รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ  (อ่าน 358014 ครั้ง)

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #390 เมื่อ17-05-2014 10:24:19 »

บทที่ ๒๐

ไม่มีสุดสัปดาห์ไหนเลยที่ฟีเรียสไม่ได้ทะเลาะกับเจ้าชายรามิเรสด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่น่าจะกลายมาเป็นเรื่องทะเลาะ

คนหนึ่งบอกเป็นเพราะอีกฝ่ายไม่ยอมรักษาคำพูด ทั้งที่รับปากเขาแล้วว่าจะไม่ซื้ออะไรให้แต่ก็ยังซื้ออยู่นั่น คิดจะใช้เงินซื้อเขาหรือยังไง

ส่วนอีกคนก็บอกเป็นเพราะอีกฝ่ายไม่ยอมยืดหยุ่นเสียบ้าง ตรงทื่อเป็นท่อนไม้อยู่ตลอดเวลา พระองค์ไม่ได้ทรงซื้ออะไรประทานให้เขาเลยแท้ๆ อาทิตย์ก่อนก็ยอมให้เขาออกเงินค่าวัตถุดิบที่ซื้อมาทำกับข้าวแล้วแท้ๆ แค่นับจากนี้ไปพระองค์จะทรงวางเงินค่ากับข้าวไว้ให้ในโถเคลือบในครัว ให้เขาหยิบเอาไปใช้ได้ตามใจชอบเท่านั้นเอง พระองค์ทรงเป็นคนจ้างเขามา เรื่องกินเรื่องอยู่ พระองค์ทรงรับผิดชอบทั้งหมดก็ถูกต้องแล้ว ยังจะมาต่อรองขอออกครึ่งหนึ่งให้เป็นเรื่องเป็นราว ให้ต้องเสียเวลาเสียอารมณ์ ทะเลาะกันไปเปล่าๆ ปลี้ๆ ทำไม

ฟีเรียสยอมใครเสียที่ไหน เอาเป็นว่าปกติแล้วเรื่องไหนที่ยอมได้เขาก็มักจะยอมๆ ไปเพื่อจะได้ไม่มีเรื่องก็จริง แต่สำหรับคนอย่างเจ้าชายหกแห่งไมซีนนั้นเขาถือเป็นข้อยกเว้นมานานแล้ว เมื่อพระองค์ว่าอย่างนี้ เขาก็ว่าจะจ่ายเงินให้พระองค์เหมือนกัน ค่าที่พระองค์ทรงฝึกซ้อมกระบี่ให้จนฝีมือของเขาพัฒนาขึ้นมาก

"ข้าเป็นรุ่นพี่ เต็มใจสอนให้รุ่นน้อง เจ้าจะจ่ายเงินให้ข้า ดูถูกน้ำใจข้าหรือ"

เออ ดี เป็นงั้นไป ให้มันได้อย่างนี้ ที่เลวร้ายก็คือ พอพระองค์รับสั่งถ้อยคำทำนองนี้ขึ้นมาทีไร เขาเป็นต้องแพ้ทางพระองค์ ไปต่อไม่ถูกเกือบทุกที หนังสือเกร็ดประวัติศาสตร์และนิยายผจญภัยที่เขาชอบอ่าน ฝ่ายนั้นก็ขนมาจากพระตำหนักของพระองค์เสียมากมาย ให้คนจัดใส่ตู้ใบใหม่ในห้องหนังสือไว้เรียบร้อย พร้อมกับรับสั่งอนุญาตว่าให้ยืม จะยืมคราวละกี่เล่ม ยืมนานเท่าไรก็ได้ แต่ดูหนังสือของพระองค์เถอะ ถึงจะรับสั่งว่าหนังสือเก่า แต่ก็ยังอยู่ในสภาพดีทุกเล่ม ปกหนา หน้าปกดุนลายทอง ถ้าเขายืมไปอ่านที่ตึกนอนที่โรงเรียนองครักษ์ มิถูกโรดีอัสสงสัยแย่หรือว่าเขามีปัญญาไปหาจากไหนมาอ่าน ดีไม่ดีจะเข้าใจผิดว่าคุณชายมิทรอสให้เขายืมด้วยความเสน่หาอีก ครั้นเขากราบทูลไปว่ากลัวเพื่อนจะสงสัย พระองค์ก็โปรดให้เขาอ่านตอนอยู่ที่บ้านริมผา กลายเป็นว่าทำให้เขาลำบากใจที่ต้องเบียดบัง 'เวลาทำงาน' ไปหาความสุขส่วนตัว พอพระองค์รับสั่งว่าจะทรงอ่านเหมือนกัน เขาก็ยิ่งไม่ชอบใจ เพราะมันทำให้เขารู้สึกว่าพระองค์ยิ่งทรงทำเพื่อเขามากขึ้น

"งั้นเจ้าอ่านให้ข้าฟัง"

พระองค์ทรงเป็นเด็กสามขวบรึยังไง

"รับสั่งให้กระหม่อมทำอย่างอื่นเถอะพระเจ้าค่ะ"

"เจ้าอยากทำอะไร"

"ทำอย่างที่ฝ่าบาทโปรด"

ตอบไปแล้วอย่างฉิวๆ แล้วก็ถึงกับชะงักเมื่ออีกฝ่ายมองเขาด้วยสายพระเนตรแปลกๆ เขาเกือบจะถามออกไปด้วยความระแวงแล้วว่า ทรงคิดอะไรอยู่ ดีที่อีกฝ่ายตรัสตอบเสียก่อนว่า

"งั้นก็ฟังเจ้าอ่านหนังสือ"

ที่จริงก็คงเรียกว่าโชคดีไม่ได้สินะ เพราะที่ทะเลาะกันมาตั้งนานนี่ก็เท่ากับเขาพายเรือในอ่างแท้ๆ

