ื----nekko อรุณสวัสดิ์
----tuckky สวัสดีตอนเช้า

***********************
จิระxจิระ
ตอน 28 หงุดหงิด
ผมหงุดหงิด
ใช่ โมโหฉุนเฉียวบวกกังวลเอามากๆ
เหยี่ยวมาปลุกราว 11 โมงถึงรู้ตัวว่านอนเปลือยในห้องลิฟวิ่งชั้นล่างเพียงคนเดียว ยังดีที่มีผ้าห่มกันอุจาด
ตื่นมาแบบไม่มีจิระอีกคน...ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด
16.00 น. บ่ายสี่โมง สูดลมหายใจก่อนยืนนิ่งๆ ปล่อยสไตลิสต์จัดเสื้อผ้าบนตัว
“วันนี้น้องเจฟฟรี่ทำงานด้วยง่ายจังเลยค่ะ หน้าดุตรงคอนเซปต์ได้ใจพี่จริงๆ เสร็จไปต่อด้วยกันไหมคะ พี่เลี้ยงเอง” สาวสวยสูงวัยกว่าผมมาก
“...” ผมเงียบไม่ตอบ หลับตาให้ช่างแต่งหน้าเติมเมคอัพ
“เจฟฟรี่เข้มนะฮ้าวันนี้ ซีเครียดในจอนอกจอเชียว ขอถมดำอีกนิดนึง โอเคฮ่ะดาร์คลุกแวมไพร์แบดบอยส์ เริ่ด! คืนนี้จะควงไปทั้งอย่างนี้ล่ะ ไม่ต้องล้างออกนะเจ้ชอบ” ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสอง
“นี่หล่อน!”
“อันยะอันยองอันใดฮะคุณพี่ น้องเค้าอยากไปกับเจ้ต่างหากจ๊ะขุ่นพี่ชะนีเจ้าขา”
“แต่พี่จำได้ว่าตั้งแต่น้องเจฟฟรี่เดินเข้ามา น้องเขายังไม่ได้พูดตกลงอะไรกับใครเลยไม่ใช่เหรอคะเจ้”
“เอ๊า อีนี่!”
“สาวๆ เสร็จแล้วกรุณาถอยครับ” ช่างภาพหย่าศึก
วันนี้เอเจนซี่รับสองงานซ้อน งานแรกถ่ายรูปโฟร์ไฟล์บอดี้ปัจจุบันพ่วงทำคลิปเดินแบบส่งให้บริษัทเสื้อผ้าที่มิลานคัดเลือกอันนั้นเสร็จแล้ว ส่วนงานที่สองถ่ายรูปเสื้อผ้าลงแมกาซีนขายที่ไต้หวัน ผมกับเหยี่ยวไม่รับงานเผยแพร่ในไทย ผลิตงานที่นี่แต่ส่งออกแทน นโยบายโมเดลที่สังกัดและความต้องการส่วนตัวรวมกัน
“สีหน้าโมโหอย่างนั้นดี โอเค” ช่างภาพกดชัตเตอร์ไปเรื่อยๆ
...อยากรู้เด็กตาคมอยู่ที่ไหน
...ถึงบ้านแล้วหรือยัง
...โกรธผมอยู่ไหม
...
...
“ทางนี้ๆ นี่พี่ธร ยกมือไหว้ปรมาจารย์ซะ พี่ธรนี่โจ๊กเพื่อนผมครับ ให้มันยืนเกะกะแถวนี้หน่อย ชอบกล้องแต่แขนเดี้ยง” เหยี่ยวกับเสียงหัวเราะของทีมงานฉุดสติผม
“สวัสดีครับ”
ฉิบหายแล้ว!!!
ตาคมที่ผมคิดถึงแทบตายยกมือไหว้ตากล้องและสตาฟ
พี่ธรช่างภาพหยอกเหยี่ยวว่าต้องถ่ายซ่อมหมดเพราะสีหน้าลั้ลลาเกินหน้าชุดที่สวมผิดคอนเซปต์ที่วางไว้ เหยี่ยวโอดว่าจะแกล้งไม่ให้ไปเที่ยวกับนางแบบดังก็บอกมาเถอะ
จิระของผมคอแข็งเมินไม่มองกันเลย แต่เขาตามมาถึงสตูดิโอ ยะฮู้!!!
...
“ดูกูโจ๊ก” เหยี่ยวอวด
“เข้าไปได้แล้วเร็วๆ จะได้เสร็จ นางแบบหลักพี่จะมาถึงแล้ว” พี่ธรผลักเหยี่ยวเข้าแทนที่ผม
“...หุบหางหน่อยสหาย” เหยี่ยวเตือน do not wag your tail, doggie แต่ระงับอาการไม่ลง
“หึหึ”
พลุไฟระเบิดปุ้งกลางอก ดอกไม้มีสีสันแจ่มใสทันตา
ผมลืมทุกอย่างตรงดิ่งออกไปหาทันที เราหยุดยืนนิ่งตาสบตา ท่ามกลางผู้คนมากมายผมอยากโดดกอดรัดเขาให้กระดูกหักไปข้าง
“อะแฮ่ม! ขอพื้นที่โฟโตกราเฟอร์หน่อยครับ เจฟฟรี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลย เก็บเหยี่ยวช็อตนี้เสร็จรอเช็กรูปกับพี่อีกแป๊บ เพื่อนเรากวนตีนว่ะแกล้งมัน” พี่ธรว่า
ผมรับทราบ นำทางไปยืนพิงผนังดูการทำงานของสตูดิโอชั่วครู่ ท่ามกลางบรรยากาศโกลาหลย่อมๆ ผมกับเขายืนเคียงข้างกัน แขนขวาทิ้งข้างลำตัวให้ผมเลื่อนมือไปแตะหลังมือเขาเบาๆ
ตาคมค้อนลมฟ้าอากาศนิดๆ เก๊กขรึม
ไร้คำพูด ทว่า...
นิ้วก้อยเราเกี่ยวกันเล็กๆ วะฮะฮ่า!!!
...
...
ร้านอาหารอเมริกัน ผมสั่งสเต็กปลา เหยี่ยวซัดสลัดล้วนๆ เหตุผลง่ายๆ ขี้เกียจเข้าฟิตเนส ไม่เสร็จศึกยังไม่นับศพทหาร รอประกาศผลคัดเลือกโมเดลเพื่อเดินแบบก่อนถึงจะจัดหนัก
“มาหาพวกกูถูกได้ไงวะโจ๊ก?” เหยี่ยว
“แท็กซี่” เคี้ยวซี่โครงหมูย่างหนึบหนับท่าทางเอร็ดอร่อย
“อ้อ” เหยี่ยวโคลงศีรษะ ยักคิ้วเล็กน้อยลอบสบตาผมยิ้มๆ
ผมกับจิระของผมนั่งคู่กัน เหยี่ยวนั่งเบาะฝั่งตรงข้าม
“บ้านเป็นยังไงบ้าง?” ผมเอ่ยถามสุภาพสุดๆ ระมัดระวังไม่ให้แมวไหวตัว กลัวหายครับ
“ไปบ้านมาเหรอ คุณแซมเล่าให้ฟังอยู่ ขยายร้านถึงไหนแล้ววะ เรียบร้อยดีหรือเปล่า ไปวันนั้นยังไม่ปูกระเบื้องเลยนี่หว่า” เหยี่ยว
“จะเปิดอาทิตย์หน้าโน้น หลังเปิดเรียน 3-4 วันไม่แน่ใจ รอเจ๊ได้ฤกษ์ชัดๆ อีกที”
“แกรนด์โอเพ่นนิ่งบอกด้วยนะเว้ย อยากกินฟรี” เหยี่ยว
“กวนว่ะ”
“555”
ปล่อยสองคนคุยกันเอง เหยี่ยวกวนโอ๊ยช่วยเบรกมาคุได้มากโข ผมเป่าปากโล่ง ไม่มีเพื่อนพระเอกคงไม่กล้ายุ่งกับเขา
ความผิดติดหน้าผาก เมื่อคืนบอกปาวๆ ว่าไม่
แต่ผมตีเนียนรุกเร้าอาศัยช่วงชุลมุนสาวให้จนท่อแตก วันนี้ถึงหวงตัวไม่ยอมให้เข้าใกล้จนผมใจแป้วนั่งไม่ติดอยู่นี่
เอาน่า โกรธจริงคงไม่กลับมาหรอก
“บอกน้าจุ๋ยแล้วว่าจะไปเสิร์ฟน้ำ” ผมได้โอกาสร่วมสนทนา
“ใคร” หันมาค้อนขวับ มีปฏิกิริยาตอบกลับถือว่าโอเควะ
“ก็นี่แหละ เอเจอีกคน” ผมชี้ที่เหยี่ยวกับตัวเอง ดวงตากลมโตเบิกโพลงเล็กน้อยไม่เชื่อ
“อ้าวๆ เห็นหล่อๆ อย่างนี้เหยียบขี้ไก้ไม่ฝ่อนะเว้ย อาทิตย์กรุ๊ปกับมารีน่ามีโรงแรมในเครือที่ไหนกูถูกส่งไปเป็นเทรนเนียร์ตลอดแหละ เบลล์บอย ดอร์แมนเปิดประตู ทรานสปอร์เตอร์ยกกระเป๋า ทำครัว ถูพื้น ล้างห้องน้ำ ทิ้งขยะ พูดแล้วจะหาว่าคุย”
“คุยว่า” ผมชงมุกเล่นกับเพื่อน
“เหนื่อยค่อดดดดด...ใช้งานเยี่ยงทาส” เหยี่ยวป้อแป้
“555” เราหัวเราะขำ
...
เหยี่ยวขาว ลูกชายคนเดียวของบริษัทอาทิตย์กรุ๊ปดำเนินกิจการด้านอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม พ่อกับป้าดัดนิสัยหลานชาย คนของผมตาโตอุทานว่าไม่เชื่อเด็ดขาดจึงให้มีเรื่องคุยต่อ
“เคยทำกับมันที่โรม เก็บโต๊ะเบรกฟัสต์ 7 ถึง 11 โมง ใส่นาฬิกาวัดก้าวที่เพิ่งออกใหม่ด้วยตอนนั้น ใช่ไหมเหยี่ยว” ผม
“ใช่ เดินเกือบ 30 กิโล น่องโป่งเท่านี่” เหยี่ยวกางแขนเท่าบ้าน
“จริงดิ 555” จิระของผมหัวเราะเสียงใส
เหยี่ยวเล่าเรื่องที่ผมเคยรู้ ช่วงเด็กๆ ดื้อเพ่งทำไมต้องเรียนมารยาทบนโต๊ะอาหาร ฝึกการเข้าสังคมกระทั่งบังคับให้รู้ภาษาเพิ่มตั้ง 5-6 ภาษา
“กูไม่อยากไง ทำไมต้องเรียนช้อนส้อม ตัดเสื้อผ้าแต่งตัว ป้าพากูกับน้องขึ้นไปบนดาดฟ้าแล้วชี้ลงมา คนนั้นเป็นขับรถ คนนั้นผู้บริหาร ทุกคนมีลูกเล็กๆ มีครอบครัวต้องดูแล เราอยู่ตรงนี้เพราะนามสกุลอาทิตย์ชิงดวง คนส่วนใหญ่เลือกที่จะเป็นไม่ได้แต่เราเลือกได้” เหยี่ยวยิ้มๆ
“หึหึ” ผมยิ้มๆ ฟังบ่อยแล้ว
“ป้าถามกู แล้วลูกเลือกจะเป็นอะไร จากนั้นมากูได้หมด อยากให้เรียนอยากให้รู้อะไรจัดมา เป็นไงเล่า”
"เด็กดีซะงั้น" จิระของผม
"ชิล" เหยี่ยวตีคิ้วดิกๆ กวน
“มึงใช้ได้”
“555” ผมเทคมือเพื่อน เหยี่ยวหัวเราะร่าชอบใจ
“ไม่รู้เลยนะเนี่ย” คนของผมยิ้มๆ ชื่นชมอีกคน
เหยี่ยวเสริมว่าโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ที่ไม่ไปปาร์ตี้ต่อเพราะอยากรอผลจ๊อบนายแบบก่อน อีกทั้งไม่อยากขาดเรียนภาษาเยอรมัน
“ต้องตัดใจบ้าง ไปกูต้องเมา ฟิตหุ่นมาก็เฟล มันบอกไม่ไปด้วยไม่มีเพื่อนเลยไม่รู้จะไปทำไม” เหยี่ยวชี้ที่ผม
“ไม่ไปเหรอ น่าสนุกออก เจอนางแบบเซเลปดังๆ” จิระหันมาถามผม
วูปี้!!! คุยกับผมแล้วโว้ย
“...ฮึ...” ผมยักไหล่
“เซมๆ เหมือนทุกที พวกกูรับงานส่งออกเฉพาะข้างนอกด้วยแหละ ไม่อยากถูกกอซซิป ไม่มีนักข่าวมาตามยุ่มย่ามแถมลุคจะเฟรชกว่าเยอะเพราะหน้าไม่ช้ำไง ไม่เหมือนไอ้กาย” เหยี่ยวเล่าวงการ
“กายเป็นยังไง?” ผมไม่ชอบชื่อกายออกจากปากคนนี้แฮะ
“กายรับงานในนี้แต่น้อย บ้านรวยพ่อแม่มันเลยไม่อยากให้ทำเยอะล่ะมั้ง กลัวลูกใจแตก โมเดลลิ่งคนละค่ายด้วย ไม่เกี่ยวกันหรอก”
“อ๋อ” พยักหน้ารับฟัง
เหยี่ยวเป็นคนเล่าว่ากายรับงานถ่ายแบบเดินแบบในไทย ต่างจากผมสองคน
“ทำเวลาหน่อยเหยี่ยว อ้อ สูตรกับชาเจนช์ท้าแข่งกูฟอร์เวิร์ดให้แล้ว ค่อยคุยกัน” ผมตัดบทเคาะหน้าปัดเตือนชั่วโมงเรียนภาษา บอกจ๊อบไซด์ไลน์อีกหนึ่งอย่างที่กระทำร่วมกัน เล่นหุ้นเพาะไข่ทองคำ
“ใจเว้ยเจฟฟรี่ โอเค เจอกันเว้ยโจ๊ก” เหยี่ยวลาโรง
เหยี่ยวทำหน้าที่ออกคำสั่งซื้อขาย ผมพ่อมดเจาะข้อมูล บอร์ดที่เล่นประจำมีคนวิเคราะห์และทิ้งสูตรการเทรดไว้ พี่จากัวร์ รุ่นพี่คนรู้จักในนั้นจึงเสนอรถยนต์ล่อใจอีกชั้น ใครทำล้านแรกภายในระยะเวลาที่กำหนดจะลดดาว์นซูเปอร์คาร์ให้ขับไปจากโชว์รูมได้ทันที
เหยี่ยวอยากได้ลัมโบร์กินีผมถึงถูกหางเลขตามมาติดๆ
...
...
ในรถไฟฟ้า...
เมื่อเที่ยงมารถเหยี่ยว ขากลับจะนั่งแท็กซี่แต่ใครบางคนอยากใช้บริการ BTS ครับ
ผมได้อยู่แล้ว ไม่ชอบแค่คนมองเราตรึม
“ฮ้า! บริษัทพ่อไอ้เหยี่ยวเป็นคนให้ทุนเหรอ มีเงินมหาศาลขนาดนี้ทำไมยังรับจ๊อบอยู่อีก มิน่าเพื่อนกูชื่อนุ้กถึงเพ้อคลั่งว่าหล่อรวยล้นฟ้ามาก กรี๊ดสุดๆ”
หน้ากรงเจ้าเจสเตอร์ที่เพ็ทชอป...
“ทำไมไม่เคยรู้เลยว่ากายรับเฉพาะในไทย ทอฟฟี่เคยเอารูปให้ดูอยู่นะแต่จำไม่ได้ ถ่ายแค่ภาพนิ่งเหรอ เดินแบบด้วยหรือเปล่า มีงานแสดงเป็นดาราทีวีด้วยไหม”
ในบ้าน ข้างลู่วิ่งที่ผมออกกำลังกาย...
“แล้วเอเจ ต้นกับพวกเพื่อนคนอื่นๆ เป็นดารากะเขารึเปล่า หรือแค่กายคนเดียว”
“โจ๊ก!” ผมเหลืออด พูดถึงคนอื่นเยอะเกิน เพลียรูหู
“อะไร พูดด้วยก็ไม่พูดด้วย เงียบตั้งแต่กินข้าวแล้ว ถามนิดถามหน่อยแค่นี้เอง...ไอ้เรารึนึกว่าจะไม่สบายซะอีก”
“เป็นห่วงผมเหรอ”
“แง่งๆๆ”
“หึหึ พันธุ์เดียวกับเจ้าเจสเตอร์หรือเปล่า ไหนดูซิ”
ผมอารมณ์เปลี่ยน ก่อกวนจนได้ดี มองปากจู๋พองแก้มขมวดคิ้วยุ่งจนผมใจอ่อน
“คุณอยู่กับผม โจ๊ก” บอกความรู้สึกตามความสัตย์
“แล้ว?” มองตาแป๋วโคลงศีรษะเป็นคิตตี้น้อยน่ารักไร้เดียงสา ทราบว่าผมมาคุหรือแกล้งเล่นกันแน่
“แล้วไม่อยากได้ยินชื่อคนอื่น” กัดฟันตอบความจริง
“ไม่ชอบเหรอ?”
“อืม...”
“ไม่ชอบมากมั้ย?”
“อือ!”
กดปิดเครื่องวิ่ง หยิบผ้าขนหนูคล้องคอเดินหนีเข้าบ้าน ตาคมกับริมฝีปากฉ่ำเจื้อยแจ้วเชื้อเชิญให้คว้ามาจูบติดหมัด คุยต่ออาจได้กดคาห้องนั้น หึงโว้ย!!!
...
ก้าวฉับๆ ตามถึงครัว...
“กูยังโกรธมึงอยู่นะ”
“โกรธว่า?” ผมเปิดตู้เย็นหาน้ำดื่ม หยิบขวดน้ำแดงออกมาด้วย
“...” เม้มปากเงียบ
สายตาหลุบต่ำไม่ตอบ เสมองลูกกระเดือกผมขณะดื่มน้ำ เห็นกลืนน้ำลายเอือกๆ ตาม (^^) เจ้าลูกแมวเอ๋ย
ย่างสามขุมรุกคืบดันอีกฝ่ายถอยหลังไปติดขอบโต๊ะ
“ไม่พูดก็ไม่มีทางรู้หรอก อึ๊บ!”
ยกร่างเล็กกว่าขึ้นนั่งโต๊ะทานข้าว แผ่นไม้สีแดงเข้มทรงกรมแบบเดียวกับอู่มอเตอร์ไบค์บ้านของเขา ดีไซน์ธรรมดาพื้นๆ แต่ผมชอบ ฝันอยากกดเขานอนครางบนนี้ตั้งแต่วันแรกเห็นแล้ว
“ก็...” แกว่งขาห้อยไปมาแรงๆ ผมเสือกตัวยืนแทรกกลางหว่างขาไม่ให้หนี
“ก็ว่า?” เทน้ำแดงใส่เหยือกช้าๆ ไม่เดือดร้อน เขย่าให้เข้ากันก่อนยกดื่มเอง
“มึงเอากูอ่ะ!”
“อุ...แค่กๆ” เกือบสำลักตาย
“ตรงนี้เลยหน้าบ้าน กระจกรอบ ม่านก็ไม่ปิด แถมไฟสว่างโร่ด้วย”
“555” คุณต้องเห็นหน้าจิระของผมตอนนี้ (ไม่บรรยาย เก็บไว้ดูคนเดียวครับ ; เจฟฟรี่)
“หัวเราะหาหอก! โรคจิต ตัณหากลับ หื่น ชอบโชว์!”
“ไม่ได้ชอบโชว์ ผมปิดม่านแล้ว ดิมไฟลงจนมืดก่อนจะดูหนังกับคุณแล้วด้วย”
คิดว่ารอบคอบพอตัว ปิดบ้านโอเคหมดถึงไปอาบน้ำแล้วถึงมานอนบิวเด็ก ยกเว้นว่า
“เอ๋ เหมือนจะเปิดเองแหละ หรือว่าปิดวะ ลืม แหะๆ”
“หา!?” ผมแสร้งตกใจ
“เอามานี่ กินคนเดียวแบ่งผีเหยียบอำไม่รู้ด้วย...อึกๆ” บ่นงุบๆ หน้าแดงกว่าน้ำแดงในเหยือก แย่งไปดื่มคำโต
“ไม่มีใครเห็นหรอกครับคนเก่ง ไฟมืด กำแพงบ้านเราสูงจะตาย” ผมปลอบโยน โน้มจูบมุมปากนุ่มช้าๆ แลบลิ้นเลียน้ำแดงมุมปากอีกฝ่าย...อร่อย
“จริงนะ”
“จริง ปิดไฟทดลองดูตอนนี้เลย ไม่มีใครเห็นชัวร์...ฟอด” สวมกอดเขาพร้อมหอมแก้มเอากำไรเต็มๆ
ผมแทบสิ้นใจครั้งตื่นมาไม่เจอร่างเล็กที่นอนกอดทั้งคืน ถ้าเหยี่ยวไม่เร่งให้แต่งตัวออกไปทำงานด้วยกันคงยกเลิกทั้งหมดแล้วออกตามหาเขา...เข็ดครับ
“ชิ! ตาไม่สั่งกูไม่กลับมาหรอก จะไปหาหออยู่คนเดียวแล้ว”
“ตาพูดว่ายังไงบ้างครับ เล่าให้ฟังหน่อย” พยายามมีสติ ลูบมือนวดหัวเข่าเด็กดื้อนุ่มนวล
“ตาให้เอาพระมาให้ พูดว่าใจร้ายกับคนที่เขาดีกับเรามันเป็นบาป นะหลาน เฮียก็ดีดมะกอกกู แดงเลยเห็นมั้ย ลูกผู้ชายตัดสินใจแล้วก็ต้องลุยให้ถึงที่สุด เจ๊โยนโจ๊กมาให้ แบกมาโคตรร้อน ป่านนี้เย็นหมดแล้วมั้ง” ชี้ที่เป้ตัวเอง
“ฟู่...คุณทำให้ผมเป็นบ้าโจ๊ก ตื่นมาไม่เจอคุณผมเป็นยังไงรู้มั้ย เกือบแคนเซิลงานแล้วด้วย” คิดถึงสภาพย่ำแย่เมื่อบ่าย วัดใจว่าแมวหนีเที่ยวของผมจะกลับหรือไม่ อภัยให้ผมหรือเปล่า อยากล่มงานไปหาโดยเร็ว
“หน้าดุชิบหาย คอนเซปต์ประเภทไหนทำไมชอบกันจัง พี่ธรให้ผ่านได้ไงวะ”
“...จุ๊บ...!” ผมไม่ตอบ จูบแก้มเขาแทน
พูดเข้าหูเสียเมื่อไร บอกหยกๆ ว่าห้ามมีชื่อคนอื่นคั่นกลางระหว่างเรากลับมาพี่ตากล้องโผล่มาอีก
“นี่ๆ บอกไม่เอาไง ไม่งั้น...” ยันหน้าอกห้ามผม
“โจ๊กครับ เรายังไม่เอากัน ใช้มือให้แบบนั้นสำหรับผมไม่เรียกว่าเอา”
“แล้วเรียกว่าอะไร แฮนด์ทูแฮนด์แลกเปลี่ยนสสาร”
“มั้ง” เกรียนกลับคืนบ้าง “Up to you...”
“โด่...กวนว่ะเจฟ อัพทูกู”
แขนคล้องคอซุกหน้าไหม้กับอกผมหนีปัญหา น่ารักชะมัด
“ผมรักคุณ...”
กดริมฝีปากจูบศีรษะหนักๆ
หวังทุกๆ คำที่เอ่ยจะฝังเข้าไปในหัวไม่มีวันเลือนหาย
“อือ...ทุกวันนั่นแหละ”
“พูดให้ฟังแค่คนเดียวนี่ล่ะ อยากให้ได้ยินทุกวัน...ขอจูบหน่อยได้ไหมครับ” มีแมวให้อ้อนอย่างนี้ก็สบายแฮ
“เรื่อง!”
“น่านะ คิดถึงคุณทั้งวัน ลงแดง”
“ยังไม่ได้แปรงฟัน แต่เอ๊ะ! เมื่อกี้ตกลงกันว่ายังไง หยกๆ เลยมึง ถ้าคิดจะอยู่ด้วยกันต่อต้องห้ามทำรุ่มร่ามทั้งต่อหน้าและลับหลัง กฎข้อแรกของเรา จำไว้”
“อ้าว” ผมเกาหัว ใครเป็นเจ้าของใครกันแน่วะ
“ไม่อ้าวแหละ เมื่อกี้โอบเอวกูต่อหน้าพวกพี่ธรนั่นด้วย ยางอายน่ะมีมั้ยครับคุณหื่น”
“555 ก็ของผม จิระของผม”
ผมไม่ได้โมเมเองนะครับ ยอมให้นัวเนียขนาดนี้ไม่เมารักก็บ้าแล้ว
“งั่ม!”
“โอ๊ย!”
คนหรือแมวกัดมาได้ บ่าผมแดงเป็นรอยฟันเจ้าเหมียว ต้องดัดนิสัยเป็นการส่วนตัวเสียแล้ว
“ต่อไปห้าม มือปลาหมึกเก็บไปเลย” ห้ามผมปาวๆ
“งั้นคุณต้องไม่พูดชื่อคนอื่นให้ผมได้ยินเหมือนกัน”
“เฮ้ยอะไร คนเราต้องมาสมาคมกับชาวโลก”
“เฉพาะตอนอยู่ด้วยกันสองคน ตรงนี้ในนี้ บ้านของเรา”
“โย่! จะพาไปหนาย มะอาววว!” ขัดขืนร้องโวยวาย ยากครับกระดูกคนละเบอร์
ผมอุ้มใส่เอวพาเข้าห้องนอนแขกใกล้ๆ โดยไว
“อาบน้ำแปรงฟันอยากจูบ แล้วก็...แมวดื้อของผมต้องฉีดยาโรคพิษสุนัขบ้า หึหึ” ผมงับคอขาวๆ เอาคืน
“อ๊า! เชี่ยเจฟฟฟฟ...”
*************ซี ยู เลขหลังเสื้อของเหยี่ยว