Older Brother พี่ชายถึงร้ายก็จะรัก by Mirror ตอนพิเศษ แมน&โอ๊ต(20/06/15)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Older Brother พี่ชายถึงร้ายก็จะรัก by Mirror ตอนพิเศษ แมน&โอ๊ต(20/06/15)  (อ่าน 167859 ครั้ง)

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ชะนีน้ำมาทำอะไร ขออย่าดราม่าเป็นพอ :katai1:

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อร๊ายยยย คู่นี้น่ารักดีนะ น่ารักแบบโหดๆ ^^
แต่กลัวดราม่ากะกายมากเลยอ่ะ ไม่นะ T_T

รอตอนต่อไปจ้าาา ^^

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....42
 
[โอ๊ต:Part]
 
“เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ” ผมเงยหน้ามองผมตัวเองในกระจกเงาบานใหญ่  ผมสีดำถูกเซทขึ้นอย่างดุดี เข้ากับชุดสูทราคาแพง วันนี้ผมกำลังจะ...แต่งงาน
 
ผมนั่งอยู่ตรงโซฟาหน้ากระจก รอคอยเวลาที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่นาทีนี้ ไม่มีแม้แต่ความตื่นเต้นหรือประหม่าอย่างที่เจ้าบ่าวคนอื่นๆเค้าเป็น กลับกันผมรู้สึกอยากจะให้มันผ่านพ้นไปเร็วๆซะมากกว่า
 
ไอ้แมน.....ตอนนี้มันกำลังทำอะไรอยู่นะ เหอะ! แล้วทำไมผมต้องคิดถึงคนเลวๆแบบมันด้วย ทำไมผมต้องเอาแต่จ้องมองโทรศัพท์ ตั้งแต่วันที่ผมกลับมาที่นี่ ทำไมในหัวผมถึงได้มีแต่เรื่องของมันอยู่ตลอด
 
“ฟอด!!! ไง.......ที่รัก” ผมเงยหน้าขึ้นมองภาพในกระจก มีอีกคนยื่นซ้อนอยู่ด้านหลังผม และมันก็เพิ่งจะหอมแก้มผมไปเมื่อกี้
 
“เข้ามาได้ไง....มาทำอะไร” ผมถาม ร่างสูงยักไหล่ให้ท่าทางกวนๆ ก่อนจะนั่งเบียดลงข้างๆผม ผมจึงต้องลุกขึ้นเพราะโซฟาเดี่ยวมันแคบ แต่มันกลับคว้าเอวผมไว้ให้นั่งลงบนตักมันแทน
 
“ทำไม กูมาหาเมียมันผิดตรงไหน หืม.....ฟอด!!!”
 
“จะบ้าหรือไง ออกไป เดี๋ยวมีใครมาเห็นเข้า มึงจะเดือดร้อน แล้วอีกอย่าง กูไม่ใช่เมียมึง!!!”
 
“พูดงี้ก็สวยสิ เอาเจ้าบ่าวก่อนในวันแต่งาน ก็โอดีนะ” ไอ้แมนส่งสายตากรุ้มกริ่มผ่านกระจกเงามองผม
 
“ทุเรศ ในหัวมึงมีแต่เรื่องอุบาทว์ สัด!” ผมพยายามดิ้นหนีจากแรงกอดรัดของมันแต่รู้อะไรมั้ย ผมไม่เคยทำได้เลย ทั้งที่เราก็ตัวเท่าๆกันแท้ๆ
 
“ขอบคุณ........มึงชอบชมกูจังนะ” หน้าด้านหน้าทนไม่มีใครเกินมันล่ะ “วันนี้มึงหล่อมากนะ” มันจับปลายคางผมให้หันไปสบตากับมัน ร่างสูงยิ้มให้ผมบางๆเห็นฟันเขี้ยว ทำให้ดูหล่อขึ้นเป็นกอง มันหล่อนะแต่ผมไม่อยากจะยอมรับหรอก
 
มันไล่มองใบหน้าผมไปทั่วจนมาหยุดอยู่ตรงริมฝีปาก เอียงหน้าเล็กน้อยก่อนจะเลื่อนใบหน้าของตัวเองเข้ามา ทาบริมฝีปากลงกับริมฝีปากผม
 
แน่นอนว่าผมก็ไม่เคยปฏิเสธมันได้เหมือนทุกๆครั้ง รสจูบอ่อนหวานค่อยๆเพิ่มความรุนแรงขึ้นตามแบบฉบับของมัน แต่ผมกลับรู้สึกดีถึงแม้มันมักจะชอบทำรุนแรงกับผมมากแค่ไหน
 
แกร๊ก!!!!
 
เสียงประตูถูกผลักเข้ามาทำให้ผมผละออกจากมันอย่างรวดเร็ว ไอ้แมนสบถคำหยาบออกมาด้วยท่าทีเซ็งๆ ต่างจากผมที่กำลังจ้องมองใครอีกคนกำลังยืนทำหน้าไม่ถูกอยู่ตรงประตู
 
“มีอะไร เมล์” เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไม่เห็นหรอก
 
“อย่างนี้สินะ.....เมล์เข้าใจแล้วค่ะ” เธอบอกก่อนจะปิดประตูลง ผมตวัดสายตามองคนตรงหน้ามันยักคิ้วให้ผมแบบกวนตีน
 
“มึงออกไปเลยไป”
 
“โอ้ยๆๆ กูทำให้เจ้าสาวมึงเข้าใจถูกซะแล้วสิ” ผมขมวดคิ้วมองมันอย่างไม่เข้าใจ “เข้าใจถูกแทนที่จะเข้าใจผิดไง ไม่ดีหรอ” ถ้าผมฆ่ามันนี่.....ชุดผมจะเปื้อนเลือดป่ะ ชิท์
 
“อย่าปากดีนัก เดี๋ยวมึงจะยิ้มไม่ออก” ผมบอก พลางมองตัวเองในกระจก แม่ง ปากเจ่อหมด ไม่น่าหลวมตัวเลย
 
“มึงรอยิ้มเหอะนา เชื่อกู” ผมมองมันผ่านกระจกเงา ร่างสูงลุกขึ้นมายืนซ้อนด้านหลังผม “คืนนี้ มึงได้เข้าหอกับเจ้าบ่าวแทนเจ้าสาวแน่ จ๊วบ!!!” สัด! มันดึงคอเสื้อผมลงและจูบดูดจนเกิดรอยแดง ดีนะที่มันไม่โผล่ออกมานอกคอเสื้อ
 
“ออกไป!!!”
 
“ไปแล้วๆ......ไล่อยู่นั่นแหละ เดี๋ยวเจอกัน...เมีย!”
 
“เมียพ่อง!!!!” แม่ง! นี่ผมรักเข้าไปได้ยังไงวะ ตัวเหี้ยในชุดสูทชัดๆ เฮ้อออ
 
 
 
 
“พี่โอ๊ต” ผมมาหาเมล์ในห้องแต่งตัวก่อนจะเข้าไปรอเธอในงาน เพื่อทำพิธี สีหน้าของเธอดูไม่ค่อยดีนักหลังจากที่เธอเห็นผมกับไอ้แมนเมื่อครู่
 
“เมล์ยัง พอมีเวลาอยู่นะ ถ้าจะตัดสินใจใหม่” ผมรู้เรื่องอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และพยายามบีบให้เธอสารภาพแต่เธอก็ไม่ยอมปริปากพูด ทั้งที่มันกำลังจะทำร้ายตัวเธอเอง
 
“.........................” เธอเบือนหน้าหนีผมอีกเช่นเคย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนจะส่งยิ้มบางๆมาให้ “พี่โอ๊ตไปรอเมล์ในงานเถอะค่ะ”
 
“แน่ใจนะว่าทำแบบนี้แล้วเมล์จะไม่เสียใจ”
 
“ไม่ค่ะ” ถึงแม้ว่าเธอจะตอบผมอย่างไม่ลังเลแต่ดูจากแววตานั้นแล้ว เมล์กำลังกลัว กลัวกับสิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่
 
 
งานถูกจัดขึ้นแบบคริสต์ แขกในงานนั่งพร้อมเพรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ผมโค้งกำนับให้บาทหลวงผู้ประกอบพิธี ก่อนจะยืนประจำตำแหน่ง พี่โอ๊คนั่งอยู่ด้านหน้าข้างๆเป็นพี่ชายของไอ้แมนและถัดมาก็เป็นมัน
 
ไอ้แมนจ้องมองผมนิ่งๆ มันอยู่ในชุดสูทสีดำเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นมันดูดีแบบนี้ ปกติแต่งตัวนี่แบบไม่เข้ากับหน้าตาตัวเองหรอก
 
ยืนรอไม่ถึงห้านาที เพลงบรรเลงก็เริ่มเปิด เพื่อให้แขกทุกคนลุกขึ้นเพราะเจ้าสาวกำลังจะเดินเข้ามาในงาน เมล์อยู่ในชุดราตรีสีขาวยาวเฟื้อยโดนมีคุณพ่อทำหน้าที่เป็นผู้ให้เธอเดินคล้องแขนเข้ามา พร้อมกับเด็กน้อยสองคนที่คอยโปรยดอกไม้ตลอดสองข้างทางพื้นพรม
 
คุณพ่อของเมล์ส่งมือเมล์มาให้ผมก่อนที่ท่านจะเดินไปนั่ง สีหน้าของเมล์ไม่ได้ยิ้มแย้มหรือดูมีความสุขแม้แต่น้อย มือของเธอเย็นเฉียบจนผมรู้สึกได้ จากนั้นบาทหลวงก็เริ่มทำพิธี
 
“นายอัษฎา กับ นางสาวเมธวี ท่านทั้งสองมาที่นี่โดยไม่ถูกบังคับ แต่มาด้วยความสมัครใจอย่างแท้จริง เพื่อเข้าพิธีสมรสหรือไม่” จะให้ผมตอบความจริงไม่ล่ะ หึ!
 
“ครับ/ค่ะ”
 
“เมื่อเข้าสู่พิธีสมรสเช่นนี้แล้ว ท่านทั้งสองพร้อมที่จะรัก และยกย่องให้เกียรติแก่กันและกันจนตลอด ชีวิตหรือไม่” เราสองคนต่างมองหน้ากันและต่างคนก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายรู้สึกเช่นไร
 
“ครับ/ค่ะ” แต่ถึงอย่างนั่นก็ไม่สามารถตอบตามความจริงได้ ณ ขณะนี้
 
“ท่านทั้งสองพร้อมที่จะน้อมรับบุตร ซึ่งพระเจ้าจะประทานให้และอบรมเลี้ยงดู ตามกฎของพระคริสตเจ้า และพระศาสนจักรหรือไม่”
 
นิ่งครับ ผมมองคนข้างๆอีกครั้ง มือเธอสั่นและอยู่ๆน้ำตาก็เริ่มคลอ ตามมาด้วยอาการสะอื้นไห้จนกลายไปร้องไห้ออกมาให้ที่สุด ก่อนที่เมล์จะทรุดตัวลงกับพื้นพรมสีแดงทำเอาแขกในงานแตกตื่น จุดจบของคนทำบาปมันไม่ใช่ความตายแต่มันคือความทุกข์ ทุกข์ทรมานในการกระทำอันเลวร้ายของตัวเอง
 
 
 
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันวะ กูต้องการคำอธิบาย” พี่โอ๊คหัวเสียไม่น้อยกับพิธีแต่งงานของผม ที่ล่มไม่เป็นทาง ต่างจากผมที่รู้สึกโล่งอกคล้ายกับได้เกิดใหม่อีกครั้ง (เวอร์ล่ะโอ๊ต)
 
“นั่นดิ ผมก็อยากรู้” ไอ้แมนครับมันทำหน้าเซ็งๆ ให้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
 
“อย่าเสือก ให้มันมากนัก มึงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับมัน” พี่ชายผมครับ ดูท่าเค้าจะไม่ดูกัน อะไรของพวกมันเนี่ย
 
“พวกมึงจะกัดกันทำไม เงียบปากซะบ้างมันจะตายหรอวะ” พี่มาศครับ ที่เป็นคนคอยห้ามปรามกับคำพูดจิกกัดเล็กน้อย
 
“เมล์กำลังท้อง” ผมให้คนของผมไปสืบมา และผมบอกแค่ว่าเธอท้องก็พอ เพราะมันจะทำให้เธอดูแย่ลงมากกว่าเดิม ถ้าจะบอกอีกว่าเธอเคยทำแท้งมาแล้วมากกว่าหนึ่งครั้ง
 
“กับใครวะ.....คงไม่ใช่มึงหรอกนะ” ปากหมาแม่ง!!!
 
“คงใช่มั้ง....ไอ้เหี้ย” กูก็นอนเอากับมึงอยู่ไม่ใช่หรือไง ไอ้สัด! ชักจะเกลียดมันขึ้นมาอีกแล้วล่ะสิ พูดไม่คิด
 
“ไรวะ แม่ง อุตสาห์เตรียมตัวมาแย่งเจ้าบ่าวแล้วแท้ๆ นี่กูเป็นพระเอกป่ะ!” ไอ้แมน มันทิ้งเอกสารในมือสองสามใบลงบนโต๊ะอย่างไม่ใยดี พี่โอ๊คเลยหยิบเอามาดู
 
“นี่อะไรวะ” พี่โอ๊คถาม ในขณะที่ไล่มองเอกสารนั่นไปด้วย ผมเองก็สงสัยเหมือนกัน
 
“ก็เรื่องที่กูเคยเตือนมึงไง และมึงก็ไม่เคยเชื่อกู ที่นี่ก็ตาแสวงซักที” พี่มาศบอก พี่โอ๊คไล่อ่านเอกสารจบและวางมันลง “เป็นไง เกือบโดนต้มแล้วมั้ยมึง”
 
“เหี้ย คดียังไม่จบหรอเนี่ย เสือกจะให้กูช่วยหนุนหลัง ไอ้ห่า” มีโอ๊คดูจะโกรธกว่างานแต่งผมล่มซะอีก “ใช่ได้นี่มึง.....ตกลงพวกมึงสองคนจะยังไง” พี่โอ๊ค พูดกับไอ้แมนก่อนจะถาม
 
“ทำไม มึงจะอะไรกับพวกมันอีก กูจะบอกอะไรให้นะ น้องกู กูไม่เคยบังคับจิตใจมันเรื่องแบบนี้ ชีวิตมันเป็นของมัน ไม่ใช่ของกู ส่วนมึงก็เหมือนกัน ถ้ายังเห็นว่าโอ๊ตเป็นน้อง มึงก็ควรจะให้มันตัดสินใจเอง” พี่โอ๊คนิ่งคิด เมื่อฟังพี่มาศพูดจบ
 
“ก็....กูถามอยู่นี่ไง ว่าจะเอาไง มึงน่ะ.....” พี่โอ๊คหันไปถามไอ้แมน
 
“ผม....... ก็ต้องเอามันดิ....โอ้ย!!!”
 
“เค้าพูดเอาจริงเอาจัง มึงเสือกทำเล่นๆ เดี๋ยวเหอะๆ เอาดีๆ” ไอ้มาศตบหัวมันเข้าให้ทีหนึ่งค่าเล่นไม่เป็นเรื่อง
 
“พอๆ  จะเอาไงก็เรื่องของพวกมึง กูไม่ยุ่งด้วยแล้ว พวกมึงสองคนกับอีกหนึ่งตัวทำกูปวดหัวหมด เหี้ยอะไรก็ไม่รู้” พี่โอ๊คพูดจบ ลุกขึ้นออกไปจากห้องทิ้งให้พวกผมสามคนมองหน้ากัน
 
“ไอ้เหี้ยโอ๊ค มึงว่าใครเป็นตัว ไอ้สัด” พี่มาศตามพี่โอ๊คที่เดินออกไปจากห้อง ผมก็เพิ่งจะรู้ว่าพี่ไอ้แมนกับพี่ผมสนิทกันมากกว่าที่ผมคิดไว้ก็วันนี้แหละ
 
“ตกลงเองไง” หืม??? อยู่ๆไอ้แมนมันก็หันมาถาม ผมมองมันอย่างไม่เข้าใจก่อนจะเดินออกมา “เดี๋ยวดิ โอ๊ตๆ”
 
เมื่อกี้เรานั่งกันอยู่ในห้องพี่โอ๊ค ผมกำลังเดินกลับห้องของตัวเองครับ ไอ้แมนมันเดินตามผมมาและคว้าแขนผมไว้
 
“ปล่อย!!!”
 
“โกรธอะไรกูล่ะ มึงไม่ดีใจหรอ กูดีใจนะที่มึงเองก็.....แก้ปัญหาเรื่องนี้ แทนที่จะอยู่นิ่งๆ”
 
“กูทำเพื่อตัวกูเอง....ไม่เกี่ยวกับมึง” ผมสะบัดแขนออกและเดินไปเปิดประตูห้องที่อยู่ไม่ไกลหวังจะปิดประตูไม่ให้มันเข้ามาแต่ว่านะ มันหน้าด้านผลักประตู้เข้ามาทันทีที่ผมกดรหัสปลดล็อค เฮ้อออ
 
“ไม่เกี่ยวได้ไงวะ.....โอ๊ต”
 
“จะไปรู้มึงหรอ!!!....ออกไปจากห้องกู....กูเหนื่อย กูอยากนอน” ผมบอกและเดินไปเข้าห้องน้ำ
 
ผมอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า กลับออกมาเห็นมันยังนั่งกอดอกอยู่บนเตียง เสื้อสูทสีดำกับเนกไทสีเดียวกันถูกถอดออกวางไว้บนเตียงข้างๆมัน
 
“นอนด้วย” หน้าด้านสุดๆ
 
“ไป......ให้.....พ้น!!!!” ผมบอก เน้นย้ำแต่ล่ะคำช้าๆชัดๆ
 
“กู.....หน้า.....ด้าน เข้าใจนะ!” พูดจบ มันล้มตัวลงนอนบนเตียงทันที ผมควรทำยังไงกับมันดี ครับ เหอะ!!!
 
ผลัก!!!
 
ผมยกเท้าขึ้นถีบมันจนร่างสูงกลิ้งๆ ไปตกฝั่งตรงข้ามของเตียง ภาพมันแบบ....ผมยังอดขำไม่ได้อ่ะ
 
“ไอ้โอ๊ต! มึงเล่นแรงไปนะ กูเจ็บ! เอวหักป่ะเนี่ย”
 
“มึงทำกูเจ็บกว่าอีก เจ็บแค่นี้ไม่ตายหรอก” ผมนั่งลงบนเตียงหันหลังหนี
 
“แต่กูเจ็บกว่า ตอนที่มึงบอกว่า......ไม่ได้รักกู” มันกอดรัดผมจากด้านหลัง คำพูดของมันไม่ได้ล้อเล่นมีเพียงน้ำเสียงจริงจังที่ฟังดูจริงใจทำให้ผมนิ่งอึ้ง “คำพูดของกูอาจจะไม่น่าเชื่อถือแต่ความว่ารักของกู กูไม่เคยบอกกับใครเลยจริงๆ........กูกำลังจะบอกกับมึงนะ!”
 
“......................” ผมจะเชื่อมันดีมั้ย
 
“นอนเหอะ! กูไม่กวนล่ะ ฟอด!!!” ผมกดจมูกลงกับแก้มผมก่อนจะลุกออกไปจากห้อง ผมแอบอบยิ้มให้กับสิ่งที่มันทำ เพราะไม่เคยเห็นมันในมุมนี้
 
เกือบเดือนที่ผมไปอยู่กับมันมา ไม่เคยหรอกครับที่มันจะมาอ่อนโยนอ่อนหวาน มันมีความอดทนน้อย ขี้โมโห ขี้โวยวาย มาวันนี้ มันเปลี่ยนไปถึงจะไม่มากก็เหอะ แต่มันก็พอที่จะทำให้คนรอบข้างมองมันให้มุมใหม่ๆ
 
 
 
 
“อื๊อออ.......” ผมบิดตัวเล็กน้อยเมื่อรู้สึกอดอัดเหมือนมีก้อนหินมากดทับไว้ ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ ภาพพร่ามัวในดวงตาค่อยๆเด่นชัดขึ้น อ่ะ! หน้าอก เฮ้ย! ไม่ใช่ๆ หมายถึงหน้าอกผู้ชายน่ะ
 
ริมฝีปากบางอยู่ใกล้กับจมูกผมเพียงนิดเดียวเมื่อผมเงยหน้าขึ้นมอง ไอ้แมน! มาเมื่อไหร่เนี่ย
 
ผมไล่มองใบหน้าหล่อคม ตาเรียวสวยปิดสนิท จมูกโด่งหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ดูท่าจะหลับสบายไปนะ เหอะ !
 
 ตั้งแต่วันแรกที่มันมาหาผมที่นี่ผมก็ดูออกล่ะครับ ว่ามันไม่ค่อยได้พักผ่อนหรือแทบจะไม่พักเลย มันโทรหาผมให้ช่วงดึกของวันตลอด แถมยังไม่ยอมวางสายอีกด้วย จนผมต้องเป็นฝ่ายวางสายเอง ถึงอย่างนั้นไอ้แมนก็ยังจะไลน์มากวนอีก แม้ว่าผมจะหลับไปแล้วก็ตาม
 
“กูก็เจ็บเหมือนกัน......ที่บอกว่า ไม่ได้รักมึง” ผมพูด อยากให้มันได้ยินนะ แต่มันน่าอายเกินไปที่จะบอกกับมันตรงๆ
 
“อ๊ะ!!!........” มันทำผมสะดุ้งครับ เพราะอยู่ๆมันก็ลืมตาขึ้นมาซะงั้น “ตื่นนานยังวะ”
 
“ยัง....มึงล่ะ มานอนนานยัง” - -+
 
“ก็.......สักพักแล้ว” มันยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองพร้อมกับสะบัดหัวแรงๆ ผมดันตัวมันออกแต่อีกฝ่ายกลับโอบรัดผมแน่นขึ้นกว่าเดิม
 
“ลุกขึ้น!......ถ้าจะนอนก็นอนไป”
 
“กูกลัวตื่นมาไม่เจอมึงนี่” มันบอกน้ำเสียงปกติและคนฟังรู้สึกไม่ปกติ “นอนเป็นเพื่อนกูก่อนนะๆ หลายคืนแล้วเนี่ยนอนไม่หลับ นะๆ จู๊บ!!!”
 
“ไม่!!! มึงก็นอนไปสิ....เรื่องไรกู” อันที่จริงผมก็นอนไม่หลับเหมือนกันแต่ดูท่ามันจะเป็นหนักกว่าผม
 
“เออๆ ก็ได้วะ!” อะไรก็ได้? อ้าว! มันลุกขึ้นครับผมเลยลุกตาม มองหน้ามันแบบงงๆ “อ้าวๆ ก็ไม่นอนไง......เออ พอลุก รู้สึกหิวเลยอ่ะ” =_= ผมชินกับความหน้ามึนของมันล่ะครับ
 
 
“พรุ่งนี้พี่จะกลับแล้ว แกจะกลับพร้อมพี่หรือเปล่า....แมน” พี่มาศถาม ตอนนี้เราออกมาทานข้าวกันในร้านอาหารนอกรีสอร์ท พี่โอ๊คก็มาด้วย
 
“ไม่อ่ะ รอกลับพร้อมเมีย” เมียพ่อง! พูดจาไม่มองดูหน้าพี่กูเลย
 
“น้องมึงนี่มัน!!!.....แล้วมึงจะรีบกลับไปไหนไอ้มาศ กูว่าจะพามึงไปเกาะพรุ่งนี่ ไหนบอกอยากทำรีสอร์ทนี่” พี่โอ๊คมองแมนที่เอาแต่กินอย่างเอือมๆ ก่อนจะถามพี่มาศต่อ
 
“ก็มึงบอกว่าเดือนหน้า.....”
 
“ก็ตอนนี้กูว่าง เอาเป็นว่า ไปพรุ่งนี้แล้วกัน กูจะได้พักผ่อนด้วย มีแต่เรื่องน่าปวดหัวอยากไปล้างสมองหน่อย” พี่โอ๊คบอกเหล่มองไอ้แมนกับผมด้วยหางตานิดๆ
 
“ผมขอโทษ” ผมบอก เพราะรู้สึกผิดจริงๆ สำหรับเรื่องยุ่งๆที่ผ่านมา
 
“ไม่ต้อง กูไม่อยากดราม่าส่วน พวกมึงต่อไปจะทำอะไรก็แล้วแต่ กูจะไม่ยุ่งแต่มึง โอ๊ต มึงก็ยังเป็นน้องของกูเสมอ” ผมยิ้มบางๆให้พี่ชายตัวเอง
 
พี่โอ๊คหวังดีกับผมถึงแม้สิ่งที่พี่ทำมันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องการ แต่ตอนนี้พี่โอ๊คคงเข้าใจอะไรๆมากขึ้นแล้ว ไม่อย่างงั้นคงไม่เอ่ยปากบอกว่าจะไม่ยุ่งไม่ว่าผมจะทำอะไรหรอก
 
 
หลังจากทานข้าวเสร็จผมก็กลับมาที่ห้องส่วนไอ้แมน มันหายไปไหนกับพี่มาศก็ไม่รู้ แต่ช่างเหอะ ให้ทายไม่ถึงครึ่งชั่วโมงมันกลับมาแน่ เพราะก่อนผมมามันบอกเดี๋ยวตามไป
 
ผมนอนดูหนังอยู่สักพักมันก็กลับเข้ามาจริงๆ ผมหลับตาแกล้งทำเป็นนอนหลับ เตียงนอนข้างตัวผมยวบยุบลงก่อนที่มือหนาของอีกฝ่ายจะถือโอกาสกอดเอวผมไว้
 
“โอ๊ต มึงไม่ต้องแกล้งหลับนา ฟอด!!!......ตื่นเร็ว ไปดูพระอาทิตย์ตกกัน” หลอกมันไม่ได้ผล ผมก็เลยลืมตาขึ้นมามองมัน
 
“ขี้เกียจเดิน”
 
“แบกไปป่ะ....ไปนา นะๆ กูอยากดู ฟอด!!!” จะหอมทำไมนักหนาเนี่ย!
 
และแล้วผมก็ออกมาเดินเล่นริมชายหาดกับมันซึ่งอยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ท พระอาทิตย์สีส้มกำลังทอแสงอยู่ตรงเส้นขอบฟ้า ทำให้บรรยากาศยามเย็นดูสวยไปอีกแบบ
 
“กูหล่อป่ะ” อยู่ๆไอ้แมนมันก็ถามขึ้นมาพร้อมกับมือหนาเอื้อมมือมาจับมือผมไว้
 
“ไม่เลยสักนิด”
 
“กูนิสัยดีป่ะ” มีถามต่อครับ มันดึงแขนให้ผมหยุดเดินและหันหน้าไปหามัน
 
“เลวมาก”นี่ผมด่ามันอยู่นะ มันยังยิ้มให้ผมอีก แถมยังให้เขี้ยวด้วย น่าหมั่นไส้วะ ถีบลงทะเลดีมั้ย
 
“แล้ว ถ้าคนเลวๆอย่างกูจะรักมึงล่ะ” วันนี้มันกินยาผิดมาหรือเปล่า เอาแต่พูดจาแบบนี้ทั้งวัน มันต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ
 
 และมันก็ทำให้ผมแปลกใจอีกเมื่อร่างสูงคุกเข่าลงตรงหน้าผม ยกมือขวาขึ้นทาบอกซ้าย ผมก้มลงมองมัน ที่กำลังเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผมเช่นกัน แสงพระอาทิตย์อ่อนๆ ส่องใบหน้าหล่อเหลาเล็กน้อยส่งผลให้นัยน์ตาของมันเป็นประกายน่ามอง
 
“ผมนายมนัสวิน จะขอรักนายอัษฎา และขอสัญญาว่า จะดูแล ซื่อสัตย์ และมั่นคงต่อความรักครั้งนี้ไปตลอด จนกว่า ชีวิต จะหาไม่”
 
ผมนิ่งอึ่งไปในทันที นี่ผมฝันอยู่หรือไงกัน ไอ้แมน แม่ง ต้องบ้าไปแล้วจริงๆ ไม่ใช่แค่นั้นมันยังหยิบเอาอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือซ้ายผมไป แหวน!
 
มันค่อยๆบรรจงสวมแหวนให้ผมและจูบลงบนหลังมือเบาๆ
 
“กูอายนะ...แต่ก็ทำไปแล้ว” คิดว่ากูไม่อายหรือไง บริเวณนี้ใช่ว่าจะมีแค่ผมกับมันนี่ “กูไม่ถามมึงนะว่ารักกูมั้ย....”
 
“ทำไม”
 
“อ้าว ถ้ามึงตอบว่า ไม่รักกู ก็จบเห่น่ะสิ ฉากนี้คิดนานนะเว้ย”มันลุกขึ้นหลังจากพูดจบ  ไอ้สัด! หมดอารมณ์เขินเลยวะ
 
พระอาทิตย์หายลับไปจากเส้นขอบฟ้า ความมืดย่ามกลายเข้ามาแทนที่ ร่างสูงรวบตัวผมเข้าหาและกอดไว้แบบหลอมๆ ถามว่าผมรู้สึกยังไงหรอ ก็....ดีใจนะ...แต่ที่สำคัญคือ...มีความสุขมากครับ
 
ความรักสำหรับผมมันไม่จำเป็น ต้องหวานซึ้งกินใจ แต่แค่เราใช้หัวใจมองหัวใจของกันและกันมันก็เพียงพอแล้ว
 
 
ต่ออีกนิด........
 
 
“อื๊อออ......พอ....”ผมบอกกับอีกคนเสียงพร่าเพราะรู้สึกล้าไปทั้งตัว
 
“อีกนิดไม่ได้หรอ......นะ....นะ คนดี” อีกนิด อีกหน่อย อีกที มาหลายรอบจนกูหมดแรงแล้วเนี่ยนะ ถ้ากูเชื่อมึงอีก ก็โห ล่ะ!
 
“ไม่! ...... กูเจ็บไปทั้งตัวแล้วไอ้สัด!!!” หมดความอดทนแล้วครับ แม่ง!!!
 
“โธ่....เข้าหอทั้งทีนา เอาให้คุ้มสิ” หอพ่องมึงสิ ได้ข่าวว่ามึงได้กูตั้งนานแล้ว....ตั้งแต่กลับมาถึงห้องตอนค่ำ มันก็เอาๆๆๆผม จนตอนนี้จะสี่ทุ่มอยู่แล้วเนี่ย
 
“พอเถอะ.......” ผมบอก ทำเสียงอ้อนกลับไปบ้าง =_=
 
“ก็ได้ๆ.........แต่.......หลังจากรอบนี้นะ” เหี้ย!!! นี่สรุปมันจะเอากูให้ตายคาทีเลยหรือไง
 
“อื๊อออ.........” ผมพยายามดันร่างสูงออกจากตัวแต่ด้วยเรี่ยวแรงอันน้อยนิดผมจึงไม่สามารถทำได้ ก็ต้องยอมมันไปตามระเบียบ
 
ร่างสูงรุกจูบริมปากผมจนเจ่อไปหมดก่อนจะสอดลิ้นร้อนเข้าไปเก็บเกี่ยวความหอมหวานในโพรงปาก จากนั้นริมฝีปากร้อนของมัน ลากลงต่ำไปเรื่อยๆ คล้ายกับกำลังปลูกความร้อนในตัวผมให้เพิ่มมากขึ้นและมันก็ได้ผลดีทีเดียว
 
“ขยับนะ....” มันกระซิบบอกก่อนจะขยับแท่นร้อนที่อยู่ในตัวผมตั้งแต่แรกเบาๆ ผมก็รู้สึกเจ็บและจุกแม้จะผ่านมาแล้วมากกว่าสองรอบ
 
“อ๊ะๆๆ....ช้าๆ...สิ” จะกี่รอบกี่รอบมันก็ไม่เคยจะอ่อนโยนได้สักครั้ง มันจะคลังอะไรนักหนา แต่ผมก็รู้สึกดีนะ
 
“รักนะ” มันกระซิบอกก่อนจะขยับแรงๆอีกสองสามครั้ง น้ำรักอุ่นร้อนเข้ามาให้ตัวผมพร้อมๆกับที่ผมค่อยๆหลับตาลงอย่างอ่อนล้าเต็มทน
 
“กูก็รัก.......มึง”
 
<<<<<<<<<<<<TBC>>>>>>>>>
 
เสียใจที่มันไม่ได้ดราม่าอย่างที่คิดไว้ TOT

ภาษาไม่สวยเท่าไหร่น้าา มีคำผิดขอโทษด้วยจร้า

และขอโทดที่มาช้าช่วงนี้กิจกรรมเยอะ :katai1:  :katai1:  :katai1:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ซึ้งงง โอ๊ตกะแมน

ในที่สุดๆๆๆ พูดไม่ออกเลยค่ะ โอ้ยยยย แต่งงานกันแล้วๆๆๆๆๆๆๆ  :z3: :z3: :z3:

ดีใจที่สุดดดดด  :katai4:

Warr

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
โฮๆๆ น้ำตาจิไหล เค้าบอกรักกันแล้วอ่ะ
ตอนนี้ซึ้งมากอ่ะ แมนมันก็ทำแบบนี้เป็นนะเฟ้ยยยย อิอิ

ขอบคุณค่ะ รอตอนต่อไปๆๆๆๆ  ^^

ออฟไลน์ shijino

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
ดีใจมากๆ ในที่สุดคู่นี้ก็ลงเอยด้วยดี :heaven

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ดีใจกับคู่นี้มากเลย

INeLo

  • บุคคลทั่วไป
รักกันแล้ววววววว อิอิ

ต่อไปก็เชียร์ ลีวายธาร เซฟแพ็ค สินะ

รอๆๆๆจ้า

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
คู่แมนโอ๊ตเคลียร์กันได้ซะที >.<

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ newone

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 44
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
สนุกมวากค่าาาา เข้ามาเชียร์น้องหนูกับคุณพี่ชาย เค้าอ่านยาวรวดดดเลย แต่แอบอ่านแต่ตอนสองพี่น้องปลอมๆอ่ะค่ะ
แบบว่า อิน  :sad11:สงสารน้องมากเลย  :m15:ดีที่มีแดดดี๊รวยแล้วก็รอบคอบนะ ชอบเด็กน้อยเด็กฉลาด  :impress2: น่ารัก ใสๆ
ที่สำคัญรักเดียวใจเดียว เอาใจช่วยต่อนะคะ ให้ผ่านเรื่องร้ายๆไปได้ ให้ไอ้พี่ช่วยบอกรักเด็กไวๆด้วยเหอะ
ดูแล้วน้องจะคิดมากทีเดียว มาต่อไวๆนะค๊าาา :pig4:

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....43
 
“ลีวายส์ ลีวายส์....อยู่ไหนน่ะ”
 
“ฮะๆ อยู่นี่ฮะ.....พี่ธารมีไรอ่ะ” ร่างเล็กวิ่งเข้ามาในห้องนั่งเล่น เมื่อได้ยินเสียงเรียกของผม ลีวายส์ใส่เสื้อยืดลายจุดสีชมพูกับกางเกงยีนขาสั้นที่ผมเก็บใส่ตู้ไว้ด้านในสุดเพราะสั้นเกิน เลยไม่อยากให้มันเอาออกมาใส่อีก แต่นี่คงจะไปค้นตู้มาอีกแน่ๆ
 
“ทำไมไม่ปลุก....นี่จะค่ำแล้ว ไม่รู้หรือไง”
 
“รู้ฮะ ก็ดูท่าทางพี่ธารหลับสบายนี่นา อีกอย่างพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุด พี่จะได้พักผ่อนเยอะๆไงฮะ” ลีวายส์เดินมานั่งลงบนพื้นพรมข้างๆผม มีหนังสือติดมือมานั่งอ่านด้วย
 
“อ่านหนังสือหรอ....” ร่างเล็กพยักหน้ารับ “ฟอด!!! งั้นอ่านไป เดี๋ยวจะทำอะไรมาให้กิน หิวหรือยัง หืม”
 
“ตอนแรกก็ไม่หิวฮะ แต่พอพี่ธารถาม ท้องบอกว่าหิวเลย” ลีวายส์ลูบหน้าท้องตัวเองให้ผมดู
 
“ไหนดูสิ ท้องบอกว่าไง....”
 
“ไม่เอาฮะพี่ธาร อ่าๆๆๆ อย่าแกล้งสิฮะ อ่าๆๆๆ อ่ะ! พี่ธาร.......!!!” ลีวายส์บอก เมื่อถูกผมดันร่างมันลงไปนอนราบกับพื้นก่อนจะมือไว้เลิกเสื้อขึ้นและซุกหน้าลงกับหน้าท้องแบนราบของมัน
 
“อ้าว....ไหนบอกท้องพูดได้ ไหนวะ ไม่เห็นได้ยินเลย” ลีวายส์เริ่มทำหน้างอและรีบดึงมือผมออกจากชายเสื้อของมัน เมื่อผมจูบลงบนหน้าท้องหลายๆครั้ง
 
“พี่ธารอ่ะ ไม่เล่นแล้ว ลีวายส์หิวจริงๆนะ คึคึ เอาหน้าออกไปเลยฮะ”
 
“หึ......จุ๊บ!!! อ่านหนังสือไป” ผมบอกหลังจากจุ๊บมุมปากเล็กโทษฐานทำหน้าตาน่ามันเขี้ยว จากนั้นผมจึงลุกไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะเข้าครัวทำอะไรกินเป็นมื้อค่ำ
 
อาทิตย์หน้าลีวายส์ก็จะสอบแล้ว เห็นบ่นๆอยู่ว่าความจำไม่ค่อยดี วันนี้ผมเลยพาไปซื้อพวกเครื่องดื่มอะไรของมันมาเยอะแยะก็ไม่รู้ มีซุปไก่บ้าง วิตามินบ้าง ยาบำรุงบ้าง เล่นเอาเลือกไม่ถูกว่าจะกินอันไหนก่อนหลังดี
 
“โอ๊ะ น่ากินๆ กินเลยนะฮะ” ผมทำสปาเก็ตตี้มาให้ลีวายส์ในห้องนั่งเล่น ที่ตอนนี้กลายเป็นรังรัก....เหอะ! ก็ช่วงนี้เราขลุกกันอยู่แต่ในห้องนั่งเล่น แถมยังลากผ้าห่มมานอนอีกด้วย เลยไม่แปลกที่ผมจะเรียกว่ารัง เพราะทั้งผ้าห่มทั้งหมอนในห้องนอนมากองอยู่นี่หมด
 
“อร่อยมั้ย”
 
“ก็......................” เดี๋ยวนี้ลีวายส์มันมีกวนตีนครับขอบอก สีหน้ามันคิดหนักมากเลยดูดิ
 
“ถ้าบอก ไม่ จะได้กินอย่างอื่นแทนแน่ๆ”
 
“อร่อยที่สุดในห้า หก เจ็ด แปด เก้า สิบ โลกเลยฮะ” เว่อร์มาก ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือกลัวจะโดนกินอย่างอื่นที่ผมว่ากันแน่ เหอะๆ
 
 
 
“พี่ธารๆ ลีวายส์ไม่เข้าใจตรงนี่อ่ะ พี่ธารสอนหน่อยนะๆๆๆๆ” ลีวายส์ใช้หน้าถูๆกับต้นแขนผม กล้ายกับแมวน้อยยังไงอย่างงั้น
 
“อ่านสิ อ่านหลายๆรอบเดี๋ยวก็เข้าใจ”
 
“แต่ลีวายส์อ่าน เป็นสิบๆรอบแล้วนะฮะ ไม่เห็นเข้าใจอย่างที่พี่ธารบอกเลย นะๆ จุ๊บ! นะๆ อ่ะให้จุ๊บทีนึ่ง” ถ้าเป็นคุณยอมป่ะล่ะ ก็ไม่รู้สินะแต่ผมยอม
 
“จุ๊บ! เดี๋ยวนี้พัฒนานะมึง.......ไหนดูซิ” และผมก็ต้องวางมือจากงานของตัวเองมาเป็นติวเตอร์จำเป็นให้กับมัน
 
 
ผ่านไป ยี่สิบนาที.................
 
 
“โอ้ยๆๆๆ เจ็บนะฮะ หูลีวายส์แดงหมดแล้วฮะ โอ้ยยยย” เสียงครวญครางโอดโอย ดังตั้งแต่ผมเริ่มติวแล้วล่ะ
 
“ต้มกิน อย่างนี้ต้องต้มกิน ขนาดอ่านสิบรอบสอนยี่สิบยังไม่จำ ต้มกินเลยดีมั้ย”
 
“แบบนั้น ทำได้ด้วยเหรอฮะ” เอากับมันสิ เนี่ยล่ะนะ ผมถึงไม่ตอบรับคำขอของไอ้กายที่มันจะให้ผมไปเป็นครู ผมได้เตะเด็กตายแน่ๆ ขนาดกับลีวายส์ ผมยังดึงหูมันจนตอนนี้แดงไปหมดทั้งสองข้างล่ะ
 
“ลองมั้ยล่ะ!!!” ลีวายส์ ทำปากยื่นหน้างอก่อนจะนอนลง เอาหัวหนุนตักผม “ถามจริงๆ นี่จำไม่ได้หรือไม่เข้าใจกันแน่” ผมถามลีวายส์เงยหน้าขึ้นมองตาใส
 
“ไม่เข้าใจฮะ” ตอนเสียงแผ่วมากครับ มันเป็นวิชาเกี่ยวกับจิตวิทยาของมนุษย์ ผมก็เข้าใจนะว่ามันยาก และดูเหมือนลีวายส์ไม่ชอบด้วยถึงไม่เข้าใจ
 
“โอ้ยยยย....กูจะบ้าตาย!!!” มาปวดหัวแทนผมทีครับ
 
เมื่อมันไม่เข้าใจผมก็ต้องสอนแล้วสอนอีกอยู่ราวๆกว่าห้ารอบจนลีวายส์เริ่มเข้าใจและตอบคำถามผมได้ มีบ่นด้วยนะ นั่งบ่นอุบอิบอยู่คนเดียว เหอะๆ
 
 
 
“คึคึๆ......” ผมหันกลับมาทำงานของตัวเองบ้าง ส่วนลีวายส์นอนเล่นโทรศัพท์อยู่ข้างๆเนี่ยแหละ มันยิ้มกับโทรศัพท์เหมือนคนบ้ามาสักพักแล้ว จนผมเริ่มสงสัย
 
“ดูอะไร ยิ้มเหมือนคนบ้า ไหนมาดูซิ” ผมดึงโทรศัพท์ในมือมันมาดู.....ก่อนจะตวัดสายตาไปมองมันเมื่อเห็นสิ่งที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ
 
“................” ลีวายส์ก้มหน้างุดหลบตาผม
 
“พี่ธาร....ลีวายส์ขอโทษ ก็..........ลีวายส์เห็นว่าน่ารักดีนี่นา”
 
“ไม่ต้องมาคุยด้วยเลย.....สนุกหรอ ห๊ะ!” สีหน้าของมันเจื่อนลง ก่อนจะกอดเอวผมไว้ และซบหน้าลงมา
 
“รูปนี้น่ารักออก....งั้นลีวายส์ลบก็ได้ แต่พี่ธารอย่าโกรธนะ นะๆๆ ฟอด!!!” มีหอมแก้มง้อด้วย เหอะ!
 
“น่ารักกับผีสิ นอนอ้าปากพะงาบๆ แถมยังมีโบว์สีชมพูติดผมอีก อะไรของมึง หืมๆ” ผมกอดคอมันและกดลงบนตัก
 
“พี่ธาร ลีวายส์หายใจไม่ออกฮะ”
 
กริ๊งงงงงงง กริ๊งงงงง
 
ในขณะนั้นเอง มีเสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น ผมจึงปล่อยมัน ร่างเล็กยิ้มนิดๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปเปิดประตู คงจะเป็นไอ้แมนหรือไม่ก็ไอ้เซฟล่ะมั้ง
 
“ลีวายส์....ใครมาน่ะ” ผมลุกตามไปดู เพราะมันไปเปิดประตูช้ากว่าปกติ
 
“ลีวายส์ ลีวายส์จริงๆด้วย แม่คิดถึงลีวายส์มากเลยนะ ลีวายส์ของแม่” ภาพตรงหน้าทำให้ผมกำหมัดแน่น ผู้หญิงคนนี้กลับมาทั้งที่หายไปเป็นปีๆ เพื่ออะไรผมไม่อยากรู้ ช่างมัน แต่ผมจะไม่มีวันให้เธอทำร้ายและเข้าใกล้ลีวายส์อย่างแน่นอน
 
พรึ่บ!!!!
 
“ออกไปจากบ้านกู” ผมผลักเธอออกจากลีวายส์ และดึงร่างเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมแขน ลีวายส์ดูจะตกใจไม่น้อยที่อยู่ๆ เธอก็โผล่มาแบบไม่บอกไม่กล่าว
 
“อะไรไอ้ธาร นี่มึงตอนรับพี่มึงอย่างนี้หรอ....เหอะ!”
 
“แค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ สำหรับสิ่งที่มึงทำกับกู ออกไป......ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” ถึงแม้เธอจะเป็นพี่สาวของผมแต่ผมก็รู้นิสัยของเธอดี คนแบบนี้ไม่จำเป็นต้องใจดีด้วย
 
“โธ่.....กูไม่ได้ตั้งใจนา ลีวายส์แม่ขอ.....” ผมดึงลีวายส์ให้ก้าวถอยหลังหลบมือที่กำลังจะเอื้อมมาจับมัน “จิ๊! แม่ไม่ได้ตั้งใจนะ...ก็ตอนนั้นมันคิดอะไรไม่ออกนี่ อีกอย่างฉันตัวคนเดียวด้วยจะเลี้ยงเด็กได้ยังไง”
 
“แล้วก็ทิ้งมันไว้ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่ากูจะเลี้ยงดูมันได้หรือเปล่าเนี่ยนะ ใช้อะไรคิดวะ”
 
“แต่มึงก็....ทำได้นี่....ดูสิลีวายส์ของเราโตเป็นหนุ่มแล้ว”
 
“อย่ามาจับมัน......เข้าไปในห้องก่อน อย่าออกมาจนกว่ากูจะเรียก” ผมบอกกับลีวายส์ ร่างเล็กพยักหน้ารับและเดินไปยังห้องนอนทันที “อย่าแถมาแถวนี้”
 
“ไอ้ธาร กูรู้ว่ากูทำความเดือดร้อนให้มึงมาตลอด แต่ต่อไป กูสัญญาว่ากูจะไม่ทำให้มึงเดือดร้อนอีก แล้วอีกอย่างต่อไปมึงจะได้ใช้ชีวิตแบบสบายๆ ไม่ต้องคอยดูแลใครไง แค่มึง....ให้ลีวายส์ไปอยู่กับกู” นี่แหละครับ คือสิ่งที่ผมคิดไว้ว่าเธอมาเพื่อจุดประสงค์นี้แน่นอน
 
“ไม่....มี...วัน” ผมบอกอย่างชัดเจน “และก็....อย่ามาเข้าใกล้กูกับลีวายส์อีกไม่อย่างงั้น คำว่าพี่น้องก็ช่วยค้ำคอไว้ไม่ได้”
 
“มึงคงใช้เงินในการเลี้ยงดูมันไปมากถึงไม่อยากให้มันไปใช่มั้ย มึงต้องการเท่าไหร่ สิบล้านหรือยี่สินล้าน มึงก็เอาจากมันไปสิ ให้มันมาอยู่กับกูนะไอ้ธารแค่นี้ มึงก็สบายแล้ว”
 
“อย่าเอาความคิดต่ำๆ ของตัวเองมาตัดสินกู กูดูแลมันมาด้วยเงินของกูและไม่เคยคิดจะแตะต้องเงินของมันแม้แต่สตางค์เดียว!!! มึงออกไปเลย มาทางไหนกลับไปทางนั้น!!!” ผมบอกเสียงเข้ม ถ้าเธอยังยืนอยู่ในห้องผมอีกแค่นาทีเดียวผมจะต้องถีบเธอออกไปแน่
 
“ก็ได้....แต่จะบอกอะไรให้นะ ยังไงฉันก็จะต้องเอามันมาอยู่กับฉันให้ได้ คอยดู” ทั้งสีหน้าและแววตาของเธอดูโกรธจัดก่อนจะเดินออกไปจากห้องด้วยกับปิดประตูเสียงดัง หลังจากทิ้งความกังวลใจไว้ให้ผม
 
สิ่งที่ผมกลัวกำลังจะเกิดขึ้น แต่ผมจะไม่ยอมให้มันเป็นแบบนี้แน่ๆ พี่สาวผมต้องมีแผนอะไรสักอย่างเพื่อจะพาลีวายส์ไปอยู่กับเธอ เมื่อคิดแบบนี้แล้ว มันทำให้ผมเครียดขึ้นมาทันที
 
 
 
“พี่ธาร.........” ลีวายส์นั่งอยู่บนเตียง ร่างเล็กเงยหน้ามองผมพร้อมกับโอบเอวผมไว้แบบหลวมๆ ลีวายส์เองก็น่าจะจำได้ว่าเธอคนนั้นเคยเป็นแม่ของมันในช่วงเวลาหนึ่ง
 
“ต่อไป ถ้าผู้หญิงคนนั้นมาอีก ไม่ต้องเปิดประตู เข้าใจมั้ย” ลีวายส์พยักหน้ารับ ผมนั่งลงข้างๆมันก่อนจะดึงร่างเล็กเข้ามากอด
 
“พี่ธาร.....แม่....เค้าจะมาพาลีวายส์ไปหรอฮะ”
 
“อื่ม......อยากไปหรอ” ลีวายส์สั่นหัวทันที “ดีแล้ว เพราะถึงมึงอยากไปกูก็ไม่ยอมมึงไปเด็จขาด” ผมมองสบตาร่างเล็กก่อนจะกดจูบริมฝีปากนุ่มตรงหน้า ลีวายส์เองก็จูบตอบเช่นกัน
 
รสจูบหอมหวานทำให้ผมไม่สามารถละริมฝีปากออกได้ จนต้องสอดลิ้นร้อนเข้าไปภายในโพรงปากของอีกฝ่ายลิ้นเล็กอ่อนนุ่มเกี่ยวตวัดลิ้นร้อนของผม ถึงแม้จะไม่ช่ำชองแต่ก็ถือว่าโอเคสำหรับผมแล้ว
 
จากแค่จูบ อารมณ์บางอย่างก็เริ่มก่อตัวขึ้น มือไม้ผมปัดป่ายไปทั่วร่างเล็ก จากรอบเอวไล่ไปยังโคนขาเรียว ลีวายส์เอนตัวไปด้านหลังในขณะที่ริมฝีปากเรายังคงจูบกันอย่างดูดดื่ม ผมเลิกเสื้อตัวบางของคนใต้ร่างไล่นิ้วเข้าไปสะกิจตุ่มไตยอดอกเล็กเบาๆ ทำให้ร่างเล็กแอ่นอกรับอย่างเสียวซ่าน
 
“อื๊อออ.............” ลีวายส์ครางเสียงหวาน ผมล่ะริมฝีปากออก ไล่ลงมาจูบซับซอกคอขาวสร้างรอยสีหวาน  ผมสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ จากแป้งฝุ่นที่มันใช้เป็นประจำเข้าปอดก่อนจะดึงร่างเล็กขึ้นมานั่ง
 
“รู้มั้ย เราเป็นอะไรกัน” ผมทัดเส้นผมกับหูลีวายส์และเกลี่ยแก้มใสเบาๆ แก้มทั้งสองข้างของมันกำลังขึ้นสีแดงระเรื่อน่ามอง
 
“เป็น......คนรักกันฮะ...ลีวายส์รักพี่ธาร” ร่างเล็กพูดจบ ผมฉกจูบริมฝีปากบางทันที
 
“ใช่ คนรักกันต้องอยู่ด้วยกัน จริงมั้ย” ผมกระซิบถาม ลีวายส์พยักหน้ารับอีกครั้ง ผมจึงดึงเอวร่างเล็กขึ้นมานั่งคร่อมตัก และกดท้ายทอยมันลงมากดจูบ
 
 
 
“อื๊ออ.....อ่า.....พะ....พี่.............”
 
“ซีดดดด.......เก่งมาก เก่งมากคนดี....อ่าาาาา” ความคับแน่นภายในตัวของอีกคนทำให้ผมบ้าคลั่งได้เสมอ ร่างเล็กโยกตัวอยู่บนร่างผม เรือนร่างเปลือยเปล่าน่าสัมผัสน่ากลืนกินตรงหน้า มีเม็ดเหงื่อผุดตามผิวสีน้ำนมของมันไม่น้อย
 
“อ่ะๆๆๆ....เจ็บ.....อ่า....พี่ธาร.....อื๊ออออ” ลีวายส์ครางประโยคนี้เดิมๆนักครั้งไม่ถ้วนแต่ก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี
 
“จ๊วบๆ....ซีดดดด.....อ่า ถ้าเจ็บก็รีบทำครับ” ผมบอก ร่างเล็กบีบไหล่ผมแน่น และโยกตัวเร็วขึ้นอีก
 
ผมบีบคลึงสะโพกกลมไปทั่วด้วยมือข้างเดียวส่วนอีกข้างกำลังกำผ้าปูที่นอนแน่น ระบายอารมณ์คลุ้มคลั่งในตัว เพื่อไม่ให้ตัวเองเปลี่ยนไปเป็นฝ่ายรุก เพราะถ้าเกิดผมเป็นผฝ่ายรุก  ผมมักจะควบคุมตัวเองไม่อยู่ เผลอทำรุนแรงไปลีวายส์จะแย่เอา
 
“อ่ะๆๆๆ.....อ่า....อื๊อออออ.....” แต่แล้วผมก็อดใจไม่ไหวเผลอเด้งสะโพกสวนขึ้นไป จนร่างเล็กสั่นคลอนไปทั้งตัว ไม่นานน้ำรักสีขุ่นไหล่ถะลักออกมาเต็มต้นขาผม ลีวายส์ซบหน้าลงกับแผงอกกว้างอย่างเหนื่อยล้า
 
“ซี๊ดดด....ลีวายส์....ลุกขึ้นเร็วเข้า” ผมบอก เมื่อมันท่าจะหลับ ผมจับเอวร่างเล็กไว้ ค่อยๆยกตัวมันขึ้นช้าๆ จนแท่นร้อนของผมออกจากตัวมัน 
 
ผมกดจูบลงบนหน้าท้องแบนราบย้ำๆ ไล่ลิ้นลงมาหยอกล้อกับแห่งสะดือเล็ก แกนกายน้อยของลีวายส์ยังตื่นอยู่เลย ผมจึงใช้ลิ้นแตะส่วนปลายเบาๆ ส่งผลให้ร่างเล็กบิดตัวมันพยายามจับแกนกายน้อยด้วยตัวเองแต่ผมปัดมือออก
 
“อื๊ออออ.....อ๊ะ!” ผมให้ร่างเล็กเอนหลังลงกับเตียงโดยมีหมอนรองหลังไว้ ยกขาเรียวทั้งสองข้างแยกออกจากกัน ก่อนจะจัดการครอบปากลงกับแกนกายน้อยของผม
 
“อื๊อออ......อ๊ะๆ.....อ่า....อ๊ะ” ลีวายส์ครางเสียงหวาน ทำให้ผมรีบขยับปากขึ้นลงเร็วขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่เคยทำให้นะ นี่เป็นครั้งแรก แกนกายนุ่มในโพรงปากกระตุกสองสามครั้งก่อนจะปล่อยน้ำรักออกมา ผมรีบถอนปากออกแต่ก็ไม่ทันซะแล้ว
 
“พะ....พี่ธาร....อ่ะ!” ลีวายส์ รีบลุกขึ้นมาเมื่อเห็นเช่นนั้นโดยไม่ทันคิดว่าตัวเองเจ็บอยู่ไม่น้อย ทำให้ร่างเล็กนิ่วหน้า “คะ...คายออกมาฮะ ลีวายส์ไม่ได้ตั้งใจ” มันจับหน้าผมด้วยมือทั้งสองข้าง สีหน้าของมันรู้สึกผิดจนผมนึกขำก่อนจะกลืนน้ำรักลงคอ ลีวายส์เปิกตากว้าง กับสิ่งที่ผมทำ
 
“ทำไม....” ผมเอียงคนถาม ร่างเล็กลดมือลงมาจับไหล่ผมแทน หน้าขึ้นสีอีกตามเคย ผมอดไม่ได้ที่จะหอมแก้มมันไปฟอดหนึ่ง
 
“ก็........มัน.......สกปรก  นี่ฮะ ไม่อร่อย”
 
“ใครบอกว่าไม่อร่อย หืม ฟอด! หึๆ.....ไปล้างตัวนะ เดี๋ยวล้างให้ จะได้มานอนหลับสบาย จุ๊บ!!!” เห็นแบบนี้ ผมคงต้องเปลี่ยนสถานะให้มันได้แล้วล่ะ เมีย....เมีย....เมีย....โอ้ย!!! คำนี้มันไม่เหมาะกับลีวายส์เลยจริงๆ นะ เมียๆๆๆ
 
เช้า..................................
 
“อะไรเอ่ย บนก้อขน ล่างก้อขน ดึกดื่น สัปดน เอาขนมาชนกาน” ตื่นกันสักพักแล้วครับแต่ไม่ยอมลุก ลีวายส์เลยชวนคุยนั่นโน้นนี่ในขณะที่ผมยังรู้สึกง่วงอยู่เลย
 
“ทำถามบ้าอะไรหืม....ไปฟังมาจากไหน ฟอด!!!” ลีวายส์จับปลายคางผมและดันออกเบาๆ
 
“เพื่อนในห้องฮะ เห็นเค้าเล่นกัน ลีวายส์ไม่เคยเล่น ตอบไม่ถูกซักข้อ พี่ธารตอบมาดิ ไม่ตอบลีวายส์เฉลยนะฮะ”
 
“ข้างบนก็ขน....” ผมลุกขึ้นมาคร่อมร่างเล็กไว้ และก้มมองส่วนนั้นของตัวเอง “ส่วนข้างล่างก็.........” ผมลากมือไปทั่วรอบเอวบางของคนใต้ร่างก่อนจะสอดเข้าไปในอันเดอร์แวร์ของมัน
 
“อ่ะ!!! ไม่ใช่ๆ เฉลยล่ะ พี่ธารอ่ะ ทะลึ่ง ขนตาต่างหากข้างบนมีขนข้างล่างก็มีขน” ลีวายส์ยกมือขึ้นจิ้มๆ ตาผม “พอถึงตอนกลางคืนหลับตา ขนตาเลยชนกัน...ไม่เล่นแล้วอ่ะ”
 
“หึๆ จ๊วบๆ! ตัวเองเริ่มก่อนนี่หว่า ลุกได้แล้ว ไปอาบน้ำไป เดี๋ยวไปหาไอ้แมนกัน”
 
“จริงหรอฮะ....ไปๆ ไม่เจอพี่โอ๊ตหลายวันล่ะ แต่ว่า พี่ธารต้องอาบน้ำให้ลีวายส์นะฮะ ลีวายส์ลุกไม่ไหวหรอก” แรกๆมันก็เขินอยู่หรอ พอผ่านมาหลายครั้งเข้า ก็เริ่มเข้าโหมดเดิมครับ เฮ้อออ จำยอม
 
 
 
“พี่แมน เปิดประตูช้าอ่ะ ลีวายส์เมื่อยนะฮะ” กูสิเมื่อย มึงอยู่บนหลังกูจะไปเมื่อยอะไรล่ะ
 
“อีกแล้วล่ะสิมึง” ไอ้แมนกระซิบกับผม
 
“สัด! หลีกไป....” ผมยกเท้าขึ้นถีบขามันก่อนจะเดินเข้ามาข้างใน ให้ลีวายส์ลงจากหลังมานั่งบนโซฟาเบาๆ “เมียมึงล่ะ”
 
“อยู่ในครัว” ไอ้แมนตอบ ดูเหมือนมันเองก็เพิ่งจะตื่นเหมือนกัน
 
“ลีวายส์ไปหาพี่โอ๊ตนะฮะ” เมื่อกี้ยังทำตัวพิการขาลีบอยู่เลย ไหนตอนนี้เกือบจะวิ่งล่ะ แล้วนั่นมันไปสนิทกับคุณโอ๊ตตั้งแต่เมื่อไหร่กันวะ
 
“มึงมีไร ง่วงฉิบ กูเพิ่งกลับจากพัทยาเมื่อคืนนี้เอง”
 
“ถึงว่าหน้าตาดูไม่ได้เลย......ล้างหน้าหน่อยมั้ยวะ บุหรี่มาดิ๊....กูไปรอที่ระเบียง” ผมบอก ไอ้แมนหยิบบุหรี่บนโต๊ะข้างๆโซฟาส่งมาให้ก่อนจะเดินเข้าห้องไป
 
ผมออกมานั่งตรงระเบียงห้อง ตอนเช้าๆอากาศดีใช้ได้ ถึงแม้จะเป็นใจกลางเมืองก็เถอะ ผมจุดบุหรี่ขึ้นสูบ พลางคิดถึงเรื่องเมื่อวาน ผมควรระวังตัวจากพี่สาวตัวดีไว้ เพราะคาดว่าอีกไม่นาน เธอต้องกลับมาแน่ๆ
 
“ว่าไง....มีไรวะ” ไอ้แมน แม่ง!!! ถึงว่ามันไปนาน อาบน้ำเรียบร้อย แต่ยังไม่แต่ตัวนะมีแค่ผ้าขนหนูพันเอวออกมา
 
“พี่สาวกูกลับมา”
 
“พี่สาว.....พี่น้ำน่ะหรอ”
 
“อืม.....มาหากูแล้ว....บอกว่าจะมาพาลีวายส์ไปอยู่ด้วย” ไอ้แมนคาบบุหรี่ไว้ในปากก่อนจะจุดสูบ มันหันหลังพิงราวระเบียงใกล้ๆกับผม
 
“กูเข้าใจมึงนะ ถ้าเกิดพี่น้ำพาลีวายส์ไปจริงๆ เอาเป็นว่ากูจะส่งเด็กไปสืบให้ก่อนว่าพี่น้ำพักอยู่ที่ไหน กับใครและทำอะไร”
 
“อืม.....อาทิตย์หน้ากูงานเยอะว่ะ กูจะให้พวกมึงไปรับลีวายส์ที่โรงเรียนให้หน่อย” อาทิตย์หน้าลีวายส์มีสอบและจะปิดภาคเรียน ผมบังเอิญตรงกับช่วงที่ผมงานเยอะพอดี จึงอยากให้พวกมันดูแลลีวายส์ให้หน่อย
 
“ได้ๆ กูไม่มีปัญหา อาทิตย์หน้ากูก็ต้องรับส่งโอ๊ตไปมอเหมือนกัน”
 
“พวกมึง โอเคแน่แล้วนะ คุณโอ๊คล่ะ เค้าไม่ว่าไรหรอ”
 
“พี่ชายมัน....เค้าบอกว่าจะไม่มายุ่งกับพวกเราอีกน่ะ อีกอย่างเห็นบอกว่าจะทำรีสอร์ทกับพี่มาศด้วยล่ะ กูไม่คิดว่า พวกมันจะสนิทกันมาก...ว่ะ!!!”
 
“งั้นหรอ ก็ดีแล้วนี่” เห็นแบบนี้ผมก็หายห่วงเรื่องของมัน เพื่อนมีความสุขผมก็ดีใจ
 
“พี่ธาร.....พี่แมน...งี้....สูบบุหรี่อีกแล้วนะฮะ” ผมกับไอ้แมนมองหน้ากันก่อนจะรีบทิ้งบุหรี่ในมือทันที เมื่อลีวายส์เดินเข้ามาหา ตามมาด้วยคุณโอ๊ต
 
“ไอ้ธารเลย ไอ้ธารน่ะ ชวนพี่สูบค่ะลีวายส์” ไอ้สัด! พอเมียทำหน้าดุนี่ แม่ง! โยนมาให้กูเลย
 
“พี่ธารคงไม่อยากกินข้าว งั้น พี่ธารก็สูบบุหรี่ไปเลย ไม่ต้องกินข้าวดูนี่...ข้าวผัดกุ้ง ฝีมือพี่โอ๊ต อร่อยมากกกกก” =_=
 
“ช่ายยยย เมียพี่ๆ ทำกับข้าวอร่อยมากค่ะลีวายส์ พี่แมนเพิ่งรู้นะเนี่ย ลีวายส์กินเยอะๆนะคะ” กูหมั่นไส้มันจริงๆ เวลามันพูดจาแบบนี้กับลีวายส์ น่าถีบนะว่ามั้ย
 
“ไปแต่งตัว ถ้าไม่อยากอดอีกคน” สมควร โดนเมียด่าซะบ้าง เหอะๆ
 
ไอ้แมนน่ะ มันไม่เคยรักใครจริงๆจังๆแบบนี้มาก่อน มันถึงได้รักได้หวงและเชื่อฟังคุณโอ๊ตมากและขนาดจะเป็นจะตายตอนที่คุณโอ๊ตจากไป ผมเชื่อว่ามันจะไม่ยอมให้ใครมาแย่งคนรักของมันไปอย่างแน่นอน 
 
ผมเองก็เช่นกัน ยิ่งกว่ารักยิ่งกว่าหวงลีวายส์ มีหรือจะปล่อยให้ใครมาแย่งมันไปได้ง่ายๆ ถึงตอนนั้นไม่ว่าใครหน้าไหนผมก็ไม่ไว้หน้า ผมสามารถฆ่าได้โดยไม่ต้องลังเลอะไรเลย.....
 
<<<<<<<<TBC>>>>>>>
 
 
ไม่มีอะไรมากกกกกกกกกกกก แค่จะบอกว่าาาาาาาาา เค้าขอโทษษษษษ

ที่หายไปนาน เค้าติดกิจกรรมของมหาลัยไม่มีเวลามาลงเลย

ลืมกันแล้วยังอย่าลืมให้กำลังใจเม้นให้เค้าบ้างน้า

ตอนต่อไปเจอกันคร้า  จะรีบมาลงให้ จุฟฟฟฟฟฟฟฟ  :mew1:  :mew1:  :mew1:

ปล.ภาษาไม่สวย ขออภัยด้วยนะคะ

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
พี่ธารโทรบอกแม่ล่วยยยย พี่สาวนิสัยไม่ดีเลยจริงๆ  :z3: :z3:

ว่าแต่นังคุณพี่สาวจะมาไม้ไหนนะ สงสัยจะมีแผนเด็ด  :ling1:

****

ปอลอ คิดถึงคุณนักเขียนนะค้าา

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ยัยเจ๊นั่นกลับมาทำไมห๊าาา =_=*

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ต้องมีใครจ้างเจ้น้ำแกมาแน่ๆ
อย่ามาแยกลีวายจากพี่ธารน่ะ
เราไม่เชื่อหรอกว่าเจ้จะเกิดรักลีวายขึ้นมา
เกลียดจริงๆคนแบบนี้



ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ยัยพี่น้ำ ไปไกลๆเลยนะ ไม่ต้องมายุ่ง นิสัยว่ะ...

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....44
 
[กาย:Part]
“ห้าววววว...” โลกของผมกำลังมืดลงทุกทีๆ สมองคล้ายกับถูกปิดสวิตช์ให้หยุดทำงานไปชั่วขณะ
 
เปาะ!!!
 
“ทำไรกาย” เสียงดีดนิ้วทำให้ผมสะดุ้งตื่นจากโต๊ะทำงาน ร่างสูงยืนฉีกยิ้มโชว์ฟันขาวอยู่ตรงหน้า
 
“โอ๊ะ! ออกเวรแล้วหรอ ผมง่วงจะตายอยู่แล้วเนี่ย”
 
“ครับ....แล้วใครอยู่ร้านล่ะ” พี่หมอถาม
 
“ก็.....ไอ้เซฟน่ะ เดี๋ยวผมไปบอกมันก่อนว่าจะกลับล่ะ ไม่ไหวอ่ะ แม่ง!” ผมลงมากบอกเซฟด้านล้าง มันกำลังนั่งดื่มอยู่กับเพื่อนๆของมัน
 
“จะกลับแล้วหรอ ไปเหอะ เดี๋ยวกูดูเองไอ้แมนมันบอกจะมา” เซฟบอก ก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนต่อ หมู่นี้มันตีตัวออกห่างจากผมนะ ผมรู้ว่ามันคิดจะทำอะไร
 
“เซฟ....เซฟ......” เสียงเพลงดังมากมันน่าจะได้ยินผม แต่มันไม่สนใจครับ ผมน้อยใจนะที่อยู่ๆมันเป็นแบบนี้
 
“เป็นอะไรอีกล่ะ” พี่หมอถามระหว่างขับรถกลับคอนโด ตอนนี้ผมมาอยู่กับพี่หมอที่คอนโดแล้วนะ อยู่มาสักพักล่ะ ช่วงแรกๆก็พาไข่มุกมาอยู่ด้วยแต่ว่าเราไม่มีเวลาดูแลไข่มุก เลยต้องให้ไข่มุกกลับไปอยู่กับแม่พี่หมอที่บ้าน
 
“เปล่า...พี่หมอ เคยน้อยใจเพื่อนป่ะ”
 
“ทะเลาะกับใครล่ะ ไอ้ธาร ไอ้แมน หรือ ไอ้เซฟ” ผมถอนหายใจแรงๆออกมา ก่อนจะเอนหลังไปกับเบาะ
 
“ไอ้เซฟ มันไม่สนใจผมเลย ทำไมมันไม่เหมือนเดิมล่ะ ผมเสียใจนะที่มันเมินผมแบบนี้ เจอก็ไม่ค่อยได้เจอ คุยกันก็สองสามคำ เหมือนไม่อยากคุย”
 
“กาย ให้เวลามันหน่อยสิ มันกำลังทำใจอยู่นา”
 
“ทำใจอะไรล่ะ แค่กลับมาเป็นเหมือนเดิมน่ะ ทำไม่ได้หรือไง ผมไม่ชอบแบบนี้เลย ถ้าเป็นเมื่อก่อน มันคงมาส่งผม โทรหา มาอยู่เป็นเพื่อน ไม่โน้นไปนี่ด้วยกัน แต่นี่อะไรอ่ะมัน....”
 
“หยุดพูดถึงคนอื่นได้แล้ว!!! กายพูดถึงมันเยอะไปแล้วนะ” พี่หมอทำให้ผมเงียบลงทันที เมื่อรู้ว่าพี่หมอเริ่มไม่พอใจ เอาจริงๆ พี่มันก็ไม่พอใจทุกครั้งที่ผมพูดถึงไอ้เซฟนั่นแหละ
 
“....................” เงียบครับ ถึงจะไม่พอใจยังไงก็ไม่เห็นจะต้องขึ้นเสียงใส่ผมเลย
 
“กายกินอะไรหรือยัง พี่จะทำให้” พี่หมอถามหลังจากเข้าห้องมา ผมไม่ตอบเดินเข้ามาให้ห้องนอนด้วยท่าทีนิ่งๆ
 
“กาย.........” ผมไม่ฟังเสียงเรียกของร่างสูง เดินเลยเข้าห้องอาบน้ำ คนยิ่งเหนื่อยๆอยู่ มาเจอแบบนี้เข้า ผมชัดเริ่มรู้สึกไม่ดี เกิดอยากจะร้องไห้ขึ้นมาซะอย่างงั้น
 
หลายวันมานี้ ผมต้องทำงานที่ร้านคนเดียวมาตลอด ทั้งไอ้แมนไอ้ธารและไอ้เซฟดูทุกคนจะยุ่งจนลืมผม ไอ้ธารมันโทรมาบ้างแต่เป็นผมมากกว่าที่โทรไปหามันโทรไปด่าว่าหายหัวแต่ก็นะ ตอนนี้มันต้องดูแลลีวายส์เยอะขึ้นนี่
 
 
 
“กาย.......” พี่หมอเรียกผมทันทีเมื่อเห็นผมออกมาจากห้องน้ำ “กาย...อย่าเป็นแบบนี้สิ....พี่ขอโทษ” พี่หมอเอื้อมมือมาดึงมือผมให้นั่งลงบนตัก
 
“เป็นแบบนี้ทุกที....บางทีผมก็ไม่ได้อยากจะฟังคำขอโทษ แต่อยากให้เรา....ไม่ต้องทะเลาะกันน่ะ ผมเหนื่อย....ช่วงนี้ดูเหมือนอะไรๆก็ไม่ดีไปหมดสำหรับผม ทั้งเพื่อนทั้งแฟน...ผมอยาก....อยู่คนเดียว!” ผมเอาแต่ใจนะ และทุกคนก็รู้
 
“ก็ได้....แล้วแต่กาย พี่ยังไงก็ได้” พี่หมอพูดจบ ก็เดินออกไปจากห้องนอนอย่างที่ผมต้องการ แต่ผมไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย ผมทรุดตัวลงนั่งกับพื้นซบหน้าลงกับเตียงนุ่มก่อนจะปล่อยให้ตัวเองร้องให้ออกมาคล้ายกับว่าผมเก็บกักน้ำตามานานแสนนาน
 
 
 
 
“กาย! ทำไมกลับมาป่านนี้ล่ะลูก” หลังจากนั่งร้องไห้อยู่ที่คอนโดราวๆสองชั่วโมงผมจึงตัดสินใจกลับบ้าน พี่หมอหายไปไหนก็ไม่รู้ ผมไม่อยากอยู่ในหห้องกว้างๆคนเดียว
 
“ไม่มีอะไรหรอกครับ”
 
“หรือว่าทะเลาะกันหรอลูก หืม” แม่ทราบครับว่าผมไปอยู่กับพี่หมอ เพราะพี่หมอเป็นคนมาขออนุญาตท่านเอง แม่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ท่านถือว่าผมโตพอที่จะตัดสินใจอะไรเองได้แล้ว
 
“เปล่าครับ ผมขอตัวก่อน” แม่มองผมอย่างห่วงๆ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย
 
ผมเข้ามาในห้องนอนของตัวเอง ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดู เป็นอาทิตย์แล้วครับที่เซฟไม่ไลน์มาหาผมเหมือนทุกๆวัน ไหนมันบอกว่าจะเหมือนเดิมไง ไอ้เพื่อนเหี้ย!!!
 
 
 
“กาย....กาย ตื่นยังลูก” ผมลืมตาขึ้นช้าๆ ปรับสายตาให้รับกับแสงยามเช้าที่กำลังสาดส่องเข้ามาภายในห้องนอน
 
“ครับผม” อ้าว....เช้าที่ไหนล่ะ สิบเอ็ดโมงแล้ว เหอะ! วันนี้เป็นวันที่ผมตื่นเต็มตาที่สุด เพราะหลายวันมานี่ผมไม่ค่อยได้นอนเท่าไหร่ ทำงานกลางคืนนอนกลางวันมันจะเหมือนกับนอนช่วงกลางคืนได้ไง
 
“เป็นไง....ดีขึ้นหรือยัง มาทานข้าวมา แม่ทำของชอบเราไว้เยอะเลย” แม่ผมนี่ช่างน่ารักจริงๆเลยว่ามั้ย
 
“ฟอด!!! ผู้หญิงคนเนี่ย รักที่สุดเลย รู้ป่ะ ผมรักแม่มากกว่าพ่ออีกนะ”
 
“ไม่เชื่อหรอก....ถ้ารักแม่ก็ต้องเชื่อฟังแม่สิ แม่ว่านะ พ่อยังเชื่อฟังแม่มากกว่าลูกเลย”
 
“นั่นเค้าเรียกว่า กลัวเมียต่างหาก อ่าๆๆๆๆ” ผมกับแม่พากันหัวเราะเมื่อพูดถึงพ่อ พ่อผมน่ะ แม่พูดคำเดียวก็อยู่หมัดแล้วล่ะครับ แม่ผมเจ๋งสุดๆ
 
“จริงสิ  พี่ธัญญ์จะมาวันมะรืนนี้นะ กายไปรับหน่อยสิ เห็นบอกว่าไม่ได้จองโรงแรมไว้ แม่เลยให้พี่ธัญญ์มาพักที่บ้านเรา” พี่ธัญญ์ที่ว่า ก็คือพี่ชายไอ้นัทลูกพี่ลูกน้องผมที่ครั้งหนึ่งเคยมีเรื่องกับไอ้ธารนั่นแหละ แต่พี่ชายมันเป็นคนดีนะ เราสนิทกันมาก
 
“ได้สิ เดี๋ยวกายไปรับเองก็ได้”
 
 
 
 
 
“กาย....กายใช่ป่ะ” ร่างสูงในชุดเสื้อยืดกับกางเกงยีนเท่ๆ เข้ามาทักผม ในขณะที่ผมหันซ้ายหันขาวมองหาคนที่ผมมารับที่สนามบิน
 
“อย่ามาๆ ทำเป็นจำไม่ได้หรอ โอ่ ทำไมพี่สูงงี้อ่ะ ไม่เจอกันแค่ไม่กี่เดือนผมว่าพี่สูงขึ้นอีกแล้วนะ”
 
“อ่าๆๆๆ ก็เท่าเดิมนะ ว่าแต่เราเหอะ น่ารักขึ้นนะเนี่ย มากด้วย ฟอด!!!” พี่ธัญญ์ก้มลงมาหอมแก้มผม ทำเอาคนที่เดินผ่านไปมาหันมามอง
 
“พี่ธัญญ์! โอ่ เล่นงี้เลยอ่ะ ผมมีแฟนแล้วนะ”
 
“เอานาๆ แฟนไม่เห็นซะหน่อย หิวว่ะ พาพี่ไปหาไรกินหน่อยดิ” น่าตาดีแม่ง ทำงี้คัยมันจะมาจีบ เค้าคงคิดว่าผมเป็นแฟนพี่หมดแล้ว
 
“แวะห้างนะ พอดีแม่ทำกับข้าวอร่อยเกินผมเลยกินเกลี้ยงล่ะ” ผมบอกกับพี่ธัญญ์ที่กำลังขับรถซึ่งพี่แกอาสาขับให้เอง
 
“คร้าบๆๆ กลัวพี่แย่งกินว่างั้น.......ห้างนี่หรอ”
 
“ครับ” พี่ธัญญ์เลี้ยวรถเข้าจอดและเราก็เดินเข้ามาในห้าง โดยที่พี่แกกอดคอผมไม่ยอมปล่อย  ไม่อายหรอก พี่น้องกันสนใจคนอื่นทำไม
 
“กินอะไรดี....กายอยากกินอะไร พี่เลือกไม่ถูก เอาอาหารไทยนะ”
 
“งั้นก็....ไปข้างบนดีกกว่า มีให้เลือกเยอะเลย” พี่ธัญญ์พยักหน้ารับ เราเลยพากันเดินขึ้นไปอีกชั้น ไม่นานเราก็เข้ามาในร้านอาหารไทยร้านหนึ่งที่ผมชอบมากินกับไอ้เซฟ
 
“ตอนนี้ยังทำผับอยู่ใช่มั้ย” เรานั่งคุยไปด้วยระหว่างทาน ผมสั่งของหวานมาทานครับ เพราะกินข้าวมาแล้ว
 
“ทำอยู่......พี่จะไปป่ะล่ะ เดี๋ยวผมพาไป”
 
“ไปสิ มาทั้งที ว่าแต่เราเหอะ ที่ว่ามีแฟนน่ะ เค้าเป็นใคร ทำอะไรที่ไหน บอกได้ป่ะ” ถามซะเยอะเชียว แต่ถ้าไม่สนิทจริงคงไม่กล้าถามแบบนี้หรอก
 
“เป็นหมอ ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแถวๆนี้แหละ รู้แค่นี้พอ แล้วพี่ล่ะ มีแฟนยัง” ไม่ได้อยากรู้หรอกแต่ไม่อยากโดนซักว่าแฟนเป็นคนยังไงอะไรประมาณนี้เลยถามกลับซะเลย
 
“มีแล้วสิ หล่อๆแบบพี่ไม่เหลือหรอก อ่าๆๆๆ มีแล้วๆ ทะเลาะกันโคตรบ่อยว่ะ แต่ก็นะ...รักกันก็มาก เลิกกันไม่ได้ซะที”
 
“แหม....อยากเห็นแล้วสิ ว่าแต่ไอ้นัทล่ะ เป็นไงบ้าง”
 
“เรียนเที่ยวเล่นเหมือนเดิมแต่ก็เพลาๆลงบ้าง....มันจะตามพี่มาด้วยแต่พี่ไม่อยากให้มา” เราคุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งท่านเสร็จและออกมาจากร้าน
 
“แวะซื้อกางเกงยีนหน่อยดิ ไม่มาหลายวันล่ะ” เราเดินผ่านร้านกางเกงยีนแบรนด์ดังพอดี และผมก็อยากได้อยู่หลายวันล่ะ วันนี้มาแล้วก็อยากจะซื้อเลย
 
“ได้ๆ เดี๋ยวพี่ซื้อให้เลยเป็นไง”
 
“ได้ครับป๊า กระเป๋าหนักป่าว ผมซื้อเยอะนะขอบอก” ผมยักคิ้วกวนๆให้พี่ธัญญ์ พี่แกยิ้มให้ก่อนจะยกมือขึ้นโยกหัวผมไปมา
 
“เอาเลย น้องทั้งคน สิบตัวเลยเป็นไง”
 
“เยอะไปนา...ห้าตัวพอ คึคึ” ผมกอดเอวพี่ทันเดินเข้าไปในร้านและเลือกซื้อกางเกงจนพอใจก่อนจะกลับมาบ้าน เมื่อมาถึงพี่ธัญญ์ก็ขึ้นไปพักผ่อนบนห้องที่จัดเตรียมไว้ให้ทันที ส่วนผมก็ลงมาดูทีวีในห้องนั่งเล่น
 
ผมหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดู โทรศัพท์ที่ตลอดสองสามวันนี้ไม่มีใครโทรเข้ามาแม้แต่คนเดียว เหอะ! ลืมผมไปกันหมดแล้วมั้ง ผมเปิดนั่นโน้นนี่ดู แอบแปลใจเล็กน้อยที่ทำไมลีวายส์เองก็หายเงียบไป ไม่โทรมาเลย หรือจะไม่สบายนะ
 
ผมกำลังโทรหาลีวายส์แต่ว่า โทรออกไม่ได้ เอ๊ะ!!! โทรศัพท์ผมโทรออกไม่ได้อ่ะ อ้าว ตัวสัญญาณหาย อะไรวะ ผมเพิ่งเห็นนะเนี่ย แม่ง เจ๊งล่ะ อินเตอร์เน็ตก็ใช้ไม่ได้ เน็ตที่บ้านก็ได้มีด้วยสิ ช่างเหอะ! ยังไงก็คงไม่มีใครสนใจอยู่แล้ว ว่าแต่ ผมเป็นห่วงลีวายส์จัง
 
“อ้าวกาย คิดว่านอนอยู่ในห้องซะอีก” พี่ธัญญ์เดินลงมาจากข้างบน ทักผมเมื่อเห็นว่าผมนอนอยู่บนโซฟา
 
“นอนล่ะ เมื่อคืน”
 
“กวนนะเรา.......คุณน้าล่ะ” พี่ธัญญ์มานั่งลงข้างๆผม
 
“ไปหาพ่อที่บริษัทน่ะ...หรือไม่ก็ค้างที่โน้นกับพ่อเลย” พ่อผมไม่ค่อยกลับบ้านครับ ท่านจะนอนที่บริษัทเป็นประจำ และเราก็ไม่ได้ว่าอะไรมากมายชินซะแล้ว รู้ว่าท่านต้องทำงาน
 
“อืม......คืนนี้ไปเที่ยวที่ผับใช่ป่ะ....โทรไปชวนแฟนเราด้วยสิ”
 
“มันไม่ว่างหรอก เข้าเวร คงดึกๆน่ะ”
 
“งั้นหรอ......เป็นไรหรือเปล่า สีหน้าไม่ค่อยดีเลย มีปัญหากับแฟนหรือเปล่า” พี่ธัญญ์โน้มตัวลงมาถามผมใกล้ๆ พลางหรี่ตามอง
 
“ป่าวซะหน่อย”
 
“อ่ะๆ เปล่าก็เปล่า แต่ถ้ามันรังเกเรา บอกพี่นะ พี่จะจัดการเอง” พี่ธัญญ์บอกอย่างมั่นใจ
 
“โอ่ ตัวเท่าพี่เนี่ย มันต่อยปลิวเชื่อผม”
 
“ขนาดนั้นเลย อยากเจอซะแล้วสิ หึๆๆ” ดูเหมือนพี่แกจะอยากเจอพี่หมอมากจริงๆ
 
 
 
 
“คนเยอะนะเนี่ย ร้านก็โอเคเลย” พี่ธัญญ์พูดบอก หลังจากเข้ามาในร้านพร้อมกับผม ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาร้านเปิดพอดี ไอ้เซฟคงอยู่
 
“ก็เพิ่งตกแต่งใหม่ไป เมื่ออาทิตย์ที่แล้วอ่ะ เหนื่อยเอาการ”
 
ผมพาพี่ธัญญ์มานั่งตรงโซนบาร์ของร้าน สักพักก็ขอตัวขึ้นมาในห้องทำงานข้างบน พบว่าไม่มีใครอยู่เลย เมื่อกี้ผมก็ไม่เห็นไอ้เซฟอยู่ด้านล่าง แล้วมันไปไหนกันนะ หรือผมไม่เห็นมันเอง
 
“เห็นไอ้เซฟมั้ย” ผมกลับลงมาถามพนักงานในร้าน
 
“พี่เซฟเพิ่งออกไปเมื่อยี่สิบนาทีก่อนน่ะฮะ ไม่ได้บอกไว้ด้วยว่าจะไปไหน” ผมพยักหน้ารับและกลับมาหาพี่ธัญญ์
 
“ไง....สาวที่นี่สวยๆทั้งนั้นเลยนะ โอ่ เห็นแล้วคึกอ่ะ” เหอะๆ หืนเหมือนกันนะ พี่กู
 
“จีบเลย คว้าไว้ซักคน ผมไม่บอกแฟนพี่หรอก รับรองๆ” เราต่างก็ยืนหน้าเข้าไปคุยกันข้างๆหูของอีกฝ่าย เพราะเสียงเพลงในร้านดังกลบเสียงพูดของเราสองคน
 
“อ่ะ!!! เมาป่ะเนี่ย...อ่าๆๆๆ” อยู่ๆใครก็ไม่รู้เดินมาชนผมเข้า ทำให้เสื้อของพี่ธัญญ์เลอะเพราะแก้วเหล้าในมือผม
 
“อ่า เสื้อตัวโปรดนะ กาย รับผิดชอบเลยนะ” พี่ทันมีโว้ยครับ แล้วก็ทำหน้างอด้วย แม่ง ช่างไม่เข้ากับหน้าตาอันหล่อเหลาของพี่แกจริงๆ คงเมาล่ะ
 
“งั้นไปเปลี่ยนข้างบนแล้วกัน อย่างอนนะคนดี ป่ะ”
 
 
 
“เสื้อใครอ่ะ ตัวเล็กไปป่าว” ผมพาพี่ทันมาเปลี่ยนเสื้อด้านบน หยิบเอาเสื้อไอ้เซฟมาให้ใส่ก่อนและให้เด็กเอาเสื้อพี่แกไปซัก
 
“ของเพื่อน มาๆ ผมติดกระดุมให้” ผมจัดคอเสื้อให้พี่ธัญญ์ก่อนจะติดกระดุมให้
 
“แฟนเรานี่โชคดีนะ มีแฟนน่ารักแบบกาย ถ้าเป็นพี่ พี่จะไม่ปล่อยให้คลาดสายตาเลย ฟอด!”
 
แกร๊ก!!!
 
 
“ไอ้เหี้ย!!!!” ปึก! ผมถูกใครคนหนึ่งกระชากแขนอย่างแรง ก่อนที่พี่ธัญญ์จะถูกผลักออกไปชนกับโต๊ะทำงานใกล้ๆ และตามด้วยซัดหมัดหนักๆ จนผมตกใจทำอะไรไม่ถูก
 
“สัด” แต่พี่ธัญญ์ก็ไม่ยอมเช่นกัน ผลักอีกคนออกก่อนจะตามมาถีบมัน ล้มลงกับพื้น
 
“พี่ธัญญ์ๆ” ผมเข้าไปห้ามพี่ทันไว้ ทำให้พี่แกหยุดมองหน้าคนที่เพิ่งจะพุ่งพรวดเข้ามา
 
“กาย! นี่มันอะไรกันน่ะ” ไอ้เซฟเข้ามาอีกคน มันถามเมื่อเห็นภาพตรงหน้า พี่หมอลุกขึ้นมากระชากแขนผม ใช่ครับ พี่หมอเป็นคนแรกที่เข้ามาและเห็นพี่ธัญญ์หอมแก้มผมเข้าพอดี
 
“กาย ไอ้นี่มันเป็นใคร แล้วกายหายไปไหนมา ทำไมไม่กลับบ้าน บอกพี่มาเดี๋ยวนี้ กายมีคนอื่นหรอ” พี่หมอถามผม ด้วยดวงตาแดงกล่ำมีสีหน้าโกรธจัด
 
“สนใจด้วยหรอ ว่าผมจะเป็นยังไง ไม่ต้องมาจับผม อึกๆ....ไหนบอกว่าจะเข้าใจผมไง ....อึก...ทำไมพี่ทำไม่ได้ล่ะ” พี่หมอคลายมือออกจากแขนผมออก
 
“กาย....” เซฟ จับมือผมไว้
 
“มึงด้วย .....” ผมผลักอกมันแรงๆ “มึงไม่มองหน้ากู ไม่คุยกับกู ไม่โทรมาหา มึงเป็นบ้าไปแล้วหรือไง มึงบอกจะเหมือนเดิมไม่ใช่หรอ นี่อะไรกันอ่ะ บอกกูสิ! บอกกู!!!”
 
“มีเรื่องอะไรกัน” ไอ้ธารเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับลีวายส์ที่มีสีหน้าตกใจ ตากลมเปิกกว้ายกมือข้างหนึ่งขึ้นปิดปาก
 
“ไอ้ธาร มึงก็อีกคน อึกๆ....มึงทิ้งร้านปล่อยให้กูดูแลร้านอยู่คนเดียว กูเหนื่อยเป็นนะเว้ย อึกๆ.....” เงียบครับ ทุกคนเงียบไม่มีใครพูดบอกอะไรเลย
 
“เอิ่ป............” ไอ้แมนก็มาด้วย
 
“ไม่ต้องหลบไอ้เหี้ยแมน อึกๆ...มึงอ่ะ ทิ้งคนแรกเลย อึกๆ....อื๊ออออออออ”
 
“อ้าว พูดงี้ก็สวยสิ นี่เมียกูยืนอยู่นะเว้ย” มันหันไปแก้ตัวกับเมียมันก่อนจะมองหน้าแต่ละคนที่ยืนเงียบ “โอ่ๆ ไม่ร้องนะคนดี ใครทำไอ้กายของกูร้องวะ แม่ง!!! อย่าร้องๆ กูขอโทษ ที่ทิ้งมึงทิ้งร้านไปหารักแท้มา (ยังจะเล่น) กูสัญญาว่าต่อไปกูจะเข้าร้านทุกวันนะๆ นะคะคนดี” มันเข้ามากอดปลอบผม และก็โดนพี่หมอผลักออกไป
 
“พี่ขอโทษ ทั้งที่สัญญาไว้แล้วแต่...พอกายพูดถึงคนอื่นทีไร้ มันก็อดคิดไม่ได้นี่ พี่หึงน่ะ กายเข้าใจหรือเปล่า”
 
“แล้วที่พี่หายไปล่ะ อึกๆ หายหัวไปเหมือนกันนี่ อึก....ไม่โทรหา หายไปเลยอ่ะ!!!”
 
“พี่โทรหากายเป็นร้อยๆสายแล้วนะ แต่ไม่ติดเลย เมื่อวานมีเคสผ่าตัดด่วน พี่เลยไม่ได้ไปหากาย พี่ขอโทษ”
 
“ลีวายส์ก็โทรหาพี่กายไม่ติดเหมือนกันนะฮะ พี่กายอย่าร้องนะฮะ ทุกคนเป็นห่วงพี่กาย ไม่มีใครทิ้งพี่กายหรอฮะ” ลีวายส์เข้ามากอดเอวผม ตากลมโตเริ่มน้ำตาคลอเบ้า
 
“กูขอโทษว่ะ กูคงคิดผิดไปที่พยายามตีตัวออกห่างจากมึง ทั้งที่มันอาจจะไม่จำเป็นเลย เพราะยังไง กูก็ยังคิดถึงมึงเหมือนเดิมแต่ว่า......มันไม่เดิมที่ความรู้สึก กูว่าตอนนี้ มึงไม่ใช่คนที่กูชอบแล้วล่ะ”เซฟพูดบอก มันยกมือขึ้นเกลี่ยน้ำตาให้ผม “เรากลับมาเป็นเพื่อนที่สนิทกันเหมือนเดิมนะ เดี๋ยวกูพาไปดูหนัง โอเค๊” เอาหนังมาล่อกันนี่หว่า ชิท์!
 
“อะไร มองกูเพื่อ?”
 
“ไอ้ธาร ไอ้เหี้ย อึกๆ....กูจะไม่คุยกับมึงอาทิตย์หนึ่ง คอยดู!!!” ผมจะทำจริงๆนะ เชื่อสิ!
 
ผมหันกับไปหาพี่หมอที่กำลังจ้องเขม่งพี่ธัญญ์ไม่วางตา ส่วนพี่ธัญญ์แกไม่ได้สนใจอะไรยืนมองนิ่งๆ ไม่พูดไม่จา เพราะไม่ได้คุ้นเคยกับใครในที่นี้
 
“นี่พี่ธัญญ์ ลูกพี่ลูกน้องกู!!!” ผมพูดประโยคนั้นใส่หน้าไอ้พี่หมอ “พี่ชายไอ้นัทไง”
 
“ทำไมต้องหอมแก้มด้วยละ ถึงจะพี่น้องก็เถอะ”
 
“ทำไม มึงจะไม....เกี่ยวไรกับมึง....ฟอด! ฟอด! กูจะหอมทำไมล่ะ” มาแล้วพี่กู งานกวนวิ่งตามมาติดๆ หอมแก้มผมซ้ายทีขาวทีโชว์ไอ้พี่หมอเลย
 
“ไอ้.....นี่เมียกู! ไอ้สัด!!!” ไอ้เซฟที่ยืนอยู่ใกล้ๆคว้าแขนพี่หมอไว้ “ปล่อยไอ้เซฟ ปล่อยเลย”
 
“ก็พี่เป็นซะอย่างเนี่ย ผมเลยไม่กล้าไปไหนมาไหนกับมัน หวงอะไรนักวะ”
 
“แล้วถ้าเมียมึง มึงหวงป่ะล่ะ” จบข่าว เงียบ ไอ้เซฟปล่อยมือออกจากแขนพี่หมอกลับมายืนข้างๆผม ไอ้แมนพยักหน้ารับว่าจริงๆ ส่วนไอ้ธารไม่ต้องพูดถึง ลีวายส์ตอนนี้เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนมันเรียบร้อยล่ะ แต่ล่ะคนแม่ง! เฮ้ออออ
 
“อ่าๆๆๆๆ แบบนี้ล่ะหายหวงว่ะ แฟนเรานี่ใช้ได้ๆ แต่ว่าอย่าหึงมากนักมีเหตุผลบ้างก็น่าจะดีกว่านี้นะไอ้น้อง พี่ลงไปจีบสาวข้างล่างดีกว่า เพื่อเกี่ยวกลับไปได้ซักคนสองคน ไปล่ะ กายกลับเองนะ พี่จะไปหาเพื่อนด้วย อ่อ จริงสิ......ขอโทษแทนไอ้นัทน้องเลวๆของกูด้วยนะที่มาสร้างเรื่องเมื่อคราวที่แล้ว ไปล่ะ ฟอด!!!” เฮ้ย!!! ไอ้พี่บ้า ไปแล้วยังจะทิ้งระเบิดไว้ให้ผมอีก บ้าจริงไอ้พี่คนนี้
 
“กูว่ามึงกลับไปก่อนเหอะ กลับไปคุยกับพี่หมอก่อนนะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ กูไปรับ เราไปดูหนังกัน” ไอ้เซฟบอก
 
“ถ้าเปี้ยวล่ะน่าดู” ผมบอก พี่หมอปรายตาไปมองมันก่อนจะดึงมือผมออกมา
 
 
“อ่ะ เช็ดหน้าซะ” ผมหันไปมองพี่หมอที่กำลังขับรถอยู่ พี่มันส่งผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อมาให้ผม
 
“ทำไม”
 
“ก็เช็ดรอยหอมแก้มไง โคตรไม่ชอบ เช็ดเดี๋ยวนี้นะ” พี่มันเอื้อมมือมาเช็ดๆๆ ให้ผม ผมจึงดึงผ้ามาเช็ดเอง บ้ากันไปใหญ่แล้ว
 
 
 
“พี่ขอโทษนะ....ยังโกรธพี่อยู่หรือเปล่า” เรากลับมาถึงคอนโดให้เวลาไม่นานและจัดการกับตัวเองให้คลายอารมณ์ร้อนลง ผมอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ออกมานั่งโซฟา และพี่หมอก็ตามออกมา
 
“โกรธ”
 
“โธ่กาย ฟอด!....”พี่หมดนั่งลงข้างๆผม ก่อนจะหอมแก้มฟอดใหญ่ พี่มันกอดเอวผมไว้และเอนหลังไปกับพนักพิงโซฟาโดยที่ผมทับทาบตามลงไปอย่างอัตโนมัติ “พี่คิดถึงกายนะ อย่าหายไปแบบนี้อีก โทรไปก็ไม่ติด รู้ป่ะ พี่ต้องอดทนแค่ไหนตอนมีเคสผ่าตัด เพราะในหัวพี่มีแต่กาย เกือบจะต้องเรียกหมอคนอื่นกลางคันเลยรู้ป่าว”
 
“จริงหรอ ถ้าคนไข้ตาย ผมก็ผิดอ่ะดิ”
 
“หึ! จุ๊บ!!! ที่นี่รู้ยังว่ากายน่ะ มีอิทธิพลสำหรับพี่แค่ไหน ถ้าเป็นไปได้ พี่อยากอยู่กับกายตลอดเวลาเลย อยากมอง อยากรู้ว่าตอนที่พี่ไม่อยู่กายกำลังทำอะไร” ผมอมยิ้มให้กับคำพูดของมัน
 
จริงๆ ความรู้สึกของผมน่ะ ไม่ได้โกรธหรอก แต่มันเป็นความน้อยใจมากกว่า คิดดูนะ เมื่อก่อนเราติดเพื่อนกันมากอยู่ๆ พวกมันก็หายหัวหมด แล้วผมเองก็เป็นคนขี้ใจน้อยด้วยสิ พอเป็นแบบนี้ผมก็รู้สึกไม่ได้ ยิ่งมาทะเลาะกับพี่หมอยิ่งแล้วใหญ่
 
“งั้น ผมไปหาตอนเข้าเวรทุกวันเอาป่ะ วันล่ะสองรอบเลย”
 
“กายก็ต้องทำงานนา จะเทียวไปเทียวมาได้ไง พี่ก็เป็นห่วงอีกนั่นแหละ” อันนั้นก็ไม่ได้อันนี้ก็ไม่ได้จะงอนอีกล่ะนะ
 
“ขี้หวงขี้ห่วงกันจริงๆ เลย แบบเนี่ยไม่ไหวหรอก”
 
“เมียทั้งคนอ่ะ ก็ต้องหวงสิคร้าบบบบบ” ผมแบบปากให้ร่างสูง ทำให้ไอ้พี่หมอถือโอกาสฉกจูบผมไปซะงั้น
 
ถึงจะทะเลาะกันยังไง โกรธกันมาแค่ไหน แต่ถ้ารักกันจริง ผมเชื่อว่าเราจะยังคงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้อย่างแน่นอน ผมรักพี่หมอครับ รักมาก ส่วนพี่หมอน่ะหรอ ดูเอาเองก็แล้วกันว่าพี่มันรักผมมากหรือเปล่า 
 
<<<<<<<<TBC>>>>>>>

คู่นี้ไม่มีอะไรมาก แค่มาอัพเลเวลความหึงหวง

ขี้เป็นห่วงของพี่หมอรักษ์ให้ดูเฉยๆ

ถ้าภาษาไม่สวย และมีคำผิด ขออภัยด้วยนะคะ

และที่สำคัญขอโทดที่มาช้าคะช่วงนี้กิจกรรมยังไม่ลงตัว

แต่จะพยายามลงให้เร็วที่สุด  จุฟฟฟฟฟฟ

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
กายก้อนะ อารมณ์ผู้หญิงท้องอ่ะ
ขี้น่อยใจสุดๆๆ 55555
ยังดีที่ง้อไม่ยาก กิกิกิ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
กายขี้น้อยใจชะมัด :)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ polla_x

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 66
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ยัยน้ำต้องมาเพราะหวังสมบัติของลีวายแน่ๆๆ เพราะลีวายบอกจะมีสิทธิ์ตอนลีวายอายุ 18 หรือเท่าไหร่แล้วนะ ฮือ กลัวนางจะรู้ความสัมพันของธารกะลีวาย แล้วเอามาพาลีวายไป เพราะสิทธินางไม่รู้ยังเป็นแม่อยู่เปล่า เหอๆ ท่าทางสมบัติพ่อลีวายจะเยอะอยู่ จะเอาเงินฟาดนางคงต้องใช้เยอะมาก ยังไงก็อย่าดราม่ามากนักนะ ขอเบาๆแบบไม่กี่ตอนนะ

aomj555

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ไม่รู้ดิ ถ้าเราเป็นพี่หมอเราก็หึงนะ คือแบบมันเคยมีเหตุมีความหลังกันมาก่อนไง
ก็รู้นะว่ากายไม่ได้คิดอะไร แต่อยากให้นึกถึงใจพี่หมอมั่งอ่ะ
ส่วนพี่หมอก็ใจเย็นๆนะคะ ค่อยๆพูดค่อยๆจากัน

ขอบคุณค่ะ รอตอนต่อไป  ^^

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....45
 
 
“พี่ธารมารับไม่ได้อีกแล้วหรอฮะ วันนี้สอบวันสุดท้ายแล้วนะฮะ”
 
“ใช่ วันนี้ไอ้กายจะมารับ......อย่าหน้างอสิ จุ๊บ!!!” ลีวายส์ไม่ชอบเลยตอนที่พี่ธารงานยุ่งจนไม่มีเวลาอยู่กับลีวายส์แบบนี้อ่ะ
 
“ก็ลีวายส์อยากให้พี่ธารมารับนี่”
 
“หึ! ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ งานก็คืองาน เข้าใจมั้ย.....” พี่ธารโยกหัวลีวายส์เบาๆ ก่อนจะดึงเข้าไปจุ๊บหน้าผากทีหนึ่ง “ตั้งใจสอบล่ะ ถ้าตกนะน่าดู”
 
“รู้แล้วนา ลีวายส์ไม่ตกหรอก พี่ธารเตรียมคิดหารางวัลไว้ได้เลย...ไปนะฮะ ตั้งใจทำงานด้วย” จุ๊บ!!! ลีวายส์จุ๊บปลายคางพี่ธารอย่างที่ทำเป็นประจำทุกวันก่อนจะลงจากรถและเข้ามาในโรงเรียน
 
ถึงจะน้อยใจที่สองสามวันมานี้พี่ธารไม่ได้มารับลีวายส์ที่โรงเรียนก็เหอะ ลีวายส์รู้ว่างานก็สำคัญสำหรับพี่ธารเพราะเป็นงานที่พี่ธารรักและดูเหมือนจะยุ่งๆในช่วงนี้ด้วย พี่แมนพี่กายและก็พี่เซฟเลยผลัดกันมารับลีวายส์ตลอด
 
“ไงลีวายส์ สอบเสร็จไปกินไอติมกันนะ”
 
“เรเนสยังไม่ทันเข้าห้องสอบ เธอก็ชวนเพื่อนไปกินซะแล้ว” บุ๊ค ตีแขนเรเนสไม่แรงนักก่อนจะพูดบอก ตอนนี้เด็กนักเรียนทุกคนต้องออกมายืนหน้าห้องรอเข้าห้องสอบกันฮะ
 
“ก็ทำไมล่ะ ว่าแต่อ่านหนังสือมาเยอะป่ะ ลีวายส์ๆ นายแง้มให้เราดูด้วยนะ”
 
“จะบ้าหรอเรเนส พอเลยๆ ไม่ต้องคุยกับลีวายส์แล้ว เสียสมาธิหมด ว่าแต่ทำไมพวกแพ็คเกจยังไม่มาอีกนะ อีกสิบนาทีก็จะเข้าห้องสอบแล้ว”
 
“นั่นไง มาแล้ว” ลีวายส์บอกเมื่อเห็นนายแพ็คมาพอดี ก่อนที่มันจะมาหยุดยืนอยู่ข้างๆลีวายส์
 
“เอาล่ะ เตรียมตัวเข้าห้องสอบ ทำตัวตามสบาย ครูไม่คุมเข้มหรอก แต่ใครตุกติก กาหัวเลยนะคร้าบบบบ” ครูเซฟฮะ แหม ไม่เข้มหรอกฮะ แต่โคตรเข้มต่างหาก
 
“มีปากกาป่ะ” นายแพ็คถาม
 
“มาสอบไม่มีปากกา บ้าหรือป่าว เอ้านี่” ลีวายส์พูด แต่ก็ยอมหยิบเอาปากกาส่งให้มันไปด้ามหนึ่ง
 
“ตั้งใจสอบกันทุกคนน้า.....ตั้งใจสอบล่ะ” ครูเซฟบอกกับทุกคนระหว่างเดินผ่านพวกเราไปเข้าห้อง “ตั้งใจสอบ” และก็หยุดโยกหัวนายแพ็คก่อนจะเข้าไปด้านใน ดูนายแพ็คจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ทำท่าปัดหัวตัวเองไปมาก่อนจะพากันเข้าห้องสอบ
 
“น้องลีๆ ลอกด้วยดิ” ^___^
 
“ไอ้ปอบ้า ทำเองสิถ้ามีสมอง”
 
 
 
 
การสอบผ่านไปได้ด้วยดีจนได้เวลาพักเที่ยง ลีวายส์บุ๊คและเรเนสพากันไปทานข้าวที่โรงอาหาร ลีวายส์ซื้อข้าวเสร็จเรียบร้อย ก็มานั่งโทรหาพี่ธารในระหว่างรอบุ๊คกับเรเนสที่ยังซื้อข้าวไม่เสร็จ
 
“พี่ธาร!......ทานข้าวยังฮะ”
 
(ยัง อีกเดี๋ยวน่ะ......สอบเสร็จแล้วหรอ)
 
“เปล่าฮะ พักเที่ยงอยู่ มีอีกสองวิชา เดี๋ยวสอบเสร็จลีวายส์โทรหานะฮะ”
 
(ไลน์มาก็แล้วกัน....ทานข้าวก่อนเถอะ)
 
“ฮะ ตั้งใจทำงานนะฮะ บาย” ลีวายส์วางสายจากพี่ธาร บุ๊คกับเรเนสก็กลับมาจากซื้อข้าวพอดี
 
“ลีวายส์ พี่นั่งด้วยคนนะคับ” พี่ฟิวส์ เดินมาหาลีวายส์ที่โต๊ะฮะ คือจริงๆพี่ฟิวส์มักจะมาหาลีวายส์อยู่บ่อยๆ แต่พี่ธารสั่งไว้ว่าให้อยู่ห่างๆพี่ฟิวส์ ลีวายส์ก็เลยเลี่ยงๆพี่ฟิวส์มาตลอด
 
“เอ่อ.....คือ.........”
 
เคร้ง!!!
 
จานข้าวของใครคนหนึ่งถูกว่างลงกระแทกโต๊ะเสียงดังหลังจากแทรกไหล่พี่ฟิวส์ที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะ จากนั่นมันก็นั่งลงข้างๆลีวายส์  ลีวายส์มองนายแพ็คอย่างไม่เข้าใจว่ามันกำลังจะทำอะไร
 
“อ้าวๆ ไม่นั่งหลบไปคร้าบ ผมจะนั่ง” และเพื่อนตัวแสบของนายแพ็คอีกสองคนก็ตามมานั่งโต๊ะเดียวกันกับลีวายส์ด้วยเหมือนกัน
 
“ขอโทษนะฮะ” ลีวายส์บอกกับพี่ฟิวส์
 
“ไม่เป็นไรคับ ไว้คราวหน้าก็ได้” พี่ฟิวส์บอกแค่นั้นก่อนจะกลับไปนั่งร่วมโต๊ะกับเพื่อนๆของตัวเอง
 
“นายทำบ้าอะไรน่ะ นั่งรุ่นพี่นะ” ลีวายส์หันไปถามนายแพ็คที่นั่งอยู่ข้างๆ หมอนี่เอาแต่ทานข้าวอย่างเดียวทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
 
“ทำไม ก็มันไม่นั่ง กูจะนั่ง มีปัญหาป่ะ”
 
“เดี๋ยวก็มีเรื่องกับรุ่นพี่หรอ ชอบหาเรื่องใส่ตัวอยู่เรื่อย”
 
 
 
 
“ลีวายส์ รอตรงนี้นะ เดี๋ยวเรากับบุ๊คไปซื้อไอติมมาให้”
 
“อื่มๆ ได้ๆ” หลังจากสอบเสร็จวิชาสุดท้ายของวัน ลีวายส์บุ๊คและเรเนสก็ออกมาหน้าโรงเรียนทันที ตอนแรกตกลงกันว่าจะไปทานไอติมที่ร้านใกล้ๆ แต่ลีวายส์กลัวพี่กายหาไม่เจอและเห็นรถไอติมทรงเครื่องมาขายหน้าโรงเรียนพอดีเลยออกความเห็นกันว่าซื้อมากินดีกว่า
 
‘พี่ธาร ลีวายส์เลิกเรียนแล้วฮะ’
 
‘อืม รอไอ้กายไปรับนะห้ามไปไหน จะกลับไปรับที่ร้านตอนค่ำๆ’
 
‘ฮะ ตั้งใจทำงานนะฮะ สู้ๆ ^___^’
 
“ลีวายส์!!!” ในระหว่างที่ลีวายส์กำลังคุยไลน์กับพี่ธารเสร็จพอดี มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกลีวาย์อยู่ไม่ไกล
 
“มะ......แม่!” ลีวายส์ต้องตกใจ เมื่ออยู่ๆแม่มาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ แม่ที่ว่าก็คือ ภรรยาอีกคนของพ่อซึ่งเค้าไม่ใช่แม่แท้ๆของลีวายส์ฮะ
 
“มากับฉัน.....และไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่!!!!!”
 
“ไม่ลีวายส์ไม่ไปฮะ....ปล่อยนะฮะ”


<!--[if !supportLineBreakNewLine]-->
<!--[endif]-->
...
 
[แพ็คเกจ:Part]
 
“เตง...ซื้อไอติมให้เค้าหน่อยจิ เค้าอยากแดกไอติมอ่ะ”
 
“เตงอยากแดก ก็ซื้อเองสิ เค้าจิเอาตังไปซื้อเกมใหม่อ่ะ”
 
“เตง...ไม่รักเค้าแล้วหรอ....แค่นี้ก็ไม่ได้ เดี๋ยวเค้าไม่รักเตงแล้วนะ”
 
“กูตบคว่ำทั้งสองคนเลย เอ้า ไปซื้อๆจะได้รีบกลับ” ผมทนฟังภาษาเหี้ยๆของพวกมันมากสักพักล่ะ จะในที่สุดก็ทนไม่ได้ เพื่อนผม แม่ง
 
จะใครล่ะ ก็ไอ้ปอกับไอ้ไอซ์นั่นแหละ สองคนผัวเมีย? นี่ถ้าไม่เห็นว่าคบกันมานานแล้วนะ ผมได้ถวายตีนถีบพวกมันคนละทีล่ะ
 
เรามานั่งกันอยู่หน้าโรงเรียนครับ วันนี้พวกมันนัดกันพา MSX กันมาเพราะกะว่าสอบเสร็จจะไปขับนั่งเล่นแถวๆริมแม่น้ำข้างๆโรงเรียน ส่วนผมเมื่อเช้าคนที่บ้านมาส่งเหมือนเคยแหละ
 
“มึงไม่กินใช่ป่ะ กูไม่ได้ซื้อมาเผื่อ นี่ตังทอน” ดีมากไอ้ปอเพื่อนรัก  =_=!
 
“เอ๊ะ นั่งน้องลีนี่ วันนี้ใครมารับวะ เห็นทุกวันมีแต่ผู้ชายมารับ หรือว่าแม่มัน” ไอ้ไอซ์พูดบอก ทำให้ผมหันไปมอง
 
“เอ้าๆๆ อะไรกันวะนั่น” ไอ้ปอพูด เมื่อเห็นลีวายส์กำลังถูกผู้หญิงคนหนึ่งฉุดกระชากมันขึ้นแท็กซี่ไป เฮ๊ะ!!! มันไม่มีแม่นี่ แล้ว.........
 
“แพ็คเกจๆ.....อือๆ....แพ็คเกจ...ช่วย....ช่วยลีวายส์ด้วย ไม่รู้ใครอ่ะ พาลีวายส์ขึ้นรถไป ลีวายส์ร้องใหญ่เลย” บุ๊ค วิ่งมาบอกอย่างเหนื่อยหอบ เพราะระยะทางจากที่ผมยืนอยู่ห่างกันพอสมควร
 
“ว่าไงนะ.......ไอ้ปอกูยืมรถที” ผมบอกและรีบขึ้นคร่อมมอไซค์ทันทีก่อนจะออกรถตามแท็กซี่คันนั้นไป โชคดีที่รถติดไฟแดง ผมเลยตามทันและสามารถขับผ่านช่องแคบๆระหว่างรถที่ยาวเหยียดจนไปจอดข้างๆรถแท็กซี่คันนั้นได้
 
ก๊อกๆๆๆ ก๊ากๆๆๆๆ
 
“เปิดสิวะ.....ลีวายส์!!!” ผมพยายามเคาะกระจกรถและเปิดประตูแต่ก็ไม่เป็นผล ลีวายส์เองก็พยายามดิ้นเพื่อเปิดประตูเช่นเดียวกัน
 
“แพ็ค.....ช่วยเรา อึกๆ....ช่วยด้วย” ลีวายส์กำลังร้อนไห้และขอความช่วยเหลืออยู่ในรถโดยที่ผมไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
 
เธอคนนั้น จับแขนและปิดปากลีวายส์ให้อยู่นิ่งๆ ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างกับคนขับ จนกระทั่งรถออกตัว เมื่อหมดเวลาสัญญาณไฟแดง
 
แม่ง!!!!  เรื่องบ้าอะไรกันวะ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าทำไมถึงต้องตามมาช่วยมันด้วย แต่พอเห็นน้ำตาของลีวายส์ทีไรมันทำให้ผมเจ็บใจแทนทุกทีอ่ะ ไม่รู้สิ ไม่รู้ทำไมผมต้องรู้สึกแบบนี้
 
“สนามบิน” ผมพูดออกมา เมื่อรถแท็กซี่คันนั้นเลี้ยวไปทางสนามบินที่อยู่ไม่ไกล ผมจึงรีบขับเร็วขึ้นอีก ก่อนจะมองกระจกหลังและเห็นว่าไอ้ปอกับไอ้ไอซ์ขับตามมา
 
ไม่นานผมก็มาถึงสนามบิน เธอคนนั้นพาลีวายส์ลงจากรถและรีบลากเข้าไปด้านใน อะไรกันวะเนี่ย!!! จะพาออกนอกประเทศเลยหรอ บ้าหรือเปล่าวะ
 
“ไอ้หนูๆ จอดตรงนี้ไม่ได้” ซวยล่ะสิ คนยิ่งรีบๆอยู่
 
“ผม จอดไม่ถึงห้านาทีนา แปบเดียวเอง” ผมบอกและทำท่าจะวิ่งตามไปแตะถูก รปภ ดึงตัวไว้
 
“มึงไปเหอะ เดี๋ยวกูจัดการเอง แล้วค่อยไปเจอกันที่ทางออกตรงโน้นนะ........ปล่อยเพื่อนผมเลยลุง ถ้ารู้ว่าผมลูกใคร ลุงจะหนาวนะคร้าบบบ” ขอบใจที่ผมมีเพื่อนเป็นลูกกัปตัน เหอะๆ เกี่ยวกันป่ะ
 
ผมรีบวิ่งเข้าไปด้านในและภาวะนาในใจขอให้ลีวายส์ยังไม่ถูกลากไปขึ้นเครื่อง ผมมองหามันไปทั่วในขณะที่วิ่งไปรอบๆ เที่ยวบินที่กำลังจะถึงก็มีแต่โซนเอเชีย ผมเลยเดินไปหาตรงประตูทางขึ้นเครื่องโซนเอเชีย และมันก็อยู่จริงๆ
 
ลีวายส์ถูกเอาเสื้อหนาวตัวใหญ่ๆคลุมหัวไว้ในขณะที่ไหล่ของมันกำลังสั่นไหวและผมทายว่ามันกำลังร้องไห้อยู่แน่นอน
 
เธอคนนั้นกำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ใกล้ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้น ผมไม่รู้จะทำยังไงดี จะให้ผมไม่ชิงตัวลีวายส์มา แล้วถ้าเกิดเธอคนนั้นโวยวายขึ้นมา รปภ ได้จับผมโยนออกไปน่ะสิ
 
ผมยืนหลบอยู่ข้างๆเสาต้นหนึ่งสักครู ก่อนจะเห็น หญิงสาวเดินไปต่อคิวแลกเงินตรงเค้าเตอร์ เอาล่ะ ผมควรใช้จังหวะนี้ไปช่วยลีวายส์ออกมา
 
“แพ็ค!!!.....อึกๆ......”
 
“ไม่ต้องร้อง....ลุกขึ้นเร็วเข้า” ผมดึงลีวายส์ให้ลุกขึ้นแต่กลับพบว่ามันถูกมัดขาไว้กับเก้าอี้คับ เหี้ย!!! ผมจึงต้องนั่งยองๆลงแก้มัดให้มัน
 
“แก!” เอ้า!!! ซวยอีก เมื่อเธอคนนั้นเห็นเราแล้วครับและเธอก็กำลังเดินกลับมา
 
“โอ๊ะๆ ขอโทษคับป้า......โทษทีผมรีบ” แต่ก่อนที่เธอจะเดินมาถึง มีใครคนหนึ่งวิ่งชนเธอเข้า ทำให้เงินในมือล่นลงพื้น เป็นไอ้ปอเองล่ะครับ
 
จังหวะนั่นเองผมแก้มัดให้ลีวายส์ออกพอดี จึงดึงข้อมือมันให้ลุกขึ้นและพากันวิ่ง
 
“ทางนี้ไอ้แพ็ค” ไอ้ไอซ์โบกมือให้ผมอยู่ตรงทางออก ผมจึงรีบวิ่งไปหามันและพาลีวายส์ขึ้นมอไซค์ขับออกจากสนามบินทันที
 
“อึกๆ...อื๊อออออ...อึกๆ...เราอยากไปหาพี่ธาร” ร้องให้ตลอดทางจน กระทั่งถึงบ้านไอ้ปอมันก็ยังไม่หยุด น่าปวดหัวมากแต่ก็รู้สึกดีนะที่ช่วยมันมาได้ทั้งที่ไม่รู้เลยว่ามันเรื่องอะไรกันแน่
 
 
 
[อีธาร:Part]
 
“โครงการที่หนึ่งผ่านเกณฑ์นะคะ ถ้าพวกคุณมีอะไรสงสัยก็ขอรายละเอียดจากเลขาได้ เรามาต่อโครงการที่สองกันเลยดีกว่า”
 
“นี่รายละเอียดครับ” ผมส่งเอกสารให้เลขาเพื่อแจกให้ทุกคนดู ซึ่งเป็นกฎเกณฑ์และข้อตกลงการทำโครงการแต่ละโครงการที่จะเกิดขึ้นของบริษัทที่มาร่วมลงทุน
 
อาทิตย์นี้เราทำงานกันอย่างหนักเพราะเดือนหน้าจะเป็นวันครบรอบการก่อตั้งบริษัทของคุณแพ็ท เลยมีแนวคิวว่าจะเปิดโครงการใหม่ๆ ไปพร้อมๆกันเลย ทำให้ผมเองก็ต้องมีงานเยอะตามไปด้วย
 
Tru.................
 
ผมหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดู ปกติผมจะไม่รับโทรศัพท์ในเวลางานแต่จะเลือกรับกับคนที่โทรมาเพราะเรื่องสำคัญ เช่นลีวายส์ หรือถ้าผมสั่งไว้ก่อนว่าให้ไลน์มาผมมีงาน แต่ยังโทรมาแสดงว่ามีเรื่องสำคัญจริงๆ ผมจึงกดรับก่อน และนี่ก็ไอ้กายโทรมา
 
(อื๊อๆๆ....ไอ้ธาร ลีวายส์หายไป)
 
“ว่าไงนะ!!!!” ผมผุดลุกขึ้นจากโต๊ะท่ามกลางความงุนงงของคนอื่นๆในห้องประชุม
 
(อึกๆ.....กูขอโทษ...อื๊ออออออออออ....) นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แน่นอน
 
“ขอโทษนะครับ ผมมีเรื่องด่วน.....นี่เอกสารทั้งหมด คุณเลขาช่วยจัดการแทนผมที” ผมบอกและไม่ลังเลที่จะออกมาจากห้องประชุมมาโดยที่การประชุมในช่วงเย็นเพิ่งจะเริ่ม
 
ลีวายส์หายไป หายไปไหน กับใคร ผมคิดไว้แล้วว่ามันจะต้องเกิดขึ้นแน่ๆ และพยายามจะป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น ผมถอดเสื้อสูทออกคลายปมเนคไทและปลดกระดุมคอ โยนทุกอย่างที่ไม่จำเป็นในตอนนี้ทิ้งไว้หลังรถ ก่อนจะขับรถออกมาด้วยความเร็ว
 
 
 
“ไอ้เซฟโรงเรียนเลิกกี่โมง.....แล้วมึงไปรับมันกี่โมงไอ้กาย” ผมลงจากรถเมื่อมาถึงหน้าร้านพบว่าไอ้กายพี่หมอและไอ้เซฟอยู่ที่นี่
 
“เลิกบายสามว่ะ” ไอ้เซฟตอบเสียงเครียด ผมกำหมัดแน่นและพร้อมที่จะระเบิดออกมาเต็มทน
 
“บายสาม!!!! นี่มันจะห้าโมงอยู่แล้ว ป่านนี้มันคงพาลีวายส์ข้ามโลกไปแล้วมั้ง!!!! สัดเฮ้ย!!!!”
 
“อึกๆ....กูขอโทษ กูผิดเอง อื๊อออออ” ไอ้กายร้องให้พลางกอดพี่หมอแน่น
 
“กูผิดเองที่ให้กายแวะรับกูก่อนน่ะ อย่าโทษกายเลย”
 
“มันใช่เวลาหรอวะ! ที่จะมาออกรับผิดแทนกันในเวลานี้น่ะ!!! ไอ้เซฟมึงไปกับกู ส่วนพี่พาไอ้กายกลับไปที่คอนโดผมเผื่อมีใครติดต่อมา”
 
“ไอ้ธาร กูขับเองมั้ยวะ” ไอ้เซฟพูดหลังจากเราออกรถมาได้ไม่ถึงหนึ่งนาที สองมือของมันเก๊ะหน้ารถแน่น
 
“กูไม่ยอมตายก่อนที่จะหามันเจอหรอ เชื่อกู โทรหาไอ้แมนแล้วมันว่าไง”
 
“มันบอกว่า พี่น้ำออกจากห้องพักตั้งแต่บายแก่ๆ และยังไม่กลับมาเลย...กูได้ที่อยู่มาแล้วเนี่ย” ผมขอให้ลูกน้องไอ้แมนหาที่อยู่ยัยนั่นและจับตาดูอยู่ตั้งแต่สองวันก่อนแล้ว แต่มันก็รอดสายตาไปได้
 
Tru.................
 
ผมรีบรับโทรศัพท์ที่เข้ามาทันทีโดยส่งให้ไอ้เซฟถือ เพราะผมไม่ยอมเสียเวลาในการขับรถแน่นอน
 
(ไง....ไอ้ธาร........” ผมเบรกรถทันที เมื่อผมได้ยินเสียง ขอยัยน้ำ
 
“ลีวายส์อยู่ไหน!!! บอกมาเดี๋ยวนี้!!!!”
 
“เหอะๆ.....นี่แกหวงมันมากจริงๆสินะ.......น่าเจ็บใจไอ้พวกเด็กเปรตนั่น!!!”
 
“หมายความว่าไง.....อย่ามาเล่นลิ้นกับฉัน” ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่เธอพูดแม้แต่น้อย ถ้าเธอมายืนอยู่ตรงหน้าผม ผมคงได้ฆ่าเธอตายคามือไปแล้ว
 
“มันยังโชคดี ไอ้ธาร......เด็กนั่นน่ะ  แต่ถ้าคราวหลัง ฉันไม่พลาดแน่ แกดูแลมันไว้ให้ดีๆ ก็แล้วกัน” แสดงว่ามีคนช่วยลีวายส์ไว้แล้ว ผมจึงรู้สึกโล่งใจไปเปราะหนึ่ง
 
“เธอสิที่ต้องดูแลตัวเองดีๆ เพราะต่อไป ฉันจะเป็นฝ่ายตามล่าเธอเอง ฉันเคยบอกเธอแล้วว่าอย่ามายุ่งกับมันอีก เธอรู้ดีนะว่าฉัน.......ไม่ได้พูดเล่น”
 
“ไอ้ธาร แกหมายความว่าไง....เดี๋ยว!!!.....” ในเมื่อพูดกันดีๆไม่ได้ คุยกันง่ายๆไม่รู้เรื่อง ผมคงต้องจัดการขั้นเด็จขาดกับยัยนี่ซะแล้ว
 
“ตกลงลีวายส์อยู่ไหนวะ” ไอ้เซฟถาม
 
“ยัยนั่นบอกว่า มีเด็กช่วยลีวายส์ไว้ มึงโทรเด็กมึงดูซิ” ผมบอก และเริ่มขับรถต่อ
 
“ใครวะ....เอ่อ....แพ็คไม่รับโทรศัพท์กูหรอก โทรหาเพื่อนมันก็แล้วกัน” ไอ้เซฟโทรหาเด็กนักเรียนของมัน
 
“มึงเร็วหน่อยเหอะ กูจะบ้าตายอยู่แล้ว”
 
“เอ่อๆ......ก็รีบอยู่นี่ไง............ไอ้ปอ......”
 
(ครู โทรมาพอดีเลยอ่ะ ครูมารับน้องลีที มันร้องไห้จนพวกผมปวดหัวหมดแล้วเนี่ย....บ้านผมๆ)
 
“เออๆ......เลี้ยวขวาข้างหน้าไอ้ธาร” ป่านนี้ลีวายส์คงร้องจนตาบวมโบ๋แล้วมั่ง มันเจ็บตรงไหนหรือเปล่าก็ไม่รู้
 
 
 
 
“พี่ธาร!!!!.............อื๊ออออออออออออออออออ” ร่างเล็กวิ่งเข้ามากอดผมทันทีที่ผมลงจากรถ หลังจากมาถึงภายในห้านาที
 
“เป็นอะไรหรือเปล่า เจ็บตรงไหนมั้ย....หืม....ฟอด!!!” ผมหอมเรืองผมลีวายส์หลังจากเห็นว่ามันปลอดภัยดี แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่วางใจ
 
“พี่ธาร....อึกๆ....คราวหน้าพี่ธารต้องมารับลีวายส์...อึกๆ...เร็วๆนะฮะ”
 
“โอเค....หยุดร้องได้แล้ว เรากลับบ้านกันนะ.....ไอ้กายรออยู่ที่บ้าน.........หยุดร้องนะ คนดี จุ๊บ!!!” ผมจุ๊บมุมปากร่างเล็กอีกทีก่อนจะหันไปสนใจเด็กสองสามคนที่ยืนมองอยู่ใกล้ๆ
 
“กูฝากด้วยไอ้เซฟ....อ่ะนี่ ค่าขนม ให้พวกมัน......มึงกลับเองนะ” ผมหยิบเอากระเป๋าตังออกมาและส่งเงินที่มีทั้งหมดในกระเป๋าให้มันไป ผมคิดไม่ออกว่าจะตอบแทนมันยังไงในตอนนั้น เลยให้เงินเนี่ยง่ายสุด ส่วนไอ้เซฟ มันกลับเองได้อยู่แล้ว ไม่หลงหรอก!
 
“เดี๋ยวสิ....ไอ้ธาร.........ห่า.........”
=0=

<<<<<<<<<TBC>>>>>>>>>>>

มาต่อแว้ววขอโทดที่ช้านะคะ

คือ....ไม่ชอบดราม่าเยอะค่ะ

ถ้าภาษาไม่สวย และมีคำผิด ขออภัยด้วยนะคะ

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
โล่งอกที่มีแพ็คอยูแถวนั้นพอดี
ไม่งั้นลีวายแย่แน่ๆ

จัดดการขั้นเด็ดขาดไปเลยอีธาร
ยัยป้านี้มันต้องการตัวลีวายไปทำไมก็ไม่รู้
แต่ไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
นึกว่าจะไม่ทันซะแล้ว

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
เอาอีป้าเก็บไปซะ!!!!!

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
โอ้ยยยนน รอดมือยัยป้าน้ำไปได้หนนึง!!
พี่ธารสั่งเก็บยัยป้าร้ำไปเรยนะ
ก่อนยัยป้าจะมาวุ่นวายกะลีวายส์อีก
-_-^^^^^

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ยัยน้ำเน่ามันต้องการไรเนี่ย
น่าตบว่ะ!!!
ต้องขอบคุณแพ็คและเพื่อนๆที่มาช่วยลีวายส์ไว้ได้ ไม่งั้นแย่แน่ๆ

ขอบคุณค่ะ รอตอนต่อไปจ้าาาา  ^^

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด