เด็กชายตะวันฉาย นายกรินกรณ์ กับพี่ชายปากบอน บ้านข้างๆ โดย ภัคD
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กชายตะวันฉาย นายกรินกรณ์ กับพี่ชายปากบอน บ้านข้างๆ โดย ภัคD  (อ่าน 217895 ครั้ง)

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วได้แต่ ถอนหายใจ  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ไม่รู้จะพูดว่าอะไรดี.....

gift_deb

  • บุคคลทั่วไป
สงสารฉายอีกแล้ว ได้แค่จินตนาการว่ากำลัง......ตะวัน :m15: :m15:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
โอ๊ยโหย๋ว....เป็นคนที่...เก็บกดได้เก่งมากกกกกกกกกกกกกกก
ฉายสู้ๆ :a4:

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1

[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป
รู้สึกว่าพี่ขุนนี่อยู่นานนะเนี่ย..............

gagagaa122

  • บุคคลทั่วไป

ltahset

  • บุคคลทั่วไป
Re: เด็กชายตะวันฉū
«ตอบ #186 เมื่อ03-05-2008 13:12:18 »

ฉายน่าสงสารจัง :o12:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-05-2008 20:22:26 โดย ltahset »

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: นึกว่าฉายจะทำจิงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
ฉายเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ultramanzaku

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เรื่องของเด็กชายตะวันฉาย นายกรินกรณ์ กับพี่ชายปากบอน บ้านข้างๆ # บทที่ 14

ความรัก กับนกกระเรียนตัวที่หนึ่งพันหนึ่ง


“ตะวันเป็นอะไร...เมาค้างหรือไง...นี่มันจะบ่ายสองแล้วนะ น้าว่าถ้าอีกเดี๋ยวยังไม่ตื่น น้าจะนิมนต์หลวงพ่อมาทำพีธีให้แล้ว?”แม่ถาม เมื่อเห็นพี่ตะวันเดินหัวยุ่งๆ หน้ามุ่ยๆเข้ามาในบ้าน

“ตื่นตั้งนานแล้วน้าโอ๋ แต่ตะวัน...”พี่ตะวันพูดแค่นั้นก่อนทิ้งตัวนั่งที่ข้างๆแม่

“ตะวันเป็นอะไร...ไม่สบายหรือเปล่า...ทำไมหน้าซีดๆ?”แม่หันไปถาม ก่อนยกมือแตะหน้าผากพี่ตะวันที่ค่อยๆขยับตัวเอนซบไหล่แม่

“ตะวันปวดหัว...เมื่อวานพี่ขุนลืมปิดหน้าต่างให้ตะวัน...”พี่ตะวันตอบ

“อ้าว!...ก็ไหนฉายว่าไปดู ไม่ได้ปิดหน้าต่างเหรอ?...แล้วกินยาหรือยัง?...กินข้าวหรือยัง? เดี๋ยวน้าทำให้เอาไหม?”แม่ถามพี่ตะวัน แต่กับผม ไม่รู้ว่าถามหรือแค่บ่น

“ก็ไปดู ไม่ได้ไปปิดหน้าต่างนี่...แล้วนั่นนะเมาค้างมากกว่ามั๊ง”ผมตอบ

“กินแล้ว...”พี่ตะวันก็ตอบ แต่หันมาค้อนผม

“ยาหรือข้าว?”และแม่ก็ถามพี่ตะวันกลับ และไม่ลืมหันมาค้อนผมเช่นกัน

“ทั้งข้าว ทั้งยาแหละน้าโอ๋...”

“น้าโอ๋...เมื่อวานพี่ขุนไปกี่โมง?”พี่ตะวันถามเปลี่ยนเรื่อง

“ไปตั้งแต่ทุ่มกว่าๆมั๊ง...ไม่รู้สิน้าไม่ได้มองนาฬิกา...แล้ววาดรูปเป็นไงมั๊ง?”แม่ตอบแล้วถามเปลี่ยนไปอีกเรื่อง

“ตะวันวาดก็ต้องสวยสิ น้าโอ๋!...พี่ขุนบอกหรือเปล่าว่าจะกลับเมื่อไหร่?”พี่ตะวันก็ตอบแล้วถามกลับไปเรื่องเก่า

“อ้าว...น้าจะรู้ได้ยังไง ...ไม่ได้คุยกันเหรอ?...แล้วไปวาดคราวนี้ได้กี่ตังค์ล่ะ?”แม่ก็ตอบ...แล้วก็ถามกลับไปอีกเรื่อง...ส่วนผมก็นั่งฟัง ประหยัดเวลาดีฟังทีเดียวได้สองเรื่องสองราว...

“ก็...ไม่ได้ตังค์...พี่ขุนเอากระเป๋าใบเล็กไป หรือใบโตๆไป?”

“ใบกลาง ใบสีเหลืองน่ะ...แล้วทำไมไม่ได้ตังค์ล่ะ?”

“ก็รีสอร์ทเขาสวย ตะวันกับพี่ขุนเลยขอเขานอนแลกกับค่ารูป...หน้าlow เขาเลยให้ ดีกว่าปล่อยห้องไว้เฉยๆ...ห้องที่ตะวันนอนอยู่บนภูเขา...มีอ่างน้ำกลางแจ้งด้วยนะน้าโอ๋...ตะวันแช่น้ำทั้งวันเลย กลางคืนก็เห็นดาว ตะวันอยากมีบ้านสวยๆแบบนั้นบ้างจัง เราย้ายบ้านกันไหมน้าโอ๋ ไปอยู่บนดอยกัน...ตะวันอยากมีอ่างน้ำใต้ต้นไม้ เงยหน้าก็เห็นดาว...”ท่าทางพี่ตะวันจะเพ้อเจ้ออีกนาน ถ้าแม่ไม่ขัดคอซะก่อน

“ทำไมตะวันจะไม่มี...ต้นไม้หน้าบ้านไง ตอนเด็กๆน้าเอาตะวันใส่กะละมังอาบน้ำที่หน้าบ้านออกบ่อยไป...”แม่บอกคล้ายกับสิ่งที่พี่ตะวันอุตส่าห์เล่าเหมือนกันกับที่แม่พูด พี่ตะวันที่ยังเอนตัวหนุนแม่อยู่ที่ไหล่ก็ทำแค่เงยหน้าขึ้นมองแม่ตาปริบๆ เหมือนพยายามนึกว่าไอ้ที่แม่ว่า มันเหมือนที่ตัวเองอุตส่าห์เล่าหรือเปล่า

“ตะวันว่าแช่น้ำทั้งวัน แล้วได้วาดรูปให้เขาเหรอ?”แม่ถามอย่างเพิ่งนึกได้ ว่าไอ้ที่พี่ตะวันพูดว่าทั้งวัน สำหรับคนอื่นอาจเป็นแค่สำนวน หากแต่ถ้าพี่ตะวันพูด...พี่ตะวันแช่น้ำได้ทั้งวันจริงๆ

“ก็เวลาไม่แช่น้ำตะวันก็วาดรูป...บางรูปก็วาดข้างๆอ่าง...พี่ขุนเลยเอาหมอนกับผ้าห่มมาโยนให้ตะวันนอนในอ่าง”พี่ตะวันเล่าอย่างสุดแสนจะธรรมดา ซึ่งคนที่รู้จักพี่ตะวันดีอย่างผมกับแม่ฟังแล้วก็ไม่แปลกใจอะไร เพราะสำหรับพี่ตะวันถ้าลงว่าชอบหรือกำลังเห่ออะไร ก็แทบจะผูกติดตัวไว้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง...ครั้งหนึ่งผมก็เคยเป็นของที่พี่ตะวันผูกติดไว้ยี่สิบสี่ชั่วโมง...ไม่ใช่แค่สำนวน แต่พี่ตะวันผูกติดผมไว้จริงๆ คือเอาเชือกคล้องคอของเจ้าตะวันฉาย ปักกิ่ง เทอเรียของพี่ตะวันมามัดเอวแล้วลากผมไปไหนมาไหนด้วยตอนที่ผมเริ่มหัดคลาน...ไม่มีใครห้าม กลับเห็นเป็นสนุก หลักฐานคือรูปถ่ายหลายสิบใบที่มักมีหน้าพ่อ หรือแม่ หรือน้าโอ๋ หรือน้ามะ โผล่มานั่งหัวเราะในรูปถ่ายด้วยเกือบทุกใบ...กับอีกบางรูป พี่ตะวันหลับอยู่กับจักรยานคันโปรดบนที่นอน...

แม่ยังถาม และพี่ตะวันตอบ และเมื่อพี่ตะวันถาม แม่ก็ตอบ ส่วนผมคงกลายร่างเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของชุดโต๊ะรับแขกไปแล้ว แม่กับพี่ตะวันเลยลืมสนใจผม...ก็ไม่ได้น้อยใจ แค่นึกขำเท่านั้นว่าผมหรือพี่ตะวันแน่ที่เป็นลูกของแม่

จนแม่ลุกไปนั่นแหละ พี่ตะวันถึงหันมามองผม แต่ก็ไม่พูดอะไรแค่มองแล้วทำหน้ามุ่ยๆเฉยๆ...ส่วนผมก็ร้อนตัววูบๆ...หรือพี่ตะวันจะได้ยินที่ผมกระซิบบอกพี่ตะวัน...

เขาว่าคนเมาน่ะ มันครึ่งหลับครึ่งตื่น...พอตาสว่าง สติมันก็กลับมาแจ่มแจ๋วเหมือนเดิม ไอ้ที่เคลิ้มตอนเมา สมองมันก็รีเวิร์ดกลับมาให้แบบไม่มีตกไม่มีหล่น...จะจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะผมเองก็ไม่เคยเมา...ผมเลยชักสงสัย ไอ้ที่พี่ตะวันหน้ามุ่ย นี่มันเรื่องโปสการ์ดหรือว่าเรื่องที่ผมแอบบอกรักเมื่อคืน...แล้วผมล่ะอยากให้พี่ตะวันจำได้หรือจำไม่ได้...

“ตะวันปวดหัวเหรอ?”

“เปล่า!”

“อ้าว ก็เมื่อกี้ตะวันบอกแม่ว่าปวดหัว”

“ก็ได้ยินแล้วถามทำไม?”

“ก็...ถามชวนคุย...อยากรู้ว่าตะวันยังโกรธอยู่หรือเปล่า?”

“แล้วรู้หรือยัง?”

“รู้แล้ว...ตะวันไม่โกรธแล้ว!”

“ใครว่า?”

“ฉายว่าไง!...ตะวันหูหนวกหรือไงไม่ได้ยินฉายพูด!”

พี่ตะวันไม่พูดอะไรอีก แค่ขยับตัวจากที่เดิม มานั่งข้างๆผม แล้วก็เอนตัวลงมาซบหนุนไหล่ผม เหมือนที่เมื่อครู่ทำกับแม่

“เดี๋ยวพี่ขุนโผล่มาเห็นก็โกรธฉายอีก!”ผมบอก ลืมสนิทว่าติ๊ต่างว่าตัวเองไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพี่ขุนกับพี่ตะวัน...

พูดเสร็จ ผมก็แกล้งขยับไหล่หนี แต่พี่ตะวันไม่ยอมลุก หัวที่หนุนอยู่ที่ไหล่ผม เลยตกซบที่อกผมก่อนค่อยๆเลื่อนลงมาหนุนตักผมซะงั๊น...และโชคดีที่บนตักผมมีหมอนรองหัวพี่ตะวันไว้อีกที...ทำไมถึงโชคดีน่ะเหรอ...ก็เพราะว่า...ชักมีอารมณ์น่ะสิ...ชักเสียดายที่เมื่อคืนทำตัวเป็นคนดี...

“อีกตั้งหลายวันกว่าจะกลับ...”พี่ตะวันตอบ ก่อนหลับตาลง...และคงลืมไปเหมือนกันว่าผมไม่รู้เรื่องของตัวเองกับพี่ขุน

“ตะวันปวดหัว ทำไมไม่ไปนอนดีๆ”ผมถาม เมื่อพี่ตะวันยกขาขึ้นมานอนขดอยู่บนโซฟา ทำท่าคล้ายจะนอนเสียตรงนี้

“ก็นี่ไงนอนดีๆ”พี่ตะวันตอบโดยไม่ยอมลืมตา

“ฉายหมายถึงไปนอนสบายๆที่ในห้อง!”

“ตรงนี้ก็สบาย...แล้วจะสบายกว่านี้ ถ้าฉายนั่งดูทีวีไปเงียบๆ”พี่ตะวันว่างั๊น ทั้งที่อาศัยตักผมหนุนนอนอยู่

“ก็ฉายเมื่อยขา!”ผมทวงขาผมคืน

“ก็อย่าเมื่อยสิ!”แต่พี่ตะวันตอบซะงั๊น

“หัวตะวันหนักจะตาย จะไม่เมื่อยได้ไง...เร็ว! ขึ้นไปนอนบนห้อง”ผมไม่พูดเปล่า แต่ขยับเข่าสองข้างไม่หยุด แกล้งไม่ให้พี่ตะวันนอน

“ฉาย!...พี่ปวดหัวนะ!”

“ก็ขึ้นไปนอนบนห้องสิ!”

“ขี้เกียจเดินแล้วนี่นา!”

“งั๊นฉายอุ้มมั๊ย?”ผมถาม ไหลไปตามบทสนทนา แต่ก็คงทำอย่างนั้นจริงๆโดยไม่รู้สึกอะไร ถ้าพี่ตะวันยอม แถมเดียวนี้พี่ตะวันตัวเล็กกว่าผมตั้งเยอะ ผมอุ้มได้สบายๆ

“ไม่เอา...อยากนอนตรงนี้แหละ...”

“ตะวันนี่ โตจนป่านนี้ยังขี้อ้อน!”แม่พูด เมื่อเดินออกจากครัว มานั่งลงที่เดิม พร้อมวางชามสีเขียวที่ใส่ทับทิมที่แกะเป็นเม็ดๆสีแดงๆ ตัดกันฉับกับสีของชาม ลงบนโต๊ะ

“แต่ฉายขี้งอน!”พี่ตะวันว่า พลางลืมตามองว่าแม่วางอะไรลงบนโต๊ะ

“ฉาย เอาใส่ปากให้หน่อย”พี่ตะวันสั่ง ทั้งที่เพิ่งว่าผมไปหยกๆ

“ฉายไม่ได้งอน!”ผมพูด พร้อมหยิบเม็ดทับทิมใส่ปากตะวัน ที่แกล้งงับปลายนิ้วผม...เลยยิ่งทำให้อารมณ์ผมเตลิดไปใหญ่

“ไม่งอนอะไร!...ไม่สนใจโปสการ์ดที่ตะวันอุตส่าห์เอามาฝาก...ตะวันวาดรูปเองด้วย...ฉาย เอาอีก”พี่ตะวันฟ้องแม่ แถมท้ายด้วยสั่งผมให้หยิบทับทิมใส่ปากให้อีก ซึ่งผมก็เต็มใจเพราะชอบความรู้สึก เวลาที่ปลายลิ้นพี่ตะวันแตะโดนปลายนิ้วผม

“จริงสิ? ไหนน้าขอดูหน่อย”

“ตะวันฉีกทิ้งหมดแล้ว!”ผมบอก

“ก็ฉายไม่ยอมดู!”พี่ตะวันเถียง

“แม่ว่า อย่างนี้ใครขี้งอน?”ผมถามแม่

“น้าโอ๋...ตะวันอยากขึ้นไปอยู่บนดอย”พี่ตะวันเปลี่ยนเรื่อง แม่เลยไม่ต้องตอบว่าใครกันแน่ขี้งอน หากแต่ก็มองสบตากับผมก่อนยิ้มและถอนใจ เป็นอันรู้กันว่า...พี่ตะวันขี้อ้อน

“ตะวัน...อยากมีอ่างอาบน้ำกลางแจ้ง...ตอนกลางคืนก็เห็นดาว...ตะว...”ผมช่วยต่อให้ แถมเลียนเสียงอ้อนยานคางของพี่ตะวัน แต่พูดได้แค่นั้น เพราะพี่ตะวันยกแขน กำหมัดฟาดเข้าปลายคางผมเต็มๆ

“โอ๊ย...ตะวัน!...ฉายเจ็บนะ!”ผมโวย ลืมตัวผลักพี่ตะวันกลิ้งตกลงไปบนพื้น

“โอ๊ย!...ฉาย!...พี่เจ็บนะ!”พี่ตะวันลุกขึ้นมาโวยบ้าง เรียงประโยคเหมือนผมเป๊ะโดยไม่ได้ตั้งใจ...ซึ่งก็ไม่แปลกเท่าไหร่ ก็ผมโตมากับพี่ตะวัน เดินตามหลังพี่ตะวันต้อยๆมาแต่เด็ก พี่ตะวันแหละเป็นคนสอนผมพูด คำหลายๆคำ...ประโยคหลายๆประโยค...วิธีและสำเนียงเสียงพูด ก็เลียนเสียงมาจากพี่ตะวันทั้งนั้น

แล้วผมก็ล้มตัวลงไปนั่ง พี่ตะวันยืนหน้างอ จับหัวตัวเองปอยๆ มองผมขยับตัวนั่ง...จนเข้าที่เข้าทาง...พี่ตะวันก็กลับลงมานอน หนุนตักผมอีกครั้ง...แม่มองแล้วก็ถอนใจ

“น้าโอ๋บอกฉายยังว่าที่จริง...นกกระเรียนมีเกินมาหนึ่งตัว...”พี่ตะวันถามแม่ หลังจากจัดท่าให้ตัวเองนอนสบาย หัวยังหนุนอยู่บนตักผม

“นกกระเรียนอะไร?”ผมถาม หยิบทับทิมกินต่อ โดยไม่ลืมส่งเข้าปากพี่ตะวันด้วย

“ก็นกกระเรียนที่ผูกไว้ที่หน้าต่างไง...”พี่ตะวันพูดไปเคี้ยวทับทิมไปด้วย

“อ๋อ!...ที่พี่ขุนทำให้หลังจากตะวันร้องไห้อยู่สามวันสามคืนนั่นน่ะเหรอ?”ผมถามถึงวันที่พี่ตะวันคงตัดใจเรื่องน้าโอ๋ กับน้ามะ

“เออ!...ถึงคราวฉาย ฉายไม่ร้องบ้างให้มันรู้ไป!”

“ฉายร้อง...แต่ตะวันร้องมากกว่าชัวร์!”

“ขอโทษนะ...ไอ้ที่คุยกันอยู่...ที่ว่าถึงคราวฉายนี่...หมายถึงแม่หรือเปล่า?”แม่ขัด และเราเพิ่งนึกได้

“น้าโอ๋...ตะ...”พี่ตะวันคงหวังเปลี่ยนเรื่องอีกตามเคย แต่แม่ขัด

“ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง!”

“ไม่ได้เปลี่ยนสักหน่อย กำลังจะกลับเรื่องเดิมต่างหาก...”พี่ตะวันพูดอุบอิบ เบาจนแม่ไม่ได้ยิน แต่ผมได้ยิน

“บ่นอะไร ไม่ได้ยิน!”แม่ถาม

“ตะวันบอกว่า...”แต่ผมเป็นคนตอบ แต่โดนพี่ตะวันขัดด้วยกำปั้นที่ยกขึ้นมาซัดคางผมเต็มๆอีกครั้ง

“ตะวัน! ฉายเจ็บ!”ผมพูด คราวนี้เอามือกระตุกผมพี่ตะวันแทนการผลักตกพื้น

“ก็เงียบสิ...คนจะนอน หนวกหู!”พี่ตะวันว่างั๊น

“งั๊นก็ขึ้นไปนอนข้างบน!”ผมไม่พูดเปล่า ลุกขึ้นยืนไม่สนใจหัวพี่ตะวันที่หล่นหงายลงไปบนเบาะ

“ฉาย!”พี่ตะวันร้องได้เท่านั้น ก่อนกอดผมแน่น เมื่อผมก้มลงช้อนพี่ตะวันขึ้นมาอุ้มได้แบบสบายๆ

ผมหัวเราะ ซุกหน้าลงใกล้ๆแก้มพี่ตะวันอย่างลืมตัว

“เดี๋ยวฉายมานะแม่ เอาตัวหนวกหูไปเก็บก่อน!”ผมบอกก่อนอุ้มพี่ตะวันเดินลิ่ว ไม่สนใจแม่อีก...

ไม่ใช่ไม่สนใจแม่อีก...แต่ต้องบอกว่า...พยายามไม่สนใจ...

เพราะเมื่อผมบอก...เดี๋ยวฉายมานะแม่ เอาตัวหนวกหูไปเก็บก่อน...ผมบอกและหันไปสบตาแม่...และทันได้เห็น...แม่ขมวดคิ้วมองดูผม สลับกับพี่ตะวัน ที่ยังหัวเราะและกอดคอผมแน่น ...มือแม่ที่กำลังหยิบทับทิมใส่ปาก ก็ค้างไว้ห่างจากปากแค่นิดเดียว...

ผมรู้...ไม่ใช่แม่ตกใจ ที่เดี๋ยวนี้ผมโตจนอุ้มพี่ตะวันขึ้นมาได้ง่ายๆ...

ผมรู้...และนึกถึงวันนั้น...วันที่ผมบอกแม่...ฉายอกหัก...

ผมรู้...แม่ยังไม่ลืม หรือถ้าลืม ตอนนี้แม่ก็จำได้...ผมเคยบอกผมรักพี่ตะวัน

พี่ตะวันยังพูดเรื่องนกกระเรียนตัวที่หนึ่งพันหนึ่งไม่เลิก จนผมวางพี่ตะวันลงบนตียง

“ตะวันนอนซะนะ...”ผมบอกพี่ตะวัน

“ฉายเป็นไร หน้าหงิกเชียว?”พี่ตะวันถาม เมื่อปล่อยแขนออกจากคอผม เมื่อได้เห็นหน้าผม

“เปล่า...”ผมตอบ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าไม่เปล่า...วันนี้ผมไม่ใช่เด็กชายตะวันฉาย...ที่แม่พูดเล่นๆด้วยได้ว่า...อย่าบอกใครนะอายเค้า!...

วันนี้ผมโตเป็นหนุ่มแล้ว...ความรักของผม มันแตกต่างจากวันนั้น...แม่คงรู้ เมื่อเห็นผมเผลอไผลฝังหน้าซุกแก้มอุ่นๆของพี่ตะวันอย่างลืมตัว...

ต่อไปแม่คงรู้...เมื่อผมเอื้อมมือคว้าเอวพี่ตะวัน...ใจผมมันต้องการมากกว่านั้น

ต่อไปแม่คงรู้...ใจผมไม่บริสุทธิ์...แล้วผมจะตีหน้าซื่ออยู่ได้ยังไง...

“เป็นอะไร?”พี่ตะวันถามย้ำอีกครั้ง ผมจึงทรุดตัวลงนั่งข้างๆพี่ตะวัน

“ตะวันจำวันที่เรานั่งคุยกัน ตอนที่น้าโอ๋ไปแล้วสักสองสามวันได้ไหม?”

“ไม่...ตอนไหนล่ะ”

“ก็ตอนที่นั่งกินข้าวกันไง...”

“ช่วยคิดก่อนนะแล้วค่อยตอบ!”ผมรีบบอกเมื่อพี่ตะวันทำท่าจะอ้าปากตอบ โดยไม่ยอมคิดสักนิด พี่ตะวันเลยหุบปากลง ก่อนกรอกตาไปกรอกตามา

“ใครจะไปจำได้...พี่กินข้าววันละสามมื้อ มื้อละสองจาน...ฉายบอกมาสิว่าจะเอาจานไหน”คราวนี้พี่ตะวันคิดก่อนตอบ...ซึ่งก็จริง

“แล้วมันมีอะไรล่ะ”พี่ตะวันถามต่อเมื่อผมมองหน้าพี่ตะวันอย่างอ่อนใจเต็มที

“เปล่า”ผมบอกก่อนลุกขึ้นหวังจบการสนทนาแค่นั้น

“เปล่าแล้วพูดถึงทำไม?”แต่พี่ตะวันไม่ยอม

“ก็ตอนที่ฉายบอกว่าฉายรักตะวัน!”ผมพูดออกมาในที่สุด

“จำไม่ได้...แล้วมันมีอะไรล่ะ”พี่ตะวันซื่อบื้อ ฟังผ่านหู ไม่ผ่านหัว และตอบแบบไม่คิดอีกตามเคย

“ก็ถ้าจำไม่ได้ก็ช่างมันเถอะ!”

“ก็อะไรล่ะ?”

“ก็แค่จะบอกว่า...วันนั้นผมไม่ได้พูดเล่น ผมพูดจริงๆก็เท่านั้น!”

“พูดเรื่องอะไร?”

“ก็เรื่องที่ฉายบอกว่า รักตะวันไงเล่า!”ผมบอกอย่างรำคาญ ก่อนกระแทกเท้า กระแทกประตูปิด แล้วเดินลงมาข้างล่าง ไม่สนใจสักนิดว่าพี่ตะวันจะทำหน้าหรือมีปฏิกิริยายังไง

“ตะวัน!”ผมตะโกนเมื่อเดินมาถึงชั้นล่างและนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

“อะไร!”และพี่ตะวันตะโกนตอบจากชั้นบน

“แล้วอย่าลืมกินยานะ!”ผมตะโกนบอก คราวนี้พี่ตะวันเงียบไม่ตอบ

“ตะวัน!...ได้ยินไหม?!”ผมตะโกนถามย้ำ

“เออ! รู้แล้ว!”พี่ตะวันตะโกนตอบ

“ยาน่ะ ถ้าไม่กินให้ตรงเวลามันก็ไม่หาย...กินไปก็เปลืองเปล่าๆ ได้ยินไหม?”ผมตะโกนถามย้ำ เพราะพี่ตะวันเป็นประเภท ไข้ลดปุ๊บ ก็ทิ้งยาปั๊บ ไข้เลยกลับทุกที

“เออ...รู้แล้ว พูดมาก...หนวกหูโว๊ย!”พี่ตะวันตะโกนตอบอีกครั้ง และเมื่อได้คำตอบที่น่าพอใจ ผมก็เดินกลับบ้าน


ผมชื่อตะวันฉาย...อายุมากกว่าตอนที่แล้วแค่หนึ่งวัน

นกกระเรียนที่ผูกไว้ที่หน้าต่างบ้านพี่ตะวัน นับอายุรวมแล้วน่าจะสัก หกเจ็ดปี...มันมีหนึ่งพันกับหนึ่งตัวมาหกเจ็ดปีแล้ว แต่ผมเพิ่งรู้ก็วันนี้

เหมือนที่ครั้งหนึ่งเมื่อผมบอกแม่ว่า...ผมอกหัก...

เหมือนที่ผมรักพี่ตะวัน นับอายุความรักแล้วก็ สิบสองปี...ผมรักของผมมาสิบสองปีแล้ว...แต่แม่กับพี่ตะวัน คงเพิ่งรู้ก็วันนี้แหละ...

ความรักของผม จึงเหมือนนกกระเรียนตัวที่หนึ่งพันหนึ่ง...คงอยู่มานาน หากแต่คงเพิ่งรู้ว่ามีอยู่...

จบ...ความรัก กับนกกระเรียนตัวที่หนึ่งพันหนึ่ง



ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
บอกไปแล้ววววววววววววววว แต่ทำไมตะวันยังเฉยอีกล่ะ

yukisaki

  • บุคคลทั่วไป
นั่นจิๆ   ตะวันเอ๊ย  วันไหนไม่มีฉายแล้วจะรู้สึก~!!!  :m31: :m31: :m31:

ออฟไลน์ AidinEiEi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
ความรัก ข้างเดียวที่ยาวนาน มันคงใกล้ถึงจุดที่มันต้องเปลี่ยนบ้างแล้วล่นะ
แต่..มันจะไปในทางไหนว้า...... :sad2:

[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป
แหมมมมมมม

ตอนแรกก็ลุ้นอยู่ว่านกกระเรียนตัวที่หนึ่งพันหนึ่งเกี่ยวกันยังไง

มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง 555+

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
ชอบจัง เอาเรื่องมาผูกกันได้ "มีมานานแล้ว แต่พรุ่งนี้วันนี้"

แล้วตะวันทำไมเฉยหละ  o12 o12 o12

gagagaa122

  • บุคคลทั่วไป
โอ่ย อ่านตอนนี้แล้วใจจะขาด


"...คงอยู่มานาน หากแต่คงเพิ่งรู้ว่ามีอยู่..."


เฮิทเหลือเกิน สงสารฉายอะ  :m15:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6

ออฟไลน์ MeepadA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1069
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3

gift_deb

  • บุคคลทั่วไป
หวังว่าฉายคงไม่เป็นเหมือนหมอเสริมนะ แบบว่าเก็บกดอะไรทำนองนี้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
ได้บอกไปแล้ว คงโล่ง แต่ ก้อเครียดอยู่ว่าไม่มีการตอบรับจาก ใครสักคน ทั้งแม่ และตะวัน

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เรื่องของเด็กชายตะวันฉาย นายกรินกรณ์ กับพี่ชายปากบอน บ้านข้างๆ # บทที่ 15

ความรัก ทำให้ผมตาบอด


โต๊ะกินข้าวมื้อเย็น ไม่มีอะไรผิดปกติไปจากมื้อเช้า...มื้อเมื่อวาน หรือมื้อไหนๆเลยสักนิด...

แม่ยังนั่งคุยกับพี่ตะวัน...

พี่ตะวันยังกินข้าวสองจาน...และกินกับมากกว่าข้าว

และผมเป็นคนเก็บจานไปล้างหลังจบมื้อนั้นลง...

โต๊ะหน้าทีวีคืนนั้น ก็ไม่มีอะไรผิดปกติไปจากคืนเมื่อวาน หรือคืนไหนๆ เลยเช่นกัน...

แม่คุยกับพี่ตะวันบ้าง...

พี่ตะวันแอบเปลี่ยนช่องทีวี เมื่อแม่ลุกไปช่วงโฆษณาบ้าง...

และผมโดนดึงไปเป็นพวก เพื่อ ตัดสินว่าจะดูช่องไหนระหว่างช่องที่แม่อยากดู กับช่องที่พี่ตะวันจะดู...แน่นอนน่าเบื่อสำหรับผมทั้งสองช่อง...

ผมไม่รู้ว่าจะเบาใจดี ที่ทุกอย่างดูเป็นปกติ หรือจะหงุดหงิดใจ ที่คำสารภาพรักของตัวเองปราศจากการถูกเหลียวแลดี...ผมตัดสินใจไม่ถูกจริงๆ...

เมื่อยังตัดสินใจไม่ถูก ผมก็เลยปล่อยมันไปเรื่อยๆ

ความปกติผ่านไปอีกสองวัน พี่ขุนก็กลับมา...

แล้วทุกอย่างก็เหมือนปกติ...

พี่ขุนแวะมาที่บ้าน เพราะรู้ว่าพี่ตะวันคงมาคลุกอยู่ที่นี่ เมื่อพี่ขุนไม่อยู่

พี่ขุนยิ้ม...พี่ตะวันหัวเราะ...

คุยกันหอมปากและหอมคอ แล้วพี่ขุนก็ชวนพี่ตะวันกลับ...

เมื่อพี่ขุนบอกพี่ตะวันว่า...ไป กลับเหอะ...พี่ขุนยกแขนขึ้นโอบบ่าพี่ตะวัน...พี่ตะวันเหลือบตามามองผม...แม่ก็เหมือนกัน...

ผมถึงรู้ว่า...จริงๆแล้วไม่ปกติ...

ถึงเสียงหัวเราะในใจมันจะค้างขึ้นมากะทันหันอย่างกับมีคนมากดปุ่มpauseเอาไว้ เมื่อเห็นแม่กับพี่ตะวันเหลือบตามามอง...แต่ปากผมก็ยังยิ้ม แบบไม่ค้าง เหมือนไม่เห็นความผิดปกติ

พี่ขุนเดินออกจากบ้านไปพร้อมพี่ตะวัน โดยไม่ผิดสังเกตอะไร...คงเหมือนผมเมื่อวาน...หรือเมื่อ สองวันก่อน ที่คิดว่าทุกอย่างเป็นปกติดี

“แม่รู้เรื่องพี่ตะวันกับพี่ขุนด้วยเหรอ?”ผมถามขึ้น เมื่อพี่ตะวันกับพี่ขุนคล้อยหลังไปแล้ว...ผมถาม เพราะถ้าแม่มองผมอย่างเห็นใจแบบนั้น แม่ย่อมรู้ความสัมพันธ์ของพี่ขุนกับพี่ตะวัน และแม่คงรับรู้แล้วด้วยว่าผมรู้สึกยังไงกับพี่ตะวัน

“รู้เรื่องอะไร?”แต่แม่กลับถาม

“...ก็ เรื่องว่าพี่เขาเป็นอะไรกัน?...”ไม่มีเหตุผลที่ต้องเสแร้งแกล้งทำซื่อ ยังไงผมก็คิดว่าแม่รู้อยู่แล้วแน่ๆ

“ฉายถามยังกับมันเป็น...ความลับ?”แม่พูดในสิ่งที่เหลือเชื่อ...ก็ผมคิดว่ามันเป็นความลับน่ะสิ...ถึงพี่ขุนจะมากิน มานอนอยู่บ้านพี่ตะวันร่วมสิบปีแล้วก็เหอะ

“ฉายนึกว่าแม่ไม่รู้...”

“ตาแม่ไม่บอดนะฉาย!”

“แล้วพี่กบกับพี่ปาล่ะ?”

“กบ? ก็อยู่ขอนแก่นไง ส่วนปา ไม่เจอมาชาติเศษแล้ว!”แม่ตอบ ซึ่งบางครั้งผมว่าอาการตอบพาซื่อที่ไม่รู้ว่าซื่อจริงหรือแกล้งซื่อของพี่ตะวันก็ได้รับการถ่ายทอดมาจากแม่นี่แหละ

“ฉายหมายถึงที่พี่เขาก็เป็นแฟนกับตะวัน ไม่ใช่แค่เพื่อน!”ผมพูดออกมาตรงๆ และแม่ถอนหายใจ...เป็นอันว่าแม่รู้...ผมแปลได้จากเสียงถอนหายใจของแม่

“แม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”ผมถามเพราะอยากรู้ว่า ตัวเองซื่อบื้อ หลงคิดว่าตัวเองช่วยเก็บความลับของพี่ตะวันมากี่ปีแล้ว

“แล้วตะวันรู้หรือเปล่าว่าแม่รู้?”ผมถามเพราะอยากรู้ว่า ตัวเองหลงคิดไปเองคนเดียวเรื่องไหนบ้าง

“แล้ว...พ่อ...”มีอีกมากมายหลายคำถามที่คงพรั่งพรูออกจากผม โดยไม่นึกรอฟังคำตอบจากแม่ หากแม่ไม่ขัดขึ้นมาก่อน

“ฉาย!”แม่เรียกผม...ผมถึงรู้ ทุกคำถาม ผมไม่ได้ต้องการคำตอบ ไม่ได้อยากรู้อะไร มากไปกว่าปิดบังความเสียใจและผิดหวังของตัวเอง

ตลอดมาผมไม่เคยสนใจ...พี่ตะวันจะคบกับพี่ขุนยังไง...แม้อิจฉา แต่เมื่อมันเป็นความลับ...ก็ไม่มีใครรู้ว่าพี่ตะวันน่ะเป็นของพี่ขุน

แต่วันนี้ไม่ใช่...แม่รู้...แม่เองก็ยอมรับ...แม่รู้ พี่ตะวันเป็นของพี่ขุน...มันไม่เป็นความลับอีกต่อไป...พี่ตะวันไม่ใช่ของผม...ผมแกล้งหลอกตัวเองไม่ได้อีกต่อไป...

“ฉาย...”แม่เรียกชื่อเบาๆ...น้ำเสียงคล้ายจะปลอบประโลม...ซึ่งนับครั้งได้ที่แม่จะเรียกผมด้วยน้ำเสียงแบบนี้...ครั้งที่หนึ่ง...ใช่เป็นครั้งแรก...

“ตอนเด็กๆ ฉายเคยบอกแม่ว่าฉายอกหัก...”แม่เกริ่น แบบที่ผมรู้ว่าแม่จะถามอะไรต่อ

“ตอนนี้ ฉายก็ยังอกหักเหมือนเดิม!”ผมตอบ โดยไม่ต้องรอให้แม่ตั้งคำถาม

“แม่ไม่คิดว่า...”แม่พูดเท่านั้น คล้ายไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี ผมเองก็สุดจะเดาว่าอะไรคือสิ่งที่แม่อยากจะพูด

“แม่ไม่ได้คุยอะไรกับตะวันใช่ไหม?”ผมถาม มันคงยิ่งแย่ถ้าพี่ตะวันรู้ว่าแม่รู้ และก็แย่อีก ถ้าแม่รู้ว่าพี่ตะวันรู้

“คุยเรื่องอะไร?”คราวนี้ผมรู้ว่าแม่ไม่ได้แกล้งซื่อ

“ก็เรื่อง...”

“แม่ไม่พูดหรอก!”แม่รีบปฏิเสธ ไม่ต้องรอให้ผมพูดจบ

“ทำไมล่ะ?”ผมกลับเป็นฝ่ายติดใจเสียเองเมื่อแม่ปฏิเสธเสียเสียงแข็ง...ผมติดใจ การที่แม่ไม่พูดเพราะอะไร...เพราะมันไม่สมควรพูด หรือเพราะผมไม่สมควรรักพี่ตะวัน

“อ้าว!...หรือฉายอยากให้แม่พูด?”

“เปล่า ฉายแค่อยากรู้ว่าทำไม แม่ถึงบอกว่าแม่ไม่พูด...แม่ทำยังกับว่าถ้าตะวันรู้...”อีกครั้งที่ผมพูดไม่จบ

“ถ้าตะวันรู้...จะสบายใจหรือไง ทั้งฉาย ทั้งตะวัน?”แม่ถามตรงจุด แต่สายไปแล้ว...

“แม่ไม่เห็นหน้าตะวันเมื่อกี้หรือไง?”ผมถาม

“หน้าตะวันทำไม?”แม่ตอบด้วยคำถามที่ทำให้ผมนึกขัน

แม่กับพี่ตะวันต่างคนต่างเสแสร้ง แกล้งทำตัวเป็นปกติ หากแต่กลับมองไม่เห็นความผิดปรกติของกันและกันเอง...

“ตะวันก็มองฉายเหมือนที่แม่มองไง...ตอนพี่ขุนกอดตะวัน”

“กอดที่ไหนกัน!”

“อือ...แปลว่าแม่รู้ว่าตอนไหน!”

“แล้วทำไมตะวันรู้”

“ก็ฉายบอก”

“แล้วตะวันว่าไง”

“ไม่รู้...ก็ไม่เห็นว่าไงนี่”

“แม่รู้เรื่องตะวันตั้งแต่เมื่อไหร่?”ผมเปลี่ยนกลับมาเป็นคนถาม เมื่อเริ่มขี้เกียจเป็นคนตอบ

“ก็...”

“ตั้งแต่พี่กบเลยหรือเปล่า?”

“ถ้ารู้ตั้งแต่ตอนนั้น แม่ไม่เอาพี่กบไว้แล้ว ตอนนั้นตะวันยังเด็กอยู่เลย...นายปาอีกคน...นายขุนด้วย!”

“ก็ฉายเห็นแม่เปิดผ้าม่านแอบดูพี่กบกับตะวันบ่อยๆ”

“ก็แค่สงสัย...นี่ฉายรู้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วเหรอ? แล้วทำไมไม่บอกแม่?”

“แล้วตะวันรู้หรือเปล่า ว่าแม่รู้?”ผมถามต่อไม่สนใจจะตอบ

“รู้สิ...ตอนแรกแม่ก็สงสัย เลยลงแย้บๆดู...ถามมันว่า พี่ขุนไม่อยู่หลายวันไม่คิดถึงหรือไง...มันก็บอกว่าคิดถึงสิ...”

“ตะวันก็บอกว่าคิดถึงฉาย ตอนฉายไปเรียน...”ไม่ใช่เรียกร้องสิทธิ์ แต่แค่เตือนแม่ว่า แค่นั้นมันไม่ให้คำตอบอะไรได้เท่าไหร่เลย...

“ก็ แม่ก็ถามมันว่า ใช้ถุงยางบ้างหรือเปล่า...”แม่ขยายความอีกนิดเบาๆ แต่ยกมือขึ้นทำท่าปาดเหงื่อที่หน้าผากแรงๆ

“แม่ถามงั๊นเลยเหรอ?.”ถ้าเทียบกับตัวเองแล้ว บางทีผมก็ทึ่งกับความกล้าของแม่

“ก็อยากรู้นี่นา ...จะให้ถามว่าไงล่ะ?”ฟังคล้ายจะเป็นคำถาม แต่จริงๆแม่แค่ต้องการแจงเหตุผลของตัวเอง

“แล้วตะวันว่าไง?”

“มันตอบว่า...ใช้ทำไม ตะวันมีพี่ขุนคนเดียวเท่านั้นแหละ พี่ขุนก็มีตะวันคนเดียว...”แม่พูด เหลือบตามองดูผม...ผมไม่แน่ใจว่า แม่เกรงใจผม...หรือกระดากปากแน่

“ชัดเจนดี!”ผมพูดก่อนถอนหายใจ เอนหลังลงพิงพนักโซฟา ที่เมื่อกี้ก่อนพี่ขุนเข้ามา ยังมีพี่ตะวันนั่งเสแสร้งแกล้งทำตัวเป็นปกติอยู่ข้างๆ

“ใช่...ชัดเจนจนไม่ต้องสงสัยอะไรอีก!”แม่พูด และทำอย่างเดียวกันกับผมคือถอนใจและทิ้งตัวลงพิงพนักโซฟา

แล้วแม่ก็ตบบ่าผมเบาๆ มองผมอย่างเข้าใจอีกครั้ง เมื่อผมนึกจะพูดอะไรออกมาอีกสักอย่าง ผมเลยต้องหุบปากเพราะจริงๆผมแค่นึกอยากจะถามแม่ว่า...ทำไมแม่ไม่ถามแค่ว่า เป็นแฟนกันหรือเปล่า ไปถามทำไมถึงถุงยงถุงยาง!...แต่เมื่อแม่มองผมอย่างเข้าใจและตบบ่าอย่างปลอบโยน ผมเลยเลือกปิดปาก ปล่อยมันเลยตามเลย...

ผมชื่อตะวันฉาย...หลงเข้าใจว่าตัวเองช่วยพี่ตะวันรักษาความลับของความรัก มาตั้งนมนาน...
ทั้งที่ความลับที่ว่า...มันเป็นแค่ความจริง ที่ไม่มีใครพูดถึง เพราะเป็นเรื่องสุดแสนธรรมดา ที่ผมหลงทึกทักเอาเองคนเดียวว่าเป็น...ความลับ

อะไรทำให้ผมคิดทึกทักเอาอย่างนั้น...

ผมตอบไม่ได้ แต่คงไม่ใช่เพราะผมโง่...หากแต่อาจจะอย่างที่ว่ากันว่า ความรักทำให้คนตาบอด...

ความรักของผมมันปิดตา ทำให้หลอกตัวเองว่าความรักของพี่ตะวันเป็นความลับ...เมื่อความจริงมันมากระตุกผมที่หนังตา...ผมถึงต้องยอมรับว่า ทุกข้ออ้างที่ผมเคยพูดไป มันก็คือความขี้ขลาดดีๆนี่เอง...

จบ...ความรัก ทำให้ผมตาบอด

ออฟไลน์ IZE

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-3
ความารักที่ทุกคนรูแต่ไม่มีใครพูดถึง ฟังแล้ว เจ็บจี๊ดดยังไงก้อไม่รู้เนอะ สงสารฉายจัง

@^_^@PeaZa@^_^@

  • บุคคลทั่วไป
อ่าตอนนี้ แล้วจีดๆยังไงไม่รู้อีกแล้วอะ  o7 o7 o7

FOAM

  • บุคคลทั่วไป

KiKuMon

  • บุคคลทั่วไป
 o7 o7

เขียนดีจิงๆ

อ่านแล้วตลก

แต่พออ่านจบแล้วรู้สึกเศร้า

ออฟไลน์ MeepadA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1069
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3

เมื่อไหร่ฉายจะสมหวังบ้างน๊ะ  :serius2:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
เห็นด้วยครับ
ตอนอ่านอ่ะ ตลก
แต่พออ่านจบ มันรู้สึกเศร้า o7

ออฟไลน์ pongsj

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-9
แม่ฉายนี้แรงงงงงงงงงงงงงงงงงงงดีจัง ตลกดีด้วย

แต่ทำไมยิ่งอ่าน ยิ่งหัวเราะและเครียดไปในเวลาเดียวกันก็ไม่รู้ เฮ้อออออออออออออออออออ

[D]a[D]a [T]oo[N]

  • บุคคลทั่วไป
แม่ฉายดูเก่งๆนะ

หรือฉายประมาทแม่ตัวเอง............

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด