Part 13

(ตอนนี้อาจจะทำหลายคนผิดหวัง 5555 ใครผิดหวังแสดงว่า หื่น

)
“...ได้!!...อยากตายก็ได้....ในเมื่อคุณบอกว่าทุกส่วนในร่างกายคุณไม่มีความหมาย...แต่ในเมื่อตอนนี้มันเป็นสิทธิของผม!!...ผมจะทำให้คุณตายสมใจ...แต่ผมจะให้คุณตายทั้งเป็น...”
“..ฮึก..โอ๊ย!!...อยะ อย่า!!...” ความกลัววิ่งริ้วเข้าหัวใจเมื่อคนที่บีบไหล่ผมโน้มตัวลงมาก่อนจะประกบจูบอย่างรุนแรง...ทั้งที่เจอแต่เรื่องร้าย ๆ แต่สุดท้าย ก็ยังวนเวียนกับเรื่องร้าย ๆ เหมือนเดิม...
“งั้นก็ร้องขอสิ ทำให้ผมรู้ว่าตัวคุณมีค่าพอที่จะทำอะไรบ้า ๆ ลงไป ขอสิ!! ขอ!!”
“ฮึก! ฮืออ!! ฮืออ!!” เอาแต่ร้องไห้ หลังจากที่อีกคนถอนจูบ...ไม่มีเรี่ยวแรงขัดขืน หรือต่อต้านอะไรทั้งนั้น
...แต่ที่รู้สึกได้คือความกลัวต่อสิ่งที่อีกคนกำลังจะทำ...เริ่มเกลียดกลัวสัมผัสที่รุนแรงและขยะแขยงการกระทำป่าเถื่อนพวกนี้....หรือผมจะอ่อนแอจนตาย ถูกทำร้ายจิตใจ และร่างกายจนถึงนาทีสุดท้ายทุกคนถึงจะพอใจ....
“..ถ้าไม่พูดอะไรนอกจากร้องไห้ ผมก็จะทำตามใจของผม! ถึงคุณจะเจ็บเจียนตาย ผมก็ไม่สน เพราะคุณบอกเองว่าร่างกายคุณมันไม่มีค่า!!”
“ ฮึก ฮืออ ไม่!!!”
“กลัวไหม..ถ้ากลัวก็บอกผมสิ ว่าชีวิตคุณมีค่ากว่าการที่จะถูกผมทำอย่างนี้ บอกมา!!” ร่างกายสั่นระริกเพราะความกลัว กรีดร้องออกไปเสียงดัง แต่อีกคนก็ไม่หยุด ลิ้นชื้นแฉะ ไล่สัมผัสตามซอกคอเหมือนคนที่กำลังหื่นกระหาย ร่างกายผมเบียดกับต้นไม้ใหญ่....มือหนาไล่บีบเคล้นคลึงตามช่วงเอวหลังจากที่ไล่มือเข้ามาในเสื้อของผมแล้ว....
...กลัวสิ...กลัวมาก...กลัวจน….หายใจติดขัด....และกำลังจะควบคุมสติตัวเองไม่ได้....
“อย่า!!!!ออกไป!!!!!!!!!ออกไป!!!!!”
“…ซอ....ซอ!!....”
ทุกอย่างดับมืดลงในที่สุด...ความรุ่มร้อนที่สุมอยู่ทั่วร่างกายเหมือนไฟที่กำลังแผดเผา...หรือผมกำลังจะตาย...สมใจทุกคนแล้วสินะ...สมใจคุณพ่อ..สมใจคนที่กำลังจะทำร้ายผมอยู่ตอนนี้....คุณแม่ครับ...มารับซอด้วย...มารับซอไปอยู่กับคุณแม่...เพราะที่นี่ไม่มีใครต้องการซอแล้ว...
“ น้องซอ..”
“..............”
“คนดีของแม่ น้องซอตื่นได้แล้วลูก”
“.............” เสียงจากที่ไหน...เสียงที่ผมคุ้นเคยในทุก ๆ เช้า...เสียงของผู้หญิงที่ผมรักที่สุด...ค่อย ๆ ลืมตา...เพื่อหาเสียงที่ผมโหยหามาตลอดหลายปี
ห้องสีขาวสะอาด...รอบ ๆ ข้างมีเพียงแสงสว่างทาบทับกำแพงสีขาว.. ค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นก็พบว่าผมนอนอยู่บนเตียงที่มีสีเดียวกับสิ่งรอบ ๆ ตัว...ผ้าห่มผืนหนามีกลิ่นหอมคุ้นเคย...แม้แต่ชุดที่ผมใส่ก็เป็นชุดนอนสีขาว...หันมองไปรอบ ๆ ก็พบแต่ความว่างเปล่า...ไม่เจอคนที่มองหา
“ คุณแม่ครับ...คุณแม่ใช่ไหม..ฮึก..ซอ คิด ถึง คุณแม่..” อยู่ทีไหนไม่รู้...ไม่อยากสนใจ...รู้แค่ว่าเมื่อครู่ผมได้ยินเสียงคุณ
แม่...อาจจะเป็นที่ไหนซักแห่งที่ไม่ใช่โลกแห่งความจริงอันโหดร้าย...
“...น้องซอ....ตื่นแล้วเหรอ...ตื่นแล้วก็ดื่มนมอุ่น ๆ จะได้ไปอาบน้ำแต่งตัว...แล้วใช้ชีวิตประจำวันให้มีความสุข...”
“................” หันมอง ก่อนจะส่งยิ้มให้คนที่เดินเข้ามาหาพร้อมแก้วนมอุ่น ๆ ที่ยังมีควันกรุ่นอยู่....ผมกำลังฝันใช่ไหม...ฝันที่ไม่อยากจะลืมตาตื่น ไม่กล้าแม้จะกระพริบตา...
“คุณแม่ครับ!”
“อะไรกันลูกคนนี้..ขี้แยจริง ๆ...ฝันร้ายเหรอลูก” เสียงคุณแม่ยังเหมือนเดิม...มือบางวางนมไว้ข้าง ๆ ก่อนจะถูกผมโผกอด...ความอบอุ่นและกลิ่นหอมกรุ่นยังเหมือนเดิม กลิ่นหอมที่เป็นกลิ่นเดียวกับที่ได้จากผ้าห่มผืนที่คลุมตัวผมอยู่...
“ฮึก ครับ...ซอฝัน ร้าย ..มีแต่คน ใจร้าย..ฮึก..มีแต่คน ที่จะทำร้าย ซอ..”
“ ไม่จริงซักหน่อย...มองดีรึยัง...น้องซอมองเห็นทุกคนรึยัง...หรือมองแค่คนที่ร้าย...”
“...............” ส่ายหัวอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่น...ผมอยากอยู่อย่างนี้ตลอดไป...อยากอยู่ในอ้อมแขนของคนที่รักผมอย่างจริงใจ...และรู้สึกปลอดภัย..ไม่อยากรับรู้อะไรอีกแล้ว...
“..อย่าดื้อสิเด็กดี...ฟังแม่นะคนดี..ฟังให้ดี..บางครั้งการที่เรามองตรงไปแค่จุดเดียว มองเห็นแค่จุดดำ ๆ เล็ก ๆ จ้องมองมันอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่มองไปที่อื่น...จากจุดดำเล็ก ๆ มันก็จะขยายวงกว้างจนอยู่รอบ ๆ ตัวเรา...แต่จริงๆ แล้ว ไม่ใช่ว่ามันใหญ่ขึ้น...แต่เพราะเราจดจ่อกับมันมากจนเกินไปจนเป็นภาพติดตา...ลองหลับตาลง...แล้วลืมขึ้นช้า ๆ ละสายตาจากจุดดำ มองไปที่อื่น...ทำจิตใจให้สงบ...แล้วน้องซอจะเห็นว่ามีสิ่งสวยงามมากมายอยู่รอบ ๆ ตัวเรา..”
“ฮึก..คุณพ่อใจร้ายจัง..”
“ใช่ เขาใจร้าย...แต่ไม่ใช่ทุกคนบนโลก...เลิกไขว่คว้า หาสิ่งที่เขาไม่มีให้...จงไขว่คว้าหาสิ่งที่รอเราอยู่...ทำทุก ๆ ก้าวที่เดินให้มีความสุข..ในโลกนี้มีอะไรให้เราอยู่กับมันแล้วมีความสุขตั้งเยอะแยะ...แยกแยะเจตนาคนรอบ ๆ ข้างโดยไม่ใช้อคติ...แล้วน้องซอจะมองออกว่าใครรักหรือไม่รัก...ใครไม่รักก็ปล่อยเขาไป แคร์แค่คนที่รักเรา....เพราะเราไม่สามารถที่จะบังคับให้ใครมารักเราได้หมด...”
“..ซออยากอยู่กับคุณแม่..อ้อมกอดคุณแม่อบอุ่นเหลือเกิน..” ยังกอดกระชับอ้อมกอดนั้นให้แน่นขึ้น...รู้สึกว่าหัวสมองปลอดโปร่ง...สบายใจจนเหมือนว่าเข้าใจในสิ่งที่คุณแม่พูด..
“แม่อยู่กับน้องซอเสมอ...อยู่ใกล้ ๆ ลูกของแม่เสมอ...แต่จำไว้...ว่าอ้อมกอดที่อบอุ่นอย่างนี้..ไม่ได้มีแค่แม่คนเดียว...เพียงแค่น้องซอเปิดใจ...ดื่มนมซะ...แล้วก้าวลงจากเตียงนี้...ไปสู้กับทุก ๆ สิ่งที่กวนใจน้องอยู่...”
“..................” ก้มลงดื่มนมในแก้ว ก่อนจะมองคุณแม่ที่ลุกขึ้น...
“คุณแม่!”
“อย่าดื้อสิ...ทำตามที่แม่บอก...แล้วน้องซอจะพบความสุขที่นอกเหนือจากจุดดำเหล่านั้น...แม่อยู่กับน้องซอเสมอคนดี..”
