ตอน 6
ผมคิดว่าตัวเองคงเป็นบ้าไปแล้วที่นั่งกินโจ๊กไปแล้วยิ้มไปแบบนี้ แค่ความห่วงใยเล็กๆน้อยๆของเขาก็เหมือนว่ามันทำให้ผมมีแรงขึ้นเป็นกอง
Rrrrrrrrrrr
“ครับพี่ต้น” ผมกดรับเจ้าเครื่องมือสื่อสารทันทีที่เห็นชื่อของคนโทรเข้า
(ตื่นแล้วใช่ไหม กินข้าวกินยาหรือยัง)
“กำลังกินข้าวอยู่ครับ”
(อย่าลืมกินยาล่ะ ตอนเที่ยงจะเอาอะไรไหมเดี๋ยวพี่ซื้อเข้าไปให้) เสียงทุ้มถามอย่างอ่อนโยน และมันก็มีผลให้หัวใจผมเต้นแรงได้เหมือนเดิม
“ไม่ดีกว่าครับ วันนี้ผมมีเรียนด้วย เดี๋ยวไปกินที่โรงเรียนดีกว่า”
(ถ้างั้นกินข้าวกินยาแล้วนอนพักสักหน่อยแล้วค่อยไปเรียนนะ แค่นี้นะเดี๋ยวพี่ไปดูลูกค้าก่อน)
“ครับ” เขาวางสายไปแล้วแต่ผมยังกำโทรศัพท์ไว้แน่น ออกจะแปลกใจอยู่เหมือนกันที่พักหลังๆพี่ต้นดูเหมือนจะใส่ใจผมขึ้นเยอะ แต่ผมก็ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองเท่าไหร่ เพราะพี่ต้นเขาก็ดีกับคนอื่นเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
หลังจากที่ผมกินข้าวกินยาแล้วผมก็ดันเผลอหลับไปเพราะฤทธิ์ยาตื่นมาอีกทีก็เกือบ 11 โมงแล้วเลยต้องฝืนสังขารวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อจะได้เตรียมตัวไปเรียน ในช่วงบ่าย แต่วันนี้สงสัยคงต้องโหนรถเมล์เพราะลูกรักของผมดันมาเสียเมื่อวาน
ปริ๊นๆๆ เสียงแตรรถยนต์ทำให้ผมสะดุ้งก่อนที่ พอร์ช คันงานจะจอดขวางทางผมไว้ อ้าว กวน..แล้วไอ้นี่ เป็นใครวะ ถึงผมจะเรียนคหกรรมแต่ก็เด็กช่างนะครับ โดนแบบนี้เส้นมันกระตุกยิกๆ
“ไอ้ไม้ ขึ้นรถ” ไอ้คนขับมันเรียกผมพร้อมๆกับกดสวิชเปิดประทุน แหม ลดกระจกลงก็ได้มั้ง และผมก็ต้องตกใจอีกรอบเมื่อไอ้คนที่อยู่ในรถคือเพื่อนรักของผมเอง
“เชี่ยแทน มึงขโมยรถใครมาขับวะ อ้อ กูรู้แหล่ะ มึงชิงโชคจากรหัสใต้ฝาชาเขียวได้เหรอ แมร่งโคตรโชคดีเลยว่ะ”
“ห่า นี่รถกูเว้ยไม่ได้ไปขโมยหรือชิงโชคอะไรทั้งนั้นแหล่ะ ขึ้นมาเร็วเดี๋ยวไปสาย” มันบอกก่อนที่ผมจะกระโดดขึ้นรถมันทันที ดีซะ
อีกจะได้ไม่ต้องโหนรถเมล์
“นี่รถมึงจริงดิ” ผมถามหลังจากที่นั่งมาได้สักพัก
“เออสิ ถ้าไม่ใช่กูจะขับมายังไงล่ะ ไอ้นี่ถามแปลกๆนะมึงน่ะ”
“อ้าวก็ร้อยวันพันปี กูเห็นมึงขับมอไซต์ตลอด ไหงวันนี้เปลี่ยนมาขับรถยนต์ล่ะ มึงเคยบอกว่าไม่ชอบไม่ใช่เหรอ” ผมถามเพราะจำได้มันเคยบอกว่า มันไม่ชอบนั่งรถยนต์เพราะมันอึดอัดสู้ขับมอไซต์ให้ลมพัดหัวเล่นดีกว่ามันรู้สึกอิสระกว่าเยอะ มันเป็นคนอินดี้แบบนี้แหล่ะครับ ผมชินแล้ว
“ช่วงนี้หน้าฝน” ผมตอบเสียงนิ่ง หน้าฝนแล้วมันเกี่ยวด้วยเหรอ
“หน้าฝนแล้วมันเกี่ยวอะไรวะ” โอเคล่ะ ปากไวกว่าใจคิดอีกผม
“ก็กูไม่อยากให้มึงเปียกแบบเมื่อวาน” ไอ้แทนตอบ แต่คำตอบของมันเล่นเอาผมพูดไม่ออกไปเหมือนกัน ทำไมมันต้องห่วงผมขนาดนั้น ทั้งๆที่มันก็รู้ว่าผมคงตอบแทนความรู้สึกดีๆของมันไม่ได้
“ไอ้แทน”
“หยุดเลยนะมึง ไม่ต้องคิดเชี่ยอะไรทั้งนั้น กูทำเพราะกูอยากทำ ไม่ได้เจ็บปวดหรือเดือนร้อนอะไร เพราะฉะนั้นมึงมีหน้าที่รับก็รับไว้เฉยๆพอ ไม่ต้องรู้สึกผิดเพราะมึงไม่ผิด เข้าใจไหม….หรือมึงลำบากใจ” มันบอกเสียงเบา นั่นเป็นประโยคสุดท้ายที่เราคุยกันก่อนที่รถจะตกอยู่ในความเงียบ
Rrrrrrrrrrrrrrrr เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้นท่ามกลางความเงียบที่แสนอึดอัด ผมเห็นว่าไอ้แทนเหล่มองนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้มี
ท่าทางสนใจอะไร
“ครับพี่ต้น”
(พี่ว่าจะโทรมาถามว่าเราไปโรงเรียนยังไง รถเสียไม่ใช่เหรอ ให้พี่ไปส่งไหม)
“เอ่อ ผมออกมาแล้วครับพี่ ไม่ต้องห่วงผมดูแลตัวเองได้” ผมตอบแปลกใจตัวเองเหมือนกันที่เลี่ยงจะตอบว่ามากับไอ้แทน
(แล้วไปยังไง) พี่ต้นถามเสียงนิ่ง
“ผม…. ผมมาแทกซี่ครับ”
“เหอะ!!” คนที่ขับรถอยู่แค่นเสียงในลำคอ ก่อนที่ผมจะรู้สึกว่าความเร็วของรถมันเพิ่มขึ้น
(เหรอ งั้นพี่ไม่กวนแล้ว อย่าลืมทานข้าวทานยาด้วยนะ จะได้หายไวไว)
“ครับ ผมไม่ลืมหรอกน่า ” ผมบอกก่อนที่พี่ต้นจะวางสายไป
แล้วเราสองคนก็กลับมาสู่สถานการณ์ที่มันน่าอึดอัดเหมือนเดิม ผมไม่รู้ว่าควรจะต้องจัดการกับปัญหาตรงหน้ายังไง ยอมว่าผมก็อึดอัดใจอยู่เหมือนกันที่ไอ้แทนมันดีด้วย แต่ผมเองก็ไม่อยากตัดเพื่อนกับมันเพราะเหตุผลบ้าๆแบบนั้น
“ไอ้แทน” ผมเอ่ยทำลายความเงียบแม้ว่าไม่มีเสียงตอบกลับแต่ผมก็รู้ว่ามันฟัง
“กูรู้นะว่ามึงเป็นห่วงกู แต่กูขอได้ไหมเรากลับมาเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิมเถอะนะ มันอาจจะฟังดูใจร้ายกับมึงแต่ว่ากูก็ไม่อยากให้มึงเสียใจ ” ในที่สุดผมก็บอกมันออกไป แม้จะดูใจร้ายแต่ผมก็อยากให้มันเปิดใจรับคนอื่นที่ไม่ใช่ผม ไอ้แทนมันเป็นคนดี มันควรเจอคนดีๆที่คู่ควรกับมัน
“มึงพูดเหมือนมันทำง่ายๆนะ ถ้ามันง่ายขนาดนั้น กูก็คงทำได้ตั้งนานแล้ว แต่กูจะพยายามแล้วกัน มึงจะได้ไม่ลำบากใจ”มันตอบเสียงนิ่ง นิ่งจนผมเดาไม่ออกว่าตอนนี้มันอยู่ในอารมณ์ไหน
“ไปเถอะ ถึงแล้ว เดี๋ยวตอนเย็นกูมารับวันนี้มึงเข้าร้านไหม”
“ไม่ วันนี้กูลาป่วย”
“อืม” มันตอบรับก่อนจะเดินแยกไปอีกทาง ผมได้ถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายทำไมชีวิตต้องมีแต่เรื่องยุ่งยากเข้ามาด้วยนะ
จนแล้วจนรอดผมกับไอ้แทนก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีกเลยแม้ว่าขากลับมันจะมาส่งผมเหมือนเดิม
“ไอ้แทน”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น กูเข้าใจแต่ของแบบนี้มันก็ใช่จะทำกันได้ง่ายๆเอาเป็นว่า ถ้ากูทำได้เมื่อไหร่กูจะบอกแต่ตอนนี้กูพอใจที่จะดูแลมึงก็พอแล้ว” มันบอกก่อนจะยิ้มให้ผม
ตัดใจจากกูเถอะนะแทน กูไม่ได้มีคาพอที่มึงจะต้องมาเจ็บปวดเพราะกูหรอกนะ
“เดี๋ยวนี้แทกซี่ เขาใช้พอร์ชกันแล้วเหรอ หรูดีนะ” เสียงทุ้มที่ผมคุ้นเคยดีเอ่ยขึ้นหลังจากที่ผมเปิดประตูเข้ามาในห้อง
