แต่งตอนนี้แล้วฟินนนนนนนนนน
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก
คนใกล้ตัวเดินหนีเลย คึ คึ^__^ Love Devil ^__^
รักร้ายเทพอสูร
ตอนที่ 10 จิตผูกพัน
คืนที่สี่
“อื้อออออ...อาส์~” เสียงครางเบาๆมาจากร่างงดงามที่กำลังหลับสบายบนแท่นบรรทมหลังใหญ่ หากไม่นานอาการกระสับกระส่ายก็มีมากขึ้น ใบหน้างดงามเริ่มแดงก่ำงดงามยิ่งกว่าเดิมนัก ริมฝีปากสวยเผยอเล็กน้อยส่งเสียงครางอย่างรัญจวนใจ
บนร่างงดงามนั้นปรากฏร่างเทพองค์หนึ่งคร่อมทับอยู่ รูปร่างของเขางามสง่า นัยน์ตางดงามสีทองดั่งดวงตะวันจ้องมองจดจ่อที่ใบหน้างดงามน่าหลงใหลนั้น หากได้สบตาบุคคลตรงหน้าในร่างนี้คงดีมิใช่น้อย ปากบางยิ้มหยันกับความนึกคิดของตนเอง จมูกโด่งคมสันโน้มลงบนใบหน้างดงามนั้นอย่างหลงใหล หยอกล้อ ยิ่งพิศยิ่งหลง ยิ่งสูดดมกลิ่นกายนี้ยิ่งเสน่หา
...อัลฟ่าร์...
...ของข้า...
...ช่างงดงามเสียจริง...
หัวใจเต้นเร่าอย่างมิอาจห้ามได้ ยิ่งกว่าความลุ่มหลง เขารู้ดี แค่สูดดมกลิ่นกายานี้อย่างเดียวช่างไม่เพียงพอเสียเลย เขาอยากเสพสุขกับร่างงดงามดั่งอัญมณีล้ำค่านี้ ความคิดไม่ไปไกลเกินจากการกระทำเลย เทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้าสูดดม ขบเม้น ดูดชิมผิวแสนงามบนล่างงามอย่างกระหาย เขาซุกไซร้ทั่วเรือนร่างงามไร้ที่ตินั้นอย่างเสน่หา
“อ๊ะ! อ้า...อ๊า~...อา” มีครางเบาๆจากร่างหลับไหล
ยิ่งสูดดมยิ่งยากจะห้ามใจ ยิ่งสัมผัส...ยิ่งต้องการ
“อือออ...ฮอค...ฮอคหรือ? ฮึ...เจ้าไม่ควรมาเบียดข้าเวลานอนแบบนี้สิ หากข้าพลิกไปทับเจ้า ข้าคงเศร้าใจยิ่งนัก” เปลือกตาแสนสวยค่อยๆปรือขึ้น ริมฝีปากเล็กเผยอเล็กน้อยก่อนจะส่งเสียงทักเพื่อนนกน้อยที่แอบมาซุกกายเขายามหลับไหล...
...ให้เขาฝันแปลกประหลาดไปซะได้...
หากแต่ฮอคหรือเหยี่ยวที่อัลฟ่าร์ตั้งชื่อให้นั้น เพียงมองสบตาฉ่ำเยิ้มจากอาการง่วงงุนนั้นเสมือนไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ อัลฟ่าร์ยิ้มบาง ก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวเจ้านกน้อยของเขาอย่างเอ็นดูสองสามครั้ง ปากเล็กๆนั้นหาวว๊อดดด...หนึ่งทีก่อนตาคู่สวยนั้นจะค่อยๆปิดลง...ลงสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง โดยหารู้ไม่ว่าเจ้านกน้อยฮอคนั้นได้กลายร่างเป็นเทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้าอีกครั้ง ไคนาสยิ้มบางอย่างสงบลงอย่างประหลาด อดจะลูบศีรษะเจ้าชายแห่งเอลฟ์กลับคืนอย่างบางเบาไม่ได้ ก่อนจะโอบกอดร่างแสนงามไว้ในอ้อมแขน
...สูดดมกลิ่นหอมบนเส้นผมนุ่มดุจแพรไหมนั้นหนึ่งครั้ง เสี้ยวหนึ่งของความรู้สึก...เขาอยากหยุดช่วงเวลานี้ไปอีกนานแสนนาน ดังนั้นหากเขาจะปกป้องเจ้าชายองค์นี้...
...จะผิดไหม?...
.............................................................................................
ณ ยูลูรู
สนามรบที่เป็นทะเลสาบอันกว้างใหญ่ ศึกระหว่างความมืดกับความสว่างกำลังปะทุขึ้นอย่างดุเดือด ผลจากผลไม้แห่งชีวิตทำให้ฮาเดสสามารถควบคุมพลังแห่งความมืดได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของปีศาจไม่อาจปรากฏแก่สายตาของเหล่าเทพได้ ผลจากการสู้รบที่ยืดเยื้องทำให้เกราะป้องกันพระราชวังบางส่วนเสียหาย ทำให้การสู้รบครั้งนี้เหล่าเทพพ่ายแพ้ไปอย่างยับเยิน มีเทพดับสลายไปเป็นจำนวนมาก จนจอมแม่ทัพแห่งสวรรค์ต้องสั่งถอยทัพไปอย่างเจ็บปวด ฮาเดสมิได้ตามติดความพ่ายแพ้นั้น เพราะตัวเขาก็ใกล้ถึงขีดจำกัดเช่นกัน จึงยอมล่าถอยเมื่อกองทัพเทพประกาศถอยทัพ หากแต่เรื่องนี้คงยากที่จะมีใครรู้ดีไปกว่าตัวฮาเดสเอง
ณ สภากองทัพนครเฮเวนท์
“กองทัพใหญ่ไม่พบข้าศึก แม้แต่ทางเราก็ไม่พบพวกมัน”
“เรามองไม่เห็นข้าศึก แม้จะใช้พลัง”
“เราไม่สามารถฟื้นฟูเกราะปกป้องพระราชวัง”
“ฝ่าพระบาทเราป้องกันตัวเองไม่ได้”
สี่ประโยคมาจากแม่ทัพใหญ่และกุนซือแห่งราชอาณาจักรเฮเวนท์ สรวงสวรรค์ของเหล่าทวยเทพ
ความเคร่งเครียดลามไปทั่วอาณาบริเวณ แน่นอนว่า...ดาร์ทเนลเป็นพลังที่ไม่อาจต่อกรได้ ตามตำนานนอกจากพระเจ้าและบุตรของพระองค์ก็มีเพียงผู้ที่มีตราแห่งดาร์ทเนลเท่านั้น
...แล้วใครล่ะ?...
...ผู้ที่มีตราแห่งดาร์ทเนล...
“เจ้าชายไคนาส”
“...??...”
“ท่านผู้เฒ่า”
เกิดความเงียบและงุนงงไปชั่วขณะ เสียงเรียกชื่อเจ้าชายไคนาส คือ...ท่านผู้เฒ่าเดลเทพพยากรณ์แห่งสรวงสวรรค์ ทุกคนโค้งคำนับแด่ผู้อาวุโสไม่เว้นแม้แต่องค์ราชาแห่งทวยเทพ
“พวกเจ้าออกไปก่อน” ผู้เฒ่าเดลออกปากไล่เหล่าทหาร ทุกคนโค้งอีกครั้งก่อนจะทยอยเดินกันออกไป
“หากท่านจะใส่ใจเจ้าชายไคนาสสักนิดนะท่านเอเทอร์” ท่านผู้เฒ่าเริ่มเปิดประเด็น
“ข้าไม่เข้าใจ ท่านผู้เฒ่าหมายถึงเรื่องอันใด”
“แล้วเจ้ากำลังตามหาอะไรล่ะ” ท่านผู้เฒ่ากล่าวพลางจ้องหน้าองค์ราชันย์อย่างสื่อความหมาย
...เงียบ และแล้ว....
“...!!!....” ราชาแห่งทวยเทพเบิกตากว้างขึ้น
“.........” ผู้เฒ่าเดลเพียงมองคู่สนทนาอย่างสงบ
เกิดความเงียบไปชั่วขณะ ทั้งคู่ใช้เพียงนัยน์ตาจ้องถามตอบกัน แต่ก็สื่อสารกันอย่างเข้าใจ
“...นั่นสินะ ข้าช่างเป็นพ่อที่แย่เสียจริง” ราชาแห่งทวยเทพจะขำแต่ก็ขำไม่ออก จะตำหนิตัวเองก็ช่างกระไร
“...เวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว ท่านเอเทอร์” ท่านผู้เฒ่ากล่าวย้ำเตือนอีกครั้ง
“ขอบคุณ ท่านผู้เฒ่า”
“เก็บคำนั้นบอกกับบุตรของท่านไม่ดีกว่าหรือ?” ท่านผู้เฒ่าถามกลับพร้อมจ้องผ่านเข้าไปในดวงเนตรของอดีตหลานรักของเขา
“...คงไม่มีวันหรอกท่าน” องค์ราชันย์ตอบด้วยรอยยิ้มบางเบา หากแต่ในใจเขาหดหู่ยิ่งนัก
ใช่ ไม่มีวัน ไม่มีวันที่เขาจะได้บอกหรอก และต่อให้ได้บอกบุตรชายเพียงคนเดียวของเขาก็คงไม่รับเฉกเช่นเดียวกับคำว่า... ‘ขอโทษ’
.........................................................................
“เหม่ออะไรอยู่ครับท่านอัลฟ่าร์”
“มูน”
“ท่านเหม่อแบบนี้มาหลายวันแล้วนะครับ”
“...เหรอ”
“ท่านไม่รู้ตัว?”
“นั่นสินะ ช่วงนี้ข้านอนไม่ค่อยหลับน่ะ” อัลฟ่าร์ตอบพี่เลี้ยงพร้อมรอยยิ้มบางเบา แต่ก็งดงามยิ่งนักสำหรับผู้พบเห็น
“ท่านฝันร้ายหรือครับ? งั้นเดี๋ยวข้า...”
“ไม่ต้อง มูนไม่ต้อง ข้าคงเหนื่อยมากกว่า”
มูนแสดงอาการเป็นห่วงออกมาอย่างชัดเจนพร้อมกับคิดว่า หากเป็นเช่นนั้นเขาก็ควรไปตามเทพแห่งความฝันมาดูท่านอัลฟ่าร์เสียหน่อยแล้ว หากแต่เพียงยังพูดไม่จบประโยคดีอัลฟ่าร์ก็ขัดเสียก่อน
“ก็ท่านไม่ยอมพักบ้างเลยนี่นา ปล่อยสายเวทฟื้นฟูทุกวันแบบนี้ ไม่ดีเลยนะครับ”
สายเวทฟื้นฟู คือ พลังฟื้นฟูธรรมชาติซึ่งจะปล่อยหรือไม่ก็ได้ พลังนี้ไม่ได้เจาะจงว่าจะไปฟื้นฟูธรรมชาติที่ไหน หากแต่ที่ใดทรุดโทรมมันก็จะไปฟื้นฟูที่นั่น
“อืม งั้นข้าไปพักก่อนดีกว่า”
“พักยาวเลยนะครับ นี่ก็ใกล้จะค่ำแล้ว”
“.....” อัลฟ่าร์เพียงส่งยิ้มหวานให้อย่างเดียว ก่อนเดินเข้าห้องส่วนตัวไป
มูนสายหน้าเล็กน้อยอย่างเอ็นดู ในใจอยากดูแลจนเจ้าชายของเขาหลับเลยเสียด้วยซ้ำ แต่เจ้าชายอัลฟ่าร์ค่อนข้างชอบความเป็นส่วนตัว อีกทั้งหากไม่อยากทำอะไรเองก็เพียงใช้เวทมนต์เท่านั้นทุกอย่างก็เรียบร้อย เขาจึงไม่เคยคัดค้างสิ่งที่อัลฟ่าร์ต้องการเลย
เพียงก้าวเข้ามาในห้อง ความรู้สึกวาบหวามก็ปะทุขึ้นมาในอกทันที เขาไม่ได้ฝันร้ายและเขาก็ไม่ได้ว่าจะนอนไม่หลับอย่างที่บอกมูนไปเลยสักนิด แต่ที่เหม่อนบ่อยๆโดยไม่รู้ตัวคงเป็นเพราะ....
...เขาฝัน...
...ฝันว่า...
...ได้ร่วมเพศกับบุรุษเพศด้วยกัน...
...โดยที่เขาเต็มใจด้วย....
...อีกทั้ง...
...เขาเรียกร้องมัน...
...เขาต้องการมัน...
...ช่างน่าอายเหลือเกิน....
อัลฟ่าร์เดินตรงเข้าไปหาฮอค อัลฟ่าร์ไม่เคยกักขังฮอคเลย เขาปล่อยให้ฮอคมีอิสระเต็มที่และหากฮอคจะโผบินออกไปจากวังแห่งนี้เขาก็ไม่ว่าอะไร แต่ฮอคก็อยู่แม้ขาของมันจะหายแล้วก็ตาม อัลฟ่าร์โอบกอดฮอคเอาไว้แนบอก แววตาสีเงินคู่สวยปรากฏความสับสนวุ่นวายใจอย่างเด่นชัด
ตั้งแต่ถือกำเนิดมาไม่เคยเลยที่เขาจะรู้สึกวุ่นวายใจเช่นนี้ หากเปรียบเป็นมนุษย์ก็คงเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วัยรุ่นโดยมีพฤติกรรมบางอย่าง ซึ่งก็คือพฤติกรรมทางเพศที่อยากรู้อยากลองของเพศชาย อาจจะมีฝันเปียกและช่วยตัวเองและให้คนอื่นช่วยหรือมีเพศสัมพันธ์ไปเลย แต่กับเขา...เกิดมาจนจะร้อยปีแล้ว ทำไมพึ่งจะมามีอาการตอนนี้นะ อีกอย่างพลังเวทของเขาก็ไม่ช่วยอะไรเลย
“เฮ้อออ~” คงได้แต่ทอดถอนหายใจ หากจะช่วยเหลือตัวเองก็กระไรอยู่ ที่ทำได้ก็คงเป็นใช้พลังเวทค่อยๆปรับสภาพร่างกายที่มักจะตื่นตัวบ่อยๆให้เข้าสู่สภาวะปกติอย่างช้าๆเท่านั้น
หากแต่อาการทั้งหลายของอัลฟ่าร์ก็อยู่ในสายตาของไคนาสในร่างของฮอคตลอดเวลา ใช่ว่าจะมีแต่เจ้าชายแห่งเอลฟ์เท่านั้นที่มีอาการกระสับกระส่ายดังกล่าว ตัวของไคนาสเองก็ไม่ต่างกัน เขาต้องการ....
...ต้องการร่างงามตรงหน้าอย่างมาก....
“อื้อออ~...อ่าส์~” เสียงครางดังออกมาเป็นระลอกๆ เทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้ารู้สึกพึงใจยิ่งนัก
เขาดูดชิมไปตามเรือนร่างงดงามนั้นอย่างไม่อาจห้ามใจได้อีกแล้ว บางอย่างทำให้เขาไม่ยั้งใจรออีกต่อไป ไคนาสลูบไปตามใบหน้าหมดจดนั่นอย่างหลงใหล ความต้องการเสพสุขฉายชัดในแววตาสีทองอร่าม บางอย่างบอกเขาว่าเจ้าชายแสนงามใต้ร่างนี้พร้อมแล้วสำหรับเขา แน่นอนว่าไคนาสก็ไม่ลังเลใจที่จะรวมร่างกับเจ้าชายแห่งเอลฟ์
ไม่นาน....ไคนาสก็ปลดเปลื้องอาภรณ์ของทั้งเขาและอัลฟ่าร์ออกจนหมด ร่างสีขาวอมชมพูงดงามดั่งซากุระบาน ผิวกายเรียบเนียนนุ่มดั่งแพรไหม เรือนร่างผ่องใสเรือนแสงเล็กน้อย
...งดงาม...
...งดงามอย่างที่สุด...
เห็นเช่นนั้นไคนาสไม่ลังเลเลยที่จะกางอาณาเขตกั้นอาณาบริเวณห้องแห่งนี้เอาไว้ทันที ดูเหมือนร่างงดงามนี้จะเริ่มส่งกลิ่นเย้ายวนใจมากขึ้นแล้ว ไคนาสลูบอย่างเสน่หาไปตามเรือนร่างงามนั้น ถึงตอนนี้เขาก็จงใจให้สัมผัสเหล่านั้นมีผลต่อสติของเจ้าชายแห่งเอลฟ์ทันที นั่นเพราะก่อนหน้านี้เขาจะใช้เวททำให้อัลฟ่าร์รู้สึกเพียงว่าตนเองกำลังฝันไปเท่านั้น
เปลือกตาคู่สวยค่อยๆปรือขึ้นมา ดวงตาสีเงินสบเข้ากับดวงเนตรสีทองอร่ามและมันก็เหมือนถูกตรึงอยู่อย่างนั้น อัลฟ่าร์ไม่อาจละจากสายตาคู่นั้นได้ และตอนนี้เขาก็มีอาการหายใจติดขาดเพราะแรงอารมณ์ทางเพศรส เทพหนุ่มพึงใจยิ่งนักกับปฎิกิริยาดังกล่าว
“แฮ่ก...แฮ่ก...ฮ่า~”
เหมือนจะมีสติ แต่อัลฟ่าร์กลับรู้สึกว่าตัวเองกำลังฝัน แม้ความฝันในคืนนี้จะชัดเจนในรสสัมผัสมากเพียงใดก็ตาม อัลฟ่าร์ก็ยังคงคิดว่าตนเองกำลังฝัน ความรู้สึกล่องลอยไปในเมฆหมอก เย้ายวนรัญจวนใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และอาการกระสันอยากก็บิดรัดความต้องการเติมเต็มบางอย่างจากเจ้าของแววตาสีทอง อัลฟ่าร์รู้สึกว่าต้องเป็นบุคคลนี้เท่านั้น...ที่จะเติมเต็มเขาได้ แม้นี่จะเป็นเพียงความฝันก็ตาม
ใช่...อัลฟ่าร์คิดว่าตนเองกำลังฝัน ฝันเดิมๆดังเช่นทุกค่ำคืน ฝันถึงสัมผัสอันเย้ายวนใจจากบุรุษเพศคนนั้น แม้ตอนนี้เขาจะกำลังรับรู้ถึงความเร่าร้อนนั้นอย่างชัดเจนมากก็ตาม นั่นเพราะอัลฟ่าร์เป็นผู้ที่มีเวทมนต์สูง และสูงมากที่สุดตั้งแต่เอลฟ์ถือกำเนิด แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีผู้ที่สามารถต่อกรได้ ยิ่งในภาวะหลับใหลเช่นนี้การป้องกันตัวยิ่งลดลง อีกทั้ง...เป็นตัวอัลฟ่าร์เองที่เปิดรับสัมผัสอันเย้ายวนจะเทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้า
“อ่าส์~ อื้มมม...” เจ้าชายแห่งเอลฟ์ครางเบาๆอย่างพึงพอใจกับสัมผัสที่ได้รับ นั่นยังไม่พออัลฟ่าร์เอื้อมมือขึ้นไปโอบกอดร่างสง่างามตรงหน้าอย่างบรรเทาอาการกระสันอยาก
ช่างน่าเสียดาย ไม่รู้ว่านี่จะเป็นฝันดีหรือฝันร้ายกัน แต่การที่เขาได้เห็นใบหน้าผู้ที่ร่วมรักเสพสุขกับเขาทุกค่ำคืนเช่นนี้...ช่างสุขเสียจริง บุรุษรูปงาม งามนัก งามทั้งรูปร่างหน้าตา บุคลิกเท่าที่เห็นได้จากแสงดาวช่างสง่างามอย่างหาที่ติมิได้ เพียงเท่านี้อัลฟ่าร์ก็มั่นใจได้ว่าบุคคลที่คร่อมทาบทับร่างเขาอยู่นั้นเป็นเทพ....
...เทพที่งามยิ่งกว่าเทพ...
การเล้าโลมยังคงมีอย่างต่อเนื่อง ทั้งอัลฟ่าร์และไคนาสได้ตกลงสู่ห้วงแห่งราคะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เทพหนุ่มรูปงามลูบไล้อย่างแผ่วเบาไปตามเรือนร่างเรือนแสงบางเบานั้น ดวงเนตรสีทองอร่ามดั่งดวงตะวันยังคงตรึงดวงตาสีเงินหยาดเยิ้มนั้นเอาไว้เช่นเดิม อัลฟ่าร์กระตุกเล็กน้อยและเขาก็ไม่อาจยั้งใจไหวอีกต่อไป อัลฟ่าร์เอื้อมมือลูบไปตามเรือนร่างอันสง่างามของอีกฝ่ายเช่นกัน ไคนาสยิ้มอย่างทรงเสน่ห์อดใจไม่ไหวที่จะก้มลงไปจุมพิตอย่างแผ่วเบาดั่งสัมผัสปีกฝีเสื้อ
...กลีบปากของทั้งคู่ค่อยๆสัมผัสกัน...
...แผ่วเบา...
...นุ่มนวล...
ดวงเนตรสีทองดั่งดวงอาทิตย์ส่งผ่านความเร่าร้อนไปสู่ดวงตาสีเงินเย้ายวนคู่สวย ไม่จำต้องมีคำพูดใดเอื้องเอ่ย เพียงปฎิกิริยาทางร่างกายทั้งคู่ก็รับรู้ว่า...
...ต่างต้องการกันและกันมากเพียงใด...
จากบางเบา...ไคนาสก็ค่อยๆไล้ลิ้นไปตามกลีบปากบางก่อนจะค่อยๆสอดแทรกลิ้นร้อนของตนเข้าไปในโพลงปากน้อยนั้น
...หวาน...
...หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งเดือนห้าที่ผู้คนต่างชื่นชมเสียอีก....
ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เขาเพียงสัมผัสแต่ภายนอก ไม่ผิดหวังเลยจริงๆที่ได้ลิ้มลอง
TBC
ตอนต่อฟินกว่านี้อีก
ฮ่าส์~~~~..........
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะจ้าาาาาา