครเชื่อก็หมาแล้ว...ขนาดมันเป็นหมายังไม่เชื่อเลย แต่ถ้าเป็นเจ้าแมวดำจอมหยิ่งที่ชอบนวยนาดบนขอบรั้วนั่นก็ไม่แน่

“แกว่าเด็กคนนั้นประหลาดไหม?”

ดุ๊กดิ๊กหูกระดิก แลบลิ้นแหะแสดงอาการเห็นด้วยสุดใจ แถมนายยังพูดกับมันแล้วในที่สุด หลังจากเอาแต่เหม่อจนนึกว่าลืมไปแล้วว่ามีมันอยู่ตรงนี้ด้วย

นายส่ายหน้าเบา ๆ ยิ้มบางให้กับท่าทางของมัน บรรยากาศเศร้าสร้อยยังอ้อยอิ่งอยู่รอบตัวนายเหมือนที่ผ่านตั้งแต่ดุ๊กดิ๊กจำความได้ แต่ก็นับเป็นความเคยชินอีกรูปแบบหนึ่งของมันไปเสียแล้ว ด้วยเข้าใจว่านายก็เป็นเช่นนี้เสมอนั่นละ ตลอดชีวิตคงไม่เปลี่ยนอีกแล้ว ในเมื่อทุกอย่างยังคงเดิมมาตลอดหลายปี...

แล้วจะมีอะไรหรือใครที่ทำให้เปลี่ยนกันได้ง่าย ๆ เล่า?






-✣-✤-✣-✤-✣-✤-✣-✤-✣-

 



ผู้ชายคนนั้น...เจ้าของบ้านสีขาวที่วสุคิดเอาเองว่าชื่อเอก เขาออกจากบ้านไปตอนเที่ยงวันเสาร์

เด็กหนุ่มอดแปลกใจตัวเองไม่ได้ เมื่อเผลอทีไรก็คอยจะเหลือบมองไปยังบ้านหลังนั้นอยู่เรื่อย ตัวบ้านและอาณาเขตในรั้วสวยงามแบบร่วมสมัย สัตว์เลี้ยงมี ต้นไม้ก็มากและจัดแต่งไว้งามตา แต่ไม่รู้เพราะเหตุใดจึงรู้สึกว่าบ้านหลังนั้นช่างดูเงียบเหงาเหลือเกิน ราวกับว่ามีอะไรบางอย่างขาดหายไป และเจ้าของบ้านก็ยังคงมีชีวิตอยู่กับบ้านที่เว้าแหว่งในความรู้สึกอย่างนั้นเรื่อยมา

เด็กหนุ่มเลิกคิ้วให้กับความคิดตัวเอง นี่มันออกจะพิลึกไม่น้อย ทั้งที่เขายังไม่รู้จักผู้ชายคนนั้นด้วยซ้ำ แล้วจะเอาอะไรมาเชื่อว่าเจ้าตัวกำลังเหงา บางทีอาจมีแฟนสาวน่ารัก ๆ สักคนรอให้ไปหาในบ่ายวันเสาร์แบบนี้ก็ได้

เขาย่อตัวลงนั่งบนชิงช้าไม้ใต้ต้นมะม่วง ห่างออกมาจากรั้วสักหน่อย มัวแต่ยื่นหน้าไปมองทุกวัน ใครเห็นคงหาว่าเตรียมยกเค้า

แต่ทั้งที่คิดอย่างนั้นแท้ ๆ สายตายังไม่วายลอบมองอยู่เนือง ๆ  พักหนึ่งก็กลับมาเหม่อ ใจลอยไปกับความฝันของตัวเองเมื่อคืน

ครั้งล่าสุดที่เพิ่งเกิด เขายังฝันว่าตัวเองคล้ายกับกำลังใช้ชีวิตเป็นคนอื่นเช่นเคย แต่เนื้อหาออกจะอบอุ่นหัวใจจนยังจำความรู้นั้นได้ถึงตอนนี้ เขาปั่นจักรยานตามหลังใครสักคนในเย็นย่ำวันหนึ่ง ลมหนาวปะทะเนื้อตัวจนต้องห่อไหล่ พอเริ่มจะถูกทิ้งระยะห่าง คนที่ปั่นจักรยานนำอยู่ก็ชะลอความเร็วลงจนมาเคียงข้างกันแล้วหัวเราะเบา ๆ แซวว่าหนาวจนปั่นไม่ออกเลยหรือไอ้ตี๋..

ใครคนนั้นเรียกตัวเขาในฝันว่าไอ้ตี๋...ว่าแต่มันใครกันนะไอ้ตี๋คนนั้น?

พวกเขาจอดรถจักรยานหน้าบ้านเก่า ๆ หลังหนึ่ง คนในฝันที่จนบัดนี้ก็ยังไม่เคยเห็นหน้าหยิบสติ๊กเกอร์รูปหัวใจมาแปะไว้ที่อกเสื้อเขา จากนั้นก็หัวเราะอีกแล้ว เสียงทุ้มต่ำที่ได้ยินชวนให้ใจหวิวจนอึดอัดในอกอย่างไรบอกไม่ถูก แต่ตัวเขาทั้งในความฝันและที่นั่งเหม่ออยู่ตรงนี้ก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่าอาการแบบนั้นมันคืออะไร

วสุนึกไปถึงคำพูดของชายหนุ่มข้างบ้านเมื่อค่ำวานนี้ คำลาตามมารยาทที่อีกฝ่ายใช้ช่วยเขาจากอาการหน้าแตก หลังเผลอหลุดปากบอกราตรีสวัสดิ์ตั้งแต่ยังไม่สองทุ่มกับผู้ชายวัยทำงาน

‘ฝันดีครับ’

จะเป็นการเพ้อเจ้อมากไปหรือเปล่า หากเขาคิดว่าเสียงผู้ชายคนนั้นช่างคล้ายคลึงกับเสียงคนในความฝันที่เขายังไม่เห็นหน้าสักทีนั่น แล้วอย่างที่เขาเพิ่งฝันเมื่อคืน...จะพอเรียกว่าฝันดีได้ไหมนะ ทั้งที่เนื้อหาก็คล้ายกับอย่างเดิม แต่เหตุใดจึงมีความรู้สึกอุ่นใจหลงเหลืออยู่มากกว่าความโหยหาอย่างที่เคยเป็น

เด็กหนุ่มถอนหายใจ ดอกมะม่วงเล็ก ๆ ร่วงลงบนมือ เขาจ้องมันเรื่อยเปื่อยอีกพักใหญ่ เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็สบเข้ากับตาสีเหลืองแวววาวของแมวดำตัวเดิมอีกแล้ว

“...ไอ้ดำ?” เขาร้องเรียกด้วยความชินปาก ช่วงนี้รู้สึกเจอกันบ่อยจนคิดไปเองว่าสนิท “...เมี้ยว..?”

แมวดำเชิดใส่ สะบัดหางไปมาอย่างสงวนท่าที

“หยิ่งจริง เรียกไม่หือไม่อือเลย หรืออยากชื่อขาว?”

เขาเพียงแต่พูดประชดเท่านั้นเอง แต่คู่กรณีกลับร้องเหมียวใส่เสียนี่

“หืม?”

“เมี้ยวว”

วสุเลิกคิ้ว มองเจ้าแมวดำที่ย่องเข้ามาใกล้กว่าเก่า “ขาว?”

“เมี้ยว”

“ไอ้ขาว”

“ม้าวววว~”

เสียงยาวมาเชียว

“หุ...” เขาหลุดหัวเราะออกมานิดหน่อย “ชื่อขาวหรอกหรือ?”

แมวดำดูจะชอบใจชื่อขาว พอเรียกซ้ำ ๆ ก็เดินมาทิ้งตัวลงนอนแทบเท้า เอาหน้าถูไถอย่างออดอ้อน ฉีกภาพพจน์ไอ้ดำหน้าหยิ่งที่เคยเจอครั้งก่อน ๆ จนสิ้น เขาก้มลงไปเกาคางไอ้ขาวที่คลุกฝุ่นจนขนดำ ๆ เปรอะเปื้อน เออออกับแมวว่าต่อไปนี้จะเรียกขาวก็ได้ แต่ยังไม่ได้ทันเล่นกันมากไปกว่านั้น แมวดำก็เชิดคอขึ้น ชะเง้อมองไปยังรั้วด้านหน้าของบ้านข้างเคียง

วสุมองตามสายตาแมว จึงได้เห็นว่ามีอะไรบางอย่างขยับอยู่ตรงนั้น

ณ อาณาเขตด้านหน้าของเพื่อนบ้านซึ่งตอนนี้ไม่อยู่ มีร่างชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังปีนรั้วเข้ามาอย่างคล่องแคล่ว

ผู้ชายคนนั้นผิวขาว หน้าตี๋ ผมสีน้ำตาลของเขาเป็นประกายเมื่อถูกแสงแดด หลังหย่อนตัวลงมาอย่างสวยงามด้านในของรั้วบ้าน ก็ก้มลงเก็บเป้บนพื้นที่โยนเข้ามาก่อนหน้านี้

“พี่ทำอะไรน่ะ!?”

วสุตะครุบปากตัวเอง แต่ไม่ทันแล้ว และไม่รู้ด้วยว่าขาพาร่างมาเสนอหน้าอยู่ริมรั้วตั้งแต่เมื่อไร

อีกฝ่ายไม่ได้มีสีหน้าตกใจนัก ท่าทางสงบจนเขานึกแปลกใจ ไร้อาการลนลานเหมือนพวกหัวขโมยแม้สักนิด แล้วยังยิงคำถามกลับมาใส่เขาอีกต่างหาก

“นายเป็นใคร”

วสุยืนเหวอ เมื่อประสบเหตุการณ์เหนือความคาดหมาย แล้วเรื่องอะไรคนคนนี้จึงได้มาถามเขาแทนว่าเป็นใคร ทว่าเมื่อเจอสายตาคมกริบของอีกฝ่ายที่จ้องมาก็ถึงกับพูดตะกุกตะกัก แถมไอ้ขาวที่เล่นกันอยู่ดี ๆ กลับทิ้งเขาไปเสียแล้ว

“ผมเหรอ..?” เขาว่าพลางเอามือชี้ตัวเองเก้ ๆ กัง ๆ “ผม...เอ้อ...เป็นเพื่อนบ้านกับพี่เอก...เอ๊ะ...แต่ผมไม่รู้ว่าเขาชื่อเอกรึเปล่า....อา...ไม่สิ จะไปชื่อนั้นได้ยังไง แบบ..ผมเพิ่งย้ายมาอยู่ไม่นาน...แล้วคือ....แค่รู้สึกน่ะ....หมายถึงว่า....อ่า.....”

เขาอยากตบปากตัวเองนัก พล่ามอะไรเยอะแยะแต่ไม่เป็นภาษามนุษย์เลย

อีกฝ่ายเลิกคิ้ว ส่งรอยยิ้มกึ่งเวทนากลับมาให้ แล้วยังพยักหน้าราวกับจะให้กำลังใจเขาพูดต่อ

“แบบ...ความจริงผมไม่รู้จักเขาหรอก....เหมือนจะฝัน...อืม ตลกว่ะ” วสุอ้อมแอ้ม หันมาสบถกับตัวเองเบา ๆ “...คือผมคิดไปเองว่าเขาชื่อเอก...แต่ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า....”

“ใช่”

คำเดียวสั้น ๆ  แต่ทำเด็กหนุ่มเบิกตากว้างอย่างตื่นตะลึง แล้วก็ยิ่งเหวอหนักขึ้นเมื่อฟังอีกฝ่ายพูดต่อ

“พี่เขาชื่อเอกนั่นแหละ รู้จักกันมานานละ”

“...เห...พี่รู้จักพี่เอก...เอก....อ้อ...ตกลงเขาชื่อเอกจริง ๆ ด้วย....”

“อ้าว?”

“คือ...ผมแค่รู้สึกว่าเขาจะชื่อเอก....แบบผมเข้าใจว่าคิดไปเอง...เหมือนฝันเอา...ทำนองนั้น...”

“อะไรของนายเนี่ย”

“...อา..ไม่มีอะไร” เขายิ้มแหย เกาท้ายทอยไปด้วย รู้ตัวแล้วว่าเริ่มพูดอะไรเลอะเทอะ ซึ่งก็นับว่ารู้ตัวช้าพอสมควร เขาเหลือบมองคนตรงหน้า แล้วเกิดตระหนักขึ้นมาได้ว่าคงมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับเจ้าของบ้านเป็นแน่ “พี่เป็นญาติเขาเหรอ หรือว่าเป็นคนรู้จัก”

คนฟังยิ้มน้อย ๆ ตรงมุมปาก สายตาที่มองมา หากเขาเข้าใจไม่ผิดก็คล้ายว่าจะเอ็นดู ส่ายหน้าด้วยท่าทางราวกับมองน้องชายสักคนในบ้านกำลังเพ้อเจ้อเรื่องมนุษย์ต่างดาว

“เป็น..ประมาณว่าน้องชายน่ะ มันซับซ้อนนิดหน่อย” ชายหนุ่มแปลกหน้าอธิบาย หัวเราะน้อย ๆ เมื่อเห็นว่าเขายิ่งทำหน้ายุ่ง “แล้วเมื่อกี้ว่าไงนะ รู้จักว่าเขาชื่อเอกจากการฝันเอาหรือ?”

"...."

วสุรู้สึกว่าหน้าตัวเองร้อนฉ่าอย่างไรพิกล พอฟังจากปากคนอื่นอย่างนี้แล้วมันน่าอายแทบเอาหน้ามุดกอพลับพลึง

"หืม?"

อีกฝ่ายเรียกร้องเอาคำตอบ จึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาพึมพำเสียงอ่อย

“..ผมไม่น่าพูดเลย..อย่างกับเป็นคนบ้าแน่ะ...”

“..เฮ้ย ฮ่า ๆ ๆ ไม่ได้ว่างั้นสักคำ”

“แต่พี่ยังขำไม่หยุดเลย”

“ก็นายเล่าออกมาเองนี่”

“ถึงบอกไงว่าผมไม่น่าพูด..”

“อ๊ะ เด็กนี่”

ชายหนุ่มหน้าตี๋โคลงศีรษะ แล้วจู่ ๆ ก็เอื้อมมือข้ามรั้วมาลูบผมเขาแผ่วเบา ยิ้มร่าไปด้วยขณะพูดต่อ ซึ่งไม่รู้ว่าแค่โกหกปลอบใจหรือเป็นเรื่องจริง

“ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย อย่างคนรู้จักพี่ก็มีคนหนึ่ง เป็นรุ่นน้องที่มีเซนส์แปลก ๆ  ชอบทักเรื่องหมอกหรือควันสีเทา สีขาว สีชมพูโน่นนี่ฟังดูเพี้ยน ๆ ว่าคนนั้นคนนี้จะซวย ให้ระวังตัวบ้างละ บางทีก็บอกว่าเดี๋ยวจะโชคดีบ้างละ ดูเพ้อเจ้อแต่ก็เป็นจริงตามที่เจ้าเด็กคนนั้นทักเรื่อยเลย..”

วสุเผลอหดคอ เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายหวั่น ๆ เกือบจะยิ้มแต่ยังดูแหย ทว่าน่าแปลกที่ไม่รู้สึกแย่กับคนคนนี้ เสี้ยวหนึ่งในใจกลับมีความคิดพิลึกว่าเป็นคนน่ารักดีด้วยซ้ำ

 “...พี่ไม่คิดว่าผมบ้าใช่ไหม”

“ไม่นี่” ชายหนุ่มอีกฝั่งรั้วยักไหล่ “แค่คิดว่าเปิดเผยตัวเองมากไปนะ”

“...หือ?”

“เราเพิ่งรู้จักกันเมื่อกี้เอง...อืม...ไม่สิ ยังไม่รู้จักกันเลยต่างหาก แต่นายก็พูดเรื่องตัวเองนั่งทางในรู้ว่าพี่เอกชื่อเอกให้คนอื่นฟังแล้ว”

“ผมพูดว่าฝันต่างหากเล่า” เขาขัด เผลอทำหน้ามุ่ย “ไม่ใช่นั่งทางใน”

“อา..นั่นแหละ ๆ”

“แล้วพี่เป็นใคร ปีนรั้วบ้านพี่เอกทำไม”

อีกฝ่ายพ่นลมหายใจพรืด จากนั้นก็พยักหน้าอย่างเสียมิได้

“เอางี้นะ ไหน ๆ เพราะว่านายเล่าเรื่องนั่งทางใน..เอ้อ...หมายถึงเรื่องฝัน...เล่าเรื่องฝันให้พี่ฟัง เพราะงั้นแลกกันด้วยข้อมูลนิดหน่อย”

“...เรื่องอะไร”

“พี่เป็นน้องชายของแฟนพี่เอก”

“หา!?”

วสุแทบอ้าปากค้าง แม้เมื่อครู่นี้เขายังนั่งคิดคนเดียวอยู่เลยว่าผู้ชายคนนั้นคงมีแฟนแล้ว แต่พอมาได้ยินคำยืนยันเช่นนี้เข้าก็กลับอึ้งไปเสียได้ แล้วยังไอ้ความรู้สึกใจหายที่โผล่มาแวบหนึ่งแล้วจากไปนี่อีก

ทั้งที่อึ้งออกอยากนั้น แต่คนตรงหน้ากลับหัวเราะเบา ๆ ใส่เขา

“ตกใจอะไรน่ะ”

“..เขา...” วสุอ้าปากพะงาบ กะพริบตาปริบ ๆ แล้วพยายามรวบรวมสติคุยต่อ “...เขามีแฟนแล้วเหรอ..”

“อายุก็ตั้งสามสิบห้าแล้วนี่”

เด็กหนุ่มพยักหน้า จำข้อมูลนั้นไว้ในหัว พี่เอกอายุสามสิบห้าปี จากนั้นก็พึมพำออกมาแผ่วเบา น่าแปลกที่เสียงเขากลับฟังดูเหมือนคนกำลังผิดหวัง

“..แต่ผมไม่เคยเห็นเลย”

“บอกเองว่าเพิ่งย้ายมาอยู่ไม่ใช่เรอะ”

วสุเบิกตากว้าง ด้วยเพิ่งนึกได้ถึงความจริงข้อนั้นดังอีกฝ่ายว่า ผงกศีรษะด้วยหน้าเจื่อนไปนิดหน่อยแล้วเอ่ยรับเสียงอ่อน “นั่นสิ”

“เฮ้ย..ทำไมหน้าจ๋อยล่ะ”

“เปล่า”

อีกฝ่ายหรี่ตา มองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าคล้ายกำลังสำรวจ ท่าทางคนตรงหน้ามีบรรยากาศบางอย่างที่บอกให้รู้ว่าเป็นคนช่างสังเกต และอาจจะจับได้ถึงสิ่งที่แม้แต่เขาเองก็ยังไม่ตระหนัก

ชายหนุ่มเม้มปากอย่างชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง รอยยิ้มเริงร่าอย่างที่คุยกันตอนแรกเปลี่ยนเป็นยิ้มเจือความเศร้า แม้บางเบาแต่ยังพอจะสะกิดความรู้สึก กระทั่งเสียงที่ใช้พูดก็หดหู่กว่าเดิมจนสัมผัสได้

“...แต่แฟนเขาเสียไปนานแล้วละ”

“...เอ๋..?”

คนตรงหน้าถอนหายใจ มองชัด ๆ จึงเห็นความรู้สึกสูญเสียในแววตาคู่นั้น ต่อให้ยังมีรอยยิ้มประดับบนริมฝีปาก “..เพราะพี่ชอบใจนาย เลยบอกเพิ่มให้อีกอย่าง”

วสุเผลอยกมือขึ้นกุมอกเสื้อ แวบหนึ่งที่เจ็บขึ้นมาในอกจนเหมือนมันกำลังปริแตกออก จู่ ๆ ภาพซ้อนในความฝันซ้ำ ๆ ที่ร่างเขา...ซึ่งกำลังใช้ชีวิตเป็นใครอีกคน...กำลังร่วงดิ่งลงสู่พื้นจากที่สูงก็แวบขึ้นมา ความเจ็บร้าวที่สัมผัสเพียงเสี้ยววินาทีนั้นคงความชัดเจนราวกับไม่ใช่แค่ความฝัน และมันก็ทำขอบตาเขาร้อนผ่าวขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ

เรื่องที่ได้ยินไม่เกี่ยวกับเขาเลยสักนิด แฟนของผู้ชายชื่อเอกที่ตายไปแล้วมีรูปร่างหน้าตาแบบไหนเขาก็ไม่รู้จัก แต่กลับรู้สึกคุ้นจนเหมือนเคยมีความเกี่ยวข้องกันทางใดทางหนึ่ง วสุกระซิบออกมาด้วยถ้อยคำซึ่งไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าผุดขึ้นมาจากไหน

“...พี่ชายของพี่...ไม่อยู่แล้วหรือ....”

คนฟังชะงัก หัวคิ้วขมวดแน่น หลังจากนั้นก็เบิกตากว้าง สีหน้าตื่นตกใจจนไม่น่าเชื่อ ถามเขากลับด้วยน้ำเสียงเกือบจะร้อนรน

“...ทำไมถึงคิดว่าเป็นพี่ชายล่ะ?”

วสุกะพริบตาปริบ ๆ  งุนงงกับท่าทางนั้นอยู่อึดใจ จากนั้นก็ผงะเสียเอง ยกมือขึ้นปิดปากเมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดอะไรไม่คิดเหมือนตอนพูดกับชายหนุ่มเจ้าของบ้านข้างเคียงอีกแล้ว

“...ผะ..ผมไม่รู้....ผม....จริงสิ....ถ้าเป็นแฟนกับพี่เอกก็ต้องเป็นพี่สาวไม่ใช่หรือไง” เขาละล่ำละลัก คราวนี้หนักหนายิ่งกว่าตอนเรียกหมาคนอื่นว่า ‘โรลล์’ หรือบอกราตรีสวัสดิ์เจ้าของหมาตอนยังไม่สองทุ่มเสียอีก “...ผมแค่สับสนนิดหน่อย....อา...ผมขอโทษ”

“อา..ช่างเถอะ" ชายหนุ่มตรงหน้าโบกมือ กลับมาทำท่าทางเป็นปกติได้อย่างว่องไว "ว่าแต่ชื่ออะไรน่ะนาย”

“ผมหรือ?”

“ใช่”

“วสุ”

“ชื่อเล่นล่ะ?”

“..ไม่มี”

“ทำไมไม่มี”

“แม่ไม่ได้ตั้ง”

“หืม?”

อีกฝ่ายยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ท่าทางกึ่งจะคาดคั้นให้พูดต่อ

วสุถอนใจเฮือกเมื่อนึกถึงมารดาที่จำหน้าแทบไม่ได้แล้ว เธอทิ้งเขาไปตั้งแต่ยังเด็ก ได้ข่าวว่าไปแต่งงานใหม่อยู่ต่างประเทศ ตัดขาดจากพี่น้องคนอื่น รวมทั้งป้าที่รับเขามาอยู่ด้วยที่นี่ต่อจากลุงอีกคน

“คือ...แม่ตั้งไว้แค่นี้ แล้วก็หอบผ้าผ่อนหนีไปแต่งงานใหม่แล้ว”

“วสุ”

“...อา...” เด็กหนุ่มอ้ำอึ้ง แต่สุดท้ายก็ขานรับแต่โดยดี “..ครับ..?”

“...พี่เพิ่งบอกเองไม่ใช่หรือว่านายเปิดเผยตัวกับคนแปลกหน้ามากไปน่ะ”

“หา..” เขาอ้าปากหวอ

“เกิดพี่ทำหาเรื่องคุย แล้วโปะยาสลบนาย จับไปขายงี้ทำไง”

“...อะ...เอ๋..?”

ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก หน้าตี๋ ๆ เลยยิ่งดูเจ้าเล่ห์เข้าไปใหญ่ “ไม่กลัวเรอะ”

“...พี่ไม่ทำหรอก..” วสุแก้ต่างให้แทนตะกุกตะกัก ไม่รู้คิดเข้าข้างตัวเองเกินไปหรือเปล่า แต่กระนั้นก็ยังถอยมาครึ่งก้าวอย่างเป๋อ ๆ

“รู้ได้ไง”

“...ก็...”

“ก็?”

เด็กหนุ่มเม้มปาก “..ก็...พี่เป็นน้องชายของแฟนพี่เอก”

“เหตุผลแค่นี้หรือ?”

“...ใช่”

ชายหนุ่มพ่นลมหายใจออกจมูก “เด็กจริงเลย”

“...ผมแค่รู้สึกน่ะ”

“แค่ความรู้สึกมันไม่พอหรอก”

เขาทำหน้ายุ่ง อดคิดไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้นิสัยพิลึกจริง ถึงกับบ่นอุบออกมาอย่างเสียมิได้ “แล้วต้องอะไรอีกล่ะ”

“เอาเถอะ” อีกฝ่ายโบกมือเป็นเชิงว่าไม่ใส่ใจ “แค่จะบอกว่าให้ระวังตัวเท่านั้นเอง”

“พี่ปีนรั้วบ้านคนอื่น ยังจะบอกให้ระวังใครอีกหรือ”

“เด็กนี่”

“อ่า..” เขาจ๋อยนิดหน่อย “ผมขอโทษ”

“...”

“.....ขอโทษไง...?”  ว่าพลางเหลือบตามองอีกฝ่ายกล้า ๆ กลัว ๆ  แต่คนตรงหน้ากลับหัวเราะยกใหญ่เสียนี่
 
“ล้อเล่นน่า” ชายหนุ่มส่ายหน้าขำ ๆ  “เอางี้ แลกกันนะ พี่ชื่อคิมหันต์ เรียกคิมก็ได้ วันนี้ตั้งใจจะมาหาพี่เอก แต่โทรไปไม่มีคนรับ ส่งข้อความไม่ยอมตอบ รอข้างนอกมันร้อน เมื่อยด้วย เลยปีนเข้ามา ว่าจะขอนั่งตรงชานบ้าน แล้วก็เล่นกับหมาซะหน่อย”

“แค่นั้นหรือ”

“แค่นั้นแหละ”

“ผมควรต้องแจ้งตำรวจไหม”

“จะแจ้งทำไมเล่า แล้วมีอย่างที่ไหนมาถามคนที่ตัวเองสงสัยว่าจะเรียกตำรวจดีไหม”

“....”

“...เอาเถอะ ถ้าไม่ไว้ใจ จะนั่งเฝ้าก็ได้ พี่รออยู่ตรงชานนั่นแหละ แต่ไม่ต้องแจ้งตำรวจหรอก เสียเวลาทำงานเขาเปล่า เดี๋ยวเดือดร้อนพี่เอกด้วย”

คิมหันต์พูดค้างไว้ จากนั้นก็เหลือบมองหน้าเขา คล้ายกับจะประเมินอะไรบางอย่าง จากนั้นก็ยิ้มน้อย ๆ อีกครั้ง พูดจาชวนให้คิดว่าสังเกตเห็นในสิ่งที่แม้แต่เขาเองก็ยังไม่รู้จริงด้วย

“ไม่อยากให้เขารำคาญใช่ไหมล่ะ”

วสุชะงัก...มองอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็เกิดระแวงสายตาขึ้นมาเสียอย่างนั้น เลยก้มหน้าก้มตามองเท้าตัวเองแทน ใคร่ครวญดูแล้ว..บางทีเขาก็คงไม่อยากให้พี่ชายที่ชื่อเอกรำคาญจริง ๆ นั่นละ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

“พี่เคยมีประสบการณ์เรียกตำรวจมั่วซั่ว แทบจะโดนตำรวจแทะหัวแหว่ง” อีกฝ่ายพาเปลี่ยนเรื่อง ว่าพลางหัวเราะไปด้วย “ตอนนั้นน่าจะโตกว่านายนิดหนึ่ง ว่าแต่อายุเท่าไรนะนายน่ะ”

“สิบห้า”

“โอ้ ใกล้เคียงกับที่เดาไว้แฮะ”

“เหรอ” วสุพึมพำ ถึงตรงนี้ก็เริ่มคิดว่ามันพิลึกที่ยืนคุยกับคนแปลกหน้าได้เป็นเรื่องเป็นราว หาเหตุผลให้ตัวเองว่าคงเป็นเพราะอีกฝ่ายเป็นคนช่างพูด

คิมหันต์ทำท่าเหมือนจะเอ่ยอะไรต่อ แต่เขาอุทานขึ้นก่อนเมื่อมองเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นด้านหลังคิมหันต์ รถหน้าตาคุ้นเคยที่จอดอยู่ในโรงจอดบ้านหลังนั้นทุกวัน ตอนนี้มาหยุดนิ่งอยู่หน้ารั้ว

“พี่เอกมา!”

คนฟังหันไปตามสายตาเขา พอดีกับที่รถอีกคันขับตามมาจอดข้างหลัง

คิมหันต์พึมพำน้ำเสียงประหลาดใจว่า “เฮียเพี้ยน” จากนั้นก็อุทานด้วยสีหน้าตระหนกเมื่อเห็นรถตามมาเป็นคันที่สาม

“ป๊า!”

ตอนนั้นวสุงงไปหมด จับต้นชนปลายไม่ถูกสักนิด ไม่รู้ว่า ‘เฮียเพี้ยน’ ที่อีกฝ่ายพูดถึงเป็นใคร แล้วป๊าคิมหันต์กับผู้หญิงอีกคนซึ่งน่าจะเป็นแม่ที่เดินตามมาเกี่ยวอะไรด้วย

คิมหันต์กระโจนไปหลบข้างบ้าน บอกเขาให้ช่วยทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น สีหน้าเป็นกังวลจนเขาไม่อาจปฏิเสธได้ รอจนกระทั่งคนเหล่านั้นเดินเข้าบ้านไปจนหมดแล้ว ชายหนุ่มจึงได้หันมาบอกบางสิ่งที่น่าตกใจกับเขา ก่อนจะย่องตามเข้าไปในบ้านอีกคน




มีต่อรีพลายถัดไปค่ะ
v
v
v
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-03-2014 20:57:39 โดย RAINYDAY »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
บทที่ 1 (ต่อ)




ร่างของทุกคนผ่านประตูเข้าบ้านไปแล้ว จากนั้นรอบตัวเด็กหนุ่มก็เหลือเพียงแต่ความเงียบ

เขาเดินกลับไปนั่งบนชิงช้าไม้ตัวเดิม พยายามจัดความคิดสะเปะสะปะให้ระเบียบ สิ่งที่เพิ่งรับรู้นั้นนับว่าเหลือเชื่อจนเกือบคิดว่าตัวเองบ้าไปแล้ว..หรือไม่เขาก็อาจยังไม่ตื่นจากฝัน

อย่างแรก พี่ชายชื่อคิมหันต์ซึ่งเขาเพิ่งได้คุยด้วยเมื่อครู่ บอกว่าตัวเองเป็นคนรักของผู้ชายอีกคนที่จอดรถตามหลังเจ้าของบ้าน คนที่เจ้าตัวเรียกว่า 'เฮียเพี้ยน' นั่นละ ส่วนหญิงชายชราอีกคู่ที่ตามมาก็คือพ่อและแม่ของคิมหันต์

“พี่คิมเป็นเกย์...” เด็กหนุ่มพึมพำ

อย่างที่สอง ซึ่งน่าตกใจไม่น้อยไปกว่ากัน ก็คือคนรักของผู้ชายชื่อเอก ที่ว่าเป็นพี่ของคิมหันต์และเสียชีวิตไปนานแล้ว...คนคนนั้นก็เป็นผู้ชาย..

“...พี่เอกก็เป็นเกย์ด้วย...”

วสุนั่งสับสนกับตัวเอง เมื่อทบทวนเหตุการณ์ให้ดี ก็พบว่าหลายครั้งแล้วไม่ใช่หรือที่เขาเอาความฝันมาปนกับความจริง จนถึงกับหลุดปากออกมาโดยไม่รู้ตัว เพื่อจะมาพบทีหลังว่ามันเป็นอย่างที่เขาเผลอเอ่ยออกมาทั้งนั้น

ตั้งแต่ที่คิดว่าผู้ชายข้างบ้านชื่อเอกแม้ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยพูดคุยกันสักคำ ตอนที่ทักว่าเจ้าหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ของผู้ชายคนนั้นชื่อโรลล์ แล้วอีกฝ่ายก็บอกว่ามี...อะไรสักอย่าง...ที่ชื่อโรลล์จริง เขาคิดว่าอาจจะเป็นหมา...คุ้น ๆ จากภาพในฝันว่าจะเป็นโกลเด้นรีทรีฟเวอร์เช่นกัน แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันเรื่องนั้น แล้วยังครั้งล่าสุดที่คุยกับคิมหันต์ อยู่ดี ๆ เกิดพูดถึงพี่ของเจ้าตัวที่เสียชีวิตไปแล้ว แม้ควรเข้าใจว่าเป็นผู้หญิงหากบอกว่าเป็นคนรักของชายหนุ่มข้างบ้าน แต่เขากลับถามถึงพี่ชาย..

แล้วคิมหันต์ก็บอกเขาว่าเป็นพี่ชายจริง ๆ ไม่ใช่พี่สาวที่จากไป..

วสุยกขาขึ้นชันเข่า นั่งห่อไหล่ สั่นน้อย ๆ โดยไม่รู้ตัว เหลียวมองไปยังบ้านสีขาวอีกฝั่งรั้ว ทั้งหวาดกลัวและอยากรู้อยากเห็น เกิดอะไรขึ้นกับเขา ความฝันของเขา และสิ่งรอบตัวผู้ชายข้างบ้านชื่อเอกคนนั้น คล้ายว่ามีความเกี่ยวข้องอะไรสักอย่าง แต่มันกลับเลือนรางจนไม่สามารถสัมผัสได้


ไม่มีใครโผล่เข้ามาในลานสายตานอกจากเจ้าแมวดำที่มาป้วนเปี้ยนเป็นพัก ๆ  ป้าที่เป็นคอลัมนิสต์และนักแปลอิสระยังคงทำงานของเธออยู่ในบ้าน ส่วนลูกพี่ลูกน้องอีกสองคนร่วมชายคานั้น คนหนึ่งไปหาเพื่อนยังไม่กลับ อีกคนเล่นเกมเฝ้าหน้าคอมพิวเตอร์เกือบทั้งวัน ส่วนเขายังคงนั่งอยู่ที่เดิมอยู่เนิ่นนาน จนกระทั่งมีการเคลื่อนไหวอยู่ไกล ๆ ที่หน้าบ้านข้างเคียง

วสุชะเง้อมองตาม พยายามเดินเข้าไปใกล้ริมรั้วเงียบ ๆ โดยทำเป็นมองต้นไม้ใบหญ้า ไม่อยากถูกสังเกตได้ว่ากำลังทำตัวอยากรู้อยากเห็น

คิมหันต์เดินประคองกันออกมากับหญิงชายที่เจ้าตัวบอกว่าเป็นป๊ากับม้าตัวเอง สีหน้าทุกคนเหมือนเพิ่งผ่านการร้องไห้ ยกเว้นผู้ชายหน้าดุอีกคนที่เดินตามคิมหันต์ออกมา แม้พฤติกรรมแต่ละคนดูน่าสงสัยเหลือเกิน แต่ในเมื่อเจ้าบ้านก็ยังเดินมาส่งพวกเขาจนถึงประตูรั้ว..คงพออุ่นใจได้ว่าไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น

ก่อนจะออกจากบ้านหลังนั้น คิมหันต์หันมาสบตาเขา ยักคิ้วให้อย่างยียวนทั้งที่เปลือกตาตัวเองยังแดงช้ำ สะบัดมือเบา ๆ แถวหางคิ้วทีหนึ่งเป็นทำนองว่าขอบใจ ก่อนหญิงชายสูงวัยที่เจ้าตัวโอบอยู่จะหันมาทางนี้เช่นกัน

พวกเขาสบตากันเพียงแค่แวบเดียว..กับชายแก่ผู้เป็นพ่อของคิมหันต์คนนั้น แต่ถึงกับทำวสุเผลอกลั้นหายใจอยู่เป็นนาน แม้จนทุกคนกลับขึ้นรถไปหมดแล้ว เหลือแต่ชายหนุ่มเจ้าของบ้านและหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ยืนส่ง แต่เขาก็ยังก้าวขาไม่ออกสักที กระทั่งอีกฝ่ายหันมาเจอเข้านั่นเอง

“อ้าว?”

เด็กหนุ่มสะดุ้ง ยืดหลังตรงเป๊ะ รู้ตัวว่าโดนจับได้แน่ ๆ ว่ายืนจ้องอยู่ตรงนี้ เขาช่างไม่เนียนเอาเสียเลย ปฏิเสธไม่ออกก็ได้แต่พึมพำ “...ครับ..” กลับไปเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มเหยเก

ข้างกันนั้น แมวดำโผล่มาเดินเชิดบนรั้วอีกแล้วไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร หมาขนทองพอเห็นเข้าก็ปรี่เข้ามาหา แลบลิ้นแหะ ๆ อย่างระริกระรี้ แต่พอเข้าไปใกล้ เจอแมวขู่ฟ่อก็เริ่มเห่าตอบ

“โฮ่ง!”

“ฟ่อออออ!”


“อ๋า..เดี๋ยวสิ เอาอีกแล้วพวกนาย”

หมาก็เห่า แมวก็ขู่ คราวนี้เหมือนจะไม่มีตัวไหนยอมถอย เหตุการณ์คล้ายเมื่อค่ำวานเกิดซ้ำอีกครั้งที่จุดเดิมข้างรั้ว

“ไอ้ขาว..พอแล้ว”

“แมวนายหรือ?” ชายหนุ่มถาม เดินตามมาแล้วย่อตัวลงไปลูบหัวลูบคอสัตว์เลี้ยงให้หยุดเห่า

วสุเหลือบมองตาสีเหลืองของแมวพิลึกที่ทำเหมือนจะชอบให้เรียกว่าขาว มันจ้องกลับมาตาใส แม้หางจะยังฟูทุกครั้งที่ก้มลงไปมองก้อนขนทอง ๆ ริมรั้ว

“เอ้อ..เปล่าครับ..”

“มีชื่อด้วยนี่”

“..ผม...” เขาหลบตา รู้สึกตัวว่าเริ่มจะพูดอะไรงี่เง่าอีกแล้วแน่ ๆ “..คิดว่ามันน่าจะชอบชื่อขาวมากกว่า”

“...อ้อ..”

การที่อีกฝ่ายตอบมาแค่พยางค์เดียวเหมือนช่วยย้ำให้รู้ว่ามันงี่เง่าจริง ๆ ด้วย เด็กหนุ่มแก้เก้อด้วยการเอามือไปเกาคางแมวดำที่กลับมาสงบหลังเสียงเห่าของหมาขนทองหยุดลง แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินคำถามถัดมา

“เพิ่งย้ายมาหรือ?”

เขาพยักหน้าหงึกหงัก

“ชื่ออะไรล่ะ”

“วสุ”

“วสุ..?”

อีกฝ่ายทวนคำ เสียงทุ้มต่ำเหมือนลอยมาอยู่ใกล้หูยิ่งขึ้นเมื่อลมพัด กลิ่นหอมหวานของดอกแก้วยามเย็นโชยอ่อนต้องจมูก ทั้งหมดนั้นรวมกันทำเขาใจเต้นแรงจนผิดปกติ

“วสุเฉย ๆ หรือ?” ชายหนุ่มถามต่อ “อันนี้ชื่อจริงหรือชื่อเล่น”

“...ชื่อจริงครับ...” เขาพึมพำ อดไม่ได้จะเหลือบมองอีกฝ่ายไปด้วย ตาสองข้างของคนตรงหน้าแดงอยู่น้อย ๆ เหมือนเพิ่งร้องไห้ แต่ไม่ได้หนักเท่าคิมหันต์และพ่อแม่ที่เพิ่งกลับไป หากไม่ได้อยู่ใกล้อย่างนี้คงไม่สังเกตเห็น

เขามองค้างอยู่นานจนเริ่มรู้สึกว่าเสียมารยาท จึงได้ก้มหน้าลงบ่นงึมงำต่อ “..ผมไม่มีชื่อเล่น”

“อา..วสุ” ชายหนุ่มพยักหน้า จากนั้นก็เริ่มแนะนำตัวเอง น้ำเสียงยังคงสงบราบเรียบเช่นเคย ตรงข้ามกับหัวใจคนฟังที่ยิ่งเต้นแรงหนักกว่าเก่าเมื่อได้รับคำยืนยันอย่างคิมหันต์บอก “พี่ชื่อเอก..เอกภพ”

“...ครับ”

“เรียกพี่เอกก็ได้..”

“...ครับ..” วสุกัดปากตัวเองแรง ๆ  ใจคอจะไม่พูดอะไรนอกจากครับ ๆ เป็นพลทหารหรืออย่างไร เลยตัดสินใจต่อท้ายอีกหน่อยให้สมกับที่เพิ่งรู้ชื่ออย่างเป็นทางการจากปากเจ้าตัว “...พี่เอก..”

“วสุ”

เด็กหนุ่มรู้สึกล้มเหลวกับบทสนทนาที่ตัวเองเอาแต่ก้มหน้านี้พิกล ยังคงมองฝุ่นดินใกล้รองเท้าตัวเองจนกระทั่งอีกฝ่ายเรียกซ้ำเสียงทุ้มต่ำ

“วสุ”

“..เอ้อ..ครับ!”

เกิดความเงียบขึ้นระหว่างพวกเขา มีเพียงเสียงใบไม้ไหวเบา ๆ เมื่อลมอ่อนยามใกล้ค่ำพัดเอากลีบสีขาวของดอกแก้วปลิวไกลจากต้น

วสุเงยขึ้นมาก็เห็นอีกฝ่ายกำลังยิ้มน้อย ๆ บางทีอาจขำอาการเงอะงะของเขา แต่ในตอนนั้นเขาก็ประสาทกับตัวเองจนเกินกว่าจะคิดอะไรมากแล้ว

“ผมนาย..” ชายหนุ่มพึมพำ

“...?”

ในตอนที่ดวงอาทิตย์จวนเจียนลับตา ขณะที่อีกดวงจันทร์อีกฟากฝั่งค่อยปรากฏชัดเจนบนสีน้ำเงินเข้มของผืนฟ้า ความฝันกับความจริงของเขาราวกับมาบรรจบกัน...กับบุคคล สถานที่ และเวลาอันเฉพาะเจาะจง

“...พี่เอก...”

เขากระซิบ..กึ่งจะเป็นคำถามแต่ก็ไม่เชิง และคงดูทำตัวล่องลอยนานเกินไป หรือไม่เอกภพก็อาจสิ้นความอดทนในการคุยกับเขาแล้ว จึงได้ไม่พูดอะไรต่อ

มือของอีกฝ่ายยื่นเข้ามาใกล้ ค้างอยู่ที่ข้างหูเขา ก่อนจะขยับเบา ๆ สองสามครั้งแถวนั้นแต่ไม่รู้ว่าทำอะไร เพราะวสุหลับตาปี๋ไปเสียแล้ว

“..อึก..”

“...กลีบดอกไม้ติดผมแน่ะ”

วสุลืมตา ทำหน้าเหวออีกครั้ง เงยขึ้นมองคนพูดซึ่งยังไม่ดึงมือตัวเองกลับ และเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าเขาควรเอ่ยปากอะไรต่อหรือเปล่า ทว่ายังไม่ทันได้พูดอะไร อีกฝ่ายก็ชิงตัดบทเสียดื้อ ๆ

“ราตรีสวัสดิ์”

ก่อนจะเดินหันหลังกลับไปทางบ้านตัวเอง เหลือวสุยืนอ้าปากหวอ

ราตรีสวัสดิ์?

เด็กหนุ่มไม่อยากเชื่อหู นี่หนักกว่าเขาเมื่อวานนี้อีก ตอนเขาพูดคำนี้เมื่อวันก่อนยังไม่สองทุ่ม แต่ตอนนี้ เขาเดาว่าไม่น่าเกินหกโมงกว่าด้วยซ้ำ ตะวันเพิ่งลับขอบฟ้าไปเมื่อครู่เท่านั้นเอง

วสุชะเง้อมองอีกฝ่าย แผ่นหลังนั้นยังห่างไปไม่ไกลเท่าไร ปากไวเท่าความเป๋อ เขาร้องเรียกชื่อที่เพิ่งรู้วันนี้ด้วยเสียงดังพอจะทำให้เจ้าตัวชะงัก

“พี่เอก!”

เอกภพเหลียวกลับมา รอยยิ้มเศร้ายังฉาบบางเบาบนใบหน้าเช่นเคย แต่ก็คล้ายจะมีความเอ็นดูอยู่ในแววตาคู่นั้นให้พอรู้สึกได้

เด็กหนุ่มทำปากพะงาบ ถึงกับต้องตั้งสติอีกครั้งก่อนพูด...คำเดียวกับที่เขาได้รับจากเอกภพเมื่อวานนี้ตอนยังไม่สองทุ่ม แม้จะตะกุกตะกักกว่านิดหน่อย

“...ฝะ...ฝันดีครับ...”

คนฟังพยักหน้า คงรอยยิ้มไว้เช่นเดิมจนกระทั่งหันหลังกลับไปจริง ๆ

“วสุ!”

เจ้าของชื่อสะดุ้ง หันหลังไปมองตามต้นเสียง คราวนี้เป็นภัทรพักตร์ ลูกพี่ลูกน้องร่วมบ้านที่อายุเท่ากับเขานั่นเองซึ่งเดินมาเรียก

“ภัทร”

“แม่เรียกกินข้าว”

“อ่า”

“แล้วนี่เล่นบ้าอะไรของแกน่ะ”

“หือ?”

ภัทรพักตร์ส่ายหน้าหน่ายใจ ยกมือชี้ที่หูเจ้าตัวแล้วพยักพเยิดเป็นเชิงบอกเขาให้ลองดูที่หูตัวเองบ้าง จนวสุต้องเอื้อมมือไปคลำแถวนั้น ข้างเดียวกับที่เอกภพบอกว่ามีดอกไม้ติดอยู่เมื่อครู่ ก่อนจะรู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่ปลายนิ้วมือ

“....”

“ประสาท! มาเร็ว” อีกฝ่ายเร่ง

แต่เขาเหมือนจะก้าวขาไม่ออกขึ้นมาดื้อ ๆ

ดอกไม้สีขาวเล็ก ๆ วางนิ่งอยู่ในมือเขา วสุมองมันแล้วก็ให้รู้สึกแน่นหน้าอกไปหมดจนต้องยกมืออีกข้างมากุมเอาไว้ ทรุดตัวลงนั่งยองกับพื้น บอกกับลูกพี่ลูกน้องว่าให้เข้าบ้านก่อนเลย เดี๋ยวเขาจะตามไปทีหลัง

ภัทรพักตร์พยักหน้างง ๆ  ก่อนจะปล่อยเขาทิ้งไว้ที่เดิม กับหัวใจที่เต้นโครมคราม เมื่อตระหนักได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนเอกภพบอกว่ามีดอกไม้ติดผม แล้วก็ยื่นมือเข้าหา ทำท่าเหมือนจะปัดออก

แต่เมื่อคลำดูตามที่ลูกพี่ลูกน้องทัก กลับพบว่ามีดอกแก้วเหน็บอยู่ตรงนั้น ในตำแหน่งซึ่งไม่มีทางเป็นลมพัดมาวางได้แน่ ๆ

“...พี่..เอก...”

เด็กหนุ่มถึงกับร้องออกมาเสียงอ่อน ไม่รู้ควรตีความสิ่งนี้ว่าอย่างไรดี


เอกภพไม่ได้ปัดมันทิ้ง...แต่เอามาเหน็บไว้ที่ข้างหูเขาแทนต่างหาก







โปรดติดตามตอนต่อไป




-✣-✤-✣-✤-✣-✤-✣-✤-✣-



มาต่อแล้วค่ะะ ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ ก่อนนี้ติดงานไปหนึ่งยกใหญ่เลยยังมาต่อไม่ได้ *หมอบให้เหยียบ :z6:*

คิมหันต์ออกมาด้วยละ คิดถึงอาตี๋เกรียนจริงเลย พอบรรยายทางฝั่งวสุแล้ว คิมหันต์ดูโตไปเลยค่ะ ไม่เหมือนตอนอยู่กับเฮียพี่ภพ โถ ๆ แต่คิมในฉากนั้นก็อายุราว 22 ได้แล้วล่ะค่ะ 555

ที่จริงเรื่องนี้ความตั้งใจเดิมอยากให้เป็นแนวอบอุ่นเนิบนาบ แต่ด้วยความหยาบกระด้างของเรา ก็อุ่นได้ประมาณนี้เอง ฮา Orz
ขอบคุณมาก ๆ ที่เข้ามาอ่านค่ะ ฝากผู้ชาย 35 กับเด็ก 15 สองคนนี้ไว้เอ็นดูด้วยนะคะ ////

มีของแถมเป็นรูปวาดเล่นด้วยละ


วสุกับพี่เอก






ส่วนอันนี้ วาดเล่นค่ะ อยากวาดผู้หญิงบ้าง เลยลองวาดวสุเวอร์ชั่นผู้หญิงดูขำ ๆ ////


พบกันตอนหน้า ขอบคุณคนอ่านมากค่ะ :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-03-2014 16:18:54 โดย RAINYDAY »

PoofuGirl

  • บุคคลทั่วไป
วสุเอ๋อมาก >_< พออ่านย้อนพาร์ทนี้แล้วความคิดถึงนุ้งครีมมมมมม
มันล้นปรี่ขึ้นมาเลยยยยยย งี๊ดดดดดดดดด...

ความทรงจำในตอนนี้เหมือนวสุจะมีภาพซ้อนระหว่างความฝัน
กับความเป็นจริงเฉพาะกับพี่เอกสินะ ป๊ากับม๊านี่จำไม่ได้เยยยย >x<
แอบสงสารน้องวสุจากที่ตัวเองเหมือนเป็นป้อมยามประจำบ้านพี่เอก
กลับโดนคนน่าสงสัยปีนบ้านพี่เอกมาสอบปากคำแทน 555+

คราวก่อนฝันดี คราวนี้ราตรีสวัสดิ์ตั้งแต่สองทุ่ม
พี่เอกคะ !! นอนเร็วไปป่าวววววววว~~~~ แล้วเอาดอกแก้ว
เหน็บหูให้น้องวสุคืออะไรคะ XD


ปล. น้องวสุดูเป็นผู้ชายที่เหมาะกับดอกไม้สีขาว ๆ หอมอ่อน ๆ มากค่ะ
อิมเมจให้ อิอิ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :mew1: หวังว่าจะได้ลงเอยกันเร็วๆ

ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
วสุดูออกจะงงๆ มึนๆ แต่อ่านแล้วหลงรักเลยอ่ะ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
วู้ พี่เอกไวไปไหม มีการเหน็บดอกไม้ให้น้องง่วงด้วย ชอบ ๆ

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1510
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
อาาา อยากจับเด็กมาฟัดๆๆ อีกแล้ว

ความรักเหมือนดอกมะนาว

  • บุคคลทั่วไป
อยากให้ลงเอยกันเร็วๆจัง
เรื่องนี้ตอนอ่านเล่ห์รัก เราร้องไห้มากมายเลยอ่ะ
มีโอกาสได้กลับมาเจอกันอีกครั้งแล้วต้องใช้โอกาสให้คุ้ม
ขอให้ลงเอยกันไวๆ เฮียจะได้เป็นอมตะ 555

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
หลงรักวสุเด็กเ๋อหน้าง่วง น่ารักอะ
หนูครีมก็น่ารักนะ เหมือนจะมาช่วยไขความกระจ่างให้วสุหลายๆอย่าง
วสุก็สู้ๆนะ ไม่นานก็จะได้รู้ว่ากับพี่เอกนี่ยังไง
แต่บรรยาากศอบอุ่นมากค่ะ เค้าชอบนะ มันอมยิ้มตามได้ตลอดทั้งตอนเลย
แต่ก็แอบเศร้ากับตอนนี้นิดหน่อย เพราะจำความรู้ตอนอ่าน "ประตูบานสุดท้าย?"ได้ค่ะ


อยากรู้ความก้าวหน้าของคู่นี้ มาต่อเร็วๆนะ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2

ออฟไลน์ MK

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-4

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7697
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
Re: ✣✤|แมว หมา ดอกไม้ และพี่ชายข
«ตอบ #80 เมื่อ19-03-2014 08:35:36 »

กลิ่นดอกแก้วตลบอบอวลไปด้วยความเศร้า...ตอนนี้มีคิมหันต์ด้วย ฮ่ะๆ

ออฟไลน์ Money11

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 222
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :L2: บรรยากาศดูอุ่นๆเศร้าๆเนอะ

จะบอกว่าวสุน่ารักมากกกกกก ตอนนี้พี่เอกก็ยังเป็นที่หนึ่งอยู่ ตั้งแต่เรื่องน้องคิม ฮ่าๆ
มาลงชื่อไว้ รอติดตามตอนต่อไปนะคะ อาจจะรอให้ลงจบก่อนเหมือนทุกที สู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
ปกตินายเหม่อบ้างเวลาอยู่คนเดียว แต่ครั้งนี้ดูจะนานกว่าที่เคยสักหน่อย  ผม เดินป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัวนายมาพักใหญ่จนไม่รู้จะทำอะไร ทรุดตัวลงเอาคางเกยตักรอมือมาลูบ นายวางมือบนหัว ผม อย่างเคย แต่ขยับได้พักเดียวก็นิ่งไปแล้วค้างเช่นนั้นอยู่เป็นนาน สายตาล่องลอยอยู่แถวรั้วบ้านซึ่งแบ่งอาณาเขตระหว่างบ้านหลังนี้กับบ้านครึ่งอิฐครึ่งไม้อีกฝั่งรั้ว

ถ้าเปลี่ยนจากคำว่า มัน เป็นคำว่า ผม  ก็ดูน่ารักไปอีกแบบนะคะ แล้วแต่ความชอบล่ะเนอะ

คิดถึงคิมจังเลย ดูคิมเท่มาก เป็นผู้ใหญ่มาก ในสายตาวสุ 555
ดูวสุเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสาไปเลยแหะ555

 รออ่านต่ออยู่ค่ะ+1 :กอด1:

ออฟไลน์ OoniceoO

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 975
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ชอบอะมันแบบว่าชอบมากๆอะขอบคุณนะคัรบมาต่อเร็วๆนะคร้าฟผม ^^

ออฟไลน์ Damon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
ไม่ต้องหมอบค่ะ เพราะอยากกระชากเรนนี่มาหอมซ้ายหอมขวาแรงๆ โทษฐานที่มาช้าและแต่งตอนนี้ได้อบอุ่นและน่าลุ้นมากๆ
แอบคิดว่าที่เดินร้องไห้ออกมาน่ะเพราะรู้ความจริงกันว่าวสันต์มาเกิดใหม่แล้วหรือเปล่า? แล้วพี่เอกจะรู้หรือยังนะว่าวสุรู้ชื่อตัวเอง?

เอาเป็นว่าเซิ้งรอตอนต่อไปค่ะ จะเมื่อยแค่ไหนก็รอ... :katai4:

ออฟไลน์ nutjisub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-0
ขอบคุุณที่สุดที่มาแต่งเรื่องนี้ให้อ่าน คือชอบเฮียใหญ่กับพี่เอกมาก ๆๆๆ ถึงมากที่สุด เศร้าทุกครั้งที่ได้อ่านจากเรืองก่อน หวังว่าภาคนี้ พี่แกจะมีความสุขกับเขาเสียที พี่เอกเลี้ยงต้อยเด็กนะ555 น่ารักจังอยากให้เห็นพี่เอกมีความสุขสมหวัง และมีเมียเด็ก  :hao6: :katai2-1: :hao7:

ออฟไลน์ EoBen

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3322
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-6
พี่เอกอบอุ่นจัง

อ่านแล้วเป็นน้ำตาจะไหล

คิดถึงเรื่องในอดีต

พี่เอก กอดนู๋หน่อยย

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
ผลตอบแทนของการรอคอยที่ยาวนาน

ทำให้พี่เอกทานเด็ก 35-15 ชอบจัง หุ หุ

ออฟไลน์ IIIA

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 591
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-1
อ๊าา โชตะอีกแล้ว  :katai2-1:

รอลุ้นอยู่นะคะ ยังไม่กล้าเดา   :กอด1:

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
อ๋าาาาาาาา
เจอกันแล้ว คุยกันแล้ว
 :mew3:

พอบรรยายทางฝั่งวสุแล้ว คิมหันต์ดูโตไปเลยค่ะ>>> อันนี้เห็นด้วย เหมือนไม่ใช่ไอ้ตี๋เกรียนที่เคยรู้จักเลย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด