ร้ายซ่อนรัก
บทที่ 13
“หลังนี้แหละครับ”
คำปันขับรถมาจอดหน้าประตูรั้วเตี้ยๆ ของบ้านจัดสรรหลังเล็กแล้วแจ้งแก่เจ้านาย โมกข์เปิดประตูแล้วก้าว
ออกจากรถพลางออกคำสั่ง
“เอ็งกลับไปก่อนไม่ต้องห่วงข้า เดี๋ยวข้าจะกลับเอง”
คนเป็นลูกน้องยังไม่วายมองเจ้านายด้วยความห่วงใย
“พ่อเลี้ยงรับมืออาจารย์ไหวเร้อ”
“เดี๋ยวเหอะ มึง”
โมกข์ชี้หน้าคาดโทษ
“กูยิ่งหวั่นๆ อยู่”
คำปันหัวเราะคิกคัก
“โห พ่อเลี้ยงโมกข์อันเลื่องชื่อกลับมาสิ้นลายเพราะอาจารย์พัทธ์ซะแล้ว นี่ขนาดยังไม่สมหวังเลยนะครับ
พ่อเลี้ยง ถ้าตกร่องปล่องชิ้นกัน พ่อเลี้ยงคงหงอน่าดู”
คนเป็นลูกน้องไม่อยู่รอให้เจ้านายด่า คำปันรีบถอยรถยาวออกไปทิ้งให้โมกข์ยืนนิ่งอยู่ที่หน้ารั้ว เขามองส่อง
เข้าไปในบ้านที่ยังมีแสงไฟเปิดสว่างจึงได้เห็นแผ่นหลังของพัทธ์โผล่พ้นขอบหน้าต่างออกมาให้เห็น
โมกข์ขยับเข้าไปใกล้ประตูรั้ว เขาลองขยับมันดูเมื่อเห็นว่าไม่ได้ใส่กุญแจ ชายหนุ่มจึงได้เลื่อนประตูให้เปิด
ออกแล้วก้าวเข้าไปเงียบๆ
พัทธ์มองเหล้าสีเข้มในแก้วที่เขาถืออยู่แล้วกระดกเข้าปาก
เป็นแก้วที่เท่าไหร่เขาก็ไม่ได้นับ ตั้งแต่ที่เขาตั้งต้นดื่มเมื่อซมซานกลับมาถึงบ้าน โดยตั้งความหวังไว้ว่าฤทธิ์
ของแอลกอฮอล์อาจช่วยให้ภาพจากคลิปที่ฝังอยู่ในใจลืมเลือนไปได้บ้าง
แต่มันไม่ได้ผล ภาพเหล่านั้นมันยังแจ่มชัด เขาจำได้แม้กระทั่งเสียงครางของกานต์ในจังหวะเร่งเร้าจนถึงขีด
สุดที่ปลดปล่อย มันบาดลึกจนเจ็บไปทั่วทรวงอก ดวงตาภายใต้แว่นบางแดงก่ำทั้งจากน้ำเมาและรื้นด้วย
น้ำตา
พัทธ์หลับตาลงทิ้งตัวไปกับพนักของโซฟาเมื่อความรู้สึกโหวงเหวงผะอืดผะอมตีวนอยู่ในช่องท้อง จนทำให้
เขาไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาใกล้แล้วทรุดตัวลงนั่งอยู่ข้างๆ
“พัทธ์ คุณเป็นไงบ้าง”
โมกข์มองภาพผู้ชายที่ใช้ขอบโซฟาต่างหมอนเมื่อทิ้งศีรษะลงไปแล้วหลับตาลงด้วยความสำนึกผิด
ความคะนองและความทะนงตนผิดๆ ของเขาได้ทำร้ายจิตใจคนดีคนหนึ่งอย่างร้ายกาจ พัทธ์ทำให้เขารู้ซึ้ง
ถึงคำว่าเสียใจ โมกข์สัญญากับตัวเองว่าเขาจะแก้ไขและแก้ตัวโดยทำทุกอย่างให้พัทธ์ยกโทษให้
ขอเพียงแค่ยกโทษ โมกข์ไม่กล้าคิดไปถึงว่าพัทธ์จะมีใจตอบให้เขาด้วยซ้ำ
“ผมมาขอโทษ ผมเสียใจจริงๆนะ”
เสียงของโมกข์แว่วเข้าไปในหู ปลุกให้พัทธ์ลืมตาช้าๆ เขามองภาพพร่าเลือนผู้ชายตรงหน้า พลางยกมือที่สั่น
ระริกชี้หน้าด้วยความแค้น ก่อนที่มือนั้นจะยกขึ้นปิดปากตัวเองเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่พุ่งขึ้นมาจาก
กระเพาะอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย…พัทธ์ อย่าเพิ่ง กลั้นไว้ก่อน”
โมกข์ตาเหลือกเมื่อเห็นอาการของพัทธ์ แต่ก็ห้ามไม่ทันเมื่อของเหลวกลิ่นคาวพุ่งออกจากปากของพัทธ์ส่ง
ตรงเข้าสู่เนื้อตัวของเขาจนกลิ่นคละคลุ้ง ซ้ำร้ายพัทธ์ยังเอนตัวโงนเงนมาซบลงที่บ่าแล้วขย้อนเศษอาหาร
และเหล้าออกมาจนหมดท้อง รินรดเสื้อเชิตลายสก็อตของโมกข์จนทั่วตัว
เมื่อสบายท้องแล้วสติของพัทธ์ก็ดับวูบลง เขาหลับอยู่ในท่านั้นทิ้งให้โมกข์อ้าปากค้างพลางประคองตัวพัทธ์
ไม่ให้ร่วงไปกองกับพื้น
“ให้มันได้อย่างนี้สิ”
โมกข์สบถเบาๆ เขาหันรีหันขวางจนเห็นประตูห้องอยู่อีกด้านหนึ่งที่เขาเดาว่าน่าจะเป็นห้องนอน โมกข์จึง
ยกแขนข้างหนึ่งของพัทธ์พาดบ่าแล้วลากร่างที่หมดสติด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เข้าไปทิ้งลงให้แผ่หลาที่
เตียงนอนนุ่ม ก่อนที่เขาจะยกมือเท้าเอวมอง
“ผมควรจะทำยังไงกับคุณดี พัทธ์”
โมกข์ถอนหายใจ ก่อนที่จะจัดการกับพัทธ์เขาควรจะจัดการกับตัวเองก่อนดีกว่า เมื่อเนื้อตัวเสื้อผ้าของเขา
เปรอะเปื้อนอาเจียนของพัทธ์เต็มไปหมด ชายหนุ่มถอดเสื้อของตัวเองออกจนเหลือแต่เสื้อกล้ามตัวใน เสร็จ
แล้วจึงได้เดินไปค้นหากะละมังใส่น้ำกับผ้าเช็ดตัวมานั่งอยู่ที่ขอบเตียง
โมกข์ดึงแว่นออกจากใบหน้าของพัทธ์ ใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กชุบน้ำบิดจนหมาดเช็ดจนทั่วใบหน้าโดยเฉพาะ
คราบอาเจียนตรงขอบปาก เขาค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อของพัทธ์แล้วถอดมันออกเช็ดตัวให้จนสะอาดเอี่ยม
ก่อนที่จะไปค้นตู้เสื้อผ้าหาชุดนอนมาเปลี่ยนให้
ร่างของพัทธ์เปลือยเปล่าอยู่ต่อหน้า โมกข์กระพริบตาปริบๆ เขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นแล้วรีบใส่
เสื้อผ้าชุดใหม่ให้พัทธ์อย่างรวดเร็ว
เมื่อสบายตัวแล้วลมหายใจของพัทธ์ก็สม่ำเสมอ โมกข์ที่นั่งอยู่ด้านข้างดึงผ้าห่มมาปิดให้จนถึงคอ ก่อนที่จะ
มองอย่างอ่อนโยน ชายหนุ่มอดใจไม่ไหวที่จะก้มลงไปจุมพิตแผ่วเบาที่หน้าผาก
“ผมจะทำให้คุณเป็นคนที่มีความสุขที่สุดในโลกเพื่อแก้ตัวกับความระยำของผม ผมสัญญา”
โมกข์พูดเบาๆ กับร่างที่หลับใหล แล้วจึงลุกขึ้นเดินออกไปด้านนอกเพื่อจัดการซักเสื้อของเขาผึ่งลมไว้ ก่อนที่
จะมาจัดการเช็ดถูพื้นที่เปื้อนอาเจียนของพัทธ์จนเรียบร้อย
โมกข์ปิดปากหาว เขาทิ้งตัวลงที่โซฟา หยิบโทรศัพท์ออกมาเล่นเกมส์อยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงผล็อยหลับไป
กานต์นั่งหน้าบึ้งอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์ แก้วเบียร์ยังอยู่ในมือ เขากระดกมันลงคอด้วยความแค้นเคือง
เขาแค้นที่ถูกโมกข์ปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย มากกว่าเรื่องที่ถูกพัทธ์บอกเลิก ถึงแม้จะรู้สึกผิดอยู่บ้าง แต่ไม่ว่าจะ
ช้าหรือเร็ว ไม่ว่าจะมีโมกข์หรือไม่ กานต์รู้ดีว่าเขาและพัทธ์ก็คงไปด้วยกันได้เพียงเท่านี้ นี่คือข้อแก้ตัวที่
กานต์มีให้ตัวเอง
“เฮ้…เบบี้”
เสียงที่ดังใกล้ตัวทำให้กานต์ต้องถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย
“ดูคุณหงุดหงิดอีกแล้วนะ กานต์ มีอะไรให้ผมช่วยไหม”
แดนดึงเก้าอี้ที่ว่างอยู่มานั่งจนชิด กานต์ห่อไหล่ด้วยความรังเกียจ
“มีสิ แดน ช่วยไปไกลๆหน่อยได้ไหม”
แดนหน้าตึงเมื่อได้ยิน เขาดึงท่อนแขนของกานต์มายึดไว้ เมื่อพูดด้วยความไม่พอใจ
“ผมทำอะไรให้คุณเกลียดผมหรือ กานต์ คุณถึงได้ตัดรอนผม”
“แค่คุณอยู่เฉยๆ ผมก็ไม่ชอบหน้าคุณแล้ว แดน ปล่อยผม ผมจะไปห้องน้ำ”
กานต์สะบัดท่อนแขนออกจากการเกาะกุมแล้วเดินเซจากไป จึงไม่ได้เห็นมุมปากที่กระตุกยิ้มพร้อมดวงตาสี
ฟ้าที่ยิ้มเยาะเมื่อดึงขวดแก้วสีชาออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
แดนเปิดฝาขวดที่มีแท่งแก้วติดอยู่ เขาบีบจุกยางที่ฝาดูดน้ำจากขวดนั้นแล้วหยดลงไปในแก้วเบียร์ของ
กานต์
ไม่กี่นาทีกานต์ก็เดินโซเซกลับมาแล้วทำท่าจะเดินผ่านเลยไป แดนรีบคว้าแขนไว้
“เดี๋ยวสิ เบบี้จะรีบไปไหน”
“ปล่อย ผมจะกลับแล้ว”
กานต์ตวาด แต่แดนยังรั้งไว้
“เบียร์คุณยังไม่หมดแก้วเลย ชนแก้วกับผมก่อนกลับสิฮันนี่”
กานต์เหลือบตามอง แล้วคว้าแก้วมากระดกจนหมดด้วยความรำคาญ เขาวางแก้วลงแล้วเดินเซออกไปจาก
ผับ
เดินมาตามถนนได้ไม่ถึงห้านาที กานต์ก็ต้องยืนนิ่งเมื่ออยู่ๆ ร่างกายของเขามันร้อนวูบวาบไปหมด มึนหัว
จนต้องยึดเสาไฟฟ้าเป็นหลัก ก่อนที่เขาจะสะดุ้งเมื่อมือเย็น ๆ ของใครบางคนแตะลงที่บั้นเอว
“มายเบบี้ คุณเป็นอะไรหรือเปล่า”
กานต์หันไปมองจึงรู้ว่าเป็นแดน แต่เขากลับไม่มีแรงที่จะตอบโต้เมื่อรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวคล้ายกับจะเป็นไข้
“เหมือนคุณจะไม่สบายนะกานต์ คุณไปพักที่ห้องของผมดีกว่า”
แดนลากแขนกานต์ให้เดินตามขึ้นไปบนโรงแรมใหญ่ไม่ไกลจากจุดที่ยืนอยู่ กานต์ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้
ยินยอมเดินตามคนที่เขารังเกียจไปอย่างง่ายดาย จนกระทั่งแดนดึงแขนให้เขาเข้าไปหยุดยืนอยู่กลางห้อง
แล้วปิดประตูห้องตาม
กานต์สะดุ้งเมื่อเห็นรอยยิ้มแปลกของแดน แต่เขาก็ไม่มีเวลาคิดเมื่ออยู่ๆ ร่างที่ร้อนระอุของเขาจะยิ่งเพิ่ม
อุณหภูมิสูงขึ้นจนแม้แต่แอร์ที่เย็นฉ่ำก็ยังบรรเทาไม่ได้ กานต์ถอดเสื้อผ้าตัวเองออกอย่างรวดเร็วจนเหลือแต่
ตัวเปล่าเปลือย
โอ…ลมหายใจของเขาถี่กระชั้น เกิดอะไรขึ้นเมื่อความต้องการพุ่งพรวดกระทันหัน แก่นกลางยกชูช่ออวดลำ
ตีกับหน้าท้องดังผับ กานต์ใช้มือบีบมันไว้ส่วนอีกมือเขาใช้มันลูบไล้ไปตามร่างกายตัวเอง เขาเงยหน้ามอง
แดนที่ยืนพิงผนังห้องแล้วก็ยิ่งตกใจ
แดนจุดบุหรี่สูบอย่างสบายใจ มือข้างหนึ่งของเขายกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดถ่ายคลิปไว้ ภาพที่อยู่ใน
กล้องมือถือมันช่างสวยงามสำหรับเขา
ชายหนุ่มหุ่นเฟิร์มผิวสีน้ำผึ้งล้มตัวลงไปนอนดิ้นเร่าอยู่กลางพื้นห้อง ใบหน้าคมกำลังแสดงถึงความต้องการ
ถึงขีดสุดมือข้างหนึ่งเล่นชักเย่อกับแก่นกลางตัวเองในขณะที่อีกข้างก็บีบเค้นเนื้อตัวอย่างทรมาน
“มึง ไอ้แดน มึงทำอะไรกู”
กานต์กัดฟันถามปนเปเสียงครางของตัวเอง แดนหัวเราะเมื่อได้ยินขณะที่มือก็ยังไม่วางโทรศัพท์ที่ถ่ายภาพ
“พอดีว่าผมเพิ่งได้ของเล่นมาใหม่ เลยเอามาลองกับคุณเป็นคนแรกเลยนะ คุณรู้จักแมลงวันสเปนไหมล่ะ
ผมได้หัวเชื้อมันมาเชียว”
“สัส มึงจะทำอะไรกู อ๊ะ อ๊า…”
กานต์ตะโกนถาม ก่อนที่ของเหลวสีขาวขุ่นจะพุ่งขึ้นเปรอะท่อนขา เขาหายใจหอบกระชั้นหนักหน่วง แล้วก็
ต้องสะดุ้งเมื่อความต้องการถาโถมมากขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
“แล้วคุณอยากให้ผมทำอะไรกับคุณล่ะ กานต์”
แดนสืบเท้ามาใกล้แล้วย่อตัวลง เลิกคิ้วอย่างชอบใจ มือหยาบวางแหมะลงตรงแก่นกายเปียกชื้นเค้นคลึงจน
กานต์กระตุก
ร่างกายที่ร้อนผ่าวเมื่อถูกแตะต้องกลับเย็นวาบ กานต์ส่งเสียงครางอย่างลืมตัว
“ช่วยกูที”
กานต์กัดฟันเค้นเสียงเมื่อเห็นรอยยิ้มเยาะบนใบหน้าที่เขารังเกียจ แดนยืนขึ้นถอดเข็มขัดรัดเอวออกแล้ว
ปลดซิปกางเกงทิ้งลงไปกองกับพื้น
“อยากให้ผมช่วย คุณก็ลองขอผมสิกานต์ บางทีผมอาจจะยอมช่วยคุณก็ได้”
“เชี่ยเอ๊ย”
กานต์สบถรุนแรง แต่ด้วยความทรมานในตอนนี้ทำให้เขาต้องชันเข่าขึ้นมากระชากกางเกงชั้นในของแดนไป
กองอยู่ที่ปลายเท้า
แก่นกายตั้งตรงอยู่ตรงหน้า กานต์คว้ามันไว้ในมือบีบโคนไว้ด้วยปลายนิ้ว ปลายลิ้นของเขาแตะลงที่ส่วน
ปลายแล้วส่งมันเข้าไปในปากอย่างรวดเร็ว
แดนอ้าปากผ่อนลมหายใจ มือข้างหนึ่งจิกเส้นผมของกานต์แล้วบังคับให้เข้าออกอย่างสะใจ ส่วนอีกมือที่ยัง
ถือโทรศัพท์ไว้ โคลสอัพใบหน้าของกานต์ที่กลืนกินส่วนของเขาจนแก้มตอบ
แดนดึงหน้ากานต์ออก เขาดึงตัวกานต์ขึ้นมาแล้วผลักไปที่เตียงกว้างแล้วถลาตามไป เขาจับกานต์นอนคว่ำ
ถ่างขาออกก่อนที่จะดันตัวเข้าไปอย่างรวดเร็ว
แดนใช้ท่อนแขนข้างที่ถือโทรศัพท์ล็อคคอกานต์ให้เงยหน้า
“เอาเลยที่รักยิ้มกับกล้องหน่อย เดี๋ยวผมจะช่วยคุณให้สุดเหวี่ยงไปเลย”
แดนเงยหน้าหัวเราะดังลั่น แล้วก้มลงใช้ฟันกัดกลางหลังของกานต์จนสะดุ้ง สะโพกเคลื่อนไหวถี่เร็วแรงจน
เกิดเสียงดังสนั่น กานต์กรีดร้องเมื่อความรุนแรงนั้นทำลายเนื้อเยื่อรอบช่องทางจนเลือดเริ่มไหลซึม
กล้ามเนื้อช่วงล่างตอดรัดจนตัวเกร็ง เขาปล่อยร่างพังพาบไปกับที่นอนอย่างหมดแรง
แต่หลังจากนั้นไม่กี่นาที ร่างกายของกานต์ก็สั่นด้วยความต้องการอีกครั้ง คราวนี้แดนจับเขาพลิกตัวนอน
หงาย ถูฟันลงกับหน้าอกของเขาจนเป็นรอยแดงเถือก
กานต์น้ำตาซึม แล้วไหลลงเป็นทางกับความเจ็บปวดที่เขาได้รับเมื่อแดนกระแทกตัวเข้ามาในร่างของเขาซ้ำ
แล้วซ้ำเล่าตลอดคืน