บทที่ 5 : ได้แต่ยินยอมรับความเจ็บปวด และฉันจะอดทนแม้แทบขาดใจ...
ผมจะลืมเรื่องเมื่อวานและนึกซะว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปแล้ว....
เมื่อวานหลังจากพี่เอกลับไป ผมก็นั่งร้องไห้อยู่อย่างนั้น เสียใจครับ เสียใจมากจริง ๆ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าลึกข้างในใจผมยังคงหวังเสมอ ผมอยากให้ลูกมีพ่อ ผมเองก็อยากมีใครสักคนให้พึ่งพาและพักพิง แต่คนนั้นไม่ใช่พี่เออีกแล้ว คงต้องตัดใจ ตัดขาดกันในทุกทาง ผมไม่เก่งถึงขนาดทำตัวเป็นปกติเวลาเจอกัน ถ้าผมเครียดมากไป ผมเกรงว่ามันจะสะเทือนถึงลูกในท้อง... พรุ่งนี้ผมจะไปเก็บของที่ทำงานและขอรับเงินเดือนเดือนสุดท้ายจากฝ่ายบุคคล หัวหน้าฝ่ายบุคคลไม่อยากให้ผมออกเพราะเสียดายฝีมือ และผมคงต้องพูดอย่างจริงจังให้เขาอนุมัติเรื่องลาออกให้ผม
.
..
...
ลาก่อนนะครับพี่เอ ลาก่อนนะที่(เคย)รักของผม พ่อของลูก ผมเดินทางมาถึงที่ทำงานตอนแปดโมงครึ่งซึ่งเร็วกว่าปกติ ผมเก็บของที่โต๊ะทำงาน ก่อนมองไปยังโต๊ะของพี่เอที่อยู่ข้างหน้าเยื้องไปทางซ้ายมือ พี่เอคงยังไม่มา เขาเป็นคนตรงเวลาปกติจะมาทำงานตอนเก้าโมงครึ่ง ผมใช้เวลาเก็บของและขนไปไว้ที่รถอยู่ยี่สิบกว่านาที จากนั้นเมื่อถึงเวลาที่ฝ่ายบุคคลทำงาน ผมก็เข้าไปที่ห้องหัวหน้าของฝ่ายนี้ทันที หัวหน้าฝ่ายบุคคลคุณสุชาตินั่งรอผมอยู่แล้ว ผมโทรมานัดตั้งแต่เมื่อคืนแล้วครับ
“คุณมีนส์ เชิญครับ ผมเตรียมเงินเดือนงวดสุดท้ายและเอกสารไว้เรียบร้อยแล้ว” คุณสุชาติบอกเมื่อผมยกมือไหว้และนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ถูกเตรียมไว้
“ขอบคุณครับคุณสุชาติ อาจจะกะทันหันไปหน่อยที่ขอออกก่อนกำหนดหนึ่งอาทิตย์ ขอโทษนะครับ”ผมบอก
“ไม่เป็นไรครับ ผมทราบว่าคุณคงมีเหตุผลจำเป็นจริง ๆ แต่ว่าจะไม่ลองคิดดูอีกทีหรอครับ เอาเป็นลาพักร้อนไปก่อนไหมครับ เดี๋ยวผมเซ็นให้เอง แล้วสบายใจเมื่อไหร่ก็กลับมา” คุณสุชาติพยายามโน้มน้าวผมให้อยู่ต่อรอบที่สิบได้แล้วล่ะ
“ผมมีความจำเป็นต้องลาออกครับ ผมจะกลับไปอยู่บ้าน” ผมตอบ คุณสุชาติถอนหายใจก่อนจะเซ็นอนุมัติให้ผม ซึ่งหลังจากนี้ผมก็จะหลุดพ้นจากการเป็นพนักงานของที่นี่
“เอาละครับ ผมเข้าใจ นี่ครับใบอนุมัติขอลาออก หลังว่าเราจะได้กลับมาร่วมงานกันนะครับ ฝีมืออย่างคุณมีนส์ทางเรายินดีต้อนรับเสมอ และนี่ครับโบนัสตลอดการทำงานของคุณที่นี่ โบนัสสามปี” ผมรับเช็คกับเอกสารพร้อมกับยิ้มขอบคุณ คุณสุชาติยืนขึ้นและยื่นมือขวามาจับกับผม หลังจากนั้นก็ขอตัวออกไปก่อนเพราะมีประชุม
ผมลาออกแล้ว ผมจะไม่เจอกับพี่เออีกแล้ว คิดแค่นั้นผมก็ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้อย่างคนไม่มีแรง ผมอยากร้องไห้แต่มันร้องไม่ออกจริงๆ ก่อนจะต้องสะดุ้งกับเสียงเรียกชื่อผมพร้อมกับประโยคคำถาม น้ำเสียงคนเรียกนั้นดังลั่นห้องฝ่ายบุคคลที่ผมอยู่
“มีน ทำไมต้องลาออก จะไปไหน ทำไมไม่บอกพี่!”... พะ พี่เอ ...
ผมหันหลังไปหาเจ้าของเสียงก่อนจะพยายามลุกเดินหนีออกไป เขารู้แล้วเรื่องลาออก พี่เอเดินตรงเข้ามาหาผม ผมเห็นพี่วัตรเดินเข้ามาด้วย ผมพยายามเดินหนี แต่ถูกมือแกร่งของเขาคว้าเข้าที่ข้อมือ ผมพยายามที่จะสะบัดมือออก
"นี่คืออะไร มีนกำลังจะไปไหน" มือหนายึดข้อมือผมไว้แน่น
"ปล่อย ปล่อยแขนผมก่อน" ผมสะบัดแขนอีกครั้ง
"ไม่ บอกมาก่อน มีนลาออกหรอ ลาออกทำไม จะไปไหน" ผมหันไปมองพี่วัตร ส่งสายตาให้เขาช่วย
"เอ กูว่ามึงปล่อยมีนก่อน" พี่วัตรช่วยพูด
"ทำไม อยู่ด้วยกันทำงานด้วยกัน เห็นหน้าพี่มันลำบากใจมากนักหรอมีน!" พี่เอกำมือผมแน่นขึ้น
"... ไม่ใช่หรอกครับพี่เอ ผมมีเหตุผลของผม ผมตัดสินใจแล้ว" ผมตอบหันหน้าไปอีกทาง ใจผมไม่อยากไปไหนเลย แต่ว่าถ้าอยู่ต่อไป หัวใจผมคงเจ็บจนทนไม่ไหว... ผมต้องไป!
"มีน พี่ว่าเอควรจะรู้นะ บอกเอเถอะนะ" พี่วัตรพูดอะไรน่ะ ผมไม่อยากให้เขารู้เรื่องลูกนะ
"เรื่องอะไร วัตรนี่มันเรื่องอะไรวะ มีน ทำไมบอกพี่ไม่ได้หรอไง" เสียงพี่เอดังขึ้นตามแรงอารมณ์
"........" ผมเงียบก่อนจะส่ายหน้าหลบตาพี่เอ ผมหยุดดิ้นเพราะรู้ว่ายังไงเขาก็คงไม่ปล่อย พี่เอกำลังโกรธและตกใจ
“มีน!” เสียงเข้มเรียกชื่อผมอีกครั้ง ผมจะทำยังไงดี ผมจะโกหกเขาว่าอะไรดีนะ
“.... เอ่อ คือ ไม่มีอะไรหรอกครับพี่เอ ผมเบื่อทำงานที่นี่แล้ว ผมอยากทำอย่างอื่น ผมว่าจะเปลี่ยนบรรยากาศในการทำงานบ้างน่ะครับ” มือหนาบีบแขนผมแน่นขึ้น หลังจากได้ฟังคำตอบ ใบหน้าคมแสดงสีหน้ามากขึ้น
“แน่ใจหรอมีน ทำไมไม่มองตาพี่แล้วบอกดี ๆ เอาอีกครั้งสิ จ้องตาพี่แล้วพูดใหม่” พี่เอเป็นคนสัมผัสไวครับ ผมมองคนออกแล้วคนอย่างผมซึ่งคบกับเขามาสามปี ไม่แปลกเลยที่เขาจะรู้ว่าผมโกหก
“ผมจะทำอะไรก็เรื่องของผม ไม่เกี่ยวกับพี่ เราเลิกแล้วต่อกันเถอะนะครับ ผมมีเหตุผลของผม ซึ่งมันไม่เกี่ยวกับพี่เลย” เสียงผมอ่อนลงทุกที ผมไม่หลบตาพี่เออีกแล้ว พี่เอมีสีหน้าวูบหนึ่งที่ดูเหมือนจะรวดร้าว ไม่หรอกมั้งผมคงมองพลาดไป
“เพราะพี่สินะ พี่ขอโทษนะ ต้องทำยังไงเราถึงจะไม่ไป” พี่เอพูดเสียงอ่อนไม่แพ้ผม ผมว่าผมเข้าใจเขานะ เขาคงผูกพันกับผม แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นแฟนกัน แต่ที่ผ่านมา ตัวตนของผมมีอิทธิพลกับเขามาก ผมอยากอยู่ต่อ แต่มันเป็นไปไม่ได้แล้ว
“ไม่ใช่เพราะพี่หรอกครับ ไม่ใช่เพราะใคร... ผมไม่อยู่แล้ว พี่ดูแลตัวเองดี ๆ นะครับ” ผมดึงมือออกจากมือพี่เออย่างง่ายดาย เขาไม่ได้รั้งผมไว้อีก พี่เอก้มหน้าลง ผมเองก็เสียใจแต่ต้องทำใจแข็ง สมองสั่งให้ขาทั้งสองก้าวเดินออกไป แต่พี่วัตรขยับมาขวางผมไว้ ผมชะงักก่อนมองพี่วัตรอย่างสงสัย
“เอ มึงฟังกูพูดให้ดีนะ สาเหตุที่มีนต้องไป สาเหตุที่เขาเลือกที่จะไม่อยู่กับมึง” ไม่นะพี่วัตร อย่าบอกเขา ผมส่ายหน้าวืดจนผมสะบัดไปมา อย่าบอกเขา พี่วัตรไม่ปล่อยให้เงียบนาน เขารีบพูดต่อ
“มีนกำลังท้อง เขามีความพิเศษของร่างกายที่มีความเป็นหญิงด้วย ตอนนี้เขากำลังท้องลูกของมึง และตัวมึงไงที่ทำให้เขาต้องไป เขาไม่อยากทำให้มึงลำบากใจ!” พอพี่วัตรพูดจบ ผมหันไปมองหน้าที่พี่เอ เขามีสีหน้าตกใจมากและมันซีดเผือด
“จริงหรอมีน...” เขาถามผม ผมได้แต่นิ่งเงียบก้มหน้ามองท้องตัวเอง
“.......” ความเงียบของผมเป็นคำตอบอย่างดี พี่เอมองผมด้วยสายตาที่ผมไม่เข้าใจ ความเงียบระหว่างเรายังไม่จางหายไป ผมคิดในใจต่อว่าเขาจะพูดยังไง แวบหนึ่งเลยทีเดียวที่ผมคิดว่าเขาอาจจะรับผิดชอบผม เขาอาจจะกลับมาหาผมกับลูก แต่เขาก็ยังคงเงียบอยู่อย่างนั้น น้ำตาผมไม่รู้ว่ามาจากที่ไหน มันไหลลงมาโดยปราศจากเสียงสะอื้น....
ความเงียบที่เนิ่นนาน เขาคงลำบากใจ...“พี่เอ พี่ไม่ต้องลำบากใจ ผมไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับพี่ก็เพราะเหตุนี้ ผมไม่คิดขอให้พี่รับผิดชอบ แค่ลูกคนเดียว ผมเลี้ยงได้” เป็นผมเองทีทำลายทั้งความเงียบและความหวังลมๆแล้งๆของตัวเอง พี่เอมองหน้าผม อีกครั้งที่ผมเห็นความอ่อนไหวในดวงตาของเขา เสียงเขาไม่หนักแน่นเหมือนเช่นเคย
“มีน พี่... พี่ไม่รู้เลย พี่ขอโทษ ทำไมถึงไม่บอกพี่ พี่ขอโทษนะ” เขาขอโทษผมอีกแล้ว ขอโทษคำนี้ของเขาหมายถึงอะไร พอแล้ว... ผมเจ็บมามากแล้ว
“ครับพี่ ผมไม่เคยนึกโทษพี่ ผมสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะดูแลลูกให้ดีที่สุด” ผมเอามือลูบท้องอย่างตั้งใจราวกับจะสัญญากับคนในท้อง พี่เอดวงตาสั่นไหว ก่อนจะพูดออกมา
“ไม่นะมีน อย่าไปเลย พี่จะรับผิดชอบเอง เราจะดูแลลูกด้วยกันนะ อย่าร้อง อย่าร้องไห้เลยนะคนดี” ผมเคยต้องการความรับผิดชอบของเขามาตลอด และตอนนี้เขาพูดมันออกมาแล้ว หัวใจผมอ่อนยวบ ผมกำลังจะใจอ่อน
....กริ้ง กริ้ง กริ้ง เสียงโทรศัพท์มือถือพี่เอดังขึ้น พี่เอก้มมองมือถือก่อนจะชะงักไป เห็นท่าทางอย่างนั้นของเขาทำให้ผมคิดขึ้นได้อีกครั้ง อา... พี่เอมีคนอื่นไปแล้ว เขามีเจ้าของไปแล้ว... ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าพี่ฝ้ายโทรมา เพราะผมเห็นหน้าจอมือถือของเขาเป็นรูปเขากับพี่ฝ้าย... ช่างเหมาะสมกัน โทรศัพท์ยังคงดังไปอีกสักพักก่อนพี่เอจะกดตัดสาย เขาเงยหน้ามองตาผม ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ขึ้น รวบมือของผมเข้าไว้กับมือของเขา และก่อนที่เขาจะพูดอะไร ผมก็สะบัดมือออกก่อนจะรีบวิ่งหนีออกมา ผมทำลายความรักของเขาไม่ได้ เขากำลังฝืนใจรับผิดชอบผม... ผมวิ่งหนีออกมาจากฝ่ายบุคคล ก่อนได้ยินเสียงตามไล่หลัง
“มีน มีน มีน โถ่เว้ย ไอ้วัตรมึงช่วยตามมีนดิวะ” เสียงพี่เอ
“มีน มีนครับ มีน” เสียงพี่วัตร เสียงวิ่งตึงตัง
“มีนอย่าเพิ่งไป มีนฟังพี่ก่อน มีนนนนน”
เสียงทั้งหมดห่างจากผมไปเรื่อย ๆ ผมกดลิฟต์ไปที่ชั้นจอดรถ ก่อนจะพุ่งขึ้นรถและขับออกไป
ลาก่อนครับพี่ ลาก่อนจริง ๆ ลาขาด....
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 5 มาแล้วค่ะ พอดีว่าเมื่อวานก็ติดงานเลิกก็ห้าทุ่ม กว่าจะกลับถึงบ้านก็ตีหนึ่งตีสองเลยไม่ได้เข้ามาต่อนิยายให้นะคะ อืม... ตอนนี้เรื่องดำเนินมาถึงจุดพลิกผัน ตอนต่อไปจะเป็นยังไง ฝากติดตามและติชมด้วยนะคะ มิยูกิจะนำไปปรับปรุงแน่นอน ขอบคุณทุกคนค่ะ