@@โดย Luk {สงครามทะเลทราย..ศึกเทพมหาธาตุ} @@ 1/3/57 # P.64...END++++
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@โดย Luk {สงครามทะเลทราย..ศึกเทพมหาธาตุ} @@ 1/3/57 # P.64...END++++  (อ่าน 623759 ครั้ง)

ออฟไลน์ KuMaY

  • คนไม่สำคัญ ทำไรก็ผิด
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 620
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-0
องค์ชายนี่หลงผักตบขึ้นทุกวันแล้วสินะ :z1:
มาหลอกขอแต่งงานผักตบซะงั้น :-[

รอตอนต่อไปอยู่นะ :L2:

ออฟไลน์ mooping-7

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-5
เพลานี้ก็ล่วงเลยมาแล้ว มารอ ผักตบภรรยาที่หล่อผุดๆๆ

ออฟไลน์ HT...hanna

  • 。。。我永远爱你。。。
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 207
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +50/-4

ออฟไลน์ sine_saki

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 825
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +58/-2
อุแหม่...องค์ชายนี่เนียนเลยนะคะ
ตกลงว่าธาตุทั้งสี่จะมีเพียงผักตบที่จะมีทายาทสินะ อิอิ

ออฟไลน์ hotoil

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 170
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
 :katai5: :katai5:
ขอหนีไปนอนก่อนน้าาา ... ตื่นมาจะอ่านทันที ?

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
เขิลวุ้ย  :mew4:

ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
เห็นตั้งแต่ตอนกลางวันและว่ามาต่อแต่เรายุ่งเพิ่งได้อ่าน เขินแทนผักตบอ่า วายุเจ้าเล่ห์นัก คิๆ  ที่ชลธารชอบผู้หญิงอ่ะถูกแล้วเพราะความเป็นหญิงมาอยู่ที่ผักตบแล้ว อิอิ      ว่าแต่จะมาต่อที่เหลือยังคะ

ออฟไลน์ MeepadA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1069
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
แหม่ ยอตัวเองก้อได้นะองค์ชาย

มารอผักตบ ผักตบไม่มาข้าจักไม่ยอมนอน  :ling1:

ออฟไลน์ Ta_ii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
 :call: :call: :call:
โอมมม.... 30% ที่เหลือจงมาาา

Phongthan

  • บุคคลทั่วไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nu-tarn

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 800
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-6
เข้ามารอให้ผักตบกล่อมก่อนนอน :impress2:

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
มาปูเสื่อรอด้วยคนค้าาา

ออฟไลน์ แมวอัดกระป๋อง

  • ...
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
หนังจะฉายแล้วปลุกเก๊าด้วยนะ :katai5:

ออฟไลน์ £.Ma|e¥

  • ชั้นคือผู้หญิงโรคจิต!! โฮะๆๆ
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
มายังเอ่ยยยย รอๆๆ อิอิ

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
สงครามทะเลทราย...ศึกเทพมหาธาตุ
Part 11..เผชิญหน้า
30% ใครที่ไม่ได้อ่าน 70% ให้ไปอ่านที่หน้า 28 ก่อนนะคะ




            “ตึง!..ตึงๆๆ!!!..”
เสียงกลองศึกดังสนั่นไปทั่วทะเลทรายกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา เมื่อกองทัพนับแสนประจันหน้ากัน
หลังข้าศึกยกทัพตั้งแนวรบอยู่ห่างกว่ากิโล

   “เป็นอย่างไรเล่า” องค์ชายทรงตรัสถามผักตบ
ที่กำลังตั้งอกตั้งใจเล็งสายตาผ่านเลนส์กล้อง สำรวจกองทัพข้าศึกอย่างละเอียด

   “ชายชราผมขาวประปรายสวมชุดเกราะรูปร่างสูงใหญ่นั่งบนหลังม้าสีน้ำตาลเข้มหน้าตาดุไม่น้อย
ข้างกายซ้ายขวาด้านหนึ่งเป็นสาวงามสวมชุดเกราะอย่างกับทหาร นั่งบนหลังม้าสีขาว
อีกฝั่งเป็นผู้ชายสูงใหญ่ตัวพอกับผมรูปร่างหน้าตาใช้ได้ ที่เหลือเป็นทหาร..พวกเขาชักม้าแถวยาว
กลุ่มหน้ามีโล่กับดาบครบมือ แถวที่สองพลธนูเยอะมาก น่าจะร่วมแสนได้”
   ผักตบรายงานแม่ทัพใหญ่ ทั้งคู่ตั้งกองบัญชาการบนกำแพงเมืองหน้าประตูวัง แวดล้อมพลธนูประจำเชิงเทิน
ด้านล่างกองกำลังทหารราบมีอาวุธโล่กับดาบไม่ต่างฝ่ายตรงข้าม

   “บุรุษชันษาสูงวัยคือพระปิตุลา ซ้ายขวาที่กล่าวมาดรุณีย่อมเป็นองค์หญิงชลธาร ส่วนบุรุษคือโอรสพระปิตุลา
องค์ชายธรณิณ มากันพร้อมตามข้อมูลที่ได้รับไม่ผิดไปจากนี้” ยุพราชหนุ่มทรงตรัสอธิบาย ให้ผักตบรู้ว่าใครเป็นใคร
เขารับฟังนิ่งยังคงซูมภาพดูอยู่ตลอด

   “นั่น! ฝ่ายตรงข้ามส่งทหารถือธงควบม้ามาทางนี้แล้ว” ผักตบรีบแจ้งองค์ชายทราบทันที

   “คงเป็นผู้ส่งสารฃส์น เราจักปล่อยให้เข้ามา” ดำรัสพร้อมชูพระหัตถ์ขึ้น ยังผลให้ทิวธงบนกำแพงโบกสะบัด
ส่งสัญญาณให้กองทัพด้านล่างปล่อยคนส่งสาส์นผ่านเข้ามา ใช้เวลาไม่นานบุคคลดังกล่าว ก็ชักม้าหยุดหน้าประตูวัง
แหงนมองแม่ทัพใหญ่เจ้าของนคร ที่กองทัพพวกเขาประกาศสงคราม ก่อนตะโกนเสียงดังกังวานอย่างฮึกเหิมให้ได้ยินกันทั่ว

   “ข้าคือองครักษ์นามกาวิน รับพระบัญชาพระปิตุลาแม่ทัพใหญ่แห่งเวฬุวรรณนคร พระองค์มีพระประสงค์ให้ข้าส่งสาส์น
ทางวาจาแทนลายลักษณ์อักษร ต่อองค์ชายวายุภักษ์รัชทายาทแห่งไตรคานให้ทรงทราบ  กองทัพเรายกพลมาครั้งนี้
มิหวังให้เกิดการนองเลือด หากท่านสวามิภักดิ์ยอมสงบศึก ยกไตรคานเป็นนครในอาณัติเวฬุวรรณ โดยมิทำการต่อสู้
   พระปิตุลาจักทรงละเว้นชีวิตเหนือหัวอนิละ และบรรดาราชนิกูล ตลอดจนมิเข่นฆ่าล้างผลาญชีวิตพสกนิกร
ขอท่านจงตอบเรามา พระองค์มิทรงให้เพลาในการตัดสินใจ นอกจากให้ข้ากลับไปทูลถวายรายงานทันที”
องครักษ์ผู้นำสาส์นจากข้าศึกนามกาวินกล่าววาจาเสร็จ พระพักตร์คมคายหาได้แสดงอันใดต่อคำข่มขู่
ซึ่งเรียกว่าสาส์นจากผู้ที่รุกรานอธิปไตย พักตร์หล่อเหลากลับสงบเยือกเย็น ผักตบชำเลืองคนข้างกายตลอดเวลา

   “เจ้าจงนำสาส์นเราไป เรามิอาจเป็นเมืองใต้อาณัติของเวฬุวรรณ หากแม่ทัพของเจ้าประสงค์เปิดศึก
แล้วแต่เห็นสมควรเถิด พวกเราไตรคานมิงอมืองอเท้ายอมให้แผ่นดินถูกรุกรานดอก กาลนี้ใช่เราเป็นผู้ก่อสงคราม
ใยพระปิตุลามิถอยทัพกลับ เราเองมิประสงค์ยุ่งเกี่ยวอันใดกับเวฬุวรรณ นี่คือคำตอบจากเรา”
พระองค์ทรงใช้พระสุรเสียงทุ้มเรียบ แต่เต็มไปด้วยพลังอำนาจ บวกกับวรองค์สง่าผ่าเผย
กระทั่งองครักษ์ส่งสาส์นยังต้องชื่นชมในใจ กับความองอาจเยื่องชายชาติบุรุษ ซึ่งเปล่งรัศมีออกมาจากพระวรกาย

   “เช่นนั้นเราจักนำความกราบทูล” พูดจบชักม้าหันหลังกลับควบขับด้วยมือเดียว อีกมือชูธงรบประจำกองทัพ
โบกสะบัดไปกับสายลมที่ปะทะ  ห้อตะบึงม้ากลับสู่กองทัพฝ่ายตน ที่ตั้งขบวนอย่างเป็นระเบียบอยู่ฟากฝั่งเนินทราย
ด้วยความเร็วปานพายุ..สมเป็นองครักษ์ยอดฝีมือ

   “ตกลง..รบกันจนได้” ผักตบเอ่ยถามตรงๆ

   “เจ้าฟังสาส์นที่พระปิตุลาส่งมาแล้ว หรือจักให้เรายอมรับเงื่อนไข”

   “ถามดีๆ ทำไมต้องกวนวะครับ” ผักตบเขม็งตาดุใส่คนตรงหน้า

   “อันใดหรือที่เจ้าเรียกว่ากวน เราไต่ถามเจ้าด้วยความจริงใจดอก” เจอไม้นี้เขารับมือลำบาก เจ้าชายช่างหน้ามึนสุดๆ

   “ช่างเถอะ..พวกเขากำลังทำอะไร องค์หญิงกับองค์ชายที่คุณบอก พากันชักม้าตีคู่เข้ามาในค่ายกลพายุของคุณแล้ว”
องค์ชายพอฟัง มิทรงรอช้ายกเขาสัตว์ที่ใช้แทนกล้องส่อง แต่ผักตบกลับเอามือไปจับไว้ ก่อนขยับเข้าใกล้แล้วเอ่ยกับองค์ชายว่า

   “ดูหน้าจอผมดีกว่า” พูดจบ ยื่นจอกล้องซึ่งตั้งซูมปรับโฟกัสจนได้ศูนย์ เผยภาพบุรุษสตรีที่คุ้นชิน
ยืนม้าตีคู่วาดมือด้วยท่วงท่าคล้ายคลึงกัน

   “เราต้องรับมือแล้ว” พูดจบพระองค์หันกลับดำเนินไปยังพระเก้าอี้ ประทับนั่ง ล้วงฉลองพระองค์หยิบมุกราตรีดำ
ที่เหนือหัวทรงยกให้ดูแลวางในฝ่าพระหัตถ์ซ้าย พร้อมหัตถ์ขวาทรงวาดท่วงท่าเช่นเดียวกับฝ่ายตรงข้าม
มุกราตรีดำพลันเปล่งรัศมีเรืองรองสว่างจ้าแข่งดวงอาทิตย์ พระสุรเสียงทุ้มกังวานดังขึ้นให้ได้ยิน

   “สายลมฟังเรา..สำแดงแสนยานุภาพในบัดดล” สิ้นกระแสรับสั่ง เนินทรายตรงแนวเขต
ฝุ่นทรายม้วนตลบคละคลุ้งปลิวว่อนจนมองไม่เห็นทัศนียภาพ เสียงลมอึงอลทั่วอาณาบริเวณ
ผักตบมองพลังเหนือธรรมชาติ ที่มีจุดกำเนิดจากบุคคลใกล้ตัวพานอดทึ่งไม่ได้

แม้จะเคยประสบด้วยตัวเอง แต่ความรุนแรงหนักหน่วงต่างกับภาพตรงหน้าสิ้นเชิง เหมือนทอร์นาโดขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้น
น่าแปลกที่ไม่ส่งผลมายังพวกเขาหรือกระโจมพลเรือน ซึ่งได้รับคำสั่งให้หลบอยู่ภายใน ห้ามออกมาด้านนอกเป็นอันขาด
พสกนิกรต่างรับรู้อันตรายไม่มีใครดื้อดึง  นอกจากมีบ้างที่แอบแง้มกระโจม ลอบติดตามเหตุการณ์เอาเอง

   “หึหึ!!..วายุภักษ์..แม้นเจ้ามีมหาธาตุวายุ หาใช่คู่มือที่จะต่อกรกับชลธารและธรณิณได้ จงยอมศิโรราบเสียเถิด
มิเช่นนั้นเจ้ากับผู้คนจักต้องล้มตายดุจธุลี..หึหึ!” สุรเสียงสะท้านเตือน เขย่าขวัญสั่นประสาทคนฟังเป็นอย่างยิ่ง
ผักตบที่ว่าใจแข็งยังเสียวสันหลัง ซุ่มเสียงดังทั่วบริเวณ เปรียบกับใช้เครื่องขยายเสียงก็ว่าได้
แต่พลังอำนาจนี่สิที่ทำเอาขนลุกตาม

   “ข้ามิอาจทำตามประสงค์ท่าน แม้นชีพวายก็ขอตายเยื่องนักรบ มิยอมก้มหัวให้ทรราช
ซึ่งฝักใฝ่ในอำนาจ ช่วงชิงหาญหักอย่างไร้คุณธรรม”
   แล้วผักตบก็ตาเบิกกว้างจ้องคนที่อยู่ใกล้ ดันขยับฝีปากเอ่ยคำพูดแต่ไหงเสียงที่ควรได้ยินใกล้
กลับสะท้อนสะเทือนดังไปทั่วบริเวณไม่ต่างกับซุ่มเสียงลึกลับก่อนหน้า หรือพวกเขาใช้เวทย์มนต์พลังของเทพมหาธาตุทำ
น่าแปลกที่พระปิตุลาเก่งกาจได้ถึงขนาดนี้

   “ค่ายกลพายุดำทะเลทรายของเจ้ามีพิษสงเพียงเท่านี้ จงประจักษ์แจ้งเสียบัดนี้ บุรุษผู้โอหังไม่สำนึกตน”
เสียงดังกล่าวกังวานตอบโต้กลับมา ขณะนั้นลมพายุที่หอบเม็ดทรายปลิวว่อนจนดูน่ากลัว
กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อคลื่นน้ำขนาดใหญ่ม้วนดูดกลืนเม็ดทรายเหล่านั้นหมด

   “ครืนนน!..ครืนนน!!” ภาพที่เห็นไกลตาไม่ชัดเท่ามองผ่านกล้อง ผักตบจ้องหนึ่งชายหนึ่งหญิงบนหลังม้าเด่นสง่า
มีรัศมีสีฟ้ากับสีน้ำตาลครอบร่างพวกเขาเหมือนอยู่ในลูกโป่ง สีหน้าท่าทางไม่วิตกทุกข์ร้อนต่อเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยซ้ำ

   “วารีข้าจงทำลายวายุให้สิ้นซาก”

“ธรณีฟังข้า..สะกดกรวดทรายทั้งหมดอย่าได้เคลื่อนไหว” ซุ่มเสียงหญิงชายดังสลับกัน
สร้างความตื่นตระหนกให้บรรดาทหารไตรคานพากันหน้าซีดปากสั่นเป็นแถว คลื่นน้ำก่อตัวเป็นกำแพงสูงดุจสึนามิซัดเข้าฝั่ง
 กำลังม้วนกลืนทอร์นาโดลูกใหญ่ พร้อมกับฝุ่นทรายที่ปลิวคละคลุ้งบดบังทัศนียภาพ กลับสงบนิ่งไม่เห็นแม้แต่ละออง
สำคัญภาพตรงหน้าคลื่นน้ำไม่เพียงแต่หยุดลมพายุ มันกำลังเคลื่อนใกล้เข้าแนวเขตที่ผักตบฝังระเบิดไว้
ห่างไม่ถึงยี่สิบเมตรแล้วด้วย

   “เฮ้ย! งานเข้า..ขืนให้แถวนั้นเปียก ระเบิดด้านแน่” เขาอุทานขึ้นแต่พอหันกลับมาที่องค์ชายวายุภักษ์
ต้องตกใจเป็นสองเท่า คนที่ตั้งใจขอคำปรึกษา พระพักตร์ซีดเผือดเหงื่อผุดไรพระเกศา
พระโขนงเข้มขมวดมุ่นขบริมโอษฐ์เน้นจนน่ากลัว เหมือนแบกรับความลำบากอย่างเต็มเหนี่ยว

   “คุณเป็นอะไร..ไหวไหม” ผักตบปรี่เข้าไปถาม ชั่วพริบตาเจ้าชายที่ดูปกติ เหมือนจะโดนลมจับไปเสียอย่างนั้น
ดวงเนตรคมลืมขึ้นมอง ดูอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัด ดำรัสทุ้มอย่างแข็งพระทัย รับสั่งขึ้นมาว่า

   “เราต้านพลังพวกเขาไม่ไหว แรงกดดันหนักหนากว่าที่คิดไว้นัก  แม้นมีมุกราตรียังห่างอยู่ มินานเราคงหมดแรง”
ไม่คิดว่าคนเก่งยอมรับออกมาตรงๆ ผักตบเป็นฝ่ายคิ้วผูกโบบ้างแล้วทีนี้ สงครามเริ่มได้ไม่ทันไร ดูท่ารับมือลำบากแล้ว
เขาไม่รอฟังยุพราชหนุ่มบัญชาการรบยังไงต่อ เมื่อเห็นหัตถ์ซ้ายที่มีมุกราตรีดำเปล่งรัศมีขาวสั่นระริก
รัศมีแรงกล้าในตอนแรกเริ่มหม่นแสงลง เจ้าชายหนุ่มหายพระทัยถี่เหมือนคนออกกำลังกายหนัก
นี่ล่ะมั้งที่ใช้พลังชีวิตเข้าห้ำหั่น เมื่อพลังด้อยกว่าเลยตกที่นั่งลำบากอย่างที่เห็น

   “กลกะลา..คุณอพยพคนเข้าประตูวังให้หมด” ผักตบสั่งองครักษ์คู่กายรัชทายาทไตรคานเสียเลย
รอองค์ชายไม่ทันการแน่ ฝ่ายถูกเอ่ยชื่อมองตอบเขานิ่ง แต่เมื่อนายเหนือหัวไม่รับสั่งอันใด
ก็รีบยกมือชูให้สัญลักษณ์กับแม่ทัพด้านล่าง อีกฝ่ายพอเห็นสัญญาณ เสียงเป่าเขาสัตว์ก็ดังยาว

   “แปร๋นนนนนน!!!!...แปร๋นนนนน!!!!!...แปร๋นนนนน!!!!” พลเรือนที่อยู่ในกระโจมต่างหอบลูกจูงหลานแทบไม่ต้องเรียก
พากันวิ่งมายังประตูวังซึ่งทหารคอยจัดระเบียบไม่มีชุลมุน ดีที่ได้ซักซ้อมทำความเข้าใจกันก่อน เมื่อเห็นเป็นไปตามที่ต้องการ
 ผักตบมองผ่านเลนส์กล้อง สังเกตดูคลื่นน้ำยักแย่ยักยันกับกำแพงไร้สภาพ องค์ชายวายุภักษ์เคยบอกให้ฟัง
คือเกราะมหาธาตุที่ปกป้องอาณาเขต มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เป็นกำแพงล่องหนเหมือนโดมแก้วครอบเอาไว้
แต่คลื่นน้ำขนาดใหญ่ก็ยันสู้ เหลียวดูเจ้าของเกราะกับสั่นเป็นเจ้าเข้าเหงื่อกาบไหลโชก..พระพักตร์ซีดเผือด

   “คุณ..ถอนเกราะมาคุ้มกันแค่วังหลวงก็พอ ร่นพื้นที่ให้แคบลง” ผักตบแนะ องค์ชายพยักพระพักตร์รับ
ก่อนดึงลมหายพระทัยเฮือกใหญ่ วาดมือไปมาคลื่นน้ำลูกใหญ่เริ่มกระดอนถอย จังหวะนั้นผักตบไม่เสียเวลา
ยกปืนพกสั้นชูสุดแขนแล้วสับไก

   “เปรี้ยง!” เสียงปืนดังก้อง ยังความแปลกใจให้พระปิตุลาที่ได้ยินเต็มสองหู แม้ระยะห่างมีไม่น้อย
องค์ชายองค์หญิงที่กำลังต่อสู้ด้วยพลังจากมหาธาตุก็เช่นกัน พลธนูบนกำแพงวังต่างง้างคันศรของธนูไฟลุกโชน
เรียงหน้ากระดานกว่าห้าสิบนาย พร้อมยิงรอเพียงคำสั่ง

   “ยิงจุดแรก” เสียงผักตบตะโกนลั่น ธนูชุดแรกปล่อยออกจากคัน
พุ่งตรงเป้าอย่างแม่นยำ ยังจุดที่มีธงปักเป็นสัญลักษณ์

   “พรึ่บ!..แชดด!!” ไฟลุกทันที ก่อนจะวิ่งตามสายชนวน ทันใดเสียงระเบิดดังกัมปนาทจนหูอื้อ
ถึงขั้นทัพข้าศึกแตกตื่นยกมือปิดหูจ้าละหวั่น ดังยิ่งกว่าเสียงคลื่นน้ำที่หายไปแล้ว

   “บรึ้มมมมมม!!!!” เสียงของระเบิดที่ฝังในหลุมทราย

   “ถอย...ทัพ!..ตึงๆๆ!!”  เสียงกลองข้าศึกสั่งถอยทัพหลังพระปิตุลามีพระบัญชา ม้าทรงสีน้ำตาลเข้มยังแตกตื่น
ถึงกับยกขาคู่ร้องเสียงหลง ใช่มีม้าทรงส่วนพระองค์เท่านั้น แม้แต่ม้าของเหล่าทหารก็ไม่ต่างกัน

   “ฮี้ๆๆๆ!!!” กลายเป็นโกลาหลแล้ว เมื่อต้องควบคุมความแตกตื่นของพาหนะคู่ชีพที่ใช้ในสงคราม
สัตว์เหล่านี้ไม่ตื่นพลังธรรมชาติ เพราะพวกมันไม่ได้สัมผัสรู้

คู่ต่อสู้ต่างปกป้องด้วยเกราะมหาธาตุให้พลพรรค เช่นเดียวกับฝั่งของผักตบที่ไม่ได้รับรู้ถึงพลังนอกจากภาพที่เห็น
ยกเว้นคนแบกรับคือผู้ใช้พลังอย่างองค์ชายวายุภักษ์รับไปเต็มๆ แต่ระเบิดมีทั้งสะเก็ด เสียงดังสนั่น
 กลิ่นเขม่าดินปืนแตกกระจายฟุ้งตลบ ยิ่งกว่าเสียงฟ้าผ่า ม้าย่อมแตกตื่นเป็นธรรมดา...

   “เจ้าใช้ศาตราวุธใด” เสียงดังผ่านอากาศของพระปิตุลา ผักตบได้แต่มุ่นคิ้ว ยังดีที่องค์ชายวายุภักษ์
ซึ่งประทับพระเก้าอี้เริ่มมีสีพระพักตร์ดีขึ้นมาแล้ว หลังอีกฝ่ายถอยร่นไม่เป็นขบวน ลดพลังกดดันพระองค์ลงไป

   “คุณรู้สึกยังไงบ้าง” เขาห่วงหนุ่มตัวโตจริงๆ

   “เราไม่เป็นไร ดีที่เจ้าทำศัตรูหวั่นวิตก สั่งถอยทัพกว่าห้าสิบก้าว”

   “แก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้า ผมไม่แน่ใจระเบิดจะหยุดพวกเขาได้ ถ้าหากเขาใช้เกราะล่ะก็”
ผักตบตระหนักในข้อเท็จจริงของอานุภาพพลังเหนือธรรมชาติ ที่อีกฝ่ายไม่ผลีผลาม
เพราะยังไม่รู้เขาใช้อาวุธอะไรเสียมากกว่า จึงตั้งตัวยังไม่ติด

   “หึ่งๆๆๆ!!!” ฝูงแมลงบินว่อนเต็มท้องฟ้า ดำพรึ่บไปหมด

   “ตัวอะไรกันอีก บินตรงมาทางนี้ด้วย” ผักตบถามขึ้นทันที

   “ผึ้งทะเลทรายพิษเหล็กในร้ายกาจนัก ผู้ใดถูกต่อยอาจบาดเจ็บล้มตายได้ ย่อมเป็นฝีมือเวทย์มนต์พระปิตุลา
ที่สามารถเรียกผึ้งเหล่านี้มาโจมตีพวกเรา” องค์ยุพราชหนุ่มทรงประทับยืน ค่อยย่างพระบาทตีคู่ผักตบ 
หลังไม่ต้องใช้พลังรับมือองค์หญิงและองค์ชายคู่กรณี อีกฝ่ายเองก็รอดูเชิงพระองค์อยู่เช่นกัน

   “เราจะรับมือยังไง ผึ้งบินบนฟ้า เอาอะไรไปจัดการมัน"

   “เจ้าไม่ต้องกังวล เราจัดการเอง” รับสั่งเสร็จทรงวาดหัตถ์เรียกวายุธาตุในทันที

   “สายลมฟังเรา ทำลายฝูงผึ้งให้พินาศ” สิ้นพระสุรเสียงพายุพลันก่อตัวหมุนควงเป็นเกลียวสว่าน
พุ่งเข้าหากองทัพผึ้งที่บินมายังกำแพงวัง ยังไม่ทันได้ทำลายพวกมัน กลับมีกำแพงน้ำแข็งเข้าสกัดสายลมเสียก่อน

   “แย่แล้ว..ข้าศึกป้องกันได้” ผักตบอุทานขึ้นเบาๆ

   “อย่าวิตก ผึ้งเหล่านั้นมิสามารถฝ่าเกราะมหาธาตุเข้ามาดอก” พระองค์ยังทรงรับสั่งให้เขาสบายใจ
ฝูงผึ้งพอบินมาถึงแนวกำแพง ก็บินวนบริเวณนั้นไม่สามารถบินเข้ามาได้ เหมือนพวกมันเจอผนังที่มองไม่เห็นกั้นเอาไว้
ส่วนลมพายุกับกำแพงน้ำแข็งค่อยสลายไปหลังปะทะกัน

แต่ตอนนี้ดันมีลูกไฟดวงใหญ่ ซัดพุ่งเข้ามายังเกราะมหาธาตุ เนินทรายก็ม้วนตัวยกเคลื่อนเข้าโจมตีประสานกันด้วย
งานนี้พอเกิดการปะทะ ยุพราชหนุ่มถึงกับเซถลาเหมือนนกปีกหักเกือบล้ม โชคดีผักตบพุ่งเข้าไปพยุงเอาไว้ทัน
ไม่อย่างนั้นมีหวังหล่นจากกำแพงวังเป็นแน่

   “เฮ้ย!..เป็นอะไรไป” ถามหลังรวบกอดวรกายใหญ่โตเต็มกำลัง
แม้จะรู้สึกหนักไม่น้อยแต่ก็ยังพอไหว รอจนกลกะลาเข้ามาช่วยอีกแรง

   “แค่กๆ..เรายังไหว” พระดำรัสยืนยัน แต่มุมโอษฐ์กลับมีโลหิตไหลซึมออกมาแล้ว

   “แย่แล้ว คุณเลือดออก” ผักตบไม่รอช้าพยุงองค์ชายมาประทับนั่ง
สีพระพักตร์เผือดซีดกว่าเดิม เหงื่อผุดซึมทั่ววงพักตร์ อาการหายพระทัยหนักหน่วงจนรับรู้ได้

   “ไม่เป็นไร..เราทนไหว” พระองค์ยังพยายามทำให้เขาสบายใจ

   “ไม่ไหวหรอก คุณกำลังแย่” หนุ่มยุคไฮเทคตัดบทคนดื้อเสียเอง ตอนนี้ฝูงผึ้งเล็ดลอดเข้ามาได้แล้ว
ทหารโดนทำร้ายแตกฮือไม่เป็นขบวน พากันปัดป้องชุลมุน สร้างความอลหม่านไปหมด
แม้แต่บนกำแพงวังก็เริ่มอยู่นิ่งไม่ไหว แปลกที่ผึ้งเหล่านั้นเข้าใกล้ผักตบไม่ได้ ทั้งที่รอบข้างกำลังปัดไล่วุ่นวายไปหมด

   “ไม่ต้องแปลกใจ แหวนมรกตที่เจ้าสวมช่วยป้องกันไว้”
องค์ชายเป็นผู้ไขข้อข้องใจให้ ไม่รอช้าเขารีบยิงปืนให้สัญญาณพลธนูในทันที

   “เปรี้ยง!..เปรี้ยง!...ยิงธนู” พร้อมตะโกนสั่ง พลธนูที่แตกแถวพอได้ยินยอมฝืนสังขารง้างคันศร
ยิงธนูไฟจุดชนวนระเบิด จุดพร้อมกันสิบลูก เสียงดังสนั่น แรงระเบิดส่งผลให้เขม่าควันคละคลุ้ง
เปลวไฟลุกไหม้ไปทั่ว ฝุ่นทรายปลิวว่อน ม้าศึกแตกตื่นยกกีบเท้าสลัดทหารบนหลังร่วงตกระนาว

ฝูงผึ้งก็เป็นด้วย พวกมันคงตกใจหรือหูแตกก็ไม่อาจรู้ ร่วงกราวลงพื้นกลายเป็นผึ้งปีกหัก
นอนตายระเนระนาดดำพรืดไปหมด เป็นอันว่าระเบิดของผักตบหยุดฝูงผึ้งไว้ได้ แถมส่งผลให้ม้าศึกศัตรู
ที่ดันไม่มีอุปกรณ์ปิดหูเหมือนทางฝั่งไตรคาน พลอยตกใจพยศกันเป็นว่าเล่น

ต่อด้านล่าง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-01-2014 22:24:32 โดย luxilove »

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
-  2  -




   “อาวุธระเบิดของเจ้าได้ผลยิ่ง” องค์ชายชมด้วยสภาพหมดแรง

   “งานหนักพอสมควร” ผักตบยอมรับ นี่ขนาดยังไม่ได้ปะทะ ข้าศึกยังร้ายกาจได้ขนาดนี้

   “พระปิตุลา..เสียงระเบิดกัมปนาททำขวัญเหล่าทหารสูญเสียนัก ม้าศึกล้วนตกใจกันใหญ่ ข้าเห็นควรจัดการขั้นเด็ดขาด”
องค์หญิงชลธารตรัสขึ้น พระพักตร์พริ้มเพรางดงามเต็มไปด้วยหยดเหงื่อ พระองค์ทรงใช้พระกำลังไปไม่น้อย
ในการรับมือองค์ชายวายุภักษ์ หาใช่สบายวรองค์แต่อย่างใด องค์ชายธรณิณก็เช่นเดียวกัน

   “เราทำลายเกราะมหาธาตุ ยกทัพบุกตะลุย อย่าได้ยืดเยื้ออันใด
ระเบิดพวกนั้น ข้ากับหญิงธารพอจะกำบัง นำพาทหารบุกถึงกำแพงวังได้” องค์ชายธรณิณรับสั่งขึ้นบ้าง

   “เช่นนั้นอย่ารอช้า นำทัพบุกประชิด” สิ้นพระบัญชา เสียงกลองรบดังลั่นทั่วบริเวณ
พร้อมขบวนม้าศึกกองทัพทหารที่เริ่มควบคุมการพยศของพวกมันได้แล้ว
ควบตะบึงโดยมีสองผู้ถือครองเทพมหาธาตุห้อนำขบวน  พวกเขาได้ใช้พลังสร้างเกราะมหาธาตุ
กำบังกองทัพทะยานบุกเข้ามา

   “พวกเขายกพลบุกแล้วพะยะค่ะ” กลกะลาถวายรายงาน เมื่อธงศึกปลิวไสวบ่งบอกการเริ่มต้นของสงครามที่แท้จริง

   “ถ้างั้นชิมระเบิดกันหน่อยพวก” ผักตบพูด ก่อนยิงปืนให้สัญญาณพลธนูจุดชนวนระเบิดที่เหลือ
ระเบิดสิบกว่าลูกจุดไล่เลี่ยกันฝุ่นทรายฟุ้งตลบอบอวลแทบไม่เห็นอะไร น่าแปลกเสียงกีบเท้าม้ายังไม่ยอมหยุด
พอเขม่าควันจางลง ก็เห็นกองทัพข้าศึกดาหน้าเรียงเข้ามาอย่างหนาแน่น
แนวกระโจมพลเรือนถูกกีบเท้าม้าเหยียบย่ำจนไม่เหลือซาก

   “ระเบิดหยุดพวกเขาไม่ได้..จุดที่เหลือให้หมด” สิ้นคำสั่งพลธนูจุดชนวนระเบิดใกล้กำแพงวัง
แต่แรงระเบิดไม่ส่งผลกองทัพฝ่ายไตรคาน เกิดระเบิดต่อเนื่องยี่สิบกว่าลูก คราวนี้ส่งผลให้กองกำลังข้าศึกล้มตายแล้ว
เพราะเกราะมหาธาตุที่ใช้พลังคุ้มครองเริ่มอ่อนแรงลง เมื่อต้านรับระเบิดกว่ายี่สิบลูกต่อเนื่อง
ย่อมหนักหนาเหมือนรับมือองค์ชายวายุภักษ์ ที่ยังมีพลังสดใหม่อยู่เลยก็ว่าได้
สองผู้ถือครองมหาธาตุพลันชะงักหยุดทัพประจันหน้า ห่างออกไปไม่ถึงสามสิบเมตร
ด้วยพระอาการหายพระทัยหอบหนักกันทีเดียว สองฝ่ายผู้ถือครองเทพมหาธาตุต่างบอบช้ำ
แม้องค์ชายวายุภักษ์จะสาหัสกว่ามาก แต่องค์หญิงธารกับองค์ชายธรก็ไม่ได้ดีกว่าเท่าไหร่

“เกราะมหาธาตุของเจ้าถูกเราทำลายแล้ว..วายุภักษ์” ดำรัสขององค์หญิงธารตะโกนข่มขู่
ผักตบที่ไม่เหลือแผนอะไร ใช้ไปจนหมดแม้แต่แผนสำรอง กำลังระดมสมองอย่างหนัก
นึกถึงประวัติศาสตร์ที่เคยเรียน เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ไทย
ทรงใช้ปฏิภาณไหวพริบในการรบชนะพม่า เช่นสมเด็จพระนเรศวรมหาราช..

“เจ้าใช่จักดีกว่าเราชลธาร..ทหารเจ้าล้มตายไม่น้อย กองทัพข้ายังมิมีผู้ใดสูญเสีย”
องค์ชายวายุภักษ์ฝืนพระวรกายยืนอย่างสง่า ทั้งที่แทบทรงกายไม่ไหว แต่ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอให้ศัตรูล่วงรู้

“กระนั้นหรือ..แม้นข้ากับหญิงธารหมดพลังอยู่มากโข เหลือกองกำลังทหารเพียงครึ่ง
คาดว่ายังสามารถเอาชนะกองทัพเจ้าได้” องค์ชายธรณิณรับสั่งด้วยพระสุรเสียงมั่นพระทัยยิ่ง

“โอรสข้ากล่าวไม่ผิดหรอกวายุภักษ์ เจ้ายังหนุ่มนักใยต้องมาตายเสียก่อนวัยอันควร มิห่วงบิดามารดา
รวมถึงเชื้อพระวงศ์พระญาติเจ้าหรือ ยอมแพ้เสียแต่โดยดี ข้ารับปากมิปลิดชีพผู้ใด เพียงเจ้ารับเงื่อนไขสองข้อ”
พระปิตุลาควบม้าตามมาสมทบ พร้อมองครักษ์ติดตามกว่ายี่สิบนาย ตรัสแทรกขึ้นมาทันที

“ลองบอกมาฟังดู” องค์ชายวายุภักษ์ทรงถ่วงเวลาให้ได้มากที่สุด หลังแอบส่งสัญญาณให้กลกะลา
เตรียมสู้ศึกร่วมกับแม่ทัพนายกอง ที่ตั้งท่าพร้อมรบเต็มที่ ไม่มีใครแสดงท่าทีขลาดกลัวแม้แต่น้อย

“ข้อแรก..มอบมุกราตรีดำที่เจ้าครอบครองเป็นของกำนัล ข้อสอง..มอบบุรุษหนุ่มผู้ที่ยืนข้างกายเจ้าแก่ข้า
หากเจ้ารับเงื่อนไข ข้าจักนำกองทัพกลับเวฬุวรรณ ไม่ทำลายบ้านเมืองของเจ้า ตกลงหรือไม่”
องค์ชายธรณิณและองค์หญิงชลธาร หลังฟังข้อเสนอพระปิตุลาถึงกับหันมองพระองค์อึ้ง 
แต่ไม่ได้เอ่ยถามอันใด ทรงเก็บงำความสงสัยไว้ในพระทัย

“มุกราตรีดำเป็นสมบัติคู่บ้านคู่เมืองไตรคาน มอบแก่ท่านใยมิใช่ยกไตรคานให้เล่า ส่วนบุรุษที่ท่านกล่าวถึงคือสหายรักข้า
ผู้ทรยศหักหลังสหายใยกล้ายืนหยัดอีกต่อไป” พระองค์ทรงดำรัสด้วยพระพักตร์แน่วแน่ ไม่มีวูบไหวในสายพระเนตรให้เห็น
คำตอบที่เปล่งจากพระโอษฐ์ กลับกระแทกหัวใจผักตบไปเต็มๆ พระสุรเสียงทุ้มสะท้อนก้องในหัวเขา
กับประโยคไม่ทรยศหักหลังสหายรัก เขากลายเป็นคนสำคัญของคนผู้นี้ไปแล้ว ถึงกล้าเสี่ยงแลกกับบ้านเมือง
ที่ตกอยู่ในภาวะเป็นรองเห็นๆ ด้วยพื้นเพนิสัยผักตบไม่ใช่คนยอมคน สำคัญเขาไม่ชอบถูกรังแกเป็นทุนอยู่แล้ว

“เช่นนั้นเจ้าคงเตรียมใจรับการหลั่งโลหิต นองแผ่นดินไตรคาน” พระปิตุลากล่าวปิดท้ายด้วยสุรเสียงกร้าวติดโมโหไม่น้อย
ทรงไม่คิดว่าบุรุษรุ่นลูกจะโอหังถึงเพียงนี้ ความตายรออยู่เบื้องหน้ายังไม่ยอมอ่อน ถึงจะนึกชมในความกล้าหาญ
แต่กลับสมเพชในความโง่ที่เสียสละไม่เกิดประโยชน์  พานนึกหมิ่นในพระทัยไปพร้อมกัน

“เดี๋ยวก่อน!” อยู่ๆ ผักตบก็ตะโกนเสียงดัง ไม่ขออนุญาตใคร

“เจ้ามีอันใดจักกล่าว” พระปิตุลารับสั่งถามด้วยน้ำเสียงข่มในที

“มีคำพูดที่ผมเคยได้ยิน ผู้นำระดับกษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำ คุณยึดถือมากแค่ไหนครับ”
ผักตบเอ่ยถามอีกฝ่าย ท่าทางอมยิ้มมุมปากอย่างหยามนิดๆ แม้พระปิตุลาจะทรงทอดเนตรเห็น
รวมถึงองค์หญิงองค์ชายทั้งสองก็ด้วย ต่างฉายพระเนตรไม่พอใจในกิริยาของผักตบอย่างเปิดเผย
แต่ไม่มีใครขัดการเสวนาระหว่างผู้อาวุโสกับบุรุษคราวลูกอย่างใด ยังรอชมเหมือนกับเหล่าทหารสองฝ่าย

“เราย่อมรักษาสัจจะ เจ้ามีอันใดต่อรอง”
พระปิตุลาพระทัยเย็นรับสั่งถามอย่างผู้มีน้ำพระทัยกว้าง ให้โอกาสศัตรูที่กำลังจนตรอก

“โอ้! เป็นพระมหากรุณายิ่ง ถ้างั้นผมมีข้อเสนอ เรามาพนันกันดีกว่าไหม ลองดูสักสามข้อ
ถ้าหากคุณชนะผมยอมไปกับคุณ ถ้าคุณแพ้ต้องยอมถอยทัพ จากนี้ 1 ปี ห้ามกลับมารุกรานก่อสงครามอีก
ยกเว้นพ้นหนึ่งปีไปแล้วค่อยว่ากัน..ทำได้หรือเปล่า” ผักตบตั้งเงื่อนไขขึ้นแทน

“หึหึ! เจ้าคิดว่าจักชนะ ต่อให้เจ้าถือครองเทพมหาธาตุ แต่ข้ากลับล่วงรู้ความลับ เจ้ามิอาจเรียกใช้มหาธาตุในกาย
เรื่องนี้ย่อมเป็นความจริง มิเช่นนั้นป่านนี้เจ้าคงช่วยวายุภักษ์รับมือชลธารกับธรณิณ ไม่ปล่อยคนของพวกเจ้าบาดเจ็บดอก”
ผักตบนิ่วหน้าหลังได้ยินคำว่าบาดเจ็บ เขาแอบลอบชำเลืองคนข้างกายที่ยังคงยืนนิ่ง อีกฝ่ายส่ายพักตร์ปฏิเสธ
เพื่อไม่ให้ผักตบกังวลใจ แม้วาจาพระปิตุลาเป็นความจริง พระองค์กำลังฝืนสังขารหยัดยืนพระวรกาย
ไม่ยอมล้มลงอย่างใช้ความอดทนสุดๆ ผักตบเห็นแบบนั้นก็หันมาประจันหน้าพระปิตุลา ซึ่งประทับบนหลังม้า
เงยพักตร์ตอบโต้อย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า โดยทำตามความตั้งใจเดิมที่วางแผนในหัว
มีความมั่นใจว่าเขาทำได้ แม้จะห่วงเจ้าชายก็เถอะ

“การพนันแบ่งเป็น 3 ข้อ ฝ่ายใดชนะ 2 ก่อนถือว่าชนะตกลงไหมท่านปิ..ตุ๊ด..ลา”
ผักตบเน้นทีละคำ แต่พวกที่ได้ยินคงไม่รู้ความหมาย กลับเข้าใจว่าผักตบพูดสำเนียงเพี้ยน เพราะเป็นคนต่างดินแดน

“ย่อมได้ เจ้าบอกวิธีเดิมพันเถิด จักทำเยื่องไร” พระองค์เองก็มั่นพระทัยไม่ว่าจะด้วยเล่ห์กล
มนต์คาถาหรือกองทัพ ด้านเพลงอาวุธ ย่อมเอาชนะได้แน่ มีหรือจะพ่ายแพ้แก่ทารกหนุ่มรุ่นลูก

“ถ้างั้นมาพนันกัน ข้อแรกให้คุณทายปริศนา ถ้าทายถูกคุณชนะ แต่ถ้าผิดคุณแพ้ ใช้สักขีพยานคือเหล่าทหารทั้งกองทัพ
ย่อมไม่มีใครตุกติกต่อการเดิมพันครั้งนี้ได้” พระปิตุลาแอบเยาะเย้ยในพระทัย หลังฟังเงื่อนไขข้อแรกของผักตบ
ทั่วทั้งแผ่นดินมีอันใดที่พระองค์ไม่ล่วงรู้ ต่อให้ปริศนายากแค่ไหนพระองค์ย่อมไขความลับแตก
หรือถ้าผักตบจะยกปริศนาจากดินแดนที่จากมา ก็ทรงคัดค้านได้เพราะมิมีส่วนเกี่ยวข้องยังดินแดนนี้
จึงได้รับปากแทบไม่เสียเวลาคิด

“เชิญเจ้าทายปริศนามาเถิด” พระองค์รับสั่ง นัยน์ตาเหยี่ยวจ้องเขม็งผักตบเห็นแล้วไม่ชอบเอาดื้อๆ
แต่ก็ไม่แสดงท่าทีให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขาคิดยังไง กลับหันไปสั่งกลกะลาแทน

“คุณสามารถเจาะรูเก้าอี้ 5 รูได้ไหม” ชี้ที่เก้าอี้ประทับขององค์ชายหน้าตาเฉย
กลกะลามึนไปครู่ พอองค์ชายพยักพระพักตร์ก็จำต้องรับคำ

“ขอรับ” ค้อมศีรษะน้อมรับไปด้วย

“เช่นนั้นเจาะเดี๋ยวนี้ ขอด่วนนะ” ทันทีที่พูดจบ เก้าอี้ก็กลายเป็นเบาะกลวงโบ๋
ด้วยมีรูกว้างขนาดฝาน้ำอัดลมประดับอยู่ 5 รูเรียงเป็นแถวสวยงาม ด้วยฝีมือทหารช่างที่ใช้ปลายหอกแทงในชั่วพริบตาเดียว

“ตดได้ไหม” คำถามเจาะจงที่กลกะลาตามเคย เพราะไม่สนิทใจใครเท่าหนุ่มหน้าคมไม่ขี้เหร่ แต่ปากหนักอีกแล้ว

“ตดคืออันใดขอรับ” ใช่มีแต่กลกะลางง ผู้คนทั้งหมดงงไม่ต่างกัน ทั้งฝ่ายตนฝ่ายข้าศึก
กระทั่งนึกขึ้นได้ว่าพูดไม่ถูกพวกเขาเลยไม่เข้าใจ

“ผายลม..คุณผายลมได้ไหม” ย้ำถามอีกหน คราวนี้ผู้คนแตกตื่นต่อคำถามของผักตบ
แม้แต่พระปิตุลา องค์หญิงธาร องค์ชายธรก็ด้วย ในเพลาหน้าสิ่วหน้าขวาน
ผักตบยังมีอารมณ์ขันให้คนผายลมเฉย ไม่พิลึกก็บ้าไปแล้ว

“ท่านประสงค์ให้ข้ากระทำอันใด แน่ใจให้ผายลม” องครักษ์หนุ่มรีบถามย้ำอย่างไม่มั่นใจ

“เข้าใจถูกแล้ว ทำได้หรือเปล่า” พอผักตบยืนยันไม่เปลี่ยนแปลง ฝ่ายรับคำสั่งมีหรือกล้าปฏิเสธ
ได้แต่ขานรับอย่างช่วยไม่ได้

“ขอรับ ข้าน้อยย่อมกระทำได้” เท่านั้นผักตบก็ยกยิ้ม ตะโกนบอกพระปิตุลาว่า

“เก้าอี้ตัวนี้มีรูอยู่ 5 รู..ผมจะให้องครักษ์ท่านนี้ผายลมโดยนั่งเก้าอี้ ถ้าคุณตอบถูก ว่าเขาผายลมผ่านรูใดคุณชนะ”
พระปิตุลาแสยะยิ้มชั่วร้าย กับคำท้ากระจอกในสายพระเนตร อย่าว่าแต่ผายลมผ่านรูเก้าอี้
ต่อให้ตอนนี้จักให้พระองค์จับว่าทหารในกองพันใครผายลมก็รู้เช่นกัน จึงรับปาก

“เราย่อมรับคำท้าเจ้า เชิญเจ้าเถิด” สิ้นพระดำรัส กลกะลาก็ต้องนั่งเก้าอี้ 
เตรียมตดด้วยเดิมพันบ้านเมืองความปลอดภัยผู้คน
แม้จะกระอักกระอ่วนที่องครักษ์เอกอย่างเขา ต้องมาทำขายหน้า
ใบหน้าเคร่งขรึมจึงซับสีเลือดจนแดงซ่านทั้งหน้าทั้งคอ ยังผลให้บุรุษนั่งหลังม้าจ้องเขานิ่ง
ดวงเนตรดูพึงพอใจโดยไม่มีใครสังเกต ว่าบัดนี้องครักษ์คู่กายรัชทายาทไตรคาน
กำลังเป็นที่พึงพระทัยรัชทายาทเวฬุวรรณเข้าแล้ว

“พร้อมแล้วผายลมได้” ผักตบบอกกลกะลา วินาทีที่กลกะลาหย่อนก้นนั่ง
ได้มีแมลงบินมาเกาะใต้เบาะก่อนแล้ว ย่อมเป็นแมลงคุณไสยที่พระปิตุลาใช้ประโยชน์

“ปู๊ดดด!!” เสียงตดดังขึ้น พร้อมกับหลายคนลืมตัวเอามือปิดจมูกอัตโนมัติ ทั้งที่อยู่ไกลกลัวอะไรกับกลิ่นเน่าจะไปถึง
แปลกตรงที่ตดกลกะลาหาได้เหม็นอย่างที่คิด กลิ่นมีเพียงเล็กน้อยแต่ยังพอทนได้

“เออกลิ่นพอไหว ถือว่าใช้ไม่ผิดคน” ผักตบเปรยเบาๆ กลกะลายังแอบได้ยิน
เขานึกเคืองคนสั่งให้ทำเรื่องหน้าอายนี้ แต่ไม่ได้แสดงอาการ  ถึงยังไงบุคคลผู้นี้กำลังหาวิธีช่วยบ้านเมืองของเขา
ให้รอดพ้นวิกฤต แม้จะดูไม่เข้าท่า ซ้ำยังทำให้เขาแทบเอาหน้าแทรกผืนทรายก็เถอะ

ชายชาตินักรบต้องทนได้ นี่คือสิ่งที่กลกะลาพร่ำบอกกับตัวเอง ก่อนจะหน้าแดงแทบไหม้
เมื่อเผลอสบเนตรคมขบขันพฤติกรรมของเขา โดยเฉพาะมุมปากบางยักยิ้มจงใจส่งให้เขาโดยเฉพาะ
บุรุษบนหลังม้าศักดิ์ฐานะเทียบเท่านายเหนือหัว พานอยากใช้ดาบควักลูกนัยน์ตาที่ล้อเลียน ขบขันเขาให้บอดไปทั้งสองข้าง

“คนของเจ้าผายลมออกรูที่ 2 พลิกเก้าอี้จักมีแมลงปีกทองเกาะอยู่
นั่นคือรูที่คนของเจ้าผายลมผ่าน หึหึ!..คิดลองภูมิข้ายังเร็วไปเจ้าหนุ่ม”
ทุกคนปากอ้าตาค้างกับคำตอบ พร้อมข้อเฉลยที่พระปิตุลาทรงกำชับตามมา
ผักตบรีบยกเก้าอี้หงายก้นขึ้น ก็เห็นแมลงปีกทองที่ว่าเกาะตรงรูที่สองไม่ผิดไปจากคำพูด

“ข้อแรกเจ้าแพ้ข้าแล้ว” พระปิตุลาสรุป

“ผมชนะต่างหาก” ผักตบกลับสวนทันควัน

“เจ้าคิดจะบิดพลิ้วอันใดหลักฐานเด่นชัด ข้าไม่โง่ให้เจ้าหลอกแน่ จึงส่งแมลงไปเกาะยังรูที่คนของเจ้าผายลมผ่าน
 แมลงปีกทองตัวนี้รับรู้กลิ่นและชมชอบเป็นพิเศษ เช่นนี้เจ้าจักพิสูจน์อีกรอบก็ยังได้
 แต่อย่าบังอาจเล่นลิ้นมิเช่นนั้นจักหาว่าข้าใจร้ายไม่ได้” พระองค์ทรงกริ้วขึ้นมาทันที

“ผมชนะจริงๆ ไม่ได้เล่นลิ้น ผมพนันกับคุณว่า ถ้าตอบถูกคนของผมผายลมออกรูไหน
คุณตอบผิด..ผมไม่ได้ดูแคลนแมลงสัตว์เลี้ยงของคุณ แต่คำตอบที่ถูกต้องคือ..เขาผายลมออกจากรูทวาร
หรือคุณเองไม่ได้ผายลมผ่านรูทวาร กล้าเถียงไหมล่ะ”
เสียงโห่ร้องของเหล่าทหารไตรคานดังสนั่นขึ้นทันที หลังฟังเหตุผลที่ผักตบยืนกรานกลายเป็นผู้ชนะในข้อแรก
ด้วยพระปิตุลาเองเถียงไม่ออก จนมุมกับเรื่องง่ายๆ คิดไม่ถึงว่าผักตบจะใช้คำตอบที่เป็นความจริงมาเฉลย
ถือว่าทรงพลาดเอง ถึงกลับกำหมัดแน่น แต่ก็วางพระพักตร์นิ่ง ไม่แสดงพระอารมณ์ให้รู้ว่ากำลังกริ้ว
ที่ดันเสียรู้ทารกซึ่งปรามาสความสามารถไว้

องค์ชายวายุภักษ์แม้จะฝืนสังขารอย่างหนัก กระนั้นยังอดแย้มสรวลจนได้หลังฟังคำเฉลยของผักตบ
ทรงภูมิใจในความฉลาดหลักแหลม ผู้ที่พระองค์หมายมั่นพระทัย..คู่ชีวิตต้องเป็นคนนี้
ส่วนทางเวฬุวรรณ ต่างนิ่งขึงไปแล้ว ไม่มีใครเคยเห็นพระปิตุลาผู้ปรีชาสุดในแผ่นดิน
จนมุมกับบุรุษต่างถิ่น ถือเป็นครั้งแรกที่เห็นพระปิตุลาพลาดท่าเสียทีแบบนี้..


ขออภัยที่เรามาอัพซะดึก  แต่เราเร่งปั่นไม่ทันจริงๆ
ยังไงก็แทนการขอโทษ ด้วยจิตคารวะสำหรับคนรออ่านด้วยนะคะ

เจอกันอีกทีวันอังคารนะคะ ตอนหน้ารับรองว่า ฉากนี้ที่รอคอยค่ะ 5555
รักทุกกำลังใจที่มอบให้ ขอบคุณคะแนนบวกที่มีมาด้วยนะคะ
หลับฝันดีทุกคน...
ปล.เราก็บ้าปั่นจนดึกกว่าจะได้..เท่านี้อ่ะ :mew2: :mew2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-01-2014 22:26:17 โดย luxilove »

ออฟไลน์ Paracetamol

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 660
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-2
เสียเหลี่ยมซะเเล้วท่านปิตุ๊ดลา 55555  :laugh:

ออฟไลน์ IaminLove

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 564
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-5
ผักตบบบบ ใจเยนนนน จะฮาไปไหมมมม ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หน้าสิ่วหน้าขวานมุขฮาๆ ยังสามารถช่วนเหลือบ้านเมืองได้
องค์ชายทำถูกแล้ว ตั้งมั่นพระทัยไปเลยค่ะ ว่า คู่ชีวิตต้องคนนี้ *โบกธงเชียร์*

ออฟไลน์ e-ga-g

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 102
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2

ออฟไลน์ pandorads

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
สงสารกลกะลา 555
เดินไปตบบ่า... ทำใจนะ ถือว่าทำเพื่อบ้านเมืองนะจ๊ะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ MeepadA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1069
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +61/-3
555 ผักตบใยเจ้าบร้าเช่นนี้  :m20:

ออฟไลน์ yunchun

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 554
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
สงสารพ่อองค์รักษ์เบาๆ 55555555 แต่ฮามากกว่า
ผักตบคิดได้นะ ตอนหน้าฉากนี้ที่รอคอยมันคืออาร้ายยย  :z1:
:L2: ตอนนี้ยาวสะใจมาก 

ออฟไลน์ Mancha KHIRI

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 201
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-2
ทั่นปิ ตุ๊ด ลาทายผิดนะค้าาาาาาา เสี่ยเหลี่ยมให้พ่อหนุ่มยุคไฮเทคซะละ คนแก่แล้วก็งี้แหละ 555+ แต่แอบสงสารกลกะลาเบาๆ อยู่ดีๆ ต้องมาตดกู้ชาติเฉย โอ๋ๆๆๆๆๆ  :pigha2: :m20:


รอต่อวันอังคารค่า ฉากนี้ที่รอคอย ฉากอะไรเอ่ย ฉากอะไร :z1:

ออฟไลน์ Melodyme

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
แอบสงสารกลกะลา
ต้องมานั่งผายลมต่อหน้าคนตั้งเยอะ
แต่ก็นะ เพื่อบ้านเมือง
แถมยังเป็นที่ถูกใจของเจ้าชายนั่นอีก :sad3:

ชะตาชีวิตในอนาคตของกลกะลาจะเป็นยังไงน้อ อยากรู้จัง :katai1:

ออฟไลน์ korinasai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆค่ะ  :mew1:

ออฟไลน์ wiwari

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 420
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-1
ผักตบเกรียนนะตัวเธอ 555 :m20:

ออฟไลน์ monaligo

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อั่ยย่ะ พี่ตบนี่เก่งสมเป็นว่าที่คู่ชีวิตองค์ชายจริง :hao7:

ออฟไลน์ karashi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 428
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-3
    • นิยาย นิยายแจ่มใส นิยายมือสอง
ตอนนี้ผักตบทำนพระปิตุลาเงิบไปเลย  :laugh: สมเป็นคู่ชีวิตที่องชายเลือก  :impress2: รอติดตามตอนหน้านะค้าา  ฉากที่รอคอยยย :haun4:

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
กลกะลา....ท่านช่วยให้เมืองปลอดภัย 5555

ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
มุกนี้โหดร้ายมากกกกกกกกก
ทารุณจิตใจคนเป็นตัวอย่างแบบสุดๆ
ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ
55555555555555555555555555555555555555555

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด