@@โดย Luk {สงครามทะเลทราย..ศึกเทพมหาธาตุ} @@ 1/3/57 # P.64...END++++
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: @@โดย Luk {สงครามทะเลทราย..ศึกเทพมหาธาตุ} @@ 1/3/57 # P.64...END++++  (อ่าน 623839 ครั้ง)

ออฟไลน์ Hummer

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-12
โทษทีครับ ไม่ได้เม้นท์ไปสองตอน

 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4:

กำลังลุ้นตัวโก่งเลยทีเดียว รอพรุ่งนี้ครับ
เป็นกำลังใจให้ไม่เคยเปลี่ยน :mew1:

ออฟไลน์ First

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 33
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่านทันล่ะ  ชอบมว๊าก  มาต่อไวๆๆ นะครับ

ออฟไลน์ Littlesir

  • I adore all the things you hate about yourself.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-0
ผักตบแย่แล้วๆ

noo123

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นๆๆๆๆ

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!

 :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:

ออฟไลน์ Damon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
พยัพนนท์คือวายุภัครหรือเปล่าเนี่ย...ดูเป็นห่วงกันจั๊ง...

ออฟไลน์ Appman

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
กว่าจะได้เข้ามาอ่านก็เป็นวันพุธ ดีเลยจะได้อ่านตอนต่อไป  รักจ้า+1

ออฟไลน์ anukung

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
รอรอรอรอรอรอรอรอรอรอ

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
สงครามทะเลทราย..ศึกเทพมหาธาตุ
Part 24...ความชั่วช้าที่คาดไม่ถึง




“เป็นยังไงบ้างครับพี่ธาร”
ผักตบถามพี่สาว หลังอีกฝ่ายรับเป็นภาระดูแลแม่นมกับนางกำนัลที่นำตัวออกจากตำหนักเย็น
คนหลังผักตบได้ช่วยรักษาอาการสติวิปลาสวิธีเดียวกัน สตรีสูงวัยสองนางล้วนมีอาการคล้ายคลึงกันไม่ผิดเพี้ยน
สำคัญคือสภาพจิตใจไม่พร้อมจะให้การอะไรได้

องค์หญิงชลธารพี่สาวจึงให้พวกนางพักผ่อนก่อน บอกกับผักตบให้รอเช้าวันรุ่งขึ้น
ค่อยสอบถามเรื่องราวต้นสายปลายเหตุทั้งหมด ทั้งคู่ลงมติแยกย้ายกลับไปพัก
ส่วนผู้ที่ช่วยเหลือออกมารบกวนให้อยู่ในความดูแลขององค์หญิงชลธารแล้ว

ผักตบกลับมาถึงห้อง ก็พบพยัพนนท์ยืนรออยู่ เป็นปกติก่อนหน้าไม่รู้จักไม่มากก็น้อยเขาอาจตกใจบ้างล่ะ
อีกฝ่ายเล่นยืนทะมึนทึนบวกหน้าตาอัปลักษณ์ ยากจะบรรยายอาการชวนหลอนจริงๆ
โชคดีผักตบไม่มีท่าทางตกใจ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขารู้จักคุ้นเคยองครักษ์พิทักษ์ม้าผู้นี้แล้ว
สำคัญเขาสัมผัสโดยใช้สัญชาตญาณ ทำให้รับรู้ว่าชายอัปลักษณ์ผู้นี้ ห่วงใยในความปลอดภัยของเขายิ่งกว่าอะไรด้วยซ้ำ
พอเห็นอีกฝ่ายกลับมาโดยสวัสดิภาพ พลอยรู้สึกโล่งอกอดไต่ถามความเป็นไปของเหตุการณ์ไม่ได้
ดีกว่าต้องรอให้อีกฝ่ายค้อมศีรษะให้แล้วก้าวผ่านเข้าประตูไปเฉยๆ ถ้าเขาไม่พูดก่อนคงไม่ได้ความอะไรแน่..

“คุณปลอดภัยดีใช่ไหม” ผักตบหยุดตรงหน้าผู้ที่ค้อมศีรษะก้มต่ำ
จนไม่สามารถมองเห็นความอัปลักษณ์ของหน้าตาได้ชัดแล้ว

“พะยะค่ะ ข้าน้อยปลอดภัยดี พระองค์มิได้รับอันตรายใช่หรือไม่”
เขากลับสอบถามผักตบเช่นกัน น้ำเสียงทุ้มแหบแต่ยังสามารถจับกระแสความห่วงใยฉายชัด
ในประโยคคำถาม ที่หวังรอฟังคำตอบด้วยใจจดจ่อ

“ผมปลอดภัยดีครับ..ถ้างั้นผมถอนเกราะมหาธาตุคืนเลยนะครับ”
เขาไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เลยถือโอกาสขอคืนเกราะมหาธาตุที่สร้างคุ้มครองร่างกายให้อีกฝ่าย
พอประจันหน้ากับพยัพนนต์ เขารู้สึกพิกลอธิบายไม่ถูก

“ขอบพระทัยพระชายา ทรงพระกรุณาข้าน้อยเป็นอย่างยิ่งแล้ว” พยัพนนท์ตอบคำ โดยไม่ยอมเงยหน้าเช่นเดิม

“ไม่เป็นไร..ผมเสียอีกสมควรต้องเอ่ยคำนี้..คุณอุตส่าห์ช่วยผมกับพี่หญิงชลธาร
 ลักลอบเข้าออกตำหนักเย็นได้โดยปลอดภัย” ผักตบบอกไปตามความรู้สึก เขาสมควรที่ต้องขอบคุณอีกฝ่ายมากกว่า

“นั่นย่อมสมควรกระทำพะยะค่ะ หากพระองค์ทรงบาดเจ็บเพียงรอยขีดข่วน
ข้าน้อยย่อมผิดวาจาในสัตย์ปฏิญาณจักคุ้มครองดูแลพระองค์ให้ปลอดภัยเสียแล้วพะยะค่ะ”
ผักตบเลิกคิ้วแปลกใจ อดถามอีกฝ่ายไม่ได้

“คุณให้สัตย์สาบานใคร หรือรับปากองค์ชายวายุภักษ์ไว้หรือครับ”
ถามตามที่สงสัย องครักษ์ผู้นี้นิสัยไม่ต่างกับกลกะลา ยึดมั่นในสัจจะวาจา
ดูท่าจงรักภักดีถึงขั้นยอมพลีชีพได้ ปฏิบัติตามสัตย์ปฏิญาณเคร่งครัดจริงๆ
เขาสมควรภูมิใจแทนสวามีดีไหม ที่มีคนมอบความจงรักภักดีถวายชีวิตโดยไม่คิดลังเลเลยด้วยซ้ำ

“พะยะค่ะ” พยัพนนท์รับคำ ยืนยันได้ให้สัตย์ปฏิญาณองค์ชายไว้

“ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น คุณก็ต้องรักตัวเองด้วย อย่าให้ตัวคุณได้รับบาดเจ็บเพียงแค่ปกป้องผม
หากคุณเป็นอะไรเพราะผม ใช่ผมจะรู้สึกดี เป็นไปได้ผมไม่อยากให้คุณเสี่ยงแบบเมื่อคืนนี้อีก”
ผักตบบอกตามที่ใจคิด โดยไม่ทันสังเกตแววตาที่ถูกปกปิด ซึ่งหรี่เล็กแทบมองไม่เห็น
เพราะตุ่มไตน่าเกลียดของหนังตาบดบังไว้ เกิดอาการไหววูบอย่างสำนึกตื้นตันต่อท่าทีแสดงความห่วงใยที่มีให้
หากเทียบฐานะแล้วอีกฝ่ายเป็นเพียงคนเลี้ยงม้า

“เป็นพระกรุณาธิคุณต่อข้าน้อยอย่างล้นพ้นพะยะค่ะ ให้พระองค์ทรงห่วงใยเยี่ยงนี้”
เสียงแหบทุ้มเจือความปลื้มปิติ ทำเอาผักตบอมยิ้มขำ

“ครับ..ลงเรือลำเดียวกันไม่ห่วงคุณจะให้ผมห่วงใคร ผมเองต่อให้เป็นลูกของกษัตริย์ที่นี่
แต่กลับไม่ผูกพันใครนอกจากพี่ธาร ยังมีคุณอีกคนที่ผมพอจะเบาใจได้บ้าง..ว่าเราเป็นพวกเดียวกัน” เขาบอกความรู้สึกตรงๆ

“โอ้!..ข้าน้อยมิบังอาจตีตนเสมอพระองค์ดอกพะยะค่ะ”
อีกฝ่ายดูลนลานค้อมศีรษะต่ำกว่าเดิมลงไปอีก หลังฟังผักตบเอ่ยขึ้นแบบนี้

“เห้ย! คิดมากน่า เอาเถอะผมขอตัวพักผ่อนก่อน ส่วนคุณก็ไปพักไม่ต้องอารักขาผมหรอก
ที่นี่ตำหนักพี่ธารไม่มีใครบุกเข้ามาทำร้ายผมแน่” ผักตบไล่อีกฝ่ายไปพักผ่อน
หากไม่สั่งเห็นท่าจะยืนเฝ้าหน้าประตูทั้งคืนแล้ว

“ข้าน้อยประสงค์จักดูแล..” เขายังพูดไม่ทันจบ ผักตบรีบขัดทันที

“ถือเป็นคำสั่ง ถ้าคุณไม่ฟังผมจะให้ไปอยู่กับเจ้าไต้ฝุ่นแล้ว” เขาขู่กึ่งบังคับ ไม่ได้คิดทำอย่างที่พูด
แค่ต้องการให้พยัพนนท์ได้พักบ้าง ถ้าไม่ขู่คงไม่ได้ผล อีกฝ่ายมีท่าทียืนกรานจะเฝ้าหน้าประตูห้องให้เขาแน่

“พะยะค่ะ..ข้าน้อยน้อมรับพระบัญชา” ผักตบค่อยส่ายหัวให้ช้าๆ ก่อนพาร่างหายเข้าประตูไป
ซึ่งองครักษ์ตัวโตรีบผลุนผลันปิดประตูอย่างระมัดระวัง ดูรัดกุมจนเขาชื่นชมในความรอบคอบของอีกฝ่าย..

นั่นคือเรื่องราวในค่ำคืนที่ตื่นเต้น จนสายของวันนี้เขาตรงมาพบพี่สาว เพื่อดูอาการสองนางกำนัลสูงวัยที่ไปช่วยออกมา
ไม่รู้ตอนนี้อาการดีขึ้นหายตกใจกันหรือยัง จึงถามถึงทันทีโดยไม่ยอมเสียเวลา

“พวกนางหายเป็นปกติแล้ว ข้าได้ให้นางกำนัลพาไปชำระร่างกาย ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้เรียบร้อยเสียก่อน
จักได้สอบถามพร้อมกัน ระหว่างนี้รับเครื่องเสวยไปพลางๆ ถึงเพลาไม่ต้องกังวลคาดว่าเจ้าคงวุ่นวายยิ่งนัก”
องค์หญิงทรงรับสั่งบอกกับผักตบ

“แล้วพี่ธารเสวยหรือยังครับ” เขาไม่ปฏิเสธ ก่อนเอ่ยถามเธอไป

“ข้ารอเสวยพร้อมเจ้า ใยจักเสียมารยาทแอบเสวยไปเสียก่อนเล่า”
คำพูดพี่สาวติดตลก พานทำให้น้องชายหัวเราะขำอย่างไม่เก็บอาการ

“ฮะฮ่าๆ..ผมไม่ได้คิดแบบนั้น ที่ถามตั้งใจชวนทานด้วย..ฮะฮ่าๆ”
 เป็นความบันเทิงก่อนทานมื้อเช้าของสองพี่น้อง พักหลังดูสนิทสนมคุ้นเคย เข้ากันได้ดีกว่าที่ผ่านมาเสียอีก
องค์หญิงผู้พี่ทอดเนตรความสดใสพระอนุชา อดชื่นชมรอยแย้มสรวลหล่อเหลาไม่ได้
พระองค์ทรงภูมิพระทัยมีพระอนุชารูปงาม แถมเป็นบุรุษที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา แลพระนิสัยเบิกบานเยี่ยงนี้ด้วยแล้ว
กระนั้นกลับแอบรันทด หลังตระหนักว่าทรงทำการล่อลวง รอพระปิตุลาสำเร็จโทษ
นึกถึงตรงนี้กลับสับสนค้านในพระทัย ต่อสิ่งที่กระทำนั้นถูกต้องดีแล้วหรือไม่

“อ้าว! เป็นอะไรไปครับ ทำไมใจลอย” ผักตบแปลกใจ ร่าเริงอยู่ดีๆ พี่สาวพาตัวเองเข้าโหมดจมอยู่ในความคิดเสียดื้อๆ

“มิมีอันใด..ข้านึกถึงเรื่องราวหวังว่าไม่มีใครเฉลียวใจ ล่วงรู้ว่าเรานำผู้ถูกกักขังออกมาเสียแล้ว”
องค์หญิงผู้พี่รีบปรับพระพักตร์ให้ดูเป็นปกติ ดึงความคิดผักตบตามที่ทรงดำรัสอย่างไม่ตรงความจริง

“คงไม่รู้หรอก ถึงรู้ก็ต้องใช้เวลาตรวจสอบตามหาตัวคนไปพาหนี
ทางที่ดีเรารีบถามเรื่องราวคุณน้าทั้งสอง จะได้ไม่เสียเวลา” เป็นอันยุติการสนทนาของสองพี่น้อง
ก่อนองค์หญิงเจ้าของตำหนัก จักทรงมีรับสั่งให้ยกสำรับเครื่องเสวย จากนั้นสองพระองค์ค่อยลงมือเสวยมื้อเช้าร่วมกัน
>
>
“เป็นคุณเอง” ผักตบทั้งแปลกใจ ดีใจจนบอกไม่ถูก หลังพยัพนนท์เดินนำใครเข้ามา
สองพี่น้องเตรียมสอบถามสตรีสูงวัย รอนางกำนัลซึ่งรับคำสั่งไปพาตัวมาอยู่

“ถวายพระพรพระชายา เป็นข้าพระองค์กลกะลาแล้ว..พะยะค่ะ”
องครักษ์หนุ่มค้อมศีรษะถวายพระพรอย่างนอบน้อม เขารู้ฐานะของบุรุษรูปงามตรงหน้า
ผ่านการเข้าพิธีอภิเษกกับองค์ชายวายุภักษ์ แถมทรงได้รับพระราชโองการแต่งตั้งถูกต้องสมบูรณ์
ย่อมเป็นนายเหนือหัวเขาเช่นกัน การแสดงความเคารพนอบน้อมสมควรพึงกระทำ

“ผมไม่คาดจะได้เจอคุณเร็วอย่างนี้ ยังแอบคิดต้องใช้เวลาสืบค้นที่คุมขังของคุณเสียอีก
มาได้ยังไง..รู้ไหมองค์ชายเป็นห่วงคุณมาก” ผักตบรีบบอกองครักษ์พระสวามี ด้ายอาการดีใจอยู่พอสมควร

“ข้าพระองค์หาได้รับการทรมาน กระนั้นมิได้มีอิสระหลบหนีกลับไตรคานเช่นกัน
สมควรรับพระอาญาที่กระทำให้องค์ชายทรงเป็นห่วงแล้ว” กลกะลาตั้งท่าจะคุกเข่า
ผักตบร้องเสียงหลงห้ามปรามกันเลยทีเดียว

“เห้ย! อย่าๆ..อย่ามาคุกเข่าให้ผม ถ้าจะรับโทษคุณบอกเขาเอง
ส่วนผมดีใจที่เห็นคุณปลอดภัย คุณมาหาผมได้ยังไงครับ”
เขาเปลี่ยนเรื่อง ก่อนอีกฝ่ายจะดึงดันทำตามใจตัวเอง

“ข้าพระองค์พอทราบข่าว พระชายาได้เสด็จประทับเวฬุวรรณนคร
กลับมิสะดวกลักลอบออกจากสถานที่คุมขัง รอกระทั่งเพลานี้จึงสามารถหนีออกมา
พระชายาทรงมิได้รับอันตรายอันใด ทรงปลอดภัยดีใช่หรือไม่” กลกะลาทูลถวายรายงาน
โดยไม่กล้าเปิดเผยความจริงทั้งหมด ที่สามารถลักลอบออกมา ต้องลงทุนกระทำตนดุจคณิการ่านสวาท
ปรนเปรอกำหนัดเหนือหัวธรณินจนพระองค์หลับใหลเมื่อค่อนรุ่ง ปานนี้ยังทรงบรรทมไม่ตื่น
หากไม่ใช้วิธีนี้..มีหรือจะสามารถห่างสายพระเนตร หลบหนีออกมาที่นี่ได้..

“หนีได้ก็ไม่ต้องกังวล ผมคุ้มครองคุณเอง” ผักตบให้ความมั่นใจต่อองครักษ์หนุ่ม
ซึ่งเขาถูกชะตาตั้งแต่ครั้งยอมผายลมเอาชนะทายปริศนา จนทำให้ไตรคานยุติสงครามได้อย่างหวุดหวิด..

“ย่อมเป็นความตั้งใจของข้าพระองค์เช่นกัน จักทำหน้าที่ปกป้องพระองค์เสียบัดนี้
ทรงอย่าได้กังวลอันใดพะยะค่ะ” ผักตบจะขำก็ขำไม่ออก เดิมทีเขาอุตส่าห์ตั้งใจดูแลอีกฝ่าย
 ในเมื่อหนีออกมาได้ไม่ให้ใครตามมาจับตัวไปกักขังอีก เอาเข้าจริง..กลกะลาขอรับหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้เขา
ทั้งที่อยากจะขำความคิดการกระทำของอีกฝ่าย แต่เขากลับขำไม่ออกจริงๆ

“เอาเถอะใครปกป้องใครเราช่วยกันดีกว่า ตอนนี้ผมมีเรื่องสำคัญ พวกคุณดูแลความปลอดภัยให้ด้วย
ผมไม่ปิดเป็นความลับพวกคุณหรอก” ผักตบเปลี่ยนประเด็น โดยยินยอมให้สององครักษ์ที่ดูเหมือนจะรู้จักกันแล้ว
ได้ร่วมฟังการสอบถาม องค์หญิงชลธารแม้ทรงไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่ดำรัสขัดพระอนุชา ทรงยกให้ผักตบตัดสินใจ

“ข้าน้อยนำพระนมกับนางในเข้าเฝ้าตามพระบัญชา พระราชทานอนุญาตให้เข้าเฝ้าด้วยเพคะ”
นางกำนัลมาขออนุญาตองค์หญิงชลธาร

“พาเข้ามา” พระองค์ทรงรับสั่ง ประตูเปิดออกพร้อมนางหลีกทางให้แม่นมกับนางในชั้นสูงในอดีต
บัดนี้แต่งกายด้วยอาภรณ์ชุดใหม่สะอาดสะอ้าน หน้าตาผมเผ้าได้รับการดูแลเช่นผู้คนปกติ
ไม่เหลือเค้าคนบ้าหัวกระเซิงให้เห็นอีกเลย

“ถวายพระพรพระโอรส..พระธิดาเพคะ”
สองหญิงชราค้อมศีรษะ เอ่ยวาจาถวายพระพร..ตามธรรมเนียมอย่างพร้อมเพรียง

“ตามสบาย คงไม่ต้องเท้าความอันใด เรากับอนุชาประสงค์ให้เจ้าทั้งสองบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ใยถูกคุมขังยังตำหนักเย็น ด้วยอาการผู้มีสติวิปลาสเยี่ยงนั้น มีความจริงใดจักให้เรารู้
จงอย่าชักช้ารีบรายงานเถิด” องค์หญิงชลธารทรงตรัสเริ่มขึ้นก่อน

“เป็นพระมหากรุณายิ่งเพคะ ทรงช่วยพวกหม่อมชั้นหนีสิ่งชั่วร้ายดุจขุมนรกนั้นแล้ว..บลาๆๆ”
จากนั้นเรื่องราวข้อเท็จจริง ได้ถูกถ่ายทอดจากปากสตรีสูงวัย ผู้รับใช้เก่าแก่ของเวฬุวรรณนครหมดเปลือก
กลับสร้างความตกตะลึงพรุึงเพริด ให้องค์หญิงชลธารไปแล้ว

พวกนางยืนยันตรงกัน ราชครูตำแหน่งเดิมของพระปิตุลาขณะนั้น เป็นผู้ลอบสังหารพระมเหสี
หากผิวเผินชวนให้เข้าใจว่าหวังดีช่วยพระนางให้ประสูติพระโอรสสำเร็จ กระนั้นการเสริมพลัง
ย่อมไม่เกินความสามารถของจอมขมังเวทย์ ที่น่าผิดหวังเขากลับปลิดพระชนม์ชีพพระองค์
เพื่อมิให้ความลับพระครรภ์แฝดทารกชายหญิงเผยแพร่ออกไป โดยทำให้พวกนางมีสติวิปลาสไปเสียอย่างที่ทรงประจักษ์
เรื่องราวต่อจากนั้นพวกนางไม่รู้ความเป็นมาแล้ว เป็นหน้าที่ของผักตบที่ต้องปะติดปะต่อ บอกเล่าเก้าสิบให้องค์หญิงพี่สาว
ได้มีส่วนรับรู้ความจริงเกี่ยวกับการที่พี่น้องถูกแยกจากกัน ผักตบถูกมนต์ผนึกแห่งเวลาส่งไปยังดินแดนอนาคต
ก่อนหวนคืนเพราะบังเอิญดันไปลบล้างมนต์ผนึก เป็นผลสำเร็จอย่างไม่รู้เรื่องอะไรเลย..

ถือเป็นแผนลึกลับซับซ้อน มากกว่าแค่เพียงช่วงชิงเอาราชบัลลังก์ บัดนี้ฝ่ายกบฏได้ไว้ในกำมือ
สองพี่น้องไม่รู้ตื้นลึกหนาบางในรายละเอียด นอกจากวิเคราะห์เดาเรื่องคงกระหายอำนาจ บวกความละโมบของราชครู
ทำให้คิดคดทรยศจนสังหารพระมารดา กระทั่งพระบิดาทรงตรอมพระทัย สิ้นพระชนม์ตามไปในเพลาต่อมา

“ข้ามิอาจเชื่อนี่คือความจริง ตลอดเพลาข้ากลับถูกคนทรยศเลี้ยงดูให้ความรักดุจธิดา เพื่ออันใดกัน”
องค์หญิงผู้เข้มแข็ง ถึงกับพระพักตร์เผือดสีแลดูน่าสงสาร เธอคือผู้ที่ได้รับผลกระทบสาหัสกว่าใคร
เทียบผักตบซึ่งไม่มีความผูกพันกับคนร้าย เขาแค่รู้สึกโกรธเคือง มากกว่าจะสลดหดหู่ผสมปนเปจนน่าเวทนาเหมือนพี่สาว
ชลธารย่อมแตกต่าง ที่ผ่านมาเธอได้รับการเลี้ยงดูถ่ายทอดทักษะฝีมืออาคมเวทย์มนต์ให้
 แสดงความรักเอาใจใส่จนหลงเคารพผูกพันลึกซึ้ง พอรับรู้ความจริง ทำให้เธอเหมือนพระทัยถูกน้ำกรดสาด
ทั้งเจ็บปวดแสบร้อนทรมานแสนสาหัส ยังรู้สึกผิดหวังรุนแรงอย่างยิ่ง
ที่ทุกอย่างล้วนเป็นเพียงความหลอกลวงโกหกตลอดช่วงอายุของเธอ

หญิงเหล็กที่สร้างชื่อเสียงไปทั่วแว่นแคว้น ถึงกลับหลั่งอัสสุชลอาบพักตร์นวล
อย่างสะกดกลั้นความเจ็บปวดไว้ไม่ไหว เป็นครั้งแรกที่เธอกันแสงออกมาเช่นนี้
ที่ผ่านมาผจญศึกเข่นฆ่าผลาญชีวิตวายชนม์ไม่น้อย ยังไม่รู้สึกโศกเศร้าเสียใจ
การประทับนิ่งเฉยปล่อยอัสสุชลไหลรินโดยไร้ซุ่มเสียง
กลับสร้างความหดหู่รันทดหัวใจ ต่อคนร่วมเหตุการณ์ไปตามกัน
ไม่เว้นแม้แต่สององครักษ์หนึ่งรูปงามปานเทวบุตร หนึ่งอัปลักษณ์ดุจราชาอสูร
ยังพลอยเบือนสายตาหนีหญิงงามทรงศิริโฉมข่มสตรีทั่วหล้า  เคยแลองอาจประหนึ่งบุรุษ
บัดนี้มิต่างนกน้อยสิ้นเรี่ยวแรงทรงกาย กระทั่งจักยืนหยัดยังดูลำบาก ใครเห็นไม่เวทนาคงใจแข็งพิลึก

“พี่ธารครับ..เรื่องราวแฝงไปด้วยผลประโยชน์ อย่าเสียใจกับคนชั่วซึ่งหว่านพืชเพื่อหวังผล
 ให้เสียน้ำตาเลยครับ เขาเลี้ยงดูพี่ก็จริง..แต่กลับใช้ความสามารถของพี่ก่อกรรมทำเข็ญ
ขยายอำนาจก่อสงครามทั่วแผ่นดิน ถือว่าพี่ได้ตอบแทนที่เขาเลี้ยงดูแล้ว พี่ต่างหากที่ถูกกระทำมาโดยตลอด
หลังจากนี้สมควรร่วมมือกับผม ทวงคืนความยุติธรรมให้พ่อกับแม่เราแล้ว”
ผักตบเป็นผู้ให้สติ ชักจูงความคิดพี่สาวให้รับรู้ความจริง
เขาเชื่อว่าอีกฝ่ายตกเป็นเครื่องมือคนใจร้าย ถูกหลอกใช้อย่างไม่ยุติธรรม

“เจ้ากล่าวไม่ผิด..ข้ากลับไร้ปัญญาโง่งมอยู่เนิ่นนาน มิอาจล่วงรู้จุดประสงค์พระปิตุลา
 เหตุใดเข่นฆ่าก่อสงครามไม่หยุดหย่อน ใช่ข้าจักไม่เคยสอบถาม แต่กลับได้คำตอบเพียงว่า
นครแว่นแคว้นเหล่านั้นซ่องสุมกองกำลังตระเตรียมโจมตีเวฬุวรรณ หลังไร้กษัตริย์ว่างเว้นมานานหลายปี
ข้าซึ่งเป็นธิดาย่อมผูกติดเงื่อนไขความเป็นอิสตรี กฎมณเฑียรบาลย่อมเป็นอุปสรรค
หากจักสถาปนาขึ้นเป็นกษัตริย์สืบต่อพระบิดา การหมั้นหมายระหว่างข้ากับเจ้าพี่ธรณินจึงเกิดขึ้นเพื่อการนี้
ในที่สุดข้ามิได้เข้าพิธีอภิเษกกลับเป็นองค์หญิงทิพย์เกสรชู้รักเจ้าพี่เสียแล้ว ที่นั่งบัลลังก์ของพระมเหสี 
ที่แท้ข้าเป็นเพียงเบี้ยหวัดซึ่งถูกใช้ให้เดินเกมบนกระดาน ข้ายังมีความจริงจักเปิดเผยให้เจ้าได้รับรู้
แม้นรับฟังแล้วจักถือโทษโกรธข้าย่อมมิผิด ข้ามิตำหนิต่อการกระทำของเจ้าแต่อย่างใด”
ผู้เป็นพี่สาวจ้องสบตาคมที่เต็มไปด้วยคำถามของผักตบ ก่อนจะทรงดำรัสต่อ

“ข้าหาได้เดินทางไปไตรคาน ด้วยล่วงรู้เกี่ยวกับแผนทรยศหักหลังแล้วตั้งใจชักชวนเจ้าแก้แค้น
ทวงคืนราชบัลลังก์แต่ประการใด ล้วนเป็นการวางแผนล่อลวงเจ้าทั้งสิ้น
ต้องการสร้างความร้าวฉานให้เจ้ากับพระสวามีได้ห้ำหั่นกันเอง เพราะพวกเจ้าต่างถือครองจตุรเทพมหาธาตุทั้งคู่
ถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อเวฬุวรรณ หากพวกเจ้ายกทัพบุกตีคงมิใช่ปัญหา การนี้ข้าจึงเป็นคนเดียวที่สามารถเข้าใกล้เจ้า
หากยกอ้างถึงความสัมพันธ์ความเป็นพี่น้องฝาแฝดของเรา เจ้าย่อมไม่ปฏิเสธ พระปิตุลากลับคาดเดาแม่นยำ
แผนนี้สำเร็จดังคาดหวัง เพียงเปลี่ยนแปลงนำเจ้ามายังเวฬุวรรณ ด้วยเหตุผลใดนั้นข้ามิอาจล่วงรู้เช่นกัน
เหตุใดจึงให้ข้านำพาเจ้ากลับยังเวฬุวรรณ แทนการให้พวกเจ้ารบรากันเองไปเสียแล้ว”
ผักตบนิ่งไปครู่ใหญ่ สีหน้าแววตาไม่ได้แสดงความรู้สึกให้คาดเดาความคิด
ก่อนจะยอมเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มเรียบออกมาว่า

“ผมรู้แล้วครับ ว่าพี่ตั้งใจมาทำอะไร” เขายอมรับไปตรงๆ

“เจ้ากล่าวอันใด เจ้าบ่งบอกล่วงรู้ถึงแผนการข้า เหตุใดยินยอมผิดใจกับพระสวามี
นั่นล้วนเป็นแผนที่ข้ากับหญิงอ้ายเตรียมการไว้ สวามีเจ้าหาได้คิดนอกใจไม่
การได้ประจักษ์ถึงสภาพล่อแหลมของพวกเขา แท้จริงเพียงอุบายที่หญิงอ้ายแกล้งป่วย
ให้สวามีเจ้าช่วยตรวจรักษา จากนั้นนางจึงฉวยโอกาสผลักเขาล้มบนเตียง
แล้วลวนลามจนเกิดความเข้าใจผิดเยี่ยงที่เจ้ากับข้าไปพบเข้าดอก” องค์หญิงทรงยอมเปิดเผยแผนร้าย..

“นั่นผมก็รู้ ว่าองค์ชายไม่ได้นอกใจผม” ผักตบยอมรับเฉย
โดยไม่แสดงอาการประหลาดใจ ต่อคำบอกเล่าที่พี่สาวสาธยายให้ฟัง

“เป็นไปได้เยี่ยงไร ข้ากลับเห็นเจ้ามีโทสะถึงขั้นยอมตามข้ามาถึงนี่ แถมสวามีเจ้า
ยังมิได้เป็นผู้มาส่งเจ้าก่อนออกเดินทาง ไม่มีการล่ำลาต่อกัน แล้วใยเจ้ากลับบอกข้า
เจ้าล่วงรู้แผนการทุกอย่างเยี่ยงนี้ได้เล่า”

“พี่ไม่คิดว่าผมสามารถซ้อนแผนพี่บ้าง ผมไม่ใช่พวกใสซื่อยอมคน เป็นนิสัยพื้นฐานของผม
การที่ผมเสแสร้งสวมบทบาทตามที่พี่กับหญิงอ้ายเขียนบทขึ้น ไม่ได้แปลว่าผมจะไม่รู้
 เรื่องนี้มีผมที่รู้เพราะไม่ได้บอกองค์ชาย ผมไม่อยากให้เขามองพี่เป็นคนไม่ดี
ในเมื่อเขายอมรับพี่ธาร ให้โอกาสพี่ได้ใกล้ชิดเรียนรู้กันแล้ว ผมไม่อยากให้องค์ชายและพี่สาวเป็นปรปักษ์กันอีก
ผมไม่เหลือใครที่เป็นญาติพี่น้อง นอกจากแม่เล็กกับพี่ธารเท่านั้น ลองคิดดูผมจะมีความสุขไหม
ถ้าต้องเป็นคนกลางคอยไกล่เกลี่ยสามีกับพี่อยู่เรื่อย”
ผักตบเว้นจังหวะ ลอบชำเลืองดูอาการคนที่รับฟัง องค์หญิงพี่สาว กลกะลาองครักษ์พระสวามี
พยัพนนท์ผู้พิทักษ์ม้า ล้วนสีหน้าท่าทางอึ้งนิ่ง แทบไม่อยากเชื่อต่อคำบอกเล่าของเขาไปแล้ว

“ผมทำทั้งหมดเพื่อทุกฝ่าย คงสงสัยผมรู้ได้ยังไง ผมลอบสังเกตตั้งแต่แม่เล็กบอกพี่สนิทสนมองค์หญิงอ้าย
ไปมาหาสู่กันทุกวัน หายหน้าหายตาไม่ร่วมโต๊ะเสวย ไม่ได้คลุกคลีอย่างที่เคย
แต่กลับใช้เวลาสนิทสนมองค์หญิงซึ่งเย่อหยิ่งจนผิดสังเกต สำคัญหญิงอ้ายไม่ชอบขี้หน้าผมอีกด้วย
 แต่กลับยอมสนิทสนมพี่สาวผมนี่สิ สมควรแปลกใจไหม”
เขาเว้นจังหวะให้ทุกคนแย้งต่อการวิเคราะห์ของเขา เมื่อไม่มีใครแย้งก็ยินยอมเล่าต่อ

“พอจับจุด ผมก็แอบตั้งกล้องวีดีโอไว้ เพื่อสอดส่องพฤติกรรมของพี่ในห้องนอนแม่เล็ก
พี่คงไม่รู้ผมมีอุปกรณ์บันทึกภาพเคลื่อนไหว แม้เสี่ยงว่าอาจไม่ได้อะไรเลย
 แถมแบตเตอรี่อาจจะหมดโดยโร้ประโยชน์ สุดท้ายวันที่ผมตัดสินใจทำ
กลับได้ภาพเหตุการณ์ที่หญิงอ้ายพูดคุยกับพี่ในห้อง เกี่ยวกับความลับที่ทำให้ผมล่วงรู้แผนพวกพี่
ว่ากำลังจะทำอะไร ผมเชื่อมั่นในตัวองค์ชาย เขาสามารถต้านทานมนต์ตรามหาเสน่ห์ของหญิงอ้ายได้แน่
เพราะเขามีความสามารถด้านนี้อยู่พอตัว สำคัญยังมีเทพจตุรธาตุคุ้มครองกายด้วย
จึงไม่ได้แย้มพรายให้เขารู้ แต่ใช้วิธีตลบหลังเล่นตามแผนของพี่ เพื่อผมจะสามารถเดินทางมาเวฬุวรรณ
ค้นหาสาเหตุตามที่เราได้รับรู้กัน” ผักตบเฉลย เลี่ยงไม่พูดถึงความสัมพันธ์ของพี่สาวกับหญิงอ้ายอีกต่างหาก

“เจ้าช่างกล้านัก ใยยอมเสี่ยงภัยเยี่ยงนี้ หากเจ้านำสวามีมาด้วยมิเป็นการดีกว่าดอกหรือ
วายุภักษ์รัชทายาทไตรคานเป็นบุรุษปรีชาสามารถแห่งยุค ข้ายังมิเคยรบชนะเขาด้วยซ้ำ
ห้ำหั่นกันเกือบ 7 ปี จักมีผู้ใดเพียงลำพังต้านทานข้าและเจ้าพี่ธรณินได้เช่นเขาอีก”
องค์หญิงถึงกลับยกยอชื่นชมพระสวามีพระอนุชา จากน้ำพระทัยของพระองค์แท้จริงแล้ว

“เขาคงดีใจมากถ้าได้ยินพี่ธารชม ผมมีเหตุผลของผมเช่นกัน หากองค์ชายมาด้วย
 แน่ใจพี่ยอมให้เขามา พี่ไม่ยินยอมหรอก สำคัญพระปิตุลาต้องคิดว่า
ผมกับองค์ชายวางแผนมาลอบทำร้ายเขาแน่ คงไม่ยอมให้พี่นำพวกผมกลับวังหรอก
 ผมมาเพียงลำพังสะดวกกว่า ตั้งใจสืบหาความจริง..เรื่องของเราสองพี่น้องและกลกะลาที่ถูกจับตัว
ผมต้องการพากับไตรคาน ส่วนการแก้แค้นรอให้กลับไปก่อน ค่อยวางแผนร่วมกับองค์ชาย
ถึงตอนนั้นค่อยเฉลยความจริงให้เขารู้ หากจะยกทัพมาทวงความยุติธรรม สำเร็จโทษคนเลวก็ยังไม่สาย
ถือคติรู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ตามตำราพิชัยยุทธพี่ผมพอมีภูมิความรู้อยู่บ้างมาเป็นบรรทัดฐาน
พี่เข้าใจจุดประสงค์ของผมหรือยัง” ผักตบยอมอธิบายแนวคิดตนเอง ทำไมเขาถึงเล่นตามแผนของชลธาร..

“ที่แท้เป็นเช่นนี้ เจ้าช่างลึกล้ำยิ่ง ข้ากลับโดนทารกเจ้าล่อลวงแล้ว กลับลำพองว่าเจ้าหลงกลแผนของข้าเสียอีก
ที่แท้เป็นข้าถูกอนุชาใช้เล่ห์อุบายล่อลวงต้มตุ๋น..จนข้าเปื่อยยุ่ยไปเสียเอง”

“ฮะฮ่าๆๆ..ผมจะถือเป็นคำชมก็แล้วกัน หลังจากนี้เราต้องเตรียมหลบหนีกันแล้ว
ต้องพานางกำนัลพยานสำคัญกลับไปด้วย จะมัวชักช้าไม่ได้อีก เป็นไปได้เราไปกันคืนนี้เลยเถอะ”

ต่อด้านล่าง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2014 23:21:45 โดย luxilove »

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
-  2  -




“แปะๆๆ!!..ช่างเก่งกาจนัก สองพี่น้องฝาแฝดเลือดเนื้อเชื้อไขของหัสดินกับนรินทร์ธร
พวกเจ้าสร้างความประหลาดใจให้ข้ามากจริงๆ..ฮิฮิ!!”
องครักษ์หนุ่มทั้งสองขยับเข้าปกป้ององค์หญิง พร้อมผักตบตามสัญชาตญาณทันที
นับแต่เสียงปรบพระหัตถ์ดังขึ้น ตามด้วยขบวนเสด็จของพระปิตุจฉา มีเพียงเหล่านางกำนัลงดงาม 8 นาง
ดูเหมือนไร้ซึ่งพิษสง แต่สัญชาตญาณบ่งบอกว่า พวกนางล้วนมีฝีมือน่ากลัวแล้ว

“พระปิตุจฉา..” องค์หญิงชลธารสุรเสียงแผ่วโหย ผักตบจ้องพักตร์งดงามผิดวัยของคนตรงหน้า
ซึ่งเข้ามาประทับภายในห้องโดยไม่รับเชิญเป็นที่เรียบร้อย พร้อมนางกำนัลทั้ง 8 ที่สำรวมกายยืนจ้องพวกเขานิ่ง
หากไม่ใช่พวกตาถั่ว ย่อมดูทีท่าของพวกนางออก สตรีเหล่านี้ไม่ธรรมดา

“เป็นข้า..เยี่ยงไรเห็นข้าแล้วเจ้าไม่เคารพหรือชลธาร หรือทารกผู้นี้ ล่อลวงเจ้าจนเลอะเลือน”
พระนางตรัสถามองค์หญิงโดยตรง พระสุรเสียงแฝงพระอำนาจกดดันจนคนฟังสัมผัสได้

“ข้า..ข้า” องค์หญิงพักตร์งามซีดเผือด ไม่รู้ทำไมถึงหวาดกลัวสตรีผู้นี้ยิ่งนัก
ไม่มีคำอธิบายรู้แต่พอพระปิตุจฉาปรากฏวรองค์ ร่างกายเหมือนขนลุกตั้งชัน
ภายในพระทัยพลันระทึกหวาดกลัวขึ้นมาเฉย

“ผมไม่เคยหลอกลวงพี่สาวตัวเอง ก่อนโยนความผิดให้ใครลองถามใจคุณป้าดีกว่าไหม
ใครกันที่หลอกลวงพี่ผมนานกว่ายี่สิบปี การป้ายความผิดให้ผู้อื่น
ในขณะตัวเองคือคนร้ายเป็นเรื่องที่คนไร้ยางอายทำกัน 
โดยคนเหล่านั้นไม่รู้สึกละอายใจเลยมั้งครับ” ผักตบย้อนคืนหน้านิ่ง

“บังอาจ!!..ผู้ใดอนุญาตให้ทารกเจ้าก้าวร้าวข้าเยี่ยงนี้ เจ้าคือตัวดีอันใด
เป็นเพียงทารกที่สมควรตายเสียตั้งแต่ยี่สิบกว่าปีก่อน อย่าริกำแหงให้มากนัก
สาเหตุที่เจ้ายังรอดชีวิตสามหาวกับข้าได้ เป็นเพราะถือดีมีจตุรธาตุคุ้มกายกระนั้นหรือ
ต่อให้เจ้ามีสามเศียรหกกร ก็หาได้เปรียบเป็นคู่มือข้าในเพลานี้ รับรู้ไว้ข้าจักบอกพวกเจ้ามิต้องดีใจเก้อ
เครื่องเสวยมื้อเช้าที่พวกเจ้าอิ่มหมีพีมัน ล้วนเป็นกระยาหารตำหนักข้า
คงไม่ต้องอธิบายดอก กระยาหารชุดพิเศษ พวกเจ้าย่อมได้คำตอบอีกอึดใจเดียว..
อิอิอิ!! ทารกย่อมเป็นทารก ริจะปีกกล้าขาแข็งท้าตีท้าต่อยผู้อาวุโสออกจะเร็วไปหน่อย
ข้าจักบอกเจ้าเอาบุญ สิ่งที่พวกเจ้าอุกอาจบุกตำหนักเย็นในยามค่ำคืนนั้น
อย่านึกข้าจักมิสามารถคาดเดาตัวคนร้ายได้ เป็นผู้ใดก่อเหตุในอาณาเขตของข้าแล้ว
ชลธารเจ้าก็ด้วย คิดว่าเกราะมหาธาตุของเจ้ากางอาณาเขตป้องกันตำหนักของเจ้าอยู่กระมัง
ฮะฮ่าๆ..ช่างน่าขันทารกหญิงเจ้ายิ่งนัก กระทั่งพลังเทพมหาธาตุในกายยังมิล่วงรู้อยู่ดีหรือดับสูญ
เยี่ยงนี้นะหรือที่พวกเจ้าจักต่อกรกับข้าได้” องค์หญิงทรงตกพระทัยมาก ในพระดำรัสของพระปิตุจฉา
เธอลองตั้งสติสำรวจเกราะมหาธาตุ กลับพบพานเพียงความว่างเปล่า หาได้รับรู้ถึงกระแสพลังแม้แต่น้อย
เรื่องนี้อยู่นอกเหนือความเข้าใจของเธอแล้ว

“มิต้องแปลกใจ เป็นเพราะเจ้าไม่รู้กระทั่งว่าพลังเทพมหาธาตุของเจ้าสูญสิ้น ข้าจักไว้ชีวิตเจ้า
 เพียงอย่าขัดขืนต่อต้านข้า รีบย้ายก้นเจ้ามายืนยังฝั่งนี้ก่อนข้าจักมีโทสะ”
 พระนางรับสั่งด้วยสุรเสียงแข็งกระด้าง องค์หญิงถึงกับชะงักอึ้ง ในคำตอบที่เพิ่งรับรู้

“พี่ธารไม่ต้องไปไหน ไม่ต้องกลัวคำขู่โคมลอยของคุณป้าอัพหน้า ผมปกป้องพี่ได้
ถึงว่าทำไมพี่เรียกใช้พลังเทพมหาธาตุครั้งใด เกิดอาการประหลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ที่แท้เป็นแผนชั่วของคุณป้านี่เอง” ผักตบยียวนยักคิ้วใส่หน้านิ่ง คำพูดเชือดเฉือนเจ็บแสบ
เล่นเอาคนฟังขมึงดวงเนตรวาวโรจน์อย่างโมโห ที่โดนรุ่นลูกปั่นประสาทเข้าให้

“คิกคิก..ฮะฮ่าๆ ช่างเป็นวาจาชวนขันนัก เจ้ากลับมั่นใจจักปกป้องชลธารเยี่ยงนั้นหรือ
ทั้งที่ตัวเจ้าเองยังมิอาจช่วยตนเองรอด ใยถึงสามารถแสดงจำอวดให้ข้ารื่นเริงเยี่ยงนี้หนอ
 สมควรชื่นชมหัสดินกับนรินทร์ธรแล้ว มีโอรสเก่งกาจจำอวดเยี่ยงเจ้าผู้ใดไม่ภาคภูมิใจ
ถือเป็นประวัติศาสตร์ของราชนิกุลผู้เย่อหยิ่ง หลงเหลือทายาทแสดงจำอวดได้ขบขันแล้ว..ฮะฮ่าๆๆ”
พระปิตุจฉาทรงตรัสวาจาเหยียดหยันได้บาดหู ยิ่งกว่าคมมีดกรีดลึกลงบนผิวเสียอีก
ทั้งสายพระเนตรทอดมองผนวกดำรัสหมิ่นพระเกียรติเชื้อพระวงศ์อย่างเจตนาชัด
ทำเอาผักตบหน้าร้อนเหมือนโดนฝ่ามือฟาดเปรี้ยงอย่างแรงเลยทีเดียว

“ป้าเป็นผู้ใหญ่อ้างตัวอาวุโสอยู่หยกๆ ทำไมมาพูดจาให้ลูกหลานเสื่อมความเคารพนับถือแบบนี้ครับ
พ่อแม่วงศ์ตระกูลของผมไม่ได้รู้เห็นต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น ท่านไม่รู้ด้วยซ้ำลูกหลานทายาทพวกท่าน
ถูกกลุ่มคนชั่ววางแผนร้ายยังไง พี่สาวผมโดนล่อลวงด้วยอุบายชั้นต่ำแบบไหน
สมควรหรือครับที่ป้าจะพาดพิงผู้วายชนม์ ซึ่งดวงจิตสุขสงบแล้ว
คนที่มีจิตใจกระทำได้กระทั่งรบกวนพระวิญญาณ สมควรเป็นคนหรือไม่
ผมคิดว่าไม่น่าจะนับเป็นผู้คนได้ นอกจากปีศาจไร้คุณธรรมไร้สำนึกใฝ่ดีไม่มีอยู่ในหัวคิด
นึกจะพูดหรือทำสิ่งแบบนี้ขึ้นมาได้” ผักตบไม่อ่อนข้อ กลับไม่คิดรักษามารยาท
หักหน้าปะทะตรงกับสตรีสูงวัยอย่างไม่ลดราวาศอก

“บัดซบ! ข้าจักให้เจ้าลิ้มรสความโอหังที่เจ้าผยองลำพองตน ดูสิถึงเพลาอ้อนวอนร้องขอชีวิต
 เจ้ายังมีทีท่าหยิ่งผยองได้เยี่ยงนี้หรือไม่ ทารกไร้หัวคิดเยี่ยงเจ้า สมควรรับชมความอยุติธรรมในโลกนี้ไว้
ไม่เพราะข้าล้วนได้รับจากบรรพบุรุษต้นตระกูลของพวกเจ้าดอกหรือ
ถึงทำให้ต้องสะสางหนี้แค้นชำระคืนเยี่ยงนี้ ให้พวกมันได้ตระหนักลิ้มรสกันเสียบ้าง
ผลกรรมที่เกิดล้วนเป็นเพราะพวกเจ้าคือผู้เริ่มขึ้นก่อน ยังกล้าป้ายความผิดยกให้เป็นข้าเสียแล้ว
พวกเจ้าหน้าไหนเคยยอมรับผิดกันบ้าง ต้นตระกูลบรรพบุรุษของเจ้าแล้วที่เข่นฆ่าล้างผลาญพวกข้าก่อน
บังคับให้สลายพลังเทพมหาธาตุ เพื่อถ่ายทอดให้พวกเจ้าถือครองพลังยิ่งใหญ่แต่เพียงผู้เดียว
มิหวังอำนาจบารมีข่มขวัญผู้คนเพื่อเผ่าพันธุ์ตนเองเป็นใหญ่ ยังจะเรียกเยี่ยงไรได้อีกกระนั้นหรือ
ความละโมบย่อมมีขึ้นทุกยุคทุกสมัย ผิดอันใดที่จักแย่งชิงกัน กระนั้นต้องขึ้นอยู่ผู้ใดแข็งแกร่ง
ผู้ใดอ่อนแอ ย่อมเป็นเหยื่อเสมอมิสามารถเป็นอื่นได้ โบราณเปรียบเปรยให้ครุ่นคิด
 ‘ปลาใหญ่ย่อมกินปลาเล็ก..สัตว์ใหญ่ย่อมกินสัตว์เล็ก’ ผู้ใดมีพลังเหนือกว่า
ผู้นั้นย่อมสามารถปกครองกระทำการอื่นภายใต้อำนาจของตนแล้ว พวกเจ้าสมควรรับรู้ไว้เสียแต่บัดนี้
โลกนี้ไม่มีคำว่ายุติธรรมเกิดขึ้นตั้งแต่บรรพกาลแล้ว จักเรียกร้องถามถึงไปใย ความยุติธรรมแท้จริง
อยู่ในอุ้งมือของผู้ที่มีอำนาจออกคำสั่ง ย่อมเป็นสัจธรรมที่มิอาจเปลี่ยนแปลงได้
จงลืมตาเปิดใจรับรู้เสียแต่บัดนี้ มิว่ายุคใดสมัยใดไม่มีผู้ใดหยุดยั้งหลีกหนีความจริงนี้ได้
ต่อให้เป็นยุคสมัยดินแดนที่เจ้าเติบใหญ่ใยมิต่างกัน ผู้คนรักสันติกลมเกลียวสงบสุข
ประหนึ่งโลกใบนี้สวยงามไร้ตำหนิมลทินด่างพร้อยเช่นนั้นหรือ จิตใจผู้คนไร้ซึ่งการแสวงหาแย่งชิงอำนาจ
ล้วนฝักใฝ่ในคุณธรรม เจริญด้วยศีลบริสุทธิ์เยี่ยงนั้นนะหรือ
ฮะฮ่าๆๆ..ช่างน่าขันนัก หากเจ้าจักยกอ้างเรื่องโกหกพกลมนี้ให้ข้าคล้อยตาม
ข้าหาใช่ทารกอมมือเช่นเจ้าไม่ แววตาเจ้าบ่งบอกคำตอบแก่ข้ามิอาจปิดบังซ่อนเร้น
 ทุกวาจาที่ข้าเปล่งล้วนไม่มีประโยคใดผิดความจริง  บ้านเมืองดินแดนยุคสมัยใด
ล้วนร้อนเป็นไฟคุกรุ่นรอวันปะทุ ดุจภูเขาไฟที่เก็บกักลาวาไว้เช่นเดียวกัน
ถึงกาลระเบิดจักต้องนองเลือด แลกชีวิตผู้คนเซ่นสังเวยเป็นธรรมดา
จักโทษก็ให้โทษชะตาเสียเถิด ส่งพวกเจ้ามาเกิดเพื่อให้ข้าบรรลุความปรารถนาเสียแล้ว”
ผักตบยอมรับอย่างไร้คำโต้เถียง พระปิตุจฉาผู้นี้นอกจากร้ายกาจมากเล่ห์เพทุบาย
พระนางยังเฉียบคมต่อการยกอ้างเรื่องราวที่เขาปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่า
 ‘มนุษย์ล้วนแก่งแย่งให้ได้มาซึ่งอำนาจวาสนา ไม่ว่าสิ่งที่ต้องการจะต้องแลกด้วยเลือดเนื้อชีวิต
ของผู้บริสุทธิ์มากแค่ไหน หากใช้เป็นบันไดให้เหยียบสู่ปลายยอดของจุดหมายได้สำเร็จ
พวกเขาไม่เคยลังเลสังเวยชีวิตผู้คนเหล่านั้น เปรียบประดุจมดปลวกล้มตายอย่างไร้ค่าก็ว่าได้’

“ตกลงป้าต้องการอะไร ใช้วิธีสกปรกวางยาพวกผมทำไม มีอะไรทำไมไม่พูดคุยกันตรงๆ
ป้าเป็นผู้ใหญ่อายุอานามก็ไม่น้อย บรรดาศักดิ์ล้วนมีต้นตระกูลเป็นถึงขัตติยะเชื้อพระวงศ์
ใช้พฤติกรรมแบบนี้ไม่คิดว่าตัวเองได้ก่อมลทินให้บรรพบุรุษด่างพร้อยหรือครับ”
 ผักตบลดน้ำเสียงให้ดูอ่อนลง เมื่อเริ่มรู้ว่าฝ่ายตนเสียเปรียบอยู่ตอนนี้
 มีทหารรักษาการณ์ในวัง เคลื่อนไหวรายล้อมพวกเขา ทั้งทางเข้าทางออกเต็มไปหมด 

“เยี่ยงนี้จึงสมควรที่ข้าจักเวทนาเจ้าเล็กน้อย ให้ทิพย์เกสรเข้ามา”
สิ้นพระสุรเสียงรับสั่ง นางกำนัลที่ถ่ายทอดพระบัญชา
ก็ส่งสัญญาณเชิญเสด็จพระมเหสีให้เข้ามาภายในห้องทันที

“ถวายพระพรพระปิตุจฉา” พระมเหสีแกะกล่องยอบกายคารวะทันทีหลังพระองค์เสด็จเข้ามาในบริเวณ

“ตามสบายเถิด ข้าให้คนไปทูลเชิญเจ้ามา ถึงเพลาที่จักไหว้วานรบกวนเจ้าแล้วทิพย์เกสร”
สิ้นกระแสรับสั่ง พระนางขมุบขมิบฝีพระโอษฐ์ประหนึ่งท่องมนตรา
ครานั้นเองพระมเหสีผู้ประทับยืนถึงกับเนตรเบิกโพลง
พร้อมกับพระพักตร์ชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อกาฬ ประดุจน้ำพุผุดก็ว่าได้
ไม่ต่างองค์หญิงชลธารเธอแล้ว ถึงกับทรุดวรกายฮวบ พระพักตร์ไร้สีพระโลหิตซีดเผือดประดุจซากศพด้วยซ้ำ
หนักหนาสาหัสพระหัตถ์กุมพระอุทร พักตร์เหยเกบิดเบี้ยวเหมือนถูกทัณฑ์ทรมาน

“โอ้ยย..ข้าปวดท้อง ได้โปรด..ทรงพระเมตตาด้วยเพคะ ช่วยด้วย”
เธอเจ็บชนิดลืมองค์ เปล่งสุรเสียงวิงวอนร้องขอพระเมตตาอย่างยอมจำนน
วางพระเกียรติศักดิ์ศรีไม่ใยดีอีกต่อไป ถือเป็นเหตุการณ์หนักหนาสาหัสยิ่ง

“หยุดเดี๋ยวนี้! หากไม่เชื่อ..จะว่าผมโหดร้ายไม่ได้”
ผักตบตวาดเสียงเขียวทีเดียว เมื่อเห็นสภาพพี่สาวดิ้นทุรนทุรายตรงหน้า
 พระมเหสีเองก็มีอาการแปลกประหลาด เมื่อพระอุทรทรงพระครรภ์อ่อนของพระองค์เกิดแสงสว่างวาบ
ก่อนพวยพุ่งมายังวรกายองค์หญิงชลธาร ทำปฏิกิริยาต่อกัน ทำให้วรกายบอบบาง
น่าเวทนาที่ดิ้นรนด้วยความทรมานรายล้อมไปด้วยกลุ่มรัศมีสีประหลาดนั้น...
ผักตบทนดูไม่ไหว กำหนดจิตเรียกจตุรเทพมหาธาตุอัคคีออกมาหวังกำราบการกระทำของพระปิตุจฉา
ที่กำกับมนตราน่ากลัว ช่วยพี่สาวให้หลุดพ้นความทรมานเสียก่อน

“ทำไม..เกิดอะไรขึ้น” เขาถึงกับชะงัก เมื่อพลังจตุรธาตุภายในร่างไม่บังเกิดผล”

“ฮะฮ่าๆๆ..เจ้าคิดหรือว่ามีพลังจตุรธาตุแล้วจักไร้จุดอ่อน
ฮะฮ่าๆๆ มนุษย์ทุกผู้คนย่อมมีเลือดเนื้อเป็นส่วนประกอบ
ลมปราณเทพมหาธาตุเกิดจากเลือดเนื้อที่ไหลวนเป็นพลังเหนือธรรมชาติ
ซึ่งเหล่าทวยเทพล้วนอำนวยผลประทานให้ กระนั้นหากโดนยาสั่งตำรับพิเศษที่ข้าปรุงแต่งขึ้น
ควบคุมด้วยมนตราปิดผนึก พลังมหาธาตุในกายเจ้าก็ดุจพลุไฟที่ถูกกักมิให้ระเบิดเยี่ยงไรเล่า
รอให้ตกเป็นของข้า ย่อมล่วงรู้วิธีใช้งานถ่องแท้กว่าทารกไร้เดียงสาเจ้าแล้ว
ดุจมีแก้วล้ำค่าในมือกลับไร้ประสิทธิภาพประหนึ่งกรวดทราย
 เจ้าสมควรกระนั้นหรือที่จักครอบครองพลังวิเศษนี้เอาไว้”

“แย่แล้ว..ป้าชั่วช้าเลวทรามที่สุด เท่าที่ผมเคยเจอคนชั่วมาในชีวิต
ไม่คิดว่าป้าจะโหดร้ายแบบนี้” ผักตบหน้าเครียดคิ้วมุ่น ชนกันแทบพันเป็นปมยุ่งเหยิง
เมื่อรู้ตัวว่าเขาพลาดมหันต์ กลายเป็นไร้ฝีมือช่วยใครแม้แต่ตัวเอง ให้หลุดรอดวิกฤตการณ์เลวร้ายนี้แล้ว

“ข้าถือเป็นคำนิยมชื่นชมทารกเจ้าแล้ว..ฮะฮ่าๆ ยังมีสิ่งที่น่าชื่นชมบันเทิงใจกว่านี้อยู่
รอดูเถอะอย่าได้กะพริบตาเป็นอันขาด” สิ้นพระดำรัสองค์หญิงชลธารกลับกรีดร้อง
พระโอษฐ์อ้ากว้างท่าทางน่าเกลียดยิ่งนัก
ทันใดสิ่งมีชีวิตประหลาด ลักษณะคล้ายตัวกั้งสัตว์ทะเลตระกูลกุ้งคืบคลานกระดึ๊บๆ
ออกจากพระโอษฐ์ที่อ้ากว้าง พระเนตรเบิกเพลิงแดงก่ำเส้นพระโลหิตฝอยเหมือนจะระเบิด
พร้อมกับลมหายพระทัยโรยรินเหมือนพลังชีวิตจะสูญสิ้นไปด้วย ผักตบร้อนใจแต่ทำอะไรไม่ได้
เหมือนร่างกายไม่ฟังคำสั่งเขาเลย จะก้าวขาขยับแขนคิดในหัวแต่ร่างกายไม่กระดิก
คล้ายโดนยาชาจนทำให้เขาได้แต่ยืนเป็นหุ่น จ้องดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเจ็บปวดใจ
ถึงกับเบ้าตาคลอรื้นไปด้วยน้ำที่ตีตื้นหน่วงอกหนัก ถึงตอนนี้เขาก่นด่านึกโทษตัวเองที่งี่เง่า
ทำให้ตกอยู่ในที่นั่งลำบาก พานจะพาพี่น้องพวกพ้องมาตายไร้ที่ฝังเสียแล้ว

“ตะขาบแก้วซื่อสัตย์จงรักภักดี ข้าเพาะเลี้ยงในกายชลธารช้านาน
เพื่อดูดซับพลังเทพมหาธาตุ บัดนี้เติบโตเต็มที่ พวกเจ้าย่อมแปลกใจก่อให้เกิดคำถามมากมาย
นางไม่หลงเหลือพลังเทพมหาธาตุอันใดอีกแล้ว กระนั้นพลังชีวิตก็คงแตกดับ
 หากข้าไม่ยื่นมือช่วยนาง อย่าได้งุนงงข้าต้องใช้ทิพย์เกสร
ในครรภ์นางก่อเกิดสิ่งมีชีวิตทารกบริสุทธิ์ 18 ทิวา จักต้องใช้เป็นเหยื่อล่อให้ตะขาบแก้วออกจากกายชลธาร
ทารกวุ้นโลหิตบริสุทธิ์คืออาหารโอชาที่ตะขาบถวิลหา หลังหลอมรวมกับก้อนวุ้นโลหิต
ข้าจักกลืนกินเก็บกักเทพมหาธาตุไว้กับตัว เพื่อดูดเอาจตุรเทพมหาธาตุในกายเจ้าต่อไป
เข้าใจแล้วหรือไม่ เหตุใดเจ้าถึงได้รับอนุญาตให้ย่างกรายกลับสู่เวฬุวรรณนครครั้งนี้
 เดิมทีข้าตั้งใจจัดการพวกเจ้าในค่ำคืนราตรีเฉลิมฉลองต้อนรับโอรสของหัสดินคืนมาตุภูมิ
เป็นเพราะพวกเจ้ารนหาที่ อวดดีบุกตำหนักเย็น ลักพาตัวขี้ข้าไร้นายมาเผยเอาความจริง
ถือเป็นการเร่งให้ข้าจัดการพวกเจ้าในตอนนี้ แม้นผิดเพลาก็หาใช่ปัญหาอันใดดอก
เพียงได้พลังมาครอบครองรวดเร็วขึ้น ย่อมเป็นผลดีเสียมากกว่า รู้แบบนี้เจ้าคงสำนึกแล้วสิ
 อย่าได้โอ้อวดโอหังต่อข้า เช่นนั้นจุดจบของพวกเจ้าคงไร้ดินกลบฝัง”
พระปิตุจฉาซึ่งผักตบแอบตั้งฉายาให้พระนาง ยัยแม่มด เฉลยผลงานตัวเองอย่างภาคภูมิพระทัย
เหมือนบอกเล่างานวิจัยที่น่าชื่นชม ต่อสาธารณะชนให้รับทราบโดยทั่วกัน
เพียงแต่ผลงานชิ้นนี้มันเป็นมนต์ดำปีศาจในขุมนรก ไม่ใช่วิถีของมนุษย์ทั่วไปจักยินยอมนำมาใช้

“กรี๊ดด!!” ตะขาบแก้วหลุดออกมาพาดลำตัวบนพระพักตร์งดงามไม่เหลือเค้าของวรกายซับโลหิตแต่อย่างใด
องค์หญิงทรงกรีดร้องดวงเนตรเรียวงามเบิกเพลิง แลดูเหมือนพลังชีวิตกำลังจะหยุดลงในอีกไม่ช้า

“อย่าฆ่าเธอ อย่าให้พี่ผมตาย ผมยอมแล้วป้า..ไว้ชีวิตเธอด้วย” ผักตบถึงกับร้องขอ
ให้พระปิตุจฉาช่วยเหลือชลธารพี่สาว น้ำตาอาบแก้มโดยไร้เสียงสะอื้น แต่ก็สุดทานทนสำหรับผู้ที่พบเห็นแล้ว
ใครที่คุ้นเคยรู้จักเขา ย่อมรู้ว่าชายหนุ่มรูปหล่อคนนี้จิตใจเข้มแข็งเด็ดเดี่ยวแค่ไหน
การยอมเผยให้เห็นถึงมุมอ่อนแอถึงขั้นร้องไห้ เป็นเรื่องเกินแบกรับของเขามากที่สุดในชีวิตเช่นกัน

“ข้าขอแลกชีวิตกับท่านแล้ว” พูดจบกลกะลาที่ไม่สามารถทำอะไรในทีแรก
เพราะห่วงความปลอดภัยของผักตบหากวู่วาม ถึงตอนนี้เขาทนต่อไปไม่ไหว
ทะยานร่างเข้าใส่พระปิตุจฉาด้วยความรวดเร็วว่องไว
แต่ต้องถอยร่นไม่เป็นท่า เมื่อนางกำนัล 4 ใน 8 พุ่งออกมาต้านรับเขาด้วยดาบวงเดือนชนิดเดียวกัน
แทบท่าการต่อสู้เหมือนฝึกปรือร่วมกัน เข้าขากันพร้อมเพรียง ประหนึ่งฝึกค่ายกลต้านรับกันมาโดยตรง
นั่นยังไม่เกินคาดหมาย หากพระปิตุจฉาจักมีองครักษ์พิทักษ์เป็นเหล่านางกำนัลพวกนี้
แต่ที่สร้างความกังขาให้กลกะลาหลุดเปรยออกมาระหว่างรับมือกินแรงพอสมควร
เพราะเขาต้องหลบหลีกคมอาวุธ ในขณะที่ตนเองมือเปล่าเสียด้วย

ต่อด้านล่าง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2014 23:23:27 โดย luxilove »

ออฟไลน์ luxilove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1042
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2415/-118
-  3  -




“ชนเผ่าแมงมุมดำ”
คำตอบที่ไม่ต้องรอตรวจข้อเท็จจริงเพื่อพิสูจน์ เพราะวิธีการต่อสู้และอาวุธ
ไม่ต่างสองนางกำนัลที่เขาเคยประฝีมือครั้งนั้น ซึ่งองค์ชายวายุภักษ์ทรงรักษาพระอาการพิษขององค์เหนือหัวอนิละ..

“สมเป็นองครักษ์เอกของไตรคาน สายตาหลักแหลมล่วงรู้เยี่ยงนี้ เจ้าคาดเดาไม่ผิด
องครักษ์ของข้าล้วนเป็นชนเผ่าแมงมุมดำ” พระปิตุจฉาเอื้อนพระดำรัสอย่างถือไพ่เหนือกว่า
ในสายพระเนตรพระนางแลเห็นเหยื่อตรงหน้าดุจกระต่ายไร้หนทางสู้ จนมุมหนีไปแล้วเรียบร้อย..

แหวนมรกตนิ้วนางข้างซ้ายผักตบ เปล่งแสงนวลเขียววูบวาบด้วยความไม่มั่นคงต่อภาวะจิตใจร้อนรน
เศร้าสลดผิดหวังของเขาที่พยายามดิ้นรนให้คืนพลังจตุรเทพมหาธาตุ..

“กรี๊ดด!!..” สุรเสียงของพระมเหสีร้องได้แค่นั้น ตะขาบแก้วลอยหวือไปเกาะติดยังพักตร์นวล
 แล้วกระดึ๊บคืบคลานเข้าทางพระโอษฐ์ โดยที่พระองค์ไม่สามารถดิ้นรนขืนหนีได้
พระวรกายเหมือนถูกสะกดตรึงแน่วนิ่งไม่ต่างผักตบและองค์หญิงชลธาร
เป็นผลจากกระยาหารพิเศษ ทรงได้รับพระราชทานมื้อเช้าเช่นเดียวกัน

“ป้าโหดร้ายเกินไปแล้ว นั่นสะใภ้ป้าแถมยังอุ้มหลาน ลูกชายป้าเหนือหัวธรณินจะเสียใจแค่ไหน
ถ้าป้าฆ่าเลือดเนื้อเชื้อไขเขา ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่าครับ!!” ผักตบเผลอตะโกนลั่น ด้วยทนสภาพที่เห็นไม่ไหว

“ฮะฮ่าๆๆ..ทุกสิ่งยอมต้องเสียสละ เพื่อให้ได้มาสิ่งที่คุ้มค่ายิ่งกว่า ธรณินย่อมต้องเข้าใจอภัยให้มารดา
ทารกอ่อนในครรภ์หากมิได้ธรณินหว่านเชื้อพันธุ์เอาไว้ ไหนเลยจักเป็นอาหารทรงคุณค่าในพิภพได้กันเล่า
ไหนเลยข้าผู้มารดาจักสัมฤทธิ์ผล ต่อการอดทนรอคอย 80 ปีเยี่ยงนี้หนอ”
คำตอบที่ได้รับฟังโดยปราศจากจิตสำนึกของคนพูด ทำเอาผักตบสมเพชเวทนาทุกคน
ที่ล้วนตกเป็นเครื่องมือให้หญิงชราบ้าอำนาจผู้นี้แล้วจริงๆ
ทางฝ่ายกลกะลาเริ่มเลือดโชกโดนไปหลายแผล ยังไม่สาหัสจนต้านต่อไม่ไหว
 เขาสามารถพลิกแพลงหลบหลีกเอาตัวรอดได้ สภาพการณ์โดยทั่วไปคงฝืนสู้ได้ไม่นาน
 เพราะอีกฝ่ายมีอาวุธทั้งยังกลุ้มรุม 4 นาง
ต่อให้องครักษ์หนุ่มเก่งกาจแค่ไหน ไม่สามารถทนทานสู้มือเปล่าได้ยาวนาน
ถึงขั้นพลิกกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบแน่ ทั้งยังมีเหลืออีก 4 นางที่ไม่ได้ลงมือร่วมด้วยช่วยกันรุมเขาเพิ่ม

“ขะ..ข้าขอโทษเจ้าด้วย..ผักตบอภัยให้ข้าด้วย” องค์หญิงชลธารพยายามเปล่งวาจาอย่างยากลำบาก
ส่งสายพระเนตรให้ผักตบที่ขยับไม่ได้ ขอโทษพระอนุชาที่พระองค์ชักนำมาพบจุดจบร่วมกัน
ฝ่ายนางกำนัลอาวุโสผู้กุมความลับทั้งสอง ยืนกอดกันร่ำไห้ตัวสั่น โดยไม่มีใครสนใจชายอัปลักษณ์ที่ยืนคุ้มกันผักตบ
ด้วยหน้าตาไม่ชวนมองเป็นทุนอยู่แล้ว ซ้ำตอนนี้ไม่มีใครคาดเดาท่าทางเขาออก
เล่นไม่กระดุกกระดิกไม่สนใจใครรอบข้าง แววตาก็มองไม่เห็นว่าเขาจ้องใครคิดอะไร
เหมือนยืนเป็นหุ่นประกอบเสียอย่างนั้น เหตุการณ์ฉุกละหุกวุ่นวาย จึงมีเพียงคนที่ได้รับผลโดยตรง
นับตั้งแต่ผักตบ องค์หญิง พระมเหสีและกลกะลาเท่านั้น

“อ๊อก!..อ๊ากกก!!..” พระมเหสีเนตรเหลือกถลน ก่อนพระโลหิตจะหลั่งจากโอษฐ์
สัตว์ประหลาดน่าขยะแขยงมุดหายเข้าไปในพระศอแล้ว
กำลังเข้าไปเกาะกินทารก ที่ยังเป็นวุ้นพระโลหิตในพระครรภ์

“กรี๊ซซซซ!!!” เสียงหวีดแหลม..ดังลอดจากพระศอของพระมเหสี กลับไม่ใช่เสียงพระนาง
เป็นเสียงแหลมสูงแสบแก้วหู ส่วนเจ้าของวรกายทรุดฮวบบรรทมหงายหลังลงกองที่พื้น พระเนตรเบิกโพลงสิ้นพระชนม์แล้ว

“ผักตบชายาข้าอ้าโอษฐ์เจ้า..เดี๋ยวนี้!” พระสุรเสียงทุ้มห้าวเต็มไปด้วยพลังอำนาจ ตรัสให้ได้ยินทั่วทั้งห้อง
บังเกิดเกราะเทพมหาธาตุซึ่งทรงอานุภาพแข็งแกร่ง เข้าห้อมล้อมร่างผักตบ องค์หญิงชลธาร และนางกำนัลพยานสำคัญ
บุคคลสุดท้ายคือกลกะลา ทำเอาสตรีเผ่าแมงมุมดำองครักษ์ของพระปิตุจฉา ต่างกระเด็นกระดอนกันไปคนละทิศละทาง

“องค์ชาย..เป็นคุณ” กลกะลาขานพร้อมทะยานร่างมาคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าชายอัปลักษณ์
 อย่างให้การคารวะสูงสุด ส่วนผักตบเสียงแผ่ว  เพราะเสียงที่คุ้นหูดังอยู่ข้างเขานี่เอง

“อย่าได้สงสัยอันใด เจ้ารีบอ้าโอษฐ์ให้กว้างเสียก่อนเถิด”
ผักตบไม่เข้าใจทำไมอีกฝ่ายสั่งเขาอ้าปาก ฉุกคิดคงกำลังจะใช้เทพจตุรธาตุถอนยาสั่งในร่างให้เขากระมัง
รีบอ้าปากกว้างตามรับสั่ง ก่อนเหลือกตาลนลานเพราะผิดจากที่คาดการณ์ไปคนละเรื่อง ชวนขวัญหนีดีฝ่อกันเลยทีเดียว

“อุ๊บ!..อืออ...มะ..ม่าย!!” เขาไม่สามารถขัดขืน ตะขาบแก้วตัวเดิม บัดนี้กลายร่างเป็นก้อนเลือดเท่าสองนิ้ว
มีรัศมีเปล่งประกายสีแดง ฟ้า น้ำตาลวูบวาบ หลุดหายเข้าไปในปากกลืนลงท้องเขาไปเรียบร้อย
มาพร้อมอาการร้อนปานกลืนลาวา จนปากคอเหมือนโดนลวกให้พุพองแล้ว ก่อนรู้สึกเย็นซ่านเหมือนก้อนน้ำแข็ง
แพร่กระจายให้ตับไตไส้พุงในท้องเขาแช่แข็งเรียบร้อยเช่นกัน เกิดขึ้นรวดเร็วมาก
 แค่กะพริบตาด้วยซ้ำเขาก็ขยับร่างได้เป็นปกติ เหมือนมีขุมพลังบางอย่างไหลเวียนไปทั่วร่างกาย

“เจ้า..เจ้าแย่งเทพมหาธาตุทารกพิสุทธิ์ของข้า รีรออันใดฆ่าพวกมันอย่าให้รอดชีวิต
ข้าจักดูดกลืนพลังชีวิตมันมาให้จงได้..ลงมือเดี๋ยวนี้!” พระสุรเสียงตวาดแวดดังก้องสั่นประสาทผู้คน
สีพระพักตร์บิดเบี้ยวน่ากลัวดุจนางแม่มดสมฉายาที่ผักตบตั้งให้ในใจ
ทรงชี้ดัชนีสั่งองครักษ์เผ่าแมงมุมดำทั้งแปด กลุ้มรุมจู่โจมเข้าใส่พวกผักตบโดยพร้อมเพรียง
พวกนางมีท่าร่างรวดเร็วว่องไว ผสมผสานกันอย่างลงตัวเหมือนฝึกมาเพื่อการนี้
เกิดเป็นตาข่ายคมอาวุธมีรังสีบาดลึกดูน่าสะพรึงกลัวสุดๆ เสียงแหวกอากาศของคมเดือน
มุ่งเข้าสังหารพวกผักตบ ฟังดูเสียดสีเสียดแทงไปทุกรูขุมขน

“กรี๊ด!!..โอย!..ว๊ายยย!!” เสียงหวีดร้องพร้อมกับการกระเด็นของร่างอรชรคนละทิศละทาง
บางนางเลือดกระอักมุมปาก สภาพเหมือนนกปีกหัก อาวุธในมือหล่นไม่เป็นกระบวน ปะทะเกราะมหาธาตุเข้าอย่างจัง

“วายุทำลายสิ้น” พระดำรัสทุ้ม บัญชาสายลมอย่างทรงอำนาจ ก่อนพายุหมุนของมวลอากาศจะก่อตัวโดยพลัน
เล่นเอาอาภรณ์และผู้คนในบริเวณ ยกเว้นพวกผักตบที่อยู่ในเกราะเทพมหาธาตุ จึงไม่โดนหางเลข
ต่างยื้อต้านกระแสลมหมุน ที่กำลังดูดกลืนพวกเขาให้เข้าสู่กงล้อของพายุ
ซึ่งก่อตัวจนข้าวของกระจัดกระจายไม่เหลือสภาพเดิม

“ธรณีฟังข้า ภูผาจงต้านทานในบัดดล” สิ้นพระสุรเสียง แผ่นพื้นปูนกระเบื้องหินอ่อนอย่างหนา
ก็ลอยตัวกลายเป็นกำแพงมหึมา กำบังทางฝั่งของพระปิตุจฉาพร้อมบริวาร เอาไว้ได้ทันท่วงทีชนิดเฉียดฉิวทีเดียว
พร้อมการปรากฎวรองค์ของเหนือหัวธรณิน และพระปิตุลาซึ่งยกขบวนตามติดเข้ามา มีเหล่าองครักษ์ฝีมือดีกว่าครึ่งร้อย

“หยุดความโอหังของเจ้าเดี๋ยวนี้..วายุภักษ์”
สิ้นดำรัส องค์ชายในร่างพยัพนนท์คนอัปลักษณ์ ทรงยุติการใช้วายุพิโรธของพระองค์ลงทันที
ความสงบของมวลอากาศคืนสู่ปกติ ที่ไม่ปกติคือสภาพแวดล้อมเหมือนสมรภูมิรบไปแล้ว
เพราะไม่เหลือสภาพการตกแต่งของพระตำหนักนอกจากข้าวของแตกกระจายตกเกลื่อนพื้น
ส่วนผนังศิลาที่ถูกพลังของมหาธาตุธรณีขององค์เหนือหัวธรณินเนรมิตขึ้น
ก็ร่วงตกสู่พื้นเช่นเดียวกัน เมื่อพระองค์ยุติการใช้พลังตามองค์ชายวายุภักษ์ไปด้วย

“เจ้าใยปลอมแปลงโฉม ดุจโจรถ่อยบุกรุกวังหลวงของข้าเยี่ยงนี้ หรือวายุภักษ์ผู้กล้าหาญ
กลับกลายเป็นบุรุษขี้ขลาดไม่กล้าเผชิญหน้าผู้คนอย่างเปิดเผยไปเสียแล้ว
เหตุใดลงมือทำร้ายเสด็จแม่ข้ากับพระมเหสี
ถึงขั้นทำนางสิ้นพระชนม์ เจ้าอุกอาจเหิมเกริมไม่เห็นหัวผู้ใด
ถือดีมีจตุรเทพมหาธาตุครอบครองเยี่ยงนั้นหรือ ข้าใคร่รอดูว่าเจ้าจักสามารถเล็ดลอดมีชีวิตกลับสู่ไตรคานได้เยี่ยงไร
เมื่อคิดคดสกปรกเริ่มเปิดศึกก่อน ผิดสัตย์ที่ได้ตกลงกันแต่หนนั้น ข้าจักไม่เกรงใจเจ้าเช่นกัน
เสด็จพ่ออย่าได้เวทนาจงใช้เวทย์มนต์พิษร้าย จัดการวายุภักษ์ไปเสียเถิด
ข้าจักรับมือเกราะมหาธาตุของเขาให้ท่านเอง” พระดำรัสพรั่งพรูทิ้งช่วง
โดยมิทรงเปิดโอกาสให้ผู้ใดได้อธิบาย สายพระเนตรคมเข้มทอดสบดวงตาดำสนิทของกลกะลาอย่างทอประกายผิดหวัง

“ท่านช่างไร้เหตุผลยิ่งนัก ใยมิถามความให้ถ่องแท้กลับด่วนสรุป 
สมควรแล้วหรือเป็นถึงกษัตริย์ปกครองบ้านเมือง..กลับกระทำเยี่ยงนี้แล้ว”
กลกะลาทนไม่ไหวจึงไม่คิดรักษามารยาท ตำหนิเหนือหัวธรณินซึ่งหน้า

“จะ..เจ้า..เชลยคิดคดทรยศไม่รักดีเยี่ยงเจ้า มีสิทธิ์เอ่ยวาจาอันใด
หากเจ้าไม่ใช้แผนชั่วร้าย จนข้าหลงกลไม่ระวัง ปล่อยให้เจ้าลักลอบออกมาร่วมมือกับนายเจ้าเยี่ยงนี้
ทำให้พระมเหสีสิ้นพระชนม์ สมควรรับโทษสถานหนักด้วยเช่นกัน
ยังกล้าโอหังหมิ่นเกียรติข้า เกรงว่าไม่รักชีวิตเสียแล้วกระมัง”

“ผู้ใดจักไม่รักชีวิต เพียงความถูกต้องอยู่เหนือสิ่งอื่นใด
แม้นสิ่งที่ข้าทำจำใจต้องสละชีพจักไม่เสียดายอันใดเลย เป็นเพราะท่านโง่เขลานัก
ยินยอมให้พระมารดาล่อลวงเยี่ยงนี้ ท่านเบิกเนตรดูหรือยัง ใคร่ครวญหรือไม่ผู้ใดเป็นผู้กระทำ
ให้พระมเหสีสิ้นพระชนม์ ผู้ใดวางกลอุบายชั่วร้ายอย่าได้เที่ยวป้ายความผิดให้ผู้อื่น
 แม้นพวกท่านยังมิใช่ตัวดีให้ผู้คนเคารพ ก็จงอย่าคิดโยนความชั่วไกลห่างตัว
 รับความดีความชอบโดยมิรู้สึกละอาย สิ่งสำคัญท่านเป็นผู้เริ่มต้นก้าวร้าวองค์ชายข้าก่อน
ในฐานะองครักษ์ข้ามิสมควรปกป้องเช่นนั้นหรือ”
กลายเป็นกลกะลาออกหน้าโต้ตอบวาจาเหนือหัวธรณินไม่ลดละ แม้นเขาจะหักล้างได้อย่างน่ายกย่อง
แต่ก็สร้างความประหลาดใจให้ผักตบและองค์ชายวายุภักษ์พระสวามีไม่น้อย
พระองค์ถือโอกาสนี้ใช้พระหัตถ์ป้ายครีมบางอย่างบนพระพักตร์
คืนกลับรูปโฉมหล่อเหลาไม่อำพรางองค์อีกต่อไป เพื่อมิให้เหนือหัวธรณินทรงยกอ้างดูแคลนได้

“เจ้าพี่..พระมารดาเจ้าพี่เสียแล้ว ทรงสังหารพระมเหสี” องค์หญิงชลธารยังพอมีพระกำลังอยู่บ้าง
ขยับพระโอษฐ์เปล่งสุรเสียงอย่างลำบาก เพื่อบอกข้อเท็จจริงต่อเหนือหัวธรณินให้ทรงทราบ

“เสด็จแม่..สิ่งที่พวกเขากล่าวล้วนเป็นจริง” พระองค์ทรงผินพักตร์ไปตรัสถามพระปิตุจฉา

“ต่อให้ข้ากระทำจริง เจ้าจักเข้าข้างพวกมันเยี่ยงนั้นหรือ” พระองค์กลับทรงย้อนถามพระโอรสคืน

“เพราะเหตุใด ท่านทำไปเพราะเหตุอันใด”
จังหวะสองแม่ลูกกำลังถกเถียงถามไถ่จุดประสงค์กันนั้น ผักตบรีบเข้าดูอาการองค์หญิงชลธาร
แต่พระสวามีทรงชิงตรวจจับชีพจรองค์หญิงเสียเอง
พระโขนงมุ่นพักตร์คมคายเครียดขึง กำลังใช้ความคิดหนักพอสมควร

“ข้าจำต้องรักษาชีวิตนาง ต้องใช้เทพมหาธาตุคืนพลังชีวิตให้นาง หากชักช้าเกรงจักไม่ทันการ
กระนั้นนางก็มิหลงเหลือพลังเทพมหาธาตุในกายอีกต่อไป เพียงเป็นบุคคลธรรมดาทั่วไปเสียแล้ว”
ดำรัสขององค์ยุพราชพระสวามี ไม่มีเวลาที่จะให้ผักตบไต่ถามหาความอะไรได้ เขาห่วงพี่สาว..

“รีบช่วยพี่ผมก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง” เพียงเท่านั้นองค์ชายก็ไม่ทรงลังเล
ที่จะใช้พลังของพระองค์รักษาชีวิตองค์หญิงชลธาร แต่ผักตบไม่รู้ว่าการใช้จตุรเทพมหาธาตุ
ดึงชีวิตคนจากอุ้งหัตถ์มัจจุราช สูญเสียพลังไปมากแค่ไหน เพราะองค์ชายมิทรงเปิดเผยความจริงในข้อนี้
กระทั่งเกราะเทพมหาธาตุที่คุ้มครองพวกเขา พลอยสูญสลายไปในพริบตา
พร้อมไรพระเกศาผุดหยาดเหงื่อ ทรงอิดโรยกว่าที่เขาคิดไว้แล้ว

“คุณใช้พลังมากขนาดนี้เชียวเหรอ”  ผลลัพธ์คุ้มค่า องค์หญิงทรงสามารถหายเป็นปกติ
ถึงขั้นลุกประทับยืนได้แล้ว พระพักตร์นวลเปล่งปลั่งงดงามดังเดิม เหมือนมิเคยทรงได้รับบาดเจ็บอันใดมาก่อน

“ข้าไม่สามารถใช้พลังได้อีกแล้ว” เล่นเอาผักตบใจหายวูบ

“ยุ่งละสิ” เขาเปรยได้เพียงแค่นั้น

“แต่เจ้ากลับสามารถ กระนั้นคงไม่มาก มีความรับผิดชอบยิ่งใหญ่
 ที่เจ้าต้องใช้พลังดูแลดียิ่ง โอรสของข้าและอีกหนึ่งชีวิตในครรภ์เจ้า” ผักตบอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินสดๆ ร้อนๆ

“หา..หมายความว่า..ผมอุ้มท้องอยู่สองคน” คำตอบคือการพยักพักตร์ไม่มีการปฏิเสธ
ก่อนรับสั่งเฉลย ปล่อยพระปิตุจฉากับโอรสถกเถียงภายใต้การสอดแทรกของพระปิตุลาห้ามปรามเป็นระยะ
จนลืมพวกเขาไปชั่วขณะด้วยมั่นพระทัยว่าดุจลูกไก่ในอุ้งหัตถ์ พอมีเวลาให้สองสามีภรรยาได้คุยกันในจังหวะนี้แล้ว

“ที่ข้าไม่ยื่นมือช่วยแต่แรก เพราะกำหนดสมาธิให้เกิดฌาณไปสนทนากับพระอาจารย์แล้ว
จึงได้รู้ว่าตะขาบแก้วคือสัตว์ร้อยปีจักมีสักตัว แต่กลับเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่ดูดกลืนเทพมหาธาตุไว้ได้
ใช้เวลาเติบใหญ่ในร่างของผู้ถือครองแล้ว ตามตำราบ่งบอกว่าหากให้สัตว์ชนิดนี้ออกจากร่างผู้ถือครอง
ต้องใช้ทารกวัยเยาว์ซึ่งกำลังเจริญพันธุ์ในครรภ์มารดาเป็นเหยื่อล่อ
 กรณีของพระมเหสีนางกลับอุ้มครรภ์โอรสของธรณิน มีพลังเทพมหาธาตุธรณีปน
ทำให้ตะขาบแก้วที่ดูดกลืนเทพมหาธาตุของพี่นางเจ้า เกิดหลอมรวมเข้ากับทารกน้อยนั้น
จนมันกลายเป็นผู้ถูกกลืนกินด้วยพลังสามชนิดเสียเอง
ปกติตะขาบแก้วมิสามารถดูดซับพลังเทพมหาธาตุ เกินสองชนิด
 หากเกินกว่านั้นมันจะเป็นฝ่ายถูกพลังดูดกลืนตัวมันเอง นี่คือเหตุผลที่พระปิตุจฉาทรงพลาดไปแล้ว
เพราะไม่ล่วงรู้ว่าทารกในครรภ์มเหสีกลับมีพลังเทพมหาธาตุแฝงอยู่
กระนั้นทารกจักมีชีวิตต่อไม่ได้ ต้องได้รับการฟูมฟักในครรภ์ดุจทารกปกติทั่วไป
แต่พระมเหสีทรงสิ้นพระชนม์เสียก่อน ด้วยนางเป็นปุถุชนคนธรรมดา
หาได้สามารถต้านพลังพิเศษจากภายนอกสู่วรกายได้ จึงเป็นเรื่องสลดเยี่ยงนี้
พระอาจารย์ให้ข้าชักนำทารกนั้น ด้วยการใช้โอรสของข้าเป็นตัวหลอกล่อ
โดยส่งพลังเทพมหาธาตุดึงดูดมาสู่กายเจ้า เพื่อช่วยรักษาชีวิตทารกและพลังทั้งหมดก่อนจะสูญสิ้นไปเสีย
นั้นมิสำคัญอันใดเท่าการทำเยี่ยงนี้ จักแก้ไขยาสั่งซึ่งกำกับด้วยมนต์ดำชั่วร้าย
แม้แต่แหวนมรกตก็มีอาจต้านทาน เป็นเพราะใส่ไว้ในพระกระยาหารให้เจ้าเสวยเข้าสู่ร่าง
หาใช่เป็นมนต์ที่มาจากภายนอกทั่วไป ซ้ำยังมีผลควบคุมลมปราณในโลหิต
ทำให้ข้าไม่สามารถสุ่มเสี่ยงช่วยเจ้าด้วยพลังตนเอง ขืนทำเยี่ยงนี้เราทั้งคู่จักไม่เหลือผู้ใดไว้คุ้มครองอีก
ย่อมสิ้นทางหนีกลับสู่ไตรคานเสียแล้ว ข้าจึงเลือกวิธีของพระอาจารย์ให้เจ้ารับทารกฟูมฟักในครรภ์เพิ่มอีกหนึ่ง
ซ้ำยังขับพิษยาสั่งและพลังมนต์ดำชั่วร้ายได้ผล ตอนนี้เจ้าสามารถใช้เทพจตุรธาตุไม่เป็นปัญหา
 กระนั้นก็อย่าได้ใช้จนหมดสิ้นกำลังเยี่ยงข้า เพราะชีวิตในครรภ์เจ้ายังต้องได้รับพลังมหาธาตุ
ฟูมฟักดูแล..เข้าใจหรือไม่..ชายาของข้า” พระสุรเสียงทุ้มหวานประโยคท้าย
ประหนึ่งพระองค์ทรงวางภาระยิ่งใหญ่ ไว้ในอุ้งมือของผักตบ เล่นเอาหนุ่มไฮเทคสุดหล่อ
หัวใจพองโตคับแน่น มีพลังฮึกเหิมเพิ่มขึ้นเป็นกองเลยทีเดียว เขามุ่งมั่นที่จะพาทุกคนหนีรอดปลอดภัยในทันที

“เข้าใจแล้ว..ถ้าอย่างนั้นเรารีบไปกันเถอะ ขืนชักช้าจะเสียเปรียบ”
ผักตบบอกพระสวามี องค์ชายพยักพระพักตร์รับคำ ค่อยทรงวรกายมั่นคงอย่างไม่แสดงพระอาการให้จับพิรุธ
ว่าพระองค์หาได้หลงเหลือพลังจตุรเทพมหาธาตุใช้ต่อกรได้อีกแล้ว นอกจากพลังฝีมือการทักษะต่อสู้ล้วนๆ

“กลกะลา..อารักขาความปลอดภัยให้ชายาข้า..ด้วยชีวิตของเจ้า” พระองค์มิทรงลืมกำชับองครักษ์หนุ่มให้รับปาก

“ข้าพระองค์รับด้วยเกล้า จักถวายชีวิตเพื่อพระชายา..พะยะค่ะ” พอได้สดับฟังคำยืนยันขององครักษ์หนุ่ม
องค์ชายเตรียมพาทั้งหมด 6 ชีวิตหนีออกไปจากเวฬุวรรณนคร หวังเพียงผักตบจะสามารถนำทุกคน
ออกไปอย่างปลอดภัยได้แล้ว..แม้ต้องฟันฝ่าอุปสรรค ต่อสู้ก็มิคิดขลาดเขลากลัวตายเป็นอันขาด..


มาอัพตามนัดแล้วนะคะ  เจอกันอีกทีวันเสาร์นี้นะคะ
มาลุ้นกันต่อ ผักตบจะรอดออกไปยังไง มารร้ายจะมีจุดจบแบบไหน
ขอบคุณทุกกำลังใจที่ติดตามกันมาตลอดนะคะ

ปล.ใครที่โอนเงินจองแล้ว ยังไม่แจ้งโอนหรือแจ้งชื่อที่อยู่ รบกวนแจ้งด้วยค่ะ
คนเขียนไม่อยากเก็บตังค์ไว้ในบัญชี โดยไม่ได้ส่งหนังสือให้นะคะ มันไม่สบายใจอ่ะ :ling1: :ling1:
ตอนนี้มียอดค้างอยู่ที่ไม่แจ้งโอนเยอะพอสมควร รบกวนแจ้งกันด้วยค่ะ :กอด1: :เฮ้อ: :L1:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2014 23:25:37 โดย luxilove »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aoihimeko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +155/-9
ขอ  :z13: ก่อน

**********************************

มาแล้วๆๆๆ โหย ตอนนี้มันลุ้นสุดๆไปเลยอ่ะ

ด้วยเหตุนี้สินะโอสรน้อยของเราเลยได้คู่เฉยเลย อิอิ

รอตอนหน้าจ๊ะคงลุ้นมากแน่ๆเลย


ปล.ถ้าจะจองไว้แล้วโอนสิ้นเดือนนี้มันจะทันไหมอ่ะคะ :mew5:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 26-02-2014 12:53:54 โดย aoihimeko »

ออฟไลน์ took-ta_naka

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 604
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +216/-10
 :katai1:  อยากอ่านต่อแล้วค่ะ


+1  ให้  รอวันเสาร์จ้า

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
 :katai1:อาการเมื่ออ่านตอนนี้จบ

ออฟไลน์ route rover

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +221/-7
อ่านเหนื่อย เหมือนอยุ่ในเหตุการณ์ด้วย  :mew4: รอลุ้นต่อค่ะ

ออฟไลน์ zatamare

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 808
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-1
ลุ้นได้ อีก ยิ่งพอเวลาอ่านแล้วมันเริ่มเป็นไปตามที่คิดนี่ยิ่งลุ้นเลย   


สั่งหนังสือไปแล้ว และก็ได้หนังสือตอบกลับจากญี่ปุ่นมาแล้ว ปลายเดือนมีนาหรือต้นเดือนเมษา คงต้องเดินทาง  จะมีคนอยู่บ้านรับหนังสือไหมน้อ

nemesis

  • บุคคลทั่วไป
รอวันเสาอย่างตื่นเต้น

ออฟไลน์ noy

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1212
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +189/-9
ลุ้นจนเหนื่อย อยากรู้องค์ชายจะกลับมามีพลังเหมือนเดิมมั้ย จะรอดออกมาหมดมั้ย รอวันเสาร์ค่ะ :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ nolirin

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2755
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +274/-5
บอกได้อย่างเดียวว่า "ลุ้นนนนนนกันตัวโก่ง"  o13

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
 :katai1: :katai1: ลุ้นจนตัวบิด

คำพูดแต่ละคำที่ป้ามหาภัยพูด แหม่ น่าเอาสบู่ล้างปาก

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ตื่นเต้นๆ  :katai4: :katai4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
ธรณิณยังจะเข้าข้างคนผิดอีกหรือ

ออฟไลน์ KhunToOk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 304
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-4
 :hao7: :hao7:  รอวันเสาร์จ้า  ลุ้นจริงงงงง   :katai1:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

ออฟไลน์ loveview

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1912
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +87/-10
ลุ้นยิ่งกว่าเก่าเสียอีก อย่าให้มีใครตายเล้ย  แอบตะหงิดๆว่าคนเลี้ยงม้าที่ตามมาด้วยเหมือนแปลกๆ

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
คุ้มแหะ ผักตบยังไม่ได้ทำอะไรก็ได้ลูกเพิ่มมาอีกคน o13

รอตอนต่อไปค่ะ :กอด1:

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
ตื่นเต้นอ้ะ จะถึงฉากสู้กันแล้วววว
ขอให้ปลอดภัยทุกคนเลยน้า

ออฟไลน์ Appman

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 195
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-3
อ่านไปตื่นเต้นไป ลุ้นจนตัวโก่งที่เดียว  +1ให้นะจ๊ะ :กอด1:

ออฟไลน์ Crown

  • "รัก" ก็คือ "รัก"
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 103
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ลุ้นๆ ผักตบมีลูกเพิ่มอีกหนึ่ง คึคึ รอๆๆๆๆๆ :impress2: :impress2: :impress2:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ขอให้ผักตบพาทุกคนหนีรอดไปได้เถอะ

ออฟไลน์ ||toxic-love||

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-1
อ๊ากกกกกกกกกกก !!
มันส์จับใจจจจจจ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด