ตอนที่ 27ผมจำได้ว่าในวันนั้น...กลับมาถึงบ้านเอาแต่ตัวสั่น หน้าซีด เห็นพี่เท็นกำลังยืนเอาฟางข้าวใส่รางให้ไอ้จิ๊บกับไอ้เจี๊ยบก็รีบเข้าไปกอดเขาไว้ทันที
'เจอผีมาไงวะ ไป ขึ้นไปอาบน้ำ แล้วเดี๋ยวไปซื้ออาหารไก่มาให้ไอ้เจมที่สองด้วย'
น่าแปลก...ที่อะไรหลายๆ อย่างยังคงปกติ ไอ้จิ๊บไอ้เจี๊ยบก็ยังเคี้ยวฟางข้าวตามเดิม ไอ้เจมที่สองก็ยังวิ่งพล่านอยู่รอบๆ และพี่เท็นก็ยังเป็นผู้ชายที่เก่งเรื่องออกคำสั่งเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลย...โลกของผมไม่ได้ถล่มลงมาเสียหน่อยเมื่อเจอเขา
ผม...ก็แค่...คิดไปเองว่ามันจะบิดเบี้ยวไป
จากวันนั้นผมก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย จะเรียกว่าโชคดีก็คงใช่
'เจอแล้วทำไมวะ? เขาจะฆ่ามึงรึไง ไม่ต้องกลัว มึงก็คนเขาก็คน ไว้มันมีเขางอกเมื่อไหร่ กูอนุญาตให้วิ่งหนี ถ้ายังกลัวอยู่อย่างนี้ มึงไม่มีทางกลับไปเรียนได้หรอก จะทิ้งอนาคตเพราะเหี้ยตัวเดียวหรือไง เดี๋ยวพ่อถีบตกบันได'
ผมหัวเราะแล้วรีบกระโดดหลบฝ่าตีนของพี่เท็น มันก็แค่ความกลัวที่จะเจอกันครั้งแรกหลังจากที่จบกันได้ไม่ดีต่างหาก เพราะส่วนตัวแล้วผมเป็นประเภทที่ไม่ค่อยอยากเจอคนที่เคยมีเรื่องกันเท่าไหร่ เห็นแล้วอึดอัดใจ ไม่สบายใจ ไม่อยากอยู่ใกล้อะไรอย่างนั้น
วันนี้ผมอยู่บ้านกับป้าเนียมสองคน เดือนพฤษภาคมมาถึงไวอย่างกะเรื่องโกหก พี่เท็นตอนนี้ไม่รู้ไปอาร์ตอยู่ที่ไหน เห็นบอกว่าไปตามหาแรงบันดาลใจ แต่ก็หายไปแล้วสองวัน ผมโทรรายงานพี่เมลเรียบร้อยแล้ว
วันเวลาผ่านไปรวดเร็วมากในความคิดของผม หรืออาจจะเป็นเพราะช่วงเวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วก็ไม่รู้ ผมอยู่ที่นี่ ผูกพันกับที่นี่มากขึ้นเรื่อยๆ จนบางทีก็คิดว่าย้ายมาเรียนที่นี่ดีมั้ย แต่ถ้าอย่างนั้น...ก็ต้องซิ่วมาเริ่มปีหนึ่งใหม่อยู่ดี ซึ่งพี่เท็นถีบผมตกเก้าอี้หวายไปหนึ่งทีพร้อมกับบอกว่าเสียเวลา ก็จริงอยู่หรอก แต่ก็ไม่อยากกลับไปเรียนนี่นา ผมไปแล้วใครจะช่วยป้าเนียมเก็บผักไปขาย ไหนจะต้องรดน้ำ ใส่ปุ๋ยคอก กำจัดวัชพืช ขึ้นแปลงใหม่ ลุงชิดไม่ได้อยู่ด้วยตลอด เพราะบางทีก็ลงกรุงเทพพร้อมพี่เท็น ไหนจะไอ้จิ๊บ ไอ้เจี๊ยบ แล้วก็ไอ้เจมที่สองเพื่อนยากของผมอีกล่ะ ผมจะทิ้งมันลงได้ยังไง
ผมได้มีความทรงจำดีๆ ระหว่างที่อยู่ที่นี่ไปแล้ว พี่เมลมาที่นี่ตอนลอยกระทง พวกเราพากันไปลอยที่กว๊านครับ ได้ดูขบวนแห่กระทงด้วย พี่เมลใจดีมาก เลี้ยงขนมผมหลายอย่าง อยากกินอะไรแค่บอกอ่ะ พี่เมลซัพพอร์ตเต็มที่ แถมยังได้เล่นปาลูกโป่ง ยิงเป้า บิงโก เยอะแยะเลย แล้วท่านพี่เทพเท็นยังปาแม่นได้ตุ๊กตามาหลายตัว ตอนนี้นอนกองกันอยู่ในห้องผมทุกตัวเลยด้วย คุณปาล์มถึงจะหน้าหงิกหน่อยแต่ก็สนุกไปด้วยกัน เป็นปีแรกเลยก็ว่าได้ที่ผมได้ลอยกระทงกับคนอื่นๆ อย่างนี้ แถมยังได้ปล่อยโคมด้วย
“ป้าเนียมมมมมมม ปลื้มเอาขนมไปส่งมาแล้วววว พี่แยมใจดีให้กระเจี๊ยบมาด้วยอ่ะะะ เราทำน้ำกระเจี๊ยบกันนะป้า”
ผมร้องบอกป้าเนียมอย่างตื่นเต้น คนที่นี่ใจดีมาก มีอะไรแบ่งปันกันตลอดเลย ผมเพิ่งเอาทองหยิบทองหยอด ฝอยทอง หม้อแกง ลูกชุบ ไปส่งให้กับพี่แยมที่ร้าน เป็นขนมที่ป้าเนียมทำเองและรับรองความอร่อยขนาดพี่เท็นที่กินยากยังต้องเอ่ยปากชม
“จ้าาา อย่าวิ่งบนเรือนนะลูก มันไม่ดี”
“คร้าบบบบ ^O^”
“งั้นเดี๋ยวเราทำวุ้นใบเตยกันด้วยดีมั้ย คุณเท็นกลับมาจะได้มีของหวานๆ ไว้กินให้หายเหนื่อย”
“ดีครับป้า งั้นเดี๋ยวปลื้มไปตัดใบเตยมาให้เอง”
ผมชอบเข้าครัวกับป้าเนียม สนุกเพราะได้ลองทำนั่นทำนี่ ตอนนี้ผมทำเป็นหลายอย่างแล้ว แถมยังอร่อยด้วย พี่เท็นให้ทิปหลายครั้งเลยนะจะบอกให้
ผมเดินไปตัดใบเตยที่หลังบ้าน ลุงชิดที่กำลังอาบน้ำให้ไอ้เจมที่สองอยู่ส่งเสียงทักทาย ผมทักตอบกลับไปก่อนจะบอกให้ลุงชิดเตรียมตัวกินวุ้นใบเตยกับน้ำกระเจี๊ยบที่ผมกับป้าเนียมกำลังทำ ส่วนใหญ่พวกเราอยู่กันสามคน ถึงจะไม่ใช่ญาติหรือคนในครอบครัว แต่ผมรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นมาจากทั้งป้าเนียมและลุงชิด ทั้งสองคนดูแลผม เป็นห่วงผมราวกับผมเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
“เดี๋ยวน้องปลื้มก็ต้องกลับไปเรียนแล้ว อย่าลืมคิดถึงป้าบ้างนะคะ”
“ไม่ลืมครับ ปลื้มจะโทรมาหาป้าเนียมทุกวันเลย แต่ต้องรอให้ปลื้มมีเงินซื้อมือถือก่อนนะ ^^”
“จ้าาา ปิดเทอมก็มาหาป้าบ้างนะลูก”
“รับรองเลย”
ผมยิ้มกว้างๆ ให้ป้าก่อนจะตั้งใจขูดมะพร้าวต่อ
“ปลื้มมมมมมมมมมมมมมมมมม ปลื้มมมมม อยู่มั้ยยยยย” เสียงคุณปาล์มตะโกนโหวกเหวกอยู่หน้าบ้าน
“อยู่ครับบบบบบบบบบบ คุณปาล์มมีอะไร ผมอยู่ในครัวนี่ ขึ้นมาๆๆ”
แล้วก็ได้ยินเสียงตึงตังสักพักก่อนหน้าตี๋ๆ ของคุณปาล์มจะโผล่มาที่ประตูห้องครัว
“พี่เท็นกลับมายัง”
“ยังเลย”
“เราไม่ต้องไปแจ้งความคนหายเหรอ”
“ไม่ต้องหรอก พี่เมลบอกว่าเดี๋ยวก็กลับมาเอง เห็นว่าส่งข้อความไปบอกพี่เมลแล้วว่าอยู่แม่ฮ่องสอน”
“นี่เขาไม่คิดจะบอกพวกเราเลยเหรอ”
“เอาน่าๆ มาช่วยกันทำวุ้นใบเตยดีกว่า”
“เซ็งเลย ทำไมเป็นคนแบบนี้เนี่ย”
คุณปาล์มบ่นต่อไปอีกหลายนาที ก่อนจะโดนผมตบหัวไปสองทีติดนั่นแหละเขาถึงจะหยุดพูด
“ทำอาหารเขาห้ามบ่น เข้าใจมั้ย”
“อะไรเนี่ย เดี๋ยวนี้ทำไมชอบใช้กำลัง”
“ก็คุณปาล์มพูดไม่รู้เรื่องนี่นา เดี๋ยวพี่เท็นก็มาแล้ว พูดมากอยู่ได้”
“ปลื้มใจร้าย”
ผมมองคุณปาล์มดีดดิ้นอย่างรับไม่ได้ เข้าใจเลยว่าทำไมพี่เท็นถึงชอบถีบเขา ก็เพราะเขาเป็นแบบนี้ไง -_- บ้าบอจริงๆ
“แล้วนี่จะกลับวันไหนอ่ะ ปลื้มไปผมก็เหงาแย่เลย”
“วันที่ 18 มั้ง พี่เมลจะมารับ ต้องไปทำเรื่องอะไรก่อนอ่ะ ยังไม่รู้เลยว่าต้องทำเรื่องอะไรบ้าง”
“อือ ไว้ถ้ากลับบ้านผมจะตีตั๋วไปหานะ”
“ได้เลยๆ งั้นถ้าได้หอแล้วจะส่งที่อยู่มาให้”
“ตามนั้นๆ อยากไปเห็นมหาลัยของพี่เท็น อิอิ”
“จะฟ้องพี่เมล”
“ฟ้องเลยๆ ไม่กลัวหรอก”
คุณปาล์มนี่ปากดีจริงๆ พูดมาได้ว่าไม่กลัว แต่ตอนอยู่กับพี่เมลนะ นอบน้อมตลอด พี่เมลใจดีก็จริงนะครับแต่แกก็หวงแฟนเข้าขั้นบ้าอ่ะ ไม่บ้าธรรมดานะ บ้ามากเลยด้วย แต่ผมก็ไม่แปลกใจนะ ก็พี่เท็นออกจะ..เข้าใจยากอย่างนั้น ถ้าไม่อาศัยความเชื่อใจนี่ผมว่าคงได้ตีกันไปหลายรอบ ก็ทั้งรอยยิ้มทั้งสายตาของพี่เขานี่เดาไม่ออกเลยว่าอยากจะฟีชเจอริ่งกับใครบ้าง -_-
“วันนี้ไปหลักหลวงป่ะ ผมนัดกับเพื่อนๆ ไว้ ไปส่งท้ายก่อนปลื้มกลับก็ยังดีอ่ะ”
หลักหลวงเป็นร้านเหล้าแถวมหาลัยที่คุณปาล์มเรียนอยู่ บรรยากาศดีมากครับ ร้านตั้งอยู่บนเนิน ผมเคยไปกับคุณปาล์มและพี่เท็นมาสองครั้ง เหล้าปั่นเป็นอะไรที่ผมชอบมาก กินแล้วลื่น พลิ้ว เข้าถึงฟิลได้สุดๆ แต่ช่วงนี้ไม่ได้ไปเพราะครั้งล่าสุดท่านพี่เทพเท็นไปต่อยปากเด็กนิติโต๊ะข้างกันที่พอเมาแล้วเริ่มปากหมา แซวว่าหน้าสวยไม่หยุด ตุ๊ดบ้างล่ะ เป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา ผมจำเหตุการณ์ชุลมุนตอนนั้นไม่ได้มาก แต่จำได้ว่าเอาถังน้ำแข็งฟาดใครไม่รู้ไปสองที แล้วก็รีบชิ่งหนีกันมา ฮ่าๆๆๆ มาถึงบ้านนี่แต่ละคนสภาพเหมือนไปฟัดกับหมา มีพี่เท็นคนเดียวที่ไร้รอยขีดข่วน พี่เมลโทรทางไกลมาอบรมผมหลังจากรู้เรื่องเลยครับ ก็มือมันไปเอง ไอ้เวรนั่นอยากมาหาเรื่องพี่ชายผมก่อนทำไม ถ้าพี่เมลอยู่นะไอ้นั่นได้เลือดอาบไปข้างแน่อ่ะ กล้ามาลบหลู่เมียเขา -_-
“ไปๆ แต่รอพี่เท็นมาก่อน”
“โอเค สักสามทุ่มจะให้เพื่อนไปจองโต๊ะไว้ให้”
“เออๆ”
ผมไม่รู้ว่าชีวิตผมเปลี่ยนไปแค่ไหน หรืออาจจะไม่ได้เปลี่ยนไปเลย แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมรู้...คือตอนนี้ ผมก็ยิ้มกว้างๆ ได้เหมือนคนอื่นๆ ที่เขามีความสุขกับชีวิตได้เหมือนกัน ^_^
.
.
.
“แล้วปลื้มจะคิดถึงป้า จะคิดถึงให้มากๆ เลย ลุงชิดด้วยนะครับ”
“โชคดีนะลูก ขับรถดีๆ นะคะคุณเมล ถ้าง่วงถ้าเหนื่อยก็พัก อย่าฝืนขับต่อนะคะ” ป้าเนียมกอดผมแล้วหันไปคุยกับพี่เมล ส่วนพี่เท็นกำลังร่ำลาไอ้จิ๊บไอ้เจี๊ยบและไอ้เจมที่สองอยู่อีกมุมหนึ่ง
“ครับป้า ไม่ต้องห่วงครับ ไว้พวกผมถึงกรุงเทพแล้วจะโทรมาบอกนะครับ ขอบคุณมากๆ ที่หลายเดือนมานี้ดูแลน้องปลื้มให้เป็นอย่างดี ขอบคุณจริงๆ ครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ น้องปลื้มก็เหมือนเป็นลูกเป็นหลานของป้า”
พี่เมลยกมือไหว้ป้าเนียม ก่อนจะยื่นมือมาขยี้หัวผม ผมยิ้มรับก่อนจะเอาย่ามตัวเองไปเก็บไว้ที่ท้ายรถพร้อมกับอาหาร ขนม ของกินหลายๆ อย่างที่ป้าเนียมเตรียมไว้ให้
พี่เท็นลาลุงชิดกับป้าเนียมแล้วพวกเราก็ขับรถออกมา ผมไม่ได้กังวลอีกแล้วกับการที่จะกลับไปกรุงเทพครั้งนี้ เพราะผมรู้ว่าจะต้องทำยังไงหากต้องเผชิญหน้ากับหลายๆ อย่างที่กำลังจะเจอ...
ผมก็แค่...ใช้ชีวิตของผมให้ดีที่สุดต่อไป...มันก็แค่นั้นเอง
พวกเราสามคนผลัดเปลี่ยนกันขับอย่างที่ไม่ได้ลงมติแต่พี่เท็นออกความเห็นก็ต้องเป็นตามนั้น อีกอย่างผมคิดแล้วว่าพี่เมลคงขับคนเดียวไม่ไหว ระยะทางมันไกลเกินไป ไม่ให้คนขับพักบ้างอาจมีวูบไปฟีชเจอริ่งกับรถคันอื่นได้ แวะกินข้าวที่พิษณุโลก พี่เมลซื้อของฝากกลับไปให้เพื่อนๆ ของเขาจนพี่เท็นต้องรีบเบรกเพราะซื้อมากไปหิ้วกลับไม่ไหว
“คิดไว้รึยังว่าจะให้พวกกูไปส่งที่ไหน” พี่เท็นถาม นิ้วเรียวยาวกำลังกดเล่นเกมใน PSP เหมือนไม่สนใจเอาคำตอบ แต่ผมรู้ว่าเขากำลังรอฟังอยู่
“คิดไว้แล้วครับ”
“ที่ไหน?”
“ช่วยไปส่งผมที่บ้านด้วยครับพี่”
“โอเค จัดไปตามนั้น ได้ยินใช่มั้ยที่รัก”
“ครับผม ^_^”
มันไม่ใช่ว่าถึงเวลาที่ผมควรจะทำ แต่ผมก็แค่...อยากกลับไป กลับไปบ้านที่ผมไม่ได้ไปมาตลอดสองปี สองปี...มันน่าใจหายที่ผมปล่อยให้มันผ่านมานานขนาดนี้ตั้งแต่ผมหันหลังเดินจากมา พ่อจะยังโกรธในสิ่งที่ผมทำลงไปอยู่ไหม แล้วแม่...จะยังอยากพบผมอยู่รึเปล่า ผมไม่รู้เลย
แต่ตอนนี้...สองคนแรกที่ผมอยากเจอไม่ใช่ใครเลยนอกจาก พ่อกับแม่...
.........................................To be continue.........................................
มาช้าไป วันนี้วุ่นวายมาก รถไฟฟ้าคนโคตรแน่น ไม่รู้จักกันยังต้องยืนหน้าแทบสิงกัน 
ขอบคุณสำหรับการรอคอย 
พรุ่งนี้ก็อาจจะมาช้า แล้วแต่ระยะเวลาเดินทาง กว่าจะกลับถึงห้อง เพลีย 
เริ่มเบื่อกันรึยังคะ ให้มันเรียบๆ ไปก่อนละกันเน้อ คนเขียนเหนื่อยใจอยู่

คืนนี้ฝันดีนะ 
ปล. วันนี้วันเกิดคิมจงไค ไหน ใครว่าไคดำ
ก็ดำจริงๆ ก๊ากกก เขาเรียกเซ็กซี่ป้ะ??
ปล2. เสี่ยโปรดนี่มองข้างหลังเหมือนเฮียคริสเด้ะเลยนะ แต่ข้างหน้าไม่ใช่ อิอิ ก็เฮียมีเงิงอ่าาาา