รุ่นพี่ผม...มัน 'เลว'
...
"ด้วงงงงงงงงงงงงงง!!!! ไอ้สันดานเอ้ย !! ใครบอกให้มึงโดด !!!" .
.
.
...เสียงไอ้หมาบ้ามันเอะอะโวยวายอยู่บนเรือนั่นล่ะ แล้วเสียงมันก็ค่อยๆ ห่างออกไป
.
.
.
สักพักถึงจะมีเสียงกระโจนลงน้ำตามมา แต่ก็ช้ากว่าร่างของด้วงที่ดิ่งลงลำน้ำอยู่ดี พอมาถึงตอนนี้ด้วงได้แต่หลับตา ลมหายใจที่ถูกสูดไว้เต็มปอดก่อนกระโจนลงน้ำยังคงพอมีเวลาให้หยุดหายใจใต้น้ำได้อีกพักใหญ่ เหนื่อยชิบหายกับเรื่องวุ่นวายของไอ้รุ่นพี่ตัวเหี้ย ไม่รู้ว่าทำเวรทำกรรมอะไรกันมากับไอ้บ้าสติไม่สมประกอบคลึ้มดีคลึ้มร้ายพอไม่ได้ดั่งใจแม่งก็ซัดซะแทบกระอัก...
.
.
.
...แต่ถึงอย่างนั้นด้วงก็ยังสงสัยตัวเอง..
.
.
.
ว่าไปยอมมันทำไมว่ะ?
***
..
เคยไหม?
ที่อยู่ๆ ก็เกือบจะลืมกลัวความตายกระโดดน้ำตามไอ้โง่สักตัวอย่างไม่คิดชีวิต พอมาสำนึกได้ ถึงได้รู้ว่าทุลักทุเลชิบหาย กับการที่ว่ายน้ำไม่เป็นแล้วดันลืมตัวกระโจนตามลงไปแบบไม่คิด!!
เรี่ยวแรงทั้งหมดหายไปกับการตะกายตัวเองและไอ้ด้วงขึ้นมาให้ได้มีชีวิตรอดดีที่เอื้อมมือตะกายคว้าเอาเชือกผูกเรือหางยาวแล้วสาวตัวเองพร้อมทั้งร่างไอ้ด้วงขึ้นมาได้เหนื่อยและตระหนกจนหัวใจเกือบวาย ทั้งไอทั้งสำลักจนแทบอ้วกแต่จนแล้วจนรอดพอตะกายตัวขึ้นเรือมาแล้วเห็นไอ้ด้วงนั้นมันนอนนิ่ง..
.
.
.
..ความผิดในใจ..
มันกลับเป็นเหมือนหินก้อนใหญ่ๆ ที่ทับอยู่บนแผ่นอก..
.
.
.
ฝนอีกแล้วที่ตกลงเม็ดแบบไม่ลืมหูลืมตา ในตอนแรกรัตติกรว่าจะฝืนความหนาวฝ่าสายฝนขับเรือหางยาวไปให้ถึงแก่งฯ แต่พอมาตอนนี้แค่ขยับตัวประคองเรือและร่างไอ้ด้วงรัตติกรยังแทบไม่มีแรง รู้ตัวเองดีว่าถ้าปล่อยไอ้ด้วงให้นอนลงไปจะทำอะไรๆ ถัดกว่านี้ แต่อีกใจที่อยู่ในสามัญสำนึกน่ะสิ มันทำให้ยากที่จะยอมตัดใจปล่อยร่างไอ้ด้วงให้นอนหนาวอยู่ในลำเรือคนเดียว แขนข้างหนึ่งกอดเอวมันไว้กับอก ในขณะที่แขนอีกข้างพยายามฝืนตัวเองขับเรือเข้าเทียบเกาะแก่งที่ใกล้ที่สุด
รัตติกรไม่รู้ตัวหรอกว่าตัวเองทำอะไรลงไป..
ไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่า..
.
.
.
..ตัวเองจะกลายเป็น 'ปลา'
.
.
.
***
..ท่อนแขนมันร้อนผ่าวพอๆ กับแผ่นอก ลมหายใจนั่นก็ด้วย ใช้แทนกระเป๋าน้ำร้อนได้เลยมั้ง..
บนฝั่งในตอนนี้มืดก็จริง แต่ยังไม่สนิทพอเพราะแสงจันทร์บนฟ้ายังคงส่องลงมาทะลุดงไม้ ด้วงได้แต่จ้องหน้าคนหลับ โครงหน้าที่มองผ่านแสงจันทร์มันไม่ได้ดูดีนักหรอก แต่ถึงอย่างนั้น..มันก็น่าชื่นชมอยู่ไม่น้อย กับสติปัญญาประมาณหางอึ่งของไอ้รุ่นพี่ที่ดีแต่ใช้กำลัง..
'เพี้ยะ!'
เผลอฟาดมือลงต้นขาจนเลือดแดงเลอะมือ พร้อมอาการคัน ด้วงแทบอยากจะกระทืบไอ้รุ่นพี่ที่นอนไข้ขึ้นอยู่ในตอนนี้ชะมัด ถ้าไม่ติดตรงแรงรัดของวงแขนแกร่งนั่นมันรัดช่วงเอวของตัวเองไว้อย่างกับคีมเหล็ก
สัส! ปัญญาอ่อน!!
นี้ไอ้เหี้ยพี่มันคิดหรือไงว่ามันอยู่ในละครหลังข่าว???!! จำเลยรัก เหี้ยๆ เลยมั้งที่ติดเกาะตอนฝนตก เงยหน้าขึ้นไปมองไอ้บ้าชอบใช้กำลังแล้วด้วงก็แทบครางถอนหายใจ มาถึงขั้นนี้แล้ว ทำไมจะไม่รู้ว่ามันรัก ..รักแต่เสือกแสดงออกไม่เป็น ดีแต่ใช้กำลัง ดีแต่..
.
.
.
...ทำร้ายจิตใจ..
"..อยู่ในเรือก็ดีอยู่แล้ว เสือกขึ้นมาบนฝั่งให้ยุงกัดตัวลาย...รุ่นพี่ ..รุ่นพี่รู้รึเปล่าว่าผมแพ้ยุง..ตอนนี้เริ่มคันแล้วด้วยสิ...ผมไม่ชอบยุง ไม่ชอบรุ่นพี่ด้วย...ตอนนี้ผมกลับไปที่แก่งฯ คนเดียวดีรึเปล่านะ..กลับไปแล้วทิ้งให้รุ่นพี่ไข้แดกตายกลางเกาะ?.."
พูดเพ้อไปอย่างนั้น ตอนนี้ด้วงรู้ดีว่าไม่มีวันได้คำตอบ..
.
.
.
และเพราะรู้ไง..
ว่าคนที่กอดตัวเองไว้ตอนนี้พิษไข้ทำให้ไม่มีสติ..
.
.
.
..ด้วงถึงได้..
.
.
.
กล้าโน้มลำคอใหญ่ๆ นั้นลงมาหอมแล้วกัดเลีย..ผ่านผิวหนังอันร้อนผ่าว...
.
.
.
"...กลืนเบ็ดเข้าไปลึกๆ นะครับพี่...กลืนเข้าไปแล้วทรมานให้ตาย..ตอนที่ผมดึงเบ็ดขึ้นมา..."
***
จ๊ะปอ อดแปลกใจไม่ได้ที่ด้วงกว่างฝ่าสายฝนกลับมาถึงแก่งฯ ในตอนใกล้รุ่งสาง..
ไต่ถามกันคราวๆ ถึงได้รู้ว่าติดเรือหาปลากลับมาจากเกาะไผ่ ส่วนเรือหางยาวที่ผู้จัดการขับไปจอดทิ้งไว้รอเช้าให้คนงานไปเอากลับ ไอ้ยะข่าปิดปากเงียบเรื่องคุณผู้จัดการ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ถูกไกด์อย่างด้วงคาดโทษจนเกินเหตุ ช่วงเช้ามืดด้วงทิ้งให้ไอ้ยะข่าเข้าไปดูผู้จัดการ ส่วนตัวเองผลุดลุกไปต้อนรับบรรดาแหม่มฝรั่งอย่างครึกครื้น เรื่องกรุ๊ปทัวร์เรื่องอาหารก็ว่ากันไป จนจวนจะสายๆนั้นล่ะ ไอ้ยะข่าถึงได้วิ่งกระหืดกระหอบแอบมากระซิบบอกว่า..
'คุณผู้จัดการอาละวาดเพ้ออยากเจอไกด์'
.
.
.
***
โครงหน้าเข้มๆ ..
ตัดกับแววตาดุๆ ที่หลุบอยู่ใต้เปลือกตา ไรหนวดที่ออกจะเริ่มเขียวครึ้มเพราะเจ้าของโครงหน้านอนซมอยู่อย่างนี้มาสองสามวันได้แล้วมั้ง..ด้วงกว่างแวะมาดู 'ปลาป่วย' ในบางครั้ง แต่ก็ดันเข้ามาในตอนปลาหลับ ทิ้งให้ไอ้คุณปลา ได้กระสับกระส่ายในตอนตื่น ทั้งเคือง ทั้งน้อยใจ และที่หยุดตัวเองไม่ได้คืออาการคิดถึงอย่างร้ายกาจ...
.
.
.
อยาก..กอด..อยากบอกว่า...
'คนป่วยมันอ่อนแอแค่ไหน..'
"ด้วง...ผู้จัดการจะตายไหมอ่ะ?"
นั่นเป็นประโยคที่ยะข่าพลั้งปากถามด้วงกว่างในตอนที่ ไกด์อย่างด้วงมันว่างจากพวกแหม่มๆ มานั่งเฝ้าข้างเตียง ผ่านมาสี่วันล่ะที่ไอ้คุณผู้จัดการมันนอนซมไม่ยอมลุก เนื้อตัวตอนนี้ถึงไม่ร้อนมากแต่ก็รุ่มๆ เอาการ มาถึงในตอนนี้ด้วงชักอยากจะให้จ๊ะปอ หรือไอ้ยะข่าก็ได้ พาคนป่วยไข้ไปหาหมอที่ฝั่งเสียที
"ขอดูอาการคืนนี้ก่อนแล้วกัน..ถ้ายังไม่ดีคงต้องพาไปฝั่งพรุ้งนี้เช้า "
"...แล้วคืนนี้? ด้วงจะให้ยะข่าเฝ้าไข้ หรือให้จ๊ะปอมาเฝ้าล่ะจ๊ะ? "
.
.
.
..."คืนนี้ผมเฝ้าเอง...ตอนเช้าค่อยว่ากันอีกที ตอนนี้ผมเฝ้าให้ ส่วนยะข่ากับจ๊ะปอ ไปดูพวกลูกทัวร์ มีปัญหาอะไรก็มาเคาะเรียกแล้วกัน"
.
.
.
ปิดประตูลาไอ้ยะข่าได้แค่นั้นล่ะก่อนจะหันกลับมาเจอแววตาเหม่อๆ ของคนป่วยจะว่าไป ไอ้บ้านี้ตอนป่วยนี้ก็ดีนะ ปากไม่หมา..ว่าง่าย.. ไหนจะยังโคตรเชื่อง.. แต่ถึงจะว่างั้นก็เถอะ แต่ตอนไม่ป่วยมานี้หมาบ้าดีๆ นี้ล่ะ
ข้าวต้มหมูสับกับน้ำเปล่า..
ด้วงได้แต่ป้อนมันเข้าปากตัวเองบ้างเข้าปากไอ้หมาบ้าบ้าง บอกให้อ้าปากก็อ้า บอกให้กลืนก็กลืนสติยังคงมาไม่ครบสินะ ไอ้หมาบ้ามันถึงได้ดูเหม่อๆ เชื่องๆ เชื่องจนด้วงอดคิดไม่ได้ว่าถ้ารู้ว่าตอนเป็นไข้แล้วว่าง่ายขนาดนี้ดูท่าหาเรื่องถีบไอ้หมาบ้านี้ตกน้ำบ่อยๆ ท่าจะดี
"..ปวดหัวไหม?"
ถามไปแค่นั้นเมื่ออีกฝ่ายได้แต่สั่นหน้าเบาๆ แววตาเศร้าๆ ที่จะยิ้มก็ไม่ยิ้ม แต่ความกังวลที่มันปรากฎที่หัวคิ้วเข้มๆ ทำเอาด้วงอดถอนหายใจไม่ได้
"อยากกินอะไรอีกไหม? จะไปเอาให้.."
ประโยคนั้นคนฟังเหมือนจะอ้าปากบอกอะไร แล้วจู่ๆ ก็หุบปากตัวเองปิดเงียบไปซะอย่างนั้น ..
.
.
.
...อาการแบบนั้นล่ะที่พาลพาให้คนไม่ป่วยเริ่มวางใจตัวเอง...
.
.
.
มันก็เหมือนกับการเย่อปลา...
เมื่อปลามันเหมือนเริ่มจะไม่ยอมสู้แรงเบ็ดนัก... พรานเบ็ดถึงได้ค่อยๆ ปล่อยสายเอ็น..
.
.
.
เป็นครั้งแรกที่ด้วงเป็นฝ่ายยั่วไอ้หมาบ้านั่น เป็นครั้งแรกที่มันยอมโอนอ่อนตามแรงผลักที่ดันร่างอันร้อนผ่าวลงไปนอนราบกับพื้นเตียง..
เป็นครั้งแรกที่เป็นฝ่ายรุกจูบ..
เป็นครั้งแรกที่เริ่มรู้สึกสนุกและอยาก....อยากได้มันมาก...มากกว่าการกอด...
.
.
.
ปากร้อนๆ ตัดกับผิวเย็นๆ สายตาที่มองจ้องขึ้นมามันดูโคตรน่าแกล้ง มือใหญ่ที่เหมือนจะไร้เรี่ยวแรงในตอนต้น ตอนนี้มือนั้นเป็นฝ่ายกดคลึงสะโพกด้วงแล้วบีบขยำ กางเกงขาสั้นถูกรูดรั้งดึงงลงไปกองกับพื้น..
.
.
.
ใครมันจะไปคิดว่าแรงขืนที่เคยได้รับมาตลอด มันจะกลายเป็นแรงปรารถนาที่สามารถสั่งการณ์ปรนเปรอได้ทุกอย่างโดยยินยอม
.
.
.
จูบเบาๆ หวานๆ ลิ้นชื้นๆ ที่ละเลงไปทั่วโพรงปากอย่างเอาใจ ..
ยอดอกที่ชูชี้แข็งเป็นไตเพราะแรงขยี้ของปลายนิ้วมือ เสียงครางขอและเสียงสูดซี้ดด้วยความเสียวซ่านยามตกอยู่ในห้วงหฤหรรษ์อย่างความคุมไม่ได้เมื่อมือใหญ่ขยำแล้วบีบเค้มคลึงสะโพกไล่ลามไปยังช่วงเอวที่ถูกฉุดกระชากขึ้นมาจรดจนหน้าไอ้หมาบ้ามันถือโอกาสอ้าปากเข้าครอบครอง
"อ้า!! อื้ออออออออออ!!! ป..ปล่อย...ปล่อยก่อน...อื้อออออออออออ..!!"
ด้วงแทบจะไร้แรงต่อต้านยามปากร้อนๆ มันครอบแล้วรูดรั้ง จะถอนตัวออกมาก็ไม่ได้กระมังเมื่อมือแข็งๆ มันกดตรึงแล้วขยำอยู่ที่บั้นท้าย เรี่ยวแรงมันหายไปหมดเหมือนถูกสูบจิตวิญญาณ เสียงครางมันแทบจะไม่ได้ช่วยให้ความเสียวซ่านนั้นลดลง เม็ดเหงื่อทั่วทั้งร่างหล่นลงบนแผ่นอกที่อุณหภูมิมันค่อยๆ ปรับเข้าสู่ระดับปกติ ต่างกับด้วงที่ตอนนี้อุณหภูมิร่างกายค่อยๆ ไต่ระดับขึ้นสูง!!
..และกว่าที่ไอ้ปลาป่วยจะยอมคายแก่นเบ็ดออกมา ด้วงก็แทบจะละลายคาปากมัน..
เนื้อตัวเปียกชื้นไปด้วยเม็ดเหงื่อ เรี่ยวแรงถูกสูบดูดอย่างร้ายกาจ ท่อนขาทั้งสองข้างที่แนบคล่อมอยู่กับหน้าไอ้ปลาบ้าในตอนนี้สั่นระริก และยิ่งสั่นเข้าไปอีกเมื่อปลามันปล่อยคันเบ็ดของด้วงแล้วเลียไล้ต่ำลงมาพร้อมๆกับปลายนิ้วแข็งๆ ที่เริ่มจะอยู่ไม่สุข..
.
.
.
ในตอนนี้ด้วงไม่รู้หรอกว่าอะไรเป็นอะไร..
ไม่มีสติด้วยซ้ำในตอนที่พยายามกดร่างกายตัวเองให้กลืนบ้างอย่างเข้าไปจนมิด แรงขย่มที่ส่งช่วยมาจากคนป่วยข้างล่าง เสียงคราง เสียงเนื้อ เสียงในสมองที่ส่งไปยังหูดังวิ้งๆ แล้วขาวโพลนยามที่ด้วงจะพยายามคิดหาเหตุผลมันว่างเปล่า ..
.
.
.
"ชอบไหม?"
เป็นครั้งแรกในช่วงสามสี่วันที่ด้วงได้เห็นไอ้หมาบ้ามันยิ้มถามอย่างหยามใจ ก่อนถือเอาอารมณ์ดิบๆ ข้างในมาเป็นแรงผลิกตัวกดให้ร่างด้วงได้กลับไปนอนบนที่นอนชื้นๆ แทนตัวมัน ท่อนขาถูกฉีกให้อ้ากว้างอย่างน่าอับอาย หากแต่ยามคนข้างบนมันจับขานั้นพาดบ่าตัวเองไว้ แล้วเอียงมาจูบเข้าที่ข้อเท้า ความอายของด้วงมันก็หายไปซะดื้อๆ
"..กู..อยู่กับมึงตรงนี้.. "
"อื้อ..."
"..แล้วทุกอย่างของกู..ก็อยู่กับมึงตรงนี้..."
ฝ่ามือใหญ่ๆ มันแนบเข้ากับช่วงหัวใจของด้วงที่เต้นแรง ครั้งเดียว แค่ครั้งเดียวในตอนนี้เท่านั้นล่ะ ที่ไอ้หมาบ้ามันอ่อนโยน ก่อนจะกลับเข้ามาสู่โหมดหมาบ้า กระแทกและลงแรงมาแบบไม่ต้องถนอม หลายครั้งที่ด้วงซี้ดจนต้องกัดมันเสียบ้างเพื่อเตือนให้หยุด หากแต่สิ่งที่ได้คือแรงควายๆที่พยายามตักตวงทุกอย่างอย่างขาดสติ ...
.
.
.
มันก็แค่ช่วงเวลาโอนอ่อนตามปลาใหญ่ที่มีแรงลากสายเบ็ด ...
มันก็แค่ช่วงที่สมองขาดการสั่งการณ์ยามถูกเสียดสีแล้วยัดปลายนิ้วนั้นมาควานในโพรงปาก ดูดกลืนทุกสัมผัสที่หวามหวาน ไล่เลียทุกอย่างที่ประเคนมาใกล้ปากอย่างหื่นกระหาย..สัมผัสทุกอย่าง..ใช้เพื่อเรียกเสียงกรีดร้องอันสุขสม .. ขนมหวานและน้ำเมา บีบกัด ก่อนจะสอดเพื่อให้รัดแน่นแล้วควบโยก..
.
.
.
ดูดกลืนปลายนิ้วใหญ่ให้คลายความหฤหรรษ์ ส่งเสียงครางอย่างควบคุมไม่ได้ หัวใจเต้นแรงจนแทบจะวาย ก่อนจะถือชัยชนะยามทำให้อีกฝ่ายทนทรมาน..
.
.
.
ด้วงถูกไอ้หมาบ้าปิดปากอีกครั้งในตอนที่มันกดสะโพกโยกแล้วกระแทกถี่ แต่ยังไงค่ำคืนนี้ก็ดีกว่าทุกครั้ง ดีกว่าตรงที่มันปรนเปรอจูบเบาๆ หวานๆ เพื่อผยุงและช่วยทุเลาความแหลกช้ำๆของร่างที่ไอ้หมาบ้ามันจับให้เป็นฝ่ายนั่งเทียนขึ้นขย่มเสียเอง..
.
.
.
"...อื้ออออ...อ่ะ!! !อ่ะ!! อึก!!! พอแล้ว ..พอไม่ไหวแล้วนะ..."
"..มึงไม่ไหวก็ต้องไหวว่ะ..อย่าเพิ่งนอน..กูไหว้ล่ะด้วง..อย่าเพิ่งหลับ...กู..อยากอยู่กับมึงอย่างนี้ทั้งคืน..อยากได้ยินเสียงมึงครางทั้งคืน..."
"อื้อออ!!!"
"เชี่ยเอ้ย...อย่ากัดหัวนมกูดิว่ะ..อ้าส์!! ก้นมึงแน่นเชี่ยๆ ยกสะโพกอีก..อืมมมมมมมส์...งั้นล่ะเด็กดี อึก!!! อ่ะ!! อ่ะ!! "
"อื้ออออออ..."
.
.
.
***
..
"ไกด์ !! ตกลงจะเอาผู้จัดการไปฝั่งนู้นหรือเปล่า?"
ตอนเช้ายะข่าเป็นฝ่ายกระวนกระวายมาเคาะห้องพักผู้จัดการเสียเอง แล้วก็แปลกใจเสียเองที่ได้เห็นว่า...ไม่ใช่ไกด์อย่างด้วง..
คนที่เป็นฝ่ายเปิดประตูออกมาเป็นผู้จัดการป่วยหนักใกล้ตายในท่าทางโคตรสดชื่น ส่วนไกด์ที่เป็นคนเฝ้าไข้อย่างด้วงกว่าง นอนหลับขดตัวกลมเป็นตายอยู่ในกองผ้าห่ม..