ใครไม่ชอบอ่านข้ามไปเลยก็ได้นะคะ ตอนนี้ก็เรื่อยๆ เหมือนเดิม
ตอนที่ 14สัปดาห์สอบไฟนอลผ่านพ้นไปอย่างลำบากยากเย็นเพราะผมไม่ค่อยมีสมาธิเท่าไหร่ ใจมันคอยแต่จะห่วงผู้ชายร่วมห้องที่เดี๋ยวนี้เจอหน้ากันแทบนับครั้งได้ เวลาเราไม่ตรงกันเลย พี่โปรดสอบเสร็จก็ไปติวหนังสือกับเพื่อนต่อ กลับมาห้องช่วงกลางวันก็แค่แวะมาเอาหนังสือ แล้วกว่าจะกลับมานอนก็ดึกมากซึ่งก็เป็นเวลาที่ผมหลับไปแล้วด้วย ผมสอบเสร็จมาสามวันแล้วแต่พี่โปรดยังคงวุ่นวายกับการอ่านหนังสือ ท่องนั่นนี่ไม่เลิก เราคุยกันน้อยลงซึ่งผมก็พยายามเข้าใจแต่ก็อดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้ ดีหน่อยที่มีโปรเจ็คตัวสุดท้ายต้องนำเสนอ ผมเลยไม่มีเวลาไปฟุ้งซ่านกับเรื่องของพี่โปรดมากนัก
“ใส่ JK ฟลิ๊บฟลอบไปตรงนี้อีกสองตัวก็น่าจะโอเค” ผมบอกคุณเปรมที่ขะมักเขม้นกับบอร์ดวงจรตรงหน้า
“อือ เดี๋ยวจัดการให้ มึงพิมพ์รายงานไป” คุณเปรมบอกก่อนจะเดินไปที่ตู้เก็บอุปกรณ์ ผมเลยหันกลับมาจัดการทำรูปเล่มต่อ เป็นธรรมดาที่ตัวชิ้นงานกับรายงานเป็นของคู่กัน ผมกับคุณเปรมเลยแบ่งหน้าที่การทำงานอย่างชัดเจน
ครืด...ครืด...ครืด
แค่เห็นรูปที่แสดงพร้อมชื่อผู้โทรผมก็รีบรับสายทันที
“ครับ”
“กินไรยัง” ผมดีใจที่พักหลังๆ พี่โปรดจะถามด้วยเสียงเป็นห่วงอย่างนี้เสมอ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ชอบทำเสียงเข้มถามว่า ‘อยู่ไหน’ มาก่อนตลอด อันนั้นมันให้ความรู้สึกเหมือนผมกำลังหนีเที่ยวอย่างไรชอบกล
“กินขนมไปแล้ว พี่โปรดล่ะครับ”
“ยัง เพิ่งออกห้องสอบ”
“แล้วจะไปไหนต่อ คืนนี้กลับดึกอีกมั้ย”
“ไม่แน่ใจ”
เป็นคำตอบที่น่าผิดหวังจังเลยนะครับ
“ปลื้ม ทำไมเงียบไป เป็นไรรึเปล่า”
“เปล่าครับ พี่โปรดอย่าลืมหาอะไรกินด้วย ปลื้มทำงานต่อแล้วนะครับ”
เฮ้อ รู้สึกเซ็งขึ้นมาทันที วันนี้ก็จะไม่ได้เจออีกแล้วเหรอ ไม่สิ ถ้าคืนนี้ผมถ่างตานอนดึกได้อาจจะได้เจอ เอาอย่างนี้ละกัน ไหนๆ ก็ไม่ต้องตื่นเช้ามาเรียนแล้ว
“เป็นไรวะมึง เห็นช่วงนี้ซึมๆ” คุณเปรมที่นั่งลงข้างๆ ถามพลางใช้มือแตะหน้าผากผม “หรือไม่สบาย?”
“ผมไม่ได้ป่วยหรอกครับ”
“อืม” พยักหน้าแล้วหันไปสนใจงานต่อ “มีไรไม่สบายใจก็บอกกูละกัน”
“ใจดีจังเลยนะครับ”
“ก็เพื่อนกันนี่หว่า”
ผมยิ้มกับคำตอบของคุณเปรมแล้วเริ่มทำลายวงจรต่อ ตอนนี้สี่โมงเย็นทั้งเพื่อนทั้งรุ่นพี่ยังอยู่กันเต็มห้อง ที่นี่คือห้องแล็ปของภาคเปิดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเหมือนเซเว่นเลยครับ พวกผมเลยมาทำงานที่นี่กันบ่อยๆ เพราะมีอุปกรณ์ให้ลองเพียบ
“เออ ไอ้ปลื้ม ไอ้ติ๊กโทรหามึงบ้างป่ะวะ”
“ก็ไม่นี่ครับ มีอะไรงั้นเหรอ”
พักหลังมานี้ผมไม่ค่อยเจอคุณติ๊กเลยครับ เฟซไม่ออน ไลน์ไม่มีตอบ โทรหาไม่ติด เหมือนเขาหายสาบสูญไปจากโลกใบนี้ แต่ความจริงยังอยู่ครับ อาจจะเพราะช่วงสอบไฟนอลด้วยมั้งเลยยุ่งๆ กัน
“ไม่มีไรหรอก ช่างเถอะ เดี๋ยวเสร็จแล้วไปกินข้าวกัน” คุณเปรมเปลี่ยนเรื่องไปซะอย่างนั้น ผมเลยไม่ถามอะไรต่ออีก
รายงานเสร็จแต่ตัวงานยังเหลืออีกนิดหน่อย คุณเปรมบอกจะเอากลับไปทำที่คอนโดฯ ผมก็เลยอาสาจะไปช่วยด้วย เพราะอย่างนั้นหลังจากกินข้าวที่โรงอาหารคณะแล้วผมก็ติดรถคุณเปรมกลับคอนโดฯ กว่าจะทำงานเสร็จก็ปาไปห้าทุ่มแล้ว กำลังเก็บของกลับห้องก็พอดีกับที่คุณติ๊กโทรเข้ามา
“ปลื้ม ว่างป่าววะ ออกไปกินเหล้ากับกูหน่อย เดี๋ยวไปรับ” ให้ผมพูดสวัสดีก่อนเถอะครับ -_-
“ว่างครับ ตอนนี้ผมอยู่คอนโดคุณเปรม มาทำงานกัน แต่เสร็จแล้ว ไปได้”
“เจ๋ง! เดี๋ยวกูไปรับพวกมึง ลงมารอที่ล็อบบี้คอนโดได้เลย”
“แต่ผมไม่รู้ว่าคุณเปรมจะไปด้วยรึเปล่านะครับ ตอนนี้เขาอาบน้ำอยู่”
“มันไปอยู่แล้วล่ะ บอกว่ากูชวน แค่นี้นะมึง ไฟเขียวแล้ว”
พอคุณเปรมออกมาจากห้องน้ำ ผมก็จัดแจงบอกคุณเปรมตามที่คุณติ๊กสั่งไว้ทันทีและก็ตามคาดคือคุณเปรมระริกระรี้เข้าไปแต่งองค์ทรงเครื่องใหม่พร้อมออกสนามรบ แค่ไปกินเหล้าต้องแต่งตัวเว่อขนาดนี้เลยเหรอครับ ร้านที่จะไปก็แถวหลังมอนี่เอง จะแต่งไปอวดใคร -*-
“โทรบอกพี่โปรดก่อนมั้ย เดี๋ยวองค์ลงแล้วมึงจะซวย” คุณเปรมแนะนำเมื่อผมกับเขานั่งรอคุณติ๊กกันที่ล็อบบี้คอนโดฯ
“ผมไลน์ไปบอกแล้วครับ” กลัวโทรไปแล้วพี่โปรดกำลังติวหนังสือ จะกวนพี่เขาเปล่าๆ
“อือ ดีละ แล้วตกลงตอนนี้มึงกับพี่โปรด...อยู่ในสถานะไหน?” คุณเปรมถามขึ้นอีก มือก็พลิกเปิดหน้านิตยสารเหมือนไม่สนใจเอาคำตอบ
“ไม่รู้สิครับ พี่โปรดไม่ได้บอก” เป็นจริงตามนั้นที่ผมไม่รู้ว่าเราคบกันแบบไหน พี่โปรดไม่ได้บอกว่าผมเป็นแฟน แต่คบกันแบบไหนมันไม่สำคัญสำหรับผมหรอกครับ แค่เรารู้ว่าเรารักกันแค่นั้นก็พอแล้ว
“มึงไม่คิดมากเรื่องนี้ใช่ป่ะ” คุณเปรมยังคงตั้งคำถามต่อไป “แล้วเรื่องอะไรที่ทำให้มึงไม่ร่าเริงเหมือนทุกที”
“บางทีคนเรามันก็มีช่วงเบื่อชีวิตบ้างนะครับ ผมไม่เป็นไรหรอก คุณเปรมไม่ต้องห่วง”
“ไอ้ติ๊กแม่งก็พูดแบบนี้ แต่กูก็เห็นทำหน้าอมทุกข์มาเป็นเดือนแล้ว ความรักน่ากลัวจริงๆ ดีนะที่กูไม่มี”
“แต่มีก็ดีนะครับ เชื่อผมสิ ^^”
คุณเปรมทำหน้าหมั่นไส้ใส่แล้วผลักหัวผมหนึ่งที - - รอไม่นานคุณติ๊กก็มารับ หน้าตาที่เคยดุอยู่แล้วดุมากขึ้นไปอีกเมื่อมีหนวดมีเคราขึ้นตามสันกราม ขอบตาคล้ำนิดๆ ผมก็ดูจะยาวขึ้นด้วย ไม่เจอกันพักเดียวกลายเป็นโจรไปแล้วครับเพื่อนผม
“ไงไอ้ปลื้ม หน้าตาสดใส ได้น้ำดีล่ะสิมึง” แต่ปากยังน่าฟาดด้วยเท้าเหมือนเดิม -*-
“แน่นอนครับ” ผมตอบไปตามจริง คุณติ๊กเลยเบ้ปากทำหน้าเซ็งมีคุณเปรมหัวเราะเป็นตัวประกอบฉาก
หึ! จะทำผมอายยังเร็วไปร้อยปีครับเพื่อนติ๊ก ไม่ว่าเมื่อไหร่พวกนี้ก็ไม่รู้จักจำว่าผมเป็นพวกที่ต่อมความรู้สึกไม่ค่อยทำงาน ถ้าเป็นความจริงผมก็ไม่รู้จะต้องอายไปทำไม ยืดอกรับอย่างภูมิใจคงดีซะกว่า
พวกผมมาถึงร้านประจำแถวหลังมอก็เที่ยงคืนเข้าไปแล้ว ร้านปิดตีสองแต่สามารถนั่งกินได้ยันเช้า ที่บอกว่าปิดตีสองนี่หมายถึงครัวปิดครับคือสั่งอาหารอะไรไม่ได้แล้ว ถ้าจะสั่งต้องสั่งก่อน แต่พวกเหล้าเบียร์มิกเซอร์อะไรเนี่ยสั่งได้เรื่อยๆ ร้านประจำของพวกผมเป็นร้านนั่งชิว มีดนตรีสด มีสาวเชียร์เบียร์ให้ดูเป็นอาหารตา ผมมองบ้างถ้าเป็นพวกที่ถึงตาผมจริงๆ คืออกได้ เอวผ่าน บั้นท้ายสุดยอด ส่วนผู้ชายไม่ได้อยู่ในข่ายสายตาผมเลยสักคน มีแต่พวกห่ามๆ หื่นๆ ทั้งนั้น ยกตัวอย่างเพื่อนสองคนตรงหน้าผมนี่ไง หลังจากสั่งเหล้ากับพวกกับแกล้มกับพนักงานแล้วพอสาวเชียร์เบียร์มาพูดจ้ะจ๋าด้วยเข้าหน่อยก็หลงกลสั่งช้างดราฟมาอีกสองโปร -_-
“กูเหมือนพาเด็กมอต้นมาใจแตกไงไม่รู้ว่ะ” คุณติ๊กหันไปพูดกับคุณเปรมแล้วมองมาทางผม แต่ผมไม่ได้สนใจเพราะอาหารตาเยอะอย่างเหลือเชื่อ สงสัยเพราะเพิ่งสอบเสร็จกันด้วยรึเปล่าคนถึงคึกคักขนาดนี้
ผมเป็นพวกชอบมองครับ แต่ไม่คิดจะสานสัมพันธ์ ใครขอเบอร์ผมก็ให้ ขอไอดีไลน์ผมก็แจก ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ให้ แต่ผมจะคุยหรือไม่คุยนั่นมันอีกเรื่อง พวกเพื่อนๆ ผมเขาก็รู้ว่าผมนิสัยแบบนี้ถึงได้ไม่ว่าอะไรและก็ไม่มีใครเอาไปฟ้องพี่โปรด
“สัดปลื้ม กูอยากให้เสี่ยมาเห็นมึงตอนนี้จริงๆ แม่งเล่นหูเล่นตาไปทั่วเลยนะมึง”
ผมหัวเราะใส่หน้าร้ายๆ ของคุณติ๊กแล้วยักไหล่อย่างไม่แคร์ ถึงผมจะตัวเล็ก ไม่หล่อ หน้าจืด แต่งตัวเชย แต่ผมมีเสน่ห์อยู่มากผมมั่นใจ ฮ่าๆ
“ซีเรียสทำไมครับคุณติ๊ก นานๆ ที”
“ให้มันน้อยๆ หน่อยไอ้ปลื้ม ยังไงกูก็ต้องรักษาผลประโยชน์ให้พี่กู หึหึ”
ดูก็รู้ว่าคุณเปรมพูดเล่นผมเลยหันไปยกแก้วให้สาวหมวยสวยเอ็กซ์ที่นั่งห่างไปไม่กี่โต๊ะ จากนั้นก็ไม่มีใครใส่ใจใครแล้วล่ะครับ คุณติ๊กตอนนี้กำลังนัวเนียกับผู้ชายตัวพอๆ กับผมที่ไม่รู้ว่ามาร่วมโต๊ะด้วยตั้งแต่เมื่อไหร่ส่วนคุณเปรมหายไปเข้าห้องน้ำกับเพื่อนของสาวหมวยที่ผมเพิ่งได้เบอร์มาเมื่อกี้
เกือบตีสองแต่คนเยอะขึ้นกว่าเดิม ผมเลยออกมาสูดอากาศนอกร้าน มองรถราที่ขับผ่านไปมาก่อนจะหยิบไอโฟนขึ้นมาดู ลังเลว่าจะโทรหาพี่โปรดดีรึเปล่าแต่ยังไม่ทันได้ตัดสินใจสุดหล่อของผมก็โทรเข้ามาซะก่อน
“ครับพี่”
“เมื่อไหร่จะกลับ” เสียงแข็งมาเลยทีเดียว คงไม่ได้กำลังหงุดหงิดอยู่ใช่มั้ยครับเนี่ย
“เดี๋ยวกลับแล้วครับ” ความจริงผมยังไม่อยากกลับเลย แต่ทำไงได้
“เดี๋ยวน่ะเมื่อไหร่ กี่โมงถึง” ผมจะรู้ได้ไง คุณเปรมก็หาย คุณติ๊กก็กำลังติดลม พวกผมมารถคันเดียวกัน แล้วจะกลับยังไง รถเมล์หมด แท็กซี่แถวนี้ก็หายาก ยิ่งเวลานี้จะขึ้นคันไหนก็อ้างต้องไปส่งรถทั้งนั้น
“ไม่รู้อ่ะพี่ หาแท็กซี่ตอนนี้ก็ยาก” เป็นไปได้ก็อยากจะหายตัวไปอยู่ตรงหน้าพี่ตอนนี้เลยล่ะครับ จับน้ำเสียงอันตรายได้แล้วผมก็ชักใจไม่ดี
“อยู่ร้านไหน พี่ไปรับ” ไม่อยากลำบากพี่โปรดเลยเพราะวันนี้พี่คงเหนื่อยมาทั้งนั้น เพราะฉะนั้นผมต้องจัดการเอง
“เดี๋ยวปลื้มกลับเองครับ แค่นี้นะพี่โปรด”
ผมรู้ว่างานเข้าผมแล้วแน่ๆ เลยรีบกลับเข้าไปขอกุญแจรถคุณติ๊กที่พอเห็นสีหน้าผมก็ไม่ถามอะไรมากความสงสัยคงจะลืมว่ามารถคันเดียวกัน แต่คุณเปรมคุณติ๊กคงหาทางกลับได้เองล่ะครับ ดังนั้นผมจึงรีบขับรถกลับคอนโดฯทันที ทำใจดีสู้เสือไว้ก่อนเพราะยังไงผมก็ไลน์ไปบอกแล้วอาจจะแค่โกรธที่มันดึกเกินไป
“กลับมาแล้วครับ” ผมเดินเข้าไปสวมกอดทางด้านหลังของคนที่กำลังเลือกเสื้อผ้าใส่ คงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
“ไปอาบน้ำไป” หืมมมม ไม่โกรธอย่างที่คิดแฮะ
ผมจูบเบาๆ ลงบนแผ่นหลังกว้างก่อนจะไปอาบน้ำตามคำสั่ง ได้แช่น้ำอุ่นแล้วรู้สึกผ่อนคลายดีเหมือนกัน อีกอย่างลบกลิ่นน้ำหอมกับรอยลิปสติกออกไปได้ด้วย - - ผมออกจากห้องน้ำก็เห็นพี่โปรดนั่งพิงหัวเตียงอ่านหนังสือเลยเดินไปเลือกชุดนอนเงียบๆเพราะกลัวจะรบกวน
“ไปกับใคร” คำถามที่ลอยมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทำให้ผมชะงักไปนิดหน่อย
“คุณเปรมคุณติ๊กครับ” ผมตอบกลับไป ใส่เสื้อเสร็จก็โดดขึ้นเตียงมานอนตักพี่โปรด
“อืม” ตอบรับแค่นั้นก็กลับไปสนใจหนังสือต่อ เย็นชาจังเลยนะครับ
“สอบยังไม่เสร็จอีกเหรอครับ”
“อีกสองวิชา”
“ยากเหรอ ทำไมพี่โปรดดูเครียดจัง”
“พอสมควร”
ผมนอนมองหน้าพี่โปรดอยู่นาน ก่อนจะโดนมือใหญ่ของพี่โปรดปิดตาเข้าให้ ผมกำลังจะโวยวายแต่ก็โดนจูบปิดปากทันควัน ลิ้นร้อนที่เกี่ยวกระหวัดกับลิ้นผมสร้างความรู้สึกแปลกๆ พี่โปรดผละออกเล็กน้อยแต่ผมก็คว้าคอไว้ได้ทันแล้วโน้มหน้าพี่โปรดให้เข้ามาใกล้
“คิดถึงจังเลยครับพี่” ผมกระซิบเบาๆ แล้วเริ่มจูบพี่โปรดอีกครั้ง ครั้งนี้เนิ่นนานจนลืมหายใจแต่มันก็ไม่ได้ลดความคิดถึงที่ผมมีลงได้เลย
ผมงับริมฝีปากล่างของพี่โปรด ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากสัมผัสตั้งแต่ปลายคางที่มีไรหนวดขึ้นพอจั๊กจี้ กัดเข้าที่จมูกโด่งสวยที่ใครเห็นก็ต้องอิจฉา ลากลิ้นผ่านไปยังติ่งหูดูดงับเบาๆ ได้ยินเสียงพี่โปรดครางเล็กน้อย ผมลากลิ้นลงมาตามซอกคอ ผ่านแผ่นอกกว้างมาจนถึงสะดือ เสื้อของพี่โปรดถูกผมถอดออกอย่างง่ายดายเพราะเจ้าของไม่ได้ขัดขืนกลับให้ความร่วมมืออย่างเต็มใจ ผมลงลิ้นลากวนที่สะดือ ไล่ขึ้นมาที่บริเวณอกอีกครั้ง พี่โปรดส่งเสียงพอใจยกตัวผมนั่งคร่อมตักแล้วเริ่มต้นจูบผม จูบแล้วจูบเล่าเหมือนจะไม่พอสำหรับเราสองคน
“อื้ออออ อ่านหนังสือต่อสิครับ” ผมแกล้งบอกทั้งๆ ที่รู้ว่าตอนนี้พี่โปรดคงไม่มีสมาธิอยู่กับตำราเรียนแล้ว
“เดี๋ยวนี้ร้ายนะ” พี่โปรดกระซิบ ไซ้ไปทั่ว ผมเลยหัวเราะอย่างยอมรับ
“ปลื้มเป็นเด็กดีครับพี่” ผมบอกก่อนจะเลื่อนหน้าลงมาที่กลางลำตัวของพี่โปรด จับเจ้าสิ่งที่กำลังชี้หน้าผมเข้าปากแล้วใช้ลิ้นลงโทษที่บังอาจมาลองดีกับผม พี่โปรดยิ้มเครียด เรียกชื่อผมเสียงแหบพร่าสลับกับเสียงครางต่ำที่ฟังก็รู้ว่าพอใจอย่างที่สุด ผมเล่นอยู่สักพักทั้งเลียทั้งดูดเพื่อให้คนตรงหน้ารู้สึกดี พี่โปรดขยับเอวเป็นจังหวะ หน้าหล่อบิดเพี้ยนไปตามแรงอารมณ์ ก่อนจะกระตุกแรงๆ สามสี่ครั้ง ครางเสียงพร่า แต่ผมก็ยังไม่ปล่อย ผมใช้ลิ้นแล้วดูดแรงๆ จนพี่โปรดต้องจับหน้าผมไว้ พยายามให้ผมผละออก
“เล่นอย่างนี้พี่ขาดใจตายขึ้นมาจะทำยังไง” ถามพลางมองหน้าผมที่ส่งรอยยิ้มกลับไปให้
“หาผัวใหม่” คำตอบผมทำให้พี่โปรดหน้าเครียดขึ้นมาทันที
“เดี๋ยวมีสั่งสอนเด็ก” ไม่แค่พูดแต่นิ้วยาวๆ นั่นถูกใช้งานทันที ผมเกร็งตัวเล็กน้อย ก้มลงจูบริมฝีปากสวยอย่างเอาใจ
“ล้อเล่นเอง ^^”
“ให้มันจริง”
ผมเลยจูบปิดปากพี่โปรดที่กำลังจะพูดขึ้นมาอีก “รู้สึกดีมั้ยครับพี่”
“อืม”
“พอแล้วเหรอ ^^”
“รู้คำตอบดีแล้วยังถาม”
“งั้นตอบมาก่อนว่าคิดถึงปลื้มรึเปล่า”
“ก็ไม่นี่”
ตอบเร็วแบบไม่คิดเลยเหรอครับ น่าผิดหวังอีกแล้ว T_T
ผมยังไม่ทันได้ท้วงอะไรก็พูดแทบไม่ออกเมื่อมีสิ่งอื่นเข้ามาแทนที่นิ้วเรียวยาวของพี่โปรด จุกมากครับเพราะไม่ทันตั้งตัว ผมจิกเล็บลงบนแผ่นหลังของพี่โปรดเพื่อคลายความรู้สึกของตัวเองที่ตอนนี้ต้องการหาที่ระบาย อึดอัดคับแน่น หายใจก็ยังลำบาก
“ใจร้อนจังเลยนะครับ” ผมพยายามยิ้ม แต่ก็ทำได้ไม่นานเพราะร่างกายมันไม่เอื้อซะแล้ว
“รัดแน่นอย่างนี้ขยับลำบากนะปลื้ม”
“อยู่ข้างบนมันลำบากนี่ครับพี่”
ผมไม่ค่อยชินเท่าไหร่เพราะมีไม่กี่ครั้งที่ผมได้อยู่เหนือพี่โปรดอย่างนี้ แต่พี่โปรดเขาชอบให้ทำอย่างนี้ครับผมถึงพยายามตามใจ แต่มันไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่เลยทำแบบนี้นานๆ ครั้ง - - พี่โปรดครางเสียงต่ำเมื่อผมเริ่มขยับ หน้าหล่อๆ ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ใคร่คละเคล้าไปกับความสุขทำให้ผมมีความสุขตามไปด้วยถึงจะรู้สึกเจ็บเสียดอยู่นิดๆ ก็เถอะ แต่อะไรที่ทำให้พี่โปรดพอใจผมก็พร้อมจะทำ
.
.
.
มีต่อด้านล่าง