“................” หัวใจกำลังเต้นแรงเพราะคุณแม่กำลังเลือนหายไป...ปาดนมที่ติดอยู่มุมปาก...รู้สึกว่ามีเรี่ยวแรงขึ้นมาเพราะนมอุ่นๆ ที่เข้าไปอยู่ในท้อง...มองตัวเองที่อยู่ในชุดนอนสีขาว
...ความสุข ที่รอผมอยู่....มองข้ามสิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์....
แตะเท้าเปล่าลงกับพื้นสีขาว แล้วพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นยืน....คุณแม่อยู่กับผมเสมอ..อย่างน้อย ๆ ผมก็มีคนที่รักผมอย่างจริงใจ...ไม่ว่าจะเป็นพี่ชายทั้งสามคน...ครอบครัวของบัว...และแม่บ้านที่บ้านใหญ่ตั้งหลายคนที่คอยปกป้องและช่วยเหลือผม....ลืมไปได้ยังไงนะ...ลืมคนที่รักผมไปได้ยังไง เพียงแค่คนใจร้ายไม่กี่คน ทำให้ลืมคนดี ๆ ไปหมด...
“..ซอ...ตื่นเถอะ...ผมขอโทษ..”
เสียงใคร...เสียงดังเข้าหู...หันตามเสียงที่ได้ยิน...ก่อนจะก้าวเดินไปทางนั้น...ไม่ว่าจะเป็นเสียงใคร แต่น้ำเสียงที่อ่อนโยนและคำขอโทษนั่นทำให้รู้ว่าผมต้องกลับไป...ยังมีอีกหลายคนที่รออยู่...เสียงลมหวีดหวิวพัดยอดไม้ เสียงนกร้องเจื้อยแจ้ว...ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นจากความฝันแสนหวาน...ก่อนจะเข้าสู่โลกความเป็นจริง...ลำดับเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ก่อนจะก้มมองตัวเอง...ที่อยู่ในสภาพปกติ...แต่เสื้อที่ใส่แห้งแล้ว...แม้จะตื่นจากฝัน แต่ความอบอุ่นก่อนหน้านี้ก็ยังมีอยู่...
“ตื่นแล้วเหรอ”
“..คุ คุณโอ..อึก..”
“นอนอย่างนี้ก่อนเถอะ...แล้วค่อยขยับ เมื่อคืนคุณตัวร้อนมาก..จนผมทำอะไรไม่ถูก..” ตกใจเพราะพึ่งได้รู้ว่าความอบอุ่นที่ได้รับคืออ้อมกอดของอีกคนที่พิงต้นไม้ใหญ่แทนที่ที่ผมนั่งอยู่เมื่อคืน...และตัวผมเปลี่ยนจากพิงต้นไม้มานั่งซ้อนพิงอกแกร่งอยู่ อ้อมแขนนั่นกอดเอวผมไว้ตั้งแต่ตอนแรกแล้ว แต่ผมไม่สังเกตเอง...
“..ปล่อย เถอะ ครับ ผมไม่เป็นไร..”
“ อืม...” น้ำเสียงคุณโองัวเงียเหมือนคนไม่ได้นอน...รู้สึกโล่งอกที่ไม่ได้ถูกทำอะไร....อากาศตอนเช้าๆ มีหมอกลอยอ้อยอิ่ง...เสียงนกจุ๊บจิ๊บเสียงใส ถึงแม้แขนหนาจะยังไม่ปล่อยแต่ก็อดที่จะสูดอากาศดี ๆ เข้าปอดอย่างนี้ไม่ได้....
..แปลก...ที่อารมณ์เมื่อวานดูเหมือนว่าจะพาลหายไปหมด...แม้จะอยู่ในอ้อมกอดของคนใจร้าย แต่ก็ไม่ได้กังวลอะไร...จากเมื่อวานก็พึ่งสังเกตว่ารอบ ๆ ตัวสวยไม่น้อย...พันธุ์ไม้แปลกตา โขดหินที่ถูกตะไคร่เขียวเกาะจนกลายเป็นหินสีเขียว...ใบแม้สีส้มอ่อนหล่นอยู่ทั่วบริเวณ ผีเสื้อ แมงปอ บินวนร่อนไปมารอบ ๆ ตัวพวกเรา...กองฟอนฟืนมอดดับไปแล้วเหลือแค่ควันน้อย ๆ ลอยออกมา...
“รู้สึกเป็นยังไงบ้าง”
“ผมไม่เป็นไร”
“เดินทางต่อไหวไหม เพราะพวกนั้นต้องตามเรามาอีกไม่ช้าแน่ ๆ”
“ไหวครับ ไปกันเถอะ...โอ๊ย!”
“ข้อเท้าคุณบวมมาก...คงจะเดินไม่ได้หรอก ขี่หลังผมเหมือนเมื่อวานเถอะมันจะเร็วขึ้น...”
“..แต่ผม...”
“..เลิกพูดคำว่าเป็นภาระซักที..ถ้ากลัวว่าจะเป็นภาระก็เลิกขัดใจผมซะ จะได้ถึงหมู่บ้านเร็ว ๆ ไม่แน่เราอาจจะเจอพวกพี่ชัชระหว่างทาง..” เพราะขยับเท้าจะยันตัวเองลุก แต่ก็ลืมไปว่าเมื่อวานข้อเท้าผมแพลง...อีกคนยันตัวเองลุกขึ้นก่อนจะประคองผมไว้...
“เปล่า ผมจะบอกว่า ...แต่ผมตัวหนักนะ คุณจะพาผมไปถึงหมู่บ้านเลยเหรอ...หาไม้ให้ผมค้ำเดินซักอันได้ไหม..”
“..หึ ๆ ไม่หนักหรอก เชื่อสิ มาเถอะ ก่อนแดดจะร้อน..” คุณโอดูสีหน้าผ่อนคลายจากเมื่อครู่ คงเพราะเห็นการเปลี่ยนแปลงของผมด้วย
...ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร...แต่แค่รู้สึกอยากจะลองสู้กับสิ่งที่ทำให้ผมไม่มีความสุขซักตั้ง..ให้เป็นอย่างที่คุณแม่อุตส่าห์มาบอกผมในฝัน...ว่ายังมีสิ่งที่สวยงามรอผมอยู่...ถึงคนตรงหน้าจะทำร้ายผมบ้าง...แต่เท่าที่เห็นก็ไม่ถึงขนาดจะฆ่าจะแกงกันแน่...
ยอมที่จะขึ้นหลังคนที่ย่อตัวลงตรงหน้า หลังจากใช้เท้าเขี่ยใบไหม้แห้งและเศษดินแถวนั้นกลบกองไฟให้เนียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...ร่างสูงลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคง ก่อนจะกระชับขาผมให้เข้าที่แล้วออกเดินจากตรงนั้น...สายตาคมสอดส่องทุกย่างก้าวที่เดินไป..จนกระทั่งมาโผล่ริมแม่น้ำที่ลัดเลาะกันมาเมื่อวาน...
“คุณฝันดีใช่ไหม ผมเห็นคุณยิ้มตอนที่หลับ”
“ใช่..ฝันดีมากเลย...” แปลกใจที่อีกคนถามออกมา...เพราะความสุขที่เจอในฝันทำให้ผมเผลอยิ้มออกมา...ดีที่คุณโอไม่ว่าผมบ้า...
“ฝันถึงอะไร”
“..ฝันถึงคุณแม่...”
“สงบใจได้แล้วใช่ไหม...เพราะฝันนั่นรึเปล่า..”
“..อืม...ขอบคุณ..ที่ไม่ทิ้งผมไว้ตั้งแต่เมื่อวาน..” ถึงจะดูร้ายๆ แต่อย่างน้อยก็อุตส่าห์ช่วยผมทุกอย่าง...ทั้งที่ความเสียใจทำให้สภาพเมื่อวานเหมือนคนบ้า...และถึงจะถูกทำอะไรบ้า ๆ แต่ก็ไม่ได้ถูกฉวยโอกาสอะไรตอนที่หมดสติ
...โอฬาริศ พยัคฆราช...เป็นอีกคนที่ต้องต่อสู้...หรือเป็นอีกคนที่ผมต้องเปิดใจกันแน่...แต่ถึงจะมาในรูปแบบไหน...ต่อไปนี้ผมก็
ต้องสู้สินะ...ถ้ามาดีก็ดี...แต่ถ้ามาร้าย...ก็คงไม่มีความจำเป็นอะไรที่ผมต้องอดทน...
...เพราะราชสีห์เกริกไกร มีผู้ชายตัวโตตั้ง 4 คนที่ช่วยเหลือตัวเองได้แม้จะถูกศัตรูรุกรานแค่ไหนก็ตาม...โดยที่ไม่ต้องมีผมคอยเป็นตัวประกัน...ในเมื่อผมเข้าหาคุณพ่อไม่ได้...ผมก็จะทำให้คุณพ่อเห็นว่าผมอยู่ได้...โดยที่ไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ในราชสีห์เกริกไกร...คุณพ่อจะต้องรู้สึกเสียใจ...ที่ไม่ต้องการผม.
...พี่ ๆ ครับ...ดูแลตัวเองนะ....
“ หนักไหมครับ “
“..หนักแล้วจะลงเดินเหรอ..”
“เปล่า อย่างนี้สบายกว่า..” แหงะหน้ามองไปด้านหน้า ก่อนจะยกมือขึ้นไปแตะ ๆ เหงื่อออกจากบริเวณเหนือคิ้วของคุณโอ...เพราะมันกำลังจะไหลเข้าตา...
“ทำตัวอย่างนี้ก็เป็นเหรอ”
“หัดทำ” ไม่รู้ว่ากล้าที่โต้ตอบตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ดูเหมือนว่าเสียงหัวเราะในลำคอคนที่แบกผมอยู่จะทำให้หน้าผมร้อน ๆ ...หรือว่าไข้จะกลับ...
“ช่างเถอะ ไม่เสียแรงที่ผมอุตส่าห์ข่มขู่”
“...ผมนอนได้ไหม....”
“...ตามใจ....” ข่มขู่เหรอ...อย่าบอกว่าที่ทำเมื่อวานเพราะขู่ผมเหรอ...จู่ๆ ก็รู้สึกเพลีย อาจจะดูเห็นแก่ตัว ที่สบายไม่ต้องเดินแล้วยังจะหลับบนแผ่นหลังกว้างนี่อีก...แต่น้ำเสียงนุ่มหูที่อนุญาตทำให้กล้าที่จะซบหน้าลง ก่อนจะปล่อยตัวเองให้สบายขึ้น....โล่งหัว และโล่งใจกว่าเมื่อวานจนไม่อยากจะเชื่อว่ากำลังอยู่ในเหตุการณ์ที่เลวร้าย..จากคนที่ผมเคารพที่สุดตอนนี้...ค่อยดำดิ่งความรู้สึกลงอีกรอบ...เพราะร่างกายที่อุ่นๆ เริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา...สงสัยไข้จะกลับมาจริงๆ ด้วย ข้อเท้าที่ลืมไปแล้วก็ว่าปวดก็เริ่มจะมีความรู้สึกว่ากำลังบวมเป่ง...และร้าวไปหมดทั้งขาแล้ว...
*****************************************************************
ความเย็นเฉอะแฉะบนใบหน้าทำให้รู้สึกตัว...ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเจอบางอย่างที่ไม่คุ้นเคย...หญิงมีอายุที่ไม่เคยเห็น กำลังเช็ดตัวให้ผมอยู่ อีกฝ่ายก็ดูตกใจที่ผมทำท่าจะลุก...แต่เธอก็ตั้งสติแล้วค่อย ๆ ประคองผมนอนลงเหมือนเดิม...
“เจ้านายน้อยนอนนิ่ง ๆ นะคะ เช็ดตัวเสร็จแล้วจะได้ทานข้าว ทานยา..ไข้พึ่งจะลด..อย่าพึ่งลุกค่ะ..”
“ที่นี่ที่ไหนครับ” เพราะแววตาและท่าทางเป็นมิตรทำให้ผมถามขึ้น...ตอนนี้กำลังนอนบนที่นอนพับ...ภายในบ้านไม้กลางเก่ากลางใหม่แต่พื้นขัดมัน...รอบ ๆ ตัวไม่มีอะไรมาก...ไม่หรูหราแต่ดูสะอาดตา...ได้กลิ่นกับข้าวและเสียงโคร้งเคร้งดังมาจากข้างๆ มองไปก็เห็นประตู ที่เปิดไว้ มีควันลอยออกมา...
“ป้าให้หลานสาวทำกับข้าวให้อยู่ค่ะ...นอนอยู่นี่ก่อนนะคะ เดี๋ยวป้าไปบอกเจ้าบ้านก่อน”
“................” พยักหน้าออกไปก่อนจะมองคุณป้าที่ค่อย ๆ ลงบันไดบ้าน...บ้านไม้หลังนี้เป็นเหมือนบ้านไม้สมัยก่อน ที่มีตรงกลางเป็นชานกว้างทอดรับกับบันได มองเห็นประตูห้องหลายๆ ห้องรอบ ๆ ตัวชานและระเบียงยกสูงขึ้นจากชานเล็กน้อยเหมือนกับยกระดับห้องกับชานให้ต่างกัน..ตอนนี้ผมกำลังนอนอยู่บนระเบียงที่ยกสูงขึ้นหน้าห้อง ๆ นึง...ข้าง ๆ ตัวผมมีโต๊ะตัวเล็กไว้สำหรับวางของ...
“หิวรึเปล่า”
“คุณโอ..ที่นี่ที่ไหนครับ” พยุงตัวเองลุกขึ้นหันมองซ้ายขวา ก่อนจะเห็นคนที่เดินขึ้นบ้านมา...คุณโอเดินมานั่งหย่อนขาตรงระเบียงข้างๆ ที่ผมนั่งอยู่บนที่นอนพับตอนนี้..
“หมู่บ้านที่ผมบอกคุณไง หลับสนิทเลยนะคุณ ผมเมื่อยไปหมดแล้ว อื้อออ!!”
“คุณโอ มีคนขึ้นมา!” รีบดันหัวคนที่จู่ ๆ ก็ล้มตัวลงมานอนตักผมหน้าตาเฉยได้ยินเสียงคุยกันกำลังเดินขึ้นบ้านมา เดี่ยวมาเจอภาพอะไรแปลก ๆ เข้า
“ช่างปะไร ผมแบกคุณตลอดทางเลยนะ พี่ชัชไปเจอเราระหว่างทาง ผมกะจะเปลี่ยนมือ แต่คุณก็เอาแต่เกาะคอผมแน่น...”
“เป็นยังไงบ้างครับคุณซอ”
“พี่ชัช..ดีขึ้นแล้วครับ.แล้วบัวกับคุณอาทิตย์เป็นยังไงบ้างครับ” พี่ชัชมองผ่านนายตัวเองที่นอนหนุนขาผมอยู่ ก่อนจะถามไถ่อาการผม...แสดงว่าพวกบัวกับคุณอาทิตย์ปลอดภัยใช่ไหม..
“ปลอดภัยดีครับ...เธอดีใจมากที่รู้ว่าคุณซอปลอดภัย ดูเธอรักคุณมากนะครับ..”
“ครับ..แล้วตอนนี้ผมก็มีแค่บัว ที่รักผมจริงๆ ที่อยู่ข้างๆ ผม” พวกพี่ ๆ ก็รักผม...แต่ทุกคนก็มาอยู่ข้างๆ ผมไม่ได้...
“แล้วคุณอัฐล่ะครับพี่ชัช”
“กำลังจะตามขึ้นมาครับ สั่งให้คนทำกับข้าวเพิ่ม” เสียงในครัวเงียบไปแล้ว ได้กลิ่นอาหารอ่อน ๆ ลอยมา ทำบ้านเดียวคงไม่พอสำหรับคนหลายคนทาน เพราะน่าจะมีลูกน้องพี่ชัชอีกหลายคนแน่ที่ออกตามหาผมกับคุณโอ...
“กับข้าวเสร็จแล้วค่ะ”
“หอมจังเลย..” ผมมองเด็กหญิงตัวเล็กที่ถือถาดกับข้าวออกมาวางไว้ตรงหน้าผม...ทั้งไข่เจียว...และผัดผักใส่หมู...ข้าวสวยร้อน ๆ ในโถ ส่งไอร้อน ๆ หอม ๆ ออกมา...น่าอร่อยจัง แต่เด็กคนนี้เหมือนจะยังแค่ประถมทำได้ขนาดนี้แล้ว...ใบหน้าน่ารักส่งยิ้มให้ผม ก่อนจะวิ่งหายลงบ้านไป...คงจะได้เวลาไปเล่นแล้วมั้งเสร็จภารกิจที่ได้รับมอบหมายแล้ว..
“................”
“คงจะเพลียครับ..ปล่อยให้นอนเถอะ”
“ครับ” เห็นเงียบๆ ไปตั้งแต่ผมกับพี่ชัชคุยกัน หันมองอีกทีก็หลับตาคอพับบนตักผมแล้ว...คงจะเพลียจริง ๆ นอกจากจะไม่ได้นอนเมื่อคืนแล้วยังจะแบกผมลงเขาอีก...ระยะทางไม่ใช่ใกล้ ๆ แน่...สอดหมอนแทนตักตัวเอง...ก่อนที่พี่ชัชจะขยับขายาว ๆ นั่นให้ยกขึ้นจากระเบียงเป็นนอนเหยียดยาว..หลับลึกจริง ๆ ด้วย...
“เป็นยังไงบ้างชัช”
“ครับคุณอัฐ...คุณอัฐครับนี่คุณซอ คุณซอที่คุณอัฐเป็นเจ้าบ้านหมู่บ้านนี้ ที่ทางแถวนี้ของคุณอัฐทั้งนั้น...คล้าย ๆ เจ้าสัวน้อยครับหนีความวุ่นวายเข้ามาในป่า”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
“ครับ ขอบคุณที่ดูแลพวกเรา” ผมยกมือไหว้ขอบคุณ ยังหนุ่มอยู่เลยน่าจะรุ่นเดียวกับคุณโอ...นั่งคุยกันสับเพเหระซักพักก็มีผู้หญิงหน้าตาสะสวยเดินขึ้นมา เป็นภรรยาของคุณอัฐ...ที่นำทีมกับข้าวขึ้นมาบนบ้าน...บ้านหลังนี้เป็นบ้านพักสำหรับแขก...ส่วนบ้านคุณอัฐก็อยู่ใกล้ๆ พี่ชัชบอกว่าคืนนี้จะพักกันที่นี่ซักคืน...พรุ่งนี้ถึงจะกลับสวน...ส่วนพวกที่ตามล่าเราล่าถอยไปก่อนเพราะเข้าถิ่นของคุณโอแล้ว...ได้แต่ถอนหายใจ ก่อนจะส่งยิ้มให้พี่ชัชที่พูดอะไรถึงทีมล่าที่เป็นของคุณพ่อก็ดูจะเกรงใจผม...
กับข้าวถูกแบ่งเป็นสองชุดเพราะลูกน้องพี่ชัชถูกแบ่งทีมขึ้นมาทานกัน..ที่เหลือก็คอยดูแลอยู่ด้านล่างรวมถึงรอบ ๆ หมู่บ้านด้วย...คนของคุณอัฐก็มีไม่น้อยเหมือนกัน...นี่คงเป็นสาเหตุว่าทำไมคุณพ่อถึงไม่กล้าให้คนบุกมาที่นี่..ถ้าลองผู้ชายคนนี้เป็นคนรู้จักกับผู้นำพยัคฆราชได้ก็คงไม่ธรรมดาเหมือนกัน...บ้านหลังนี้จะเป็นที่พักของทีมของคุณโอทั้งหมด...มองเห็นผู้หญิงหลายคนที่ทยอยขนเครื่องนอนไปไว้ตามห้อง รวมทั้งห้องใหญ่ที่สุดที่อยู่เบื้องหลัง ที่พี่จีแฟนคุณอัฐบอกว่าเป็นห้องผมกับคุณโอ...
...เพราะห้องน้อยสินะ ถึงได้นอนด้วยกัน...
“ดีขึ้นไหมคะ สมุนไพรอันนี้ได้ผลดีมากเลยนะคะ”
“ครับพี่จี ซอดีขึ้นกว่าเมื่อเช้าเยอะเลย...อยากหายเร็ว ๆ จัง ซออยากเดินไปเล่นแล้ว...ที่นี่สวยมากเลย..” อากาศที่นี่สดชื่นมากคงอาจจะเป็นเพราะเป็นหมู่บ้านริมเขา..หมู่บ้านที่มีกว่าห้าสิบหลังคาเรือนเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ปกครองกันเอง..แต่ก็มีชื่อและทะเบียนบ้านในทะเบียนราษฏประเทศไทยอย่างถูกต้อง...ทุกคนมีรอยยิ้มที่สดใส...บ้านทุกหลังเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว..ปลูกดอกไม้หน้าบ้านเพื่อความสวยงาม..ข้อเท้าที่ยังบวมและมีสีม่วงคล้ำถูกสมุนไพรสีเขียวแปะไว้....ตอนนี้ผมกับพี่จีนั่งกันอยู่ที่แคร่ใต้ถุนบ้านพัก...มีคนของพี่ชัชยืนอยู่ไม่ไกล...ส่วนพวกพี่ชัชกับคณอัฐ คุณโอนั่งคุยกันอยู่บนบ้าน หลังจากปลุกคนที่หลับลึกขึ้นมากินข้าว....
“นี่พึ่งจะบ่ายเองค่ะ....คุณโอนี่เก่งนะแบกน้องซอลงมาจากเขา อย่างน้อย ๆ ถ้าอยู่ตรงจุดที่พักก็ใช้เวลาเกือบสี่ชั่วโมงแหน่ะกว่าจะลงเขาได้...”
“..................” ไม่พูดอะไร ได้แต่มองมือเรียวที่กำลังใช้ผ้าห่อสมุมไพรไว้กับข้อเท้าผม..เพื่อจะได้ไปไหนมาไหนได้...ข้างๆ ผมเป็นไม้เท้าที่ทางคุณอัฐเป็นคนจัดหาให้...
“เดินได้นะคะ ลองดู ถ้าใช้ไม้เท้าได้เราเดินไปเล่นตรงลานกลางบ้านได้ มีเด็ก ๆ วิ่งเจี๊ยวจ๊าวไปหมดเลยค่ะ”
“จริงเหรอ ไปครับซออยากไป” ค่อย ๆ ลุกขึ้นก่อนจะรับไม้ค้ำจากพี่จีมาถือไว้แล้วจัดการวางแขนลงออกแรงเหมือนอย่างที่พี่จีสอน...
ในที่สุดก็มาถึงลานกว้างของหมู่บ้านโดยมีพี่จีช่วยพยุงและนั่งลงตรงโขดหินใต้ร่มไม้ต้นใหญ่ที่แผ่กิ่งสาขาเป็นเงาได้อย่างดี ที่ลานมีเด็ก ๆ วิ่งเล่นกันอยู่เต็มไปหมด...เสียงหัวเราะทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีชีวิตชีวาขึ้นมา...
“นายหญิงคะ ขนมค่ะ ยายให้เอามาแบ่งให้พี่ชายคนนี้ด้วยค่ะ”
“ขอบใจมากมะเข่ง”
“..................” ผมยิ้มให้เด็กหญิงที่ยื่นขนมที่ห่อด้วยใบตองมาให้พี่จี ก่อนจะก้มมองขนมที่อยู่ในใบตองชัด ๆ
“กล้วยปิ้งค่ะแล้วอบน้ำผึ้ง สูตรยายของมะเข่งอร่อยนะคะ ลองทานดู”
“ขอบคุณครับ...อร่อยจริง ๆ ด้วย...” รับขนมมาเข้าปาก อร่อยอย่างที่พีจีบอกกลิ่นน้ำผึ้งหอมมาก และกล้วยที่ปิ้งกำลังพอดีมีรสหวานของน้ำผึ้งหน่อย ๆ ...เลยอดที่จะหยิบอีกชิ้นไม่ได้....
“มะเข่งเป็นเด็กกำพร้าค่ะ อยู่กับยายแค่สองคน พ่อแม่ก็ทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ แต่แกขยันมาก ทำทุกอย่างที่ทำได้ เก็บของไปขายที่ตลาดชุมชน ซึ่งต้องเดินไปเป็นกิโล..แต่ก็ก็มีความสุขสนุกเหมือนเด็กคนอื่น ๆ ทุกคนเอ็นดู...พี่เคยถามนะคะว่าเสียใจไหมที่พ่อแม่ไม่รักทิ้งน้องมะเข่งไป...”
“แล้วแกตอบว่าไงครับ” อยากฟังคำตอบของเด็กคนนั้น คนที่ทำให้ตัวเองอยู่ได้โดยไม่ต้องมีพ่อแม่ มีเพียงคนที่รักเขาจริงอย่างยาย....การได้ฟังใครเล่าอะไรให้ฟังจะเป็นความรู้ใหม่ ๆ ....และก็ต้องขึ้นอยู่กับผมว่าจะพิจารณายังไงว่ามันจริงหรือเท็จ...ยังจำความฝันและประโยคของคุณแม่ได้อย่างชัดเจน..ชัดเจนจนเหมือนความจริง...
...แยกแยะเจตนาคนรอบ ๆ ข้างโดยไม่ใช้อคติ...แล้วน้องซอจะมองออกว่าใครรักหรือไม่รัก...ใครไม่รักก็ปล่อยเขาไป แคร์แค่คนที่รักเรา...“แกบอกว่า...ยังมีคนที่ลำบากกว่ามะเข่งอีกตั้งเยอะแยะ...มะเข่งยังมียาย..มะเข่งมีสองมือสองเท้าให้ทำมาหากิน...”
“.......................”
“ความคิดเด็กอายุแค่ 7 ขวบค่ะ แกไม่เคยน้อยใจในโชคชะตาตัวเองเลย...พี่กับพี่อัฐรักแกมากคอยช่วยเหลือแกกับยายทุกอย่างพี่คุยกับพี่อัฐว่าถ้ายายมะเข่งเกิดโชคร้ายเป็นอะไรไป เพราะแก่มากแล้ว พวกพี่จะรับแกมาเลี้ยงค่ะ เพราะพี่ก็ไม่มีลูก”
“ชีวิตในความเศร้า..มันมีเรื่องดี ๆ อยู่ด้วยเสมอนะครับ...ชีวิตเรามันก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะทุกอย่าง”
“ค่ะ พี่เชื่อค่ะ ถ้าเราเป็นคนดี ความชั่วร้ายจะทำลายเราไม่ได้”
ยามเย็นย่ำอากาศเย็นทำให้รู้สึกหนาว พี่จีจะไม่ให้อาบน้ำแต่รู้สึกว่าตัวเองมีกลิ่นแล้ว พี่แกเลยจัดการต้มน้ำผสมเป็นน้ำอุ่นให้ผมอาบ เสื้อผ้าผมกับคุณโอก็อาศัยของคุณอัฐ ตอนนี้นอนอยู่บนที่นอนพับที่ข้างๆ เป็นของอีกคนที่ยังคุยกับคนอื่นอยู่ด้านนอก เพราะยาที่กินเข้าไปทำให้รู้สึกง่วง..จนจะหลับอยู่แล้ว...ได้ยินเสียงคนคุยกัน แต่เพราะหนังตาหนักอึ้งเลยไม่ได้ลืมตาดู...
“แน่ใจนะว่าจะจุดอันนี้ เจ้าบ้านสั่งจริงหรือเอ็ง อันนี้มันเทียนยาบ่มนะ”
“เออสิ เจ้าบ้านกำชับด้วยว่าห้ามบอกน้องซอกับคุณโอ... ถ้าถูกถามก็ให้ตอบว่าเทียนหอมธรรมดา จุดเพื่อผ่อนคลาย คงไม่ถูกถามหรอกเพราะน้องซอหลับแล้ว คุณโอก็คุยอยู่ด้านนอก จุดเข้าเถอะ..อย่าแส่เรื่องเจ้านายเลย..” เสียงคุยยังแว่ว ๆ แต่ผมก็อยากจะนอนมากกว่าจะฟัง...ที่ไม่คิดว่าเป็นคนร้ายเพราะพี่จีบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีคนเอาของมาเพิ่มเติมให้....เริ่มได้กลิ่นหอมแปลก ๆ ลอยเข้าจมูกก่อนจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้น..และก็เข้าสู่ห้วงฝันในที่สุด...
“ถ้าคุณซอเป็นผู้หญิงจะไม่แปลกใจถ้าจะใช้...เทียนบ่มอันนี้...เขาว่าทำให้คนเกลียดชังกัน...ได้กันนักต่อนักเพราะฤทธิของมัน...แม่ข้าเคยบอกว่าทางภาษาเมืองเขาเรียก..ยาเซ็กส์...”
** มองเห็นกันแล้วใช่ไหมว่าตอนหน้าจะมีอะไรเกิดขึ้น….สาวหื่นทั้งหลายที่รอ NC กลางป่าคงผิดหวังและกร่นดาเราในใจแน่ ๆ 555 แต่ว่าครั้งแรกของน้องก็อยากให้มีความเต็มใจและต้องการของน้องอยู่บ้าง (ถึงจะไม่ทั้งหมดก็เถอะ)....ไม่ปล่อยให้ค้างนานค่ะ รวบรวมสมาธิซักคืนแล้วจะแต่งต่อให้เลย ขอบคุณที่อุตส่าห์รออ่านนะคะ ไม่ได้สนุกและสมใจใครในทุกตอนที่อ่าน แต่ก็ขอบคุณที่ยังรอ..