ตอนที่ 40ภูธิป ‘คงถึงเวลาเปลี่ยนฉายาจากไอ้ดำตูดหมึกเป็นไอ้ถึกขี้งอนจริงๆซะแล้วมั้ง’ คุณจะไม่ให้ผมคิดแบบนี้ได้อย่างไร ในเมื่อนนงอนผมไม่เลิก แถมประเด็นที่งอนก็เรื่องไม่เป็นเรื่องแท้ๆ กับแค่มันอิจฉาน้องธันว์เพียงเพราะได้รู้จากอาวิสุทธิ์ว่าผมเคยไปบ้านธนอรรถย์อยู่หลายครั้ง ในช่วงก่อนที่เราจะตกลงคบกัน มันใช่เรื่องมั้ยที่จะมาอิจฉาน้องธันว์เอาตอนนี้ เรื่องมันก็ผ่านไปแล้วผมกลับไปแก้ไขไม่ได้ แต่ถึงย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้ ผมก็ไม่คิดจะแก้ไขมากกว่า
การที่ผมให้อาวิสุทธิ์พาไปบ้านธนอรรถย์นั้น ไม่ใช่ว่าผมสนใจหรืออยากจะจีบน้องธันว์ซะที่ไหนกัน เหตุผลที่แท้จริงคือผมแค่อยากรู้ความเป็นไปของไอ้ถึกขี้งอน ผ่านทางน้องธันว์ที่เป็นเพื่อนสนิทก็เท่านั้น และขืนมันรู้ความลับนี้เข้ามีหวังยิ่งได้ใจ เพราะแค่นี้ก็เอาแต่ใจกับผมมากแล้วครับ แทนที่ผมจะเป็นฝ่ายโกรธมันเรื่องหวางเหมยอิง ที่นนทำตัวสนิทสนมจนผมเข้าใจผิดไปไกล ว่ามันเอาใจออกห่างไปกับสาวสวยคุณสมบัติพร้อมคนนั้น
มีอย่างที่ไหนหลังจากไปอยู่ฮ่องกงหนึ่งอาทิตย์ แต่ขากลับดันมีสาวสวยตีคู่กลับมาด้วยให้ผมใจเสีย แถมทั้งคู่ก็ดูสนิทสนมกันมาก ไอ้ดำตูดหมึกเองก็เทคแคร์ดีเว่อร์ในแบบที่ผมไม่เคยเห็นมันทำให้ใครนอกจากผม ใครเป็นผมก็เข้าใจผิดทั้งนั้น
ผมมารู้ตัวว่าตัวเองคิดมากเกินไป ในตอนที่พวกเราไปส่งสาวสวยคนนั้น และน้องธันว์แนะนำผมกับหวางเหมยอิงญาติผู้พี่ให้รู้จักกัน ผมก็เพิ่งรู้ว่าเหมยอิงเป็นฝาแฝดกับหลี่ผิงก็วันนี้ ซึ่งการที่เธอบินกลับมาพร้อมครอบครัวชลาสินธุ์ เป็นเพราะอาธัชผู้เป็นสะใภ้ตระกูลหยางฝากฝังมาอีกที ด้วยไม่อยากให้หลานสาวเดินทางมาเมืองไทยเพียงลำพัง และบุคคลอีกหนึ่งท่านที่ตอกย้ำว่าผมเข้าใจนนกับเหมยอิงผิดคือแม่อร ที่ย้ำสถานะว่าทั้งคู่เป็นเพียงเพื่อนกันเท่านั้น ทำเอาผมยิ่งรู้สึกผิดไปใหญ่ที่ทำตัวไม่มีเหตุผล และหึงไม่เข้าท่า เพราะความรู้สึกผิดนี้แหละ ที่ทำให้ผมต้องเป็นฝ่ายง้อไอ้ถึกขี้งอนอยู่แบบนี้ และคนโดนง้อก็เหมือนจะได้ใจ ไม่คิดจะยอมคืนดีกับผมง่ายๆซะด้วย
พอผมชวนคุยไอ้ดำตูดหมึกดันปิดปากเงียบ พอผมแตะเนื้อต้องตัวหน่อยมีปัดป้องอย่างสาวหวงตัว แต่พอผมลองตวาดใส่มันดันทำหน้างอสะบัดค้อนแถมให้อีกแน่ะ เอากับไอ้ดำตูดหมึกมันสิ อย่างตอนนี้ไอ้ถึกขี้งอนก็นอนหันหลังให้ผม ทั้งๆที่ไม่เคยทำมาก่อน จนผมเองชักจะหมดความอดทน มันใช่เรื่องมั้ยที่จะงอนกันข้ามวัน แต่ผมจะลองอดทนต่ออีกนิด และถ้าครั้งนี้ไอ้ถึกขี้งอนยังทำตัวไม่เข้าท่าอีกก็ตัวใครตัวมันแล้วกัน
“เฮ้อออ ดีเหมือนกัน ต่างคนต่างอยู่!” ผมจงใจถอนใจแรงและบ่นดังๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอนตะแคงข้าง แต่เลือกที่จะหันหน้าเข้าหาแผ่นหลังกว้างของคนขี้งอน
‘5 4 3 2...’ ผมยังไม่ทันนับถึงหนึ่ง ร่างที่เคยนอนนิ่งก็พลิกตัวกลับมาเผชิญหน้ากัน
“อ่ะ!...เอิ่ม” ไปไม่เป็นเลยสิไอ้ถึกขี้งอน คราวนี้คงเลิกงอนได้แล้วล่ะมั้ง
ผมล่ะอยากจะขำกับอาการสะดุ้งสุดตัวของนนที่หันมาเจอว่าผมนอนมองอยู่ แทนที่ผมจะนอนหันหลังให้อย่างที่ผมตั้งใจให้นนคิดว่าผมเลิกง้อ ก่อนมันจะหาคำพูดไม่เจอเมื่อเห็นผมจ้องตาเขม็ง ซึ่งผมพยายามกลั้นขำไว้ เพื่อไม่ให้ไอ้ตัวดีมันเสียหน้า เดี๋ยวจะพาลงอนไม่เลิก เอาน่ะง้อคนขี้งอนเค้าหน่อย
“นนเลิกงอนเบสเถอะนะครับ” ผมยื่นมือไปแตะแก้มของนนพร้อมง้อด้วยเสียงนุ่มๆ ตบท้ายด้วยการระบายยิ้มบางเบาปลอบประโลมไอ้ขี้งอนของตัวเอง ทุ่มสุดตัวขนาดนี้ ถ้าไม่หายงอนก็ให้รู้กันไป
จากอาการงอนจนปากยื่นปากยาว ไอ้ดำตูดหมึกค่อยๆคลายสีหน้าลงมีจ้องผมตาไม่กระพริบ ก่อนมันจะถอนใจยาวเหยียด และผมต้องตกใจที่อยู่ๆไอ้ถึกขี้งอนโผเข้ากอดผมทั้งตัว พร้อมเอาหน้าซุกมาที่อกผม
“เบสก็เป็นซะแบบนี้ นนงอนได้ไม่นานสักที...คิดถึงเบสจัง” ผมยิ้มเต็มหน้าได้ก็นาทีนี้ ทำไมผมจะไม่คิดถึงไอ้คนขี้งอน ไม่มีตัวยุ่งคอยกวนตั้งอาทิตย์ ชีวิตผมเงียบเหงาไปเยอะเลยล่ะ เพราะเหมือนว่าชีวิตมันขาดอะไรไป
ผมยกมือลูบแผ่นหลังกว้างไปมาช้าๆ นนเองก็ซุกหน้าเงียบๆอยู่ที่แผ่นอกผม แต่ท่ามกลางความเงียบและแสงสลัวภายในห้อง หัวใจในอกผมกลับอบอุ่นและไม่เงียบเหงาเหมือนคืนที่ผ่านมา ไอ้ดำตูดหมึกมันจะรู้มั้ยว่าทำผมเคยตัว หลายคืนที่ผ่านมาแม้ผมจะนอนคนเดียวได้ แต่มันก็หลับไม่สนิทเหมือนเคยอย่างคืนที่มีนนนอนเคียงข้าง
“ขอโทษที่เข้าใจผิด!” นั่นคือเสียงผมที่ดังขึ้นพร้อมอีกเสียงอย่างไม่ได้นัดหมาย
“นนขอโทษที่งอนไม่เข้าเรื่อง!” เราต่างฝ่ายต่างชะงัก
ผมก้มลงมองใบหน้าที่อยู่กับอก นนเองก็เงยหน้าขึ้นจากอกมามองผมเช่นกัน เราต่างจ้องตากัน ในดวงตาคู่คมเต็มไปด้วยความจริงใจและแววสำนึกผิด จนผมอดที่จะระบายยิ้มใส่ตาคู่นี้ไม่ได้ ความเข้าใจผิดความน้อยใจที่เคยมีละลายหายไปจากใจผมจริงๆก็นาทีนี้เอง
นนยื่นหน้าเอาปากมาแตะกับริมฝีปากผมนิ่งๆ ก่อนจะถอยออกนิดและเปิดยิ้มกว้างใส่ตาผม ขนาดอยู่ในห้องที่มีเพียงแสงอ่อนๆจากโคมไฟหัวเตียง ผมยังเห็นรอยยิ้มสว่างสดใสของนนชัดตา ทำให้หัวใจในอกเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ และรู้สึกได้เลยว่าโหนกแก้มเริ่มร้อนผะผ่าว
“นนแค่อิจฉาไอ้ธันว์ที่ได้รับความสนใจจากเบส และก็โกรธตัวเองที่จำเบสไม่ได้แต่แรก ทั้งๆที่เป็นเพื่อนคนสำคัญแท้ๆ พี่กานต์เล่าให้นนฟังหมดแล้วนะ แต่เบสก็น่าจะบอกนนว่าตัวเองน่ะคือไอ้หน้าหยกขี้แยของนน และเป็นเจ้าของมินิเอสเตรทคันนั้น ไม่งั้นนนจับเบสมาเป็นแฟนแต่แรกแล้ว”
ดูท่านนจะโกรธตัวเองอย่างปากว่าจริงๆ เพราะระหว่างที่ไอ้ตัวดีมันเปิดปากเล่า หน้างี้มุ่ยแววตาก็ฉายแววเสียดายนักหนา และรัดร่างผมซะแน่น อย่างกับกลัวว่าผมจะหนีหายไปไหนซะแบบนั้น ทั้งๆที่ผมก็นอนให้ไอ้ตัวดีมันกอดอยู่แท้ๆ
ผมจึงยกมือลูบหัวเกรียนๆอย่างเบามือ ไม่น่าเชื่อว่าแค่อาทิตย์เดียวผมนนจะยาวขึ้นจนสากมือไปหมด แม้ผมจะแปลกใจว่าเจ้าตัวไปคุยกับพี่กานต์เรื่องของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่เท่าที่ฟังนนคงรู้ที่มาของรถคันโปรดจนหมดแล้วล่ะ ซึ่งมันคงถึงเวลาที่ผมจะบอกเล่าความจริงทั้งหมดสักที
“ที่เบสไม่บอกแต่แรก เพราะยังไม่แน่ใจต่างหากว่านนคิดยังไงกับเพื่อนวัยเด็กที่ทำให้นนตกรถ ก็เล่นไม่มาโรงเรียนอีกเลยนี่ครับ แต่พอรู้ว่านนไม่ติดใจเรื่องในอดีต แถมยังเก็บมินิคันนั้นไว้อย่างดี แม้นนจะไม่รู้ว่าใครให้มาก็ตาม เบสดีใจมากเลยรู้มั้ย อย่างน้อยความรู้สึกผิดในใจก็น้อยลง พอยิ่งได้รู้ว่ามินิเป็นของรักของนน และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้นนสะสมโมเดลรถพวกนั้น เบสเลยยิ่งดีใจที่ทำให้นนไม่ต้องมาจดจำเรื่องแย่ๆของเบสสมัยวัยเด็ก แต่นนกลับมีความสุขกับของที่เบสให้นนแทน
เพราะฉะนั้นการที่นนจะรู้หรือไม่รู้ว่าเบสเป็นเจ้าของมัน ค่าของมันก็ไม่ต่างกัน เพราะขอแค่เบสรู้ว่าไอ้ดำตูดหมึกให้อภัยไอ้หน้าหยกขี้แยคนนี้ก็พอแล้ว ไม่เช่นนั้นการที่เบสลงทุนลงแรงไปทั้งหมด เพื่อให้เรารู้จักกันอีกครั้งมันก็คงเปล่าประโยชน์”
นนขยับตัวขึ้นคร่อมผมเพื่อจะได้มองหน้าผมให้ชัด ในระยะที่สัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน ย่อมไม่พลาดที่ผมจะเห็นร่องรอยของความประหลาดใจจากแววตาคู่คม ไม่นานริมฝีปากหนาก็จุดรอยยิ้มขึ้นที่มุมปากก่อนจะขยายกว้างขึ้น พร้อมแววระยิบระยับของหน่วยตาดำขลับที่ค่อยๆทอประกายเจิดจ้าของความดีใจ ไม่ต้องบอกผมก็รู้ว่านนแปลความหมายของประโยคที่ผมพูดได้หมด ซึ่งอาการดังกล่าวของคนตัวโตกลับทำผมใจกระตุกไปได้เหมือนกัน
“หมายความว่า การที่เบสทำท่าเหมือนจีบไอ้ธันว์ หรือแม้แต่ไปหามันที่บ้าน เพราะเบสอยากสืบข่าวเรื่องนนจากไอ้ธันว์ใช่มั้ย” ทั้งๆที่นนถามผมด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นนักหนา แต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความมั่นใจ
นนคงแค่อยากได้คำยืนยันจากผมเท่านั้น แต่ในใจคงมั่นใจเกือบเต็มร้อยแล้วว่าตัวเองคิดถูก ซึ่งก็ไม่ผิดไปจากที่ไอ้ตัวดีมันคิดหรอกครับ ผมจึงพยักหน้าให้ช้าๆพร้อมยิ้มบางเบา เวลานี้ไม่มีอะไรต้องปิดบังกันอีกแล้ว แต่อยู่ๆนนก็โถมตัวเข้ามากอดผมจนแน่น ตามมาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแกมยินดี ผมที่ไม่ทันตั้งตัว จึงได้แต่กอดตอบร่างหนาพร้อมรอยยิ้มเต็มหน้า ให้กับท่าทางของเด็กโข่งที่แสดงอาการดีใจจนออกนอกหน้า
“นนดีใจจังที่เบสไม่คิดจะลืมนน ส่วนเรื่องอุบัติเหตุนั่น เบสลืมมันไปให้หมดเลยนะ นนไม่เคยติดใจอะไรทั้งนั้น ทุกวันนี้การที่นนมีเบสเป็นแฟน มันเท่ากับนนได้ของมีค่าที่เคยทำหายไป กลับมาเลยรู้มั้ย และต่อจากนี้นนจะไม่มีทางให้ของชิ้นสำคัญหลุดลอยไปไหนอีก นนสัญญาจะดูแลเบสอย่างดี ชดเชยให้กับความรู้สึกที่เสียไปของเบสเพราะนน และชดเชยให้กับทุกสิ่งที่เบสลงทุนลงแรงไปเพื่อเรา...รักเบสนะ นนรักเบสครับ” คำรักถูกกระซิบด้วยน้ำเสียงนุ่มหู และสื่อแววหวานละมุนผ่านดวงตา
ผมจ้องลึกไปในตาคู่คมหวาน พร้อมหัวใจในอกที่ฟูฟ่อง และเต้นถี่กระชั้นจนแทบทะลุอก ส่วนหน้าก็เห่อร้อนแทบเดือด บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมต้องเขินสายตาที่สื่อว่ารักผมนี่นักหนา ทั้งๆที่ตลอดเวลาที่เราคบกันนั้น นนเป็นฝ่ายบอกรักผมไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งมาแล้ว แต่ผมก็มีอาการดังกล่าวซะทุกครั้ง จนผมอยากจะรู้ว่าหากนนได้ยินคำรักของผมบ้างจะมีอาการเช่นไร ผมจึงวางมือลงบนอกข้างซ้ายของนน ก่อนตัดสินใจเอ่ยคำบางคำที่ผมไม่เคยบอกนนมาก่อน แต่มันคงถึงเวลาแล้วที่ผมจะบอกความในใจนี้ให้นนได้รู้
“พูดอะไรไว้ก็ทำให้ได้อย่างที่พูดล่ะนน ที่บอกว่ารักก็ให้รักมากๆ ห้ามเปลี่ยนใจ ถ้าวันใดนนเปลี่ยนไป เบสคงเสียใจมาก เพราะเบสเองก็รักนนไม่ต่างกัน” ไหนๆจะบอกรักทั้งที ผมก็แถมอ้อนให้สุดทางกันไปเลยแล้วกัน รักแล้วนี่ครับ คงไม่มีใครอยากให้คนที่เรารักเปลี่ยนใจไปจากกันหรอก ย่อมเห็นแก่ตัวกันทั้งนั้น
หลังคำรักของผม นนตะลึงจ้องผมตาค้างและเงียบไปเลย แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมรู้ว่าไอ้ดำตูดหมึกมันไม่ได้นิ่งอย่างที่เห็น คือแรงกระแทกของก้อนเนื้อหัวใจใต้ฝ่ามือนี่ต่างหาก ที่ทำให้ผมรู้ว่าปฏิกิริยาของคำว่ารักมีอานุภาพต่อเราทั้งคู่มากเพียงใด ยิ่งคำว่ารักมาจากคนที่เราต่างผูกใจไว้ด้วย
นาทีนี้ผมนึกกลัวว่านนจะหัวใจวายไปก่อน จึงยกมือลูบแก้มนนพร้อมรอยยิ้มปลอบโยน ทำให้ดวงตาคู่คมที่เคยแข็งค้างอ่อนกระแสแห่งการตกตะลึงลง และมันยิ่งเชื่อมหวานขึ้น ยามผมไล้ปลายนิ้วผ่านริมฝีปากหนา ก่อนที่ผมจะผละออกนนก็แตะจูบที่ปลายนิ้ว พร้อมพึมพำเรียกชื่อผมไปด้วย ทำให้ผมเป็นฝ่ายหลบแววตาเจิดจ้าที่แสดงออกชัดว่าทั้งรักทั้งหลงใหลกัน
“ชื่นใจจัง...ตลอดมาถึงนนจะรู้ว่าเบสเองก็คงรักนน แต่พอได้ยินจากปากเบส นนบอกไม่ถูก มันดีใจจนแทบบ้า และนนไม่ขอสัญญาว่าจะรักเบสไม่เปลี่ยน แต่อยากขอให้เบสคอยอยู่ข้างๆนนและรอพิสูจน์เอาเอง ว่ารักของนนมีให้เบสมากมายแค่ไหน...รักเบสมากนะครับ สุดหล่อของนน”
เจ้าของเสียงนุ่มละมุนและแววตาอ่อนหวานก้มหน้าลงมาหาผมอย่างช้าๆ พร้อมมอบจูบหวานๆผ่านริมฝีปากนุ่ม จูบที่นนมีให้ผมมักเริ่มต้นด้วยความนุ่มนวล พาให้ผมเคลิบเคลิ้มไปกับเจ้าตัวเสมอ ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา จนลมหายใจผมเริ่มหมด นนก็เหมือนรู้จังหวะปล่อยปากผมให้เป็นอิสระ ก่อนจะเปลี่ยนเข้ามาคลอเคลียแถวซอกคอผมแทน
แรงดูดแรงเม้มเบาๆขบผิวเนื้อพาให้ขนอ่อนทั่วกายแข่งกันลุกชัน จนผมเองยังอดกลั้นไว้ไม่ไหว เผลอครางผะแผ่วระบายความเสียวซ่านให้คนเหนือร่างยิ่งได้ใจ ด้วยการลงลิ้นรัวเร็วลามจากซอกคอไปลาดไหล่และแผ่นอกเปลือยเปล่า ซึ่งผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากระดุมหน้าถูกปลดไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ก่อนแหล่งกำเนิดความเสียวซ่านจะจู่โจมยอดอกข้างซ้าย พร้อมๆกับที่ปลายนิ้วอุ่นบดขยี้เข้ายอดอกข้างขวา ทำเอาผมถึงกลับผวาครางเสียงสั่น คว้าต้นคอหนาไว้มั่น เพื่อกดใบหน้าคมเข้าหายอดอกตัวเองมากขึ้น และเผลอจิกเนื้อฝังรอยเล็บข่วนเป็นทาง แต่เจ้าของลิ้นร้ายและฝ่ามือร้อนไม่มีทีท่าสะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อย ด้วยยังคงเปลี่ยนที่สำรวจร่างกายผมไปทุกซอกทุกมุม
แม้แต่เบสน้อยกลางลำตัวที่ขณะนี้ได้รับการเอ็นดูจากโพรงปากอุ่นและลิ้นร้อนเป็นพิเศษ นนดูดกลืนมันด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย เจ้าของอย่างผมจึงตอบแทนด้วยการขยับสะโพกเข้าหาความอุ่นร้อน และเปิดขาอ้ากว้างให้ร่างหนาแทรกกลางร่างให้ถนัดขึ้น ก่อนผมจะสะดุ้งจนต้องถดสะโพกหนี เมื่อรู้สึกถึงปลายนิ้วเย็นๆลื่นๆที่พยายามแทรกผ่านซอกหลืบด้านหลัง แต่ปลายลิ้นร้ายดันรู้งานพยายามเบี่ยงเบนความสนใจผม ด้วยการหยอกล้อกับส่วนปลายของเบสน้อย เล่นเอาผมสูดปากครางไม่เป็นภาษา ตอบรับนิ้วร้ายอย่างไม่รู้ตัว
“ซี้ดดด อ่า นน เร็วกว่านี้ นน อ๊ะ!...มะ ไม่ อ่า ตรงนั้น นน~” ผมถึงกลับหน้าเชิดยกสะโพก และเรียกหานนเสียงหลง เมื่อนิ้วร้ายขยี้จุดไวสัมผัสที่อยู่ภายใน ก่อนจะเผลอตอบโต้ด้วยการขยับสะโพกสวนปลายนิ้ว
ด้านหน้าด้านหลังถูกกระตุ้นพร้อมกัน ทำให้ผมแทบปลดปล่อย แต่ไอ้ตัวดีมันก็ไม่ยอมง่ายๆ เพราะดันรวบเบสน้อยและปิดส่วนหัวไว้ ไม่ให้ผมไปถึงปลายทางที่เห็นแสงสว่างอยู่แค่เอื้อม ผมนี่แทบอยากจะถีบมันตกเตียง ทะเล้นทะลึ่งไม่ดูเวลา แต่ผมก็อ่อนแรงเกินกว่าจะทำตามใจคิด ผมพยายามปัดมือมันออก แต่กลับถูกรวบจับข้อมือทั้งคู่ไว้เหนือหัว ทำให้ขณะนี้ผมได้แต่นอนมองนนอย่างตัดพ้อปนออดอ้อน เพื่อให้ได้อย่างที่ต้องการ
ไม่อยากจะจินตนาการว่าตัวเองอยู่ในท่วงท่าที่น่าอายแค่ไหน มือถูกรวบเหนือหัว นอนอ้าขากว้างโดยมีไอ้ล่ำดำถึกโน้มตัวอยู่กลางหว่างขา แถมเบสน้อยยังถูกรวบไว้เป็นตัวประกัน แต่ไอ้ดำตูดหมึกกลับเงยหน้าขึ้นฉีกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเลียริมฝีปากใส่ตาผม ทำเอาผมแทบคลั่งนอนสั่นไปทั้งตัว และเรียกชื่อมันยังแทบไม่เต็มคำ
“นะ...นน ปล่อยเบสนะ...ครับ อ่าๆ” ยิ่งอ้อนใส่นนก็เหมือนจะยิ่งได้ใจ ขยับเบสน้อยแรงเร็วแต่ยังคงปิดกลั้นผมไว้ไม่ให้ปลดปล่อย จนผมต้องครางเสียงหลง เผลอตวัดขาโอบรอบเอวแกร่งดึงร่างหนาเข้าหาตัว จนรับรู้ถึงแก่นกายร้อนผ่าวที่ผงาดผ่านกางเกงเนื้อบางมาชนเนินสะโพก พาให้ผมได้ยิ่งขนลุกเกรียว ในใจก็ตะโกนลั่น ด้วยอยากหลุดพ้นจากความทรมานแสนหวานนี้เต็มทน
“อยากให้นนปล่อยใช่มั้ยครับ...แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ” ผมพยักหน้าตอบรับทันที นาทีนี้ไม่มีสติคิดแล้วด้วยซ้ำว่าข้อแลกเปลี่ยนที่นนขอนั้น ผมจะเสียเปรียบไปถึงไหนๆ
“อ่ะ!” ผมร้องเสียงหลงกอดไหล่หนาไว้แน่น เมื่ออยู่ๆนนก็พลิกร่างผมขึ้น จนผมมานั่งคร่อมอยู่ตรงหน้าท้องแกร่ง โดยที่นนกลับเป็นฝ่ายลงไปนอนแผ่บนเตียงด้วยเสื้อผ้าครบชุด แต่เรื่องอารมณ์ไม่ต้องห่วงว่าจะตามผมไม่ทัน เพราะไอ้นนน้อยที่โผล่หัวมาดุนสะโพกผมอยู่นั้น ร้อนผ่าวพร้อมรบเต็มที่แล้ว
“อ่า~ นน ซี้ดดด อ่า นน เร็วอีก...[เพียะ!]...นน~ อ่า” จะไม่ให้ผมเรียกร้องแถมด้วยการลงไม้ลงมือได้ยังไง ในเมื่อไอ้ดำตูดหมึกทำตัวเหมือนจะแกล้งกัน ด้วยการแกล้งขยับมืออ้อยอิ่งไม่ทันใจ ทั้งๆที่ปากบอกว่าจะปลดปล่อยผม
เมื่อผมฟาดมือลงบนแผงอกล่ำ นนสะดุ้งนิดคงไม่คิดว่าผมจะลงมือด้วย มียื่นปากใส่ผมนิดก่อนจะยอมตามใจผม ด้วยการขยับมือเร็วขึ้น จนผมเองยังถึงกลับครางเสียงพร่า หลับตาพริ้มรับสัมผัสของฝ่ามือ แต่ก่อนปลดปล่อยผมได้ลืมตาขึ้น จนได้สบกับดวงตาฉ่ำหวานฉายแววรักใคร่ชัดตา
“รับนนเข้าไปหน่อยนะครับสุดหล่อ” คำขอที่มาพร้อมเสียงนุ่มๆและความแข็งขืนเบื้องล่าง บวกสายตาออดอ้อนร้องขอ ทำให้ผมตัดสินใจได้ไม่ยากที่จะทำตามข้อแลกเปลี่ยนที่รับปากไว้
ผมเอื้อมมือคว้านนน้อยที่โผล่พ้นขอบกางเกง ก่อนยันฝ่ามือไว้ที่แผงอกหนาและยกสะโพกตัวเองขึ้น แต่อดลอบกลืนน้ำลายไม่ไหวจริงๆ เพราะขนาดของๆร้อนในมือมันไม่ธรรมดาเหมือนที่ตาเห็น แม้เราจะเคยมีอะไรกันมาก่อนไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง และถึงผมจะคุ้นเคยกับมัน แต่อดหวั่นใจไม่ได้จริงๆ เพราะไม่มีสักครั้งที่ผมจะลงมือเอาไอ้สิ่งนี้เข้ามาในร่างกายตัวเอง
นนคงสังเกตเห็นล่ะครับว่าผมขยาดและเกิดความลังเลไม่น้อย มันจึงยกมือลูบต้นขาผมอย่างอ่อนโยน ส่งผลให้ผมเงยหน้าสบตานนอีกครั้ง แววตารักใคร่ที่คอยส่งกำลังใจให้กัน ทำให้ผมตัดใจจ่อนนน้อยที่ขนาดไม่ได้น้อยสมชื่อเข้าที่ปากทางของตัวเอง แรกสัมผัสผมถึงกลับขนลุกซู่ ก่อนจะถอนใจยาวเพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเองอีกนิด และกดสะโพกเข้าหาส่วนหัวของนนน้อยอย่างช้าๆ
“อ่าๆ เบสสสส” นนร้องเรียกผมเสียงหลง ปลายนิ้วยาวเผลอจิกเข้าที่ต้นขาทำเอาผมสะดุ้ง ก่อนผมจะพยายามผ่อนคลายตัวเองให้มากขึ้น เพื่อพยายามรับนนเข้ามาในตัวทั้งหมด
“เบส~” นนเรียกหาผม พร้อมลูบไล้ไปตามต้นขาและยอดอก เพื่อปลุกปั่นอารมณ์ที่ถดถอยลงของผมให้โหมกระพือขึ้น
ไอ้ดำตูดหมึกคงรู้ล่ะครับ ว่าผมกำลังอึดอัดและพยายามมากเพียงใดที่จะกลืนกินมัน แต่สายตาที่คอยส่งกำลังใจมาให้ และท่าทางอดกลั้นของนน ที่นอนเกร็งไปทั้งร่างพยายามไม่เสยสะโพกสวนเข้ากายผม ใบหน้าคมเข้มเองก็แดงก่ำจ้องผมไม่กระพริบ และริมฝีปากหนาที่เคยพ่นคำรักหวานๆก็ถูกเม้มไว้จนแน่น ทำให้ผมมีกำลังใจอีกมากที่จะลดสะโพกเข้าหานนอย่างช้าๆ จนสามารถกลืนกินนนน้อยได้จนหมด แต่ก็เล่นเอาขาสั่นและหอบตัวโยนไปเหมือนกัน ก่อนนนจะเชยคางผมขึ้นและยืดตัวขึ้นมาจูบกัน พร้อมลูบไล้แผ่นหลังผมไปมาจนทั่ว แถมด้วยการปลุกปั่นเบสน้อยด้วยฝ่ามืออีกครั้งอย่างอ่อนโยน
“อืมมม...นน อึดอัด เบสไม่ไหว” หลังถอนจูบยาวนานที่ช่วงชิงลมหายใจผมไปจนหมด ผมถึงกลับเอนร่างทาบทับกายแกร่ง และขอร้องอย่างหมดอาย เมื่อความอึดอัดด้านล่างกระตุ้นเตือน
“ขยับเลยสิครับสุดหล่อ แบบนี้ไหวมั้ย...อ่า~ เบสแบบนั้น ดีครับ ซี้ดดด” หลังจากที่นนรวบเอวผมไว้และยกขึ้น ก่อนจะกดลงหาความรุ่มร้อนแข็งขืน เจ้าตัวเองก็สูดปากครางเสียงหลงชมเชยผมดังลั่น
เมื่อผมรู้จังหวะขับเคลื่อน ผมก็วางมือทั้งคู่ลงบนแผงอกหนา โดยที่มีนนประคองเอวไว้ และเริ่มขยับตามที่โดนสอนมา แรกเริ่มมีติดขัดแต่จากสีหน้าและน้ำเสียงของคนใต้ร่าง ทำเอาผมทุ่มเทมอบความสุขให้อย่างไม่รู้ตัว จนลืมนึกถึงตัวเองไปด้วยซ้ำ ยิ่งนนครางดังและมีสีหน้าทรมานเท่าไหร่ ผมยิ่งขยับและส่งแรงกระแทกกระทั้นไปมากเท่านั้น จนกระทั่งเจ้าของความรุ่มร้อนแข็งขืนในร่าง ครางลั่นหน้าเชิดลำคอปูดโปน และปลดปล่อยสายธารร้อนจัดเข้าสู่ร่างกายผม
“ซี้ดดด อ่าๆๆ เบสสสส สุดยอด ที่รัก เบส อู้ๆๆๆ อ๊าๆๆๆๆ”
นนนอนหลับตาพริ้ม ปากหนาแดงจัดเผยอหอบอากาศตัวโยน ผมแสยะยิ้มให้กับภาพที่ได้เห็น ทั้งๆที่ตัวเองก็เหนื่อยเหงื่อโทรมกาย จนเสื้อนอนที่หลุดลุ่ยนั้นเปียกซก ผมจึงถอดออกจากตัวและโยนลงข้างเตียง จังหวะนั้นเองเปลือกตาหนาของคนที่นอนนิ่งเมื่อครู่ก็เปิดออก จนสายตาคู่คมที่มีแววหวานหวิวสบตากับผมเข้า นนนอนจ้องผมไม่กระพริบ ผมจึงเอียงหัวนิดกระตุกยิ้มมุมปากอีกหน่อย ให้อารมณ์ของผู้ชนะที่มีผู้แพ้นอนศิโรราบใต้ร่าง อยู่ๆผมก็นึกสนุกขึ้นมา จึงโน้มตัวลงแตะปากเข้าที่กลีบปากหนา ก่อนจะดูดเม้มเบาๆอย่างยั่วเย้า แต่พอนนยื่นลิ้นมาเพื่อจะเกี่ยวกับลิ้นผม ผมก็ผละจูบและชะโงกหน้ายกยิ้มบางเบาให้ ไอ้ตัวดีถึงกลับครางเรียกผมเสียงพร่า พยายามไขว่คว้าใบหน้าผมไปจูบ แต่มันถึงคราวผมแล้วที่จะเอาคืน ผมจึงกดข้อมือทั้งคู่ของนนไว้ข้างหมอน ก่อนก้มกระซิบชิดขอบปากหยุ่น
“นน! ห้ามขยับ ห้ามพูด ห้ามขัดคำสั่ง ไม่งั้นเบสโกรธนะครับ...เข้าใจนะ ไอ้ดำตูดหมึกของเบส” ผมยิ้มยั่วใส่ตาดวงตาคู่คม ที่เจ้าของมันตกตะลึงตาค้างได้แต่พยักหน้าให้หงึกๆ
ผมยืดตัวกลับมาอีกครั้ง และรับรู้ได้ว่าของร้อนในกายเริ่มแข็งขืนขึ้นมาอีกครั้งแล้ว ทั้งๆที่เพิ่งปลดปล่อยไป แต่เป็นผมเองแท้ๆที่ยังค้างเติ่ง ผมจึงเริ่มลงมือแกล้งลูบแผ่นอกหนาจากกลางอก ลงมาที่หน้าท้องแกร่งที่ขณะนี้กล้ามเนื้อเกร็งจนขึ้นลูกสวย ก่อนส่งมืออีกข้างแตะหัวไหล่ตัวเอง และลากปลายนิ้วผ่านยอดอกตัวเองช้าๆ ส่วนสายตาผมก็จ้องเข้าไปที่ตาคู่คมนิ่ง เพื่อปรามไม่ให้นนขัดคำสั่ง และผมต้องกระตุกยิ้ม เมื่อดวงตาคู่คมเปล่งประกายปรารถนาเจิดจ้า ไล่มองปลายนิ้วผมสลับมองตาผมอย่างอดกลั้น จนกระทั่งมือผมเคลื่อนมารวมกันที่จุดกึ่งกลางลำตัว
“เอื๊อก!! เบสสส~” ไอ้ตัวดีถึงกลับกลืนน้ำลายเสียงดัง และเพ้อเรียกชื่อผมอย่างออดอ้อนเสียงละห้อยน่าสงสารมาก ยิ่งนนน้อยด้วยแล้วถึงกลับผงกหัวกึกๆในกายผมเลยทีเดียว นนเริ่มทนไม่ไหวพยายามยื่นมือมาลูบแถวต้นขาผม
“นน! ห้ามขยับไงครับ!...อ่า~~” ผมตวาดไอ้ดำตูดหมึกจอมซนเบาๆ จนไอ้ตัวดีทำหน้าแหย แววตาฉายแววออดอ้อนปนเจ็บร้าว ผมได้แต่ระบายยิ้มปลอบประโลม ก่อนขยับมือเอ็นดูเบสน้อยด้วยตัวเอง จนเผลอครางเสียงหวิว
ผมสบตาร้อนแรงที่จ้องผมไม่กระพริบ พร้อมช่วยตัวเองต่อหน้านนไปด้วย อยากมาแกล้งทรมานผมก่อนเองทำไม มันต้องเจอเอาคืนกันบ้าง ผมล่ะทั้งขำทั้งเอ็นดูไอ้ดำตูดหมึกที่นอนทรมานครางเสียงต่ำ เกร็งไปทั้งร่างและกำผ้าปูที่นอนไว้แน่น มองผมไม่ละสายตา นนอดทนอดกลั้นได้อย่างที่รับปากผมไว้ และก่อนที่ผมจะถึงจุดหมาย ผมจึงโน้มหน้ามอบจูบหวานๆเป็นรางวัล ซึ่งนนเหมือนรอท่าอยู่แล้ว มันแทงลิ้นพรวดเข้ามาในปากผม ก่อนจะเป็นฝ่ายกวาดต้อนดูดกินลิ้นผมอย่างรุนแรง ฝ่ามือหนาก็กวาดเปะปะไปทั่วร่าง มีบีบเนินสะโพกจนผมสะดุ้ง ก่อนนนจะพลิกร่างผมลงนอนกับเตียง อ้าขาผมออกกว้าง ปัดมือผมออกจากเบสน้อย และเป็นฝ่ายขยับรั้งแรงเร็ว ก่อนถอนสะโพกออกและสวนกลับมาแรงเร็วในทีเดียว กระแทกจุดไวสัมผัสภายในผมอย่างจัง ผมถึงกลับกรีดร้องไม่เป็นภาษา
“อ่าๆๆๆ อือออ นน อ๊าๆๆๆ” ผมที่รอจังหวะปลดปล่อยอยู่แล้วก็ทะลักทลายสายธารรักออกมาเต็มหลังมือหนา และโอบขารัดเอวแกร่งไว้แน่น ดวงตาพร่าเลือนก่อนจะปรากฏดวงดาวระยิบระยับเต็มหน่วยตา
ผมที่นอนระทวยหอบหายใจอยู่นั้น ก็ต้องตัวโยนจากแรงกระแทกไม่ยั้งของไอ้ดำตูดหมึก ที่ไม่เปิดโอกาสให้ผมได้พัก นนจ้องผมไม่กระพริบ ก่อนจะยกขาซ้ายผมพาดบ่าและรัดขาขวาผมไว้ที่ข้างเอว ส่งสะโพกเข้าหาผมต่อเนื่อง ก่อนจะโน้มตัวมามอบจูบดูดดื่มที่ไม่ให้ผมได้หายใจ มีกัดริมฝีปากล่างผมเป็นการปิดท้าย ก่อนมันจะโถมแรงใส่ผมไม่ยั้ง พร้อมสาวชักเบสน้อยไปพร้อมกัน
ในที่สุดผมกับนนก็ไปถึงปลายทางของความสุขในเวลาไล่เลี่ยกันอีกครั้ง ทำเอาผมนอนหมดแรง ลืมตาแทบไม่ขึ้น แต่ผมก็รู้ตัวตลอดว่าอีกคนมันดูแลผมเป็นอย่างดีอย่างที่พูดไว้ นนช่วยทำความสะอาดด้วยการเช็ดตัวให้ผมทั้งตัว ไม่เว้นส่วนนั้นที่ถูกใช้งาน แถมยังทะนุถนอมเป็นพิเศษ จนผมเองยังอายไม่กล้าลืมตาขึ้นมามอง ปล่อยให้ไอ้ตัวดีมันจัดการไปเองคนเดียว จนกระทั่งนนสวมชุดนอนชุดใหม่ให้ผม และห่มผ้าให้จนถึงคอ ผมเองถึงกลับแอบลอบยิ้ม ก่อนจะได้ยินเสียงไอ้ตัวดีเดินไปทางห้องน้ำ และกลับมาใหม่ด้วยกลิ่นกายหอมฟุ้ง
“หลับยังครับ หืม” ผมตอบคำถามด้วยการพลิกตัว และซุกหน้าเข้าหาอ้อมกอดอบอุ่น นนเองก็กอดรัดร่างผมเข้าหาอกทันที พร้อมกลั้วหัวเราะเสียงทุ้มพาให้แก้มผมร้อนผ่าว
“ฮึๆ ฝันดีครับ สุดหล่อของนน”
ทั้งเสียงทั้งร่างกายอุ่นๆของไอ้ดำตูดหมึกให้ความรู้สึกอบอุ่นใจแก่ผมได้ไม่น้อยเลย คืนนี้ผมคงจะหลับฝันดีตามที่นนว่าไว้ ผมถอนใจยาวเหยียดก่อนจะปล่อยวางความคิด และหลับไปพร้อมคนข้างกาย
........................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ“เคลียร์ใจเปลือยกาย” กันให้ยาวสะใจไปเลย
หวังว่าเลือดคงไม่หมดตัวกันไปซะก่อนนะคะ
จริงๆแล้วตั้งใจตัดจบในอีกสองตอนข้างหน้า
แต่พอได้อ่านทวนอีกครั้งมันดูห้วนๆไป จึงตัดสินใจขยายให้ถึงตอนที่50
ดังนั้นที่เหลือถือเป็นตอนพิเศษให้คนอ่านละลายเล่นแล้วกันเนอะ
หากอ่านแล้วคุณมีความสุขและยิ้มได้ ขอแค่เม้นท์ให้เราได้รู้บ้าง
เพราะมันคือกำลังใจสำหรับคนแต่งนิยายจริงๆ บางครั้งก็รู้สึกนอยด์ไปเหมือนกัน
หมดแรงแต่งต่อ
แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณทุกเม้นท์ทุกบวกทุกเป็ดหรือแม้แต่ยอดวิวที่ผ่านมาจริงๆค่ะ
เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นพลังสนับสนุนเราจริงๆ
+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์ ขอบคุณทุกการติดตาม
ปล.ตอนหน้าเจอกันวันอาทิตย์เช่นเดิมน้า