Older Brother พี่ชายถึงร้ายก็จะรัก by Mirror ตอนพิเศษ แมน&โอ๊ต(20/06/15)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Older Brother พี่ชายถึงร้ายก็จะรัก by Mirror ตอนพิเศษ แมน&โอ๊ต(20/06/15)  (อ่าน 167858 ครั้ง)

ออฟไลน์ yaoisamasang

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-3
    • https://www.facebook.com/pages/Yaoi-Sama/463499467036395?ref=hl
กรี๊ด แมนโอ๊ค ฟินเว่อร์
งานนี้รอ​ป้า​มหาภัยโดนจัดหนักค่ะ
เชียร์เรื่องนี้ฟุดๆ

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....46
 
 
ผมคิดว่า ผมเป็นคนที่รักเพื่อนมากคนหนึ่งนะครับ แต่ตอนนี้ ผมชักไม่แน่ใจแล้ว......ไอ้เหี้ยธาร ไอ้สัด! ได้เมียกลับ แม่ง!!! ทิ้งเพื่อน ปล่อยผมให้ยืนเอ๋อเหรออยู่กับไอ้เด็กสามตัวเนี่ย
 
“เอ่อ....เอาไงอ่ะครู....” ไอ้ปอถาม เดี๋ยวนี้ผมสนิทกับพวกมันแทบตบจะตบหัวกันได้อยู่แล้วล่ะ
 
“จะเอาไงล่ะ กูมันไม่สำคัญ เมียมันโน้น สำคัญกว่า” ผมบอก ถอนหายใจออกมาแรง ยืนมองรถไอ้ธารที่วิ่งไกลออกไปเรื่อยๆ
 
“เมีย!!!....ใครเมีย....เมียใครวะ....” อ้าวเฮ้ย! ฉิบหาย ลืมไปว่าพวกมันไม่รู้และไม่ควรรู้เรื่องไอ้ธารกับลีวายส์ ผมก็เลยเผลอพูดออกไป โดยไม่รู้ตัว งี่เง่าชะมัด!
 
“เปล่าๆ...ว่าแต่ อ่ะนี่ เอาเงินนี่ไปแล้วกัน ไอ้ธารมันคง...ไม่รู้จะตอบแทนพวกนายยังไงอ่ะ เดี๋ยวครูจะนั่งแท็กซี่กลับเอง”
 
“เอ่อ...จริงๆไม่ต้องก็ได้นะครู...แต่ไหนๆก็ให้มาแล้ว ผมไม่ปฏิเสธก็แล้วกัน” ไอ้ปอบอกอีก ในขณะที่ผมปลายตาไปมองไอ้ตัวดีอีกคน ที่ยืนเงียบไม่พูดไปจา แถมหน้าผมมันก็ยังไม่มองเลย เหอะๆ
 
“เอางี้ดีกว่า ผมว่า เราเอาเงินนี่ไปซื้อของกินมาทำไรกินกันดีกว่า อีกอย่าง ฉลองสอบเสร็จด้วยเป็นไง” ไอ้ไอซ์ออกความเห็น
 
“ก็ดีนะ งั้นครูอยู่กินด้วยกันก่อนนะ.....วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านหรอก พ่อกับแม่พาน้องผมไปบ้านยายสองสามวันแล้วไม่รู้ว่าจะกลับเมื่อไหร่ งั้นเดี๋ยวผมกับไอ้ไอซ์ไปซื้อของนะ ครูกับไอ้แพ็คก็อยู่เฝ้าบ้านไปก่อน...ไปล่ะ!”พูดจบ ไอ้ปอมันก็ดึงเงินไปจากมือผมและรีบกอดคอไอ้ไอซ์ ออกไป อ้าว...มันว่ากูเป็นหมาป่าววะ เฝ้าบ้าน! แม่ง
 
“จะไปไหน” ผมถามอีกคนที่เหลืออยู่ เมื่อเห็นว่ามันก็ทำท่าจะเดินออกไปจากบ้าน
 
“กลับบ้าน”
 
“อ้าว....เดี๋ยวดิ........แพ็ค” ผมเดินตามมันไป แต่แพ็คกลับเร่งฝีเท้าเดินเร็วขึ้น “เดี๋ยว...นายเป็นอะไรน่ะ...ทำต้องหลบหน้ากันด้วย”
 
“ผมเปล่า...” ร่างบางบอกแต่ก็ยังไม่ยอมหันกลับมามองผมอยู่ดี จนผมต้องก้าวเท้ายาวๆไปดึงแขนมันไว้ ให้มันหยุดเดิน
 
“แล้วทำไมต้องเดินหนีแบบนี้ด้วย ถ้าฉันทำให้นายรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่ฉันพูด โอเค ฉันขอโทษ แต่อย่าหลบหน้าได้ป่ะ มันเหมือนนายกลัว”
 
“ผมไม่ได้กลัว ก็บอกไปแล้ว ว่าไม่ได้หลบไง ปล่อยได้ยัง” แพ็คสะบัดแขนออกจากมือผมและเดินกลับเข้าบ้านไป มันเป็นแบบมาหลายวันแล้วล่ะ
 
 
 
“เหี้ย.....นี้บ้านแน่หรอ ทำไมมันรกอย่างนี้วะ” ผมพูด เมื่อเห็นสภาพภายในบ้านของไอ้ปอ เหอะๆ บ้านมันดูกว้างดีนะ แต่นี่....กองขยะชัดๆอ่ะ ทั้งถุงขนม กล่องนม ป๋องโค้กและ....ก้นบุหรี่
“นี่พวกสูบบุหรี่ด้วยหรอ”
 
“ผมเปล่า” แพ็คบอกทันที ก่อนจะนั่งลงบนโซฟา
 
“แน่นะ...เอ๊ะ! กินเหล้าด้วย ขวดเหล้านี่คงไม่ใช่ของพ่อไอ้ปอหรอกนะ” ผมชูขวดเหล้านอกสีขาว ขึ้นมาให้แพ็คดู
 
“อะไรนักหนาวะ....เออๆ กิน จบป่ะ” มันตอบแบบขอไปที ในขณะที่สายตาจับจ้องไปยังการ์ตูนที่เปิดทิ้งไว้ตั้งแต่ผมเดินเข้ามา
 
“ใช่สิ ฉันไม่ใช่แม่นายนี่ คงห้ามไม่ได้ แต่ว่านะ....คุณชายครับ กรุณาเก็บกวาดก่อนได้มิครับ คือ.....มันเหมือนนั่งอยู่บนกองขยะนะนั่น”
 
“ยุ่งจริง!!!” โอ๊ะ! ผมยุ่งตรงไหนวะ แค่ให้เก็บกวาดนิดเดียวเอง อีกเดี๋ยวมันก้องนั่งอีกอ่ะ ดูท่าเคมีเราสองคนจะเข้ายากจริงๆสินะ
 
 
 
“โอ้ยยยย.....เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย” ผมพูดกับตัวเองก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟา อ้าว! แพ็คหายไปล่ะ ผมมองหามันสักพาและก็เจอนั่งอยู่ตรงโต๊ะคอม ในห้องนั่งเล่น ที่แท้ก็แอบมาเล่นเกมนี่เอง และเป็นเกมที่ผมชอบด้วยสิ
 
ผมเลยเข้าไปยืนมองมันเล่นอยู่ด้านหลังเงียบๆ แอบขำนิดๆเพราะมันเล่นยังไงก็เห็นจะชนะสักที ผมจึงคิดว่าน่าจะสอนสูตรให้มันหน่อย
 
“เน้....เค้าเล่นแบบนี้เหอะ!” ผมขยับเข้าไปชิดติดหลังร่างบางและโน้มตัวลงดูหน้าจอคอมก่อนจะทาบมือลงบนเมาส์โดยทับมือมันไว้ แบบไม่ได้ตั้งใจ
 
“ยุ่งนาเล่นเอ..........” ในจังหวะนั่นเอง แพ็คเอี้ยวตัวกลับมามองผม ทำให้ใบหน้าของเราอยู่ใกล้กันเพียงแค่ไม่กี่เซ็น
 
เราต่างสบสายตากัน ร่างบางมองผมตาไม่กระพริบ จมูกโด่งๆของมันเฉียดปลายจมูกผมเพียงนิดเดียว ริมฝีปากสีสดที่ผมเคยจูบในตอนนั่นทำให้ผมรู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างน่าประหลาดอีกครั้งจนรู้สึกว่า ใบหน้าของตัวเองเริ่มขยับเข้าไปใกล้กับอีกคนมากขึ้นมากขึ้นจน.....
 
 
 
“มาแว้ววววววววววโย่วๆ” เราผลักออกจากกันอย่างตกใจเมื่อได้ยินเสียเหี้ยๆ ของไอ้เด็กเวรสองตัวส่งสัยมาแต่ไกล แม่ง ขัดอ่ะ!?
 
“อ้าว....ทำไรกันอ่ะ คิดว่ากลับบ้านไปแล้ว” ขอบคุณครับที่พวกมึงกลับมาเร็วมากไปหน่อย =_=
 
“เปล่า....แล้วนี่ซื้ออะไรมาบ้าง ไปเป็นชาติล่ะ” ผมบอก ปลายตามองแพ็คที่หันกลับไปสนใจเกมในคอมต่อ
 
“เยอะเลยครู ไปช่วยทำหน่อยดิ แฮะๆ”
 
“นี่ฉันเก็บกวาดบ้านให้ไม่พอหรอวะ.....เอ่อๆๆ ทำก็ทำ”
 
 
 
ผมจำเป็นต้องช่วยพวกมันทำกับข้าวจนเสร็จ ตอนฟ้ามืดพอดี จากนั้นพวกมันก็ออกมาย้ายโซฟาก่อนจะเอาพรมมาปูแทนและเอากับข้าวทุกอย่างมาวางลง และมานั่งตั้งวงกันกิน
 
“นี่ซื้อเบียร์มาด้วยหรอ” ผมถาม เมื่อไอ้ปอเอาเบียร์มาแช่ในถังน้ำแข็งเล็กๆ
 
“นิดเดียวนาครู ไม่เมาหรอก....ไอ้แพ็คมึงน่ะ ไม่ต้องกิน คราวที่แล้วแค่สองแก้วก็คอพับเกือบกลับบ้านไม่ถูก ไม่ใช่หรอวะ”
 
“แค่เบียร์เนี่ยนะ” ผมถาม
 
“ใช่ครู...มันน่ะ  กินเหล้าได้แต่ก็ไม่เท่าไหร่...ส่วนเบียร์กินไม่ได้แค่แก้วเดี๋ยวนะ จอด!” เหอะๆ มีงี้ด้วย
 
“พูดมากนามึง เอาตะเกียบมาดิ” แพ็คผลักหัวไอ้ปอก่อนจะ แย่งตะเกียบในมือไปคีบลูกชิ้นในหม้อเข้าปาก เราทำสุกี้กินกันครับ มียำทะเลฝีมือไอ้ไอซ์แล้วก็ไก่ทอดกรอบของไอ้ปอด้วย
 
นั่งกินไปเรื่อยๆและว่าพวกมันก็เริ่มเอาเหล้ามากินต่อจากเบียร์ จนถึงสองทุ่ม โอเค เบียร์ไม่เท่าไหร่แต่พอดื่มเหล้าตามผมเองก็ชักจะมึน แฮะ
 
“คืนนี้เตงนอนเป็นเพื่อนเค้าอีกนะ.....เค้าเหงา” =_= ภาษาเหี้ยไรของมัน ไอ้ปอชักจะเมามากแล้วนะผมว่า
 
“ได้ๆ เดี๋ยวเค้านอนเป็นเพื่อน แต่เตงห้ามลวนลามเค้าเหมือนเมื่อคืนนะ” ให้ตายเหอะ เฮ้ออออ
 
ผมเลิกสนใจพวกมันและหันไปมองอีกคนแทน แพ็คนั่งก้มหน้าเงียบไปพูดจาเอาแต่กินและดื่มเท่านั้น ผมจึงคิดว่ามันน่าจะกลับบ้านไปพร้อมผมได้แล้ว
 
“แพ็ค!!!.......กลับบ้านกัน เดี๋ยวฉันไปส่ง”
 
“ไม่!!!! อย่าเข้ามาใกล้ผม....ออกไป!!!” มันปัดมือผมออก เมื่อผมจะดึงแขนมันให้ลุกขึ้น ดูท่าจะเมาจริงๆนั่นแหละ จะปล่อยไว้ที่นี่ก็คงไม่ได้ ยิ่งให้กลับเองคงไม่ได้ใหญ่
 
“มาเถอะ...อย่าดื้อนักเลยนา!” ผมดึงร่างบางขึ้นมาจนได้และพยายามประคองตัวไว้โดยใช้แขนมันพาดบนคอผม
 
“ไม่...ไม่กลับ....ไม่ไปไหนอ่ะ”
 
“ตั้งสติหน่อย เมาจริงป่ะเนี่ย.....เฮ้ย! พวกนายก็ไปนอนได้แล้วไป” ผมบอกไอ้ปอและไอ้ไอซ์ก่อนจะประคองแพ็คอออกมาจากบ้าน
 
เพราะที่นี่มันเข้าซอยเล็กๆมา ผมจึงจำเป็นต้องไปเรียกเท็กซี่หน้าปากซอย แต่ว่า....แพ็คเหมือนจะยืนไม่อยู่เท่าไหร่ ผมเลยให้มันขี่หลังแทน
 
“เมื่อไหร่จะเลิกยุ่งกับผมซะที” เสียงมันดังอยู่ข้างๆหูผม ในระหว่างที่เดินมาตามทางฟุตบาท
 
“ทำไม....นายอยากให้มีคนสนใจนายไม่ใช่หรอ ถ้าฉันจะเป็นคนหนึ่งที่สนใจนาย ไม่ดีหรือไง”
 
“โกหก เกลียดที่สุด....อึก!....คนที่ชอบเล่นกับความรู้สึก...ของคนอื่น” คนเมามักจะพูดความรู้สึกของตัวเองออกมาโดยไม่รู้ตัว มันจริงหรือเปล่า เพราะถ้าจริง ผมคงทำให้แพ็ครู้สึกอะไรบ้างอย่างกับผมอยู่
 
“ฉันไม่ใช่คนโกหกนะ....ถ้าฉันจะรักนาย”
 
...
 
 
[แพ็คเกจ:Part]
 
 
“ตื่นแล้วหรอคะ คุณแพ็คเกจ” เสียงทักทายจากในครัวดังขึ้นเมื่อผมเดินเข้ามา ในตอนเช้า ก็อยากจะตื่นสายๆอยู่หรอก แต่ผมถูกฝึกให้ตื่นเช้าตลอด เลยตื่นเวลานี้เป็นประจำ
 
“พี่แพ็ทล่ะ ป้าแก้ว”
 
“ยังไม่ลงมาเลยค่ะ ป้าว่าคุณแพ็คเกจไปรอที่โต๊ะอาหารนะคะ เดี๋ยวป้าก็ตั้งโต๊ะแล้วล่ะ” ผมพยักหน้ารับ และเดินออกมา รู้สึกงัวเงียมากแต่ก็นอนต่อไม่หลับ
 
“ตื่นแล้วหรือ ไม่นอนต่อล่ะแพ็ค...” พี่แพ็ทลงมาพอดี “เมื่อคืน เมาไม่รู้เรื่องเลยนะเรา ไปหัดดื่มเหล้าที่ไหนมาน่ะ น่าตีจริงๆเลย”
 
“เมา?.........พี่รู้ได้ไง” ผมก็เพิ่งจะนึกได้ ว่าเมื่อคืนนั่งดื่มกันที่บ้านไอ้ปอ แล้วก็........ “ผมกลับมาได้ไงอ่ะ”
 
“อ้าว....ก็ครูเซฟมาส่งไง นี่จำไม่ได้เลยหรอ ไม่ไหวเลยนะเรา” อีกแล้วหรอวะ! หวังว่าคารวนี้ผมคงไม่ทำอะไรบ้าๆกับไอ้ครูเซฟไว้อีกหรอกนะ
 
“เฮ้อออ.......พี่จะทำงานเลยหรอ”
 
“เปล่า วันนี่พี่มีนัดน่ะ.......มีนัดตัดชุด....ชุดแต่งงาน” ผมวางช้อนในมือลง มองพี่สาวตัวเองอย่างไม่เข้าใจ
 
“พี่ว่าอะไรนะ...แต่งงาน....แต่งกับใคร.....พี่ไม่เคยคบกับใครไม่ใช่หรอ คิดดีแล้วหรอ ทำไมผมไม่รู้ล่ะ ไอ้หมอนั่นมันเป็นคนยังไง ทำงานอะไร อยู่ที่ไหน”
 
“แพ็ค! เพราะอย่างนี้ไง พี่ถึงไม่บอก ฟังพี่นะ....”
 
“ไม่!!!! งานแต่งบ้าบออะไร จะไม่มีวันเกิดขึ้น!!!” ผมลุกขึ้นจากโต๊ะ วิ่งมาขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็ว นี่มันเรื่องบ้าชัดๆ ผมกำลังจะเสียพี่สาวไป พี่แพ็ท กำลังจะแต่งงานกับใครก็ไม่รู้ ต่อไปผมคงต้องอยู่คนเดียวจริงๆ ผมไม่ยอมแน่ๆ
 
 
“มาไมแต่เช้าวะ” ไอ้ไอซ์ออกมาเปิดประตูให้ผม ท่าทางงัวเงียบอกให้รู้ว่า มันคงเพิ่งตื่นเหมือนกัน
 
ผมเข้าไปในบ้านมัน ไอ้ปอนอนอยู่บนโซฟา โดยมีกางเกงตัวเพียงเดียวเปลือยท่อนบน ของทุกอย่างจากเมื่อวานถูกเก็บกวาดไปเรียบร้อยแล้ว ผมจึงนอนลงบนพื้นพรมด้านล่าง
 
“เมื่อคืนครูไปส่งมึงหรอ กูจำไม่ได้ ตื่นมา แม่ง หายล่ะ”
 
“เออ.....กูนอนแปบ”
 
“เดี๋ยวตอนบายกูปลุกนะ ไปดูหนังกัน เค๊” ผมครางรับ อืม ในลำคอและดึงหมอนที่ไอ้ปอหนุนอยู่มานอน ตอนนี้อยากให้สมองโล่งก่อนค่อยคิด ว่าจะทำยังไง กับ เรื่องบ้าๆที่ผมเพิ่งจะรับรู้มา
 
 
 
“อ่า...คนเยอะอ่ะ เตงเลี้ยงเค้าใช่ป่ะ” ภาษาเหี้ยนี่มาอีกแล้ว
 
“พวกมึงอย่าเริ่ม กูอายคน เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง” ไอ้ปอกับไอ้ไอซ์หัวเราะคิคิ ก่อนจะเดินนำไปหน้าโรงหนัง
 
“ดูเรื่องไรดีวะ ทรานส์ฟอร์เมอร์สๆ นะๆ เอาตังมาเลยๆ ไอ้แพ็ค” ผมส่งบัตรไปให้ไอ้ปอเพราะไม่ได้เอากระเป๋าตังมีด้วย โชคดีที่มีบัตรติดอยู่ในรถ
 
“อ้าว ครู....ครูเซฟ!” เสียงไอ้ไอซ์ ทำให้ผมหันไปมอง ปรากฏว่า ไอ้ครูเซฟยืนจับมืออยู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่ผมจำได้ ว่าชื่อกาย เค้า....จับมือกันและเดินมาทางนี้ ผมอยากจะทำเป็นไม่สนใจแต่ก็อดไม่ได้ที่จะมอง
 
“ไง มาดูหนังกันหรอ รีบเที่ยวกันล่ะสิ ปิดเทอมทั้งทีนี่เนอะ”
 
“ครูล่ะ พาแฟนมาเที่ยวหรอ คึคึ” ไอ้ปอถาม และคำถามของมันทำให้ผมอยากจะก้าวเท้าเดินออกไปจากตรงนั้น
 
“ไม่ใช่ นี่เพื่อนครูเอง เนี่ยลูกเจ้าของโรงเรียนของพวกนายนะ รู้ยัง” ว่าไงนะ...ผมก็เพิ่งจะรู้นะเนี่ย
 
“สวัสดีคับ เหอะๆ ผมไม่รู้จักมาก่อนเลยอ่ะ ขอโทษนะคับ”
 
 
“เฮ๊ะ!!! นั่นใช่เด็กที่มึงพามาที่ร้านนี่ ใช่มั้ยวะ” เสียงพี่....เอิ่บ พี่กายพูด ชิท์ ผมต้องเรียกเค้าว่าพี่ใช่ป่ะ
 
“ใช่ แพ็ค....ทำอะไร ยืนหลบหน้าอยู่ได้”
 
“เปล่าหลบซะหน่อย!!!....เอ่อ...สวัสดีคับ....ไปซื้อตั๋วได้ล่ะจะดูหนังไม่ใช่หรอ มัวแต่ยืนคุยอยู่ได้” เกือบเผลอขึ้นเสียงใส่ไอ้ครูเซฟไปแล้วมั้ยล่ะ
 
“พวกเราก็จะดูหนังเหมือนกัน งั้นดูด้วยกันเลยสิ ไอ้เซฟ....มึงเลี้ยงนะ เลี้ยงเด็กๆด้วย” พี่กายบอก ทำไมถึงยิ้มได้น่ารักแบบนี้นะ ชิท์
 
“ดีๆ ครูเซฟเลี้ยง เย้ๆ เอาบัตรมึงคืนได้เลย คึคึ” ไอ้เพื่อนเลว ไอ้ครูเซฟมันยกยิ้มให้ผมแต่ผมไม่ยิ้มตอบคับ ทำเป็นเบือนหน้าหนีเหมือนทุกครั้ง
 
เมื่อซื้อตั๋วหนังเสร็จเรียบร้อย ไอ้ปอกับไอ้ไอซ์มันชวนผมไปซื้อขนมกับเครื่องดื่ม โดยให้ผมเลี้ยงอีกนั่นแหละ แต่ละคน ไม่ลงทุนอะไรเลย ตังน่ะมีแต่ แม่ง ไว้ซื้อเกมโน้น
 
“ถบไปดิ๊” ผมบอกไอ้ไอซ์เพราะมันนั่งลงก่อนผมและเว้นที่ว่างไว้ให้ผมนั่งติดกับไอ้ครูเซฟเรียบร้อย
 
“มึงก็นั่งตรงนั้นดิ มึงสนิทกับครูสุด เร็วๆ คนอื่นเค้าจะเข้ามั่ง” เออเนอะ มันเอาอะไรมาวัดวะ ว่าผมสนิทกับไอ้ครูเซฟสุด เหี้ย
 
ผมเลยต้องนั่งลงข้างๆไอ้ครูเซฟโดยฝั่งโน้นก็เป็นพี่กาย ไม่นานไฟในโรงหนังถูกปิดลง มีเพียงแสงจากภาพจอใหญ่ที่ส่องผ่านให้เห็นรางๆ
 
“ฉันกับกายแค่มาดูหนังน่ะ” คนข้างๆผม กระซิบบอก
 
“แล้วมาบอกผมทำไม......ไม่เห็นเกี่ยวกับผมเลย” ผมหันมองคนข้างๆและเห็นรางๆว่า ร่างสูงเองก็หันมามองผมเช่นกัน
 
“ก็กลัวนายจะเข้าใจผิดน่ะ ฉันกับกายเราเป็นแค่เพื่อนกันนะ”
 
“ก็บอกว่า ไม่เกี่ยวกับผมไง เลิกพูดสักที จะดูหนัง!!!” ผมบอก และกลับไปสนใจหนังในจอใหญ่ ถึงแม้ปากจะพูดว่าไม่เกี่ยวกับผมแต่ลึกๆแล้วผมกลับรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูกกับสิ่งที่อีกคนบอกมา
 
 
 
 
“เดี๋ยวกูกับไอ้โอซ์จะไปเดินซื้อของแถวๆนี้ก่อน มึงจะไปป่ะ” หลังจากดูหนังจบ พวกผมแยกกับครูเซฟออกมา เห็นว่าจะไปส่ง พี่กายด้วย เหอะๆ บอกว่าเพื่อนๆ แต่ติดกันหนึบแบบนี้คงใช่หรอก
 
“ไม่ไป กูไม่ชอบคนเยอะ แยกกันตรงนี้ล่ะ”
 
“เออๆ ขับรถดีๆนะมึง” ผมโบกมือลาพวกมันก่อนจะขึ้นรถและขับออกมาเรื่อยๆ บ้านก็ไม่อยากกลับ จะไปไหนดีล่ะเนี่ย
 
............................................................................................
 
“ขอบใจนะที่มาส่ง วันนี้หนุกดีว่ะ ไว้วันหลังไปกันอีกนะ” กายบอกยิ้มๆ หลังจากที่ผมมาส่งมันหน้าคอนโดพี่หมอ
 
“เออๆ แต่คงไม่บ่อยล่ะ”
 
“ทำไม มึงจะไปตามจีบใครวะ....เห็นน้าาาา...แม่ง มองตลอด มึงอยู่กับธารได้เลย กินเด็ก อ่าๆๆๆๆๆ”
 
“เออๆ กูน่ะกินเด็ก แต่มึงน่ะ เป็นเด็กให้เค้ากิน ก๊ากๆๆๆๆ ไปล่ะนะคนสวยจู๊ดๆ”
 
“ไอ้เหี้ยยย” พูดมากนักเอาคืนซะบ้าง เหอะๆ ผมไปดูหนังกับไอ้กายมาครับ และที่สำคัญดันไปปะกับพวกแพ็คด้วยสิ เราเลยดูหนังด้วยกันโดยที่ผมอยู่ๆเฉยๆกลับต้องโดนเลี้ยงหนังพวกมันซะงั้น
 
ป่านนี้ ไม่รู้แพ็คจะกลับบ้านหรือยังนะ แต่วันนี้ดูมันแปลๆไป เหมือนมีเรื่องอะไรให้คิด ผมหันมองมันเป็นระยะตอนอยู่ในโรงหนัง แพ็คขมวดคิ้วตลอด และเหมือนมันจะไม่ได้ดูหนังเลยด้วยซ้ำ
 
เอ๊ะ!!! เหมือนผมจะเห็นรถแพ๊คนะ ตอนขับผ่านสวนสาธารณะเมื่อกี้ ผมจึงวนรถกลับไปดูและก็เจอรถของมันจอดอยู่จริงๆ ผมเลยลงจอดรถและเดินเข้าไปด้านใน ที่นี่ร่มรื่นดีมีต้นไม้เยอะเหมาะมากสำหรับมานั่งพักผ่อนหรือพาแฟนมา หวังว่าแพ็คคงจะไม่พาใครมาหรอกนะ
 
เหอะๆ ผมเจอแล้วครับ ร่างบางนอนอยู่ใต้ต้นไม้ต้นใหญ่ โดยมีผ้าบางๆใช้ปูนอน ผมจึงเดินเข้าไปหาเงียบๆ ไม่ให้มันรู้ตัว ก่อนจะนั่งลงข้างๆ มองหน้าเรียวใสที่กำลังหลับตาพริ้ม เด็กอะไรวะ ดื้อฉิบ เนี่ย มันน่า......บีบจมูกโด่งๆนี่ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
 
“อื่ม.........” อยู่มันก็พลิกตัวจากนอนหงายมาเป็นนอนตะแคง ทำให้เสื้อของมันเลิกขึ้นจนเห็นหน้าท้อง ผมจึงถอดเสื้อนอกมาห่มให้และนอนลงข้างๆมันโดยที่เราหันหน้าเข้าหากันและผมก็หลับตามมันไป
 
 
 
 
“โอ้ย......มึนหัวชะมัดเลย” ผมค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ ปรับรับสายตาให้เข้ากับแสงแดงที่กำลังสาดส่องมา รู้สึกเมื่อยตัวนิดๆเลยยกแขนขึ้นบิดตัวไปมา.... “อ้าว......เอ่อ....ตื่นนานยัง”
 
 
“นานล่ะ...!!!!” แพ็ค นั่งหน้าบูดมองผมอยู่ใกล้ๆ มันถอนหายใจแบบเซ็งๆและเบือนหน้าหนีอีกตามเลย
 
“แล้วทำไมไม่ปลุกล่ะ หึ......งั้นนอนต่ออีกนิดนะ” ผมนอนลงอีกครั้งแต่ครั้งนี้ มีตักของแพ็คไว้หนุนหัวครับ หึหึ
 
“เฮ้ย! ทำไร ลุกนะ.....ลุก!....อายคนมั่งเหอะ”
 
“อายทำไม ฉันยังไม่อายเลย ไม่เห็นแปลก...ว่าแต่นายน่ะ มีเรื่องไม่สบายใจล่ะสิ ถึงไม่ยอมกลับบ้าน”
 
“เปล่าซะหน่อย อย่าทำมาเป็นรู้เรื่องคนอื่นเค้าดีนักเลย”
 
“เพราะมันเป็นเรื่องของนาย ตัวนาย...แพ็ค! ฉันถึงรู้และดูออก นายยังไม่เข้าใจอีกหรอ ว่าฉันเป็นหวงนายนะ มีอะไรก็เล่าให้ฟังบ้างก็ได้ อย่าแบกรับไว้คนเดี๋ยวมากนักสิ” นิ่งครับ มันเงียบไปครู่หนึ่ง
 
“พี่แพ็ทจะแต่งงาน” นั่นไง ผมว่าแล้ว ที่แท้ก็คิดมากเรื่องนี้นี่เอง
 
“นายก็ควรจะยินดีกับพี่สาวนายสิ ดีออก พี่สาวนายจะได้มีความสุข”
 
“ความสุขบ้าบออะไร ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร ทำอะไร นิสัยจะดีหรือเปล่าก็ไม่รู้.......มันจะมาแย่งพี่แพ็ทไป แย่งทุกอย่างไปแน่ๆ”
 
“ทำไมคิดอย่างงั้นล่ะ นายไม่อยากให้พี่สาวนายมีความสุขหรอก ประเด็นของนายก็คือ นายไม่อยากให้มีคนมาแย่งความรักของนายไปจากพี่สาวนายใช่มั้ย”
 
“ไม่ใช่อย่างงั้นนะ”
 
“แพ็ค! การที่พี่นายจะมีความสุขมันไม่ทำให้นายมีความสุขหรอกหรอ ความรักระหว่างพี่น้อง กับ ความรักระหว่างคนรัก มันไม่ได้เหมือนกันหรือจะมาแทนกันได้หรอกนะ”
 
“มันก็รักเหมือนกันนี่”
 
“ไม่เหมือน....ฉันเคยคิดเหมือนกับนาย พอพี่หมอเข้ามาในชีวิตไอ้กาย มันทำให้เคยคิดแบบนั้น เพราะไอ้พี่หมอ แม่ง ทั้งหล่อ รวย เท่ ดูดีไปหมด และรู้อะไรมั้ย ความรักที่ไอ้กายมีให้ฉัน มันก็ยังเหมือนเดิม ทั้งที่ฉันพยายามจะออกห่างมันแต่สุดท้าย คำว่าเพื่อน ความรักแบบเพื่อน มันก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ถึงแม้มันจะรู้ว่าฉันคิดยังไงกับมัน ฉันถึงได้ตัดใจจากมันได้ไง”
 
“ตัดใจได้แต่ก็ยังรักนี่”
 
“ใช่..ยังรัก รักแบบเพื่อน เพราะว่า...ต่อไปฉันจะรักนายอย่างที่ฉันบอกไง” ผมยิ้มให้ร่างบางที่กำลังอึ้งกับคำว่ารักของผม ก่อนที่ผมจะลุกขึ้นมานั่งตรงๆ
 
“มันไม่ใช่หรอก รักบ้าบออะไรกัน ใครๆก็พูดได้ทั้งนั้นแหละ” แพ็คลุกขึ้นยืนและทำท่าจะเดินหนี แต่ผมคว้ามือมันไว้ได้
 
“ใช่ แต่ฉันจะไม่พูดกับใครแน่ๆ ถ้าฉันยังไม่แน่ใจ กับไอ้กาย ฉันยังไม่เคยพูดเลย ฉันไม่รู้ว่าชอบนายได้ยังไง ไม่รู้ด้วยว่าเมื่อไหร่”
 
“มันจะเกิดขึ้นไม่ได้หรอก ไม่สบายหรือเปล่า”
 
“คงจะไม่สบายจริงๆ ดูนี่สิ...” ผมดึงมือแพ๊ค มาทาบลงบนหน้าอกด้านซ้ายของผม “รู้สึกหรือเปล่า หัวใจของฉัน มันเต้นแรงผิดปกติ.....ก็เพราะนาย”
 
<<<<<<<<<TBC>>>>>>>>
 
มั่วสุดๆล่ะตอนเนี่ย พี่เพลียค่ะ T^T

ถ้าภาษาไม่สวย และมีคำผิด ขออภัยด้วยนะคะ

ปล.รู้ยังเรื่องนี้มี 50 ตอนนะ  :katai3:  :katai3:  :katai3:

ไปหล่ะเจอกันตอนหน้าน้า

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
! เหลืออีกสี่ตอนเองเหรอคะ

ขอบวกตอนพิเศษเพิ่ม ตอนละคุ่ได้ม้าา

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ครูเซฟเท่ห์อ่ะ
บอกรักกันแบบนี้ เราเป็นแพ็คเขินตายเลย


ปล.ห้าสิบตอนไม่รวมตอนพิเศษเน้อออออ :m13:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
งั้นอีก 4 ตอนจบงั้นหรอออ
โอ้ไม่นะ

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
รวดเดียวจบ เป้นอะไรที่ทรหดม้วกกก!! มีแต่คนกินเด้ก5555

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....47
 
 
“อืม..........” เสียงครางต่ำในลำคอของผม ที่กำลังจูบดูดดื่มกับริมฝีปากสีสดอย่างนุ่มนวล เล็ดลอดออกมาเบาๆ
 
ลีวายส์ใช้สองแขนโอบรอบคอผมไว้เพื่อพยุงตัว ผมไล่ฝ่ามือหนาไปตามรอบเอวบาง เลื่อนลงต่ำมาบดคลึงกับสะโพกกลมมล ก่อนจะบีบเค้นเพื่อระบายอารมณ์ร้อนรุ่มที่กำลังก่อตัวขึ้นในร่างกาย ที่จริง ก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำหรอกแต่ว่า.....ผมห้ามใจมาหลายครั้งแล้ว จนมันสะสมและในที่สุดก็ห้ามตัวเองไม่ไหว
 
ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อวันก่อน ผมกับลีวายส์ไม่เคยห่างกันแม้แต่นิด แม้กระทั้งไปทำงานผมก็ยังพามันไปด้วย ไม่ปล่อยให้มันคลาดสายตาก็ว่าได้
 
และนี่ เมื่อสามสิบนาทีก่อน ผมมานั่งทำงานโดยให้ลีวายส์นั่งอยู่บนตัก ต่อมาก็เป็นอย่างที่เห็นเนี่ยแหละ กลิ่นแป้งอ่อนๆ ที่ลีวายส์ใช้เป็นประจำยังคงให้ความรู้สึกอยากหอมแก้ม อยากจูบ อยากกลืนกินมันไปทั้งตัวเหมือนทุกครั้ง
 
“อ่ะ!!! พะ...พี่ธาร....พอก่อนฮะ” ลีวายส์บอกทันที เมื่อผมละริมฝีปากออก สองข้างแก้มใสขึ้นสีแดงไปถึงหู พร้อมกับเม้มปากเล็กจนเป็นเส้นตรง
 
“กลับบ้านกันเถอะ” ผมบอก และเตรียมเก็บเอกสารบนโต๊ะทำงานตรงกลับบ้านทันที บ้านที่ว่าก็คอนโดนั่นแหละ มันชินปาก
 
“ลีวายส์อยากแวะซื้อของก่อนฮะ ของใช้จะหมดแล้ว”
 
“จะแวะอะไรตอนนี้” ผมกัดฟันพูด อย่างเซ็งๆ แต่ก็ยอมเลี้ยวรถเข้ามาให้ห้างอยู่ดีนั่นแหละ โอเค ดูเหมือนผมต้องสงบสติอารมณ์ไว้ก่อน โอเค บอกกับตัวเองให้ใจเย็นๆและลดระดับความหื่นลงหน่อย อึ่ย!!!
 
“พี่ธารเหงื่อออกน่ะ....ไม่สบายหรือเปล่าฮะ” มันซื่อจริงหรือแกล้งวะเนี่ย ถ้าจะทำท่าเป็นห่วงกันขนาดนี้ คืนนี้เป็นห่วงตัวเองก่อนมั้ย!
 
“รีบไปซื้อของไป จะได้รีบกลับ” ผมถอดเสื้อสูทออกก่อนจะคลายปมเนคไทและปรดกระดุมคอเสื้อเชิ้ตให้รู้สึกสบายตัวขึ้น รีบพาลีวายส์เข้าไปซื้อของข้างใน
 
ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องกับลีวายส์วันนั้น ผมพยายามหาตัวยัยน้ำพี่สาวของผมให้เจอ โดยไอ้แมนเป็นคนส่งลูกน้องมันไปสืบหา แต่ยัยนั่นไหวตัวทัน เธอหนีไปอยู่ที่ไหนแล้วก็ไม่รู้
 
ถึงอย่างงั้นผมก็ยังไม่วางใจหรอก ยังคงสืบหาต่อไป เพราะในเมื่อเธอทำได้ถึงขนาดนี้แสดงว่าเธอเดือดร้อนอะไรมาสักอย่างแน่นอนถึงได้อยากจะพาลีวายส์ไป เชื่อว่าสิ่งเดียวที่เธอต้องการก็คือเงินที่ลีวายส์มีอยู่
 
ผมเองก็ยังไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหานี้ได้ยังไง จะให้ผมปล่อยลีวายส์ไปอยู่กับยัยน้ำผมคงไม่ทำแน่น เพราะเมื่อยัยนั่นได้เงิน เธออาจจะทิ้งลีวายส์ก็เป็นได้ หรือจะให้ผมตามแก้ปัญหาให้เธอเหมือนเมื่อก่อนแลกกับให้ลีวายส์อยู่กับผม ผมก็จะไม่ทำอีก เพราะที่ผ่านมา ผมตามแก้ปัญหาให้แล้ว ยัยนั่นก็ยังสร้างปัญหาอื่นๆตามมา ตอนนี้เลยคิดแค่ว่าจะทำยังไงให้เธอหยุดทำเรื่องบ้านี่สักที
 
“พี่ธารๆ ลีวายส์อยากกินชาไข่มุกฮะ ตรงนั้นอ่ะ” ลีวายส์บอกพร้อมกับดึงมือผมไปยังหน้าร้านขายชาไข่มุกแบรนด์หนึ่ง
 
“เอาชานมช็อกโกแลตฮะ/คับ” มีใครคนหนึ่งพูดสั่งพร้อมๆกับลีวายส์ ทำให้ผมและลีวายส์พร้อมใจกันหันไปมอง
 
“พี่ฟิวส์” ลีวายส์พูดชื่ออีกคนออกมาเสียงเบา ก่อนจะหันมาสบตาผม ผมจำได้ว่าไอ้เด็กนี่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ที่โรงเรียนของมัน ที่ผมเห็นครั้งแรกก็ไม่ชอบขี้หน้า ไอ้เด็กฟิวส์มันมากับเพื่อนสองสามคน
 
“ดีคับลีวายส์ ดีจังที่เจอ ปิดเทอมหลายวันพี่คิดถึงลีวายส์แย่เลย” ผมดันลิ้นกับกระพุ้งแก้มเมื่อได้ยินประโยคนั้นจากไอ้เด็กฟิวส์ ลีวายส์ยิ้มให้นิดๆและพยักหน้ารับแค่นั้น
 
“เอ่อ...ลีวายส์ไม่อยากกินแล้วอ่ะ ไปเหอะพี่ธาร แฮ่ๆ” ^_^;;
 
“อ้าว....ทำไมล่ะ เดี๋ยวพี่สั่งให้นะ”
 
“ไม่ต้อง!!!......” ผมบอกก่อนจะดึงแขนไอ้เด็กฟิวส์เข้ามาใกล้ๆ “อย่าคิดจะเข้าใกล้ลีวายส์อีก”
 
“ทะ...ทำไม....ล่ะคับ”
 
“เพราะ ผัวมันดุ.......เข้าใจนะ!” ไอ้เด็กฟิวส์เบิกตากว้างยืนนิ่งอึ้ง เมื่อได้ยินสิ่งที่ผมพูด และหวังว่ามันคงเข้าใจนะ หึ!
 
“พี่ธารพูดอะไรกับพี่ฟิวส์ฮะ”
 
“เปล่านี่.....กลับยัง เดี๋ยวแวะซื้ออะไรไปกินเลยดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลาทำ” ผมบอก ลีวายส์พยักหน้ารับก่อนจะเดินตามผมมา
 
 
 
 
“ฟอด!!! อ่านอะไร ไหนดูซิ” ผมหอมแก้มใสฟอดใหญ่หลังจากนอนลงบนเตียงกว้างข้างๆลีวายส์ที่กำลังนอนอ่านหนังสืออยู่ก่อนแล้ว
 
“นิยายฮะ บุ๊คให้มา น่าสนุกดี”
 
“อืม......เก็บก่อนดีมั้ย” ผมดึงหนังสือในมือลีวายส์ไปวางไว้ข้างเตียง ก่อนจะหันกลับมาคร่อมร่างเล็กไว้ ลีวายส์จับไหล่ผมไว้อย่างแปลกใจ
 
“ทะ....ทำอะไรฮะ ไม่เล่นนะ....อุ๊บ!!!” ผมยกยิ้มมุมปากก่อนจะทาบริมฝีปากลงบดจูบกับริมฝีปากสีสด กลืนกินคำพูดมันเข้าปอด จูบย้ำๆสองสามครั้งก่อนจะถอนริมฝีปากออก
 
“กิน....เด็ก!” พูดจบ ผมทาบริมฝีปากลงอีกครั้ง ริมฝีปากบางเปิดออกเล็กน้อยคล้ายตกใจ ทำให้ผมได้โอกาสสอดลิ้นร้อนเข้าไปภายใน ตวัดไล่ลิ้นเล็กเก็บเกี่ยวความหวานอย่างช้ำชอง ในขณะที่อีกคนยังคงตั้งสติกับการรุกอันรวดเร็วของผมไม่ได้
 
“อื๊อออ.......”ลีวายส์ครางต่ำในลำคอเคลิบเคลิ้มกับรสจูบหวาน ผมลากมือไปทั่วร่างเล็กอันเบาะบางผ่านชุดนอนสีหวาน จากนั้นก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ดๆ จนเผยให้เห็นไหล่ขาวเนียนน่าสัมผัส
 
ผมถอดเสื้อมันออกเพราะรู้สึกรำคาญตา ผิวสีน้ำนมตรงหน้าทำให้ผมกัดริมฝีปากตัวเอง คิดว่าจะจัดการกับร่างเล็กอย่างไรดี
 
ลีวายส์เบือนหน้าหนีไม่ยอมสบตาผม สองข้างแก้มขึ้นสีแดงระเรื่อ ผมก้มลงจูบตรงข้างแก้มก่อนจะลากริมฝีปากลงมาขบเม้มซอกคอขาวแรงๆจนเกิดรอย ในขณะที่มือไม้ผมกำลังปั่นป่วนอยู่ตรงรอบเอวบางไม่หยุด
 
“ถ้าทำแรงๆจะทนได้มั้ยนะ” ผมกระซิบบอก ลีวายส์ช้อนสายตาขึ้นมองผม นัยน์ตาของมันบอกผมว่ามันกำลังกลัว
 
ผมจูบซับหน้าฝากลีวายส์เบาๆ บอกให้รู้ว่าผมจะไม่ทำอย่างที่พูดหรอก และลากริมฝีปากจูบซับลงมาเรื่อยๆ ผ่านไหปลาร้าคู่สวย มือหนาของผมกำลังเกี่ยวดึงอันเดอร์แวร์ของมันออกจากตัว ทำให้แกนกายเล็กที่ชูชั้นของคนใต้ร่างสัมผัสกับมือผม
 
“อ่ะ!!!.....อื๊ออ......” เพียงแค่ผมขยับมันเบาๆก็สามารถเรียกเสียงหวานออกจากปากของอีกคนได้เป็นอย่างดี ลีวายส์บิดกายไปมาเมื่อผมเริ่มขยับมือเร็วขึ้น
 
“อืมมมม....จ๊วบ!” ผมครอบปากลงกับยอดอกสีสวย พร้อมกับดูดจูบขบเม้มแรงๆ ระบายอารมณ์ คลุ้มคลั่งในตัว
 
“อ๊ะ.............อ่า................” ไม่นานน้ำรักสีขุ่นออกมาเลอะเต็มมือผม ลีวายส์หอบหายใจถี่คล้ายจะขาดใจ
 
ผมใช้มือที่เลอะคราบน้ำรักบีบเค้นก้นกลมมลแรงๆก่อนจะลากนิ้วผ่านร่องก้นไปทานหลัง ส่งผลให้แท่นร้อนผมเริ่มกระตุกมันอยากจะปลดปล่อยออกมาเต็มที
 
ผมจึงรีบจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองทิ้งไป ก้มลงจูบดูดริมฝีปากร่างเล็กเน้นๆอีกครั้งก่อนจะยกร่างมันขึ้นมารองหมอน
 
“ซี๊ดดดด......อดทนหน่อยนะ คนดี” ผมจูบหลังหูลีวายส์เบาๆ ใช้สองมือแยกขาเรียวออกจากกันพอประมาณ โน้มตัวลงให้ร่างกายเราแนบชิดติดกันไร้ซึ่งอากาศพัดผ่าน ก่อนจะเริ่มใช้นิ้วกับช่องทางรักของมัน
 
“อ๊ะ!!!!....อ๊า....พี่....อ๊ะ......ไม่......อ๊า....ไม่เอา” ลีวายส์ส่ายหน้าไปมาเมื่อรับรู้ถึงสิ่งที่เข้าไปภายใน เพียงแค่นิ้วเท่านั้นก็ทำให้มันแทบจะกรีดร้อง
 
“อดทนไว้..คนดี...จุ๊บ! เดี๋ยวก็รู้สึกดีแล้วนะ...นะครับ จุ๊บ” ผมจุ๊บมุมปากบางปลอบเมื่อเห็นว่าลีวายส์เริ่มงอแงขึ้นมา
 
“อ๊ะ!!! อ๊า.........”ผมเพิ่มนิ้วเข้าไปอีก และดูเหมือนลีวายส์จะรับไม่ไหว ผมจึงดึงนิ้วออก แต่ก็ใช่ว่าผมจะหยุด ผมตัดสิ้นใจขยับแท่นร้อนของตัวเองเตรียมพร้อม
 
“หายใจเข้าลึก...ลีวายส์...ซี๊ดดดดด......อ๊า......อย่าเกร็ง” พูดจบ ผมดันตัวเองเข้าไปทันที
 
“อ๊าก.......อ๊ะ!!!!....ไม่....อึกๆ....อ๊ะ!....เจ็บ.......อึกๆ.....”ลีวายส์ร้องเสียงหลงและสะอื้นตามออกมา ในขณะที่ผมรู้สึกเสียวซ่านไปทั่วร่าง
 
“แน่นไป....ซี๊ดดดด.....อ๊า......ชิท์! ผ่อนคล้ายหน่อยคนดี ไม่งั้นเจ็บมากกว่านี้ รู้มั้ย หืม” ลีวายส์ ส่ายหน้าไปมา ไม่รับรู้สิ่งที่ผมพูด มือเล็กจิกเล็บลงบนต้นแขนผมจนรู้สึกเจ็บ
 
“เจ็บ...อึกๆ....พี่ธาร.....อ๊ะ!!!!” ลีวายส์ร้องเสียงพร่า ผมเองก็เจ็บนะ เพราะช่องทางรักที่รัดแน่นเกินไป ผมจูบซับไปทั่วหน้าลีวายส์ก่อนจะหยุดจูบอยู่กับริมฝีปากมัน พลางขยับส่วนล่างไปด้วย
 
“อื๊ม......อ่า......”ลีวายส์กัดมุมฝีปากผมระบายความเจ็บ จนได้กลิ่นคาวเลือดแต่ผมไม่สนใจ เริ่มขยับตัวเร็วขึ้นตามอารมณ์ที่ตอนนี้มันแทบจะเรียกได้ว่าบ้าคลั่งสุดขีด
 
“อ๊ะๆๆๆ......”ร่างเล็กบิดกายคล้ายกับทรมานเต็มทนก่อนจะปลดปล่อยออกมาอีกรอบ ทั้งที่ผมยังไม่ถึงไหน
 
“ซี๊ดดดด....อ่า.....อ่า.......” และไม่นานผมก็ปลดปล่อยออกมาเช่นเดียวกัน น้ำรักสีขุ่นไหลออกมาเต็มโคนขาเรียวก่อนที่ผมจะค่อยๆขยับดึงมันออกช้าๆ
 
“อ๊ะ!!!....อึกๆ....อื๊อออออออออ.....อึกๆ อื๊ออออออ....” งานงอกมั้ยล่ะทีนี้
 
ลีวายส์ร้องไม่หยุดครับ ร่วมๆสองชั่วโมงได้ มันถึงจะยอมให้ผมอุ้มไปล่างตัวในห้องน้ำ ผมวางร่างเล็กลงบนเตียงกว้าง หยิบเอาเสื้อผ้าหนาๆมาใส่ให้ เพราะคืนนี้ฝนตกอากาศเริ่มหนาวกว่าปกติ
 
“นอนซะ หวังว่าตื่นมาคงไม่งอแงอีกนะ หึ!” ฟอด!!! ผมล้มตัวลงนอน ก่อนจะดึงร่างเล็กเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขนและค่อยๆหลับตามลีวายส์ไป
 
 
 
 
 
“ลีวายส์....ตื่นหรือยัง” ผมเข้ามาเรียกลีวายส์ในห้องนอนหลังจากตื่นมาต้มโจ๊กรอมัน แต่เรียกแล้วเรียกอีกลีวายส์ก็ไม่ยอมตื่นซะที
“จะไม่ตื่นจริงๆใช่มั้ย หืม”
 
“อ่ะ! ไม่ๆ ยังไม่ตื่นฮะ” หึ!
 
“หรอ....ไหนดูหน้าคนที่บอกว่ายังไม่ตื่นซิ” ผมนั่งลงบนเตียง ดึงผ้าห่มที่คลุมร่างเล็กจนมิดหัวออกแต่ร่างเล็กไม่ยอมให้ผมดึงง่ายๆ ลีวายส์จับชายผ้าห่มไว้แน่น
 
“พี่ธารอ่ะ ลีวายส์ยังง่วงอยู่เลยนะฮะ เดี๋ยวลีวายส์ตื่นแล้วจะเรียกเอง”
 
“ไม่ต้องเลย ออกมาจากผ้าห่มเดี๋ยวนี้ นับหนึ่ง..........” ยังนิ่งครับ เดี๋ยวนี้นางดื้อกว่าแต่ก่อนเยอะ “นับสอง.....” ลีวายส์ค่อยโผล่ออกมาจกผ้าห่ม ตากลมๆของมันกระพริบมองผม
 
“โกรธพี่ธารแล้ว....”ลีวายส์พูดเสียงอุบอิบ และค่อยๆลุกขึ้นนั่ง
 
“เช้าๆเลยนะ ลุกไปโจ๊กก่อนเร็วเข้า จะได้กินยา แล้วเดี๋ยวให้นอนต่อ เข้าใจมั้ย....จุ๊บ!” ผมบีบจมูกเล็กเบาๆ ลีวายส์เลยทำปากยื่นใส่ ผมเลยจุ๊บมุมปากของมันเข้าให้
 
“ลีวายส์....เอ่อ....ลุกไม่ไหวฮะ” ลีวายส์บอก สองข้างแก้มขึ้นสีนิดๆ นางขี้อายขึ้นด้วยล่ะ
 
“ก็บอกสิ แล้ว.....เจ็บมากมั้ย” ผมถามอย่างห่วงๆก่อนจะช้อนร่างเล็กขึ้นมาอุ้ม คำถามของผมทำให้ลีวายส์มุดหน้าลงกับแผงอกกว้างทันที
 
“เจ็บทั้งตัวแหละ โกรธพี่ธารเลย” ลีวายส์บอกเสียงแผ่ว ผมยกยิ้มมุมปาก
 
ผมพาร่างเล็กไปล้างหน้าล้างตาจากนั้นจึงออกมาท่านโจ๊กพร้อมกับให้ลีวายส์กินยาไปสองเม็ดไม่นานมันก็หลับไปและตื่นมาอีกทีในช่วงบ่าย
 
“พี่ธารๆ พี่ธารมีวันหยุดมั้ยฮะ”
 
“ทำไม อยากไปเที่ยวล่ะสิ กูรู้ทันหรอก” ผมบอกกับร่างเล็กที่กำลังนอนเล่นโทรศัพท์โดยเอาหัวมานอนหนุนตักผมอยู่
 
“ก็...เราไปหาแม่กันดีมั้ยฮะ ที่รีสอร์ทไง ไม่ได้ไปนานแล้วแม่คงคิดถึงพี่ธารแย่ล่ะ”
 
“หาเรื่องเที่ยวด้วยล่ะสิ ก็ดีนะ ไว้เช็ควันหยุดก่อน รู้สึกว่าอาทิตย์หน้าจะมีอยู่สองสามวัน” ลีวายส์ยิ้มกว้างเมื่อได้ยินอย่างนั้น
 
“เย้ๆ รักพี่ธารที่สุดเลยฮะ หอมหน่อย” ฟอด! ฟอด! ถึงกับหอมแก้มซ้ายขวากันขนาดนี้ ผมก็คงจะ.......ไม่ทน! หึหึ
 
“อืม....มานี่เลยมา” ผมดึงลีวายส์ขึ้นมานอนทับทาบลงบนตัวผมที่เอนหลังนอนราบไปกับโซฟา
 
“ทำไรฮะ...พะ....พี่ธาร....อุ๊บ!!!” พูดจบ ผมฉกจูบปากสีสดทันทีไม่รอให้มันได้ทักท้วงใดๆได้อีก ผมเพิ่งรู้จะว่าความสุขของผมก็คือการที่ได้มีลีวายส์อยู่ใกล้ๆนี่เอง
 
 
 
“พวกกูไปด้วยไม่ได้หรอวะ อยากไปอ่ะๆ” ไอ้แมนถาม มันลงมาส่งผมกับลีวายส์ที่รถด้านล้างคอนโดพร้อมกับจูงมือเมียมันลงมาด้วย คุณโอ๊ตไง คู่นี้ก็ไม่ยอมห่างกันด้วยล่ะ
 
“จะไปหาพระแสงมึงสิ เดี๋ยวแม่งแม่เล้าก็วีนแตกอีกหรอก ทีนี้มันได้ฆ่ากูตายกันพอดี” แม่เล้าที่ว่าก็ไอ้กายนั่นล่ะ วันก่อนถึงกับทำพวกผมสะอึกเล่นร้องไห้ด่าเรียงตัวกันเลยทีเดียว
 
“เอ่อๆ ไม่ไปก็ได้ แม่ง เราไปฮันนีมูนกันบนห้องก็ได้เนอะที่ร๊ากก จู๊ดๆ”
 
“จู๊ดๆ พ่อง !!! เดินทางปลอดภัยนะลีวายส์” คุณโอ๊ตด่าไอ้แมนเสร็จก็หันมาพูดกับลีวายส์บ้าง
 
“ฮะ ไว้ลีวายส์จะถ่ายรู้สวยๆมาฝากฮะ”
 
“ไม่ต้องหรอกค่ะลีวายส์ หนูเที่ยวให้สนุกนะคะ แต่อย่าลืมของฝากให้พี่แมนด้วยนะ” ผมอยากตบกะบาลมันจริงๆเลย คะขากับลีวายส์ตลอดล่ะ
 
“ขึ้นรถเถอะ จะได้ไปให้พ้นๆจนตรงนี้ซะที” ผมบอก ดึงแขนลีวายส์ให้ขึ้นรถ ส่วนไอ้แมน มันก็เดินบ่นตามหลังเมียมันกลับขึ้นห้องไป
 
 
 
 
 
เราออกจากคอนโดมาตั้งแต่เช้าๆ เพราะผมเห็นว่าวันนี้เป็นวันหยุด รถน่าจะเยอะคงมีคนไปเที่ยวพักผ่อนกันมากพอสมควร ลีวายส์พูดจานั้นโน้นนี้ตลอดทาง ก่อนจะเงียบไปในที่สุด ผมหันไปมองอีกทีก็พบว่ามันหลับไปแล้วจึงหยุดรถปรับเบาะให้ มันจะได้หลับสบายๆ
 
“ลีวายส์ จุ๊บ!!! ตื่นเร็วถึงแล้ว” ผมจุ๊บมุมปากเล็กเบาๆปลุก ลีวายส์ค่อยๆบิดตัวไปมาท่าทางงัวเงียแต่ก็พยายามสะบัดหัวให้ตัวเองตื่นเต็มตา
 
“อ่า....เร็วจังฮะ” ลีวายส์บอกก่อนจะเปิดประตูลงจากรถตามผม
 
“สวัสดีค่ะ คุณอีธาร คุณลีวายส์” พนักงานสาวออกมาต้อนรับผมกับลีวายส์ด้วยรอยยิ้มดีใจ “เชิญค่ะ คุณอีธารไม่โทรมาบอกก่อนล่ะคะว่าจะมา ดิฉันจะได้ให้พนักงานจัดเตรียมห้องไว้ให้”
 
“จริงสิ พอคิดว่าจะมาก็มาเลย ไม่ได้โทรมาบอกก่อน แม่ล่ะ”
 
“เชิญทางนี้ค่ะ คุณหญิงคงจะดีใจมากแน่ๆ ได้ยินท่านบ่นคิดถึงคุณทั้งสองคนอยู่ทุกวันเลยค่ะ” ลีวายส์ยิ้มดีใจพร้อมกับเกาะแขนผมเดินตามพนักงานสาวที่นำไปหาแม่ของผม
 
“คุณหญิงคะ...มีแขกคนสำคัญมาหาค่ะ”
 
“ใคร.......โอ๊ะ!!!.......อีธาร!ลีวายส์!” ท่านดูจะดีใจมากที่ผมมาหาแทบจะวิ่งเข้ามากอดก็ว่าได้ “กำลังคิดถึงอยู่พอดีเลยลูก”
 
“ใครมาน่ะแม่” เสียงใครบางคนดังมาจากอีกมุมหนึ่งของห้องทำให้ผมและทุกคนหันไปมอง
 
“ไอ้ธาร!!!........อ่ะ” เพล้ง!!!! ถ้วยกาแฟในมือเธอตกลงพื้นพร้อมๆกับผมที่เข้าไปกระชากต้นแขนและเหวี่ยงไปโดนตู้อะไรสักอย่างข้างฝาก่อนจะตามไปบีบคอเธอ “ โอ้ย! แกจะทำอะไรน่ะ แฮ่กๆ....อะ....ไอ้ธาร...แกเป็นบ้าไปแล้วหรอ แฮ่กๆๆ”
 
“ฉันเคยบอกแล้วถ้าฉันเจอเธอที่ไหนฉันจะไม่ลังเลที่จะจัดการกับเธอ เพราะคำว่าพี่น้องในตอนนี้ก็ช่วยอะไรเธอไม่ได้”
 
“พี่ธาร.....!!!!”
 
“นี่มันเรื่องอะไรกันน่ะอีธาร บอกแม่ก่อนลูก”
 
 
<<<<<<<<TBC>>>>>
=[]=
ผีเข้าพี่ธารแว้ววววววว
 มาลงอาทิตย์ละครั้งคือระ...???
 ถ้าภาษาไม่สวย และมีคำผิด ขออภัยด้วยนะคะ  :mew2:  :mew2:  :mew2:
ติชมคอมเม้นได้เต็มที่จ้า

ออฟไลน์ jub_jub

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 16
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
จัดให้หนักเลยอีธานนนนนน

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
หึหึ จัดให้คางเหลือง
เอาให้เข็ดไปเลย
จะได้เลิกยุ่งกับลีวายเสียที

ออฟไลน์ poppycake

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2670
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-4
ตืบเจ๊แก แบบจัดหนักไปเรยนะ
หึหึหึ -_-^^^^^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
โฮๆๆๆ ไม่นะ จะจบแล้วหรา  อย่าเพิ่งเลยนะ คู่แพคกะเซฟยังไม่ถึงไหนเลยอ่าาาา T_T
ที่สำคัญ เค้าอยากอ่านอีกนานๆๆๆๆนะๆๆๆๆ 

พี่ธาร จัดการยัยน้ำให้รู้เรื่องเลยนะ จะได้ไม่มาวุ่นวายกะลีวายส์อีก!!!

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....48
 
“ปล่อยฉันไอ้ธาร แฮ่กๆๆ  ปล่อย โอ้ย!!!” ผมผลักร่างบางล้มลงกับพื้น ก่อนจะตามไปกระชากแขนขึ้นมาบีบแรงๆ
 
“แค่นี้มันยังน้อยไปกับสิ่งที่เธอทำ ทิ้งมันไว้ยังไม่พอใช่มั้ย ห๊ะ!!!!”
 
“ไอ้ธาร!!!!” ยัยน้ำตวาดเสียงใส่ผม เพราะเธอโกรธเมื่อผมพูดออกมาเช่นนั้น
 
“พอที ลีวายส์ร้องใหญ่แล้ว”เสียงของแม่ ทำให้ผมหันไปมองลีวายส์ที่ยืนอยู่ไม่ห่างกัน มันกำลังร้องไห้จนแม่ต้องเข้าไปกอดปลอบ
 
“นี่แม่รู้........หรือว่า.....มึงบอกแม่แล้วงั้นหรอ!!!!”
 
“ทำไม ไม่อยากให้แม่เสียใจ หรือไม่อยากให้รู้ถึงสิ่งเลวๆที่ตัวเองทำไว้ล่ะ” ยัยน้ำยันตัวลุกขึ้นมาประจันหน้ากับผม
 
“ก็ใช่สิ กูมันไม่ดีนี่! ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่องสักอย่าง ไม่เหมือนมึงกับพี่ฝน ที่ทำอะไรก็ดีไปหมด กูมันเป็นลูกคนกลางจะทิ้งจะขว้างยังก็ได้ ไม่มีใครสนใจอยู่แล้ว ถึงแม่จะรู้ ถึงกูจะทำตัวยังไง มันก็ไม่มีใครสนใจอยู่แล้วนี่!!!”
 
“น้ำ ทำไมพูดอย่างนี้ล่ะลูก”
 
“ก็มันจริงนี่ ตั้งเล็กจนโต หนูมันไม่ดี เรียนก็ไม่เก่ง ทำงานก็ไม่ได้เรื่อง พ่อกับแม่ถึงไล่หนูไปเรียนต่างประเทศ ไม่สนใจใยดีว่าจะอยู่ที่นั่นยังไง หนูผิดหรอที่หนูทำตัวแบบนี้ ก็มันชีวิตหนูนี่ ถ้าจะผิดก็ผิดตอนที่แม่คลอดหนูออกมา!!!”
 
เพี้ย!!!!! ผมฟาดมือใส่หน้ายัยน้ำอย่างเหลืออด เพราะทนฟังสิ่งที่เธอพูดไม่ได้
 
“อย่างโทษพ่อแม่ว่าผิด เพราะถ้าไม่มีพ่อแม่เธอคงไม่ได้มายืนอยู่ตรงนี้ มองสาระรูปตัวเองดูซะบ้าง ว่า ณ ตอนนี้เธอยังมีคนเป็นคนอยู่หรือเปล่า!!! ไม่มีใครทำอะไรแล้วออกมาดีไปซะหมด ทุกคนล้วนแล้วแต่ต้องเรียนรู้และพยายาม สิ่งที่เธอพูดมา ว่าเธอเรียนไม่เก่ง ทำไม่ได้ เธอทำมัน พยายามกับมัน จนถึงที่สุดแล้วหรอ ถ้าคิดไม่ได้ก็ไปตายซะ!!!!”
 
“ธาร!......อึกๆ พอเถอะลูก  อึกๆ”
 
“ยังน้อยไปสิ ที่จริงเธอไม่ควรมาอยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ!!! ถ้าดูถูกตัวเองแบบนี้ ประชดชีวิตด้วยการทำสิ่งเลวๆ ก็ออกไปจากชีวิตทุกคนซะ อย่ามาทำให้คนอื่นเดือนร้อน และอย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก ออกไป!!!!”
 
“ธารพอลูก!!!! อึกๆ......น้ำ......แม่ขอโทษ แม่ขอโทษที่ทำให้ลูกคิดแบบนั้น แต่แม่ไม่เคยทิ้งลูกนะ.......ไม่เคยเลยสักครั้ง อึกๆ” แม่ร้องไห้ออกมา ก่อนจะเดินเข้าไปกอดยัยน้ำ ที่ตอนนี้ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นพร้อมกับร้องไห้ออกมาจนตัวสั่น
 
“อึกๆ...พี่ธาร....อึกๆ อือออ......” ลีวายส์ไม่ควรจะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้แต่มันก็ช่วยไม่ได้ คนเราต้องมีจิตสำนึกในตัวเอง ผมหวังว่ายัยน้ำจะคิดอะไรได้บ้าง
 
 
 
“ตกใจหรอ ไหนมาดูซิ ตาบวมหมดแล้ว....หยุดร้อง ฟอด!!!” ผมพาลีวายส์มายังห้องพัก กอดคอยปลอมมันอยู่พักใหญ่จนหยุดร้อง
 
“แม่.......จะเป็นยังไงบ้างฮะ”
 
“นี่ยังจะเรียกยัยนั่นว่าแม่อีกหรอ เหอะ! ยัยนั่นทำถึงขนาดนั้นเนี่ยนะ”
 
“ก็.....ช่วงเวลาหนึ่ง แม่เคยดูแลลีวายส์นี่ฮะ พอเห็นแม่ร้องไห้ลีวายส์ว่า....แม่น่าสงสารนะฮะ ลีวายส์สงสาร” ลีวายส์พูดบอก
 
“โอเค แต่ถึงจะน่าสงสาร ตอนนี้ก็ยังไว้ใจไม่ได้ เข้าใจนะ” ลีวายส์เม้มปากนิดๆ ก่อนจะซุกหน้าเข้าหาแผงอกผม
 
“พี่ธารฮะ ถ้าวันนั้น วันที่แม่พาลีวายส์หายไปจริงๆ พี่ธารจะทำยังไงฮะ” อยู่ๆลีวายส์ก็ถามผมขึ้นมา
 
“ไม่รู้สิ รู้แค่ว่ายังไงก็ต้องหาให้เจอ....ถามทำไม” ผมยกมือขึ้นทัดผมนุ่มๆของมันไว้กับหูก่อนจะจูบมุมปากบางเบาๆด้วยความเคยชิน
 
“ก็....วันนั้นลีวายส์กลัวมากเลยฮะ ถ้าเกิดแม่พาลีวายส์ไปจริง แล้วพี่ธารจะหาไม่เจอ....”
 
“หึ! กูก็กลัว กลัวว่าจะเสียมึงไป.......พอเถอะ อยากนอนพักต่อหรือจะไปเดินเล่นดี วันนี้ตามใจหนึ่งวัน” ถือว่าเพิ่งเจอเรื่องบ้าๆมา ผมก็อยากจะเอาใจมันหน่อย เห็นมันไม่ยิ้มแล้วรู้สึกหดหู่
 
“จริงๆหรอฮะ คึคึ”
 
“ยิ้มออกเชียวนะ ตกลงจะทำอะไร”
 
 
 
บ้างทีผมก็คิดว่าตัวเองพาลูกมาเที่ยวยังไงยังงั้น ผมมองลีวายส์ผ่านแว่นกันแดดสีชา ร่างเล็กใส่เสื้อกล้ามสีขาวกับกางเกงยีนขาสั้นที่ผมยอมให้มันใส่ เพราะคำว่าตามใจค้ำคอ ร่างเล็กกำลังวิ่งไปเก็บลูกบอลตรงชายหาด ผิวขาวๆของมันดูออร่าจนคนที่เดินไปผ่านมันต้องมอง ชิท์!
 
“พี่ธาร ลีวายส์อยากขี่เจ็ตสกีฮะ พี่ธารสอนหน่อย นะๆ นะฮะ”
 
“แดดร้อน ไว้เล่นช่วงบ่ายๆ ไปหาอะไรกินก่อนดีมั้ย หิวแล้วเนี่ย” ลีวายส์ทำปากยืนใส่ผมแบบงอนๆ แต่ก็ยอมพยักหน้ารับ ผมจึงดึงร่างเล็กเข้าหาและโอบเอวบางไว้เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ เดินไปตามริมหาดมาหาร้านอาหารทะเลใกล้ๆทาน
 
“ลีวายส์อยากกินกุ้ง พี่ธารสั่งกุ้งเยอะๆเลยฮะ” ตามใจเค้าล่ะครับ กุ้งก็กุ้ง
 
“ธาร....หวัดดีค่ะ”
 
“เอมี่.....” ผมพูดชื่อผู้หญิงที่เข้ามาทักเมื่อเห็นว่าเป็นใคร เอมี่เธอมากับเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่ผมไม่รู้จัก ทำไมต้องเจอเธอที่นี่ด้วยก็ไม่รู้
 
“คิดถึงจังเลยค่ะ มากันสองคนหรอ ร่วมโต๊ะด้วยได้ป่ะ” ผมมองหน้าลีวายสิ์นิดๆ สีหน้าของมันแบบ อย่างกะหมาหวงเจ้าแหนะ?!
 
“ผมไม่สะดวก คุณไปนั่งกับเพื่อนเถอะ!” เอมี่ มองลีวายส์ด้วยหางตาก่อนจะเบะปากใส่และเดินไปนั่งกับกลุ่มเพื่อนของเธอ
 
“เป็นอะไรอีกล่ะ หน้าหยิกทำไม” ผมถามเมื่อเห็นว่าลีวายส์ไม่ยอมกินต่อ
 
“โกรธพี่ธารแล้ว” อ้าว กูผิดอะไรอีกวะ ผมก็ไล่เธอไปแล้วนี่ ผมขมวดคิ้วมองลีวายส์อย่างไม่เข้าใจ “ก็พี่ธารอ่ะ คุยกับผู้หญิงคนนั้นทำไม ทีกับลีวายส์ พี่ธารยังห้ามคุยกับคนอื่นเลย”
 
“ก็ถ้าไม่คุยแล้วเค้าจะไปหรอ อีกอย่างที่กูห้ามน่ะ มันเป็นไอ้พวกที่ไว้ใจไม่ได้ทั้งนั้น”
 
“พี่ธารรู้ได้ไงอ่ะ”
 
“ผู้ชายด้วยกันมองกันออก มึงมองไม่ออกหรอก ว่าไอ้พวกนั้นมันคิดอะไรอยู่”
 
“ลีวายส์ก็ผู้ชายนะฮะ ไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อยอ่ะ” ร่างเล็กทำหน้างอพร้อมกับกอดอกมองผม
 
“มันเหมือนกันที่ไหนเล่า พอเลยเลิกพูด รีบกินจะได้รีบกลับ หรืออยากอยู่ที่นี่นานๆ” ผมป้อนกุ้งตัวโตให้ลีวายส์ มันถึงได้อ้าปากรับ พร้อมกับบ่นอุบอิบไม่รู้เรื่อง
 
“กลับแล้วหรอคะธาร” ตอนเดินออกจากร้อนเอมี่ก็ยังไม่วายจะทักผมอีก  ลีวายส์ที่ยื่นอยู่ใกล้ๆเลยยกมือขึ้นเกาะแขนผม ทำให้ผมแอบขำนิดๆ หึๆ ผมพยักหน้าตอบเอมี่ เพราะถ้าพูดกับเธอเดี๋ยวไอ้เด็กข้างๆมันจะไม่พอใจเอา ไม่ได้กลัวแต่ไม่อยากให้มันงอแงน่ะ=_=
 
“แล้วธารพักที่รีสอร์ทหรือเปล่า ไว้เอมี่จะไปหานะคะ”
 
“ไม่จำเป็นหรอก ผมมาพักผ่อนแบบส่วนตัว” เอมี่หุบยิ้มลงก่อนจะปลายตามองลีวายส์อีกครั้งและสะบัดหน้าเดินจากไป
 
“อมยิ้มอะไร”
 
“ก็เปล่าฮะ พี่ธารนี่แอบปากร้ายนะฮะเนี่ย........ไปฮะไปเล่นเจ็ตสกีกัน”
 
“เดี๋ยว อาหารยังไม่ทันจะย่อยเลย อีกสามสิบนาทีเดี๋ยวพาไป โอเค๊! อย่างอแงนะ ไม่งั้นจับโยนลงทะเลเลยนี่”
 
“ก็ได้ๆ งั้นไปเดินดูของฝากให้บุ๊คกับเรเนสนะฮะ ลีวายส์เห็นตอนเดินมาเมื่อกี้ มีเยอะแยะเลย จะซื้ออะไรดีนะ.....*&^%$#@!”
 
 
 
แล้วผมกับลีวายส์ก็เดินเที่ยวกันไปเรื่อยๆ จนช่วงบ่ายผมก็พามันไปเล่นเจ็ตสกีอย่างที่บอก ดูเหมือนมันจะชอบมากเลยเล่นกันซะจนฟ้ามืด ถึงได้พากันกลับมายังห้องพัก
 
“คราวหน้ามาเล่นอีกนะฮะ สนุกมากเลย ถ้าเพื่อนๆมาด้วยต้องสนุกกว่านี้แน่ๆ” ลีวายส์บอก มันนั่งอยู่ตรงขอบอ้างอาบน้ำโดยที่ผมกำลังสระผมให้มันอยู่
 
“เอาสิ ปิดเทอมหน้าจะพาเพื่อนมาด้วยก็ได้”
 
“จริงหรอฮะ ดีจัง......พี่ธารสระผมมั้ยฮะ เดี๋ยวลีวายส์สระให้ นะๆ...ลีวายส์อยากทำ” ผมพยักหน้าก่อนจะนั่งลงบนพื้น ระหว่างขาสองข้างของลีวายส์  ปล่อยให้ลีวายส์สระผมให้จากนั้นเราก็อาบน้ำด้วยกันต่อ อ่ะๆ แต่ผมไม่ได้ทำอะไรมันนะ บอกก่อน
 
ก็ตั้งแต่ที่เผลอทำมันร้องไห้ไปวันนั่น ผมยังไม่ทำกับมันเลยนะ แม่ง กลัวมันเจ็บจนร้องไห้งอแงอีก ถึงจะพยายามอ่อนโยนเท่าไหร่นาทีนั้นมัน ควบคุมตัวเองไม่อยู่จริงๆ
 
“ใส่เสื้อหนาๆนี่ กลางคืนลมแรง” ผมหยิบเอาเสื้อแขนยาวมาให้ลีวายส์สวมใส่แทนเสื้อยืดตัวบางของมัน ลีวายส์รับไปใส่เสร็จเรียบร้อย มันนอนหงายหลังลงบนเตียงทันที
 
“วันนี้สนุกที่สุดเลย เหนื่อยด้วยอยากนอนแล้วอ่ะ”
 
“ยังไม่กินข้าวเย็นเลย.....หืม....ทำอะไรน่ะ” ผมถามเมื่อหันไปเห็นลีวายส์กำลังยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายรูปผม
 
“ถ่ายรูปพี่ธารไงฮะ”
 
“ไหนมาดูซิ หล่อหรือเปล่า....” ผมนอนลงข้างๆลีวายส์ ใช้มือข้างหนึ่งเท้ายันศีรษะ  ส่วนอีกข้างกอดเอวบางไว้แบบหลวมๆ ลีวายส์ยกโทรศัพท์ให้ผมดู มันถ่ายจริงๆด้วยเห็นแต่ด้านข้างอ่ะ
 
“หล่อสิ พี่ธารหล่อที่สุด แต่สู้ลีวายส์ไม่ได้ ลีวายส์หล่อกว่า อ่าๆๆ...อุ๊บ!!!” ผมฉกจูบริมฝีปากบางด้วยความหมั่นไส้ก่อนจะถอนจูบออก
 
“โทษฐานหล่อกว่า.....หึ! ฟอด!!!” แถมหอมแก้มอีกที
 
“ไอ้ธาร!” พรึ่บ!!! ผมกับลีวายส์รีบลุกขึ้นนั่ง เมื่อได้ยินเสียงเรียกตรงประตู ทีแรกก็คิดว่าเป็นแม่ แต่ว่าไม่ใช่
 
“มีอะไร”
 
“นี่พวกแก.....เหอะ! ถึงว่า......ฉันมีเรื่องจะคุยด้วย ลีวายส์ด้วย ฉันออกไปรอข้างนอก” ยัยน้ำเดินออกไป ปล่อยให้ผมกับลีวายส์มองหน้ากันอย่างสงสัยก่อนจะตามออกไปทีหลัง
 
“ว่ามา”
 
“ฉันเอานี่มาให้.....” ยัยน้ำส่งซองเอกสารสีน้ำตาลมาให้ลีวายส์ “บ้านที่ออสเตรเลีย พ่อมันให้ไว้ ฉันจะขายไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้ขาย” ผมรับซองเอกสารมาเปิดดู และก็เป็นเอกสารเกี่ยวกับที่ดินพร้อมบอกสถานที่ตั้ง
 
“บ้านลีวายส์ ขอบคุณฮะแม่!....เออ...ขอโทษฮะ” ลีวายส์พูดออกมาด้วยความดีใจจนลืมตัวเผลอเรียกยัยน้ำว่าแม่ ทำให้ยัยน้ำตวัดสายตามอง
 
“ต่อไปไม่ต้องเรียกฉันว่าแม่อีก....ฉันไม่ใช่แม่ ให้เรียกว่าพี่คงจะเหมาะกว่ามั้ง ว่ามั้ยไอ้ธาร” ยัยน้ำยกยิ้มมุมปากให้ผม
 
“เงียบปากไปเลย ต่อไป อย่ามายุ่งกับมันอีกก็พอ”
 
“อะไรจะห่วงขนาดนั่น เออๆ ฉันรับปาก..........ฉันขอโทษนะที่ทำให้แกลำบาก ขอโทษที่สร้างแต่ปัญหาให้แกมาตลอด จากนี้ไปฉันคงจะอยู่ช่วยแม่ที่นี่ ต้องขอบใจนะ ที่ตบฉันน่ะ เหอะ!!! ดีนะที่ไม่เสียโฉม ไม่งั้นแกตายแน่ แล้วก็อีกอย่าง เงินแกน่ะ ฉันไม่คืนนะ เพราะจำไม่ได้ว่ารวมๆแล้วเอาของแกไปกี่ล้าน”
 
“กูถือว่าทำบุญ”
 
“บุญแม่งมึงสิ อ่อ แม่บอกว่า ให้ไปทานมือค่ำด้วยกัน อีกเดี๋ยวยัยพี่ฝนจะมาด้วย ฉันไปล่ะ” ยัยน้ำออกไปจากห้องพักผมโดยมีลีวายส์มองตามไปแบบงงๆ
 
“แม่เค้า เอ่อ พี่น้ำ......เค้า......”
 
“ยัยนั่นคงคิดได้แล้วมั้ง หึ! แต่ก็ต้องดูกันไปก่อน ยังไว้ใจไม่ได้หรอก” จากเหตุการณ์ที่แล้วๆมาทำให้ผมไม่ไว้ใจพี่สาวคนนี้ แต่ผมก็จะให้โอกาสเธอ คนเรายอมต้องโอกาสหากคิดจะกลับตัว
 
 
 
“ลีวายส์ มานั่งข้างๆแม่สิลูก” ผมกับลีวายส์มาทานข้าวกับแม่ตามที่ยัยน้ำบอก พี่ฝนพี่สาวคนโตที่ไม่เจอกันมานานก็มาด้วย
 
“ใครน่ะ” พี่ฝนถาม
 
“ลีวายส์ ลูกชายแม่อีกคน น่ารักมั้ยฝน นี่พี่ฝนพี่สาวของเราอีกคนนะ”ลีวายส์ยกมือไหว้พี่ฝนอย่างนอบน้อม ผมนั่งลงข้างๆลีวายส์ก่อนจะเริ่มลงมือทานข้าวกัน
 
“หึ! อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแต่ไม่โทรหาพ่อ มันใช้ได้ที่ไหนกัน” ทุกคนบนโต๊ะอาหาร ต่างหันไปมองทางเสียงพูดที่ดังมาจากหน้าประตู
 
“คุณ.....มาได้ยังเนี่ย” แม่เริ่มทักก่อน พวกเราจึงยกมือไหว้ท่าน พ่อเดินเข้ามาก่อนจะไล่มองทุกคน ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้
 
“ยัยน้ำโทรไปบอกฉัน พอดีกับที่ฉันกลับมาจากญี่ปุ่น ถึงแล้วก็ตรงมานี่เลย”
 
“งั้นหรอ นั่งก่อน มาช้าก็ยังดีกว่าไม่มา” แม่มองพ่อด้วยหางตาก่อนจะตักกุ้งตัวใหญ่ให้ลีวายส์
 
“แล้วนั่ง ลูกใครหลานใครล่ะเรา ลูกแกเหรออีธาร” ผมชะงักมือที่กำลังตักข้าวเข้าปาก มองพ่อด้วยสายตานิ่งๆ เอาจริงๆ ผมไม่ได้ดูแกขนาดนั้นนี่หว่า
 
“เมียมัน ไม่ใช่ลูก” เคร้ง!!! ช้อนในมือลีวายส์ตกลงพื้นครับ ในขณะที่พ่อแทบจะสำลักข้าวออกมาจากปาก ยัยน้ำ แม่ง!!!!
 
“น้ำ!!!”
 
“ก็มันจริงนี่แม่ มันหวงซะยิ่งกว่าอะไรดี ขนาดจะตัดพี่ตัดน้องกับฉันเลย นี่ถ้าเป็นคนนอกมันฆ่าฉันไปแล้วมั้ง”
 
“ถึงไม่ใช่คนนอกกูก็ฆ่าได้!!!!”
 
“พอๆ อะไรกัน....ทะเลาะกันเหมือนเด็กๆ.......ตกลงเมียไม่ใช่ลูก?”
 
“พ่อ!” พึ่งจะรู้นะเนี่ยว่าพ่อผมไม่ได้อคติหรือต่อต้านเรื่องแบบนี้ เหอะ! ก็ดี คงเพราะท่านไม่ได้สนใจอะไรผมมากมายอะไร
 
“อายุเท่าไหร่ล่ะเรา ลูกใครพ่อแม่ทำงานอะไร อยู่ที่ไหน หืม” ไม่ได้สนใจเลย จริงๆ =_=
 
“คุณ ถามเยอะไปนะ รู้เท่าที่รู้ได้มั้ยคะ! ลีวายส์ตกใจหมดแล้ว เงียบปากและกินไปเลย ปากจะได้ไม่ว่าง” เอ่อ....บางทีแม่ผมก็แอบปากร้ายนะ ผมก็เพิ่งเห็น เหมือนใครวะ (ประโยคนี้คุ้นๆแอบปากร้าย)
 
เราทานข้าวกันไปคุยกันไปเรื่อยเปื่อย นานแล้วที่ครอบครัวผมไม่ได้ทานข้าวกันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ ถึงแม้ทุกคนจะไม่มีเวลามีมาเจอกันแต่พอมาอยู่ด้วยกันในวันนี้
 
ผมกลับรู้สึกว่าเวลาที่เราห่างกันมันไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ที่เรียกว่าคนในครอบครัวห่างเหินออกไปเลยแม้แต่น้อย ถึงจะมีทะเลาะกันบ้างแต่ก็ไม่ได้จริงจัง ถึงขั้นโกรธเคืองอะไรมากมาย และที่สำคัญดูทุกคนจะมีความสุขกับการทานอาหารมือนี้มากเป็นพิเศษ
 
 
 
“วันนี้พี่ธารยิ้มบ่อยกว่าทุกวันเลยรู้มั้ยฮะ ปกติ หน้าพี่ธารแบบ....... - - เนี่ย” พูดไม่พอ มีการสาธิตให้ดูด้วย ลีวายส์ทำหน้าขมวดคิ้วยุ่งและทำตาปี๋ เหอะๆ
 
“ยิ้มแล้วไง ไม่ดีหรอ”
 
“ดีสิฮะ ลีวายส์ชอบตอนพี่ธารยิ้ม พี่ธารหล่อขึ้นเยอะเลย คงจะดีนะฮะถ้าทุกคนอยู่ด้วยกันแบบนี้บ่อยๆ”
 
“งั้นเราจะมาที่นี่บ่อยๆ ดีมั้ย” ผมบอก ดึงมือลีวายส์ให้นั่งลงบนตักเมื่อเดินมาหยุดอยู่ตรงเก้าอี้ริมสระน้ำ
 
“ลีวายส์อยากกลับบ้านจัง”
 
“พรุ่งนี้ก็จะกลับแล้ว......”
 
“ไม่ใช่ฮะ ลีวายส์หมายถึง ที่ออสเตรเลียฮะ เราไปกันได้มั้ยฮะพี่ธาร ลีวายส์อยากไปหาพ่อ อยากกลับไปดูบ้าน”
 
“ได้สิ อาทิตย์หน้า เราไปกันดีมั้ย จะได้ล่าพักร้อนด้วยเลย”
 
“จริงหรอฮะ รักพี่ธารที่สุดเลย จุ๊บ!!!” ลีวายส์จุ๊บลงบนแก้มผมเบาๆ ก่อนจะยกแขนขึ้นคล้องคอผมไว้
 
“ก็ลองไม่รักดูสิ....จุ๊บ!!!”
 
<<<<<<<<TBC>>>>>>>

แบบ.....เริ่มมีเสียงโว้ยวายล่ะ อัพช้าๆ...หายไปนานๆ....%$#@!!....??? 5555
 
ภาษาไม่สวย และมีคำผิด ขออภัยด้วยนะคะ

บอกอีกครั้งรู้ยังเรื่องนี้มี 50 ตอนจบนะ  :katai3:  :katai3: :katai3:

ปล.พี่ mirror on on  ฝากมาจร้ารบกวนอ่านนิดนึงน๊า

เรามาคุยกันหน่อยดีกว่า คือ.มีนักอ่านถามเข้ามาเยอะพอสมควรเกี่ยวกับการรวมเล่ม
เรื่อง Older Brother พี่ชาย.....ถึงร้ายก็จะ รัก! ค่ะ
บอกตามตรงว่าเราไม่ได้คิดจะรวมเล่มมาก่อน เพราะว่าเราไม่เคยทำ ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง อะไรบ้าง
แต่ในเมื่อมีนักอ่านถามมาเยอะ เลยไปปรึกษาน้องสาวดู เกี่ยวกับเรื่องรวมเล่นเนี่ยแหละ ก็ยังไม่ได้ขอสรุปหรอกค่ะ
 คนแต่งก็ไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพเนอะ
ก็เลยอยากถาม นักอ่านว่า มีใครสนใจอยากให้รวมเล่มบ้างคะคนแต่งจะได้ไปหาแนวทางในการรวมเล่มอย่างจริงจังคะ
ฝากด้วยนะคะ ^^

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
ครอบครัวอบอุ่นแบบโหดๆ 5555555

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
หุหุ เป็นการเปิดตัวลีวายกับครอบครัว
ว่าเป็นเมียอีธารอย่างเป็นทางการ
แถมยังพร้อมหน้าพร้อมตาด้วย
เซอไพร์ที่มีพ่อมา

หวังว่ายัยพี่น้ำจะคิดได้จริงๆนะ
 

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
หวังว่าต่อไปนี้จะมีแต่เรื่องดีๆเข้ามาน๊าาาาา  ^^
รอตอนต่อไปจ้า...

#โฮๆๆๆ  ยังไม่อยากให้จบเลย T_T

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....49
 
 
 ‘ให้ฉันรักนายเพิ่มอีกคนมั้ยล่ะ.....ฉันจะรักนายอย่างที่บอก.........หัวใจของฉัน มันเต้นแรงผิดปกติ.....ก็เพราะนาย’ ประโยคเหล่านี้มันกำลังโลดแล่นอยู่ในหัวผมที่กำลังนอนห้อยหัวอยู่บนเตียง
 
มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ บ้าจริงๆ หรือไม่สมองมันก็ต้องกระทบกระเทือนอะไรมาสักอย่าง โอ้ยยยย แม่ง!!! ไม่ไหวๆ เปิดเพลงฟังดีกว่า ไม่งั้นนะ ผมจะได้ยินเสียงไอ้ครูเซฟอยู่ในหัวเรื่อยๆๆจนเป็นบ้า(?)ตามมันไปแน่ๆ
 
ก๊อกๆๆ
 
“แพ็ค อยู่หรือเปล่า” เสียงพี่แพ็ทดังขึ้นตามหลังเสียงเคาะประตูห้องผม ผมจึงลุกขึ้นไปเปิด
 
“........”
 
“พี่เข้าได้มั้ย” ผมพยักหน้ารับและหลบให้พี่แพ็ทเดินเข้ามา ห้องผมอยู่ตรงริมสระน้ำหลังบ้านที่ค่อยข้างเป็นส่วนตัวและไม่ค่อยมีใครมายุ่งวุ่นวายเท่าๆไหร่
 
“มีอะไรหรือเปล่าครับ”
 
“พี่ขอโทษ....ที่พี่ไม่ได้บอกแพ็คเรื่องจะแต่งงาน....เอ่อ......พี่มาลองคิดดูแล้ว บางทีพี่ควรจะเข้าใจแพ็คให้มากกว่านี้” พี่แพ็ทพูดบอก แต่สิ่งที่พี่บอกมานั้นผมกลับไม่ได้ใส่ใจมันแล้ว เพราะผมหายโกรธเธอไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เหมือนกัน
 
“เราจะรู้ได้ยังไง ว่าคนคนนั้นเค้าจะรักเราจริง” ผมถามออกไป ทำให้พี่แพ็ทยิ้มออกมานิดๆ
 
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่า....พี่อยู่เค้าแล้วมีความสุข และเค้าก็อยู่ข้างๆพี่มาเสมอ เค้าคือคนแรกที่พี่คิดถึงไม่ว่าจะมีเรื่องดีๆหรือเรื่องร้ายๆเข้ามา เค้าเป็นคนที่มักจะช่วยพี่ตอนที่พี่มีปัญหา อืมมม...คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ คนที่เราสามารถส่งผ่านทั้งความสุขและความทุกข์ได้ทุกเมื่อ ถ้าแพ็คได้ลองรักใครสักคน แพ็คอาจจะไม่รู้ตัวก็ได้ว่าเค้าคือคนที่เรารัก”
 
“พี่คิดว่า....ผมจะรักใครคนหนึ่งได้หรือเปล่า”
 
“ได้สิ แค่เราใช้...หัวใจ” ผมฟังพี่แพ็ทพูดจบ ในหัวก็มีใบหน้าของใครคนหนึ่งลอยเข้ามา
 
“เหี้ย!!! ไม่ใช่ล่ะ” ผมยกมือขึ้นเสยผมและสะบัดหัวไปมาไล่ภาพไอ้บ้านั่นออกจากหัว ก่อนจะเงยหน้าของมา เห็นพี่แพ็ทมองมาแบบงงๆ
 
“ไม่สบายหรือเปล่าแพ็ค”
 
“เปล่าคับ ไม่ได้เป็นอะไร....เอ่อ...ผมขอโทษ ผมคงกังวลเรื่องพี่มากเกินไปน่ะ แล้วก็ ผมหวังว่าพี่จะรักผมมากกว่าไอ้หมอนั่นน่ะ ไม่งั้นผมไม่ยอมแน่” บางทีผมเองก็ควรจะเข้าใจพี่แพ็ทด้วยเหมือนกัน
 
“แน่นอน พี่ต้องรักแพ็คมากกว่าสิ น้องทั้งคนนี่ พี่รักแพ็คนะ อืมม....พรุ่งนี้งานครบรอบบริษัทแพ็คต้องไปด้วยนะ พี่จะเตรียมชุดไว้ให้” งานน่าเบื่อมาอีกล่ะ ไม่อยากไปแต่ก็ต้องไป มันเลี่ยงไม่ได้
 
 
มันน่าเบื่อจริงๆนะที่ต้องเดินทักคนนั้นทีคนนี้ทีไปทั่วงานทั้งที่คิดว่า มันไม่จำเป็นเลยสำหรับผม ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ ผมน่าจะหนีไปกับไอ้ครูเซฟตั้งแต่เย็นล่ะ ก็มันไลน์มาชวนไปดูหนัง ไอ้ผมก็ทำหยิ่งไม่ไปกับมันน่ะสิ
 
“แพ็ค นี่คุณหญิงสายพิณกับน้องเปียโน เจ้าของร้านอาหารชื่อดังที่เราเคยไปทานไง”
 
“สวัสดีครับ”
 
“สวัสดีค่ะ น้องแพ็คหลอนะคะเนี่ย นี่น้องเปียโนค่ะ น่าจะรุ่นๆกัน งั้นน้าฝากน้องด้วยนะ น้องคงเบื่อแย่ถ้าไม่มีใครคุยด้วย” ผมมองน้องเปียโน(?)นิ่งๆ เธอยิ้มให้ผมแบบเขินๆ ก่อนจะขยับมายืนใกล้ๆผม เธอน่ารักดีนะ ตัวเล็กๆหน้าหมวยๆดี
 
“หวัดดีค่ะ คนเยอะจังเลยนะคะ....พี่แพ็คเปียโนยังไม่ได้ทานอะไรมาเลยค่ะ....พี่แพ็คตักอาหารให้หน่อยได้มั้ยคะ” ผมเป็นผู้ชายก็ควรจะเป็นสุภาพบุรุษใช่ป่ะ เค!
 
“กินไรล่ะ” อาหารจัดแบบบุเฟ่สามารถเลือกตัวทานได้ตามใจชอบครับ
 
“ทานผลไม้ดีกว่า เปียโนกำลังไดเอ็ทอยู่ค่ะ ส้มน่ากินนะคะ” ผมหยิบเอาส้มสีสดน่ากินใส่จานเมื่อเธอบอก “มะม่วงก็ด้วย....เมลอนก็น่าอร่อยดี...องุ่นสด....”
 
ปึ่ก!!
 
“งั้นก็ตักเองเหอะ! น่ารำคาญว่ะ” ความอดทนอันน้อยนิดของผมขาดสะบั้นลงเมื่อเธอคนนี้เริ่มเยอะ! จนผมต้องกระแทกจานลงกับโต๊ะ ทำเอาเธอหน้าเหวอไปเลยครับ
 
“พะ...พี่แพ๊ค จะไปไหนคะ”
 
“ไม่ต้องตามมา!!!” ผมเดินห่างออกมาจากเธอแบบเซ็งๆ ก่อนจะเห็นใครบางคนยืนหันซ้ายหันขวาอยู่ไม่ไกล มันมาได้ไงวะ!
 
“นายแพ็ค....” ลีวายส์เรียกผมทันที ที่มันเห็นว่าผมกำลังเดินไปหา
 
“มาไม คิดว่าสวนสนุกหรือไงอ่ะ”
 
“ก็มากับพี่ธารอ่ะ แต่ดูพี่ธารยุ่งๆ ไม่น่ามาเลย รู้งี้อยู่กับพี่เซฟที่ร้านดีกว่า” ลีวายส์ทำหน้างอพร้อมกับถอนหายใจออกมา ท่าทางของมันดูจะเบื่อเต็มที
 
ผมยืนคุยเป็นเพื่อนลีวายส์อยู่พักใหญ่กว่าพี่ชายมันจะเดินมาหาและพากลับ เมื่อลีวายส์เริ่มงอแง และบ่นไม่รู้เรื่อง ดูท่าพี่ธารจะรักมันมากนะ โอ่กันจนผมอิจฉาตลอด เหอะ! ออกไปสูดอากาศข้างนอกดีกว่า รู้สึกอึดอัดฉิบ
 
ผมออกมาจากงานและลงมานั่งในส่วนย่อมด้านหน้าของบริษัท รับลมเย็นๆ วันนี้พี่แพ็ทจะประกาศหมั้นในงานกับเจ้าของโรงแรมชื่อดังแห่งหนึ่ง ถึงจะรู้สึกหวิวๆนิดๆแต่ผมก็พยายามยอมรับมันให้ได้
 
Tru........... Tru......
 
ผมดึงโทรศัพท์ออกมาดู เมื่อมันสั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงและกดรับโดยไม่ได้ดูว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา
 
‘ไง ทะเลาะกับใครมาอีกล่ะ ถึงได้นั่งหน้าบูดแบบนั้น’ เสียงคุ้นหูที่ดังมาจากปลายสายทำให้ผมแปลกใจ และรู้ทันทีว่าเจ้าของเสียงคือใคร
 
“รู้ได้ไง.....หน้าไม่บูดซะหน่อย”ผมตอบกลับไป ถึงจะเถียงไปแบบนั้นแต่ก็รู้สึกว่าหน้าตัวเอง บูดยิ่งกว่าเกาซะอีก
 
“เนี่ยนะที่เค้าเรียกว่าไม่บูด” 
 
“เฮ้ย!!!”อยู่ๆ เสียงของอีกคนก็ดังขึ้นมาจากข้างหลังผม ทำเอาผมสะดุ้ง ก็ตรงที่ผมนั่งอยู่อ่ะ มันค่อนข้างมืดนี่ ใครจะไปรู้บางทีอาจมีผีแอบอยู่ก็ได้?
 
“อะไรจะตกใจขนาดนั้น ไม่ใช่ฝีสักหน่อย” ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงล่ะวะ “อืมมม....ใส่ชุดสูทก็ดู...ดีเหมือนกันนะเรา...แต่ไม่ใส่ดีกว่าว่ะ” อ้าว ไอ้แก่นี่เดี๋ยวต่อยเลย
 
“พูดมาก มาได้ไง......มาทำไม” ผมถาม ร่างสูงเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าผม
 
“ขับรถมา....รับนาย..ป่ะ” ???
 
“ไปไหน...ไม่ไป” ทั้งที่ผมบอกว่าไม่ไป แต่เชื่อเหอะว่าไอ้ครูเซฟมันกำลังดึงมือผมไป ฉุดกระชากลากถูกจนพาผมมาถึงมอไซค์คันงานของมันได้ไม่ยาก
 
“มอไซค์เนี่ยนะ ไม่ไปอ่ะ เสี่ยงตายว่ะ” ผมไม่ได้กลัวนะแต่ว่า รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย เพราะมันคันใหญ่เกินอ่ะ
 
“โอ่....ฉันเสี่ยงตายมาเป็นสิบๆปีล่ะ ถ้าจะตายคราวนี้ก็ดีดิ เพราะได้ตายพร้อมกับนาย” ผมควรนะจะรู้สึกดีป่ะ
 
“นั่นปากหรอ....” ผมดึงมือออกจากมือหนา ร่างสูงส่งหมวกกันน็อคมาให้แต่ผมไม่รับ มันก็เลยสวมให้ผมเองซะเลย “โอ้ย!....เน้!!!”
 
“เอานา เชื่อดิ ฉันไม่ปล่อยให้นายตายหรอก ขึ้นรถเร็วจะพาแก้เบื่อ” รู้อีกว่าผมเบื่อ มีอะไรเกี่ยวกับผมที่มันไม่รู้บ้างวะ
 
ผมยืนช่างใจอยู่แปบหนึ่งในขณะที่ร่างสูงขึ้นคร่อมมอไซค์เรียบร้อยแล้ว เอาวะ ก็ยังดีกว่ากลับเข้าไปในงานล่ะ คิดได้ดังนั้นผมก็ขึ้นไปซ้องท้ายมอไซค์และจับชายเสื้อคนขับไว้
 
“นี่จับดีๆ เดี๋ยวตกจะหาว่าไม่เตือน....”
 
“ไม่ตกหรอกนา....อ่ะ! เอ้ย!!! ขับดีดิ๊” แค่เพียงรถออกตัวมันก็ทำให้ผมตกใจจนต้องเปลี่ยนไปกอดเอวไว้จะเอาออกก็กลัวว่าผมจะร่วงเลยจำต้องกอดเอวคนขับไว้แน่ๆ จับขับเร็วไปไหนเนี่ย T^T
 
“ถึงแล้ว” ผมเงยหน้าขึ้นจากแผ่นหลังของ ก่อนจะรีบดึงมือออกจากเอวหนา มองไปรอบๆก็รู้ว่าที่ที่มันพามาคือที่ไหน บนสะพานข้ามแม่น้ำใกล้ๆกับโรงเรียนผมนี่เองครับ
 
 “หืม....ถอดสูททำไม ไม่หนาวหรอ ลมพัดแรงออก”
 
“ไม่อ่ะ รับลมแรงๆ เผื่อมันจะพัดเรื่องร้ายๆออกไปจากหัวบ้าง” ผมบอก หลังจากถอดเสื้อสูทไปพาดไว้บนมอไซค์ข้างในผมใส่เสื้อยืดคอวีไว้ครับเพราะไม่ชอบใส่เสื้อเชิ้ต มันดูแก่ =_=
 
“พรุ่งนี้ ไปเดทกัน”
 
“หืม???....ห๊ะ! วะ....ว่ารัยนะ” จูนสมองแปบ อยู่ๆมาพูดเรื่องดงเรื่องเดทนี่มัน...เอิ่ปได้ข่าวว่าผมยังไม่ได้เป็น...อะไรกันเลยนี่หว่า
 
“เดทไง” หน้ามึนได้อีก ร่างสูงยืนหันหลังพิงราวสะพานและใช้ศอกสองข้างเท้าไปด้านหลัง ในขณะที่ผมยืนหันหน้ารับลมไปด้านนอก
 
“เดทบ้าบอไร ไม่ได้เป็นแฟนกันซะหน่อย ตลกล่ะ”
 
“จุ๊บ! เป็นสิ” เฮ้ย!!! ไอ้นี่...มันจุ๊บแก้มผมครับ “เอานาไม่เป็นตอนนี้อีกหน่อยก็เป็น พรุ่งนี้ฉันไปรับนะ แล้วก็จะไม่มีคำว่าครูกับนักเรียนด้วย เพราะตอนนี้เราไม่ได้อยู่ในโรงเรียน ตั้งแต่พรุ่งนี้เรียกพี่ว่าพี่เซฟนะครับ” =_=
 
“ไม่เว้ย!!!”
 
“ไม่งั้นจุ๊บอีกทีนะ ...... เอามั้ยล่ะ จุ๊บๆ” ร่างสูงยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ พร้อมกับโอบไหล่ผมไว้ ยี้  ไอ้พี่เซฟบ้า พอใจยัง แหวะๆ
 
“ทำไมถึงคิดว่าผมจะรักครู....เอ่อ..พี่ได้” ผมถาม คำถามของผมทำรู้สึกสั่นไหวขึ้นมาในใจนิดๆ
 
“เพราะพี่กำลังรักแพ็ค...ไง” ทฤษฎีบ้าบออะไรเนี่ย “หึๆ ทำไมจะไม่ได้ ก็ถ้าแพ็คไม่คิดจะตอบรับความรู้สึกของพี่แพ็คคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้มั้ง คนเราใช้แค่ตามองกันมันไม่ได้หรอก ต้องใช้ใจด้วย”
 
“ชิท์ คมได้อีก”ผมอมยิ้มนิดๆ ก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ๆร่างสูง “ก็ได้ พรุ่งนี้ไป...เดท ก็ได้”
 
“แค่แพ็คตกลงพี่ก็ได้ไปสิบเปอร์เซ็นล่ะ”
 
“อะไรวะ...แค่เดท ยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนซะหน่อย” ร่างสูงใช้มือวางบนราวสะพานไว้ทั้งสองข้างโดยมีผมอยู่ในวงแขน
 
“คำว่าเดทเค้าใช่กับคนเป็นแฟนกันป่ะ นายพลาดล่ะ หึๆ ฟอด!!!” O.O!
 
 
.................................................................................
[เซฟ:Part]
 
Tru............ Tru............
 
ผมควานหาโทรศัพท์เมื่อมันดังขึ้นอย่างน่ารำคาญ และแอบแช่งคนที่โทรเข้ามาไปด้วย โทรไม่รู้จักเวล่ำเวลาหารู้ไม่ว่าคนเค้านอนหลับอยู่
 
“เซฟตื่นยัง มึงว่างป่ะ ไปดูหนังกัน”
 
“อืม.......” ผมครางตอบอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะผุดคิดขึ้นมาได้ว่าวันนี้ผมมีนัดแล้ว “ไม่ว่างๆ กูไม่ว่างว่ะ มึงชวนลีวายส์ไปสิกาย” ผมยันตัวลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะมองหานาฬิกาเพื่อดูเวลา
 
“ให้กูไปชวนลีวายส์ แม่ง! ชวนเมียไอ้แมนยังง่ายกว่า รู้ป่ะ ไอ้ธารอ่ะน่ารำคาญ โทรตามทุกชั่วโมงอ่ะ”
 
“เออนา ไว้วันหลังวันนี้มีเดท...เออ...คือ....” ฉิบหาย!
 
“เดท! ซุ่มจังนะมึง เมื่อไหร่จะเปิดตัวสักทีอ่ะ กูรอดูอยู่นะ ใช่เด็กที่กูว่าป่ะ คึคึคึ...เออๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวกูไปหาลีวายส์ก็ได้ โชคดีนะมึง”
 
“ครัชชชช ที่รัก บาย” เหอะๆ จะว่าไปช่วงนี้เพื่อนๆผมทุกคนดูจะมีความสุขกันถ้วนหน้าล่ะ
 
กายไปได้ดีกับพี่หมอ ไอ้แมนดูจะมีความสุขกับรักเบาหวานของมัน คู่นี้กัดกันตีกันบ่อยครับทำแก้วที่ร้านแตกไปเป็นโหลล่ะ(?) แต่ก็เห็นดีกันได้ทุกที ส่วนไอ้ธารน่ะ เห็นบอกมีแพลนจะไปออสเตรเลียในอาทิตย์หน้า คงพาลีวายส์ไปฮันนีมูนอะไรประมาณนั้น
 
เพื่อนๆผม มีความสุขกันไปตามระเบียบ เหอะๆ จะมีก็แต่ผมเนี่ยแหละ เหมือนจะดีแต่ก็ไม่ดีหรือจะดีอยู่ก็ไม่รู้สินะ =_=
 
“เออ หวัดดีครับ” ผมมารับคู่เดทถึงที่บ้าน วันนี้ไม่ได้พามอไซค์คู่ใจมานะเพราะว่าสถานที่ที่ผมจะไปต้องใช่เวลาเป็นชั่วโมงกว่าจะถึงเลยเอาฟอร์จูนเนอร์ที่บ้านมาแทน
 
“สวัสดีค่ะ มาหาคุณเซฟหรอคะ ยังไม่ตื่นเลย เข้าไปดูสิคะ” ผมมาบ้านนี้ทีไรรู้สึกเกร็งทุกทีอ่ะ คนรับใช้นี้นอบน้อมเกิน จนผมต้องยกมือไหว้
 
ผมมาหาคู่เดทถึงที่ห้อง ซึ่งอยู่ตรงสระน้ำด้านหลังของตัวบ้าน ผมเคยมาที่นี่แล้วเลยเดินเข้ามาโดยไม่ต้องให้คนรับใช้นำมาด้วย
 
“แพ็ค....แพ็คๆๆ.....ไม่ตื่นจริงอ่ะ แพ็ค....แพ็คเกจจจจจจ”
 
แกร็ง!!!
 
“ไรวะ......อ่ะ!!!” ร่างบางเปิดประตูออกมาก่อนจะรีบปิดทันทีเมื่อเห็นผม หึๆ มันคงอายอ่ะ ก็มันไม่ได้ใส่เสื้อนอน เอวบางร่างน้อยมากขอบอก =,.=
 
“เปิดประตูก่อนดิ อายหรอไง เห็นหมดแล้วนา”
 
“ไม่เว้ย....จะอาบน้ำเลย รอข้างหน้านั่นแหละ” เสียงมันดังมาจากด้านในทำให้ผมยิ้มขำๆ และยอมนั่งรอมันอยู่ด้านหน้า อะไรวะที่เมื่อก่อนไม่เห็นจะขี้อายแบบนี้เลยนี่ หึๆ
 
 
“ไม่พามอไซค์หรอ แล้วจะไปไหนกันน่ะ หิวว่ะ” แพ๊คถามหลังจากขึ้นมาบนรถ เดี๋ยวนี้เริ่มคุยเก่งขึ้นกว่าเกาล่ะ
 
“เดี๋ยวก็รู้ แซนวิชอยู่ด้านหลังน่ะ กินก่อนสิ จะได้ไม่ปวดท้อง” ผมบอก มองคนข้างๆ ที่กำลังยกโทรศัพท์ขึ้นส่องดูหน้าตัวเอง “หล่อแล้วล่ะ”
 
“ก็หล่ออ่ะดิ” เหอะ! ผมผลักหัวอีกคนอย่างหมั่นไส้จากนั้นก็เริ่มออกรถ ผมชวนแพ็คคุยไปเรื่อยเปื่อยระหว่างทางเพื่อไม่ให้เบื่อ เพิ่งรู้ว่านอกจากมันจะติดเกมในคอมแล้วยังติดเกมในโทรศัพท์ด้วย พอไม่มีอะไรจะคุยก็ตั้งหน้าตั้งตาเล่นเกมอย่างเอาเป็นเอาตาย
 
ผมขับรถมาถึงที่หมายในเวลาสองชั่วโมงกว่าๆได้ ส่วนไอ้ตัวดีน่ะ หลับคอพับครับ ไม่รู้ว่าหลับไปตอนไหนเหมือนกัน แบบนี้ต้องจูบปลุกซักหน่อยแล้ว
 
ผมลงจากรถอ้อมไปเปิดประตูทางที่นั่งอีกฝั้ง ก่อนจะโน้มหน้าลงไปใกล้ๆใบหน้าเรียวสวยได้รูปและทาบริมฝีปากลงกับปากเล็กเบาๆ
 
“อ่ะ!!!” ปึก! ไม่น่าหาเรื่องเจ็บตัวเลยครับ ก็จังหวะนั้นมันตื่นพอดี เลยผลักผมหัวโขกกับขอบประตูรถจังๆ
 
“แรงเยอะไปนะ ตัวแค่นี้ หัวแตกป่ะเนี่ย.....ถึงแล้วลงมาดิ” ผมบอก แพ็คลงมาจากรถหลังจากมองไปรอบๆ
 
“ที่ไหนอ่ะ”
 
“ปากช่อง......บ้างพักต่างอากาศ ไม่ค่อยได้มาหรอก นานๆที” ผมมองไปรอบๆบ้านไม้ชั้นเดียว หลังขนาดย่อมที่มีระเบียงรอบตัวบ้านยื่นออกมา ด้านหลังเป็นส่วนดอกไม้เล็กๆและมองไกลออกไปก็เป็นเนินเขาเตี้ยๆ ที่มีต้นไม้สีเขียวมากมาย ทำให้ดูสนชื่นและสบายตา
 
“ค้างที่นี่หรอ ไม่เห็นบอกเลย รู้งี้จะได้เอาเสื้อผ้ามาด้วย”
 
“มีเยอะนา......เอาล่ะ หิวยังจะเที่ยงแล้วนะ  ถ้าหิวก็มาช่วยขนของเลยครัชชช” ร่างบางถอนหายใจแบบเซ็งๆ เมื่อถูกใช้งานแต่ก็ยอมช่วยขนของเข้าบ้าน
 
“จะทำกับข้าวกินหรอ” แพ็คถามอย่างแปลกใจ อ่ะๆๆๆ ไม่รู้ล่ะสิว่าผมน่ะ เชฟกระทะทอง(?)นะคร้าบบ
 
“แน่สิ รับรองอร่อยชัวร์ แต่ว่านายต้องเป็นลูกมือนะ มาเลย งานง่ายๆน่ะ ล้างผักทำเป็นป่ะ”
 
“จิบๆเหอะ! ทำให้กินได้ล่ะกัน”
 
ผมลงมือทำอาหารโดยมีแพ็คเป็นลูกมืออยู่ข้างๆ ในระหว่างที่ผมกำลังหั่นหอมใหญ่อยู่นั่นเองก็รู้สึกแสบตาขึ้นมา งี่เง้าชะมัด! 
 
“เป็นไรอ่ะ แสบตาหรอ” แพ็คถาม
 
“อืมๆ....อ่า....ชิท์! แม่ง” ผมยกข้อมือขึ้นขยี้ตาเมื่อรู้สึกแสบมากขึ้น ก่อนที่แพ็คจะดึงมือผมไว้
 
“อย่าขยี้....เช็ดดิ...อ่ะ”
 
“นั่นมันผ้าเช็ดมือนะ” =_=
 
“เออๆ ลืม....งั้นก็....ก้มดิ” แพ็คบอก ผมจึงก้มหน้าลงนิดๆ จากนั้นแพ็คก็เลิกชายเสื้อขึ้นเช็ดหน้าให้ผม ยิ้มเลยสิครับ หึๆ
 
“โอ้ย แสบฉิบ” ผมเลยฉวยโอกาสกอดเอวร่างบางไว้ แพ็คเลิกคิ้วมองผมนิดๆ ก่อนจะผลักออก “นิดนึ่งก็ไม่ได้ หึ!”
 
“เดี้ยเหอะ! รีบทำเข้าหิวล่ะเนี่ย” มีแอบเขินนะ ผมเห็น
 
“ครัชชชชชช”
 
แล้วมื้อเที่ยงของเราก็ผ่านไปได้ด้วยดี ตกบ่าย ผมพาแพ็คไปเดินเที่ยวฟาร์มข้างๆ ซึ่งเป็นของคุณอาผมเอง โดนการขี้จักรยานตามกันไปครับ
 
“ไปที่นั่นได้ป่ะ....” แพ็คหยุดรถตรงเนินเล็กๆระหว่างทางขากลับ ก่อนจะชี้ไปทางไร้องุ่นที่อยู่ไม่ไกลมากนัก
 
“ได้สิ ช่วงนี้มีแต่องุ่นทำไวท์นะ ไม่มีองุ่นกินลูก จะไปมั้ยล่ะ”
 
“ไปดิ” แพ็คบอกผมจึงขี่จักรยานนำไป ระหว่างนั้นรู้สึกฟ้าครึ้มๆยังไงก็ไม่รู้ แต่ก็ไม่เป็นไรไร่อยู่ใกล้ๆ ซิ่งกลับแปบเดียวก็ถึง
 
“อ้าว พี่เซฟ มาเมื่อไหร่อ่ะ ไม่โทรบอกเลยน่ะพี่” เจอไอ้นายครับ ลูกเจ้าของไร่เนี่ยแหละ ลูกพี่ลูกน้องกัน
 
“วันนี้ พาแฟนมาเดทว่ะ เลยไม่ได้โทรมา...โอ้ย! อะไรเล่า” ผมโดนแพ็คเตะขาเข้าให้เมื่อได้ยินประโยคที่ผมพูด ทำเป็นเคืองแต่แอบหน้าแดง น่ารักว่ะ ><
 
“แรงว่ะ ทานไรมายัง ผมจะได้เด็กจัดมาให้”
 
“เรียบร้อยล่ะ เมื่อกี้ก็ไปเที่ยวในฟาร์มมาแล้ว เออนี่ไอ้นายน้องชายนะ” แพ็คยกมือไหว้ไอ้นายหลังจากผมแนะนำให้รู้จัก
 
“เฮ้ย! ไม่ต้องไหว้ แกเลยกู  ช่วงนี้ไม่มีองุ่นให้กินนะ มาผิดช่วงล่ะ เอาเป็นว่าตามสบายแล้วกัน  เดี๋ยวผมมีงานอ่ะ ขอตัวล่ะ” ไอ้นายบอกก่อนจะเดินไปหาลูกน้องของมันที่ยืนรออยู่ใกล้
 
“อายบ้างอะไรบ้างก็ได้” แพ็คพูด ในขณะเดินไปตามร่องต้นองุ่นที่มีลูกเป็นพวงเล็กๆสีเขียวน่ากินแต่เสียดายที่กินไม่ได้น่ะนะ
 
“เรื่องไร” ผมก็พอจะรู้ แต่ก็แกล้งถามไปงั้นแหละ
 
“ไม่ต้องประกาศให้โลกรู้หรอก มั้ง”
 
“ไม่ได้หรอก ไอ้นายน่ะ มันชอบกินเด็กเหมือนกัน เห็นหน้าตี๋ๆแบบนั้น เสือในคราบแมวเลยนะ ต้องออกตัวไว้ก่อน”
 
“เยอะ เหอะ.....นี่กินไม่ได้จริงอ่ะ ลองกินได้ป่ะ” แพ็คถาม มันจิ้มๆพวงองุ่นสีเขียวให้ผมดู
 
“เคยลองนะ หนาวอยู่ อ่ะ” ผมดึงออกมาลูกหนึ่ง ป้อนให้ อีกคนอ้าปากรับทันที ก่อนจะหลับตาปี๋
 
“เหี้ย....เปรี้ยวสัด”
 
“อ่าๆๆๆ......เชื่อคนง่ายนะเรา......ป่ะกลับเหอะ ดูเหมือนฝนจะตกนะ” แพ็คมองผมแบบแค้นเคืองนิดๆ จากนั้นเราก็พากันกลับ
 
“เฮ้ย! ฝนตกแล้วอ่ะ รีบขี่เหอะ” ใช่ครับ อยู่ๆฝนก็ตกลงมาระหว่างทาง ไม่ใช่ตกธรรมดานะ ตกหนักเลยล่ะ
 
“เดี๋ยวๆ ช้าดิ ระวังลื่นนะ” ผมตะโกนบอกแพ็คแข่งกับสายฝนที่กระหน่ำลงมา เมื่อเห็นว่ามันขี่จักรยานเร็วเกินไป
 
โครม!!!
 
“แพ็ค!!!” ผมเรียกมันสุดเสียง ก่อนจะกระโดดลงจากจักรยานของตัวเอง เพราะเห็นรถมันก็เสียงหลักลงข้างทาง “ก็บอกแล้วไง ว่าช้าๆอ่ะ ไม่ฟังกันเลย ลุกไหวหรือเปล่า”
 
“ไหว....โอ้ย!!!......”
 
“ไม่ต้องเลย ขี่หลังนี้ ใกล้จะถึงล่ะ ไหนๆก็เปียกแล้ว” แพ็คนิ่งคิดไปก่อนจะยอมขึ้นขี่หลังผม ขามันคงได้แผล ถึงได้กัดปากเจ็บซะขนาดนั้น
 
เดินกลับบ้านท่ามกลางสายฝนกับคนรักบนแผ่นหลัง ใครๆคงจะคิดว่ามันเป็นภาพแสนโรแมนติก แต่คงไม่ใช่สำหรับผมในตอนนี้ ถ้าเป็นแดดร้อนยังดีซะกว่า หนาวว่ะ
 
 
“ไหนมาดูซิ ได้แผลหรือเปล่า...” ผมถกขากางเกงแพ็คขึ้นสำรวจดู หลังจากให้แพ็คนั่งลงตรงระเบียงเมื่อกลับมาถึง
 
“แค่เจ็บนิดๆ ไม่มีอะไรหรอก.....มั้ง”
 
“อืม ดีนะที่ไม่มีแผล เอาล่ะ ไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวหวัดถามหาแล้วจะแย่” ผมบอกก่อนจะเบิกตากว้างตกใจ เมื่อผมช้อนร่างบางขึ้นอุ้ม
 
“อ่ะ!!! เดี๋ยวๆๆๆ ทำไรอ่ะ”
 
“ไปอาบน้ำ เจ็บขาไม่ใช่หรอ จะอาบให้ไง” ผมส่งยิ้มหวานให้คนในอ้อมแขนและขยิบตา พามันตรงไปเข้าห้องน้ำ
 
“ไม่ๆๆ อาบเองๆ ไม่ต้อง!!! ปล่อยนะฉวยโอกาสแม่ง ถอยห่างออกไปเลย” ปัง!!! แพ็คดิ้นไม่ยอมท่าเดียวจนผมต้องปล่อยมันลง ก่อนที่ร่างบางจะผลักผมออก ตามด้วยปิดประตูใส่หน้าเสียงดัง ผมก็ได้แต่ยืนขำพิงประตูอยู่แบบนั้น หึๆ
 
“นี่ ถ้าไม่ไหวก็บอกนะน้อง พี่ช่วยอาบได้”
 
“ออกไปไกลๆเลย!!!”
 
......................................................................................
 
คิดถูกหรือคิดผิดวะที่ผมบ้าจี้ ยอมมาเดทกับไอ้พี่เซฟเนี่ย เฮ้ออออ อยากจะถอนหายใจดังๆสักร้อยครั้ง โอ้ย! นี่ขาก็เจ็บอีก แม่ง ไม่น่าทำเก่งรีบขี่จักรยานหนีฝนเลย รีบอาบน้ำดีกว่ารู้สึกหนาวล่ะ
 
ตอนนี้ผมอยู่ปากช่องครับ เหอะๆมาเดท เดทบ้ารัยล่ะ ไม่เห็นจะเหมือนคู่รักคู่อื่นๆเลย แต่ว่า ผมไปเที่ยวฟาร์มมาด้วยล่ะ โอ่ สุดยอดอ่ะ มีหมูเป็นร้อยๆตัวเลย มีวัวด้วยนะ อากาศที่นี่ดีมากอ่ะ เออๆมีม้าด้วย ผมได้ขี่ม้าด้วยล่ะ สนุกดี อ่อ มีส่วนองุ่นด้วยแต่เสียดายกินไม่ได้เพราะมันเป็นองุ่นทำไวท์ แล้วก็เปรี้ยวมากๆ เหอะๆ เพราะไอ้พี่เซฟนั่น แหละหลอกให้ผมกิน(?) ผมว่าผมพูดมากไปล่ะ เอาเป็นว่าสรุปก็ โอเคดีมีความสุขไปอีกแบบ
 
ผมเงยหน้าขึ้นมองกระจกเงาทำให้รู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังยิ้ม ไม่บ่อยหรอกนะที่ผมจะยิ้มแบบนี้ อ่า เดทครั้งนี้ก็ไม่เลวนะ ผมชอบ ><
 
“แพ็คเสร็จยังน่ะ พี่หนาวแล้วนะ” เสียงพี่เซฟดังมาจากหน้าห้องน้ำ
 
“จะ....จะเสร็จแล้ว รีบไรนักเล่า คนยิ่งเจ็บขาอยู่”
 
“ก็บอกว่าช่วยอาบไง หึๆ” ผมควรให้ช่วยป่ะ ชาติหน้าเหอะๆ “เสร็จแล้วก็เรียกนะ จะไปทำอะไรไว้ทานก่อน”
 
ผมรีบอาบน้ำสระผมล้างฝนที่เพิ่งโดนมาเมื่อครู่ รู้สึกเจ็บข้อเท้านิดๆ เหมือนโดนก้อนหินแข็งๆทุบ แต่ก็พอจะเดินไหวอยู่ อาบน้ำเสร็จ ผมเอาผ้าขนหนูพันเอวเปิดประตูออกมา
 
“เสร็จแล้ว!” ผมพูดบอกเสียงดังเพราะไม่รู้ว่าอีกคนอยู่ไหน น่าจะอยู่ห้องครัวมั้ง
 
“เสื้ออยู่ในตู้น่ะ ใส่เสื้อแขนยาวสิ ฝนตกจะได้ไม่หนาว” ครูเซฟบอกก่อนจะเดินผ่านหน้าผมไปและถอยกลับมาก้าวหนึ่ง “ฟอด!!! สบู่หอมเนอะ” ^_^ อึ้งไปสามวิ กว่าจะรู้ตัวว่าโดนขโมยจูบอีกคนก็หนีเข้าห้องน้ำไปแล้ว
 
“ไอ้......บ้า......” ทำไมอากาศหนาวแต่หน้ากูร้อนวะ! -///-
 
ผมรีบจัดการแต่งตัวอย่างรวดเร็วก่อนที่มันจะออกมาจากห้องน้ำ ทำไมมีแต่เสื้อยืดคอกว้างๆวะ เอ้ออออ แต่ก็ช่วยไม่ได้
 
ผมหยิบเอาเสื้อยืดแขนยาวสีเข้มมาสวม โอ่ เหี้ย เปิดไหลเลยว่ะ แล้วก็เลือกไม่ได้ด้วยสิ เพราะนอกจากแบบนี้ก็มีแต่เสื้อเชิ้ต ไม่เอาอ่ะ ดูแต๋วไป ยี้! กางเกงก็มีแต่งต้องรัดหนังยางเอามันหลวม ดูดีมากอ่ะ  =_=
 
เมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยผมก็ออกมานั่งเล่นข้างนอกริมระเบียงห้องนอน ฟ้ามืดแล้วฝนยังตกอยู่เลยสงสัยคืนนี้ตกทั้งคืนแน่
 
“ไม่หนาวหรอ เข้ามาข้างในเถอะ ไม่สบายจะแย่นะ” ร่างสูงอยู่ในชุดกางเกงขายาวสีอ่อนกับเสื้อแขนยาวที่ใส่พอดีตัวซึ่งต่างจากผม ครูเซฟยิ้มมุมปากนิดๆหลังจากมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า โอเค กูผิดที่ไม่ได้เตรียมตัวมา แต่มันผิดกว่าที่ไม่บอกก่อนว่าจะพามาไกลขนาดนี้
 
“มองไร เสื้ออะไรก็ไม่รู้คอกว้างฉิบ”
 
“น่ารักออก.....หึๆ....มาข้างในก่อน......ดูขาสิ เจ็บอยู่หรือเปล่า” ร่างสูงดึงมือผมเข้ามาด้านในและให้นั่งลงบนเตียง ส่วนตัวเองนั่งลงกับพื้นห้อง ในมือมียาหลอดถืออยู่ 
 
 
“เอ่อ....ไม่ต้อง....หรอก...”
 
“ได้ไง เดี๋ยวเจ็บกว่าเดิมนะ” ไอ้พี่เซฟเงยหน้าขึ้นมาพูดบอก รอยยิ้มบางๆของคนตรงหน้าทำให้หัวใจผมเริ่มหวั่นไหว
 
“ทาเองก็ได้....โอ้ย!!! เจ็บนะเว้ย เบาๆดิ”
 
“ก็อยู่นิ่งๆสิ อย่าดิ้น นวดเบาๆแปบเดียวก็หาย พรุ่งนี้จะได้เร็วเล่นต่อ” เมื่อไหร่จะเลยคิดว่าผมเป็นเด็กสักทีนะ โตแล้วเว้ย โตแล้ว
 
ผมมองคนตรงหน้านิ่งๆ ผมของพี่มันยังเปียกอยู่เลยน่าจะยังไม่ได้เช็ด พอดีกับที่ใกล้ๆมือผมมีผ้าขนหนูวางอยู่ ผมเลยหยิบมันขึ้นมาก่อนจะเช็ดผมให้อีกคน
 
“หึๆ....”
 
“ยิ้มไร”
 
“เปล้า” บอกเปล่าเสียงสูงและก็ยังยิ้ม ส่วนผมหรอ ไม่รู้สิแต่รู้สึกว่ากำลังอบยิ้มอยู่เหมือนกัน
 
ผมกำลังเปิดใจรับความรู้สึกดีๆที่กำลังเข้ามาใช่มั้ย สิ่งที่เป็นอยู่เค้าเรียกว่าความสุขใช่หรือเปล่า ความอบอุ่นที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่แค่ความผูกพันสินะ ถ้าจะเรียกทุกอย่างที่รายล้อมรอบตัวเราอยู่ว่าความรัก....ก็คง....
 
“หิวยัง” ผมยกมือขึ้นเกาหัว ก่อนจะพยักหน้ารับตอบ ครูเซฟเลิกคิ้วมองผมก่อนจะยิ้มออกมา “งั้นไปทานอะไรก่อนล่ะกัน”
 
 
 
“กินยาก่อนน่ะ กันหวัด”ไอ้พี่เซฟบอกหลังจากทานข้าวเสร็จ พร้อมกับส่งยาในมือมาให้ผมสามเม็ด
 
“เกลียดยาสุดๆ” ผมบ่น แต่ก็รับยามากินทีละเม็ดๆ
 
“ลีวายส์ก็กินยายากนะ แต่เดี๋ยวนี้หายล่ะ” หืม? ผมเลิกคิ้วสงสัย


ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
 
“ก็ไอ้ธารมันป้อนให้ด้วยปากหายเลย....ลองป่ะ” ผมรีบยกมือขึ้นปิดปากก่อนจะกลืนยาเม็ดสุดท้ายลงคออย่างรวดเร็ว นั้นมันบ้าล่ะ
 
 
 
“ฝนตกหนักแฮะ หนาวแย่เลยเนอะ” ผมมองร่างสูงที่ล้มตัวลงนอนข้างๆด้วยหางตา ไม่ใช่แค่นอนเฉยๆนะ พี่มันยกมือขึ้นกอดเอวผมหน้าตาเฉย
 
“มือๆ.....ไม่เห็นหนาวเลย”
 
“ร้อนหรอ ถอดเสื้อดิ” หน้ามึนมากครับ ไอ้บ้านี่ ควักลูกกะตามาอบเล่นซะเลยดีมั้ย
 
“แน่ใจนะว่าคิดก่อนพูดแล้วอ่ะ เข้าตัวตลอด แล้วก็....เลิกกอดได้แล้ว อึดอัดเว้ย” คนตรงหน้าย่นจมูกใส่ผมแบบงอนๆ ก่อนจะกระชับอ้อมกอดแน่ขึ้นกว่าเดิม
 
“หยุดเล่นได้แล้ว ตาเสียหมด เอามา” มันแย่งโทรศัพท์ในมือผมไปแล้ว ทีนี้ผมจะทำเป็นสนใจอะไรดีล่ะ โธ่
 
“ชิท์ นอนดีกว่า” งั้นก็แกล้งหลับเลยเป็นไง ไม่ใช่อะไรหรอก อยู่ใกล้ๆแล้ว ใจมันสั่นๆยังไงก็ไม่รู้น่ะสิ ผมนอนหันหลังหนีทำทีว่าจะหลับจริงๆแต่ก็ยังแอบยิ้มมุมปากอยู่
 
“จุ๊บ!!!” อ๊ากกกกก มันผงกหัวขึ้นมาจุ๊บมุมปากผมครับ
 
“เน้!!! มากไปแล้วนะ....หรืออยากโดนต่อยห๊ะ” ผมพลิกตัวหันกลับมาเผชิญหน้ากับพี่มัน พร้อมชูกำปั้นขึ้น
 
“ก็ไม่ยอมหันมองคุยด้วยดีๆนี่ ไม่เล่นแล้ว แค่จุ๊บ นิดเดียวเองไม่ได้หรืออไง” เห็นมั้ยล่ะ พอหันกลับมามันก็ใกล้กันเกิน ยังไม่พอ ไอ้พี่บ้ายังถือโอกาสกอดผมไว้แน่นซะจนจะเข้าไปฝั่งอยู่ในร่างมันได้แล้ว
 
“ปล่อย.......อึดอัด....” มันดิ้นขลุกขลักออยู่ในอ้อมแขนแกร่ง แต่มีหรือจะสู้แรงคนตรงหน้าได้
 
“ฟอด!!! ไม่ปล่อย....หึๆ.....แพ็ค วันนี้นายยิ้มบ่อยรู้ตัวมั้ย ถ้านายยิ้มแบบนี้ทุกวันคงดี” ผมหยุดดิ้นฟังคำพูดของอีกคน “พี่ชอบนะตอนนายยิ้มน่ะ”
 
“งั้นก็ทำให้ยิ้มบ่อยๆดิ” ผมพูดออกไปพร้อมกับอบยิ้มนิดๆ ไล่มองใบหน้าของอีกคนได้ด้วย
 
“แน่อยู่แล้ว......ผมจะอยู่ข้างๆและทำให้นายยิ้มทุกวันเลย จุ๊บ!!!” ><
 
“ให้มันแน่เหอะ”
 
“เชื่อสิ....เพราะฉันรักนายไปแล้วล่ะ” คำพูดนั้นทำให้ผมหุบยิ้มลง ก่อนจะกลับมาอบยิ้มอีกครั้ง
 
“ผมว่า...ผมเองก็.......เริ่มจะ....ระ....อุ๊บ!!!!” ผมยังไม่ทันได้พูดคำนั้นออกมา คนตรงหน้ากลับทาบริมฝีปากลงมากลืนกินคำพูดของผมไปซะก่อน
 
รสจูบนุ่มนวลแสนหวาน ทำให้ผมเคลิ้มตามได้ไม่ยากจนผมต้องยกมือขึ้นกำชายเสื้อของอีกคนไว้ ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาภายในโพรงปากผมได้อย่างง่ายดาย ก่อนที่ผมจะเพิ่งคิดได้ว่าทำอะไรลงไปจึงรีบผลักออก
 
“เอ่อ....” ต่างคนต่างพูดไม่ออกครับ ผมเองก็ได้แต่เม้มปากเบาๆและแส้งมองไปทางอื่น “โทษที” พี่เซฟบอก และซุกหน้าลงกับไหล่ผม
 
“อืม นอนเหอะ ผมง่วงล่ะ” ผมพลิกตัวหันหลังหนีอีกรอบ แม่ง กูเขิน จนเล็บมือเล็กเท้างอหมดล่ะ
 
“นอนก็ดี” ร่างสูงดึงเอวผมไปกอดไว้จนแผ่นหลังผมแนบอกกว้าง “ที่ไม่อยากฟังให้จบเพราะกลัวจะทำอะไรไปมากกว่านี่น่ะสิ หึๆ” อ๊ากกกกกก มันคือลัยวะ พูดแบบนี้ ฆ่ากันดีกว่า
 
ความรัก ผมเริ่มเข้าใจมันแล้วละจะทำความเข้าใจมันต่อไปเรื่อยๆ เพราะผมแน่ใจแล้ว ว่าผมสามารถรักผู้ชายที่กำลังกอดผมอยู่ได้อย่างแน่นอน >///<
 
<<<<<<<<<<TBC>>>>>>>>

มีคำผิดขอโทษด้วยค่ะ อ่านทวนแค่รอบเดี๋ยว รีบๆ ><

ตอนหน้าจบแล้วนะคะ ขอบคุนที่ติดตามนะคะ

พี่ mirror  on on  แต่งเรื่องใหม่แล้วแต่แอม

กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะนำมาลงดีมั้ยเพราะเรื่องนี้คนอ่าน

กะคนเม้นน้อย :mew2:  :mew2:  :mew2:

ถ้ายังไงแอมจะมาแจ้งตอนน้านะคะ  จุฟฟฟฟฟ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-10-2014 21:07:55 โดย ampmiya^^ »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
 ดีใจกับเซฟด้วย  แพ็คอ่อนลงเยอะมาก
ดูมีความสุขขึ้นเยอะ 

ออฟไลน์ ampmiya^^

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-0
Older Brother.....50
 
 
โชคชะตา เคยเชื่อเรื่องแบบนี้กันมั้ยฮะ บนโลกใบนี้มีคนเป็นล้านๆคน โอกาสที่คนสองคนจะได้มาเจอกัน มันก็แค่หนึ่งเปอร์เซ็นต์ของคนทั้งโลก ถ้าไม่ใช่เพราะโชคชะตานำพาให้คนสองคนมาพบกัน แล้วมันจะเป็นอะไรล่ะ ลีวายส์เชื่อแบบนี้นะ
 
ลีวายส์อายุสิบห้าปี เรียกว่ายังไม่ถึงครึ่งค่อนชีวิตก็ว่าได้ แต่ลีวายส์ก็พบเจอเหตุการณ์อะไรหลายๆอย่าง ลีวายส์เสียแม่ไป ตั้งแต่แปดขวบและต่อมาก็เสียพ่อไปอีก มันเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิต เท่านั้นยังไปพอ ลีวายส์ยังถูกแม่เลี้ยงทิ้งอย่างไม่ใยดี
 
แต่พระเจ้าก็ไม่ใจร้ายขนาดนั้น หรือมันอาจจะเป็นโชคชะตาอย่างที่ลีวายส์เชื่อ ทำให้ลีวายส์ได้มาพบกับคนคนหนึ่งที่ตอนนี้เปรียบเสมือนลมหายใจทั้งชีวิตของลีวายส์
 
โฮ่งๆ โฮ่งๆ
 
เสียงสุนัขพันธ์อิงลิช ค็อกเกอร์ สีน้ำตาลเข็มตัวใหญ่ ส่งเสียงเห่าดังมาจากสนามหญ้าหน้าบ้าน มันกำลังมองขึ้นมาทางลีวายส์ซึ่งยืนอยู่ริมหน้าต่างบ้างทรงยุโรปหลังเล็กๆ ทำให้ร่างสูงที่นั่งยองๆอยู่ข้างๆมันเงยหน้าขึ้นมามองตาม
 
พี่ธารใส่เสื้อแขนยาวสีเทากับกางเกงยีนสีเข้ม ผู้ชายคนนี้แหละฮะ คนที่เป็นลมหายใจทั้งชีวิตของลีวายส์ ผู้ชายคนนี้เป็นเจ้าชีวิตของลีวายส์ และจะเป็นตลอดไป
 
 
 
“นอนพอแล้วหรอ....หืม” ลีวายส์เดินจากชั้นบนลงมาหาพี่ธาร ร่างสูงลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะ ยื่นหน้าเข้ามาจุ๊บมุมปากลีวายส์อย่างที่ชอบทำบ่อยๆ จนติดเป็นนิสัย
 
“ฮะ พี่ไม่นอนบ้างล่ะฮะ หรือว่าแอบไปรอบๆหมู่บ้านมาแล้ว.....ว่าแต่ เจ้านี่มาได้ไงอ่ะ”
 
“ไม่รู้สิ เดินมาจากบ้านข้างๆน่ะ มันคงหิวมั้ง”
 
“ไหนพี่ธารบอกว่าไม่ชอบหมาไงฮะ”
 
“ไม่ชอบตัวเล็กๆต่างหาก มันดูแรดๆยังไม่รู้ ดูน่ารำคาญจะตาย” หมามันแรดเป็นด้วยหรอ (ทำท่าสงสัย???)
 
“อ่า....ออกมาข้างนอนแล้วรู้สึกหนาวนิดๆแฮะ เข้าบ้านเถอะฮะ......” พี่ธารพยักหน้าแทนคำตอน เราจึงพากันเข้าไปในบ้าน แต่เจ้าอิงลิช ค็อกเกอร์ มันไม่ได้ตามมาหรอก เห็นวิ่งหลังไวๆออกไปทางบ้านข้างๆแล้ว
 
ตอนนี้ลีวายส์อยู่ออสเตรเลียฮะ ตอนแรกก็ไม่อยากเชื่อหรอกว่าพี่ธารจะพามาจริงๆ ลีวายส์ถามแล้วถามอีกจนก่อนจะขึ้นเครื่องก็ยังถาม ว่า เราจะมากันจริงๆหรอ และเมื่อเวลาผ่านไปราวๆเก้าชั่วโมง ลีวายส์ก็มาถึงซิดนีย์ ก่อนจะเดินทางต่อมายังหมู่บ้านอัลพ์บัช ซึ่งเป็นบ้านลีวายส์เอง
 
ที่นี่สวยมากฮะ เป็นหมูบ้านที่สวยที่สุดในออสเตรเลียและมีอากาศบริสุทธิ์เหมาะแก่การพักผ่อนมาก ที่สำคัญยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อด้วย ลีวายส์โชคดีจังที่ได้มาที่นี่กับพี่ธาร
 
“ดื่มอะไรร้อนสิ.....เดี๋ยวจะไปหาเสื้อหนาๆมาให้ใส่ จุ๊บ!!! รอนี่นะ”ดีจังเลยฮะ ตอนที่พี่ธารดูแลลีวายส์แบบนี้
 
พี่ธารเป็นคนละเอียดอ่อนนะ ถ้าใครได้อยู่ด้วยจะรู้ว่าจริงๆแล้วพี่ธารจะใส่ใจลีวายส์ตลอด ไม่รู้ว่าจะเป็นกับลีวายส์แค่คนเดียวหรือเปล่า น้า.....ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ลีวายส์ก็คงจะเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกเลย
 
แต่ว่านะ....แค่มีพี่ธารอยู่ใกล้ๆ ลีวายส์ก็โชคดีมากกว่าใครๆในโลกใบนี้แล้วล่ะ ><
 
ลีวายส์วางแก้วโกโก้ร้อนไว้บนโต๊ะ เมื่อหันไปเห็นอัลบั้มรูปถ่ายใต้ชั้นวางทีวีจอใหญ่ บนหน้าปกเขียนว่า Story of my family ในขณะเดียวกันกับที่ลีวายส์มองเห็นชิงช้าผ่านบานหน้าต่างที่อยู่หลังบ้าน ลีวายส์เลยเปิดประตูออกไป พร้อมกับอัลบั้มรูปภาพในมือ
 
“โอ้ สวยจัง....” ลีวายส์พึมพำกับตัวเอง เมื่อเปิดประตูออกมา หลังบ้านเป็นเนินเขาเตี้ยๆที่ปูด้วยพื้นหญ้าสีเขียวอ่อน
 
ลีวายส์ก้าวเท้าเปล่าออกไปจากประตูสัมผัสต้นหญ้านุ่มๆเดินไปนั่งลงบนชิงช้า ใต้ต้นไม้ใหญ่ และใช้เท้าแกว่งไปมาเบาๆ ที่นี้ไม่มีกำแพงบ้านฮะ เราสามารถมองเห็นไปไกลจนถึงเขาลูกใหญ่เลยล่ะ
 
“บอกให้รอก่อนไม่ใช่หรือไง ใส่นี่ซะ” พี่ธารตามออกมาพร้อมกับเสื้อกันหนาวสีอ่อน ก่อนจะสวมมันให้กับลีวายส์ อ่า รู้สึกอุ่นขึ้นเลย
 
“นี่ฮะ มาดูรูปถ่ายกัน” เพราะชิงช้าอันใหญ่ และกว้างพอสำหรับสองคน พี่ธารเลยนั่งลงข้างๆลีวายส์ “นี่พ่อลีวายส์ฮะ ลีวายส์จำได้....ส่วนนี่คงเป็นแม่ลีวายส์....แม่สวยจัง”
 
“อืม.....ตัวเล็กนี่คงเป็นมึงล่ะสิ ตอนนี้ไม่เห็นน่ารักเหมือนตอนเด็กเลย”
 
“ชิท์! ก็ลีวายส์โตแล้วนี่นา ว่าแต่ ลีวายส์ตอนเด็กน่ารักจริงๆด้วย คึคึ” พี่ธารผลักหัวลีวายส์ไม่แรงนัก เมื่อได้ยินลีวายส์พูด ก่อนจะดูรูปถ่ายกันไปเรื่อยๆ ทุกรูปมีแต่ความทรงจำดีๆ เห็นได้จากรอยยิ้มบนใบหน้าของทั้งพ่อและแม่ แต่น่าเสียดายที่พระเจ้าใจร้ายทำให้เราต้องจากกัน
 
“เป็นอะไรอีกล่ะ” พี่ธารถาม คงสังเกตเห็นว่าลีวายส์นิ่งเงียบไป ร่างสูงยกแขนขึ้นโอบเอวลีวายส์ไว้
 
“ถ้าตอนนี้มีพวกท่านอยู่ด้วยคงดีไม่น้อยนะฮะ”
 
“ไม่มีใครกำหนดโชคชะตาได้หรอก เพราะถ้าทำได้เราคงไม่ได้เจอกัน” ลีวายส์นิ่ง มองคนตรงหน้า
 
“พี่ธารเชื่อเรื่องแบบนี้ ด้วยหรอฮะ”
 
“เมื่อก่อนไม่เชื่อหรอก แต่.....วันนั้น กูอาจจะทิ้งใครคนหนึ่งไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าก็เป็นได้ ถึงตอนนี้เราคงจะไม่ได้รู้จักกัน จริงมั้ย” พี่ธารยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะดึงลีวายส์เข้าหา ลีวายส์จึงโอบกอดร่างสูงตอบ
 
“ใช่ฮะ ลีวายส์คงเกลียดพี่ธารแน่ๆ รู้มั้ยฮะ วันนั้นลีวายส์กลัวมาก กลัวพี่ธารทิ้งมากกว่ากลัวไอ้พวกที่มาจับตัวลีวายส์ซะอีก ถึงแม้ลีวายส์จะยังไม่ได้รู้จักกับพี่ธารก็ตาม ขอบคุณฮะ ที่ไม่ทิ้งลีวายส์” น้ำตาลีวายส์ไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว จนต้องซบลงกับอกกว้างของอีกคน
 
“ก็เป็นแบบเนี่ย ใครจะทิ้งลง หืม จุ๊บ!!!” พี่ธารก้มลงจุ๊บมุมปากลีวายส์เบาๆ ก่อนจะมอบสัมผัสนุ่มด้วยปลายลิ้นตามมา รสจูบแสนหวานทำให้ลีวายส์หัวใจสั้นไหวและเต้นแรงได้เสมอจากผู้ชายคนนี้ คนที่ลีวายส์....รัก
 
“เอ่อ...เราจะทำอะไร....กัน....”ลีวายส์ดันอกร่างสูงออก เมื่อรู้สึกว่า พี่ธารเริ่มมือไว ลูบไปตามต้นขา ร่างสูงเลยเลิกคิ้วมอง
 
“ก็.......อ่อ.......ไปเที่ยวรอบหมู่บ้านกัน น่าจะดี” เอิ่ป นี่นะ....ก็ดี! เย้ย นี่ลีวายส์คาดหวังอะไรกันเนี่ย บ้าบอๆ ><
 
“ฮะไปฮะ น่าสนุกดี” วู้
 
“ไม่มีถุงมือบ้างหรอ นี่มันหนาวนะ...อ่า รู้งี้ซื้อมาจากสนามบินก็ดีหรอก” พี่ธารพูดบ่นไปเรื่อยหลังจากเดินออกมาจากบ้าน เดินฮะ ที่นี่เราไม่มีรถและบนถนนก็แทบจะไม่มีรถวิ่งผ่านเลย
 
“หนาว อยากให้หิมะตกจัง ลีวายส์ว่าหมู่บ้านต้องสวยมากๆแน่ๆ” ก็เคยเห็นอยู่หรอก ลีวายส์เรียนเมืองนอกนี่ แต่อยากเห็นอีก
 
“ใช่ช่วงนี้ที่ไหนล่ะ ถ้าช่วงหิมะตกคงได้ไป วินเทอร์ วิลเลจ เล่นสกีบนเขากัน” พี่ธารบอกขณะดึงมือลีวายส์ไปจับไว้ในเสื้อโค้ท
 
“จริงหรอฮะ หว้า อยากไปอ่ะ หน้าหนาวเรามากันอีกนะ มาตอนคริสมาสต์สิ อ่า นะฮะๆ นะๆ” ลีวายส์อ่อนพี่ธารด้วยกันใช้หน้าถูๆไปกับต้นแขน อ่าๆๆ
 
“พอๆ เป็นแมวหรือไง ไว้ถึงวันนั้นก่อนเหอะ” คึคึ แบบนี้แสดงว่าตกลงล่ะ คึคึ
 
“ที่นี่ตกแต่งด้วยดอกไม้สวยๆทั้งนั้นเลย เราไปซื้อดอกไม้มาปลูกหน้าบ้านกันมั้ยฮะ หน้าบ้านมีแต่สนามโล่งๆ มาคราวหน้าจะได้เห็นมันออกดอก นะฮะพี่ธาร”
 
“ไปสิ” เย้!!! พี่ธารน่ารักที่สุด จุ๊บ!!! “จุ๊บเก่งนะเดี๋ยวนี้ จูบให้เก่งบ้างก็ดี” เอ๊ะ! - -
 
“ลีวายส์จูบเก่งอยู่นะ....มั้ง......” ที่จูบอยู่ทุกวันนี้ไม่เก่งอีกหรอ
 
“เม้มปากกับเปลือกปาก เค้าเรียกจูบหรอห๊ะ! คืนนี้ต้องเข้าคอร์สสอนจูบกันหน่อยแล้วมั้ง” ลีวายส์กระพริบตาถี่ๆมองพี่ธารที่กำลังทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่
 
“ไม่เอาอ่ะ....ไม่คุยกับพี่ธารแล้ว ไปซื้อดอกไม้สิฮะ พูดเรื่องอะไรเนี่ย” >//////<
 
 
 
“ทำไมมันไกลแบบนี่วะ โอ้ยยยย” เสียงพี่ธารบ่นฮะ
 
“นั่นน่ะสิ ไกลก็ไกลหนักก็หนัก ลีวายส์จะไม่ไหวแล้วนะฮะ” ใครจะคิดล่ะฮะ ว่าที่หมู่บ้านต้องเดินเป็นกิโลถึงจะเจอร้านค้าสักร้าน แถวนี้มีแต่รีสอร์ททั้งนั้นเลย
 
“กูสิไม่ไหว ทั้งถือของทั้งแบกมึงเนี่ย ลงเลยๆ ปวดหลังจะแย่แล้ว” แป๊ว! - -
 
“ก็ได้.....งั้นให้ลีวายส์แบกพี่ธารมั้ยละ” คึคึ
 
“ไม่ตลก!.....” พี่ธารโหดนะ รู้ยัง คึคึ “รีบเดินเร็วเข้า หิวว่ะ ชักปวดท้อง” ขี้บ่นจังเลยพี่ธารเนี่ย
 
เราเดินกลับหลังจากซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตเสร็จและแวะซื้อดอกไม้มาปลูก เดินไปนี้ไม่รู้เลยว่าไกล มารู้ตัวก็ตอนเดินกลับเนี่ยแหละ จริงๆแล้วไม่ใช่แค่พี่ธารหรอกที่ขี้บ่น เพราะลีวายส์บ่นไงพี่ธารถึงได้ให้ขี่หลัง สุดท้ายตัวเองก็มาบ่นซะเอง คึคึ
 
“เย้ ถึงซะที พี่ธารเหนื่อยแล้ว ให้ลีวายส์ทำอะไรให้กินนะฮะ” ลีวายส์บอก และกำลังจะเดินไปยังห้องครัว แต่โดนร่างสูงดึงคอเสื้อซะก่อน
 
“หยุดเลย คงได้กินหรอกนะ ถอยไป ไปปลูกต้นไม้ของมึงโน้น อยากปลูกนัก” ลีวายส์ทำปากยื่นหน้างอใส่พี่ธารก่อนจะสะบัดหน้าเดินกลับออกมาหน้าบ้าน ชิท์! กลับไปลีวายส์จะให้พี่โอ๊ตสอนทำกับข้าวให้ค่อยดู
 
 
 
 
“ลีวายส์ มาทานข้าวก่อน”
 
“ฮะ!!!.....” อ่า อีกนิดก็จะปลูกเสร็จแล้ว พี่ธารต้องอึ้งแน่ๆ ถ้าเห็นดอกไม้ที่ลีวายส์ปลูก คึคึ “จะเสร็จแล้วนะฮะ เดี๋ยวพี่ธารออกไปดูนะ”
 
“อืม...มาล้างมือมา”พี่ธารดึงมือลีวายส์ไปล้างให้ ในอ้างล้างจาน จากนั้นไม่นานเราก็ท่านข้าวกันจนเสร็จ และลีวายส์ก็ต้องเก็บจานล้างอีก พี่ธารนะพี่ธาร ทำให้กินแล้วจะเก็บให้อีกหน่อยก็ไม่ได้ -.-
 
“ลีวายส์!!!! อะไรวะเนี่ย!” โอ๊ะ! เสียงพี่ธารดังมาจากสนามหน้าบ้านฮะ ลีวายส์เลยเก็บจานใบสุดท้ายและออกมาดู
 
“มีอะไรหรอฮะ” O.O
 
“ใครสอนให้มึงปลูกต้นไม้แบบนี้ห๊ะ!!!”
 
“ก็....สนามหญ้ามันว่างตั้งเยอะ ปลูกต้นไม้กระจายๆ จะได้สวยๆไงฮะ ไม่ดีหรอ” ลีวายส์ปลูกต้นไม้กระจายทั่วสนามเลยฮะ ถ้ามันออกดอกต้องสวยแน่นๆ
 
“จะบ้าหรือไง! โอ้ย ประสาทแดก เค้าให้ปลูกเป็นแถวๆ ให้เป็นระเบียบ ดูบ้านคนอื่นเค้าบ้างสิ แล้วนี่อะไร ทำไมไม่ตัดถุงดำออกก่อนห๊ะ รากมันจะเข้าไปในดินได้ยังไงวะ”
 
“ปลูกแบบนั้นไม่ได้หรอกฮะ เดี๋ยวดินที่รากมันก็หลุดออกหมดอ่ะดิ”
 
“เงียบไปเลย น่าตีด้วยเสียมนี่จริงๆ....ไปอาบน้ำเลยนะ เดี๋ยวกูปลูกเอง” ชิท์!!! ไปก็ได้ ลีวายส์ทำอะไรผิดเนี่ย
 
ได้อาบน้ำอุ่นๆรู้สึกดีขึ้นแฮะ ว่าแต่ พี่ธารปลูกเสร็จยังนะ ลีวายส์เดินไปยืนริมหน้าต่าง ก้มลงมองสนามหน้าบ้าน พบว่าพี่ธารกำลังปลูกต้นไม้ที่คาดว่าน่าจะเป็นต้นสุดท้ายอยู่ตรงแผ่นทางเท้า จากนั้นไม่นานร่างสูงก็เดินหายเข้าไปด้านใน
 
“เหนื่อยจริงๆเลย จะค่ำอยู่แล้ว มอง!!!.... มองอะไรอาบน้ำแล้วหรอเนี่ย ไหนมาหอมซิ”
 
“ไม่เอา งี้ พี่ธารไปอาบน้ำเลยนะฮะ คึคึ มอมแมมหมดแล้ว”
 
“เพราะใครล่ะ หึ!!!” พี่ธารผลักหัวลีวายส์ไปแรงนักก่อนจะเข้าห้องน้ำไป ลีวายส์เลยนอนบนเตียง คงเพราะวันนี้เดินเยอะไปหน่อยพอหัวถึงหมอน เลยรู้สึกเหนื่อยๆและอยากนอนขึ้นมา
 
 
“นอนแล้วหรอ หืม....ฟอด!!!!” ร่างสูงทิ้งตัวลงนอนข้างๆลีวายส์ ก่อนจะหอมแก้มฟอดใหญ่ และตามมาด้วยการซุกซอกคออย่างรวดเร็ว
 
“พะ...พี่ธาร....เดี๋ยวฮะ....เอ่อ...ไหนบอกว่าเหนื่อยเหมือนกันไงฮะ”
 
“แล้ว....??? จะทำไม” ห๊ะ! พี่ธารใช้ปากงับปลายจมูกลีวายส์เบาๆก่อนจะลงมาครอบครองริมฝีปากลีวายส์
 
“อื๊ออออ.........” เสียงครางหวานเล็ดลอดออกมา เมื่อลิ้นร้อนเกี่ยวตวัดต้อนลิ้นเล็กของลีวายส์จนลีวายส์เริ่มไปไม่เป็นถึงแม้จะพยายามจูบตอบ
 
“อ่า...พอ...ไม่ได้เรื่องเลย” จู่ๆพี่ธารก็หยุดซะงั้น แถมยังทำท่าเซ็งสุดๆอีกด้วย พลอยให้ลีวายส์ใจแป๊วตาม
 
“ทำไมล่ะฮะ ก็ลีวายส์......จูบตอบแล้วนี่นา”
 
“จูบตอบแบบ งับๆเนี่ยนะ แล้วลิ้นนะแข็งทื่อเป็นไส้กรอกเลย ไม่ไหวมั้ง นอนๆ” อะไรกัน ทีเมื่อก่อนจูบได้เลยนี่ ชิท์ จะโกรธแล้วนะ
 
“ไม่ให้นอนนะ.....!!!” ลีวายส์จับต้นแขนพี่ธารที่กำลังหันหลังหนีไว้ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งคร่อมร่างหนา ก็เอาสิ ไหนๆก็ไหนๆแล้ว จะลองดูซักครั้ง “ถะ.....ถ้าแบบนี้ล่ะ” ลีวายส์เม้มปากนิดๆ รู้สึกว่าหน้าตัวเองเริ่มร้อนขึ้นมาจากที่ร้อนอยู่ก่อนแล้ว
 
“ลงไปลีวายส์ เมื่อกี้แค่ล้อเล่น”
 
“มะ....ไม่อ่ะ....หลายวันแล้วที่พี่ธารไม่....เอ่อ....ไม่......”
 
“เหอะ! ลงมานอนดีๆเร็วเข้า” พี่ธารดึงแขนให้นอนลงแต่ลีวายส์ไม่ยอม ปัดมือพี่ธารออก ก่อนจะก้มลงจูบปลายคาง “ลีวายส์...”
 
“ขอโทษฮะ ที่ลีวายส์ทำตัวเป็นเด็กมาตลอด.....ต่อไปนี้ ลีวายส์จะ...พยายาม...” จุ๊บ! ลีวายส์บอกก่อนจะจุ๊บซอกคอขาวของพี่ธาร และใช้มือที่กำลังสั่นนิดๆวางลงบนแผงอกกว้างลูบเบาๆผ่านเสื้อตัวบางด้วยหัวใจเต้นรัว
 
“หึ! หยุดเถอะ.....” พี่ธารหยุดมือลีวายส์ไว้  จ้องสบตาลีวายส์นิ่งๆ ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก “แบบนี้ไม่ไหวหรอก ลงมาอยู่ด้านล่างดีกว่า”
 
“อ่ะ!!!! พูดจบ พี่ธารดันร่างลีวายส์ให้นอนลงอย่างรวดเร็วก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นฝ่ายคร่อมร่างลีวายส์แทน “พะ...พี่ธาร...อุ๊บ!!!”
 
“ทั้งที่ไม่อยากให้เจ็บตัวแล้วแท้ๆ ถ้าพรุ่งนี้เดินไม่ไหวอย่ามางอแงก็แล้วกัน....จุ๊บ!!!”
 
ต่อจากนี้ไปก็เป็นฉากรักที่ลีวายส์ไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดได้นอกจากจะส่งเสียงคราง อ๊ะๆๆ.....ไปตามประสา ถึงแม้จะรู้สึกว่าพี่ธารนุ่มนวลเพียงใด ความเจ็บก็ยังคงวิ่งไปทั่วร่างกายอยู่ดี แต่เหนือสิ่งอื่นใด ก็ยังคงรู้สึกได้ว่า ลีวายส์รู้สึกดี และดีมากกับสิ่งที่ได้รับ
 
“นอนซะ....คนดี” เสียงพี่ธารกระซิบบอก ในขณะที่ร่างกายของลีวายส์อ่อนล้าเต็มที อยากจะบอกรักก่อนนอนอีกทีแต่ดวงตาคู่นี้ก็ไม่อาจลืมขึ้นมาได้เสียแล้ว ลีวายส์จึงได้แต่ซุกเข้าหาแผงอกกว้างที่กำลังเปลือยเปล่า หาความอบอุ่นก่อนจะปล่อยให้ตัวเองหลับลงในที่สุด
 
 
 
“อืออ....อ๊ะ!.....อื๊อออออ” ลีวายส์ครางออกมาเบาๆ ทันทีที่รู้สึกตัว ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ ปวดหนึบไปทั้งตัว อยากจะร้องออกมาอย่างที่เคยทำบ่อยๆแต่ก็ต้องอดทนไว้ ไม่อยากเรียกหาพี่ธารอีก
 
ลีวายส์ยันตัวลุกขึ้นจากเตียงทำให้ผ้าห่มลงไปกองตรงตัก โอ๊ะ!!! และก็ต้องตกใจกับรอยช้ำบนตัวที่มีไปทั่วเกือบทุกที่ ภาพเมื่อคืนลอยเข้ามาในหัว ตามมาด้วยรองรอยสัมผัสที่เกิดขึ้น
 
น่าอายจัง รีบเข้าห้องน้ำดีกว่าก่อนที่พี่ธารจะขึ้นมา ลีวายส์ลุกขึ้นยืนช้าๆ คว้าเสื้อคลุมอาบน้ำมาใส่ และพยุงตัวเดินไปเข้าห้องน้ำ เจ็บอ่ะ T^T
 
“ตื่นแล้วทำไมไม่เรียกหืม...ฟอด!!! ฟอด!!!” >////<
 
“ก็......ลีวายส์ไหวฮะ อาบน้ำแล้วด้วย พี่ธารทำอะไรอยู่อ่ะ” ลีวายส์ลงมาหาพี่ธารในครัว ตอนลงบันใดโคตรเจ็บเลยขอบอก
 
“โจ๊ก กินสิ.......” พี่ธารตักโจ๊กใส่ถ้วยและวางลงตรงหน้าลีวายส์ “วันนี้จะพาไปที่ที่หนึ่ง ไหวหรือเปล่า”
 
“ไหวสิฮะ ลีวายส์แข็งแรงนะ กระโดดตบตอนนี้ยังไหวเลย”
 
“หึ! งั้นกระโดดซิ” ห๊ะ!!!
 
“เอ่อ....หิว กินก่อน”
 
“เหอะๆ กล้าเล่นนะเรา แค่ไม่ร้องงอแงก็พอแล้ว จุ๊บ!!!”  พี่ธารจุ๊บแก้มลีวายส์ก่อนจะตักโจ๊กขึ้นเป่าไล่ความร้อนและค่อยป้อมให้
 
 
 
“ไกลจังเลยฮะ”
 
“บ่นทำไม มีรถให้นั่งมานี่ หรือว่า....เดินไม่ไหว” ลีวายส์หยิกแขนพี่ธารเข้าให้ เมื่อร่างสู่ทำท่าล้อเลียน
 
“ไหวน่า พี่ธารฮ่ะ แล้ว...เรามาที่นี่ทำไมฮะ เอ๊ะ!!! หรือว่า.......”
 
“อืม เมื่อเช้ายัยน้ำโทรมา ยัยนั่นบอกว่าให้พามาที่นี่ มาหาพ่อกับแม่” ลีวายส์มองไปรอบๆเนินเขากว้างสุดลูกหูลูกตา ต้นหญ้าสีอ่อนกำลังถูกลมเย็นพัดจนปลิวไหว หลุมฝังศพมากมายถูกปักป้ายไว้แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด
 
“พ่อ แม่” ลีวายส์เดินตามพี่ธารมาหยุดอยู่หน้าป้ายชื่อสองอันที่มีชื่อพ่อกับแม่เขียนอยู่ ลีวายส์ไม่รู้จริงๆ ว่าพวกท่านอยู่ที่นี่ ลีวายส์น้ำตาไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ “คิดถึงจังเลยฮะ อึกๆ พ่อกับแม่สบายดีมั้ยฮะ ฮึกๆๆ”
 
“มาหาแล้วร้องไห้ คงไม่ดีมั้ง” พี่ธารบอก พร้อมกับเกลี่ยน้ำตาสองข้างแก้มให้
 
“พ่อฮะ แม่ฮะ ลีวายส์ไม่เคยโกรธที่พ่อกับมีจากไปเลยนะฮะ ขอบคุณนะฮะ ที่ทำให้ลีวายส์เกิดมาเจออะไรหลายๆอย่าง ถึงแม่ชีวิตของลีวายส์จะไม่ได้มีครอบครัวที่ดีอย่างคนอื่นๆ ลีวายส์ก็ไม่เสียใจ เพราะตอนนี้ลีวายส์มีคนสำคัญที่สุดอยู่ข้างๆ ขอบคุณฮะ ที่ทำให้ลีวายส์ได้เจอพี่ธาร” ทั้งที่ตอนแรกอากาศเริ่มเย็นลงแต่ตอนนี้กลับรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
 
“ผมจะดูแลลีวายส์เอง” พี่ธารบอก มันเหมือนกับคำสัญญาแต่ลีวายส์ว่า ตอนนี้สิ่งที่พี่ธารทำอยู่ มันยิ่งกว่าการดูแลซะอีก
 
“ลีวายส์สัญญาฮะ ว่าจะเป็นเด็กดี พ่อกับแม่ช่วยนำพาสิ่งดีๆมาให้ลีวายส์ด้วยนะฮะ รักพ่อกับแม่ฮะ”
 
ไม่รู้ว่าลีวายส์คิดไปเองหรือเปล่า เมื่อรู้สึกว่าลมอุ่นๆพัดมาปะทะหน้าเบาๆ คล้ายกับการตอบรับจากพ่อและแม่ มันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญ แต่ลีวายส์รู้สึกดี ต่อจากนี้ไปลีวายส์จะใช้ชีวิตกับคนที่รัก โดยมีพ่อกับแม่ค่อยคุ้มครองและหวังว่าจะเจอแต่สิ่งดีๆเข้ามา
 
 
 
“ไม่อยากกลับเลยอ่ะ อยู่ต่ออีกวันได้มั้ยฮะ” ลีวายส์พูดบอกกับพี่ธารที่กำลัง นั่งยองๆเล่นกับเจ้าอิงลิช ค็อกเกอร์ ที่เดินมาจากไหนก็ไม่รู้ อยู่หลังบ้าน
 
“ไม่ได้หรอก มีงานรออยู่ ไว้ปิดเทอมหน้าค่อยมาอีก” พี่ธารบอกก่อนจะขว้างมัฟฟินบลูเบอรี่ให้มัน
 
“อ๊ากกก ของลีวายส์นะ อื๊อออ ให้มันทำไมอ่ะ” พี่ธารหันมามอง เมื่อถูกโวยใส่ จากนั้นก็ส่งอีกอันที่เหลืออยู่มาให้ลีวายส์ อ้าวคิดว่าหมดแล้ว คึคึคึ
 
“ร้องซะ กินไปกี่ชิ้นแล้วล่ะ หืม ฟอด!!!” พี่ธารนั่งลงบนชิงช้าข้างๆลีวายส์ จริงๆก็กินไปสามชิ้นแล้วล่ะ แต่อร่อยเลยอยากกินอีกอ่ะ “กินเยอะ ก็ไม่เห็นจะโตเลย”
 
“โตแล้วฮะ แค่โตไม่เท่าคนอื่นเอง”
 
“ไหนมาดูสิว่าโตยังไง ตรงไหนที่ว่าโตน่ะ” พี่ธารดึงลีวายส์ให้ลุกขึ้นไปนั่งบนตัก ทำให้ลีวายส์รีบยกมือขึ้นโอบ รอบคอร่างสูงไว้ จนมัฟฟินที่เหลืออยู่ครึ่งหนึ่งตกจากมือ
 
“พี่ธารอ่ะ อดกินเลย....อุ๊บ!” จูบแบบไม่ทันได้ตั้งตัวอย่างนี้ก็แย่สิ ปากยังเลอะอยู่เลย ><
 
“อร่อยตรงไหน หวานซะมัด” พี่ธารบอกหลังจากถอนจูบออก สายตาคมเข้มกำลังจ้องมองนัยน์ตาลีวายส์และยิ้มออกมา ลีวายส์จึงกัดปลายจมูกโด่งเข้าหา
 
“รักพี่ธารนะฮะ ลีวายส์รักพี่ธารที่สุด ไม่ใช่รักเพราะว่าพี่ธารเป็นพี่ชาย แต่รักในฐานะคนรักฮะ รักมาก รักที่สุดในโลกเลย จุ๊บ!!!”
 
“ไม่เชื่อ” เอ๊ะ!!! “รัก คนที่เคยจะคิดทิ้งตัวเอง เคยทำให้ร้องไห้ เคยด่า เคยว่า เคยตี เนี่ยนะ”
 
“ถึงยังไงก็รักฮะ พี่ธารจะร้ายยังไงก็รัก รักๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
 
“หึ!”
 
“ตอบแค่นี้หรอฮะ ไม่เห็นบอกรักลีวายส์บ้างเลย พี่ธารรักลีวายส์หรือเปล่าเนี่ย”
 
“ไม่รัก” บอกว่าไม่รักแต่อบยิ้มหมายความว่ายังไงกัน พี่ธารขี้โกงอ่ะ
 
“ไม่เชื่อหรอก” ฟอด! ต้องหอมแก้มลงโทษเลยนี่
 
“ที่ทำอยู่เค้าเรียกว่าอะไรล่ะ ไม่เข้าใจหรือไง หืม ฟอด ฟอด” พี่ธารเจ้าเล่ห์ ลีวายส์หอมแค่ข้างเดียวเอง ตัวเองกลับมาหอมคนอื่นเค้าสองข้าง
 
“ไม่รู้อ่ะ ก็พี่ธารไม่เคยบอกนี่” ลีวายส์ กอดอกและเชิดหน้าใส่พี่ธาร
 
“จะฟังให้ได้ใช่มั้ย ได้แต่...ต้องมีของแลกเปลี่ยน” ชักเริ่มเสียวสันหลังวาบขึ้นมากับคำว่าของแลกเปลี่ยนแล้วล่ะสิ ยิ่งเจอกับสายตาหวานเยิ้มชวนตกหลุมพรางเข้าก็...
 
“ปะ...เปลี่ยนใจแล้วฮะ ไม่ๆ...”
 
“My heart is all yours.And I love you with all my heart.” คำว่ารักอาจจะไม่มีความหมายเท่ากับการกระทำแต่ถึงอย่างนั้นลีวายส์ก็ยังคงรอคอยที่จะฟังคำๆนี้ และในที่สุด ก็ได้ยินสักที
 
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ลีวายส์เข้ามาอยู่ในบ้าน มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่หลังสัมผัสกับโซฟานุ่มๆ โดยมีร่างสูงตามลงมาคร่อมร่างไว้ ก่อนจะได้ยินเสียงกระซิบเบาๆข้างหู เพื่อยืนยันคำพูดเมื่อครู่ที่ลีวายส์ได้ยิน
 
“I love you.”
 
 
 
<<<<<<<<<<<<<<<<< END >>>>>>>>>>>>>

ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ฉากจบอาจจะไม่ได้สวยหรูอย่างที่ใครๆคาดหวังไว้ ต้องของโทษด้วย เราพยายามเต็มที่แล้ว และก็มีตอนพิเศษให้แน่นอน แต่ด้วยเวลาตอนนี้ เราเริ่มมีเรียนแล้วเลยช้าหน่อย อย่างว่ากันนะ ช่วงนี้ก็จะพยายามหาเวลามาแก้คำผิดในเรื่องให้นะค่ะ
ส่วนเรื่องรวมเล่มยังอยู่ในช่วงพิจารณาค่ะ ถ้าอะไรๆลงตัวก็ค่อยว่ากันอีกที ขอโทษคนที่ติดตามอยู่ด้วยนะคะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจและความคิดเห็นดีๆ จากทุกคนที่ติดตามนะคะ ไว้เจอกันในใหม่น๊า
 
ลีวายส์ : อย่าเพิ่งลืมลีวายส์กันนะฮะ   ^__^  <3

ออฟไลน์ Akikojae

  • พี่ยุนรักน้องแจ ★彡
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1137/-17
จบสวยมากมาอย่างยาวเลยทีเดียว
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายน่ารักๆแบบนี้
จะไม่ลืมพี่ธารกับน้องลีวายส์เลย :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-10-2014 19:13:36 โดย Akikojae »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
 :mew1: อวสานซะแล้ว

ลีวายส์น่ารักมากๆเลยค่ะ เพราะงั้นขอน้องลีวายส์ ขอตอนโตที่ลีวายส์ทำงานแล้วได้ไหมคะ เอาอายุซัก30 อยากรู้คู่นี้เป็นยังไงต่อ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
โอ๊ย ขอตอนพิเศษได้มั้ยค้าาาาา
อยากอ่านอีก :mew1: :mew1:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
ดีใจที่ลีวายได้กลับมาไหว้พ่อกับแม่
จบดีค่ะ ประทับใจมากกกก


ขอตอนพิเศษของแมนกับโอ๊ต เซฟกับแพ็ค กายกับพี่หมอและคู่หลักอย่างลีวายอีธารเยอะๆน่าาา

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
จบสวยงามมากค่ะ เราชอบบรรยากาศตอนนี้นะ โรแมนติกดี ^^
ขอบคุณทั้งคนเขียนและคนโพสนะคะ
รอตอนพิเศษจ้าาาา อยากอ่านทุกคู่เลย นะๆๆๆๆ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11

ออฟไลน์ punchnaja

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3354
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +383/-5
สนุกมากกกกกกค่า แต่คำผิดเยอะไปนี้ดดดดนึงโดยเฉพาะช่วงแรกไปถึงเกือบหลัง ส่วนมากผิดตรงพวกสรรพนาม ประเภท ลีวายคุยกับลีวายว่า... แทนที่จะเป็นกายคุยกับลีวาย... อะไรแบบนี้ ลองเช็คตัวสรรพนาม เช็คพวกชื่อด้วยเด้อ ^^ และคำผิดสลับที่อะไรแบบนี้ เช่น จากหวาน เป็นคำว่าหนาว 555
รอตอนพิเศษค่ะ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด