US ≡ เรื่องรัก ♥ ระหว่างเรา [อัพเดทข่าวและตอบเม้นค่ะ]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: US ≡ เรื่องรัก ♥ ระหว่างเรา [อัพเดทข่าวและตอบเม้นค่ะ]  (อ่าน 55264 ครั้ง)

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-08-2014 11:30:58 โดย บีบีจัง »


บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Chapter : 1 [PROLOGUE]
«ตอบ #2 เมื่อ28-11-2013 16:18:58 »

Chapter : 1 [PROLOGUE]


สวัสดีครับ ผมชื่อนิล เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชานเมืองชั้นปี 2 คณะสถาปัตย์ฯ ตอนนี้ยังไม่มีแฟน แต่แอบปลื้มแฟนเพื่อนสนิทอยู่ครับ ทำไงได้ล่ะ ก็พี่เขาทั้งหล่อ ทั้งเท่ ตัวก็สูง นิสัยดี แถมรสนิยมยังคล้ายผมอีกต่างหาก อ๋อ คุณฟังไม่ผิดหรอกครับ ผมบอกว่าพี่เขา ‘หล่อ’ จริงๆครับ

“นิล เลิกมองแฟนเราได้แล้ว” มือเล็กๆขาวๆยื่นมาปิดตาสองข้างของผมจนมิด พร้อมกับเสียงหวานใสออกแนวจิกกัดกำลังแขวะผม

“ทุกทีเลย เจอพี่เลทีไรเก็บอาหารไม่เคยอยู่” ผมแกะมือนุ่มนิ่มออกได้สำเร็จแล้วครับ ก็เลยได้เห็นหน้าตางั้นๆของ ‘ฟ้าคราม’ กำลังหักเป็นจวักตักข้าว เอ่อ... โอเค ผมจะไม่พูดบิดเบือนก็ได้ ความจริงคือยัยฟ้าครามเนี่ย ไม่ได้หน้าตางั้นๆหรอกครับ แต่นางน่ารักมากกกกกกกกกกก (จริงๆผมอยากจะลาก ก ไก่ ยาวจนหมดหน้าเอสี่ แต่เกรงว่าคุณผู้อ่านจะเอาเมาส์เขวี้ยงหัวผมเสียก่อนน่ะครับ) ฟ้าครามเป็นเดือน ส่วนผมเป็นดาว เอ๊ย ฟ้าครามเป็นดาว ส่วนผมเป็นเดือน หน้าตาน่ารักหวานแหววของยัยฟ้าครามถอดแบบมาจากนางเอกในการ์ตูนญี่ปุ่นเด๊ะๆ ผมยาวเป็นเงาสีดำขลับ ดวงตากลมบ๊อกสีเทาอ่อน (นางเป็นลูกผสมครับ) ปากนิดจมูกโด่ง ผิวขาวจั๊วะ ก็เลยมักจะถูกรุ่นพี่ รุ่นเพื่อน รุ่นน้องจีบเสมอ แต่ก็ได้ไอ้นิลรูปหล่ออย่างผมนี่แหละครับที่เป็นไม้กันหมาให้ แต่ตอนนี้ไม้กันหมาอย่างผม อยากจะเป็น ‘หมา’ เสียเองแล้วละ

“’อาการ’ ค่ะน้องฟ้า ไม่ใช่ ‘อาหาร’” พี่เล ที่ย่อมาจากทะเล ยิ้มให้ฟ้าครามแบบโคตรจะอ่อนโยน ในที่สุดผมก็ได้เห็นอาการที่ในนิยายรักบอกว่า ‘ดวงตาอันอ่อนโยน’ มันเป็นยังไงก็ตอนที่ได้พบกับพี่เลเนี่ยแหละ เวลาพี่เขามองยัยฟ้านะครับ เหมือนกับว่ายัยฟ้าเป็นโลกทั้งใบของเขา (สาบานเลยว่าผมไม่ได้พูดเกินไป)

“ผิดนิดผิดหน่อยไม่เป็นไรหรอกค่ะ เนอะนิล”

“ผิดนิดหน่อยของเธอน่ะมันคนละความหมายเลยนะฟ้า” พอผมแย้งปุ๊บก็ถูกมือเล็กๆนั่นตีเพี๊ยะเข้าที่ต้นแขน

“แหน่ะ มือก็เล็กยังจะกล้ามาประทุษร้ายคนอื่นเขาอีก เก่งนักหรือเรา” ผมหยิกแก้มเนียนด้วยความหมั่นเขี้ยวและลืมตัว จนกระทั่งเห็นสายตาอาฆาตมาดร้ายของพี่เลนั่นละครับ

“แฟนพี่ครับ”

“หมายถึงผมเหรอครับ” เนียนครับเนียน

“หมายถึงเราเหอะนิล”

“เมื่อไรพี่เลจะมองนิลบ้างละครับ นี่นิลก็รอมาตั้งนานแล้ว”

“พี่ชอบผู้หญิงครับ” พี่เลยิ้มเย็นตามแบบฉบับคนหล่อสุขุมนุ่มลึก ถ้าคนอื่นมาเห็นคงขนตูดลุก แต่สำหรับผมพี่เลจะทำหน้าโหดปานใดก็หล่อที่สุดในสามโลก

“พี่เลรักเราคนเดียว เนอะพี่เลเนอะ” ยัยฟ้าครามแลบลิ้นใส่ผมและหันไปเกาะแขนออเซาะพี่เล แถมพี่เลยังลูบหัวมันด้วยความเอ็นดูผิดจากผมที่มองด้วยความหมั่นไส้ โอเคครับ วันนี้ผมยอมแพ้

“เซ็ง กลับบ้านเถอะ จีบผู้ชายไม่ติด” ผมคว้ากระเป๋าและล้วงกุญแจพี่มะลิของผมออกมา

“โธ่ จะรีบกลับไปไหน อุตส่าห์มาติวให้เรานี่นา”

“ไปให้คุณสถาปนิกรูปหล่อติวให้เถอะ เพื่อนเกย์ๆอย่างเรามันหมดประโยชน์แล้ว” ผมเดินหันหลังจากมาโดยไม่สนใจกับเสียงหัวเราะคิกคักและคำบอกลาที่ตะโกนตามมาจากข้างหลัง (แต่ผมไม่ลืมสวัสดีคุณพ่อคุณแม่ของยัยฟ้าหรอกนะครับ)

“ขับรถดีๆน้า จะมืดแล้ว เราเป็นห่วง” ครับ ที่จริงคือมันเย็นมากแล้ว และผมไม่สามารถขับรถดึกๆได้เพราะสายตาผมสั้น ยิ่งมืดยิ่งมองไม่เห็นประมาณนั้น

ผมเดินมาถึงโรงรถบ้านฟ้าครามตรงที่พี่มะลิของผมจอดอยู่ เหลือบไปมองมอนสเตอร์ 796 เทียบกับพี่มะลิด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ รุ่นเล็กอย่างผมมีปัญญาขับแค่เวสป้าเท่านั้นละครับ

หือ? ทำไมผมถึงเรียกเวสป้าของผมวีพี่มะลิงั้นเหรอ? คุณก็ดูสิครับ พี่มะลิของผมขาวนวลขนาดนี้ แถมเวลาขี่ยังนุ่มซะไม่มี เสียงท่อน่ะหรือ ฟังดูนุ่มนวลไม่บาดหู พี่มะลิของผมออกจะเป็นสาวหวานขาวจั๊วะขนาดนี้ก็ต้องเป็นผู้หญิงสิคร้าบบบบบบ

ผมกระทืบรถเพียงทีเดียวก็พาตัวเองและพี่มะลิออกมาถึงถนนใหญ่ โบกมือบ๊ายบายพี่ยามที่บ้านยัยคุณหนูฟ้าหนึ่งทีพอเป็นพิธี เย็นๆแบบนี้รถเยอะดีนัก แต่สำหรับคนขับมอเตอร์ไซค์นั่นไม่ใช่ปัญหา อย่างๆน้อยก็ร่นระยะเวลาได้มากกว่าคนขับรถยนต์นั่นแหละครับ

ลมเย็นของค่ำคืนฤดูหนาวปะทะหน้าผมจนชา ถึงแม้กรุงเทพจะมีหน้าหนาวเพียงสามวันในหนึ่งปี แต่แถบชานเมืองแถวนี้กลับมีความหนาวเย็นที่ยาวนานกว่าใจกลางเมืองนิดหนึ่ง ถึงแม้จะไม่หนาวเหมือนบ้านนอกของผม แต่มันก็เย็นๆพอให้ครึ้มอกครึ้มใจมากกว่าหน้าร้อนแหละ

ฝ่าความหนาวเพียงสิบกว่านาทีผมก็ถึงคอนโดของตัวเอง คอนโดสร้างใหม่ที่อยู่ไกลจากบริเวณในมหาลัยฯพอสมควรเป็นตัวเลือกที่โคตรจะเพอร์เฟ็คท์ เพราะสำหรับผมแล้ว การพักใกล้มหาลัยฯถือเป็นหายนะอันใหญ่หลวง ในเมื่อยามค่ำคืนที่เราควรจะได้พักผ่อนมันกลับมีเสียงดนตรีจากร้านเหล้าที่ตั้งเรียงรายกันเกือบสิบร้าน เสียงนักร้องแหกปากร้องเพลงเพราะมั่งไม่เพราะมั่งทำเอาหลับไม่ลง กว่าจะเงียบก็ปาเข้าไปตีสอง ถ้าต้องอยู่กับสภาพแบบนั้นทุกคนวันผมคงกลายเป็นซอมบี้แน่นอน

ผมยังคงสงสัยเหมือนปีแรกที่เข้ามาเรียนว่าทำไมถึงมีการสร้างสถานบันเทิงได้ในบริเวณมหาลัยฯ มันไม่ผิดกฎหมายหรอกหรือ? อยากจะหาข้อเท็จจริงจากเรื่องนี้แต่ก็ไม่รู้จะไปถามใคร ในเมื่อประชาชนตัวน้อยๆตาดำๆอย่างเราไม่สามารถทำอะไรได้ก็สู้ถอยห่างออกมาเสียดีกว่าว่ามั้ย

ติ๊ง ติ๊ง

ผมควักไอโฟนออกมาจากกระเป๋ากางเกง ใบหน้ายิ้มแป้นแร้นพร้อมกับแสดงข้อความบนหน้าจอ

     ◥SkyHigh◤ - ถึงคอนโดรึยางงงงง~

ผมยิ้มให้กับความใส่ใจของฟ้าครามที่ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ก่อนจะพิมพ์กลับไปอย่างไว
     
     MINA - พึ่งถึง
     MINA - กำลังจะไขกุญแจห้อง

ไม่ต้องประหลาดใจนะครับ MINA คือชื่อผมเอง ผมชื่อจริงชื่อนายมีนา ไม่ใช่มีนา จากเดือนมีนาคม แต่เป็น MINA จากภาษาไอริช ที่แปลว่า ‘นุ่มนวล’ ครับ เป็นไงละ แม่ผมตั้งชื่อไฮโซใช่ม้า

     ◥SkyHigh◤ - เคเค พรุ่งนี้เจอกันโรงอาหารเวลาเดิมน้า
     MINA - OK

พอพิมพ์เสร็จก็เก็บโทรศัพท์ และไขกุญแจเข้าห้อง พอผมกดเปิดไฟตรงประตูก็ได้ยินเสียงร้องเมี้ยวขึ้นทันที ริชชี่กระโดดเกาะเข้าที่หน้าแข้งผมพอเหมาะพอดี โชคดีว่าวันนี้ผมใส่กางเกงยีนส์นะครับ ไม่อย่างนั้นละคุณเอ๋ย...
“ไอ้ริชชี่ พี่นิลบอกกี่ครั้งแล้วว่าห้ามตะปบขา หืม? จำได้มั้ย” ผมก้มลงอุ้มแมวเหมียวสายพันธุ์อเมริกันช็อตแฮร์ขึ้นมาสบสายตา ดวงตากลมโตจ้องเป๋งแล้วร้องเหมียวหนึ่งที เป็นอันว่าไม่เข้าใจ เพราะถ้าเข้าใจต้องร้องเหมียวๆสองที
“งดข้าวเสียดีมั้ย?”
“เมี้ยววววววว” คราวนี้ร้องยาวกว่าเดิมครับ แปลว่าไม่พอใจ
สุดท้ายทาสแมวอย่างผมก็ต้องเดินไปเทอาหารลงชามกระเบื้องที่มีลายแมวอยู่ตรงก้นชามจนเต็ม และไม่ลืมเปลี่ยนน้ำให้ด้วย จากนั้นก็ไปตักอึออกจากส้วมแมว และเก็บกวาดขนแมวออกจากพื้นห้อง พอไอ้ริชชี่มันกินเสร็จก็กระโจนขึ้นไปนั่งแต้อยู่บนคอนโดแมวสูงสองเมตรที่ผมประดิษฐ์ให้มันเองอย่างสง่างาม และทอดสายตาเหยียดหยามลงมามองผมซึ่งเป็นคนหาข้าวให้มันกินจากข้างบน

ผมรู้สึกเหมือนมันจะสื่อว่า ‘แล้วของหวานล่ะนิล ฉันรอของหวานอยู่นะ’ ครับ แล้วก็ตามนั้น ผมหยิบซองซิปล็อคที่ข้างในเป็นปูอัดอลาสก้าอย่างดีมายื่นให้มันหนึ่งชิ้น ไอ้ริชชี่งับไปอย่างรวดเร็วแล้วก็สะบัดตูดเดินไปโดยไม่หันมาสนใจผมอีกเลย

คืนนั้นก่อนผมจะเข้านอนก็ไม่ลืมสไกป์ไปกู๊ดไนท์แม่ที่อังกฤษ และหลับไปโดยมีแมวนอนอยู่บนหัว

อาห์ ทาสแมวจงเจริญ

[ต่อข้างล่างค่ะ]


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-01-2014 12:46:45 โดย บีบีจัง »

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Chapter : 1 [PROLOGUE] [ต่อ] **Re Write
«ตอบ #3 เมื่อ28-11-2013 16:23:00 »

^
^


ผมยืนเกาหัวยิกๆอยู่หน้ากระจก ดูท่าต้องพาไอ้ริชชี่ไปหยอดรีโวฯ (Revolution - ยากันเห็บหมัด) สักทีแล้ว บางทีผมอาจจะมีหมัดอาศัยอยู่บนหัวอย่างสงบสุขก็เป็นได้ คิดแล้วก็ขนลุกจึงจัดการสระผมตัวเองแบบฟูลออพชั่นในตอนเช้า เสร็จแล้วจึงรีบแต่งตัวและเทข้าวให้ไอ้ริชชี่จนเต็มชาม (ไม่ลืมเปลี่ยนน้ำด้วย) บึ่งพี่มะลิไปอีกสิบห้านาทีก็ถึงโรงอาหารคณะ มีที่จอดมอเตอร์ไซค์เหลือที่เดียวให้ผมแทรกตัวเข้าไปได้อย่างสวยงาม

ผมเดินเข้ามาในโรงอาหารก็เห็นนางฟ้าของคณะนั่งรออยู่ที่โต๊ะตัวริมน้ำที่เดิม มีรุ่นพี่รุ่นน้องรุ่นเพื่อนทักผมประปราย คุยกันนิดหน่อยพอเป็นพิธีก็เดินไปซื้อข้าว และหยิบจานไปนั่งที่โต๊ะ

“กินข้าวยัง”

“ไม่อ่ะ กินก๋วยเตี๋ยว” นางกวนตีนผมแต่เช้า ชามก๋วยเตี๋ยวสีชมพูเป็นสัญลักษณ์ว่าสั่งพิเศษหมดเกลี้ยงไม่เหลือกระทั่งน้ำตั้งอยู่ข้างๆ

“กวนตีนขอให้แฟนทิ้ง”

“แฟนทิ้งก็มาซบอกพี่ริวดีกว่าเนอะน้องฟ้า” ไอ้ริวเพื่อนร่วมห้องอีกคนเดินลงมานั่งข้างผม ผมเหลือบมองชิ้นไก่ทอดของมันและรีบจิ้มอย่างรวดเร็วในขณะที่มันกำลังหม้อฟ้าคราม

“ทำหน้าให้หล่อเท่ากูก่อนเถอะริว”

“แหมไอ้นิล หล่อแต่ไม่แลสาวอย่างมึงก็ไม่มีประโยชน์หรอกวะ อ๊ะ เฮ้ย นั่นไก่ทอดกู!” ไม่ทันแล้วครับ ผมเอาเข้าปากไปเรียบร้อย

“ไอ้สันขวานนิล น้องฟ้าดูมันสิครับ” มันหันไปอ้อนยัยฟ้าที่นั่งยิ้มหวาน

“อ๊ะ ริวดูโน่นสิ อะไรอยู่ในน้ำ”

“ไหนๆ” พอไอ่ริวมันหันไป ยัยฟ้าก็จิ้มไก่ทอดชิ้นสุดท้ายในจานของมันไปแล้วครับ ไอ้ริวหันกลับมาเธอก็นั่งเคี้ยวตุ้ยๆอย่างอารมณ์ดีที่ได้แกล้งคน

“โอ๊ยยยยย คนสวยใจร้าย ทำไมทำกับพี่ริวแบบเน้” สุดท้ายพอมันเห็นว่ากับข้าวในจานของมันเริ่มไม่ปลอดภัยจึงรีบยกจานหนีไปนั่งกับเพื่อนกลุ่มอื่นทันทีครับ

“การบ้านอาจารย์ณัฐส่งวันไหนอะนิล”

“อังคารหน้านะ ถ้าจำไม่ผิด” ผมตอบคำถามฟ้าครามทั้งที่ยังก้มหน้าก้มตากินข้าวอยู่

“แล้วงานที่อาจารย์วิมลสั่งละ”

“เสร็จแล้ว”

“งั้นอาทิตย์นี้ก็ไม่มีการบ้านอะไรแล้วใช่มั้ย”

“อืม”

“เย็นนี้ไปบ้านเรามั้ย” ผมเงยหน้าขึ้นทันที เพราะเพิ่งนึกได้ว่าการบ้านที่ฟ้าครามถามเป็นการบ้านที่ผมและนางช่วยกันทำจนหมดเกลี้ยง ยัยฟ้าจะความจำสั้นจนจำไม่ได้เชียวหรือว่าตัวเองการบ้านเสร็จหมดแล้ว แต่พอได้สบตายัยฟ้าเท่านั้นก็พอจะรู้สึกได้ว่ามีอะไรไม่ปกติ

“ฟ้า มีอะไรหรือเปล่า” ผมวางช้อนส้อมและเอื้อมไปกุมมือฟ้าเอาไว้ ไม่สนใจสายตาคนอื่นๆในโรงอาหารหรอกครับจังหวะนี้ ยิ่งเห็นนัยน์ตากลมบ็อกสีดำสนิทนั่นมีร่องรอยสั่นไหวแล้วก็เหมือนหัวใจมันโหวงๆ ผมไม่อยากให้ผู้หญิงที่ผมรักเป็นที่สองรองจากแม่ต้องมีอาการแบบนี้เลยนะ

“เย็นนี้... ไปบ้านเรานะ” เสียงหวานติดจะสั่นเครือ ผมทบทวนอย่างรวดเร็วว่าวันนี้มีเรียนกี่วิชา เช้ามี บ่ายล่ะมีมั้ย โอเค ช่วงบ่ายไม่มี

“วันนี้เรามีเรียนแค่เช้า ตอนบ่ายก็ไปบ้านฟ้ากันเนอะ หรือฟ้าอยากกลับบ้านตอนนี้เลยหรือเปล่า” ฟ้าครามส่ายหัวแทนคำตอบ ผมจึงลุกขึ้นและหยิบจานกับชามก๋วยเตี๋ยวไปเก็บ นี่ขนาดเศร้าๆยัยนี้ยังซัดเสียเกลี้ยง

“ไปห้องเรียนกันดีกว่านะ” ผมยื่นมือให้ฟ้าครามจับ และจับจูงกันไปจนถึงห้องเรียน ไอ้ริวมันมองมาพร้อมกับเครื่องหมายคำถาม มันคงประหลาดใจเพราะผมกับฟ้าทำท่าเหมือนกำลังมีซัมธิงรอง จูงมือเดินไปด้วยกันแบบนี้คนคงฮือฮากันใหญ่ละว่าดาวกับเดือนคณะสถาปัตย์ฯกำลังคบกัน

ผมรู้สึกได้เลยว่าฟ้าครามไม่ได้มีสมาธิกับการเรียนสักเท่าไร เพราะผมเองก็เป็นเช่นเดียวกัน สมองของผมเอาแต่ครุ่นคิดว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น เราเพิ่งเจอกันเมื่อวานเย็น ผมกลับคอนโด เช้าก็มาเรียน มันไม่น่าที่จะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาสั้นๆแค่ชั่วข้ามคืนนี่นา พอเหลือบไปมองยัยฟ้า ตากลมบ็อกจ้องไวท์บอร์ดก็จริง แต่มันดูเลื่อนลอยบอกไม่ถูก สงสัยคาบนี้คงต้องไปขอซีร็อกซ์เลคเชอร์จากไอ้ริวเสียแล้ว (อ๊ะๆ เห็นแบบนี้ไอ้ริวเรียนเก่งนะคร้าบ)

เสียงอาจารย์บอกเลิกคลาสเหมือนกับเสียงสวรรค์ ผมปรี่ไปแย่งสมุดจดจากมือไอ้ริวทันทีและรีบลากฟ้าออกมาจากห้อง พอซีร็อกซ์เสร็จก็รีบเอากลับไปคืนเจ้าของ

“ใส่หมวกกันน็อคก่อนสิฟ้า” ผมเอาหมวกกันน็อคสวมหัวฟ้าครามที่กลายสภาพเป็นซอมบี้ขึ้นมานั่งซ้อนท้ายพี่มะลิแบบมึนๆ นางหัวเราะแหะๆเหมือนจะแก้เก้อกับสภาพของตัวเอง

“แล้วของนิลละ”

“มีใบเดียว ให้ฟ้าใส่ดีกว่า” ผมยิ้ม อยากให้รอยยิ้มของผมช่วยดึงรอยยิ้มจากฟ้าครามได้บ้าง แต่ก็เหมือนจะไม่เป็นผลเท่าไร ผมจึงดึงมือฟ้าครามให้มาเกาะเอวผมไว้แล้วขี่ออกไปจากมหาลัยฯ

ที่บ้านฟ้าครามดูสงบเงียบเป็นปกติ นางบอกว่าคุณพ่อกับคุณแม่ไปทำงาน ส่วนพวกเด็กรับใช้คงอยู่หลังบ้าน ผมเดินตามคุณหนูฟ้าขึ้นไปชั้นบนต้อยๆ ป้ายไม้สลักคำว่า SKYHIGH ห้อยอยู่ที่หน้าประตูห้อง ฟ้าครามเดินมึนๆไปนั่งที่โซฟาเบดในห้องนอนตัวเองก่อนจะล้วงไอโฟนออกมาจากกระเป๋า ผมเดินไปนั่งข้างๆมองเธอจิ้มอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนมาถึงคลิปวิดิโออันหนึ่งที่ฟ้าครามยื่นมาให้ผมดูชัดๆ ผมมองคลิปนั้นด้วยสีหน้าหมางง ให้ผมมาบ้านเพื่อดูคลิปงั้นหรือ? อยากจะถามหรือท้วงอะไรสักอย่างแต่พอเห็นหน้าเย็นเยือกของนางแล้วก็ตัดสินใจสงบปากสงบคำไว้ดีกว่า

“...”
“...”

เสียงตะกุกตะกักที่ฟังดูไม่มีความหมายดังขึ้นจากในคลิปวิดิโอ ผมเขม้นมองเพื่อหาที่โฟกัสสายตา ภาพมันสั่นๆรัวๆบอกไม่ถูก เหมือนคนในคลิปกำลังทำอะไรสักอย่างเร็วๆ ดูไปสักพักผมก็เริ่มหน้าแดง ยัยฟ้าเอาคลิปโป๊ให้ผมดู!!!

“เฮ้ย ฟ้า ให้เราดูอะไรเนี่ย”

“ชู่ว ดูต่อสิ” ผมจะลุกหนี แต่ฟ้าครามดึงแขนผมไว้ ยัยนี้แรงเยอะยังกับช้างเลยละครับ ผมจึงจำใจต้องนั่งเจี๋ยมเจี้ยมต่อ และเหมือนว่าคนในคลิปกำลังขยับท่าทางใหม่ ผมแอบชื่นชมในใจว่าผู้ชายคนนี้หุ่นดีชะมัด มันเป็นคลิปที่ถ่ายจากมุมด้านหน้าอะครับ เหมือนกับตั้งกล้องไวหัวเตียงนั่นละ

พระเอกจำเป็นในคลิปทำให้ผมตัวชาวาบเมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม ผมหันไปมองยัยฟ้าที่น้ำตาไหลพรากลงมาตอนไหนไม่รู้ ผมหันกลับไปมองหน้าจอไอโฟนอีกครั้ง พยายามเพ่งให้เห็นว่าฝ่ายหญิงคือใคร และด้วยผิวที่ดูค่อนข้างคล้ำผิดจากยัยฟ้า ผมจึงมั่นใจได้ว่าไม่ใช่เพื่อนตัวเองแน่นอน


“ดูให้จบนะนิล” ผมพยักหน้ารับ “อีกนิดหนึ่งจะจบแล้ว” ก็เป็นอย่างที่ฟ้าครามพูดแหละครับ เหมือนว่าพี่เล... เขาจะ เอ่อ... เสร็จกิจพอดี ก็เลยลุกออกจากเตียง หรือพูดให้คุณเห็นภาพก็คือ เขาพ้นออกไปจากหน้าจอแล้ว และกลายเป็นใบหน้าของหญิงสาวผรั่งผิวเข้มเข้ามาแทนที่

‘Fuck you bitch…’ สาวฝรั่งใจกล้าหน้ายกนิ้วกลางขึ้นมาชูหราและพูดต่อ ‘He’s mine!!’ เสียงแหบพร่าของเธอฟังดูเซ็กซี่ชะมัดเวลาที่พูดจาข่มขู่แบบนี้ นับว่าหล่อนเป็นผู้หญิงที่แสดงเซ็กส์แอพพีลออกมาได้เยอะมากขนาดดูผ่านคลิปวิดิโอแบบนี้นะครับ

“เราได้รับคลิปนี้เมื่อคืน ตอนก่อนนอน” ผมหันไปมองเจ้าของเสียงสั่นเครือที่ถูกผู้หญิงร่านคนหนึ่งเรียกว่า ‘นังตัวแสบ’ โดยที่เธอไม่ทันทำอะไรด้วยซ้ำ

“พี่เล... เขา... คงมีเจ้าของอยู่แล้วละมั้ง” ฟ้าครามเค้นเสียงออกมาเป็นคำพูดได้ทีละหน่อย ผมรู้ว่าเพื่อนรักของผมคงต้องใช้ความพยายามอย่างหนักที่จะพูดออกมาสักประโยคหนึ่งในสภาพจิตใจแบบนี้ ผมกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บใจ ทั้งที่ผมคิดว่าเขาเป็นคนดีที่จะสามารถรับผิดชอบชีวิตของฟ้าครามได้ ทั้งที่พ่อกับแม่ก็ไว้ใจให้เขาไปรับไปส่งฟ้าครามและเข้านอกออกในบ้านได้ตามสะดวกแท้ๆ

“ฟ้าใจเย็นนะ” ผมพยายามหายใจลึกๆเพื่อสงบสติ “บางทีเรื่องนี้คงผ่านมานานมากแล้ว” ผมจงใจเน้นคำว่า มาก เพื่อจะสื่อว่ามันคงนานมาแล้วจริงๆ

“ไม่หรอกนิล เราเอาไฟล์นี้ไปเปิดในคอมฯ เห็น Date Modified มันโชว์ว่าเป็นของอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง”

ไอ้เหี้ยพี่เล!!!!

ผมพยายามช่วยมึงแล้วนะไอ้พี่เล แต่เห็นอีแบบนี้คงไม่ต้องเผาผีกันแล้วละ!

“มันรู้เรื่องที่ฟ้าเห็นคลิปนี้หรือยัง” ฟ้าครามส่ายหัวแทนคำตอบ

“เขาโทรมาแหละ แต่ฟ้าไม่รับสาย เดี๋ยวตอนเย็นก็คงแล่นมาหาถึงนี่”

“เราไม่เข้าใจเลยนิล ทำไมพี่เลถึงทำแบบนี้ พี่เลคบกับเราอยู่ แล้วทำไมถึงไปมีอะไรกับคนอื่น ทำไมผู้ชายถึงมักง่ายแบบนี้”

“เอ่อ.. ไม่ทุกคนหรอกนะฟ้า”

“ฮึก..” น้ำตาหยดโตๆไหลลงบนตักตัวเองหยดแล้วหยดเล่า แม้ผมจะเพียรพยายามดึงทิชชู่มาซับน้ำตาให้เท่าไรมันก็ไม่เหือดแห้งไปเสียที พวกผู้หญิงเขามีแทงค์น้ำตาซ่อนเอาไว้อยู่ข้างในหัวหรือเปล่าเนี่ย

ผมนั่งปลอบยัยฟ้าร้องไห้อีกเกือบชั่วโมง ไม่น่าเชื่อว่าคนที่นั่งจู๋จี๋ตำตาผมเมื่อวานนี้ แค่ผ่านไปคืนเดียวทุกอย่างจะกลับตาลปัตรไปหมด ตอนนี้ผมขอถอนคำพูดที่ผมเคยบอกว่าพี่เลมันหล่อและนิสัยดี ทิ้งให้หมดเลยนะครับ เปลี่ยนใจแล้วละ ตอนนี้เกลียดมันชิบเป๋ง

พอยัยฟ้าร้องไห้จนหนำใจแล้ว หล่อนก็เฉดหัวผมให้กลับคอนโด ประจวบเหมาะกับพ่อแม่กลับมาพอดีผมก็เลยวางใจ

“เราไม่เป็นไรแล้วละ แค่ได้ระบายก็รู้สึกดีขึ้นเยอะ” ยัยฟ้ายิ้มเศร้า “แต่บางทีคืนนี้อาจจะร้องอีกนิดหน่อย”

“ตามสบาย แต่อย่าลืมนะ ถ้าร้องไห้มากใต้ตาเหี่ยว อายครีมกระปุกละหมื่นก็ไม่ช่วยหรอก”

“ย่ะ รู้แล้วแหละ ขอแค่วันนี้ วันนี้เท่านั้นนะนิล” ฟ้าครามซุกหน้าลงที่อกผม รู้สึกชื้นๆ พอเดาได้ว่าน้ำตานางคงไหลอีกแล้ว ผมยกสองมือลูบหลังเธอเบาๆ โชคดีว่ามืดแล้ว คงไม่มีใครเห็นหรอกวะ

“เข้าบ้านได้แล้ว เราขอกลับก่อน” ผมยืนมองส่งยัยฟ้าเดินเข้าบ้านก่อนจะออกมาพร้อมพี่มะลิ แวะจอดรถตรงตลาดแป๊บหนึ่งเพื่อซื้อน้ำเต้าหู้ใส่แต่ลูกเดือยมาสามถุงก่อนจะเลี้ยวรถเข้าคอนโด


ผมเดินออกมาจากลานจอดรถเพื่อจะเข้าไปตรงล๊อบบี้ แต่ด้วยคอนแทกเลนส์ค่าสายตา 350 ทำให้ผมมองเห็นบุคคลไม่พึงประสงค์ที่กำลังนั่งรอผมอยู่ที่โซฟารับแขก โดยมีสายตาหวานเชื่อมของพี่หญิงผู้จัดการคอนโดแอบมองเป็นระยะ
“น้องนิล มาพอดีเลย มีแขกมารอพบค่ะ” เอาเป็ด ตั้งใจจะเดินเลี่ยงๆเพราะมันยังไม่เห็นผม แต่พอพี่หญิงเรียกผมเท่านั้นละมันก็หันควับมาที่ผมทันที และสุดท้ายผมก็ต้องพาอาคันตุกะทั้งสองคนขึ้นไปบนห้อง

ห๊ะ สองงั้นเหรอ?

“ลูกพี่ลูกน้องพี่เอง” เหมือนไอ้พี่เลมันจะเห็นสายตาสงสัยของผมก็เลยช่วยไขข้อข้องใจให้ ผมเหลือบมอง ‘ลูกพี่ลูกน้อง’ ของไอ้พี่เลที่หน้าเหมือนมันยังกับโขกออกมาจากพิมพ์เดียวกัน ต่างกันแค่ไอ้หมอนี่มันมีผมสีน้ำตาลอ๊อนอ่อนนนนนน แถมผิวยังขาวจั๊วะเหมือนพวกฝรั่งเมืองหนาวเลยละ (ผมกัดปากตัวเองเป็นการทำโทษเมื่อแอบคิดว่าไอ้หมอนี่มันหล่อเป็นบ้า ไม่เอาน่านิล อย่าเพิ่งตุ๊ดแตกตอนนี้)


ผมจำใจเชิญแขกทั้งสองเข้ามานั่งในห้อง ลูกพี่ลูกน้องของไอ้พี่เลมองไปรอบห้องผมด้วยท่าทางอย่างคนที่ไม่ได้รับการอบรมเรื่องมารยาท ผมรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆจนเผลอปิดประตูห้องนอนตัวเองดังปั้งตอนที่เอากระเป๋ากับไอ้ริชชี่เข้าไปเก็บ แต่ตอนที่กำลังจะเดินออกมาก็ได้ยินเสียงสนทนาของคนข้างนอกจึงแอบหยุดฟังอยู่หลังประตู

“นายอย่าจ้องบ้านของคนอื่นแบบนี้สิวะ มันเสียมารยาท”
“ก็ฉันชอบนี่หว่า เขาตกแต่งห้องได้เป็นเอกลักษณ์ขนาดนี้ เห็นแล้วนึกถึงบ้านที่ลอนดอนเลยว่ะ” ผมเสียมารยาทแอบฟังคนทั้งสองพูดคุยกันอยู่หลังประตู ในใจกระหยิ่มยิ้มย่องตอนที่มีคนชมว่าห้องผมสวย ก็แน่ละ ผมลงมือตกแต่งเองทั้งนั้น พวกเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลายผมก็ถ่อไปดูถึงแหล่งสินค้ามือสองหลายแห่งเพื่อให้ได้ของเก่าที่ถูกใจผมมากที่สุด ผนังส่วนที่เป็นอิฐนั่นผมก็ฉาบเองด้วยเหอะ

เอาละ หมดเวลาแอบฟังเสียแล้ว ผมเปิดประตูเดินออกไปและบอกกับทั้งสองคนว่าจะเอาน้ำมาเสิร์ฟ ว่าแต่ผมยังไม่รู้เลยว่าลูกพี่ลูกน้องไอ้พี่เลชื่ออะไร เออแต่ช่างเหอะ ไม่อยากข้องเกี่ยวกับคนตระกูลนี้สักเท่าไรอยู่แล้ว

ผมวางแก้วใส่น้ำใบเตยเย็นเจี๊ยบลงตรงหน้าทั้งสองคน คือตอนแรกผมกะว่าจะเอาน้ำก๊อกให้มันกิน แต่ความดีงามในจิตใจก็เอาชนะความชั่วร้ายได้ เลยเปลี่ยนเอาน้ำใบเตยที่เพิ่งต้มเสร็จมาเสิร์ฟแทน อะแฮ่ม ดูเหมือนว่าผมจะคิดถูกนะครับ เพราะไอ้หัวสีน้ำตาลอ่อนนี่มันดูจะถูกใจน้ำใบเตยของผมน่าดู (ถึงแม้ว่าอีกคนหนึ่งจะดูไม่มีกระจิตกระใจจะดื่มอะไรก็ตามที)


“นิล น้องฟ้าเห็นคลิปนั้นแล้วใช่มั้ย” ผมเลิกคิ้วสูงเมื่อได้ยินน้ำเสียงอ่อนระโหยของพี่เลที่ไม่เหลือคราบชายหนุ่มมาดสุขุมนุ่มลึกแม้แต่น้อย “อือ เห็นแล้วครับ ยัยฟ้าเปิดให้ผมดู” หน้าพี่เลซีดเป็นไก่ต้มทันทีที่ผมพูดจบ

“พี่รู้อยู่แล้วเหรอว่ามันจะต้องเกิดเรื่องนี้ขึ้น”

“อืม” พี่เลพยักหน้าแล้วก็เงียบ ลูกพี่ลูกน้องมันก็มองโน่นนี่ในห้องผมอย่างเพลิดเพลิน อย่ามาจิ๊กโมเดลเวสป้าตูกลับบ้านนะเว้ย เห็นมองมานานละ

ผมขี้เกียจเป็นฝ่ายเปิดประเด็น ก็เลยนั่งเงียบบ้าง อยากจะเห็นท่าทีของพี่เลว่ามันต้องการอะไร มาหาผมเพื่ออะไรกันแน่ ผ่านไปได้สักห้านาทีครับ ไอ้พี่เลก็เป็นฝ่ายเปิดปากก่อน

“น้องฟ้าเป็นยังไงบ้าง” ผมเบ้ปาก ที่ถามนี่ไม่รู้จริงๆหรือแกล้งโง่วะ

“คงจะหัวเราะสนุกสนานมั้งครับ”

“นิล อย่าเพิ่งโกรธพี่ได้มั้ย พี่เป็นห่วงน้องฟ้าจริงๆ”

“ถ้าพี่เป็นห่วงยัยฟ้า แล้วพี่จะมาหาผมทำไม ทำไมพี่ไม่ไปหานางที่บ้าน หรือพี่กลัวที่จะต้องเจอพ่อกับแม่ของผู้หญิงที่พี่นอกใจงั้นเหรอ” ถ้าคุณคิดว่าผมกำลังระเบิดอารมณ์ละก็ ขอให้คิดใหม่นะครับ เพราะตอนนี้ผมกำลังพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบนิ่งเป็นปกติที่สุดสำหรับคนอย่างผม

“วาจาเชือดเฉือนเหมือนเคยเลยนะนิล รู้มั้ยว่าการพูดเรื่อยๆแบบที่นิลทำ มันกรีดใจพี่ได้มากกว่าตอนที่นาตาชาร้องไห้โวยวายใส่พี่เสียอีก” ชื่อนาตาชาสะกิดใจผมได้ทันที

“พี่หมายถึงผู้หญิงที่ด่ายัยฟ้าว่า Fuck you bitch ใช่มั้ยครับ” พี่เลพยักหน้า ใบหน้าคมมีแววกราดเกรี้ยวขึ้นมาวูบหนึ่งก่อนจะหายไป “ตลกดีนะครับ ผู้หญิงที่ได้ชื่อว่าแฟนอย่างเปิดเผยกลับถูกผู้หญิงอีกคนของแฟนตัวเองด่าแบบนี้ ไม่รู้ว่าใครมาก่อนใครกันแน่”

“ใครมาก่อนใครไม่สำคัญหรอกนิล มันสำคัญที่น้องฟ้าเท่านั้นที่พี่ให้เกียรติและอยากจะแต่งงานด้วย และตอนนี้พี่ก็ตัดขาดจากนาตาชาอย่างเด็ดขาดแล้ว”

“เพราะอะไรที่ทำให้พี่ตัดขาดจากหล่อนได้ละครับ เพราะยัยฟ้ารู้เรื่องความสัมพันธ์ของพี่กับยัยฝรั่งนั่น หรือเพราะพี่เพิ่งจะสำนึกได้ว่าตัวเองมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว”

“นิลอาจจะไม่เข้าใจนะ แต่สำหรับพี่แล้ว นาตาชาก็เป็นแค่คู่นอน ไม่ได้คิดจะยกย่องเธอขึ้นมาเป็นภรรยาแน่ๆ” พับผ่าสิครับ ผมอยากจะหยิบแจกันบนโต๊ะมาทุ่มใส่หัวไอ้บ้านี่เหลือเกิน ไม่นึกเลยว่าพี่เลที่ผมปลาบปลื้มจะมีทัศนคติแบบผู้ชายสมัยก่อนที่นิยมชมชอบการมีเมียเล็กเมียน้อยก่อนแต่งงานเหมือนกัน

“พี่ก็คงไม่เข้าใจเหมือนกันว่าคนที่มีแฟนแล้ว ไม่ควรที่จะไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่น สิ่งสำคัญที่จะต้องไม่ลืมคือเราต้องมีความยับยั้งชั่งใจ เพราะมันเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์เราแตกต่างจากเดรัจฉานในเรื่องของการสมสู่ไม่เลือก ถ้าหากพี่มาหาผมโดยที่ไม่ได้มีความสำนึกผิดติดตัวมาแม้แต่น้อยพี่ก็กลับไปเถอะครับ ผมรู้ว่าพี่คงคาดหวังว่าผมจะเข้าใจสิ่งที่พี่ทำ และอาจจะช่วยให้พี่คืนดีกับยัยฟ้าได้ แต่พี่คงเดาผิดไปเยอะ เพราะผมเกลียดการหักหลังที่สุดในชีวิตของผมเลย” โอย เหนื่อย ผมเอนหลังพิงพนักโซฟาและจ้องหน้าไอ้พี่เลที่มองผมแบบอึ้งๆ ต่างฝ่ายต่างก็เงียบเพราะเขาคงพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน แต่บางทีผมคิดว่าพี่เลคงจะเข้าใจในสิ่งที่ผมจะบอก สุดท้ายแล้วเขาจะยอมรับว่าตัวเองนั้นทำผิดหรือเปล่าก็คงขึ้นอยู่กับอัตตาของตัวเขาเองเท่านั้น

“เล ฉันคิดว่าแกก็ผิดจริงๆอย่างที่น้องนิลเขาว่า” น้ำเสียงแปลกแปล่งแบบคนที่พูดภาษาไทยไม่ค่อยชัดดังทำลายความเงียบขึ้นมา

“แกเป็นลูกพี่ลูกน้องฉันนะไอ้รัน ทำไมไม่เข้าข้างกันวะ” พี่เลขมวดคิ้ว ผมเองก็มอง ‘รัน’ ด้วยความสนใจ

“ลองคิดง่ายๆ ถ้าแฟนแกไปมีสัมพันธ์กับคนอื่นทั้งที่ยังคบกับแก แกจะรู้สึกยังไง”

“...” ผมมองทั้งสองคนสลับกันไปมา มันก็เป็นอย่างที่พี่รันพูด (เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องไอ้พี่เล ก็น่าจะแก่กว่าผมด้วยป่ะ?) พี่เลนิ่งเงียบเมื่อได้ฟังความเห็นของญาติตัวเอง บางทีพี่เลมันก็คงรู้แหละครับว่าเรื่องที่มันทำนั้นไม่ถูกต้อง แต่ด้วยสันดานความเห็นแก่ตัวชั่วๆของเพศชายวัยฉกรรจ์ก็คงจะมโนไปเองว่าแฟนไม่รู้คือไม่ผิด

“พี่เลครับ กลับไปสำนึกผิดให้ได้จากใจจริงก่อนเถอะ ถ้าทำได้จริงๆแล้วพี่ค่อยไปง้อยัยฟ้าก็ยังไม่สาย เพราะยังไงตอนนี้เพื่อนผมก็คงไม่มีคนอื่นหรอก แต่ผมไม่การันตีเรื่องคนที่เขาจะเข้ามาจีบถ้ารู้ว่ายัยฟ้าโสดนะครับ ทำไงได้ละ เพื่อนผมน่ารักนิสัยดีเพอร์เฟ็คท์ขนาดนี้ ผู้ชายดีๆเขาก็ต้องหมายปองเป็นธรรมดา” ผมมั่นใจว่าเห็นพี่เบมันคิ้วกระตุกตอนที่ผมพูดเรื่องผู้ชายเข้ามาจีบยัยฟ้า หึ ไอ้หมาหวงก้าง คนมักมากอย่างพี่ไม่มีสิทธ์จะหึงหวงยัยฟ้าได้หรอกนะ

“อ้อ อีกเรื่องนึง” ผมโพล่งขึ้นมาเมื่อเห็นไอ้พี่เลมีสีหน้าอ้อนวอนเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง “เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้เองนะครับ ผมไม่ช่วยอะไรพี่ทั้งนั้นแหละ” พูดจบก็ส่งยิ้มไล่แขกให้คนตรงหน้า พี่เลลุกขึ้นและเดินออกไปแบบหงุดหงิดเล็กๆ อ้าว เฮ้ย แล้วทำไมญาติมันไม่ออกไปด้วยวะ

“เชิญพี่ด้วยครับ” ผมพยายามสุภาพ เพราะพี่รันคนนี้ก็หล่อ เอ้ย ก็ดีมีความคิดความอ่านที่ใช้ได้ แต่ผมไม่อยากข้องเกี่ยวกับครอบครัวนี้แล้วละครับ

“น้องนิล” พี่รันมันเดินเข้ามาประชิดจนผมได้กลิ่นโอเดอร์โคโลญจน์อ่อนๆผสมกับอาฟเตอร์เชฟ ผมผงะถอยโดยอัติโนมัติพลสงคิดว่ามันเป็นอะไรของมันวะ

“พี่ขอมาเที่ยวที่นี่อีกได้มั้ยครับ” อั้ยย่ะ ไอ้กะเหรี่ยงพูดไทยไม่ชัด ดูท่าจะไม่ได้สำเหนียกเลยสักนิดว่าผมเกลียดชังญาติมันขนาดไหน ซึ่งแน่นอนว่าตัวมันผมก็ไม่อยากยุ่งด้วยแน่นอน

“เราไม่ได้รู้จักกันเสียหน่อย จะมาทำไมละครับ”

“พี่ชอบ... ห้องนี้ครับ” พี่รันเว้นระยะห่างจนผมใจหายแว้บ “อยากเป็นเพื่อนกับน้องนิล จะได้มาเที่ยวที่นี่ได้บ่อยๆ เจ้าเหมียวตัวนั้นพี่ก็ชอบ มันหายไปไหนแล้วละ”

“ผมเอามันไปไว้ห้องอื่น พี่กลับไปได้แล้วละ ญาติพี่ลงไปข้างล่างแล้วมั้ง”

“ช่างหัวมัน กุญแจรถอยู่ที่พี่” เยสเป็ด อย่ามายิ้มมุมปากแบบนี้นะโว้ย กูใจง่าย เดี๋ยวตกหลุมรักมึงละซวยเลย

“พี่กำลังจะทำให้ผมรู้สึกเกลียดพวกพี่มากขึ้นไปอีก” ผมถอยห่างออกมากอีกสามเมตร “กลับไปได้แล้วครับ ไม่งั้นผมจะโทรเรียกยาม” ผมพูดเสียงเข้ม พี่รันทำท่าส่ายหัวเหมือนผู้ใหญ่ระอากับเด็กดื้อแบบนั้นละ เฮ้ย ผมไม่ใช่เด็กของมันนะ!!!

“โอเคโอเค พี่ไปก็ได้ งั้นไว้เจอกันใหม่นะคิวตี้พาย” คิ คิวตี้พายงั้นเหรอ? ผมมีเวลาให้สงสัยในคำเรียกแปลกๆนั้นแค่แป๊บเดียว ก่อนจะถูกจู่โจมที่แก้มด้วยริมฝีปากอุ่นนุ่มจากร่างสูง

“บ๊ายบายครับ” ผมยืนมองพี่รันส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ก่อนประตุห้องผมจะปิดลง ยกมือขึ้นมาแตะตรงรอยจูบที่แก้มแบบมึนงงและสับสน พี่รันมันหอมผมฟอดใหญ่ แบบที่ดมกลิ่นเนื้อผมเข้าไปเต็มปอดและตบท้ายด้วยริมฝีปาก ‘จุ๊บ’ เบาๆนั้นละ


“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”


คืนนั้นของผมจบลงที่การกรีดร้องและขว้างปาหมอนในห้องด้วยอาการตุ๊ดแตก มีเพียงไอ้ริชชี่เท่านั้นที่ช่วยปลอบประโลมผมด้วยอุ้งเท้านุ่มๆที่คอยเหยียบบนหน้าผมอย่างอ่อนโยน(?)จนรุ่งเช้า


▂▂ ▃ ▄ ▅ ▆ ▇ █ █ ▇ ▆ ▅ ▄ ▃ ▂▂


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-01-2014 16:24:02 โดย บีบีจัง »

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
คิวตี้พายยยยยยยยยยยยยยย
รันเจ้าเล่ห์อะโอ๊ยยยยยยยยย
ตลกนิลดูฮาๆรั่วๆ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
หายไปนานเหมือนกันนะคะคุณบีบีจัง แต่กลับมาคราวนี้ยังสนุกเหมือนเดิมเลยค่ะ o13
น้องนิลโดนขโมยจุ๊บไปแล้ว หัวใจก็คงโดนฉกไปด้วยแน่เลย พี่รันเค้าก็น่ารักดีนะคะ พูดไม่ชัดด้วย :laugh:
เคืองพี่เลด้วยคน นิสัยไม่ดี ฟ้าครามอย่าหายโกรธง่ายๆนะ :fire:
รออ่านตอนต่อไปค่ะ :impress2:

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด
โกรธ ไม่ชอบผู้ชายที่ไม่ซื่อสัตย์ :fire: :angry2:
ขอร้องอย่าให้ง้อฟ้าได้เลยนะสงสารฟ้า ขอให้นางไปดี ไปกับคนที่ดีกว่านี้เถอะ  :katai1:
คู่นั้นร้าวฉาน ส่วนอีกคู่กำลังจะมีซัมติงรองสินะ คิคิ  :hao6:

ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4

ตอนแรกเดาว่าคนในคลิปเป็นน้องไรงี้---ดันเป็นเลจริงๆซะงั้น

ส่วนรันคงได้มาที่ห้องนี้บ่อยๆแน่ๆ

+ 1 + เป็ดจ้า

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Chapter : 2 [ความมืดและแสงสว่าง] **Re write
«ตอบ #8 เมื่อ02-12-2013 12:44:43 »

Chapter : 2 [ความมืดและแสงสว่าง]


เวลาผ่านไปอีกหลายวัน ผมก็ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ น่าแปลกนะครับ ที่พอผมไม่เจอพี่รันอีก ความรู้สึกสั่นไหวในตอนนั้นมันก็หายไป มิน่าละ โบราณเขาถึงได้มีคำเปรียบเปรยว่าสามวันจากนารีเป็นอื่น เอ๊ะ อะไรนะครับ ผมไม่ได้กำลังน้อยใจอะไรเขาเลยนะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันเสียหน่อย จะมางอนอะไรกันละยิ่งช่วงนี้งานผมโคตรเยอะ ไม่มีเวลามาคิดฟุ้งซ่านหรอกครับ


“นิล ช่วยเราคิดหน่อยสิว่าตรงนี้จะใช้สีโทนอะไรดี” ยัยฟ้าสะกิดให้ผมหันไปดูสีบ้านที่นางกำลังเลือกอยู่ โจทย์คือให้ออกแบบบ้านที่แสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติครับ

“อืม เราว่าอันนี้ก็เหมาะนะ” ผมจิ้มนิ้วลงบนหน้าจอโน้ตบุ๊ค เลือกสีที่คิดว่าเข้าท่าที่สุดมาหนึ่งสี

“เออ จริงด้วยละ กลมกลืนดีจัง” ผมลอบมองใบหน้าหวานนั้นที่แทบไม่หลงเหลือร่องรอยความเศร้า มิหนำซ้ำยังออกแนวฝังใจเจ็บเสียด้วย


‘เราไม่อยากเห็นหน้าคนพรรค์นั้นอีก’
 

ประโยคตัดเยื่อใยของฟ้าครามยังชัดเจนในความทรงจำ วันนั้นพี่เลมาดักรอที่คณะ พอยัยฟ้าเห็นก็สะบัดหน้าใส่และจูงแขนผมเดินหนี พร้อมกับทิ้งประโยคเชือดเฉือนใจนั้นเอาไว้ให้พี่เลเป็นที่ระลึก ผมเองพอเห็นพี่เลทำหน้าสลดก็เกือบใจอ่อน แต่พอนึกถึงตรรกะอุบาทว์ของเพศผู้แล้วก็เรียกความสงสารกลับมาได้ทันเวลา


“นิล มีคนมาหามึงอะ” ไอ้ริวเดินมาเรียกผมที่โต๊ะ “ใครวะ” ผมถามมัน

“ไม่รู้อะ เขาบอกว่าให้ช่วยมาตามมึงก็แค่นั้น แต่ท่าทางหล่อสัดๆเลยว่ะ” ประโยคสุดท้ายมันแอบกระซิบข้างหูผมครับ ก็เลยโดนทุบไปหนึ่งอัก

“งั้นเดี๋ยวเรามานะฟ้า ไอ้ริว มึงมาช่วยทำเลย นี่งานกลุ่มนะ ไม่ใช่งานคู่”

“ไม่ช่วยทำจะไม่ใส่ชื่อให้นะริว”

“ครับๆ พี่ริวตั้งใจจะมาช่วยน้องฟ้าแล้วแหละครับ แบบว่าพี่ริวงานยุ่งก็เลยเพิ่งจะว่างมาช่วยเนี่ยแหละ”

“งานยุ่ง หรือมึงพอกงานกันแน่” แอบแขวะมันนิดหนึ่งแล้วเดินเลี่ยงออกมา ขี้เกียจฟังมันเถียงครับ เหม็นขี้ฟัน


พอผมเดินออกมาจากห้องคณะ ก็เจอผู้ชายตัวสูงหุ่นดี๊ดีใส่เสื้อเชิ้ตดำกับกางเกงยีนส์ยืนเต๊ะจุ๊ยอยู่ด้านหน้า เขาใส่แว่นกันแดดสีดำผมก็เลยมองหน้าไม่ชัด แต่มั่นใจแน่นอนว่าผมไม่มีคนรู้จักที่ลักษณะท่าทางแบบนี้สักคน

“น้องนิล” เชี่ย ไอ้พี่รัน มาได้ไงวะ

“อ๊ะ เดี๋ยวสิ” มันพุ่งเข้ามาล้อกข้อมือผมไว้เลยครับ เสือกรู้ทันว่าผมจะวิ่งหนี

“ใจดำจัง ยังไม่ทันทักทายก็จะเดินหนีกันแล้ว”

“ผมไม่รู้จักคุณ ช่วยปล่อยมือด้วยครับ” พยายามจะแกะมือมันออก แต่แม่งจับแน่นยังกับคีมเหล็ก แขนกูแดงแล้วโว้ยยยยย

“ลืมกันแบบนี้ต้องให้ทวนความจำมั้ยละ” เสียงทุ้มนุ่มกระซิบข้างหูทำเอาผมขนลุกซู่ หน้าเหน้อแดงแปร๊ดไปหมด

“พี่รัน มาทำไมเนี่ย” ฮึ่ย แค้นนัก ฝากไว้ก่อนเถอะมึง!

“ดีใจจัง จำหน้าพี่ได้แล้วยังจำชื่อพี่ได้อีก” ผมเขวี้ยงค้อนใส่ไอ้หน้าหล่อใสที่ยังไม่ยอมถอดแว่นกันแดด ขนาดใส่แว่นแม่งยังดูหล่อขนาดนี้ไอ้ห่าราก

“มีธุระอะไร ผมกำลังยุ่งนะ ต้องส่งโปรเจ็กต์อาทิตย์นี้แล้ว”

“อยากเจอเฉยๆก็เลยมาหา ไม่ได้เหรอ?” พี่รันมันเลื่อนสองมือมาล็อกเอวผมไว้แน่น ออกแรงหน่อยเดียวผมก็ถลาไปพิงอกเขาเสียแล้ว

“ยังหอมนุ่มนิ่มเหมือนเดิม น่ารักจัง” อร๊า~ ไอ้หน้าด้าน วันนี้มึงผีปลาหมึกเข้าสิงมึงหรือไงห้ะ!

“พี่รันอย่ารุ่มร่ามดิ นี่มหาลัยนะครับ”

“งั้นไปรุ่มร่ามห้องรันได้มั้ยอะ”

“โอ๊ย ประเด็นมันไม่ใช่เรื่องนั้น พี่มาหาผมทำไมเนี่ย”

“ก็บอกแล้วว่าคิดถึง” ตัวหน้าด้านยังยืนกรานคำเดิม ผมเงยหน้ามองมัน (ย้ำว่าเงยหน้า เพราะมันสูงกว่าผมเป็นสิบเซ็นต์ได้มั้ง) ด้วยความเอือมระอา สันดานเจ้าชู้ทั้งตระกูลสินะ

“พี่เป็นเกย์เหรอ”

“เปล่า”

“แล้วมายุ่งกับผมทำไมเนี่ย”

“ก็นิลน่ารัก”

“ขอบคุณที่ชม แต่ด้วยเหตุผลแค่นั้นคงไม่ทำให้ผมหวั่นไหว”

“แหม คนเรามันก็ต้องเริ่มจากการถูกตาต้องใจกันก่อน แล้วถึงค่อยเริ่มทำความรู้จักเพื่อศึกษานิสัยให้ถ่องแท้ หรือนิลจะเถียงว่าไม่ได้แอบคิดในใจว่าพี่หล่อ” อุต๊ะ ไอ้นี่มีเทเลพาธีหรือไงเนี่ย

“แต่ผมไม่อยากทำความรู้จักกับพี่ ผมเกลียดพวกพี่!” ผมตะคอก พยายามใจแข็งอย่างเต็มที่

“เกลียดไอ้เล อย่าพาลมาเกลียดพี่สิ พี่เสียใจ” มันทำเนียนดึงผมเข้าไปกอดแน่น สองมือลูบเนื้อตัวผมเบาๆ ทำไมมันหื่นแบบนี้วะ

“เฮ้ยบอกว่าอย่ารุ่มร่าม คนอื่นมาเห็นจะคิดยังไงวะ ผู้ชายตัวเท่าควายมายืนกอดกันเนี่ย”

“ก็ช่างสิ พี่ไม่แคร์”

“แต่ผมแคร์เว้ย” ผมรวบรวมพลังปราณไปไว้ที่ท้อง ก่อนจะตีเข่าใส่กล่องดวงใจมนุษย์ปลาหมึกหน้าด้านตนนี้เต็มแรง ได้ผลครับ ไอ้พี่รันปล่อยผมและลงไปนั่งกุมไข่ที่พื้น ผมฉวยโอกาสนี้วิ่งหนีออกมาจากตรงนั้นทันที แต่ยังไม่กลับไปห้องคณะหรอกนะครับ ขอไปสงบสติอารมณ์ก่อน


ผมเข้ามานั่งเรียกขวัยอยู่ในห้องน้ำชาย ปิดประตูลงกลอนรียบร้อยก็นั่งกุมขมับพลางนึกทบทวนเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดสดๆร้อนๆ มีผู้ชายมาจีบผม มีผู้ชายมาจีบผม มีผู้ชายมาจีบผมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม จะบ้าเร้อออออออ เห็นแบบนี้ผมไม่เคยถูกจีบ ไม่เคยมีแฟนเลยนะเฟ้ยยยยย ถึงผมจะประกาศว่าตัวเองเป็นเกย์ แต่ผมก็อยู่ของผมเงียบๆ ไม่เคยทำตัวตุ๊ดแตกเลยสักครั้ง แต่ตอนนี้กลับมีไอ้หน้าด้านคนหนึ่งพยายามจะแทรกตัวเข้ามาชีวิตเกย์ที่แสนสงบสุขของผม!!!


ผมเป็นเกย์ แต่ผมไม่ได้ต้องการมีแฟน ไม่ได้ต้องการคบใคร ผมพอใจที่จะอยู่เงียบๆไปตลอดแบบนี้คุณเข้าใจมั้ย?


ติ๊ง ติ๊ง

ผมหยิบไอโฟนขึ้นมาดูหน้าจอ ยัยฟ้าไลน์มาถามว่าผมหายไปไหน พิมพ์ตอบกลับไปว่ามาเข้าห้องน้ำ กำลังจะกลับไปที่คณะ นั่งทำใจเรียกสติอีกสามวิก็เปิดประตูห้องน้ำแล้วรีบวิ่งขึ้นไปข้างบนทันที แต่สิ่งที่รอผมอยู่ข้างบนกลับทำให้ผมตกใจยิ่งกว่า เมื่อไอ้พี่รันมันมานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ่ออยู่กับฟ้าครามที่โต๊ะทำงานของพวกผม (นี่มันรู้จักฟ้าครามอยู่แล้วเหรอวะ?) ผมจึงชะงักเท้าและแอบฟังอยู่ตรงมุมตึก ได้ยินเสียงแจ๋วๆของยัยฟ้าชัดเป๊ะ

“แล้วตกลงพี่รันมาทำอะไรที่นี่คะ”

“พี่มาเยี่ยมน้องฟ้า แล้วก็มาหาเพื่อนน้องฟ้าครับ”

“เพื่อนฟ้า? พี่รันรู้จักเพื่อนฟ้าด้วยเหรอคะ”

“น้องนิลไงครับ”

“เอ๋? ไปรู้จักกันตอนไหนละเนี่ย”

“หึหึ ความลับครับ”

“อะไรกัน เดี๋ยวฟ้าจะไปถามนิล นิลต้องบอกแน่นอน”

“ใครจะไปรู้ เขาอาจจะไม่ยอมบอกก็ได้นะครับ” ยัยฟ้าเขวี้ยงค้อนใส่พี่รันอันบะเริ่ม นางหยิบไอโฟนมาจิ้มสองสามทีเครื่องผมก็สั่น ไม่สั่นเปล่าๆ เสียงริงโทนเพลง CHI SWEET HOME ดังขึ้นทันที หมดกัน รู้เลยว่ากูแอบฟัง

“ฟ้าโทรหาเราทำไม ก็บอกแล้วว่ากำลังเดินมา” ผมตีเนียน แต่เหมือนคนบางคนจะรู้ทันว่าผมยืนอยู่ตรงนั้นนานแล้ว

“ก็นิลมาช้า ฟ้าเลยโทรตาม”

“มาแล้วนี่ไงคุณนาย รอนิดๆหน่อยๆไม่ได้เลย”

“ห้ามว่าเรานะ นิลต่างหากที่ต้องถูกสอบสวน ตัวเองไปรู้จักกับพี่รันเมื่อไหร่ห๊ะ” ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ หวังจะให้ไอ้พี่รันช่วยพูดอะไรออกมาบ้าง แต่มันก็ดันทำท่าดูนกดูไม้ไปเรื่อยเปื่อย (นี่มันในตึก ไม่มีนกให้มึงดูหรอกไอ้มนุษย์ปลาหมึก!)

“เอ่อ เรื่องมันซับซ้อนน่ะ”

“ก็เล่ามาสิ เราจะรอฟัง” ยัยฟ้ายืนกอดอก ใบหน้าหวานเริ่มมุ่ยแสดงถึงอาการเหวี่ยงขึ้นมาแล้ว ผมหมดทางเลือกแล้วสินะ

“โอเคๆ เราจะเล่าให้ฟัง” ผมลากแขนนางมาให้ห่างไกลจากไอ้พี่รัน และเล่าทุกเรื่องในวันที่พี่เลมาหาผม แต่ยกเว้นเรื่องที่ผมถูกไอ้พี่รันลวนลามนะ พอยัยฟ้าฟังจบ ความ

“น้องนิลเล่าหมดแบบนี้ญาติพี่ก็ถูกคาดโทษหนักกว่าเดิมสิครับ” เสียงแขกไม่ได้รับเชิญดังขึ้นเมื่อผมเล่าจบ มันอัญเชิญตัวเองมานั่งข้างผมแล้วครับ แถมยังถือวิสาสะยกแขนมาพาดบนพนักเก้าอี้ผมด้วย

“พี่ไม่กอดผมเลยละครับ พาดซะขนาดนี้” ปากไวอีกล่ะ อยากจะตบปากตัวเองเหลือเกิน

“อ้าว แล้วก็ไม่บอก”

“พอเลยๆ ดูสถานการณ์ก่อน” ผมยกมือห้าม โชคดีที่มันยอมฟัง เพราะตอนนี้ดีกรีความเดือดของยัยฟ้ากำลังทะลุปรอท

“ฟ้าโอเคนะ?” ผมถาม

“อืม”ยัยฟ้าพยักหน้าแล้วก็นั่งเงียบ อันที่จริงในฐานะเพื่อนที่ดีต้องไม่ยุแยงตะแคงรั่วให้เพื่อนเลิกกับแฟนใช่ป้ะ แต่ในกรณีนี้ผมพูดไม่ออกจริงๆว่ะ เพราะว่าไอ้พี่เลมันก็จัญไรเหลือทน

“เรากลับบ้านก่อนดีกว่า ยังไม่อยากชกหน้าพี่รันตอนนี้” ฟ้าครามลุกจากโต๊ะและคว้ากระเป๋าเดินออกไปไม่รอผม เอาวะ อย่างน้อย
ยัยฟ้าก็เลิกซักไซ้เรื่องที่พี่รันมาหาผมแล้วละ

“อ้าว เกี่ยวอะไรกับพี่ละครับ” แต่ไอ้หน้าด้านนี่ยังไม่ลุกไปครับ

“ก็หน้าเหมือนกันขนาดนี้” ผมจิก “ยัยฟ้าไม่กระโดดถีบก็บุญแล้ว”

“ถ้าฟ้าถีบพี่ นิลจะต้องเป็นคนชดใช้” พี่รันทำตากรุ้มกริ่ม

“มะเหงกแน่ะ” ผมลุกจากโต๊ะบ้าง เก็บข้าวของใส่กระเป๋าแล้วเดินหนีออกมา

“ไปด้วยได้มั้ยครับ”

“เฮ้ย จะตามมาทำไมอีกเนี่ย ผมจะกลับบ้าน”

“ก็ขอไปบ้านด้วยสิ”

“ผมไม่เคยรำคาญใครเท่าพี่เลยรู้มั้ย”

“ได้ยินแบบนี้พี่ก็โล่งใจ แสดงว่าไม่เคยมีใครมาจีบน้องนิลของพี่” อ๊ากกกก ไอ้ปลิง ไอ้ปิศาจปลาหมุก ไอ้นรกจกเปรต กูเกลียดมึงงงงงงงง

“สรุปนี่คือพี่จะจีบผม?” มันพยักหน้ารับ

“ฝันไปเถอะ เกิดเรื่องแบบนี้กับยัยฟ้าผมทำใจเสวนากับพวกพี่อีกไม่ได้จริงๆ”

“มันคนละคนนี่ พี่กับไอ้เลน่ะ”

“ยีนส์เดียวกัน สันดานก็ต้องเหมือนกันบ้างละวะ”

“สันดานแปลว่าอะไรครับ” มันทำหน้าหมางงครับ

“โอ๊ย กลับบ้านพี่ไป๊ คุยไม่รู้เรื่องน่ารำคาญจริง” ผมอยากจะยกสองมือและสองตีนมากุมหัว ใครก็ได้ไล่ไอ้กะเหรี่ยงนี่ให้ผมทีคร้าบ

“นี่รถน้องนิลเหรอครับ น่ารักจัง” พี่รันมันพุ่งเข้าไปลวนลามพี่มะลิของผมทันทีที่เห็นเลยครับ ถ้าจะลูบไล้ขนาดนั้นไม่เอาทำเมียเลยละ!

“อย่ามายุ่งกับพี่มะลิของผมนะ”

“ชื่อน่ารักจังพี่มะลิ เพราะว่าสีขาวเหรอครับ”

“อือฮึ” ผมพยักหน้า พอมีคนชมพี่มะลิก็อารมณ์ดีทันทีครับ

“ขอพี่ลองขี่ได้มั้ย”

“เฮ้ยไม่ได้ ผมหวง”

“นิดนึงนะ แค่วนแถวๆนี้ก็พอ นิลขึ้นมาซ้อนด้วยก็ได้ถ้าไม่ไว้ใจพี่” ผมมองกะเหรี่ยงรูปหล่อทำสายตาเว้าวอน อย่ามาอ้อนนะ ผมยิ่งใจอ่อนง่ายๆอยู่

“งั้นก็ได้ แต่ผมจะซ้อนด้วย” พอผมอนุญาตมันก็แทบจะเหาะขึ้นไปนั่งบนเบาะเลยครับ ผมรีบตามไปซ้อนท้ายประกบก่อนที่มันจะเชิดพี่มะลิหนี

“จับเอวพี่ไว้นะ” มือใหญ่ของพี่รันถือวิสาสะจับมือผมไปกอดเอวเขาไว้ ยังไม่ทันหายตกใจกับความหน้าด้านของมัน มันก็พาพี่มะลิและตัวผมออกถนนใหญ่ไปแล้วคร้าบ

“เฮ้ยพี่รัน ไหนบอกจะขี่แถวๆนี้ไง นี่จะไปไหนวะ” ผมตะโกน

“ไปห้องนิลครับ”

“ไม่ได้ ผมบอกว่าไม่ให้ไปไงล่ะ” หงุดหงิดอ้ะ ทำไมมันเป็นคนฉวยโอกาสแบบนี้วะ

“ไม่ทันแล้วละ ยอมพี่ซะเถอะ”

“ยอมอะไรวะ โว้ยยยยย จอดรถเดี๋ยวนี้นะ” ผมโวยวายไปตลอดทางแต่พี่รันก็ไม่นำพา จนมาถึงคอนโดผมนั่นแหละรถถึงจอด

“ปะ ขึ้นข้างบนกัน” พี่รันพาพี่มะลิเข้าซองจอดได้ตรงเป๊ะไม่มีที่ติ แถมยังเนียนถอดกุญแจเก็บใส่กระเป๋ากางเกงตัวเองอีกต่างหาก

“กลับบ้านพี่ไป”

“อยากไปบ้านพี่?”

“ไม่ใช๊ ผมบอกว่าให้พี่กลับบ้านตัวเองไปซะ” อยากกรี๊ดจริงๆครับ ณ จุดนี้

“ไม่เอา ก็พี่อยากไปห้องนิลก่อน อยากไปเล่นกับไอ้เหมียวด้วย”


วันนี้เทพธิดาแห่งชัยชนะคงไม่เข้าข้างผม เพราะไอ้พี่รันมันเริ่มโวยวายเป็นเด็กอยากได้ของเล่น เพื่อนรวมคอนโดที่ผมทั้งคุ้นหน้าและไม่คุ้นหน้าก็มองมาที่เราสองคนด้วยความสอดรู้สอดเห็น สุดท้ายผมก็ต้องพามันติดสอยห้อยตามขึ้นมาด้วย เอาวะ ไหนๆก็ไหนๆ คุยกันให้รู้เรื่องไปเลยว่าพี่รันมันต้องการอะไร


“ไอ้เหมียว~” เคยเห็นผู้ชายตัวเท่าควายทำท่างุ้งงิ้งกับสัตว์เล็กมั้ยครับ ผมขายรูปใบละร้อยเอาปะละ ท่าทางของพี่รันดูเป็นคนที่ชอบแมวเอามากๆเลยนะจากที่ผมสังเกต ไอ้ริชชี่มันก็ไม่ขัดขืนเสียด้วยสิ ผิดวิสัยแมวหวงตัว

“มันชื่อริชชี่” ไม่ได้บอกใครนะ ผมแค่พูดลอยๆ ว่าแล้วก็ไปหาน้ำกินดีกว่า คอแห้งชะมัด (เพราะผมโวยวายมาตลอดทางสินะ)

“น้ำครับ”

“ขอบคุณครับ” พี่รันมันนั่งบนโซฟาของผมเรียบร้อยโดยมีไอ้ริชชี่นอนหงายให้เกาพุงอยู่บนตัก แมวอ้วนพุงหลามทำท่าสบายใจจนผมอยากจะฟัดพุงมันแรงๆ แต่มันคงจะตอบแทนผมด้วยกรงเล็บคมจากสี่ตีนเป็นแน่

“พี่รันครับ ผมถามตรงๆเลยว่าพี่มาตอแยกับผมทำไม” เวลาไม่เคยคอยใคร ชิงเปิดประเด็นก่อนย่อมได้เปรียบ

“นี่น้องนิลไม่รู้จริงๆหรือแกล้งโง่ครับ?” อุต๊ะ มันด่าว่าผมโง่ครับ

“เพราะผมฉลาดพอไง ถึงได้ถามว่าพี่ต้องการอะไรจากผมกันแน่ คงไม่ได้จะใช้ผมเป็นสะพานทอดไปถึงยัยฟ้าให้ญาติพี่หรอกนะ”

“มันไม่เกี่ยวกันเลย ไม่เกี่ยวกับฟ้า ไม่เกี่ยวกับไอ้เล ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น” พี่รันส่ายหัว สีหน้าจริงจังจนผมคิดว่าท่าทางกวนตีนของมันที่ผ่านมาคือการเล่นละครอย่างแนบเนียน

“มันเป็นเรื่องของเราสองคน”


เอาละ มาถึงตอนนี้คุณอย่าเพิ่งคิดว่าระฆังงานวิวาห์จะดังเหง่งหง่างเหนือหัวผมนะครับ อันที่จริงต้องบอกว่าผมขนลุกไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย เอาผีจูออนสิบตัวมาคลานยั้วเยี้ยตรงหน้าผมยังไม่หลอนขนาดนี้เลย


“ผมจะอ้วก” พร้อมกับทำสีหน้าแขยงรุนแรงที่สุดเท่าที่ผมเคยทำมาในชีวิต แต่แค่นี้คงไม่ครณามือมนุษย์หน้าด้าน พี่รันยังคงเกาพุงไอ้ริชชี่ต่อไปไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“พี่ชอบนิล อย่างที่บอกไปตอนแรก พี่ชอบหน้าตานิล ชอบรสนิยมนิล และคิดว่าเราน่าจะเข้ากันได้”

“ผมคิดว่าผู้หญิงที่หน้าตาสวยๆและมีรสนิยมเหมือนพี่ก็คงหาได้ไม่ยาก”

“นิลนี่แปลก เป็นเกย์แต่ไม่บ้าผู้ชายแฮะ”

“พี่ก็ประสาท มาตามตื๊อเกย์ที่เขาไม่เล่นด้วยอยู่ได้ ทำไมถึงหน้าด้านอย่างงี้เนี่ย” ผมยกขาขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนโซฟา แม้ใจจริงจะอยากเอาขาพาดหน้าไอ้พี่รันแค่ไหนก็ตาม

“พี่ถือคติน้ำหยดลงเพชร ทุกวันเพชรมันยังกร่อน”

“คำคมบ้าอะไร พิลึก”

“ก็เพชรมันแข็งกว่าหิน พี่รู้ว่านิลใจแข็ง แข็งเหมือนชื่อนิลที่เป็นอัญมณี” พี่รันโปรยยิ้มหวานหลอกล่อ ผมเกือบจะตกหลุมพรางแล้วถ้าไม่สะดุดกับสิ่งที่มันพูดเสียก่อน

“พี่พลาดแล้วละครับ ชื่อของผมไม่ได้หมายถึงอัญมณี แต่มันมีความหมายถึงความมืดต่างหาก” ผมกอดอกยิ้มด้วยสีหน้าของผู้ชนะ แต่เอ๊ะ ทำไมพี่รันมันดูไม่สลดเหมือนคนหน้าแตกเลยวะ

“งั้นก็ยิ่งดีใหญ่ เพราะชื่อของเราเข้ากันมาก”

“เข้ากันมาก? ตรงไหน ตัวเองชื่อ ‘รัน’ เนี่ยนะ”

“พี่ชื่อ Oran ครับ หมายถึงแสงสว่าง ถ้าเป็นภาษาไทยสะกดว่า โอฬาร ชื่อพี่มีความหมายทั้งภาษาพ่อและภาษาแม่เลยนะ”

“ผมสงสัยมานานแล้ว ว่าพี่เป็นลูกครึ่งใช่มั้ย” ไม่รู้ว่าการสนทนาของเราเบี่ยงประเด็นมาเป็นเรื่องชีวิตของพี่รันได้ยังไง แต่ผมรู้สึกว่าอยากจะให้ความสำคัญกับเรื่องตรงหน้านี้มากกว่าการหาเรื่องกัดกันต่อ

“ครับ พ่อพี่เป็นคนอังกฤษ”

“แต่โดยรวมหน้าพี่ไม่ค่อยฝรั่งเลยนะ มีแต่สีผมกับสีผิวนี่แหละที่ทำให้สะดุดตา” สีผมพี่รันมันสวยจริงๆนะครับ สีน้ำตาลอ่อนๆปนทอง เวลาอยู่กลางแจ้งมันสะท้อนกับแสงธรรมชาติเป็นประกายวิบวับเหมือนพระเอกการ์ตูนตาหวานเลยละคุณเอ๊ย บวกกับผิวขาวเนียนนั่นยิ่งสะดุดตาใหญ่ คิดแล้วก็อิจฉา ผมยังไม่ขาวเท่ามันเลยอะ ผมขาวเหลือง แต่พี่รันมันขาวแบบวิ้งๆ โอ๊ยยย อยากได้สีผิวแบบนี้มั่งงงงง

“เคลิ้มเชียวนะ ตกหลุมรักพี่แล้วใช่มั้ย” ชั้บ! ตัดฉากกลับมาที่ปัจจุบันได้แล้วครับ ขอบคุณความหน้าด้านหน้าทนของพี่ที่ดึงให้ผมกลับมายืนบนโลกได้นะครับ

“หลงตัวเองเนอะ” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ คนอะไรเอาน้ำร้อนสาดก็คงไม่ไป “พี่อยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะครับ เพราะยังไงผมก็คงไม่เปลี่ยนใจ”

“นิลไม่คิดแม้แต่จะให้โอกาสพี่พิสูจน์ความรู้สึกเลยหรือครับ” ใบหน้าหล่อเศร้าสลดลงมาทันตา ขนาดหน้าเศร้าแม่งยังหล่ออ้ะ

“พี่รันฟังนะครับ ผมรู้ตัวว่าสิ่งที่ผมเป็นไม่เหมือนคนอื่น ผมทำให้แม่ผิดหวังเพราะไม่สามารถมีหลานให้แม่อุ้มได้ เพราะงั้นผมก็ไม่ต้องการที่จะให้พ่อแม่ของผู้ชายที่ผมรักต้องมาผิดหวังแบบเดียวกับแม่ของผม คนที่ต้องเสียใจขอให้มีจำนวนน้อยที่สุดจะดีกว่า” บางครั้งความเป็นจริงก็โหดร้าย แม้ว่าผมจะรักแม่มากแค่ไหน อยากจะทำตัวให้แม่ภาคภูมิใจมากแค่ไหน แต่ผมก็ไม่สามารถให้ในสิ่งที่แม่ปรารถนาได้ทุกอย่าง ไม่อาจที่จะสืบทอดวงศ์ตระกูลให้แม่ได้...

“ทำไมถึงคิดมากจังนะเรา” พี่รันทำท่าเหมือนจะกุมมือผม ผมจึงยกแขนขึ้นมากอดอกแทน พี่รันเองก็เงียบไปเมื่อเห็นท่าทีที่ผมแสดงออกมา เขาก้มหน้าลงอุ้มเจ้าริชชี่ลงจากตัก

“พี่ว่าวันนี้พี่กลับก่อนดีกว่า” ร่างสูงนั้นลุกขึ้นจากโซฟา คนหล่อทำอะไรก็ดูดีไปหมด ผมคิดว่าผมหล่อแล้วนะ แต่พอมาเจอพี่รันนี่ทำเอาผมหมดความมั่นใจไปเลย

“เดี๋ยวผมไปส่งหน้าประตูครับ” ผมลุกตาม “แล้วพี่จะกลับยังไง”

“นั่งแท็กซี่ก็ได้” ผมพยักหน้า อยากจะอาสาไปส่งแต่ก็ห้ามปากไว้ทัน บางทีการรักษาระยะห่างเอาไว้คงจะเป็นหนทางเยียวยาที่ดีที่สุด


ทั้งที่ความจริงแล้ว...


คุณรู้มั้ย ตอนที่พี่รันเดินออกไปมันมีความรู้สึกโหยหาอย่างแรงกล้าเกิดขึ้นในใจผม ส่วนหนึ่งผมอยากจะเข้าไปดึงรั้งเขาไว้ และขอให้อยู่ด้วยกันต่ออีกสักนิด แต่อีกส่วนหนึ่งผมก็ปรารถนาให้เขารีบจากไปให้ไวและไกลที่สุด ก่อนที่ความมืดมิดที่สุดในใจของผมจะเห็นแก่ตัวจนดึงพี่เขามาผูกมัดไว้กับตัวเอง


ความมืดอย่างผมไม่สมควรจะได้เคียงคู่กับความสว่าง...


▂▂ ▃ ▄ ▅ ▆ ▇ █ █ ▇ ▆ ▅ ▄ ▃ ▂▂


ทักทายค่ะ
คุณ quiicheh. - พี่รันเป็นคนเจ้าเล่ห์มารยาค่ะ เหมาะกับคนซื่อบื้อแบบนิลดีนะคะ
คุณ BeeRY - ดีใจจังที่ยังจำกันได้ค่ะ เพิ่งเริ่มมีเวลาว่างหลังจากวุ่นวายมานาน ขอฝากให้ติดตามอีกเรื่องนะคะ
คุณ cher7343 - อย่าโกรธพี่เลเลยนะคะ พี่เลแค่ผู้ชายเฮงซวยหลงตัวเองคนนึงเท่านั้นเองค่ะ อิอิ
คุณ AGALIGO - เรื่องนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเลยค่า เล่นกันแบบตรงๆไปเลย คนเราควรมีความผิดพลาดกันบ้างเนาะ

สุดท้ายนี้ ขอฝาก US ≡ เรื่องรัก ♥ ระหว่างเรา ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนนะคะ
มีอะไรผิดพลาดก็ช่วยกันติชมได้เลยค่ะ  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-01-2014 16:25:37 โดย บีบีจัง »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
พี่รันต้องใช้ความพยายามมาก ๆ ในการจีบบน้องนิลนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ AGALIGO

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4

รันจริงจังใช่มั้ยเนี่ย

+ 1+ เป็ดจ้า

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
น่าติดตามมาก สนุกดี :mew1:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ขยันจีบนะพี่

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
นิลปากไม่ตรงกับใจจจ
พี่รันสู้ๆๆ

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
ตอนต่อไปขอสัปดาห์หน้านะคะ อาทิตย์นี้ขออ่านหนังสือสอบก่อนค่ะ

ออฟไลน์ Palmpalm

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
นิลคิดมากจัง รันอย่ายอมสู้ๆ ค่า

ออฟไลน์ ゚゚ღ✿ศิลินส์✿ღ゚゚

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 247
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +23/-4
อั้ยยะ! เพิ่งมาอ่านสนุกดีค่ะ

ชอบนิลอ่ะ นิลตรงดี ชอบนายเอกบุคคลิกแบบนี้ที่สุด พี่รันนี่ให้อิมเมจเจ้าชายมากก แต่จะซ่อนความเจ้าเล่ห์เอาไว้หรือเปล่านั้น....

จะรออ่านตอนหน้าค่ะ

 :mew1:

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
ชอบพี่รันนนนนน

ออฟไลน์ nevergoodbye

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1240
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ชอบตรงๆค่ะ อ่านง่าย สบายสมอง 55

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เอาใจช่วยพี่รันนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
พี่รันน่าจะเกินคำว่าด้านไปเยอะเลยอ่ะ :m20:
แต่ก็น่ารักดี ตื้อเยอะๆนะคะ นิลจะใจอ่อนแล้วมั้งนั่น :-[
สู้ๆกับการสอบนะคะ :L2:

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Chapter : 3 [แม่จ๋าของนิล]
«ตอบ #21 เมื่อ23-01-2014 12:50:28 »

Chapter : 3 [แม่จ๋าของนิล]


แม่โทรมาบอกผมว่าจะกลับมาไทยอาทิตย์หน้า พอเหมาะพอดีกับสัปดาห์นรกแห่งการสอบของผม แต่หากคิดว่าการสอบเป็นเหมือนนรกแล้ว การที่แม่มาเปรียบเหมือนสวรรค์บนดินดีๆนี่เอง เพียงแค่ผมคิดถึงอาหารการกินอันดุดมสมบูรณ์และห้องหับที่สะอาดเรี่ยมเร้ผมก็ฟินสุดๆ

“นิล จะมาอ่านหนังสือบ้านเรามั้ย” เสียงยัยฟ้าปลุกให้ผมตื่นจากภวังค์ กองหนังสือเบื้องหน้าสุมกันจนสูงเป็นตั้งท่วมหัว ผมนับเป็นตัวอย่างดีคนหนึ่งที่อ่านหนังสือก่อนสอบตั้งหนึ่งสัปดาห์ เป็นคนอื่นมันหวังน้ำบ่อหน้ามาให้ผมติวก่อนเข้าห้องสอบสิบนาทีเท่านั้นแหละ หึหึ
“อาทิตย์หน้าไม่ได้นะ แม่เรามา”
“แม่มาเหรอ! งั้นเราไปห้องนิลดีกว่า”
“เฮ้ย จะมาทำไม” ช่วงเวลาดีๆระหว่างไอ้ลูกแหง่แบบผมจะไม่ให้ยัยฟ้ามาขัดขวางแน่ครับ
“นิลไม่ให้เราไป แต่เดี๋ยวแม่ก็ต้องให้นิลโทรตามเราอยู่ดีแหละ ฮิฮิ” จริงอย่างที่ฟ้าครามพูด แม่ผมมาทีไรคอยแต่จะเรียกหายัยฟ้า ชวนมากินข้าวบ้างละ ชวนมากินขนมบ้างละ แม่ผมชอบคนน่ารักๆน่ะครับ (-..-)
“เออๆ งั้นตามใจฟ้าเถอะ”
“แล้วนี่ไม่ขึ้นเรียนเหรอ”
“อาจารย์ไม่สอนนี่ เขาแค่จะบอกแนวข้อสอบ ฟ้าไปสิ ไปจดแนวมาให้เราหน่อย”
“ไม่เอาอะ ฝากริวจดก็ได้ นั่งเล่นกับนิลที่นี่ดีกว่า” นางพูดแล้วก็พิมพ์ไลน์ไปหาไอ้ริวอย่างทันใจ พอลูกไล่ยัยฟ้ารับคำเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะจดแนวข้อสอบมาให้น้องฟ้าแล้วนางก็เก็บโทรศัพท์
“ช่วงนี้เป็นไงมั่ง” ถามตลกนะผม ใครมาได้ยินคงฟังแปลกๆ เจอกันทุกวันจะถามทำไม แต่สำหรับยัยฟ้าคงรู้ว่าที่ผมพูดนั้นหมายถึงอะไร
“หึ น่ารำคาญที่สุด โทรมาทุกวันเลยนะนิล บางทีก็ไม่พูด บอกว่าแค่อยากได้ยินเสียง เราโมโหก็เลยบล็อคเบอร์เขาไป แต่ดันโทรเข้าบ้านซะงั้นอะ แม่ก็ถามอยู่ได้ว่าทะเลาะอะไรกัน เราละอยากจะบอกแม่ไปให้สิ้นเรื่องสิ้นราวว่าเลิกกันแล้ว” ยัยฟ้าใส่มาเป็นชุด หน้าขาวแดงเรื่อบ่งบอกถึงความหงุดหงิดจริงๆ
“ปากไม่ตรงกับใจ” ผมยิ้ม
“หมายความว่าไง”
“ถ้าฟ้าคิดว่าตัวเองเลิกกับพี่เลเขาจริงๆก็คงบอกเรื่องทุกอย่างให้แม่ฟ้ารู้หมดแล้วละ แต่ที่ฟ้าไม่บอกท่านก็เพราะกลัวว่าท่านจะพาลเกลียดพี่เลไปด้วย ใจจริงฟ้าก็ยังอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมสินะ”
“นิลน่าจะไปเรียนจิตแพทย์นะ” หลังจากที่ยัยฟ้ามองผมอย่างอึ้งๆแล้วนางก็โพล่งขึ้นมา ผมหัวเราะก๊ากจนอาจารย์บรรณารักษ์ค้อนวงโตส่งมาให้
“ไม่ขนาดนั้นหรอก”
“ทำไมนิลถึงทายใจเราแม่นแบบนี้ละ เราน่ะอยากจะกลับไปดีกับพี่เลจริงๆแหละ”
“แล้วฟ้ารออะไรอยู่”
“เรากลัว กลัวมากเลยนะนิล เวลาที่เราได้ยินเสียงพี่เลหรือเห็นหน้า เราจะนึกไปถึงหน้าผู้หญิงคนนั้นทุกที ยิ่งพยายามลืมเท่าไรมันก็ยิ่งเกาะเราติดมากขึ้นเท่านั้น” ฟ้าครามขมวดคิ้วแน่น ผมยื่นนิ้วไปจิ้มตรงหว่างคิ้วเพื่อนสนิทแต่มันก็ยังขมวดแน่นขึ้น
“ไม่แปลกหรอกฟ้า กาลเวลาเท่านั้นที่จะช่วยได้ เชื่อเราสิ เมื่อเวลามันผ่านไปฟ้าก็จะรู้สึกว่าเรื่องนี้มันไม่ได้เจ็บปวดเหมือนแรกๆที่รู้อีกแล้ว ต้องให้เวลามันหน่อยนะ”
“มันจะนานเท่าไรละนิล” ฟ้าครามดึงนิ้วผมออกจากคิ้วเธอ และเอามือตัวเองจับกับมือผมแน่น บางครั้งฟ้าครามก็ชอบการสัมผัสถึงเนื้อถึงตัวกับผมแบบนี้เสมอ เป็นเกย์นี่มันได้กำไรจริงๆนะเออ
“มันอาจจะนานเป็นปีๆก็ได้” ผมยิ้ม “ก็ถือโอกาสนี้เป็นการทดสอบความจริงใจของพี่เลเลยสิ”
“นี่นิล... นิลไม่คิดจะคบกับผู้หญิงเลยเหรอ” ผมผงะ จู่ๆยัยฟ้าเปลี่ยนมาเป็นเรื่องชีวิตรักของผมได้ยังไงเนี่ย
“ทำไมวนมาเรื่องเราละฟ้า”
“นิลรู้ตัวมั้ย ว่านิลมีนิสัยที่เป็นอุดมคติผู้ชายในฝันของเราเลยนะ ถ้าเราคบกันคงไปได้ดีแน่ๆ”
“ไปได้ดีแน่ๆถ้าเราชอบฟ้าอย่างที่ผู้ชายชอบผู้หญิงสักนิด” สีหน้ายัยฟ้าหมดความมั่นใจอย่างแรงเมื่อได้ยินที่ผมพูด ทำเอาผมหัวเราะอีกครั้ง
“นิลทำเราหมดความมั่นใจ” นางเบะปาก
“อันที่จริงฟ้าก็ไม่ควรเริ่มจีบเกย์ก่อนนี่นะ ฮ่าๆ”
“มันขนาดนั้นเลยเหรอนิล นิลไม่เคยรู้สึกชอบผู้หญิงคนไหนในทางชู้สาวเลยเหรอ”
“ถ้าเรามีโอกาสได้ชอบผู้หญิงสักคนแบบนั้นจริงๆ เราคงไม่ปล่อยให้เธอคนนั้นหลุดมือแน่ๆ”
“งั้นเราจีบนิลดีมั้ย เผื่อนิลจะหลงรักเรา”
“เพื่อที่ฟ้าจะได้หักอกเราไปหาพี่เลน่ะเหรอ ไม่เอาหรอก อกหักเจ็บจะตายชัก”
“แน่ะ พูดแบบนี้แสดงว่าเคยอกหักสินะ ไม่ต้องมายิ้มเลย เล่ามาซะดีๆ” ผมรีบเก็บของหนียัยฟ้าออกมาจากห้องสมุดทันที ไหนๆก็ไม่เข้าเรียนแล้วหนีกลับไปตั้งหลักที่คอนโดดีกว่า


 วันนี้ผมมารับแม่ที่สุวรรณภูมิแต่เช้า เครื่องลงแปดโมง แต่ผมมาถึงตั้งกะหกโมงครึ่ง จะทำอะไรดีวะ? นั่งหลับดีมั้ย? ไม่เอาดีกว่า ไปหาอะไรใส่ท้องเถอะ ผมถือคติวันนึงมีเวลากินหกชั่วโมงตั้งแต่มื้อแรกถึงมื้อสุดท้าย แต่ถ้าพ้นจากหกชั่วโมงนี้ไปแล้วจะไม่กินอะไรอีก รักษาหุ่นนิดหนึ่งครับ สุขภาพดีสร้างได้ด้วยตนเอง

ผมเลือกเดินเข้าร้านฟาสต์ฟู้ดและสั่งสลัดกับเฟรนช์ฟรายมากินเล่น มือหนึ่งก็เล่นไอโฟนไปด้วย เผลอแป๊บเดียวก็เจ็ดโมงสี่สิบห้าแล้ว ผมยกถาดไปเก็บตรงที่ของมันและเดินไปรอที่หน้าช่องผู้โดยสารขาออก ขณะที่ผมกำลังหาจุดยืนรอที่เหมาะๆอยู่นั้นสายตาภายใต้แว่นของผมก็เหลือบไปเห็นบางสิ่ง

พรหมลิขิตขีดเขี่ยให้เหี้ยเดินคือคำอุปมาที่เป็นจริงที่สุดสำหรับผมในตอนนี้ครับ

ไอ้พี่รันเดินลากกระเป๋าออกมาจากประตูผู้โดยสารขาออก ขนาดว่ามันใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวกับกางเกงยีนส์ และมีแว่นดำปิดไปครึ่งหน้าผมก็ยังจำมันได้ จำได้จากลักษณะท่าทาง และ เอ่อ... ความรู้สึกบางอย่างที่มันฝังแน่นในใจผมน่ะ

ผมรีบเขยิบไปแอบหลังฝูงคนที่มารอรับญาติอย่างว่องไว พี่รันมันเดินมาคนเดียวครับ มิน่าละ ที่ช่วงนี้มันหายหน้าไปหลายวันก็คงเพราะไปต่างประเทศนั่นเอง ผมแอบโหวงๆในใจนิดหนึ่งนะ จะตัดพ้อว่ามันไปไหนไม่บอกกล่าวก็พูดได้ไม่เต็มปาก เพราะผมไม่ได้อยู่ในสถาะที่จะไปงอนอะไรเขาได้ อีกส่วนหนึ่งผมก็สมเพชตัวเองที่หลงคิดไปว่าจะมีผู้ชายมาชอบผมจริงๆ ช่างไม่รู้จักเจียมตัวเสียเลย
“เขาไปแล้วละพ่อรูปหล่อ” หือ? เสียงใครวะครับ
“พ่อรูปหล่อแอบเจ้าหนุ่มแว่นดำนั่นใช่ไหมละ เขาไปพ้นแล้วล่ะ” ผมเงยหน้าขึ้นมองคุณยายตัวเล็กๆที่ยืนอยู่ข้างหน้าผมแล้วหัวเราะเสียงแห้ง ยายนี่ช่างสังเกตเนาะ
“เป็นคู่กรณีกันใช่ไหมละ ไม่ถูกกันใช่หรือเปล่า” คุณยายเคี้ยวหมากหยับๆถามผมอย่างอารมณ์ดี สงสัยยายจะดูหนังเยอะไปนะครับ
“ก็ประมาณนั้นละครับ”
“วัยรุ่นก็ยังงี้แหละลูก ต้องมีศัตรูกันบ้างจะได้สมเป็นลูกผู้ชาย” เออะ... คำพูดยายแทงใจผมดังอั้กเลยครับ ถ้ายายรู้ว่าผมแอบผู้ชายคนหนึ่งเพราะปัญหาเรื่องหัวใจไม่ใช่เรื่องศัตรูแบบแมนๆ คุณยายจะช็อกหรือเปล่านะ
“เอ่อ ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“จ้ะ โชคดีนะพ่อหนุ่ม”

ผมเลี่ยงหนีจากคุณยายหัวใจวัยรุ่นได้ก็มาเดินป้วนเปี้ยนใกล้ๆประตูผู้โดยสารขาออก ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูนี่มันเลยแปดโมงมาสิบนาทีแล้วนี่หว่า หวังว่าคุณนายคงไม่ได้ไปเดินโต๋เต๋เพลิดเพลินอยู่ที่ดิวตี้ฟรีหรอกนะ พอคิดอย่างนั้นแล้วก็เลยคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาจะกดโทร แต่ก็มีเสียงตะโกนเรียกชื่อผมขึ้นมาก่อน
“นิล” ผมเงยหน้ามองตามเสียง
“แม่อยู่นี่ลูก” ชัดเลย อาเจ๊เชิ้ตขาวกางเกงยีนส์เดินมาบนส้นสูงปรี๊ดทำเอาเจ้าของความสูง 155 ซม. กลายเป็น 162 ซม. ได้ในบัดดล ผมกลั้นยิ้มไม่อยู่ขณะเดินตรงเข้าไปหาคุณนายแม่ ตัวก็นิดเดียวทำไมเข็นอะไรออกมาเยอะแยะมากมายเหลือเกิน
“คิดถึงจังเลยครับ” แม่ดูผอมลงไปเยอะเลยครับ แต่โดยรวมกลับสวยเป๊ะยิ่งกว่าเดิม แถมตัวนี่แน่นปั้กเลย
“แม่เล่นฟิตเนสหนักเหรอครับ”
“ก็แม่แก่แล้ว ต้องออกกำลังกายเยอะๆ จะได้แข็งแรงไง” คุณนายยิ้มกว้าง ผมอดไม่ได้ที่จะหอมแก้มนางฟอดใหญ่ หัวใจผมทั้งดวงมอบให้ผู้หญิงคนนี้ไปหมดแล้วครับ
“แม่ยังไม่แก่เลย ยังสวยเช้งกระเด๊ะแบบนี้มีไอ้หนุ่มที่ไหนแอบมาโปรยขนมจีบหรือเปล่าครับ”
“อู๊ย ไม่มีหรอกลูก” ผมรู้ว่าถึงแม่จะบอกแบบนั้น แต่ความจริงแม่เป็นคนที่ฮอตมาก สเน่ห์ของแม่ไม่ได้อยู่ที่ความสวยและรูปร่างเพอร์เฟ็คท์ แต่นิสัยและสเน่ห์ปลายจวักของแม่ต่างหากที่ทำให้ใครๆหลงรักได้ไม่ยาก แม่ผมทำอาหารทั้งคาวหวานอร่อยที่สุดในโลกเลยนะคร้าบบบบบ อิอิ

“นิล น้องนิลใช่ไหมครับ” หือ ใครอีกวะ วันนี้ผมเจอคนรู้จักบ่อยจริง
“เฮ้ย!” เสียงอุทานของผมตอนที่เห็นหน้าคนที่มาเรียกทำให้แม่ผมสะดุ้งไปด้วย ก็ไอ้หน้าหล่อนี่สิครับมายืนมองผมด้วยสายตาวิบวับตั้งแต่เมื่อไรกัน
“เพื่อนนิลเหรอลูก” ฉิบหายละ รังสีความหล่อระบาดมาถึงคุณนายแม่ของผมแล้ว เธอมองไอ้พี่รันด้วยสายตาปลาบปลื้มแบบสุดๆไปเลยครับ
“เอ่อ แค่คนรู้จักน่ะครับ” แน่นอนว่าพอผมพูดแบบนั้นพี่รันหน้าสลดทันที “มันซับซ้อนน่ะครับแม่ คือพี่รันเขาเป็นญาติกับแฟนยัยฟ้าครับ”
“หนูฟ้ามีแฟนแล้วเหรอเนี่ย ตายละ แม่รู้สึกเหมือนแม่ไม่ได้กลับมานานมาก ทำไมอะไรๆก็เปลี่ยนไป ลูกแม่ก็ดูเป็นหนุ่มหล่อขึ้นตั้งเยอะ”
“แล้วสุดหล่อคนนี้ชื่อรันหรือจ๊ะ”
“ครับ สวัสดีครับคุณแม่” พี่รันยิ้มกว้างโชว์ฟันขาวจั๊ว 32 ซี่ ผมหมั่นไส้เลยแอบหยิกเอวไปหนึ่งที
“ไปกันดีกว่าครับแม่ จะได้กลับไปพักผ่อน”
“อู๊ย พักผ่อนอะไรกัน แม่อยากจะหาอาหารใส่กระเพาะก่อนเป็นอันดับแรกจ้ะ ว่าแต่รันก็เพิ่งลงเครื่องหรือจ๊ะ หรือว่ากำลังจะไปขึ้นเครื่อง”
“ผมเพิ่งลงเครื่องครับ”
“อ้าว เหรอจ๊ะ มาจากไหนละเรา”
“ผมไปทำธุระที่ LA มาครับ” ผมยืนมองแม่ซักไซร้ไอ้พี่รันยังกับจะสอบสัมภาษณ์ลุกเขย คิดแล้วก็น้อยใจนัก แทนที่จะให้ความสนใจลูกตัวเองมากกว่า
“เอ่อ เปลี่ยนลูกใหม่เลยมั้ยครับแม่” ผมแขวะด้วยความอิจฉาแกมหมั่นไส้
“แหม ตานิล ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก แต่ขอลูกชายเพิ่มอีกคนได้มั้ยละ” แม่ผมค้อนใส่ แต่ไอ้พี่รันดูจะถูกใจที่แม่ผมพูดมากมาย
“ถ้าคุณแม่ไม่รังเกียจผม ผมก็ยินดีเป็นลูกชายอีกคนให้คุณแม่ครับ” พี่รันยิ้มหวานโปรยสเน่ห์เจิดจ้าหนึ่งพันวัตต์ ถ้าบ้านคุณไม่มีไฟฟ้าใช้ก็มาต่อตรงจากตัวพี่รันได้เลยนะครับ
“แม่ครับ กลับบ้านกันเถอะ”
“ฮื้อ ลูกคนนี้ งอแงอีกแล้ว อ้ะ งั้นไปกันเถอะ ไว้เจอกันนะจ๊ะรัน”
“ได้ครับ อ้อ! ว่าแต่คุณแม่จะอยู่กี่วันหรือครับ”
“ประมาณครึ่งเดือนแหละจ้ะ”
“งั้นเดี๋ยวผมขอโอกาสพาคุณแม่ไปทานข้าวบ้างได้มั้ยครับ”
“ต๊าย งั้นแม่ก็จะขอเลี้ยงอาหารฝีมือแม่ให้รันบ้างนะจ๊ะ”

ครับ หลังจากที่ ‘แม่ของผม’ และไอ้พี่รันคุยเจ๊าะแจ๊ะกันอีกห้านาทีถึงได้ฤกษ์เคลื่อนย้ายออกจากสนามบิน ตอนแรกมันจะไปส่งผมด้วย แต่พอเห็นสายตาอาฆาตของผมมันก็ปิดปากเงียบและจากไปแบบจ๋อยๆ สะใจจริงครับ
“รันเนี่ย นิลเพิ่งรู้จักเหรอลูก” แม่ผมถามขึ้นมาตอนอยู่บนแท็กซี่ ทำเอาผมสะดุ้งโหยง
“อ๋อ ครับ เขาก็ติดสอยห้อยตามมากับพี่เลแฟนยัยฟ้า นิลก็เลยบังเอิญรู้จักไปด้วย”
“เขาหล่อดีเนอะ”
ผมก็ได้แต่เงียบครับ ไม่รู้ว่าแม่คิดอะไรอยู่ เห็นเงียบๆยิ้มๆแบบนั้นแต่ในใจวางแผนไปร้อยตลบแล้วนะครับอย่าได้ประมาท หึหึ

พอเราสองคนมาถึงบ้าน คุณนายก็ชี้นิ้วสั่งให้ผมเอาสัมภาระทั้งหมดไปเก็บ ส่วนตัวเองขอเข้าไปสำรวจสภาพในครัว ไม่ต้องงงนะครับ นายแม่ผมมีงานอดิเรกคือการทำอาหาร ซึ่งผมไม่ได้รับการถ่ายทอดคุณสมบัตินี้มาเลยแม้แต่น้อย เพราะฉะนั้นในครัวผมจึงมักจะสะอาดเอี่ยมเพราะไม่ได้รับการแตะต้องนั่งเอง

อ๊ะๆๆๆ แต่ผมชอบทำขนมนะเออ พวกเค้ก พาย อะไรพวกนี้ผมทำได้เป็นอย่างดี หรือจะพูดให้เห็นภาพก็คือ ของกินที่ต้องมีการชั่ง ตวง วัด อย่างเป็นรูปธรรมนั้นผมจะทำได้ดี แต่ถ้าเป็นอาหารคาวที่ต้องใช้ฝีมือจริงๆนั้นผมขอผ่าน แบบว่าต่อมรับรสของผมมันคงไม่ค่อยดีละมั้ง

“นิล”
“ครับแม่”
“พรุ่งนี้ชวนหนูฟ้ามากินข้าวสิลูก วันเสาร์พอดีนี่นา ไม่มีเรียนใช่มั้ย”
“ได้คร้าบ” ผมส่งไลน์ไปหายัยฟ้าทันทีก่อนที่ผมจะลืม เรื่องของกินฟ้าครามไม่เคยปฏิเสธอยู่แล้ว แถมยังบอกให้ผมทำเค้กกล้วยหอมให้กินอีกต่างหาก
“แล้ววันนี้แม่จะทำอะไรให้นิลกินครับ” ผมเดินเข้าไปในครัว เห็นแม่ถือซองบางอย่างไว้ในมือ ส่วนอีกมือถือแท่งยาวๆสีแดงให้ไอ้ริชชี่กิน
“สปอล์ยแมวอีกละแม่”
“แหม ก็ริชชี่น่ะ จำแม่ได้ เดินมาพันแข้งพันขาใหญ่เลย แม่ก็เลยให้รางวัลที่ทำตัวน่ารักนิดหน่อยเองลูก” ผมยืนมองหญิงวัยใกล้สี่สิบป้อนขนมให้แมวอย่างเพลิดเพลิน ดูท่ามีหลายห่อด้วยนะครับไอ้ขนมแมวเนี่ย แถมเป็นเกรดพรีเมี่ยมเสียด้วยสิ
“อ๊ะ จริงสิ แม่มีปลอกคอมาฝากริชชี่ด้วยนะลูก” ครับ ไอ้ริชชี่เป็นลูกชายอีกคนของนายแม่ ส่วนผมเป็นพี่ชายไอ้ริชชี่ ปลอกคอโซ่เงินเส้นเล็กๆเป็นประกายวาววับมีป้ายชื่อเงินสลักคำว่า RICHIE เอาไว้ ผมยังจำได้ว่าหนก่อนที่แม่สั่งทำปลอกคอมาให้มัน แม่ทำตัว C เกินมาตัวนึงด้วย
“แล้วสรุปลูกแม่คนนี้จะได้กินอะไรครับวันนี้”
“หืม ไม่บอกหรอก เอาไว้เซอร์ไพรส์ ตอนนี้เราไปเปิดของฝากกันดีกว่า” แม่อมยิ้มและมาควงแขนผมออกไปที่ห้องนั่งเล่น

ข้าวของกองพะเนินที่กองอยู่ตรงหน้านี้แยกได้เป็น 3 ส่วน คือของฝากผม ของฝากริชชี่ และของฝากยัยฟ้า ที่แม่ซื้อของมาฝากแค่สามคนก็คงเพราะว่าผมและแม่ไม่มีญาติเหลืออยู่ที่ไหน ไม่ใช่ว่าตายกันหมดนะครับ แต่แม่เลือกที่จะตัดขาดจากคนพวกนั้นมามากกว่า ซึ่งผมไม่อยากจะพูดถึงมันสักเท่าไร

“นี่ๆ ตัวนี้แม่ชอบมาเลยนะ แม่ว่าใส่แล้วต้องเหมาะกับผิวขาวๆของนิลแน่เลย” แม่หยิบเสื้อเชิ้ตสีดำสนิทมาทาบกับตัวผม แต่ด้วยขนาดลำตัวที่กว้างและยาวเกินปกติที่ผมจะใส่ได้ทำให้แม่หยิบป้ายไซส์ขึ้นมาดู
“ต๊าย ไซส์แอล ชั้นอุตส่าห์บอกคนขายแล้วนะว่าเอาไซส์ S น่าโมโหจริงเชียว”
“ไม่เป็นไรครับแม่ เก็บเอาไว้แหละ เผื่อผมตัวใหญ่กว่านี้ก็คงใส่ได้” ผมปลอบใจคุณนาย แต่เธอก็ยังคงบ่นกระปอดกระแปดไปเรื่อย ก็เข้าใจนะครับ แม่ตั้งใจซื้อมาฝากผมนี่นา พอเห็นแม่เซ็งๆผมก็เลยแกะเอากางเกงยีนส์ที่แม่ซื้อมาใส่อยู่ห้อง แม่ผมชมไม่หยุดเลยว่าผมใส่แล้วเหมาะอย่างนู้นหล่ออย่างนี้ คนเห่อลูกคุณรู้จักใช่ไหมครับ

หลังจากที่ผมพาแม่ไปเดินซื้อกับข้าวแล้วก็กลับมานอนเอกเขนก เล่นกับแมวบ้าง ไปกวนแกม่ในครัวบ้าง มื้อเย็นวันนั้นแม่ผมจัดอาหารขึ้นโต๊ะเต็มอัตราศึกเลยครับ ไก่อบจันทร์เทศน์ สเต็กเนื้อแบบมีเดียมแรร์ ซีซาร์สลัดผักกาดแก้วใส่ผลแบล็คเคอร์เรนท์อบแห้ง แซลมอนกริลล์แค่ผิวนอกกินกับมะนาวบีบ ซาซิมิแซลมอน ต้มยำกุ้งแม่น้ำ เฮ้ย นี่มันอาหารนานาชาตินี่หว่า แต่มันเป็นของโปรดผมทั้งหมดเลยนะนี่ ที่สำคัญเรากินกันหมดด้วยละ ฮ่าๆ


ติ๊ง ต่อง

อืม ห้องใครวะ มีคนมากดออดแต่เช้า

ติ๊ง ต่อง

ควับ ผมหยิบหมอนขึ้นมากดหู รำคาญจริง ทำไมไอ้เจ้าของห้องไม่ไปเปิดสักที อาห์ เสียงเงียบพอดีเลยแฮะ สงสัยจะรู้ว่าผมแอบด่าในใจ


"..."
"....จ้ะ..."
"......"



เสียงพูดคุยจุ๊กจิ๊กดังมาจากนอกห้องนอน แม่คุยโทรศัพท์กับใครอะ ผมนอนหลับตาฟังอยู่สักพัก เสียงผู้ชายก็ดังลอยมา

“เหยด!!” ผมดีดตัวผึงจากที่นอน หันไปมองนาฬิกาที่บอกเวลาใกล้เที่ยง มันไม่ใช่ตอนเช้านี่หว่า แต่จะเที่ยวแล้วต่างหาก แม่ก็ไม่เข้ามาปลุกผมบ้างเลย และไอ้เสียงผู้ชายนั่นก็คุ้นหูผมเหลือเกิน อย่าบอกนะว่า...


“แม่~” ผมโผล่พรวดออกไปทันที ชายหญิงสองคนหันมามองผมแบบประหลาดใจ โดยเฉพาะไอ้ตัวผู้ที่มันทำสายตาวิบวับเหลือเกิน
“ตายแล้วลูก ทำไมไม่ใส่เสื้อแสงให้เรียบร้อย พี่รันเขามาหาเนี่ย” ผมผงะ ก้มมองตัวเอง ใส่กางเกลผ้าฝ้ายขายาวตัวเดียวโดดๆ ไร้อาภรณ์ปิดกายท่อนบน พี่รันที่แต่งตัวรูปหล่อเต็มยศคงกะมาอ่อยแม่ผมให้ตกหลุมพรางเป็นแน่
“มะ ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ นิลเป็นผู้ชายนะ” แม้จะร้อนๆหนาวๆจากสายตาไอ้พี่รันที่จ้องเอาๆ แต่ผมก็ทำใจดีสู้เสือ ไม่มีทางตุ๊ดแตกต่อหน้าแม่เด็ดขาด!
“พี่จะมองอะไรนักหนาครับ ตัวเองไม่เคยถอดเสื้อหรือไงล่ะ”
“ครับ” ไอ้ ‘ครับ’ เนี่ยมันแปลว่าอะไรวะห๊ะ สุดท้ายแล้วผมก็ยอมแพ้สายตาไอ้พี่รัน แล้วเดินกลับเข้าไปในห้องนอนเพื่อหาเสื้อมาสวมทับกันอุจาด


“แล้วพี่มาทำไม” ผมเดินเข้าไปพูดใกล้ๆพี่รันพอให้ได้ยินกันสองคน แม่ผมกำลังสาละวนทอดแพนเค้ก คงไม่มาสนใจพวกผมหรอกครับ
“ก็คิดถึง ไม่เจอกันตั้งหลายวันนิลไม่คิดถึงพี่บ้างหรือครับ”
“ฮึ้ย ขนลุก คิดถงคิดถึงอะไร เราไม่ได้เป็นแฟนกันสักหน่อย”
“ก็เป็นซะสิครับ” เหยด อย่ามายิ้มหวานหยาดเยิ้มให้ผมนะ เดี๋ยวผมใจอ่อน
“อย่ามาหยอด ผมไม่ชอบ” ว่าแล้วก็สะบัดหน้าใส่ มาคิดอีกทีก็โมโหที่ตัวเองทำอะไรสาวแตกแบบนั้นว้า~


“รันทานข้าวมารึยังลูก แต่ทานแล้วก็ไม่เป็นไรเนอะ มาทานอีกรอบก็ได้” แม่ผมพูดไปก็ขำคิกคักไป ขำอะไรครับคุณนาย
“บ้านนี้มื้อเช้ามื้อเที่ยงควบกันเลยนะลูก เจ้าของบ้านเขาตื่นสายเป็นกิจวัตรน่ะ หึหึ”
“แม่อ้ะ ก็นี่มันวันหยุดนิ”
“แทนที่จะตื่นแต่เช้ามาดูแลถามไถ่ว่าแม่หิวหรือเปล่าก็ไม่มีเล้ย”
“แม่ทำเองยังมีโอกาสได้กินมากกว่านิลทำนะ” ผมนั่งลงบนเก้าอี้ทานข้าว บนโต๊ะมีแพนเค้กสูตรเด็ดของแม่ที่ทอดสุกแล้ววางอยู่สองกองใหญ่ แหม ทอดเหมือนรู้ว่าจะมีคนมากินด้วยเลยเนอะ แล้วยังมีพวกเยมผลไม้ต่างๆ ไซรัปหลากรส ช็อกโกแล็ต เนย เอาไว้ให้ทาหน้า พวกหน้าของคาวอย่างแฮม ไข่ดาวก็มีครับ
“รันเอาน้ำอะไรดีลูก กาแฟมั้ย”
“ได้ครับ ขอบคุณครับ”
“เอ๊ะ พี่รัน ทำไมยังมานั่งเนียนอยู่เนี่ย หน้าด้า- โอ๊ย” ผมรองเสียงหลงพร้อมกับเสียงเพียะที่ต้นแขน นายแม่ฟาดดัชนี้ลงมาครบทั้งห้านางเลยครับ
“นิล ทำไมพูดไม่เพราะเลยละ ก็เป็นเพื่อนกันรู้จักกันจะมาเที่ยวบ้างเป็นไรไป แม่ทิ้งให้นิลอยู่ที่นี่คนเดียวก็เพราะนิลบอกว่าไม่อยากไปอเมริกา ทั้งที่แม่เป็นห่วงนิลจะแย่ แต่พอแม่เห็นนิลมีเพื่อนดีๆที่ไว้ใจได้มันทำให้แม่หายห่วงนะลูก” ผมหน้าสลดทันทีที่แม่เริ่มจริงจัง มันก็จริงแหละครับ เพราะผมเองที่ดื้นรั้นไม่อยากไปอยู่กับแม่... ทั้งที่จริงๆแล้วผมควรจะอยู่เคียงข้างแม่หรือเปล่า แต่ด้วยอะไรหลากหลายอย่างทำให้ผมไม่สามารถตัดใจจากเมืองไทยได้จริงๆครับ เอาไว้วันหลังผมจะเล่ารายละเอียดให้คุณฟังแล้วกันนะ
“คุณแม่ครับ อย่าดุน้องเลยครับ ปกติเราก็คุยเล่นกันแบบนี้แหละ” พี่รันใช้บทบาทพระเอกเข้ามาทำให้แม่ผมใจอ่อน ซึ่งมันก็ได้ผล เพราะกลายเป็นว่าตอนนี้คุณนายนอกจากจะเอ็นดูยัยฟ้าแล้ว ยังปลื้มพี่รันเอามากๆเสียด้วย

และแน่นอนว่ามื้อเย็นวันนี้ที่ยัยฟ้าจะมากินข้าวด้วย อีพี่รันมันก็มาสิงอยู่คอนโดผมตลอดทั้งวันเลยครับ ยัยฟ้าพอเห็นหน้าพี่รันก็หางฟูหูตั้งทันทีทันใด แต่ไม่รู้ว่าพี่รันทำอีท่าไหน เห็นดึงยัยฟ้าไปคุยงุบงิบอะไรกันสองคนแป๊บเดียว ยัยฟ้าก็มีท่าทีญาติดีขึ้นมาเชียว

ตอนแรกยัยฟ้าจะขอนอนด้วย แต่ติดที่ว่าไม่ได้ขอพ่อกับแม่ว่าจะมาค้าง แถมพ่อกับแม่ต้องไปบ้านญาติ ยัยฟ้าเลยต้องกลับไปนอนเฝ้าบ้านโดยมีไอ้พี่รันไปส่ง
“ห้ามพาฟ้าครามนอกลู่นอกทางนะ” ผมกำชับ ไอ้หน้าหม้อตระกูลนี้ไม่น่าไว้ใจ
“พี่มีแต่นิลคนเดียวแหละครับ คนอื่นพี่ไม่สนหรอก” พี่รันทำตาหวานเยิ้ม
“หมั่นไส้พี่รัน รีบไปเลย” ยัยฟ้าเร่ง
“ฟ้านี่ทำไมพูดมากจังครับ พูดมากแบบนี้ระวังผู้ชายจะหนีหมด พี่ไปก่อนนะครับนิล”
“ผู้ชายหนีไปได้กันเองหมดน่ะสิ บ๊ายบายนะนิล”
ผมยืนมองคนสองคนที่ด่ากันไปแต่ก็ไม่ลืมที่จะหันมาบอกลาผม ผมโบกมือให้ทั้งสองคนแบบงงๆ อย่างนี้เขาถือว่าแยกสมาธิได้ดีหรือเปล่าครับ?
“ไป ริชชี่เข้าบ้าน” ผมตวัดเท้าลากไอ้เหมียวที่แหยมหน้ามานอกประตูให้กลับเข้าไป มองส่งสองคนนั้นลงลิฟต์แล้วจึงปิดประตูเดินกลับเข้าห้อง



▂▂ ▃ ▄ ▅ ▆ ▇ █ █ ▇ ▆ ▅ ▄ ▃ ▂▂


กราบขอโทษค่ะ.... ลืมไปว่าตัวเองลงนิยายอยู่  :hao5:
ดีนะมีสต็อค



ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
พี่รันน่ารักอ่ะะ นิลใจอ่อนเร็วๆนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
พี่รันนี่แสดงออกชัดเจนมากอ่ะ ขนาดฟ้าแสนจะน่ารักยังว่าพูดมากได้ลงคอ :m20:
แต่นิลก็น่ารักน่าเลิฟจริงๆแหละ ใครอยู่ใกล้ก็หลงรัก ได้คุณแม่มาเต็มๆเพราะคุณแม่ก็น่ารัก  :o8:

บีบีจัง

  • บุคคลทั่วไป
Chapter : 4 [ข่าว]
«ตอบ #25 เมื่อ24-01-2014 12:42:00 »

Chapter : 4 [ข่าว]


เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหกนะครับ เผลอแป๊บเดียวแม่ก็มาอยู่ได้ครึ่งเดือนแล้ว และมะรืนนี้แม่ก็จะกลับแล้วด้วยสิ วันนี้ผมก็เลยต้องพาแม่ไปเดินซื้อของฝากจากเมืองไทยให้คนรู้จักที่โน่น และก็แน่นอนว่ามีมนุษย์ปลิงหนึ่งตัวติดสอยห้อยตามมาด้วย ดีแล้วละครับ เอามาช่วยถือของ

“นิล พี่หิวน้ำจังครับ” ผมหันไปมองมนุษย์ปลิงผิวขาวจั๊วในชุดเสื้อโปโลและกางเกงขาสามส่วนกับรองเท้าผ้าใบ ใบหน้าขาวๆมีเหงือซึมจนเหมือนมันจะสะท้อนแดดระยิบระยับ เอาละ พอๆ มันจะโมเอะไปแล้ว
“แป๊บนึงนะ เดี๋ยวผมไปซื้อให้” ผมเดินไปสะกิดบอกแม่ว่าจะไปซื้อน้ำ คุณนายสั่งโค้กซีโร่หนึ่งขวดและหันไปเลือกกระเป๋าสานต่อ ทำไมจตุจักรคนมันเยอะงี้วะ!!! 


ผมได้โค้กมาให้คุณนายและน้ำแร่ให้พี่รัน พี่รันมันชอบกินน้ำแร่ครับ เอ๊ะ แล้วผมเสือกรู้รสนิยมมันได้ไงเนี่ย
“ป้อนหน่อย” ตามนั้นครับ ผมเปิดฝาและเอาหลอดใส่ให้ พี่รันคนเดียวดูดไปครึ่งขวดเลยครับ สงสัยจะหิวจริงๆ ดีนะ ผมซื้อมาสองขวด
“ชื่นใจจังครับ”
“ไม่ต้องมาทำตาพราว เดี๋ยวหลังแหวน”
“โหยหลังแหวน ศัพท์รุ่นอาพี่เลยนะเนี่ย”
“พี่รันหาว่านิลแก่เหรอ”
“เปล๊า” กำลังจะปะฉะดะกันต่อ แต่นายแม่ก็กวักมือเรียกให้พวกผมเข้าไปถือของ เดินกันจนจะหกโมงนั่นละครับถึงได้ฤกษ์เคลื่อนขบวนออกจากสวน พี่รันนี่นอกจากจะมาเป็นลูกหาบแล้วยังเป็นคนขับรถด้วยนะครับ วันนี้พี่รันมันอาสาพามา


“เดี๋ยวจะพาคุณแม่ไปทานร้านอาหารทะเลนะครับ”
“อุ๊ย รบกวนแย่เลยลูก”
“นานทีปีหนคุณแม่จะกลับมาสักทีนะครับ”
“แหม ตารันเนี่ยดูแลแม่ดีกว่าลูกชายแท้ๆของแม่เสียอีก”
“เปลี่ยนลูกใหม่เลยมั้ยครับ”
“พูดเป็นเล่น เปลี่ยนได้ง่ายๆก็ดีสิจ๊ะ เลี้ยงมาจนโตป่านนี้แล้วทิ้งไม่ลงหรอก” คุณนายพูดไปอมยิ้มไป เชอะ ไม่ต้องมาปะเหลาะผมหรอก


“นิลเอากุ้งแช่น้ำปลามั้ยลูก”
“เอาครับ”
“น้องนิลทานทอดมันปลามั้ย”
“ทานครับ”
“เดี๋ยวพี่สั่งปลาเก๋าทอดน้ำปลาให้ด้วยเนอะ”
“อือ”
“แม่ว่านะ” พี่รันหันไปมองแม่
“คุณแม่อยากได้อะไรเพิ่มหรือเปล่าครับ สั่งได้เลยครับ วันนี้ผมเป็นเจ้ามือเอง” ผมเบะปากใส่พี่รันผู้ร่ำรวยด้วยความหมั่นไส้
“เปล่าจ้ะ แม่แค่ขำว่าทำไมทั้งแม่กับรันถึงได้สปอล์ยเจ้านิลขนาดนี้ จริงๆจุดประสงค์คือมาเลี้ยงส่งแม่นี่นา” เออแฮะ ไหงทั้งแม่กับพี่รันเอาแต่สั่งของที่ผมชอบก็ไม่รู้ เหมือนลูกแหง่เลยอ่ะ
“อ่า... นั่นสิครับ ผมก็เผลอไป งั้นที่เหลือให้คุณแม่สั่งบ้างแล้วกันครับ”
“อุ๊ย สั่งกันไปเถอะจ้ะ ของที่แม่ชอบก็เหมือนของที่เจ้านิลชอบนั่นแหละ” ผมค้อมหัวให้แม่ที่เอื้อมมือมาลูบสามารถทำได้อย่างถนัด ไม่ลืมที่จะหอมแม่ฟอดใหญ่แบบไม่แคร์สายตาใคร แม่ผมสวยนี่ครับ


สั่งกันไปสักพักอาหารก็มาครับ แต่ละอย่างหน้าตาน่ากินแถมรสชาติก็สุดยอด พี่รันนี่มันรู้จักร้านอาหารอร่อยๆหลายร้านเลยนะจากที่ผมสังเกต โดยเฉพาะกุ้งแช่น้ำปลาเนี่ย มันเป็นกุ้งมังกรอ้ะ เนื้ออร่อยมากเลย กรอบ เด้ง หวาน น้ำจิ้มที่ราดมาก็ครบรส ผมกินคนเดียวเกือบหมดจาน พี่รันก็เลยสั่งมาให้อีกจานหนึ่ง ว่าแต่ทำไมพี่รันมันถึงทำตัวได้กลมกลืนกับบ้านผมแบบนี้นะ


พอทานข้าวเสร็จพี่รันก็มาส่งผมกับแม่ที่บ้าน แถมยังช่วยบริการขนของขึ้นมาให้เสร็จสรรพเลยนะครับ
“ดื่มน้ำดื่มท่าก่อนสิลูก” คนอยู่เมืองนอกทำไมพูดจาโบร๊าณโบราณอะแม่
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมต้องไปเลี้ยงรับรองลูกค้าต่อ” ครับ เกี่ยวกับเรื่องงานของพี่รันนั้น แม่ผมได้สัมภาษณ์ให้หมดแล้วครับ ไม่ใช่ในฐานะลูกเขยนะไม่ต้องตกใจ ก็แค่ถามตามประสาผู้ใหญ่ถามเด็กนั่นแหละ (เอ๊ะ เหมือนผมกินปูนร้อนท้อง) เอาละ กลับมาเข้าเรื่อง คือพี่รันมันทำงานอยู่กับบ้านตัวเองครับ ซึ่งที่บ้านพี่รันทำธุรกิจเรื่องโรงแรม แต่คุณพี่รันเขาไม่ได้บริหารงานนะครับ อาร์ตบวกกวนตีนแบบนี้ต้องทำตำแหน่งอาร์ตๆครับ พี่รันมันเป็นฝ่ายออกแบบและตกแต่งภายใน รวมไปจนถึงการจัดซื้อเฟอร์นิเจอร์ ของประดับตกแต่ง บลาบลาบลา ซึ่งบางทีก็ลงทุนบินไปต่างประเทศเพื่อดูสินค้าถึงแหล่งผลิตด้วยตัวเอง เพราะงี้แหละบางทีถึงได้หายหัวไปทีละหลายๆวัน เพราะมันไปต่างประเทศนี่ละครับ แต่เห็นบอกว่าเป็นเพราะช่วงนี้กำลังมีโรงการโรงแรมใหม่ ก็เลยจะยุ่งๆ แต่เดี๋ยวพอผ่านช่วงนี้ไปก็จะมีเวลาว่างมากขึ้นแล้วครับ

“นิลไปส่งพี่เขาหน่อยไป แม่ขอไปเอนหลังหน่อย เหนื่อยจังวันนี้”
“อะรายยยยยคร้าบบบบ คนดีของแม่นี่นา แม่ก็ไปส่งเองสิ” ผมบอกด้วยความเกียจคร้าน ลำตัวท่อนล่างไหลเอนลงไปกับโซฟา แต่พอแม่ผมเงื้อมือจะฟาดเท่านั้นละครับ ความขยันมาทันที
“เอ้าๆ ไปๆพี่รัน ต้องรีบไปทำงานไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวนิลเดินไปส่ง” ผมคว้ากระเป๋าเงินไปด้วยครับ ลงไปซื้อโค้กซีโร่ข้างล่างด้วยดีกว่า
“งั้นผมไปก่อนนะครับคุณแม่ สวัสดีครับ”
“จ้ะ ไหวพระเถอะลูก”
ผมปิดประตูห้องและเดินนำพี่รันมาที่ลิฟต์ พอกดปํบลิฟต์ก็มาปั๊บ พอพี่รันมันเห็นผมเดินเข้าไปในลิฟต์ด้วยก็ถามว่าผมจะไปไหน
“ไปเซเว่น ผมอยากดื่มน้ำทำลายกระเพาะ”
“ดื่มน้ำอัดลมเดี๋ยวอ้วนนะ”
“ไม่อ้วน กินโค้กซีโร่”
“อย่ากินตอนท้องว่างนะครับ เดี๋ยวปวดท้อง” เหวย พี่รันมันมีพลังหยั่งรู้ มันรู้ได้ยังไงว่าผมตั้งใจจะซื้อโค้กมาถมหลุมดำในกระเพาะระหว่างรออาหารเย็น
“งือ เดี๋ยวผมหาขนมไปกินด้วย” อ๊าย อยากจะตบปากตัวเอง ทำไมใจง่ายแบบนี้
“ดีมากเด็กดี” พี่รันยกมือขึ้นลูบหัวผมเหมือนที่แม่ทำ แต่ทำไมความรู้สึกของผมมันถึงแตกต่างกันแบบนี้ ยังไงดีละ การสัมผัสของแม่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นสบายใจ แต่สัมผัสของพี่รันมันทำให้ผมใจเต้นรัว หน้าร้อนผ่าว ดูไม่ดีต่อสภาพหัวใจยังไงก็ไม่รู้ กลิ่นของพี่รันยิ่งทำให้ผมใจสั่น กลิ่นหอมๆของร่างกายปนกับกลิ่นน้ำยาซักผ้า กลิ่นน้ำหอมที่ผมไม่ชอบใช้ทำไมมันถึงได้ดูหอมขนาดนี้เวลาอยู่บนตัวพี่รัน ผมคิดว่าตอนนี้ผมกำลังจะคลั่ง....


ทำไมลิฟต์มันช้าแบบนี้!!!!!


ติ๊ง

“เอาละ พี่ไปก่อนนะครับ แล้วจะโทรหา เดินดีๆละรู้มั้ย”
“อือ...” ผมแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำตอนที่พยักหน้ารับ ในหัวจำได้แต่ภาพพี่รันยิ้มอ่อนโยนส่งมาให้ คุณรู้จักรอยยิ้มที่อ่อนโยนไหมครับ รอยยิ้มแบบนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรายิ้มให้คนที่เรารัก... เอ่อ คนที่เรารู้สึกดีกับเขามากๆเท่านั้นนะครับ มันไม่เหมือนรอยยิ้มดาษดื่นทั่วๆไปในชีวิตประจำวันเลยแม้แต่น้อย

พี่รันกลับไปแล้ว แต่เหมือนพี่รันเอาหัวใจของผมติดไปด้วย ผมยกนิ้วขึ้นมานับวันดูว่ารู้จักกับพี่รันมานานเท่าไร มันแค่เดือนกว่าๆเอง ทำไมผมผมถึงได้รู้สึกดีกับเขาขนาดนี้ แม้มันจะยังไม่ใช่ความรู้สึกขนาดที่จะอยากอยู่ด้วยกันไปจนวันตาย แต่มันก็เป็นความรู้สึกที่ดีมากๆเท่าที่ผมจะเคยรู้สึกกับคนคนหนึ่งในสถานภาพเช่นนี้


หรือผมกำลังตกหลุมรัก...


ไม่เอาน่า อย่าเพ้อเจ้อ...


“ไปส่งพี่เขามาแล้วหรือลูก”
“ครับ”
“มานั่งกับแม่สิ” แม่ผมตบที่นั่งข้างตัวเบาๆ ผมจะเดินไปนั่ง แต่ไอ้ริชชี่มันกระโดดขึ้นไปแทนเสียก่อน
“ริชชี่มานั่งตักแม่สิลูก ตรงนี้ให้พี่นิลเขานั่งนะครับ” นั่นละครับแม่ผม เรียกแมวว่าลูก และรักลูกคนอื่นมากกว่าลูกตัวเอง แบบนี้แหละครับ...
“รันเขานิสัยดีนะนิล”
“แม่รู้ได้ยังไง แม่เพิ่งจะรู้จักเขามาแค่สองอาทิตย์เอง” ทำไมผมถึงทำหน้าคว่ำ ผมว่าผมกำลังเริ่มจะงอแงนะ
“สัญชาตญาณมันบอก” แม่ยิ้ม ผมไม่ชอบเวลาแม่ยิ้มแบบรู้ทันอย่างตอนนี้เลย
“เขาอาจจะแกล้งทำดีเพื่อมาหลอกฟันนิลก็ได้”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็อย่าลืมป้องกันนะลูก”
“แม่อ้ะ มีแม่ที่ไหนเขาสอนลูกแบบนี้เนี่ย” ผมโวย แต่ก็ทำกิริยาขัดกับอาการที่สุดโดยการเอาหัวไปหนุนตักแม่
“ฮ่าๆ ก็แม่วัยรุ่นอ้ะ” แม่ผมหัวเราะเสียงใสพลางใช้ปลายนิ้วเกาหัวผมเบาๆ ผมชอบให้คนเกาให้แหละ แหะแหะ
“นิลก็รู้ ว่าตอนที่แม่ท้องนิลมันเป็นยังไง” ครับผมรู้ “แม่อาจจะไม่ใช่แม่ที่ดีนัก”
“แม่เป็นแม่ที่ดีที่สุด อย่าพูดแบบนั้นนะ” ผมผุดลุกขึ้นมา จับมือเล็กคู่นั้นเอาไว้แน่น
“ขอบใจนะลูก” ผมใช้นิ้วปาดไล้น้ำตาให้แม่แล้วกอดแม่แน่น
“เมื่อก่อนจะเป็นยังไงก็ช่างมัน ยังไงตอนนี้แม่ก็มีคนที่เขาทั้งรักทั้งคลั่งไคล้ในตัวแม่มากๆแล้วไม่ใช่เหรอ” ผมยิ้มล้อเลียน แม่ก็เลยประเคนความรักให้หนึ่งเพียะ
“อย่ามาล้อแม่นะ ดูตัวเองเถอะ คนที่มาเทียวไล้เทียวขื่อจีบตัวเองน่ะหล่อขนาดไหน เอริคชิดซ้ายเลยเถอะ”
“เอ๋? แต่ผมว่าเอริคหล่อจะตาย คนอะไรยิ่งแก่ยิ่งหล่อ” ผมนึกถึงภาพเอริค ที่เป็นแฟนของแม่ เขาเป็นลูกครึ่งอเมริกัน-ไทย ที่มีผมสีดำตาสีดำ แต่จมูกโด่ง หน้าฝรั่งสุดพลัง เป็นตาลุงวัยสี่สิบที่หล่อสะเด็ดยาด ผมเห็นครั้งแรกยังตะลึงเลยว่าแม่ไปจีบนายแบบที่ไหนมา แต่ที่ไหนได้ เป็นลุงเอริคนี่ต่างหากที่ตามตื๊อแม่มาหลายปีโดยที่แม่ไม่เคยเล่าให้ผมฟัง แต่ด้วยสุภาษิตที่ว่า น้ำหยดลงหิน หินมันยังกร่อน ก็เป็นจริงจนได้ เมื่อแม่ยอมคบกับลุงเอริคในวันหนึ่ง
“นิล แม่ถามอะไรหน่อยสิ”
“ครับ?” แม่ผมทำสีหน้าจริงจังแบบที่ผมไม่ได้เห็นมานาน ทำเอาผมเกร็งตามไปด้วยเลย
“นิลจะคิดยังไง... ถ้า... เอ่อ... แม่...”
“ถ้าแม่จะแต่งงานเหรอ?”
“จ้ะ.. เอ้ย! รู้ได้ยังไงเนี่ยลูก” แม่ผมทำหน้าตะลึงได้ฮาที่สุดจนผมกลั้นขำไม่ไหวลงไปชักดิ้นชักงอที่พื้น ไอ้ริชชี่พอเห็นผมขำกั่กๆมันก็เล่นด้วย กระโดดเหยงข้ามผมไปมายังกับเป็นตั๊กแตนตำข้าว
“เมี้ยว”
“ฮ่าๆ พอๆริชชี่ เล่นพอแล้ว เห็นมั้ย แม่อายจนหน้าเขียวแล้ว” ผมอุ้มไอ้ริชชี่ขึ้นมานั่งข้างแม่
“นิลน่ะ จำไว้เลยนะ” แม่ผมงอนแก้มป่องเป็นสาววัยรุ่นเลยครับ ใจจริงอยากจะแซวต่อ แต่กลัวจะโดนทุบเสียก่อน
“แม่ครับ นิลดีใจกับแม่ด้วยนะครับ” ผมหอมแม่ฟอดใหญ่ แม่ผมยังสาวยังสวยขนาดนี้ อายุอานามก็เพิ่งจะสามสิบเจ็ด แต่งกับลุงเอริคก็เหมาะสมที่สุดแล้ว แถมลุงเอริคยังรวยอีก ผมมั่นใจว่าเขาต้องดูแลแม่ผมได้อย่างดีแน่นอน
“นิลต้องมางานด้วยนะลูก”
“นิลไม่พลาดแน่นอนครับ”
“ชวนรันกับหนูฟ้าไปด้วย นิลจะได้มีเพื่อน เดี๋ยวแม่จะส่งตั๋วมาให้” โวะ แม่ผมสปอร์ต ว่าแต่จะชวนไอ้พี่รันทำไมครับ
“ชวนพี่รันไมอะครับ”
“ให้พี่เขาไปแหละดีแล้ว แม่จะได้ไม่ห่วงนิลมาก เพราะแม่คงไม่มีเวลาดูแลนิลเท่าไรหรอกนะ”
“ก็มียัยฟ้า”
“หนูฟ้าเป็นผู้หญิง”
“แต่นิลเป็นผู้ชายนะ”
“แม่ไม่นับหรอก”
“เอ๊า มีงี้ด้วย อะไรอ้ะ”
“ชวนรันเขาไปด้วยนะลูก” โอเค ตอนนี้ผมจะไม่ขัดใจแม่ แต่ถึงตอนนี้ค่อยหาทางสลัดไอ้พี่รันให้หลุดแล้วกัน หึหึ
“เดี๋ยวแม่จะบอกรันไว้ด้วย” เง้อ!!! ทำไมแม่ทำเหมือนรู้ที่ผมคิดแบบนี้เล่า~
“นิลว่าแม่อย่าพยายามเลย นิลไม่มีทางคบกับเขาหรอก” ผมเบือนหน้าหนีสายตาของแม่ “มันไม่มีทางราบรื่นหรอกครับ ความรักผิดเพศแบบนี้” พูดเองก็ขมขื่นเอง ทำไมผมถึงไม่เกิดมาเป็นผู้หญิงวะ จะได้หมดเรื่องหมดราวไป
“นิล อะไรที่มันคอยเหนี่ยวรั้งนิลอยู่หรือ อดีตของนิล หรืออัตตาของนิลเอง” ผมเงียบไม่ตอบแม่ ได้แต่ยกขาขึ้นมานั่งกอดเข่าเงียบๆ
“นิลอย่าเพิ่งมองอะไรในแง่ร้ายได้ไหม แม่รู้ว่านิลอาจจะฝังใจกับเรื่องร้ายๆที่ผ่านมา แต่บางทีเราก็ควรที่จะมีศรัทธาบ้างนะ”
“นิลไม่อยากศรัทธาแล้วแม่ รักแท้ของคนแบบนิลมันไม่มีอยู่จริงหรอกครับ นิลมีแค่แม่ก็พอแล้ว” ผมซุกหน้าลงกับตักแม่ อยู่กับแม่ดีกว่าตั้งเยอะ


หลายวันผ่านไปไวเหมือนโกหก เผลอแป๊บเดียวแม่ผมก็กลับไปอังกฤษแล้วล่ะ มันก็ไม่ได้โศกเศร้าแบบจะร้องไห้อะไรมากมายหรอกนะ แต่ในใจมันโหวงๆ รู้สึกเหงาหงอยบอกไม่ถูก
“คิดถึงแม่เหรอครับ” ผมหันหน้าหนีคนที่ถือวิสาสะมาจับเอวผมไว้ พอแม่ผมไปมันก็มือไวทันที
“ยุ่งน่า” เอ๊ะ แล้วตัวผมจะสูดจมูกฟุดฟิดทำไมเนี่ย
“อยากให้พี่กอดมั้ยครับ” การกระทำไวกว่าคำพูด ไอ้พี่รันรั้งตัวผมที่อ่อนปวกเปียกเข้าไปกอดแน่น งือ... ผมรู้สึกดีจังที่มีคนคอยกอดในช่วงเวลาแบบนี้
“นิลเปิดใจให้พี่บ้างได้มั้ย ให้พี่ได้เป็นคนที่คอยดูแลนิลแทนคุณแม่ได้มั้ยครับ” พี่รันลูบหัวผมอย่างเบามือ ผมซุกหน้านิ่งกับแผ่นอกกว้างนั้น กลิ่นหอมสดชื่นของน้ำหอมกับกลิ่นกายของพี่รันปนเปกันจนผมรู้สึกว้าวุ่น ผมรู้ดีว่าในใจผมต้องการเขามาตลอด อยากสัมผัส อยากใกล้ชิด อยากเป็นทุกๆอย่างของพี่รัน แต่ความขี้ขลาดในจิตใจมันกลับทำให้ผมไม่กล้าแม้แต่จะยื่นมือไปคว้าพี่เขาเอาไว้...

ผมไม่มีคำตอบให้สำหรับพี่รัน ความเงียบคงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในตอนนี้ บางทีเมื่อวันเวลาผ่านไป พี่รันอาจจะดีใจด้วยซ้ำที่มันเป็นแบบนี้

กลับไปเป็นเราสองคนที่ไม่มีอะไรผูกพันกัน เหมือนตอนแรก...

ถึงแม้สองมือของผมจะโอบกอดพี่รันอยู่แบบนี้ แต่มันก็จะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง



▂▂ ▃ ▄ ▅ ▆ ▇ █ █ ▇ ▆ ▅ ▄ ▃ ▂▂



เป็นไงล่า~
มาอัพสองวันติดเลยนะครัชชชชช
แลดูขยันเนอะ
  :katai2-1:



ออฟไลน์ fuku

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +462/-20
น้องนิลมีความหลังอะไรร้ายกาจจนปิดตัวเองแบบนี้เนี่ย T__T

ออฟไลน์ NUTSANAN

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1031
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-3
นิลปิดกั้นอย่างนี้ คนที่เจ้บคือตัวเองนะะ  :เฮ้อ:

Singleman

  • บุคคลทั่วไป
อดีตมันเป็นบทเรียน อย่าเอามาปิดกั้นเลยนะ นิล มาต่ออีกนะครับบบบบ

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด