รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: รามิเรส : บทที่ 33 (จบ) และบทส่งท้าย (30 ธ.ค.57) แจ้งข่าวหนังสือ หน้า 1 ค่ะ  (อ่าน 358072 ครั้ง)

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #480 เมื่อ29-07-2014 21:43:04 »

บทที่ ๒๓



พิธีแต่งตั้งองครักษ์จะมีขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้า ระหว่างนี้ฟีเรียสจึงตัดสินใจกลับบ้าน ไม่อยู่ทำงานพิเศษอย่างที่เคยตั้งใจเอาไว้

นักเรียนองครักษ์หนุ่มตัดสินใจแวะเที่ยวแถวท่าเรือก่อนกลับบ้าน เขาเดินเที่ยวดูชีวิตของผู้คนอยู่เพลินๆ สายตาก็พลันเห็นเหตุการณ์หนึ่งเข้าเสียก่อน

ชายวัยกลางคนร่างอ้วนคนหนึ่งกำลังเดินดูข้าวของตามร้านรวงสองข้างทางเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ข้างตัวมีถุงเงินใบใหญ่ห้อยเอาไว้ล่อตาโจร ขณะเขากำลังคิดว่าไม่นานคงไม่แคล้วถูกขโมย ชายร่างผอมหน้าเสี้ยมคนหนึ่งที่เดินตามหลังอยู่ก็มองชายร่างอ้วนตาเป็นมัน ก่อนจะเดินฝ่าผู้คนย่นระยะทางใกล้เข้าไปเรื่อยๆ

ฟีเรียสคิดอยู่ว่าเขาจะเข้าไปขัดขวางดีหรือไม่ แต่เขาไม่ใช่คนเดียวที่มองเห็นเหตุการณ์นี้ ผู้ชายผิวขาว ผมยาว ร่างสูงคนหนึ่งชิงเดินฝ่าผู้คนไปถึงตัวชายร่างอ้วนก่อน หลังจากพูดคุยกันอยู่ไม่กี่ประโยค ชายร่างอ้วนก็พยักหน้าหงึกหงักแล้วดึงเอาถุงเงินถุงใหญ่ยัดใส่อกเสื้อด้านหน้า สิ่งที่ฟีเรียสคิดว่าไม่ฉลาดเลยก็คือ พลเมืองดีคนนั้นหันไปมองชายหนุ่มร่างผอมที่มีหน้าตาไม่น่าไว้วางใจผู้นั้น ทำแบบนี้ถ้าผู้ชายผอมๆ คนนั้นเป็นหัวขโมยจริงก็คงรู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่อีกฝ่ายเป็น ‘ตัวขัดลาภ’ อย่างแท้จริง

สายตาอาฆาตของชายร่างผอมทำเอาฟีเรียสนึกเป็นห่วงผู้ชายผิวขาวจัดคนนั้นขึ้นมา จึงตัดสินใจเดินตามไปห่างๆ ตามหลังชายที่น่าจะเป็นขโมยคนนั้นไปอีกทอดหนึ่ง

และได้ช่วยพลเมืองดีคนนั้นเอาไว้ในตรอกแห่งหนึ่ง

การต่อสู้แบบมือเปล่าคือสิ่งที่เขาถนัดที่สุด ดังนั้นต่อให้อีกฝ่ายใช้มีดสั้นก็ทำอะไรเขาไม่ได้ หลังจากยึดมีดสั้นเอาไว้ได้แล้ว เขาก็ตัดสินใจปล่อยอีกฝ่ายไป

ทว่าผู้ชายร่างสูงใหญ่ในชุดรัดกุมสีเข้มจำนวนห้าคนที่ยืนปิดทางออกทั้งสองด้านของตรอกเอาไว้ดูจะไม่ยอม

ฟีเรียสหน้าเครียด ขณะกำลังคิดว่าจะเอาตัวรอดอย่างไรดี คนที่เขาช่วยเอาไว้ก็เอ่ยปาก

“ปล่อยเขาไปเถอะ”

ขโมยเกือบชะตาขาดรีบหนีไปอย่างทุลักทุเลทันทีที่มัจจุราชเปิดทางออก ขณะที่ฟีเรียสแทบจะเอามือตบหน้าผากดังป้าบ
นี่เขาแส่ไม่เข้าเรื่องสินะ ต่อให้เขาไม่ยื่นมือเข้ามา ผู้ชายผมยาวหน้าตาดีคนนี้ก็คงไม่ระคายผิว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีผู้ชายรูปร่างใหญ่โตถึงห้าคนติดตามเขามาอีกทอดหนึ่ง

“เจ้าบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า น้องชาย”

ฟีเรียสคิดว่าเขาน่าจะอายุเท่าๆ กับอีกฝ่าย แต่ในเมื่อฝ่ายนั้นเรียกเขาว่าน้องเขาก็ไม่คิดจะทักท้วง

“ไม่เป็นไรครับ ท่านล่ะ”

พออีกฝ่ายยิ้มเท่านั้น ฟีเรียสพลันคิดขึ้นมาทันทีว่าคนตรงหน้ายิ้มสวย เป็นผู้ชายที่ยิ้มสวยมาก

“ข้าไม่เป็นไร เจ้าช่วยข้าไว้ ขอบใจมาก ให้ข้าได้เลี้ยงตอบแทนเจ้าเถอะ”

“คุณชาย” ชายคนหนึ่งขัดขึ้นก่อนที่ฟีเรียสจะตอบปฏิเสธ “ขออภัย แต่นายท่านจะรอนะขอรับ”

คนถูกเรียกว่าคุณชายมีทีท่าลังเลอย่างเห็นได้ชัด

“ท่านไม่ต้องตอบแทนข้า เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ข้าไม่คิดมาก”

“เจ้าชื่ออะไร”

“ฟีเรียส”

ผู้อารักขาขมวดคิ้ว ดูจะไม่ค่อยชอบใจที่เขาไม่เคารพคุณชายของพวกเขาเท่าที่ควร แต่ฟีเรียสไม่สนใจ

“ข้าจะจำไว้ หวังว่าคงมีโอกาสได้ตอบแทนบุญคุณ”

“ข้าบอกแล้วว่าเรื่องเล็กน้อย ท่านลืมๆ ไปก็ได้”

อีกฝ่ายชะงักไปนิดหนึ่ง ก่อนจะมองเขาด้วยสายตาของผู้ใหญ่ที่มองดูเด็กดื้อๆ คนหนึ่ง ซึ่งเป็นสายตาที่คนถูกมองไม่ค่อยชอบใจนัก ดีที่อีกฝ่ายเพียงแค่ย้ำคำขอบคุณอีกครั้งหนึ่งแล้วจึงจากไป






การกลับบ้านช่วยเยียวยารักษาหัวใจของว่าที่องครักษ์หนุ่มได้มาก การได้อยู่ท่ามกลางคนที่รู้แน่ว่ารักเขาอย่างไม่มีเงื่อนไขทำให้ฟีเรียสรู้สึกว่าเขาได้รับการเอาใจใส่

การกลับมาเป็นชาวสวน ดูแลสวนของตัวเองทำให้เขามีความสุขมาก ฟีเรียสคิดว่าถ้าเขาไม่หลงใหลในการเป็นองครักษ์เอามากๆ เขาก็คงจะเป็นชาวสวน แม่ของเขาสุขภาพดีขึ้นเรื่อยๆ น้องสาวของเขามีความสุขกับเพื่อนรักของเขาดี วอลเซนส์บอกเขาว่าถ้าเก็บเงิน สร้างเนื้อสร้างตัวได้มั่นคงดีพอ ปีหน้าจะพาผู้ใหญ่มาสู่ขอเฟย์ ชายหนุ่มผิวเข้มร่างใหญ่ถึงกับวางแผนเอาไว้ว่า

“ข้าจะพาน้าเรเซียไปอยู่กับเราด้วย เจ้าเป็นองครักษ์คงไม่มีเวลากลับมาดูแลนางบ่อยๆ”

“ข้าคิดว่าเจ้าอยากอยู่กับเฟย์สองคน”

“เฮ้ย! พูดอย่างนี้คิดว่าข้าเป็นคนยังไงวะฟีเรียส แม่เจ้าก็เหมือนแม่ข้า ข้ารักนางเหมือนแม่แท้ๆ นางอุตส่าห์ยกลูกสาวที่น่ารักให้ข้า ข้าจะไม่ดูแลนางเป็นการตอบแทนได้ยังไง ทำอย่างนั้นเฟย์โกรธข้าตาย”

“แม่ข้ายกเฟย์ให้เจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่”

“ยังไม่ยกให้ก็ต้องยกให้เร็วๆ นี้ละวะ น้องสาวเจ้ารักข้าจะตาย ถ้านางไม่ได้แต่งกับข้า มีหวังร้องไห้จนน้ำท่วมบ้านตาย”

“ใครจะร้องไห้นะคะพี่วอลเซนส์”

คนถามโผล่หน้าออกมาจากหน้าต่างบานหนึ่ง มองมายังพี่ชายสองคนที่นั่งคุยกันอยู่ตรงเก้าอี้หน้าบ้าน

“แหม หูดีอีกวุ้ย”

“พี่ยังไม่ได้ตอบข้าเลยนะคะ”

“ข้าบอกว่าถ้าเจ้าไม่ได้แต่งกับข้า เจ้าต้องร้องไห้จนน้ำตาท่วมตายแน่ เพราะว่าเจ้ารักข้ามาก”

“ล... หลงตัวเอง! ใครบอกว่ารักพี่กัน ข... ข้าไม่เคยพูดสักหน่อย”

“จ้า ไม่รัก ไม่รักน้อย แต่รักมากกกกกก”

“พี่วอลเซนส์!”

เจ้าของฟาร์มม้าหนุ่มเดินไปง้อแฟนสาวของเขาแล้ว ฟีเรียสมองตามยิ้มๆ เขาไม่รู้สึกน้อยใจเลยที่เป็นส่วนเกินแทบทุกครั้งที่สองคนนี้อยู่ด้วยกัน มีแต่ความรู้สึกโล่งใจ วางใจว่าน้องสาวของเขาจะมีอนาคตที่ดี เพียงแต่ความจริงที่ได้รู้ แผนการในอนาคตที่เพื่อนวัยเด็กเพิ่งพูดให้ฟังทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่า

ทำไมไม่บอกก่อนหน้านี้

ถ้าเขารู้ก่อนว่าวอลเซนส์เต็มใจจะดูแลทั้งแม่และน้องของเขาเป็นอย่างดี เขาอาจจะเป็นฝ่ายออกปากขอให้เพื่อนรีบแต่งงานกับน้องสาวของเขาเสียเองก็เป็นได้ เพื่อที่ว่าบ้านที่สวยราวกับหลุดออกมาจากจินตนาการหลังนี้จะได้ไม่ถูกสร้างขึ้น

และเขาจะได้ไม่ต้องมีพันธะกับเจ้าชายพระองค์นั้นในเวลาที่เขาอยากจะสลัดทิ้งเหลือเกินอย่างนี้

เมื่อสายตาไปหยุดอยู่ที่ต้นไม้สูงราววาเศษที่เขาเพิ่งเอาลงดินไว้ตรงข้างศาลาสีขาวในสวน ฟีเรียสก็เบือนสายตาไปไหนไม่ได้อีกนาน

ทั้งที่เขาไม่ได้กำลังมีความรักแท้ๆ มันก็แค่ความหลงใหลงมงายที่ไม่มีวันเป็นจริง ทำไมใยรักถึงได้โตเอาๆ เร็วขนาดนี้

อยากรู้นัก ว่าอีกต้นหนึ่งจะยังอยู่ดี และงอกงามรวดเร็วเท่านี้ไหม

เฉาตาย หรือเจ้าของมันเอาไปมอบให้ใครเสียแล้ว

อาจเป็นผู้หญิงสักคนที่ทรงรัก... พระคู่หมั้นกระมัง

หรือว่าไม่ได้รักกันนะ เพราะถ้ารักจริง ก็คงไม่ไปเที่ยวผู้หญิงอย่างคืนนั้น

คืนที่ทำให้เขาเข้าใจสิ่งที่โรดีอัสพยายามบอกมากขึ้น... เจ้าชายหกโปรดผู้หญิง ไม่เหมือนเขาที่ชอบผู้ชาย

วันเวลาที่ผ่านมาระหว่างกันคือเวลาที่พระองค์กำลังทรงสับสน

แต่ตอนนี้คงไม่สับสนอีกต่อไปแล้ว


****************************


วันเวลาอันแสนสงบสุขผ่านไปอย่างรวดเร็วราวติดปีกบิน ฟีเรียสต้องกลับไปเตรียมตัวเข้าพิธีแต่งตั้งและทำงานในฐานะองครักษ์อย่างเต็มตัว แม่ของเขาฝากขนมทำเองไปถวายเจ้าชายหกด้วย ชายหนุ่มรับปากว่าจะนำไปถวายถึงพระหัตถ์และกำชับน้องสาวว่าไม่จำเป็นต้องเขียนจดหมายไปกราบทูล

ระหว่างเดินทางกลับ ฟีเรียสอดข้าวไปห้ามื้อ เพื่อที่จะกินขนมหวานในขวดโหลสามโหลที่แม่เขาให้มาจนหมด

เท่านี้ก็เป็นอันว่าหมดภาระ ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับเจ้าชายพระองค์นั้นโดยไม่จำเป็นอีก






พิธีแต่งตั้งองครักษ์ใหม่จัดขึ้นในหอประชุมใหญ่ มีเจ้าชายฟารุค เจ้าชายสามซึ่งเป็นผู้บังคับการกรมทหารองครักษ์ทรงเป็นประธาน นักเรียนองครักษ์จบใหม่ทุกคนต่างตื่นเต้นยินดีที่จะได้รับเข็มเกียรติยศจากพระหัตถ์ อีกเรื่องหนึ่งที่น่าตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าคือพิธีนี้เป็นพิธีหนึ่งที่เจ้าชายทุกพระองค์ของไมซีนจะเสด็จมา เพราะหลังจากพิธีประทานเข็มก็เป็นพิธีถวายตัวเป็นองครักษ์ในหน่วยองครักษ์ประจำพระองค์ของผู้ที่สอบได้อันดับหนึ่งถึงแปดของรุ่น

นักเรียนองครักษ์ทั้งแปดคนจะแสดงฝีมือต่อพระพักตร์ทีละคน เป็นการต่อสู้เดี่ยวต่อหมู่ ก่อนจะเดินเข้าไปหยุดยืนเฉพาะพระพักตร์ คุกเข่าลงข้างหนึ่ง กำมือขวาแนบหัวใจเพื่อถวายความเคารพสูงสุดแล้วจุมพิตปลายกระบี่ที่พระองค์ทรงยื่นมาตรงหน้าเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณว่าจะจงรักภักดีตราบจนชีวิตจะหาไม่

เนื่องจากเจ้าชายเฮเดส เจ้าชายพระองค์ใหญ่แห่งไมซีนเพิ่งทรงสละตำแหน่งเจ้าชายรัชทายาท ตำแหน่งนี้จึงตกเป็นของเจ้าชายแอธรอนซึ่งเป็นเจ้าชายรอง ทว่านักเรียนองครักษ์ที่สอบได้ที่สองยังได้เป็นองครักษ์ประจำพระองค์ของเจ้าชายเฮเดส เนื่องจากเจ้าชายแอธรอนทรงเคารพพระเชษฐาต่างพระมารดามาก

อีกเรื่องหนึ่งที่ฟีเรียสเพิ่งรู้ได้ไม่นานคือ มีการตรวจข้อสอบผิดพลาด ตำแหน่งที่แต่เดิมก็มีคะแนนห่างกันไม่มากจึงคลาดเคลื่อน
โรดีอัสสอบได้ที่เจ็ด ดังนั้นตอนนี้ชายหนุ่มจึงคุกเข่าอยู่ตรงเบื้องพระพักตร์ของเจ้าชายรามิเรสและจุมพิตปลายกระบี่ของพระองค์
ฟีเรียสไม่รู้ว่าเพื่อนรู้สึกยังไง แต่วูบหนึ่ง ใจเขารู้สึกอิจฉาเพื่อนเหลือเกิน

เขาสอบได้ที่สิบสาม พยายามแล้ว แต่ก็ได้เท่านี้

หลังจากพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณแด่เจ้าชายรัชทายาทซึ่งเป็นผู้แทนพระองค์ขององค์ราชา ก็เป็นการแสดงฝีมือของบรรดาองครักษ์ใหม่ บรรดาองครักษ์ใหม่ทั้งหลายต่างแสดงอย่างสุดฝีมือเพราะถือเป็นโอกาสหนึ่งที่จะได้ก้าวหน้า หากว่าเจ้าชายพระองค์ใดพอพระทัยหน่วยก้านและฝีมือ ก็อาจจะโปรดรับไว้เป็นองครักษ์ของพระองค์เป็นกรณีพิเศษ

ฟีเรียสไม่แน่ใจตัวเองว่าเขาอยากจะไปทำงานกับโรดีอัสหรือไม่ แต่เขารู้ตัวดีว่าแสดงฝีมือการยิงธนูอย่างสุดฝีมือทีเดียว ฝีมือยิงธนูของเขาเป็นที่สามของรุ่น ใครอื่นอาจมองฝีมือของหัวหน้าชั้นปี เพราะจิลเวลเก่งเป็นที่หนึ่งด้านนี้ แต่ฟีเรียสคาดหวังให้คนเพียงคนเดียวมองมาที่เขา แม้เขาจะไม่ได้หันไปมองพระองค์เลยก็ตาม

เจ้าชายหลายพระองค์ทรงเลือกองครักษ์ใหม่ได้หลายคน

ดีลุคซถูกเจ้าชายสามทรงเลือก ขณะที่จิลเวลได้รับพระเมตตาจากเจ้าชายแอธรอน ทว่าทั้งสองคนทำให้ทั้งผู้อำนวยการ ครูฝึก และองครักษ์ใหม่ทุกคนหายใจไม่ทั่วท้องด้วยการกราบทูลว่าอยากเป็นครูที่โรงเรียนนี้มากกว่าเป็นองครักษ์ประจำพระองค์
จิลเวลไม่แย่นัก เพราะเจ้าชายรัชทายาทพระอารมณ์ดีพอจะทรงพระสรวลแล้วรับสั่งว่า

“หน้าตาเรียบร้อยอย่างนี้ไม่คิดว่าจะใจกล้า เอ้า ไม่อยากเป็นก็ตามใจ ข้าไม่บังคับ”

แต่ดีลุคซค่อนข้างน่าหวาดเสียว เพราะคนที่เขาปฏิเสธเป็นถึงเจ้ากรมองครักษ์ เจ้าชายฟารุคทรงนิ่งเงียบฟีเรียสเองก็กังวลแทนเพื่อน ทว่าบรรยากาศผ่อนคลายลงเมื่อชายหนุ่มผิวขาวร่างโปร่งที่ยืนอยู่ข้างพระองค์เอื้อมมือไปแตะท่อนพระกรของพระองค์ด้วยท่าทีกล้าๆ กลัวๆ แต่สีหน้ามีแววขอร้องอย่างเห็นได้ชัด เป็นผลให้พระองค์รับสั่งตอบองครักษ์หนุ่มรูปงามที่คุกเข่าอยู่ตรงเบื้องพระพักตร์สั้นๆ ว่า

“ตามใจ”

เจ้าชายห้าทรงเลือกองครักษ์ใหม่จำวนมากที่สุดในบรรดาพี่น้อง ฟีเรียสไม่แน่ใจว่าจะเกี่ยวข้องกับองครักษ์ประจำพระองค์รูปร่างสูงผอมที่ยืนกำกระบี่แน่นเป็นพิเศษอยู่ข้างๆ พระองค์หรือไม่ เพราะทุกครั้งที่เลือก เจ้าชายหนุ่มจะทรงปรายสายพระเนตรไปทางเขาด้วยสายตาที่ดูท้าทายกึ่งๆ ยั่วเย้า

เจ้าชายสี่ซึ่งมีแววพระเนตรดุจัดยิ่งกว่าใครในบรรดาพี่น้องไม่ทรงเลือกใครเลยสักคน

ขณะที่เจ้าชายหกทรงเลือกเพิ่มสองคน... และไม่ใช่คนที่พระองค์ทรงรับเป็นศิษย์

ไอ้คนโง่! ไอ้คนหลงตัวเอง! ฟีเรียสได้แต่ก่นด่าตัวเอง กำมือแน่น สะกดกั้นความร้อนผ่าวที่ดวงตาและปลายจมูก

ก่อนความรู้สึกนั้นจะเปลี่ยนเป็นความประหลาดใจแกมตกใจ เมื่อเขาถูกเจ้าชายเฮเดสทรงเลือก
.
.
.
.
.
มีเขาคนเดียวที่ถูกพระองค์ทรงเลือกเพิ่มเติม






ฟีเรียสดีใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกสงสัย ตอนที่ก้มลงจุมพิตปลายพระแสงกระบี่ เขาเงยหน้าขึ้นมองสบสายพระเนตรของพระองค์แวบหนึ่งแล้วก็ไม่กล้ามองอีก

บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง แต่เขาไม่สงสัยเลย ว่าทำไมเจ้าชายอีกหกพระองค์จึงเคารพพระองค์มาก ตัวเขาเองยังรู้สึกว่าขนลุกชันด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจในเกียรติยศที่ได้รับ

ฟีเรียสย้ายเข้าไปอยู่ในตึกพักขององครักษ์ในเจ้าชายใหญ่แล้ว เขาได้พักห้องเดี่ยว และได้ของประทานหลายอย่างซึ่งเป็นของจำเป็นสำหรับชีวิตการเป็นองครักษ์ เช่นเครื่องแบบใหม่หลายชุด เครื่องแบบขององครักษ์ในเจ้าชายเฮเดสเป็นสีน้ำเงินริมเทา เจ้าชายพระองค์ใหญ่แห่งไมซีนโปรดให้หนึ่งในสององครักษ์คนสนิทของพระองค์พาเขากับเพื่อนคนที่สอบได้ที่สองของรุ่นไปแนะนำให้องครักษ์คนอื่นๆ รู้จัก และฟีเรียสก็คิดว่า

เขาคงจะสามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจและมีความสุข องครักษ์รุ่นพี่ดูเป็นมิตรกับเขาทุกคน

หลังจากทำงานได้ห้าวัน เขาจึงเพิ่งรู้เหตุผลที่ตัวเองมีวาสนาดี

วันนี้เขามีเวรตามเสด็จไปนอกวังจึงตื่นขึ้นมาเตรียมตัวตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง ได้ยินเสียงคนเป่าขลุ่ยจึงเดินตามเสียงไปและพบว่าเสียงนั้นมาจากในศาลากลางสวนข้างพระตำหนัก ขณะจะเดินเข้าไปดูใกล้ๆ หัวหน้าองครักษ์ประจำพระองค์ก็ออกมาขวางเอาไว้

“องค์ชายเสด็จออกมาดำเนินเล่น”

“ข้าเห็นมีสองคน...” ฟีเรียสอดปากไว้ไม่อยู่ ไม่ได้บอกว่าอีกคนหนึ่งนั้นเขารู้สึกว่าดูคุ้นๆ เหมือนเคยเห็น

“นั่นคุณธาม”

“ครับ”

“เป็นคนรักขององค์ชาย”

“พระชายาหรือครับ” แต่เจ้าชายเฮเดสยังไม่ได้ทรงอภิเษกสมรส

“ไม่ใช่ แต่ให้ปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาอยู่ในฐานะนั้น”

ฟีเรียสขมวดคิ้ว

“เอาเถอะ บอกเจ้าตอนนี้ก็ได้” ถึงยังไงก็ต้องรู้ “องค์ชายทรงมีคนรักเป็นผู้ชาย”

ฟีเรียสก็สงสัยอยู่ ว่าถึงจะผมยาว แต่คนที่นั่งเก้าอี้ข้างเจ้าชายหนุ่มก็แต่งชุดผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิง แต่ว่า... เขาไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย

เจ้าชายใหญ่แห่งไมซีน พระโอรสเพียงพระองค์เดียวขององค์ราชินี... มีคนรักเป็นผู้ชายได้ด้วยหรือ

คนรักแค่ชั่วคราวรึเปล่า

“คุณธามไม่ถือตัว ถ้ามีโอกาสได้พบหรือพูดคุย เจ้าไม่ต้องใช้ราชาศัพท์ แค่พูดให้สุภาพธรรมดาก็พอ ไม่ว่าเจ้าจะรู้สึกยังไงกับเรื่องนี้ จำไว้แค่ว่าถ้าแสดงท่าทีหรือทำอะไรไม่เหมาะสมกับเขา โทษของเจ้าเทียบเท่าการล่วงเกินพระชายา”

“ครับ ข้าจะจำไว้”

อีกฝ่ายไม่รู้ว่าเขาเองก็ชอบผู้ชาย แต่ฟีเรียสไม่คิดจะบอกใครอยู่แล้ว สรุปว่าเช้านั้นเขายังไม่ได้เห็นหน้า ‘คุณธาม’ ชัดๆ แต่เรื่องนี้ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นขึ้นมามากทีเดียว

อยากรู้ ว่าผู้ชายแบบไหนที่ทำให้คนระดับ ‘เจ้าชาย’ หลงรักได้






องครักษ์หนุ่มได้รับคำตอบในเย็นวันนั้นเอง เมื่อกลับมาจากตามเสด็จออกไปข้างนอกและพบว่าชายหนุ่มที่ยืนรออยู่หน้าพระตำหนักคือผู้ชายคนเดียวกับที่เขาเคยช่วยเอาไว้จากโจรล้วงกระเป๋า เขานึกรู้ขึ้นมาทันทีว่าเพราะอะไรอดีตองค์รัชทายาทจึงทรงเลือกเขา

ฝ่ายนั้นยิ้มให้เมื่อเห็นเขา ฟีเรียสยืนตัวเกร็งกว่าปกติเมื่อเจ้าชายเฮเดสหันมาทอดพระเนตรมองเขาอีกคน

“ข้ายังไม่ได้ขอบใจเจ้า ที่ช่วยธามเอาไว้”

“ขอเดชะฯ เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้นพระเจ้าค่ะ”

“ไม่เล็กสำหรับข้า ยังไงก็ขอบใจเจ้ามาก”

“มิเป็นไรมิได้พระเจ้าค่ะ”

“ไปพักเถอะ”

ฟีเรียสถวายความเคารพแล้วหันหลังกลับ ปลายหางตายังมองเห็นเจ้าชายหนุ่มทรงโอบเอวคนรักเข้าไปในพระตำหนัก

ขอเพียงพระองค์ทรงรักใคร่ ต่อให้เป็นผู้ชายเหมือนกันก็ไม่เป็นไรอย่างนั้นหรือ

แล้วถ้าเจ้าชายรามิเรสทรง...




... เลิกคิดดีกว่า...






ฟีเรียสเลิกคิดไม่ได้ เพราะไม่กี่วันต่อมาคนในความคิดก็มาปรากฏกายต่อหน้า เปล่า ไม่ได้มาหาเขา แต่มาเข้าเฝ้าพระเชษฐา
รับสั่งเรื่องอะไรกันไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ก็คือก่อนจะเสด็จกลับ ผู้มาเป็นแขกหยุดรับสั่งกับเขาซึ่งยืนอยู่หน้าประตูพระตำหนักว่า

“เฟย์เขียนจดหมายมาบอกข้าว่าแม่ของนางฝากขนมมาให้ข้า เจ้าลืมให้รึเปล่า”

“กระหม่อม... ทำหล่นกลางทางพระเจ้าค่ะ ขอประทานอภัย”

เจ้าชายหกทรงพยักพระพักตร์ “ข้าจะได้บอกนางถูก”

รับสั่งเท่านั้นก็เสด็จจากไป

ฟีเรียสยืนกำมือ เขาเป็นคนขอร้องเอง ว่าให้เลิกยุ่งกับเขาเสียที พระองค์ก็ทรงทำตามที่เขาขอแล้ว นี่เขายังจะหวังอะไร พระองค์จะทรงทำอะไรก็ไม่เกี่ยวกับเขาทั้งนั้น จะไปเที่ยวผู้หญิง หรือจะทำตัวห่างเหินก็ช่าง เขาไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร

“ฟีเรียส”

หัวใจเต้นแรงตั้งแต่อีกฝ่ายทรงหันกลับมาแล้วเรียกชื่อ

“พระเจ้าค่ะ”

“เจ้ายิงธนูเก่ง ผลสอบก็ดีขึ้นมาก ข้าภูมิใจ”

หัวใจที่พองฟูขึ้นมาคับอกบอกให้รู้ว่า
.
.
.
.
.
.

เจ้าชายหกแห่งไมซีนยังทรงมีอิทธิพลต่อเขาอย่างไม่เปลี่ยนแปลง





tbc.


********************************

- มีคนถามเรื่องโรดีอัสมาเนอะ ขอตอบว่าโรดีอัสไม่ได้คู่กับเจ้าชายแปดหรอกค่ะ ส่วนใหญ่ชุนจะไม่ใช้ตัวประกอบในเรื่องไปเป็นตัวหลักในเรื่องอื่นน่ะค่ะ แล้วโรดีอัสก็ไม่ใช่นายเอกในสเปกชุนด้วยอ่า

- ขอใช้พื้นที่ตรงนี้แจ้งเรื่องเวลานิดนึงนะคะ ช่วงสามวันนี้คืออังคารถึงพฤหัสชุนมาอบรมน่ะค่ะ
ถ้าใครเมลจองมาช่วงนี้ชุนเมลตอบได้อยู่นะคะ เพราะว่าที่โรงแรมมี wifi
แต่ถ้าแจ้งโอนมาชุนยังเช็คไม่ได้น่ะค่ะ เพราะเช็คโดยการเอาสมุดบัญชีไปปรับ
ไม่ได้เอาสมุดมาและไม่สะดวกให้ที่บ้านเช็คให้ด้วย
เพราะงั้นจะเมลยืนยันการโอนเงินให้ได้ประมาณวันศุกร์นะคะ
ต้องขอโทษด้วยค่ะ


ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #481 เมื่อ29-07-2014 22:11:01 »

ปากหนักเหลือแสน แถมยังหนีทุกวิธีเท่าที่จะคิดได้

ฟีเรียสนายทำให้เราสงสารองค์ชายหก สุดๆ

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #482 เมื่อ29-07-2014 22:21:01 »

ขำที่ฟิเรียสพยายามกินขนมจนหมดจะได้ไม่ต้องเอาไปให้เจ้าชายหก 555 เจ้าตัวคงซีเรียส แต่คิดแล้วน่ารักดี
มีฉากคุยกันนิดนึงพอให้ชุ่มฉ่ำใจ ฮือ อย่างน้อยเขาก็ยังหวังดีต่อกันและกันอยู่ แม้ว่าจะอยู่ได้เพียงห่าง ๆ  :hao5:
เห็นเจ้าชายมีคนรักเป็นผู้ชายได้ ฟิเรียสน่าจะผ่อนคลายขึ้นนะ หรือจะเศร้ามากขึ้นเพราะนึกถึงเรื่องของตัวเองกันล่ะ
เลิกหนีรามิเรสเถอะ อย่าหลบกันอีกเลย มันปวดใจ  :hao5:

ออฟไลน์ silverspoon

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2426
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +275/-12
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #483 เมื่อ29-07-2014 22:21:54 »

ขนาด องค์ชายองค์แรกยังสละราชบัลลังค์มาแล้วเลย นับประสาอะไรกับองค์ชายหก น่าจะได้นะฟีเรียส

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #484 เมื่อ29-07-2014 22:28:59 »

เหมือนจะไม่ได้มีแค่คู่เดียวซินะ 55555

ออฟไลน์ loyal_mook

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 136
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #485 เมื่อ29-07-2014 22:57:47 »

เฟย์ไม่ฟังฟีเรียสเลยอ้ะ  o18

ออฟไลน์ myapril

  • Tomorrow
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1436
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #486 เมื่อ29-07-2014 23:08:08 »

ฟีเรียส
ทำแบบนี้ คนอ่านเหนื่อยใจมากจ้ะ

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #487 เมื่อ29-07-2014 23:34:03 »

เหนื่อยใจแทน เฮ้อ

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #488 เมื่อ29-07-2014 23:55:24 »

เจ็บมากมั้ยฟีเรียส?
ไม่ต้องเครียดนะ นึกซะว่าทดลองรู้สึกแบบรามิเรสดู

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #489 เมื่อ30-07-2014 00:04:49 »

ไม่รู้จะว่ายังไงกะคู่นี้ดี  :amen:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
« ตอบ #489 เมื่อ: 30-07-2014 00:04:49 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Inwoสูs

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #490 เมื่อ30-07-2014 00:10:50 »

เป็นซะแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะเข้าใจกันละ ฮืม

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #491 เมื่อ30-07-2014 00:45:09 »

เหมือนจะไปได้เยอะน่ะ แต่มันก็ไม่ถึงไหนเหมือนกัน

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7524
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #492 เมื่อ30-07-2014 03:08:34 »

เอาอีกกกก!!

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #493 เมื่อ30-07-2014 06:05:48 »

ท่าทางองค์ชายจะมี คู่รักที่เป็นชาย อยู่หลายองค์เลยนะ

ออฟไลน์ PetitDragon

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +343/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #494 เมื่อ30-07-2014 08:22:26 »

เรื่องง่ายกว่าเดิมเยอะ ในเมื่ออดีตองค์รัชทายาทยังมีคนรักเป็นผู้ชาย


เลิกคิดมากเถอะฟีเรียส

ออฟไลน์ himoru

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #495 เมื่อ30-07-2014 11:55:54 »

คือก็เข้าใจว่าฟีเรียสคงคิดหนัก คิดเยอะ สถานะเรากับเขามันต่างกันเกิน
คิดจนคิดแทนรามิเรสไปล้านแปดแหละ
สงสารรามิเรสแล้วสิ
แบบว่า เหมือนพยายามอยู่ฝั่งเดียวมาตลอด
คนหนีก็หนีจนรู้สึกว่าคนตามเหนื่อยแสนสาหัษ
เฮ่อออออออออออออออออออออออออ
ฟีเรียส ฟีเรียส ฟีเรียส เคยรู้สึกชอบที่ได้มายากๆ
แต่ตอนนี้สงสารรามเรสมากกว่ายังไงไม่รู้

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #496 เมื่อ30-07-2014 12:27:15 »

ฟีเรียสกับองค์ชายหก จะลงเอยกันได้ไง

มองไม่ออก เลย เดาลำบากมาก

มันเหมือนยิ่งห่างไกล กันไปเรื่อยๆยังไงไม่รู้

อยากอ่านเรื่ององค์รัชทายาทกับคุณธามจัง

ออฟไลน์ Heisei

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #497 เมื่อ30-07-2014 16:30:03 »

เหนื่อยใจกับฟีเรียสเหลือเกิน ตอนองค์ชายพยายามเข้าใกล้ก็พยายามถอยห่าง พอคุณชายถอยห่างกลับรู้ใจตัวเองซะงั้น

หน่วงจริงๆ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #498 เมื่อ30-07-2014 16:32:32 »

ไม่ปากแข็ง ไม่ใช่ฟีเรียสอะนะ =_="

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #499 เมื่อ31-07-2014 00:53:22 »

เฮ้ออออ ฟีจะหนีความรักไปถึงไหน
เราเป็นองชายคงเลิกตามตื้อตั้งนานแล้วล่ะ
เล่นตัวเกิน!!!!!
เเล้วมีเพื่อนแย่นะฟี เฮอะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
« ตอบ #499 เมื่อ: 31-07-2014 00:53:22 »





ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #500 เมื่อ31-07-2014 23:28:59 »

คนเขียนน่ารักมาก มาไม่ขาดเลยยย น่ารักอ่ะตอนนี้  น้องน่ารักมากพี่คิงก็โอ๋มากกก อย่านะโนดราม่า 55555จุ๊บ

ออฟไลน์ arissara

  • ดาดาเดเด
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #501 เมื่อ01-08-2014 00:01:08 »

หนักจริงๆ ปากหนัก ใจหนัก ใจอ่อนบ้างก็ด๊ายยย จะเรื่อยๆไปถึงเมื่อไหร่จ๊ะพ่อคุณ

ออฟไลน์ Jaiko★

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 175
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #502 เมื่อ01-08-2014 00:22:11 »

อ่านตามทันแล้ววว
ชอบมากเลยค่ะเรื่องนี้
สงสารทั้งองค์ชายทั้งฟีเรียสเลยง่าา
ใจจรงกันแล้วแท้ๆทำไมมันยากนัก :hao5:

ออฟไลน์ jj_girl

  • รูปโปรไฟล์ขำๆ นะคะ / Cr.สาววายในตำนาน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 343
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-0
Re: รามิเรส : บทที่ 23 (29 ก.ค. 57) หน้า 17
«ตอบ #503 เมื่อ02-08-2014 23:50:35 »

รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาในอกแทนฟีเรียส และองค์ชายหก

มัวแต่ทรมานกันไปมาแบบนี้  แล้วมันมีประโยชน์อันใดกับใครกันเล่า     :ling1:

ออฟไลน์ ชุน

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 135
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-1
Re: รามิเรส : บทที่ 24 (6 ส.ค. 57) หน้า 18
«ตอบ #504 เมื่อ06-08-2014 10:15:49 »

บทที่ ๒๔


สองวันต่อมาฟีเรียสตามเสด็จเจ้าชายเฮเดสไปยังพระตำหนักของเจ้าชายรามิเรส แม้จะพยายามสงบใจแล้ว แต่ก็ยังอดรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาไม่ได้เมื่อเห็นพระตำหนักของ... เจ้าหนี้

ไม่ใหญ่มากนัก แต่งดงามและน่าจะสิ้นเปลืองเงินมาก

เพียงแค่คิดว่าใครนั่งทำงานอยู่ข้างใน เขาก็อุปาทานขึ้นมาเองว่าสถานที่แห่งนี้ดูอบอุ่น น่าอยู่มาก

ฟีเรียสพบโรดีอัสที่นี่ ทั้งสองมีโอกาสพูดคุยกันบ้างระหว่างที่ ‘เจ้านาย’ มีพระปฏิสันถารกันอยู่ข้างใน ต่างฝ่ายต่างพอใจเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งมีความสุขกับการทำงานเพราะได้เจ้านายและเพื่อนร่วมงานที่ดี

“ถ้าได้อยู่ด้วยกันอีกเหมือนตอนเรียนก็คงดี เจ้าว่าไหม”

โรดีอัสเป็นคนถาม ฟีเรียสยิ้มพลางพยักหน้า

“เจ้าอิจฉาข้ารึเปล่า” องครักษ์หนุ่มร่างใหญ่ถามพลางมองหาคำตอบบนใบหน้าและสายตาของเพื่อนรักอย่างจริงจัง ฟีเรียสชะงัก

“อิจฉาทำไม เจ้าสิต้องอิจฉาข้า องค์ชายใหญ่พระทัยดีมาก”

“องค์ชายหกก็พระทัยดี”

ฟีเรียสเงียบ เรื่องนั้นเขารู้ดีอยู่แล้ว แต่ที่ไม่เข้าใจก็คือ

“เจ้าอยากจะบอกอะไรข้ากันแน่” ยังจะต้องการอะไรจากเขาอีก ในเมื่อเขาก็สูญเสียไปหมดแล้ว ทั้งผู้ชายที่เขาอยากจะอยู่ใกล้ชิดให้มากกว่านี้ ทั้งวันเวลาอันแสนพิเศษ ความรู้สึกอบอุ่นใจ และความสนใจไยดีที่เจ้าชายหกแห่งไมซีนทรงมีให้

“ข้าอยากรู้ว่าเจ้าตัดใจจากพระองค์ได้รึยัง”

โรดีอัสเป็นคนแบบนี้ ถามตรงๆ เขาก็ตอบตรงยิ่งกว่า

“...ได้แล้ว”

“จริงเหรอวะ”

ฟีเรียสสบตาเพื่อนตรงๆ “คุยเรื่องอื่นเถอะ”

“ข้าเป็นห่วงเจ้า”

“ขอบใจ แค่เจ้าไม่พูดถึงเรื่องนี้อีกก็พอ”

โรดีอัสเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนบอกอย่าง ‘ใจป้ำ’ ที่สุด

“ข้ารับได้นะเว้ย เรื่องที่เจ้าชอบผู้ชาย แต่ข้าไม่อยากให้เจ้าชอบเจ้าชายหก ไม่ใช่ว่าพระองค์ไม่ดี แต่ข้าไม่เห็นอนาคตระหว่างเจ้ากับพระองค์เลยว่ะ ขนาดข้าเพิ่งเป็นองครักษ์แค่ไม่กี่วันยังเห็นพระคู่หมั้นมาเข้าเฝ้าทุกวัน ไม่แน่อาจจะมีข่าวอภิเษกเร็วๆ นี้ ข้าไม่อยากให้เจ้าเสียใจ”

ตอนนี้เขาก็เสียใจแล้ว เสียใจชนิดที่ไม่อาจปิดบังความรู้สึกนั้นจากสายตาของเพื่อนได้เสียด้วย คบกันมานาน โรดีอัสรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการเวลาคิด เขาเชื่อว่าฟีเรียสรู้ว่าควรตัดสินใจยังไงจึงจะดีที่สุด






เจ้าชายเฮเดสรับสั่งพระธุระกับพระอนุชาเสร็จแล้ว แต่พี่น้องยังคุยกันเรื่องทั่วๆ ไปต่ออีก เจ้าชายรามิเรสทรงคิดไม่ถึงว่าพระเชษฐาจะตรัสถามตรงๆ ด้วยพระสุรเสียงเรียบๆ

“เจ้าชอบองครักษ์คนใหม่ของพี่หรือ”

คนถูกถามทรงตกพระทัยอยู่ไม่น้อย

“รับสั่งถึงคนไหนพระเจ้าค่ะ”

อีกฝ่ายไม่ตรัสตอบ แต่สายพระเนตรมีแววปรานี เจ้าชายหกแห่งไมซีนทรงผ่อนพระปัสสาสะออกเบาๆ

“พระเจ้าค่ะ หม่อมฉันชอบเขา ทำไมเจ้าพี่ทรงทราบ”

“วันก่อนมองลงมาจากชั้นบน เห็นเจ้าหยุดคุยกับเขา สีหน้า สายตาดูอ่อนโยนมาก”

เจ้าชายรามิเรสทรงนิ่งงัน เพิ่งจะทรงทราบว่าพระองค์เป็นแบบนั้น

“วันเลือกองครักษ์ เจ้าก็ตกใจที่พี่เลือกฟีเรียส” หลังจากทรงวางถ้วยพระสุธารสชาแล้วจึงตรัสถาม “รู้จักกันมาก่อนหรือ”

เจ้าชายรามิเรสกราบทูลเรื่องราวให้พระเชษฐาทรงทราบอย่างหมดเปลือก ใครก็รู้ว่าเจ้าชายพระองค์ใหญ่แห่งไมซีนทรงสละตำแหน่งรัชทายาทด้วยเหตุผลเดียว คือพระองค์ทรงมีคนรักเป็นผู้ชาย ไม่สามารถมีพระโอรสไว้สืบทอดราชบัลลังก์ได้ ประสบการณ์ความรักกับผู้ชายของพระองค์ย่อมทรงมีมาก

เจ้าชายเฮเดสทรงฟังเงียบๆ ก่อนจะรับสั่งบอกเรื่องที่พระอนุชาอยากจะรู้แต่ไม่กล้าถาม

“พี่เลือกเขาเพราะเขาเคยช่วยธามเอาไว้ เอาเถอะ แล้วจะส่งเขามาให้”

“เจ้าพี่”

อดีตเจ้าชายรัชทายาทตรัสถามด้วยสายพระเนตร ขณะเจ้าชายหกทรงกังวล

“เขาไม่ได้ชอบหม่อมฉัน” เมื่อครู่พระองค์ก็กราบทูลไปแล้ว ว่าฟีเรียสเป็นคนขอให้พระองค์ทรงเลิกยุ่งกับเขา และพระองค์ก็ตรัสตอบตกลง

เจ้าชายเฮเดสแย้มพระสรวล

“ถามเขาแล้วหรือ”

พระอนุชาทรงเงียบ จะตรัสถามทำไม ในเมื่ออีกฝ่ายแสดงออกอย่างชัดเจน

“ไม่เคยถามพระเจ้าค่ะ”

“ถามสิ”

เจ้าชายหกทรงมองพระพักตร์ของคนประทับตรงข้าม

“เจ้าพี่รับสั่งง่าย”

“ถามเดี๋ยวนี้เลย อย่ามัวรอเวลา”

เจ้าชายรามิเรสทรงนิ่งเงียบ จะบอกใครได้หรือ ว่าคนอย่างพระองค์ก็ทรงกลัวความผิดหวังเป็นเหมือนกัน

“ได้เป็นองครักษ์ของเจ้าพี่ เขาก็ดูมีความสุขดี”

สายพระเนตรรู้ทันกึ่งปรานีของพระเชษฐาทำเอาคนเปลี่ยนเรื่องต้องหยุดรับสั่ง เจ้าชายเฮเดสไม่โปรดยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวความรักของคนอื่น แต่พระองค์ก็ยังรับสั่งบอกแนวคิดของพระองค์เป็นการส่งท้าย

“เจ้าต้องถามตัวเอง ว่าชอบเขามากขนาดไหน ถ้ามั่นใจว่าจะอยู่เป็นคู่กับเขาไปตลอดชีวิตได้ และจะมีความสุขไม่ได้แน่ถ้าไม่มีเขา เจ้าก็ต้องแย่งชิงเอามา อย่าเกี่ยงวิธี”



************************************



ฟีเรียสมึนงงไปเลยเมื่อรู้ว่าเขาต้องย้ายไปเป็นองครักษ์ประจำพระองค์ของเจ้าชายหกแห่งไมซีน ส่วนโรดีอัสก็ต้องมาเป็นองครักษ์ประจำพระองค์ของอดีตองค์รัชทายาทแทนเขา

เมื่อเป็นคำสั่งของเบื้องบน องครักษ์อย่างเขากับโรดีอัสก็มีแต่ต้องปฏิบัติตาม ไม่จำเป็นต้องถามเหตุผล หาก ‘เบื้องบน’ ไม่บอกเหตุผล เขาก็ไม่มีสิทธิ์ถาม ไม่ควรถาม แต่ฟีเรียสก็พยายามหาโอกาสถามจนได้

ถึงจะเป็นองครักษ์ประจำพระองค์ แต่การจะได้เข้าเฝ้าตามลำพังสักครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ในพระตำหนักเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หากไม่มีรับสั่งให้เข้าเฝ้าหรือไม่มีหน้าที่ข้างในก็เข้าไม่ได้ เมื่ออยู่นอกพระตำหนัก เจ้าชายหนุ่มก็ทรงมีองครักษ์แวดล้อม ถึงไม่มีก็ใช่ว่าเขาจะเดินดุ่มๆ เข้าไปหาพระองค์ได้อย่างใจเหมือนตอนที่อยู่บ้านริมผา แม้จะเคยตามเสด็จออกนอกวังบ้างตอนที่มีเวร แต่องครักษ์อย่างเขาก็เป็นแค่คนตัวเล็กกระจ้อยร่อย ไม่มีสิทธิ์พูดหากเจ้าชายไม่ได้รับสั่งถาม

ฟีเรียสตระหนักถึงความแตกต่างระหว่างเขากับเจ้าชายหกดี แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าใจความหมายของคำว่า ‘ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ’ มากขึ้น

อย่างไรก็ดี ชายหนุ่มทนความอยากรู้ไม่ได้ เขาขอร้องเรจินให้ทูลขอโอกาสให้เขาได้เข้าเฝ้าสักครั้ง

เจ้าชายรามิเรสโปรดให้เขาเข้าเฝ้าตามลำพังในห้องทรงงาน

“เจ้ามีเรื่องจะพูดกับข้า”

“พระเจ้าค่ะ”

“เรื่องอะไร”

เจ้าชายหนุ่มตรัสถามเรียบๆ ทั้งที่น่าจะทรงทราบดีอยู่แล้ว ฟีเรียสรู้ว่าฐานะของเขากับพระองค์ต่างกัน รู้ว่าเขาเป็นคนขอร้องให้พระองค์ทรงเลิกยุ่งเกี่ยวกับเขาเอง แต่ในเวลาที่ไม่มีใครแบบนี้

ปฏิบัติต่อเขา พูดกับเขาอย่าง ‘คนคุ้นเคยกัน’ เหมือนแต่ก่อนไม่ได้หรือยังไง

“กระหม่อมอยากทูลถามเหตุผลที่กระหม่อมถูกย้ายพระเจ้าค่ะ”

“เจ้าไม่อยากเป็นองครักษ์ของข้าหรือ”

“ไม่อยากเป็นพระเจ้าค่ะ”

พระพักตร์ของเจ้าชายหนุ่มขรึมขึ้นทันที ทว่าฟีเรียสรู้สึกยินดีเหลือเกินที่เห็น

“กระหม่อมเคยกราบทูลแล้ว ขอให้ฝ่าบาทกับกระหม่อมอย่าพบกันอีก และฝ่าบาทก็ทรงรับปาก แต่กลับทรงใช้อำนาจสับเปลี่ยนโยกย้ายให้กระหม่อมมาเป็นองครักษ์ประจำพระองค์ กระหม่อมคิดว่ากระหม่อมมีสิทธิ์จะรู้เหตุผล ว่าทำไมฝ่าบาทจึงทรงกลับคำพระเจ้าค่ะ”

สายพระเนตรที่มองตรงมา เป็นสายตาของ ‘เจ้าชาย’ อย่างแท้จริง

ห่างเหิน และเย็นชาเสียจนคนถูกมองรู้สึกเหน็บหนาว

“เป็นพระประสงค์ของเจ้าพี่เฮเดส”

“...อะไรนะพระเจ้าค่ะ”

“เรื่องนี้เป็นพระประสงค์ของอดีตองค์รัชทายาท บางทีข้าอาจจะรู้เรื่องนี้ทีหลังเจ้าเสียอีก ข้าไม่เคยขัดพระประสงค์ของเจ้าพี่มาก่อนจึงต้องรับเจ้าไว้ แต่ถ้าเจ้าไม่อยากเป็นองครักษ์ของข้ามากขนาดนี้ ข้าก็จะกราบทูลเจ้าพี่ให้ ขอให้ท่านโปรดย้ายเจ้ากลับไป”

ฟีเรียสมองพระพักตร์อย่างตะลึงงัน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายคงจะรับสั่งความจริงแน่แล้ว เขาก็อับอายจนหน้าชา นึกอยากจะหายตัวไปเสียเดี๋ยวนี้

“มีเรื่องอะไรจะพูดกับข้าอีกไหม”

องครักษ์หนุ่มส่ายหน้าเพราะพูดไม่ออก

“อย่างนั้นก็ออกไปได้ ข้าจะทำงาน”

คนถูกไล่หันหลังเดินกลับเร็วเสียจนเกือบจะกลายเป็นวิ่ง ที่สำคัญคือเขาลืมถวายความเคารพ






โง่! โง่! โง่! เขามันเป็นไอ้โง่!



อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ แทนที่จะก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ของตัวเองไปเงียบๆ เจียมเนื้อเจียมตัว ทำเหมือนไม่เคยรู้จักกับพระองค์มาก่อน กลับดั้นด้นดันทุรังไปขอเข้าเฝ้าจนถูกพระองค์โยนความจริงมาใส่หน้า

ทั้งที่เขาดีใจมากแท้ๆ ที่ได้ใกล้ชิดกับพระองค์อีกครั้งโดยมีคำว่า ‘หน้าที่’ มาบังหน้า พอรู้อย่างนี้แล้วเขาจะยังทำหน้าที่ต่อไปอย่างเป็นสุขได้อีกหรือ

ทะเลาะกับเจ้าชีวิตของตัวเอง ทำให้พระองค์กริ้วตั้งแต่แรกทำงานอย่างนี้คงไม่ต้องหวังความก้าวหน้าใดๆ อีก คุณเรจินก็เรียกเขาไปเตือนเรื่องการวางตัว บอกเป็นนัยให้เขาทำตัวให้ดีเพราะที่นี่ไม่ใช่คฤหาสน์ริมผา เขาไม่ควรขอเข้าเฝ้าถ้าไม่มีเรื่องสำคัญจริงๆ
ฟีเรียสหน้าแดงก่ำตอนที่ถูกตำหนิ เขาได้แต่รับคำ เพราะอีกฝ่ายเป็นหัวหน้าของเขาอีกทีหนึ่ง

เป็นองครักษ์ของเจ้าชายหกก็ไม่มีหน้าจะมองพระพักตร์ ถ้าต้องกลับไปเป็นองครักษ์ของเจ้าชายเฮเดสอีก รับรองได้ว่าในวงการองครักษ์ต้องคิดว่าเขามันไม่เอาไหน ทำงานบกพร่องจนไม่มีเจ้าชายพระองค์ไหนอยากได้ไว้รับใช้ ต้องโยนกันไปโยนกันมา
ทำไมเรื่องราวถึงเป็นอย่างนี้ไปได้ ทำไมถึงไม่มีอะไรเป็นอย่างที่เขาคิดเลยสักอย่าง

เขาก็แค่...



แค่อยากให้เจ้าชายหกรับสั่งบอกกับเขาว่า เขาไม่ได้ทำอะไรผิด เพียงแค่ถูกย้ายเพราะพระองค์เป็นคนทูลขอตัวเขามาจากพระเชษฐาต่างพระมารดาเอง

ขอตัวเขามา เพราะพระองค์เสียพระทัยเหลือเกิน... ที่วันนั้นไม่ได้ทรงเลือกเขา






ไม่มีใครรู้เรื่องระหว่างฟีเรียสกับเจ้าชายรามิเรส แม้แต่เรจินก็ไม่รู้ว่าวันนั้นองครักษ์ใหม่กราบทูลเรื่องอะไรกับเจ้าชายหก แต่องครักษ์ส่วนใหญ่ย่อมรู้ ย่อมดูออก ว่าใครเป็นที่โปรดปราน และใครไม่เป็นที่โปรดปราน

ฟีเรียสจัดอยู่ในประเภทหลัง

นี่คงเป็นโทษทัณฑ์ของการหลงตัวเอง

ฟีเรียสเพิ่งรู้ตัวว่าเขาหลงตัวเองมากไปจริงๆ โรดีอัสพูดถูก คุณหนูอันธียา พระคู่หมั้นมาเข้าเฝ้าเจ้าชายหกบ่อยมาก ส่วนใหญ่ก็อยู่กันในพระตำหนัก แต่ก็มีบ้างที่เจ้าชายหกจะเสด็จนอกวังพร้อมกับพระคู่หมั้น

แล้วทำไมจำเพาะจะต้องเป็นเป็นวันที่เขาเป็นเวรด้วย!






เท่านั้นไม่พอ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเลือกสถานที่ แต่ที่แน่ๆ คือเขาไม่อยากตามเสด็จมาเลย

สวนพฤกษศาสตร์ชานเมืองวันนี้ดูไม่ใช่สถานที่น่าเที่ยวนักในสายตาขององครักษ์มือใหม่ หัวหน้าสวนจดจำเขาได้และคงเข้าใจไปเรียบร้อยแล้วว่าวันนั้นเขามากับเจ้าชายรามิเรสในฐานะองครักษ์ติดตาม

“ต้นใยรักเป็นอย่างไรบ้างพระเจ้าค่ะ”

“โตขึ้น สูงเกือบสองวาเห็นจะได้”

โกหกรึเปล่า ฟีเรียสนึกสงสัยทันที เขาอยู่มาตั้งครึ่งค่อนเดือนแล้วยังไม่เห็นใยรักสักต้น ทั้งที่อุตส่าห์มองหาอย่างมีความหวัง

“ทั้งสองต้นเลยหรือ...”

“ใยรักอะไรหรือเพคะ”

คุณหนูอันธียาซึ่งวันนี้แต่งตัวเรียบร้อยมิดชิดกว่าทุกวันเพราะต้องออกแดดทูลถามขึ้น

“ต้นไม้ เวลธ์เขาให้ข้าเป็นที่ระลึก ตอนที่ข้ามาที่นี่คราวก่อน”

“เสด็จมากับใครเพคะ”

“กับเพื่อน”

“เพื่อนคนไหนเพคะ”

เพียงแค่เจ้าชายหนุ่มทอดพระเนตรมองนิ่งๆ อันธียาก็รู้ตัวว่าเผลอล้ำเส้น หญิงสาวปรับเปลี่ยนสีหน้าและน้ำเสียงทันที

“หม่อมฉันแค่อยากทราบว่าเสด็จมากับเพื่อนผู้หญิงหรือผู้ชายเท่านั้นเองเพคะ”

“ข้าไม่มีเพื่อนผู้หญิง”

“หม่อมฉันค่อยโล่งใจหน่อยเพคะ” เพื่อเป็นการคลี่คลายบรรยากาศ คุณหนูคนงามที่กางร่มไว้ตลอดเวลาทั้งที่มีแดดอ่อนๆ จึงหันไปถามหัวหน้าสวน “เมื่อกี้เจ้าจะพูดว่าอะไรนะ”

เวลธ์มองสบสายพระเนตรที่ไม่ได้บ่งบอกอะไร แล้วก็เหลือบไปมองข้างหลังพระองค์ เห็นอาการส่ายหน้านิดๆ ขององครักษ์หนุ่มแล้วก็เป็นอันรู้ว่าห้ามพูด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม

“ข้าจะกราบทูลว่า ถ้าสูงเกือบสองวาแล้วแสดงว่าคนเลี้ยงเลี้ยงดีมากครับ”

อันธียาไม่ติดใจอะไร หัวหน้าสวนวัยกลางคนไม่รู้ว่าเจ้าชายหกโปรดปลูกไว้เองทั้งสองต้นหรือไม่ แต่ถ้าประทานให้ใครไปต้นหนึ่ง คนคนนั้นย่อมไม่ใช่พระคู่หมั้น

“เราไปกันตามลำพัง ไม่ต้องให้เขาตามเสด็จไม่ได้หรือเพคะ”

เขาก็คือฟีเรียส และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นด้วยกับคำพูดของพระคู่หมั้น ทว่าเจ้าชายรามิเรสทรงหันมาทอดพระเนตรเขาแวบหนึ่งแล้วก็รับสั่ง

“เขาต้องทำตามหน้าที่”

หน้าที่อะไร คอยตามดูคู่รักเดินชมนกชมไม้ด้วยกันอย่างนั้นสินะ

ไม่ทรงทราบจริงๆ หรือแกล้งไม่ทรงทราบกันแน่ ว่าเขาไม่อยากจะเห็น

พระคู่หมั้นสอดแขนคล้องพระพาหาของเจ้าชายหนุ่มเอาไว้ตลอดเวลา ฟีเรียสมองแล้วก็คิดอย่างหมั่นไส้ว่าสงสัยกลัวหาย แล้วเจ้าชายหกนี่ก็คงกลัวจะทรงหลงทางกระมัง ถึงปล่อยให้พระคู่หมั้นจับจูงให้เดินไปทางนั้นทางนี้

แม้อยากจะมองไปทางอื่นบ้าง แต่ฟีเรียสก็ตระหนักว่าหน้าที่ของเขาคืออะไร องครักษ์ไม่ควรปล่อยให้เจ้าชายคลาดสายตา ทว่าการจะห้ามตัวเองไม่ให้หงุดหงิดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขณะกำลังหงุดหงิดได้ที่ พระคู่หมั้นคนสวยก็กราบทูล

“หม่อมฉันเมื่อยจังเลย ให้องครักษ์ของฝ่าบาทช่วยถือร่มให้เราได้ไหมเพคะ”

ฟีเรียสนิ่วหน้า ก่อนจะพยายามกลบเกลื่อนเมื่อรู้ตัว

เจ้าชายรามิเรสทรงหันมามองเขา

...อย่า ได้โปรดอย่า จะให้เขาทำอะไรที่หนักหนากว่านี้เป็นร้อยเป็นพันเท่าก็ได้ แต่อย่าให้เขาทำงานนี้ ถ้าพระองค์ตรัสสั่งให้เขาทำล่ะก็ เขาจะ... เขาจะ...



คนอย่างเขาจะทำอะไรได้



“ฟีเรียส”

“พระเจ้าค่ะ”

ฟีเรียสไม่รู้ว่าตัวเองทำหน้ายังไง แต่เจ้าชายหกดูจะประหลาดพระทัยเมื่อเห็นสีหน้าของเขา

“ไปบอกหัวหน้าสวนให้เตรียมตั้งโต๊ะมื้อกลางวันได้”






เมื่อไม่นานมานี้เขายังเป็นผู้ร่วมโต๊ะ ตอนนี้สถานภาพลดเหลือแค่คนมอง กินข้าวกับผู้หญิงนี่ดีกว่ากินข้าวกับผู้ชายจริงๆ มองหน้าก็เจริญหูเจริญตากว่า แถมยังไม่ต้องตักกับข้าวเอง มีคนคอยตักให้ แทบจะส่งให้ถึงปากเสียด้วยซ้ำ คอยเอาอกเอาใจ พูดจาออดอ้อนอ่อนหวานให้ฟัง

มีคู่หมั้นแสนเลิศเลอถึงขนาดนี้แล้วยังจะมาสับสนอะไรกับชีวิตอีก!

ก่อนหน้านี้จะมายุ่งกับเขาทำไม

พาเขามาที่นี่ทำไม ถ้าวันนี้พระองค์จะทรงพาคนอื่นมาซ้ำรอย






อันธียาครุ่นคิดอย่างหนักมาตลอดว่าทำอย่างไรเจ้าชายรามิเรสจึงจะโปรดนาง และไม่รับสั่งเรื่องการถอนหมั้นอีก หญิงสาวปรึกษามารดา และได้รับคำแนะนำมาหลายอย่างจึงคิดว่าจะนำมาใช้อย่างเต็มที่ อย่างแรกก็ต้องไม่เอาแต่ใจตัวเองมากนัก จะชวนไปเที่ยวที่ไหนก็ควรจะเป็นสถานที่ที่เจ้าชายหนุ่มโปรด ถึงแม้จะไม่ใช่ที่ที่นางชอบก็จำเป็นต้องฝืนใจบ้าง เมื่อจำได้ว่าพระองค์เคยตรัสชวนมาเที่ยวที่นี่ วันนี้นางจึงทูลชวนพระองค์มา และพระองค์ก็ไม่ทรงปฏิเสธเหมือนคราวก่อนๆ

นอกจากแต่งกายให้งดงาม ดูสดใสชวนมองแล้วก็ต้องอ่อนหวานอยู่เป็นนิจ เหนือสิ่งอื่นใดคือจะต้องใจกว้าง

นางรู้ว่าเจ้าชายหนุ่มเคยเสด็จหอบุปผาอยู่บ้าง ถึงแม้จะได้ความมาว่าพระองค์ไม่ได้โปรดใครเป็นพิเศษ แต่นั่นก็หมายความว่าพระองค์ไม่ได้ตั้งพระทัยว่าจะมีเพียงนางแค่คนเดียว เพราะฉะนั้นก็แสดงให้เห็นไปเลยจะดีกว่า ว่าหากแต่งงานกันไปแล้ว นางก็ใจกว้างพอที่จะให้พระองค์มีนางสนมเล็กๆ ได้

อันธียาจัดการแสดงไปถวายถึงพระตำหนัก ผู้แสดงล้วนเป็นหญิงสาวสวยทั้งสิ้น ถึงจะหวั่นใจบ้างว่าเจ้าชายหนุ่มจะโปรดใครมากกว่านาง แต่ขอเพียงนางได้แต่งงานกับพระองค์ นางย่อมมีวิธีกำราบหญิงอื่นให้อยู่ในอำนาจของนางได้






ฟีเรียสคิดว่าถ้าเขาต้องทนมองพระคู่หมั้นของเจ้าชายหกเอาอกเอาใจพระองค์ให้เห็นอยู่บ่อยๆ อย่างนี้ทุกวัน เขาคงจะหงุดหงิดจนประสาทกินเข้าสักวัน องครักษ์หนุ่มขอเข้าเฝ้าอีกครั้ง เขาทูลถามตามตรงประโยคเดียวว่า เมื่อไรจะได้ย้ายไปเป็นองครักษ์ของเจ้าชายเฮเดสดังเดิม ทว่าเจ้าชายรามิเรสตรัสตอบประโยคเดียวเช่นกัน

“เจ้าพี่ไม่ทรงอนุญาต”

ดับความหวังของเขาเสียสิ้น

เส้นความอดทนของเขาขาดผึงในวันที่บังเอิญเห็นคุณหนูอันธียาเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบพระโอษฐ์ของเจ้าชายรามิเรสกลางสวนดอกไม้หน้าพระตำหนัก ฝ่ายหลังดูจะตกพระทัยที่หันมาเห็นเขาเข้าพอดี ทว่าคราวนี้ฟีเรียสไม่พลาดแล้ว เขายืนตัวตรง ชิดเท้า แล้วค้อมศีรษะถวายความเคารพอย่างต่ำเป็นเชิงขอประทานอภัยที่เขาบังอาจมาเห็นฉากหวานแหววของพระองค์เข้าพอดี ก่อนจะหมุนตัวกลับหลัง ก้าวกลับไปช้าๆ ทั้งที่รู้สึกโมโหจนควันออกหู

เขาอยู่ที่นี่ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

เพิ่งรู้ว่าเขา ‘เด็ก’ กว่าที่ตัวเองเคยคิดไว้ เพิ่งรู้ว่าการแยกความรู้สึกส่วนตัวออกจากหน้าที่มันช่างยากเย็นนัก เพิ่งรู้...



... ว่าเขาถลำใจลงเหวมาแล้วอย่างลึกล้ำ




อย่างไรก็ดี ก่อนที่ฟีเรียสจะขอทูลลาออก ก็เกิดคดีความขึ้นกับเขาเสียก่อน เป็นคดีที่เปลี่ยนแปลงเส้นทางชีวิตของเขาไปอีกทางหนึ่ง ปิดตายโอกาสที่เขาจะหนีไปให้พ้นๆ จากเจ้าชายหกแห่งไมซีนอย่างถาวร






tbc.




********************************************************

- ใกล้จะหมดเนื้อหาที่สต๊อกไว้แล้วค่ะ ตอนนี้พยายามจะเค้นอยู่ ถ้าเค้นไม่ออกอาจมีการดองนะคะ แต่ว่าจะไม่ค้างแน่นอนค่ะ เพราะว่าใกล้จะเคลียร์ความรู้สึกกันเต็มทีแล้ว ฟีเรียสหมดความอดทน สถานการณ์ก็จะบีบบังคับด้วย

- เจ้าชายไมซีนมี 8 องค์ มีแค่เจ้าชายรองเท่านั้นที่แต่งงานกับผู้หญิง นอกนั้นชอบผู้ชายนะคะ อยากเขียนทุกองค์เลย แต่แค่รามิเรสก็แทบจะไม่รอดแล้ว เพราะงั้นองค์อื่นก็คงเป็นวิมานในอากาศน่ะค่ะ

- ก่อนเขียนรามิเรส เขียนเรื่อง "ยอม" มาก่อนนะคะ เป็นเรื่องของเฮเดสกับธาม ลงบอร์ดฝูค่ะ ถ้าใครเป็นสมาชิกก็เชิญชวนให้เข้าไปอ่านนะคะ จบนานแล้วแหละ แต่พอดีคนอ่านไม่มากนัก เลยแปลงเป็นนิยายชายหญิงเสร็จสรรพ ส่งสนพ. ติดสัญญา 3 ปีนะคะ ประมาณปี 59 ถ้าหมดสัญญาแล้วจะเอามาลงให้อ่านที่นี่ค่ะ

- สุดท้าย ขอแจ้งว่า ชุนจะสั่งพิมพ์เรื่อง เวลา วันที่ 8 นะคะ ตามจำนวนยอดโอน ท่านใดที่จองแล้วโอนภายในวันที่ 7 ไม่ทัน ชุนขออนุญาตตัดนะคะ อยากพิมพ์เผื่อเหมือนกัน แต่ว่า... กลัวเข้าเนื้ออ่าค่ะ

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: รามิเรส : บทที่ 24 (6 ส.ค. 57) หน้า 18
«ตอบ #505 เมื่อ06-08-2014 10:55:13 »

ชอบเจ้าชายเฮเดสจัง พระทัยดีและดูเท่ห์มาก
อ๊ากกกกกก ทิ้งตอนจบไว้แบบนี้ ค้างมากกก เรื่องอะไรกันที่จะเกิดขึ้นกับฟีเรียสนะ

ออฟไลน์ sukie_moo

  • ปัจจุบัน คือ อดีตของอนาคต
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3488
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +457/-15
Re: รามิเรส : บทที่ 24 (6 ส.ค. 57) หน้า 18
«ตอบ #506 เมื่อ06-08-2014 11:14:15 »

ได้ยินเสียงเส้นความอดทนขาดผึง ตามด้วยเส้นความน้อยใจ ของฟีเรียส  อยากรู้จังจะมีอะไรเกิดขึ้นกับฟีเรียส หวังว่าจะไม่ใช่เรื่องร้ายแรง

ออฟไลน์ 2pmui

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-6
Re: รามิเรส : บทที่ 24 (6 ส.ค. 57) หน้า 18
«ตอบ #507 เมื่อ06-08-2014 11:46:33 »

ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงง
สงสารฟีเรียส อิองค์ชายคงแกล้งอี๋อ๋อให้ฟีเรียสหึง
สงสารไมซีน มีเจ้าชายตั้ง8 เป็นเสีย7   :a5:
เจ้าชายรองคงต้องทำงานหนัก ปั๊มลูกไว้เยอะๆหน่อย

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
Re: รามิเรส : บทที่ 24 (6 ส.ค. 57) หน้า 18
«ตอบ #508 เมื่อ06-08-2014 12:07:41 »

ฟีเรียสจะเดินหนีก็ไม่ได้
อึดอัดแทนจริงๆ
องค์ชายหกบอกซิว่าไม่รู้ว่าฟีหึงง

ออฟไลน์ agava1313

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-5
Re: รามิเรส : บทที่ 24 (6 ส.ค. 57) หน้า 18
«ตอบ #509 เมื่อ06-08-2014 12:30:18 »

เกิดอะไรขึ้นอ่ะ! ค้าง!!!!!   o9

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด