ร้ายซ่อนรัก
บทที่ 1
“อา...”
เสียงครางกระเส่าของคนที่บิดกายสีหน้าเหยเกอยู่ใต้ร่างยิ่งทำให้เขาฮึกเหิม
แต่แก่นกายที่ฝังลึกอยู่ในร่างนั้นกลับหยุดนิ่งชั่วขณะ จนร่างบางที่แอ่นตัวหลังไม่ติดพื้นต้องผงกหัวขึ้นมอง
“พะ...พี่จะหยุดทำไมตอนนี้”
เสียงสั่นไหวต่อว่าดังขึ้นเมื่อรู้สึกถึงความทรมานเมื่อสรวงสวรรค์ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อมถูกรั้งไว้โดยร่างหนาที่เต็ม
ไปด้วยพละกำลัง
“แล้วจะรีบร้อนไปไหนล่ะ”
คนที่เหยียดกายตรงอยู่เบื้องบนถามอย่างสบายอารมณ์ไม่สนใจอาการหอบครางอย่างรัญจวน
ของอีกฝ่ายแม้จะอ้อนวอนด้วยการลูบไล้ฝ่ามือไปที่แผงอกกว้างเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่ง
“ตะ..แต่ว่า ตอนนี้มัน อื้อออ...”
เขาตอกย้ำความทรมานอีกฝ่ายด้วยการหมุนวนสะโพกให้ภายในฝังลึกเข้าไปตรงจุดกระสันเสียหนึ่งรอบ
แล้วก็หยุดอีก จนอีกฝ่ายกำหมัดแน่นแล้วทุบไปที่ต้นแขนด้วยความเคือง
“บ้าที่สุด จะแกล้งกันไปถึงไหน จะทำอะไรก็รีบทำสิ”
ดวงตาคมดุลุกวาบขึ้นมาแวบหนึ่งคิ้วดกเข้มขมวดแน่น มือแกร่งเอื้อมไปบีบปลายคางของคนที่ต่อว่าแล้ว
บีบจนอีกฝ่ายครางด้วยความเจ็บปวดก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงไปประกบปากแล้วเม้มไปแรงๆ
คนด้านล่างผวาเฮือกเมื่อลิ้นร้อนสอดลงไปแล้ววาดไปทั่วโพรงปากอย่างรุนแรง ฟันคมกดลงไปที่เหนือริม
ฝีปากจนเห่อช้ำ แต่มันกลับยิ่งกระชากอารมณ์ให้สูงลิบ
แล้วก็เหมือนกระตุกให้ร่วงหล่นลงมาบนพื้นดิน เมื่ออยู่ๆ เขาก็ถอนร่างออกมาจากช่องทางอย่างรวดเร็ว
แล้วผลักให้คนที่นอนตาค้างแผ่หลาไปกับที่นอนนุ่ม
“ไม่นะ พี่ ทำไมทำแบบนี้”
ร่างที่บางกว่าผวามาเกาะที่เอว เมื่อเห็นท่าทีที่ไม่สนใจใยดีทำท่าจะละทิ้งไปทั้งที่กิจกรรมยังไม่สิ้นสุด ไฟ
ภายในยังคุกรุ่นจนลมหายใจติดขัดไปหมด
เจ้าของร่างสูงใหญ่กว่าชายไทยทั่วไปหันมามองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ เขาใช้มือที่แข็งแกร่ง
ราวกับคีมใหญ่บีบไปที่ปลายคางนั่นอีกครั้ง
“ฉันไม่ชอบคนปากเสีย และไม่ชอบให้ใครมาออกคำสั่ง เข้าใจไหม”
เสียงกร้าวดังขึ้น ช้า ชัด จนอีกฝ่ายตัวสั่นรีบพยักหน้าหงึกๆ รับ
หน้าคมเข้ม กระตุกยิ้มอย่างพอใจ เขาปล่อยมือจากใบหน้าของอีกฝ่ายแล้วเอื้อมมือไปจับที่เอวบางแล้ว
ยกขึ้น พลิกตัวกลับอย่างง่ายดาย จนอีกฝ่ายอยู่ให้ท่าคุกเข่าใช้มือดันพื้น เขาจึงกอบเนื้อสะโพกให้ยกขึ้น
“โอ๊ะ!!”
เสียงร้องดังขึ้นจากร่างที่เขาดันตัวเองเข้าไปอีกครั้ง ด้วยส่วนที่ขยายตัวเต็มที่นั้นกินพื้นที่เต็มช่องทาง
เขาจับสะโพกของอีกฝ่ายไว้แน่น พลางสอดมืออีกข้างไปที่รอบเอวแล้วกุมแก่นกลางของอีกฝ่ายไว้ในมือ
ก่อนที่จะเริ่มต้นขยับสะโพกของเขาเข้าออกช้าๆพร้อมกับที่สาวมือที่กอบกุมอีกฝ่ายไปมา
“อวู๊....”
เสียงครางกระเส่าดังขึ้นต่อเนื่อง จากฝ่ายที่ถูกกระทำ เมื่อกล้ามเนื้อตอดรัดจนแทบทรงตัวไม่อยู่ มือที่ดันที่
นอนอยู่หมดแรงจนต้องทิ้งลงแล้วใช้ท่อนแขนรับน้ำหนัก
“พี่โมกข์ ได้โปรดเถอะ...ผมไม่ไหวแล้ว อ๊ะ..อ๊า...”
เจ้าของร่างกายที่แทรกกายอยู่เบื้องหลังที่ถูกระบุชื่อว่า โมกข์ กระตุกยิ้มอย่างพอใจเมื่อช่องทางคับแน่น
ตอดรัดเป็นจังหวะ พร้อมกับที่อีกฝ่ายปลดปล่อยออกมาจนเต็มฝ่ามือของเขา
ใช่สิ ต้องเป็นเขาเท่านั้นที่เป็นฝ่ายคุมเกมส์จนได้รับชัยชนะ คนอย่างเขาไม่มีวันให้ใครมาออกคำสั่งเป็นอัน
ขาด
เพราะเขาคือ โมกข์ มนัญชัย
โมกข์ยกมือที่เต็มไปด้วยผลิตผลจากการกระทำของเขาขึ้นมาแล้วปาดนิ้วหนึ่งไปที่ปลายลิ้น ตวัดลิ้นรับรส
ลงคอ ก่อนที่จะป้ายมันทั้งหมดลงบนแผ่นหลังของร่างที่ยังโก้งโค้งสั่นเทาลมหายใจยังคงขาดช่วงเป็นระยะ
เขายังไม่หยุดแค่นี้ ร่างกายของเขายังแข็งแกร่งเกินกว่าจะหยุดได้
โมกข์ดึงขาของอีกฝ่ายจนลอยขึ้นมา จับมันเกี่ยวไว้ที่รอบเอวจนอีกฝ่ายตัวลอยมีเพียงท่อนแขนที่รับน้ำหนัก
ตัวเองไว้ แล้วร่างแกร่งของโมกข์จึงได้เริ่มต้นอีกครั้ง
เขาจับต้นขาเรียวไว้แน่น ก่อนที่จะดึงตัวเองออกมาจนเกือบสุดทางแล้วดันกลับเข้าไปอย่างรวดเร็ว
เสียงอุทานดังขึ้นอีกครั้ง ตามด้วยเสียงครางครั้งแล้วครั้งเล่า ในทุกครั้งที่โมกข์ดึงต้นขาให้อีกฝ่ายเคลื่อนที่
เข้ามาพร้อมกับที่เขาดันสะโพกของเขากลับเข้าไป จนกระทั่งช่องทางนั้นบีบรัดตัวแน่นอีกครั้ง โมกข์จึงได้
ยอมให้ตัวเองปลดปล่อยออกมา
โมกข์เงยหน้ายิ้มอย่างลำพอง เมื่ออีกฝ่ายหอบตัวโยนพลางพึมพำชื่อของเขาไม่ขาดระยะ ก่อนที่เขาจะดึง
ตัวออกจากช่องทางที่ยังตอดรัดอย่างควบคุมไม่ได้ เขาดึงขาที่เกาะเกี่ยวอยู่รอบเอวทิ้งมันลงบนที่นอนอย่าง
ไม่สนใจอีกฝ่าย
แล้วโมกข์ก็เดินผิวปากหวือ เข้าห้องน้ำอย่างสบายอารมณ์
ร่างสูงเกินมาตรฐานชายไทยและแข็งแรงจากการออกกำลังกายจนเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อ ก้าวออกมา
จากห้องนอนด้วยเสื้อเชิตสีเข้มและกางเกงยีนส์เข้ารูปเน้นโครงร่างให้ดูแข็งแกร่งจนเมื่อเดินมาถึงส่วนที่
จัดเป็นห้องนั่งเล่นที่มีโทรทัศน์เครื่องใหญ่ตั้งไว้โมกข์ก็ต้องชะงัก เมื่อคนที่ก้าวเดินตามมาต้อยๆ ผวาเข้า
กอดจากเบื้องหลัง
“พี่โมกข์ไม่ไปกรุงเทพ ไม่ได้หรือ ผมไม่อยากให้พี่ไป”
แววรำคาญปรากฏขึ้นในดวงตาคม โมกข์แกะท่อนแขนที่ยึดเหนี่ยวเขาไว้ออกพลางส่งเสียงดุ
“ไม่เอาน่า โอบ อย่าทำตัวเป็นเด็ก พี่ไปไม่กี่วันก็กลับ”
โอบ หรือ โอบกิจเคลื่อนตัวมาด้านหน้าแล้วกอดร่างหนานั้นไว้อีกครั้ง
“ก็ผมไม่อยากห่างจากพี่โมกข์นี่ ให้ผมไปด้วยได้ไหม”
“โอบ พี่บอกว่าพี่ไปทำงาน ไม่ได้ไปเที่ยวเล่น อย่ามาทำตัวน่ารำคาญเป็นเด็กเล็กอยู่เลย”
เสียงเข้มทำให้โอบกิจชะงัก เขาเหลือบตามองโมกข์อย่างน้อยใจ
โมกข์สูงกว่าเขามาก แม้ว่าเขาจะสูงระดับมาตรฐานชายไทยแต่เมื่อมายืนเทียบกับโมกข์ เขาก็ดูตัวเล็กบอบ
บาง
โอบกิจถอนหายใจเมื่อรู้ตัวว่าตกบ่วงเสน่ห์ของโมกข์เข้าให้แล้ว
ลีลาของโมกข์ช่างเร้าใจ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเคยมีความสัมพันธ์ด้วย โมกข์ทำให้เขาได้รู้จักรสชาติใหม่ที่เขา
ไม่เคยพบเจอมาก่อน และเมื่อเจอแล้ว เขาก็ตกหลุมของมันจนไม่อาจถอนตัวโดยเฉพาะ กับโมกข์
เสียงรถยนต์เคลื่อนที่แว่วเข้ามา โมกข์ผลักร่างของโอบกิจให้พ้นจากการกอดรัดแล้วก้าวเดินไปที่ระเบียงที่
อยู่ด้านหน้า
เมื่อก้าวออกมาแล้ว ขุนเขาสลับซับซ้อนก็ปรากฏให้เห็นโดยรอบเมื่อบ้านที่สร้างจากไม้เนื้อหนาของเขาสร้าง
อยู่บนเนินเล็กๆ กลางหุบเขา
เมื่อรถจี๊บคันใหญ่มาจอดนิ่งที่ทางลาดก่อนที่ทางเดินตรงเข้าสู่ตัวบ้าน ชายฉกรรจ์หลายคนที่เป็นลูกน้อง
ของเขาก็โผล่ขึ้นมาขวางทางไว้ พลางส่งสายตามาทางเขาเป็นคำถาม
โมกข์พยักหน้าน้อยๆ เป็นคำอนุญาต บรรดาลูกน้องของเขาจึงได้เปิดทางให้คนที่อยู่ในรถจี๊ปลงมาและเดิน
ฮึดฮัดเข้ามาให้เขตตัวบ้าน
ชายวัยกลางคนเดินตรงเข้ามาอย่างเอาเรื่อง เมื่อเห็นหน้าโมกข์และคนที่มีสีหน้าตกใจเลี่ยงไปยืนอยู่
เบื้องหลังโดยมีโมกข์บังไว้ เขายิ่งหน้าแดงด้วยความโมโห
“พ่อเลี้ยงโมกข์ ทำอย่างนี้ได้ยังไง”
โมกข์ยังยิ้มในสีหน้า พลางเลิกคิ้วอย่างอารมณ์ดี
“อ้าว สวัสดีครับคุณอาทิตย์ ไม่พบกันเสียนาน สบายดีนะครับ”
“ใครจะไปสบายได้”
อาทิตย์ตวาด
“ลูกชายถูกล่อลวงมาทำอะไรทุเรศๆ แบบนี้ คุณคิดว่าผมจะสบายดีไหมล่ะ พ่อเลี้ยง”
โมกข์ยกมือขึ้นกอดอกอย่างไว้ตัว เมื่อเห็นความโมโหจากอาคันตุกะ
“ใครล่อลวงใครมามิทราบครับ คุณอาทิตย์ ใครกันแน่ที่ตามผมมาต้อยๆ ลองถามลูกชายคุณเองดีกว่ามั้ง”
โมกข์ขยับตัวเปิดทางให้จนเห็นโอบกิจที่ยืนตัวสั่นเทา อาทิตย์ตาลุกวาบเขาก้าวเข้าไปตบหน้าลูกชายเสียง
ดังฉาด
“ไอ้ลูกไม่รักดี เป็นผู้ชายดีๆ ไม่ชอบ ริจะเป็นเกย์”
อาทิตย์บริพาษ
“พ่อ อย่าดุโอบเลย โอบรักพี่โมกข์จริงๆ”
โอบกิจน้ำตาร่วงในขณะที่โมกข์ได้แต่ส่ายหัว
รัก ช่างพูดออกมาได้ง่ายดาย เพียงแค่ความสัมพันธ์ไม่กี่ครั้งที่มีโอบกิจก็ช่างตกหลุมรักได้ไม่ยาก
โมกข์ไม่เชื่อเรื่องความรัก มันช่างเป็นสิ่งที่ไร้สาระที่สุดในโลกนี้หากจะบอกว่าเราสามารถทำทุกอย่างให้คน
ที่เรารัก
ชีวิตของเขาเติบโตมาอย่างขาดความรัก เมื่อแม่ทิ้งเขาและพ่อไปตอนที่ครอบครัวกำลังทรุดตัวจาก
เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ส่วนพ่อ เมื่อรู้ว่าไร่แห่งนี้ประสบปัญหาที่ไม่อาจแก้ได้และประกอบกับที่แม่จากไป พ่อก็ฆ่า
ตัวตาย
ชีวิตวัยรุ่นของเขาต้องจบลงเมื่อแบกรับความเลวร้ายไว้บนบ่า โมกข์ต้องโตเป็นผู้ใหญ่ในชั่วข้ามคืนเพื่อ
แก้ปัญหา
จนมาถึงวันนี้ วันที่เขาอายุสามสิบต้นๆ เขาสามารถซื้อไร่ของเขากลับคืนมาได้ และกลายเป็นนักธุรกิจรุ่น
ใหม่ไฟแรง ที่ใครๆ ก็พิศวงกับความสามารถและกังขาถึงที่มาของเงินแต่ด้วยรูปร่างหน้าตาที่มีเสน่ห์ดึงดูด
สายตากับรูปร่างสูงใหญ่ คล้ำไปด้วยไอแดดยิ่งทำให้หน้ามองบวกกับความดุที่ขึ้นชื่อ เท่านี้โมกข์ก็
กลายเป็นที่จับตาในฐานะพ่อเลี้ยงคนดังไม่ยาก
ก็แม้แต่โอบกิจ ลูกชายนายอาทิตย์เจ้าของห้างสรรพสินค้าชื่อดังของจังหวัดที่ชื่อว่าเป็นเพลย์บอยวัยรุ่นคน
นี้ ก็ยังมาหลงเสน่ห์ของเขาเข้าเต็มเปา
“เอาเป็นว่าจะเคลียร์อะไรกันก็ตามสบายนะครับ ผมต้องรีบเข้ากรุงเทพ ขอตัวก่อนละกัน”
โมกข์หันหลังเดินออกมาจากตัวบ้าน อย่างไม่สนใจเสียงเรียกของโอบกิจที่ดังมาพร้อมเสียงดุคนเป็นลูกจาก
นายอาทิตย์