“พี่ต้น ทำไมถึงอยู่นี่ ยังไม่ถึงเวลาปิดร้านไม่ใช่เหรอครับ”
“วันนี้พี่ไม่ได้เปิดร้าน เบื่อๆก็เลยมานั่งเล่น แล้วเราล่ะวันนี้ใครมาส่ง ” เขาถามเสียงนิ่ง
“อ้อ ไอ้แทนครับ”
“เพื่อนเรานี่ใจดีนะ มารับมาส่งตลอด ไม่มีบ่นสักคำ” แม้ว่าพี่ต้นจะพูดโทนเสียงปกติแต่ผมกลับรู้สึกว่าพี่เขากำลังประชดผมอยู่ แล้วเขาจะประชดผมทำไมกันล่ะครับ
“มันก็ใจดีแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะครับ”
“เหรอ แล้วชอบหรือเปล่าล่ะ”
“ครับ” ผมเลิกคิ้วด้วยความสงสัย พี่ต้นกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่กันแน่
“พี่ก็แค่ถามดู ไม้ชอบแทนหรือเปล่า”
“ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะครับ” ผมถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจนัก นี่เขาไม่รู้จริงๆเหรอว่า ผมรักใคร
“เปล่าหรอก แค่สงสัย มานั่งนี่สิ” เขาบอกก่อนจะตบที่ตักตัวเองเบาๆ
ผมนั่งลงบนตักแกร่งอย่างว่าง่าย ก่อนที่มือหนาจะค่อยๆปลดกระดุมชอร์ปของผมออก
“พี่ต้น ผม..” ผมร้องห้ามพลางจับมืออีกคนแน่น
“หืม มีอะไรครับ”
“ผมว่าอย่าเพิ่งเลยนะครับ ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลยเหม็นเหงื่อจะตาย”
“ไม่เป็นไรครับ พี่ไม่ถือ” อีกคนบอกพลางซุกไซ้ซอกคอของผมไปด้วย
“พี่ต้น แต่นี่มันยังกลางวันอยู่เลยนะ” ผมบอกพลางดิ้นออกจากอ้อมแขนแกร่งแต่มันกลับไร้ประโยชน์
“วันนี้พี่เจอ อิท” ผมหยุดดิ้นทันทีที่ได้ยินชื่อของใครอีกคน
“พี่ต้น”
“แต่อิทไม่เห็นพี่หรอกนะ เขาดูมีความสุขดีดูเหมือนจะมีแฟนใหม่แล้วด้วย” พี่ต้นบอกเสียงสั่น พลางกอดผมไว้แน่น
“เขาคงมีความสุขดี ใช่ไหมไม้ อิทเขายิ้มด้วยนะ ยิ้มกว้างเชียวล่ะ”
“อิทเขา”
“พอสักที!!” ผมตะคอกก่อนจะพลิกตัวแล้วหันหน้าเข้าหาพี่ต้น
“ผมจะช่วยพี่ให้ลืมมันเอง” ผมบอกก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากของพี่ต้นทันที
ผมทำอะไรโง่ๆ ลงไปอีกแล้ว….
แม้จะรู้ตัวดีว่าต่อให้พยายายามแค่ไหน ผมก็ไม่มีทางแทนที่ คนในอดีตของเขาได้ แต่ผมก็ยังจะทำ
ผมนี่มัน น่าโง่จริงๆ…..
“อิท ต้นรักอิทนะ”
ผมปิดหูตัวเองแน่น พยายามไม่ฟังคำบอกรักที่เหมือนน้ำกรดที่สาดเข้ามาในใจนั่น แต่ต่อให้หนียังไง ผมก็คงหนีความจริงไม่พ้นอยู่ดี ความจริงที่ว่า
พี่ต้นไม่เคยรักผมเลย…
...................................TBC.................................
สั้นเนาะ
พี่อิท มาแค่ชื่ออีกแล้ว ฮ่าๆๆๆ
เดี๋ยวตัวจริงจะตามมา นะคะ ๆ
ตอนนี้กำลังคิดว่า เฮ้ย!! ระหว่าง น้องไม้ กะน้องแทน ใครหน่วงกว่ากัน ฟร่ะ
เหมือนคนที่น่าสงสารสุดจะเป็นน้องแทนนะนั่น น่ะ
พระรองเด่นไปนะเรื่องนี้ ฮ่าๆๆๆ
ไปดีกว่า #สังเกตไหมว่ามันชอบมาดึกๆ
ถ้าจะอ่านแบบรวดเร็วทันที พิตแนะนำว่า นิยายพิต อัพหลังห้าทุ่มค่ะ