พ้นเรื่องหนังสือไปก็มีเรื่องบรรดาสิ่งของทั้งหลายที่เขามองตอนเดินดูร้านรวงต่างๆ ในตลาดเชิงเขาอีก ฟีเรียสต้องเตือนตัวเองอยู่ตลอดเวลาว่าอย่ามองอะไรนานเกินไป ไม่อย่างนั้นคนที่เดินไปด้วยกันจะทรงเหมาว่าเขาอยากได้และซื้อประทานให้ในอีกไม่กี่นาทีต่อมา

"แค่ของกิน เจ้าก็ปฏิเสธข้าหรือ"

ไปเป็นนักการทูตเสียน่าจะดี ไม่ต้องเป็นแล้ว เจ้ากรมสรรพาวุธ หรือจะเป็นถูกตำแหน่งแล้ว เพราะวาจาคืออาวุธ ได้ เอาเป็นว่าเรื่องของกินเขาไม่ปฏิเสธ เพราะเวลาที่เขาซื้อถวายบ้าง พระองค์ก็ไม่ทรงปฏิเสธเขาเหมือนกัน เพียงแต่ที่เขาไม่ค่อยอยากจะซื้ออะไรถวายก็เพราะรอยยิ้มประหลาดๆ ของพระองค์นั่นล่ะ ไม่ต้องทำราวกับว่าซาบซึ้งในน้ำจิตน้ำใจของเขามากมายขนาดนั้นก็ได้

อย่างไรก็ดี ฟีเรียสถูกใจมีดสั้นเล่มหนึ่งที่ร้านขายอาวุธ เป็นมีดเงินพื้นปลอกลงดำเป็นลวดลายที่เขารู้สึกชอบมาก ชายหนุ่มยืนดูมันอยู่นานทั้งที่ตัดสินใจตั้งแต่แวบแรกที่เห็นแล้วว่าจะซื้อ ดูละเอียดรอบหนึ่งแล้วจึงถามราคา ปรากฏว่าราคาสูงเสียจนเขาอึ้ง

“เล่มนี้เพื่อนข้าฝากขายครับ มันร้อนเงิน ถึงต้องเอาสมบัติเก่ามาหากิน เป็นของดีจริงๆ ครับ ร้านข้าไม่มีของดีอย่างนี้มาขายหรอก” เจ้าของร้านบอกสรรพคุณมากมาย แต่สรุปว่าลดราคาให้ไม่ได้ “ซื้อไปเถอะน้องชาย รับรองไม่ผิดหวัง”

ถึงไม่ใช่ของใหม่ ฟีเรียสก็ยังอยากได้ แต่เขารู้ดีว่าไม่สามารถซื้อได้แน่ ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีเงิน แต่เขาใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเพื่อของไม่จำเป็นอย่างนี้ไม่ได้ พอได้รับแต่งตั้งเป็นองครักษ์ เขาก็จะมีกระบี่ประจำตัว ไม่จำเป็นต้องพกมีดสั้น ชายหนุ่มลูบๆ คลำๆ อย่างเสียดาย ก่อนจะตัดใจวางแล้วบอกขอบคุณพ่อค้า

นักเรียนองครักษ์หนุ่มมีสีหน้าเจ็บปวดทันทีที่เจ้าชายหกแห่งไมซีนทรงหยิบมันขึ้นมาพิจารณาต่อ

“ไม่ต้องห่วง” พระสุรเสียงของเจ้าชายหนุ่มเปี่ยมกระแสอาทร ปลอบประโลม “แพงขนาดนี้ข้าไม่ซื้อให้เจ้าหรอก”

ฟีเรียสยังไม่คลายกังวล เจ้าชายรามิเรสแย้มพระสรวล

“และจะไม่ซื้อไว้เองด้วย”

พ่อค้าคะยั้นคะยอเจ้าชายหกอยู่หลายคำ เพราะพิจารณาจากหน้าตาท่าทางและการแต่งกายแล้วคิดว่าราคาแค่นี้พระองค์ทรงซื้อได้สบายๆ ทว่าเจ้าชายหนุ่มทรงรักษาคำพูดของพระองค์

ฟีเรียสเดินจากร้านขายอาวุธนั้นมาด้วยความรู้สึกทั้งโล่งใจและเสียดายระคนกัน

นอกจากเรื่องการซื้อของให้โดยที่เขาไม่ได้ขอแล้ว เรื่องอื่นๆ ก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาสาหัสอะไร ฟีเรียสรู้ตัวดี ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเจ้าชายรามิเรสเรียกว่าใกล้ชิดกันมากขึ้นทุกที เขารู้สึกสนิทใจกับพระองค์มากขึ้น ป้อมกำแพงที่เคยก่อเอาไว้สูงลิบพังทลายไปตั้งแต่เมื่อไหร่เขาไม่รู้ รู้เพียงว่าเขาห้ามใจตัวเองได้ยากขึ้นทุกที ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขารับงานนี้จากพระองค์แล้วพระองค์ทรงมีท่าทีต่อเขาแปลกไป เหมือนจะ ‘รุก’ มากขึ้น เขาก็ลดการตั้งป้อมลง และโต้ตอบพระองค์กลับไปอย่างเป็นธรรมชาติอย่างเหลือเชื่อ ราวกับว่าเขากับพระองค์สนิทสนมกันมานานหลายปี แต่ถึงจะรู้สึกเป็นกันเองกับพระองค์มากแค่ไหน เขาก็ยังมีเรื่องทะเลาะกับพระองค์ได้เรื่อยๆ

เรื่องนิสัยที่แก้ไม่หายของพระองค์นั่นก็อีกอย่าง นิสัยชอบตัดสินใจแทนคนอื่น

“น้องสาวกระหม่อมเขียนจดหมายมาบอก ว่าฝ่าบาทโปรดให้คนเอายากับของบำรุงไปประทานให้แม่ของกระหม่อม”

ถ้าเป็นคนอื่น ประโยคนี้อาจจะหมายความว่าเขากำลังรู้สึกซาบซึ้งตื้นตันยิ่งนัก แต่นักเรียนองครักษ์หนุ่มกราบทูลด้วยน้ำเสียงและสีหน้าเหมือนคนตั้งใจมาหาเรื่อง

“นางเป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นไหม”

“ดีขึ้นมากพระเจ้าค่ะ” หลังจากเผลอทูลตอบเสียงอ่อนด้วยความซาบซึ้งไปหน่อย ฟีเรียสก็นึกขึ้นได้ว่าเขากำลังเสียความตั้งใจแล้วกลับมาทำหน้านิ่งเหมือนเดิม... ซึ่งหลังๆ นี่ดูเหมือนจะไม่ค่อยได้ผลเท่าไหร่

“ทั้งยา ทั้งของบำรุงดีๆ พวกนั้นคงจะแพงมาก”

“ข้าให้คนไปเบิกมาจากกรมแพทย์หลวง”

แปลว่าไม่ต้องจ่าย

“แต่แม่ของกระหม่อมไม่ใช่คนในราชวงศ์”

“นางเป็นแม่ของเจ้า”

แล้วยังไงล่ะ ชอบรับสั่งสั้นๆ ทำสายพระเนตรอาทรจริงจังอย่างนี้ เขายิ่งเป็นคนคิดมากอยู่ รับสั่งออกมาตรงๆ เลยดีกว่า ไม่อย่างนั้นเขาจะแปลความเข้าข้างตัวเอง

“พระเจ้าค่ะ แม่ของกระหม่อม ไม่ใช่พระมารดาของฝ่าบาท”

เจ้าชายรามิเรสทรงนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะตรัสถามตรงๆ

“เจ้าไม่พอใจตรงไหน”

นักเรียนองครักษ์หนุ่มเม้มปาก เขารู้สึกว่าตัวเองชักจะนิสัยเหมือนผู้หญิงที่ชอบเหวี่ยงอารมณ์แย่ๆ ใส่คนอื่นโดยไม่มีเหตุผลเข้าไปทุกที ทั้งๆ ที่ใจหนึ่งก็คิดว่าเขามีเหตุผลเต็มเปี่ยม มีจุดยืนของตัวเอง เขาก็แค่ไม่อยากให้พระองค์ประทานอะไรๆ ให้แก่เขามากเกินไป... เกินกว่าความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ และคงจะรวมถึงในอนาคตด้วย

“ตอบไม่ได้หรือ”

ฟีเรียสเงียบ

“งั้นข้าตอบให้เอาไหม”

พระองค์ก็เป็นเสียอย่างนี้ คราวนี้ก็เหมือนกัน ไม่ต้องรอให้เขาพูดหรอกว่าเอาหรือไม่เอา เพราะถึงเขาจะไม่ตอบ พระองค์ก็ตัดสินใจแทนเขาได้อยู่ดี ว่า ‘เอา’

“เจ้าคิดเรื่องเงินมากเกินไป ข้าคิดว่าเจ้าคงจะไม่อยากให้ข้าดูถูกว่าเจ้าเป็นคนที่ซื้อได้ด้วยเงิน ถึงไม่อยากให้ข้าซื้ออะไรให้เจ้า แต่ความจริงก็คือ ข้าไม่เคยดูถูกเจ้าเลย ไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียว มีแต่เจ้าเท่านั้นที่ดูถูกตัวเอง เอาคุณค่าของตัวเองไปผูกติดอยู่กับเงิน”

ฟีเรียสกัดฟัน เขาไม่ต้องการให้พระองค์มาสอน ไม่ต้องการให้ชี้ทางสว่าง อย่างน้อยก็ต้องไม่ใช่ตอนที่เขายืนอยู่ต่อหน้าพระองค์อย่างนี้ ตอนที่เขาจะหันหลังให้พระองค์ก็ไม่ได้ ต้องยืนกะพริบตาถี่ๆ เพื่อกล้ำกลืนความรู้สึกอับอาย เสียหน้า และสะเทือนใจให้พระองค์เห็น

“อย่าประเมินค่าทุกอย่างที่ข้าให้เจ้าเป็นเงินทองอีก ถือว่าข้าขอ ได้ไหม”

ฟีเรียสอยากจะรู้จริงๆ ว่าเคยมีใครปฏิเสธพระองค์ได้บ้างไหม เวลาที่พระองค์รับสั่งด้วยพระสุรเสียงทุ้มละมุนแบบนี้ อาจจะมีแค่เขาคนเดียวก็เป็นได้

“กระหม่อมก็ขอให้ฝ่าบาทเลิกทำอะไรเพื่อกระหม่อมโดยที่กระหม่อมไม่รู้เรื่องสักที ได้ไหมพระเจ้าค่ะ”

เจ้าชายหนุ่มแย้มพระสรวล ดูๆ ไปเหมือนจะล้อเลียน

“ข้าบอกหรือว่าทำเพื่อเจ้า ข้าเอ็นดูน้องสาวเจ้ามากนะ เฟย์เขียนจดหมายสนุกดี”

แต่ฟีเรียสไม่ตลกด้วย เขาไม่ขำ เขาเครียด

“ฝ่าบาททรงทำเพื่อนาง”

คนฟังชักตงิดพระทัยว่าถ้าไม่รีบแก้ความเข้าใจผิด อาจจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตได้

“ถ้าข้าบอกว่าทำเพื่อนาง เจ้าจะสบายใจกว่ามั้ย” แต่ไม่รู้เป็นไร พระโอษฐ์จึงรับสั่งออกไปอย่างนั้นได้

“ฝ่าบาททรงมีพระคู่หมั้นแล้ว”

เฟย์เพิ่งจะอายุสิบหก และดูจะปลื้มเจ้าชายหกมาก ฟีเรียสห่วงน้องสาวของเขา ขอให้เขาเชื่อว่านี่คือเหตุผลเดียวที่ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจไปก่อน เพราะเขาคงจะให้อภัยตัวเองแทบไม่ได้ หากต้องยอมรับว่า เขาอิจฉาน้องสาวของตัวเอง

“ข้าก็ไม่ได้คิดกับน้องเจ้าแบบชู้สาว” ออกจะรู้สึกขำเสียด้วยซ้ำที่ฟีเรียสคิดอย่างนี้

“แต่ฝ่าบาทเพิ่งจะรับสั่งว่าทรงทำเพื่อนาง”

เขาไม่ได้อิจฉาหรอก แต่ตอนนี้ตาของเขาร้อนผ่าวไปหมด

เจ้าชายรามิเรสจะทรง ‘ล้อเล่น’ ต่ออีกสักสองสามประโยค แต่พอทอดพระเนตรเห็นสีหน้าท่าทางเหมือนเด็กเสียความมั่นใจอย่างรุนแรงเพราะถูกแย่งความสำคัญของคนตรงหน้าก็ต้องรีบรับสั่งตอบรวบรัดฉับพลัน

“เพื่อเจ้า” ยิ่งทอดพระเนตรก็ยิ่งรู้สึกประหลาด นึกอยากจะดึงตัวอีกฝ่ายเข้ามาหาแล้วกอดไว้แน่นๆ เพื่อเรียกขวัญให้เสียจริงๆ “ข้าทำเพื่อเจ้าคนเดียวเลย เพราะฉะนั้น ทำตามที่ข้าขอได้ไหม อย่าเอาคุณค่าของตัวเองไปผูกติดกับเงินอีก”

ฟีเรียสใจชื้น เขาพยักหน้าตอบเร็วๆ ทั้งที่พยายามจะขัดขืนแล้ว แต่ท้ายที่สุดเขาก็ต้องพ่ายแพ้อย่างหมดรูป

แต่ก็ช่างปะไร แค่ได้หัวใจกลับคืนมาก็พอ




***********************



“ตอนเจ้าทำงาน คุณชายมิทรอสอยู่กับเจ้าด้วยรึเปล่า”

วันดีคืนดีโรดีอัสก็ถามเพื่อนร่วมห้อง

“อยู่บ้าง ไม่อยู่บ้าง เจ้าถามทำไม”

คนถามพยักหน้าหงึกหงัก ดูจะหายสงสัยแล้ว

“เมื่อวานข้าเจอที่สนามม้า ยังนึกอยู่ว่าจ้างเจ้าทำงานแล้วคงจะไม่ได้อยู่ดูเจ้า” อย่างนี้เขาค่อยหายห่วงเรื่องว่าอีกฝ่ายอาจจะหมายงาบเพื่อนเขาก็เป็นได้หน่อย

ฟีเรียสลอบผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก โรดีอัสชอบถามคำถามนี้กับเขาเหลือเกิน เขารู้ว่าเพื่อนสงสัยและเป็นห่วง แต่เขาก็ภาวนาให้อีกฝ่ายสนใจเรื่องอื่นบ้าง อย่าเป็นห่วงเขาในเวลาที่เขาไม่อยากได้ความเป็นห่วงแบบนี้เลย

อย่างไรก็ดี คำภาวนาของเขาไม่เป็นผล




วันหนึ่ง ขณะที่ฟีเรียสกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ในห้อง โรดีอัสก็เปิดประตูห้องเข้ามาด้วยสีหน้ากังวลระคนสงสัยเต็มเปี่ยม เป็นสีหน้าของคนที่รู้ว่าตัวเองคงจะเชื่อใจเพื่อนสนิทไม่ได้อีกแล้ว ที่เลวร้ายกว่านั้นคือดีลุคซก็เดินตามเข้ามาในห้องด้วย แม้สีหน้าจะไม่ผิดปกติมากนัก แต่ก็มีแววสงสัยในดวงตา

ฟีเรียสปิดหนังสือ วางลงในตะกร้า

“มีอะไรหรือ”

ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงปกติ ทั้งที่ใจเต้นไม่เป็นส่ำ

ดีลุคซปิดประตู ลงกลอน โรดีอัสลากเก้าอี้มานั่งใกล้ๆ เตียงของเพื่อนสนิท ขณะที่ดีลุคซถือวิสาสะนั่งบนเตียงของโรดีอัส

“มีอะไร โรดีอัส”

เจ้าของห้องครึ่งหนึ่งเอาแต่จ้องหน้าเพื่อนเหมือนจะจับผิด ผู้มาเป็นแขกจึงบอกเสียเอง

“เมื่อวันเสาร์ข้าเห็นเจ้าเดินอยู่ที่ตลาดหมู่บ้านโมคีน”

ฟีเรียสสะดุ้งในใจ

“ใช่เจ้ารึเปล่า” โรดีอัสเปิดปาก

ฟีเรียสชั่งใจ ก่อนจะพยักหน้า

“เจ้าไปกับใคร”

ฟีเรียสไม่ตอบ ห้องเงียบนาน ก่อนที่คนมีความอดทนน้อยที่สุดจะถามขึ้น

“เจ้าชายหก ใช่ไหม”

“ใช่ มีอะไร”

“เจ้าเพิ่งบอกข้าว่าเจ้าไปทำงานให้คุณชายมิทรอสมา เขาให้เจ้าจัดห้องหนังสือ”

“ก็ใช่”

“แล้วเจ้าไปเดินตลาดกับเจ้าชายหกได้ยังไง”

“พระองค์กับคุณชายมิทรอสเป็นเพื่อนกัน คุณชายให้ข้าตามเสด็จไปช่วยถือของ”

“แค่นั้น”

“อืม” เห็นอีกฝ่ายเริ่มจะทำหน้าไม่ค่อยแน่ใจ ฟีเรียสก็ทำใจดีสู้เสือ รุกถาม “เจ้าสงสัยอะไร”

โรดีอัสหันไปทางดีลุคซ

“ดีลุคซบอกว่าท่าทางเจ้าดูสนิทสนมกับพระองค์มาก”

ความจริงคือนักเรียนองครักษ์ที่หน้าตาดีที่สุดในรุ่นมาถามโรดีอัสว่า ‘ฟีเรียสสนิทกับเจ้าชายหกหรือ’ ครั้นโรดีอัสถามว่าทำไมถึงคิดอย่างนั้น ดีลุคซก็บอกตามตรงว่าเขาเห็นทั้งสองคนเดินอยู่ด้วยกัน ชายหนุ่มไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ฟีเรียสต้องเจอปัญหา เพียงแต่โรดีอัสช่างสงสัยเกินไป และดีลุคซก็ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องการรับมือกับการถูกซักฟอกอย่างฟีเรียส เพราะฉะนั้นเมื่อถูกโรดีอัสถามว่า ยังไงที่เรียกว่า ‘ดูสนิทสนม’ ดีลุคซก็ว่า ‘นั่งกินอาหารกันสองคน’ แต่ยังดีที่ไม่ได้บอกจนหมดเปลือกว่า ‘เจ้าชายหกทรงเช็ดคราบอาหารตรงมุมปากประทานให้ด้วย’ เขาเห็นว่าโรดีอัสและฟีเรียสสนิทกันมาก ฟีเรียสไม่น่าจะมีเรื่องปิดบังโรดีอัส เขาจึงไม่ได้รอถามกับฟีเรียสเอง เป็นผลให้ฟีเรียสต้องตกที่นั่งลำบากอยู่อย่างนี้โดยที่เขาไม่ได้ตั้งใจ

“เจ้าดูผิดรึเปล่า” ฟีเรียสหันไปถามแขก

“อาจจะเป็นไปได้” ดีลุคซเองก็อยากจะแก้ตัว หลังจากคุยกับโรดีอัสไม่นาน เห็นสีหน้าท่าทางเหมือนคนถูกหักหลังของโรดีอัส เขาก็พอจะเข้าใจแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ที่ไม่เข้าใจตั้งแต่แรกก็เพราะไม่คิดว่าคนอย่างฟีเรียสจะเป็นเหมือนเขา... เขาดูไม่ออกจริงๆ

“เจ้าอย่ามากลับคำตอนนี้ ดีลุคซ” โรดีอัส... กัดไม่ปล่อย “เจ้าไปสนิทกับเจ้าชายหกตั้งแต่เมื่อไหร่ ฟีเรียส”

“ข้าไม่ได้สนิทกับพระองค์”

เพื่อนร่วมห้องมองตากันนิ่งเพื่อวัดใจ

“พวกเจ้าอยากให้ข้าออกไปก่อนไหม” เขาไม่ได้ต้องการสอดรู้ เพียงแต่โรดีอัสขอให้เขามายืนยันว่าเห็นจริง ครั้นโรดีอัสพยักหน้าให้ ดีลุคซก็ออกจากห้องไปโดยไม่ลืมบอก

“พวกเจ้าคุยกันดีๆ ล่ะ”

ดีไม่ดีไม่รู้ แต่ทันทีที่ประตูปิด โรดีอัสก็หยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ฟีเรียสกำมือ

“เจ้าค้นตู้เสื้อผ้าข้า”

“เจ้าทำตัวน่าสงสัย”

“คืนมา” เจ้าของตลับยาสีเงินแบมือ และอีกฝ่ายก็วางคืนให้แต่โดยดี ทว่าสีหน้าเคร่งเครียดหนักกว่าเดิม

“เจ้าหวงขนาดนี้เชียวเหรอวะ” แค่ตลับยาที่มีพระนามาภิไธยย่อจารึกอยู่

ฟีเรียสไม่ตอบ

“ฟีเรียส” น้ำเสียงของคนเรียกจริงจังกว่าครั้งไหน “เจ้าเห็นข้าเป็นเพื่อนไหม”

คนถูกถามพยักหน้าเนิบๆ

“งั้นก็เล่ามา”

“ข้าไม่มีอะไรจะพูด” เพราะถ้าเขาพูด อีกฝ่ายนั่นล่ะที่จะไม่อยากนับเขาเป็นเพื่อน อีกแค่เดือนกว่าๆ ก็จะไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว คราวนี้กว่าจะเจอกันแต่ละทีก็อาจจะนาน แค่ผ่านช่วงนี้ไปได้ โรดีอัสซึ่งไม่ได้อยู่กับเขาเกือบตลอดเวลาอีกก็คงจะลืมเรื่องนี้ไปได้

“เจ้าอย่าสงสัยเรื่องไม่เป็นเรื่องเลย นอนเถอะ ข้าจะไปหาวาดีนเดี๋ยว ยืมหนังสือเขาไว้”

คนตัวสูงใหญ่กว่าไม่พูดอะไร จนกระทั่งฟีเรียสจับลูกบิดประตู

“คนที่เจ้าไปหาทุกอาทิตย์ คือเจ้าชายหกใช่ไหม”

คนมีชนักติดหลังจับลูกบิดแน่น เหงื่อออกจนชุ่มฝ่ามือ

แม้จะเนิ่นนาน แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจหันกลับมาเผชิญหน้า

“ถ้าข้าเล่าให้ฟัง เจ้ารับปากได้ไหมว่าจะยังเป็นเพื่อนกับข้า”

“แน่นอน” ไม่มีอะไรทำให้ความเป็นเพื่อนระหว่างเขากับฟีเรียสคลอนแคลนได้

ฟีเรียสเดินกลับมานั่งที่เดิม เขาเครียด เขากังวล เขากลัวจะเสียเพื่อน แต่อีกใจหนึ่งเขาก็ต้องการคนที่เขาไว้ใจ ที่จะให้คำปรึกษาแก่เขาได้ หรืออย่างน้อยก็รับฟัง

ฟีเรียสเชื่อว่า มิตรภาพระหว่างเขากับโรดีอัสมั่นคงพอ

“เจ้าจำวันที่ท่านผู้อำนวยการจัดงานเลี้ยงที่บ้านได้มั้ย”

ชายหนุ่มเริ่มต้นเล่าเรื่องด้วยประโยคนั้น และโรดีอัสก็พยักหน้า

คนฟังเบิกตากว้าง มีสีหน้าเคียดแค้นเมื่อรู้ว่าคืนนั้นเพื่อนของเขา ‘ถูกกระทำ’ แบบไหน เจ็บปวดเมื่อคิดว่าทั้งที่เขาอยู่ในงานด้วยแท้ๆ แต่กลับช่วยเพื่อนไม่ได้

ฟีเรียสเล่าคร่าวๆ ว่างานพิเศษทุกงานที่คุณชายแห่งบ้านเสนาบดีกลาโหมจัดหาให้ เป็นผลมาจากความเอื้อเฟื้อของเจ้าชายหกแห่งไมซีน

“พระองค์อยากจะชดใช้ให้ข้า เพราะทรงรู้สึกผิดมาก”

“เจ้ารู้ได้ยังไง”

“รับสั่งบอกข้าเอง”

“แล้วเจ้าก็เชื่อ”

ฟีเรียสขมวดคิ้ว แล้วทำไมเขาต้องไม่เชื่อล่ะ

“ถ้าเป็นข้า ต่อให้เมาเป็นหมาหรืออยากแค่ไหน ข้าก็เอาผู้ชายด้วยกันไม่ลง เอาไอ้นั่นแหย่เข้าไปในรูตูดผู้ชายด้วยกัน ทำได้ยังไงวะ” โรดีอัสหยุดพูดเมื่อเห็นเพื่อนหน้าซีด “เฮ้ย! ข้าไม่ได้หมายถึงเจ้า ข้าแค่เจ็บใจที่เจ้าโดนหยามขนาดนั้น เจ้าน่าจะบอกข้า เออ... พูดไปมันก็เป็นความผิดของข้าด้วยที่ไม่เฉลียวใจ ทั้งที่เจ้าไม่สบายหนักขนาดนั้น ดันเชื่ออีกว่าเจ้าเหนื่อยติดกันมาหลายวันเลยป่วย ขอโทษว่ะฟีเรียส”

คนพูดบอกเสียงหนัก สีหน้าจริงใจและเสียใจจริงๆ ฟีเรียสพยักหน้ารับ ขยับปากแต่ไม่มีเสียง รู้สึกว่าทั้งหัวและตัวหนักอึ้ง

“แต่เจ้าก็น่าจะบอกข้า ถึงจะเป็นเจ้าชาย แต่ก็ไม่มีสิทธิ์ข่มขืนใครตามใจชอบ แถมเจ้ายังเป็นนักเรียนองครักษ์ เป็นเจ้าชายแต่ทำตัวแบบนี้ จะให้พวกเราไปปกป้องรับใช้ได้ยังไงวะ”

โรดีอัสชักจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายเงียบผิดปกติ มิหนำซ้ำยังหน้าเครียดขึ้นทุกที

“ฟีเรียส พูดอะไรบ้างดิวะ เจ้าจะให้ข้าช่วยอะไรไหม” เขาเต็มใจช่วยเหลือเต็มที่ ทั้งที่รู้ดีว่าต่อให้บิดาของเขาเป็นเสนาบดี ก็ไม่แน่ว่าจะเรียกร้องอะไรจากเจ้าชายได้ เจ้าชายแห่งไมซีนทุกพระองค์ทรงอิทธิพลเหนือขุนนาง เพราะไมซีนปกครองด้วยระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์

“ขอบใจเจ้ามาก แต่มันผ่านมาแล้ว แค่เจ้ายังรับข้าเป็นเพื่อนก็พอ”

“เจ้ามันโชคร้ายว่ะ ฟีเรียส ข้าจะตัดเพื่อนกับเจ้าเพราะเจ้าโชคร้ายถูก...” คราวนี้เขายั้งปากได้ทัน แต่นึกถึงทีไรก็ยังแค้นใจ “เออ เอาเป็นว่าทีหลังถ้ามีเรื่องร้ายเกิดขึ้นกับเจ้า เจ้าห้ามปิดบังข้าอีกเด็ดขาด”

“อืม”

โรดีอัสสบายใจขึ้น ก่อนที่อีกไม่กี่วินาทีต่อมาจะนึกขึ้นได้ว่า เรื่องที่เขาต้องการรู้จากอีกฝ่ายไม่ใช่เรื่องนี้

“ข้ายังไม่ได้ถาม เจ้าไม่เคียดแค้นเจ้าชายชั่วนั่นบ้างเหรอวะ”

“พระองค์ทรงถูกยากระตุ้น”

“เจ้านี่มันใจดีฉิบหาย ถูกยากระตุ้นแล้วมีสิทธิ์ข่มขืนผู้ชายเหรอวะ”

“เรื่องมันผ่านมาแล้ว ข้าไม่อยากพูดถึง”

“ถ้าเจ้าไม่อยากพูดถึง เจ้ายังไปพบพระองค์อยู่อีกทำไม” จากตอนนั้นถึงตอนนี้ เวลาก็ผ่านมาเกือบจะเป็นปี

“ข้าบอกเจ้าแล้ว มันเป็นงาน”

“คนอย่างเจ้าไม่น่ารับงานจากคนที่เหยียดหยามเจ้าขนาดนี้ได้ บอกมาดีกว่าฟีเรียส ยังมีเรื่องอะไรที่ข้ายังไม่รู้อีกใช่ไหม เจ้าชายหกข่มขู่อะไรเจ้า บอกว่าถ้าเจ้าไม่ไปหาจะทำให้เจ้าเดือดร้อนใช่ไหม ขู่ว่าจะเอาเจ้าออกจากโรงเรียนรึเปล่า”

ฟีเรียสเหมือนน้ำท่วมปาก เขาซึ้งใจที่เพื่อนเป็นห่วง เป็นเดือดเป็นแค้นแทน แต่นี่เป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาต้องการในเวลานี้

“ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด”

“แล้วมันยังไง”

“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าเจ้าชายหกทรงรู้สึกผิดเลยพยายามหาทางชดใช้ ตอนแรกจะให้เงิน แต่เจ้าก็รู้จักข้าดีว่าข้าเกลียดพวกที่ใช้เงินฟาดหัว พอข้าไม่รับพระองค์เลยเปลี่ยนมาหางานพิเศษให้ แต่ทรงออกหน้าเองไม่ได้ ต้องผ่านคุณชายมิทรอส”

“สรุปว่าคุณชายมิทรอสก็รู้เรื่อง”

ริมฝีปากของฟีเรียสเป็นเส้นตรงขณะพยักหน้า

“มันใช่ลูกผู้ชายเหรอวะ เอาเรื่องที่ข่มขืนผู้ชายไปเล่าให้เพื่อนฟัง เนี่ยเหรอวะรู้สึกผิด ไม่ใช่หัวเราะเยาะเจ้ามาหลายเดือนแล้วเรอะ”

ฟีเรียสเงียบ

“เจ้าเชื่อคนง่ายเกินไป ถ้ารู้สึกผิดจริงก็ต้องไม่ยุ่งกับเจ้าอีกสิวะ ยังติดต่อกับเจ้าอยู่แบบนี้ข้าว่ามันแปลก อาจจะหวังเอาเจ้าอีกรอบก็ได้”

“เป็นไปไม่ได้”

“เจ้ามั่นใจได้ยังไง”

เพราะว่า เขาเคยยืนเปลือยต่อหน้าพระองค์มาแล้ว ผลเป็นยังไงน่ะหรือ แค่มอง... พระองค์ยังไม่อยากจะมอง

“พระองค์ทรงเป็นผู้ชาย”

“แต่ข่มขืนผู้ชาย”

“ไม่ได้ข่มขืน!”

โรดีอัสนิ่งอึ้ง

“ต้องเสียงดังด้วยเหรอวะ” ประโยคนี้พูดกับตัวเอง คำถามจริงๆ ก็คือ “โกรธเหรอวะ ข้าบอกแล้วว่าไม่ได้รังเกียจเจ้า”

ฟีเรียสกัดฟัน ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว แต่เขาไม่อยากพูด

“ข้ารู้ เจ้านอนเถอะ ข้าจะออกไปเดินเล่นสักเดี๋ยว” ชายหนุ่มลุกขึ้นยืน ทว่าโรดีอัสยังไม่จบเรื่อง

“เจ้าอยู่ให้ห่างจากเจ้าชายองค์นี้ไว้ดีกว่า ยิ่งเป็นเพื่อนกับคุณชายมิทรอสที่ได้ทั้งผู้หญิงผู้ชายแบบนั้นยิ่งไม่น่าไว้ใจ ข้าไม่อยากให้เจ้าถูกหลอกฟัน...”

“ข้าเต็มใจ”

ฟีเรียสพูดเบาๆ มองตาเพื่อนแวบเดียวแล้วก็เบือนหลบ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดังไปกว่าเดิม

“คืนนั้นพระองค์ทรงถูกยากระตุ้น แต่ข้าไม่”

โรดีอัสมีสีหน้าอย่างคนเพิ่งนึกขึ้นได้ มองเพื่อนอย่างเริ่มระแวง

“ตัวข้ากับพระองค์ก็พอๆ กัน ถ้าข้าขัดขืนเต็มที่ พระองค์ก็ทำอะไรข้าไม่ได้”

“ทำไมวะ”

เสียงถามแผ่วเบาราวกระซิบไม่ต่างกัน ไม่ใช่ทำไมถึงทำอะไรไม่ได้ แต่... ทำไมไม่ขัดขืน

“ข้าชอบพระองค์มานานแล้ว”

ความลับนี้ไม่เคยบอกใคร แต่บอกออกไปแล้วด้วยอารมณ์ชั่ววูบ เขาแค่อยากจะบอกใครสักคน แต่เมื่อพูดไปแล้วก็เรียกคืนมาไม่ได้ ใจเขาวูบโหวงทีเดียวเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อน

“เจ้า... ชอบผู้ชาย”

ฟีเรียสพยักหน้า โรดีอัสผงะทันที เขาลุกขึ้นยืน สองคนยืนมองหน้ากันอยู่ครู่ ครั้นฟีเรียสขยับเข้าไปหาหนึ่งก้าว โรดีอัสก็เซถอยไปสองก้าว ก่อนจะผลุนผลันหันหลังออกจากห้องไป

ทิ้งสีหน้าและสายตาสับสนปนขยะแขยงเอาไว้ให้เพื่อนรักนอนคิดถึงอยู่ทั้งคืน







tbc.

************************************************


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-05-2014 10:44:16 โดย ชุน »

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #391 เมื่อ17-05-2014 11:08:55 »

เจ็บ!!! :mew6 สงสารฟีเรียส โอ๋ๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #392 เมื่อ17-05-2014 11:14:01 »

ไม่น่าบอกโรดีอัสเลย น่าจะปากแข็งต่อไป เดี๋ยวมันก็ผ่านไป

ฟีเรียส คงไม่กล้าบอกองค์ชายหกว่า ที่ไม่อยากให้ซื้ออะไรให้

เพราะไม่อยากสำคัญตัวผิด และจะเกิดความหวังจนยากจะตัดใจ

สงสารฟีเรียส  :z3:


ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #393 เมื่อ17-05-2014 11:26:29 »

 :hao7:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #394 เมื่อ17-05-2014 11:55:53 »

 :ruready :ruready

ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #395 เมื่อ17-05-2014 12:45:01 »

ปล่อยให้เค้าได้คิด ถ้าคำว่าเพื่อนมีค่ากับเค้ามาพอเค้าจะกลับมา อย่ารั้นไปหาเค้านะฟีเรียส

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: รามิเรส : บทที่ 19 (6 พ.ค. 57) หน้า 13
«ตอบ #396 เมื่อ17-05-2014 13:00:51 »

โธ่ สงสารฟีเรียสจัง

ออฟไลน์ loyal_mook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #397 เมื่อ17-05-2014 13:08:30 »

เอ๊าาาา โรดีอัสสส  :z3:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #398 เมื่อ17-05-2014 13:23:46 »

เกิดเป็นฟีเรียสนี่ลำบากจังน้อ :sad4:

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #399 เมื่อ17-05-2014 13:32:51 »

ห่วงน่ะรู้ แต่ตัวเองมาคาดคั้นจับผิดจนเพื่อนอึดอัด พอได้ความก็รังเกียจ
คำว่าเพื่อนของนายมีนิยามว่ายังไงวะโรดีอัส


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
« ตอบ #399 เมื่อ: 17-05-2014 13:32:51 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #400 เมื่อ17-05-2014 16:06:33 »

กรี๊ดดด ทำไมชั้นรุ้สึกเจ็บอ่ะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #401 เมื่อ17-05-2014 16:55:16 »

กรี๊ดดดดดดดดดดดดด

ออฟไลน์ Fujoshi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #402 เมื่อ17-05-2014 16:59:42 »

เจ้าชายสู้ๆ รีบมาปลอบใจเร็ว

โรดิอัส ไอ้เพื่อนบ้า เดี๋ยวฟีเรียสก็คิดมากอีก

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #403 เมื่อ17-05-2014 17:54:42 »

โรตีอัส เธอใช้ความสนิทสนมและใช้ความหวังดีบังหน้ามาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของคนอื่นมากไปแล้ว

ไม่ว่าเพื่อนจะเป็นอะไร สิ่งที่ควรมีคือการเคารพการตัดสินใจและเคารพในตัวตนของคนอื่น

ถ้าสอดรู้เองแล้วกลัวเอง ก็ไปไกลๆเถอะ น่ารำคาญ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #404 เมื่อ17-05-2014 20:05:58 »

โรดีอัสเยอะไปนะคะ...

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #405 เมื่อ17-05-2014 20:38:51 »

สุดท้ายก็ดีแต่พูด

ออฟไลน์ tou

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 55
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #406 เมื่อ17-05-2014 21:31:16 »

คุณโรดีอัสนี่ยังไงกันคะ คนเค้าไม่อยากพูดก็ไปบีบบังคับกดดันให้พูด
พอเค้ายอมเล่าก็ไปทำท่าไม่ดีใส่น้องฟีอีก
เยอะไปนะคะเรา  :beat: :beat: :beat:

ออฟไลน์ benz-sirilada

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #407 เมื่อ17-05-2014 21:47:32 »

โรดีอัส ไหนว่าเป็นเพื่อนกันไงทำไมทำแบบนี้
สงสารฟีเรียสอ่ะ โธ่นึกว่าจะปรึกษาได้   :z6:
รอเจ้าชายหกมาปลอบใจอยู่
ชอบเรื่องนี้มาก เป็นกำลังใจให้คุณชุน นะค่ะ

ออฟไลน์ poogan_zadd

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 31
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #408 เมื่อ18-05-2014 14:49:27 »

สงสารฟีเรียสมากๆ ไหนตอนแรกบอกให้เล่าให้หมด
พอเล่าแล้วก็มาทิ้งไว้แบบนี้ TT อุตส่าห์เบิกบานมาจากฉากหวานๆกับเจ้าชาย

รอคุณชุนมาต่อนะคะ

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #409 เมื่อ18-05-2014 16:14:06 »

กระโดดถีบโรดีอัสแล้วตัดเพือ่น :z6:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
« ตอบ #409 เมื่อ: 18-05-2014 16:14:06 »





ออฟไลน์ fongbeer37

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #410 เมื่อ18-05-2014 23:04:16 »

รอตบโรดีอัส  :beat: :beat: :beat: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6:

ออฟไลน์ himoru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #411 เมื่อ19-05-2014 09:38:09 »

โรดีอัสโหดร้ายยยยยยยย
สงสารฟีเรียส

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #412 เมื่อ24-05-2014 09:39:01 »

ตามอ่านทันแล้ว ^^
ความสัมพันค่อยๆคลืบคลานจริงๆ แต่เจ้าชายรุกแล้วค่ะ อิอิ
ฟีเรียสอย่าดื้อมากเลยนะ
ตอนนี้สงสารฟีเรียส โดนเพืีอนสนิทมองด้วยสายตาแบบนั้น

ออฟไลน์ Phut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 374
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #413 เมื่อ24-05-2014 10:48:51 »

มาทวงงงงงงง

คุณชุนมาต่อให้หน่อยซี อยากอ่านใจจะขาดแย้ววว

เรื่องเวลาด้วย รอพี่เขยกะไทอยู่น้าาาา :mew1:

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #414 เมื่อ24-05-2014 20:04:22 »

นั่นแหล่ะ เซ้าซี้ดีนัก ให้มันรู้กันไปเลย

ออฟไลน์ ทั่วหล้า

  • ไม่ช่างพูดแต่ช่างพิมพ์
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1049
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #415 เมื่อ29-05-2014 08:31:29 »

เหนื่อยไหมฟีเรียสที่มีเพื่อนที่ไม่เข้าใจเราอยู่ข้างกาย

myewmintt

  • บุคคลทั่วไป
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #416 เมื่อ04-07-2014 20:19:40 »

สงสารฟีเรียสสสสส
ในที่สุดดดก็ตามทัน รอตอนต่อไปค่ะ :pig4:

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #417 เมื่อ05-07-2014 20:47:31 »

อ้าว ไหงงั้น ไหนว่าจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่ จะตัดความเป็นเพื่อนด้วยเรื่องนี้จริง ๆ เหรอ

ออฟไลน์ iGiG

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 606
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #418 เมื่อ08-07-2014 00:16:01 »

ตั้งใจว่าจะรอเรื่องนี้จบก่อนแล้วค่อยอ่านรวดเดียว เดี๋ยวจะไม่มีสมาธิทำงานทำการเหมือนตอนอ่านเวลา แต่ก็อดใจไม่ไหวจนได้

กรี๊ดดดดดด อุดปาก ทุบหมอน หมั่นไส้ เขิน น้ำตาซึม วี๊ดวิ๊ว ละมุนละไม ความรู้สึกตอบอ่านเรื่องนี้รวดเดียว 20 ตอน ครบถ้วนจริงๆค่ะ

ชอบความสัมพันธ์ที่คืบหน้าไปอย่างช้าๆ และค่อยๆชัดขึ้น

เฝ้ารอตอนต่อไป  :กอด1:

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 20 (17 พ.ค. 57) หน้า 14
«ตอบ #419 เมื่อ09-07-2014 08:24:48 »

ฟีเรียส
เจ้าหายไปไหน ไปๆ ให้เจ้าชายปลอบเร้วววว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด