(ต่อ)
“พี่ฟ้าครับ”
เด็กหัวทองผู้ยืนนิ่งอยู่ที่ชานบ้านมาตั้งแต่บ่ายแก่ๆ คิดแล้วคิดอีกเรื่องทวงสัญญารักของตัวเองในวันเกิด เพราะอากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้มันงุ่นง่านเหมือนลูกหมายังไม่ได้วัคซีน พี่ฟ้าที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่หันมามองแล้วเลิกคิ้วมองก่อนจะหันกลับไปตามเดิม มันขยับตัวก่อนจะไปนั่งแหมะข้างเขา
“วันนี้ผมโตแล้วนะ”
อันนี้บอกใครก็เชื่อ ตัวใหญ่จนนั่งทีโซฟายุบ... ฟ้าหันมามองไอ้เด็กที่เหมือนลูกหมากำลังทวงสัญญาในวันเกิดก่อนจะถาม
“รู้ได้ยังไงว่าตัวเองโตแล้ว”
เอเดนทำหน้าพิลึกอยู่สักพักก่อนจะตอบด้วยคำตอบที่ไร้น้ำหนักแต่มั่นอกมั่นใจ
“ผมอายุสิบแปด”
พี่ฟ้าเลิกคิ้วมองแล้วถามอีกรอบ
“แล้วยังไง?”
มันก็คิดอีกรอบแล้วค่อยตอบ
“ผมสูง 185 เซ็น น้ำหนัก 75 กิโลกรัม”
“แล้ว?”
คราวนี้ฟ้าถามแล้วหันมามองอีกคนให้เต็มตาอย่างต้องการรู้ความต้องการที่แท้จริงของอีกคน เอเดนสูดหายใจเข้าลึก มือใหญ่ของมันบีบกันจนห่อเลือดก่อนจะตอบด้วยคำพูดที่พูดเป็นประจำแต่ครั้งนี้กลับพูดยากกว่าปกติมากโข
“ผมรักพี่ฟ้า”
คนเป็นพี่ยิ้มแล้ววางมือบนหัวทองๆแล้วขยี้เบาๆ ก่อนจะพูดบ้าง
“นั่นไง นายยังไม่โตสักหน่อย”
เอเดนมองผ่านเสี้ยวหน้าของอีกคนไปยังหน้าต่างอย่างจงใจ วันนี้ท้องฟ้าก็ยังสดใสเช่นเดิมแม้จะเกือบย่ำเย็นแล้วก็ตาม...
.
..
…
เอเดนเริ่มมาใช้ชีวิตอยู่บ้านหลังเล็กอบอุ่นหลังนี้กับพี่ฟ้าตั้งแต่หกปีที่แล้ว ตอนที่จบประถมพอดี เหตุเพราะมันคือเอเดน เฮอร์เนอร์ ลูกชายเพียงคนเดียวของเจ้าพ่อเจ้าของร็อคผับหลายสาขาทั่วโลกอย่าง แซม เฮอร์เนอร์ ผู้เด่นและดังสุดกู่ในลอสแองเจลิส มันมีบ้านหลังใหญ่อยู่ในเขตอสังหาริมทรัพย์ที่แพงที่สุดอย่างเบอเวอร์รี่ฮิลล์ มีจากัวร์คันยาวเป็นของขวัญวันเกิดตอนสิบขวบ มีอาจารย์สอนภาษาส่วนตัว เรียนในโรงเรียนหรูและแพงที่สุดในรัฐ พักร้อนที่โรงแรมเจ็ดดาวทั่วโลกทุกวันหยุด จิบไวน์ขวดละหลายพันเหรียญแล้วบ้วนทิ้งเพราะมันเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจความเลิศรสของมัน ทุกอย่างที่ตบแต่งอยู่บนตัวเด็กแคระแกรนล้วนมีมูลค่าสูงทั้งนั้น เพราะทุกอย่างที่มันมีคือสิ่งที่เด็กทุกคนแถวนั้นอยากมี ช่วยไม่ได้ที่มันจะเหลิงกับสิ่งเช่นนั้น แต่กลับมีบางคนไม่พอใจนัก...แม่ของมันเอง... เธอเป็นผู้หญิงที่เอเดนทั้งรักและเทิดทูนเพราะเธอสวยกว่าใคร เธอเป็นลูกสาวเจ้าของธุรกิจร้านอาหารก่อนจะมาพบกับแซมและมีเด็กฝรั่งปัญญาอ่อนขึ้นมา เธอเป็นชาวไอริชผู้มีผมสีบรอนซ์และดวงตาสีฟ้าจัด และลักษณะพันธุกรรมนั่นก็ตกทอดมาถึงมันเช่นกัน คนเป็นแม่มีแฝดพี่อยู่คนหนึ่ง ที่น่าตาเหมือนกันอย่างกับแกะ แต่คุณป้าของมันกลับมีรสนิยมแปลกๆอย่างเช่นชอบคนเอเชียและแต่งงานกับชายหนุ่มคนไทย ... ถูกแล้ว พี่ฟ้าคือลูกของคุณป้ารสนิยมแปลกคนนั้น ...พวกมันเป็นลูกพี่ลูกน้องกันโดยกำเนิด...
แม่ที่ไม่พอใจในลักษณะนิสัยขี้โอ่ในวัยสิบสองของมัน ส่งมันมาอยู่กับพี่ชายที่เคยเจออยู่ไม่กี่ครั้งที่ประเทศกำลังพัฒนา เรื่องราวไม่ได้ดราม่าอย่างที่คิด เพราะเอเดนจำพี่ชายคนนั้นได้ดีและประทับใจเขามากทีเดียว
ในงานวันเกิดของเอเดน เฮอร์เนอร์ ตอนสิบขวบ มันกำลังตื่นตาตื่นใจกับรถคันใหม่ที่ได้มาแต่ยังไม่รู้ว่าควรจะขับมันแบบไหน ท่ามกลางเพื่อนๆที่ล้อมรอบมันเห็นเด็กผู้ชายวัยรุ่นราวสิบห้าถึงสิบหกปีนั่งอยู่ที่มุมของร้านสาขาหกของพ่อที่วันนี้ปิดเพื่องานเลี้ยงของมันโดยเฉพาะ เขานั่งเฉยและไม่ได้สนใจอะไรแม้แต่น้อย นั่นทำให้เจ้าของงานวันนี้คิ้วกระตุกอย่างไม่พอใจ เด็กผู้เป็นจุดศูนย์กลางแห่งความสนใจอย่างมันเวลาถูกเมินแล้วรู้สึกรับไม่ได้ชอบกล
"Hi yellow"
นอกจากจะขี้โอ่และเอาแต่ใจแล้ว มารยาทและคำพูดของมันก็ยังแย่เป็นที่หนึ่ง ความสนุกอย่างนึงของพวกเด็กคนรวยก็คือการดูถูกคนที่ด้อยหรือต่างจากตน ในตอนนั้นพี่ฟ้าที่ตัวสูงกว่าอยู่หลายฟุตนั่งหันข้างให้มันเพื่อกดเกมส์ที่ติดอยู่ในมือ เขาค่อยๆละสายตาออกมาจาจอเกมส์และปรายตามาทางเด็กฝรั่งตัวเล็ก นั่นทำให้มันรู้ว่า...
"Blue eyes?"
คนที่มีลักษณะเหมือนคนเอเชียทุกประการยกเว้นสีของนัยน์ตาหน้าบึ้งอยู่หน่อยก่อนจะยิ้มเยาะแล้วพูดบางอย่างออกมา
“Yep, Blue eyes like you.”
อา.....ใช่ เขามีตาสีฟ้าเหมือนมันเป๊ะ แต่รูปร่างท่าทางและใบหน้ากลับเหมือนคนเอเชี่ยนเสียทั้งหมด นั่นทำให้มันดูแปลกตา สะดุดตา หรืออาจจะเรียกได้ว่าต้องตา เขาลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ตัวมนก่อนจะยื่นของบางอย่างมาให้
“Happy Birthday , white dirty pig”
วินาทีที่เด็กตัวเล็กประสานสายตากับเขาแล้วเขาเดินจากไป มันขยับตัวไม่ได้ราวกับโกรธเสียเต็มประดา แต่เอาจริงๆแล้วมันพึ่งมานึกได้ว่านั่นอาจจะเรียกว่าอาการ...ตกหลุมรัก...ก็ได้ เอเดนมารู้ทีหลังว่าเขาเป็นลูกชายของคุณป้าที่มาเที่ยวพักร้อนช่วงปิดเทอม น่าแปลกที่เขาเลือกที่จะอยู่ที่ประเทศไทยคนเดียวหลังจากคุณย่าเสียชีวิต แต่ให้พ่อกับแม่ทำงานอยู่ในลอสแองเจลิสดังเดิม โดยไม่สนใจที่จะมาอยู่ที่นี่เสียด้วยซ้ำ
มันทดชื่อ
‘ฟ้า’ ไว้ในใจตลอดระยะเวลาสองปีที่ทำตัวเป็นคุณหนูล้างผลาญ ก่อนที่จะโดนแม่อัปเปหิออกมาจะความสะดวกสบายเกินไปนั่น ยอมรับว่าตอนแรกการปรับตัวมันไม่ใช่เรื่องสนุก แม้มันจะเป็นเด็กแก่แดดอย่างไร เด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ แต่ตอนนี้มันกลับเป็นคนบอกแม่ไปหลายรอบแล้วว่า ...มันจะอยู่กับพี่ฟ้า... ถ้าจะให้เอเดนผู้เอาแต่ใจกลับบ้าน ทุกคนที่นั่นจะต้องเปลี่ยนใจพี่ฟ้าให้ได้ก่อนแล้วค่อยมาบอกมัน เรียกง่ายๆว่าถ้าพี่ฟ้าอยู่ที่ไหนเอเดนจะอยู่ที่นั่น ไม่มีพี่ฟ้าที่มันยอมตายดีกว่า... มีคนเคยบอกว่าลูกเป็ดจะเดินตามบางสิ่งเมื่อเห็นว่ามันสะบัดตูดคล้ายแม่ ตรรกะนี้คงใช้ได้กับเอเดนที่มองพี่ฟ้าเป็นไอดอลเช่นกัน ถ้าคุณจะบอกว่าความคิดของมันยังเด็ก.....ใช่ เอเดนมันรู้ตัวเองดีทีเดียว
.
..
...
“เอเดน”
“เอเดน!!”
“ไอ้เด็กหัวหยิก!!!”
“คะ...ครับ!!”
มันละล่ำละลักตอบเมื่อคนเป็นพี่ตวาดเสียงดัง
“เหม่ออะไร ซ้อมได้แล้ว อย่าทำตัวเหมือนไอ้พาย หัดมีสติอย่างพี่ซินเขาบ้าง”
มันเบ้หน้าเมื่อเอะอะพี่ฟ้าที่รักผู้เป็นหัวหน้าวงดนตรีที่สังกัดอยู่ดุ ยิ่งกว่านั้นยังชอบเปรียบเทียบมันกับพี่ซินมือเบสผู้สุขุมอีกต่างหาก เอาจริงๆคือมันนิสัยเด็กจนพาลเกลียดผู้ชายคนนึงมาจนถึงทุกวันนี้ ...ผู้ชายที่พี่ฟ้าเคยชอบ... คงจะดีกว่านี้ถ้าเอเดนมันไม่ได้รู้ว่าพี่ฟ้าชอบพี่ซินผู้แสนดีมาก่อน แค่คิดเด็กฝรั่งผู้ต้องทำงานในวันเกิดตัวเองหลังการสารภาพรักที่ล้มเหลวอีกรอบยิ่งหงุดหงิดเข้าไปใหญ่
“ทำตัวเหมือนกูนี่คือยังไงวะ”
พายเจ้าของชื่อผู้โดนแอบอ้างในด้านลบเถียงขึ้นมา ซึ่งพี่ฟ้าก็ตัดรำคาญโดยการปัดไม้กลองไปมาแล้วเริ่มต้นจังหวะดนตรีใหม่
“เอเดนพี่บอกให้ท่อนนี้ขึ้นด้วยบีแฟลตอย่างที่ซินบอก ไม่อย่างนั้นนายจะร้องยาก”
ฝรั่งหัวทองผู้พะว้าพะวงถึงสัญญาอันล้มเหลวตอนอายุสิบแปด กำลังไร้สมาธิสุดๆ ทำให้สติในการร้องเพลงแทบไม่เหลือ แต่ก็ยังมิวายหันมาเถียงคนเป็นพี่ชายโดยศักดิ์ด้วยอาการที่เรียกว่า...พาล...
“ขึ้นด้วยบีก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลย”
“แต่เสียงจะแกว่ง”
ฟ้าตอบด้วยเหตุผล แต่เด็กมันไม่มีเหตุผลเสียอย่าง
“นั่นเป็นเพราะพี่ซินขึ้นบีแฟลตไง ถ้าขึ้นอิโทรบีตั้งแต่ต้นเพลงก็ไม่แกว่งหรอก”
ปลายประโยคมันหันไปว่ามือเบสที่ขอเปลี่ยนคีย์เล่น ซึ่งเขาก็ได้แค่ยิ้มเหนื่อยใจเพราะชินกับการฟาดงวงฟาดงาของเด็กอย่างมัน มีแต่ฟ้าที่จับอาการหงุดหงิดที่มากเกินไปของน้องได้จนต้องเดินลงมาจากที่นั่งแล้วเอาไม้กลองฟาดหัวมันเบาๆแล้วว่าไปอีกหน
“ไอ้ลูกหมานี่”
มือเบสผู้แค่สบตากับนักร้องก็แทบจะตายเพราะรังสีอำมหิต ยกเบสออกจาบ่าแล้วขอตัวออกไปพักโดยมีพี่ฟ้าเดินเกาะไหล่ตามออกไป จะมีแต่เอเดนที่ยืนนิ่งจ้องแผ่นหลังเขาแทบไม่วางตา
“อะไรของเอ็งวะ...วันนี้ทำไมพาลคนอื่นเขาไปทั่ว”
พายที่กำลังเก็บกีตาร์หันมาถาม เด็กหน้ายุ่ง
“พี่ซินตัวใหญ่เป็นบ้าทั้งที่แต่ก่อนเคยน่ารักแท้ๆ”
มันว่าแล้วนั่งแหมะลงบนพื้นพรหม
“นี่มึงด่าตัวเองอยู่หรือเปล่า”
เอเดนค้อนพี่พายวงใหญ่ ตัวโตแล้วจะทำไมวะ ก็แค่สูงเกือบร้อยเก้าสิบ ตัวใหญ่อย่างชาติพันธ์ ถ้าไม่หลงตัวเองมันว่ามันเท่ห์กว่าไอ้พี่ซินเยอะเลย แม้พี่พายจะเบะปากตอนที่มันเคยพูดแบบนั้นก็เถอะ แต่ฝรั่งก็ยืนยันได้ว่าตัวมันเองหล่อที่สุดในโรงเรียนก็แล้วกัน!!!
“ไอ้เต้มานี่ มึงเอากระเป๋าใส่เอฟเฟ็คก้อนสีดำกูไปไหน”
พายทักเด็กลูกเจ้าของสตูดิโอด้วยคำถามพลางมองหน้าไอ้ฟ้าเพื่อนของตนที่เดินเข้ามาใหม่ ฟ้ามองไอ้เด็กที่นั่งอยู่บนพื้นอย่างอ่านสายตาไม่ออก
“ผมไม่ได้เอาไป”
เต้ผู้กำลังม้วนสายแจ๊คตอบแล้วเหลือบมองฝรั่งเต็มลูกอยู่พักเดียว แต่แค่สบตาเท่านั้นแหละ...
“F*ck you Tae”
เด็กฝรั่งผู้พาลทุกอย่างบนโลกเที่ยวแจกนิ้วกลางให้เขาไปทั่ว คนเป็นพี่ผู้ที่ไม่ชอบให้น้องชายพ่นคำหยาบออกมาว่าจะเดินมาเพ่นกบาลสักทีสองที ถ้าไม่ได้ยินสิ่งที่เต้พูดเสียก่อน
“ไอ้ห่านี่ อารมณ์เสียมาลงกูทุกที ขอให้น้องลูกไม้มึงเป็นกระเทยแปลงเพศ”
“ใคร”
ฟ้าถามเด็กเต้ที่อยู่ม.ปลายที่เดียวกับเด็กฝรั่งตัวป่วน
“เด็กไอ้เดนมัน”
คนตอบก็ตอบแบบง่ายๆ ทำให้คนถูกเข้าใจผิดอารมณ์เสียเข้าไปอีก
“มีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่”
“สนใจผมด้วยหรือไง”
มันตอบแล้วลุกขึ้นยืนทำหน้าเป็นตูด ซึ่งพี่ฟ้าก็เริ่มรำคาญกับท่าทางของมันเสียแล้ว
“เอเดน”
เขากดเสียงลงต่ำอย่างที่ทำยามปรามมันเป็นประจำ และเด็กหัวทองก็ประชดประชัดเป็นประจำเช่นกัน
“Everything in this galaxy is my fault!!!”
ก่อนจะสาวเท้าออกมาด้วยหน้าตาบูดบึ้ง ตอนที่เด็กกว่านี้มันก็ดูน่ารัก แต่ตอนนี้ฟ้าเห็นแล้วอยากจะตบกะโหลกสักทีสองที
.
..
...
“วันนี้เป็นอะไร”
เอเดนมองหน้าคนถามอย่างอยากจะบอกว่า ...ยังต้องถามอีกเหรอ... มันเดินนำหน้าเข้าไปในตัวบ้านยามดึก ได้ยินเสียงพี่ฟ้าตามหลังมา
“เอเดนครับ...ร้องไห้ทำไม”
มันรีบหันขวับไปแก้ตัว
“ผมไม่ได้ร้อง!!!”
“อ้าว....งั้นเหรอ”
เมื่อเห็นท่าทางยิ้มแย้มของเขาจึงทำให้รู้ว่าพี่ฟ้าก็คงง้อสำเร็จเป็นรอบที่ล้าน ถึงครั้งนี้จะมันงอลมากก็เถอะ ...ไม่เคยชนะได้จริงๆ ให้ตายเถอะ... มันเลยแยกเขี้ยวให้เขาเห็นว่าหายโกรธแล้ว เพราะถึงงอลต่อพี่ฟ้าก็คงไม่ง้อแน่นอน
“สุขสันต์วันเกิดนะ”
คนเป็นพี่บอกง่ายๆ เพราะทุกๆปีก็เป็นแบบนี้
“ของขวัญล่ะ”
มีปีนี้ที่เอเดนกล้าแบมือขอของขวัญ ...ของขวัญที่พี่ฟ้าให้ไม่ได้...
“พี่ไม่มีตังค์ขนาดพ่อนายหรอกนะ”
ฟ้าพูดถึงของที่ส่งบรรณาการมาถึงเมืองไทย เป็นนาฬิกาอะไรสักอย่างที่แพงหูฉี่จนเอเดนเองก็ไม่กล้าใส่ วันเกิดปีนี้เอเดนอยากได้อย่างเดียว...
“ขอนิดเดียว”
มันว่าแล้วขยับตัวเข้ามาใกล้
“อะไร”
พี่ฟ้ายืนนิ่งอย่างไว้เชิง
“ผมขอกอดนิดเดียวนะครับ”
เด็กตัวโตกระพริบตาปริบๆมองอย่างน่าสงสาร
“ไม่!!!”
ฟ้าปฏิเสธเสียงแข็ง นั่นทำเอาเอเดนเบ้หน้าคมๆจนเกือบจะใกล้คำว่าปัญญาอ่อน
“โธ่.....ทีตอนเด็กๆยังกอดได้เลย”
เพราะพี่ฟ้าไม่ได้จะเอะอะกอดได้เหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว แต่เป็นเอะอะถีบเอะอะถีบแทน มันเลยต้องอ้อนให้น่าสงสารที่สุดในโลก
“นะพี่ฟ้า นะครับ ... นะ ห้านาทีพอ”
คนเด็กว่าเดินวนรอบตัวฟ้าอย่างกับลูกหมา เพื่อเห็นแก่ความผิดหวังอันยิ่งใหญ่ในวันนี้ฟ้าจึงยอมให้หน่อยนึง
“นาทีเดียว”
ซึ่งนั่นไม่พอต่อความมักมาก?....ของเด็กอีกคนแน่นอน
“สามเถอะ พลีส...”
“เต็มที่เลยสองนาที”
พี่ฟ้ายังพูดไม่จบดีเด็กเรื่องมากก็กอดหมับเข้าแน่น แล้วซบหัวลงบนบ่าอีกคนพร้อมกับพึมพำ
“ครับๆสองนาทีครับ”
ท่ามกลางความเงียบสงัดของกลางดึก มันกระชับกอดและสูดเอากลิ่นน้ำหอมที่คุ้นชินเข้าเต็มปอด พี่ฟ้าตัวเล็กไปเพราะว่ามันตัวใหญ่ขึ้น แผ่นหลังของพี่ฟ้าบางลงเมื่อมันโตขึ้น เอวของพี่ฟ้าเหมาะมือมากขึ้นเพราะมือมันใหญ่พอที่จะจับไว้ได้มั่น แก้มของพี่ฟ้าดูเล็กลงเมื่อเทียบกับแก้มของมันที่แนบไว้ ความอุ่นของพี่ฟ้าดูจะน้อยลงเพราะคนที่ทำให้มวลอากาศรอบกายอุ่นขึ้นกลายเป็นมันเสียเอง นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้กอดพี่ฟ้าแบบนี้ จะพูดให้ถูกคือมันไม่เคยรวบกอดพี่ฟ้าได้เต็มวงแขนเลยต่างหาก เพราะครั้งสุดท้ายที่กอดตัวมันเลยเอวพี่ฟ้ามานิดเดียวเท่านั้น แม้จะรูปร่างต่างกันแต่มีไม่มีใครที่ไม่เชื่อว่าพวกมันเป็นพี่น้องกัน เหตุเพราะใบหน้าที่คล้ายกันและดวงตาสีฟ้าสุกใสเช่นกัน และสิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดในตอนนี้ก็คือเสียงหัวใจของพี่ฟ้าที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ราบเรียบ... ต่างจากมันที่เหมือนหัวใจจะทะลุอกออกมา ความแตกต่างที่ทำให้รู้ว่าพี่ฟ้าของมันยังเป็นเหมือนเดิม
เมินเฉยได้เก่งเช่นเดิม...
ใจดีเหมือนเดิม…
เป็นพี่ชายที่มันไม่อยากให้เป็นเช่นเดิม...
และที่สำคัญคือ
...ยังไม่ได้รักมันเหมือนเดิม...
พอคิดได้เช่นนั้นเด็กหัวทองก็อดหมั่นไส้นิดๆไม่ได้ จนต้องไล้ปลายจมูกโด่งไปที่ต้นคอขาวแล้วกดลงไปแรงๆ ก่อนที่อีกคนจะสะดุ้งและผลักมันออก มันจึงฝากรอยไว้นิดหน่อย....
“โอ้ย!!! ใครใช้ให้กัด!!!”
ปลายประโยคคนเป็นพี่หันมาถลึงตาใส่น้องพร้อมกับประเคนฝ่าเท้าอรหันต์เข้าที่หน้าแข้ง
“นั่นเขาเรียกคิสมาร์ก”
เอเดนตอบพร้อมยิ้มกว้าง
“ไอ้เด็กเหี้ยหัวหยิก!!!”
เมื่อคำหยาบคายถูกพ่นออกมา ฝรั่งผู้ขายาวเป็นทุนเดิมรีบสาวเท้าออกจากบริเวณนั้นแล้วผลุบเข้าห้องนอนโดยไว ก่อนที่มันจะโดนไม้เบสบอลฟาดกบาลเอา
ถึงจะเจ็บใจไปนิด แต่เอาน่า....อย่างน้อยปีนี้ก็ได้กำไร
TBC.
_____________________________________________________________________________________________
สวัสดีตอนดึก(อีกแล้ว)ครับ
ถ้าเราเป็นฟ้าเราจะไม่ทน!!! ไม่ได้จะกินเด็กมันนะ....จะกระทืบมันแทน
เอเดนเป็นเด็กที่อ้อนมืออ้อนตีนมาก
ขอบคุณที่อ่านแล้วยิ้มไปกับมันแจ้ ขอบคุณจริงๆ

ฝันดีพี่ฟ้ารอบเตียง (เขียนเองอวยเอง 555)