พิมพ์หน้านี้ - ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบ => ข้อความที่เริ่มโดย: uri uri ที่ 10-01-2014 22:52:51

หัวข้อ: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 10-01-2014 22:52:51
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0





^__^ Love Devil ^__^

รักร้ายเทพอสูร



INTRO



       รัก...รักที่มาพร้อมกับความเสน่หา  ความผูกพัน  และสัญญา 
    รัก...ตามหา...รอคอย
    รักที่หวานซึ้งกินใจ  รักที่มาพร้อมกับการช่วงชิงอำนาจ  เหตุแห่งการฆาตกรรม   ความโลภ


.....................................................................



TBC



[/b]

 ทักทายทักทาย

สวัสดีปีใหม่จ้าาาาาาาาาาาาาาาาา   :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
 :mew2: :mew2: :mew2:  แย่จัง  กว่าจะลงได้จริงๆ  เฮ้ออออออออ...
เพิ่งย้ายบ้านเสร็จไป  กว่าจะซื้อ...กว่าจะโอน...กว่าจะย้าย...กว่าจะจัดของเสร็จ  เฮ้ออออออ...เหนื่อย!  :try2:
ขอโทษมากๆเลยที่ไม่ได้มาลงตามสัญญา  :m5: :m5:
ย้อนไปเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 56  ช่วงเช้าไปยกเลิกโทรศัพท์บ้าน  แบบลืมไปว่าเน็ตก็จะถูกตัดไปด้วย  กลับมาถึงบ้าน  เอ้า!!!  ซวย!  เซ็ง!  ไม่ได้เข้าเน็ตมาจนถึงวันนี้  วันที่เท่าไหร่คงรู้กัน  ฮ่าๆๆๆๆๆ

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เคยสัญญาเอาไว้กับคนๆหนึ่งแต่จำมะได้แว้ว  :katai1:
แนวแฟนตาซีผสมผสานอดีต  ปัจจุบัน  เทพนิยาย  มั่วไปหมด  ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ  :hao7:
นายเอกท้องได้  เพราะนายเอกเป็นลูกครึ่ง   แต่ครึ่งอะไรนั้น......?  ฮี่ฮี่ฮี่  (หัวเราะอย่างชั่วร้าย)  :fox2: :fox2: :fox2: o3 o3
จงตามติด...และติดตามต่อไป  ฮุฮุฮุ

uri  :bye2:

ปอลอลอ  อีกสองเรื่องทยอยลงพร้อมกันไป  อย่าว่ากัน...จงอ่านต่อไป  กร๊ากกกกกกกกส   :myeye: :yeb: :kikkik: :laugh5:



อยากมาบอก

นิยายของ uriuri  :mew1: :mew1: :mew1:
28 มกราคม 2014 เวลา 3:56 น.

yaoi นะจ้ะ  มีฉากวาบหวิวทุกเรื่อง  เบาๆก็เรื่องนักเปียโนนี่แหละ  เรื่องอื่นร้อนแรงมาก  รับไม่ได้อยากเฉียดเข้าใกล้นะเออ  :o8: :-[ :impress2: :oo1: :jul1: :haun4: :pighaun:

 

 

เรื่องแรก  ^__^ หนุ่มวายกับชายในฝัน ^__^

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=35321.0

http://www.niyay.com/story/story.php?story_id=60865

 

เรื่องที่สอง  ^__^ ปาปารัสซี่กับเจ้าชาย ^__^

http://www.niyay.com/story/story.php?story_id=65730

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38240.0

 

เรื่องที่สาม  ^__^ รักนะหนุ่มนักเปียโน ^__^

http://www.niyay.com/story/story.php?story_id=64946

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37696.0

 

เรื่องที่สี่  ^__^ Love Devil  รักร้ายเทพอสูร ^__^

http://www.niyay.com/story-69297/

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40696.0

 

และเรื่องอื่นๆ  ไม่บอก  ดองไว้ก่อน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

ฝากด้วยนะ  จ๊วบบบบบบ

 

พบปะกันได้ในเฟส  https://www.facebook.com/uri2uri

 
แนะนำ/แชร์นิยายโปรดกันได้ที่เพจ  https://www.facebook.com/uriuri.Story?ref=hl


uri
  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

หัวข้อ: ^__^ Love Devil รักร้ายจเทพอสูร ^__^ ตอนที่ 1 คนตัวเหม็น 10/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 10-01-2014 23:46:25
ต่อด้วยตอนแรกเลยละกัน


^__^ Love Devil^__^

รักร้ายเทพอสูร



ตอนที่ 1 คนตัวเหม็น




   ‘เบญ’ หรือนายเบญจมาศ  ศรลักฉกรณ์ หนุ่มน้อยวัยสิบเจ็ดย่างสิบแปดที่มีส่วนสูงเกือบถึง 170 ซม.  รูปร่างเพรียวบาง  ดวงตากวางสีเทา  ปากนิดจมูกกลมโด่งแต่เล็กสวยงามตามแบบลูกครึ่งตะวันตก  ผมสีดำสนิท  ผิวขาวซีด  เนื่องด้วยแทบไม่ค่อยได้ต้องแสงแดดเลย  เบญมีใบหน้าที่อ่อนเยาว์และน่ารัก  แม้ผิวของเขาจะขาวซีดแต่ก็ดูไม่น่าเกลียดอะไร  แต่หากว่าผิวมีน้ำมีนวลอีกนิดเสน่ห์ของเบญคงเกินห้ามใจผู้พบเห็น  เบญเกิดในตระกูลผู้ดีเก่า  แต่ข้อเสียของเด็กชายเบญจมาศมีร้อยแปดอย่างเลยสำหรับคนในตระกูล  เริ่มตั้งแต่...

    หนึ่ง  รูปร่างเล็กบอบบางแบบผู้หญิงทั้งที่มีมารดาเป็นชาวต่างชาติ  ประกอบกับหน้าตามิได้หล่อคมคายเหมือนผู้ชายในตระกูล  จึงมักถูกคนในตระกูลมองว่าเป็นพวกวิปริตผิดเพศ

    สอง  ผิวที่ขาวซีด  ด้วยเพราะมีมารดาที่ไม่ใช่คนไทย  คนในตระกูลไม่ชอบให้เชื้อสายเจ้าของพวกตนผสมกับของชาวต่างชาติ

    สาม  ไม่มีมนุษยสัมพันธ์  ทั้งๆที่แค่เป็นคนพูดไม่ค่อยเก่งเท่านั้น  แต่กลับถูกมองว่าไม่ได้เรื่อง

    สี่  แต่งตัวไม่เข้ากับสมัยนิยม  ทั้งที่เขาก็แต่งตัวธรรมดา

    ห้า  เวลาโดนด่า  ต่อว่า  เหน็บเเนม  ก็เอาแต่ยิ้มบางเบา  จึงมักถูกมองว่าไม่สู้คน  ไม่สมกับเป็นคนในตระกูลศรลักฉกรณ์

    หก  กลิ่นตัวเหม็น  อันนี้เป็นตั้งแต่เกิด  ไม่รู้เพราะอะไร  ให้หมอรักษาก็แล้ว...เหมือนเดิม  เลยเป็นสาเหตุให้ไม่ค่อยมีคนอยากเข้าใกล้  และดูเหมือนนี่จะเป็นข้อเสียมากที่สุดของเขา

    เจ็ด  ตั้งแต่ข้อนี้ไป  ไม่ว่าจะมีอะไรดีหรือไม่ดี  คนมันไม่ชอบก็ว่าไม่ดีทั้งสิ้น  แม้กระทั่งเขาเป็นคนแรกในตระกูลที่มีผลการเรียนที่ดีที่สุด  ก็ยังถูกมองว่าฟลุค

    แต่แปลก...เบญเป็นหลานคนเดียวที่คุณปู่กับคุณย่าท่านรักที่สุด  และนี่ก็เป็นข้อเสียอีกเช่นกัน และ...

    ...เดิมทีแทบไม่มีใครยุ่งกับเบญเลย  แต่พอสิ้นบุญปู่ย่าหรือคุณศิตรัยกับคุณหญิงดาวเรือง  ศรลักฉกรณ์  ก็ปรากฏว่าท่านทั้งสองได้ยกมรดกส่วนใหญ่ให้เบญ  คนในตระกูลจึงได้หันกลับมาสนใจนายเบญจมาศ  ศรลักฉกรณ์  และนั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของ... ‘การแย่งชิง’


   ก้าวแรกของชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่งในรั้วมหาวิทยาลัย  มีคนเคยให้นิยามว่า “มหาวิทยาลัย” คือ “โรงเรียนที่ใหญ่ขึ้น”  ซึ่งประกอบด้วยสิ่งมีชีวิต และไม่มีชีวิต  ณ โรงเรียนแห่งนี้ประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตมีสถานภาพเป็น คณาจารย์  นิสิต บุคลากร ผู้บริหาร…และก็อื่นๆอีกมากมาย (สัตว์ที่เดินเร่ร่อนไปมาในมหาวิทยาลัย) และในส่วนอื่นๆที่ไม่มีชีวิต เช่น อาคารสถานที่ต่างๆสำหรับคนอื่นๆ แต่สำหรับเบญ หรือนายเบญจมาศ  ศรลักฉกรณ์  เขาเห็นด้วยกับในวงเล็บมากที่สุด


    “พี่ไปส่งนะ”
    “ครับ”

   วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดเทอม  หลายคนหวังที่จะมีสังคมใหม่  ชีวิตใหม่  เพื่อนใหม่  แฟนใหม่   แต่คงไม่ใช่สำหรับเบญ   เพราะเบญรู้ดีว่า  น้อยคนเหลือเกินที่อยากจะเป็นเพื่อนกับเขา  นั่นเพราะปัญหาหลักของเบญคือ...เขาตัวเหม็น  ก็ไม่รู้ทำไมคนอื่นถึงบอกว่าเหม็น  อยู่ใกล้เขาแล้วเหม็น  ทั้งๆที่เขาก็ไม่เคยได้กลิ่นอะไรจากตัวเอง  เบญว่าตัวเองหอมออก  หอมเหมือนกลิ่นพฤกษชาติด้วยซ้ำ  ปู่กับย่าก็บอกแบบนั้น  แต่ก็นั่นแหละ  กับคนอื่นทำไมถึงได้กลิ่นเหม็นจากตัวเขา  พ่อถึงขนาดหาหมอมารักษาเบญ  อ่า...จะบอกว่าเพราะกลิ่นตัวของเบญพ่อเขาถึงได้ไม่เคยเข้าใกล้เขาเลยตั้งแต่เกิดแล้วก็ว่าได้  ส่วนแม่ท่านสิ้นใจทันทีหลังคลอดเขา  พ่อเสียใจมากอยู่ระยะหนึ่ง  และตอนนี้ถึงแม้ท่านจะไม่ได้มีแม่ใหม่ให้เบญ  แต่ก็มีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตเรื่อยๆนั่นแหละ

    “เบญ”
    “เบญ!”
    “...?...” หันมามองคนเรียก  เหมือนจะถามว่ามีอะไร
    “ถึงแล้ว”
    “อ้อ..ครับ”  สงสัยจะเหม่อนานไปหน่อย

    วันนี้พี่รนณ์อาสามาส่ง  คงมาตามคำสั่งของอาๆสักคน  แม้พี่รนณ์จะไม่เคยแสดงท่าทางรังเกียจเขา  แต่ก็ไม่เคยแสดงท่าทางว่าชอบเขาด้วย  ซึ่งนั่นก็ดี  ดีกว่าอีกหลายๆคนที่ทั้งๆที่ไม่ชอบเขาแต่ก็พยายามมาทำดีด้วย  แต่ก็นะ  เบญก็ทำเพียงส่งยิ้มบางๆให้เท่านั้น  เหมือนเช่นทุกครั้ง  หรือจะเรียกว่าเหมือนตั้งแต่จำความได้


    ชีวิตเบญแม้จะขาดพ่อแม่เลี้ยงดู  แต่ก็มีคุณปู่คุณย่าที่ใจดีและเข้าใจเขา  เลี้ยงดู  ให้ความรัก  อบรมสั่งสอนเขาอย่างดีมาโดยตลอด  เบญจึงไม่รู้จะสร้างอคติกับใครไปทำไม  ในเมื่อเขาได้รับความรักที่ล้นหลามจากปู่ย่าเสียขนาดนั้น  กับลูกหลานคนอื่นๆ  ท่านทั้งสองเป็นปู่ย่าที่เคร่งครัดมากๆ  จนไม่ค่อยมีลูกหลานคนไหนเข้าหาท่านเท่าไหร่


    ตอนท่านทั้งสองอยู่หลายคนอิจฉาเบญ  หลายคนหมั่นไส้เบญ  แต่ก็ทำอะไรไม่ได้   พอท่านทั้งสองสิ้นบุญหลายคนคงจะเตรียมซ้ำเติมเขา  แต่กลับกลายเป็นว่า...เบญเป็นคนที่ได้รับมรดกจากประมุขของตระกูลมากที่สุด  แทนที่จะเป็นลุงศิลาหรือลุงใหญ่ของทุกคน  ดีอย่างคือลุงใหญ่เป็นคนมีคุณธรรมพอ  ชีวิตเขาจึงยังคงราบเรียบภายใต้การดูแลจัดการทรัพย์สินของลุงใหญ่..ที่เป็นของเบญครึ่งหนึ่ง


    “ตั้งใจเรียนล่ะ”
    “ครับ”

    ล่ำลาแล้วเบญก็ลงจากรถคันหรู  ซึ่งก็เป็นจุดสนใจเล็กน้อย  แต่ก็แค่นั้นเพราะรถหรูแบบนี้ในมหาวิยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศมีให้เห็นเกลื่อนกลาด  รนณชัยบุตรชายคนโตของอาบัวส่งเขาที่หน้าตึกคณะโบราณคดี  อ้อ...นี่ก็เป็นข้อเสียอีกอย่างหนึ่งของเขา  เรียนเก่งแต่กลับเลือกเรียนโบราณคดี  ตอนโดนต่อว่าก็ทำเพียงยิ้มบางๆ  ก็นะ...คนมันไม่ชอบก็คงจะหาข้อติจนได้  สำหรับเขาแล้วไม่รู้ทำไมถึงเลือกเรียนคณะนี้  รู้ตัวอีกทีก็เลือกไปแล้ว  ก็เลย...เลยตามเลย


    ใต้ตึกคณะโบราณคดีมีสายตาคู่หนึ่งมองมาที่รถคันหรูที่เบญเพิ่งลง  ดวงตาคู่นั้นเปล่งประกายวาววับหมายมั่นบางอย่างเมื่อเห็นคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย  และเมื่อเบญลงจากรถ  รนณชัยก็เลื่อนรถคันหรูจากไปโดยไม่รู้เลยว่าตัวเองได้ตกเป็นเป้าหมายของใครบางคน


    การรับน้องก็ไม่มีอะไรมาก  เริ่มแรกก็เรียกน้องใหม่ไปรับป้ายเพื่อเขียนชื่อ  จากนั้นก็เรียกรวมแถวเมื่อถึงเวลาที่กำหนด  หลายคนก็งงๆกันอยู่แต่สุดท้ายก็มารวมแถวกันหมด  รุ่นพี่เริ่มแนะนำตัวเอง  แนะนำกิจกรรม  แนะนำหัวหน้าทีม  หัวหน้ากิจกรรม  ต่อด้วยให้น้องๆแนะนำตัวเองคนละสามวิ  มีเสียงวิ๊ดว้ายเมื่อคนหน้าตาดีลุกขึ้นแนะนำ  รวมถึงเบญด้วย  แต่เขาก็ทำเพียงยิ้มบางๆแล้วนั่งลง  มีการสร้างบรรยากาศด้วยการตบมือเป็นจังหวะ  ร้องเพลงทะลึ่งๆ  เล่นมุขตบมุขกันขำๆ  ก่อนจะเข้มงวดกันขึ้นเรื่อยๆด้วยกฎระเบียบและเพลงมหาลัย  ที่บังคับให้ทุกคนต้องร้องให้ได้เมื่อวันรับน้องวันสุดท้ายมาถึง  ก่อนเที่ยงรุ่นพี่ก็กำชับให้รุ่นน้องทำความรู้จักเพื่อนที่นั่งข้างกันซ้ายขวาหน้าหลังได้แปดทิศยิ่งดี  เพราะทุกครั้งที่นัดรวมแถวกันรุ่นพี่จะสุ่มเรียกให้น้องตอบและน้องต้องให้ได้ด้วย  มิเช่นนั้นจะถูกทำโทษ  พอเที่ยงก็แจกข้าวกล่องคนละกล่อง


    “ชิส...เหม็นไรวะ”  คนพูด  พูดแล้วก็หันซ้ายหันขวา  พอหันมาเจอเบญก็...
    “เอ่อ...”  พูดไม่ออกซะงั้น

    ระหว่างกิจกรรมหลายคนก็พยายามออกห่างจากเบญ  ในขณะที่หลายคนก็พยายามเข้าหาเบญ  แต่ด้วยเพราะได้กลิ่นไม่พึงประสงค์จากตัวเขา  มันน่าอายนะ  แต่เบญชินแล้ว  ก็บอกแล้วไงเบญไม่เคยได้กลิ่นเหม็นจากตัวเองเลย  และกลิ่นจากตัวเขาที่ส่งผลต่อแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน  กลิ่นแรง  กลิ่นอ่อน  ระยะใกล้  ระยะไกล  มีผลแตกต่างกันออกไป  ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไร


    “น้องคนนั้นชื่อไรวะ”  รุ่นพี่คนหนึ่งชี้ชวนพวกเพื่อนๆหันมาดูเบญ
    “ไหน?......เชี่ย!  น่ารักชิบหาย”
    “เฮ้ย!  แต่น้องมันตัวโคตรเหม็นว่ะ”

        เรื่องเดิมๆ  เหตุการณ์เดิมๆที่เคยเกิดขึ้นแล้ว  ซ้ำแล้วซ้ำอีก  มีหนุ่มสาวหลายคนอยากก้าวเข้ามาทำความรู้จักกับคนน่ารักอย่างเบญ และหลายคนก็อยากได้เบญเป็นคู่ควง  แต่พอได้กลิ่นก็ได้แต่คิดกันว่า....ถึงจะหน้าตาดียังไง  แต่กลิ่นตัวแรงแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน


    ...ในข้อเสีย  ก็ยังมีข้อดี...


    จะบอกว่ากลิ่นตัวของเบญคัดคนที่เหมาะสมหรือคนที่ประสงค์ดีเข้าหาเบญก็ได้  เบญรู้ได้ดีเลยจากประสบการณ์และเพื่อนๆที่แสนดีที่ผ่านมา   




TBC


แต่ละตอนของเรื่องนี้จะค่อนข้างยาวมากๆ
ขอบคุณที่ติดตาม

 uri
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 1 10/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: Guill ที่ 10-01-2014 23:59:58
อืม ตัวเหม็นนี่ก็ลำบากนะ
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 1 10/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: KaorPaor ที่ 11-01-2014 00:50:53
จิ้มเรื่องใหม่
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 1 10/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: mholic ที่ 11-01-2014 11:46:21
กลิ่นคัดคนดี. เหมือนจะดีรึป่าว :mew5:
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 1 10/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 11-01-2014 13:07:14
มาแว้ว~นายเอกท้องได้ :mc4:

 :z13: จิ้มเรื่องใหม่ คึคึ 
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 1 10/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: AGALIGO ที่ 11-01-2014 21:07:48

คงมีใครซักคนที่ไม่อยากให้คนอื่นๆมายุ่งกับเบญสินะ

น่าติดตามดี

+ 1 + เป็ดจ้า
หัวข้อ: ^__^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^__^ ตอนที่ 2 เหม็นจริงหรือ? 14/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 14-01-2014 03:55:31
อ่านก่อน
เรื่องนี้เราจะหลีกเลี่ยงคำราชาศัพท์ค่อนข้างเยอะ  ทั้งที่อยากใส่เติมลงไป  แต่รู้สึกว่าถ้าใส่บ้างไม่ใส่บ้างจะไม่น่าอ่าน  แต่ถ้าใส่เยอะไปมันก็แปลไม่ออกสำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย  จะทำให้การอ่านสะดุดได้  สุดท้าย  เอาเป็นว่าเน้นคำสุภาพไว้ก่อนละกัน  คนที่คุ้นเคยกับคำราชาศัพท์อ่านแล้วสะดุดก็อย่าว่ากัน  ส่วนใครที่ไม่ว่าจะอะไรแต่ไม่ถูกใจก็อย่าว่ากันอีกเช่นกัน  เดี๋ยวหมดแรงแต่ง  ฮ่าๆๆๆๆๆ  ติได้แต่  ถ้าชอบก็ชมด้วยนะ  เป็นกำลังใจ  อิอิ  :m23: :m23:



^__^ Love Devil^__^
รักร้ายเทพอสูร



ตอนที่ 2 เหม็นจริงหรือ?

    ในระหว่างกำลังหาที่นั่งเพื่อจะกินข้าว...

    “หวัดดี”
    “อ่ะ..ดี”  เบญยิ้มตอบเพื่อนใหม่ที่เข้ามาทัก  ก่อนจะนั่งลงที่ม้านั่งตัวหนึ่งที่ถูกใครสักคนยกแยกออกมาตั้งใต้ต้นไม้  เบญไม่ได้สนใจหนุ่มลูกครึ่งที่เข้ามาทักเลยสักนิด  เขาเปิดกล่องข้าวของตนเองและเริ่มกิน   เพราะมีเวลาไม่มากนัก
    “เราเฮอร์มิส  นายล่ะ?”  คนมาใหม่ทักต่อด้วยรอยยิ้มสดใส
    “...เบญ”  กลืนข้าวก่อนหันมาตอบอย่างเสียไม่ได้
    “เบญ...?”
    “เบญจมาศ”
    “จริง?”  ถามแล้วก็ถือวิสาสะนั่งด้วยซะเลย
    “อืม”  พยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจ  หันกลับมากินข้าวดีกว่า  แต่ก็...
    “จบจากไหนเนี่ย?”
    “โรงเรียน....”  เบญหันมาตอบก่อนจะหันมาตักข้าวเข้าปากสีพีชน้อยๆนั่นอีกครั้ง
    “ว้าวววว...”  ตาโตเท่าไข่ห่าน  “นายที่สอบได้ที่หนึ่งของประเทศป่ะ?”  เฮอร์มิสรู้สึกตื่นเต้นเล็กๆ 

    คนตรงหน้ามีรูปร่างหน้าตาที่จัดได้ว่าเด่นสะดุดตาเขามากทีเดียว  แต่ก็คงไม่ใช่มีแค่เขา  หนุ่มน่ารักคนนี้คงสะดุดตาสะดุดใจใครหลายๆคนด้วย  และใช่ว่าคนหน้าตาดีมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งนี้จะไม่มี  คนเหล่านั้นมีอยู่มากมายเลยล่ะ  ลูกครึ่งก็มีให้เห็นอยู่มากมายรวมทั้งเขาด้วยก็เช่นกัน  แต่คนตรงหน้าสะดุดตาเขาที่สุด  จะเรียกว่าสะดุดตาเขาเป็นพิเศษก็ว่าได้  ดวงตากวางสีเทาคู่นั้นดึงดูดชวนให้หลงไหลจริงๆ  ดังนั้นในระหว่างรวมแถวจึงมีเพื่อนใหม่หลายคนที่สะดุดตาเบญและพยายามเข้ามาพูดคุยทักทายหนุ่มน่ารักด้วย  แต่ทุกคนที่เข้ามาหาเบญล้วนถอยกลับและพูดเสียงเดียวกันว่า...คนอะไรตัวเหม็นชิบหาย

    ตอนแรกๆเฮอร์มิสก็รู้สึกไม่ชอบคนพูดว่าร้ายคนอื่นเท่าไหร่  แต่พอพูดกันมากขึ้น  มันก็อดอยากพิสูจน์ไม่ได้ว่าคนๆนั้นตัวเหม็นจริงหรือ?  ด้วยความอยากรู้เฮอร์มิสจึงต้องมาพิสูจน์ด้วยตัวเอง  แต่พอเดินเข้ามา...ยิ่งใกล้ยิ่งรู้สึกแปลก

    ...มันแปลก...

    แปลกมากๆ

    แปลกที่เขาไม่ได้กลิ่นเหม็นๆอย่างที่เพื่อนว่าเลย  เขากลับได้กลิ่นหอมอ่อนๆหอมเหมือนกลิ่นพฤกษาจากคนตรงหน้าด้วยซ้ำ  และยิ่งใกล้ก็ยิ่งหอม  ยิ่งใกล้ยิ่งเห็นว่าน่ารักและมีเสน่ห์แบบแปลกๆ  น่าหลงใหล  แต่ไม่อาจแตะต้อง  แปลกจริงๆ  ยิ่งพอรู้ว่าคนที่เขาเข้ามาทักเป็นคนดังที่สอบได้คะแนนเต็มของการสอบระดับประเทศที่ผ่านมาเขายิ่งรู้สึกตื่นเต้น

    ...จะต้องเป็นเพื่อนกับคนๆนี้ให้ได้...เฮอร์มิสคิด

    “อืม..” เบญหันมามองหน้าคนถามยิ้มมุมปากบางๆ  อืมแล้วก็หันกลับไปกินข้าวต่อ
    “แปลกคน”  เฮอร์มิสเปรยเบาๆ  ก็แปลกจริงๆ
   “อืม..” หันมาอืมอีกครั้ง  แล้วก็หันกลับไปกินข้าวต่อ
    “..!..”  เฮ้ย! ครั้งนี้เฮอร์มิสไม่กล้าออกเสียง  คนไรหูดีชะมัด  ว่าพูดเบาแล้วเชียว  จะถูกโกรธป่ะวะ?  พึ่งรู้จักกันไปว่ามันแปลกซะละ  เปลี่ยนแผน
    “กินข้าวด้วยคนดิ”
    “อืม..” หันมามองหน้ายิ้มบางๆ  อืมแล้วก็หันกลับไปกินข้าวต่อ...อีกครั้ง

    เฮอร์มิสยิ้มกว้างทันที  คนไรทั้งแปลกทั้งตัวหอมชะมัด  ใครว่าเบญเหม็นเขาคนหนึ่งล่ะว่าเบญห๊อมหอม  ไม่เหม็นเลยสักนิด  เฮอร์มิสจัดแจงเปิดกล่องข้าวของตัวเองอย่างอารมณ์ดี  แต่ก็อดไม่ได้

    “ไมตอบอืมๆอย่างเดียววะ” 

    คนถูกถามหันมามองคนมาใหม่ด้วยแววตาไม่เข้าใจเล็กน้อย  ก่อนจะเคี้ยวๆๆและกลืนข้าวจนหมด 

    “ก็กำลังกินข้าวอยู่”  พูดแล้วก็ยิ้มกว้างให้คนมาใหม่  ไม่ได้กลัวถูกรังเกียจ  แต่คนตรงหน้าน่ารักดีเลยยิ้มให้

    แค่นั้น

    แค่นั้น

    แค่นั้นจริงๆ

    แต่มันสามารถเรียกเลือดให้ไหลไปรวมตัวกันบนใบหน้าอันหล่อเหลาของนายเฮอร์มีส  เอฟ  เมอร์รี่  ได้ชะงักนักล่ะ

    เชี่ยเอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยย  ยอยักษ์เต็มกระบุงเลย  กู...ทำไมถึงรู้สึกเขินขึ้นมาซะงั้นวะ

    “อ่ะ...อื้ม”

    และแล้วเจ้าหนูจำไมก็เงียบขึ้นมาทันตา  เฮอร์มิสหันกลับไปกินข้าวทั้งหน้าแดงๆอย่างน่ารัก  เบญอมยิ้มเล็กๆก่อนหันกลับมา...ได้กินข้าวอย่างสงบเสียที  โดยไม่รู้เลยว่า....

    ...บรรยากาศสีม่วงฟุ้งขึ้นมาจากตัวนายเฮอร์มิสบางๆ  ในขณะที่อีกคนกำลังตั้งหน้าตั้งตาหม่ำข้าวอย่างเอร็ดอร่อย


    กิจกรรมช่วงบ่ายก็ไม่ต่างจากช่วงเช้ามากนัก  เพียงนัดรวมแถวสุ่มรุ่นน้องให้ยืนขึ้นเพื่อตอบคำถามว่าเพื่อนคนข้างๆชื่ออะไร  นามสกุลอะไร  ชื่อเล่นอะไร  เรียนสาขาอะไร  ยากสุดก็เห็นจะเป็นให้ตอบรหัสนักศึกษาของเพื่อนคนนั้นให้ได้ด้วย  ตอบได้ก็แล้วไป  ตอบไม่ได้ก็มีการทำโทษกัน  ทั้งเต้น  ร้องเพลง  ทำท่าทางแปลก  ลามกบ้าง  ตามแต่รุ่นพี่แต่ละคนเสนอ  เด็ดสุดก็เป็นการทำโทษ  ไม่ว่า  ลุกนั่ง  วิดพื้น  แบบเป็นแพค...คือการถูกลงโทษด้วยกันทุกคน  จากนั้นก็แจกจ่ายชีทเพลงเพิ่มให้น้องๆและพากันซักซ้อม  ตบท้ายด้วยการแนะนำ  นัดแนะกำหนดการต่างๆของวันต่อไป  ก่อนจะปล่อยทุกคนกลับบ้านกัน  วันแรกไม่มีเรียน  วันต่อไปมีเรียนแต่ก็ยังไม่หนัก  ด้วยเพราะคณาจารย์จะปล่อยให้นักศึกษาร่วมกิจกรรมกันไปก่อนให้เต็มที่ในช่วงสองสัปดาห์แรก  แต่กิจกรรมต่างๆสำหรับเฟรชชี่นั้นจะมีตลอดช่วงเทอมแรก  โดยรุ่นพี่จะนัดน้องๆไปรวมตัวกันและฝึกร้องเพลงเชียร์กันทุกเย็นหลังเลิกเรียน  ก่อนจะปล่อยตัวเลิกกลับประมาณสองทุ่ม    



.............................................................


    มีคนรักก็มีคนเกลียด  มีคนชอบก็มีคนไม่ชอบ  บางอย่างก็มีสาเหตุบางอย่างก็หาสาเหตุไม่ได้   ผ่านไปหนึ่งสัปดาห์แล้วเบญได้เพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกสองคนเป็นชายหนึ่งและหญิงอีกหนึ่ง  ชายชื่อสโนว์  ชื่อฝรั่งแต่เป็นคนไทยนี่แหละ  ไทยแท้  หน้าตาหล่อเหลาอย่างไทยๆ  สูงประมาณเฮอร์มิสได้  แต่ผิวคล้ำกว่าเออร์มิส  ส่วนฝ่ายหญิงชื่อพลอยมุกเป็นสาวสวยหนึ่งในตัวเก็งดาวคณะ  ซึ่งจะเลือกกันอย่างเป็นทางการในวันสุดท้ายของการรับน้องนอกสถานที่

    หนึ่งหญิงหนึ่งชายแม้จะได้กลิ่นไม่พึงประสงค์มาจากเบญบ้างแต่ก็เล็กน้อยเท่านั้น  อีกทั้งเบญก็จำไม่ได้แล้วว่าจับพลัดจับผลูยังไงถึงได้สองคนนี้มาเป็นเพื่อนได้  แต่ใครเลยจะไปรู้ดีกว่าเจ้าตัวเองล่ะ

    “สวัสดีค่ะพี่รนณ์  มารับเบญหรอคะ”  พลอยมุกกล่าวทักชายหนุ่มลูกพี่ลูกน้องของเบญ  เธอเห็นรนณชัยมานั่งอ่านหนังสือรอเพื่อนที่ม้านั่งหน้าตึกคณะโบราณคดีได้สักพักแล้ว
    “...ครับ”  ชายหนุ่มเงยหน้าจากหนังสือที่อ่านอยู่  ก่อนจะตอบรับคำสาวสวยที่เข้ามาทัก   

    เขาอดจะแปลกใจไม่ได้ว่าสาวสวยที่เข้ามาทักตรงหน้ารู้ได้อย่างไรว่าเขามารับเบญ  เพราะตั้งแต่วันที่เขามาส่งเบญเขาก็ไม่เคยมาที่มหาลัยอีกเลย  แม้ว่าเขาจะเป็นศิษย์เก่าคณะบริหารที่พึ่งจบไปในปีเดียวกันกับที่เบญเข้าเรียนที่นี่ก็ตาม

    อีกอย่างปกติแล้วเบญจะเลิกกิจกรรมประมาณสองทุ่ม  ที่บ้านจะให้คนรถมารับ  แต่วันนี้ดูเหมือนว่าเบญจะไม่มีกิจกรรมช่วงเย็น  แม่เข็มเลยให้เขามารับเบญกลับด้วยกันด้วย

    “พลอยมุกค่ะ  เรียกพลอยก็ได้  เป็นเพื่อนเบญค่ะ” 
    “ครับ”  รนณชัยส่งยิ้มให้ 
    “อีกนานเลยล่ะค่ะกว่าเบญจะออกมา”
    “.....”  ชายหนุ่มขมวดคิ้วอย่างไม่ชอบใจนัก  เขาไม่ชอบรอใคร
    “เอางี้ดีมั้ยคะ  ไปทานกาแฟเป็นเพื่อนพลอย  เดี๋ยวพลอยเล่าให้ฟัง”

    ชายหนุ่มเลิกคิ้วเล็กน้อยก่อนจะสำรวจเจตนาของหญิงสาวคนสวยตรงหน้า  เพราะแม้ว่ารนณชัยจะหล่อ  จะรวยอย่างไร  เขาก็ไม่เคยหลงในรูปร่างและรูปทรัพย์เหล่านั้นเลย  จะมีก็แต่บุคคลอื่นเท่านั้นที่มักจะมาหลงในสิ่งที่เขามี

    “.....”
    “.....”

    เมื่อไม่เห็นเขาตอบหญิงสาวก็ทำเพียงเลิกคิ้วข้างเดียวอย่างน่ารัก  แถมยังส่งยิ้มให้อย่างเป็นธรรมชาติอีก  สุดท้ายรนณชัยก็ตอบรับไมตรี

    “....เอาสิ”
    “ค่ะ”  พลอยมุกยิ้มกว้างอย่างน่ารัก

    ด้วยความที่เป็นหนุ่มหล่อ  ดูดีทั้งรูปกาย  รวยรูปทรัพย์  ทั้งยังเป็นถึงอดีตเดือนคณะบริหารคนดัง  ตลอดทางจึงมีคนเหลียวหน้าแลหลังมองรนณชัยกันแทบทั้งนั้น   ซึ่งเป็นสิ่งที่พลอยมุกพอใจเป็นอย่างมาก  แต่เธอก็ยังคงสามารถรักษาท่าทีได้อย่างสงบ

    พลอยมุกรู้จักรนณชัยหนุ่มหล่อตระกูลผู้ดีเก่าคนดังอยู่แล้ว  แต่ไม่นึกว่าจะเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเบญ  วันนั้นเมื่อเธอเห็นว่าคนที่มาส่งเบญคือใคร  เธอก็เริ่มหาทางสนิทสนมกับหนุ่มน่ารักตัวเหม็นทันที  เพราะรนณชัยคือเป้าหมายของเธอ  และใช่ว่าเธอจะไม่มีชาติตระกูล  แต่เป็นเพราะเธอเป็นลูกเมียน้อย  หากการที่เธอได้สนิทสนมกับรนณชัยจนถึงขั้นแต่งงานกัน  มันก็เป็นประโยชน์กับตัวเธอเอง

    ส่วนรนณชัยการที่เขามาส่งเบญเมื่อวันแรกและมารับเบญอีกในวันนี้เป็นอย่างที่เบญคิดจริงๆ  รนณชัยไม่ได้ชอบเบญแต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรเบญด้วย  และที่ทำก็เพราะมันเป็นคำสั่งจากแม่เข็ม  แม่เข็มไม่ใช่แม่แท้ๆของรนณชัย  แม่แท้ๆของเขาชื่อบัวงามหรือแม่บัวเป็นน้องสาวของแม่เข็ม  บัวงามตั้งท้องตั้งแต่อายุยังน้อย  เข็มหรือเขมอัปสรซึ่งยังคงความเป็นโสดอยู่จึงรับเขามาเลี้ยงดูและจัดการจดทะเบียนรับเขาเป็นบุตรบุณธรรม


    อีกด้านหนึ่ง...เบญและผองเพื่อนกำลังช่วยกันซ่อมแซมฉากกั้นต่างๆที่ต้องนำไปทำฐานในการรับน้องนอกสถานที่  อันที่จริงนั่นไม่ใช่งานของเด็กใหม่เลย  แต่สาเหตุที่น้องใหม่หลายคนถูกเรียกให้มาช่วยกันซ่อมฉากเป็นเพราะว่า....

    หลังจากสมัครเข้าเป็นสมาชิกชมรมหนังสือพิมพ์ได้แล้ว  นายเฮอร์มิสก็รบเร้าๆ  จะทำจะทำข่าวให้ได้  ด้วยตัดรำคาญประธานชมรมเลยให้เขาไปหาข่าวเด็ดๆในการรับน้องมาละกัน  เพื่อนท่านเลยกระดี๊กระด๊าเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ  ประเดิมทำข่าวคณะตนเองเป็นคณะแรกซะเลย  ด้วยไฟแห่งนักข่าวเพื่อนเฮอร์มิสจึงปีนไปโหนไปถ่ายรูปไป  แต่คนเรามันมีแค่สองมือไง  พอเพื่อนแกเผลอก็....หล่นตุ๊บลงฉากทำฐานที่รุ่นพี่ทำไว้  จากจะมาทำข่าวคนอื่นตัวเองเกือบได้ลงหน้าหนึ่งเสียเอง  แล้วทีนี้ใครซวย...เพื่อนเบญกับเพื่อนสโนว์สิครับ  และดูเหมือนว่างานจะเสร็จไม่ทันแน่รุ่นพี่เลยเกณฑ์เพื่อนปีหนึ่งมาทำโทษด้วยกันเสีย  เพราะถือหลักว่า...


    ...ผิดคนเดียวต้องรับโทษทุกคน...


    “เหม็นไรวะ”
    “เฮ้ย!”
    “ใครแม่งไม่อาบน้ำวะ  เหม็นชิ....อื้อออเอี้ยไออ๊ะ” (เชี่ยไรวะ)  กำลังจะบ่นให้ดังขึ้นตามอารมณ์  ก็มันเย็นมากแล้ว  คนมันเหนื่อย!  หิว!  เลยของขึ้น  เสียงเลยดังขึ้นตามอารมณ์  แต่เพื่อนตัวดีกลับมาปิดปากเนี่ยสิ
   “แหะๆ”  เพื่อนที่ปิดปากคนบ่นหันมายิ้มแหะให้เบญ  แต่เบญก็ยังคงเป็นเบญ  เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรอยู่แล้ว  เบญเพียงส่งยิ้มบางให้ไอ้คนที่กำลังปิดปากเพื่อนอย่างเอาเป็นเอาตาย  แล้วหันกลับมาสนใจงานตรงหน้าของตนเองต่อ
    “ซุบซิบๆๆ”

    เสียงซุบซิบดังเบาๆ  พอคนของขึ้นรู้ว่าใครเป็นต้นเหตุให้อากาศเสียมันก็ยืนขึ้นพลั่วแล้วเดินดุ่มๆตรงมาหาเบญเตรียมจะด่าทันที  แต่พออ้าปาก  เบญก็หันมามองหน้าคนที่มายืนค้ำหัวตัวเองก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้ตามปกติ  แต่ไอ้คนของขึ้นเนี่ยสิ  ปากที่อ้าอยู่แล้วเลยอ้าค้างอยู่อย่างนั้น  คำพูดที่เตรียมจะด่าคนตัวเหม็นซะหน่อยมลายหายไปในอากาศเฉย  ช่วงลมพัดหนึ่งมันได้กลิ่นหอมของพฤกษชาติมาแตะจมูก  เบญยิ้มกว้างอีกนิด  นิดเดียวเท่านั้นกับอาการตลกๆของคนของขึ้น  จากนั้นเลือดที่ไม่รู้มาจากส่วนไหนของร่างกายบ้างก็เวียงมารวมกันบนใบหน้าคนของขึ้นทันที

    และก่อนที่เส้นเลือดฝอยในโพลงจมูกของคนของขึ้นจะแตก  ไม่รู้เพราะโกรธจัดหรือเขินจัด  เพื่อนที่ปิดปากมันเมื่อครู่ก็มาลากตัวมันกลับทันที  นั่นยังไม่พอ  พอมันลากเพื่อนไปแล้วยัง....

    พลั๊วะ!   ตบเน้นๆเรียกสติคนของขึ้นซะหน่อย  จะเคลิ้มอะไรนักหนา

    ปุด!

    “โอ้ย!”  หัวขมำก้นกระแทกพื้นซะงั้น
    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ”  เสียงจากหลายทิศทาง  ก็นะ...หลายคนก็ได้กลิ่นแต่ก็ไม่กล้าพูด  ก็คนส่งกลิ่นมันน่ารักอ่ะ
    “เชี่ยยยยยยย”  สติกลับมาพร้อมคำอวยพร  นั่นยังไม่พอ  มึงกล้าตบกูหรอ

    ปึก!  ถีบพุงแม่งเลย

    “กร๊ากกกกกก..”  มันแค่ตัวงอแถมยังหัวเราะเยาะดังขึ้นอีก

    ปึก!  ซ้ำอีกครั้งที่ขามัน  คนถูกถีบยังคงขำก่อนล้มลงพื้นและม้วนไปสองตลบ  แต่ไอ้สองตลบนั่นมันตอแหล  ผลของมันจึงเป็น....

    วึดดดดดด

    ตึก!

    โครมมมมมม!!!

    “เฮ้ย!! / เชี่ยยยย!!”  พร้อมกันทุกคน

    จบกัน

    ฉากที่ทำมาตลอดทั้งวัน

    เริ่มใหม่อีกครั้ง

    เบญส่ายหน้าเบาๆ  คงต้องโทรไปบอกพี่รนณ์ให้กลับไปก่อนซะแล้วล่ะ



TBC


.....เอ้ยยยยยยยยย
แต่งตอนนี้เสร็จเผลอลบเพราะคิดว่าก๊อปปี้ไว้แล้ว  จากนั้นก็ไปเซฟงานใหม่ 
เปิดหาตอนที่ 2  อ้าวกูไม่ได้ก๊อปปี้ไว้หรอวะ  คราวนี้  back กลับไม่ได้แล้ว
จบกัน
สมองหยุดทำงานแบบ.......จิ๊ดมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
อึ้ง  เบลอ  ตัวแข็งทื่อ  แบบ  ทำไงดี  ทำไงดี
ครั้งที่สองแล้ว
ครั้งแรกหนูเนียซ  ครั้งนี้หนูเบญ  อาการเลยไม่รุนแรงเท่าครั้งแรก
แต่มันแบบบบบบ....
เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22 o22
ห้าทุ่มแล้วด้วย
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
ขยี้หัวจนกลายเป็นรังหนู
สุดท้ายต้องพยายามปรับอารมณ์มาแต่งใหม่
คิดเสียว่า...แต่งใหม่ต้องดีกว่าเดิม  แต่งใหม่ต้องดีกว่าเดิม  แต่งใหม่ต้องดีกว่าเดิม  แต่งใหม่ต้องดีกว่าเดิม  แต่งใหม่ต้องดีกว่าเดิม ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ   :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16: :m16:
แต่แบบ...กูใช้เวลาแต่งตั้งนานอ่ะ  เครียดเซ็ง  กิน  กิน  กิน   กินๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เที่ยงคืนกว่า  กว่าจะตั้งสติมาแต่งใหม่ได้
บอกได้เลยว่า....ถ้าไม่แต่งก็นอนไม่หลับ
เฮ้ออออออออออออออ  :z3: :z3: :z3: :z3: :z3:
พอละ  ได้ระบายซะหน่อยก็ดีขึ้น  :sad4: :sad4:
ตอนพิมพ์นี่ยังแต่งไม่เสร็จนะ  เพิ่งแต่งได้นิดเดียวอยู่    แล้วเจอกัน  เฮ้อ!!!! (แรงๆ)

ปอลอ  แต่งจบอีกทีตีสาม  เพลีย  แม่งงงงง..นอนไม่หลับซะงั้น  :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 1 10/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 14-01-2014 03:57:32
ตอบได้ก็ตอบ  อิอิ  ขอบคุณมาก  :pig4:

อืม ตัวเหม็นนี่ก็ลำบากนะ
จะบอกว่าทำตัวเองได้หรือเปล่าน้าาาาา.....  :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

จิ้มเรื่องใหม่
แต๊งจ้า   :mew1: :mew1:

กลิ่นคัดคนดี. เหมือนจะดีรึป่าว :mew5:
คิดว่าไม่   :katai2-1: :katai2-1:

มาแว้ว~นายเอกท้องได้ :mc4:

 :z13: จิ้มเรื่องใหม่ คึคึ
สมใจแน่ๆ  จิ้มแรงๆเลย  ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก   :hao7: :hao7: :hao7: :hao7: :hao6: :hao6:

คงมีใครซักคนที่ไม่อยากให้คนอื่นๆมายุ่งกับเบญสินะ

น่าติดตามดี

+ 1 + เป็ดจ้า
ไม่มีหรอก ฮุ ฮุ ฮุ
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 2 14/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 14-01-2014 06:32:45
ชอบบบ รอตอนต่อไปนะจ้ะ :mew1:
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 2 14/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 14-01-2014 09:25:52
ชอบเรื่องนี้อ่ะ น่าติดตามมาก
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 2 14/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: mholic ที่ 14-01-2014 09:41:31
หน้าตาดีมีชัยไปกว่าครึ่งแต่สำหรับเบญคงเกือบเต็มติดแค่กลิ่นเท่านั้นแหละ

เห็นเม้นนึงบอกว่าท้องได้ สุดยอดชอบมาก มาต่อไวๆนะคะ :katai4:
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 2 14/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 14-01-2014 10:12:58
ใครที่รู้สึกดีกับเบญจะำด้กลิ่นหอมรึป่าวเพราะคนที่ย่นว่าเหม็นตอนแรก พอเห็นหน้าเบญแล้วรู้สึกชอบแล้วเขิน จากนันก็ได้กลิ่นพฤก?  เหมือนกับเฮอร์มิสที่ไม่ได้กลิ่นเหม็นเลย

แล้วใครเป็นพระเอก พระเอกเป็นลูกครึ่ง  :confuse: เฮอร์มิสหรอ? ที่เป็นพระเอกอ่ะ  โอ้ยยยยยย~ อยากรู้แล้วอ่ะ :serius2:
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 2 14/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: AGALIGO ที่ 14-01-2014 19:38:37

ขนาดตัวเหม็นนะเนี่ย

+ 1 + เป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 2 14/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 14-01-2014 20:48:40
น่ารักอ่ะ อ่านไปแบบยังไม่รู้อะไรแต่ก็หยุดไม่ได้

รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 2 14/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: janji ที่ 14-01-2014 21:26:37
อยากอ่านอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 2 14/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 15-01-2014 13:10:29
น่าติดตามค่ะ

 แอบสงสัยเรื่องกลิ่นเหม็นล่ะมโนเองว่า คนที่ได้กลิ่นหอมเพราะเป็นคนจริงใจจิตใจบริสุทธิ์ แล้วคนที่ได้กลิ่นเหม็นก็เพราะเป็นคนที่มีความขุ่นมัวในจิตใจหรือเปล่า?

เรื่องเรียนโบราณคดี ทั่วทั้งประเทศมีเปิดสอนแค่สาขาเดียว คณะเดียว มหา'ลัยเดียว เปิดรับไม่เกิน 50 คนได้มั่งใครที่อยากเรียนแล้วสามารถเข้าเรียนได้แบบสุดยอดมว๊ากกกเลย ส่วนตัวอยากเรียนมากก แต่ดันจบปวช.บัญชีมาหมดโอกาสเลย  :mew5:

จะรออ่านตอนต่อไปเนาะ
หัวข้อ: ^__^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^__^ ตอนที่ 3 พิสูจน์กลิ่น 20/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 20-01-2014 00:42:54
แต่งตอนนี้แอบขำเบาๆ
หวังว่าคงมีคนชอบนายเฮอร์มิสบ้างนะ




^__^ Love Devil^__^

รักร้ายเทพอสูร




ตอนที่ 3 พิสูจน์กลิ่น



    เป็นอย่างที่ว่าจริงๆ  ในขณะที่หลายคนบอกว่าเบญตัวเหม็น  กลับมีอีกหลายคนบอกว่าเบญตัวหอม  แค่เดินผ่านก็ได้กลิ่นหอมสดชื่นของพฤกษชาติแล้ว  แปลกจริงๆ  มีคนแบบนี้ด้วย  และยังมีคนว่าเบญตัวห๊อมหอมเวลาอยู่ใกล้  เลยมีคนอยากมาพิสูจน์กันเพียบ  แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะไม่เคยจะรู้ตัวกับใครเขาเลย  คนที่รู้ดีที่สุดก็เหมือนจะเป็น...นายเฮอร์มิสนั่นแหละ  ฮี่ฮี่ฮี่  และนายเฮอร์มิสที่สถาปนาตนเองเป็นเพื่อนรักนายเบญจมาศก็เป็นคนปล่อยข่าวลือนี้เองด้วย  ก็ใครอยากมาว่าเพื่อนเขาตัวเหม็นล่ะ  แม้ไอ้คนถูกว่ามันจะไม่สนไม่ใส่ใจแต่เฮอร์มิสคนนี้ก็ไม่ชอบ 

     เฮอร์มิสเป็นคนที่มีความมั่นใจในตนเองสูงและตัดสินใจรวดเร็ว  อีกทั้งเป็นคนประเภทไม่ชอบคิดเล็กคิดน้อย  อ้อ...หากพูดถึงรูปร่างหน้าตาแล้วล่ะก็  หึหึ  กูหล่อ  กร๊ากกกกกส...

    มันหล่อจริงๆนั่นแหละ  หล่อ  หุ่นดี  และอารมณ์ดี  ตัวโตสูงให
ญ่กว่าเบญกว่าสิบเซนแต่ก็ออกจะติ๊งต๊องไปหน่อย  เฮอร์มิสมั่นใจว่ากลิ่นหอมที่เขาได้สัมผัสด้วยปลายจมูกจากเบญนั้นเป็นกลิ่นจริงๆของเจ้าตัว  แต่กลิ่นเหม็นที่คนอื่นว่านั่น  น่าจะเป็นเพราะ...เบญมีองค์  เหอะๆๆๆ  เฮอร์มิสเป็นฝรั่งแต่เฮอร์มิสก็เชื่อไสยศาสตร์นะเออ

    “เอ่อ...”
    “.....”  เบญและผองเพื่อนสโนว์เฮอร์มิสเงยหน้าขึ้นมองคนที่เดินเข้ามาหาเบญ  ซึ่งตอนนี้ผองเพื่อนของเบญและเบญต่างนั่นคุยเล่นกันหลังเลิกเรียนอยู่หน้าตึกคณะ 

    อ้อ...คนของขึ้นเมื่อคืนนั้นนั่นเอง  คืนนั้นเฮอร์มิสไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์แต่เพื่อนสโนว์ที่อยู่ด้วยเล่าให้ฟังแล้ว  ตอนนี้เขาเลยอยากรู้ว่าคนๆนี้จะมาทำอะไรอีก

    “.....”  เงียบ  เหมือนจะกลืนน้ำลายก่อนเล็กน้อยด้วย

    ไอ้คนมาใหม่ตั้งใจว่าจะเข้ามาขอโทษที่เมื่อวันนั้นปากเสียไปหน่อย  ก็คนตรงหน้า...น่ารักอ่ะ  อยากรู้จัก  หลังจากเกิดเหตุวันนั้นเขาก็หาข้อมูลของหนุ่มน่ารักตรงหน้ามาพอสมควร  แม้ข้อมูลที่ได้มาจะมาจากการนินทาถึงเรื่องกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ของคนน่ารักตรงหน้ามากกว่าก็เถอะ  อีกทั้งตัวเขาเองก็อยากพิสูจน์เองด้วย  ตอนเดินเข้ามาเขาก็เอาแต่กลั้นหายใจ  ก็ยังจำกลิ่นเหม็นเมื่อคืนนั้นได้อยู่นี่หว่า  แต่พอคนน่ารักยิ้มให้เขาก็ลืมจุดประสงค์ของตนเองไปทันที 

    “...ครับ?”  เบญยิ้มบางถามคนมาใหม่  เหมือนจะช่วยแก้เก้อได้เยอะ  แต่...
    “...คะ...คือ”  คนมาใหม่ติดอ่างเสียอย่างนั้น  ดวงตามันจ้องหน้าเบญไม่วางตาเลย  ก่อนที่ใบหน้าอึกอักนั่นจะขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อย  คราวนี้เบญจึงส่งยิ้มที่กว้างกว่าเดิมให้ซะเลย  ได้ผลชะงัก  หน้าที่แดงอยู่แล้วกลายเป็นลูกตำลึงไปทันที

    ไอ้คนจะมาพิสูจน์กลิ่นและจะมาขอโทษไม่รู้จะทำหน้ายังไงแล้ว  มันรู้สึก...โคตรเขินว่ะ  จากนั้น  มันก็หันหลังเดินกลับไปทางเก่าซะงั้น   ลับหลังคนๆนั้นก็มีเสียงหัวเราะเบาๆที่เหมือนพยายามกลั้นขำเต็มที่ดังมาจากเพื่อนสโนว์เฮอร์มิส  และตามมาด้วยเสียงโห่ที่ค่อนข้างดังจากเพื่อนของไอ้คนนั้น  ก่อนจะเห็นว่าเพื่อนๆของมันต่อยตบเบาๆที่หัวและหลังมันคนละทีสองที  ไอ้คนนั้นหันกลับมามองเบญอีกครั้ง  เมื่อเห็นว่าเบญยังคงมองมันอยู่   มันก็ยิ้มเขินๆก่อนจะหน้าแดงขึ้นมาอีกครั้ง  และคงจะอายม้วนไปอีกนาน

    “กร๊ากกกกกกกกกกกกกสสส...ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”

    เฮอร์มิสและสโนว์ปล่อยก๊ากกันเต็มที่  อยากจะลงไปกลิ้งกับพื้นเสียจริงๆ  ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ  ลูบท้อง  เช็คน้ำตากันป้อยๆ  ก็ใครจะอดไหวเล่า  เห็นคนกร่างเขินแล้วมันโคตรฮา  เฮ้ออออออ...เสร็จเพื่อนเบญไปอีกราย  ขนาดว่าตัวมันเหม็นนะเนี่ย  แต่ไม่ใช่สำหรับเฮอร์มิสนะเออ

    “กลับก่อนนะ”  เบญบอกลาเพื่อนๆ  วันนี้เป็นอีกวันที่งดร้องเพลงเชียร์ช่วงเย็น  เขาก็เลยอยากกลับบ้านเลย
    “เออๆเจอกัน  ฮ่าๆๆๆ”  ยังขำไม่หยุดเลย



..............................................................



   “คุณใหญ่เรียกพบที่ห้องเจ้าจันทร์ค่ะ” 
    “....” เบญไม่ตอบ  แต่เพียงมองหน้าสาวใช้ในคฤหาสน์ว่ารับรู้แล้วเท่านั้น

    หลังกลับจากมหาวิทยาลัยสาวใช้ที่มารับสมุดหนังสือเรียนคนหนึ่งก็รายงานคำสั่งของประมุขของบ้านทันที  ส่วนห้องเจ้าจันทร์ที่ว่าก็เหมือนห้องรับแขกห้องหนึ่งในจำนวนหลายสิบห้องที่อยู่ภายในคฤหาสน์ศรลักฉกรณ์

    “....”  เมื่อก้าวเข้ามาในห้องเจ้าจันทร์  เบญก็ยกมือไหว้ญาติผู้ใหญ่ทั้งหลายซึ่งอยู่กันอย่างพร้อมเพรียงกัน  รวมทั้งพ่อของเขาด้วย

    เบญเดินไปนั่งที่โซฟาตัวที่ถูกแยกเอาไว้  ซึ่งตั้งห่างจากตัวอื่นๆเกือบสองเมตร  เพราะกลิ่นตัวของเขาจะส่งผลต่อแต่ละคนในระยะที่ไม่เท่ากันไกลสุดก็สองเมตร

    ภายในห้องประกอบไปด้วยศิลาหรือใหญ่  ประมุขคนปัจจุบันของตระกูลศรลักฉกรณ์  ซึ่งเป็นบุตรคนโตของอดีตประมุข  รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาคมคายคล้ายดั่งศิตรัยคุณปู่สมัยหนุ่มๆ  คนรองเป็นชายชื่อประภาสหรือกลาง  พ่อของเบญ  รูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากพี่คนโตนัก  เพียงแต่สูงกว่าพี่ชายคนโต  คนที่สามเป็นหญิงชื่อเขมอัปสรหรือเข็ม  หน้าตาสวยงามอย่างหญิงไทย  แต่มีรูปร่างที่ออกจะใหญ่ไปนิด  คนที่สี่เป็นหญิงชื่อบัวงามหรือบัว  คนนี้จะมีรูปร่างหน้าตาเล็กบอบบางออกไปทางคุณย่าดาวเรือง  คนที่ห้าเป็นชายชื่อระพีหรือเล็ก  หน้าตาคล้ายกับพี่ชายทั้งสองแต่รูปร่างจะท้วมนิดๆ  แต่ไม่ได้อยู่ด้วยเพราะเล็กไปสัมมนาที่ต่างจังหวัด  คนที่หกเป็นหญิงชื่อแก้วกาญจน์หรือแก้ว  เธอเป็นแบบฉบับของสาวสมัยใหม่ที่สวยเฉียบ 

    ....อยู่กันพร้อมหน้าคงจะเป็นเรื่องสำคัญ....เบญคิด

    “เป็นไงบ้างการเรียนในรั้วมหาวิทยาลัย”  ประมุขของบ้านถามไถ่อย่างใจดี
    “ก็ดีครับ”
    “มีเพื่อนบ้างหรือเปล่า?”
    “ครับ  ก็สนิทอยู่สองสามคนครับ”
    “ดีแล้วๆ”  ลุงใหญ่พูดอย่างโล่งใจ
    “ชิส”  แต่ดูเหมือนอาแก้วจะไม่สบอารมณ์ด้วยเท่าไหร่
    “แก้ว”  เสียงปรามเบาๆจากประมุขของตระกูล
    “ฮื่อ!”  หล่อนส่งเสียงขัดใจ  ประมุขของบ้านส่ายหน้าอย่างระอาเบาๆ  ก่อนที่กลางจะเริ่มถามบุตรชายเพื่อเข้าเรื่องสำคัญเสียที
    “อีกสามวันจะถึงวันเกิดครบสิบแปดปีของลูกแล้วสินะ”
    “ครับ”
    “พ่อคุยกับลุงใหญ่แล้วเห็นว่าหลังวันเกิดลูก  เห็นควรจะให้ลูกหมั้นกับลูกสาวคุณหญิงฉัตร” 

    หลังคำพูดนั้นทุกอย่างก็ตกอยู่ในความเงียบ  เบญมีเพียงใบหน้าที่เรียบเฉย  เขาไม่ได้ตกใจหรือแปลกใจอะไร  เพราะคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้  เพราะตามพินัยกรรมนั้นทรัพย์สมบัติของเบญจะสามารถทำนิติกรรม  ไม่ว่าจะเป็นจำหน่ายไถ่โอนได้ก็ต่อเมื่อเบญอายุครบสิบแปดปีบริบูรณ์และมีคู่อุปถัมภ์เท่านั้น 

    แปลก...ทำไมต้องเป็นคู่อุปถัมภ์  แทนที่จะเป็นคู่ชีวิตหรือคู่ครอง  ถึงแม้จะคิดในเชิงเนื้อคู่แล้วความหมายของมันจะไปกันได้ก็เถอะ  อีกทั้ง..พินัยกรรมไม่ได้ระบุว่าคู่อุปถัมภ์เป็นใครและต้องแต่งงานหรือไม่  บอกเพียงว่าคู่อุปถัมภ์ไม่ได้ขยายความว่าหมายถึงใคร  ลักษณะอย่างไรทั้งสิ้น  ดังนั้นหลังจากที่อดีตประมุขของตระกูลได้ล่วงลับไปด้วยโรคชราและอีกหนึ่งสัปดาห์ต่อมาคุณย่าดาวเรืองก็ตามไปอีกคน  ใหญ่ก็ได้นำความนี้ไปกราบเรียนขอทราบความหมายจากพระอาจารย์ที่เคารพท่านหนึ่ง  ซึ่งความหมายที่ได้ก็ไม่ต่างจากที่คิดนัก

    หลังจากนั้นทุกคนต่างพยายามหาหญิงสาวมาให้เบญดูตัว  แต่ด้วยสาเหตุหลายๆอย่างช่วงเวลาเหล่านั้นก็ผ่านไปได้อย่างทุลักทุเล  จนคุณใหญ่ประมุขคนใหม่ของตระกูลสั่งห้ามให้ทุกคนหยุดหาคู่ให้กับหลานเสียที  ทุกคนจึงค่อยๆเลิกรากันไป  แต่ก็ไม่วายมาทำความสนิทสนมกับเบญสม่ำเสมอ

   “...ครับ”เบญตอบรับ

   เฮ้อออออ...เสียงถอนหายใจเบาๆดังมาจากหลายๆคน 

    “งั้นผมขอตัวนะครับ”  ลุงใหญ่พยักหน้าให้  และทั้งที่เบญตอบรับแล้ว  แต่ท่านก็ยังคงมีร่องรอยของความกังวลอยู่ไม่น้อย  หากเพราะไม่มีเรื่องอื่นด้วยการจัดหาคู่ครองให้บุตรหลานก็เป็นเรื่องสมควรอยู่แล้ว 

    ในขณะที่เบญกำลังจะยืนขึ้น

    “ลูกจะไม่ถามอะไรหน่อยหรือ?”  กลางถามบุตรชาย 

    ตัวของกลางเองแม้ว่าเขาจะเป็นพ่อที่ไม่ดีนัก  แต่เขาก็อดจะห่วงเบญไม่ได้  ยิ่งบุตรชายรับคำง่ายๆทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญถึงเพียงนี้  เขายิ่งรู้สึกเป็นห่วง  อาจเพราะกลางเองไม่เคยชอบการถูกคลุมถุงชน 

    เบญยิ้มบางๆตอบผู้เป็นพ่อและลุงป้าน้าอาอย่างเคย  ก่อนจะถามพร้อมรอยยิ้มเบาบาง

    “บานเย็นหรือครับ?” 
    “.....”  ผู้ใหญ่หลายคนอึ้งเล็กน้อยกับคำถามที่ไม่คิดว่าเบญจะรู้อยู่แล้ว  ทั้งที่ไม่เคยมีใครพูด  และไม่คิดว่าเบญจะรู้จักหนูบานเย็น  บุตรสาวคนเล็กของคุณหญิงฉัตร
   “......”  ประมุขของบ้านเพียงพยักหน้า  ในขณะที่คนอื่นๆยังเงียบอยู่
    “งั้นผมขอตัวนะครับ”  เบญกล่าวขอตัวอีกครั้ง  และครั้งนี้ก็ไม่ได้มีใครคัดค้านอะไรอีก

    หากแม้นจะไม่พอใจในกิริยาของลูกหรือหลานแต่ทุกคนก็ไม่มีใครเซ้าซี้เบญต่อ  เพราะต่างรู้กันดีว่าเบญเป็นคนเงียบๆ  แม้จะมีรอยยิ้มบางเบาให้กับทุกคน  แต่เบญเป็นคนที่เข้าถึงตัวตนได้ยากที่สุด   

    เพียงลับหลังเบญ

    “แน่ใจแล้วหรือคะที่ให้เป็นหนูบานเย็น”  เขมอัปสรถามผู้เป็นพี่ชายผู้เป็นประมุขคนปัจจุบันของตระกูล

    แน่ใจหรือ?

    ไม่เลย

    ไม่แน่เลยสักนิด  ทั้งๆที่การที่หลานเบญรับคำง่ายๆ ประมุขอย่างเขาน่าจะพอใจ  แต่ใหญ่กลับรู้สึกสังหรณ์ใจว่า...ไม่ใช่  และเรื่องนี้จะไม่จบแค่นี้แน่นอน  ทั้งๆที่เขาและน้องอีกสองคนช่วยกันค้นหาบุคคลตามพินัยกรรมมาโดยตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาก็ตาม

    “วันก่อนให้เล็กเอาดวงหนูบานเย็นไปให้หลวงตาดูแล้ว  ท่านว่าถึงไม่ใช่คู่อุปถัมภ์แต่ก็เคยสร้างบุญกันมา”  ประมุขแห่งตระกูลตอบ
    “หมายความว่ายังไงคะ  ไม่ใช่คู่ตามพินัยกรรมหรือคะ?” 

    ใหญ่จ้องหน้าน้องสาวนิ่งๆ  และดูเหมือนเธอจะพึ่งรู้สึกตัวว่าถามอะไรไป

    “แหมะ...เข็มก็แค่เป็นห่วงหลานน่ะค่ะ  ก็พินัยกรรมว่าอย่างนั้นนี่คะ”  เธอตอบก่อนจะอ้างพินัยกรรม

    ใหญ่มองหน้าน้องสาวอย่างรู้เท่าทัน  แต่เขาก็ไม่อาจพูดอะไรได้  ดวงตาสีออกน้ำตาลมีแต่ความหนักใจมากกว่า

    “เฮ้ออออ...ท่านเพียงแต่ส่ายหน้า  ก็เท่านั้น”  ถึงใหญ่จะขยายความเพิ่มเติมแต่มันก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี  หมายความว่า...คู่อุปถัมภ์ของหลานเบญยังไม่มาเกิดหรือไงกัน

    “แล้วอย่างนี้หนูบานเย็นจะเปิดหีบนิล...”

    หล่อนพูดแค่นั้นก่อนจะทำตาโตๆและ...

    “เอ่อ...เข็มขอตัวก่อนนะคะคุณพี่”  พูดแล้วก็รีบลุกออกไปทันที  ท่ามกลางความตกใจ  แปลกใจ  ของหลายๆคน
    “เดี๋ยว!  เข็ม!  เข็ม!”  กลางเรียกน้องสาวตนเองทันทีเช่นกัน  แต่ก็ต้องหยุดลงเพราะใหญ่เอื้อมมือมาแตะแขนเขาเบาๆ
    “นี่มันอะไรกันคะคุณพี่”  แก้วกาญจน์โวยขึ้นมาบ้าง ด้วยเห็นกิริยาแปลกๆของพี่ๆ  มีอะไรในกอไผ่ทำไมไม่ให้เธอรู้
    “ไม่มีอะไรทั้งนั้น  กลางไปคุยกับพี่หน่อย”  ประมุขของบ้านกล่าวเสียงแข็งเด็ดขาด  นัยน์ตาส่อความกังวลอย่างชัดเจน  ก่อนเรียกให้น้องคนกลางไปคุยด้วย
    “ครับ”    
    “แก้วไม่ยอมนะคะ  คุณพี่!  คุณพี่คะ!  ชิส์!!” 

    หล่อนลุกขึ้นเรียกและเต้นเร้าๆอย่างไม่สบอารมณ์  อะไรกันเนี่ย  ยังมีอะไรที่หล่อนยังไม่รู้อีก  หน่อยไอ้หลานบ้านั่น  มันยังได้อะไรอีกงั้นหรอ  เท่าที่มันได้ไปก็ตั้งครึ่งหนึ่งของที่ทุกคนรวมกันได้แล้ว  พ่อนะพ่อ  แม่นะแม่  ฮื่อ!!!  อารมณ์เสีย  ไปหาเด็กดีกว่า

    บัวงามมองพี่ๆทุกคนที่ทยอยเดินกันออกไป  ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ 





TBC




ลงเรื่องนี้อีกแล้ววววววว
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อารมณ์อ่ะ  อารมณ์มันให้อ่ะ 
ไม่มีเหตุผล
เฮ้อออออออ   :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 3 20/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 20-01-2014 01:17:28
น้อยเม้นต์เลยตอบ  มากเม้นต์ตอบไม่ไหว  แต่ก็ขอบคุณมากที่เข้ามาส่อง บวกเป็ดให้ทุกเม้นต์แล้วนะจ้ะ  เป็นกำลังใจให้ขยันลงสม่ำเสมอ  ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เป็นเรื่องแรกที่แต่งจบก่อนลง  เหมือนได้ถอดลิงออกเลย  เพราะมันเป็นตัวสุดท้ายก่อนร่างกายจะเบ๊าเบา  กร๊ากสสสสสสส


ชอบบบ รอตอนต่อไปนะจ้ะ :mew1:
ชอบต่อไปนะจ้ะ

ชอบเรื่องนี้อ่ะ น่าติดตามมาก
ดีดี  ตอนต่อจะยิ่งหนุกขึ้น  แต่งเองจบ  อ่านเองอีกสองรอบเน้นๆ  ยังชอบเลยเหอะ

หน้าตาดีมีชัยไปกว่าครึ่งแต่สำหรับเบญคงเกือบเต็มติดแค่กลิ่นเท่านั้นแหละ

เห็นเม้นนึงบอกว่าท้องได้ สุดยอดชอบมาก มาต่อไวๆนะคะ :katai4:
เออๆ  ฮ่าๆๆ  ถ้ามีคนเม้นต์เยอะเค้าจะลงบ่อยๆ   กร๊ากๆ  นิสัยไม่ดี 
ปอลอลอ...คาดว่า 5 วันต่อหนึ่งตอน  เพราะเรื่องนี้แต่งจบไปแล้ว

ใครที่รู้สึกดีกับเบญจะำด้กลิ่นหอมรึป่าวเพราะคนที่ย่นว่าเหม็นตอนแรก พอเห็นหน้าเบญแล้วรู้สึกชอบแล้วเขิน จากนันก็ได้กลิ่นพฤก?  เหมือนกับเฮอร์มิสที่ไม่ได้กลิ่นเหม็นเลย

แล้วใครเป็นพระเอก พระเอกเป็นลูกครึ่ง  :confuse: เฮอร์มิสหรอ? ที่เป็นพระเอกอ่ะ  โอ้ยยยยยย~ อยากรู้แล้วอ่ะ :serius2:
เคยคิดแบบนั้นเหมือนกัน  แต่เพราะคิดว่า....มั๊นนนนต้องมีคนคิดอย่างนี้แน่ๆ  เลยเปลี่ยน  ฮ่าๆๆๆๆๆ  เป็นอะไร...ไปอ่านเอาเอง  หึหึ

ขนาดตัวเหม็นนะเนี่ย

+ 1 + เป็ดจ้า
แต๊งเป็ด  เหม็นแต่หน้าตาดีอ่ะ  ฮี่ฮี่ฮี่

น่ารักอ่ะ อ่านไปแบบยังไม่รู้อะไรแต่ก็หยุดไม่ได้

รอตอนต่อไปค่ะ
อย่าหยุด...ร้อง  กร๊ากสสสสสไม่ช่ายยยยย  อย่าหยุด...รักกันนานๆนะจ้ะ

อยากอ่านอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แล้วก็อ่านอีกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

น่าติดตามค่ะ

 แอบสงสัยเรื่องกลิ่นเหม็นล่ะมโนเองว่า คนที่ได้กลิ่นหอมเพราะเป็นคนจริงใจจิตใจบริสุทธิ์ แล้วคนที่ได้กลิ่นเหม็นก็เพราะเป็นคนที่มีความขุ่นมัวในจิตใจหรือเปล่า?

เรื่องเรียนโบราณคดี ทั่วทั้งประเทศมีเปิดสอนแค่สาขาเดียว คณะเดียว มหา'ลัยเดียว เปิดรับไม่เกิน 50 คนได้มั่งใครที่อยากเรียนแล้วสามารถเข้าเรียนได้แบบสุดยอดมว๊ากกกเลย ส่วนตัวอยากเรียนมากก แต่ดันจบปวช.บัญชีมาหมดโอกาสเลย  :mew5:

จะรออ่านตอนต่อไปเนาะ
แบบที่คิดก็เคยคิด  เหมือนเม้นต์บนแหละ  ตามอ่านตอนต่อไปเองนะเออ
ส่วนเรื่องเรียนโบราณ  มันมีที่มาที่ไป  อื้ม!  ว่า....
เค้าดูรายการๆหนึ่งมีนักศึกษาชาวต่างชาติที่เรียนเมืองไทยบอกว่า...ถ้าอยากเป็นนักวิชาการต้องเรียนอะไรที่คนเขาไม่เรียนกัน  พอได้ฟังแล้ว  โอ้โหหหหหห...มันเท่ห์  มันคิดได้  เลยแต่งให้นายเอกเรียนมั่ง  แค่นี้  อืม  แค่นี้   :fox2:

uri
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 3 20/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 20-01-2014 02:24:21
คิดว่าคนที่เข้ามาดีก็จะได้กลิ่นหอม ถ้าเข้ามาแบบร้ายๆก็จะได้กลิ่นเหม็น สงสัยจังว่าพระเอกเป็นใคร
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 3 20/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 20-01-2014 08:16:27
สงสัยเหมือนกันว่าพระเอกคือใคร ยังไม่โผล่มาแน่เลยอ่ะ

แต่ก็ชอบเฮอร์มิสนะ ถึงจะเป็นฝรั่งแต่ก็เชื่อไสยศาสตร์ กร๊ากกก น่ารักอ่ะเฮ้ย

เบญอาจมีองค์ อืม ๆ อันนี้น่าคิดนะ

ทึ่ญาติ ๆ อยากให้เจอคู่อุปถัมภ์ เพราะสมบัติหรอ ตอนแรกนึกว่าห่วงเบญซะอีก

อ่อ! แล้วพลอยมุกยังอยู่ในกลุ่มเพื่อนเบญอยู่ไหม หรือพอเจอเป้าหมายแล้วหายต๋อม
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 3 20/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 20-01-2014 11:38:20
มีแต่คนรอดูพระเอกว่าเป็นใคร เค้าก็รอ อิอิ

แต่เราว่าต้องเป็นคู่อุปถัมภ์ของเบญแน่เลย

รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 3 20/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: AGALIGO ที่ 20-01-2014 12:57:46

ทุกคนในบ้านดูรักเบญมากเรยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

ไอ้เรื่องเงินๆทองๆเนี่ยมันน่าเบื่อมากเลยเนอะ

+ 1 + เป็ดจ้า
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 3 20/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: mholic ที่ 20-01-2014 13:17:46
คนเขียนอย่าใจร้ายนักเลย 5วันลงทีละตอน อิฉันจะลงแดงตายก่อนนะฮะ :a5:

คนอุปถัมป์น้องเบญต้องเป็นจ้าอะไรซักอย่างแน่เลย เดากันไปเมื่อไหรพระเอกจะออกโรง  :katai1:

ปล. มาต่อไวๆนะฮะตั้งตารอทุกๆตอนเลย นิยายสนุกมาก
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 3 20/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 20-01-2014 13:44:51
มันสั้นอ่ะ  :z3:  ขอแบบยาวๆๆๆๆๆ

พระเอกยังไม่เกิดรึนี่
หัวข้อ: Re: ^__^ Black Power ^__^ ตอนที่ 3 20/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 20-01-2014 18:27:59
อั๊ยย่ะซับซ้อนนนน

ตามอ่านเรื่องนี้แต่อย่าลืมเรื่องเก่าๆนะคะ พลีสสสส :ling1:
หัวข้อ: ^__^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^__^ ตอนที่ 4 หีบนิลกาฬ 25/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 25-01-2014 09:57:43
^__^ Love Devil^__^

รักร้ายเทพอสูร




ตอนที่ 4 หีบนิลกาฬ



    “บริษัทเป็นไงบ้าง?”  เมื่อเข้ามาในห้องทำงาน  ใหญ่ก็ถามกลางทันที
    “คงไม่ถึงสิ้นปี”
    “.......”  ใหญ่อดจะรู้สึกหนักใจไม่ได้
    “หาคนๆนั้นไม่เจอเลยหรือครับ  พี่ใหญ่”
    “เจ้าเล็กพยายามอยู่  เฮ้ออออ...” ประมุขของบ้านพูดอย่างเหนื่อยใจ

    หากไม่จำเป็นจริงๆแล้วล่ะก็...ใหญ่คงไม่ต้องดิ้นรนค้นหาบุคคลที่เป็นคู่อุปถัมภ์ของหลานถึงเพียงนี้  จะว่าไปเรื่องเหลือเชื่อนี่ก็เป็นเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่ช่วยบริษัทของตระกูลได้ในขณะนี้

    ตอนเปิดอ่านพินัยกรรม  ทุกคนต่างตื่นตกใจ  ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวเขาเอง  นั่นเพราะไม่มีใครคาดคิดว่าคุณศิตรัยและคุณหญิงดาวเรืองจะยกทรัพย์สมบัติส่วนใหญ่ให้กับหลานที่แทบจะไม่มีใครสนใจ  แม้จะรู้กันอยู่แล้วว่าคุณปู่คุณย่าท่านรักหลานคนนี้มากเพียงใด  แต่นั่นก็ไม่มีวี่แววว่าท่านจะยกทรัพย์สมบัติส่วนใหญ่รวมถึง ‘หีบนิลกาฬ’ ให้กับหลานคนนี้ 

    ...หลานเบญ...เบญจมาศ  ศรลักฉกรณ์  ไม่รู้คุณหญิงแม่ท่านคิดอย่างไรถึงตั้งชื่อหลานชายคนนี้เป็นชื่อดอกไม้  ทั้งที่ในตระกูลนี้จะตั้งชื่อดอกไม้ให้เฉพาะกับผู้หญิงเท่านั้น

    เบญจมาศ....ดอกไม้มงคลของจีน  เผาหยวนหมิง  บทกวีเอกของจีน ได้เขียนกวีบทหนึ่ง โดยเปรียบเทียบดอกเบญจมาศว่าเป็นนักปราชญ์ผู้มีจริยวรรตงดงาม  และยังเป็นสัญลักษณ์ของกองทัพจีนยุคเก่าก่อนการปฎิวัติ  ถือว่าเป็นดอกไม้ของชนชั้นสูง  ย่อมเป็นของต้องห้ามสำหรับประชาชนธรรมดาๆทั่วไปที่จะปลูกดอกไม้ชนิดนี้ไว้เชยชม 

    ...ในขณะที่ญี่ปุ่น  ดอกเบญจมาศ หมายถึง พระอาทิตย์  ญี่ปุ่นนำดอกเบญมาศมาจากจีนเมื่อปีค.ศ. 1400 ราชวงศ์ญี่ปุ่นชอบมาก  จึงนำเอามาเป็นตราลัญจกรของราชวงศ์  สัญลักษณ์ของราชวงศ์ญี่ปุ่น หมายถึง ความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ 

    สำหรับคนไทย...ดอกเบญจมาศเป็นดอกไม้ที่นิยมให้แก่คนอันเป็นที่รัก  แต่นั่นยังไม่สำคัญเท่ากับดอกเบญจมาศในความหมายของประเทศบ้านเกิดของโรสแมรี่  มารดาของเบญ  ประเทศนั้นถือว่า....

    ...ดอกเบญจมาศ หมายถึง  ความตาย...


    เขาไม่เคยรู้มาก่อน  เพราะก็ไม่เคยได้สนใจความหมายของดอกไม้อะไรแบบนี้  แต่คนที่คัดค้านการตั้งชื่อนี้คนแรกคือประภาสผู้เป็นพ่อของหลาน  เมื่อแรกเขาก็ไม่เข้าใจนัก  แต่พอรู้ความหมายเขากับประภาสก็ได้ขอให้คุณย่าท่านเปลี่ยนชื่อหลาน  แต่ท่านก็หาได้สนใจไม่  ทั้งยังมีคุณศิตรัยสนับสนุน  เขาจึงไม่สามารถทำอะไรได้

    จวบจนหลังจากวันอ่านพินัยกรรมเขาได้ไปเปิดตู้เซฟใบหนึ่งที่ธนาคาร

    ...‘จดหมายถึงประมุขคนต่อไปของศรลักฉกรณ์กับความลับของหีบนิลกาฬ’... 

    ‘หีบนิลกาฬ’  หีบขนาดสิบสามคูณสิบสามนิ้วหีบสีเงินคราบทอง  มีนิลกาฬอัญมณีสีดำน้ำงามอยู่บนฝาหีบ  หีบที่บรรจุเครื่องเพชร  อัญมณี  พันธบัตร  และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง  หีบสมบัติที่เขาไม่คิดว่าตระกูลศรลักฉกรณ์จะยังคงมีทรัพย์สมบัติอีกมากมายบรรจุอยู่ในหีบนิลกาฬ  แม้จะไม่อาจคาดเดาได้ว่าภายในหีบมีทรัพย์สินอยู่ทั้งหมดเท่าไหร่ก็ตาม 

    ...แต่การจะเปิดหีบสมบัตินิลกาฬได้นั้นต้องใช้เลือดของเบญจมาศกับคู่ชีวิตหยดลงไปบนนิลกาฬ  บนอัญมณีสีดำนั่นเท่านั้นถึงจะเปิดหีบนั้นได้  และต้องทำหลังจากเบญจมาศอายุครบสิบแปดปีแล้วหกวันเท่านั้น  มิเช่นนั้นจะไม่สามารถเปิดหีบได้อีก 

    ศิลาจะไม่สนใจหีบพิสดารนี้เลย  หากไม่เพราะวันนี้...บริษัทของศรลักฉกรณ์หลายแห่งจำต้องปิดตัวลง  และพิษร้ายของเศรษฐกิจจะไม่ลามมาถึงบริษัทแม่

   “แล้วลูกสาวคุณหญิงฉัตรล่ะครับ?”  กลางถามขึ้น
    “อันที่จริง  ถ้าไม่ใช่...ก็ไม่ควรมารู้เรื่องนี้”  ใช่  เขาคิดเช่นนั้น  ไม่ว่าใครก็ตามถ้าไม่ใช่เขาก็ไม่ควรให้บุคคลเหล่านั้นมารู้เรื่องนี้  แม้แต่คนในครอบครัว

    แล้วคนๆนั้นอยู่ที่ไหนนะ  จะใช่หนูบานเย็นหรือเปล่า?

    “....”

    ความเงียบเข้ามารายล้อมสองพี่น้อง  เพราะเรื่องนี้คนที่รู้เรื่องดีมีเพียงใหญ่กับกลางเท่านั้น  แต่ดูเหมือนตอนนี้จะมีบุคคลอื่นรู้เพิ่มเข้ามาเสียแล้ว  และไม่ว่าคนๆนั้นจะรับรู้มาจากทางไหนก็ตาม  ณ เวลานี้ใหญ่ยังไม่ต้องการให้เกิดการนองเลือดเพราะแย่งชิงสมบัติกันในตระกูล  ดีแค่ไหนแล้วที่ทรัพย์สมบัติเกือบทั้งหมดที่เขาถืออยู่ไม่สามารถจำหน่ายไถ่โอนไปไหนได้   เวลากว่าสองปีแล้วที่เขาได้จัดการระบบต่างๆจนเกือบจะเรียบร้อยแล้วเชียว  หากไม่มาล้มตายกันเพราะพิษเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้

    กริ๊งงงงงงง

    “.....”  เสียงโทรศัพท์ปลุกภวังค์ของคนทั้งคู่ได้ดีทีเดียว  ใหญ่ชั่งใจสักครู่ก่อนจะเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์
    “ว่าไงเจ้าเล็ก  งั้นหรือ....ดีมาก  เมื่อไหร่?...  อืม  ไม่ต้องแล้ว  ใช่....” 
    “เตรียมตัวขึ้นเหนือคืนพรุ่งนี้”  เมื่อวางสายจากน้องคนเล็กใหญ่ก็กำชับน้องชายอีกคนทันที  แววตาของประมุขแห่งตระกูลบ่งบอกว่า...เรื่องนี้ชักช้าคงไม่ทันการ  ขออย่าไปเสียเที่ยวเลย
    “ครับ”






...................................................



   กลิ่นคาวเน่าเหม็น  ซากศพเกลื่อนกลาดไปทั่ว  เขาอ้วกแล้วอ้วกอีก  จนเหมือนจะไม่มีอะไรออกมาจากกระเพาะแล้ว  ความหวาดกลัว  ความหนาวเหน็บ  จับใจจนไม่อาจบรรยายได้   แต่เขาก็ยังคงยืนอยู่ตรงนี้...เพียงคนเดียว  ท่ามกลางซากศพกองเท่าภูเขาและกลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ  ไร้แสงแต่เขากลับมองเห็นทุกอย่าง  บางศพมีหนอนชอนไชยั้วเยี้ย  บางศพเหลือแต่โครงกระดูก  บางศพเหมือนพึ่งตาย  บางศพก็เหมือนตายด้วยคมหอกคมดาษ  บางศพกำลังขึ้นอึด  บางศพแขนขาขาด  บางศพไส้พุงทะลัก  บางศพเละ  บางศพเลือดออกตามตัวดวงตาเบิกโพลง  มัน...กำลังมองมาทางเขา   ตัวเขาสั่นเทาไปด้วยความหวาดกลัว  ทั้งๆที่กลัวถึงขนาดนี้แต่กลับยังมีสติ  ทั้งๆที่ไม่อยากหายใจแต่ก็ยังหายใจ  สูบดมกลิ่นเน่าเหม็นเข้าสู่ร่างกาย  ชั่วเวลาหนึ่งที่เขาคิดว่าทำไมตัวเขาไม่กองไปกับซากศพเหล่านั้นนะ  ทำไมกัน!!

    เฮือก!!!!!!

   เหงื่อเปียกชุ่มไปทั่วทั้งตัว  หน้าที่ขาวซีดอยู่แล้ว  แทบจะไร้สีเลือดกลายเป็นกระดาษเสียอย่างนั้น  ความหวาดกลัว  ความหนาวเหน็บ  กลิ่นเน่าเหม็นจากซากศพ  ยังติดอยู่ในใจ  ผิวกาย  ดวงตา  และ...ปลายจมูก

    เบญลูบมือตามเนื้อตัวของตนเอง  ก่อนจะคู้กอดตัวเองแน่นๆ  หนุ่มร่างเพรียวบางสั่นเทาไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย  เขากำลังสั่นเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆที่หวาดกลัวอย่างมาก  หัวใจเต้นกระหน่ำเป็นกลองรัว  ระหว่างความกลัวกับความอับอาย...อับอายที่บางอย่างในร่างกายกำลังตื่นตัว  น้ำตาไม่ได้หลั่งไหล  แต่ดวงตาสีเทากลับเบิกโพลงไปด้วยความตื่นตระหนก 

    เขาฝัน...ฝันร้าย 

    ร้ายที่สุดในชีวิต 

    แล้วทำไม...

    ทำไม...ส่วนสงวนของเขาถึงมีปฎิกิริยาแปลกๆด้วย  ส่วนนั้นของเขากำลังชูชันแข็งขึงอย่างน่ารังเกียจ  เขากำลังต้องการการปลดปล่อยจากตัณหา  ฝันอย่าง  ใจอย่าง  ปฎิกิริยาทางกายไปอย่าง  เหงื่อเม็ดเล็กๆยังคงหยดลงมาจากเส้นผลสีดำนั้น

      ฝัน!!

    แค่ฝัน

    ฝันร้าย

    แต่เป็นฝันร้ายที่เขามีอารมณ์ทางเพศร่วมไปกับมัน! 

    และนี่ก็....

    ...ยิ่งกว่าฝันร้ายเสียอีก...

    ทั้งที่ในความฝันเขามีแต่ความหวาดกลัว  หดหู่  หม่นหมอง  แต่ร่างกายของเขาตอนนี้กลับมีความต้องการแปลกๆ

    ...นี่มัน...

    ...เรื่องบ้าอะไรกัน!...

    ทั้งหมดนี่มันต้องเป็นแค่ความฝันเท่านั้นสิ  หรือเขาอาจจะกำลังฝันซ้อนฝันอยู่ก็ได้

    ใช่! ต้องเป็นฝันซ้อนฝันแน่ๆ

    กว่าจะปลอบใจและข่มใจตัวเองว่าทั้งหมดนั่นเป็นเพียงแค่ความฝัน  แม้แต่การที่เขามีอารมณ์ความต้องการที่ช่างไม่เข้ากับฝันร้ายนั้น  โดยเฉพาะอารมณ์แบบนี้มันจะต้องเป็นแค่ความฝัน  แสงตะวันก็สาดส่องเข้ามาในห้องนอนเสียแล้ว

    แม้จะบอกกับตนเองว่านั่นมันเป็นแค่ความฝัน  แต่กลิ่นที่ติดอยู่ที่ปลายจมูกนั่น  อารมณ์ที่ค้างคาแปลกๆนั้น  กลับไม่ได้สร้างความมั่นใจอะไรให้เขาเลย  สรุปว่า...

    ...แค่...ความฝัน...จริงๆหรือ?...



   ผ่านมาอีกสองวันก็ถึงวันที่ต้องไปรับน้องกันที่หาดจอมเทียนแล้ว  ‘หาดจอมเทียน’ สถานที่ที่มีหาดทรายสวยงามทอดตัวเป็นแนวยาว  อยู่ห่างจากพัทยาใต้ 4 กิโลเมตร ตามถนนเลียบชายหาดหรือแยกขวาจากถนนสุขุมวิทตรงกิโลเมตรที่ 150.5 เข้าไปอีก 2 กิโลเมตร  หาดแห่งนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจึงทำให้มีธุรกิจเกิดขึ้นมากมาย  โดยเฉพาะธุรกิจที่พักและโรงแรม  หาดจอมเทียนเป็นหาดยอดนิยมแห่งหนึ่งของเมืองพัทยา 

    ในการรับน้องนอกสถานที่ในครั้งนี้ใช้เวลาทั้งหมดสามวันสองคืน  และรับร่วมกันกับคณะมนุษยศาสตร์ด้วย  ถึงอย่างนั้นน้องใหม่ที่ไปก็มีเพียงสองร้อยกว่าชีวิตเท่านั้น

    หลังจากวันนั้นเขาก็ฝันแบบนั้นอีกในคืนวันต่อๆมา  ฝันซ้ำๆ  เพียงแต่เมื่อคืนนี้เขากลับกำลังเห็นตัวเอง....

    กิน....ซากศพเหล่านั้น 

    ทำไมถึงกิน  เพียงแค่คิดก็...

    “อ้วกก...”
    “ไหวมั้ย?”
    “....”  แทบจะไม่มีเรี่ยวแรงตอบ  เบญได้แต่ส่ายหน้าบอกเพื่อนลูกครึ่ง  หน้าที่ซีดอยู่แล้วยิ่งซีดเข้าไปใหญ่  เบญเช็คปากด้วยทิชชู่ก่อนจะเก็บทิ้งถุงพลาสติกที่ติดตัวมาใช้ยามฉุกเฉิน

    อาจเพราะเสียงอ้วกเสียงอาเจียนมีให้ได้ยินเป็นระยะๆ  เลยไม่ได้มีใครสนใจว่าเสียงของเขาจะทำให้เสียบรรยากาศมากนัก  เพราะตอนนี้พวกเขาอยู่บนรถทัวร์ที่กำลังออกเดินทางมาได้ระยะหนึ่งแล้ว

    “อ่ะ..ยา”  เฮอร์มิสยื่นยาที่พกมาด้วยให้เพื่อน
    “ขอบใจ”
    “^_^”

    เบญรับยามากินก่อนจะดื่มน้ำตาม  ปล่อยให้เพื่อนเข้าใจไปว่าเขากำลังเมารถ  ใครเลยจะเชื่อว่าความฝันนั้นจะตามหลอกหลอนเขาได้ถึงเพียงนี้

    หลังกินยากินน้ำเบญก็พิงผนังเบาะและหลับตาลงอย่างอ่อนแรง  จะว่าไปคืนที่สองและสามเขาก็ยังมีอาการหวาดกลัวและตื่นตัวแปลกๆไม่ต่างจากคืนแรก  แต่พอรู้ว่าแค่ความฝันที่ซ้ำกับคืนก่อนๆเท่านั้น  เขาก็เลยทำใจได้เร็วกว่า  แต่ก็อดจะขนลุกไม่ได้  นั่นเพราะมันเป็นความฝันที่เหมือนหนังที่ถูกฉายซ้ำ  แต่เขาก็อดจะหงุดหงิดกับอารมณ์ทางเพศรสที่ทำให้เขาแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง  ในความฝันนั้นบางช่วงบางขณะเขาเห็น...ฝ่ามือเร่าร้อน  นัยน์ตาสีทองดั่งดวงตะวันที่ตรึงร่างกายของเขาเอาไว้   บางเบา...จนเขาจำไม่ได้เลยว่าคนๆนั้นมีหน้าตาอย่างไรกันแน่  มีเพียงความรู้สึกแปลกๆที่ยังคงหลงเหลือจากฝ่ามือและแววตานั้นเท่านั้น

    เบญไม่ใช่พวกขวัญอ่อนกลัวผีสางเทวดาอะไร  เขาเชื่อและไม่เคยลบหลู่  แต่หากความฝันนั้นเขากลับมีอารมณ์ทางเพศที่ช่างสวนทางกับความฝัน...และมันเหมือนจริงจนเขาอดจะกลัวไม่ได้จริงๆ  แต่เมื่อคืน...

    กำลังจะคิดต่อความง่วงงุนก็เข้ามาปกคลุมจนไม่อาจคิดอะไรต่อไปได้  เฮอร์มิสที่นั่งอยู่ข้างกันกับเพื่อนที่น่ารักของเขา  ค่อยๆจับศีรษะเล็กนั้นมาพิงที่บ่าของตนเอง  หากรู้ก่อนว่าเพื่อนรักเมารถเขาคงจะให้กินยาแก้เมาก่อนแล้ว  จริงๆเล้ยยยย...  เลยอ้วกซะหมดเรี่ยวหมดแรงซะน่าสงสาร  แต่ว่า...

    ...ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่  บรรยากาศคนที่แอบหลงรักมาพิงไหล่แบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน  คนอะไรว้า~ ช่างน่ารักจริงๆ  สูดดดด...กลิ่นตัวก็ห๊อมหอม

    จึ๊กๆๆๆ  เพื่อนอีกฝั่งหนึ่งสะกิดไหล่เบาๆ

    “หือ?”  หันไปเลิกคิ้วมองคนสะกิด
    “มึงไม่เหม็นหรอวะ”  คนสะกิดถามอย่างสงสัย  คือกู....โคตรสงสัยอ่ะ  ที่กูนั่งอยู่แม้จะไม่ได้กลิ่น  แต่พอเอาหัวเข้ามาใกล้ยังต้องกลั้นหายใจเลยนะมึง
     “ไม่  หอมออก”  เฮอร์มิสตอบด้วยรอยยิ้ม  แต่คนถามกลับทำหน้าแหยง
    “จมูกมึงมีปัญหาชัวร์  ใครๆเขาก็ว่าเหม็น  มึงหอมอยู่คนเดียว”  ไอ้คนพูด  พูดด้วยสีหน้าจริงจัง
    “ใครบอก...”  เฮอร์มิสกำลังจะอ้าปากพูดก็มีเสียงใสๆดังมาจากด้านหลังของตนเอง
    “อะไรๆ”  และตามมาด้วยเสียงห้าวๆอีกหนึ่งเสียง
    “ก็พงษ์อ่ะดิ  บอกว่าเบญตัวเหม็นอ่ะ”  หนุ่มตัวขาวร่างเล็ก  ดวงตากลมโต  ใบหน้าน่ารัก  แต่เสียงใสกังวานหันไปฟ้องเพื่อนสาวเสียงห้าวตัวสูงทันที
    “มึงว่าน้องดอกไม้กูหรอไอ้พงษ์”  เสียงห้าวแข็งเหมือนจะบีบให้ตายหากคนชื่อพงษ์พูดจาไม่เข้าหู
    “เอ่อ...” พงษ์ตาลีตาเหลือก  เพื่อนที่นั่งข้างกันได้แต่ส่ายหัว  พงษ์มันหาเรื่องตายโดยไม่รู้ตัวซะแล้ว
    “แหะๆ  โทษทีๆ”   สุดท้ายพงษ์ต้องจำยอมลูกสาวค่ายมวยไปก่อน
    “ได้กลิ่นด้วยหรอ?”  เฮอร์มิสอดตื่นเต้นไม่ได้   แววตาชายหนุ่มวาววับ
    “อืม”  หนุ่มตัวเล็กยิ้มตอบ  “หอมสดชื่นเหมือนพฤกษชาติเลยล่ะ  ไม่งั้นไม่ตามนั่งนี่หรอก  ใช่มะโน้ต”  ก่อนจะหาไปหาผู้สนับสนุนอีกคน
    “ใช่”  โน้ตยิ้มตอบเพื่อน

    โน้ตหรือกรกนก  บุญเวทม์  ตระกูลบุญเวทม์เป็นเจ้าของค่ายมวยยักษ์ใหญ่  โน๊ตเป็นผู้หญิงหน้าตาธรรมดา  ผิวคล้ำเนื่องจากตากแดดบ่อยและไม่ชอบใช้ครีมหรือโลชั่นบำรุงอะไร  รูปร่างมีกล้ามเนื้อแข็งแรงเพราะฝึกซ้อมชกมวยทุกวัน  แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียดอะไร  โน้ตมีหน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ...เป็นทั้งเพื่อนและบอดี้การ์ดให้กับหนุ่มเสียงใสตัวเล็ก  ซึ่งมีชื่อว่ากุลหรือนายน้อยกุญชร อักษรเทวา  ครอบครัวมาเฟีย   แม้จะบอกว่าเป็นนายน้อย  แต่กุลก็เป็นเพียงบุตรบุญธรรมของนายใหญ่คเชนทร์  อักษรเทวา เท่านั้น  แต่ถึงอย่างนั้นเรื่องที่กุลมาเรียนที่นี่ก็ไม่มีใครรู้  นอกจากโน้ตและบุคคลใกล้ชิดไม่กี่คน  อีกทั้งกุลก็ใช้นามสกุลแสงจันทร์ของมารดา  เลยไม่เป็นที่จับตา

    หลังคำตอบของหนุ่มน่ารักกับสาวห้าว  เฮอร์มิสก็ทำหน้าน้ำตาคลอทันที

    “อย่าๆๆๆ”  โน้ตหมั่นไส้ชี้หน้าเพื่อน  อย่ามาทำน้ำตารื้นน้ำตาไหลนะมึง  กูเป็นผู้หญิงกูก็แพ้น้ำตา
    “คิคิคิคิ  เฮอร์มิสนี่ตลกดีเนาะ”  กุลขำก่อนจะพูด
    “โด่ววว...คนกำลังซาบซึ้ง”  เฮอร์มิสโอดครวญ
    “ไปไกลๆเลยมึง  นั่น...หัวน้องดอกไม้กูจะตกแล้วมึง”
    “อ้าว...”  อ้าวแล้วก็หันมาจับจัดหัวทุยๆนั่นให้นอนให้สบาย

    ใช่ว่าจะมีแต่สองคนด้านหลังเท่านั้นที่ได้กลิ่นหอมๆจากเบญ  แต่มีหลายคนเหมือนกันที่ได้กลิ่นหอมดั่งพฤกษชาติจากตัวเบญ  ดังนั้นข่าวลือที่เฮอร์มิสปล่อยไปนั้นจึงไม่ได้เกินจริงเลย






TBC




สยองมากกกกกกกกกกกก   o21
โดยส่วนตัวเป็นคนกลัวผี  ดูหนังผีไม่ได้เลย  แต่ถ้าอ่านน่ะ  ยังพอไหว  แต่ก็ต้องไม่ใช่เรื่องผีๆโดยเฉพาะนะ  ประมาณว่ามีมาเอี่ยวด้วยเล็กน้อยแบบนี้

ไอ้ตอนแต่งก็ไม่เท่าไหร่  อารมณ์มันแบบ...คิดคำซะมากกว่า
แต่ตอนแต่งเสร็จแล้วอ่านทวงนี่ดิ  :sad5: :sad5:
โคตรรรรรรรรรรรรร...หลอนอ่ะ
วันนี้ 14-12-56  เวลา 17.28 น.  ระหว่างกำลังอ่านทวงตอนนี้อยู่ก็มีเสียง ‘ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่’ ดังมาจากหน้าประตู  อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  แหกปากลั่น  สะดุ้งโหยง  :sad5: o2 :laugh5: :laugh5:
ป้าาาาาาาาาาา...ป้าอ่ะ  คุณป้านี่แหละ  มาเงียบๆ  แถมเปิดประตูเบาๆ  ไม่พอยังส่งเสียงหัวเราะ  ‘ฮี่ฮี่ฮี่ฮี่’ มาอีก  เล่นเอาเราเกือบสติแตกไปเลย  ขนลุกชิบหาย  หยึย!  :mew5: :mew5:   :yeb: :yeb:
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ^____^ ตอนที่ 4 25/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 25-01-2014 11:25:02
น่าสนใจอ้ะๆ
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ^____^ ตอนที่ 4 25/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚ ที่ 25-01-2014 11:59:54
โอ้! ปริศนา นัยน์ตาสีทองผู้เร้าอารมณ์เบญแม้ในยามฝันคือใครกัน เมื่อไหร่จะะออกซักทีน๊า

แล้วความฝันคือเบญในชาติก่อนหรอ? เบญคือใครกัน?
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ^____^ ตอนที่ 4 25/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: mholic ที่ 25-01-2014 12:06:17
ใกล้แหละน้องเบญที่พระสวามีน้องจะออกโรง :laugh:
ตื่นเต้นจุงกะเบย นั่งเดาพระเอกอยู่คนเดียว

อ่านแป็บๆจบแล้ว คนเขียนแต่งสั้นหรือเรื่องสนุกเกินแล้วเราอ่านเร็วกันแน่
รู้สึกมันขาดตอนแปลกๆ แต่คนเขียนเข้ามาอัพอิชั้นรีบกดทันทีเลยจ้า
ส่วนเรื่องผีๆ มันเป็นธรรมชาติอย่าคิดมากเราเจอบ่อยชินแหละ ถ้าเจอก็ไม่ต้องสนใจนิ่งเข้าไว้
จะบอกตัวที่บ้านอิชั้นนางก็อ่านนิยายด้วย ชอบมายื่นดูประจำ กิกิ
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ^____^ ตอนที่ 4 25/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: Palmpalm ที่ 25-01-2014 12:27:35
ใครน่ะนัยน์ตาสีทอง คู่เบญรึเปล่า
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ^____^ ตอนที่ 4 25/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: Marisa03 ที่ 25-01-2014 12:31:09
เพิ่งเข้ามาอ่านแบบว่ามันสนุกอ่ะ น่าติดตาม อยากรู้ว่าใครจะเป็นคู่เบญนะ ติดตามค่ะ!! o13
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ^____^ ตอนที่ 4 25/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: Chise ที่ 25-01-2014 13:01:50
คู่ของเบญดูลึกลับจัง เบญฝันได้น่ากลัวมาก
เดาไม่ถูกเลยว่าคู่ของเบญจะเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ^____^ ตอนที่ 4 25/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: teatimes ที่ 25-01-2014 15:53:27
เนื้อคู่ของเบญจะออกมาแล้ววว :mc4:   (ถึงมันจะออกมาแค่ตาสีทองก็เถอะ)

ตอนนี้ฝันของเบษน่ากลัวจัง  กลัวว่าถ้าเบญเจอพระเอก  เบญจะ...  โฮๆๆๆๆ  เรื่องนี้ขออย่าให้เบญเจอพระเอก  โหด  โฉด  ถ่อย  เลยนะคะ  สงสารน้องเบญ   :hao5:

ปล.  อย่าลืมหาคู่ให้เฮอร์มิสนะคะ  ดูเฮอร์มิสน่ารักดี :man1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ^____^ ตอนที่ 4 25/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: nightsza ที่ 27-01-2014 02:16:03
อ้าว เฮอร์มิส ไม่ใช่พระเอกหรอออ ม่ายยยยยย
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ด้วยรักและรอคอย ^____^ ตอนที่ 4 25/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: Thyme103 ที่ 28-01-2014 09:32:48
ใครคือพระเอกนะ
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ด้วยรักและรอคอย ^____^ ตอนที่ 4 25/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 28-01-2014 10:51:53
รอ พระ เอก
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ด้วยรักและรอคอย ^____^ ตอนที่ 4 25/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 28-01-2014 14:25:15
 :z1: :z1: :z1: o13 o13 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ด้วยรักและรอคอย ^____^ ตอนที่ 4 25/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 28-01-2014 17:06:10
เรื่องใหม่น่าติดตามมาก o13
รอพระเอกออกกมาเต็มๆตัวอยู่นะ :bye2:
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ด้วยรักและรอคอย ^____^ ตอนที่ 4 25/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 29-01-2014 00:42:26
อ่านแล้วใจเต้นตุ๊บๆ

ลุ้นสุดๆค่ะ รอตอนต่อไป^^
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ด้วยรักและรอคอย ^____^ ตอนที่ 4 25/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 29-01-2014 08:58:58
น่าติดตามมากคะ
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ด้วยรักและรอคอย ^____^ ตอนที่ 4 25/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 29-01-2014 22:31:03
ใครอ่ะคู่เบญ ลุ้น ๆ
หัวข้อ: ^__^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^__^ ตอนที่ 5 รอคอย 30/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 30-01-2014 16:15:09
^__^ Love Devil^__^

รักร้ายเทพอสูร






ตอนที่ 5 รอคอย



    ไม่รู้ว่ากาลเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว  แต่เขาก็ยังคงยืนอยู่ตรงนี้ท่ามกลางซากศพที่เน่าเหม็นอย่างเดียวดาย  เบญรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเขาไม่ใช่ตัวเขาอีกแล้ว  เขาหิว  หิวใจแทบขาดจนต้องกินซากศพเหล่านั้น  แล้วทำไมกันนะ  ทำไมเขาไม่ปล่อยให้ตัวเองหิวตายไปซะเลย   นานวันเข้าจากผิวพรรณที่งดงามก็ขลุกขลักเป็นหลุมๆ  สีดำๆด่างๆ  หยาบกร้าน  จนตอนนี้...เขาได้กลายเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้ว  หากใครเห็นคงต้องคิดว่าเขาเป็นปีศาจเป็นแน่  เพราะตอนนี้เขาไม่มีเค้าความเป็นคนหลงเหลืออยู่อีกเลย  ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงกินซากศพเป็นอาหาร  ดื่มเลือดจากศพเหล่านั้นทดแทนน้ำเพื่อประทังชีวิต  เขารู้สึกว่ามันนานมาก  นานเหลือเกิน  แล้วทำไมเขาถึงยังไม่ยอมให้ตัวเองตายๆไปซะ  ทำไมเขายังต้องรอ....รอคอย...รอ...คอย

    รอคอยอะไร?

    รอคอยใคร?

    รอทำไม?

    รอ...ทำไม?

    รู้แต่ว่าเขารอ  เขาจะตายไม่ได้  แม้จะอยากตายก็ตาม
    

    “ข้าให้สัญญา”
    “ข้าจะกลับมาหาเจ้าแน่นอน”
    “ขอโปรดจงรอข้า...รอข้า”



    “อัลฟ่าร์ของข้า”




................................

....................

........

..

.




    “เบญ”
    “เบญ”
    “เบญ!”

    เสียงเรียกมาพร้อมกับแรงเขย่าเบาๆ  คนถูกเรียกค่อยๆลืมตาขึ้นน้ำตาเม็ดใสๆหยดลงมาจากดวงตากวางสีเทาคู่สวย  ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อโดยไม่รู้ตัวจากอารมณ์ความต้องการแปลกๆของร่างกาย  เล่นเอาคนเรียกนิ่งอึ้งค้างกลางอากาศไปเลย

    “.....อืมมม..อ่ะ”  เบญตกใจเล็กน้อย  ครั้งนี้ฝันแปลกกว่าสามคืนที่ผ่านมามากนัก  อารมณ์กระสันอยากยังมีเหมือนเดิม  แต่ความฝันนี้...เสียงใครกันนะ  ทำไมช่างเศร้าเหลือเกิน...

    ...อยู่ๆเขาก็เกิดความรู้สึกอาลัยอาวรณ์ต่อเสียงที่ได้ยินเสียมากมาย  แต่ก็ไม่อาจจำได้ว่าใครเป็นเจ้าของเสียงที่แสนเศร้านี้  ช่างเศร้านัก  เศร้ามากจนเขาถึงกับน้ำตาร่วงแล้วร่วงอีก

    “แย่จัง”  พูดพร้อมกับเช็คน้ำตาและงอเข่าไปด้วย  ไม่อยากให้เพื่อนเห็นหรอกนะว่าตัวเขากำลังรู้สึกอย่างไร  ทั้งยังมีอารมณ์ทางเพศอย่างมากด้วย  โดยที่ไม่รู้เลยว่าเพื่อนตัวเองค้างตาตั้งอยู่อย่างไรก็ยังคงอยู่อย่างนั้นตั้งนานแล้ว  จนเมื่อเงยหนึ่งขึ้นมา...

    “..?!...” 
   “เฮอร์... เฮอร์มิส  เฮอร์มิส!  เฮ้!!”  เบญเรียกคนนั่งข้างที่ค้างกลางอากาศไปนมนานเสียงดังขึ้น  พร้อมทั้งโบกมือผ่านตามันไปมา  เป็นอะไรของเค้าเนี่ย  ระ...หรือมันจะเห็น?

    “เฮอร์มิ...”

    พลั๊วะ!!  โดนตบหัวจังๆ  เบญสะดุ้งเล็กน้อย  ไอ้ที่ตื่นตัวอยู่หดเลย

    “โอ้ย!!” 

    ผั่บๆ  และซ้ำอีกสองรอบเบาๆเผื่อมันยังไม่หายค้าง

    “พอๆๆๆ”  เฮอร์มิสปัดมือเพื่อนพลันวัน  เจ็บว่ะ  ใช้มือตบแน่หรอ
    “เป็นไรวะ  ให้น้องดอกไม้กูเรียกอยู่นั่นแหละ”  คนตบอดต่อว่าไม่ได้
    “น้อง...ดอกไม้”   เบญถามอย่างแปลกใจ 
    “ใช้จ้า  น้องดอกไม้  ดอกเบญจมาศไง” ^__^
    “อ๋อ...เอ่อเป็นรุ่นพี่หรอครับ?” เบญถาม
    “คิคิคิ”  เสียงใสๆขำคิมาจากด้านหลังคนที่ถูกถามว่าเป็นรุ่นพี่
    “ขำๆ  เปล่าหรอกจ้า...รุ่นเดียวกันนี่แหละ  ชื่อโน้ต  อยู่มนุดส่วนไอ้ตัวเล็กข้างหลังนี่ชื่อกุล”  โน้ตแซวเพื่อนตัวเล็กก่อนจะหันมาตอบเบญ
    “..และเป็นเพื่อนร่วมชมรมกับเรา”  เฮอร์มิสขยายความให้  ยังเจ็บไม่หายเลยไอ้โน้ตมือหนักเป็นบ้า
    “อ้อ...ชื่อเบญ  ยินดีที่ได้รู้จัก”  เบญยิ้มบางแนะนำตัว
    “อืม  หือ?...”  โน๊ตตอบคนข้างหน้าก่อนจะหันไปหาคนที่สะกิดยิบๆอยู่ด้านหลัง
    “อื้อออ..เหยิบหน่อยสิโน้ต  .....ลุกด้วยสิเฮอร์”  คนตัวเล็กด้านหลังดันคนด้านหน้า  ก่อนจะมาสั่งให้เออร์มิสลุกขึ้นด้วย
    “อ่ะๆๆ”  ลุกอย่างเสียไม่ได้
    “กุลนะ  เบญตัวห๊อมหอม  อ้า~โน้ตอ่ะ”  ไปพูดแบบนั้นได้ไงไอ้ตัวเล็กนี่  โน้ตจึงทำโทษกุลด้วยการขยี้หัวกลมๆนั่นซะเลย 

    เบญยิ้มบางกับการหยอกล้อที่น่ารักนั่น

    “กุลก็น่ารัก”  ก่อนจะยิ้มกว้างส่งให้  ใบหน้าของเบญที่ยังแดงระเรื่อ เพราะยังค้างคากับความรู้สึกอายในปฎิกิริยาทางเพศของตนเองอยู่  พอยิ้มน่ารักแบบนี้...

    ...ก็ไม่ต้องบอกหรอกว่าปฎิกิริยาของนายเฮอร์มิส เอฟ เมอร์รี่  เป็นเช่นไร  ชายหนุ่มรูปหล่อตกอยู่ในภวังค์เคลิบเคลิ้มไปไกลแล้ว  ตามมาด้วยหนุ่มน้อยกุญชรที่ใบหน้าเล็กน่ารักนั้นค่อยๆแดงก่ำดั่งลูกเชอรี่  ไม่เว้นแม้แต่ลูกสาวค่ายมวยที่ใบหน้าก็ขึ้นสีระเรื่อตามอย่างห้ามไม่อยู่...กับเสน่ห์ความน่ารัก  น่าหลงใหลของคนตรงหน้า  ก็นะ...กลิ่นหอมสดชื่น  ใบหน้าน่ารัก  มีเสน่ห์อย่างน่าหลงใหล  ใครเลยจะต้านทานไหว

    ที่จริงคงต้องบอกว่ารอยยิ้มของเบญนั้น  ทั้งน่ารัก  น่าหลงใหล  และมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างร้ายกาจ  แต่เจ้าตัวมักทำเพียงยิ้มเบาบางเท่านั้น  แต่เพียงแค่นั้นก็ทำให้ใครๆหลายต่อหลายคนหลงใหลมาแล้ว  เพียงแต่กลุ่มคนที่เข้ามาเพื่อจะจีบส่วนใหญ่ห่างหายไป  เพราะทนต่อกลิ่นเหม็นที่ออกมาจากตัวนายเบญจมาศไม่ไหว

    และคงจะเคลิ้มไปอีกนานหากว่า...

    “อ้าว...ยังไม่ลงกันอีกหรอครับน้องๆ  ลงได้แล้วๆ!”

    เสียงดังๆจากรุ่นพี่ที่ขึ้นมาสำรวจความเรียบร้อย  แต่ละคนจึงได้สติลงจากรถกัน  เหตุการณ์เล็กๆแต่ก็ช่วยให้เบญลืมความฝันที่แสนหดหู่เศร้าสร้อยของตนเองไปได้  แต่นั่นกลับไม่ใช่สิ่งที่ดีเลยหากไม่เพราะพรุ่งนี้...

    ...เป็นวันคล้ายวันเกิดครบรอบสิบแปดปีของเบญ...

    ...นายเบญจมาศ  ศรลักฉกรณ์...

    ...เบญจมาศ...

    ...ความตาย...



   ออกเดินทางจากกรุงเทพถึงหาดจอมเทียนใช้เวลากว่าสามชั่วโมง  ถือว่าใช้เวลาค่อนข้างเยอะและนานมากเลยทีเดียว  เพราะการเดินทางที่เป็นหมู่คณะคนขับรถจึงไม่ได้ขับรถด้วยความเร็วที่มากนัก  เมื่อลงจากรถกันหมดรุ่นพี่ก็ให้น้องๆเอาสัมภาระไปกองๆรวมกันไว้ก่อน  ก่อนจะเรียกน้องๆไปรวมตัวกันที่ชายหาด  มีเวลาอีกกว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนเที่ยงเนื่องจากออกเดินทางกันมาตั้งแต่แปดโมงเช้า 

    ตบมือร้องเพลงกันเล็กน้อยก่อนจะสุ่มจับรุ่นน้องให้ยืนขึ้นมาตอบคำถาม  ตามด้วยบทลงโทษแบบแพคกลุ่มเมื่อเพื่อนตอบคำถามไม่ได้  ในความรู้สึกของน้องใหม่นั้นทั้งโกรธรุ่นพี่  ทั้งรู้สึกผิด  ทั้งเห็นใจกันและกันต่างๆนาๆ 

    ทำโทษแล้วรุ่นพี่ก็เช็คจำนวนน้องใหม่ก่อนจะทำโทษอีกรอบเพราะน้องบางคนมาช้า  จากนั้นก็แนะนำรุ่นพี่แต่ละฝ่ายที่แบ่งงาน  แบ่งหน้าที่กันไปตามแผนงาน  เมื่อเรียบร้อยก็ร้องเพลงปลุกใจอีกรอบก่อนจะเรียกรวมพลแยกชายหญิงเพื่อจัดสรรแบ่งห้องหลับห้องนอน  กว่าจะแบ่งกันเรียบร้อยก็เป็นเวลากว่าบ่ายโมง  นัดแนะเวลาทำกิจกรรมช่วงบ่ายก่อนจะพักเที่ยงกัน  ซึ่งรุ่นพี่จะปล่อยฟรีจนถึงบ่ายสามแล้วจึงค่อยมารวมตัวกันอีกครั้ง

   “เราจะไปขอรุ่นพี่ย้ายห้องนะ”
    “....”  เบญรั้งเพื่อนไว้ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ  ยิ้มบางที่เพื่อนเห็นใจ

    ช่างน่าเสียดายที่เบญไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันกับสโนว์เฮอร์มิส  ถึงอย่างนั้นเบญก็ยังคงเป็นเบญ  รอยยิ้มบางเบาก็ยังคงเป็นเอกลักษณ์และเสน่ห์อย่างหนึ่งของเขา  คนชอบก็ไม่ถือสาต่อกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ที่มาจากตัวเขา  คนรังเกียจก็ทำเพียงแหยงๆเบญ  แต่ทุกคนก็ยังคงไร้คำพูดที่จะบอกกับเขาตรงๆ 

    แม้จะไม่ใส่ใจ  แต่เบญก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า...เกรงใจเพื่อนอยู่เหมือนกัน  ห้องพักแต่ละห้องพักห้องละสามคน  แต่เบญก็ไม่ได้สนิทอะไรกับเพื่อนที่พักด้วยถ้าเทียบกับเออร์มิส  สโนว์  และพลอยมุก  แต่ที่ต้องขัดเฮอร์มิส  เพราะเขาเพียงอยากอยู่คนเดียวโดยไม่มีเฮอร์มิสก่อกวนบ้างเท่านั้น  หากเจ้าตัวรู้คงจะมีงอนกันบ้างล่ะ


   กินข้าวแล้วทุกคนก็ขนสัมภาระเข้าห้องพักกัน  ห้องพักที่มีเตียงนอนอยู่สองเตียง

    “เรากับบอลนอนด้วยกันนะ  นายนอนคนเดียวได้ใช่ป่ะ?”
    “อืม” 

   พจน์และบอลคือเพื่อนร่วมห้องตลอดสองคืนที่รับน้องอยู่ที่นี่  ช่างเป็นการจับสมาชิกร่วมห้องได้เหมาะจริงๆ  พจน์เป็นคนเหนือ  รูปร่างหน้าตาและผิวขาวแบบคนเหนือ  บอลเป็นคนใต้ รูปร่างหน้าตาผิวพรรณแบบคนใต้  ส่วนเบญก็คนภาคกลางที่เป็นลูกครึ่งตะวันตก  คงจะขาดแต่ภาคอีสานเท่านั้นแหละ

    “เดินเล่นกัน”  พจน์ชวน  ก่อนจะหันไปมองเบญทีบอลที
    “ไปเหอะ  กูจะนอน”  บอลบอกเพื่อน
    “ห่า...มาทะเลทั้งที”
    “กูเห็นจนเบื่อแล้วเหอะ”
    “เออออ...ว่ะ  แล้วเบญอ่ะ”  ลืมไปว่ามันคนใต้  ทะเลก็บ้านเกิดมันนี่แหละ
    “ว่าจะจัดของก่อน”
    “อืมๆ  งั้นไปก่อนนะ”
    “...”  เบญยิ้มบางแทนคำตอบ

    พจน์ออกไปแล้ว  บอลนอนแล้ว  แต่คนที่บอกว่าจะจัดของก็ยังคงไม่มีวี่แววว่าจะจัดของอย่างว่าเสียที  เบญนั่งนิ่งๆอยู่กับที่...ที่เตียงตั้งแต่เข้ามายังไงก็อย่างงั้น  พอได้อยู่เงียบๆคนเดียวความฝันล่าสุดก็เข้ามารบกวนความคิดของเขาทันที

    รอคอย...งั้นหรอ?

    รออะไร?

    แล้วรอใคร?

    ทำไม...ถึงต้องรอ

    ....หรือว่า......

    

    “ข้าให้สัญญา”
    “ข้าจะกลับมาหาเจ้าแน่นอน”
    “ขอโปรดจงรอข้า...รอข้า”



    “อัลฟ่าร์ของข้า”


    เสียงแสนเศร้านั้น...ของใครกันนะ

    ...คนๆนี้หรือเปล่า?...

    ...ที่เขารอคอย...

    ...คนๆนี้หรือเปล่า?...

    ...ที่....


    ...ฉ่า....
    

    ...ใบหน้าน่ารักแดงก่ำไปด้วยความอับอาย  อะไรกันเนี่ยยยยยย....  ในเวลาแบบนี้ยังคิดไปด้ายยยยย

    สายลมอบอุ่นพัดผ่านวูบหนึ่ง  สายตาใครบางคนจับจ้องมาที่ใบหน้าน่ารักนั้น  ดวงตาสีทองดั่งพระอาทิตย์ที่ห่างไกลออกไปกลางทะเลที่กว้างใหญ่


    “พบแล้ว...พบเสียที”


    “อัลฟ่าร์ของข้า”





TBC




อยากมาบอก

นิยายของ uriuri  :mew1: :mew1: :mew1:
28 มกราคม 2014 เวลา 3:56 น.

yaoi นะจ้ะ  มีฉากวาบหวิวทุกเรื่อง  เบาๆก็เรื่องนักเปียโนนี่แหละ  เรื่องอื่นร้อนแรงมาก  รับไม่ได้อยากเฉียดเข้าใกล้นะเออ  :o8: :-[ :impress2: :oo1: :jul1: :haun4: :pighaun:

 

 

เรื่องแรก  ^__^ หนุ่มวายกับชายในฝัน ^__^

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=35321.0

http://www.niyay.com/story/story.php?story_id=60865

 

เรื่องที่สอง  ^__^ ปาปารัสซี่กับเจ้าชาย ^__^

http://www.niyay.com/story/story.php?story_id=65730

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38240.0

 

เรื่องที่สาม  ^__^ รักนะหนุ่มนักเปียโน ^__^

http://www.niyay.com/story/story.php?story_id=64946

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37696.0

 

เรื่องที่สี่  ^__^ Love Devil  รักร้ายเทพอสูร ^__^

http://www.niyay.com/story-69297/

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40696.0

 

และเรื่องอื่นๆ  ไม่บอก  ดองไว้ก่อน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ

ฝากด้วยนะ  จ๊วบบบบบบ

 

พบปะกันได้ในเฟส  https://www.facebook.com/uri2uri

 
แนะนำ/แชร์นิยายโปรดกันได้ที่เพจ  https://www.facebook.com/uriuri.Story?ref=hl


uri
  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:


หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ด้วยรักและรอคอย ^____^ ตอนที่ 5 30/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: wikawee ที่ 30-01-2014 18:22:59
ค้างๆๆๆ :z3: :z3: :z3: :z3:  ที่ว่าเจอแล้วนี่  หมายความว่าดเจอจริงๆ  ไม่ใช้่ความฝันใช่ไหม  ตนอ่านกำลังจะตาย :katai1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ด้วยรักและรอคอย ^____^ ตอนที่ 5 30/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 30-01-2014 18:44:27
ใครกันน๊าาา รึว่าบอล แต่ไม่มั้ง
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ด้วยรักและรอคอย ^____^ ตอนที่ 5 30/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 30-01-2014 20:15:42
ค้างอย่างแร็งงงงงงง มาต่อเร็วๆน่ะ
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ด้วยรักและรอคอย ^____^ ตอนที่ 5 30/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: janji ที่ 30-01-2014 21:25:44
ค้างอย่างแร๊งงงงงงงงงงงงง
หัวข้อ: Re: ^____^ Black Power ด้วยรักและรอคอย ^____^ ตอนที่ 5 30/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maxshu ที่ 03-02-2014 02:08:42
ใครอ่ะ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 5 30/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 04-02-2014 13:07:35
เรารอพระเอกอยู่นะ :bye2:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 5 30/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 04-02-2014 13:14:27
อ๊ายๆๆๆ เจอแล้วๆๆ มาหาน้องเบญเร็วๆเลย เดี๋ยวน้องเบญร้องไห้
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 5 30/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: roseouioui ที่ 04-02-2014 20:33:41
เข้ามาอ่านแล้ว...ติดงอมแงมอ๊า
 :mew2:
ค้างมากมายก่ายกอง 555
เป็นกำลังใจให้ค่ะ อิๆๆๆ
พระเอกออกมาแย้วววว
 :haun4:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 5 30/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 04-02-2014 23:38:12
โอ้ยยยยย ใคร อ๊าาาาาาา


 :a5: o22 :a5: o22 :a5: :a5: :a5:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 5 30/1/57
เริ่มหัวข้อโดย: Pednoiinnocent ที่ 05-02-2014 00:21:22
มาต่อไวๆนะครับ  :mew1: :mew1:
หัวข้อ: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 05-02-2014 16:27:45


^__^ Love Devil^__^

รักร้ายเทพอสูร




ตอนที่ 6 คนตัวหอม





    ศิลากับประภาสเดินทางขึ้นเหนือมาสมทบกับระพี  น้องเล็กของบ้านเดินทางมารับพี่ทั้งสองที่สนามบินนานาชาติเชียงรายด้วยตนเอง  ก่อนจะพาพี่ๆทั้งสองไปพบกับบุคคลสำคัญผู้หนึ่ง

    ‘ครูบาเจ้าธรรมจักร’*  คือ บุคคลที่ประมุขแห่งตระกูลศรลักฉกรณ์ต้องการเข้าพบมากที่สุด   ครูบาเจ้าธรรมจักรไปจำศีลตามถ้ำในป่า  บางครั้ง 3 เดือน  บางครั้ง 6 เดือน บางครั้งก็เป็นปีๆดังเช่นครั้งนี้ที่ท่านเข้าไปจำศีลในถ้ำแห่งหนึ่งที่จังหวัดน่านเป็นเวลาปีกว่า  ท่านถึงจะออกมาและเดินทางขึ้นเชียงรายทันที

    ใหญ่ให้เล็กตามครูบาเจ้าธรรมจักรมาโดยตลอด  ด้วยเหตุผลว่าอยากพบครูบาเจ้าองค์นี้สักครั้ง  เพราะเล็กเป็นคนชอบวัตถุมงคลมาก  เขาจะรู้เรื่องและรู้จักคนในแวดวงพระเครื่องและวัตถุมงคลไปทั่ว  แต่ถึงจะให้เล็กช่วยงานด้านนี้  เล็กก็กลับเป็นคนหนึ่งที่ใหญ่ไม่ได้ต้องการให้รู้เรื่องของหีบสมบัตินิลกาฬ

    บ้านที่ครูบาเจ้าธรรมจักรพำนักที่เชียงราย  เป็นบ้านที่เหล่าลูกศิษย์ลูกหาจัดสร้างให้  เป็นบ้านไม้สักสวยงามแบบล้านนา   

    เมื่อคณะของตระกูลศรลักฉกรณ์มาถึงทุกคนก็ไปกราบครูบาเจ้าพร้อมกัน  ร่วมสนทนาและฟังธรรมกัน  ก่อนที่ประมุขของบ้านจะขอกราบท่านเป็นการส่วนตัว

   “กระผมมีเรื่องทุกข์ร้อนใจอยากจะขอให้พระคุณเจ้าช่วยครับ”  ใหญ่เข้าเรื่องทันที
    “หากเป็นเรื่องคนในปกครองของโยม  อาตมาบอกโยมได้เพียงว่า...คนๆนั้นจะมาเอง  โยมไม่ต้องไปตามหาหรอก   เขาจะมาเอง”
    “มาเองหรือครับ?”  ใหญ่ถาม

    แม้ใหญ่จะแปลกใจไม่น้อยที่ครูบาเจ้าธรรมจักรรู้ว่าเขาจะขอคุยด้วยเรื่องอะไร  แต่ใหญ่ก็มีสติดีพอที่จะถามในเรื่องที่สำคัญก่อน

    “ใช่” ครูบาเจ้าธรรมจักรตอบรับอย่างสงบ
    “เอ่อ...แล้วพระคุณเจ้าพอทราบมั้ยครับ  ว่าคนๆนั้นเป็นใคร”
    “......”  ครูบาเจ้าเงียบไปสักพัก  ก่อนจะหยิบกระดาษปากกามาจดข้อความบางอย่างลงไป  และยื่นส่งให้กับประมุขแห่งตระกูลศรลักฉกรณ์  ใหญ่กราบก่อนจะรับกระดาษแผ่นนั้นมา  หากพออ่านดูแล้วเขาก็ไม่อาจเข้าใจข้อความนั้นได้  ข้อความที่เป็นตัวอักษรสั้นๆเหมือนกาพย์กลอนแต่มีเพียงสี่ประโยคในหนึ่งบรรทัด 
    “...อาตมาบอกได้แค่นี้ล่ะโยม”  ครูบาเจ้าเอ่ยอีกครั้ง  เมื่อเห็นสีหน้าของประมุขแห่งตระกูลศรลักฉกรณ์
    “ครับ  ขอบพระคุณครับ”  ใหญ่กล่าวก่อนกราบลงสามครั้ง
    

    ‘ไร้กาย  ไร้ชีวัน  จิตผูกพัน  นิรันดร์กาล’

..............................................................

    เบญเดินออกมารับลมทะเลที่ชายหาด  มีเพื่อนร่วมคณะและต่างคณะประปราย  อาจเพราะเป็นช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ  แสงแดดแรงเลยไม่มีใครอยากออกมา  และหลายคนก็เลือกที่จะพักผ่อนอยู่กับห้องพักเพราะเหนื่อยจากการเดินทาง  จึงเลือกเก็บแรงไว้ตอนทำกิจกรรมทีเดียว

    ชายหาดที่เขากำลังเดินอยู่นั้นสีออกขาวครีม  ในส่วนที่ถูกคลื่นน้ำทะเลซัดมาเปียกจะกลายเป็นสีเทาอ่อนๆ  จากที่เดินอยู่ขอบๆแนวต้นมะพร้าวไม่รู้อะไรดลใจให้เบญอยากเดินลุยน้ำทะเล  เดินลุยน้ำไปเรื่อยๆ  จากที่มีผู้คนประปรายตอนนี้ก็แทบจะไร้ผู้คนแล้ว  เห็นอยู่แต่ไกลๆ   

    ชายหาดแถบนี้เป็นหาดของรีสอร์ท  ที่กลุ่มนักศึกษาติดต่อเข้ามาพักเพื่อทำกิจกรรมโดยเฉพาะ  อีกทั้งยังติดกับหาดส่วนตัวของพวกเศรษฐีด้วย  จึงเป็นชายหาดที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการมากนัก 

    หนึ่งในนั้นก็มีหาดส่วนตัวของ ‘น้อย’ เศรษฐีนีสาววัยทำงานเพิ่งอกหักจากแฟนหนุ่มที่คบกันมาถึงแปดปี  หล่อนจึงเลือกที่จะพาร่างกายและจิตใจที่เบาะช้ำของตัวเองมาเยี่ยวยาที่นี่  บ้านพักส่วนตัวของครอบครัวที่หาดจอมเทียน

    ที่เขาพูดกันว่า...อกหักไปทะเลนั้น  เมื่อก่อนน้อยก็ไม่ได้คิดอะไร  แต่พอตัวเองอกหักสถานที่ที่คิดได้ก็คือ...ทะเล  แหล่งน้ำขนาดใหญ่  สีฟ้า  น้ำที่กว้างสุดลูกหูลูกตา  ทะเลที่ให้ความรู้สึกปลอดโปร่ง  สดชื่น  ในขนาดเดียวกันก็ให้ความรู้สึกเวิ้งว้าง  อ้างว้าง  หากแต่ทะเลในความรู้สึกของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไป และทะเลในเวลากลางวันกับกลางคืนก็ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกันด้วย

    “คุณ!  คุณจะทำอะไร  แฮ่กๆๆ”
    “......”  อะ...อะไร  “เอ๊ะ!” แรงดึงที่มาพร้อมกับเสียงเรียกก่อนหญิงสาวจะรู้สึกตัว
    “คุณทำอะไร  คุณจะฆ่าตัวตายหรอ?”  เบญถามสาวสวยตรงหน้า

    ดีแค่ไหนแล้วที่เขาวิ่งมารั้งไว้ทัน  ระหว่างที่เบญกำลังเดินเล่นอยู่นั้นก็เห็นผู้หญิงคนนี้นั่งอยู่ที่เก้าอี้ชายหาดตัวหนึ่ง  ตอนแรกเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร  แต่อยู่ๆผู้หญิงคนนั้นก็ลุกขึ้นและเดินตรงลงน้ำเฉย  เขาจะไม่คิดอะไรเลยถ้าผู้หญิงคนนี้ไม่เดินลงทะเลลึกไปเรื่อยๆ  กว่าจะรู้ตัวเบญก็วิ่งลุยน้ำตามมาดึงหล่อนแล้ว  เขารู้สึกโมโหที่คนตรงหน้าช่างไม่รักชีวิตตัวเองเอาซะเลย

    “เอ๊ะ!  เปล่านะ  น้อยมาอยู่นี่ได้ยังไงเนี่ย”  น้อยปฏิเสธก่อนจะพูดเหมือนเปรยกับตัวเอง  ก้มมองดูตัวเองน้ำทะเลอยู่ระดับอกของเธอพอดี
    “เปล่างั้นกลับมา!”  ไม่พูดเปล่าเบญเปลี่ยนมาดึงแขนน้อยกลับเข้าฝั่งทันที
    “เดี๋ยว!”
    “เดี๋ยวค่อยคุย! ขึ้นฝั่งก่อน”  เบญดุ

    น้อยเงียบทันที  ก่อนจะเดินตามที่ชายแปลกหน้าจูง  เธอไม่รู้สึกตัวจริงๆว่าเธอลงน้ำมาได้ยังไง  ถึงเธอจะอกหัก  แต่คนอย่างเธอหรือจะฆ่าตัวตายน่ะ  ไม่มีทาง  ที่มาทะเลก็แค่มาพักกายพักใจสักพักเท่านั้น  เมื่อความรู้สึกเสียใจบรรเทาแล้ว  เธอจะกลับไป  กลับไปเป็นคนใหม่ทันที

    “......”
    “......”

    เมื่อเดินเข้าฝั่งแล้วเบญก็พาหล่อนมานั่งพักที่เก้าอี้ตัวเดิมที่หล่อนเคยนั่ง  เบญไม่พูดอะไรและไม่ได้คิดที่จะถามอะไรด้วย  เขาเพียงแต่มองดูสาวสวยตรงหน้าเงียบๆเท่านั้น

    “...ข...ขอบคุณ”  หล่อนพูด
    “คุณโอเคนะ”
    “อะ...อืม”  น้อยตอบ  เธอรู้สึกกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อย  แต่เมื่อได้มองหน้าคนที่ช่วยเหลือเธอ  เธอกลับรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ  หายอึกอักขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

    เธอเพิ่งสังเกต...หนุ่มน้อยน่ารักตรงหน้าให้บรรยากาศที่แปลก  น่ารัก  น่าหลงใหล  และสงบ  ใช่...ดูเหมือนอยู่ๆความวุ่นวายใจที่มีมาทั้งหมดทั้งมวลที่เธอสะสมมาหลายวันนี้  สงบลงหมดเลยแค่เพียงได้สบกับดวงตากวางสีเทาคู่นั้น  ความเศร้าใจมลายหายไปหมด  น้อยยิ้ม...เธอยิ้มอย่างผ่อนคลายและสบายใจ  แปลกจัง

    “ขอบคุณจริงๆ  พี่ชื่อน้อยนะคะ”  หล่อนยิ้มบอก  และคงไม่มีใครรู้หรอกว่านั่นเป็นยิ้มแรกตั้งแต่หล่อนอกหักมา
     “ครับ  ผมชื่อเบญ  คุณ...ไม่สบายด้วยหรือเปล่า?”  เบญถาม  เพราะแม้คนตรงหน้าจะยิ้ม  แต่ใบหน้าสวยนั้นกลับซีดเซียว
    “....นั่นสิ  พี่คง...ไม่สบายจริงๆ...”  เธอพูดก่อนมองไปที่สุดขอบทะเล  และเงียบไป

    ..และอีกเหตุผลที่เบญถาม  เพราะคนตรงหน้าไม่น่าคิดฆ่าตัวตายจริงๆ  ที่เธอเดินลงทะเลก็เหมือนจะเดินไปโดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ  พอเจอแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะถามซะหน่อยว่าไม่สบายหรือเปล่า

    “นั่งก่อนมั้ย?  อ่า...แย่จัง  น้องเบญเข้าไปอาบน้ำที่บ้านพี่ก่อนมั้ย?  เปียกหมดเลย”
    “...เอ่อ  ไม่เป็นไรครับ   นั่น...?”  เบญมองไปที่บ้านหลังน้อยน่ารักด้านหลังหญิงสาว 

    บ้านพักหลังไม่ใหญ่นักสองชั้น  ที่มีบริเวณรอบๆตัวบ้านจัดเป็นสวนในเนื้อที่ประมาณร้อยตารางวา  ดูเหมือนสาวสวยตรงหน้ามีฐานะพอสมควร 

    “อ้อ..  บ้านพักพี่เอง  พี่อยู่คนเดียวไม่ต้องเกรงใจหรอก...นะ” เสียงท้ายอ้อนเล็กน้อย
    “เอ่อ...”
    “พี่อยากขอบคุณ”
    “...ครับ”  เบญยิ้มตอบพร้อมรอยยิ้ม  คนๆนี้มาแปลก  แต่...ตัวเขาเองก็แปลกเหมือนกัน  อีกอย่างเขาเป็นผู้ชาย  อ่า...หล่อนเป็นผู้หญิงคนเดียวอยู่ในบ้าน
    “มันคงไม่ดี  ถ้าผมจะเข้าไปอาบน้ำในบ้านที่มีผู้หญิงคนเดียว”  เบญพูดขึ้น
    “คิคิคิ  นั่นสินะ  พี่ก็ลืมไป”  เธอยิ้มบอกอย่างอารมณ์ดี  “แล้วน้องเบญมาทำอะไรที่นี่คะ”
    “รับน้องน่ะครับ”
    “อ๋อ...นั่งก่อนมั้ย?”  หล่อนชวนอีกครั้ง
    “ขอบคุณครับ  แต่ผมคงต้องกลับไปแล้ว”  ใกล้ได้เวลานัดทำกิจกรรมแล้ว..เบญคิด
    “....จ้ะ  ขอบคุณอีกครั้งนะ”  หล่อนพูดหากแต่ในใจยังอยากให้เด็กหนุ่มคนนี้อยู่ต่อมากกว่า
    “.....”  เบญเพียงยิ้มบางๆตอบ
    “อ้อ...ถ้ามาฝั่งนี้ก็แวะมาหาพี่ด้วยล่ะ”
    “...ครับ”

    หนุ่มน้อยไปแล้ว  ทั้งๆที่เธอไม่ได้อยากให้ไปเลย  อยากเก็บความรู้สึกสงบ  ผ่อนคลายยามที่อยู่ใกล้ๆน้องเบญไว้ให้นานที่สุดจัง  คงเป็นเพราะว่าเธออยู่คนเดียวมาหลายวันล่ะมั้ง  พอมีใครมาคุยด้วยเลยรู้สึกดีแบบนี้  แต่ว่า...กลิ่นพฤกษชาตินี่...หอมจริงๆ

    เบญเดินกลับมาที่ชายหาดของรีสอร์ทที่พักทันที  ไม่คิดเลยว่าเขาจะเดินไปไกลแบบนี้  ขาไปก็เหมือนใกล้แต่ขากลับเนี่ยสิ  เสื้อผ้าที่เปียกคงได้แห้งพอดี  เบญยิ้มบางๆก่อนจะส่ายหน้าให้กับตัวเอง  และก็เป็นเช่นนั้นด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกลแม้เสื้อผ้าจะเริ่มแห้งแล้วบ้าง  แต่ก็ไม่สบายตัวนัก 

    ‘คงไม่ทันเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วล่ะ’

    เบญคิด  เมื่อเดินมาถึงชายหาดหน้ารีสอร์ทแล้ว  ปรากฏว่ารุ่นพี่กำลังเรียกรวมตัวโดยเบญไม่รู้ตัวเลยว่า....

    ...มีบางอย่างได้เปลี่ยนไป....

..............................................................

    แปลกจริงตั้งแต่เดินเข้ามารวมแถว  ทุกคนทุกสายตาหันมามองที่เขาหมด  ทุกสายตาไม่ได้มีแววประสงค์ร้าย  แต่กลับเป็นแววตาเคลิบเคลิ้ม  หลงใหล  บางคนก็ทำตาโต  บางคนก็ขมวดคิ้วบางๆ  แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาทัก  ส่วนเบญเขาแค่แปลกใจกับปฏิกิริยาแปลกใหม่เหล่านั้นเท่านั้น

    “ฟิดๆๆๆ  หอม”
    “เอ๊ะ!”  ตกใจเล็กน้อย  ก็อยู่ๆเพื่อนพลอยมุกก็เข้ามาทำจมูกฟุดฟิดๆแล้วบอกว่าเขาหอม
    “เหอะ!  หอมมานานแล้ว”  เฮอร์มิสพูดขึ้น
    “จริง”  พลอยมุกตาโต  สโนว์ก็แปลกใจไม่ต่างจากเพื่อน

    ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มกิจกรรมอะไร  ยังอยู่ระหว่างรอเพื่อนให้มาให้ครบคนกันอยู่  พวกเขาจึงจับกลุ่มคุยกันได้

    “จริงแท้”  เฮอร์มิสยึดอกยอมรับ  ไม่รู้มันจะทำไปทำไม

    พลอยมุกหันไปสบตากับสโนว์  เพราะในกลุ่มมีเพียงเฮอร์มิสเท่านั้นที่ได้กลิ่นหอมจากตัวเบญ

    “ไปไหนมา  เปียกหมด”  สโนว์ถาม  ที่จริงอยากถามว่าไปทำอะไรมาตัวถึงหอมมากกว่า  แต่ดูท่าเจ้าเพื่อนน่ารักก็เหมือนจะไม่รู้ถึงความเปลี่ยนแปลนของตัวเองด้วยซะเลย
    “เล่นน้ำ”  เบญตอบก่อนจะส่งยิ้มบางให้เพื่อน

    ตาย! ตาย! ตาย! ตาย!

    จะตายเพราะรอยยิ้มนี้แหละ  ตอนที่เบญตัวเหม็นก็ว่าน่ารักแล้ว  พอเบญตัวหอม  ไมมันน่ารักขึ้นหลายเท่าวะ

    หนุ่มๆสาวๆหลายคนค้างไปแล้ว  บางคนก็หน้าขึ้นสีระเรื่อ  ไม่รู้หนุ่มคนดังของคณะไปทำอะไรมาตัวถึงได้ส่งกลิ่นหอมสดชื่นของพฤกษชาติไปทั่วบริเวณแบบนี้  บรรยากาศและกลิ่นที่หอมสดชื่นนี้พาให้นึกถึงโฆษณาน้ำยาปรับผ้านุ่มยี่ห้อหนึ่งเลย  เดิมเบญดังเพราะตัวเหม็น  หากแต่ตั้งแต่นี้ไปเขาคงจะดังเพราะตัวส่งกลิ่นหอมแล้วล่ะ

    แปลก

    แปลกมาก

    แปลกจริงๆ

    เฮอร์มิสมองดูเพื่อนร่วมคณะและต่างคณะที่อยู่ด้วยกันที่ชายหาดนี้  ตกลงที่ว่าเบญตัวเหม็นเป็นเรื่องจริงดิ  ไมตัวเขาได้กลิ่นหอมสดชื่นมาจากเบญตั้งแต่ต้นวะ  ไม่เข้าใจ  เพื่อนเบญมีองค์ชัวร์!

..............................................................



TBC

ขอบคุณทุกคนนะจ้ะ
เงาเยอะเค้าลงช้านะเออ

( * ครูบา คือคำที่ใช้เรียกขานพระเถระผู้เป็นที่เคารพนับถือ ซึ่งมักจะมีอายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป ครูบา ไม่ใช่คำที่กำหนดขึ้นเพื่อเรียกขานตัวเอง ผู้ที่จะเป็นครูบานั้นมีเงื่อนไขอยู่ 3 ข้อ คือ 1. เป็นพระสงฆ์ที่มีอายุพรรษามาก (ทั้งอายุและอายุการบวช) 2. ต้องปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ (ตลอดอายุการบวช) และ 3. สร้างสิ่งดีสิ่งงามกับพระศาสนาซึ่งอาจหมายถึงศาสนสถานหรือ หรืออื่น ๆ ท่านเหล่านี้มักนุ่งห่มให้มีลักษณะเช่นเดียวกับครูบาเจ้าศรีวิชัย เช่น มีผ้ามัดอก สวมลูกประคำ ใช้พัดขนนกยูง มีไม้เท้า และที่สำคัญเป็นพระนักอนุรักษ์รังสรรค์แบบล้านนานิยม
    ครูบา ยังมีอีกความหมายหนึ่งคือ เป็นคำเรียกขานตำแหน่งพระสงฆ์ของชาวไทเขินเชียงตุงอีกด้วย ตำแหน่งสูงกว่าสวามี ต่ำกว่าอาชญาธรรม ส่วนคำว่า ครูบาเจ้า นั้น เป็นคำยกย่องในฐานะนักบุญ หรือตนบุญ เช่น ครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา เป็นต้น และอีกความหมายหนึ่งตามที่บัณฑิตทางอักขระล้านนาบางท่านกล่าวว่า หมายถึงครูบาที่เป็นเจ้า คือมีเชื้อทางเจ้านายฝ่ายเหนือ เช่น ครูบาเจ้าเกษม เขมโก เป็นต้น ขอขอบคุณข้อมูลจากเวป http://www.lannaworld.com)

หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 05-02-2014 18:07:17
น้องเบญตัวหอมซะแล้ว 555
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 05-02-2014 18:22:29
555 กลายเป็นคนมีองค์ซะแล้ว
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: teatimes ที่ 05-02-2014 18:39:15
เบญตัวหอมแล้ว  ทำไมพระเอกยังไม่ออกมาอีกล่ะ  มาทีออกมาประโยคเดียว  จะเรียกค่าตัวแพงๆเหรอคะ :laugh5:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Min*Jee ที่ 05-02-2014 20:47:49
อุ๊ยยยย น่าลุ้นที่สุดเลยอะ
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: roseouioui ที่ 05-02-2014 20:59:26
พระเอกตัวจริงออกมาเดี๋ยวนี้นะ
 :hao7:
น้องเบญตัวหอมเดี่ยวโดนแย่งน่ะ อิๆๆๆ
 :hao6:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 05-02-2014 21:05:34
อยากอ่านต่อๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 05-02-2014 21:43:26
มาอ่านด้วยคนครับ
ลงน้ำทะเลแล้วตัวหอม แปลกดี
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 05-02-2014 21:50:19
ยังไงเนี่ย มาต่อเร็วๆค่ะ  :call:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 05-02-2014 22:13:42
เห็นเม้นต์นี้แล้วอยากตอบ   :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:

มาอ่านด้วยคนครับ
ลงน้ำทะเลแล้วตัวหอม แปลกดี

ตรงส่วนนี้มันมีความหมายแฝง
อ่านไปเรื่อยๆแล้วจะเข้าใจ 
คิดว่าตอนที่ 8 น่าจะเข้าใจได้นะ

ส่วนตอนหน้า..ตอนที่ 7 เข้าฐาน   o22 :mew5: :mew6:
ใครเคยบ้าง  ยกมือขึ้น!!!!   :m19: :m19: :m19: :m19:


เบญตัวหอมแล้ว  ทำไมพระเอกยังไม่ออกมาอีกล่ะ  มาทีออกมาประโยคเดียว  จะเรียกค่าตัวแพงๆเหรอคะ :laugh5:

แพงมากกกกกกกกกกกกกกกกกก  :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
แพงจนน้ำลายหกอ่ะ
เจอตัวแล้วจะรู้ว่าแพงยังไง  อะคึอะคึอะคึ   :z9: :z9: :z9: :t2: :t2: :t2:

 :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:

ส่วนคนอื่นๆที่ไม่ได้ตอบก็ขอบคุณมากนะจ้ะ  o15 o15 o14 o14
เป็นกำลังใจที่ดีมากๆเลย  :impress: :impress: :impress: :impress:
ติ ชม ได้เสมอจ้ะ  :m1: :m1: :m1: :m1:

uri  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 05-02-2014 22:47:16
ฮาเฮอร์มิตว่ะ จินตนาการนายบรรเจิดมาก
คิดไปได้ว่าเบญมีองค์ :jul3:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 05-02-2014 22:50:02
เหมือนแก้คำสาปเปล่าเนี่ย อิอิ ขอให้หอมตลอดไปเลยนะ เนื้อคู่มาแลัวใช่ป่ะ
แล้วไปอยู่ไหนหล่ะเนี่ย ลุ้น ๆ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: fuku ที่ 05-02-2014 23:26:03
หรือว่าคนที่ได้กลิ่นหอมจะมีอะไรผูกพันธ์กันมา

พอวันเกิดบ่วงเริ่มคลายรึเปล่าเนี่ย วิบากกรรมจะมาเยือนเบญแล้วสิ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maxshu ที่ 05-02-2014 23:26:47
ยู้ฮู พระเอกอยู่ไส?
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Minerva ที่ 05-02-2014 23:56:58
ว๊ายยยยยยย ตัวหอมแต๊ ชอบหนุ่มอ่อนหวานจัง~~~
งามเหลือแสนพ่อหนุ่มตัวหอม ฮิฮิ
ชอบเรื่องนี้จัง ชอบคนที่ยิ้มบางงๆแล้วน่ารักอย่างนี้อ่ะ เห็นแล้วมันน่านัก!!


จะติดตามตอนต่อไปนะจ๊ะ!!
ขยันเขียนต่อนะคะ จะเป็นกำลังใจให้ :mew1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 06-02-2014 11:24:19
 :-[ :-[ :-[ :-[เบญน่ารักมากกกกกกกกกกกกก :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Roman chibi ที่ 06-02-2014 21:38:20
 :hao7: :hao7: :hao7: :pig4: :pig4: :3123:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 07-02-2014 00:14:37
เด๋วมีคู่แข่ง

 :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 07-02-2014 13:58:45
ติดตามตอนต่อไปจ้า

รอพระเอกปรากฏตัว

หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Pednoiinnocent ที่ 07-02-2014 17:52:13
มาต่อเร็วๆนะครับ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 07-02-2014 21:55:06
รอๆๆๆๆๆจ้า
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 07-02-2014 23:45:46
ตกลงที่เบญตัวมีกลิ่นหอมหรือเหม็นสำหรับคนรอบข้างนี่ไว้ทดสอบจิตใจคนชิมิ  :hao4:
แล้วตอนนี้ตัวหอมแล้วจะเกิดอาไยขึ้นล่ะ  :haun5:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: full69 ที่ 08-02-2014 01:14:56
 :L1: :pig4: :L1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 08-02-2014 01:18:59
อ๊ายยยย เบญๆๆๆๆ ขอกอดที  :hao5:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: insomniac ที่ 08-02-2014 08:38:02
สนุกจัง
ผูกเรื่องได้แนวมากๆ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 08-02-2014 11:14:21
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 6 คนตัวหอม 5/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: RenaBee ที่ 10-02-2014 17:04:09
อ่านรวดเดียวถึงตอนล่าสุด
น้องเบญตัวหอมแล้ว ถ้าพระเอกไม่ยอมออกมาซะทีน้องเบญโดนรุมแน่เลยหึหึหึหึหึหึหึ  :hao7:
หัวข้อ: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 12-02-2014 20:35:40
ทำไมง่วงจังหว่าาาาา
งง




^__^ Love Devil ^__^

รักร้ายเทพอสูร






ตอนที่ 7 เข้าฐาน



    “กริ๊ดดดดดดดดดดด...น่ารักอ่ะ”

    ดูเหมือนกิจกรรมช่วงบ่ายจะค่อนข้างโกลาหล  เพราะตั้งแต่ที่ทุกคนได้กลิ่นหอมออกมาจากตัวเบญ  ปฎิกิริยาของทุกคนก็เปลี่ยนไป  และนั่นก็สร้างความลำบากให้กับเบญไม่น้อยเลยทีเดียว  เพราะเขาไม่รู้จะทำหน้าทำตัวอย่างไรแล้ว 

    “เอ่อ...น้อง....น้องเบญรับผ้านี่ด้วยนะครับ”  เสียงอึกอักใบหน้าขึ้นสีระเรื่อมาจากรุ่นพี่คนดังต่างคณะที่เข้ามาช่วยงานรับน้องนอกสถานที่  บรรยากาศเหมือน..สารภาพรักเลย  ทั้งๆที่แค่ยื่นผ้าปิดตาให้ตามกติกาหนึ่งของฐานที่เขารับผิดชอบเท่านั้น

    “กริ๊ดดดดดดดดดดดด...พี่กร~”  เสียงกริ๊ดดังๆ แต่เสียงเรียกชื่อกลับอ่อนระทวยซะน่าขนลุก  รุ่นพี่กับรุ่นน้องคนดังหาได้สนใจไม่

    “ครับ”  เบญยิ้มบางก่อนรับผ้าที่ว่ามาจากรุ่นพี่ต่างคณะ
    “กริ๊ดดดด...แกๆๆๆ  น่ารักว่ะ”
    “ห่า...หอมชิบหาย  คนไรวะ”

    เสียงแซงแซ่จากหนุ่มสาวหลายคนดังให้ได้ยินเป็นระยะๆ  และดูเหมือนใครก็ตามที่เข้าใกล้หนุ่มน่ารักของคณะ  ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มน่ารักของคณะแล้ว  ทุกคนจะถูกจับตามองหมด  ยิ่งกระแสฟีเวอร์สาววายมาแรงด้วย  เลือดกำเดาของสาวหลายๆคนเลยแทบกระฉูด  แต่ก่อนก็มองกันอยู่ห่างๆ  แม้จะแอบเชียร์หนุ่มน่ารักตรงหน้าให้คนโน้นทีคนนี้ที  แต่เพราะเจ้าตัวตัวเหม็น  เลยดันไม่ขึ้น  แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปปปปปปป....ยาวๆให้เว่อร์หน่อย

    กว่าจะผ่านทุกฐานทุกคนก็เหนื่อยอ่อนเพลียกันได้ที่  ดีที่มีคนตัวหอมแถมน่ารักสวดๆมาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ 

    รุ่นพี่ปล่อยให้ไปพักกินข้าวมื้อเย็นกันก่อนเจอกันอีกทีหนึ่งทุ่ม  เพราะคืนนี้จะยังคงมีกิจกรรมให้เข้าฐานกันอีกกว่าจะเสร็จก็คงประมาณสี่ห้าทุ่ม

    “...ขออาบน้ำก่อนนะ”  เบญส่งเสียงบอกเพื่อนร่วมห้อง   เขารู้สึกไม่สบายตัวนัก  เลยบอกเพื่อนขอเข้าอาบน้ำก่อน
    “....”  พยักหน้า
    “เอาดิ” 

    คนหนึ่งพยักหน้าคนหนึ่งพูดบอกทั้งคู่ทำตัวปกติ  เหมือนไม่ได้ใส่ใจหรือสนใจอะไร  หากแต่พอลับหลังคนตัวหอมเท่านั้นแหละ

    “เกิดไรขึ้นวะ”  พจน์ถาม
    “....”  บอลส่ายหน้า

    ก่อนที่สองหนุ่มจะมองหน้ากัน  พวกเขาไม่รู้ทั้งคู่ว่าเพื่อนตัวเหม็นที่ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมา  อยู่ๆตัวก็หอมขึ้นมาซะงั้น  เรื่องเบญตัวเหม็นตัวหอมเนี่ยเป็นประเด็นร้อน ณ ขณะนี้เลยก็ว่าได้  พจน์กับบอลถูกเพื่อนเรียกไปถามซะเริ่มจะเบลอกันแล้ว  พอบอกไม่รู้  มันก็ถามว่าอยู่ห้องเดียวกันทำไมไม่รู้อะไรเลยหรอ  เออ...ก็ไม่รู้อ่ะดิ  ไม่ได้ตัวติดกันนิ  เช่นเดียวกับเพื่อนสนิททั้งสามของเบญก็ถูกซักถามและก็ตอบไม่ต่างกัน

    “ไม่รู้ว่ะ”  อีกครั้งที่สโนว์ปฏิเสธเพื่อนที่เข้ามาถาม
    “อ้าว”
    “ไปถามมันเองดิ” สโนว์ยิ้มมุมปาก

    ก็ถูกแล้วคนที่จะตอบได้คงมีเพียงตัวเจ้าของกลิ่นเท่านั้น  แล้วทำไมกลิ่นตัวของเบญถึงมีปัญหานัก  ก็คนมันกลิ่นตัวแรงอ่ะ  ตอนเหม็นก็เหม็นฟุ้งไปทั่ว  ตอนหอมก็ดั๊นนนนน..หอมฟุ้งไปทั่วอีก  แปลกคนจริงๆ
    


    เข้าสู่ช่วงกิจกรรมตอนกลางคืน  รุ่นพี่แจกคำใบ้ให้น้องๆไปตามหาพี่รหัสก่อน  คนที่มาทะเลก็รับคำใบ้กันไปส่วนคนที่ไม่ได้มาด้วยก็ค่อยว่ากันอีกครั้งหลังจากกลับไปที่มหาลัยแล้ว  และกำชับให้น้องตามหาพี่รหัสให้เจอก่อนวัน Freshy Night 

     Freshy Night กิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของทุกคณะทุกสาขาในมหาวิทยาลัย เป็นงานสังสรรค์รื่นเริงจัดให้เกิดความสนุกสนานเพลิดเพลินระหว่างเฟรชชี่ด้วยกัน ให้เหล่าเฟรชชี่ได้ทำความรู้จักกันระหว่างเพื่อนต่างคณะ สร้างความสัมพันธ์ และความเป็นมิตรในฐานะที่เป็นเฟรชชี่น้องใหม่ก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยพร้อมกัน  เรียกได้ว่าเป็นอีกงานที่ได้รวมตัวเฟรชชี่ทั้งหมดไว้ในงานเดียวกัน และเป็นงานที่สร้างความแปลกใหม่น่าสนใจต่อน้องใหม่ที่พึ่งเข้ามาสู่มหาลัย ถือเป็นการต้อนรับน้องๆจากรุ่นพี่อย่างเป็นทางการ

    ‘เทพแห่งท้องฟ้า’

    คือคำใบ้ที่เบญได้รับ  หมายถึงอะไรเนี่ย?  ดูๆแล้วน่าจะเป็นความหมายของอะไรสักอย่าง  จากคำใบ้แล้วน่าจะเป็นชื่อ  ชื่อของรุ่นพี่คนนั้นหรือเปล่า?  ท่าทางกลับไปคราวนี้คงต้องไปขอคัดรายชื่อของพวกพี่ๆมาดูเสียหน่อยแล้ว

    ฐานตอนกลางคืนมีสามฐาน  ได้แก่  ฐานโคตรแขยง  ฐานเขย่าขวัญ   และฐานเสียวจิ๊ดๆ  ซึ่งบังคับให้รุ่นน้องทุกคนต้องเล่น  ฐานกลางคืนเป็นฐานที่แตกต่างกับตอนกลางวัน  ฐานกลางวันจะเล่นเป็นกลุ่มและไม่ได้เล่นทุกคนทุกฐาน  เพราะบางฐานจะเป็นการส่งตัวแทนเข้าไปเล่นเท่านั้น  แต่กลางคืนรุ่นพี่ให้รุ่นน้องเข้าแถวเรียงหนึ่งเล่นทุกคน




    “ไหวแน่นะครับน้องเบญ” รุ่นพี่คนหนึ่งที่ประจำฐานโคตรแขยงเอ่ยปากเสียงหวานถามเบญ
    “ครับ”
    “แขยงมากเลยน้า~”  รุ่นพี่ขู่กลายๆแต่กลับยิ้มหน้าบานที่ได้คุยกับคนตัวหอม
    “...ครับ...^_^”  รับคำแล้วก็ยิ้มบางๆ

    แว๊กกกกกกกกกกกกกกก...กูโคตรเขินน้องมันว่ะ  สังเกตได้จากอาการจะยิ้มหรือไม่ยิ้มนั้น  ดีที่มืดแล้ว  ไม่อย่างนั้นคงเห็นได้ชัดเลยว่ารุ่นพี่คนนี้ใบหน้าได้แดงเถือกเป็นลูกมะเขือเทศไปแล้ว

    ฐานโคตรแขยงจะมีโอ่งทั้งหมดสิบใบ  วิธีเล่นคือ...ล้วงแล้วทาย  ถ้าทายถูกตั้งแต่ห้าชื่อขึ้นไป  ถือว่าผ่าน  คนไม่ผ่านจะถูกทำโทษด้วยการอมลูกอมเปรี้ยวจิ๊ด  ก่อนเข้าฐานทายนั้นรุ่นน้องแต่ละคนจะได้รับกระดาษคนละใบและรุ่นพี่ประจำฐานจะเป็นคนจดให้เมื่อรุ่นน้องล้วงแล้วทาย  โอ่งแต่ละใบห่างกันประมาณ 5 เมตร  พอล้วนถึงโอ่งใบสุดท้ายแล้วรุ่นพี่จะตรวจให้โดยจะยังไม่เฉลย  หากใครได้รับลูกอมก็เท่ากับไม่ผ่านเท่านั้น  สรุปคือจะเฉลยคำตอบให้ในวันรุ่งขึ้น

    “อ๊ากกกกกกกก..”
   “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”
    “หยึย!”
    “แหวะ!  ไรวะ”
    “ว้ายยย!”
   “กริ๊ดดดดดดดด...”
    “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ”

   เสียงวิ๊ดว้ายกริ๊ดกร๊าดคละเคล้าเสียงหัวเราะดังมาให้ได้ยินเป็นระยะๆ

    “พี่~...หนูไม่เล่นได้มั้ย~” รุ่นน้องหน้าใสเสียงออดอ้อน  ตาวิบวับ
    “ไม่ได้ครับน้อง”  รุ่นพี่ตอบพร้อมส่งยิ้มให้น้องใหม่หน้าใส  ที่ยังคงส่งเสียงออดอ้อนมาให้เป็นระยะๆด้วย
    “หยึย~  หยะแหยงชิบหาย” 
    “เชี่ย!  ไรวะ”
    “ควายเหอะ”  อ่ะนะ

    และตามมาด้วยเสียงสบถหลากหลายอีกมากมาย  หากแต่เมื่อเบญล้วงจนถึงโอ่งใบที่หก

    “...!!...”  โอ๊ย! ไม่ได้ร้องออกมาเป็นเสียงแต่เจ้าตัวกลับสะดุ้งสุดตัว  ก่อนจะรีบชักมือขึ้นมาจากโอ่งใบนั้น  ใบหน้าน่ารักนั่นแดงก่ำอย่างห้ามไม่อยู่

    “ปะ...เป็นไรครับ..น้อง”  รุ่นพี่ประจำฐานที่เฝ้ามองน้องใหม่ตรงหน้าอย่างเคลิบเคลิ้มตั้งแต่ต้น  เสียงสั่นเล็กน้อยที่ได้คุยกับน้องแทนที่จะแปลกใจที่น้องสะดุ้ง  อ้าวก็น้องๆก็สะดุ้งทุกคนนี่นา  ก่อนจะถามพร้อมรอยยิ้ม  แม่งงง~ โคตรน่ารักว่ะ  ตัวโคตรหอมเลย  เคลิ้มยาวละ
    “....”  เบญมองหน้ารุ่นพี่  ยิ้มบางพร้อมส่ายหน้า  เห็นรุ่นพี่ชะงักอีกเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้สนใจก่อนจะทายแล้วค่อมตัวเล็กน้อยแล้วเดินไปยังโอ่งใบถัดไป 

    ระหว่างเดินไปเบญยกข้อมือซ้ายขึ้นมาดู 

    ...มันเป็นรอยกัด...

    ...มันมีสองรู... 

    ‘รอยเขี้ยวของตัวอะไรเนี่ย?’

    ‘งู!..’

    ‘บ้าแล้ว!’

    เบญเอามือขวามาจับบีบๆที่บาดแผลแปลกๆที่ข้อมือซ้ายเล็กน้อย  ก่อนจะลูบแขนซ้ายตามรอยสัมผัสแปลกๆนั้น  ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร  มันมีแต่ความรู้สึก..ปั่นป่วน..มากกว่า  อีกอย่างที่แผลมันเป็นเพียงรูเล็กๆสองรู  แต่เลือดกลับไม่ไหล

    ‘บ้าเอ้ย...บ้าที่สุด’   

    ความรู้สึกแปลกๆและสัมผัสเมื่อกี้ยังคงชัดเจน  เขาโดนตัวอะไรไม่รู้กัดหลังจากนั้นมันก็มาพร้อมกับปฏิกิริยาของร่างกายที่แปลกๆไป  ตัวที่กัดเขาพอกัดแล้วมันก็เลื้อยขึ้นมาตามแขนสร้างความรัญจวนใจและก่ออารมณ์บางอย่างในร่างกาย...และบางอย่างในตัวของเบญก็กำลังตอบสนองอารมณ์วาบหวามนั้นอย่างเด่นชัด  เบญตัวสั่นเล็กน้อย  มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขากันนะ  ไม่เข้าใจเลยจริงๆ  แล้วรุ่นพี่ใส่อะไรไปในโอ่งใบนั้นเนี่ย  บ้าจริงๆ

    “เป็นไร”  เฮอร์มิสที่ตามมาติดๆถามขึ้น
    “เปล่า”  เบญยิ้มบางบอกเพื่อน  พยายามสงบจิตสงบใจตัวเองอย่างหนัก
    “นั่งพักก่อนไหม”  เพื่อนเฮอร์แนะนำ  แม้ตอนนี้ใบหน้าของคนตรงหน้าจะน่ารักมากเป็นพิเศษก็เถอะ  แต่ความเป็นห่วงกลับมีมากกว่า  หากไม่แล้ว  เพื่อนเฮอร์คงจะตกหลุมรักเพื่อนเบญอีกรอบแน่ๆ
    “...ไม่เป็นไร  ไปกันเถอะ”  เบญกัดฟันพูด

    สถานการณ์แบบนี้...ช่างบ้าจริงๆ  ดีที่มืดแล้วคงจะไม่มีใครสังเกตเห็นหรอกนะ  ว่า...

    ...เบญน้อยกำลังตื่นตัว...

    ...แย่...

    ...แย่ที่สุด!...

    ดูเหมือนนอกจากจะไม่มีใครสังเกตเห็นแล้ว  ยังไม่มีใครหรือแม้แต่ตัวเบญเองก็ไม่รู้เลยว่าระหว่างที่เขากำลังล้วนมือลงไปในโอ่งใบที่หกนั้น  มีบางอย่างที่ไม่น่าจะอยู่ในโอ่งใบนั้นได้...ได้ปรากฎตัวขึ้นและกัดเข้าไปที่ข้อมือด้านซ้ายที่เบญใช้ล้วงลงไป  บางอย่างที่มีเพียงเบญเท่านั้นที่สัมผัสไปเจอ  จากนั้นมันก็เลื้อยพันแขนเบญเหมือนจะไต่ขึ้นมา  แต่กลับหายไปไม่มีอะไรขึ้นมาตามที่เขารู้สึก  นั่นมันยังไม่เท่ากับที่สัมผัสนั้นเหมือนกำลังลวงลามเบญไปทั่วทั้งร่างกาย  และยังไปกระตุ้นความกระสันอยาก..

    ...อารมณ์ความต้องการทางเพศ  ความพลุ่งพล่านที่พุ่งปริ๊ดขึ้นมากะทันหัน  เล่นเอาน้องน้อยของเขาชูชันอย่างกับว่าตัวเขาเองกำลังถูกความรื่นเริงในความฝันนั้นเล่นงานอย่างนั้นล่ะ

    ในโอ่งใบต่อไปเบญลังเลเล็กน้อยก่อนจะใช้มือขวาล้วงลงไป  โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเลือดจากบาดแผลที่ข้อมือซ้ายที่ตอนแรกมันไม่ได้ไหลออกมา  กำลังค่อยๆไหลออกมาจากรอยกัดนั้นเป็นทางยาวลงสู่หลังมือ  หากแต่เลือดที่ไหลออกมากลับไม่หยดลงพื้นตามแรงโน้มถ่วงของโลก  แต่มันกลับไหลเป็นสายเหมือนงูตัวเล็กๆที่กำลังเลื้อยไปเรื่อยๆ  ค่อยๆรวมตัวกันบนหลังมือด้านซ้าย

    ...เลือดสีแดงสดกำลังค่อยๆเลื้อยเป็นสัญลักษณ์แปลกๆ...

    ...ทีละนิด...

    ...ทีละนิด...


    ...โดยไม่มีใครรู้ตัวเลย  แม้แต่ตัวเบญเอง...
    

   ฐานต่อไป...ฐานเขย่าขวัญ  คือฐานที่รุ่นพี่จะใช้เชือกเส้นหนึ่งขึงจากที่หนึ่งยาวไปยังอีกที่หนึ่งตามแนวต้นมะพร้าวไปที่บ้านพักหลังหนึ่งก่อนจะออกมาที่แนวต้นมะพร้าวและจบลงริมชายหาด  โดยไฟในบริเวณที่ใช้เล่นฐานนี้จะถูกปิดจนหมด  ทำให้บรรยากาศวังเวงพิกล  จุดเริ่มต้นอยู่ที่ชายหาดและจุดจบก็กลับมาที่ชายหาด  วิธีเล่นคือ  ให้น้องๆจับเชือกที่ขึงอยู่นั้นและเดินตามเชือกเส้นนั้นไปจนกลับมาที่ชายหาด  สิ่งสำคัญในการเล่นฐานนี้คือ...อย่าปล่อยมือจากเชือกที่จับอยู่

    “กริ๊ดดดดดดดดดดดด”
    “เฮ้ย!”
    “อ๊ากกกกกกกก...”
    “อะ...อะไร”

    เสียงกรีดร้องจากคนที่เดินไปก่อนดังมาเขย่าขวัญคนที่กำลังจะตามไปเป็นระยะๆ 

    “อื้ออออ...น่ากลัว”  กุลพูดบอกกับเพื่อนสาวนักมวย  เพราะหนุ่มตัวเล็กเป็นคนค่อนข้างขวัญอ่อน  ฐานแรกกว่าจะผ่านมาได้ก็เล่นเอากุลน้อยน้ำตาแทบร่วง

    “...^__^”  โน้ตยิ้มเพียงยกมือขึ้นลูบหัวปลอบเพื่อนตัวเล็กเบาๆเท่านั้น

    เบญยิ้มเอ็นดูกับสิ่งที่เห็น  สองคนนี้เหมือนพี่น้องกันมากกว่าเพื่อนเสียอีก 

    การเดินตามกันไปแบ่งเป็นกลุ่มๆ  กลุ่มละสิบคน  สิบคนแรกหายไปกับแนวต้นมะพร้าวแล้วจึงจะปล่อยสิบคนหลังตามไปอีก  ไม่ได้กำหนดเวลา  เมื่อมาถึงกลุ่มของเบญและผองเพื่อน  เบญเดินตามเพื่อนๆเข้าไปดังเช่นคนอื่นๆ  ระหว่างกำลังเดินผ่านแนวต้นมะพร้าวเฮอร์มิสก็แตะแขนเบญเบาๆ

    “กลัวป่ะ?”  เฮอร์มิสถาม

    เบญส่ายหน้า  แต่เมื่อคิดว่าเพื่อนคงไม่เห็นจึงได้พูดบอก

    “...ไม่”
    “ไม่ถามพลอยบ้างล่ะ”  เสียงพลอยมุกดังขึ้น
    “อ่ะ...กลัวป่ะพลอยสวย”

    พลอยมุกค้อนเพื่อนหนึ่งทีแม้เพื่อนจะไม่เห็นก็เถอะ  ก่อนตอบ

    “ไม่”
    “เหอะ! แล้วให้ถามเพื่อ?”
    “แหมะ...ก็จะได้รู้ว่าเป็นห่วงไง  คิคิคิ”  พลอยมุกพูดอย่างอารมณ์ดี   

    เฮอร์มิสกับสโนว์ส่ายหน้ากันเบาๆ  ส่วนเบญก็ทำเพียงยิ้มบางๆ  บทสนทนาสั้นๆแต่กลับ
ช่วยคลายบรรยากาศวังเวงไปได้มากโข  เบญและผองเพื่อนเดินกันไปเรื่อยๆตามเส้นทางที่ถูกกำหนดไว้เงียบๆ

   วูบบบบ.. สายลมบางเบาพัดผ่าน

    แปลกๆ  เบญรู้สึกอย่างนั้นแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก  แต่...เบญคงไม่รู้หรอกว่าสายลมที่พัดผ่านตัวเขาไปนั้นมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่สัมผัสถึงมัน







TBC


นอนละ  คร่อกๆๆๆๆ  :mew2: :mew2: :mew2:
ตอนหน้า
ตอนที่ 8 สงคราม
พระเอกมาแย้ววววววววววววววว :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: bulldog17 ที่ 12-02-2014 20:51:27
พ่อพระเอกโผล่มาเรียกเรตติ้งได้แล้ว~
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: cowinsend ที่ 12-02-2014 20:59:02
มาแวบๆหลายรอบแล้วนะพระเอกเรา แต่ยังไม่เห็นเป็นตัวเป็นตนสักที

รอตอนต่อไปจ้า^^
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 12-02-2014 21:08:35
ใกล้จะได้เจอพระเอกแล้วใช่ไหมเนี้ย :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 12-02-2014 21:23:57
ตื่นเต้นๆๆ พระเอกใกล้ปรากฎตัวยังหนออ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 12-02-2014 21:52:59
 :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:จะมาแล้ววววววววววววววว :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: mur@s@ki ที่ 12-02-2014 22:17:06
พระเอกเหนือธรรมชาติมาก
หลอนไม่ว่า แต่ต้องหล่อนะ  :hao7:

หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-02-2014 23:23:41
อยากอ่านต่อแล้ว
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 13-02-2014 00:58:41
มาเร็วๆเลยค่ะ อยากอ่านต่อแล้ว  :katai4:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 13-02-2014 10:03:24
กรี๊ดกร๊าดๆ รอจ้า พระเอกจะโผล่หางออกมาแว้ว  :impress2:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 13-02-2014 12:07:41
พระเอกจะมาแล้ว ตื่นเต้น
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: หมูน้อย ที่ 13-02-2014 15:57:22
 :mew2:
พระเอกมาเราดีใจ แต่มาปกป้องหรือทำร้ายอะ


สงครามนี้ชื่อ?
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 13-02-2014 17:46:35
พระเอกกำลังจะมา ~~~~

 :mew3: :mew3: :mew3: :mew3: :mew3:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 13-02-2014 18:21:35
รอพระเอก
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 13-02-2014 19:47:47
ติดตามต่อไป พระเอกใกล้มาแล้ว

หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maxshu ที่ 14-02-2014 00:19:01
กว่าจะได้ฤกษ์โผล่มานะ 55555555555
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: sam3sam ที่ 14-02-2014 03:11:36
เรารอนายอยู่นะคุณพระเอก :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 14-02-2014 20:22:45
หนูเบญๆๆๆๆ ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร รออีกแปป เดี๋ยวก็มีคนมาโอ๋แล้วนะ  :-[
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 7 เข้าฐาน 12/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: pachth ที่ 14-02-2014 23:30:02
พอโผล่มาก็เล่นน้องเบญเลยเรอะ
หัวข้อ: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ สุขสันต์วันวาเลนไทน์จ้าาา 14/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 15-02-2014 02:27:13

ฉลองวาเลนไทน์จ้าาาาาา

สำหรับคนที่รอพระเอกของเรา  :o8: :-[ :impress2:

รักนะทุกคนนนนนนน  ขอให้มีความรักที่ดีและมีความสุขตลอดปีและตลอดไปปปปปป

uri
   :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:

กิ๊ดๆๆๆๆๆ  แอบนั่งกิ๊ดคนเดียวด้วยแหละ   :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ฉลองวาเลนไทน์กับพระเอกของเรา 14/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: _Yammery_ ที่ 15-02-2014 14:11:16
มานั่งรอพระเอกด้วยคน
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ฉลองวาเลนไทน์กับพระเอกของเรา 14/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 15-02-2014 15:06:55
รอพระเอก มาไวๆเน้ออ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ฉลองวาเลนไทน์กับพระเอกของเรา 14/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 15-02-2014 15:56:14
พระเอกยังไม่โผล่มาสักทีเลยน้อ
แต่สัญลักษณ์บนมือ ถูกจับจองเข้าของก่อนโผล่ตัวตนจริงๆออกมาสินะ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ฉลองวาเลนไทน์กับพระเอกของเรา 14/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 16-02-2014 13:58:03
ถึงพระเอกจะยังไม่โผล่ออกมาแสดงตัว แต่ให้สัญลักษณ์ทิ้งเอาไว้แทนแล้วชิมิ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ฉลองวาเลนไทน์กับพระเอกของเรา 14/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: qq_oo ที่ 16-02-2014 20:06:45
รอๆๆๆๆจ้า
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ฉลองวาเลนไทน์กับพระเอกของเรา 14/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 16-02-2014 20:09:34
เมื่อไหร่จะมาาา  :katai1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ฉลองวาเลนไทน์กับพระเอกของเรา 14/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 17-02-2014 22:14:04
 :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ฉลองวาเลนไทน์กับพระเอกของเรา 14/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 19-02-2014 00:47:25
รอๆๆจ้า
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ฉลองวาเลนไทน์กับพระเอกของเรา 14/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: pasallatel ที่ 19-02-2014 03:00:57
พระเอกเป็นมังกือ.....เอ้ยยยย.....มังกรหรอกเหรอคะ
สงสัยฝันของนายเอก พระเอกหายไปไหนมาถึงปล่อยให้นายเอกรอ
รอนานจนกระทั่งต้องกินศพเพื่อประทังชีวิตในชาติก่อนเนี่ย (อ้างอิงจากที่นายเอกฝันถึงนะคะ)
เป็นฝันที่น่ากลัวมาก ตอนอ่านกำลังนั่งโซ้ยข้าวอยู่ อิ่มเลยทันทีเหมือนกัน  :sad4: ทั้งวัน
กินอะไรต่อไม่ลงเลยทีเดียว :mew5: แต่งได้สมจริงสมจังจนเห็นภาพเลยค่ะ  :heaven

......แล้วพระเอกหายไปอยู่ไหนมา เพิ่งจะมาตามหาเอาป่านเน้.....เดี่ยวแม่ยกไม่ดันเลยนี่ พ่อพระเอกลึกลับ :m16:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ฉลองวาเลนไทน์กับพระเอกของเรา 14/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 19-02-2014 03:05:33
 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ฉลองวาเลนไทน์กับพระเอกของเรา 14/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 19-02-2014 13:51:15
มารอด้วยคน ลุ้นจัง อิอิ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ฉลองวาเลนไทน์กับพระเอกของเรา 14/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 19-02-2014 18:11:16
 :call: :call: :call:
หัวข้อ: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 19-02-2014 19:42:30
มาแว้ววววววววววววววว   :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5: :katai5:



^__^ Love Devil ^__^

รักร้ายเทพอสูร




ตอนที่ 8 สงคราม


    วูบบบบ.. สายลมบางเบาพัดผ่าน

    แปลกๆ  เบญรู้สึกอย่างนั้นแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก  และเบญคงไม่รู้หรอกว่าสายลมที่พัดผ่านตัวเขาไปนั้นมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่สัมผัสถึงมัน

    ฝึดดด...

    สัมผัสเบาๆที่เหมือนถูกใครสักคนลูบผ่านเสื้อผ้า  เบญขนลุกซู่แปลกๆเขาขมวดคิ้วบางๆ  มองไปรอบบริเวณ  ไม่มีใคร  ไม่มีอะไร  เพราะแม้จะดูเหมือนมืด  แต่ก็ไม่ได้มืดสนิท  ยังคงมีแสงไฟสาดส่องมาจากที่ไกลๆอยู่  พวกเขาสามารถมองเห็นทางเดินและเชือกที่จับได้อย่างชัดเจนเมื่อสายตาเริ่มชินกับความมืด  ความสงสัยคงจะมีมากกว่านี้ถ้า....

    “กริ๊ดดดด..”
    “อะไร!”

    เพื่อนคนหนึ่งที่เดินด้วยกันกริ๊ดออกมาเสียงดัง  ขณะที่อีกคนหนึ่งก็ตะโกนถามขึ้นมา

    “อื้อออ...มะ...มันมีอะไร..ไม่รู้”  คนกริ๊ดพูดด้วยเสียงที่เริ่มสั่น
    “แล้วอะไรเล่า”  เพื่อนอีกคนเร่งเร้า
    “ฮือออออ...อะไรก็ไม่รู้มาโดนตัวอ่า~”  หล่อนทำเสียงโอดครวญ
    “.....”

    ทุกคนเกิดอาการกระสับกระส่ายกันเล็กน้อย  ใช่ว่าคนพูดจะโดนคนเดียว  แต่หลายๆคนก็รู้สึกว่าโดนอะไรมาสัมผัสก็ไม่รู้เหมือนกัน  ไม่คิด  ไม่คิด  หลายๆคนคิดแบบนี้  จนมีคนพูดขึ้นมานี่แหละ  ความกลัว  ความไม่มั่นใจ  จึงเพิ่มเป็นทวี

    “ชู่ๆ  ไม่มีอะไรๆ” โน้ตลูบไหล่กุลปลอบเบาๆ  เมื่อสังเกตเห็นอาการกระสับกระส่ายของคนตัวเล็ก
    “ไม่มีไรหรอกน่า  ไปต่อเถอะ  กลุ่มหลังตามมาจะทันแล้ว”  ช่างเป็นการตัดบทหลอนจากสโนว์ได้ชะงักนัก  ทุกคนจึงพากันเดินไปต่อ

    ลับหลังกลุ่มของเบญไปก็มีงูใหญ่ตัวหนึ่งเลื้อยผ่านบริเวณที่พวกเขาเคยยืนคุยกัน  แววตาคมของงูตัวนั้นมองตามหลังใครบางคนที่เพิ่งเดินผ่านไป  ก่อนที่มันจะแลบลิ้นสองเฉกออกมาสองครั้งและเลื้อยไปอีกทาง




    ระหว่างเดินตามเชือกนั้นเบญไม่รู้ตัวเลยว่า  สัญลักษณ์เลือดที่ปรากฏบนหลังมือด้านซ้ายกำลังจะสมบูรณ์เป็นตราสัญลักษณ์บางอย่าง  มีแสง...แต่เป็นคงไม่มีใครสังเกตเห็นมัน  เพราะมันเป็นแสงสีดำ  มันก่อตัววนเป็นอากาศเหมือนจะสร้างให้สัญลักษณ์นั้นสมบูรณ์  สัญลักษณ์ที่เป็นตรา...

   ...‘ตราดาร์ทเนล’...

    ... ‘พลังแห่งดาร์ทเนล’....

    ‘ตราสัญลักษณ์...แห่งความมืด’

    ...‘ตราแห่งมาร’...

    ...‘ตราแห่งตัณหา’...


    จวบจนเดินออกมาเกือบจะพ้นแนวต้นมะพร้าวแล้ว   สัญลักษณ์แห่งความมืดบนหลังมืดด้านซ้ายก็สมบูรณ์  และจู่ๆก็มีแสงส่องสว่างจ้าดั่งดวงอาทิตย์ออกมาจากตราแห่งมารที่อยู่บนหลังมือซ้ายของเบญ

    “อ๊ะ!”
    “อะไรเนี่ย?”
    “อื้ออ..”

    หลายๆคนอุทานขึ้นกันเบาๆ  เพราะแสงที่ส่องสว่างออกมาจ้ามาก  จ้าเสียจนทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นต้องหยีตาหลับตาลงกันหมด  เพราะสายตาทนต่อแสงสว่างจ้านั้นไม่ไหว  รวมถึงตัวเบญเองด้วย 

    หากแต่เมื่อเบญเปิดเปลือกตาขึ้นมา...

    ...กลับปรากฏว่า....

    เขากำลังยืนอยู่ในสถานที่แห่งหนึ่ง  สถานที่แห่งนั้นเป็นสวนพฤกษชาติที่มีความงดงามดั่งในเทพนิยาย  ที่เขาเคยเห็นปรากกฎในตำนานเทพปกรณัมกรีก-โรมันทั้งหลาย  สวนสวยงดงามท่ามกลางเมฆหมอกที่บางเบา  แต่สายหมอกนั้นกลับให้ความรู้สึกนุ่มนวลเมื่อผิวสัมผัส   กลิ่นหอมของพฤกษชาติหอมฟุ้งกระกายไปทั่วบริเวณสวนแห่งนี้  เบญมองไปรอบบริเวณสวนที่เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด  ก่อนจะก้มมองดูตัวเองปรากฎว่าเบญไม่ได้อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขายาวที่สวมมาเล่นกิจกรรมยามกลางคืนแล้ว  แต่เขาอยู่ในชุดสีขาวมีลายคราบทองงดงามทั้งชุด

        "ท่านอัลฟ่าร์"

    เสียงเรียกดังมาจากด้านหลังของเขา  เบญหันไปตามเสียงนั้นและเขาเพิ่งรู้สึกว่า ‘อัลฟ่าร์’ คือชื่อของเขา

    “มูน...มีอะไรงั้นหรือ?  ร้อนรนมาเชียว”  เบญถามคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มหวาน  เหมือนเขาจะรู้อยู่แล้วว่าคนเรียก  เรียกเขาทำไม

    ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้จักกับคนๆนี้   และรู้ได้อย่างไรว่าคนที่เรียกเขาว่าท่านอัลฟ่าร์ชื่อมูน 

    “ก็คราวนี้ท่านนำอะไรกลับมาด้วยล่ะครับ”  มูนพูดอย่างค้อนๆ

    มูนเป็นเด็กหนุ่มตัวเล็กผิวขาวใส  ตากลมโตสีเขียวอ่อน  มูนอยู่ในชุดสีขาวผ้าพลิ้วไสวแต่ไม่รุ่มร่าม  แม้จะบอกว่ามูนเป็นเด็กหนุ่มตัวเล็ก  แต่จริงๆแล้วมูนมีอายุมากกว่าอัลฟ่าร์กว่าร้อยปีแล้ว

    “เถอะน่า...ก็แค่นกตัวเล็กๆเอง” เบญหรืออัลฟ่าร์ยิ้มหวานบอก
    “....”  มูนไม่ตอบคำ  แต่เม้นปากและส่งสายตาที่ทั้งเอือมทั้งเอ็นดูมาให้ 

    ‘เหยี่ยว’
เนี่ยนะ  นกตัวเล็กๆ  มูนไม่เข้าใจท่านอัลฟ่าร์เลยจริงๆ

    สำหรับมูนแล้วท่านอัลฟ่าร์ยังคงเป็นเด็กนัก  แม้ท่านอัลฟ่าร์จะเป็นผู้ที่มีพลังเวทมนตร์วิเศษสูงที่สุดตั้งแต่ ‘เอลฟ์’ ถือกำเนิดก็ตาม นอกจากนั้นท่านอัลฟ่าร์ยังงดงามทั้งกิริยาจาวาและจิตใจ  ท่านอัลฟ่าร์ผู้มีนัยน์ตาสีเงิน  เส้นผมยาวสลวยนุ่มดั่งแพรไหมสีเงิน  ท่านมีปีกเล็กๆสีขาวที่งดงามงอกมาจากใบหูราวปีกของหางนกยูงสีขาว  และกลิ่นตัวที่หอมดั่งพฤกษชาติที่หอมสดชื่นไปทั่วทั้งวังแห่ง ‘เอลฟ์’

    ‘เอลฟ์’ ราชาแห่งภูติ  เทพแห่งธรรมชาติและเทพแห่งความอุดมสมบูรณ์  เอลฟ์หรือที่คนไทยมักเรียกว่า ‘ภูติพราย’ พวกเขาจะมีหน้าที่ปกปักษ์รักษาความสมดุลของธรรมชาติ  หากแต่มนุษย์มักเข้าใจว่าเอลฟ์หรือภูติพรายเป็นพวกภูติผีปีศาจที่จะมาทำร้ายตัวเอง  ทั้งที่สถานที่พวกเขามักไปปรากฎตัวนั้นก็เพื่อทำการชำระล้างความโสมมที่มนุษย์ก่อขึ้น  ก่อนจะรักษาต้นไม้ใบหญ้าให้กลับมาเจริญงอกงามอีกครั้ง

    “สวนเอเดนเป็นอย่างไรบ้างครับ” มูนถาม
    “งดงามมาก ^___^”  อัลฟ่าร์ยิ้มกว้างตอบอย่างน่ารัก
    “...^__^”  มูนอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม

    มูนเป็นพี่เลี้ยงของเขาตั้งแต่เขาจำความได้แล้ว  ทั้งคู่จึงมีความสนิทสนมกันมากเสมือนเพื่อนหรือพี่น้องกันมากกว่านายบ่าว  นั่นเพราะอัลฟ่าร์เป็นเจ้าชายแห่งภูติที่เกิดจากองค์ราชาแห่งภูติกับเทพีไดอา  เทพีแห่งมนต์ตรา

    ส่วนสวนเอเดนนั้นเป็นสวนศักดิ์สิทธิ์ต้นกำเนิดของธรรมชาติและความอุดมสมบูรณ์ทั้งปวง  ผู้ที่จะเข้าไปในสวนเอเดนได้นั้นจะต้องเป็นเทพหรือเทพีที่มีตำแหน่งสูงเท่านั้น กับเอลฟ์หรือภูติพรายที่เป็นผู้ดูแล  และที่อัลฟ่าร์ได้รับหน้าที่ดูแลสวนเอเดนเพราะว่า...การดูแลสวนเอเดนต้องใช้พลังวิเศษเป็นจำนวนมหาศาล  หากผู้ดูแลมีพลังไม่มากพอร่างกายอาจดับสลายได้  แม้ว่าจิตจะยังอยู่ก็ตาม  ดังนั้นผู้ที่ร่างกายดับสลายไปแล้วก็ต้องไปกำเนิดใหม่เท่านั้น



............................................................
    


   สามวันก่อนหน้านั้นเหล่าเทพกำลังเผชิญกับภาวะสงคราม  สงครามระหว่างเทพกับมาร  เอเทอร์ องค์ราชันย์แห่งสวรรค์  ราชาแห่งทวยเทพ  ผู้ปกครองสูงสุดบนสวรรค์  พระองค์มีคำสั่งเรียกเหล่าเทพให้เข้าเฝ้าเพื่อเตรียมการรับมือกับสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น

    ณ ท้องพระโรงนครเฮเวนท์  นครแห่งสรวงสวรรค์

    เอเทอร์นั่งอยู่บนบังลังก์ทองขนาดใหญ่  ซ้ายมือของราชาแห่งทวยเทพคือเทพีวีร่า องค์ราชินีแห่งสรวงสรรค์และดวงดาว  และเทพีแห่งการสมรสและความจงรักภักดี  ขวามือคือเทพีไดโอนี เทพีแห่งความรัก ความปรารถนา และความงาม

    เทพที่มาเข้าเฝ้าประกอบไปด้วย เทพเซดอน เทพแห่งท้องทะเลและแผ่นดินไหว เทพอาเรีย เทพแห่งสงคราม  เทพเฮอร์มิส เทพแห่งการค้า และเทพแห่งการโจรกรรม  ผู้ส่งสารของเหล่าทวยเทพ  เทพเฮฟเฟส เทพแห่งการตีเหล็ก และเทพแห่งไฟ  เทพีเธียน่า เทพีแห่งปัญญา  เทพีดีเมียร์ เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์และการเก็บเกี่ยว  เป็นน้องสาวฝาแฝดของเอลฟ์ราชาแห่งภูติพราย  เทพแห่งธรรมชาติและความอุดมสมบูรณ์  ชื่อเอลฟ์จึงเป็นที่มาของเหล่าเอลฟ์  และเทพเอลพอล เทพดวงอาทิตย์ และเทพแห่งแสงสว่าง การเยียวยา การดนตรี ทุกคนแต่งกายงดงามดั่งในเทพนิยาย

    จุดเริ่มต้นแห่งสงครามนี้เกิดจากฮาเดส  เดิมเป็นเทพแห่งแดนบาดาล  แต่เขาได้ล่วงละเมิดต่อกฎข้อห้ามด้วยการไปแตะต้องพลังแห่งความมืด  พลังแห่งมาร  พลังแห่งตัณหา  จนจิตใจของฮาเดสตกสู่ความมืดมิด  ราชาแห่งทวยเทพจึงได้ขับไล่ฮาเดสไปสู่ดินแดนแห่งความตาย  ดินแดนแห่งความมืดมิด  ฮาเดสรู้สึกคับแค้นใจเอเทอร์เป็นอย่างมาก  ด้วยอำนาจที่เขาได้รับมาทำให้ฮาเดสเกิดความต้องการแก้แค้นเอเทอร์และเหล่าเทพทั้งหลาย 


    “ดาร์ทเนลงั้นหรือ?”  องค์ราชันย์กล่าวอย่างคาดไม่ถึง
    “พะย่ะค่ะ”  เทพอาเรีย เทพแห่งสงครามตอบ
    “ตำนานกลายเป็นเรื่องจริง”  เทพีดีเมียร์กล่าวขึ้น
    “ไม่ใช่  เรื่องจริงกลายเป็นตำนานต่างหาก” และตามด้วยเทพีเธียน่า

   ทุกคนหันมามองหน้ากันเกิดความเงียบไปทั่วบริเวณ  เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ร้ายแรงกว่าการทำสงครามเสียอีก  เรื่องจริงเมื่ออดีตกาล...ยาวนาน...จวบจน...กลายเป็นตำนาน...ได้กลับมาอีกครั้ง  และฝ่ายตรงข้ามก็ได้พลังบางอย่างนั้นไป  ‘พลังแห่งดาร์ทเนล’ พลังเก่าแก่ที่สร้างแต่ความสับสนวุ่นวาย  ดาร์ทเนลเป็นพลังที่เป็นจุดเริ่มต้นของมวลสารแห่งพลังทั้งปวง  พลังที่เกิดก่อนการสร้างโลก  ‘พลังแห่งความมืดมิด’ 

   พลังแห่งดาร์ทเนลเป็นพลังที่สามารถอำพลางตัวเองจากการมองเห็น  ร้ายแรงกว่านั้นพลังนี้ยังสามารถปกปิดการมองเห็นแม้อีกฝ่ายจะใช้พลังเพื่อมองแล้ว  ก็ไม่สามารถเห็นได้  ส่วนที่เรียกว่าตราแห่งตัณหานั้นเพราะดาร์ทเนลจะกลืนกินชีวิตผู้ใช้พลังนั้น  และให้ผู้ใช้พลังนั้นกลืนกินชีวิตผู้อื่นด้วยการเสพสุขราคะจนกว่าคนผู้นั้นจะดับสลาย  นั่นคือสิ่งที่ทุกคนรู้  หากแต่กลับไม่มีใครฉุนคิดเลยว่าในเมื่อดาร์ทเนลเป็นจุดเริ่มต้นของมวลพลังทั้งปวง  ดาร์ทเนลก็ใช่ว่าจะมีแต่กลืนกินชีวิตผู้ใช้เพียงอย่างเดียว   ในข้อเสียก็ยังมีข้อดีเสมอและผู้ค้นพบความลับนั้นก็คือ....


    ... ‘ผู้ที่มีตราดาร์ทเนล’...
 
    ... ‘พลังแห่งดาร์ทเนล’....

    ‘ตราสัญลักษณ์...แห่งความมืด’

    ...‘ตราแห่งมาร’...

    ...‘ตราแห่งตัณหา’...
    


    ณ วังจันทรา 

    ‘วังจันทรา’ สถานที่ใช้กักบริเวณเทพชั้นสูงที่กระทำความผิดร้ายแรง  วังแห่งนี้ครั้งหนึ่งก็เคยใช้กักบริเวณฮาเดสด้วย  แต่ปัจจุบันเทพที่อยู่ที่นี่เป็นถึงเจ้าชาย  ‘เจ้าชายไคนาส’   เทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้า  บุตรชายเพียงคนเดียวของราชาแห่งทวยเทพ  ราชาเอเทอร์กับเทพีวีร่า องค์ราชินีแห่งสรวงสรรค์และดวงดาว และเทพีแห่งการสมรสและความจงรักภักดี  เจ้าชายแห่งทวยเทพผู้มีดวงตาสีทองดั่งดวงตะวัน  เส้นผมเงางามราวแพรไหมชั้นดีสีทองยาวสลวย  พลิ้วไสวเปล่งประกายเจิดจ้ายามต้องแสงอาทิตย์  ใบหน้าหล่อเหลางดงามยิ่งกว่าเทพ

    ในขณะที่เจ้าชายเจ้าของผมสีทองกำลังทอดเนตรไปไกลแสนไกลออกไปทางหน้าต่างบานใหญ่ที่ถูกกั้นไปด้วยเวทมนต์ชั้นสูง  ก็ปรากฏร่างๆหนึ่งมาจากทางด้านหลังของพระองค์   เป็นร่างของหญิงสาวผู้สูงศักดิ์ที่งดงามไร้ที่ติ

    “แม่มีเรื่องอยากให้เจ้าช่วย”  นางพูดขึ้น และนางคือ ‘เทพีวีร่า องค์ราชินีแห่งสรวงสรรค์และดวงดาว และเทพีแห่งการสมรสและความจงรักภักดี’
    “....”  ไคนาสไม่ตอบอะไร  หากเพียงมองมารดาด้วยแววตาเรียบเฉยตามวิสัยของเขา
    “ดาร์ทเนล”  นางพูดต่อ
    “หึ!” เขายิ้มที่มุมปาก  ไม่ตอบและไม่ถาม
    “ไคนาส”
   “......” เงียบ
    “มีเพียงลูกเท่านั้นที่จะหยุดเรื่องนี้ได้”  ใช่มีเพียงเขาเท่านั้น  แล้วยังไง  ในเมื่อตอนนี้เขาอยู่ที่วังจันทราไม่สามารถออกไปไหนได้  หรือต่อให้ออกไปได้เขาก็ไม่คิดที่จะช่วย
    “เอเทอร์พูดอย่างนั้น?”  ไคนาสแดกดันเล็กน้อย
   “...ไม่  พ่อของเจ้าไม่เคยรู้เรื่องนี้  เจ้าก็รู้”  พ่อหรอ?  เขาไม่เคยมองว่าคนๆนั้นเป็นบิดาของเขา  ณ ตั้งแต่เวลานั้น..ที่คนๆนั้นทำให้ท่านแม่เขาเสียน้ำตา  ไคนาสพยายามระงับอารมณ์พลุ่งพล่านไว้
    “นั่นเพราะเขาไม่เคยสนใจ...”
    “ไคนาส...เจ้ารู้ดีอยู่แก่ใจ  เจ้าทำตัวเอง  เจ้าถึงมาอยู่ที่นี่”
    “ข้าทำตัวเองหรือ?”  เขาพูดอย่างกลั้นโทสะ  หากเพราะเขารักผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้ามากไม่ใช่หรือไง? 
    “ข้าเพียงแต่ให้แสงสว่างแก่เอเทอร์”  ใช่! หากไม่เพราะเอเทอร์ทำให้ท่านแม่เขาเสียใจแล้วล่ะก็...
    “...แต่นางก็เป็นน้องสาวของแม่”  น้องสาวที่ทรยศได้แม้กระทั่งพี่สาว  นางให้อภัยแต่เขาไม่ให้!!!
    “......”
    “...และถึงอย่างนั้นเค้าก็คือพ่อเจ้า”  นางพูดต่อ 
    “เค้าไม่ใช่พ่อข้า!!!”  อีกครั้งกับประโยคนี้ และครั้งนี้โทสะของไคนาสก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว  ไคนาสจึงได้ระเบิดออกมาเสียงดังทั้งที่เขาไม่เคยทำ  นางสะดุ้งเล็กน้อย  ไม่คิดว่าบุตรชายจะโกรธบิดาตัวเองขนาดนี้ 

    “...ฮื่อ! งั้นข้าก็คงไม่ใช่แม่เจ้า”  นางทำเสียงขึ้นนาสิกอดที่จะประชดออกมาไม่ได้  นางรักเอเทอร์และนางก็รักบุตรชายเพียงคนเดียวของนาง  และนางก็มีเพียงเอเทอร์เป็นสวามีเพียงคนเดียว  หากบุตรชายนางไม่ได้เกิดจากเอเทอร์  แล้วจะเกิดจากนางได้หรือ?

   “...ท่าน..ไม่ใช่แม่ข้า...”  ..ได้อย่างไร?  เขากลืนน้ำลายก่อนพูดเพราะรู้สึกลำคอแห้งผาก

    ข้ารักท่านมาก..ท่านแม่  ข้ามีเพียงท่านเท่านั้นที่เข้าใจ  และข้ามีเพียงท่านเท่านั้นที่ข้ารักที่สุด  เขากลั้นกลืนคำพูดที่เหลือเอาไว้  เพราะหากบอกไป  ท่านแม่ของเขาคงทุกข์ใจไม่น้อย  เพราะคงคิดว่าตนเป็นต้นเหตุให้บุตรชายฆ่า ‘เทพีโซเฟีย’  เทพีแห่งความเย้ายวนและความอิจฉาริษยา

    “......”  ความรู้สึกเสียใจเอ่ยล้นอย่างห้ามไม่ได้  นางยิ้มทั้งน้ำตาคลอ...อย่างข่มใจและพยายามกลั้นน้ำตาอย่างยิ่งยวด 

    เมื่อเห็นเช่นนั้นไคนาสก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก  ที่กล่าวออกไปเช่นนั้น  ทั้งยังไม่สามารถพูดสิ่งที่คิดทั้งหมดออกไปได้   ใช่...ทุกสิ่งที่เขาทำ  เขาคิด  เขาไม่เคยเอ่ยมันออกมา  ไม่เคยมีใครรู้  แม้แต่เทพีวีร่ามารดาของเขา  และเขาก็จะไม่มีวันเอ่ยมันออกมาไม่ว่าตัวเขาจะถูกลงทัณฑ์เช่นไร

    “.....”
    “.....”

    ความเงียบโรยตัวอยู่ชั่วครู่  นางรู้ว่าบุตรชายกำลังโกรธ  แต่นางก็อดที่จะเสียใจกับคำพูดนั้นไม่ได้  ถึงอย่างนั้น  นางก็ถือว่านางคือแม่  หากบุตรชายนางไม่เห็นแก่บิดา  ไม่เห็นแก่นาง  นางก็อยากให้บุตรชายเห็นแก่ราษฎรในอาณาจักรเฮเวนท์และอาจรวมถึงทั้งจักรวาลด้วย

    “...ถือว่าแม่ขอร้อง”

    นางกล่าว  ก่อนร่างกายจะค่อยๆหายตัวไป  เหลือเพียงอากาศท่า




TBC


ทักทายทักทาย   :hao7: :hao7: :hao7:
คุ้นๆมั้ย? กับบางรูปประโยคในตอนนี้    :mew3: :mew3: :mew3:
บางประโยคในตอนนี้เราเอามาจากหนังแฟนตาซีเรื่องหนึ่ง  คอเดียวกันคงจำได้  หรือเปล่า?   :hao4: :hao4:
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ  คอเดียวกันอาจจะจำได้  ถามเพื่อ?  ไม่รู้ดิ  :ruready :ruready

ขอบคุณที่ติดตามและตามติดทุกกกกกกกกคน   :กอด1: :กอด1: :กอด1:

และ...ยินดีต้อนรับนักอ่านใหม่ๆนะจ้ะ   :hao6: :hao6:

อยากลืมอ่านแล้วเม้นต์ด้วยนะจ้ะ  เม้นต์น้อยเค้าเสียใจ ลงช้าด้วยนะเออ   :mew4: :mew4: :mew4:

Uri จ้า  :bye2:

ปอลอลอ  บวกเป็ดทุกคนแล้วนะจ้ะ


[attachment deleted by admin]
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ฉลองวาเลนไทน์กับพระเอกของเรา 14/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: kinjikung ที่ 19-02-2014 20:00:41
อัยยะ พระเอกเรานี่ท่านฮาเดสหรือเปล่าเนี่ย อ่านแล้วงง ๆ หน่อย 5555
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ ฉลองวาเลนไทน์กับพระเอกของเรา 14/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 19-02-2014 20:01:20
ตอบนะจ้ะ   อาจไม่ได้ตอบของทุกคน  แต่อ่านและ +เป็ดน้อยให้ทุกคนเลยจ้าาาา

พระเอกเป็นมังกือ.....เอ้ยยยย.....มังกรหรอกเหรอคะ
สงสัยฝันของนายเอก พระเอกหายไปไหนมาถึงปล่อยให้นายเอกรอ
รอนานจนกระทั่งต้องกินศพเพื่อประทังชีวิตในชาติก่อนเนี่ย (อ้างอิงจากที่นายเอกฝันถึงนะคะ)
เป็นฝันที่น่ากลัวมาก ตอนอ่านกำลังนั่งโซ้ยข้าวอยู่ อิ่มเลยทันทีเหมือนกัน  :sad4: ทั้งวัน
กินอะไรต่อไม่ลงเลยทีเดียว :mew5: แต่งได้สมจริงสมจังจนเห็นภาพเลยค่ะ  :heaven

......แล้วพระเอกหายไปอยู่ไหนมา เพิ่งจะมาตามหาเอาป่านเน้.....เดี่ยวแม่ยกไม่ดันเลยนี่ พ่อพระเอกลึกลับ :m16:

ฉากกินศพอ่ะ  ตอนแต่งก็ไม่เท่าไหร่หรอก
แต่ตอนอ่านนี่ดิ...อาการเราก็ไม่ต่างกับคนอ่านเลย
อาจมากกว่าตรงที่...แต่งเองหลอนเอง  กลางคืนงดอ่านไปเลย  กลัวอ่ะ
แต่ว่า...ขอบคุณมากๆเลย  ที่ตามอ่าน  และมาเล่าให้ฟัง  อ่านไปยิ้มไป  ป๊ะ! มีคนเหมือนเราด้วย  คิคิ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 19-02-2014 20:03:23
นี่ย้อนอดีตอยู่ใช่มั้ยยย :hao7:

ปล.มาจากเดอะลอร์ดป่ะ?55
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 19-02-2014 20:08:27
ระลึกชาติกันมันเบย
ว่าแต่บรรดาเทพทั้งหลายนี่รีไซเคิลหรือครั้งเดียวทิ้งครับ เยอะป๊ายย

ขนลุกซู่นะครับ ไม่ใช่ขนลุกซู่ว์(เวอะ) 5555
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maxshu ที่ 19-02-2014 20:29:44
เอาตรงๆคือประเด็นคือ ผู้ใดพระเอก ตัวละครเยอะมว๊าก (ตราตันหา เอิ่ม เบญ เอ้ย )
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 19-02-2014 20:54:36
บวกเป็ดให้แล้วนะจ๊ะ อิอิ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 19-02-2014 21:43:03
ไมมีแต่คนมาถามหาพระเอกหว่า?   :mew5: :mew5: :mew5:

นี่เรายังไม่ชัดเจนอีกหรอก  :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
อื้อออออ   งง   :m28: :m28: :m28:

ใครเก็ทบอกที 

พระเอกคือใคร?   :z1: :z1: :z1:

ที่จริงน่าจะรู้แล้วน้าาาาาา   :hao6: :hao6: :hao6:

uri  งงอ่ะ
   :ruready :ruready :ruready :ruready
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 19-02-2014 22:08:30
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:อ่านไปก็ลุ้นไปว่าจะเจอกันตอนไหนนนนนนนนนนนน :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 19-02-2014 22:12:32
มันก็ยังงงๆ ตกลงว่าข้อดีคืออะไร และความลับของดาร์ทเนลเนี่ยใครรู้อ่ะ
แล้วนายเอกเป็นดาร์ทเนลเหรอถึงมีเครื่องหมายที่มืออ่ะ
โอ้ย!!อยากอ่านต่อ

อ่อ!รุ่มร่ามเขียนแบบนี้ค่ะ ตัวเอง
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 19-02-2014 22:27:19
คนไหนพระเอกอ่า~

 :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 19-02-2014 22:40:36
ฮื้อออ แค่เริ่มก็เศร้าแล้วอะ อย่าเศร้ามากนะ เดี๋ยวผ้าไม่พอ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: HanATarO ที่ 20-02-2014 19:16:14
ตอนนี้ พระเอก ของเราปรากฏตัวออกมาแล้วใช่มั้นหว่า???

 :m28: :m28: :m28: :m28:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 20-02-2014 21:03:12
 :mew5: ใครอ่ะ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 21-02-2014 15:25:59
พระเอกเป็นใครไม่รู้

เดายากจริงๆ หรือว่าจะเป็นฮาเดส ไม่ก็ ไคนาส

แต่คาดว่าน่าจะเป็นฮาเดสมากกว่า เพราะไปแตะกลุ่มมารเข้า
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 21-02-2014 18:02:27
พระเอกคือไคนาสแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: cher7343 ที่ 21-02-2014 23:08:35
ไม่ขอเดา เพราะเดาไม่ออก

มาอัพด่วนนนน  :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: maminmeaw ที่ 23-02-2014 10:22:33
พระเอกก็ไคนาสไงจ๊ะ......อยากรู้เรื่องต่อแล้วอ่ะ
ว่าไปเจอกันยังไงแล้วทำไมถึงพรากจากกันไป
ปล่อยให้อีกคนรอคอย.....อยากรู้ๆๆๆๆมากอัพไวๆๆๆๆๆนะจ๊ะคนแต่ง ^___^
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 23-02-2014 14:12:41
ท่านอุรี้-----รีบมาอัพเร็วๆสิค๊าาาา :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 23-02-2014 18:05:17
 อ๋อย เริ่มงงแย้วนะเนี่ย ใครเปงใครอ๊า o2
ตัวละครเยอะจุง  :hao4:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 8 สงคราม 19/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 25-02-2014 13:20:57
อ่านรวดเดียวจบ
และ และ อยากบอกว่า
อยากอ่านอีก รีบๆมาต่อนะคะ ชอบๆ
หัวข้อ: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 27-02-2014 23:23:09



^__^ Love Devil ^__^

รักร้ายเทพอสูร




ตอนที่ 9  ตราแห่งตัณหา




   “ฮอค  ขาเจ้าหายดีแล้วนะ”  อัลฟ่าร์ยิ้มกว้างดีใจบอกกับเพื่อนใหม่ 

    เขาเห็นนกตัวนี้กำลังได้รับบาดเจ็บขนาดเดินทางกลับจากสวนเอเดน  จึงได้พากลับมารักษา  ที่จริงเขามีพลังจะรักษามันได้  แต่แววตาของเหยี่ยวตัวนี้ดึงดูดให้เขาไม่อาจทิ้งมันไป  สุดท้ายไม่รู้อะไรดลใจอัลฟ่าร์จึงพามันกลับมาด้วย  และเล่นกับมันแทบจะทุกวัน  จากที่เจ้านกเหยี่ยวไม่ยอมให้เขาแตะต้อง...จนตอนนี้กลายเป็นเพื่อนกันไปแล้ว  นกอะไรอ้อนอย่างกับแมว  เขารู้สึกอย่างนั้นและเขาก็ชอบที่มันอ้อนด้วย

    “หายแล้วก็ปล่อยมันไป”  เสียงอันทรงพลังมาจากผู้ที่เดินเข้ามาในห้องของเขา 
    “ท่านพ่อ”  รอยยิ้มงดงามก่อนหน้านี้จางลง  บุคคลที่เข้ามาคือราชาแห่งเอลฟ์  ผู้ที่มีเส้นผมสีขาวสวมใส่อาภรณ์สีขาวกลีบทอง  ท่านมีอายุกว่าพันปีแล้ว  แต่ยังดูหนุ่มแน่นไม่ชราสักนิด  หากแต่ใบหน้าดูหม่นหมองด้วยว่าท่านมีเรื่องทุกข์ใจมากนัก

    “จำเป็นหรือ?  ที่ลูกจะต้องเก็บสัตว์ที่บาดเจ็บทุกตัวกลับมาที่วัง”  ผู้เป็นพ่อตำหนิเบาๆ  เขาไม่ชอบให้ใครนำสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในวังนัก  โดยเฉพาะในครั้งนี้เขารู้สึกไม่ดีนักเวลามองเหยี่ยวตัวนี้

    “....”  ไร้คำตอบ  อัลฟ่าร์รู้ดีว่าราชาแห่งเอลฟ์มีนิสัยอย่างไร  ยิ่งสถานการณ์ในตอนนี้ยิ่งอาจทำให้ท่านพ่อโกรธเคืองได้ง่าย  แต่...แม้แต่ตัวเขาเองยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้เลย 

   “...เฮ้อออ...เอาล่ะๆ  ของที่ข้าให้เจ้านำกลับมาให้ข้าล่ะ”  หลังประโยคนั้น  อัลฟ่าร์ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย  เขาไม่อยากให้ผู้เป็นพ่อถลำลึกมากไปกว่านี้แล้ว

    “ท่านพ่อ...ท่านจะทำอะไรกันแน่?”

    หลังคำถามนั้นราชาแห่งเอลฟ์ใช้สายตาตำหนิบุตรชายทันที

    “...ข้าจะทำอะไร  ข้าก็เป็นพ่อของเจ้า!”  เสียงดังขึ้นมาอย่างห้ามไม่ไหว  ผู้เป็นลูกได้แต่ลอบถอนหายใจ
    “เพราะท่านเป็นพ่อ  ข้าถึงได้นำมาให้”  อัลฟ่าร์เอ่ยอย่างจริงจัง  ราชาแห่งเอลฟ์มองหน้าบุตรชายก่อนจะลดน้ำเสียงลง
    “...ข้าทำเพื่อแม่ของเจ้า”
    “หรือเพื่อท่าน?”  อัลฟ่าร์ต่อให้ทันที 

    เขารู้ดี...ท่านแม่ของเขาไม่ได้ต้องการเช่นนั้น  จนถึงวันนี้ท่านยินดีให้กายนั้นดับสลายเองเสียด้วยซ้ำ

    “เจ้ายอมให้กายของแม่เจ้าดับสลายงั้นหรือ?”
    “ไม่ใช่” อัลฟ่าร์ตอบ เขาพยายามข่มอารมณ์บางอย่างเอาไว้  “นั่นคือความต้องการของท่านแม่เอง”
    “แต่ไม่ใช่....ความต้องการของข้า”  ราชาแห่งเอลฟ์จ้องหน้าบุตรชาย  ก่อนจะพูดแล้วเดินจากไป  แวบหนึ่งอัลฟ่าร์เห็นความปวดร้าวในแววตาสีเทาเงินคู่นั้น

    อัลฟ่าร์ได้แต่มองตามบิดาของเขาไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย  สิ่งที่บิดาของเขาให้เขานำกลับมาให้นั้น  คือ...ผลของต้นไม้แห่งชีวิต  ผลไม้ต้องห้ามในตำนาน  และการกระทำของเขาก็ถือได้ว่าเป็นความผิดร้ายแรง  แต่จะให้เขาทำอย่างไร  ในเมื่อคนที่ขอมาคือ...พระบิดาของเขาเอง

    เรื่องนี้ดูเหมือนจะร้ายแรงมากกว่าที่เขาคาดไว้  ผลไม้ต้องห้ามแม้จะถูกห้ามไม่ให้ใครเก็บกิน  ก็ไม่เคยมีใครอยากแตะต้องอีกเลย  นับตั้งแต่เอวาถูกงูล่อลวง  หากแต่ก่อนที่เขาจะเป็นผู้ดูแลสวนแห่งนี้  คนที่ดูแลก่อนหน้าเขาคือ...เทพีไดอา  เทพีแห่งมนต์ตรา มารดาของเขา  ไม่รู้ด้วยเหตุอันใดนางถึงได้ปล่อยพลังแห่งการรักษามากจนเกินไป  จนเป็นเหตุให้ร่างกายของนางเกือบดับสลายหากอัลฟ่าร์ตามไปช่วยไม่ทัน  เรื่องนี้นางไม่ได้ให้คำตอบใดๆกับใครทั้งสิ้น  และนางยินดีให้กายของตนดับสลาย  หากแต่ราชาแห่งเอลฟ์กลับไม่สามารถยอมรับความตายของรานีแห่งตนได้

    นับแต่นั้นมาแววตาของราชาแห่งเอลฟ์ก็เปลี่ยนไป  ดวงตาของเขามืดบอด  มันเต็มไปด้วยความเกลียดและโศกเศร้าที่ต้องเห็นหญิงอันเป็นรัก...ร่างกายค่อยๆแตกสลาย  หากแต่สิ่งที่จะช่วยได้ก็มีเพียงผลไม้แห่งชีวิต  ผลไม้ต้องห้ามในตำนานกับ...พลังแห่งดาร์ทเนล  ต้นกำเนิดมวลสารแห่งพลังทั้งปวง
    


.............................................................


    ไคนาสถือกำเนิดมาพร้อมกับตราแห่งดาร์ทเนล  หากผู้ที่รู้กลับมีเพียงราชินีแห่งสรวงสวรรค์เท่านั้น  ในขณะที่ฮาเดสเป็นผู้ค้นพบพลังแห่งดาร์ทเนลและนำพลังนั้นมาใช้  แต่ผู้ที่จะสามารถควบคุมพลังนั้นได้อย่างแท้จริงกลับไม่ใช่ฮาเดส  หากแต่ต้องเป็นผู้ที่มีตราแห่งดาร์ทเนลเท่านั้นจึงจะสามารถควบคุมพลังแห่งต้นกำเนิดนั้นได้อย่างแท้จริง  ตั้งแต่อดีตกาลจนกลายเป็นตำนานนอกจากพระเจ้าและบุตรของพระองค์ก็ไม่มีใครที่จะควบคุมพลังนั้นได้อีกเลย

    หลังมารดากลับไปไคนาสก็ตัดสินใจ...ทำตามคำขอร้องนั้น  เขาไม่ได้เห็นแก่ผู้ใดทั้งสิ้น  แต่เขาเห็นแก่ความทุกข์ในความรักขององค์ราชินีแห่งสรวงสวรรค์  ไม่ใช่ความรักที่มีต่อองค์ราชันแห่งสรวงสวรรค์  แต่เป็นความทุกข์ในความรักต่อปวงประชา  เพราะเห็นแก่ความทุกข์ใจนั้นเขาถึงได้เดินทางมาที่วังแห่งเอลฟ์

    เขารู้และสัมผัสได้...ต้นกำเนิดพลังที่ฮาเดสใช้นั้น  หากไม่ได้ผลไม้ต้องห้ามด้วยแล้วฮาเดสก็ไม่อาจควบคุมพลังแห่งความมืดนั้นได้  แม้จะแค่ชั่วครั้งคราวก็ตาม  และผู้ที่จะนำผลไม้ต้องห้ามออกจากสวนได้จะเป็นผู้ใดไปไม่ได้  ถ้าไม่ใช่...

    ...ผู้ดูแลสวนเอเดน...

    ...เขาต้องทำลายคนนั้น   ก่อนเรื่องเลวร้ายจะลามไปมากกว่านี้...

    เพราะเหล่าเทพและเทพีทั้งหลายไม่สามารถเข้าใกล้ต้นไม้แห่งชีวิตได้อยู่แล้ว  พวกเขาเหมือนถูกสาปให้ไม่อาจเข้าใกล้ต้นไม้แห่งชีวิตได้

    เดิมทีเขารู้ว่าผู้ที่ดูแลสวนคือเทพีแห่งมนต์ตรา  หากแต่เทพีที่เขาพบกลับไม่ใช่เทพีแห่งมนต์ตรา  แววตาสีเงินวาววับ  เส้นผมยาวสลวยสีเงินเงางาม  คนหรือเทพีองค์นั้นงดงาม...ดั่งนางฟ้า  ความสุข  ความยินดี  ฉายชัดบนใบหน้าและแววตาที่สุกใสคู่นั้น  การร่ายเวทมนต์ดั่งร่ายรำช่างงดงาม  จนเขาไม่อาจละสายตาไปไหนได้  เขาตกตะลึงในความงดงามนั้นอย่างห้ามไม่ได้  หัวใจที่เคยสงบกลับกำลังเต้นอย่างรุนแรงดั่งกลองรัว  จวบจนเทพีองค์นั้นกำลังจะเดินออกจากสวน  ความทุกข์ใจบางอย่างก็ฉายชัดอยู่บนแววตาสีเงินคู่สวยนั้น  ถึงขนาดทำให้ต้นไม้รอบบริเวณที่เทพีองค์นั้นยืนอยู่เหี่ยวเฉาลงทันที

    เขาเห็น  ใช่เขาเห็น  เขาเห็นเทพีองค์นั้นเดินกลับไปที่ต้นไม้แห่งชีวิต  และคุกเข่าลงก่อนจะมีอาการสั่นไหวปรากฏตามร่างที่สั่นเทานั้น  เทพีองค์นั้นกำลังร่ำไห้  ร่ำไห้อย่างทุกข์ระทม  หากแต่กลับไร้เสียง  เช่นนั้นเขาถึงขนาดน้ำตาคลอตาม  หากแต่เพียงไม่นานต้นไม้แห่งชีวิตนั้นก็โน้มกิ่งไม้ลงมาหาเทพีองค์นั้น  เทพีองค์นั้นเงยหน้าที่เปี่ยมไปด้วยน้ำตาขึ้น  ภาพนั้นช่างตรึงใจเขายิ่งนัก  เมื่อนั้นเขาจึงเพิ่งรู้ว่านั่นไม่ใช่อิสตรี  หากแต่เป็นบุรุษ  เพราะ....

    “อัลฟ่าร์...ความเศร้าโศกของเจ้า  ช่างทำเราทุกข์ระทมนัก  หากแต่ผลของเราจะเรียกรอยยิ้มของเจ้ากลับมาได้  เราก็ยินดี”

    ...ยิ่งใหญ่  กังวาน  นี่หรือ?  ต้นไม้แห่งชีวิต... 

    สิ่งที่ปรากฎอยู่ตรงหน้าแม้ไคนาสจะไม่อาจเข้าใจมากนัก  แต่สิ่งหนึ่งที่เขาสัมผัสได้  คือ...ความเศร้าโศกของอัลฟ่าร์...เจ้าชายแห่งเอลฟ์  ความโศกเศร้าของต้นไม้แห่งชีวิต และความเศร้าสลดของสวนเอเดนแห่งนี้ยามอัลฟ่าร์เจ้าชายแห่งเอลฟ์หลั่งน้ำตา

    ...ช่างน่าเศร้านัก  แม้จะรู้ว่าผู้ที่เขาตามหาคือภูติพรายตรงหน้าแต่เขากลับทำลายไม่ลง  ใครกันหรือ?  ที่สร้างความทุกข์อย่างแสนสาหัสแด่เจ้าชายแห่งเอลฟ์ให้เจ้าชายผู้งดงามได้โศกเศร้าถึงเพียงนี้  คำตอบนั้น...

    ...ราชาแห่งเอลฟ์...

    ...บิดาของอัลฟ่าร์...

   หรือ?

    ...เทพีแห่งมนต์ตรา...

    ...เทพีไดอา...

    ...ผู้ใดกัน?...



    ไคนาสมาอาศัยอยู่ในวังของเหล่าเอลฟ์เป็นเวลาหลายวันแล้ว  เขาเห็นเขารับรู้ทุกอย่าง  โชคชะตาเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้  และราชวงศ์แห่งเอลฟ์ก็กำลังเผชิญอยู่กับมัน  การจะหยุดยั้งโชคชะตานั้นช่างยากนัก 

    คืนแรกหลังจากที่อัลฟ่าร์หลับลงไปได้ไม่นาน  ‘ฮอค’  เหยี่ยวที่เขาพากลับมาด้วยก็ค่อยๆกลายร่างเป็นชายหนุ่มรูปงาม  ชายหนุ่มที่เป็นถึงเทพ...เทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้า  ‘เจ้าชายไคนาส’    เจ้าชายผู้ที่มีเส้นผมเงางามราวแพรไหมชั้นดีสีทองยาวสลวย  พลิ้วไสวเปล่งประกายเจิดจ้ายามต้องแสงจันทรา  ใบหน้าหล่อเหลางดงามยิ่งกว่าเทพ  หากแต่คืนนี้ไคนาสเพียงยืนมองเจ้าชายรูปงามนัยน์ตาสีเงินที่บรรทมอย่างสบาย  นัยน์ตางดงามสีพระอาทิตย์มองใบหน้างดงามนั้นอย่างหลงใหล  เวลาหลับ...ช่างงดงามดั่งภาพวาดของจิตรกรเอก  หากแต่เวลาตื่นก็ช่างงดงามพลิ้วไหวสมกับเป็นภูติจริงๆ  งดงาม...สมคำล่ำลือ  อีกทั้งกลิ่นหอมดั่งพฤกษชาตินี่ก็เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเจ้าชายองค์นี้ด้วย  กลิ่นที่ใครๆก็ต่างอยากสูดดมและชื่นชม

    คืนที่สอง  หลังจากกลายร่างและยืนมองอยู่ค่อนคืน  ไคนาสก็ยื่นมือเข้าไปสัมผัสอย่างแผ่วเบาบนเส้นผมนุ่มดุจไหมนั่น  ช่างไม่ผิดหวังเลยจริงๆ  อ่อนนุ่มดุจแพรไหมชั้นเลิศ  อีกทั้งกลิ่นตัวที่หอมอ่อนละมุนนี้  ช่างเย้ายวนใจเสียจริง  ปรากฏรอยยิ้มที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนบนริมฝีปากของเทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้าโดยที่เจ้าของก็ไม่รู้ตัว  และรอยยิ้มนั้นก็กว้างและอ่อนโยนมากขึ้นเมื่อเจ้าชายแห่งเอลฟ์ขยับศีรษะเข้าหามือที่ลูบผมตนเองพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ  ท่าทางจะกำลังฝันดี

    คืนที่สาม  ไคนาสนั่งลงข้างเตียง  รู้สึกชอบในความอ่อนโยนของเจ้าชายแห่งเอลฟ์มากขึ้น  บาดแผลที่เขาจงใจสร้างขึ้นค่อยๆหายตามการรักษาโดยที่ไม่ใช้เวทมนต์  ดูเหมือนทั้งเขาและเจ้าชายแห่งเอลฟ์ต่างก็พอใจกับการรักษาแบบนี้  หากแต่ความพอใจนั้นกลับซ่อนความหมายที่แตกต่างกัน  สำหรับอัลฟ่าร์แล้วการรักษาแบบนี้จะทำให้สัตว์ไว้ใจเขาและสนิทกันมากขึ้น  แต่สำหรับไคนาสแล้วเขาพอใจในความอ่อนโยนนั้นเป็นอย่างมาก  จนความพึงใจที่มีตั้งแต่แรกพบขยายออกมากขึ้น  ความต้องการเยี่ยงบุรุษเพศที่เขาไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับเพศเดียวกันนั้นกลับเกิดขึ้นเมื่อยามอยู่ใกล้อัลฟ่าร์  เพียงรู้สึกตัวว่าตนเองคิดแบบนี้ไคนาสก็ไม่ลังเลที่จะทำตามความต้องการนั้นทันที 

    ...เขาต้องการอัลฟ่าร์...

    ...และ....

    ...อัลฟ่าร์ต้องเป็นของเขา....

    ...คนเดียวเท่านั้น...

    ความคิดไม่เคยไปก่อนการกระทำ  ไคนาสโน้มตัวลงไปจุมพิตแผ่วเบาบนหน้าผากเนียนนั้น 

    ‘หอม  หอมจนยากจะอดใจไหวเสียจริง’

    ไคนาสยิ้มบางเบา  ไม่คิดว่าตนเองจะเป็นถึงขณะนี้  เป็นเทพมาก็หลายร้อยปี  เทพีที่แสนจะงดงามก็ผ่านตาผ่านมือไปนักต่อนัก  หากแต่เขายังไม่เคยมีสัมพันธ์กับเทพหรือบุรุษเพศมาก่อน  แม้จะไม่มีกฎห้ามก็ตาม

    เทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้าเอื้อมมือไปลูบแก้มใสนั้นอย่างทะนุถนอม  แววตาสีทองดั่งดวงตะวันค่อยๆเอยล้นและเต็มเปี่ยมไปด้วยห้วงแห่งรัก  แววตาที่แสนอ่อนโยน...อ่อนหวาน...ลึกซึ้ง  สิ่งนี้ไม่เคยปรากฏมาก่อนตั้งแต่กำเนิดเทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้า  หากแต่วันนี้...คืนนี้ไคนาสรู้และมั่นใจว่า...

    “ข้าตกหลุมรักเจ้าเสียแล้ว....”


    “...อัลฟ่าร์ของข้า”




TBC


ขอบคุณที่ช่วยแก้ไขคำให้นะจ้ะ   o14 o14 o14 o15
ยังไงอ่านต่อก็ช่วยดูต่อนะ  ฮ่าๆๆๆๆๆ   :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: gupalz ที่ 28-02-2014 00:11:18
พระเอกคือไคนาสสส
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 28-02-2014 00:21:27
ไคนาสคือพระเอกกกก :really2:

แต่ก็สงสัยว่าเรืีองราวมันเป็นยังไง

จำได้ว่านายเอกของเราโดนทิ้งให้รอ

จนต้องกินซากศพเป็นอาหาร  :hao5:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: double9JH ที่ 28-02-2014 00:28:08
 :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: moobarpalang ที่ 28-02-2014 06:20:32
 :-[ :o8: :o8:
อยากอ่านอีกอะ
รีบมาต่อนะ
อัลฟ่าหน้ารักมาก
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 28-02-2014 06:31:44
เรื่องราวจะเป็นยังไง
หลังจากนำผลไม้ต้องห้ามกลับมา อัลฟ่าร์จะโดนสาปหรอ
ลุ้นนนน
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: ลิงน้อยสุดเอ๋อ ที่ 28-02-2014 08:26:44
เป็นไคนาส หรอกเหรอเนี่ย
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 28-02-2014 13:27:39
ตอนต่อไปของข้า :o9:

ชาติก่อนเคยเพียรพบหน้ากันมาก่อนสินะ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: pachth ที่ 28-02-2014 15:20:18
แล้วยังไงต่อหนอ
น่าสนใจมั่กๆ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 28-02-2014 15:37:27
 :z10: รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 28-02-2014 22:18:58
 :z13: :z13: :z13: :z13:อยากอ่านต่อออออออออออออออออ :z13: :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: omyim_jjj ที่ 28-02-2014 22:47:20
อ๊ากกกกกกกกกกก   รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 28-02-2014 23:15:07
ฮื้อออ ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีอะ สงสาร อัลฟ่า สุดๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: sukaz ที่ 28-02-2014 23:31:42
เหมือนจะโรแมนติก แต่อีกสักพัก มันจะดราม่า

 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :mew5: :mew5: :mew5:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 01-03-2014 03:06:55
จะเป็นไงต่อไปล่ะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maxshu ที่ 01-03-2014 19:21:34
แล้วชาตินี้อ่ะ 5555555555
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: poisongodx ที่ 01-03-2014 22:06:28
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 9 ตราแห่งตัณหา 27/2/57
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 01-03-2014 22:39:50
ไคนาส อัลฟาร์ เรารอเจ้าทั้งสองอยู่นะ ^^
หัวข้อ: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: uri uri ที่ 23-03-2014 11:00:53


แต่งตอนนี้แล้วฟินนนนนนนนนน
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก
คนใกล้ตัวเดินหนีเลย  คึ คึ




^__^ Love Devil ^__^

รักร้ายเทพอสูร




ตอนที่ 10  จิตผูกพัน



   คืนที่สี่

   “อื้อออออ...อาส์~”  เสียงครางเบาๆมาจากร่างงดงามที่กำลังหลับสบายบนแท่นบรรทมหลังใหญ่  หากไม่นานอาการกระสับกระส่ายก็มีมากขึ้น  ใบหน้างดงามเริ่มแดงก่ำงดงามยิ่งกว่าเดิมนัก  ริมฝีปากสวยเผยอเล็กน้อยส่งเสียงครางอย่างรัญจวนใจ

    บนร่างงดงามนั้นปรากฏร่างเทพองค์หนึ่งคร่อมทับอยู่  รูปร่างของเขางามสง่า  นัยน์ตางดงามสีทองดั่งดวงตะวันจ้องมองจดจ่อที่ใบหน้างดงามน่าหลงใหลนั้น  หากได้สบตาบุคคลตรงหน้าในร่างนี้คงดีมิใช่น้อย  ปากบางยิ้มหยันกับความนึกคิดของตนเอง  จมูกโด่งคมสันโน้มลงบนใบหน้างดงามนั้นอย่างหลงใหล  หยอกล้อ  ยิ่งพิศยิ่งหลง  ยิ่งสูดดมกลิ่นกายนี้ยิ่งเสน่หา 

     ...อัลฟ่าร์...

   ...ของข้า...

    ...ช่างงดงามเสียจริง...


    หัวใจเต้นเร่าอย่างมิอาจห้ามได้  ยิ่งกว่าความลุ่มหลง  เขารู้ดี  แค่สูดดมกลิ่นกายานี้อย่างเดียวช่างไม่เพียงพอเสียเลย  เขาอยากเสพสุขกับร่างงดงามดั่งอัญมณีล้ำค่านี้  ความคิดไม่ไปไกลเกินจากการกระทำเลย  เทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้าสูดดม  ขบเม้น  ดูดชิมผิวแสนงามบนล่างงามอย่างกระหาย  เขาซุกไซร้ทั่วเรือนร่างงามไร้ที่ตินั้นอย่างเสน่หา

    “อ๊ะ!  อ้า...อ๊า~...อา”  มีครางเบาๆจากร่างหลับไหล

    ยิ่งสูดดมยิ่งยากจะห้ามใจ  ยิ่งสัมผัส...ยิ่งต้องการ

    “อือออ...ฮอค...ฮอคหรือ?  ฮึ...เจ้าไม่ควรมาเบียดข้าเวลานอนแบบนี้สิ  หากข้าพลิกไปทับเจ้า  ข้าคงเศร้าใจยิ่งนัก”  เปลือกตาแสนสวยค่อยๆปรือขึ้น  ริมฝีปากเล็กเผยอเล็กน้อยก่อนจะส่งเสียงทักเพื่อนนกน้อยที่แอบมาซุกกายเขายามหลับไหล...

    ...ให้เขาฝันแปลกประหลาดไปซะได้...

    หากแต่ฮอคหรือเหยี่ยวที่อัลฟ่าร์ตั้งชื่อให้นั้น  เพียงมองสบตาฉ่ำเยิ้มจากอาการง่วงงุนนั้นเสมือนไม่รู้เรื่องรู้ราวใดๆ  อัลฟ่าร์ยิ้มบาง  ก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวเจ้านกน้อยของเขาอย่างเอ็นดูสองสามครั้ง  ปากเล็กๆนั้นหาวว๊อดดด...หนึ่งทีก่อนตาคู่สวยนั้นจะค่อยๆปิดลง...ลงสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง  โดยหารู้ไม่ว่าเจ้านกน้อยฮอคนั้นได้กลายร่างเป็นเทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้าอีกครั้ง  ไคนาสยิ้มบางอย่างสงบลงอย่างประหลาด  อดจะลูบศีรษะเจ้าชายแห่งเอลฟ์กลับคืนอย่างบางเบาไม่ได้  ก่อนจะโอบกอดร่างแสนงามไว้ในอ้อมแขน

    ...สูดดมกลิ่นหอมบนเส้นผมนุ่มดุจแพรไหมนั้นหนึ่งครั้ง  เสี้ยวหนึ่งของความรู้สึก...เขาอยากหยุดช่วงเวลานี้ไปอีกนานแสนนาน  ดังนั้นหากเขาจะปกป้องเจ้าชายองค์นี้...

    ...จะผิดไหม?...




.............................................................................................



    ณ ยูลูรู 

   สนามรบที่เป็นทะเลสาบอันกว้างใหญ่  ศึกระหว่างความมืดกับความสว่างกำลังปะทุขึ้นอย่างดุเดือด  ผลจากผลไม้แห่งชีวิตทำให้ฮาเดสสามารถควบคุมพลังแห่งความมืดได้ดียิ่งขึ้น  ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของปีศาจไม่อาจปรากฏแก่สายตาของเหล่าเทพได้  ผลจากการสู้รบที่ยืดเยื้องทำให้เกราะป้องกันพระราชวังบางส่วนเสียหาย  ทำให้การสู้รบครั้งนี้เหล่าเทพพ่ายแพ้ไปอย่างยับเยิน  มีเทพดับสลายไปเป็นจำนวนมาก  จนจอมแม่ทัพแห่งสวรรค์ต้องสั่งถอยทัพไปอย่างเจ็บปวด  ฮาเดสมิได้ตามติดความพ่ายแพ้นั้น  เพราะตัวเขาก็ใกล้ถึงขีดจำกัดเช่นกัน  จึงยอมล่าถอยเมื่อกองทัพเทพประกาศถอยทัพ  หากแต่เรื่องนี้คงยากที่จะมีใครรู้ดีไปกว่าตัวฮาเดสเอง

    ณ สภากองทัพนครเฮเวนท์ 

    “กองทัพใหญ่ไม่พบข้าศึก  แม้แต่ทางเราก็ไม่พบพวกมัน”
    “เรามองไม่เห็นข้าศึก  แม้จะใช้พลัง”
    “เราไม่สามารถฟื้นฟูเกราะปกป้องพระราชวัง”
    “ฝ่าพระบาทเราป้องกันตัวเองไม่ได้”

    สี่ประโยคมาจากแม่ทัพใหญ่และกุนซือแห่งราชอาณาจักรเฮเวนท์  สรวงสวรรค์ของเหล่าทวยเทพ

     ความเคร่งเครียดลามไปทั่วอาณาบริเวณ  แน่นอนว่า...ดาร์ทเนลเป็นพลังที่ไม่อาจต่อกรได้  ตามตำนานนอกจากพระเจ้าและบุตรของพระองค์ก็มีเพียงผู้ที่มีตราแห่งดาร์ทเนลเท่านั้น 

     ...แล้วใครล่ะ?...

    ...ผู้ที่มีตราแห่งดาร์ทเนล...


    “เจ้าชายไคนาส”
    “...??...”
    “ท่านผู้เฒ่า”

    เกิดความเงียบและงุนงงไปชั่วขณะ  เสียงเรียกชื่อเจ้าชายไคนาส คือ...ท่านผู้เฒ่าเดลเทพพยากรณ์แห่งสรวงสวรรค์  ทุกคนโค้งคำนับแด่ผู้อาวุโสไม่เว้นแม้แต่องค์ราชาแห่งทวยเทพ

    “พวกเจ้าออกไปก่อน”  ผู้เฒ่าเดลออกปากไล่เหล่าทหาร  ทุกคนโค้งอีกครั้งก่อนจะทยอยเดินกันออกไป
    “หากท่านจะใส่ใจเจ้าชายไคนาสสักนิดนะท่านเอเทอร์”  ท่านผู้เฒ่าเริ่มเปิดประเด็น
    “ข้าไม่เข้าใจ  ท่านผู้เฒ่าหมายถึงเรื่องอันใด”
    “แล้วเจ้ากำลังตามหาอะไรล่ะ”  ท่านผู้เฒ่ากล่าวพลางจ้องหน้าองค์ราชันย์อย่างสื่อความหมาย

    ...เงียบ  และแล้ว....

    “...!!!....”  ราชาแห่งทวยเทพเบิกตากว้างขึ้น
    “.........”  ผู้เฒ่าเดลเพียงมองคู่สนทนาอย่างสงบ

    เกิดความเงียบไปชั่วขณะ  ทั้งคู่ใช้เพียงนัยน์ตาจ้องถามตอบกัน  แต่ก็สื่อสารกันอย่างเข้าใจ

    “...นั่นสินะ  ข้าช่างเป็นพ่อที่แย่เสียจริง”  ราชาแห่งทวยเทพจะขำแต่ก็ขำไม่ออก  จะตำหนิตัวเองก็ช่างกระไร
    “...เวลาเหลือน้อยเต็มทีแล้ว  ท่านเอเทอร์”  ท่านผู้เฒ่ากล่าวย้ำเตือนอีกครั้ง
    “ขอบคุณ  ท่านผู้เฒ่า”
    “เก็บคำนั้นบอกกับบุตรของท่านไม่ดีกว่าหรือ?”  ท่านผู้เฒ่าถามกลับพร้อมจ้องผ่านเข้าไปในดวงเนตรของอดีตหลานรักของเขา
    “...คงไม่มีวันหรอกท่าน”  องค์ราชันย์ตอบด้วยรอยยิ้มบางเบา  หากแต่ในใจเขาหดหู่ยิ่งนัก

    ใช่  ไม่มีวัน  ไม่มีวันที่เขาจะได้บอกหรอก  และต่อให้ได้บอกบุตรชายเพียงคนเดียวของเขาก็คงไม่รับเฉกเช่นเดียวกับคำว่า... ‘ขอโทษ’



.........................................................................



    “เหม่ออะไรอยู่ครับท่านอัลฟ่าร์”
    “มูน”
    “ท่านเหม่อแบบนี้มาหลายวันแล้วนะครับ”
    “...เหรอ”
    “ท่านไม่รู้ตัว?”
    “นั่นสินะ  ช่วงนี้ข้านอนไม่ค่อยหลับน่ะ”  อัลฟ่าร์ตอบพี่เลี้ยงพร้อมรอยยิ้มบางเบา  แต่ก็งดงามยิ่งนักสำหรับผู้พบเห็น
    “ท่านฝันร้ายหรือครับ?  งั้นเดี๋ยวข้า...”
    “ไม่ต้อง  มูนไม่ต้อง  ข้าคงเหนื่อยมากกว่า”

    มูนแสดงอาการเป็นห่วงออกมาอย่างชัดเจนพร้อมกับคิดว่า  หากเป็นเช่นนั้นเขาก็ควรไปตามเทพแห่งความฝันมาดูท่านอัลฟ่าร์เสียหน่อยแล้ว  หากแต่เพียงยังพูดไม่จบประโยคดีอัลฟ่าร์ก็ขัดเสียก่อน

    “ก็ท่านไม่ยอมพักบ้างเลยนี่นา  ปล่อยสายเวทฟื้นฟูทุกวันแบบนี้  ไม่ดีเลยนะครับ”

    สายเวทฟื้นฟู  คือ  พลังฟื้นฟูธรรมชาติซึ่งจะปล่อยหรือไม่ก็ได้  พลังนี้ไม่ได้เจาะจงว่าจะไปฟื้นฟูธรรมชาติที่ไหน  หากแต่ที่ใดทรุดโทรมมันก็จะไปฟื้นฟูที่นั่น

    “อืม  งั้นข้าไปพักก่อนดีกว่า”
    “พักยาวเลยนะครับ  นี่ก็ใกล้จะค่ำแล้ว”
    “.....”  อัลฟ่าร์เพียงส่งยิ้มหวานให้อย่างเดียว  ก่อนเดินเข้าห้องส่วนตัวไป

    มูนสายหน้าเล็กน้อยอย่างเอ็นดู  ในใจอยากดูแลจนเจ้าชายของเขาหลับเลยเสียด้วยซ้ำ  แต่เจ้าชายอัลฟ่าร์ค่อนข้างชอบความเป็นส่วนตัว  อีกทั้งหากไม่อยากทำอะไรเองก็เพียงใช้เวทมนต์เท่านั้นทุกอย่างก็เรียบร้อย  เขาจึงไม่เคยคัดค้างสิ่งที่อัลฟ่าร์ต้องการเลย

    เพียงก้าวเข้ามาในห้อง  ความรู้สึกวาบหวามก็ปะทุขึ้นมาในอกทันที  เขาไม่ได้ฝันร้ายและเขาก็ไม่ได้ว่าจะนอนไม่หลับอย่างที่บอกมูนไปเลยสักนิด  แต่ที่เหม่อนบ่อยๆโดยไม่รู้ตัวคงเป็นเพราะ....

    ...เขาฝัน...

    ...ฝันว่า...

    ...ได้ร่วมเพศกับบุรุษเพศด้วยกัน...

    ...โดยที่เขาเต็มใจด้วย....

    ...อีกทั้ง...

    ...เขาเรียกร้องมัน...

    ...เขาต้องการมัน...

    ...ช่างน่าอายเหลือเกิน....

    อัลฟ่าร์เดินตรงเข้าไปหาฮอค  อัลฟ่าร์ไม่เคยกักขังฮอคเลย  เขาปล่อยให้ฮอคมีอิสระเต็มที่และหากฮอคจะโผบินออกไปจากวังแห่งนี้เขาก็ไม่ว่าอะไร  แต่ฮอคก็อยู่แม้ขาของมันจะหายแล้วก็ตาม   อัลฟ่าร์โอบกอดฮอคเอาไว้แนบอก  แววตาสีเงินคู่สวยปรากฏความสับสนวุ่นวายใจอย่างเด่นชัด

    ตั้งแต่ถือกำเนิดมาไม่เคยเลยที่เขาจะรู้สึกวุ่นวายใจเช่นนี้  หากเปรียบเป็นมนุษย์ก็คงเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วัยรุ่นโดยมีพฤติกรรมบางอย่าง  ซึ่งก็คือพฤติกรรมทางเพศที่อยากรู้อยากลองของเพศชาย  อาจจะมีฝันเปียกและช่วยตัวเองและให้คนอื่นช่วยหรือมีเพศสัมพันธ์ไปเลย  แต่กับเขา...เกิดมาจนจะร้อยปีแล้ว  ทำไมพึ่งจะมามีอาการตอนนี้นะ  อีกอย่างพลังเวทของเขาก็ไม่ช่วยอะไรเลย

    “เฮ้อออ~”  คงได้แต่ทอดถอนหายใจ  หากจะช่วยเหลือตัวเองก็กระไรอยู่  ที่ทำได้ก็คงเป็นใช้พลังเวทค่อยๆปรับสภาพร่างกายที่มักจะตื่นตัวบ่อยๆให้เข้าสู่สภาวะปกติอย่างช้าๆเท่านั้น

    หากแต่อาการทั้งหลายของอัลฟ่าร์ก็อยู่ในสายตาของไคนาสในร่างของฮอคตลอดเวลา  ใช่ว่าจะมีแต่เจ้าชายแห่งเอลฟ์เท่านั้นที่มีอาการกระสับกระส่ายดังกล่าว  ตัวของไคนาสเองก็ไม่ต่างกัน  เขาต้องการ....

    ...ต้องการร่างงามตรงหน้าอย่างมาก....


    “อื้อออ~...อ่าส์~”  เสียงครางดังออกมาเป็นระลอกๆ  เทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้ารู้สึกพึงใจยิ่งนัก

    เขาดูดชิมไปตามเรือนร่างงดงามนั้นอย่างไม่อาจห้ามใจได้อีกแล้ว  บางอย่างทำให้เขาไม่ยั้งใจรออีกต่อไป  ไคนาสลูบไปตามใบหน้าหมดจดนั่นอย่างหลงใหล  ความต้องการเสพสุขฉายชัดในแววตาสีทองอร่าม  บางอย่างบอกเขาว่าเจ้าชายแสนงามใต้ร่างนี้พร้อมแล้วสำหรับเขา  แน่นอนว่าไคนาสก็ไม่ลังเลใจที่จะรวมร่างกับเจ้าชายแห่งเอลฟ์

    ไม่นาน....ไคนาสก็ปลดเปลื้องอาภรณ์ของทั้งเขาและอัลฟ่าร์ออกจนหมด  ร่างสีขาวอมชมพูงดงามดั่งซากุระบาน  ผิวกายเรียบเนียนนุ่มดั่งแพรไหม  เรือนร่างผ่องใสเรือนแสงเล็กน้อย

    ...งดงาม...

    ...งดงามอย่างที่สุด...

    เห็นเช่นนั้นไคนาสไม่ลังเลเลยที่จะกางอาณาเขตกั้นอาณาบริเวณห้องแห่งนี้เอาไว้ทันที  ดูเหมือนร่างงดงามนี้จะเริ่มส่งกลิ่นเย้ายวนใจมากขึ้นแล้ว  ไคนาสลูบอย่างเสน่หาไปตามเรือนร่างงามนั้น  ถึงตอนนี้เขาก็จงใจให้สัมผัสเหล่านั้นมีผลต่อสติของเจ้าชายแห่งเอลฟ์ทันที  นั่นเพราะก่อนหน้านี้เขาจะใช้เวททำให้อัลฟ่าร์รู้สึกเพียงว่าตนเองกำลังฝันไปเท่านั้น

    เปลือกตาคู่สวยค่อยๆปรือขึ้นมา  ดวงตาสีเงินสบเข้ากับดวงเนตรสีทองอร่ามและมันก็เหมือนถูกตรึงอยู่อย่างนั้น  อัลฟ่าร์ไม่อาจละจากสายตาคู่นั้นได้  และตอนนี้เขาก็มีอาการหายใจติดขาดเพราะแรงอารมณ์ทางเพศรส  เทพหนุ่มพึงใจยิ่งนักกับปฎิกิริยาดังกล่าว 


    “แฮ่ก...แฮ่ก...ฮ่า~” 

    เหมือนจะมีสติ  แต่อัลฟ่าร์กลับรู้สึกว่าตัวเองกำลังฝัน  แม้ความฝันในคืนนี้จะชัดเจนในรสสัมผัสมากเพียงใดก็ตาม  อัลฟ่าร์ก็ยังคงคิดว่าตนเองกำลังฝัน  ความรู้สึกล่องลอยไปในเมฆหมอก  เย้ายวนรัญจวนใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน  และอาการกระสันอยากก็บิดรัดความต้องการเติมเต็มบางอย่างจากเจ้าของแววตาสีทอง  อัลฟ่าร์รู้สึกว่าต้องเป็นบุคคลนี้เท่านั้น...ที่จะเติมเต็มเขาได้  แม้นี่จะเป็นเพียงความฝันก็ตาม

     ใช่...อัลฟ่าร์คิดว่าตนเองกำลังฝัน  ฝันเดิมๆดังเช่นทุกค่ำคืน  ฝันถึงสัมผัสอันเย้ายวนใจจากบุรุษเพศคนนั้น  แม้ตอนนี้เขาจะกำลังรับรู้ถึงความเร่าร้อนนั้นอย่างชัดเจนมากก็ตาม  นั่นเพราะอัลฟ่าร์เป็นผู้ที่มีเวทมนต์สูง  และสูงมากที่สุดตั้งแต่เอลฟ์ถือกำเนิด  แต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีผู้ที่สามารถต่อกรได้  ยิ่งในภาวะหลับใหลเช่นนี้การป้องกันตัวยิ่งลดลง  อีกทั้ง...เป็นตัวอัลฟ่าร์เองที่เปิดรับสัมผัสอันเย้ายวนจะเทพแห่งท้องฟ้าและสายฟ้า

    “อ่าส์~  อื้มมม...”  เจ้าชายแห่งเอลฟ์ครางเบาๆอย่างพึงพอใจกับสัมผัสที่ได้รับ  นั่นยังไม่พออัลฟ่าร์เอื้อมมือขึ้นไปโอบกอดร่างสง่างามตรงหน้าอย่างบรรเทาอาการกระสันอยาก 

    ช่างน่าเสียดาย  ไม่รู้ว่านี่จะเป็นฝันดีหรือฝันร้ายกัน  แต่การที่เขาได้เห็นใบหน้าผู้ที่ร่วมรักเสพสุขกับเขาทุกค่ำคืนเช่นนี้...ช่างสุขเสียจริง  บุรุษรูปงาม  งามนัก  งามทั้งรูปร่างหน้าตา  บุคลิกเท่าที่เห็นได้จากแสงดาวช่างสง่างามอย่างหาที่ติมิได้  เพียงเท่านี้อัลฟ่าร์ก็มั่นใจได้ว่าบุคคลที่คร่อมทาบทับร่างเขาอยู่นั้นเป็นเทพ.... 

    ...เทพที่งามยิ่งกว่าเทพ...

    การเล้าโลมยังคงมีอย่างต่อเนื่อง  ทั้งอัลฟ่าร์และไคนาสได้ตกลงสู่ห้วงแห่งราคะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เทพหนุ่มรูปงามลูบไล้อย่างแผ่วเบาไปตามเรือนร่างเรือนแสงบางเบานั้น  ดวงเนตรสีทองอร่ามดั่งดวงตะวันยังคงตรึงดวงตาสีเงินหยาดเยิ้มนั้นเอาไว้เช่นเดิม  อัลฟ่าร์กระตุกเล็กน้อยและเขาก็ไม่อาจยั้งใจไหวอีกต่อไป  อัลฟ่าร์เอื้อมมือลูบไปตามเรือนร่างอันสง่างามของอีกฝ่ายเช่นกัน  ไคนาสยิ้มอย่างทรงเสน่ห์อดใจไม่ไหวที่จะก้มลงไปจุมพิตอย่างแผ่วเบาดั่งสัมผัสปีกฝีเสื้อ      

    ...กลีบปากของทั้งคู่ค่อยๆสัมผัสกัน...

    ...แผ่วเบา...

    ...นุ่มนวล...

    ดวงเนตรสีทองดั่งดวงอาทิตย์ส่งผ่านความเร่าร้อนไปสู่ดวงตาสีเงินเย้ายวนคู่สวย  ไม่จำต้องมีคำพูดใดเอื้องเอ่ย  เพียงปฎิกิริยาทางร่างกายทั้งคู่ก็รับรู้ว่า...

    ...ต่างต้องการกันและกันมากเพียงใด...

   จากบางเบา...ไคนาสก็ค่อยๆไล้ลิ้นไปตามกลีบปากบางก่อนจะค่อยๆสอดแทรกลิ้นร้อนของตนเข้าไปในโพลงปากน้อยนั้น

    ...หวาน...

    ...หวานยิ่งกว่าน้ำผึ้งเดือนห้าที่ผู้คนต่างชื่นชมเสียอีก....

    ตลอดหลายวันที่ผ่านมา  เขาเพียงสัมผัสแต่ภายนอก  ไม่ผิดหวังเลยจริงๆที่ได้ลิ้มลอง




TBC



ตอนต่อฟินกว่านี้อีก
ฮ่าส์~~~~..........

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะจ้าาาาาา
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 23-03-2014 11:08:23
ไคนาสนี่ตอดเล็กตอดน้อยตลอด 555
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: Zelsy ที่ 23-03-2014 11:20:13
ตอดเล็กตอดน้อยตอดตลอด :hao7:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 23-03-2014 13:39:09
แบบนี้เค้าเรียกลักหลับหรือเปล่าเนี่ยไคนาวจ๋า  :hao6:
เล่นตอดเล็กตอดน้อยเนี่ย  :impress2:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: cinquain ที่ 23-03-2014 14:20:58
อัลฟ่าร์มีเวทย์ขั้นสูงแต่ทำไมไม่รู้ว่าฝันหรือของจริง?
หรือไคนาสร่ายมนต์ไว้? -- แค่สงสัยเฉยๆค่ะ ^^
ทั้งหมดทั้งมวลไคนาสกำไรล้วนๆ ><
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: Lemon_Tea ที่ 23-03-2014 17:27:30
ไคนาสแอบลักหลับรึ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: pare_140 ที่ 23-03-2014 19:12:46
บางครั้งมันก็งงๆ แบบตัดไปตัดมาละมั้ง5555

แต่เนื้อเรื่องสนุกดีค่าา จะติดตามน้ะค่ะ o13
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 23-03-2014 22:36:20
ไคนาสนี่ ทำเอาอัลฟาร์หื่นตาม
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: Inwoสูs ที่ 24-03-2014 01:02:05
มาแ้ล้วๆ อดีตที่แสนสวยงาม ฮิ้วว  o13
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: HISY ที่ 24-03-2014 01:18:23
 :pighaun: ค้างเจ้าค่าาาา
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: Maxshu ที่ 24-03-2014 02:20:31
ลักหลับหรา อิอิ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 25-03-2014 01:11:27
ว้ายยยย อิอิ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: Cockroach ที่ 27-03-2014 00:14:45
มาอัพแล้ววว ตอนนี้เจ๊ฟินนนน :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: pachth ที่ 27-03-2014 19:51:38
อ๊าย ตอนต่อไปนี่คงฟินตายไปข้างนึง
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 22-08-2014 20:20:38
จูบเล้ย เอ้ยยย จีบเลยๆ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: pulove2534 ที่ 14-09-2014 20:36:26
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 28-09-2014 16:48:19
พึ่งเข้ามาอ่าน
มีสามคำอยากบอกกับคนเขียน
ค้าง! อย่าง! แรง!
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: junpa ที่ 28-09-2014 17:40:57
ย ย ย ยังรออยู่น้า เมื่อไหร่จะมาต่ออ่า
 :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: samsui ที่ 06-10-2014 16:24:42
 :katai1: :katai1: ตอนต่อไปเมื่อไหร่จะมาน้อ ยังรออยู่นะครับ  :oo1: :oo1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: Apple_matinie ที่ 07-10-2014 22:52:52
มาอัพเถอะน้าาาาาา
พลีสสส
เรื่องนี้สนุกมากๆ :hao5:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 18-02-2015 17:36:31
 :z1: :z1: :z1: :z1: :heaven :heaven :heaven :pighaun: :pighaun: :pighaun:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: Blue ที่ 24-02-2015 16:54:12
 :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :z1: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: padloms ที่ 04-03-2015 18:54:15
รอฟินต่อฮะ  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: แฟนตาเซีย ที่ 14-04-2015 13:45:21
 :m25: :m25:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: okuni4734 ที่ 05-06-2015 16:00:15
เอ่อออออ คืออออออ
มันค้างอ่ะครับ มาต่อเร็วๆนะครับ รออ่านเสมอ...
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: tsubasa_6927 ที่ 02-07-2015 23:38:24
โฮวววววววว ตัดได้ค้างมากมาย :katai1:
แถมคนเขียนไม่มาต่อเลย ฤๅเรื่องนี้จะถูกดอง?
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: TiwAmp_90 ที่ 03-07-2015 23:12:17
 :hao5:
ค้าง! <<< อารมณ์นี้เลย
มาต่อไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: Sorso ที่ 15-01-2016 15:07:29
เสียดายเรื่องนี้ คนแต่งหายยยยย
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: love noon ที่ 09-02-2016 12:48:27
กลับมาเหอะ รับรอง ทุกคนยินดีต้อนรับ
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: M_mA ที่ 10-02-2016 23:09:37
กลับมาเถอะนะค่ะ  กลับมาาาาาาๆๆๆๆ  :z3:  :hao7:
คนอ่านสติแตกแล้วคร้าาาาา  :serius2:  :m31:
หัวข้อ: Re: ^____^ Love Devil รักร้ายเทพอสูร ^____^ UP ตอนที่ 10 จิตผูกพัน 23/3/57
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 24-12-2017 19:58:35
รอ  :ling1: :ling1: :ling1: