อรุณสวัสดิ์ nekko!!!
สวัสดีตอนเช้า tuckky!!!
หากระทู้ง่ายจุงเบย แทงกิ้วหลายๆ

--------------------------
จิระxจิระ
ตอน 25 บ้านของเรา
ราวบ่ายสอง...
ผมกลับจากโรงพยาบาลมาเตรียมกินข้าวเที่ยง หมอบอกไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงลุยโลด รับน้องพรุ่งนี้ก็เรี่ยมสิ อุอุ ปลื้มปริ่มไม่ถึงนาทีนกเหยี่ยวหล่อบรรลัยจักรคนนั้นก็มา
“เฮ้ยเตี้ย!”
นี่ล่ะที่ไม่ชอบ สรรพนามเรียกชื่อผมเห่ยเฟ้ยมาก อยากต่อยปากแตกตั้งแต่แรกเห็น
“กูชื่อโจ๊กเว้ย ไอ้นกกระจอก”
“กูชื่อเหยี่ยวเว้ย ไอ้เตี้ย”
“แง่มๆ!”
“งึ่มๆ!” ใส่กันเละ
“ส้มตำพร้อมแล้ว มากินก่อนเดี๋ยวเซ็ง!” พ่อมดห้ามทัพหย่าศึกกลางวง
ไม่พาสาวสวยน่ารักมาด้วยจะฟาดกบาลเจ้าไก่ชีกอตัวนี้ให้ดิ้น
เกลียดคนหล่อว่ะ สองตัวเปล่งออร่าบรรเจิดแยงตาทานไม่ไหว นายแบบเท่เซอร์กับเทพบุตรกรีก กรี๊ดดดดดดด โจ๊กออกหมัดรัวๆ ใส่ไอ้พวกหน้าตาดีว้อย สปีชี่ย์ทรยศ!!!
“แขนเดี้ยง หมอให้อยู่เฉยๆ” ดูหัวแดงบังอาจยึดจานไปจากมือผม
“หมอจะเปลี่ยนเฝือกอ่อนแล้วแต่ใครไม่ให้เปลี่ยนวะ” โจ๊กโวย
“เหรอเจฟฟรี่?” เหยี่ยวเสือก
“อือหึ...” รับคำเงียบๆ มุมปากยกยิ้มเล็กน้อยจัดอาหารใส่จานไม่ต่อความกับเพื่อน
นกกระจอกก็ขำๆ ยักไหล่ชิลเหมือนรู้กัน หมั่นไส้เกลอคู่นี้จริง
“พรุ่งนี้ทั้งสามคนไปรับน้องหมดเลยเหรอคะ ดีจัง ยูของราเชลที่มิลานสตาร์ทช้าเป็นเดือนแน่ะ อยากไปเที่ยวก่อนจะแต่พ่อยังทำงานไม่เสร็จซะที” ราเชลเลดี้หนึ่งเดียวกับชายโฉดทั้งสาม
เห็นว่าเป็นเพื่อนโรงเรียนนานาชาติมัธยมที่เก่า ควงแขนไอ้นกมา ไม่ได้แนะนำเป็นชิ้นเป็นอันนอกจาก ‘นี่ราเชล’ เออ กูรู้ล่ะคนสวยชื่อเรเชล
“ดีแล้วนี่ครับ จะได้พักนานๆ” ผมสุภาพชวนคุยตามน้ำ
“โจ๊กดูคุ้นๆ หน้ามากเลย ตาคมสวยน่ารักๆ แบบนี้เหมือนจะเล่นฟุตบอลที่ไหนหรือเปล่าคะ เรเชลเชียร์แมนยูด้วยนะ ครั้งนึงเคยสมัครพริตตี้ข้างสนามแล้วแต่ตอนนั้นเขาไม่เอา ตัวเล็กเกิน ฮิๆ” ราเชลมองเสื้อปีศาจแดงบนตัวผม
“อ้อเหรอ 555 แต่ตอนนี้ไม่เล็กแล้ว น่าจะสมัครใหม่ได้นะผมว่า”
“ราเชลไปช่วยเหยี่ยวคลุกสลัดที...ในครัว” พ่อมดเดินเทิ่งๆ มาตัดบทเรา อุ๊ตะ หมูจะหามดันเอาคานเข้ามาสอด
ผมคิดว่าตัวเองมีมารยาทพอในการสมาคมกับใคร โดยเฉพาะสาวสวยของคนอื่น เพื่อนของเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันเป็นครั้งแรก แต่หมาหน้าหงิกเป็นจวักตักข้าว แผ่รังสีมึนตึงใส่ตรงๆ เช่นนี้ (=”=) โจ๊กแอบซีเครียดว่ะ
“เจฟ...เป็นอะไรวะ” ไม่เค้ย ไม่เคยยอมใครก่อนนะเออ วันนี้ขอฟีลผู้ใหญ่บ้าง
“ราเชลมากับเหยี่ยว มันไม่ชอบให้ใครไปยุ่งกับของๆ มัน”
“อ๋อเหรอ...” ห้ามโต้งๆ คิ้วขมวดและไม่มองหน้าเวลาพูด
ชักไม่ชอบใจแฮะ ไหนมึงบอกรักกูไง หวงเพื่อนเกินไปล่ะ แล้ววันนี้เมื่อไหร่จะพูด รอฟังสามคำที่ว่านั่นอยู่นะ
“ได้แล้วค่า กินกันเถอะ ราเชลหิวแล้ว!” หญิงสาวร่าเริงถือชามไม้ใบโตกลับมา เหยี่ยวยิ้มกว้างถือจานปีกไก่ตามหลังไม่ห่าง
“อ้าวไอ้ไก่ สัตว์ปีกกินพวกเดียวกันได้ด้วยเหรอวะ นั่นไก่ทอดนะมึง” ผมแซวปนหงุดหงิดเล็กๆ อยากหาเรื่องด่าคนใจจะขาด
“โจ๊กสนิทกับเหยี่ยวจังนะคะ”
“เตี้ย มาเอาจานในครัวกะกูหน่อย” เหยี่ยว
“จานอยู่นี่ไงคะเหยี่ยว สี่คนครบแล้ว” ราเชลสดใส แต่ผมก้าวตึกๆ เข้าข้างในโดยเร็ว สัญญาณท้าต่อยของลูกผู้ชาย
กูรู้ กูไม่ได้โง่
เหยี่ยวปิดบานเลื่อนตามหลัง เดินนำผมทะลุออกไปสนามหญ้าหลังบ้านจะคุยส่วนตัว กูก็จะเคลียร์กับมึงเหมือนกันเว้ย
“นั่นราเชลเพื่อนโรงเรียนกู เขามากับกู พ่อราเชลเป็นนายหน้ามาช่วยกูซื้อที่ดิน” เหยี่ยวเปิดก่อน
“แล้วไง” ผมตาม
“ก็ไม่แล้วไง ให้เกียรติกูบ้างเตี้ย”
“มึงเรียกกูว่าไงนะ...เมื่อกี้?” เอียงหูหาเรื่อง
“โอเคโจ๊ก มึงชื่อโจ๊ก กูชื่อเหยี่ยว” เหยี่ยวยื่นมือขวามาเจรจาสงบศึก
“เออ! ให้รู้ซะบ้าง กูโจ๊กไม่ใช่เตี้ย” ผมเช็กแฮนด์คืน บีบแรงๆ ให้กระดูกแหลกไปข้าง
“555 กูชอบมึงว่ะโจ๊ก” เหยี่ยวชอบใจ
“แต่กูไม่ชอบมึง เพื่อนมึงหวงมึงกับกู ของๆ เหยี่ยวพูดมาได้ หวงเพื่อน หวงผู้หญิงก็บอกมาเถอะ เชี่ยเอ๊ย!” แบะปากเป็นเด็กพาลเพโลเวลาไม่ชอบใจ
“หะ! หวงกู? โอ๊ะโอ๋ เจฟฟรี่หวงกูเนี่ยนะ 555” เหยี่ยวตาโตก่อนหัวเราะขำตัวโยน ผมสะบัดมือออกเดินเข้าข้างใน ไม่เสียปากเรียกไก่กาอีกต่อไปแต่จะด่าในใจแทน
เจฟยืนถมึงทึงรอที่หน้าประตูแล้ว แค่เปิดครืดก็ดึงผมเข้าวงแขนหมับจนหลุดร้องโอ้ย
“กูไม่ได้ทำอะไรเล้ย เจฟฟรี่” เหยี่ยวร้อนตัว
“...ฮึ่ม...!” ผมได้ยินเสียงกัดฟันกรอดข้างหู เห็นยักษ์ถลึงตาใส่เพื่อนหากเหยี่ยวกลับยิ้มกว้างสนุกเข้าไปอีก
ช่างหัวเจ้าพวกนี้เถอะ น้ำย่อยเรียกแล้วครับ กินๆๆๆๆ (^0^)
...
...
ค่อนกระเพาะกำลังจะต่อของหวาน อุกาบาตก็มาเยือนเรา...
“ก๊อกๆ พี่เจฟฟรี่! ไหนบอกไปเรียนยูเมืองนอกไง เช่อุตส่าห์เป็นห่วง ตกลงอยู่ที่นี่ต่อจริงๆ เหรอครับ”
ใครวะเช่ คุ้นๆ แต่นึกไม่ออก แต่เสียงนี้เหมือนเคยได้ยินจากที่ไหนสักแห่ง...
“อ้าว ปอร์เช่!” เหยี่ยว
“ปอร์เช่น้องเรามาด้วยเหรอคะ!” ราเชลหันไป
“...” ผมวางช้อนดังแกร๊ง ปอร์เช่คนนี้นี่เอง
ฝรั่งคนเดียวที่เงียบกริบ รอยยิ้มส่งให้ผมเมื่อครู่ยังเหลืออยู่ทว่าแววตาหมาป่าแยกเขี้ยวเข้าสิงจากสีเทากลายเป็นสีแดงเพลิง
“ท่านพ่อให้พาพวกเจ้าซาลูกิมาว่ายน้ำ ไม่คิดว่าจะเจอพี่เจฟฟรี่ อ้อ พี่เหยี่ยวกับพี่ราเชลอยู่ด้วยเหรอครับ โชคดีจัง”
ผมจำได้อย่างแม่นยำ เด็กผู้ชายหน้าตาดีที่ร้านเค้กเนยสด รอยแดงคาคอครั้งนั้นยังติดตรึงในหัวสมองโจ๊ก โจทก์เก่าต้นเรื่องกูเองนี่หว่า (ปอร์เช่จะทราบเรื่องไหมอันนั้นโจ๊กไม่รับรู้แฮะ)
“ปอร์เช่กินอะไรมาหรือยังครับ?” เหยี่ยวถาม
“ยังเลยครับ หิวมาก มีปาร์ตี้กันเหรอไม่เห็นชวนเช่บ้างเลย อ้อ ได้ข่าวพี่เหยี่ยวจะซื้อที่ตรงนั้นต่อจากท่านพ่อใช่ไหม เดี๋ยวเช่ช่วยพูดให้นะ”
“เรื่องนี้คงไม่ต้องถึงมือน้องเช่ผู้น่ารักๆ แบบนี้หรอกค่ะ พวกผู้ใหญ่คงจัดการกันได้นะคะ...พี่ว่า” เรเชลชิงพูดด้วยหางตา ท่าทางจำเลยไม่ได้มีแค่โจ๊กคนเดียวแล้วสิ
“หมายความว่ายังไง แบบนี้น่ะแบบไหน พี่เรเชลจะหาเรื่องเช่เหรอ!?”
“หาเรื่อง อ๊ะๆๆ ไปดีกว่า ถ้วยนี้ขอนะราเชลยังไม่อิ่ม ไปก่อนนะเจฟฟรี่ เหยี่ยวไปส่งหน่อยซิ ขอบคุณสำหรับไก่ย่างอร่อยๆ นะคะ เจอกันค่ะโจ๊ก” นางยิ้มแบบพริตตี้ พริ้วมือพึ่บพั่บอย่างฝรั่ง
ราเชลฉวยถ้วยทับทิมกรอบก่อนฉุดแขนเหยี่ยวเชิดคางนวยนาดจากไป โอ้ว้าว
“พี่ไปส่งราเชลก่อนนะครับปอร์เช่ เจอกันเว้ยเพื่อน”
“เออ...!” ผมจิระที่หนึ่ง
“อืม...” หัวแดงจิระที่สองยกมือส่งลา
เหลือสองตัวนั่งหัวโด่กับ เอ่อ...กองไฟหนึ่งกอง
“ทำไมทำกันแบบนี้ล่ะ เช่ผิดตรงไหน เช่พยายามดีกับทุกคนแล้วไง ทำไมไม่เห็นใจเช่บ้าง” ปอร์เช่เสียงสลดแต่กระทืบเท้าปึงปัง
“เหลือแต่กระดูก จะกินไหม” โจ๊กเห็นใจนะไม่ใช่ไม่เห็นใจ
“นี่อะไรกันพี่เจฟฟรี่! คนนี้ใคร?” ปอร์เช่จ้องผมขวับ คิดจะบีบน้ำตาเมื่อครู่หายเกลี้ยง
“ถามว่าเหลือแต่กระดูก จะเอาไปให้หมาไหม แต่หมาพันธุ์ (หัว) สูงแบบนั้นคงไม่กินหรอกมั้งใช่มั้ยล่ะ” ผมใจเย็นอธิบายชัดๆ กะตีวัวกระทบคราด ละคำว่าหัวสูงไว้ในใจ
จริงๆ หมายความตามนั้น จงใจให้คนไม่คิดจะให้หมาหรอก มึงเคยทำกูแสบ จะรู้ตัวหรือไม่โจ๊กไม่สนอยากเอาคืนว้อย
“ไปดูหมาเถอะปอร์เช่ เชิญครับ”
“พะ...พี่เจฟฟรี่...” ปอร์เช่มองผมสลับกับฝรั่งเลิกลั่ก คงอายเหมือนกันหน้าแดงก่ำเชียว “พี่เจฟฟรี่อ่ะ!” ปอร์เช่ร้องลั่น สะบัดบ๊อบวิ่งหนีหายไปอีกคน
โจ๊กเลื่อนซาหริ่มหนีแต่ฝรั่งหาช้อนใหม่ใส่ถ้วย เท้าแขนกอดอกมองผมนิ่งไม่ไหวติง
“อะระ มองหน้าหาเตี่ย”
“หึหึ”
“หัวเราะหาพ่อง!”
“555”
“อยากตายรึไง”
“5555555555” ดูมัน
ก่อนจะเงียบ เขาเงียบผมก็เงียบรอวัดใจ เรานั่งอยู่ตรงนั้นไม่ได้ขยับไปไหน
“ผมไม่เคยล่วงเกินลึกซึ้งกับปอร์เช่ เคยไปไหนมาไหนด้วยกันก็จริง...แต่ไม่”
“ไม่ได้อยากรู้” โจ๊กคอแข็ง ซดน้ำกระทิโฮกๆ สีเขียวเหลืองชมพูเส้นซาหริ่มปรากฏเต็มชาม
“เขาโกหกผม”
“โกหกว่า?” หูตูกระดิกไปไหนฟะ
“ว่าเล่นเปียโนได้ แต่จริงๆ ไม่ใช่ เลี่ยงตลอด”
“ไม่รู้โว้ย!”
ไม่อยากรู้
ไม่อยากได้ยิน
ไม่อยากแคร์ด้วยแต่แม่งหงุดหงิดฉิบหาย
“คืออย่างนี้ ผมรู้จักกับน้องตอน ม.5 เขาอยู่ ม.2 เข้าใหม่ เข้าหาเหยี่ยวก่อนแต่นั่นกับผม แล้วก็เลิกกันไม่คุยตั้งแต่ตอนนั้น เขาก็มีคนของเขาไป ตอนเจอคุณเมื่อกี้คริสติน่าไม่บอกเหรอว่าน้องคบอยู่กับเพื่อนวงโย แฟนเก่าราเชล”
“หา...แฟนเก่าราเชล!?” มิน่าราเชลถึงของขึ้น ปอร์เช่แย่งแฟนสาวเจ้านี่เอง
“แต่ตอนนี้ราเชลมีแฟนเป็นรุ่นพี่สถาปนิก คิดว่าคงจะไปเรียนดีไซน์ที่มิลานด้วยกัน เสียดายฝีมือไวโอลิน” มือใหญ่จิบเบียร์อีกๆ อธิบายเรื่อยๆ ผมตาสว่างโร่ตักซาหริ่มเข้าปากสบายใจ
“คบกัน นานไหม?” ไม่ได้อยากรู้เลยจริงจริ๊ง
“ไม่เรียกว่าคบด้วยซ้ำ เขามีคนอื่นซ้อนอยู่ เดือนนึงหรือเทอมนึงหว่า”
“มันเท่าไหร่กันแน่!?” ผมหันควับ
“ไม่รู้จำไม่ได้ มันไม่ใช่สำหรับผม แล้วอยากรู้เรื่องบนเตียงด้วยหรือเปล่า”
“เออ พูด!”
“ผมใช้มือ ส่วนเขาใช้ปากให้ ไม่เคยสอดใส่”
“พรวดดดดดด...!” น้ำกระทิกระจาย
“555” ยักษ์หัวเราะอีกแล้ว เส้นประสาททางอารมณ์เสียหายขนาดนี้น่าจะตรวจที่โรงพยาบาลกับผมนะบ่องตง
“...บ้าเอ๊ย พูดมาได้กลางโต๊ะกินข้าว” โจ๊กอ้อมแอ้มเช็ดปากเปื้อน ถูกมือใหญ่แย่งทิชชู่ไปเช็ดให้เอง นุ่มนวลจนเคลิ้ม
สบตาสีเทาอ่อนโยนแล้วทนไม่ไหว ผมลุกจากโจ๊กไปล้างมือที่ซิงค์แก้เก้อเปลี่ยนบรรยากาศ
‘คนเก่าคือคนเก่าเจฟฟรี่ไม่เคยวอแวด้วยเด็ดขาด เลิกแล้วเลิกเลยไม่เหมือนเหยี่ยว ไอ้นั่นถ้ามีผลประโยชน์อยู่ก็ยังคุยด้วยเหมือนเดิม แบดบอยส์ขนาดนั้นยังมีคนเข้าหาตลอด เชื่อเขาเลยเพื่อนคู่นี้’
เอเจเคยนินทาเพื่อนตัวเองให้ฟังขณะไปต่อคอมพิวเตอร์ที่บ้านผม แจกแจงว่าตองไปถามเอเจถึงแผงในตลาด เจฟฟรี่เป็นคนยังไง ไว้ใจได้ไหมทำนองนั้น ตอง ปิง เอเจ 3 คนนั้นรู้จักกันครับอยู่ย่านเดียวกัน
แรกสุดเอเจไม่รู้ คิดว่าที่เอากีตาร์ไปซ่อมคือเจอกันโดยบังเอิญ แต่งงตรงยักษ์หัวแดงใช้ให้เอาคอมพิวเตอร์ไปให้กับลากรถโฟลค์ตู้มาที่คลินิคนี้ เอเจจึงคิดว่าเรารู้จักกันถึงคุยให้ฟังเล่นๆ
(เชี่ยเอเจมันดูออกตั้งนานแล้วครับ สายตาซากุระหงิธรรมดาที่ไหน เพียงแต่เลือกไม่ยุ่งและช่วยปิดความลับให้เท่านั้นเอง ; โจ๊ก)
ผมทราบสมญา ‘เจ้าชายคอนดอม’ กับ ‘พ่อมดถุงยาง’ ของเหยี่ยวกับยักษ์แดงเพราะเอเจเป่าหู ยังแย้งในใจว่าเอเจพูดผิดเนื่องจากไม่สนใจอี๋อ๋อกับเนื้อโจ๊กเลยแม้แต่น้อย
ใช่ซี้ จิระไม่มีเซ็กส์แอพเพียวต่อเกย์เพศ (=”=)
...
ลุกมายืนซ้อนหลังผม โอบแขนล้วงล้างมือจากก๊อกเดียวกัน มือใหญ่ผสานนิ้วมือผมผ่านน้ำเย็น
“คุณทำให้ผมฟิวส์ขาด โจ๊ก...จุ๊บ...” จูบหลังหู กลิ่นเบียร์ติดปากชวนรู้สึกเมาตาม
“...(=///=)...” ท่านี้มัน พลาดล่ะ
“ไม่เป็นตัวของตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่า...อืม...” ก้มเลียหลังคอ
“...(>///<)...” จุดอ่อนกู ขนลุกซู่แต่ขยับหนีไม่ได้ ร่างถูกเบียดติดเคาน์เตอร์แน่นหนึบ
ผมเสก้มลงบ้วนปากล้างคราบ โอ้แม่เจ้า ซัมธิ่งทรงกระบอกกระทุ้งร่องตูดโจ๊ก เย้ดเข้!!!
เอาวะ ล้างหน้าเลยละกัน ไม่เกรงใจจะคว้าไลปอนเอฟมาสระหัว ออกร้อนวูบวาบเหมือนจะเป็นไข้จับสั่น
“อา...นิ่งๆ” เริ่มซอยโจ๊กแล้วอ่า
“เชี่ย...!” ผมหมดความอดทน กลัวก้นงามงอนจะสูญเสียส่วนเว้นส่วนโค้งจึงหมุนตัวหันกลับไปเผชิญหน้า...ซึ่งผิดท่าครั้งที่สอง
(+///+) ทำไมไม่มีใครบอกเค้าก่อน!!!
“อึกๆๆ” ยกขวดเบียร์โชว์ลูกกระเดือกขึ้นลงตรงหน้า ยังไม่หมดขวดผมฉวยมาเสียก่อน น้ำเมาราดอกแกร่งจนกลิ่นอาหาร โจ๊กยกซดหลายอึกที่เหลือลงคอก่อนวางปังหวังดับความร้อนพุ่งพล่าน
ฉิบหายแล้วตู กระทิของหวานเมื่อครู่ทุบหัวสมองลงคลอง
เอ๊ะ ผมเห็นมันรูปงามตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
โปรดอย่าหลงมนตราของซาตานผมแดงเชียวครับ นั่นกายพรางของพ่อมดจอมเจ้าเล่ห์ต่างหาก
“โอเค ไปกัน...อึ๊บ!” อุ้มผมใส่เอวพาเข้าห้องรับแขก
โอ้ ม่ายยยยยยยย!!!
...
...
> > > > > ตุบ!
ทุ่มผมลงบนเดย์เบดสีดำตัวใหญ่ในห้องลิฟวิ่งท่ามกลางแอร์เย็นเฉียบ
“เจฟ! เดี๋ยวๆๆ คุยกันก๊อนนนน!” โจ๊กร้องเสียงหลง
“ไม่คุย...ฟอด จุ๊บ...!”
ทุกอย่างครับ ขึ้นคร่อมพร้อมระดมหอมแก้ม คิสซ้ายขวาแขนขาหัวหู ร่างกายตรงไหนว่างฝรั่งจัดเต็ม
“เจฟฟฟฟฟ! มึงยังไม่ได้บอกรักกูเลยเชี่ย...!” ผมนอนหงายกลางเบาะนุ่ม เนื้อตัวอ่อนปวกเปียกแต่พยายามปัดป้องพัลวัน
“หือ...?” ยักษ์หื่นชะงัก ผงกหัวขึ้นมามอง
“บอกกู คำสามคำของมึงน่ะ”
“เฮ้ยจริงดิ 555” มันขำอ่ะ
“เออ! วันนี้ด้วยนะมึง ไม่ใช่พรุ่งนี้”
“55555” หัวร่อหน้าหงายปางตาย ก้มกัดพุงผมอีก (>///<) เจี๊ยก
“กะ...ก็รู้สึกดีนะ ดีมากแต่เหมือนจะยังไม่พร้อม อะ...ซี้ด”
กระพริบตาปริบๆ แมวอ้อนหวังเปลี่ยนฟีล
จิระยังไม่ศึกษาข้อมูลเชิงลึกเลยพ่อ จะให้ลงภาคปฏิบัติเร็วเกินคงมีเฟลเสียเซลฟ์ไปทั้งชีวิต ไหนๆ ก็ชายคนแรกขอปั้นหล่อหน่อยเถิด ขอร้อง
“ฟู่...” ยักษ์สะกดกลั้น
“นะเจฟนะ เพิ่งอิ่มส้มตำด้วย คอหมูย่าง เนื้อแดดเดียวด้วย” โจ๊กจิ้วนิ้วมั่วซั่ว ลำคอ หัวไหล่ ไหปลาร้ากับร่างใหญ่ที่นอนคร่อมผมอยู่ “เบียร์อีกต่างหาก”
“คุณยั่วผม...จุ๊บ!”
“อื๊อ...!” ยั่วที่ไหน อยากร้องตะโกนแต่ถูกจูบหนักๆ ที่มุมปากรุนแรงจนเจ็บก่อนดึงผมลุกนั่ง
สองมือประคองใบหน้า เราสบตากันขณะร่างกายอีกฝ่ายต่างร้อนผ่าวทั้งคู่
“อย่าโกรธผมเลยนะ อยู่กับผมที่นี่...บ้านของเรา” จูบหัวเหม่งประกอบคำรับสารภาพ
“แต่นั่นน่ะ...” เขินกับ้านของเรา ยิงเร็วไปไหนตามไม่ทัน
“เป็นเพื่อน เป็นคู่ชีวิต เป็นคนๆ นั้นของผม...จิระ”
“เจฟ...” ผมอ่อนยวบ หน้าไหม้เข้าไปอีก ประกบทับมือใหญ่ที่จับใบหน้าผมเบาๆ
“ส่วนเรื่องเซ็กส์คุณไม่ต้องคิดมาก ไม่เป็นไรหรอก รอได้ พร้อมเราค่อยไปด้วยกัน”
“มึงจะ...ไหวเหรอ”
(>/////<)
ที่พุ่งชนหน้าตักกูคืออะไรครับ หลักฐานค้านคำบอกเล่าของจำเลยรักมาก
“ผมอยู่โดยไม่มีใครมาตั้งนาน แค่นี้จิ๊บๆ” แล้วก็หัวเราะสบายใจ ดึงผมชิดเข้านั่งกลางหว่างขาสบายอารมณ์
“อ้อ” หลอกเด็กสามขวบให้โอบรอคอเขาไว้
“เรื่องเซ็กส์ แค่...นิดนึง” ได้ยินเสียงกระซิบปลอบโยน
“อือใช่...นิดนึงเท่านั้น” ผมอ้อมแอ้มรับคำพร้อมซบลงสูดกลิ่นน้ำหอมเจือจางบริเวณซอกคอ
เป็นเกย์นี่ดีจริงๆ สะอาดเอี่ยมชวนหลงใหลทุกอณู
โอ๊ะเอ๊ะ อัลไรแข็งๆ ไม่ยอมอ่อนเสียที (=///=)
โจ๊กขี่กลางหว่างขาคือไม้กวาดนิมบัส 2000 ชัวร์ป๊าบ ดุ้นใหญ่แข็งแรงสะใจพระเดชพระคุณท่าน ลืมว่าว่าไซส์ฝรั่งโอเวอร์กว่าไทยหลายเท่า
‘เราต้องบ่ยั่น มุ่งมั่นจับกดเท่านั้นอย่ายอมแพ้’ ผมฮึดฮัดปลุกปลอบใจเสือป่าทั้งๆ ที่รู้สึกหวิวหวั่น ปั่นป่วนในท้องน้อยมากขึ้นและมากขึ้นทุกที
...หน้าแดงร้อนเห่อ
...ชีพจรเต้นแรงไม่เป็นส่ำ
...อุณหภูมิหัวใจไม่ต้องพูดถึง เหวี่ยงจังหวะรุมบ้าตั้งแต่เจอนวดสะโพกที่ซิงค์ครัวโน่นแล้ว
พ่อแก้วแม่แก้วลูกอยากปิ๊กบ้าน (>///<)
...
ผมน่าจะฉุกใจไวสัมผัสกับคำว่า ‘นิดนึง’ ของเจ้าโย่งนี่ เพราะเหตุใดถ้าไม่ลืมจะเล่าให้ฟัง
ความหมายจริงๆ (ของมัน) แปลผิดจากหน้ามือเป็นหลังมือ อาทิเช่น เรากำลังสื่อความนัยว่า เรื่องเซ็กส์แค่เป็นเรื่องเล็กๆ จิ๊บๆ ชิลๆ ไม่สำคัญอันใดดั่งคำ ‘นิดนึง’ ห้อยท้ายกระนั้นแล
ไอ้เรารึแอบวางใจ ที่ต้องคิดหากระบวนท่าพิชัยยุทธเพื่อฟาดฟันพญาช้างสารของมันให้ล้มคว่ำคงยังพอประวิงเวลาได้อยู่
อ๊ะๆ พวกคุณฟังไม่ผิดหรอก ชื่อเรื่องก็บอกจิระเป็นพระเอก ชายเหนือชายเท่านั้นคือโพสซิชั่นที่เราต้องการ
...
...
ใช่...ผมควรจะระวังคำนี้อย่างยิ่งยวด ไม่รวมอากัปกิริยาเวลาพูดที่ไม่ยอมสบตา เสมองดินมองฟ้าเรื่อยเปื่อยพร้อมเอ่ยช้าๆ เบาๆ ต่อหางประโยคแบบห่างๆ ไม่ให้สกิดใจ
“เรื่องเซ็กส์ แค่นิดนึงเองนะ” ผมรีพลีทซ้ำตามพ่อมดท่านว่า ลูบเส้นผมสีแดงในอุ้งมือช้าๆ นุ่มนวลให้กำลังใจอีกฝ่าย
“อือหึ...”
“ขอบคุณนะเจฟ”
“ด้วยความยินดีครับ”
“แบบนี้กูชอบแฮะ” ผมยิ้มกว้าง
“หึหึ...ผมก็ชอบ...จุ๊บ” จุมพิตหน้าผากแผ่วเบาพร้อมร่ายเวทย์มนต์ของเรา “ผมรักคุณมากต่างหาก...จิระ”
“อืม...เหมือนกัน” ผมพริ้มนัยน์ตารับสัมผัส เผลอบอกความนัยจากก้นบึ้งของหัวใจ
เรากอดกันอยู่อย่างนั้นจนรู้สึกสงบ (สำหรับผม)
“ปะ! ไปดูลูกหมาหน้าบ้านกัน”
“โอเค!” ผมตอบรับ
วางมือลงกับฝ่ามือใหญ่ จิระเราก้าวเดินออกไปพร้อมๆ กัน
*************มันเดย์
อ้อ! ติ่งท้ายแป๊บ
ตัวแดงต่อจากนี้ถือเป็นเซอร์วิสเฉพาะผู้ที่แวะมาในนี้
หากมีโอกาสรวมเล่มจะตัดทิ้งเพื่อความสมบูรณ์ตามไทม์ไลน์...เฉพาะ 2J
อันนี้เหยี่ยวไม่รู้ ถ้ารู้คงไม่ให้ลง แต่หมั่นไส้มันครับปล.1 ข้อนี้โจ๊กแค้นฝังหุ่นมาก...
เท้าความถึงอนาคตนะไม่เกี่ยวกับไทม์มิ่งปัจจุบัน
ผมเจออีกคนที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับเจ้าหัวแดงในอนาคตไม่ใกล้ไม่ไกลโน้น โจ๊กเรียนจบปี 3 กำลังพักซัมเมอร์รอขึ้นชั้นปีสุดท้ายเพลาดีได้ฤกษ์ไปเที่ยวเกาะกูด ฮิ้ว! (^0^) ที่นั่นผมพลันได้พบกับเด็กน้อยที่เคยค้างในใจเมื่อครั้งในอดีต
เด็กที่อยู่ในรูปติดฝาผนังบ้านผม เด็กที่หน้าเหมือนเจ้าเจ หลายชายโจ๊ก ลูกน้อยของเจ๊กับเฮีย
เรามาพบบรรจบกันขณะนั้นคล้ายจิ๊กซอว์ต่อลงตัวเป๊ะ
เด็กผู้ชายที่ชื่อ...ลมเหนือ
เจ้าเด็กตัวขาวสูงโย่งร่างบางๆ คนนั้นยืนเด่นเป็นสง่า สว่างไสวโอโม่เตะตากว่าใครๆ ท่าสองมือเกี่ยวหูกางเกงที่ผมคุ้นชินชวนสะดุดใจตั้งแต่แรกเห็น
เอียงหน้า 45 องศาหล่อเทพเกินชาวบ้านชาวช่องเหมือนยักษ์หัวแดงไม่พอ ท่าทีบวกการวางตัวสุขุมนุ่มลึกกินยากโขลกเจ้าพี่ชายหมาใหญ่ตัวนี้สุดเขี้ยว
ที่กว่านั้นครับ...คำพูดเวลาคับขันของมันคือ 'นิดหน่อย'
ถูกต้อง!!! ไอ้คำว่านิดหน่อยของมันบันดาลให้โจ๊กปวดหัวสุโค่ยถึงขั้นปล่อยโฮกลางโรงพยาบาลมาแล้ว
"ผมไม่ชอบแดดนิดหน่อยครับพี่โจ๊ก"
นั่นคือตอนชวนลงเรือแคนู ณ เกาะกูดสถานที่เกิดเหตุแรกสุด แต่ไม่สนเพราะกูอยากเล่นไง ลากคอน้องลงเรือฉิบ แอบกินแรงขอพี่นั่งหน้านะน้อง มึงนั่งหลังจัดการพายไปอย่าโอ้เอ้
ชั่วโมงกว่าๆ มั้งพากลับขึ้นฝั่ง โอ้โห ผิวขาวจั๊วะเปลี่ยนเป็นแดงโร่ประหนึ่งไก่ย่างถูกเผา แถมเชงค์คัลเลอร์จะๆ ต่อหน้าต่อตาด้วย ผมตกใจมากไม่คิดว่าคุณหนูจะแพ้แดดรุนแรงมากถึงขนาดนั้น
'โตมาได้ยังไงวะ!?' แอบด่าในใจ
...
"ผมแพ้ผงชูรส..นิดหน่อยครับ"
อันนี้เดือนกว่าๆ ต่อมาตอนรับน้องโควตา ม.K ไอ้น้องเลิฟคนที่ว่าจับพลัดจับผลูเป็นรุ่นน้องมหาวิทยาลัยโจ๊กเอง ผมเป็นหนึ่งสตาฟช่วงนั้นกำลังยุ่งๆ เทคโฟโต้เก็บภาพวุ่นอยู่จึงไม่ได้เอะใจ
พูดอย่างไม่อายว่าตอนนั้นกูลืมจริงๆ ลืมแบบเมมในหัวสมองหายไปน่ะเข้าใจชิมิ
ข้าวเกรียบกุ้งชิ้นสองชิ้นเข้าปากเท่านั้นเจ้าเด็กเวรได้สมญาลมรวยเพื่อนทันที แม่งล้มตึงกลางแถวน้องๆ เฟรชชี่อ่ะ นาทีนั้นผมใจหล่นวูบถึงตาตุ่ม หน้าโจ๊กซีดกว่าหน้าคนเจ็บเสียอีก
'มันจะตายไหมวะ!?' เดินวนรอหน้าห้องฉุกเฉินคิดมากไปร้องไห้ไป
น้องโดนถ่ายท้องโคม่านอนให้น้ำเกลือเป็นวัน มหาวิทยาลัยผม คณะผมเกือบดังเป็นข่าวหน้าหนึ่งเลยคิดดู
เล่าให้ฟังเพราะนั่นแหละ นิดนึงกับนิดหน่อย (>""<) โคตรแสบเลยพี่น้องคู่นี้!!!
ปล.2 คิดว่ารอได้ของมันคือกี่วัน?---------------------------
อ่านเจฟฟรี่เก็บเหตุการณ์ที่พาแมวเข้าบ้าน
แล้วแมวตัวนั้นแง่งๆ ใส่คนอื่นจนบ้านแตกได้ที่นี่
(เหตุการณ์เกิดขึ้นในอนาคต+พ่อมดใส่ไข่ด้วยนะเออ)
ลมเหนือ ตอนออกเรือ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=20598.msg1287237#msg1287237