Older Brother พี่ชายถึงร้ายก็จะรัก by Mirror ตอนพิเศษ แมน&โอ๊ต(20/06/15)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Older Brother พี่ชายถึงร้ายก็จะรัก by Mirror ตอนพิเศษ แมน&โอ๊ต(20/06/15)  (อ่าน 167881 ครั้ง)

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
จบได้โรแมนติกมากกกกกกกก
ตอนเฮียบอกรักน้องลีวายส์นี่หวานหยดๆๆๆ
คนอ่านฟินนนนนน >\\\< ♡♡♡
รอตอนพิเศษของทุกๆคู่เรยน๊าาาา

ออฟไลน์ sukaz

  • I Will Love You Unconditionally
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-3

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
จบแร้วสินะ กินเด้กกันหมด

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
กลับมาอ่านอีกที จบซะแร้วว ~.~
ขอบคุณมาก ๆ นะคะ
พี่ธารกะนุ้งลีวายส์น่ารักมากกก^^

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....51
 
“ไหนบอกเลิกเรียนแล้วไง ให้กูมารอมึงตั้งนาน” ผมถามโอ๊ตที่เพิ่งจะเปิดประตูเข้ามานั่งในรถร่างบางปลายตามองผมนิดๆ
 
“กูบอกให้มารับหรอ” นิสัยแบบ....แม่ง แก้ไม่หายซะที “แวะร้าน BK ด้วย”
 
“ทำอะไรอีกล่ะ กูจะรีบไปทำงานนะ”
 
“งั้นมึงก็แค่....ทิ้งกูไว้ที่ร้าน แล้วจะไปไหนก็ไป!!!” มันบอกเสียงเรียบ ช่วงนี้ผมยุ่งๆครับ งานเยอะ เวลาพักผ่อนก็ไม่ค่อยจะมีเลยแต่ก็พยายามตามรับตามส่งมัน
 
“โอ๊ต มึงอย่าหาเรื่องได้ป่ะ ให้กูปวดหัวแค่เรื่องงานได้มั้ย เอาล่ะ เร็วๆ กูจะรอ” ผมจอดรถหน้าร้านพี่รหัสของมัน
 
โอ๊ตเดินหายเข้าไปด้านในและปล่อยให้ผมรออยู่ในรถราวๆสิบนาทีมันก็ยังไม่ออกมา ผมถึงได้ลงจากรถตามมันเข้ามาในร้าน โอ๊ตนั่งคุยอยู่กับผู้หญิงสองสามคน หนึ่งในนั้นคือพี่รหัสของมันซึ่งเราเคยทำความรู้จักกันแล้ว
 
“เสร็จยัง นานแล้วนะ กูต้องกลับไปทำงาน” ผมบอก ทุกสายตาหันมามองผมพร้อมเพรียงกัน
 
“ไปเหอะ กูกลับเอง” โอ๊ตบอกโดยไม่ได้สนใจจะหันมามองหน้าผม
 
“ก็ได้ งั้น สองทุ่มกูโทรมาถ้ามึงไม่กลับ เจอดีแน่ ฟอด!!!” ผมบอก ทิ้งท้ายด้วยการก้มลงหอมแก้มมันฟอดใหญ่โชว์สาว กันไว้ก่อนครับเพื่อมันมีกิ๊ก หึ!!!
 
ที่ผมทำงานหนักตอนนี้เพราะผมอยากซื้อบ้าน จริงๆอยู่คอนโดมันก็ดีน่ะนะแต่ว่า ผมเห็นแปลนบ้านของโอ๊ตเมื่อสามเดือนก่อนผมจึงคิดว่ามันคงอยากมีบ้านสักหลัง
 
ผมไปดูที่และจ้างชั่งฝีมือดีสร้างบ้านไว้แล้วแถวๆชานเมืองโดยไม่ได้บอกให้โอ๊ตรู้ กำลังให้ไอ้ธารจัดการอยู่ ตอนนี้บ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มีแค่ตกแต่งภายในและภายนอก ไม่น่าจะเกินสองเดือน ถึงตอนนั้นผมค่อยบอกโอ๊ต
 
ผมทำงานเป็นMDให้กับบริษัทต่างชาติแห่งหนึ่งและเป็นCEOให้กับบริษัทชื่อดังในประเทศอีกแห่ง เลยไม่ยากที่ผมจะสร้างบ้านได้ในเวลาไม่นาน หลังจากนี้ผมจะลาออกจากการเป็นMDเพื่อจะได้มีเวลาอยู่กับโอ๊ตบ้าง ดูเหมือนช่วงนี้ช่องว่างของเราจะเริ่มเยอะไปหน่อยแล้ว
 
 
 
“โอ๊ต โอ๊ต หลับแล้วหรอ” หลังจากทำงานเสร็จ ผมก็ตรงกลับคอนโดทันที โอ๊ตนั่งสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียงห้องเหมือนเคย
 
“ไหนมึงบอกกลับสองทุ่ม สองทุ่มพ่องมึงสิ” นั่นไง จัดกูเลย
 
“ก็งานมันเยอะนี่หว่า กูไม่ได้แวะที่ไหนเลยนะ คิดถึงมึงจะแย่ ฟอด!!!” ผมนั่งลงข้างๆมัน ก้มลงหอมซอกคอร่างบางทีนึ่ง
 
“กูจะนอนแล้ว พรุ่งนี้มีเรียน” มันลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้อง ปล่อยให้ผมนั่งมองตามตาละห้อย เหี้ย เป็นอะไรของมันอีกล่ะเนี่ย เมื่อก่อนไม่เห็นเคยเป็นเลยอ่ะ
 
Tru…………
 
“โอ๊ต ทำไมมึงไม่รับโทรศัพท์กูก่อนล่ะ หลับแล้วหรอ” ผมออกมาจากห้องน้ำ พบว่าเสียงโทรศัพท์ผมดังอยู่ข้างๆตัวมันแต่มันไม่ยอมรับสาย
 
“ว่าไงไอ้ธาร” ผมดึงแขนโอ๊ตที่นอนอยู่บนเตียงให้มันหันมาหาผมแต่มันขืนตัวไว้ และดึงแขนกลับ “เดี๋ยวนะมึง!!! กูคุยกับไอ้ธารเสร็จก่อน.....”
 
‘เป็นเหี้ยไรกันอีกพวกมึง’
 
“ไม่รู้ว่ะ เหมือนมันจะไม่พอใจอะไรกูเนี่ยแหละ มึงโทรมามีไรล่ะ”
 
‘เรื่องบ้านน่ะ โอเคแล้ว ไว้ว่างๆเราค่อยไปดูอีกที ถ้าไม่มีปัญหาอะไรมึงตกแต่งได้เลย’
 
“เออขอบใจว่ะ ลีวายส์อ่ะ นอนยัง” ผมถามหาลีวายส์ เพราะช่วงนี้ไม่เจอหน้า เลยรู้สึกคิดถึง ปกติลีวายส์ชอบมาอยู่กับโอ๊ตประจำตอนว่างๆ
 
‘ทำไม หมดแรงหลับไปแล้ว’
 
“ไอ้เหี้ยธารกับกูมึงยังหวง เชื่อมึงเลย แค่นี้ล่ะ กูจะไปสยบเมีย ฝันดี” ผมบอก ก่อนจะวางสาย
 
ผมกลับเข้ามาในห้องมองร่างบางบนเตียงกว้าง และค่อยๆล้มตัวลงนอนข้างๆมัน ผมกอดเอวบางไว้หลวมๆจากด้านหลัง ซูดกลิ่นสบู่หอมๆจากซอกคอขาวเข้าปอด
 
“หลับจริงหรือเปล่าวะ ลักหลับแม่งเลยนี่ หึ”
 
“กล้าก็ลอง” ผมถึงกับผงะเมื่ออยู่ มันหยิบปืนมาจากไหนไม่รู้ สอดผ่านเข้ามาใต้แขน จ่อตรงหน้าอกซ้ายผมพอดี
 
“เล่นแรงนะมึง ถ้าปืนลั่นขึ้นมาจะทำไง เก็บเร็วครับที่รัก ฟอด!!!”
 
“ไม่มีกระสุนไอ้สัด มึงเอาของกูไปซ่อน อย่าให้กูหาเจอนะ กูยิงมึงทิ้งแน่” เมียกูโหดตลอด ผมว่านอนดีกว่า เหอะๆ
 
 
 
“วันนี้มารับกูบ่ายสาม”
 
“กูมีประชุม ช้าหนึ่งชั่วโมงได้มั้ย รอกูที่.......”
 
“งั้นไม่ต้อง!!!” ปึก! โอ๊ตปิดประตูรถเสียงดังด้วยความไม่พอใจ วันนี้มันมีเรียนบ่ายผมเลยกลับไปรับมันที่คอนโด แวะทานข้าวและมาส่งที่มอ
 
“โอ๊ต!” ให้ตายเหอะ ผมว่าคงต้องทะเลาะกันอีกรอบแน่ๆ
 
ตลอดระยะเวลาในการประชุมผมมักจะหยิบนาฬิกาขึ้นมาดูเรื่อยๆ หวังว่ามันจะจบลงเร็วๆ แต่ก็ไม่ ผมเลิกประชุมเกือบหกโมง ยังไม่พอยังต้องนั่งคุยกับกรรมการบริษัทอีกสองชั่วโมง เหี้ยเลยทีนี้ กลับไปไอ้โอ๊ตหาย กูต้องเป็นบ้าแน่ๆ
 
“โอ๊ต!” กลับมาถึงห้อง ผมก็เรียกหามันเหมือนทุกครั้งนั่นแหละครับถึงมันจะไม่ตอบก็ตาม “นอนหรอ...อ้าว อยู่ไหนวะ”
 
ไม่มีครับ คิ้วผมเริ่มขมวดเข้าหากัน ในระหว่างที่เดินหามันไปทั่วห้อง แต่ก็ไม่เจอ หรือจะขึ้นไปห้องไอ้ธารนะ
 
“ไอ้ธารโอ๊ตอยู่ห้องมึงหรอ....ว่าไงนะ เหี้ยไม่โทรบอกกูเลย เดี๋ยวกูตามไป” ไอ้ธารบอกว่าโอ๊ตไปที่ผับกับมันแล้ว ซึ่งผมไม่คิดว่ามันจะไปกับไอ้ธารเพราะปกติมันไม่ค่อยทำตัวสนิทกับใคร
 
ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็รีบไปที่ผับทันที เดี๋ยวนี้ผับปรับปรุงใหม่คนเลยเยอะขึ้น ด้านล้างเป็นกึ่งผับกึ่งร้านอาหาร ส่วนด้านบนก็เป็นบาร์และมีเวทีของนักดนตรี ผมให้โอ๊ตช่วยงานนิดๆหน่อยๆ เพราะเห็นว่ามันทำออกมาดีเลยให้มันช่วยงานไอ้เซฟต่อ มันชอบพูดว่าจะกลับไปทำงานกับพี่มันผมเลยหางานให้ทำซะเลย
 
“ไอ้โอ๊ตอ่ะ” ผมถามไอ้ธารที่นั่งอยู่ในห้องพักกับลีวายส์
 
“มาถึงก็ถามหาเมียเลยนะ ไอ้แมน กับเพื่อนกับฝูงนี่ข้างหัวเฉย” ไอ้เซฟเหน็บผมครับ ผมไม่เห็นมันจริงๆนะ ก็มันไม่สำคัญนี่ เหอะๆ
 
“อยู่ด้านนอก เห็นพาเพื่อนมาสี่ห้าคน” ไอ้ธารบอก
 
“หรอ ลีวายส์เป็นไรคะ ทำไมหน้างอแบบนั้นล่ะ ไหนบอกพี่แมนซิ” ผมหันไปถามลีวายส์ที่ตอนนี้นั่งหน้าหงิกอยู่บนโซฟา
 
“ก็พี่ธารอ่ะ กอดกับผู้หญิงเมื่อกี้ ถ้าพี่กายไม่พาลีวายส์ไปดูนะ คงไปไกล” ลีวายส์กอดอกมองไอ้ธารตาขวาง
 
“อ้าวไอ้ธาร ได้ไงวะมึง”
 
“มึงก็เชื่อมันนะ บ้าบอตามไอ้กายแม่งสร้างเรื่องให้กูแล้วหนีไปรับไอ้พี่หมอแล้ว”
 
“โกรธพี่ธารแล้ว!!!”
 
“กูตบปากแตก นั่นมันกระเทย เข้าใจมั้ยกระเทย พูดกับมึงไม่รู้เรื่องเลย งั้นกลับบ้านไป.....มึงมาแล้วก็อยู่ดูร้านต่อล่ะกัน” อ้าว ไอ้ธารพูดจบมันลากลีวายส์กลับเลยครับ
 
“ห้ามชิ่งหนีอีกคนนะมึง ไอ้กายก็กลับแล้ว กูดูไม่ทัน” ไอ้เซฟก็แม่งดักทางกูเร็วเกิน
 
“เออๆ งั้นกูไปหาเมียก่อน” ผมบอกและเดินออกมาหาโอ๊ตข้างนอก มันนั่งอยู่กับเพื่อนสี่ห้าคนและก็มีผู้หญิงอีกสองคนนั่งข้างๆ เมียกูกอดเอวนางด้วย
 
“หวัดดีพี่” เพื่อนโอ๊ตหนึ่งในนั้นทักผม เพราะผมไปรับไปส่งโอ๊ตบ่อยๆ เราเลยรู้จักกัน
 
“เออ มานานยัง ไม่โทรบอกกูเลยนะ”
 
“จำเป็นด้วยหรอ” โอ๊ตบอก ในมือมันคีบบุหรี่ ยกขึ้นสูบเป็นระยะ ถ้าใครไม่รู้ว่าเป็นแฟนผมก็คงคิดว่ามันเป็นเพลย์บอยตัวพ่อแน่ๆ
 
“อย่าเยอะ โอ๊ต กูไม่ชอบ” ผมบอกน้ำเสียงจริงจัง เพื่อนมันไม่รู้หรอกว่าเราเป็นแฟนกัน
 
“กูก็ไม่ชอบเหมือนกัน!!!!” ปึก! อยู่ๆโอ๊ตก็ลุกขึ้นพรวดพราดเข้ามาเหวี่ยงหมัดใสผมท่ามกลางความมึนงงของกลุ่มเพื่อนมัน
 
“โอ๊ต!!!” ผมใช้ลิ้นเลียเลือดตรงมุมปากมองโอ๊ต ที่กำลังจ้องเขม่งมองผม “กลับไปคุยกันที่บ้าน”
 
“ไม่กลับ! กูไม่อยากกลับไปอยู่คนเดียว! ปล่อยกู!!!”
 
“อยู่คนเดียวที่ไหน กูอยู่นี่! มึงเมาหรอห๊ะ!!! กูบอกให้มาไง” ผมดึงแขนมันให้ตามมาแต่มันไม่ฟังครับพยายามปัดมือผมออก
 
“เอ่อ....พี่ใจเย็นกันก่อนมั้ยอ่ะ”
 
“ไม่ต้องยุ่ง!!!” ผมบอกตวาดใส่เพื่อนมัน ก่อนจะลากเจ้าตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อน “มึงเป็นเหี้ยอะไร ไหนบอกกูมาซิ” ผมเหวี่ยงร่างบางลงบนโซฟาหลังจากเข้ามาให้ห้องพักของไอ้เซฟ
 
“มึงแหละ เป็นเหี้ยไรกับกู ห๊ะ! ห๊ะ! มึงแม่ง!....เป็นใครห๊ะ” พูดจาไม่รู้เรื่องยังไม่พอ มันยังตบผมด้วยครับ
 
“ไอ้โอ๊ต! มึงพูดไม่รู้เรื่องนะ หยุด...อ่ะ! กูบอกให้หยุดไง....โอ้ย!!!” ตอนนี้มันคว้าอะไรใกล้มือได้มันก็ใช้ตีผมหมดแหละครับ ทำเอาผมหลบกันจ้าละหวั่น
 
“ไอ้แมน ไอ้เหี้ย มึงทิ้งให้กูอยู่คนเดียวมากี่คืนกี่วันแล้วไอ้สัด กูจะฆ่ามึง....” มันผลักผมลงบนเตียงก่อนจะตามมาตบตีผมจนเจ็บไปหมด ก่อนที่ผมจะรวบมือมันไว้ได้
 
“มึงไม่เข้าใจหรอ กูทำงานนะ เอาเลยดิ ตบตีให้กูตายไปเลย เอาปืนมายิงกูก็ได้ จะได้สะใจมึงไง ดูเหมือนเราจะคุยกันดีๆไม่รู้เรื่องแล้วว่ะ”
 
“ผมอย่าท้ากูนะ!”
 
“ไม่ได้ท้า พูดจริง ลุกขึ้นกูจะไปเอาปืนให้” ผมผลักมันออก ส่งปืนให้กับมัน โอ๊ตมันก็รับไปทันที สงสัยกูคิดผิดจริงๆที่ไปท้ามัน =_=
 
“ไอ้เหี้ย!” ปึก!!! เต็มๆครับ มันต่อยผมกับสันปืนเข้าอย่างจัง เล่นเอาเลือดกบปาก
 
“หยุดบ้าได้ยัง” ผมดึงปืนกลับมาก่อนจะโยนมันทิ้งไปไกลๆ และดึงร่างบางให้นั่งลงบนตัก “กูขอโทษ นะคร้าบบบ”
 
“กูเกลียดมึง”
 
“เออๆ กูรักมึง โอเคกูลาออกจากงานเลยก็ยังได้ ถ้าไม่หายโกรธ เอาป่ะ” มันมองผมด้วยหางตานิดๆ
 
“ก็เอาสิ กูจะได้รู้ว่ากูกับงานมึงจะเลือกอะไร” อุ้ย! เมียกำลังงอน โคตรดีใจจนหายเจ็บเลยว่ะ
 
“คำตอบมันตายตัวอยู่แล้วว่าเป็นมึง มึงเลยแหละ มึงคนเดียว งั้นพรุ่งนี้กูหยุดงานพามึงไปเที่ยวเอามั้ย”
 
“กูไม่ใช่เด็ก”
 
“ไม่เด็กเลยครับ ฟอด!!! คนนี่โตแล้ว เหอะ! ดูหน้ากู มึงดูหน้ากูนะ เสียหล่อหมด รับผิดชอบเลย” ผมบอกเสียงอ้อน
 
“มึงทำตัวเอง ปล่อย กูจะไปเพื่อน” มันผลักผมออกก่อนจะลุกขึ้น
 
“เพื่อน...แล้วผู้หญิงนั่นใคร เป็นไรกับ ใครพามา” โรคหึงผมกำเริบนิดๆ เพราะผมรู้มาว่าในมอไอ้โอ๊ตมันป๊อปสุด สาวเพียบ
 
“เมียคนอื่นทั้งนั้น มึงโง่เนอะ” ว่ากูอีก =_=
 
“ปากดี...มานี่ก่อนเลย” ผมดึงแขนร่างบางกลับมาจูบแลกลิ้นกันสองนาทีก่อนจะปล่อยให้โอ๊ตกลับไปหาเพื่อน ส่วนผมก็เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องช่วยไอ้เซฟดูผับจนผับปิดถึงจะได้กลับ โอ๊ตเล่นเมาซะจนผมต้องแบกมันขึ้นห้อง จากนั้นเราทั้งสองคนก็หลับเป็นตายด้วยความเหนื่อยล้ากันทั้งคู่
 
 
 
“อื่มมม....” ผมผงกหัวขึ้นก่อนจะค่อยๆลืมตาช้าๆ “โอ๊ต....มึงนอนบนตัวกูทำไมเนี่ย หนัก ลงไปเลย” ผมบอก โอ๊ตมันนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนตัวผมครับ
 
“แม่ง!” มันด่าแล้วก็ลงไปนอนดีๆ ผมหมั่นไส้เลยดึงมันเข้ามากอด “ปล่อยกู กูไม่อยากอยู่ใกล้มึงล่ะ”
 
“โอ่ๆ เค้าขอโทษครับ เอาดีๆนะ มึงแผลที่มุมปากกูยังเจ็บอยู่เลยเนี่ย” ผมทำแก้มป่องให้มันดู รู้มั้ยมันทำไง มันกัดแก้มผมครับแทนที่มันจะห่วงผมบ้าง
 
“สมควรแล้วมึงอ่ะ”
 
“มึงโกรธที่กูไม่มีเวลาให้มึง แต่ถ้ามึงรู้เหตุผล มึงต้องดีใจแน่ๆ อาบน้ำยังเนี่ยเดี๋ยวพาไปเที่ยวไง”
 
“ไหนอ่ะ” มันเงยหน้าขึ้นมาถาม ผมจึงถือโอกาสจูบมันซะเลย “ไอ้เหี้ย เหม็นปากไอ้สัด”
 
“มึงอยากขับรถบ้างมั้ย กูขี้เกียจ” ผมบอก รู้สึกอยากนอน เลยถามโอ๊ตดูเพราะปกติมันก็ไม่ค่อยจะขับเอง และมันก็ขอขับบ่อยๆ แต่ปรากฏว่า
 
“ไม่ กูขี้เกียจ” =_=
 
ผมขับรถออกมาแถวชานเมือง ไม่ไกลนักแวะทานข้าวร้านอาหารข้างทางแปบหนึ่ง เพราะแม่งเมียบ่นหิวไม่หยุดปาก จากนั้นก็มายังจุดหมายที่ผมตั้งใจจะพาโอ๊ตมา
 
“ลงดิ ถึงแล้ว” ผมบอก หลังจากจอดรถหน้าบ้านสไตล์โมเดิร์นสองชั้น ติดริมทะเลสาบเล็กๆ
 
“นี่มัน.....มึงเอาแปลนบ้านกูมาขายหรอ ไอ้เหี้ยแมน ห๊ะ!!!” เอ้า เมียกูก็คิดไปโน้น กูล่ะปวดหัวกับมันจริงๆ
 
“ขายพ่องมึง เนี่ยบ้านเรา ชัดป่ะ บ้านมึงอ่ะ มึงกับกู” เมื่อได้ยินผมบอกแบบนั้น โอ๊ตมันนิ่งคิดไปสิบวิก่อนจะเดินเข้าไปดูใกล้ๆ
 
“มึง.....เมื่อไหร่วะ ทำไมไม่บอกกูล่ะ” มันถามผม เสียงอ่อนลงนิดๆ ผมเลยเดินเข้าไปกอดเอวมันไว้จากด้านหลัง
 
“จริงๆกูกะจะให้เสร็จก่อน ถึงจะบอก แต่ถึงตอนนั้น กูคงอาจถึงตายได้”
 
“ก็จริง...ถ้าบอกช้ากว่านี้ศพอาจไม่สวย”
 
“โหดจริงอะไรจริงครับเมีย ฟอด!!! งั้น มึงอยากตกแต่งภายในเองมั้ย จะได้ถูกใจ” ผมจูงมือโอ๊ตเข้ามาในบ้าน มองไปรอบๆซึ่งตอนนี้ยังวางเปล่าไม่มีของตกแต่ง
 
“กูอยากตกแต่งเอง แต่ไม่ใช่เงินมึง อย่างน้อยกูก็อยู่นี่เหมือนกู ไม่ได้ช่วยอะไรเลย”
 
“อย่าคิดแบบนั้นสิ กูทำเพราะกูทำได้ ไม่ได้ลำบากอะไรเลย ของๆกูก็เหมือนของๆมึงนะโอ๊ต กูพร้อมที่จะทำให้มึงทุกอย่างนอกจาก ให้กูทิ้งมึง กูทำไม่ได้”
 
“ซึ่งตายล่ะ
 
“แล้วหน้าแดงทำไมอ่ะ หึๆ” ฟอดดดดดดด
 
 
หนึ่งเดือนผ่านไป..................
 
 
“พี่โอ๊ตตตตต..........” เสียงใสดังมาจากหน้าบ้านแทนเสียงกดกริ่ง แค่นี้ก็รู้ล่ะครับว่าใครมา
 
“ดีค่ะลีวายส์” ผมออกมารับลีวายส์หน้าบ้านก่อนจะช่วยร่างเล็กถือของในมือ “ไอ้ธารแม่ง ให้ลีวายส์ถือได้ไงมึง”
 
“มันอยากถือเองเหอะ ไอ้เซฟกับไอ้กายยังไม่มาหรอ เดี๋ยวก็ดึกพอดี”
 
“ไม่รู้ ถ้ามันโทรมา ก็บอกให้ซื้อของกินมาเยอะๆ เบียร์ด้วย” ผมเอาของที่ไอ้ธารซื้อมา ไปให้โอ๊ตในครัว “อันนี้เสร็จยัง”
 
“อืม....เอาไปกินดิ” โอ๊ตบอก มันทำกับข้าวเป็นนะครับ อร่อยด้วย
 
“ลีวายส์ช่วยมั้ยฮะ พี่โอ๊ต”
 
“ช่วยให้เสร็จช้าลงน่ะนะ มาเลย กูช่วยเองดีกว่า จะได้เสร็จเร็วๆ” ไอ้ธารบอก ก่อนจะดึงลีวายส์ลงไปนั่งตักมัน
 
วันนี้ผมเข้ามาอยู่บ้านวันแรกหลังจากตกแต่งกันมาเกือบๆเดือนก่อนจะย้ายของเข้าเสร็จเรียบร้อย เลยจัดปาร์ตี้กันนิดหน่อย ปิดผับแล้วก็นัดกันมาที่บ้านผม ได้ข่าวว่าไอ้เซฟจะพาแฟนมาด้วยผมก็ยังไม่เคยเห็นหรอกนะ เห็นลีวายส์แอบกระซิบมาว่าน่ารักแต่นิสัยไม่ดี จะเชื่อลีวายส์ได้หรือเปล่าก็ไม่รู้สิ
 
“โอ้ยเหี้ย ไกลฉิบหายอ่ะ” ไอ้กายครับ มาถึงก็บ่นเลย “ไอ้เซฟมายังวะ”
 
“ถามหาไอ้เซฟทำไม คิดถึงมันหรอ” ไอ้พี่หมอครับ งานหึงพี่แกมาเต็มตลอด ไม่แพ้ผมกับไอ้ธารหรอก
 
“บ้าสิ มันพาแฟนมา เหอะ”
 
“แล้วไป....เออ ไอ้แมนกูซื้อของมาให้มึงอ่ะ อยู่หลังรถ ไปแบกเองนะกูอุตสาห์ซื้อมาล่ะ”
 
“โธ่ ไรวะ” ผมเดินไปเปิดท้ายรถพี่หมอ มันซื้อของแต่งบ้านมาให้ครับ เป็นชุดโฮมเธียเตอร์สุดหรู ผมรู้พี่แก่ตังเยอะแต่ไม่ต้องเยอะกับกูก็ได้ และในระหว่างนั้นเองมีรถโตโยต้าวีออสเข้ามาจอดพอดี
 
“ทำไรมึง โทษทีมาช้า” ไอ้เซฟครับ มากับเด็กคนหนึ่ง เหมือนผมว่าผมเคยเจอแต่ไม่รู้จัก
 
“เออ มึงช่วยขนของเลย ไอ้พี่หมอซื้อมาให้เนี่ย” มาถึงก็ใช้ซะเลย เราเลยช่วยกันขนของเข้าบ้าน เด็กที่มากับไอ้เซฟเดินถือของที่ไอ้เซฟซื้อมาเงียบๆ
 
“มาแล้วๆ เล่นตัวนะมึงเซฟ พาแฟนมาทั้งที มาช้าอย่างกะตัวเองเป็นพระเอก” ไอ้กายพูดขึ้นทันทีที่เห็นไอ้เซฟเข้ามาพร้อมๆกับผม
 
“เหอะนา มึงก็ อย่าแกล้งดิ เดี๋ยวแพ็คอึดอัด” ผมมองเด็กไอ้เซฟ แม่งพิมพ์เดียวกับไอ้โอ๊ตเลย นิ่งๆเงียบๆแล้วก็ไม่ค่อยสนใจใคร
 
“อึดอัดก็ไม่ต้องพามาสิพี่เซฟ รู้มั้ยวันนี้นายแพ็ค โดนเรียนคาบพละไปนอนห้องพยาบาลด้วยล่ะ”
 
“ไอ้เตี้ย หุบปากเลย มึงก็ไปเหอะ”
 
“ปะ...ป่าวนะ ก็พี่เค้า.....เอ่อ....พี่เค้าให้ถือของไปให้ นิดหน่อยเอง” ลีวายส์พูดพรางเหล่มองไอ้ธารไปด้วย
 
“พี่ไหน” ไอ้ธารครับ แผ่รังสีหึงมาแต่ไกล เหอะๆ รายนี้ลีวายส์จะพูดถึงใครไม่ได้เลย
 
“รุ่นพี่มอหก ชื่อไรแล้ววะ........” แพ็คพูด ก่อนจะแลบลิ้นใส่ลีวายส์ที่กำลังนั่งเหงื่อตก สงสัยเด็กไอ้เซฟคงไปอึดอัดล่ะมั่งผมว่า หน้าตามันก็ออกจะกวนๆไปอีกแบบ
 
เราออกไปจัดปาร์ตีกันหน้าบ้าน ยกของปิ้งยางออกไปตั้งโต๊ะแบบง่ายๆ นั่งคุยกันดื่มกันไปเรื่อยเปื่อย ตกดึกลีวายส์เริ่มงอแงง่วงนอน ผมเลยให้ไอ้ธารพาไปนอนบนห้องซึ่งมีอยู่สามห้องรวมทั้งห้องของผมและไม่นานไอ้เซฟก็ไปส่งเด็กมันก่อนจะกลับมานั่งดื่มกันต่อจนถึงเช้า พวกผมสี่ห้าคนนอนกองอยู่ด้านล่างตื่นมาไอ้ธารแม่งหายไปนอนกับลีวายส์ตั้งแต่เมื่อไหร่แล้วก็ไม่รู้
 
“โอ๊ต ขึ้นไปนอนข้างบนไป” ผมปลุกโอ๊ตที่นอนอยู่บนโซฟาข้างๆผมให้ตื่น หลังจากปลุกพี่หมอไอ้กายและไอ้เซฟให้กลับ ส่วนไอ้ธารยังนอนอยู่ข้างบน
 
“กลับกันหมดแล้วหรอ ห้าวววว”
 
“ไอ้ธารอยู่ข้างบน” ผมบอกดึงแขนมันให้ลุกตาม เดินขึ้นห้อง โอ๊ตนั่งลงบนเตียงท่าทางงัวเงีย “อ่ะนี่” ผมส่งซองสีน้ำตาลให้มันดูก่อนจะนั่งลงกอดเอวบาง เอาคางเกยไหล่มันไว้
 
“นี่มัน.....ได้ไง....กูไม่เอาหรอก มึงบ้าไปแล้ว” มันโวยวายเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ข้างใน
 
“ของขวัญวันเกิดไง วันนี้วันเกิดมึงนี่ ฟอด!!! เก็บไว้นะนี่เป็นของขวัญชิ้นแรกที่กูให้มึงและก็ชิ้นแรกที่กูให้คนที่กูรัก” โอ๊ตนิ่งเงียบไป ก่อนจะอบยิ้มออกมานิดๆ
 
“มึงบ้าไปแล้ว...จุ๊บ!!!” มันจุ๊บแก้มผมด้วยล่ะ คิคิคิ
 
“ท่าจะบ้าจริง แล้วมึงเคยเห็นป่ะ คนบ้ากำลังเอาเมียอ่ะ” พูดจบ ผมกดร่างบางลงบนเตียงก่อนจะทับทาบตัวเองตามลงไปกดจูบริมฝีปากบางของคนรักอย่างดูดดื่ม
 
ในเมื่อผมสร้างบ้านหลังนี้ให้มัน ผมก็จะให้มันจริงๆ ผมจึงให้บ้านหลังนี้ติดชื่อมัน แต่ไม่สำคัญหรอกว่าสิ่งที่ผมให้จะมากน้อยเพียงใด สิ่งที่สำคัญจริงๆคือความสุขของคนที่ได้รับและคนให้มากกว่า
 
“รักมึง” ถึงแม้จะเป็นแค่เสียงกระซิบแต่คำนี้จากโอ๊ตก็ดังก้องอยู่ในหัว(ใจ)ผม และจะดังอยู่อย่างนี้ตลอดไป
 
...
 
อีธารกับลีวายส์เปิดประตูออกมา หลังจากตื่นขึ้นมาในช่วงสายๆของวัน อีธารยังคงรู้สึกง่วงนิดๆแต่ก็ยังอยากกลับไปนอนที่บ้านเพราะได้ยินเสียงห้องข้างๆ เลยคิดว่าไม่อยากอยู่รบกวนเวลาเพื่อนรักต่อ
 
“พี่ธาร ไหวมั้ยอ่ะ” ลีวายส์คนรักของอีธารถาม เพราะดูท่าทางร่างสูงยังง่วงอยู่ไม่น้อย
 
“ไหวนา ไปเหอะ”
 
“ไปบอกพี่โอ๊ตก่อนฮะ” ลีวายส์บอกและเดินไปหน้าห้องโอ๊ตทันทีซึ่งอีธารห้ามไว้ไม่ทัน
 
‘อ๊า.....อ่ะๆๆๆ.....ซี๊ดดดด..’ ลีวายส์ชะงักมือที่กำลังจะเคาะประตู หันกลับมามองหน้าอีธารด้วยสีหน้าแดงแป๊ดดดดด
 
“มาเลย หรืออยากโดนมั้ง อืม...ฟอด!!!”
 
“จะบ้าหรอฮะ พี่ธารอ่ะ” >/////<
 
........................................................................................
 
ชอบกันมั้ยเอ่ย คู่ต่อไปจะตามมาเรื่อยๆ รอติดตามนะครัชชชชช จุฟฟฟฟฟฟฟ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
สมหวังกันทุกคู่ละ โล่งใจสุดๆ  :hao6:

ขอเรทแรงๆเลยค่าาาาา  :hao7:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
ฉลองขึ้นบ้านใหม่

 :hao6:

ออฟไลน์ question09

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-10

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ขอบคุณค่าาาาาาาาา  ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

zaturday

  • บุคคลทั่วไป
เราตามเรื่องนี้ตั้งแต่เอาลงที่ธัญวลัยละ จำไม่ได้ว่าใครส่งให้อ่าน แต่จำได้ว่า ติดเรื่องนี้มากกกกก
เข้าเชคทุกวัน แต่กว่าคนเขียนจะมาอัพทีนี่ก็เพลีย ตามหลายเดือนอยู่เหมือนกัน จบเร็วไปนะเราว่า สนุกอ่ะ
อยากอ่านต่อเรื่อยๆ เห็นมาลงในเล้า เราก็ตามมาอ่านอีก แต่ไม่ได้เม้นเลย เพราะอ่านในโทรศัพท์ วันนี้เปิดคอม
เลยตั้งใจเข้ามาเม้นเรื่องนี้โดยเฉพาะ เราเป็นคนเขียนไม่เก่ง แต่อยากถ่ายทอดความรู้สึกบางส่วนให้ได้รู้
 ขอบคุณคนแต่งเรื่องนี้นะคะ ที่ทำให้เราได้ฟิน และใจเต้นตุบๆ ในหลายๆตอน พอดีชอบแนวนี้อยู่แล้วด้วย
เลยฟินยกกำลังสอง ชอบวิธีการเขียนของคุณนะ เลยอยากจะถามว่า
นอกจากเรื่องนี้แล้ว ยังแต่งเรื่องไหนไว้อีกรึเปล่า จะตามไปอ่านค่ะ :o8:

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ชอบมห้โอ๊ตงอลๆ น้อยใจๆ แบบนี้อ่ะ
น่าร๊ากกกกกก >\\\\<
ถึงจะโหดสำหรับเฮียแมนไปหน่อยก้อเหอะนะ 555555

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
สนุกกกกก ชอบ
คู่นี้ฮาร์ดคอร์ แต่เค้าชอบบบ

ออฟไลน์ I-Icezz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ชอบเรื่องนี้อ่ะ  รอตอนของคู้ต่อไปน้าาา

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....52
 
เมื่อเวลาผ่านไปอะไรๆก็ย่อมเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ใช่สำหรับทุกคน ผมมองใครบางคนในห้องนั่งเล่น จากห้องทำงาน ร่างเล็กอยู่บนโซฟาสีหวาน นั่งพับกระดาษพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไปด้วย 
 
ผมลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน เดินเข้าไปหาร่างเล็ก ก่อนจะนั่งลงกอดเอวบางไว้อย่างห่วงแหงน
 
“ทำไมต้องพับไอ้นี้ทุกวันด้วยนะ”
 
“ก็ลีวายส์รักพี่ธารทุกวันนี้ฮะ” ฟังแบบนี้แล้ว ผมก็อดไม่ได้ที่จะหอมแก้มคนพูดเข้าให้สักฟอด
 
“ไม่เบื่อหรือไง”
 
“ไม่เลย และก็จะไม่เบื่อแน่ๆ” ตอบได้ดีต้องมีฟอดสองไม่สิ แค่สองคงไม่พอมั่ง ฟอดๆๆ “พี่ธาร พอแล้วฮะ แก้มช้ำหมดแล้ว”
 
“ไม่เห็นช้ำตรงไหนเลย หืม....ฟอด!” คราวนี้หอมแก้มไม่พอ คงต้องมีล่วงเกินกันบางล่ะ ก็ใครใช่ให้ทำตัวน่ารักแบบนี้ว่ามั้ย กดไลน์หน่อย(?)
 
จากที่หอมแก้มไปหลายฟอด เปลี่ยนมาเป็นจุมพิตแทน แต่ปากสีสดอ่อนนุ่มเกินจะขบกัดแรงๆได้ ผมจึงสอดลิ้นเข้าไปภายในแทน รสหอมหวานจนยากเกินจะหยุดยั้งได้ และเชื่อเถอะว่าผมไม่หยุดง่ายๆแน่
 
กริ๊งงง
 
“อ่ะ...พะ...พี่ธาร.....อุ๊บส์”
 
“อื๊ออ.....” แม้จะมีเสียงกริ่งหน้าห้องมารบกวนก็เถอะ ผมไม่ยอมหยุดและไม่สนใจ ในขณะที่ลีวายส์พยายามผละออก ก็ทำไม่ได้ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ แค่ผมจูบ ร่างเล็กก็อ่อนยวบแล้ว
 
กริ๊งงงง
 
“ชิท์!!!......ใครมาเอาตอนนี้วะเนี่ย!” แต่ คงไม่ลืมกันใช่มั้ยว่าผมน่ะขี้รำคาญเป็นที่หนึ่ง
 
ลีวายส์เม้มปากมองผม มันแลบลิ้นใส่ ผมจึงก้มลงฉกลิ้นหวานด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดประตู
 
“หวัดดีคับ...”
 
“มาผิดห้องแล้ว กูไม่รู้จักมึง” ผมบอกผู้มาเยือนก่อนจะปิดประตูใส่หน้ามัน  ผมไม่รู้จักครับและก็ไม่อยากรู้จักด้วย 
 
Tru..............
 
ในขณะเดี๋ยวกันแม่ผมก็โทรมาพอดี
 
“ครับ”
 
‘ธาร น้องปอนด์ กลับมาจากต่างประเทศสองสามวันแล้ว บ่นว่าอย่าเจอลีวายส์ เลยไปหาแหนะ ฝากไปส่งน้องขึ้นเครื่องด้วยนะ’
 
“ห๊ะ!!! แม่....แต่ผม...”
 
‘แม่มี  ประชุม แค่นี้ก่อนนะไว้จะโทรไปใหม่’ ท่านพูดจบท่านก็ว่าสายไปเลย เยี่ยม! นี่ผมจำต้องเปิดประตูใช่มั้ย เฮ้อออ
 
“เชิญ!!!”
 
“ใครมาฮะ พี่ธาร....โอ๊ะ! พี่ปอนด์” ลีวายส์จำได้แต่ทำไมผมจำไม่ได้วะ ก็ไอ้เด็กที่เจอที่รีสอร์ทไง
 
“หวัดดีคับลีวายส์ สบายดีมั้ยคับพี่มีของมาฝากด้วยนะ นี่คับ” มันนั่งลงข้างๆลีวายส์ด้วยล่ะ
 
“ฮู้ สวยจังฮะ เดี๋ยวจะเอาไปแขวนไว้ที่ระเบียง เนอะพี่ธาร” ผมมองของในมือลีวายส์ด้วยหางตา เป็นโมบายเปลือกหอยสำหรับบานประตูครับ
 
“น่ารำคาญ” ผมนั่งลง ดึงเอวลีวายส์เข้าหาตัว ทำเอาคนให้ทำหน้าไม่ถูก ลีวายส์เห็นแบบนั้นมันเลยตีแขนผม
 
“พี่ธารก็.....แล้วพี่ปอนด์มานี่ มีธุระอะไรหรือเปล่าฮะ”
 
“เปล่าคับ แค่มาหาลีวายส์เฉยๆ อีกสองชั่วโมงพี่ก็ต้องไปสนามบินล่ะ เลยจะมาสุขสันต์วันเกิดลีวายส์ก่อนกลับน่ะ” วันเกิด? จริงสิ วันมะรืนนี้นี่
 
“ขอบคุณฮะ งั้นเราไปส่งพี่ปอนด์กันนะพี่ธาร” ผมพยักหน้ารับ  แต่ในหัวยังคิดเรื่องวันเกิดลีวายส์อยู่เลย
 
คือ...ของที่จะให้น่ะมีแล้ว แต่ไม่รู้ว่าวันเกิดมันต้องทำอะไรให้บ้าง อย่างที่ผ่านมาก็แค่พาไปเที่ยว กินอาหารอร่อยๆ ตอนอยู่เมืองนอกน่ะนะ ก็แค่นั้น ส่วนของขวัญ ไอ้กายโน้น
 
 
 
“เดินทางปลอดภัยนะฮะพี่ปอนด์  ไว้คุยกัน” ผมกับลีวายส์มาส่งไอ้เด็กปอนด์ถึงสนามบินในเวลาต่อมา
 
“คับลีวายส์ เอ่อ..ขอบคุณครับที่มาส่ง สวัสดีครับพี่ธาร” ผมแค่พยักหน้ารับ จากนั้นรอจนเครื่องออกผมกับลีวายส์ถึงจะกลับ
 
“วันเกิดปีนี้อยากได้อะไร” ผมแค่ลองถามดู ในระหว่างขับรถออกจากสนามบินไปยังผับ
 
“ก็......ได้อยู่กับพี่ธารก็พอแล้ว ของขวัญไม่ต้องหรอกฮะ” ฉิบหายสิทีนี้ ผมก็นะ ลืมคิดไปว่าเดือนนี้วันเกิดมันเลยรับงานไว้ ยกเลิกไม่ได้ซะด้วยสิ
 
“คือ.....วันมะรืนนี้ มีงานต่างจังหวัดน่ะ” ผมมองลีวายส์นิดๆ กลัวว่ามันจะโว้ยเอาแต่ก็เงียบครับ
 
“งั้นหรอฮะ ก็ไม่เป็นไรนี่ เราอยู่ด้วยกันทุกวันอยู่แล้ว”
 
“แน่นะ....งั้นเสร็จงานจะรีบกลับมาล่ะกัน ถ้า....ทัน” ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าวันนั้นจะกลับมาทันหรือเปล่าบางทีอาจจะต้องค้างต่างจังหวัดก็เป็นได้ ไม่น่าเลย แม่ง!!!
 
[ลีวายส์:Part]
 
“เอาล่ะ อยู่กับไอ้กายนะ อย่าซน อย่าดื้อ เข้าใจมั้ย”
 
“รู้แล้วนา ลีวายส์ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะฮะ” ลีวายส์บอกกับพี่ธาร ขณะรอพี่กายมารับ วันนี้พี่ธารต้องไปทำงานต่างจังหวัดอีกแล้ว
 
“ไม่เด็กเลย กูเห็นได้แผลตลอด ให้ไปอยู่กับไอ้กายไปอยู่กับไอ้เซฟดีกว่ามั้ง” คนแก่ขี้บ่นอ่ะ ประจำเลย ได้แผลนิดหน่อยทำเรื่องใหญ่
 
“ไอ้ธารมึงนี่มัน....” ไม่นานพี่กายก็มา
 
“หยุด ไม่ต้องพูดนะมึง กูรู้....กูไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยว ดูแลมันดีๆละ ถ้ามีเรื่องมึงโดนคนแรก”
 
“ไอ้.....เออ!!! ไปลีวายส์วันนี้อยากได้อะไร ทำอะไร บอกพี่กายเลย ส่วนมึงถ้ากลับมาเร็วๆได้ยิ่งดี อะไรกันวะแม่ง” เพราะวันนี้วันเกิดลีวายส์น่ะสิฮะ แต่พี่ธารไม่ว่าง พี่กายเลยเคือง
 
“ไปนะ แล้วจะรีบกลับ จุ๊บ!!!” พี่ธารขึ้นรถหลังจากจุ๊บแก้มลีวายส์โดยไม่อายพี่กายสักนิด เพราะถือเป็นเรื่องปกติ
 
“เดินทางปลอดฮะ”
 
 
 
“เฮ้อออ เมื่อกี้ก็ยิ้มอ่ะนะ ไหนตอนนี้หน้าบูดซะแล้วล่ะ” พี่กายโยกหัวลีวายส์ไปมาเบาๆ ตอนนี้เรากำลังจะไปเดินห้างกันฮะ แต่ลีวายส์รู้สึกไม่อยากไปเลย
 
“ไปหาพี่โอ๊ตกันมั้ยฮะ ลีวายส์ไม่อยากไปห้างแล้วอ่ะ”
 
“เอางั้นก็ได้” พี่กายพาลีวายส์มาหาพี่โอ๊ตที่บ้าน วันนี้พี่โอ๊ตอยู่บ้านคนเดียวเพราะพี่แมนก็ไปทำงานเหมือนกัน
 
“มีอะไรหรือเปล่า มาถึงนี้” ปกติลีวายส์จะเจอพี่โอ๊ตที่ผับ น้อยครั้งที่จะมาถึงบ้าน บ้านพี่แมนกับพี่โอ๊ตน่าอยู่มาก ข้างๆมีทะเลสาบกว้างๆด้วยล่ะ ลมเย็นอากาศดีมาก
 
“แค่อยากมาฮะ เราซื้อของกินมาด้วย วันนี้วันเกิดลีวายส์นะ”
 
“รู้แล้ว คิดว่าอยู่กับพี่ธาร” เดี๋ยวนี้เค้าสนิทกันฮะ พี่โอ๊ตเลยเรียกพี่ธารว่าพี่ แต่ก็ยังเรียกพี่แมนว่าไอ้และมึงเหมือนเดิม
 
ลีวายส์ก็เคยอยากจะเรียกพี่ธารแบบนั้นบางตอนอยู่เมืองนอกเพราะพี่กายเรียกก็คิดว่ามันดูสนิทกันดี แต่รู้มั้ยพี่ธารตบปากลีวายส์ด้วยล่ะ เลยเข็ด
 
“ก็ไอ้เหี้ยธารมัน......เออๆช่างเหอะ ทำไมพวกมันแม่ง เอาแต่ทำงานๆๆ เดี๋ยวกูของขึ้นขึ้นมาอีกรอบล่ะจะหนาว” ลีวายส์สบตากันกับพี่โอ๊ตและแอบอบยิ้มออกมา
 
“พี่กายอย่าของขึ้นเลยนา พี่หมอก็งานเยอะใช่มั้ยล่ะ เค้าทำเพื่อพวกเรานะ” ลีวายส์บอก แต่ถึงจะคิดแบบนั้น ในวันสำคัญแบบนี้ ลีวายส์ก็ยัง....เฮ้อออ คิดถึงพี่ธารจัง T^T
 
“เอางี้ป่ะ จัดงานวันเกิดให้ลีวายส์กันดีกว่า ลีวายส์ชวนเพื่อนมาด้วยสิ”  พี่กายเสนอ
 
“ที่นี้หรอฮะ มันไกลไปหรือเปล่า อีกอย่าง พวกเพื่อนๆจะมาหรอปิดเทอมอยู่อ่ะ”
 
“มาสิ อย่างน้องเพื่อนสนิทต้องมา เอานา จะมีกี่คนก็ช่าง มีแค่เราก็ได้ จัดกันสนุกๆ เดี๋ยวโทรพี่เซฟมาด้วย เนอะ” ลีวายส์ลังเลอยู่แป๊บหนึ่ง ก่อนที่พี่โอ๊ตพยักหน้าเห็นด้วย ลีวายส์เลยตอบตกลง
 
 
 
งานเลี้ยงถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่ายในเวลาหนึ่งทุ่มโดยประมาณ พี่กายเป็นแม่งานให้และมีพี่โอ๊ตช่วยจัดการเรื่องอาหารการกิน
 
“น้องลี ว้าวๆๆ ขนมๆเยอะโคตรอ่ะ” นายปอฮะ มากับเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่ออย่างนายไอซ์ คู่นี้เค้าจิ้นกันทั้งโรงเรียนล่ะ
 
“เต็มที แต่ห้ามขโมยกลับบ้านนะ”
 
“ฮ่าๆๆ อ่ะ สุขสันต์วันเกิด นี้ของขวัญหารสองนะรู้ยัง คึคึ”นายไอซ์ส่งกล่องของขวัญมาให้ลีวายส์ แหม ของขวัญชิ้นเดียวแต่สองคนเนี่ยนะ คู่นี้คบกันชัวร์
 
“ลีวายส์.....วู้คิดว่าจะมาไม่ได้ซะแล้ว”
 
“บุ๊คนั่นแหละ เรารอตั้งนานอ่ะ ของขวัญก็ไม่ได้เตรียมมา” บุ๊คกับเรเนสก็มาฮะ สองคนนี้คือเพื่อนสนิทของลีวายส์
 
“ไม่มาได้ไงล่ะ นี้ของขวัญ จริงๆ เตรียมจะเอาไปให้ที่คอนโดแล้วล่ะ ดีจังมีงานวันเกิดด้วย” ลีวายส์รับของขวัญกล่องใหญ่จากบุ๊คก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะ
 
“คิดถึงทั้งสองคนเลย กอดๆๆ ขอบคุณนะที่มา เราดีใจมา ดีใจที่สู๊ดดดด”
 
มีเพื่อนๆในห้องมากันเยอะทีเดียว เพราะลีวายส์โพสต์ในไลน์กลุ่มห้องว่าจะจัดงานวันเกิดและมีไลน์กลุ่มชมรมด้วย
 
“ลีวายส์ นั่นพี่กายใช่ป่ะ ถ้าจำไม่ผิด แล้วพี่คนนั้นอ่ะ เค้าเป็นแฟนกันหรอ อ๊าย เขิน” เรเนสถาม หมู่นี้ไม่รู้นางเป็นไร ชอบมองผู้ชายแล้วเขินตลอด
 
“เปล่า นั้นพี่โอ๊ตเจ้าของบ้าน พี่โอ๊ตน่ะ เป็นแฟนกับ.....นั่นไงพี่แมนมาพอดี” ลีวายส์บุ้ยหน้าไปทางพี่แมนที่เพิ่งจะมาถึงก็ตรงดิ่งไปหาพี่โอ๊ตทันที
 
“แบดมาก อย่างกะนายแบบแหนะ งั้นพี่กายกับครูเซฟ...หรือเปล่านะ” >///<
 
“ไม่ใช่ๆ พี่กายมีแฟนแล้ว ส่วนพี่เซฟก็....เอ่อ....โสดมั้ง ไม่รู้สิ” ขืนบอกว่าเป็นแฟนกับนายแพ็คละก็ ลีวายส์ตายแน่ๆ พี่ธารสั่งไว้ว่าห้ามบอกใครให้เป็นเรื่องของเค้าสองคน อีกอย่างนายแพ็คได้กินหัวเอาน่ะสิ
 
“หว้า เสียดายจัง”
 
“ถ้าเห็นแฟนพี่กายล่ะก็ จะไม่พูดว่าเสียดายหรอก....พอๆ ไปเล่นทางโน้นกัน มีดอกไม้ไฟด้วย” ลีวายส์ดึงมือบุ๊คและเรเนสไปริมทะเลสาบที่มีเพื่อนๆ เล่นดอกไม้ไฟกันอยู่ สวยมากเลยฮะ เราก็เลยถ่ายรู้ลง ig กันหลายรูปเลย 
 
“ลีวายส์ พี่ฟิวส์ มาด้วยล่ะ” ลีวายส์มองตามบุ๊ค พี่ฟิวส์มากับเพื่อนจริงๆด้วย
 
“หวัดดีคับลีวายส์  สุขสันต์วันเกิดครับ นี่ของขวัญ”
 
“ขอบคุณฮะ แล้วก็ขอบคุณที่มาฮะ” เพราะพี่ฟิวส์กับลีวายส์อยู่ชมรมเดียวกัน คงเห็นในไลน์กลุ่มแต่ไม่คิดว่าจะมา
 
“ต้องมาสิ น้องพี่ทั้งคน เอ่อ...พี่ชายของลีวายส์คงไม่ว่าใช่ป่ะ” คงหมายถึงพี่ธารล่ะ
 
“พี่ธารไม่อยู่หรอกฮะ พี่ธารติดงาน....ปอกับไอซ์อยู่โน้นน่ะ เชิญฮะพี่ฟิวส์” จริงๆลีวายส์รู้นะว่าพี่ฟิวส์อ่ะชอบลีวายส์แต่ก็ทำเป็นไม่รู้ไปงั้นแหละเลี่ยงๆไป ดีกว่ามองหน้ากันไม่ติด
 
สามทุ่มกว่าๆ นายแพ็คมากับพี่หมอ ไม่รู้ว่ามาด้วยกันได้ยังไงและพี่หมอก็มีเค้กก้อนโตมาด้วย เราเลยเป่าเค้กกัน เพื่อนๆมายืนล้อมวงให้ลีวายส์ด้วยล่ะ ลีวายส์ไม่เคยมีงานวันเกิดนะ ทุกๆปีจะมีแต่ของขวัญจากพวกพี่กายและก็ไปเที่ยว ทานข้าวกับพี่ธารแค่นั้น วันนี้ลีวายส์มีความสุขแต่จะมากกว่านี้ถ้ามี….พี่ธารอยู่ด้วย
 
 
 
“จะนอนที่นี่ก็ได้นะคะลีวายส์ พรุ่งนี้พี่ไปส่งเอง” พี่แมนบอกหลังจากงานเลิกตอนสี่ทุ่ม เพราะที่นี้ไกลจากตัวเมือง กลัวว่าเพื่อนๆจะกลับกันลำบากเลยเลิกเร็ว
 
“ไม่เป็นไรฮะ ลีวายส์อยากกลับไปนอนที่บ้าน” คอนโดก็คือบ้านของลีวายส์นั่นแหละฮะ ป่านนี้พี่ธารคงยังไม่กลับ ลีวายส์ก็ไม่ได้รับโทรศัพท์จากพี่ธารเลย
 
“งั้น พรุ่งนี้เจอกันนะคะ จุ๊บ! ฝันดีคะ”
 
“เยอะ ไปแล้วมึง ถ้าพี่ธารอยู่คงไม่กล้าหรอก” พี่โอ๊ตพูด และไม่ได้โกรธที่พี่แมนจุ๊บหน้าผากลีวายส์ต่อหน้า เพราะรู้ดีว่าพี่แมนอ่ะแค่แกล้งเล่นเฉยๆ
 
“มึงไม่หึงบ้างล่ะ เออๆ กลับดีๆนะพวกมึง” ลีวายส์กลับกับพี่หมอและพี่กาย ส่วนพี่เซฟก็กลับกับแพ็คซึ่งต้องขับรถพี่กายที่พามาก่อนหน้ากลับไปด้วย จึงทิ้งมอไซค์ไว้ที่นี่แทน
 
“เอาล่ะ ลีวายส์นอนคนเดียวได้หรือเปล่า” พี่กายถามและนั่นก็ทำให้ลีวายส์แปลกใจนิดๆ ปกติ พี่กายต้องนอนเป็นเพื่อนลีวายส์ก่อน
 
“อ้าวกาย คุณไม่นอนเป็นเพื่อนลีวายส์ล่ะ เดี๋ยวพี่นอนที่นี่ก็ได้นะ พรุ่งนี้วันหยุดของพี่”
 
“เอ่อ นอนได้ฮะ นอนได้สบายมาก พี่กายกกลับไปพักผ่อนเถอะฮะ ขอบคุณสำหรับวันนี้มากๆนะฮะ ลีวายส์มีความสุขมากเลย รักพี่กายนะ จุ๊บ!”
 
“ครับ ฝันดีนะ พรุ่งนี้พี่มาหานะ” ลีวายส์พยักหน้ารับก่อนจะลงจากรถและขึ้นห้อง วังเวงดีแท้
 
ลีวายส์เปิดประตูห้องเข้ามาก็พบว่าในห้องไม่ใครเลย เงียบมาก มีแต่เสียงโมบายที่ดังอยู่ตรงประตูระเบียง เฮ๊ะ!!! โมบาย ลม ระเบียง
 
ลีวายส์เดินตรงไปยังระเบียงพบว่า....ประตูเปิดอยู่ โมบายถูกแขวนไว้ที่กรอบประตู มีเทียนหอมวางเรียงไปตามพื้น ความมืดทำให้เปลวไฟดูสวยงาม ส่องสว่างให้เห็นร่างสูงของใครบางคนยืนอยู่ ในมือถือเค้กปักเทียนเป็นตัวเลขบอกอายุของเจ้าของวันเกิดไว้
 
“แฮปปีเบิร์ดเดย์” ลีวายส์นิ่งฮะ หัวใจกำลังเต้นแรง ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง พี่ธารกลับมา มาทันเวลา “เป่าเค้กสิ”
 
ลีวายส์ก้มลงเป่าเค้ก ในมือพี่ธาร ก่อนจะโผเข้ากอดร่างสูงไว้แน่น ใจร้ายที่สุดเลย ไม่เห็นโทรมาบอกกันบ้าง
 
“อย่าร้องนะ เด็กอะไร ขี้แยชะมัด” พี่ธารบอก
 
“ป่าวซะหน่อย อึกๆ......ก็พี่ธารอ่ะ”
 
“หึ! พอแล้วๆ ไม่เอานา ก็มาแล้วนี้ไง งานวันเกิดสนุกมั้ยล่ะ” พี่ธารวางเค้กลงกับโต๊ะไม้ตัวยาว ก่อนจะดึงลีวายส์ให้นั่งลงบนตักแกร่ง
 
“สนุก....ถ้ามีพี่ธารอยู่ด้วย”
 
“ถ้ามีกู อาจจะไม่สนุกก็ได้ กินสิ คงหวานน่าดู” พี่ธารใช่นิ้วจิ้มเนื้อเค้กแตะปลายจมูกลีวาย ก่อนจะตักเค้กป้อนให้ เป็นเค้กไอศกรีมฮะ กินตอนกลางคืนหนาวดี อ่าๆๆๆ
 
“พี่ธารอ่ะ....ทำไมไม่โทรมาบอกล่ะ ลีวายส์จะโกรธพี่ธารแล้วรู้ยัง”
 
“ก็รู้ว่าคงไม่ทันไงเลย มารอที่บ้านดีกว่า เพื่อนมาเยอะล่ะสิ ลง ig กันเต็มเลยนะ แต่เอาไว้คิดบัญชีวันหลังก็แล้วกัน”
 
“อะไรอ่ะ ลีวายส์เปล่าทำอะไรเลยนะ”
 
“หรอ ไม่ทำก็ไม่ทำ” แล้วลีวายส์กับพี่ธารก็นั่งคุยกันต่ออีกแป๊บก่อนจะเข้ามาในห้องนอน
 
“ว้าวววว....ลูกโป้ง” ลูกโป้งเต็มห้องเลยฮะลอยอยู่บนเพดานเต็มไปหมด
 
“ชอบล่ะสิ หึ!”
 
“ที่สุด เพิ่งรู้ว่าพี่ธารก็ทำอะไรแบบนี้เป็นด้วยนะ คึคึคึ ฟอด!” ให้รางวัลเป็นหอมแก้มฟอดนึ่ง
 
“เปล่าทำ แค่โทรสั่งแม่บ้านไม่ถึงสองนาทีเอง”
 
“พี่ธารอ่ะ...ไม่รักเล่า!” ดูสิ ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครว่าซะหน่อย มันน่าน้อยใจจริงๆเลย
 
“ล้อเล่นนา มานอนเถอะ ง่วงจะแย่” ร่างสูงดึงมือลีวายส์ให้นอนลงบนเตียง และกอดลีวายส์ไว้ในอ้อมแขน อ้อมแขนที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา
 
 แหนะ รู้นะคิดไร คืนนี้พี่ธารกระซิบบอกว่า วันเกิดไม่อยากให้เจ็บตัวฮะ เลยแค่นอนเฉยๆ แต่ว่า....ค่อยทบในคืนถัดไปอันนี้ชักกลัวล่ะ ทบนี้คือ.....
 
..................................................................................................
 
 
เช้า.....................
 
“ตื่นแล้วทำไมไม่ลุกล่ะ” ผมผงกหัวมองร่างเล็กในอ้อมแขน ลีวายส์นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ในมือ ผมเพิ่งตื่นครับ
 
“ขี้เกียจ วันนี้นอนทั้งวันเลยได้มั้ยฮะ”
 
“ฟอด! ได้ แต่ไม่ให้นอนเปล่าๆนะ หืม.....” ผมพลิกตัวเข้าหาร่างเล็กก่อนจะ หอมแก้มฟอดใหญ่ จากนั้นก็ ทำให้มันหันมาสนใจผมแทนโทรศัพท์ด้วยรสจูบแสนหวาน
 
“พี่ธาร...ไปล้างหน้าก่อน!”
 
“ตัวเองล้างแล้วหรอ ไม่ต้องหรอกนา ออกกำลังตอนเช้าดีต่อสุขภาพ ครูไม่สอนหรอ” ผมยักคิ้วให้แกะที่กำลังจะโดนกิน
 
“ไม่เอา....อุ๊บส์” ก็ต้องเอาสิ หึ! ผมไม่ปล่อยไปง่ายๆหรอก เนื้อติดอยู่ตรงริมฝีปากเสือจะไม่กินก็บ้าแล้ว ยิ่งเนื้อหอมๆล่ะก็ “อ่ะ...พี่ธารจะกินลีวายส์หรอฮะ กัดซะ.....”
 
“พูดมากจริง ปากว่างนี่...หรือจะ.....”
 
“ไม่ๆ ไม่เอานะ...ของพี่ธาร....อ๊ะ!!!” ลีวายส์สะดุ้งเมื่อ มือผมทำพิษ ถอดรูดกางเกงมันออกรวดเดียวเลย
 
“อ้าวหลุดมาได้ไงอ่ะ” ผมแกล้งพูดกับร่างเล็กที่ตอนนี้หน้าขึ้นสีแดงแป๊ด ลีวายส์เม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรง เบือนหน้าหนี
 
“พี่ธารขี้โกง” >0<
 
“อ่ะๆ ยอมก็ได้ ให้อยู่บนมั้ยล่ะ” แค่นั้นล่ะครับ หันขวับมาทันที
 
“ไม่เอาอ่ะ!!! ไหนบอกไม่อยากให้เจ็บตัวไงฮะ”
 
“จำได้ว่า พูดไว้เมื่อคืนโน้นแหนะ...จุ๊บ....จ๊วบ” ผมจูบริมฝีปากสีสดย้ำๆ
 
“พี่ธาร! ขี้โกง โกรธแล้ว” ลีวายส์ ทำปากยื่นให้ผมและพลิกตัวหนี ผมมองไหล่เนียนใสที่โผล่ออกมาจากคอเสื้อกว้างๆของมัน ก่อนจะจูบลงไล่ไปถึงลำคอ
 
“กล้าโกรธหรอ หืม.....สุขสันต์วันเกิด” ผมหยิบกล่องเล็กๆออกมาจากโต๊ะข้างเตียงให้ลีวายส์ ทำให้ร่างเล็กพลิกตัวกลับมาก่อนจะลุกขึ้นนั่ง
 
“อะไรฮะ”
 
“อยากรู้ก็เปิดสิ” ลีวายส์เปิดกล่องออกดู ถึงกับโผเข้ากอดผมเกือบหงายหลัง
 
“ขอบคุณฮะ รักพี่ธารที่สุด ที่สุดในโลกเลย รักๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
 
“พอๆ รู้ว่ารัก โอเค เก็บดีๆล่ะ ถ้างายอีกล่ะก็ โดนแน่” ไม่ใช่แหวนหรอก แต่เป็นรูปของพ่อกับแม่ลีวายส์ที่เอามาจากออสเตรเลียแต่ดันหายไป มันร้องไห้อยู่สามวัน
 
ผมรับปากว่าจะหาให้แต่ก็หาไม่เจอซะที ผมก็เลยต้องให้แม่บ้านส่งมาและใส่ล็อกเก็ตเป็นจี้สร้อยคอให้เรียบร้อย เพราะคิดว่ามีค่ามากสำหรับลีวายส์
 
“รู้แล้วๆ จะเก็บอย่างดีเลย พี่ธาร...รักนะ”
 
“รักแล้วต้องทำไง หืม จุ๊บ!!!” ผมดันร่างเล็กลงบนเตียงอีกครั้ง ก่อนจะ....
 
กริ๊งงงงงงงงง กริ๊งๆๆๆๆๆ กริ๊งงงงงงงงง
 
“ชิท์!!!!! กดกริ่งแบบนี้จะเป็นใครไปได้นอกจากไอ้กาย ไอ้เหี้ย! ผมกลอกตาไปมา ก้มลงจูบลีวายส์และก็...ลุกไปเปิด - -+
 
“ช้า มึงทำไรอยู่” ไม่ได้มาคนเดียวพี่หมอก็มา หอบกล่องของขวัญมาเต็ม
 
“ไม่ต้องรู้ รู้แค่ว่ามาขัด....แต่เช้าเลย เว้ย!!!” ผมหลีกทางให้มันเข้ามา พี่หมอยิ้มนิดหลังจากมองผมลงต่ำ ไอ้เหี้ยพี่หมอ
 
“รีบล้างหน้าเชียวนะ ออกไปก่อน กูอาบน้ำแป๊บ” ผมบอกกับลีวายส์ ที่เพิ่งออกมาจากห้องน้ำ จากนั้นไม่นานผมก็ออกมา และก็พบว่ามีแขกมาเพิ่มอีก
 
“อาบน้ำหรือทำอะไรวะช้าฉิบ” พี่หมอเล่นกูเลย
 
“จะยกโขยงมาเพื่อ ได้ข่าววันหยุด กูจะพักผ่อน” ผมบอกนั่งลงบนขอบโซฟาข้างๆลีวายส์
 
“เอาของขวัญมาให้เด็กน่ะสิ” ไอ้เซฟบอก มันมากับไอ้เด็กแพ็ค พวกมันคบล่ะ แม่งไอ้เซฟกินเด็ก(คือมันลืมตัว) เอ๊ะ!!! เอ่อ..
 
“พวกมึงจะอะไรกันนักหนา”
 
“ทำไม อ่ะนี่ของพี่แมนกับพี่โอ๊ตนะคะ แกะเลย” ไอ้นี่ก็อีกคน พูดดีเป็นแต่กับเมียกับลีวายส์เนี่ยแหละ
 
“วู้.....” เป็นรองเท้ากับหมวกแบรนด์ดัง คนได้ก็ดีใจใหญ่สิครับ “ขอบคุณฮะ รักพี่แมนกะพี่โอ๊ตที่สุด”
 
“นี่ของพี่กายกับพี่หมอนะ เปิดเลยๆ ลีวายส์ต้องชอบแน่ๆ” กล่องใหญ่ครับเกือบเต็มโต๊ะกลางโซฟา กูอยากเป็นหมอเหมือนกันนะ เดือนหนึ่งมันได้เงินกี่แสนวะเนี่ย
 
กล่องนี่เป็นเซ็ตเสื้อผ้าแบรนด์ดัง มีทั้งเสื้อกางเกงเสื้อนอกพร้อมกับแอคเซสเซอรี่อย่าสร้อยคอต่างหูและอีกมากมายอยู่ในกล่อง เอากันเข้าไป
 
“กูอยากได้” ทุกคนหันไปมองเสียงที่เกิดขึ้น เด็กไอ้เซฟเค้าล่ะ
 
“เดี๋ยวพี่ซื้อให้นะ” ไอ้เซฟกำลังเอาใจแฟนครับ เหอะๆ กูอยากรู้เรื่องมันไปถึงไหนกันแล้ว(นอกเรื่อง) “ส่วนนี้ของพี่ ไม่รู้ลีวายส์ชอบหรือเปล่าอ่ะ”
 
“ลีวายส์ชอบหมดทุกคนเลยฮะ....” ลีวายส์บอกก่อนจะเปิดกล่องของไอ้เซฟ “วู้...นาฬิกา” มีแต่ของแบรนด์ดังทั้งนั้นเลย ไอ้พวกนี้นี่มัน...
 
“พวกมึงเยอะล่ะ มันตัวแค่นี้ จะให้อะไรพอตัวไม่ได้หรือไง”
 
“มึงมีปัญหาอะไร! ลูกกูอ่ะ ลูกจะให้” แม่มันของขึ้นครับ แตะไม่ได้เลยจริงๆ  ลีวายส์ของกูไม่ใช่หรอวะ =_=
 
“รู้ป่ะ ถ้าไม่มีลีวายส์กูก็คงจะไม่ได้เจอกับพี่หมอ ไอ้แมนก็คงไม่ได้เจอกับโอ๊ต ไอ้เซฟก็ด้วย มึงรู้มั้ยการที่มีลีวายส์อยู่มันทำให้เรามีอะไรหลายๆอย่างเข้ามาในชีวิตมากมาย มึงก็ด้วย ถ้าตอนนี้ไม่มีลีวายส์ มึงก็คงยังจะเที่ยวเล่นไปวันๆอยู่เลย ลีวายส์น่ะ ทำให้เราได้รู้จักเป็นห่วงคนอื่น คิดถึงคนอื่น ดูแลคนอื่นเป็นและที่สำคัญ ได้...รักเป็น”
 
“หึ! นั่นสิ ถ้าไม่ใช่เพราะลีวายส์กูคงไม่เจอกับมึงจริงๆ โอ๊ต” ไอ้แมนบอก ในวันนั้นเพราะมันมาช่วยผมสินะ
 
“ใช่ ตอนไปไหน อย่างแรกที่ต้องคิดถึงคือ ลีวายส์จะอยู่กับใคร อยู่ยังไง ทานอะไร จะไม่สบายหรือเปล่า ถ้าไม่เรียกว่าเป็นห่วงคงไม่ได้” ไอ้เซฟ
 
“ขอบคุณไอ้ธาร ที่มึงไม่ทิ้งลีวายส์ ขอบคุณที่มึงทำให้เราได้รู้จักกับเด็กคนนี้ มาเร็วลีวายส์ มากอดที” ลีวายส์แทรกลงนั่งระหว่างไอ้กายกับไอ้แมนแล้วพวกมันก็กอดกัน
 
ไอ้กายพูดถูก ถ้าไม่มีลีวายส์ผมก็คงรักใครไม่เป็นจริงๆ และลีวายส์ก็คือ “ความรักของผม”
 
 
...
 
“เอาล่ะ นี่อะไร” อีธารส่งโทรศัพท์ในมือให้ลีวายส์ดู ทำให้ร่างเล็กเปิดตากว่างกับภาพที่อยู่บนหน้าจอ
 
“คือ...เอ่อ....ก็พี่ฟิวส์อ่ะ แค่ถ่ายรูปเอง ถ่ายกันหลายคนนะแต่ทำไมตัดมาแค่สองคน” ร่างเล็กบอกเสียงแผ่ว
 
“หึๆ งั้นหรอ เคยบอกหรือเปล่าว่าอย่าเข้าใกล้มัน อย่าคุยกับมัน อย่ามองหน้ามัน”
 
“พี่ธาร เยอะไปแล้ว”
 
“เยอะอะไร!!!” ร่างเล็กถึงกับสะดุ้ง ตอนนี้ทุกคนกลับไปแล้วด้วยสิ ไม่มีใครช่วยลีวายส์ได้เลย
 
“ก็.....ลีวายส์ของโทษ แค่รูปเอง นะๆ ลีวายส์ขอโทษๆๆๆ นะๆ จุ๊บ นะ จุ๊บ” ร่างเล็กพยายามทำให้ร่างสูงเย็นลงด้วยการจุ๊บแก้มซ้ายขาวและจูบซับไปทั่วหน้า
 
“ก็ได้.....” และก็ดูเหมือนจะได้ผล อีธารดึงลีวายส์ให้นั่งคร่อมลงบนตัก “บอกรักซิ”
 
“รักที่สุดฮะ”
 
“รักใคร”
 
“พี่ธารอยู่แล้ว”
 
“รักแล้วต้องทำไง”
 
“จุ๊บ...จุ๊บ...จุ๊บๆๆๆ”
 
“ไม่ใช่....รักแล้ว...ต้อง....ยอม!.....ต่างหาก.....อุ๊บส์!” >//////<  (อนุญาตให้มโนตามสบาย ปล.ฆ่าคนอ่าน 55555)
 
 
.........................................................................
 
คู่ต่อไปใคร ตอบ!!! แต่งดีมั้ยน้า

 โอ๊ะ!!! ล้อเล่น จะรีบแต่งนะครัชชชช    :mew1:  :mew1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
พี่ธารขี้หวงขี้หึงน้องมาก แต่ละคู่ก็น่ารักดี

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
ขอความกรุณาคนเขียน จัดเซฟแพ็คมาให้ซักตอน

ขอบคุณล่วงหน้าเลยข่าาาาา

 :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother Special
 
 
 
“นี่ นายแพ็ค มาช่วยหาศัพท์ใหม่หน่อยสิ นอนเล่นอยู่ได้”
 
“ไม่ว่าง....โอ้ย!!!” คำตอบของผม ทำให้ผมถูกหมอนอิงฟาดใส่หน้า ลีวายส์ยืนเท้าสะเอวมองผมอย่างเอาเรื่อง
 
“อะไรของมึง กูไม่ได้บอกว่าจะมาช่วยซะหน่อย รีบทำสิ....กูจะได้รีบกลับ”
 
“ไอ้! นี่แน่ๆ.....ลุกขึ้นเลยนะ งานกลุ่มหกคนทำอยู่คนเดียวเนี่ย ลุกขึ้นๆ อยากตายใช่มั้ย” มันระดมฟาดหมอนใส่ผมจน ผมทนไม่ได้ต้องลุกขึ้นสู้ สงครามหมอนจึงเริ่มขึ้น ประกอบด้วยเสียงเอะอะดังลั่น
 
วันนี้ผมโดนบังคับให้มาทำงานกลุ่ม ซึ่งก็มีแต่ผมกับลีวายส์เนี่ยแหละ เพราะคนอื่นๆ แม่งกลัวพี่ธารเลยไม่กล้ามา ผมจึงต้องมาทั้งที่ผมก็ไม่ได้คิดจะช่วยมันทำ ปิดเทอมแท้ๆ ยังมีงานให้ทำโคตรขี้เกียจเลย
 
“เฮ้ย!!! พวกมึงเงียบๆหน่อยได้มั้ย ห๊ะ!!! กูทำงานอยู่” เป็นไงล่ะ ผมกับลีวายส์ที่ยื่นฟาดฟันกันอยู่บนโซฟานิ่งค้างเหมือนถูกพี่ธารกดสวิทปิด พี่แกแม่ง มาสายโหดตลอด เพราะงี้ไงไอ้พวกนั้นมันถึงไม่กล้ามา แล้วก็ไม่ต้องคิดจะให้ลีวายส์ออกไปทำข้างนอกนะ ไม่มีทาง ไอ้พวกมีแฟนเด็กแม่งมันขี้หึงขี้หวงกันทุกคนหรือไงวะ!!!
 
“เพราะนายอ่ะ”
 
“มึงแหละ เริ่มก่อน” ผมนั่งลงบนพื้นตรงโต๊ะกลางหลังพิงโซฟา และเริ่มช่วยลีวายส์ทำงาน จะได้เสร็จๆ จากนั้นงานก็เดินไม่ถึงชม.ก็เรียบร้อย ก่อนจะส่งไปให้ยัยเรเนสจัดหน้า
 
“โอ๊ยยยย เมื่อยๆๆ นายนวดให้เราหน่อยดิ ขาอ่ะๆ”
 
“นวดไม่เป็นแต่ถีบเป็น ลองป่ะ” ผมบอกพร้อมกับยกขาขึ้นเตะมันเบาๆ ลีวายส์เลยทำปากยื่นให้ หมู่นี้เราสนิทกันนะ ผมคิดว่า...เพราะผมไปผับพี่เซฟบ่อยเลยเจอมันบ่อยๆด้วย
 
ถามว่าผมกับพี่เซฟไปถึงไหนแล้วหรอก็......ดีนะ แต่เหมือนมันขาดอะไรไป ไม่รู้สิ หรือบางทีผมอาจจะคิดไปเอง ได้ข่าวว่าเทอมหน้าจะออกจากการไปครูแล้วล่ะ ทีนี้ผมจะโดดเรียนก็ไม่ต้องมีใครมาค่อยจับค่อยบ่นล่ะ เหอะๆๆ
 
“จะไปผับพร้อมกันเลยมั้ย หรือจะให้ไอ้เซฟมารับ” พี่ธารถาม ตอนนี้สามทุ่มล่ะ พี่เซฟบอกว่าจะมารับแต่ไปเลยดีกว่าจะได้ไม่ต้องเสียเวลา เดี๋ยวผมไลน์ไปบอกเอา
 
“ไปเลยก็ได้”
 
“พี่ธาร พรุ่งนี้เราไปซื้อชั้นวางของใหม่ได้มั้ยอ่ะ ลีวายส์อยากได้เพิ่งอีก อันที่มีมันวางของเต็มแล้ว”
 
“อืม....ก็ไปสิ”
 
“งั้นเราไปดูเสื้อด้วยนะ บุ๊คส่งมาให้ดูในเน็ตมาใหม่เยอะเลย มีแบบที่พี่ธารชอบด้วย”
 
อิจฉาเว้ย ลีวายส์มีแต่คนเอาใจจริงๆเลย ไม่ใช่แค่พี่ธาร ทั้งพี่กาย พี่แมน ไม่เว้นแม้แต่พี่เซฟก็ด้วย ผมเข้าใจนะว่าลีวายส์เป็นคนสำคัญของพวกพี่ๆ แต่ก็อดอิจฉาไม่ได้จริงๆ
 
“ขึ้นไปข้างบนกันก่อนนะ” พี่ธารบอก เมื่อเข้ามาในผับ ผมกับลีวายส์เลยขึ้นมาชั้นบน ตอนนี้ผับเปิดมาได้สักพักแล้วคนเลยเริ่มเยอะ
 
“ไปนะคะ ไว้เจอกัน” ผมกับลีวายส์มองหน้ากันเมื่อเห็นผู้หญิงที่ไม่รู้จัก จูบลาพี่เซฟอยู่หน้าห้องพักของพี่มัน ก่อนที่เธอคนนั้นจะเดินจากไป
 
“อะ...อ้าว ทำไมไม่โทรมาบอกล่ะ จะได้ไปรับ” พี่เซฟบอกด้วยท่าทางปกติ ก็....นั่นล่ะ คงไม่มีอะไรหรอก อีกอย่างพวกพี่ๆเพื่อนเยอะแยะ แต่....เฟลนิดๆ
 
“ไลน์มาแล้วนี่” พี่เซฟนิ่งไปสามวิ ก่อนจะทำท่าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้
 
“อ่า จริงด้วย พอดีโทรศัพท์อยู่ในห้อง โทษทีนะ ไอ้กายอยู่ด้านในน่ะ เดี๋ยวพี่ไปทำงานก่อน ไอ้ธารล่ะ”
 
“ด้านล่าง”
 
 
.................................................................................................
 
“กูว่า มึงหยุดได้แล้ว” ผมลดบุหรี่ในมือลง เงยหน้ามองเจ้าของเสียงเข้มของเพื่อนสนิท ไอ้ธาร
 
“มึงแม่ง! กูอุตสาห์ส่งสัญญาณแล้วแท้ๆ สัด!”
 
“ถ้ามึงแคร์มันขนาดนั้น ทำไมไม่เลิกล่ะวะ” ไอ้ธารมันจับทางเพื่อนเก่งเกิน ก็เมื่อกี้มันเห็นผมออกมาจากห้องกับผู้หญิงน่ะสิครับ แทนที่จะช่วยไม่ให้แพ็คเห็น กลับให้ขึ้นมาเจอเฉยเลย
 
“เลิกหรอ ไม่ไหวหรอก กูไม่ได้ตายด้านซะหน่อย”
 
“มึงก็ทำกับมันสิ” ไอ้เหี้ยธาร แนะนำมาทีแม่ง ดีเหลือเกิน
 
“มึงจะบ้าหรอ แพ็คยังเด็ก อีกอย่าง ถ้าเกิดแพ็คไม่ได้รู้สึกดี....คือ....กูไม่รู้ว่ามันจะคิดยังไง เดาใจยากว่ะ” ผมก็คิดนะ เรื่องที่จะมีอะไรด้วยกันแต่ก็กลัวแพ็ครับไม่ได้ทุกที
 
“มึงยังไม่ลองใช่มั้ยวะแล้วมึงรู้ได้ไง ว่ามันรู้สึกไม่ดี”
 
“ก็........กูไม่ใช่มึงนี่ มีลีวายส์ที่ยอมได้ทุกเวลา”
 
“หยุด!!! อย่าพาดพิง เอาเป็นว่าคิดดูแล้วกัน ก็ดีกว่าให้มันเห็นมึงนอนกับคนอื่น อะไรที่จะรู้สึกไม่ดีกว่ากัน เลือกเอา” เลือกอะไรละ ปวดหัวฉิบ
 
 
 
“ง่วงยัง” ผมขึ้นมาหาแพ็คข้างบน ร่างบางนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงในห้องผม
 
“ยัง ฝนตกหรอ”
 
“อืม....วันนี้เอารถมา เดี๋ยวไปส่งนะ” ผมบอก แพ็คพยักหน้ารับแค่นั้นและหันไปสนใจโทรศัพท์ต่อ
 
เพราะอีกคนไม่ค่อยแสดงความรู้สึกเนี่ยแหละ มันเลยทำให้ผมประหม่า ไม่กล้าแม้แต่จะจูบกันนานๆ กลัวหัวใจตัวเองจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ ทั้งที่ตอนนี้เราไปด้วยกันได้ดีแล้วแท้ๆ ไอ้เซฟแม่งปอดว่ะ
 
“เป็นไร ทึ่มหัวตัวเองอยู่ได้ ปวดหัวหรือไม่สบาย” ร่างบางลุกขึ้นมาทาบมือลงบนแก้มและลำคอของผม
 
“เปล่าหรอก เอ่อ....นอนเล่นไปก่อนนะเดี๋ยวมา” จุ๊บ ผมจุ๊บแก้มใสก่อนจะออกจากห้องมายืนพิงกรอบประตูอยู่ด้านนอก แม่ง อยากจะโขกหัวตัวเองกับผนังสักสิบรอบ
 
“เป็นไรมึง”
 
“อ่ะ! เปล่า เออกาย....กูถามไรหน่อยสิ”
 
“ว่า....” กายขมวดคิ้วมองผมอย่างสงสัย มันคงไม่ตบผมใช่มั้ยถ้าผมจะถามคำถามนั้นออกไป
 
“ตอนมึงมีอะไรกับพี่หมอครั้งแรก เป็นไงวะ” เพี้ย!!!! เต็มๆบ่องหูเลยครับคุณเพื่อน “กูเจ็บนะเว้ย!”
 
“ไอ้เหี้ยเซฟ มึงบ้าป่ะ! มึงถามอะไรเนี่ย ไม่คุยกับแล้ว” อะ...อ่าว ตบกู แล้วทำไมมันหน้าแดงเอง โธ่ ไม่ได้เรื่องเลย แถมยังโดนตบฟรีอีก แม่ง งี่เง่าสัด!
 
ตีหนึ่งกว่าๆ ผมกับไอ้แมนช่วยกันเปิดร้านเสร็จ ก็ได้เวลาไปส่งแพ็คที่บ้าน ไม่ครับ ไม่เคยค้างที่นี่หรอก ไปส่งทุกครั้งไม่ว่าจะดึกแค่ไหน คนมีพ่อมีแม่นะ
 
“แพ็ค ตื่นครับ เดี๋ยวไปส่งนะ” ผมปลุกแพ็ค ที่ตอนนี้หลับไปแล้ว “แพ็ค ตื่นครับ” ไม่ยอมตื่นแฮะ
 
ผมมองร่างบางพลางส่ายหน้าให้ ก่อนจะก้มลงจูบริมฝีปากบางเบาๆและผละออก แพ็คลืมตาขึ้นมองช้าๆ คิ้วคู่สวยขมวดเข้าหากัน
 
“กี่ทุ่มแล้วอ่ะ”
 
“ตีหนึ่ง ป่ะ กลับบ้าน”
 
“นอนนี่ไม่ได้หรอ” บางที่นี่อาจจะเป็นโอกาสของผมแต่....ผมไม่อยากเป็นคนฉวยโอกาส
 
“ไม่ได้หรอกนะ เดี๋ยวพี่สาวจะเป็นห่วงเอา อย่าดื้อสิ” แพ็คยันตัวลุกขึ้นแบบเซ็งๆ เราจึงพากันออกจากร้าน
 
ผมไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะเริ่มยังไง ถึงจะเคยผ่านผู้หญิงมาเยอะแต่ก็ใช่ว่าจะเหมือนกัน ใครจะว่าผมงี่เง่าก็ได้นะ แต่เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับแต่ละคนขอบอก ยิ่งแพ็คยังเด็กอยู่ด้วยแล้วแถมยังเดาใจอยากอีก กับไอ้เรื่องอย่างว่ามันก็....เว้ย!!!!  ไม่รู้ว้อยยยยย
 
“ฝนตกหนัก มองไม่ค่อยเห็นทางเลย” อย่างที่แพ็คพูดจริงๆ ตอนนี้เราขับรถฝ่าสายฝนกัน แทบจะมองไม่เห็นถนน
 
“นั่นดิ ขับยากฉิบ คงต้องจอดรถนอนข้างทางกันล่ะมั้ง” แพ็คหันขวับมามองผม “ทำไม มองแบบนี้คิดไรกับเค้าป่ะ”
 
“บ้าสิ จอดเพื่อ? ใกล้ถึงแล้วเนี่ย” หึๆ
 
“แล้วขากลับจะไหวมั้ยเนี่ย......เบาะหลังมีร่มนะ” ผมบอกแพ็คเมื่อถึงบ้านมันในเวลาต่อมา
 
“ฝนยังหนักเลย ค้างนี้ก็ได้นะ....หมายถึง ถ้าเกิดอุบัติเหตุน่ะ” ผมมองคนพูด
 
‘มึงยังไม่ลองใช่มั้ยวะแล้วมึงรู้ได้ไง ว่ามันรู้สึกไม่ดี.....ก็ดีกว่าให้มันเห็นมึงนอนกับคนอื่น อะไรที่จะรู้สึกไม่ดีกว่ากัน เลือกเอา’ เสียงไอ้ธารตามมาหลอกมาหลอนครับ เอาไงดีล่ะ โอกาสกับฉวยโอกาสมีแค่เส้นบางๆกั้นอยู่ผมจะตัดมันดีมั้ย
 
“งั้นฝนดี...”
 
“เดี๋ยว....เออ...กางร่มมารับฝั่งนี้ด้วยดิ” แพ็คพยักหน้ารับก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ วิ่งมารับผมฝั่งคนขับ เหี้ยมั้ยล่ะ ไอ้เซฟ
 
“อาบน้ำป่ะ” แพ็คถาม เมื่อมาถึงห้องติดริมสระน้ำของมัน
 
“อาบก่อนเลย” ผมบอก ร่างบางถอดเสื้อออกเปลี่ยนเป็นใส่ผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำ นี่ก็ไม่ได้รู้สถานการณ์กะเค้าเลย
 
ผมได้แต่นั่งถอนหายใจแรงๆออกมา เห็นแค่นี้ของก็ขึ้นล่ะ หรือผมจะกลับบ้านดีวะ ไม่ได้ๆ ไอ้เซฟสู้เว้ย มาถึงนี้แล้วเป็นไงเป็นกันสิวะ หนึ่ง สอง สาม พรึบ!
 
ผมถอดเสื้อผ้าออกก่อนจะคว้าผ้าขนหนูมาพันเอว และจะตัดสินใจผลัดประตูห้องน้ำเข้าไป เพราะเป็นห้องส่วนตัวเลยเคยชินสินะ ถึงไม่ล็อคประตู
 
แพ็คยืนอยู่ใต้ผักบัวที่น้ำกำลังไหลผ่านลงมา ผมนิ่งค้างไล่มองร่างเปลือยตรงหน้าที่มีเพียงอันเดอร์แวร์สวมใส่ ก่อนจะดึงผ้าขนหนูตัวเองออก ขยับเข้าไปซ้อนทับร่างบางไว้จากด้านหลัง ยกมือซ้ายยันผนังห้องน้ำ
 
“อาบด้วยคน คงไม่เป็นไรนะ” ผมกระซิบบอก แพ็คชะงัก ยืนตัวแข็งเมื่อผมอยู่ในระยะประชิดตัว
 
“ได้ไง...มันแคบ...อ่ะ!” ผมยกมืออีกข้างขึ้นจับเอวคอดเข้าหาร่างบางมากขึ้น ทำเอาอีกคนสะดุ้ง เพราะแกนกายที่แนบกับบั้นท้ายของร่างบาง แน่นนอนว่าแพ็คต้องรู้สึก
 
“ไม่ได้อยากเอาคำว่าแฟนหรือคำว่ารักมาเป็นข้ออ้างหรอกนะ แต่....ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ดีแน่....พี่ไม่อยาก...”
 
“สระผมมั้ย เอ่อ....ผมสระให้นะ” แพ็คตัดบทผม โดยการเอื้อมมือไปหยิบเอายาสระผมเทลงบนฝ่ามือ
 
ร่างบางมองสบตาผมเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นดึงต้นคอผมลงมา นิ้วเรียวค่อยๆนวดศีรษะเบาๆแพ็คหลบสายตาไม่กล้ามองแต่ก็พยายามไม่แสดงออกว่าตอนนี้กลัวแค่ไหน ผมมองตาก็รู้แล้ว อดซะเถอะไอ้เซฟน้อย
 
“พอเถอะ” ผมปัดมือแพ็คออกและหันหลังให้มัน เพราะยังอดทนได้อยู่ ไม่รู้ว่าอีกคนมีสีหน้าแบบไหน ผมไม่ได้โกรธนะแค่เฟลนิดๆ “รีบอาบนะ รอข้างนอก มันหนาว”
 
“มะ...ไม่” แต่ก่อนจะผมจะก้าวเท้า แพ็คกลับกอดเอวผมไว้ “คือ.....อาบน้ำด้วยกัน เถอะ”
 
เพราะความแนบชิดทำให้ผมสัมผัสได้ว่าอีกคนก็รู้สึกเหมือนกัน ผมจงหันกลับมา พบว่าแพ็คในตอนนี้ หน้าแดงไปถึงหูและยังคงหลบสายตาผม ผมจับปลายคางอีกคนให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากัน
 
“ถ้าห้ามแม้แต่คำเดี๋ยว พี่ก็จะหยุด เข้าใจมั้ย” ผมพูดจบไม่รอคำตอบ ทาบริมฝีปากจูบปากบางทันที
 
ไม่ใช่ครั้งแรกที่จูบกันแต่ใจก็ยังเต้นแรงได้เสมอ ในเมื่ออารมณ์พลุ่งพล่านมีอยู่ในตัวก็ไม่ยากที่ผมจะทำให้คนตรงหน้าอ่อนยวบลงด้วยสัมผัสจากฝ่ามือร้อน ถึงแม้สายน้ำจากฝักบัวจะอุ่นร้อนเพียงใดแต่ก็สู้ความร้อนในตัวผมไม่ได้
 
รถจูบอ่อนหวานนุ่มลิ้นที่ผมกำลังเกี่ยวตวัดจากโพรงปากของอีกฝ่ายทำให้ยากที่จะละริมฝีปากได้ เราจูบกันนานนับนาที ก่อนที่ผมจะไล่ริมฝีปากลงมาขบกัดต้นคอขาวเบาๆพอให้หายมันเขี้ยว
 
“อ๊า.....อื๊อออ.....” แพ็คกำลังคลั่งเพราะแรงดันส่วนล่างของกันละกัน ผมไล่นิ้วลงต่ำเกี่ยวอันเดอร์แวร์ตัวบางลงก่อนจะเกาะกุมส่วนอ่อนไหวของร่างบางและจัดการปล่อยมันออกมาก่อน
 
“อ๊า....ไม่....อื๊ออ....อ่าๆๆ...” เสียงครางระงมเกิดจากความเสียวซ่านที่ยากจะอดกลั่นได้ แพ็คปล่อยน้ำสีขุ่นไหล่ลงตามต้นขาสู่พื้น เพียงคืผมขยับยับไม่ถึงหนึ่งนาที
 
“จะหยุดก็ได้นะ” ผมกระซิบบอก แพ็คส่ายหน้าให้ ร่างบางยกมือขึ้นโอบรอบคอผมไว้เพราะเริ่มยืนไม่ไหว ถึงตาผมบ้างล่ะ ผมไล่นิ้วเรียวไปตามผิวนุ่มลื่นมือ มาหยุดตรงตุ่มไตยอดอก สะกิดเบาๆ เรียกเสียงครางหวานจากอีกคน
 
“อื๊อออ....อ๊า.....” ผมกดจูบย้ำๆ ตรงต้นคอจนเกิดรอย ก่อนจะไล่ลิ้นลงมาตวัดตุ่มไตสีหวานพร้อมกับขบกัดให้อีกคนเสียวเล่น
 
สัมผัสเนื้อแนบเนื้อไม่มีช่องว่าให้อากาศพัดผ่าน ร่างกายนี้กำลังจะเป็นของผมโดยสมบูรณ์ แกนกายผมตื่นเต็มตัว ถึงขั้นนี้ผมก็ยังไม่แน่ใจเลยว่าแพ็คจะรับได้หรือเปล่า
 
ผมไล่นิ้วเรียวไปทั่วบั้นท้ายกลมมน บีบเค้นเบาๆให้อีกคนรู้ว่าผมจะทำมัน ผมยกเข่าขึ้นยันกับผนังโดยมีขาเรียวของอีกฝ่ายพาดไว้
 
“อ๊ะ......จะ....เจ็บ” ร่างบางสะดุ้งเฮือก เมื่อผมสอดนิ้วเรียวเข้าไปภายในได้เพียงไม่ถึงครึ่งโดยมีตัวช่วยนำพา
 
“ถ้าไม่ทนจะหยุดนะ” ผมบอกก่อนจะทาบริมฝีปากลงจูบกันอีกครั้ง พร้อมกับสอดนิ้วเข้าไปจนหมด
 
“อื๊มมม....อื๊ออออ....อ๊าๆๆ” เพราะทางรักที่ไม่เคยถูกรุกมาก่อนเลยไม่แปลกที่จะเจ็บมากในครั้งแรก
 
“ซี๊ดดด....ถ้าจะรัดขนาดนี้.....” ผมจะเสร็จก่อนใส่ก็เป็นได้ ผมขยับนิ้วและสอดเพิ่มเข้าไปเรื่อยๆจนถึงสามนิ้วขยับจนร่างบางเริ่มชิน “อย่าเกรงคนดี...”
 
“อ๊า....อ๊ะ!!!” จากนั้นก็กัดฟันสอดใส่แท่นร้อนเข้าไปแทนที่ แน่นอนงานนี้ต้องได้เลือด “จะ....เจ็บ...อ๊า...”
 
“อย่าเกรงก็พอ นะครับ...ซี๊ด.....อ๊า...” ผมเองก็ครางออกมาอย่างอดไม่ได้ ทั้งอุ่นร้อน ทั้งคับแน่นจนจะยืนไม่ไหว
 
“อ๊ะๆ....อ่า...อ๊ะๆ....พี่.....อ๊ะๆๆๆ......” ผมขยับสะโพกเนิบๆและไม่นานก็เปลี่ยนเป็นเร็วขึ้นตามอารมณ์ เมื่อเริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่และไม่สนว่าอีกคนจะเจ็บเพียงใด
 
“ซี๊ดดด.....จุ๊บ...อ๊า....แพ็ค....จ๊วบ...” ผมจูบซับใบหน้าใสไปทั่ว แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้เสียงหวานหยุดครางได้
 
ผมขยับสะโพกเร็วขึ้นและเร็วขึ้นจนในที่สุดน้ำรักก็ไหลเยิ้มออกมาเต็มโคนขาเรียวเล็ก เราต่างก็ทรุดตัวลงกับพื้น
 
“ไหวมั้ย” ผมถาม แพ็คได้แต่ส่ายหน้าให้ จุ๊บ ผมก้มลงจุ๊บมุมปากบางก่อนจะพูดอีกว่า
 
“หมายถึงถ้าอีกรอบน่ะ” จะห้ามตอนนี้คงช้าไปแล้วเด็กน้อย ในเมื่อร่างกายเรายังเชื่อมต่อกันอยู่ ผมก็ยากที่จะหยุดแค่รอบเดียว เดินหน้าสิคร้าบบบ
 
 
“อ๊าๆๆๆ....ไม่...พะ...พี่เซฟ...” และก็ไม่ใช่แค่สองรอบอย่างที่คิด ผมยังพาร่างเล็กมาต่อบนเตียงอีก เสียงครางหวานเลยกลายเป็นเสียงห้ามไม่หยุดปากทั้งที่ตัวเองก็เสร็จไปมากว่าสามรอบด้วยซ้ำ
 
“ซี๊ดดด....แพ็คทำให้พี่คลั้ง...รู้ตัวมั้ย....อ๊า......” ผมดูดจูบไหปลาร้าคู่สวยจนตอนนี้ไม่เหลือพื้นที่ให้ทำรอยอีกแม้แต่นิด ก่อนจะลากลิ้นร้อนลงมายอกล้อกับยอดอก ขบกัดเบาๆสลับกันไปมา
 
“คน...บ้า..อ๊า.....อ๊ะๆๆๆๆ......อ๊า....” ผมโยกกายตามจังหวะ เพื่อจะเสร็จในรอบสุดท้ายก่อนจะผละออก ร่างบางหอบหายใจถี่เร็ว ตาเรียวปิดสนิทอย่างไร้เรียวแรง
 
“หึ! จ๊วบ!.....ฝันดีครับ ที่รัก จุ๊บ!!!”
 
เช้า..........ไม่สิสายดีกว่า???
 
“อืมมม......แพ็ค” ผมค่อยๆลืมตาขึ้นจากการตื่นนอน ร่างบางในอ้อมแขนยังคงหลับสนิท ไม่ใช่ว่าตื่นมาแล้วอาละวาดหรอกนะ เหอะ จุ๊บ! จะโทษใครล่ะ ก็ตัวยอมเอง คิคิ?
 
“อ่ะ....โอ้ย....ซี๊ดดด” แพ็คพลิกตัวเมื่อมันตื่นพร้อมกับเสียงโอดโอย
 
“เจ็บมากมั้ย” ผมกระซิบถาม ทำให้คนข้างๆหันขวับมามอง แก้มสองข้างขึ้นสีทันทีเมื่อสบตากับผม
 
“ไม่....นี่” ปากเก่งแฮะ
 
“จะว่าไป เช้าๆก็ดีเหมือนกันจะ หรือจะ....” ผมแกล้งสอดมือเข้าไปในเสื้อแขนยากตัวหลวมๆของมัน ผ่านเอวคอด
 
“มะ....ไม่ๆ บ้านา ชิท์!!!”
 
“ล้อเล่นครับล้อเล่น.....หิวยัง ดูเหมือนจะมีแม่บ้านมาเรียกนะ เมื่อกี้”
 
“ไม่อ่ะ....แต่มันปวดๆท้องยังไงก็ไม่รู้” แพ็คลุกขึ้น นั่งจับท้องให้ผมดู ผมจึงลุกตาม
 
“อืม...จะว่าไงดีล่ะ มันเป็นอาการปกติของคนที่....เพิ่ง....เอ่อ....”
 
“เออๆ....แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อเล่า”มันรีบตอบเมื่อรู้ว่าผมหมายถึงอะไร เลยเปลี่ยนมาถามผมเมื่อเห็นว่าผมใส่แค่กางเกงยีนตัวเดียวอยู่เลย
 
“ทำไมอ่ะ กลัวอดใจไม่ไหวหรอ...โอ๊ย!” โดนกำหมัดทุบเข้าให้ทีนึ่งครับ “ก็....ออกกำลังเยอะไง เลยร้อน”
 
“บ้า!”
 
“บ้าแล้วรักป่ะ.......เมีย” แพ็คมองผมด้วยหางตาก่อนจะสะบัดหัวและเอนหลังนอนต่อ “อ้าวๆ ตอบดิ”
 
“เมียบ้าเด้.....!!!”
 
...
 
เปิดเทอม.............................
 
“ไอ้แพ็ค มึงนอนตรงกลางไม่ได้นะ กูจะนอนข้างไอ้ปอ” ไอซ์เด็กผู้ชายหน้าหวาน มองผมแบบเคืองๆ ทำให้ผมต้องลุกขึ้นจากเตียงพยาบาลและขยับมานอนขอบเตียงแทน ทั้งที่เตียงก็เล็กมาแล้วแท้ๆ
 
“กูบอกแล้วว่าให้พวกมึงเรียน จะตามกูมาทำไม” ปอเพื่อนสนิทอีกคนพูด เพราะมันเริ่มรำคาญนิดๆ
 
“มึงจะโดดคนเดียวสิ” ผมพูด ก่อนจะพลิกตัวนอนตะแคงให้พวกมัน “หรือพวกมึงจะมาเอากันที่นี่”
 
“แม่ง กูถีบเลยนี่ มึงอ่ะ” ปอลุกขึ้นผลักไหล่ผม
 
“ก็จริงนี่......เอาเถอะ กูไม่ฟังก็ได้” ผมใส่หูฟัง ฟังเพลงทำเป็นไม่สนใจอีกสองคนข้างๆ ผมรู้ดีว่าทั้งสองคนไม่ใช่แค่เพื่อนกันและรู้อีกว่าใครเป็นฝ่ายรุกฝ่ายรับ
 
ไอ้ไอซ์หน้าหวาน ร่างบาง มันสูงร้อยเจ็ดสิบแปดโดยประมาณ เป็นลูกครึ่งสามสัญชาติไทยญี่ปุ่นสเปน ส่วนไอ้ปอ หน้าหล่อติดเข้ม สูงร้อยเจ็บสิบห้าโดยประมาณ ร่างบางแต่มีกล้ามนิดๆเพราะเป็นนักกีฬา มันเป็นลูกครึ่งขอนแก่นกับกรุงเทพ(ไม่ใช่ล่ะ) แต่ถึงจะหล่อเข้มก็เป็นฝ่ายรับ ที่ใครๆก็คาดไม่ถึง 5555
 
“พวกมึงเอารองเท้าขึ้นมาบนเตียงด้วย” เพราะกลัวโดนจับได้ ว่ามาสุมหัวกันอยู่ที่ห้องพยาบาล ไอ้ปอเลยบอกให้เก็บรองเท้าบนพื้นแต่ก็ไม่ได้ผลอยู่ดี เพราะ
 
พรึ่บ!!!
 
“โอ๊ะ.....” เสียงไอ้ไอซ์กับไอ้ปอ แต่ผมไม่สนหรอก ทำไรก็ทำไป
 
“อะไรของพวกมึง” ผมยังคงนอนต่อไม่ยอมลุกขึ้นมอง แม้ว่าจะมีใครบางคนสะกิดตรงหัวไหล่
 
“โดดเรียนหรอครับ เมีย” ฟุ๊บ!! ผมเด้งตัวลุกขึ้นจากเตียงทันทีเมื่อได้ยินเสียงกระซิบที่ฟังแค่นิดเดียวก็จำได้ ยิ่งคำว่าเมียด้วยแล้วไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใคร
 
“เอ่อ...มะ....มาได้ไงวะ.....ไหนบอกไม่มาสอนแล้วไง” ผมถามในขณะหาทางเอาตัวรอดไปด้วย ฉิบหายเลย
 
“ทำไม ไม่ดีใจหรือไง หืม....จะไปไหน” ร่างสูงคว้าแขนผมไว้ก่อนจะดึงให้นอนลงบนเตียง “เปิดเทอมวันแรก กะจะโดดเรียนเลยนะ ดีจริงๆ”
 
“จะ...ทำอะไรเล่า ปล่อย เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นหรอก” เพราะสถานะของเราสองคนไม่ใช่แค่ครูกับนักเรียน จึงต้องระวังไม่ให้เกิดเรื่องระหว่างอยู่ในโรงเรียน ไม่งั้นโดนไล่ออกอย่างเดียวเลย
 
“ไม่มีใครเห็นหรอกนา อีกอย่าง ถ้าคราวหน้าโดดเรียนอีกจะโดนทำโทษแบบนี้...อุ๊บส์!” ร่างสูงโน้มหน้าลงมาทาบริมฝีปากจูบผม กับบทลงโทษที่แสบพอกัน
 
“ถ้าโดดเรียนไปอยู่ที่ไหน จะตามทำโทษที่นั้นเลย ค่อยดู....อย่าคิดว่าไม่กล้านะ หึๆ” แม่ง ใครจะกล้าวะ จูบน่ะไม่เท่าไหร่แต่นี้มือแม่งโครตไว้ด้วยน่ะสิ
 
ตอนแรกผมก็คิดว่าไอ้พี่เซฟ คงจะไม่หื่นมากมายเหมือนพี่ธารกับพี่แมน แต่ที่ไหนได้ เข้าขั้นเลเวลเดียวกันเลย สาดดดดดดด
 
 
........................................................................
ไร้สาระอีกนิด(?) : เมื่อลีวายส์เดินผ่านหน้าห้องพยาบาลพอดี
 
ลีวายส์ : โอ๊ะ!! พะ...พี่เซฟ....นะ...นายแพ็ค O.O
แพ็ค : เหี้ย! T.T (ลีวายส์รู้โลกรู้นะรู้ยัง???ปล.พี่ธาร พี่กาย พี่แมน)
เซฟ : ไงลีวายส์ ^__^/ (ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย)
 
ลีวายส์ : ^_^ (เดี๋ยวไลน์หาพี่กายดีกว่า 5555)
 
 
#ขออภัยหากมีคำผิด #อาจจะไม่โดนใจก็ของอภัยด้วยน้าาา

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
ในที่สุดก็ได้กินน้องแพ็คสักที
กลุ่มนี้รุกมันหื่นกันทุกคน ชอบกินเด็กด้วย

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
คู่นี้เขาได้กันแล้วววว
 :haun4:

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother Special
 
 
รักษ์&กาย
 
ยังจำผมกันได้มั้ยครับ หรือว่าลืมกายคนนี้ไปแล้ว ก็คนที่เคยทำให้พวกคุณๆหมั่นไส้กันนั่นแหละ ฮ่าๆๆๆ  แล้วก็อีกอย่าง ตอนนี้ผมกำลังมีปัญหานิดหน่อยครับ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นปัญหาโลกแตก
 
สามีผม เฮ้ย! แฟนผม เค้าไม่กลับบ้านครับ ใช้โรงพยาบาลเป็นบ้านหลังที่สองไปแล้ว ผมก็ได้แต่แวะไปหา หรือส่งข้าวส่งน้ำพร้อมโอเลี้ยงไปให้ เหอะๆ นี่ผมควรจะหอบผ้าหอบผ่อนตามไปนอนกับแฟนดีมั้ยครับเนี่ย
 
“เฮ้อออออ” ได้แต่นั่นถอนหายใจทิ้งตอนที่คิดถึงเค้าล่ะ
 
“เป็นเหี้ยรัย ผัวไม่กลับบ้าน หรือมีเมียน้อยวะ” ดูเหมือนไอ้ธารอยากจะ งานเข้า นะเนี่ย ผมเหล่มองลีวายส์ที่ผงกหัวขึ้นมาจากโซฟา เหอะๆ
 
“ลีวายส์ เมื่อกี้ไอ้ธาร กอดเอวสาวตรงเก้าอี้บาร์ด้วยล่ะ แหม เห็นสาวๆล่ะไม่ได้เลยนะมึง”
 
“จริงหรอฮะ พี่ธาร!!!” ปากหมาใส่กูดีนัก เนี่ยล่ะครับจุดอ่อนของมัน
 
“ไอ้กาย ไอ้สัด! ที่ไหนกันเล่า มึงก็เชื่อมันไปหมดทุกเรื่อง เล่นไปเลยโทรศัพท์น่ะ ไม่ต้องโผล่หัวขึ้นมา” แล้วมันก็กดหัวลีวายส์ลงกับโซฟาอย่างที่ทำบ่อยๆ แม่งดูมันลูกผม 
 
“มึงเล่นกูก่อนนี่”
 
“ดูมึงเหนื่อยๆนะ มึงกลับไปพักเหอะ เดี๋ยวไอ้แมนก็มา” ไอ้ธารบอก ช่วงนี้มันเข้ามาดูร้านบ่อยขึ้นน่ะ เห็นพวกมันมีแผ่นจะควานซื้อที่แถวๆนี้ บอกว่าจะทำคอนโดกัน ผมก็ได้แต่นั่งฟังไม่ได้ถามอะไร ปล่อยให้ไอ้พวกบ้างานมันทำไป ส่วนผมยังไงก็ได้อยู่แล้ว
 
“เออ ไปนะลีวายส์”
 
“ฮะ ขับรถดีๆนะฮะ พี่กาย” อิจฉาลีวายส์แฮะ ดูสิ ไอ้ธารแม่งไม่ห่างเลย ถ้าพี่หมอเป็นแบบนี้บ้างก็คงดี
 
“อ้าว กลับแล้วหรอ” ผมมองเพื่อนสนิทอีกคนที่เดินมาพอดี
 
“เออ!!!”
 
“โธ่ กายมึงยังโกรธกูเรื่องนั่นอีกหรอ กูก็แค่...ถามเพื่อ....วิเคราะห์อะไรนิดหน่อยอ่ะ”
 
“ถ้าคำถามมึงมันไม่ใช่เรื่องอย่างว่าอ่ะนะ กูจะไม่โกรธ” เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อคืนก่อนเซฟถามผมว่า....มีอะไรกับพี่หมอครั้งแรงรู้สึกยังไง ทำนองเนี่ย ดูสิ มันถามออกมาได้ยังไง
 
“นะๆๆ อย่าโกรธนะ กูเลี้ยงหนังมึงก็ได้ พาไปทานข้าวด้วย โอเค”
 
“นี่ มึงลืมไปป่ะ ว่าตอนนี้มึงมีอีกคนที่ต้องคิดถึงมากกู” เซฟเงียบ มันทำหน้าลำบากใจ เมื่อผมพูดถึงแฟนของมัน
 
“มึง.....”
 
“เฮ้! อย่าทำหน้าแบบนั้น กูหมายถึง ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว กูจะดีใจมากกว่าถ้ามึงใช่เวลากับแฟนมึงน่ะ กูไม่ได้โกรธมึงแล้วนา สัด! ฮ่าๆๆๆ กูกลับล่ะ”
 
“เออๆ ว่าแต่กลับบ้านหรือไปโรงบาลกันแน่วะมึง”
 
“เออ ไปโรงบาล พอใจยัง” เซฟหัวเราะให้ผม ก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน
 
ผมอาจจะเคยเป็นคนเห็นแก่ตัวในสายตาทุกคน เพราะผมเลือกที่จะเก็บความรู้สึกดีๆ จากเพื่อนคนนี้ไว้ แต่จะทำยังไงได้ล่ะ ผมไม่อยากเสียมันไปนี่ มันเคยเกิดขึ้นแล้ว และเราต่างก็รู้ดีว่ามันเจ็บแค่ไหน ที่เราต้องตัดขาดกัน ผมจึงไม่อยากให้ความรู้สึกเหล่านั่นกลับมาทำร้ายเราสองคนอีก
 
แต่สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาได้ เซฟมีคนรักและรู้ว่ารักจริงๆมันเป็นยังไง ผมดีใจนะที่มันได้เจอคนที่ใช่จริงๆซะที ส่วนผมน่ะหรอ ไอ้พี่หมอแม่ง!!! หายหัว งั้นคงต้องไปหาผัว เฮ้ย!!! หาพี่มันหน่อยแล้วล่ะ
 
ณ โรงพยาบาล.........
 
ที่ๆผมมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่ชินกับกลิ่นสารเคมีซะที เลยต้องยกมือขึ้นปิดจมูกและปากไว้ระหว่างเดินมาหาพี่หมอที่ห้องทำงาน
 
“พี่หมอลองนี่สิคะ....” ผมเปิดประตูเข้ามา เจอครับแต่ไม่ใช่เจอแค่พี่หมอนะ ยังมียัยพยาบาลรัตน์อีกคนที่ผมเองก็เจอบ่อยๆและก็ไม่ชินซะที!
 
“กาย! คุณมาได้ไง ร้านปิดหรอ”
 
“ไม่อยากให้มา.....ว่างั้น” ผมถามก่อนจะเดินไปนั่งลงบนโซฟาข้างๆพี่หมอ พร้อมกับเหล่มองยัยพยาบาลด้วยหางตา
 
“เปล่านี่ กำลังคิดถึงอยู่เลย ดีใจสุดๆ”
 
“นั่นน่ะสิคะ...แต่เสียดายจัง รัตน์ไม่ได้ซื้อโจ๊กมาเผื่อ ก็ไม่คิดว่าจะมานี่” ยัยนี่ปากคอเราะร้ายขอบอก เหน็บผมประจำ
 
“ไม่เป็นไรหรอก ทานกับพี่นะ” พี่หมอตักโจ๊กให้ผม พี่แกป้อนด้วยครับ เหอะๆ
 
“ไม่ล่ะ ไม่ชอบ”
 
“สงสัย คุณกายจะไม่ชอบทานของเหลวๆ คงจะชอบทานแต่ของแข็งๆสินะคะ” นั่นไง มันน่าตบมั้ยล่ะ ถ้าผมเป็นผู้หญิงนะ กูตบล่ะ
 
“ของเหลวมันจะอร่อยได้ยังไง ไม่ทันเคี้ยวให้รู้รสเลยก็ลงคอซะแล้ว สู้ของแข็งไม่ได้หรอก”
 
“งั้นหรอคะ แล้วพี่หมอชอบทานของเหลวหรือของแข็งคะ” งานเข้าแล้วไงมึง ไอ้พี่หมอ ตอบดีๆนะ ไม่งั้นมีเจ็บตัว ผมจ้องพี่หมอเขม็ง พี่มันก็เริ่มเหงื่อตกครับ น้ำท่วมปาก
 
“พูดเรื่องอะไรกันเนี่ย ทานนะกาย เดี๋ยวพี่ป้อน อ่ะ”
 
“ไม่กิน!!!” =_=
 
“คุณหมอคะ มีคนไข้ฉุกเฉินคะ หมอเวรไม่อยู่”พี่หมอกับยัยพยาบาลรัตน์ลุกขึ้น ก่อนจะวิ่งออกจากห้องอย่างไม่ลังเล นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมาแล้วเจอเหตุการณ์แบบนี้
 
“คนไข้เป็นยังไงบ้าง”
 
“เสียเลือดมากค่ะ อวัยวะสำคัญมีปัญหา” ผมเองก็วิ่งตามพี่หมอออกมาด้วยเหมือนกัน ก็แค่อยากเห็นพี่มันตอนทำงานอ่ะ
 
“งั้นตรวจเลือดแล้วก็เช็คดูว่ามีเลือดกรุ๊ปที่เข้ากับคนไข้สำรองไว้หรือเปล่า เราอาจต้องใช้”
 
ทั้งหมอและพยาบาลเข้าไปในห้องฉุกเฉินแล้ว ผมจึงรอดูอยู่หน้าห้องเพราะแน่นอนว่าคนนอกไม่สามารถเข้าไปได้
 
“อึกๆ....ลูกแม่....อึกๆๆ อื๊ออออออ” หญิงสาวคนหน้าที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ซึ่งน่าจะเป็นญาติของคนไข้
 
“เอ่อ...คนไข้ถึงมือหมอแล้ว ไม่ต้องกังวลนะครับ” เพราะเธอนั่งอยู่คนเดียวผมเลยเข้าไปคุยด้วย
 
“คุณ.....”
 
“คือ.....ผมเป็นเพื่อนหมอน่ะครับ เอ่อ...คนไข้ต้องปลอดภัยแน่ๆ” เค้าว่ากันว่ากำลังใจเป็นสิ่งสำคัญเสมอสำหรับคนที่เจอปัญหาหรือเรื่องร้ายๆ ผมจึงพูดออกไปแบบนั้น
 
“ฉันมีลูกสาวคนเดียว อึกๆ.....ถ้าไม่มีเค้า ฉันคงอยู่ไม่ได้” นี่สินะที่เค้าเรียกกันว่า หัวอกของคนเป็นพ่อเป็นแม่
 
“หมอเก่งนะครับ ผมรับรองเธอต้องปลอดภัยแน่ๆครับ” ผมนั่งลงและค่อยปลอบท่านจนกระทั่งพี่หมอออกมาจากห้องฉุกเฉิน
 
“ลูกฉันเป็นยังไงบ้างคะ”
 
“ใจเย็นๆนะครับ เราต้องผ่าตัดด่วนเพราะอวัยวะภายในมีปัญหา แต่ไม่ต้องห่วง ผมสัญญาว่าคนไข้จะปลอดภัยแน่ๆ” พี่หมอบอกด้วยแววตาเด็ดเดี่ยว ในขณะเดียวกันพยาบาลก็ย้ายผู้ป่วยไปยังห้องผ่าตัด
 
“เชิญญาติทางนี้ค่ะ”
 
“กายคุณไปรอที่ห้องนะ” พี่หมอบอก ก่อนจะวิ่งเข้าไปในห้องผ่าตัด ถึงพี่หมอจะบอกอย่างนั่นแต่ผมก็ยังอยากจะรออยู่หน้าห้องพร้อมๆกับญาติของคนไข้
 
เวลาผ่านไปราวๆครึ่งชั่วโมง มีพยาบาลออกมาแต่ก็ยังไม่ทันได้ถามอะไรเธอก็วิ่งไปอย่างรวดเร็ว และไม่นานเธอก็วิ่งกลับมา
 
“เป็นยังไงบ้างคะคุณพยาบาล”
 
“ขอโทษนะคะ ตอนนี้คนป่วยเสียเลือดมา ทางโรงพยาบาลไม่มีเลือดสำรองที่เข้ากับเลือดของคนไข้ได้เลยค่ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เรากำลังประสานงานกับโรงพยาบาลใกล้เคียงอยู่”
 
“ผมครับ ผมเลือดกรุ๊ปโอ อาจจะได้” ผมคิดว่า ชีวิตของคนๆหนึ่งมีค่ามากสำหรับอีกคนที่กำลังรอเขาอยู่ ผมมองญาติของคนไข้ ที่กำลังมองมา “ไม่เป็นไรนะครับ”
 
“เชิญทางนี้ค่ะ”
 
 
 
 
“ฮะ!!!” ผมเช็คเลือดและปรากฏว่าเลือดของผมเข้ากับคนไข้ได้ ผมจึงนอนถ่ายเลือดอยู่อีกห้อง และไม่รู้ว่า ผมเผลอหลับไปตอนไหน ตื่นมาอีกทีก็เจอยัยพยาบาลรัตน์ยืนอยู่ข้างๆเตียง
 
“ตกใจอะไร ฉันไม่มาทำร้ายคุณหรอก” เธอบอก “อ่ะ ทานนมกับส้มลูกนึ่ง เดี๋ยวคุณอาจจะเพลียนิดๆ”
 
“ขอบใจ”
 
“คุณรู้ตัวหรือเปล่า ว่าฉันน่ะอิจฉาคุณนะ ที่ได้หัวใจของพี่หมอไป” เธอพูดยิ้มๆ ดูเป็นคนล่ะคนกับเมื่อหลายชั่วโมงก่อนเลย
 
“เธอรู้.....”
 
“แน่สิ ฉันอยู่กับพี่หมอประจำ พี่หมอน่ะ ชอบพูดถึงคุณบ่อยๆ....กายจะทานข้าวหรือยังนะ....กายต้องโกรธแน่ๆที่ผมไม่กลับบ้าน...กายทำงานอยู่มั้ยนะ...จะกลับบ้านกับใคร....ไม่เคยเลยสักวันที่พี่หมอจะไม่พูดถึงคุณ”
 
นี่คือสิ่งที่ผมเพิ่งจะรู้ และก็อึ่งมากด้วย ผมคิดว่าพี่หมอจะไม่แสดงออกกับคนอื่นๆ ว่าเราเป็น..คนรักกัน
 
“แล้วคุณก็ควรจะดีใจ ที่ได้เป็นคนรักของคนๆนี้ พี่หมอน่ะ ไม่ใช่หมออย่างคนอื่นๆที่หวังแต่เงิน พี่หมอไม่เคยลังเลที่จะช่วยคน รักษาคน ถึงแม้ว่าคนไข้บางรายจะไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล แล้วคุณอาจจะยังไม่รู้ว่าพี่หมอเคยไปเป็นอาสาสมัคร เมื่อสามปีก่อนตั้งสองปีด้วยล่ะ”
 
“อาสาสมัคร....” เมื่อสามปีก่อน ก็คงเป็นตอนที่ผมไปเรียนสินะ
 
“ไงล่ะ แฟนคุณเจ๋งป่ะละ...ฉันอิจฉานะ...เพราะฉันมีแฟนแล้วเหมือนกัน เฮ้อออ ทำไมแฟนฉันไม่เป็นอย่างนี้บ้างนะ”เธอพูดจบก็เดินออกจากห้องไป
 
ใช่จริงๆ แฟนผม เจ๋งสุดๆไปเลย ไอ้พี่หมอ
 
“กาย....” เสียงพี่หมอ ทำให้ผมหันไปมองทางประตู ร่างสูงถอดชุดกาวออก เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มที่ผมจำได้ว่าเป็นคนซื้อให้เอง “คุณเป็นไงบ้าง”
 
“ประคองหน่อย” พี่หมอประคองผมลุกขึ้นนั่ง ผมมองสำรวจใบหน้าอันหล่อเหล่าที่น่าหลงใหลก่อนจะกอดเอวร่างสูงไว้
 
“อะ...อะไรกันเนี่ย...เป็นอะไรหรือเปล่า มึนหัวหรอ” พี่หมอประคองใบหน้าผมให้เงยหน้าขึ้นมอง
 
“รักพี่นะ...”
 
“อ้อนกันแบบนี้เลยหรือไง กลับบ้านนะ อาทิตย์นี้พี่ยกให้ทั้งอาทิตย์เลยเป็นไง ชดเชยที่ไม่ได้กลับบ้านเลย โอเคนะ” ผมพยักหน้ารับ และไม่ได้พูดอะไรต่อ เราจึงพากันกลับ
 
พี่หมอไม่ได้กลับคอนโด แต่กลับมาที่บ้าน เพราะไม่ได้กลับมาเป็นเดือนแล้วเหมือนกัน เราตกลงกันว่าจะมาหาไข่มุกด้วย กลับมาถึงก็เช้าพอดี
 
“คุณพ่ออออออ.....น้ากายยยยยย” เสียงใสมาเชียวครับ ใส่ชุดนักเรียนแสดงว่ากำลังจะไปโรงเรียนแน่นอน
 
“คุณลูกสาวสุดที่รัก มาจุ๊บทีนึ่งค่ะ” พี่หมออุ้มไข้มุกขึ้นก่อนจะจุ๊บแก้มซ้ายขาว “จุ๊บน้ากายด้วย”
 
“จุ๊บครับ....น้ากายไปส่งมั้ย”
 
“ไม่ค่ะ ดูท่าทั้งสองคนคงจะเหนื่อย พักผ่อนกันนะคะ ไว้ไข่มุกกลับมากวนตอนเย็นดีกว่า คริคริ” เจ้าาเล่ห์เหมือนพ่อมันตอนหนุ่มๆเลย
 
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ สวัสดีค่ะคุณแม่ เฮ้ย! น้ากาย คึคึคึคึ” แหนะ นางแสบใช่เล่น
 
“สวัสดีครับแม่/สวัสดีครับ”
 
“จ้า...เดี๋ยวแม่ไปส่งไข่มุก รักษ์กับกายจะเอาอะไรหรือเปล่าลูก แม่จะได้ซื้อเข้ามา” แม่พี่หมอเป็นคนน่ารักเสมอครับ
 
“ไม่ครับ ขอบคุณครับ”
 
 
“กาย คุณจะอาบน้ำด้วยกันมั้ย” ไม่ต้องตกใจครับ นี้เป็นเรื่องปกติและทำกันเป็นประจำ อาบน้ำด้วยกัน อย่าคิดไกลว่าจะมีเรื่องอย่างว่ากันตอนอาบน้ำ ก็มัน..มีบ้างแต่ไม่ใช่ทุกครั้งไง .////.
 
“ไม่ล่ะ ผมนอนเลย เหนื่อยชะมัด” ผมบอก นั่นสิ แค่ผมอดนอนคืนเดียวก็เหนื่อยมากขนาดนี้นับประสาอะไรกับพี่หมอที่อยู่โรงพยาบาลหลายๆคืนกันล่ะ……..
 
 
 
 
“อื๊อออ.............” ไม่รู้ว่าผมหลับไปกี่ชั่วโมงแล้ว รู้สึกตัวอีกทีก็โดนร่างสูงกอดไว้จากด้านหลัง พี่หมอนอนหลับ ซุกหน้าอยู่กับต้นคอผม
 
“พี่หมอ พี่หมอครับ.....ไอ้พี่หมอ”
 
“อื๊อออ........ครับ” พี่หมอครางรับทั้งที่ยังคงหลับตาอยู่ ผมจึงพลิกตัวเข้าหา
 
“ตอนผมไปเรียน ได้ข่าวว่าสาวเพียบเลยหรอ ผมเพิ่งรู้นะเนี่ย” ตาเรียวเบิกขึ้นมองสบตากับผมและพยักหน้ารับ
 
“เยอะมากกกก...นับไม่ไหวเลยล่ะ มีตั้งแต่เด็กทารกยันยายทวดเลย หึๆ” ผมอบยิ้มเมื่อได้ยินเช่นนั่น
 
“ทำไมไม่บอกล่ะ ว่าเคยไปเป็นอาสาสมัคร ตอนนั่นผมคงอยู่อีกซีกโลกสินะ”
 
“ในเมื่อไม่มีคุณ ก็อยู่แบบเดิมไม่ได้ ต้องหาอะไรทำ อยู่แต่ที่โรงพยาบาลก็คิดถึงแต่หน้าคุณนะกาย” พี่หมอเคลื่อนหน้าผากลงมาแตะกับหน้าผากผม
 
“ถ้าพี่หมอพูดสักคำว่าอย่าไป ผมก็จะไม่ไปหรอก รู้มั้ย”
 
“เพราะมันเป็น อนาคตของคุณ ตอนนั้นเรายังไม่ได้เป็นแฟนกันซะหน่อย พี่ไม่มีสิทธิห้ามหรอก แต่พอมารู้ตัวอีกทีก็แอบโกรธตัวเองเหมือนกัน ว่าปล่อยให้คุณไปได้ยังไง ตอนแรกคิดว่าสองปีไง แต่ที่ไหนได้ สี่ปี พี่แทบจะหาเมียแล้ว”
 
“ก็ลองดูสิ!!!” ผมต่อยท้องพี่หมอด้วยกำหมัดเบาๆ แต่คนตรงหน้าคว้าไปกุมไว้
 
เรามองสบตากัน ก่อนที่ริมฝีปากบางจะมอบจูบอันแสนหวานสลับกับร้อนแรงให้แก่กัน หลายวันมาแล้วที่เราไม่ได้ใช่เวลาอยู่ด้วยกันแบบนี้ ต่างฝ่ายก็ต้องการซึ่งกันและกันเป็นธรรมดา ผมจึงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ควรจะเป็น
 
“รักกายนะ”
 
“ครับ รักพี่นะ”
 
 
 
 
“น้ากายใส่นี่สิ ไข่มุกว่าต้องสวยแน่ๆเลยล่ะ ไขมุกเห็นคุณแม่ใส่สวยมาก” เอิ่ป บางที่ไข่มุกก็มีความคิดที่บรรณเจิดเกินไป
 
“แต่....น้ากายว่า ให้พ่อใส่ดีกว่า” ผมส่งแฮร์พีชสีน้ำตาลให้พี่หมอ ที่กำลังนั่งต่อโมเดลรถอยู่ งานอดิเรกของพี่มันครับ อาจฟังดูเด็กๆ แต่ชิ้นนึ่งนี่หลักแสนเลยทีเดียว
 
“อะไรกัน ไม่เอา ดูสิ พี่ไม่มีผม” ไอ้บ้านี่ก็ ไม่ได้ช่วยกันเลยดูท่าจะสนุกซะด้วยซ้ำ
 
“นานะ น้ากายคนดี น้ากายคนสวย เดี๋ยวไข่มุกติดกิ๊บให้ด้วย น่ารักๆๆ เนอะ คุณพ่อ” เอาเข้าไป ผมไม่ใช่ตุ๊กตานะ โอเค ผิดที่เกิดมาหน้าสวย กรรมมม
 
และแล้วผมก็โดนสองพ่อลูก จับใส่แฮร์พีชจนได้ แถมติดกิ๊บดอกไม้สีแดงเหมือนลูลู่ ลาล่าให้ด้วย สวยงามมาก!!!
 
“ถ่ายรูปหน่อย แม่กับลูก” เอากับมันสิ ไอ้พี่หมอ
 
“ใช่ๆ เล่นพ่อแม่ลูกกัน นะๆ คุณพ่อก็เป็นคุณพ่อ ไข่มุกเป็นลูกสาว ส่วนน้ากายเป็นแม่ เย้ๆ” =_=
 
“ใช่ๆ เป็นแม่ งั้น ไข่มุกต้องอยากมีน้องแน่ๆ ใช่มั้ยคะ” งานมาล่ะ....
 
“ใช่ค่ะๆ” เอาแล้วไง เข้าเต็มๆ
 
“ไม่ๆ ไม่เล่นแล้ว” ผมลุกขึ้นและกำลังจะเดินหนี
 
“ได้ที่ไหน ดูสิ ไข่มุกอยากมีน้อง ไปทำน้องให้ไข่มุกกัน ราตรีสวัสดีไข่มุกกลับไปนอนได้แล้วนะคะลูก เดี๋ยวพ่อจะทำน้องให้เนอะๆ” เหี้ย มันใช่มุขนี้กับลูกมัน
 
“เอาน้องชายนะคะ ไข่มุกอยากมีน้องชาย” นี่มันไม่ใช่เล่นๆแล้ว
 
“ได้คะตามสั่งค่ะ” ลูกสาวไปแล้ว เฮ้ออออ โล่อก แต่ที่หนักกว่านี่น่าจะเป็นพ่อมันเนี่ยแหละ “กาย....”
 
“ผมไม่เล่น!!!!”
 
“เล่นที่ไหน พี่‘เอา’จริง”
 
 
...............................................................
ตอนกายได้แค่นี้ ขออภัยค่ะ รีบ ได้แค่นี้จริงๆ T^T
 
ขอโทษนะคะที่หายไปนาน

ปล.ย้ายเรื่องไปนิยายที่จบแล้วยังไงคะ ใครทราบช่วยบอกหน่อยน้า

ออฟไลน์ Tsubamae

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 258
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
ขอบคุณค่าาาาา
ชอบลีวายส์ชอบคู่รองทุกคู่แต่แอบหมั่นไส้อีธารกับเชฟ
 :fire:

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother Special
Valentine
 
เพื่อนๆ เปิดเทอมกันหรือยังฮะ แปลนะตอนปิดเทอมรู้สึกว่าอยากมาโรงเรียนมากเป็นพิเศษแต่เมื่อถึงเวลาเปิดเทอมเข้าจริงๆกลับอยากนอนอยู่บ้านซะงั้นอ่ะ ฮ่าๆๆๆ
 
“ลีวายส์” เอ๊ะ นั่นเสียงเรเนสฮะ เพื่อนสนิทของลีวายส์เอง นางมาพร้อมกับบุ๊ค ซึ่งทั้งสองคนนี้นิสัยแตกต่างกันมากเลยล่ะ
 
เรเนสจะเป็นเด็กผู้หญิงน่ารักแก่นๆ ลุยๆพูดมาก ร่าเริง มีเรื่องสนุกๆมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ หมู่นี้นางชอบอ่านหนังสือเยอะแยะไปหมด แต่เป็นพวกนิยายอะไรทำนองนั้น ผิดกับบุ๊ค ที่เป็นเด็กผู้หญิงหน้าหวาน พูดน้อย เรียบร้อยแล้วก็ตั้งใจเรียนเป็นที่สุด
 
“ปิดเทอมไปไหนมั่งอ่ะ ลีวายส์”
 
“ไม่อ่ะ อยู่แต่บ้าน เรเนสกับบุ๊คล่ะ ไปเที่ยวเมืองนอกสนุกปะ”
 
“สนุกสิ สนุกมาก ป่ะ ไปเมาท์กันในห้องดีกว่า” เพราะวันนี้เปิดเรียนวันแรกมาสเซอร์เลยไม่สอนอะไรมากมาย เราจึงมีเวลาว่างมาก บุ๊คก็เลยชวนกันมานั่งห้องสมุด
 
“โอ๊ะ ลีวายส์ชอบอ่านหนังสือด้วยนี่ เอาเล่มนี้ไปอ่านป่ะ”เรเนสส่งนวนิยายเล่มหนึ่งมาให้
 
“หนังสืออะไรอ่ะ”
 
“เกี่ยวกับเทพอ่ะ ลองเปิดดูสิ เราอ่านแล้วสนุกมากเลยล่ะ” ลีวายส์รับหนังสือที่เรเนสส่งมาดูหน้าปก เป็นหนังสือปกแข็งเล่นหนาด้านหน้ามีรูปปีกสีขาว
 
อีธาร
เทพแห่งความอัปยศ
 
“ไม่เอาอ่ะ แค่ชื่อก็น่ากลัวแล้ว ให้บุ๊คอ่านสิ” ลีวายส์ส่งหนังสือไปให้บุ๊คแทน เพราะรู้สึกไม่ค่อยดีเมื่อจับหนังสือเล่มนี้ ไม่รู้สิ หรืออาจจะคิดไปเองก็ได้
 
 
“อ่า ง่วงซะแล้ว” ลีวายส์พูดกับตัวเองหลังจากนั่งอ่านหนังสือเรียนล่วงหน้าได้หนึ่งบท ก่อนจะเข้านอน ลีวายส์มองพระจันทร์กลมโต ผ่านหน้าต่าง คืนนี้มันช่างสวยงามจริงๆ
 
ฟุ๊บ! ผลัก!
 
“อะไรน่ะ” อยู่ๆก็มีเสียงประหลาดดังมาจากระเบียงห้อง คล้ายกับมีอะไรพุ่งตกลงมา ลีวายส์จึงเดินไปเปิดประตูออกดู
 
มีแสงสว่างจ้างสีขาวสาดส่อง จนต้องยกมือขึ้นบังตา ก่อนจะค่อยๆจางหายไป เหลือเพียงร่างของใครบางคนนอนอยู่บนพื้น ลีวายส์ชะงักฝีเท้า เพราะไม่แน่ใจว่าจะก้าวออกไปดูดีหรือเปล่า แต่ดูเหมือนเขาคนนั้นกำลังบาดเจ็บ
 
“คะ...คุณ.....คุณ นี่ คุณเป็นใครน่ะ”
 
“ชะ....ช่วยข้า...ที” เสียงแหบพร่าที่เค้นออกมาอย่างยากลำบากทำให้แน่ใจได้ว่า เขาคนนี้ต้องการความช่วยเหลือจริงๆ
 
ลีวายส์จึงเข้าไปประคองร่างหนาเข้ามาในห้อง ใบหน้าเต็มไปด้วยบาทแผลและกลิ่นคาวเลือด ผู้ชายคนนี้มีเพียงกางเกงตัวเดียวเท่านั้นที่ติดตัวมา ลีวายส์จัดแจงให้เค้านอนลงบนเตียงก่อนจะหาผ้ามาเช็ดตัวให้
 
“เจ้า....” ดาวตาเรียวคมลืมตาขึ้นมอง “ผู้เยียวยาแห่งข้า”
 
“อะ....อะไรนะ....คุณพูดว่าอะไรนะ....อ๊ะ!!!” ร่างของลีวายส์ถูกผู้ชายคนนี้กดลงบนเตียง ทั้งที่ตอนแรกเขายังนอนแน่นิ่งอยู่เลย นี่มันอะไรกัน!!!
 
“ผู้ครอบครองหัวใจของข้า” ร่างสูงจรดริมฝีปากเย็นเฉียบลงมาบนริมฝีปากของลีวายส์ ก่อนที่ลีวายส์จะรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างส่งผ่านมาจากร่างกายคนๆนี้เข้าสู้ร่างกายของตัวเอง
 
“อื๊อออ....” ไม่รู้ว่าไปเอาเรียวแรงมากมายมาจากไหน หรืออาจจะเป็นคนร้ายที่หลอกให้เราตายใจแล้วก็...
 
“...เป็นของข้า” ไม่นะ เค้าคนนี้กำลังจะ...
 
“ปะ...ปล่อยนะ....ไอ้บ้า......อุ๊บส์!!!” ไม่รู้ว่านี่มันเกิดอะไรขึ้นกับลีวายส์ ผู้ชายคนนี้มาจากไหน ถึงได้มาทำเรื่องแบบนี้กับลีวายส์ได้
 
แต่เพียงแค่ได้รับสัมผัส จากเขา ทุกๆสัมผัสกลับทำให้ลีวายส์ร้อนรุ่มไปทั่วร่าง และไม่อาจต้านทางคนคนนี้ได้เลย ลีวายส์จึงได้แต่ปล่อยตัวเองให้เค้าเป็นผู้นำพาไปในที่สุด
 
 
 
“อื๊มมม..................” ความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์ของเช้าวันใหม่เป็นอะไรที่รู้สึกดีเมื่อยามตื่น ลีวายส์บิดตัวบนเตียงกว้าง ก่อนจะค่อยๆปรือตาขึ้นมอง
 
เอ๊ะ!!! เมื่อคืนเรา.......จำได้ว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นนี้ แต่ว่าทำไม ถึงไม่มีร่องรอยอะไรบนตัวลีวายส์เลยล่ะ หรือว่าลีวายส์จะฝันไป โธ่! โล่งอก นั่นสิ เรื่องแบบนั้นจะเกิดขึ้นมาได้ยังไงมีแต่ในเทพนิยายเท่านั้นแหละ ว่าแต่.......
 
ลีวายส์ยกมือขึ้นแต่ริมฝีปากตัวเอง เมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอันเย็นเฉียบจากผู้ชายคนนั้น ทั้งต้นคอ ข้อมือ และทุกๆส่วนของร่างกาย แปลกจริง ทั้งๆที่เป็นแค่ความฝันแท้ๆ
 
“โอ๊ะ!!! เอ้ย!!!” มะ....ไม่ใช่ความฝันแล้วล่ะ เพราะว่า ตอนนี้มีคนนั่งอยู่ตรงปลายเตียงของลีวายส์ฮะ
 
“เจ้า ไม่เป็นไรนะ” จะบ้าหรอ ถามออกมาแบบนี้ได้ยังไง แล้วหมอนี่อยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน “ข้าทำให้ตกใจหรือเปล่า” ไม่ตกใจก็บ้าแล้ว
 
“คะ....คือ...คุณเป็นใคร ขะ...เข้ามาในห้องนี้ได้ยังไงอ่ะ” ลีวายส์รวบผ้าห่มขึ้นมากอดแนบอก หัวใจเต้นตุบๆ เพียงแค่ได้ยินเสียงเขา
 
“ข้าคือ...อีธาร” ห๊ะ! อีธาร
 
เจ้าของชื่อบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง และหันหน้ามา เรืองผมสีดำกลับตัดกับผิวขาวจัด ดวงตาสีแดงดั่งโลหิตคู่คมกริบคล้ายกับนกเหยี่ยว จ้องมองมานิ่งๆแต่กลับรู้สึกน่ากลัว ริมฝีปากสีซีดได้รูป บนใบหน้าแสนสวยราวกับภาพวาดของเทพในนิยาย ผู้ชายคนนี้....อีธาร
 
“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
 
“ผมไม่เป็นไร คุณสิเป็น เมื่อคืน บาดเจ็บไม่ใช่หรอกหรอ”  เมื่อคืนบาดแผลยังเต็มตัวอยู่เลยแต่ทำไมตอนนี้ มันหายไปหมด ไม่เหลือแม้แต้น้อย
 
“เจ้า...ช่วยข้าไว้” ห๊ะ! ลีวายส์เนี่ยนะ
 
“เปล่านี่ ก็จะช่วยอยู่หรอกแต่.....คุณ....เอ่อ....คะ....คุณ” >/////<
 
“นั่นแหละที่เรียกว่าช่วย” ร่างสูงเดินมาโน้มตัวลง จูบหน้าผากลีวายส์อย่างแผ่วเบา อะไรกันนี่เราโกรธอยู่ไม่ใช่หรอแต่ทำไม เพียงแค่จูบของเขากลับทำให้ความรู้สึกนั้นหายไปในปริบตา
 
“ลีวายส์ไม่เข้าใจ..คุณคือ อีธารจริงๆนะหรอ”
 
“ใช่.....หรือเจ้าไม่เชื่อ” ร่างสูงมองลีวายส์นิ่งๆ ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่กลางห้อง จากนั้นก็หลับตาลง พรึ่บ......
 
“นั่นมัน.......” ปีกสีขาวดุลหิมะกำลังกางออกมาจากแผ่นหลังของเขา ทำให้ลีวายส์อึ่ง ถึงกับพูดไม่ออก “อีธาร เทพ คุณเป็น......”
 
 
หลังจากที่ลีวายส์เข้าไปอาบน้ำเพื่อจะมาเรียนเขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยทิ้งไว้แต่ขนปีกสีขาวบนเตียงเท่านั้น ลีวายส์แค่อยากรู้เรื่องราวของอีธาร ว่าทำไมผู้ชายคนนั้นถึงได้มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่กันแน่
 
 
 
“เรเนส!!!” ลีวายส์พุ่งไปหาเรเนสทันทีที่มาถึงห้องเรียน
 
“อะไรลีวายส์ ทำไมต้องเสียงดังด้วย” บุ๊คถาม
 
“คือ หนังสือนั่นน่ะ เมื่อวานใครเอาไป” ทั้งสองคนมองหน้ากันแบบงงๆ ก่อนจะหันมามองหน้าลีวายส์พร้อมกัน
 
“หนังสืออะไร/เล่มไหน”
 
“ก็เรื่องที่เกี่ยวกับเทพไง เมื่อวานเรเนสบอกให้เราอ่านน่ะ บุ๊คเอาไปหรือเปล่า”
 
“เปล่านะ เราไม่ได้เอาไป คงอยู่ที่เดิม ลีวายส์อยากอ่านหรอ” ลีวายส์พยักหน้าตอบ ในขณะเดี๋ยวกัน มาสเซอร์ก็เข้าห้องพอดี
 
“งั้นตอนเที่ยงค่อยไปหาที่ห้องสมุดก็แล้วกัน”
 
 
 
และแล้วลีวายส์ก็หาหนังสือเจอ จึงยืมจากห้องสมุดของโรงเรียนมาอ่าน
 
อีธาร
เทพแห่งความอัปยศ
 
ณ ดินแดนแห่งสรวงสรรค์อันไกลโพ้น เป็นที่ซึ่งเหล่านางฟ้าและทวยเทพผู้ทำความดีทั้งหลายอาศัยอยู่  และแน่นอนว่าบนสรวงสรรค์แห่งนี้ย่อมมีกฎเกณฑ์มากมาย ที่เหล่านางฟ้าและทวยเทพจะต้อง ปฏิบัติอย่างเครงคัดและหากเทพองค์ใดทำผิดกฎก็จะถูกลงโทษอย่างแสนสาหัส ทำให้เหล่าเทพทวยทั้งหลายเกรงกลัวกฎเกณฑ์แห่งนี้ยิ่งนัก
 
แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อนางฟ้าองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นธิดาแห่งองค์เทพตกหลุมรักกับบุตรแห่งนรกโลกันต์ ทั้งสองลักลอบคบหากันอย่างลับๆ แต่ก็ยังมิรอดพ้นต่อเจ้าแห่งเทพได้ เจ้าแห่งเทพเมื่อทราบเรื่องจึงพิโรธยิ่งนัก สาปนางฟ้าและคนรักให้สูญสิ้นเหลือไว้เพียงแต่ตราบาปแห่งความอัปยศ นั่นก็คือ......
 
“อีธาร”
 
เทพผู้มีรูปร่างสง่างดงาม หาผู้ใดมาเปรียบได้ ที่เกิดจากความรักอันบริสุทธิ์ แต่เพราะมีปีกสีดำสนิทของผู้เป็นสายเลือดแห่งนรกโลกันต์ เหล่าเทพทั้งหลายจึงเชื่อว่า อีธาร คือ เทพแห่งความอัปยศ
 
กาลหนึ่ง องค์เทพ ได้รับคำทำนายจากสรวงสวรรค์ว่า เมื่อกาลเวลามาถึงในภายภาคหน้า ความอัปยศจะเกิดขึ้นอีกครา สรวงสวรรค์จะปั่นป่วนด้วยความพิโรธโกรธเคืองของตราบาปแห่งความอัปยศ
 
ด้วยความเกรงกลัวต่อคำทำนาย เจ้าแห่งเทพจึงสร้างปราสาทสูงกะขังอีธารไว้ มิให้ออกมาพบเจอสรรพสิ่งภายนอก ในสวนแห่งสรวงสวรรค์ แต่สิ่งใดเล่าจะปิดกั้นต่อโชคชะตาได้ เมื่อกาลเวลานั้นมาถึง
 
อีธารอยู่ในปราสาทมืด ได้เห็นเพียงแค่พระจันทร์ในยามเต็มดวงเท่านั้น จนกระทั้ง มีเต่าทองน้อยตัวหนึ่งบินเข้ามาในปราสาท และเป็นผู้นำพาอีธารออกมาสู่โลกภายนอก ทำให้อีธารพบกับนางฟ้าสายเลือดบริสุทธิ์ ผู้งดงาม เปรี่ยมไปด้วยความดีงามและความเมตรตา
 
อีธารจึงตกหลุมรักและติดตามนางไปทุกหนทุกแห่ง นางเองก็มีใจให้กับอีธารเช่นเดียวกัน นางเปรียบเสมือนแสงสว่าง ซึ่งต่างกับอีธารที่เปรียบเสมือนมนตราความมืดมิด โดยทั้งสองหารู้ไม่ว่าอีกไม่นานจะต้องเจอกับความเจ็บปวดมากเพียงใด
 
เมื่อเจ้าแห่งเพทล่วงรู้ถึงความอัปยศที่จะเกิดขึ้นอีกครา พระองค์พิโรธนักและสาปแช่งนางฟ้าผู้เป็นที่รักของอีธารให้ทุกทรมานจนไม่สามารถทนอยู่ต่อไปได้
 
“อีธาร หากเจ้ารักข้า ก็จงปลดปล่อยข้าออกจากความทุกทรมานนี้เถอะ ข้าจะกลับมาเป็นผู้เยี่ยวยาแห่งเจ้า ข้ารักเจ้า” นางส่งกริชเงินให้แก่อีธาร
 
“เจ้าคือผู้ครอบครองหัวของข้า ข้าจะไม่ให้เจ้าเจ็บแม้แต่น้อย”อีธารมิอาจทนเห็นนางทุกทรมานต่อไปได้ จบสิ้นคำพูดนั่น อีธารใช้กริชปลดปล่อยความทุกทรมานให้แก่ผู้เป็นที่รัก
 
ร่างกายของนางสลายกายเป็นเกร็ดทิพรายล้อไปทั่วร่างของอีธาร เปลี่ยนปีกสีดำสนิทให้กลายเป็นสีขาวบริสุทธิ์ดังหิมะ ด้วยความพิโรธที่มีต่อเจ้าแห่งเทพ อีธารจึงใช่พลังมหาศาลทำลายล้างสรรพสิ่งทั้งหลายบนสรวงสวรรค์จนมลายสิ้นและหายไปจากสรวงสวรรค์ในกาลเวลานั้น........
 
เช้า..............
 
 
“อื่มม........” ลีวายส์ลืมตาขึ้นปรับม่านตารับกับแสงแดดภายในห้อง ก่อนจะมองไปรอบๆ เอ๊ะ! นี่ลีวายส์นอนฟุบอยู่กับโต๊ะนี่
 
ใช่สิ เมื่อคืนลีวายส์นั่งอ่านหนังสือจนเผลอหลับไปนั่นเอง บ้าจริงๆ แต่จะว่าไป เราก็ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดีว่าสิ่งที่อ่านกับสิ่งที่เจอมันจะมีอยู่จริงๆ ถ้าไม่เห็นมากับตา
 
“โอ๊ะ!!! สายแล้ว” ลีวายส์รีบวิ่งไปอาบน้ำหลังจากพบว่ากำลังจะสายแล้ว
 
อะไรกัน ตกลงฝันหรือไม่ฝันกันแน่ เพราะตอนนี้ไม่เห็นแม้แต่เงาของอีธารเลย ตั้งแต่วันนั้นเค้าก็หายไป แล้วอีธารมีโทรศัพท์ใช่มั้ยอ่ะ เหอะๆ บ้าสิเทพบ้าอะไรใช้โทรศัพท์
 
“เรเนส...”
 
“อะไรลีวายส์”
 
“ผู้เยียวยา หมายถึงอะไรหรอ” เพราะได้ยินอีธารพูดประโยคนี้เลยสงสัย แถมในหนังสือก็มีเขียนไว้ด้วย แต่ไม่ยักจะอธิบายให้ได้เข้าใจ
 
“ก็...เป็นผู้รับษาอะไรแบบนี้น่ะ ยูนิคอนน่ะ ฟิ้วๆ” งั้นหรอ แต่จำได้ว่าลีวายส์ยังไม่ได้ทำอะไรให้อีธารเลยนี่ รักษายังไง รักษาตรงไหน รักษาอะไร อ่ะ
 
ไม่เห็นจะเข้าใจเลย แล้วเมื่อไหร่ อีธารจะมาให้เจออีกนะ หรือจะไม่มาแล้ว เฮ้อออออ
 
 
“วันนี้กลับบ้านคนเดียวหรอลีวายส์” เรเนส
 
“อืม ไว้เจอกัน” ลีวายส์แยกกับเพื่อนหน้าโรงเรียนก็ตรงกลับคอนโดทันที หวังลึกๆว่ากลับไปจะเจออีธารแต่ก็ไม่ ในห้องว่างเปล่าเหมือนเคย จริงสิไม่มีอะไรกินเลยคงต้องไปกินข้างนอกอีกแล้ว
 
ลีวายส์ขับรถไม่เป็นฮะไปไหนมาไหนก็เดินเอา ร้านอาหารใกล้ๆก็มีแต่วันนี้ปิดเลยต้องเดินผ่านไปอีกซอยทำให้ระยะทางไกลขึ้น
 
พรึ่บ!!!!
 
“อ๊ากกกกกกกกกก” ลีวายส์ตกใจเมื่ออยู่ๆ มีตัวอะไรไม่รู้ตกลงมาตรงหน้าลีวายส์ และเมื่อดูดีๆก็พบว่ามีชายร่างสูงสองคนยืนอยู่ตรงหน้า
 
“เจ้าน่ะหรอ ผู้เยียวยาของอีธาร”
 
“พวกนาย...เป็น....” พวกนี้ต้องเป็นผีแน่ๆ หนีก่อนดีกว่า แต่ ทว่า
 
“จะหนีไปไหน มากับเราเถอะ เจ้าจะได้ไม่ต้องเจ็บตัว จับตัวไป” พวกมันสองคนจับแขนลีวายส์ไว้  แต่ถูกพลังบางอย่างที่ความเร็วและแรงพุ่งเข้าใส่ ทำให้กระเด็นออกไปจากตัวลีวายส์
 
“อย่าแตะต้องของๆข้า” น้ำเสียงแข็งกร้าวของผู้มาใหม่ทำให้ชายสองคนนั้นมีสีหน้าหวาดหวั่น
 
“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็เตรียมตัวเผชิญหน้ากับเจ้าแห่งเทพไว้ให้ดีเถอะ อีธาร” พูดจบชายสองคนนั้นก็หายวับไปกับตา
 
“ผะ....ผะ....ผี.....”
 
“มิใช้หรอก....นั้นคือเทพ....เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง บาดเจ็บหรือเปล่า” อีธารถาม สีหน้าหวั่นใจ ลีวายส์ส่ายหน้าไปมาตอบ
 
“จริงสิ แล้วคุณหายไปไหนมาน่ะ ทำไมถึงไม่เห็นเลย...เอ่อ..หมายถึง ลีวายส์คิดว่าตัวเองฝันไปซะอีก”
 
“ไม่หรอก ข้ามองเจ้าอยู่ตลอดมิเคยห่าง จากนี้ไปข้าจะปกป้องเจ้าเอง” ลีวายส์รู้สึกได้ถึงคำพูดของอีธาร ว่าเขาจะดูแลลีวายส์อย่างที่พูดจริงๆ หัวใจของลีวายส์ก็กำลังเต้นแรงกับคำพูดนี้เช่นกัน
 
“ว่าแต่...เทพพวกนั่นจะจับลีวายส์ไปทำไมกัน” ลีวายส์ถาม หลังจากกลับมาถึงคอนโด
 
“พวกมันต้องการตัวข้า”
 
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับลีวายส์กันล่ะ” ลีวายส์ยังไม่เข้าใจอีกหลายๆอย่างเกี่ยวกับอีธาร และอยากรู้เรื่องราวของเขาให้มากกว่านี้
 
“เพราะเจ้า สำคัญกับข้ายิ่งกว่าสิ่งอื่นใด เพราะหัวใจของข้าได้มอบให้เจ้าไปแล้ว ณ ตอนนี้” ลีวายส์ยกมือขึ้นทาบกับอกด้านซ้ายและรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เสียงหัวใจที่เต้นอยู่ภายในอย่างกับมีสองดวงที่กำลังเต้นไปพร้อมๆกัน
 
“มันจะอยู่กับเจ้าตลอดกาล” อีธารทาบฝ่ามือลงกับมือของลีวายส์ ก่อนจะยิ้มบางๆออกมา
 
 
หลายวันต่อมา.................
 
“ลีวายส์ จะกลับแล้วหรอ ไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดก่อนป่ะ” บุ๊คเธอมักจะชวนลีวายส์กับเรเนสไปอ่านหนังสือตอนที่มีคาบว่างหลังหมดคาบเรียนจากตารางเรียน
 
“ไม่ล่ะ เราจะกลับเลยน่ะ”
 
“หมู่นี่รีบกลับเนอะ มีใครรออยู่ที่บ้านหรือเปล่า บอกมาเลยนะ” เรเนสทำท่าจับผิด
 
“บ้าสิ จะมีใครกันล่ะ เราไปนะ เจอกันพรุ่งนี้” ลีวายส์รีบตัดบทก่อนจะโดนซักกันไปใหญ่และรีบตรงกลับคอนโดทันที
 
 
 
“กลับมาแล้วคร้าบบบบ” ทีแรกลีวายส์ก็คิดว่า อีธารจะนั่งดูทีวีอยู่แต่กลับไม่เจอ เพราะดูอีธารชอบดูทีวีเอาซะมากๆ เขาบอกว่ามันแปลกดีที่คนหลอกคนอยู่ในทีวีได้ เอิ่ป...เขาเข้าใจอย่างนั้นน่ะ
 
“จงกลับรับโทษ...ไม่อย่างนั้น ข้าจะทำลายผู้เยียวยาของเจ้าซะ!!!” ลีวายส์เปิดประตูห้องนอนเข้าไป สิ่งที่เห็นทำให้ลีวายส์ตกใจมาก อีธารถูกจับตัวไว้โดยเทพร่างสูงสอนตนที่เคยมาเล่นงานลีวายส์เมื่อครั้งก่อน และอีกตนที่กำลังออกคำสั่งเสียงดังลั่น
 
“พวกคุณ....เอ่อ...พวกทาน...ปล่อยอีธารนะ เขาไม่ได้ทำอะไรผิด พวกทานต่างหากที่ผิด ปล่อยเขาเดี๋ยวนี้” ลีวายส์ จะเข้าไปช่วยอีธาร แต่กลับถูกเทพอีกตนใช้ตรีศูล อาวุธคู่กาย ขวางลีวายส์ไว้
 
“นี่สินะ ผู้เยียวยา ของเจ้า....” เทพตนนั้นพูดกับอีธารที่ตอนนี้นัยน์ตาของอีธารกำลังจะกลายเป็นสีเพลิง
 
“อย่างแตะต้อง.....”
 
“พาตัวไป!!!!” สิ้นคำสั่งนั้น สติของลีวายส์คล้ายกับดับวูบลงและไม่รับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น จนกระทั่ง
 
“อื่ม.....เป็นอะไรไปเนี่ย....”
 
“เจ้าตื่นแล้ว...เจ็บตรงไหนหรือไม่” ลีวายส์ชะงักกับเสียงที่ได้ยิน และมองไปรอบๆ “ข้าอยู่นี่” หญิงสาวคนหนึ่งออกมาจากหลังม่าน ใบหน้าของเธอสวยดังเทพธิดาในเทพนิยายที่เคยเห็น
 
“คุณเป็นใครอ่ะ....แล้วที่นี่.....” ตอนนี้ลีวายส์นอนอยู่บนเตียงสีทองแต่กลับรู้สึกเหมือนนอนอยู่บนนุ่นนุ่มๆ รอบๆมีละอ่อนสีขาวล่างลอยไปทั่ว
 
“ข้าคือธิดาแห่งสรวงสรรค์ ที่นี่คือดินแดนแห่งสรวงสวรรค์”
 
“อะไรนะ!!!!” สวรรค์!!! งั้นลีวายส์ก็ตายแล้วน่ะสิ “ไม่นะ ลีวายส์ตายไปแล้วหรอ อีธาร อีธารล่ะ เขาอยู่ไหน”
 
“อยากได้ตื่นตระหนกไป เจ้ายังมีชีวิตอยู่ ส่วนเทพอีธาร......อยู่ที่สวนแห่งสรวงสวรรค์” ลีวายส์ยังไม่ตาย ตอนนี้อยู่บนสวรรค์ มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย แต่ว่า...ลีวายส์ต้องไปช่วยอีธารก่อน
 
“พาลีวายส์ไปหาอีธารหน่อยได้มั้ย เขากำลังแย่” ลีวายส์รู้สึกถึงอีธารได้ ว่าเขากำลังได้รับบาดเจ็บ
 
“มิได้หรอก เจ้าแห่งเทพ ทรงกำชับมิให้เจ้า ไปเจออีธาร”
 
“ถ้างั้น ขอไปเจอเจ้าแห่งเทพได้มั้ย ขอร้องเถอะนะ” เทพธิดา มีสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะพยักหน้ารับ
 
 
“เจ้าอยากพบข้ามีอันใดหรือ” ที่แท้เจ้าแห่งเทพก็คือคนที่พาลีวายส์มาที่นี่นั่นเอง
 
“คือ.....ลีวายส์...เอ่อ...อยากพบอีธาร เขากำลังบาดเจ็บ ขอร้องล่ะ”
 
“สมกับเป็นเจ้าจริงๆ ผู้เยียวยาแห่งอีธาร ตามข้ามาสิ” เจ้าแห่งเทพนำลีวายส์ไปยังสวนดอกไม้หลากสี ที่ที่มีฝูงผีเสื้อโบยบินรายล้อมไปทั่ว
 
“ที่นี่คือ......”
 
“เจ้ารู้หรือไม่ ความผิดของอีธาร ไม่มีสิ่งใดลบล้างได้ นอกเสียจากการจองจำ ไปชั่วนิจนิรันดร์เมื่อถึงเวลานั้นข้าจะส่งเจ้ากลับไป และเจ้าจะลืมทุกอย่างจนหมดสิ้น” หัวใจของลีวายส์คล้ายกับตกลงวูบลงพื้นเมื่อได้ยินประโยคนั้น
 
“ไม่นะ อีธารไม่ผิด เขาทำไปเพราะ ความสูญเสียที่เกิดขึ้น ซึ่งก็มาจากท่าน”
 
“เจ้ากล้ามาก!!!”
 
“ก็มันจริงนี่! ความรักคือสิ่งที่สวยงานไม่ใช่หรอกหรอ ทุกคนล้วนก็ต้องการความรักทั้งนั้นแม้กระทั้ง ท่านเองก็ด้วย” เจ้าแห่งเทพจ้องมองลีวายส์ เหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง
 
“แต่ไม่ใช่เทพธิดากับอสูรในนรกโลกันต์ กฎย่อมเป็นกฎ”
 
“เพราะกฎของท่านต่างหากที่ทำลายสวรรค์ หากไม่มีกฎ ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะไม่เกิดขึ้น หากท่านไม่กลัวและไม่ขังอีธารไว้ ทุกอย่างก็จะไม่เป็นแบบนี้ ท่านคิดเสียใหม่เถอะ ว่าที่ผ่านมาถูกหรือผิดกันแน่”
 
 
เวลาต่อมา............
 
 
“พาไปหาอีธารเถอะนะ รอไม่ไหวแล้ว ตอนนี้เขาต้องแย่แน่ๆ” ผมไม่รู้เหมือนกันว่าบนสวรรค์เขานับช่วงเวลากันยังไง แต่ลีวายส์ก็พยายามขอร้อยให้เทพธิดาที่ค่อยดูแลลีวายส์พาไปหาอีธารหลายครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล
 
“ขอโทษนะ มิได้หรอก”
 
“โธ่เว้ย!!! ทำไมเทพธิดาถึงได้ใจดำอย่างนี้นะ เทพธิดาจริงๆก็ต้องใจดีมีเมตตาสิ” ลีวายส์พูดออกไปด้วยความหงุดหงิด
 
“เจ้า!!! อยากถูกเจ้าแห่งเทพลงโทษหรือไง”
 
“ไม่กลัวหรอก เจ้าแห่งเทพก็ดีแต่จะลงโทษเท่านั้นแหละ ไม่มีเหตุผล ไม่มีความยุติธรรมเอาซะเลย” ลีวายส์เริ่มโมโหแล้วนะ!!!
 
“นี่เจ้า!!!”
 
“เจ้าแห่งเทพทรงเรียกหา ผู้เยี่ยวยาแห่งอีธาร” ก่อนที่จะเกิดสงครามเล็กๆขึ้นก็มีเทพองค์หนึ่งโผล่มาซะก่อน ขอให้ได้เจออีธารด้วยเถอะ
 
ลีวายส์ถูกนำทางมายังห้องโถงใหญ่ๆ มีเหล่าทวยเทพมากมายลายล้อมรอบ ก่อนที่เจ้าแห่งเทพจะปรากฏกาย ณ จุดที่อยู่เหนือกว่าเทพตนอื่นๆ
 
“อีธาร!” ต่อมา อีธารซึ่งถูกพันธนาการด้วยโซ่สีทองก็ถูกเทพสองตนนำตัวเข้ามากลางห้องโถง ร่างกายของอีธารเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือด ภาพของเขาทำให้ลีวายส์น้ำตาคลอ
 
“ละ....ลีวายส์....” อีธารพูดชื่อของลีวายส์ออกมา ด้วยเสียงแหบพร่าก่อนจะทรุดลงกับพื้น ลีวายส์จึงวิ่งไปหาเขา
 
“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ลีวายส์จะรักษาอีธารยังไง” อีธารส่ายหน้าไปมา เขายกมือขึ้นจับใบหน้าลีวายส์
 
“ลีวายส์ของข้า”
 
“ข้าจะตัดสินโทษของเจ้า กับความผิดที่เจ้าได้กระทำลงไปเมื่อกาลเวลาในอดีต” เจ้าแห่งเทพกล่าว
 
“ไม่นะ.....” อีธารจะต้องถูกจองจำอย่างงั้นน่ะหรอ ลีวายส์กอดร่างอีธารแน่น
 
“ฟ้าจงประทานบทลงโทษ นับตั้งแต่บันนี้ จะไม่มีเทพอีธารแห่งสรวงสวรรค์ อิทธิฤทธิ์และพลังจงหมดสิ้น จงลงไปชดใช้สิ่งที่เจ้ากระทำ ในโลกมนุษย์ทราบจนชีวิตจะสูญสลาย”
 
ทันใดนั้น เจ้าแห่งเทพได้ฟาดสายฟ้าตรงมายังอีธาร ลีวายส์กอดอีธารแน่นขึ้น กลัวว่าอีธารจะถูกทำร้าย แต่ว่าลีวายส์ก็ไม่ได้รับรู้อะไรเลยเมื่อทุกอย่างดับวูบไปในหัว
 
อีธาร......เราไม่จากกันอีกใช่มั้ย......จะไม่มีใครเป็นอะไรใช่มั้ย.....
 
 
.......................................................................................
 
 
“อีธาร.....อีธาร......”
 
“ลีวายส์.......เป็นอะไรน่ะ.....ลีวายส์......ลืมตาสิ.....” เสียงนี้มัน....ลีวายส์ลืมตาขึ้นช้าๆ ก่อนจะกระพริบตาถี่ๆ มองคนตรงหน้าให้ชัดๆ
 
“พี่ธารรร.....อื๊ออออ......พี่ธาร.....” ลีวายส์กอดพี่ธารแน่น
 
“จะร้องทำไมห๊ะ!.......ฝันร้าย?” เอ๊ะ!!! ฝันหรอ (‘.’ ) ( ‘.’) ฝะ....ฝันจริงๆด้วย >[+++]<
 
“ไม่ใช่ซะหน่อย! แค่ตกใจเฉยๆ ว่าแต่ พี่ธารรู้จักเทพอีธารมั้ยฮะ” พี่ธารทำหน้างงๆ และส่ายหน้าแทนคำตอบ
 
“ทำไม....ลุกขึ้นจากเตียงแล้วก็ไปอาบน้ำเลยไป” ลีวายส์จ้องมองพี่ธารใบหน้าเหมือนกับเทพอีธารในฝันเปะ พี่ธารจึงจ้องกลับมา “มองทำไม หรือจะยั่ว” พูดไม่พอ พี่ธารยังรวบเอวลีวายส์มากอด
 
“พี่ธารอ่ะ  มองหน้านิดเดียวเอง”
 
“มองเนี่ยแหละยั่ว....จ๊วบ!!!” คนเจ้าเล่ห์รุกจูบตรงมุมปาก ก่อนที่มือหนาๆของเจ้าตัวจะเลื้อยเข้าไปในเสื้อตัวบางจับนั่นจับนี่
 
“พี่ธาร.....ไม่เอานะฮะ....ไม่น่ารักเลยอ่ะ” ลีวายส์ดัดแผงอกพี่ธารออก ทำปากยื่นใส่ “วันนี้วันอะไร ต้องตามใจลีวายส์สิ”
 
“วันอะไร....วันอะไรก็ช่างเถอะนา....หืม...” โอ้ย!!! จะบ้าตาย ไม่ได้สนใจอะไรกับเค้าเลย
 
“วันแห่งความรักฮะ”
 
“เอ้า...ก็ถูกแล้วไง นี่ก็เป็นการแสดงความรักไม่ใช่หรอ.....พูดมากนา....” ขุดหลุมฝังตัวเองไปแล้ว มีหรอจะรอด....นี่มันไม่ใช่เทวดาแต่พี่ธารเป็น ซาตานต่างหากกก
 
“อื๊อ.....ทำไมลีวายส์ต้องรักพี่ธารด้วยนะ จุ๊บ!!!”
 
“ก็ลองไม่รักสิ จุ๊บ!!!”
 
“Happy Valentine, I Love You” เสียงกระซิบข้างหูจากพี่ธารฮะ >///<
 
“Will you love me for the rest of my life?” ลีวายส์ถามกลับ
 
“No” ToT ใจร้ายที่สุด “I'll love you for the rest of mine.” >[+++]<
 
“I love you so much.” ^/////^
 
 
<<<<<<<<<<>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
 
อันนี้แต่งไว้เมื่อปีที่แล้วโน้น (จากตอนที่ปิดเทอมแหนะ) แต่เจอมรสุมงานมหาลัยซะก่อน เลยเอามาลงช่วงวาเลนไทน์

เราเพิ่งว่างเลยเอามาลง ช้าไปหน่อยขอโทษน้า :mew4:  :mew4:  :mew4: :mew4:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
สนุกมาก ชอบทุกคู่ทุกคน
ดีใจที้เซฟได้จัดหนักจัดเต็มแพคเสียที
ส่วนคู่พี่หมอน้องกายก็มีน้องไข่มุกคอยอวยแม่?กาย
น่ารักกกกก :mew1:

อยากอ่านต่ออีกคะ ขอตอนพิเศษอีกน่าาา

ปล.ฝันเป็นตุเป็นตะเลยนะลีวาย :m20:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
เป็นเรื่องเป็นราวเลย

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
สนุกมาก ขอบคุณสำหรับตอนพิเศษค่ะ  ^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด