“มึงจะกินกันเลยเปล่าเนี่ย ของสดน่าจะใกล้ได้แล้ว” ฟลุ๊คหมายถึงแม่บ้านน่าจะทำการเตรียมของสดไว้ให้ใกล้จะเสร็จแล้ว
“ติดเลยก็ได้เฮีย อีกสักพักจะได้กินเลย”
“นี่ชวนใครมาเพิ่มหรือเปล่า เพื่อนมัธยม ประถม มึงอ่ะ”
“เปล่า” โฟล์คส่ายหัว “คนเยอะแล้ว ถ้ายังไงค่อยชวนพรุ่งนี้อีกทีก็ได้”
“อือ”
พี่ฟลุ๊คจุดเตาบาร์บีคิวด้วยถ่าน เขานิ่งพัดจนมันเริ่มติดจากนั่นไฟจึงค่อยติดหลอมถ่านเป็นสีส้มสด นายหัวรูปหล่อยืนกระพือคอเสื้อตัวเอง ภาคใต้แทบไม่มีความหนาว เอาเข้าจริงคือไม่มีฤดูหนาว มีแต่ฤดูร้อน กับร้อนมาก และฝนที่ตกตลอดปีเท่านั้นเอง
ฟ้าค่อยๆครึ้มลงพอดีกับที่อาหารและเครื่องดื่มถูกยกมาเสิร์ฟพอดี พวกเพื่อนๆขึ้นจากน้ำ ส่วนเป๊กกับแยมก็วางหนังสือลงแล้วมายืนล้อมโต๊ะอาหาร โฟล์คทำหน้าที่เจ้าของบ้านที่ดียืนปิ้งเนื้อ ปิ้งกุ้ง ปลาหมึก ส่วนนายหัวฟลุ๊คเป็นพ่อครัวใหญ่ จัดการปูม้าตัวโตให้ ทั้งเผา ทุบ แกะอย่างดี แทบไม่มีเนื้อเหลือติดกระดอง
“โห เฮีย สวยฉิบหาย” เตร้องบอกอยู่ข้างๆพี่ฟลุ๊ค รายนั้นโยนก้ามสวยงามลงบนถาด
“เออ ไปกินไป” พี่ชายตัวโตหัวเราะอารมณ์ดี “นี่แม่กูเตรียมขนมหวานให้อยู่มั้งเนี่ย ดีใจจะแย่เพื่อนลูกมาบ้าน”
“โหๆ เลี้ยงดีแบบนี้อยู่ยันตายได้เลยอ่ะเฮีย”
“วุ้ย เรื่องของมึง” พี่ฟลุ๊คส่ายหัว
น้ำชายืนถือจานอยู่ข้างๆโฟล์ค เขาช่วยตัดและหั่นชิ้นเนื้อ ไอ้เป๊กเดินมาบอกว่าเดี๋ยวจะมาเปลี่ยนมือ ตอนนี้ขอแดกก่อน ก็ดียังพอมีน้ำใจ ไอ้โฟล์คไม่ว่าอะไร งับเนื้อนุ่มๆจากมือเขาไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็คงอิ่มเอง
“ดีจังมีมึงมาด้วย” มันพูดยิ้มๆขณะพลิกปลาหมึกสีสวย ถ่านปะทุอยู่ข้างใต้ ย้อมใบหน้าของผู้ชายผิวแทนให้ดูสวยงาม
“บ้านมึงสวย”
“ภูเก็ตเละไปเยอะ... นักท่องเที่ยวเยอะแยะ มาเฟียต่างชาติอีก แต่มึงรู้ไหม กูก็ยังรักบ้านเกิดกูเสมอ”
“อืม”
น้ำชาหยิบกรรไกรเตรียมตัดปลาหมึก แต่แสงไฟจากหน้ารถคันหนึ่งก็วิ่งตัดมาเสียก่อน เขาชะงัก พอดีกับที่โฟล์คและฟลุ๊คหยีตามอง กระทั่งมินิคูเปอร์ คันทรี่ คันนั้นจอดสนิท คนขับดับเครื่อง ปิดไฟหน้ารถและลงมาจากรถพร้อมกับถุงข้าวของมากมาย พี่ฟลุ๊คพยักเพยิดหาโฟล์คก่อนหันไปโบกมือให้กับผู้มาใหม่
“ว่าไงตอง” พี่ฟลุ๊คตะโกนทักทาย ผู้ชายตัวเล็กยอมผมสีอ่อน ผิวขาวหยวกแบบลูกผู้ดี หน้าตาจิ้มลิ้มฉีกยิ้มให้อย่างสดใส มือถือถุงข้าวของพะรุงพะรังมา
“...ตอง” โฟล์คเองก็พึมพำเรียกชื่ออีกฝ่ายหลังจากเงียบไปนาน ก่อนที่ผู้ชายตัวโตจะฉีกยิ้ม และอีกฝ่ายยิ้มอย่างน่ารักตอบ
“โฟล์ค…”
“ไหนตะกี้โทรบอกว่าจะไม่มา”
“เปลี่ยนใจเซอร์ไพรส์ไง”
โฟล์ควางที่คีบในมือลงก่อนเดินไปหาตอง เขายืนมองคนตรงหน้าอยู่นิ่งๆนานหลายๆนาทีก่อนเอื้อมมือไปกอด คนตัวเล็กจมหายไปในอ้อมกอดกว้างอยู่นานสองนาน ก่อนที่จะค่อยๆละกันออกมา…
“ไม่ได้เจอกันนานมากตอง” โฟล์คหัวเราะแผ่วๆ อีกฝ่ายพยักหน้า ยื่นของในมือให้
“สองปี...ครั้งสุดท้ายเจอกันตอนโฟล์คอยู่ปีหนึ่ง”
“เรานี่นิสัยไม่ดีเลยว่ะ ฮ่าๆ” โฟล์คส่ายหัว “ตองจะมาหาที่กรุงเทพฯก็ไม่เคยว่าง”
“โฟล์คยุ่งน่า รู้…” ตองยิ้มๆ
“ที่ญี่ปุ่นเป็นไงบ้าง อีกกี่ปีจบล่ะ”
“สองปี เราปรับพื้นฐานไปสองเทอมเลยช้ากว่าโฟล์คไปหนึ่งปีไง”
“ตองยังเรียนดีไซน์อยู่ใช่ไหม”
“อืม” คนตัวเล็กพยักหน้า “เพิ่งมาถึงเหรอ”
“อือ วันนี้เอง” โฟล์คตอบ แววตาฉายชัดถึงความสุข น้ำชามองคนรักก็รู้ดี ตองคงเคยเป็นคนที่สำคัญมากๆ...ของโฟล์ค เพราะมันเป็นคนแบบนี้แหละ ไม่มีทางลืมหรือลบเลือนใครที่สำคัญไปจากใจ “ตองล่ะ…”
“เรากลับมาได้เกือบอาทิตย์แล้ว หยุดเทศกาลปีใหม่ตั้งเกือบครึ่งเดือน ไม่มีอะไรทำ กลับบ้านดีกว่าคิดถึงอาหารไทย” ตองยิ้มตาหยี “อ่า...แล้วก็ในนั้นมีเหล้า ช็อกโกแลต เราซื้อเสื้อมาฝากด้วยไม่รู้จะชอบไหมแต่เห็นแล้วนึกถึง”
“ขอบใจนะ” โฟล์คยิ้มๆ
“เฮ้ย ตอง!!!” เสียงกายดังมาจากริมสระพอดี ตองหันไปมองก่อนยิ้มกว้าง โบกไม้โบกมือ แยมกับเตเองที่นั่งกินอยู่ด้วยกันก็ถึงกับหูผึ่ง
“ตอง!”
โฟล์คถอยออกมาหลังจากที่เพื่อนมัธยมได้เจอกันอีกครั้ง เขาหันกลับมามองก่อนนึกขึ้นได้ว่าเขากำลังทำอะไรค้างไว้อยู่ ก่อนจะเห็นน้ำชายืนปิ้งเนื้อสัตว์เงียบๆ ชายหนุ่มรีบสาวเท้าไปยืนข้างๆแล้วยกมือวางบนศีรษะ
“ร้อนไหม”
“ไม่อ่ะ แต่เดี๋ยวหมดตรงนี้พักก่อน ให้เป๊กมา”
“......อืม” โฟล์คพยักหน้า “ไม่มีอะไรจะถามเหรอ”
“ก็ไม่นี่”
โฟล์คยิ้ม “ตองเป็นเพื่อนตั้งแต่เด็กเลย พ่อแม่รู้จักกัน พอมัธยมก็ไปเรียนที่โรงเรียนประจำด้วยกันที่กรุงเทพฯ มันน่ารักมาตั้งแต่เด็กๆ ยิ่งขึ้นมอปลายยิ่งน่ารัก”
“...แล้ว” น้ำชาเลิกคิ้ว
“จะหึงไหมน้า…”
“หึงอะไร” เขาขมวดคิ้ว
“ตอนมอสี่ตองแม่งโคตรน่ารักเลยจีบ แล้วก็เป็นแฟนกัน คบกันได้จนถึงปีหนึ่งแปบเดียว...ก็เลิกกันไป”
“อืมมม” น้ำชาครางรับในลำคอ
“แฟนคนแรกที่จริงจังเลย”
ไฟบนเตาลุกไหม้โหมควันจนแสบตา น้ำตายกมือขยี้น้อยๆอย่างทำอะไรไม่ถูกนัก…
“แต่กับมึงจริงจังกว่า จริงจังเหี้ยๆ จริงจังถึงขั้นจะให้แม่มาขอแต่งงานแล้ว”
“บ้าบอสิ้นดี” น้ำชาส่ายหัวแต่ก็อดยิ้มไม่ได้ “ไปดูเพื่อนไป เดี๋ยวกูตามไป”
“ไม่เอาดิ พวกนั้นมันดูแลอยู่แล้ว”
“แล้วแต่แล้วกัน”
หลังจากนั้นสักพักเป๊กมารับช่วงต่อ โฟล์คก็จูงมือน้ำชาไปนั่งที่วงสนทนา ตองนั่งอยู่ข้างแยม คุยกันด้วยรอยยิ้ม โฟล์คพาน้ำชาเข้ามาพร้อมกับนั่งลงที่ที่ว่าง ตองหันมามองแล้วเลิกคิ้วน้อยๆ
“ลืมบอกไป...นี่น้ำชา แฟนเรา” โฟล์คแนะนำ กอบกุมมือน้ำชาหลวมๆ
ตองยิ้มออกมา “อื้อ เราตองนะ เพื่อนโฟล์ค”
“อืม” น้ำชายิ้มๆพยักหน้าเบาๆก่อนนั่งจิบเบียร์เงียบๆ
“เออ พรุ่งนี้แม่โฟล์คจองทัวร์บ้านเราไว้ให้แล้วนะ ไปดำน้ำกับเพื่อนๆ เห็นว่าเอาแบบสน็อคเกอร์ใช่ไหม”
“อือ เพราะว่าบางคนไม่มีใบอนุญาตดำน้ำลึกน่ะ”
“งั้นเดี๋ยวให้รถมารับตอนแปดโมง ออกเช้าๆหน่อยจะได้ไม่ร้อนมาก”
“ตองไปด้วยกันไหม” โฟล์คถาม
“อื้อ เราไปช่วยดูแลให้ได้ ไม่เป็นไรหรอก อยากไปเที่ยวด้วยเหมือนกัน”
น้ำชาตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดโฟล์คตอนเกือบเจ็ดโมงของวันใหม่ กระพริบตาสามทีก็นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้อยู่บ้าน เขามาเที่ยวภูเก็ตบ้านไอ้โฟล์คมัน ร่างกายเปลือยเปล่า บนอกยังมีรอยแดงที่มันฟัดทิ้งเอาไว้ กว่าปาร์ตี้เมื่อคืนจะจบก็ตีหนึ่ง โฟล์คเมา ไอ้เป๊ก กาย ปอม เต นิน ก็เมาเละไม่ต่างกัน พี่ฟลุ๊คช่วยเก็บศพก่อนจะแยกย้ายเข้าห้องนอน แต่ไอ้ลูกชายคนเล็กของบ้านกลับไม่สิ้นฤทธิ์ พอเขาอาบน้ำเสร็จมันก็ล็อคตัวเขาตาเยิ้ม พูดจาออดอ้อนใส่ แล้วน้ำชาก็ยอมมันไปตามระเบียบ
โฟล์คยังหลับอยู่ หน้าตาดูน่าเอ็นดูอย่างน่าประหลาด น้ำชาส่ายหัวเบาๆ นึกปวดเมื่อยที่เอว เขาเดินเข้าห้องน้ำ จัดการอาบน้ำเร็วๆก่อนสวมกางเกงว่ายน้ำทับด้วยกางเกงขาสั้น พอออกมาอีกทีโฟล์คก็ตื่นแล้ว ฝ่ายนั้นมองหน้าน้ำชาแล้วยิ้มกริ่ม หัวยุ่งไม่เป็นทรงแต่ก็ดูน่ารักดี
“เป็นบ้าอะไร” น้ำชาถาม ยกผ้าซับหยาดน้ำบนหน้า แล้วรวบหางม้า
“มองหน้าแฟนไม่ได้หรือไง” มันตอบยียวน
“สัด ไปอาบน้ำไป นัดไว้แปดโมงไม่ใช่หรือไง”
“อื้อ” โฟล์คพยักหน้าหงึกๆ “รอแป๊บหนึ่งนะ เดี๋ยวพาลงไปกินข้าว”
โฟล์คอาบน้ำไม่นานอย่างที่มันว่า แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะตื่นสายกว่าคนอื่นๆ เพราะเมื่อลงไปถึงห้องอาหาร ก็พบว่าคนอื่นๆนั่งทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วโดยมีหม่าม๊าของโฟล์คดูแลต้อนรับเป็นอย่างดีพร้อมรอยยิ้ม ส่วนเฮียฟลุ๊ควันนี้สวมเสื้อเชิ้ตกับแสล็คอย่างดี มีสูทลำลองพาดไว้ โฟล์คบอกว่าวันนี้พี่ฟลุ๊คมีเจรจาการค้ากับกลุ่มนายทุนต่างชาติจากฮ่องกง
“เป็นไงบ้างจ๊ะน้องชา หลับสบายไหมลูก”
“ครับ” น้ำชายิ้มตอบบางๆ ท่าทางเขินๆนั่นทำให้เป๊กที่นั่งอยู่ตรงข้ามเลิกคิ้วขันๆราวกับจะแซวเพื่อนว่าเป็นลูกสะใภ้คนโปรดไปเสียแล้ว น้ำชาทำได้แค่แยกเขี้ยวใส่มัน
“ทานข้าวก่อน น้องตองโทรหาม๊าบอกว่ากำลังจะออก วันนี้ไปกี่เกาะล่ะลูก”
“น่าจะสักสองสามที่นะครับ” โฟล์คว่า “น่าจะแวะอ่าวมาหยาที่เกาะพีพี แล้วไปเกาะไข่ อะไรพวกนี้”
“ก็ดีนะลูก เอ้า รีบทานๆ เดี๋ยวจะได้ไม่ร้อนมาก” หม่าม๊ายิ้มอย่างใจดี โฟล์คผงกหัวขอบคุณป้าแม่บ้านที่ยกถ้วยข้าวต้มมาเสิร์ฟ…
“อยู่บ้านมึงนี่คุณหนูดีนะ” น้ำชาเปรยขึ้นเงียบๆ
“หึหึ ก็ได้แค่นี้ป่ะวะ กูอยู่คนเดียวตั้งแต่เด็ก บอกแล้วไม่คุณหนูหรอก”
“อันนั้นกูรู้ ห้องคอนโดมึงโสโครกมาก”
“แต่โชคดีมีเมียดี ก็ไปอยู่บ้านเมียแทน”
“แดกไปเงียบๆไปไอ้คนไร้ยางอาย” น้ำชาไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่ามันดีิจริงๆ
ได้เวลานัด...ตองมาถึงพร้อมกับพนักงานชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง จากบริษัททัวร์ซึ่งสวมเสื้อโปโลสีขาวสะอาดตาสองคน และคนขับรถแวนอีกคัน พี่ฟลุ๊คอวยพรขอให้เที่ยวให้สนุกก่อนจะรีบเร่งสตาร์ทเบนท์ลีย์สีควันบุหรี่แล้วออกตัวไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่โฟล์คเดินนำเพื่อนๆไปขึ้นรถ
รถแวนจอดลงที่ท่าเรือแห่งหนึ่งก่อนที่ตองและพนักงานจะพาพวกเขาไปยังสปีดโบ้ทลำสวยซึ่งจอดรออยู่ ทุกคนหิ้วสัมภาระพาตัวเองขึ้นเรือ โฟล์คกุมมือน้ำชาเดินไปตามชายหาดเพื่อขึ้นเรือ
วันนี้ท้องฟ้าดูโปร่ง เมื่อเรือออกสตาร์ท ลมเย็นๆก็ปะทะบนใบหน้า น้ำชาชะโงกหน้าน้อยๆออกนอกโครงหน้าต่าง รับลมทะเล กลิ่นเกลือเค็มและไอแดด โฟล์คนั่งอยู่ข้างๆ ใต้ที่นั่งมีเสบียงสำหรับทั้งวันรวมถึงเครื่องดื่มทั้งน้ำเปล่า เบียร์ และน้ำอัดลม ภัทรกับนินนั่งตรงข้าม สวมแว่นดำนั่งกุมมือกันเงียบๆไม่ได้พูดอะไรกัน กาย เต และ ปอม นั่งคุยกับตองอยู่หน้าเรือ ในขณะที่เป๊กและแยมนั่งกับไอที่ร่าเริงกับทะเลมากกว่าใคร…
“เมาเรือไหม มึงอ่ะ”
“คิดว่าไม่นะ”
“มียานะ”
“ไม่เอาอ่ะ กินแล้วง่วง” น้ำชาส่ายหัวพรึ่บ ไม่เมาหรอก ถ้าเมาเดี๋ยวกูอัดเบียร์ไป ลางเนื้อชอบลางยา…” เขาว่าแล้วหัวเราะหึหึ จนโฟล์คนึกหมั่นไส้จนต้องบีบปลายจมูก
“ไม่นึกว่ามิสเตอร์พิชชาผู้เติบโตที่ออสเตรเลียมาตั้งแต่เด็กจะรู้จักสำนวนไทย”
“แล้วไง…”
ไม่แล้วไง เสือกใช้ผิดด้วยครับ ฮ่าๆๆๆ”
“ก็กูมันเด็กนอกนี่หว่า” น้ำชาว่ายิ้มๆ เขาเอนศีรษะพิงไหล่โฟล์ค รู้สึกอุ่นๆดีเหมือนกันเวลาอยู่ใกล้ๆกันแบบนี้…
พวกเขาแวะจอดที่อ่าวมาหยา นอนอาบแดด เล่นน้ำ ดื่มเบียร์กันบนชายหาด โฟล์คปูผ้าขนหนูแล้วล้มตัวลงนอน น้ำชาล้มตัวนอนคว่ำข้างๆ ที่เหลือจับจองเตียงผ้าใบแถวๆนั้น เป๊กนอนอ่านหนังสือ ส่วนคนอื่นๆนั่งจิบเบียร์เล่นดนตรีกัน มีนินที่นอนอาบแดดอยู่ถัดออกไปจากพวกเขา
พวกเขานั่งพักผ่อนกันอยู่เกือบสองชั่วโมงกระทั่งได้เวลาอาหารกลางวันพอดี หลังจากอาบแดดได้ไม่ถึงชั่วโมงดี น้ำชาและโฟล์คก็ลุกกลับไปนั่งในร่ม เหลือนินที่นอนคว่ำอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว มีหนุ่มตะวันตกเดินผ่านมามองผิวขาวของนินตาเป็นมันเป็นพักๆ ร้อนให้ภัทรสุดท้ายก็ต้องไปลากตัวเข้ามา น้ำชานึกขัน ภัทรดูไม่อะไรเท่าไหร่กับนิน ปกติไม่แสดงออกแท้ๆ แต่จริงๆก็ขี้หึงไม่ใช่เล่น
ใต้ร่มเงาของผืนผ้าใบ พวกเขาวางเท้าลงบนผืนทรายละเอียด อาหารพรั่งพร้อมเต็มโต๊ะจากที่เตรียมมาจากบ้าน พร้อมเครื่องดื่มชนิดเต็มลัง เป๊กดีดกีตาร์ดูเท่ไม่หยอก กายและเตแหกปากร้องเพลงเสียงดัง มีไอร้องคลอ ส่วนนินมีภัทรช่วยทาอาฟเตอร์ซันให้อย่างทะนุถนอม ส่วนปอมและแยมนั่งคุยกับตองเรื่องจิปาถะ
น้ำชาและโฟล์คเดินจูงมือกันกลับเข้ามาหลังจากเดินออกไปเดินเล่นกันสักพัก พอดีกับที่ตองลุกขึ้นหยิบข้าวกล่องออกจากลังเสบียง คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาพอดี ฉีกยิ้มกลับมาให้ เผื่อแผ่มาให้น้ำชาด้วย น้ำชาได้แต่ยิ้มบางๆตอบ…
“ไหนมีอะไรกินบ้าง” โฟล์คเยี่ยมหน้าไปช่วย
“ข้าวกล่องจากบ้านโฟล์คไง” กล่องพลาสติกสีขาวปิดด้วยฝาใส แบ่งช่องอาหารอย่างดี มีเมนูหลากหลาย “ส่วนบ้านตองทำขนมกินเล่นมาให้ แล้วก็ผลไม้”
“โอโห” โฟล์คหัวเราะ แล้วหันมาหาเขา “หิวยังครับคุณน้ำชา”
น้ำชาส่ายหัวเบาๆ “ไม่เท่าไหร่”
“แต่มึงอ่ะต้องหิวได้แล้ว อ่ะนี่ เอาไปกิน หมึกผงกะหรี่ กูรู้มึงชอบ รีบกินก่อนเสีย เดี๋ยวกูช่วยตองยกก่อน”
“กูช่วยก็ได้” น้ำชาว่า แต่ตองกลับส่ายหัวแล้วยิ้มให้
“ไม่เป็นไรหรอกชา นิดเดียวเอง โฟล์คไปนั่งเป็นเพื่อนน้ำชาเถอะ”
น้ำชาไหวไหล่ในที่สุดก่อนส่ายหัว “ไม่เป็นไร งั้นเราไปตรงโน้นนะ”
เสียงพูดคุยเฮฮาจากวงสนทนา เคล้าเสียงกีตาร์และเสียงเพลง พวกเขาเปิดข้าวกล่องกินกันอย่างเอร็ดอร่อยหลังจากพักผ่อนกันเต็มเหยียด เบียร์ขวดแล้วขวดเล่าหมดลง น้ำชานั่งข้างๆกาย ฟังมันแหกปากร้องเพลง ในขณะที่โฟล์คเดินออกไปสูบบุหรี่กับนิน เขาเห็นตองยืนเก็บขยะลงลังอยู่เงียบๆ จึงปิดกล่องข้าวของตัวเองแล้วลุกขึ้นไป
“ช่วยไหม” น้ำชาไม่ใช่คนพูดมาก และเรื่องของตองก็ไม่ได้รบกวนใจอะไรเขา เอาจริงๆแล้วน้ำชาเป็นคนคิดมาก แต่เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องที่เขาควรคิด ทุกคนเคยมีคนรักเก่า และตองก็เป็นคนน่ารักพอที่จะคบหาไว้
“อ่า...ไม่เป็นไร”
“มาเถอะ” น้ำชาไม่รีรอ เขาช่วยตองเรียงกล่องขยะลงลัง เก็บขวดเบียร์ใส่ลังกระดาษ กลิ่นหอมอ่อนๆจากคนข้างกายทำเอาเขาเคลิ้มไปสักพักหนึ่ง “นี่ไม่ดื่มด้วยกันเหรอ”
“ไม่หรอก วันนี้มาดูแลเพื่อนๆน่ะ กินกันไปเถอะ” ตองยิ้มจนตาเป็นสระอิ “เดี๋ยวไปดำน้ำเกาะไข่กัน”
“อือ”
“แดดดีเลยวันนี้น่ะ สิ้นปีนี่ช่วงไฮซีซั่นเลย คนอาจจะเยอะหน่อย”
“อ่าฮะ” น้ำชาพยักหน้ารับ
“ว่าแต่น้ำชาน่ารักจัง” จู่ๆอีกฝ่ายก็พูดขึ้นมาระหว่างยัดขวดแก้วลงลัง “โคตรมีเสน่ห์”
“เหรอ” เขาพึมพำ ไม่รู้จะตอบรับยังไงดีที่อยู่ๆมีคนชมขึ้นมาดื้อๆ
“โฟล์คคงรักน่าดู”
“อ่า ไม่รู้หรอก…” เขาส่ายหน้าพึมพำ
“ต้องใช่สิ...โฟล์คน่ะรักใครก็รักจะเป็นจะตาย” ตองว่ายิ้มๆ ก่อนทำท่าจะยกลังขึ้น พอดีกับที่โฟล์คเดินกลับเข้ามาพอดี คนตัวโตเลิกคิ้วมองพวกเขาทั้งสองคนก่อนรีบเดินมาเอาลังไปถือด้วยตัวเอง
“เฮ้ย เราช่วยดีกว่า” โฟล์คว่าอย่างแข็งขัน “เอากลับไปทิ้งที่ฝั่งดีกว่าเนอะ อย่าเพิ่มขยะเลย”
“อื้อ”
(tbc.)
ตอนหน้าก็จบสำหรับตอน Lost Star แล้วจ้ะ
เป็นช่วงราวสองเดือนให้หลัง หลังจากคืนดีกันของโฟล์คและชา
เหลือตอนพิเศษอีก 1 ตอนนะจ๊ะ สำหรับรักชาชา คือ 'โปรดเถิดรัก'
ในเล่มมีทั้งหมด 5 ตอนพิเศษด้วยกัน
ตอนนี้รักชาชากำลังจะเป็นรูปเล่ม กับ สนพ. Hermit
ทางไปสอยกล้ามพี่โฟล์ค >>>
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.872121816169356.1073741851.349141615134048&type=3เข้าไปในอัลบั้มและกดที่รูปปกรักชาชา 2 ภาพแรกจ้า
ปกสวยมาก บัตรเอทีเอ็มในมือสั่นรัวๆ กดคลิกเข้าไปดูรูปกันได้จ้า ปลากรอบการตัดสินใจ เย้ๆ