เด็กชายตะวันฉาย นายกรินกรณ์ กับพี่ชายปากบอน บ้านข้างๆ โดย ภัคD
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กชายตะวันฉาย นายกรินกรณ์ กับพี่ชายปากบอน บ้านข้างๆ โดย ภัคD  (อ่าน 217336 ครั้ง)

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
ไม่รู้ว่ามีคนเป็นมั้ย แต่เป็นนิยายเรื่องนึงที่

ไม่อยากเปิดมาเจอ การโพสเรื่องต่อ....

บ้าหรือเปล่าเนี่ย  o12 o12 o12

yukisaki

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ว่าจะอ่านเมื่อไหร่ก็ทำให้รุ้สึกเศร้าแล้วก็มีความสุขไปพร้อมๆกัน

ทั้งๆที่เรื่องมันเศร้าขนาดนี้...  แต่ก็เผลอยิ้มออกมาเมื่อได้อ่าน

ทั้งๆที่เรื่องมันตลก...  แต่บางทีก็เหมือนน้ำตาจะไหล

ถ้าไม่มีฉาย  ตะวันจะรู้สึกอะไรบ้างมั๊ย?

น่าคิดนะ  ถ้าไม่มีฉาย  ตะวันจะรู้สึกบ้างมั้ยนะ

รอตอนต่ออยู่นะ^^

ออฟไลน์ MayMaMee

  • ต้องอ่านนิยายวายทุกวัน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
จิงๆ มะอยากอ่านเลย ผลงานของค.ภัคดีเนี่ย เฮ้อออ

คือ เค้าแต่งได้สุดยอดจิงๆ อ่านแล้วได้อารมณ์ที่ซับซ้อน ที่แน่ ๆ รู้สึกหดหู่มากถึงมากที่สุด

เฮ้อ แต่ก็ชอบ (อ้าว) ติดกับอีกแล้วเรา

เฮ้อ เหนื่อยใจเฟ้ย ฉายจะโตเป็นหนุ่มตอนหน้าแล้วเนอะ ใกล้จะเข้าปมแระ หลังจากบทนำมานาน

แค่บทนำำก็หดหู่จะแย่อยู่แล้ว แล้วพอเข้าปมล่ะที่นี้...

เหนื่อยใจ แต่ก็ชอบ


ขอบคุณนะคะ ค.ภัคดี

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
ของใคร เป็นของใครรู้มั้ง อิอิ

[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าไม่หวงของรัก แล้วให้หวงอะไรล่ะ

ออฟไลน์ Turn_righT

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 492
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
หัวเราะทั้งน้ำตา...รู้สึกเหมือนโดนอัดก๊อปปี้ติดเสาไฟฟ้า  หายใจไม่ออก ขยับหนีจากหน้าจอไม่ได้ อึดอัด :serius2:
อ๊ากกกกกก  :serius2: ฮ่าๆๆๆ  :m20: <--- เหมือนคนบ้าสุดๆ เลย...ตลอดเวลาที่อ่านเรื่องนี้
เหมือนจมดิ่งลงไปในความสับสน  บางครั้งดูฉายไม่คิดไม่น่าต้องเครียด...แต่เราก็เครียดดดด  :o12: 

คุณภักD นี่สุดยอดจริงๆ  o13

เป็นกำลังใจให้คนโพสจ้า   :L2: :L2:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
อ่านเสร็จแล้วเป็นเหมือนรีบนทุกประการ

ขอลาเพคะ

ฮื่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ทำไมเขียนได้ดีแบบนี้   o7

ออฟไลน์ patee

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3732
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +276/-3

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เรื่องของเด็กชายตะวันฉาย นายกรินกรณ์ กับพี่ชายปากบอน บ้านข้างๆ # บทที่ 9

ความรัก ความลับ


เป็นไปตามความคาดหมาย...สุดท้ายผมก็ได้เก็บกระเป๋าไปเรียนต่อที่กรุงเทพ...

พี่กบคงอิจฉาผม เพราะพี่ตะวันมานั่งหน้าจ๋อยอยู่ที่ห้องผมทุกวัน ตั้งแต่วันประกาศผลยันวันจะออกเดินทางเลย...

“ทำไมไม่เรียนที่เชียงใหม่?”พี่ตะวันถามผมมาสักร้อยรอบเห็นจะได้

“ก็ติดที่กรุงเทพ!”แต่ผมตอบไปแค่สักห้าสิบ ส่วนอีกห้าสิบเมื่อยปากขี้เกียจตอบ

“ก็เลือกม.ที่กรุงเทพทำไมล่ะ?”

“เรียนหมอก็ต้องเรียนมหิดลสิ!”ผมตอบ ก่อนเอื้อมมือไปดึงเสื้อที่พี่ตะวันนั่งทับอยู่บนเตียง

“ตะวันเกะกะ!... ฉายจะเก็บเสื้อผ้า”

“แล้วฉายจะกลับมาเมื่อไหร่?”พี่ตะวันถาม พลางหยิบสมุดในกระเป๋าเดินทางผมมาเปิดดู

“ปิดเทอมก็กลับ...ตะวันอย่ารื้อสิ!”ผมตอบ ดึงสมุดในมือพี่ตะวันโยนเก็บลงในกระเป๋าใหม่

“ไม่ต้องปิดเทอมก็กลับได้...ยืมก่อน”แต่พี่ตะวันไม่สน คราวนี้ดึงถุงเท้าที่ผมพับไว้เรียบร้อยในกระเป๋าออกมาใส่ ดูไม่เข้ากันสักนิดกับกางเกงเลสีส้มสด

“ฉายไม่ใช่ตะวันนะ จะได้โดดเรียน...บอกว่าอย่ารื้อไงเล่า!”ผมพูด ก่อนดึงกึ่งกระชากถุงเท้าออกจากเท้าพี่ตะวัน จนพี่ตะวันหงายหลังลงไปนอนบนที่นอน...และผมมองเห็นรอยสักรูปดวงตะวันใต้ฝ่าเท้าพี่ตะวัน...

“น้าโอ๋ กับ น้าเจดต้องเหงาแน่เลย...”

“ก็มีตะวันไง ไม่เหงาหรอก...ตะวันเลิกเกะกะสักทีซิ!”ผมบอกอย่างเหลืออด เพราะพี่ตะวันกลิ้งตัวมานอนทับบนกองเสื้อผ้าที่ผมเตรียมเอาออกมาจะพับเก็บลงกระเป๋า

“เหงาสิ พี่ไม่พูดมากเหมือนฉายนี่นา!”พี่ตะวันว่า และเพราะล้มลงไปนอน ทีนี้เลยนอนหยิบของในกระเป๋าผมได้สบายยิ่งขึ้น

“อ๋อ เหรอ?”ผมมองอย่างปลงๆ พูดไปก็เท่านั้น...อย่าว่าแต่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาเลย...เสียงผมหาทางเข้ารูหูของพี่ตะวันไม่เจอเลยด้วยซ้ำ

“เออสิ!”พี่ตะวันตอบ ดึงเนคไทด์จากระเป๋าของผม เอามาพันรอบคอของตัวเอง...

“เออสิเนอะ...ไม่มีฉายคงเหงาหู....แต่ถ้าไม่มีตะวันคงเหงาปากแย่ ไม่รู้จะบ่นจะด่าใคร”ผมพูดและถอนหายใจก่อนทิ้งตัวลงนั่ง... เลิกเก็บของแล้ว เพราะเก็บไปพี่ตะวันก็รื้อก็หยิบออกมาอยู่ดี

พอพี่ตะวันเห็นผมเลิกเก็บ ตัวเองก็เลิกรื้อเหมือนกัน แต่ไม่เลิกเปล่า กลับใช้มือกวาดข้าวของของผม รวมทั้งกระเป๋าให้หล่นจากเตียง ลงไปกองไว้บนพื้นหมด ส่วนผมก็ทำได้แค่มอง...เพราะให้บ่นจนปากเปียก พี่ตะวันก็ไม่สนหรอก กลับยิ่งทำด้วยซ้ำ...

“พรุ่งนี้ฉายไปกี่โมง?”พี่ตะวันถาม ตบที่นอนส่งสัญญาณให้ผมนอนลงข้างๆ

“รถไฟเที่ยวเช้า เจ็ดโมง ตะวันไปส่งฉายนะ?”ผมถาม แต่แทนที่จะนอนลงข้างๆพี่ตะวัน ผมเลือกเอื้อมมือไปผูกเนคไทด์ที่พันอยู่รอบคอให้พี่ตะวันแทน...มันดูเข้ากันดีพิลึกกับเสื้อยืดสีขาว ที่เก่าจนคอเสื้อทั้งยืดทั้งเปื่อยของพี่ตะวัน

“ทำไมไม่ไปเที่ยวเย็น?”พี่ตะวันถามแทนการตอบ เงยหน้าขึ้นให้ผมผูกเนคไทด์ได้ถนัดมือ

“ก็ทำไมไปเที่ยวเช้าไม่ได้ล่ะ?”ส่วนผมก็ตอบด้วยคำถามเช่นกัน และกระตุกเนคไทด์เบาๆหนึ่งครั้ง เป็นสัญญาณว่าผูกเสร็จ...

“ก็จะได้อยู่ด้วยกันอีกหลายๆชั่วโมง...”พี่ตะวันตอบพลางตบที่นอนอีกครั้งเพื่อให้ผมนอนลงข้างๆและผมก็ทำตาม

“ทำไมตะวันเหงาเหรอ?”ผมถาม ลุกขยับตัวตะแคงข้าง เท้าแขนขึ้นมองพี่ตะวัน ที่นอนห่างผมไปแค่แขนสัมผัสแขน

“เหงาสิ...ฉายไม่อยู่แล้วจะคุยกับใครล่ะ?”พี่ตะวันตอบ ผมเลยได้แต่หัวเราะ เพราะถ้าจะพูดให้ถูก ผมว่าพี่ตะวันน่าจะบอกว่า ไม่รู้จะไปนั่งร้องไห้กับใครมากกว่า...

“หัวเราะอะไร?”พี่ตะวันถาม ขยับตัวหันมาทางผมเช่นกัน...หน้าเราอยู่ใกล้กันแค่โน้มนิดก็จะได้สัมผัสถึง...

ผมนึกถึงวันที่พี่กบจะไป ที่พี่กบบอกว่า...ถ้าฉายไม่อยู่ตรงนี้ พี่จะขอตะวันหอมแก้มหนึ่งที ตะวันต้องให้แน่ๆ...ผมนึกสงสัย ถ้าผมขอ พี่ตะวันจะให้หรือเปล่า

รูปตอนเด็ก ที่แม่กับน้าโอ๋ถ่ายเก็บไว้ มีตั้งเยอะที่ผมหอมแก้มพี่ตะวัน และมีอีกแยะที่พี่ตะวันหอมแก้มผม...เสียดายก็แต่ ตอนนั้น เด็กจนเกินจะจำได้...และวันนี้ เมื่อคิดว่าต่อไปคงไม่ได้เห็นหน้าพี่ตะวันทุกๆวันอย่างที่เคยเห็นตลอดสิบเจ็ดปีที่ผ่านมา...ใจมันก็หายหน่อยๆ...นึกอยากหอมแก้มพี่ตะวันขึ้นมาบ้าง

“เสียดายฉายต้องอยู่หอมหาลัย!”ผมบอก

“ก็ดีแล้วไง!”

“ดีได้ไง...ฉายอยากอยู่หอรวม”

“ทำไมล่ะ?”

“ก็ฉายจะได้จีบสาวไง อุตส่าห์ได้อยู่ไกลๆแม่”

“ก็ไว้ปีนหอหญิงสิ...”พี่ตะวันแนะ ไม่รู้แนะจริงแนะเล่น

“ฉายอยากจีบสาว อยากมีแฟน อยากหอมแก้มแฟน”ผมบอกแต่ตาจ้องที่แก้มพี่ตะวัน

“โห...อายุขนาดนี้ยังไม่เคยอีก...อย่าบอกใครนะ อายเค้า!”วิธีการพูดของพี่ตะวันเหมือนของแม่ไม่มีผิด

“ตะวันเคยแล้วสิ?”ผมถาม ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจ เพราะเคยเห็นอยู่แก่ตา

“เคยแล้วสิ!”

“แก้มสาวหอมม่ะ?”ผมแกล้งถาม ทำไมจะไม่รู้...พี่ตะวันไม่น่าเคยหอมแก้มสาว และแก้มพี่กบ แก้มพี่ปา หรือแก้มพี่ขุนดูยังไงก็ไม่น่าหอม แต่แก้มพี่ตะวันน่ะ น่าหอมแน่ๆ

“ไว้ลองเองก็รู้!”พี่ตะวันบอก

“กลัวถึงเวลาแล้วทำไม่เป็น เสียฟอร์มแย่...ลองหอมแก้มตะวันก่อนได้เปล่า?”ผมไหลไปแบบข้างๆคูๆ แถมหน้าด้านสุดๆ และคนที่ตอบก็ไม่ใช่พี่ตะวัน

“หอมแก้มพี่แทนเอามั๊ย?”พี่ขุน ที่วันนี้ก็ยังตัวใหญ่กว่าผมถาม ขณะยืนเป็นยักษ์ปักหลั่นอยู่ตรงประตู

พี่ตะวันหัวเราะร่วน ส่วนผมหัวเราะไม่ค่อยออก รีบกระโดดลุกจากเตียงโดยไม่ตั้งใจ

พี่กบเคยถาม...ฉายแน่ใจเหรอว่าขุนไม่รู้ว่าฉายแอบรักแฟนมัน?...

...นั่นดิ รู้ไหมวะ?...วันนี้ผมเริ่มคิด เพราะพี่ตะวันหัวเราะร่วน แต่พี่ขุนไม่เห็นหัวเราะ ถึงปกติจะไม่ค่อยหัวเราะอยู่แล้วก็เหอะ

“พี่ไปที่บ้านไม่เห็น... เลยว่าตะวันน่าจะอยู่กับฉาย...”พี่ขุนบอก ก่อนย่างสามขุมเข้ามาในห้อง...ผมไม่กลัวหรอกถ้าจะต้องต่อยกับพี่ขุนบ้าง แต่ผมอยากรอให้กล้ามผมโตกว่านี้อีกหน่อย...ถ้าต่อยแล้วไม่เห็นทางชนะ ผมก็ยังไม่ค่อยอยากต่อย ถึงพี่กบจะบอกว่า...ไว้จะช่วยรุมก็เหอะ...ก็ตอนนี้พี่กบไม่อยู่นี่นา!

เรื่องพี่ขุนเป็นแฟนกับพี่ตะวันน่ะเป็นความลับ...ในความคิดของพี่ตะวันคนเดียวเท่านั้นแหละ...ซึ่งผมก็เคยสงสัยเหมือนกันว่า ทำไมพี่ตะวันยังคิดว่ามันเป็นความลับสำหรับผม

พี่ตะวันไม่เคยทำอะไรประเจิดประเจ้อ แบบจับมือ ควงแขน จูบปาก หรือหอมแก้มให้ผมเห็นหรอก ทั้งกับพี่กบ พี่ปา หรือว่าพี่ขุน...หรือจริงๆผมอาจไม่รู้ก็ได้ ถ้าบังเอิญไม่ไปเห็นรูปดวงตะวันใต้ฝ่าเท้าของพี่ตะวัน หรือดันฝันเปียกถึงพี่ตะวันซะเอง จนอดคิดลึกเรื่องพี่ตะวัน กับแฟนเก่า แฟนกลาง หรือแฟนใหม่ของพี่ตะวันไม่ได้...

แต่กับพี่ขุนน่ะ ผมว่าพี่ขุนรู้แน่ๆ ว่าผมรู้...ถึงพี่ขุนจะไม่เคยแสดงออกอะไรมากมายก็เหอะ... ไม่เล่นมุกฝืดแต่หลายง่าม อย่าง...กบทานตะวัน...ที่พี่กบเคยเล่นด้วย

เพียงแต่วันนี้เมื่อพี่ขุนถาม...หอมแก้มพี่แทนมั๊ย?...แล้วก็เดินเข้ามา พี่ขุนไม่ได้ฉุดให้พี่ตะวันลุกขึ้น แต่กลับล้มลงไปนั่งข้างๆพี่ตะวัน...ตำแหน่งที่เมื้อกี้ยังเป็นผมที่นอนอยู่...พี่ขุน เอี้ยวตัว ใช้สองแขนค้ำตัวเองคร่อมอยู่เหนือตัวพี่ตะวัน...

“คืนนี้นอนไหน?”พี่ขุนถามพี่ตะวัน ที่ขยับตัวลอดแขนพี่ขุนลุกขึ้น ส่วนผมรีบหันหน้าไปทางอื่นทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

...ถ้านอนที่นี่ จะมานอนด้วยกันหรือไงวะ?...ผมนึกอยากตะโกนถาม

“ตะวันอยากนอนกับฉาย...พรุ่งนี้ฉายก็จะไปแล้ว”พี่ตะวันตอบ

“อือ...งั๊นพี่นอนด้วย!”พี่ขุนว่า ทำให้ผมหันหน้ากลับไปมองแทบไม่ทันว่าหน้าตาพี่ขุนน่ะ พูดเล่นหรือพูดจริง...

...พูดจริงชัวร์ ไอ้บ้าเอ๊ย!...ผมสบถในใจเมื่อเห็นหน้าพี่ขุน

“ตะวันกลับไปนอนบ้านตัวเองเลย ฉายยังเก็บของไม่เสร็จเลย ตะวันเกะกะ!”ผมเลยไล่ส่ง และพี่ตะวันทำหน้าจ๋อย...ก็ผมพูดเอง ผมก็ยังใจหายเลย...พรุ่งนี้ก็ไม่ได้เห็นหน้ากันทุกวันอย่างแต่ก่อนแล้ว...

“ไป...กลับบ้าน ฉายจะได้เก็บของ!”พี่ขุนพูด แต่พี่ตะวันยังยืนหน้ามุ่ย

...มันรู้ชัวร์!...ผมบอกตัวเอง ว่าพี่ขุนรู้แน่ว่าผมน่ะรู้สึกยังไงกับพี่ตะวัน

แต่พี่ขุนคงไม่บอกพี่ตะวันหรอก...ปล่อยให้พี่ตะวันไม่รู้น่ะดีกว่า...เป็นผมก็ไม่บอก...เพราะการบอกมันก็เหมือนการเปิดโอกาสให้คิด พี่ตะวันอาจเก็บผมไว้พิจารณาก็ได้ ใครจะรู้...เพราะฉะนั้นพี่ขุนไม่บอกพี่ตะวันหรอก ผมมั่นใจ...มันเป็นความลับระหว่างผมกับพี่ขุน...

“เร็ว!”คราวนี้พี่ขุนเร่ง พลางกระตุกเนคไทด์ให้พี่ตะวันเดินตาม

“ไม่ใช่หมานะ!”พี่ตะวันว่างั๊น แต่ก็เดินตาม

“เร็ว!...พี่ซื้อน้ำเต้าหู้เจ้าที่ตะวันชอบมาให้ด้วย เดี๋ยวเย็นหมด”

“ซื้อมากี่ถุง?”พี่ตะวันถาม

“เจ็ดถุง...ให้บ้านน้าโอ๋ห้า ของตะวันสอง...”

“อ้าว...พี่ขุนไม่กินเหรอ?”

“ถ้าตะวันแบ่ง ก็กิน...”

“งั๊นเดี๋ยวตะวันเอากลับไปอีกถุง”พี่ตะวันบอก...เป็นอันว่า พอได้น้ำเต้าหู้แล้ว พี่ตะวันก็ลืมผม...

พอพี่ตะวันกับพี่ขุนกลับไปแล้ว ผมก็เก็บของต่อ...พยายามไม่คิดอะไร คิดก็แต่ว่า ดีแล้ว...เพราะถ้าผมไม่อยู่ พี่ตะวันก็มีพี่ขุน...พี่ตะวันจะได้ไม่เหงา ไม่ต้องร้องไห้คนเดียว...สำหรับวันนี้ พี่ขุนจำเป็นสำหรับพี่ตะวันมากกว่าผม...แต่ไว้เดี๋ยวเหอะ ให้ผมโตกว่านี้ ผมจะกลับมาทวงพี่ตะวันของผมคืน...ถ้าต้องเลือก...พี่ตะวันเลือกผมอยู่แล้ว!...

ผมชื่อตะวันฉาย อายุสิบเจ็ด กำลังเก็บกระเป๋า เข้ากรุงไปเรียนต่อ...

ผมบอกตัวเองว่า อย่าคิด แต่สุดท้ายก็นอนคิดถึงพี่ตะวันทั้งคืน ตอนเช้าพ่อปลุกยังไงก็ไม่ตื่น... เลยตกรถ...

คืนนั้น พี่ตะวันเลยมานอนคุยกับผมทั้งคืน โดยไม่มีพี่ขุนมาเป็นก้าง เพราะพี่ขุนไม่รู้เรื่องผมตกรถ เลยกลับบ้านตัวเองไปแบบสบายใจเฉิบ...

คืนนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมด่าตัวเองว่าโง่...เพราะพอพี่ตะวันหลับ ผมก็แอบหอมแก้มพี่ตะวัน คิดซะว่าเป็นจูบมัดจำแบบแอบเหมาเอาเอง...เพราะถ้าไม่ฉวยโอกาสทำ มีหวังนอนไม่หลับทั้งคืนนี้ จนตลอดอีกหลายปีจนเรียนจบแน่ๆ...แล้วกลับมาค่อยขอหอมให้เป็นกิจจะลักษณะ...ผมบอกตัวเองอย่างนั้น...

พอหอมเสร็จ ผมก็นอนไม่หลับอีก เพราะมัวแต่นอนนึกเสียดาย ว่าทำไมไม่ทำอย่างนี้ซะตั้งนาน...พี่ตะวันก็มานอนหายใจรดต้นคอผมออกบ่อย...ผมเลยได้แต่ด่าตัวเองว่าโง่ ก่อนแอบหอมแก้มพี่ตะวันไปอีก...หลายๆที...เพื่อทดแทนความโง่ของตัวเองในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมา...แล้วก็หลับสบาย...จนเกือบตกรถไปอีกหน...

จบ...ความรัก ความลับ

gift_deb

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วตอนนี้หลงรักตะวันฉายมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ltahset

  • บุคคลทั่วไป

FOAM

  • บุคคลทั่วไป
หาเอาใหม่ดีกว่าฉายยย

เด็กมหาลัยมีแต่น่าร๊ากกกกกก

อย่าไปสนใจตะวันมันเลย

รอตอนต่อไปครับ

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
ฮาได้ใจจริงๆ
สำนวนแบบนี้
ติดงอมแงม

ออฟไลน์ MeepadA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1069
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3

ไปอยู่กรุงเทพ ตะวัน จะคิดถึง ฉายบ้างมั๊ยน๊อ   :เฮ้อ:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
แอบหอมแก้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม



ปล. บิ้กแบงค์ ขา  ทำไมน่ารักแบบนี้  เกิดมาเพิ่งจะบ้าบอยแบรนด์ เป็นครั้งแรกในชีวิต

[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป
ดูฉายน่ารักกว่าตะวันอีกอ่ะ

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ฉายยยยยยยยยยยยยยย...น่า....ร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

แอบหอมแก้มด้วยหุหุ :laugh:

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
เฮ้อ..............ฉายเอ้ย................มันเศร้าเนอะ  :a12:

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
จะไปเรียนต่อหละ ขอให้ ฉาย เจอคนรักขอตัวเองซะทีน้า.... :m15: :m15: :m15:

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
คนอย่างตะวันนี้ น่าค้นหาเนอะ ถึงว่าใครๆๆชอบ อิอิ เราก่อชอบ หุหุ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Turn_righT

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 492
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ก่อนจะพูดเรื่องหอมแก้ม ---> ชอบอ่ะ สองคนนี้คุยกันน่าร้ากกกก :o8:
พอพูดเรื่องผู้หญิง+หอมแก้ม ---> เริ่มหดหู่ใจละ...สงสารฉายขึ้นมาทันที
พอพี่ขุนเข้ามา --->  :serius2: :serius2: ใครจะไปหอมแก้มเมิงงงงง เครียดๆๆๆ เซ็งๆๆๆๆ

ถึงจะน่ารักแต่...ก็ยังแอบหดหู้อยู่ในใจลึกๆ อึดอัดเจรงว้อยยยย  o9

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เรื่องของเด็กชายตะวันฉาย นายกรินกรณ์ กับพี่ชายปากบอน บ้านข้างๆ # บทที่ 10

ความรัก ความไม่รัก

เมื่อผมกลับมาบ้านหลังจบภาคเรียนแรก พี่ขุนก็ออกไปจากชีวิตพี่ตะวัน...และก้าวกลับเข้ามาในชีวิตพี่ตะวันอีกครั้ง ในอีกสองวันให้หลัง...

พี่ตะวันนั่งหัวเราะชอบใจ เมื่อผมมองพี่ขุนตาค้าง ตอนพี่ขุนเดินเข้ามาในบ้านอย่างกับเพิ่งกลับจากไปซื้อของหน้าปากซอย

“ก็ไหนตะวันว่า...”ผมถาม กลืนคำว่า...พี่ขุนไปแล้ว...ลงคอ เมื่อพี่ขุนจ้องหน้าเขม็ง รอฟังว่าผมจะพูดอะไร

“ก็ไปแล้วไง...ไปแล้วก็มาไง!”พี่ตะวันพูดไปหัวเราะไป ก่อนรื้อของฝากสารพัดที่พี่ขุนหอบหิ้วเอามาฝาก...

ผมนึกอยากถามว่า ถ้าพี่ตะวันจะติต่างหลอกผมหรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่าพี่ขุนเป็นแฟนไม่ใช่เพื่อน พี่ตะวันก็ไม่ควรเล่นมุกอย่างนี้...มุกอย่างนี้ใครเขาเล่นกับเพื่อนกัน...ไอ้ทีท่าหน้าตาจ๋อย เหมือนโดนทิ้งมาตลอดสองวันจนผมสงสารนั่นน่ะ...

ผมนึกอย่างอารมณ์เสีย แต่ให้จริงๆคือแอบผิดหวัง ถึงแม้ใจหนึ่งจะคิดว่า มีพี่ขุน พี่ตะวันจะได้ไม่เหงาเวลาที่ผมไม่อยู่...หากแต่พอตัวเองต้องไปอยู่ไกลจริงๆ...ก็อดหงุดหงิดทุกครั้งที่คิดถึงพี่ตะวันไม่ได้ว่า...ทำไมเป็นพี่ขุนที่ยังได้เห็นหน้าพี่ตะวันอยู่ทุกวันๆ ในขณะที่ผมก็ได้ยินก็แต่เสียงผ่านทางสายโทรศัพท์

“งั๊นฉายกลับดีกว่า”ผมบอกมองดู ปลาปักเป้าเป่าลมตัวโต หนึ่งในของฝากที่พี่ขุนแกล้งเอามาวางไว้บนหัวพี่ตะวัน...และหนามมันปักลงบนผมพี่ตะวัน เลยไม่กลิ้งหล่น ถึงพี่ขุนจะไม่จับไว้ก็เหอะ

“ไปด้วย...”พี่ตะวันหันมาพูดกับผม ก่อนหันกลับไปพูดกับพี่ขุน

“เดี๋ยวตะวัน เอาของฝากไปให้น้าโอ๋ก่อนนะ...น้าโอ๋จะได้ทันทำให้กินเย็นนี้”

“อย่างนั้นเขาเรียกของฝากตรงไหน...เขาเรียกฝากทำให้กินแล้วมั๊ง ตะวัน!”ผมบอก ก่อนเอื้อมมือไปรับถุงใบใหญ่ในมือพี่ตะวันที่ยืนหัวเราะมาช่วยถือให้

ไม่เจออกันแค่ครึ่งปี แต่กลับมาคราวนี้ ผมก็ตัวโตและสูงกว่าพี่ตะวันแล้ว...แต่ต้องไม่นับรวมความสูงพิเศษเพราะผมหยิกๆฟูๆของพี่ตะวัน กับ ปลาปักเป้าที่พี่ตะวันยังปล่อยให้มันตั้งอยู่บนหัวน่ะนะ...

“ตอนนี้ฉายเป็นแบบให้ตะวันวาดรูปได้แล้วนะ...”ผมบอกพี่ตะวัน เมื่อเดินพ้นออกมาจากบ้าน พลางพลิกแขนให้พี่ตะวันดูกล้ามบนแขน

“ไม่จิ๋วหลิวแล้วด้วย!”ผมสำทับ นึกถึงคำสบประมาทของพี่ตะวันได้

“แต่ตอนนี้ลูกค้าสั่งวาดรูปผู้หญิง โบราณๆ...ต้องนุ่มนิ่มๆ กับ ตูมๆ”พี่ตะวันพูดตัดความหวัง แถมเอื้อมมือมาบีบอกผม

“ไม่ตูม!”

“จักกะจี๋นะตะวัน!...ปลามันจะโดนหน้าฉาย ระวังหน่อยสิ!”ผมพูด และหัวเราะ เพราะถือถุงเต็มสองมือ เลยได้แต่ บิดตัวหลบ ทั้งจากมือ และปลาบนหัวพี่ตะวัน

“ตะวันเอาอะไรไว้บนหัว?”แม่โผล่หน้าออกจากครัวมาถาม พลางมองดูปลาบนหัวพี่ตะวัน

“พี่ขุนซื้อมาฝากตะวัน”พี่ตะวันตอบ พลางส่ายหัวไป ส่ายหัวมาโชว์ปลาบนหัวให้แม่ดู

“อันนี้พี่ขุนซื้อมาฝาก...ทำให้กินที!”ผมบอกพลางยื่นถุงส่งให้แม่ และพอมือว่าง ผมก็แกล้งผลักปลาบนหัวพี่ตะวันให้กลิ้งหล่น และเอื้อมมือรับ เอากลับมาวางคืนไว้บนหัวให้ ก่อนพี่ตะวันจะทันโวย

“ไว้ตะวันให้พี่ขุนต่อไฟให้สิ...เจาะรูข้างใต้ใส่หลอดไฟเข้าไป...แล้วเปิดไฟไว้บนหัวตะวัน”ผมแนะ

“กู๊ด ไอเดีย!...ไว้บอกพี่ขุนให้ทำขายดีกว่า”พี่ตะวันยิ้มหน้าบาน เป็นอันว่าพอใจในไอเดียที่ผมเสนอจริงๆ

“ต้องขายพร้อมหัวตะวันสิ...ถึงจะตลก”ผมพูด ก่อนทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา มองดูพี่ตะวันที่ยังยืนภูมิใจกับปลาบนหัวของตัวเอง

“ตะวันอย่านั่งนะ เดี๋ยวโซฟาน้าขาด!”แม่หันบอกพี่ตะวันก่อนหิ้วถุงเดินหายเข้าไปทางในห้องครัวเมื่อพี่ตะวันทำท่าจะหย่อนตัวลงนั่งข้างๆผม และพอแม่ลับตา ผมก็ดึงเสื้อพี่ตะวันให้ล้มลงนั่งข้างๆผม ผลคือโดนปลาบนหัวพี่ตะวันโหม่งหน้าจังๆ

“เจ็บ!”ผมร้องเสียงดัง แต่มือยังโอบเอวพี่ตะวันไว้ไม่ปล่อย

“ตะวันน้าบอกว่าอย่านั่ง!...คราวก่อนก็ทำโซฟาน้าเปื้อนกาวตราช้างไปทีแล้วนะ!”แม่วิ่งออกมาโวย คงเพราะได้ยินเสียงผมร้อง

“ไม่เป็นไรน้าโอ๋!...โดนหน้าฉาย ไม่โดนโซฟา!”พี่ตะวันรีบแก้ตัว แปลว่าคราวก่อนที่ทำกาวเปื้อนโซฟา คงโดนแม่ดุไปหลายวัน

“แล้วไป!”แม่ว่า พลางมองให้แน่ใจว่าโดนหน้าผมจริงๆ ไม่ใช่โซฟาของแม่ และพอแน่ใจแม่ก็เดินกลับเข้าครัวไป

“ฉายเป็นเด็กเก็บมาเลี้ยง...โซฟาตัวนี้ต่างหากที่น้าโอ๋แอบคลอดออกมา”พี่ตะวันบอก ก่อนทิ้งตัวพิงพนักโซฟา ไม่สนใจแขนผมที่ยังพาดอยู่ด้านหลังเอว

“ฉายไม่อยู่ ตะวันเหงาหรือเปล่า?”ผมถามคำถามที่นึกอยากถามตั้งแต่กลับมาเห็นหน้า แต่ยั้งปากไว้ไม่ถาม เพราะเห็นพี่ตะวันทำหน้าจ๋อยบอก...พี่ขุนไปแล้ว

“เหงาสิ...ฉายย้ายมาเรียนเชียงใหม่เหอะ!”

“มหาลัยนะตะวัน...ไม่ใช่โรงเรียน!”

“งั๊นถามทำไม?”พี่ตะวันถาม ฟังเสียงก็รู้ว่าเริ่มพาล

“พี่กบโทรหาตะวันบ้างหรือเปล่า?”ผมเปลี่ยนเรื่อง ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนเริ่มตั้งคำถาม

“โทรสิ...โทรบ่อย ไม่เหมือนฉาย!”พี่ตะวันตอบ แต่ไม่ยอมเปลี่ยนเรื่อง

“ก็ตะวันโทรหาฉาย วันละสามเวลาหลังอาหาร แล้วจะให้ฉายโทรหาตะวันตอนไหนล่ะ?”ผมถาม ซึ่งก็จริง เพราะพี่ตะวันยังทำอย่างกับผมนั่งอยู่ข้างๆ หันมาไม่เจอก็ยกหูโทรหา จนค่าโทรศัพท์พุ่งปี๊ด...

“แล้วพี่เขาว่าไงบ้าง?”ผมถามต่อ ทำเป็นไม่สนใจหน้าคว่ำๆของพี่ตะวัน

“ก็บอกว่าถ้าย้ายกลับมาได้ จะย้ายกลับ...ก็ไม่ได้เรียนมหาลัยนี่เนอะ เลยน่าจะย้ายง่าย!”พี่ตะวันตอบ และวกกลับเข้ามาหาผมจนได้ และครั้งนี้ผมหัวเราะ เพราะพี่ตะวันทำหน้างออย่างที่ชอบทำมาแต่เด็กเวลาที่โดนขัดใจ

ผมไม่อยากบอกพี่ตะวันว่า พี่กบน่ะตอแหลเอาใจพี่ตะวันไปงั๊นๆแหละ ก็พี่กบมีแฟนแล้วนี่นา ถึงจะเพิ่งเริ่มๆเป็นก็เหอะ...พี่กบบอกผมอย่างนั้นผ่านทางสายโทรศัพท์

“ฉายเกือบได้หอมแก้มสาวด้วยนะตะวัน...แต่ไม่กล้า...เพราะตะวันแหละ คราวก่อนไม่ยอมให้ฉายลองซ้อม!”ผมเปลี่ยนเรื่อง เพราะพี่ตะวันทำหน้างอ จนผมนึกอยากหอมแก้มพี่ตะวันขึ้นมาอีก ทั้งที่สองคืนที่ผ่านมา พี่ตะวันมานอนค้างกับผม ผมก็แอบหอมไปหลายฟอดตอนพี่ตะวันหลับ

“ทำไมต้องซ้อม เอาปากชนแก้มมันยากตรงไหน?”พี่ตะวันถาม เอาปลาลงจากหัวแล้ว

...ก็ไม่ยากหรอก ก็หอมอยู่ทุกคืน...ผมนึกอยากตอบ ใจก็นึกถึงแก้มนิ่มๆของพี่ตะวัน แต่ก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น

“อ้าว! เอาออกทำไมตลกดี!?”ผมถาม หยิบปลาวางกลับขึ้นไปบนหัวพี่ตะวันใหม่อีกหน

“ฉาย เอนท์ใหม่เหอะ...กลับมาเรียนเชียงใหม่!”พี่ตะวันพูด ผมหัวเราะแทนการปฏิเสธ

“ทำไม กลัวเอนท์อีกรอบ แล้วไม่ติดหรือไง?”พี่ตะวันถาม เหมือนเวลาหลอกให้ผมกินยาขมๆ แทนตัวเองตอนเด็กๆไม่มีผิด

‘ฉายไม่กล้าใช่ไหมล่ะ?’ตอนเป็นเด็ก พี่ตะวันชอบร้องท้า และผมก็รับคำท้าด้วยการกลืนยาขมๆของพี่ตะวันลงคอพิสูจน์ความกล้ามานับครั้งไม่ทวน เพียงแต่ตอนนี้ ผมไม่ใช่เด็กชายตะวันฉายแล้วเท่านั้น...

“ตะวันนี่ โตแต่ตัว!”ผมพูดพลางหัวเราะ ผลักปลาตกจากหัวพี่ตะวัน มองดูมันกลิ้งตกลงบนโซฟาก่อน ตกลงไปบนพื้น และพี่ตะวันใช้เท้าเตะมันกระเด็นไป

“เจ็บไหมล่ะนั่นน่ะ?”ผมถาม ก้มลง ยกเท้าพี่ตะวันที่ยังนั่งหน้างอไม่ยอมพูดยอมจา ขึ้นมาดู

“...ตะวันก็มีพี่ขุนไง...”ผมพูด นวดเบาๆให้ตรงที่เป็นรอยแดง

“ไม่เหมือนกันนี่!”พี่ตะวันไม่พูดเปล่า แต่กระทุ้งส้นเท้าใส่ขาผม

“อะไรล่ะที่ไม่เหมือน?”ผมถาม

“กลับมาเรียนเชียงใหม่เถอะนะ...”แต่พี่ตะวันเปลี่ยนเรื่องไม่ยอมตอบ

“เจ็บหรือเปล่า?”ผมเลยเปลี่ยนเรื่องบ้าง

“เจ็บสิ!”พี่ตะวันตอบ และคงเจ็บจริงเพราะหนามป่าปักเป้าทั้งแข็ง ทั้งแหลม

“แล้วไปเตะมันทำไม?”

“ก็ลืมไงเล่า!”พี่ตะวันตอบอย่างกับผมผิดที่เรื่องแค่นี้ก็ไม่รู้

“ฉายกลับมาเรียนเชียงใหม่เถอะ!”

“เดี๋ยวขอฉายตัดสินใจก่อน!”ผมถอนหายใจก่อนตอบ

“จริงนะ?”พี่ตะวันถามและยิ้มหน้าบาน

“จริงสิ...”ผมตอบ และหัวเราะแก้มที่ยิ้มจนจะปริของพี่ตะวัน

“ตัดสินใจได้ยัง?”

“สองเฮือกเนี่ยนะ ตะวัน?”

“ตัดสินใจอะไรนานนักหนาล่ะ คิดออกยัง?”

“ยัง...ขอเวลา...”

“เท่าไหร่?”

“หกปี!”ผมตอบก่อนผลักขาพี่ตะวันลงจากตัก แล้วรีบลุก วิ่งหนีเข้าครัวไปหาแม่ก่อนพี่ตะวันจะทันโวย

“อะไรกันอีกล่ะ?”แม่ถาม โดยไม่หันมามอง ก้มหน้าก้มตาแล่ชิ้นปลาในมืออย่างกับจะส่งเข้าประกวดงั๊นแหละ

“เปล่า...ตะวันบอกให้ฉายเอนท์กลับมาเรียนที่เชียงใหม่”ผมบอกแม่

“โตแต่ตัว!”แม่พูดเหมือนผมเปี๊ยบ

“น้าโอ๋ก็บ่นอยากให้ฉายกลับมาเรียนเชียงใหม่เหมือนกัน!”พี่ตะวันพูด เมื่อเดินตามเข้ามาในครัวและทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นใกล้ๆที่แม่ยืน ผมเลยหย่อนตัวลงนั่งข้างๆพี่ตะวันที่อีกด้าน...เหมือนตอนเด็กๆ เวลากลับจากโรงเรียน ทั้งผมทั้งพี่ตะวันจะมานั่งป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆเท้าแม่ เล่าเรื่องที่โรงเรียนให้แม่ฟังไปพลาง แอบจับแอบหยิบอะไรใส่ปากไปพลาง

“แล้วไง...แล้วน้านั่งทู่ซี้เหมือนตะวันหรือเปล่า?”แม่ถาม พลางยกเท้าเขี่ยพี่ตะวัน

“ก็น้าโอ๋แก่แล้ว ตะวันเลยทำแทน!”พี่ตะวันพูด คราวนี้แม่เลยเขี่ยพี่ตะวันแรงจนพี่ตะวันล้มมาทับผม

“ไหนน้าโอ๋ว่าห้ามใช้เท้าเตะคนอื่นไง!”พี่ตะวันโวย ยังลมทับมาที่ผมเพราะเท้าของแม่วางกดไว้บนต้นแขนพี่ตะวัน

“ก็คนบางคนมันสมควรไหมล่ะ!”แม่ถามย้ำเท้าลงแรงๆ สองทีก่อนดึงเท้าคืนและไล่ส่ง

“เอ้าออกไปกันได้แล้ว...เกะกะ!”

“ตะวัน ไปเรียกพี่ขุนมาสิ...น้าทอดให้กินเล่นกันก่อน”แม่หันมาบอก เตรียมเทปลาที่แล่เป็นชิ้นบางๆลงในกระทะ

“น้าโอ๋อย่าเพิ่งเท ให้ตะวันออกไปก่อน!”พี่ตะวันร้องบอก แต่แม่ไม่ฟังเสียง เทชิ้นปลาลงกระทะ ดังฉ่าใหญ่ พร้อมกับที่พี่ตะวันร้อง

“โอ๊ย! น้ำมันมันแตกใส่ตะวัน!”พี่ตะวันร้องโวย ก่อนถูที่แขนเป็นการยืนยันคำพูด

“น้ำมันแค่นี้ ร้องยังกับโดนเชือด!..ก็ออกไปซิ! ...เรียกพี่ขุนมาด้วย”แม่สั่งโดยไม่สนใจหันมามอง

“เจ็บไหม?”ผมถาม ก้มลงดูแขนพี่ตะวัน และเป่าให้เบาๆตรงที่เป็นรอยแดงๆ

“แม่บอกให้ไปเรียกพี่ขุน!”แม่สำทับเสียงเข้มอีกหน เมื่อพวกผมยังอ้อยอิ่งกันอยู่แถวประตูครัว

แต่พี่ตะวันไม่ต้องเสียเวลาออกไปเรียก เพราะพอออกมาถึงห้องนั่งเล่น พี่ขุนก็นั่งรอท่าอยู่ที่โซฟาแล้ว โดยมีปลาปักเป้าที่พี่ตะวันเตะกระเด็นไปอยู่ในมือ

“ฉายบอกให้เจาะทำเป็นโคมไฟ...พี่ขุนทำให้ตะวันนะ?”พี่ตะวันวิ่งและกระโดดทิ้งตัวนั่งข้างๆพี่ขุน หรือจริงๆน่าจะทับพี่ขุนไปสักครึ่งตัวมากกว่า ถ้าพี่ขุนไม่เบี่ยงตัวหลบ

“แต่พี่อยากให้ตะวันแขวนไว้เฉยๆ”พี่ขุนบอก มองดูปลาสลับกับหน้าผม

“แต่ตะวันอยากได้โคมไฟ!”พี่ตะวันยืนกราน แย่งปลาจากมือพี่ขุน

“แขวนไว้เฉยๆ!”พี่ขุนก็ยืนยัน

“โคมไฟ!”

“แขวน...”

“ของพี่ขุนหรือของตะวัน?!”พี่ตะวันถาม

พี่ขุนไม่ตอบ แต่จ้องหน้าพี่ตะวันเขม็ง และพี่ตะวันก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ สนใจก็แต่ปลาปักเป้าในมือ...สำหรับพี่ตะวัน เมื่ออีกฝ่ายไม่โต้ตอบ พี่ตะวันก็จะหมายความเอาว่า...อีกฝ่ายไม่ขัดข้อง...แน่นอนว่ายกเว้นแม่ผม เพราะถ้าน้าโอ๋ของพี่ตะวันไม่ตอบแปลว่า...พี่ตะวันต้องไม่ขัดข้อง...

ตลอดเวลาที่พี่ตะวันเถียงกับพี่ขุน ผมก็ได้แต่นั่งฟังเฉยๆ

พี่ขุนเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง...เข้าๆออกๆบ้านผมมาร่วมสี่ปีแล้ว ดังนั้นการโต้เถียงระหว่างพี่ขุนกับพี่ตะวันจึงไม่นับเป็นเรื่องแปลกหรือเรื่องที่ทำให้ผมอึดอัดใจจนต้องปลอมตัวเป็นอากาศธาตุ...ก็แค่นั่งฟังเฉยๆ และรอโอกาสเข้าร่วมหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเชื้อเชิญ ซึ่งโดยส่วนมากก็จะเป็นพี่ตะวันแหละที่ต้องการพวก และครั้งนี้ก็เช่นกัน

“พี่ขุนไม่ทำให้ ฉายทำให้พี่นะ?”พี่ตะวันหันมาหาผม และพี่ขุนก็หันมาจ้องหน้าผมเขม็งเช่นกัน...

ผมไม่คิดว่าผมรู้สึกไปเอง...ผมว่าสายตาพี่ขุนที่มองผมมันเปลี่ยนไป อาจเพราะผมไม่ได้เป็นแค่เด็กชายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

“พี่ทำให้...แต่ตะวันต้องกลับบ้านกับพี่เดี๋ยวนี้!”พี่ขุนพูด

“น้าโอ๋ทอดปลาให้!”พี่ตะวันขัดแต่พี่ขุนไม่ฟังเสียง...มือที่ใหญ่กว่าแขนพี่ตะวัน จับแขนพี่ตะวันไว้ไม่ปล่อย ดึงกึ่งกระชากพาพี่ตะวันออกจากบ้านไป

เย็นนั้นพี่ขุนกับพี่ตะวันไม่ได้มากินข้าวเย็น แม่ให้ผมไปตาม ผมก็แกล้งเดินออกไปตาม แต่จริงๆไปเดินวนสนามหนึ่งรอบแล้วก็กลับมา บอกแม่ว่า ออกไปไหนกันก็ไม่รู้...

ดึกจนเที่ยงคืนกว่า พี่ตะวันก็มาหาผมและนั่งร้องไห้ แต่ผมถามว่าเป็นอะไรพี่ตะวันก็ไม่ตอบ...ผมก็เลยทำได้แค่นั่งมองและรอจนพี่ตะวันร้องไห้เสร็จ แล้วเราก็นอนหลับไปด้วยกันบนเตียงของผม ในห้องของผม...

ผมอยู่บ้านหนึ่งอาทิตย์ก่อนกลับไปเรียนต่อ ระหว่างหนึ่งอาทิตย์นั้น ผมไม่เจอพี่ขุนเลย...พี่ตะวันก็ซึม และมานอนกับผมทุกคืน...ผมไม่ได้แอบหอมแก้มพี่ตะวันตอนนอนอย่างที่ชอบทำ...ไม่รู้ว่าทำไม...อาจเป็นเพราะพบว่าพี่ขุนเก็บของๆตัวเองออกจากบ้านพี่ตะวันไปแล้ว ตั้งแต่วันที่พี่ตะวันมานั่งร้องไห้กับผมตอนเที่ยงคืน

ผมชื่อตะวันฉาย...ส่องกระจกดูตัวเองเวลานั้น ผมว่าผมเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว

ผมคิดว่าผมยังรักพี่ตะวัน

และผมก็ยังคงคิดว่าพี่ขุนรักพี่ตะวัน หลักฐานคือพี่ขุนเก็บข้าวของออกจากบ้านพี่ตะวัน...มันคือการหึงหวง...ถ้าไม่รักก็คงจะไม่หึง

และผมก็คิดว่าพี่ตะวันยังคงรักพี่ขุน...น้ำตาของพี่ตะวันอาจไม่ใช่หลักฐานที่ดีนัก เพราะพี่ตะวันร้องไห้ให้กับทุกเรื่อง แต่ถึงไม่มีหลักฐาน ผมก็ยังคิดว่าพี่ตะวันยังคงรักพี่ขุนอยู่ดี

แต่พี่กบไม่ใช่...คนที่พี่กบรัก ไม่ใช่พี่ตะวันอีกต่อไป...ผมเลยเริ่มสงสัย...ผมจะได้บอกรักพี่ตะวัน หรือเปล่า

ผมสงสัย...อีกหลายๆปีข้างหน้า...วันที่ผมเคยคิดว่า ผมจะกลับมาทวงพี่ตะวันของผมคืน...วันนั้นผมจะยังรัก...หรือ ไม่รัก พี่ตะวันแล้ว...

จบ...ความรัก ความไม่รัก



ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
และแล้ว  พี่ขุนก้ยังอยู่กับตะวันต่อไปอีก  โดยที่ไม่มีฉาย

ว่าแต่.....ฉายจะลืมตะวันได้จริงๆ หรอ


อ่านเรื่องนี้ทีไร

ใจโหวงๆ ชอบกล

ว่าจะไม่อ่านแล้ว  แต่ก็ไม่อ่านไม่ได้


เสพติดซะแร้นนนนนนนนนนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ MayMaMee

  • ต้องอ่านนิยายวายทุกวัน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 269
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
มาแล้ววว ฮื่อออ มะอยากอ่านแต่ก็ต้องอ่าน หื้ออ เสพย์ติดจิงๆ คุณภัคดีทำได้ไงเี่นี่ย

แต่อ่านครานี้สองตอนรู้สึกเฉยๆ นะ คงเพราะมะได้อ่านทีเดียวรวดเหมือนคราก่อน

แต่ก็รู้สึกเหงาๆ นิดๆ เฮ้อ เดาเรื่องตะวันอยู่ เฮ้อ เหนื่อยใจเล็กๆ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
พี่ขุนก็ไปแล้ว พี่กบก็มีแฟนไปแล้ว ฉายก็ไปเรียนกรุงเทพ

ตะวันจะอยู่ยังไงล่ะเนี่ย อิอิ

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1

อาจารย์..สีฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามามอบ  :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: ให้กับพี่ทิพย์คนงาม

ltahset

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
ชอบเรื่องนี้ที่สุดเลยยยยยยยยยยยยยย o13

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
อ่านทีไร ซึมๆทุกทีเลยอะ  :m15: :m15: :m15:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด