▓▒░ อุบัติรักเร็วเกินเหตุ ░▒▓ ตอนที่ 16
ตอนเพื่อนเมตตาโทรมาส่งข่าวฮีโร่บีกินนิ่งของมันแล้วหรรษารู้เลยว่าตัวเองอยู่ในความรู้สึกไหน
โกรธและหงุดหงิดมาก
มากจนคิดว่าเลิกทำตัวเป็นคนดีมีความรับผิดชอบและเลิกกับมันไปซะเลยดีไหม คนบ้าอะไรโตเป็นควายแล้วยังตามเกมคนเหี้ยๆอย่างไอ้เพทายไม่ทัน
พอหาคำตอบได้ว่าเพราะมันเป็นเด็กดี
อารมณ์พลุ่งพล่านที่มีนั้นทิ้งดิ่งมาอยู่ที่ศูนย์
หลังจากนั้นก็เป็นห่วงมันจนเหยียบคันเร่งตามไปหามันสุดชีวิต
อันที่จริงแล้วหรรษาเองก็ไม่ใช่คนดี ไอ้เหตุผลที่ว่าคบกับเมตตาทุกวันนี้นั้นเพราะว่าแม่มันบังคับให้รับผิดชอบมันเป็นเหตุผลที่ผิด
เพราะจริงๆแล้วเขารู้เลยว่าตัวเองน่าจะชอบมันขึ้นมาจริงๆซะแล้ว
เมตตาเป็นไข่ในหินที่อยากซ่าแต่ว่ามันมีภูมิต้านทานความเลวร้ายได้น้อยสุดติ่ง
มันชอบหรรษามันก็แสดงออกมาเลยว่าชอบเขาขึ้นมาให้แล้ว
มันรักเพื่อนมันก็เสือกแสดงออกสุดพลังว่ารัก
หรรษามองเห็นนิสัยตัวเองในตัวของเมตตาแต่ว่ารู้เท่าทันเล่ห์เหลี่ยมคนอื่นมากกว่ามันเท่านั้นเอง ประสบการณ์ในรั้ววิทยาลัยสอนให้หรรษากร้านโลกขึ้นเยอะ มีภูมิต้านทานกับอะไรๆได้มาก
ไม่น่าเชื่อว่าเด็กที่สังคมมองว่าเกเรยกพวกตีกันไปวันๆไร้เหตุผลอย่างหรรษาจะมาพบกับคนดีๆอย่างเมตตาได้ เขาไม่เคยคาดหวังอะไรกับชีวิตขนาดนั้นเลย แม้มันจะอุบัติเข้ามาในชีวิตเขาแบบแปลกๆก็เถอะ
หลังจากบึ่งรถไปหาเมตตาสุดชีวิตแล้วหรรษาก็อดคิดไม่ได้ว่าตอนนี้เพทายกำลังคิดที่จะทำอะไรอยู่ มันจองล้างจองผลาญอะไรหรรษานักหนาวะ เขาเสียรักแรกให้มันไปแล้ว ถึงแม้ตอนนั้นหรรษาไม่ได้เต็มใจที่จะเสียคนรัก แต่แอนเต็มใจ นั่นมันก็มากพอแล้วที่เพทายจะเป็นผู้ชนะ ไม่ใช่เหรอวะ
คิดไม่ตกจริงๆ...ไม่รู้ไอ้หัวถั่วเสียโง่อะไรไปบ้าง
เขาคิดห่วงเมตตาจนลืมไปเลยว่ามีนัดกับใครอีกคนที่สำคัญไม่แพ้กันเอาไว้
พอนึกขึ้นได้....ฟ้าก็มืดสนิทซะแล้ว
คนที่นั่งมาข้างๆกันก็หลับสนิทแถมยังกอดหมอนนอนในท่าสบายๆเหมือนก่อนหน้านี้ไม่ได้ผ่านเรื่องร้ายๆน่าสิ่วน่าขวานมาอีก
สภาพเมตตาตอนนี้เองที่ทำให้หรรษารู้ว่า ผู้ชายคนนี้วางใจเขามากแค่ไหน เมตตาเป็นห่วงกุ้งนางมาก แต่พอหรรษาบอกว่าเขาจะช่วยตามหาเพื่อนสนิทให้เองไม่ต้องกลัว มันก็เงียบไปก่อนหลับลงง่ายๆด้วยความเพลีย
หรรษาคิดไปถึงวันที่แม่ของมันฝากฝังเขาไว้
อะไรคือการที่แม่อยากให้ลูกชายที่อยู่สุขสบายได้มาเจอกับการใช้ชีวิตที่สลับซับซ้อน ไม่ว่าจะยังไง แต่ตอนนั้นหรรษาก็ไม่ต่างอะไรกับคนแปลกหน้าในครอบครัวมันอยู่ดี แล้วถ้าบทสรุปมันไม่ได้แฮปปี้ อะไรจะเกิดขึ้นกับครอบครัวเล็กๆของเมตตากันนะ
“เฮ้ยเมต มึงตื่นสักทีดิวะ หลับเป็นตายเลย”
เขาปลุกมันเมื่อมาถึงที่หมาย คนหลับสบายลุกขึ้นมาขยี้ตาแล้วมองไปรอบๆ มันคงแน่ใจแล้วว่านี่ไม่ใช่บ้านใคร ไม่ว่าจะเป็นบ้านมันหรือบ้านของหรรษาเอง
“กุ้งนางอยู่ที่นี่เหรอวะ”
แต่เขาก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นห่วงเพื่อนได้ขนาดนี้ไม่ว่าจะเป็นยามหลับหรือยามตื่น มันมองหาเพื่อนตัวเองไปรอบๆบริเวณที่มีเพียงแสงสว่างสลัวๆเป็นบางจุดเท่านั้น
“เปล่า กุ้งนางไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก แต่กูให้เพื่อนๆช่วยดูให้แล้ว เพื่อนกูติดต่อไปที่แฟนเก่าเพื่อนมึงแล้วด้วย”
มันพยักหน้าหงึกหงัก คงนึกออกแล้วว่าตอนมันกับหรรษาเจอกันครั้งแรก ร้านที่เราไปเจอกันเป็นร้านที่แฟนเก่ากุ้งนางเคยร้องเพลงอยู่ กลุ่มเพื่อนของเราเลยยังพอถามข่าวคราวกันได้บ้าง
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าในวงเด็กช่างที่ดูเหมือนว่าไม่ค่อยจะถูกกันและอยู่กันเป็นวงแคบๆ แต่จริงๆแลวค่อนข้างจะกว้างขวางเพียงแต่ต้องดูให้ดีๆว่าคนที่เราเข้าไปถามข่าวคราวไม่ได้มาจากอริฝั่งตรงข้ามก็เท่านั้นเอง พวกเราจะมีเซ้นส์ที่อธิบายเรื่องพวกนี้ออกมาเป็นหลักทางวิชาการไม่ได้ แต่ก็ยังไม่เคยพลาดเรื่องนี้กันสักครั้ง ไม่งั้นจะมีเรื่องตีกันโดยบังเอิญเกิดขึ้นบ่อยๆเหรอ
“แล้วที่นี่คือที่ไหนวะ”
“เลียบทางด่วนรามอินทรา”
“มาทำไมอะ”
“มาหาคน”
หรรษาตอบเท่าที่มันถาม อยากรู้ว่ามันจะมีปฏิกริยายังไง
“กวนตีนกูใช่มั้ยเนี่ย”
มันแหวขึ้นมา หรรษาเองก็หวังว่าจะได้เห็นอารมณ์แบบนี้ของมันนั่นแหละ
“จริงๆกูมีนัดที่นี่แต่พอดีมีคนหัวถั่วทำอะไรไม่คิดอะ กูเลยผิดนัดเลย”
“แล้วไมไม่มาตามนัดก่อนวะ มึงก็ไม่ได้ฉลาดไปกว่ากูหรอกหรรษา แหม แค่นี้ก็คิดไม่ได้”
“มาตามนัดก่อนแล้วค่อยได้ข่าวทีหลังว่ามึงโดนไอ้เพทายงาบอะเหรอ สนุกกันล่ะงานนี้”
“สรุปมันก็เอาผู้ชายจริงเหรอวะ”
“กูก็ไม่รู้”
แต่กันไว้ดีกว่าตามแก้ การสูญเสียไม่ว่าจะเล็กใหญ่แค่ไหนมันก็มีความเสียใจตามมาให้เราเจ็บลึกอยู่ดีนั่นแหละ
เมตตาทำปากเบ้ใส่ เขาแกล้งมองเมินไปยังพื้นที่กว้างๆใต้ทางด่วน ที่มันถูกทำขึ้นมาเป็นลานกีฬาฟุตซอลแต่บางครั้งที่นี่่ก็ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นลานสเก็ตช์ย่อมๆ ไม่มีใครอยู่ในบริเวณนี้แล้ว บรรยากาศเงียบเชียบ ปกติช่วงเย็นๆที่นี่จะคึกคักเป็นพิเศษด้วยว่ามีเด็กๆมาเล่นกันเจี๊ยวจ๊าว
ใกล้ๆกันนั้นมีพวกไร้บ้านมาก่อเพิงอาศัยกันอยู่เป็นชุมนุมเล็กๆหรรษาคว้ามือคนที่กำลังมองหาอะไรอย่างไร้จุดหมายให้เดินไปด้วยกัน
มันฝืนตัวเอาไว้
“จะไปไหนอะหรรษา อย่าบอกนะว่ามึงสั่งยาบ้าเอาไว้ที่นี่”
หรรษาเอานิ้วดีดคนปากดีไปทีนึง โทษฐานที่เวลานี้มันเสือกคิดในแง่ร้ายได้ แต่ในเวลาที่ควรต้องคิด มันกลับคิดไม่ได้
“แม่งกูต้องหาทางคัดค้านความรุนแรงจากมึงให้ได้ คอยดูนะหรรษา”
“ตามสบาย แต่กูขอไว้อย่างนะ ไม่ต้องไปหัดมวยอะไรอีกล่ะ กูสงสารครู”
“กลัวกูแมนกว่าอะดิ โถ่ กูแค่ไม่อยากให้มันเอิกเกริกเว้ย”
หรรษาส่ายหน้ากับความขี้โม้ของมัน
“มึงเลยเลือกที่จะผอมแห้งแรงน้อยอยู่อย่างนี้ เพราะมึงไม่ค่อยบำรุงตัวเองไงเมต สารอาหารเลยส่งไปไม่ถึงหัวถั่วของมึงสักที”
“เออแม่ง ว่ากูโง่อยู่ได้ ถ้ากูฉลาดกูคงไม่เป็นเมียมึงง่ายดายขนาดนี้หรอก ถ้ารู้ว่าเอาผู้ชายได้กูชิงเป็นผัวมึงไปนานแล้ว”
ได้ยินประโยคนี้จากเมียแล้วหูกระพือเลย
“มึงว่าอะไรนะเมต กูได้ยินไม่ถนัด”
“กูบอกว่ามืดแล้ว มึงจะทำอะไรก็รีบๆทำเถอะ นอกจากเรื่องกุ้งนางแล้วกูคิดว่ายังมีอีกเรื่องที่กูจะบอกมึง”
“มึงขยันหาเรื่องขนาดนั้นเชียว”
“งานนี้กูไม่ได้หาเว้ย ตกลงมึงมาหาใครวะ”
“ตามมาเหอะ เดี๋ยวมึงก็รู้”
เขาเดินนำเมตตาเข้ามาในซอยเล็กๆ จริงๆหรรษาไม่เคยเข้ามาที่นี่เลย นี่เขาเดินเข้ามาตามคำบอกเล่าของคนที่กำลังตามหาแบบลางเรือนเต็มที เดินไปตามเสียงที่น่าจะเป็นเด็กๆเล่นกันอยู่ แล้วหรรษาก็เปิดยิ้มกว้าง คนที่กำลังตามหายืนถือยางข้างหนึ่งให้เพื่อนกระโดดหน้าหงอยๆ
“อังซัง”
หรรษาร้องเรียก เด็กคนนั้นหันมาตามเสียงก่อนจะโยนยางทิ้งให้เพื่อนที่เล่นอยู่ด้วยกันทำหน้างงๆ เด็กผู้หญิงตัวสูงโย่งหน้าตาน่ารักแต่ค่อนข้างจะมอมแมมยิ้มกว้างวิ่งเข้ามาหา แต่พอมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาเท่านั้น เด็กผู้หญิงก็ร้องไห้โฮออกมาอย่างสุดกลั้น
“พ่อหรร ไหนว่าจะมาหาหนู ทำไมไม่มาล่ะ หนูคิดว่าพ่อจะทิ้งหนูไปซะแล้ว”
หรรษาดึงเด็กผู้หญิงเข้ามากอดแนบอก ลูบหัวเบาๆอย่างปลอบประโลม
“ขอโทษนะ แต่พ่อมีธุระเร่งด่วน ไม่ได้ทิ้งหนูหรอก ยังไงก็จะมาหาแน่ๆ”
หรรษาปลอบ ลูบหลังเด็กสาวเบาๆ รู้สึกแย่ที่ให้ความหวังเด็กคนหนึ่งเอาไว้แล้วทำไม่ได้ อังซังยังเป็นเด็กอยู่แน่นอนว่าเมื่อผิดหวังแล้วคงเสียใจมาก เราเลยนั่งกอดกันอยู่นานจนแผ่นหลักกระตุกเพราะถูกสะกิด
เมตตากำลังจ้องมองมาที่เขาเหมือนอยากได้ความกระจ่างมากกว่านี้ สายตาคาดคั้นของมันทำให้หรรษาขำมากกว่าจะตกใจ มันทำหน้าเหมือนกำลังจะร้องไห้ใส่เขาก็จริงแต่เป็นหน้าที่กำลังจะร้องไห้แบบงงๆ แบบลังเล แบบตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเอายังไงมันเลยเป็นหน้าที่หรรษามือไวเท่าที่ใช้สมองคิด เขาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาแชะหน้าของเมตตาตอนนี้เอาไว้ ผละเด็กน้อยออกจากอกแล้วแนะนำทั้งสองฝ่ายแต่โดยดี
“อังซัง คนนี้ชื่อพี่เมต เป็นแฟนพี่”
เด็กน้อยมองหน้าไอ้เมตทีสลับกับมองหน้าเขาทีแบบงงๆ
“ไม่ต้องงงหรอก เดี๋ยวโตขึ้นหนูก็จะเข้าใจ”
“หรรษาแต่กูโตจนจะแก่ตายอยู่แล้วกูยังไม่เข้าใจเลยนะ”
ไอ้หนูจำไมอีกคนรีบแย้งขึ้นมา
“น้องเขาชื่ออัญชัญ แต่กูเจอตอนเขายังพูดไม่ชัด ตอนนั้นเขาแนะนำตัวกับพวกกูว่าชื่ออังซังน่ะ เลยเรียกแบบนั้นมาตลอด น่ารักดี”
หรรษาไขความกระจ่างให้หัวถั่วได้เข้าใจ
“แล้วมึงมาไข่ทิ้งไว้ตอนไหนวะลูกถึงได้โตขนาดนี้”
“โห มึงนี่โคตรมองกูในแง่ร้ายเลยนะ กูไม่ได้ไข่เองเว้ย แต่ตอนกูยังเล่นสเก็ตช์อยู่กูมาเล่นแถวนี้ เจออังซังคลานไปคลานมาเล่นดินเล่นทรายอยู่แถวนี้เลยช่วยๆกันดูอะ ก็ดูมาจนโตจนเด็กเรียกพ่อเนี่ยแหละ สงสารเด็กมันแถวนี้สภาพแวดล้อมไม่ดีเยอะ”
“มึงเป็นคนดีอะ ขอหอมแก้มทีดิ”
“ห่าเมต ต่อหน้าเด็ก กูเพิ่งบอกไปเมื่อกี้ว่าอยากให้เด็กเจอแต่สิ่งดีๆ นี่มึงมัน”
คนถูกด่าทำหน้าสำนึกผิด มันยิ้มเป็นมิตรให้อังซังแล้วหันมาหาหรรษาบอกว่ามันขอโทษ หลังจากนั้นมันก็เงียบไปเลย ปล่อยให้เขาคุยกับอังซังตามประสา แม้จะเดินตามมาตอนที่ของชวนอังซังมาเอาของฝากที่รถมันก็ยังเงียบ เขาคิดว่ามันโกรธ แต่ฟอร์มที่ตัวเองมีทำให้ไม่ได้ง้อมันทันที ไม่อยากให้อังซังเห็นเขากับเมตประเจิดประเจ้อด้วย ไมอยากให้เด็กงงกับเรื่องผิดธรรมชาติเรื่องนี้ อยากให้เขาโตกว่านี้ก่อน ได้แต่เดาว่าเมตกำลังงอนเขา
แต่ความจริงแล้วเพียงแค่ปิดประตูรถเข้ามา เมตตาก็พร้อมที่จะพูดความรู้สึกทั้งหมดที่มันมีกับเขา
“กูนี่แย่จริงๆนะหรรษา”
“เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีกล่ะ”
มันเปิดขึ้นมาซะงงเลย
“โลกนี้ไม่ยุติธรรมเลยมึงว่ามั้ย”
“มึงเพ้ออะไรออกมาเนี่ย เป็นอะไร งอนรึหึงมึงบอกกูมาดีๆดิ จะได้จัดการถูก”
“ก็มึงอะเป็นคนดี แต่คนอื่นมองว่ามึงไม่ดี มึงมันเหี้ย มึเกเรเสเพลแบดบอย........!@ฺ%#**%”
“เฮ้ย นี่มึงหลอกด่ากูส่วนตัวเปล่าเนี่ย”
“เปล่า กูชมมึงจริงๆนะเว้ย มึงคิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเองอะ แต่กู กูคิดถึงแต่กูเองกับคนรอบๆตัวกูแค่ไม่กี่คน แต่มึง มึงคิดถึงทุกๆคนทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก”
“ไอ้หัวถั่วเอ้ยยยย พูดซะกูตกใจนึกว่ามึงเพ้ออะไร คนร้อยพ่อพันแม่มึงจะให้เหมือนกันหมดได้ไงเล่า เอาเหอะ เดี๋ยวมึงก็รู้ว่ากูเองก็มีมุมที่เห็นแก่ตัวอยู่เหมือนกัน”
หรรษาคิดไปถึงเรื่องที่ยังไม่เกิด แต่สัญชาตญาณบอกว่ามันกำลังจะเกิดเพียงแต่หรรษาไม่รู้วามันจะรุนแรงแค่ไหน
“กลับบ้านกันเหอะ วันนี้กูเหนื่อยละ ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาคิดเรื่องกุ้งนางกันใหม่นะ”
“นี่หรรษา”
“ฮึ มีอะไรเหรอ”
“ไอ้ที่มึงบอกว่ามึงก็มีมุมส่วนตัวเหมือนกันน่ะ คงไม่ใช่เลี้ยงต้อยอังซังใช่มะ”
“ไอ้เชี่ยยยยยเมต มึงนี่ฉลาดแต่เรื่องแบบเนี๊ยะ”
“ก็กู”
มันก้มหน้าเอานิ้วชี้จิ้มกันเหมือนเล่นชนด้วง
“พวกกูเกเรเพราะอะไรพวกกูรู้ สภาพแวดล้อมมีผลมากนะเว้ยเมตนี่ไม่ใช่เอะอะก็โทษสังคมหรอก แล้วแถวนั้นมีแต่วัยรุ่นที่ติดยาไม่เรียนไม่ทำงานทำการ พวกกูเห็นอังซังแถวนั้นก็เอ็นดูเด็ก ช่วยสั่งสอน ซื้อขนมติดมือไปให้ เห็นมาตั้งแต่เล็กๆจนโตป่านนี้อะ มีแต่ความหวังดีไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นหรอก ช่วยสอนชีวิตให้ใครสักคนมันได้ผลบุญมากกว่าขนเงินเข้้าวัดเป็นไหนๆ มึงว่ามั้ยล่ะ”
“อือ วันหลังก็พากูมาหาลูกมึงอีกนะ”
“ได้ดิ จะให้เด็กเรียกมึงว่าแม่ยังได้เลยนะ เดี๋ยวกูบอกอังให้เข้าใจเองไม่ยากหรอก”
“ไอ้บ้า เด็กงงตายเลยมีแม่เป็นผู้ชาย”
“มึงด่าแต่ก็อายนะเมตนะ เอาเหอะกูเหนื่อยละวันนี้กลับบ้านใครดี”
“กลับบ้านกูได้มั้ย”
“ได้ดิ”
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่หรรษาก็ลืมคิดไปแล้วเหมือนกันว่ามันเริ่มมาจากตอนไหนที่การไปค้างบ้านหลังไหนก็ได้แล้วแต่ความสะดวกของเราสองคนเนี่ย
“หรรษา กูมีอีกเรื่องที่อยากให้มึงรู้ไว้”
มันจับมือหรรษาที่กำลังจับเกียร์เอาไว้ เขาชะงักไปเพราะมันทำหน้าเครียดใส่อีกแล้ว
“เรื่องอะไร”
“รู้แล้วห้ามโวยวายนะ”
“ไปทำอะไรผิดซำซ้อนอีกเนี่ยมึง”
“ไม่ใช่กูทำหรอก”
“ถ้าไม่ใช่มึงก็บอกมาเหอะ กูรับได้อยู่ละ”
“พ่อกับแม่เราอะชอบกันอยู่”
มันพูดอ้อมแอ้มจนจับใจความแทบไม่ได้
“อะไรนะเมต พูดใหม่สิ”
“กูบอกว่าพ่อมึงกับแม่กูอะจีบกันอยู่”
“อ๋อ มึงก็รู้แล้วเหมือนกันเหรอเมต”
“มึงไม่ตกใจ ไม่โวยวายเลยเหรอ”
“ทำไมต้องโวยวาย ผู้ใหญ่เค้าชอบกันมันไม่ใช่เรื่องที่เราต้องโวยวายนี่หว่า”
“มึงไม่กลัวว่าแม่กูกับกูจะแทคทีมกันมาปอกลอกบ้านมึงเหรอ”
“มึงยังฝังใจกับเรื่องที่กูเคยเข้าใจผิดมึงกับแม่เหรอเมต กูขอโทษนะที่ทำให้มึงฝังใจไปแบบนั้น กูขอโทษจริงๆ”
“อือ กูไม่ได้โกรธมึงหรอก กูกลัวมึงจะเข้าใจผิดมากกว่า”
“ไม่แล้วล่ะ มึงสบายใจได้”
หรรษายีหัวคนขี้น้อยใจไปอีกที จริงๆการเข้ามาในชีวิตของเมตตาทำให้หรรษามีชีวิตอย่างคนปกติขึ้นมากเลยนะ เพราะว่าไอ้หัวถั่วมันไม่ค่อยปกติสักเท่าไหร่นี่แหละ
“เราเข้าใจกันง่ายดีจังนะหรรษา ว่ามั้ย”
คราวนี้มันยิ้มได้และยิ้มปากกว้างเลย
“ยังมีเรื่องที่ทำให้เราไม่เข้าใจกันอีกเยอะ สิ่งที่เราต้องทำคือสร้างความไว้วางใจให้แก่กันต่างหากเล่าไอ้หัวถั่วเอ้ย”
“ยังไงเหรอวะหรรษา”
“มึงจงเป็นตัวของตัวเองโดยที่กูจะเป็นคนทำความเข้าใจในตัวมึงเอง ส่วนมึงก็ต้องเข้าใจในความเป็นกูด้วยเหมือนกัน กูไม่อยากให้เราต้องปรับเปลี่ยนตัวเองเพื่อใคร เพราะการฝืนใจมันจะต้องถึงจุดที่ต้องระเบิดขึ้นมาสักวัน ไม่มีใครฝืนได้นานหรอก แต่ถ้ามึงเชื่อใจแล้วก็เข้าใจ ใครก็ทำอะไรเราไม่ได้หรอก”
“เหมือนที่เพอชี่เปลี่ยนตัวเองเพื่อเอาใจมึงน่ะเหรอ”
“ใช่ มึงคิดดูสิว่าถ้าปอไม่อยากเป็นผู้หญิงอยู่ก่อนแล้ว แต่เขาแปลงเพศเพราะคิดว่ากูชอบ แล้วกูเป็นคนบอกว่ากูไม่ชอบแบบนี้ ปอจะเป็นยังไงวะ กลับหลังก็ไม่ได้แล้ว กูเองก็มีตราบาปติดตัวอีก คนเราแค่รักไม่พอหรอกมึง เพราะกูรู้ไงว่ามันยุ่งยากแค่ไหนกูถึงได้หลีกเลี่ยงมัน”
“แล้วตอนนี้มึงเปลี่ยนใจยังอะ”
“เปลี่ยนใจอะไร”
“เปลี่ยนใจที่จะไม่หลีกเลี่ยงมันไง ลองดูอีกสักครั้งสิหรรษา ลองรักดูอีกสักครั้งนะ”
“รักใครล่ะ”
“ก็กูไง มึงอย่าพูดงี้ดิ เรามีอะไรกันแล้วนะ”
“เรียกร้องเป็นนางเอกในละครไปได้นะมึงเนี่ย ปัญญาอ่อนจริงๆ”
“ตกลงยังไงล่ะหรรษา กูลุ้นนะเนี่ย”
“ให้รักคนหัวถั่วไร้วิตามินอย่างมึงเนี่ยนะ”
“เออ อร่อยนะเว้ย ไม่ค่อยมีสารอาหาร ไม่เลี่ยนมากไงมึง”
“ไว้รอดูคืนนี้ก่อน ว่าเด็ดจริงอะไรจริงรึเปล่า”
“หะ หรรษา คืนนี้มึงจะ (มันลอบกลืนน้ำลาย) กูเหรอ”
“มึงกลัวการมีอะไรกับกูรึไง หรือมึงต้องการให้เราต้องแต่งงานกันก่อน”
“เปล่า”
“ก็รู้หรอกว่ามึงอาย กูไม่ได้จะหื่นกามขนาดนั้น เอาไว้ให้ผ่านเรื่องกุ้งนางไปก่อนก็ได้ กูคิดว่ามึงคงไม่มีไม่อารมณ์หาความสุขใส่ตัวตอนนี้”
“มึงเข้าใจกูจริงๆด้วยอะหรรษา”
“กูเข้าใจมึงมาสักพักแล้วเมต มีแต่มึงแหละ เมื่อไหร่จะเข้าใจตัวเองซะที”
“แหม พยายามอยู่ กูอะกำลังเครียดเรื่องกุ้งนาง กลัวว่าจะให้ความสุขมึงได้ไม่เต็มที่ แล้วมึงก็จะเบื่อกูอะดิ”
“คนเราคบกันมึงคิดว่าไว้เพื่อมีอะไรกันอย่างเดียวเหรอ ถ้าอย่างนั้นกูไปหาเอาที่ไหนก็ได้เมต ไม่ใช่เรื่องยากเลย”
“ก็รู้ไงว่ามึงไปหาที่ไหนก็ได้ แต่กูไม่อยากให้เป็นแบบนั้นนี่หว่า กูอยากให้มันเป็นกูคนเดียวอะ พูดไปมึงก็หาว่ากูเรื่องมากแล้วก็เห็นแก่ตัวอีกแหละแม่ง”
“เรื่องนั้นเป็นกู กูก็เห็นแก่ตัวว่ะเมต มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเผื่อแผ่กันหรอกเว้ย ผัวเมียกันอะ”
“กูรู้สึกว่ายิ่งได้สัมผัสกับตัวตนของมึง มึงยิ่งเป็นคนดีว่ะหรรษา ยิ่งให้มาเห็นมุมอ่อนโยนรักเด็กของมึง อยากเป็นแฟนคลับถือป้ายไฟเชียร์มึงประกวดชายในฝันเลย”
“ทะลึ่งแล้วเมต นี่กูแกล้งๆลืมเรื่องที่มึงเสียรู้ไอ้เพทายมันอยู่นะ เดี๋ยวกูขุดขึ้นมาเม้งแม่งเลย”
“กูกลัวมันเอากุ้งนางไปจริงๆนี่ หรือเผื่อมันรู้ว่ากุ้งนางอยู่ไหน”
“ไอ้เพทายมันไม่ได้บูชาในรักอะไรหรอกมึง มันขี้ขลาดจะตาย แค่ที่บ้านแอนรู้แล้วก็จับได้ มันพร้อมที่จะทิ้งแล้วไปหาเอาใหม่นั่นแหละ ไม่มีหรอกที่จะเอาตัวรอดไปก่อนแล้วจะมาอธิบายอะไรเพื่อนมึงในภายหลังแล้วคืนดีกันอะ กูเดาว่ากุ้งนางหลบไปทำใจที่เสียรู้ไอ้เพทายนั่นแหละ”
“ก็ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงกูก็แค่ได้รู้อะมึง จะได้สบายใจว่าเพื่อนไม่ได้อยู่ในอันตราย”
“เออ กำลังตามเรื่องให้อยู่น่า ไม่อยากจะบอกหรอกนะว่าตอนนี้สำหรับกูอะ เรื่องมึงมาเป็นที่หนึ่งไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว แม่ง ไม่น่าเลยจริงๆกูเป็นโสดอยู่ดีๆก็มีเมียหัวถั่วซะงั้น”
“เออน่า กูก็พยายามพัฒนาพันธุ์ถั่วอยู่เหมือนกันน่ะ”
“ถึงบ้านแล้วลงไปกันเหอะ”
“เออ เฮ้ย หรรษา ทำไมบ้านกูไฟสว่างแบบแปลกๆวะ”
มีต่อค่ะ >>>>>