ร้ายซ่อนรัก บทที่ 25
“โมกข์”
พัทธ์ฝืนกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นแล้วพยายามดันตัวโมกข์
“คือ…ผมยังไม่พร้อม”
“อะไรคือยังไม่พร้อมอีกล่ะพัทธ์ ในเมื่อร่างกายของคุณก็ตอบสนองจนผมแทบคลั่ง”
โมกข์อู้อี้อยู่กับเนื้อตัวเนียนขาว พัทธ์เองก็แทบจะรั้งใจไม่อยู่แต่เขาก็ฝืนใช้มือประคองใบหน้าคมของโมกข์
ให้เงยสบตา
“ผมไม่เคยเป็นฝ่าย…”
หน้าขาวแดงแจ๋อยู่ในความมืดสลัว โมกข์เข้าใจได้ไม่ยากว่าพัทธ์ยังทำใจไม่ได้ที่จะต้องเป็นฝ่ายรับจากเขา
เจ้าของไร่มนัญชัยถอนหายใจดังเฮือก โมกข์เลื่อนตัวขึ้นไปจูบหนักๆ ที่ปากของพัทธ์อีกครั้งแล้วพลิกกายลง
จากร่างที่แนบชิด ไปนอนหงายแผ่หราอยู่ข้างๆ
“โอย สวรรค์ล่ม”
โมกข์บ่นเสียงดังออกแนวประชดจนพัทธ์เผลอหัวเราะ อาจารย์หนุ่มได้แต่พลิกตัวกลับมายกแขนโอบกอด
ไปรอบตัวหนา
“เถอะน่า ผมขอเวลาทำใจอีกไม่นานหรอก”
โมกข์เอียงหน้ามามองแล้วคลี่ยิ้ม แขนของเขาสอดไปรับลำตัวของพัทธ์เข้ามาในอ้อมกอด
“แค่คุณบอกรัก ผมก็ดีใจแล้ว อย่างน้อยความพยายามที่ทำมาตลอดก็เป็นผล แต่ว่าตอนนี้…ผมขอตัวไป
จัดการตัวเองก่อนนะ ก่อนที่ผมจะอดใจไม่อยู่จัดการคุณไปเสียก่อน”
โมกข์ดึงพัทธ์มาจูบที่หน้าผากก่อนที่เขาจะลุกจากที่นอนตรงเข้าห้องน้ำ เปิดฝักบัวให้สายน้ำเย็นชะล้าง
คราบไคลออกจากเนื้อตัวปราศจากเสื้อผ้า เขาหันหน้าเข้าหาผนังยกมือทั้งสองข้างและหน้าผากดันผนัง
ห้องน้ำพลางถอนหายใจยืดยาว
“ต้องทนให้ได้สิวะ ไอ้โมกข์ มึงรอมาขนาดนี้แล้วอย่าตบะแตก”
เขาพึมพำ
“ก็แค่เล่นกับแม่นางน้อยทั้งห้าอีกไม่กี่ครั้งหรอก”
ว่าแล้วโมกข์ก็ใช้แม่นางน้อยจับไปที่ท่อนซุงใหญ่แล้วนวดเฟ้นเบาๆ ก่อนที่จะมีแม่นางน้อยที่ไม่ใช่ของเขา
สอดมือมาจากเบื้องหลังแล้วเกาะกุมทับมาอีกชั้นหนึ่ง
โมกข์หันไปมองคนที่ยืนอยู่เบื้องหลังแล้วใช้คางเกยมาที่ไหล่ของเขาอย่างแปลกใจ เขาเห็นใบหน้าของพัทธ์
ที่ไร้แว่นตาคู่ชีพยิ้มมาให้ มือทั้งสองของพัทธ์ดึงมือโมกข์ออกแล้วใช้สองมือของเขาเข้าไปกอบกุมแทนที่
“คุณจะทำอะไรของคุณ”
โมกข์เอ่ยถามอย่างแปลกใจ เขาสะดุ้งเบาๆ เมื่อพัทธ์เริ่มบีบนวดที่ส่วนปลาย
“คุณไม่มีทางเล่นกับแม่นางน้อยของคุณได้เก่งเท่าผมหรอก เชื่อสิ”
พัทธ์ตอบด้วยใบหน้าที่เชื่อมั่นในฝืมือพลางเริ่มใช้ปลายนิ้วนวดเฟ้นจนโมกข์เริ่มหายใจเร็ว
กว่าที่จะยอมรับกับตัวเองได้ว่าเขาไม่เคยชอบผู้หญิง พัทธ์ต้องอดทนกับการปิดกั้นตัวเองมานานมาก แต่
ด้วยอารมณ์ที่ต้องการปลดปล่อยเขาต้องรู้จักวิธีจัดการตัวเองให้บรรลุจุดมุ่งหมาย ไม่เหมือนกับโมกข์ที่มี
คนรอให้ปลดปล่อยมากหน้าหลายตาไม่มีความจำเป็นที่เขาต้องช่วยตัวเองเหมือนพัทธ์
ถ้าจะแข่งกันซักผ้าด้วยมือล่ะก็ พัทธ์เชื่อว่ามือของเขามีประสิทธ์ภาพมากกว่า
ว่าแล้วพัทธ์ก็โชว์ฝีมือด้วยการเริ่มยึดท่อนซุงใหญ่ยักษ์ไว้มั่น เขาออกจะตกใจอยู่เหมือนกันเมื่อเห็นมันครั้ง
แรก แล้วพาลจินตนาการอย่างสยองนิดๆ หากเจ้าท่อนซุงที่ว่าจะบุกทะลวงเข้าไปในช่องทางของเขา แต่มัน
ก็เร้าใจจนมือที่เริ่มสาวขึ้นลงๆ นั้นบีบเฟ้นจนโมกข์ห่อปาก
พัทธ์เก่งจริงอย่างปากว่า โมกข์เงยหน้าครางลึก เขาวางมือทาบทับไปบนมือของพัทธ์แล้วบีบลงไป พัทธ์
ไม่ใช่แค่ดึงรูดไปมาพอแค่ให้เสร็จสมอย่างที่โมกข์ทำให้ตัวเองคราวจำเป็น แต่พัทธ์มีชั้นเชิงทั้งยกทั้งกดลงไป
จนโมกข์แทบคลั่ง เขาเอียงหน้าไปทางพัทธ์มองด้วยแววตาวอนขอและพัทธ์ก็เข้าใจเขาเอียงหน้าไปประกบ
ปากที่สากไปด้วยหนวดที่เริ่มขึ้น โมกข์สอดลิ้นเข้าไปเบียดเคล้า อารมณ์ของเขาเจียนระเบิดกับปฏิบัติการ
จากอุ้งมือคู่นั้น
“อา…”
เสียงครางกระชั้นอยู่ในคอบอกให้รู้ว่าโมกข์ใกล้ถึงสวรรค์ พัทธ์เร่งปลายนิ้วกดบี้ไปที่ปลายท่อนซุงที่ร้อนฉ่า
แม้จะอยู่ภายใต้สายน้ำที่ยังพุ่งฟองละเอียดจนเขาเปียกปอนทั้งชุดนอน ก่อนที่ท่อนซุงนั้นจะกระตุกแล้ว
ปล่อยพิษจนส่วนหนึ่งฉีดรดไปที่ผนัง กับอีกส่วนกองอยู่ในมือที่ยังไม่หยุดบีบเคล้นรีดพิษออกมาจดหมด
เกลี้ยง
กว่าที่มือของพัทธ์จะยอมปล่อยโมกข์ให้เป็นอิสระ ก็จนเจ้าท่อนซุงนั้นหมดฤทธิ์ ยอมคอพับลงไปนั่นแหละ
โมกข์หายใจหอบถี่เมื่อหันตัวกลับมาเผชิญหน้า เขาดึงพัทธ์เข้ามาบดจูบอีกครั้งเป็นการขอบคุณ
“ขอบคุณนะที่ช่วย คุณเก่งจริงๆจนผมไม่อยากจะเชื่อ”
“คนเรามันก็เก่งกันคนละอย่าง”
พัทธ์ยิ้มรับคำชม เนื้อตัวเปียกปอนถูกคนที่ยืนเปลือยใต้สายน้ำดึงเข้าไปกอด
“แล้วเมื่อไหร่คุณจะยอมให้ผมได้โชว์ในสิ่งที่ผมเก่งบ้างล่ะ”
พัทธ์ทำทีเป็นเหลือบตามองเพดานเพื่อนิ่งคิด ก่อนที่จะสบตาท้าทายคู่นั้น
“คุณต้องไปตรวจเลือดเอดส์ ถ้าผลออกมาเนกาทีฟ ผมถึงจะยอม”
“ผมกลัวเข็ม”
โมกข์ทำหน้าเหมือนเด็กเวลาเห็นเข็มฉีดยา แต่พัทธ์ก็ไม่สนใจ
“เจาะแล้วถ้าเนกาทีฟ อีกสามเดือนคุณต้องไปเจาะซ้ำเพื่อคอนเฟิร์มช่วงระยะฟักตัว”
“นี่คุณเป็นวิศวะหรือเป็นหมอกันแน่พัทธ์”
โมกข์ประท้วง
“ระหว่างรอผลคอนเฟิร์มถ้าจะมีอะไรกันต้องใช้ถุงยางอนามัยด้วย”
พัทธ์ยิ้มเมื่อกล่าวบรรยายสรุปจบลง เขามองหน้าที่เหมือนกลืนยาขมของโมกข์แล้วหัวเราะ อดไม่ได้ที่จะ
เป็นฝ่ายประกบปากลงไปจูบโมกข์
“คุณนี่น้า…พัทธ์”
โมกข์ถอนหายใจ
“เกิดมาเพื่อปราบไอ้โมกข์แท้ๆเลย”
เจ้าของดวงตาคมเอื้อมมือไปปิดน้ำแล้วก้มมองสภาพชุดนอนที่เปียกปอนไปทั้งตัวของพัทธ์ด้วยสายตาโลม
เลีย
“ว่าแต่ตอนนี้คุณเปียกทั้งตัวเลย ให้ผมช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ไหม”
พัทธ์ก้มหน้ามองสภาพตัวเองแล้วหน้าร้อนวูบ
“ไม่ต้องเลยนะ ไม่งั้นไอ้ที่ผมทำให้คุณจะเกิดประโยชน์อะไร ผมเปลี่ยนเองได้”
อาจารย์หนุ่มรีบวิ่งหนีออกไปจากห้องน้ำแล้วก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องของโมกข์ไปที่ห้องตัวเองด้วยความ
ขัดเขิน
พัทธ์พิงหลังกับประตูแล้วเผลอยิ้มกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขาคงจะตัดสินใจถูกต้องแล้วที่ทำอะไรตามใจตนเองเสีย
บ้าง
“หื่นกามจริงๆ แล้วนี่เราจะรอดไปนานแค่ไหนนะ”
หัวเราะกับตัวเองเบาๆ หันไปกดล็อคประตูแน่นหนาจนเป็นที่พอใจ ก่อนที่จะตรงไปคว้าผ้าเช็ดตัวเดินตรงไป
ที่ห้องน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แล้วมุดตัวเข้ากองผ้าห่มอย่างอารมณ์ดี
พัทธ์รู้สึกรำคาญกับสิ่งที่ไต่อยู่ตามใบหน้า เขาขยิกตายุกยิกๆ แล้วยอมตื่นจากนิทราอันแสนสุขเพื่อยกมือ
ไปปัด ก่อนที่จะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงอุทานเบาๆ
เจ้าของห้องผวาไปมองก็เห็นร่างตะคุ่มคุ้นตากำลังโอบกอดเขาจากด้านหลังแล้วซุกหน้าลงกับกลุ่มผม
ละเอียดของเขา
“โมกข์ คุณเข้ามาในห้องผมได้ไง”
“ผมเรียนวิชาสะเดาะกลอนมาจากขุนแผน”
คนบุกรุกตอบพลางกดริมฝีปากลงที่หลังคอของพัทธ์
“ไหนเราตกลงกันแล้วว่า…”
“ขอแค่นี้เองพัทธ์ ขอให้ผมนอนกอดคุณไว้อย่างนี้ รับรองว่าจะไม่ปล้ำคุณเด็ดขาด”
ได้ยินเสียงอ่อนๆ ทอดยาวนั้นแล้วพัทธ์ก็อดใจอ่อนไม่ได้ ร่างที่ฝืนอยู่ในตอนแรกจึงปล่อยให้แขนแกร่งโอบ
กอดไว้
“แค่นอนกอดนะ”
พัทธ์ย้ำ
แล้วพัทธ์ก็หลับไปอีกครั้งในอ้อมกอดของโมกข์
แล้วพัทธ์ก็ลากโมกข์ไปตรวจเลือดตามที่เขาต้องการจนได้ในตอนสายของวันรุ่งขึ้น เมื่อทั้งสองและคำปันไป
เยี่ยมบุญเรืองที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง
โมกข์ยอมเสียเงินเพื่อให้ลูกน้องได้รับการรักษาอย่างดีที่สุด เขาทิ้งคำปันไว้ที่ห้องบุญเรือง ก่อนที่จะเดินตาม
พัทธ์ไปที่แผนกผู้ป่วยนอก
โมกข์ร้องเบาๆ สีหน้าเหยเกเมื่อเข็มเล่มเล็กปักเข้าไปในเนื้อ พัทธ์เองก็เจาะด้วยเพื่อเป็นความเสมอภาค ใช้
เวลาไม่นานทั้งคู่ก็ไปนั่งรอผลตรวจอยู่ในห้องนายแพทย์ที่ต้องรายงานผลเลือดให้รับทราบ
เจ้าของไร่มนัญชัยนั่งกระสับกระส่าย เขาเองก็นึกกริ่งเกรงผลที่กำลังจะรู้ในอีกไม่นานเหมือนกัน เพราะที่
ผ่านมาก่อนเจอพัทธ์ เขาก็ผ่านอะไรมามิใช่น้อย แต่เขาก็ไม่ต้องรอนานเมื่อนายแพทย์เจ้าของเคสเดินผลัก
บังตาเข้ามานั่งประจำที่
นายแพทย์เจ้าของเคสก้มหน้าอ่านประวัติในมือ แล้วจึงเงยหน้ามามองสบตาพัทธ์ที่จ้องมองอยู่แล้ว ทั้งคู่ยิ้ม
ให้กันอย่างยินดีและตื่นเต้น
“ไอ้พัทธ์”
“เฮียโชค”
นายแพทย์โชคชัยเรียนจบสถาบันเดียวกับพัทธ์ เคยออกค่ายด้วยกันบ่อยๆ สมัยเป็นนักศึกษา พัทธ์ไม่ได้
พบปะกับรุ่นพี่คนนี้นานจนลืมไปว่า เขามีบ้านเกิดอยู่ที่นี่
โมกข์เหล่มองความสนิทสนมของทั้งคู่ จนเมื่อนายแพทย์โชคชัยหันมาทางเขาก่อนที่จะหันไปมองหน้าพัทธ์
เอ่ยถามด้วยเสียงแปลกใจ
“เอ่อ…แฟนเหรอพัทธ์”
“ครับ ผมเป็นแฟนพัทธ์”
โมกข์เป็นฝ่ายแย่งตอบเสียงเข้มหน้าเข้ม จนพัทธ์ยกศอกขึ้นแทงที่สีข้างพลางมองรุ่นพี่ด้วยหน้าแดงจัด
“ประมาณนั้นแหละเฮีย”
นายแพทย์โชคชัยพยายามรักษาสีหน้าไม่ได้แสดงความแปลกใจออกไป เมื่อตอนนี้เขายังอยู่ในหน้าที่
“อืม…เอ่อ จากผลเลือดก็เป็นปกติดีทั้งคู่ ไม่มีใครเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ผมแนะนำให้สวมคอนด้อม
ทุกครั้ง แล้วอีกสามเดือนมาเจาะอีกรอบ พัทธ์…กูไม่รู้จริงๆนะเนี่ย”
อดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามามองรุ่นน้องด้วยดวงตาสับสน จนพัทธ์ยิ้มบางๆ อย่างเข้าใจ
“กว่าผมจะเข้าใจตัวเองก็นานอยู่นะเฮีย”
โชคชัยมองทั้งโมกข์และพัทธ์สลับกัน ก่อนที่จะถอนหายใจ
“ขอให้มีความสุขกับชีวิตคู่ที่เลือกนะครับ เสียดายที่ยังมีคนไข้รออยู่ไม่มีเวลาคุยด้วย พัทธ์ แล้วโทรหากูนะ”
โชคชัยยื่นนามบัตรให้พัทธ์ แล้วมองเพื่อย้ำให้พัทธ์ติดต่อมาจริงๆ แล้วจึงเดินจากไปทางเดิม
“รู้จักกันนานแล้วเหรอ”
โมกข์ตีหน้าขรึมถาม พัทธ์ที่ลุกเดินนำออกจากห้องพยักหน้าหงึกๆ
“ฮื่อ เรียนที่เดียวกัน”
คนเดินตามแอบทำหน้าบึ้ง
“สนิทกันมากเลยเหรอ”
“ก็มากนะ ไปค่ายอาสาด้วยกันทุกปีเลย”
โมกข์ไม่พูดต่อ แต่เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะพยายามไม่ให้พัทธ์ได้เจอโชคชัยอีก เพราะเขาไม่ไว้ใจดวงตาคู่นั้น
ก่อนกลับไร่โมกข์ขับรถมาแวะซื้อของที่ซุปเปอร์สโตร์ชื่อดัง เมื่อได้ของครบตามที่คิดไว้โมกข์เข็นรถไปตรงจุด
ที่วางขายถุงยางอนามัยแล้วพยักเพยิดให้พัทธ์หยิบใส่รถเข็น
“หยิบมาหน่อยสิคุณ ชอบกลิ่นไหนรสไหนก็หยิบมา”
อาจารย์หนุ่มมองค้อน ก่อนที่จะหลับหูหลับตาหยิบมาโยนใส่รถเข็น โมกข์มองตามด้วยตาที่พราวระยับ เขา
หยิบถุงยางกล่องที่พัทธ์หยิบมาคืนที่เดิม แล้วหยิบมาใหม่เป็นแพ็คใหญ่ใส่ลงไปในรถ
พัทธ์ตาโตเมื่อเห็น
“คุณจะบ้าเหรอ หอบไปทำไมเยอะขนาดนี้”
“แล้วคุณคิดว่ากล่องเดียวจะพอหรือ”
โมกข์ก้มหน้าไปกระซิบเบาๆ
“รับรองว่าผมใช้จนหมด ไม่เหลือให้หมดอายุหรอกนะ”
แล้วโมกข์ก็หัวเราะ เมื่อเข็นรถไปจ่ายเงิน
เสียงโทรศัพท์มือถือของโมกข์ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดูเมื่อเห็นว่าปลายทางคือ ปราบ เขาก็รีบรับ
“ว่าไง”
“เงียบไปเลยนะมึง”
ปราบทักทายตามสายเสียงเขียว
“ขึ้นสวรรค์หรือลงนรกก็ไม่บอกกูสักคำ”
“ก็กูลืม นี่มึงเป็นเพื่อนนะ ไม่ใช่เมีย อย่ามาทำน้อยใจ แล้วมีอะไรด่วนหรือเปล่า”
“มีสิ”
ปราบปรับเสียงจริงจัง
“บริษัทคู่แข่งเราเปิดตัวเครื่องจักรใหม่ขึ้นมา กูจะไม่โทรหามึงหรอกถ้าไอ้ที่มันเปิดตัวไม่เสือกมาเหมือนแบบ
ที่ฝ่ายผลิตของเรากำลังเร่งเพื่อเปิดตัวไตรมาสหน้า”
โมกข์สีหน้าเครียดเมื่อรู้ข้อมูล
“หมายความว่าแบบของเราหลุดออกไป”
“ใช่ กูคิดว่าเกลือเป็นหนอน และจากสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้อินไฟไนท์อินดัสเตรียลของเรา เสียหายเกือบยี่สิบ
ล้าน”
///////////////////////////////////////////////////// TBC //////////////////////////////////////
อะไรจะเกิดขึ้นกับโมกข์อีกน้า …………………
ป.ล. ผู้แต่งมีเรื่องแนวน่ารักใสๆ อยู่อีกเรื่องที่อยากแนะนำ
สำหรับคนอ่านที่ไม่ชอบแนวผู้ใหญ่เกินไปนะคะ
รักได้ไหม ผู้ชายธรรมดา
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=40152.0