SINGLE PAPA คุณพ่อยังโสด (ปก+รายละเอียดหนังสือ / P.22 : 16.02.14) [จบแล้ว]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: SINGLE PAPA คุณพ่อยังโสด (ปก+รายละเอียดหนังสือ / P.22 : 16.02.14) [จบแล้ว]  (อ่าน 277566 ครั้ง)

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
เพรชจะไม่ปล่อยฟ้าครามไปไหนแย้วววววว  :o8:

ออฟไลน์ rayaiji

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 817
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • ray's deviantart
เชียร์น้องฟ้าๆ :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
ว้าวๆ คุณเพชรบอกรักน้องฟ้าแล้ว... น้องฟ้าว่ายังไงจ๊ะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้า

ออฟไลน์ ReiSei

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +64/-5
น้าเพชรขาาา พูดอย่างนี้น้องฟ้าหัวใจวายไปแล้วหรือยัง 55555 โอ๊ย เดี๋ยวหมาป่าก็แอ๊บไม่อยู่หรอก

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
กรี๊ด รักกันรักกัน

ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4


CHAPTER 29
“ขยับความสัมพันธ์”



   ฟ้าครามเงียบ

เขาเงียบมาก... จนผมรู้สึกประหม่า ไม่รู้จะจัดการสถานการณ์เช่นนี้อย่างไรดี ผมเบือนหน้าหนี ไม่กล้าพอแม้ตัวเองจะเพิ่งพูดไปว่ารู้สึกอย่างไรกับเขา

   มันรวดเร็ว...ฉับไว..แต่ไม่ฉาบฉวย

มันเร็วเสียใจคนที่ไม่เคยหวั่นไหวกับผู้ชายมาตลอดระยะเวลาเกือบสามสิบปีเช่นผมไม่รู้จะทำอย่างไรจนตัวเองปฏิเสธเขา พอเริ่มยอมรับ กลับปฏิเสธต่อไปไม่ไหว

ใครจะด่าว่าเป็นผู้ชายใจง่ายผมก็ไม่ขอโต้แย้ง ลองคุณเจอผู้ชายแบบฟ้าคราม อาจจะไม่ใช่เพราะหน้าตาดี ไม่ใช่เพราะเขามีแต่ข้อดี แต่อย่างไรก็ตาม เขาทำให้ผมชอบจนถึงขั้นมองข้อเสียของเขาเป็นเรื่องที่ ‘น่ารัก’ ไปเสียแล้ว

“คุณเพชร...” ฟ้าครามเรียกผมหลังปล่อยให้ความเงียบปกคลุมระหว่างสองเราอยู่พักใหญ่ “เมื่อกี้นี้?” เสียงเขาฉายความฉงนแบบไม่ปิดบัง “จริงเหรอครับ”

“...” ผมไม่ตอบ เหมือนคำตอบจุกอยู่ที่คอ กระดากเกินกว่าจะพูด

“คุณเพชรครับ” อีกฝ่ายว่าเสียงอ่อนลงหน่อย ผมไม่กล้ามองหน้าเขาด้วยซ้ำ รู้แค่เขาเคลื่อนกายเข้ามาใกล้จนผมสูดลมหายใจลึก “เมื่อกี้ผมฟังอะไรผิดไปหรือเปล่าครับ”
   
“...”
   
“เงยหน้าขึ้นมองผมหน่อย”
   
ผมส่ายหน้า ลมหายใจติดขัดไปเสียหมดแต่สุดท้ายฟ้าครามกับเอามือของเขาแตะหน้าผมเบาๆ ไม่ได้ออกแรงแต่ผมกลับเงยหน้ามองเขาโดยอัตโนมัติ
   
ฟ้าครามมองผม มองตรงๆ ด้วยแววตาคู่นั้น ผมยิ่งทำตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่ ในหัวตีกันมั่วไปหมด
   
“คุณเพชรพูดจริงๆ เหรอ”
   
“...” ผมกัดริมฝีปาก ไอ้เด็กบ้า! ใครสั่งใครสอนให้เค้นผู้ใหญ่แบบนี้กัน!
   
“พูดอีกได้มั้ยครับ...” เขากระซิบพรอด “ผมอยากได้ยินอีกจัง เหมือนเมื่อกี้ฟังไม่ชัด”
   
ผมร้องกู่ก้องในใจว่าทำไมมึงไม่ฟังดีๆ “มะ มีให้ฟังครั้งเดียว”
   
“เสียดายจัง” ผมเบือนหน้าหนี ปากเบ้โดนอัตโนมัติเมื่อเห็นเจ้าพี่เลี้ยงเด็กอมยิ้มขำ “แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าผมฟังผิดหรือเปล่า”
   
“คิดเอง”

   “ถ้าอย่างงั้น...” ฟ้าครามหรี่ตาและคลี่ยิ้มบาง “ถ้าผม ‘คิด’ จริงๆ คุณเพชรจะไม่ด่าว่าผมมโนเองสินะครับ”

   ผมเกลียดหมอนี่จริงๆ!

ทำไมจากเจ้าลูกหมาน้อยน่ารักถึงกลายเป็นผู้ชายเหมือนหมาป่าไปเสียได้ ให้ตายเถอะ ผมจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ทำไมตัวเองต้องถูกเด็กอายุน้อยกว่าเกือบสิบปีถือไพ่เหนือกว่า ได้ข่าวว่าเขาเป็นฝ่ายมาสนใจผมก่อนไม่ใช่หรือยังไงกัน!
   
“...!” ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมือที่มันอยู่บนหน้าผมไล้ไปบริเวณแก้ม “ดะ เดี๋ยว”

   ฟ้าครามยิ้ม “ก็คุณเพชรบอกให้ผมคิดเองนี่ครับ”

   คำพูด น้ำเสียง และสายตาของอีกฝ่ายทำให้ผมใจกระตุก เหมือนมือไม่มีแรงออกมาดื้อๆ ทั้งที่ตัวเองก็ใช่ว่าจะไม่แข็งแรง อย่างน้อยๆ ถ้าผมขัดขืนก็คงจัดการเขาได้ไม่ยาก ไซส์เราไม่ได้แตกต่างกันขนาดนั้น แต่ผมไม่เคยทำ บางทีอาจจะเป็นเพราะว่าผมทำไม่ได้... ฟ้าครามต้องไม่ใช่เทวดา เขาต้องเป็นปีศาจที่เสกเวทมนตร์ใส่คนได้ด้วยการยิ้มแน่ๆ

   มือของเขาหยุดลงแถวริมฝีปาก ใบหน้าคมนั้นเลื่อนเข้ามาใกล้ มือของผมจับชายเสื้อของตัวเองโดยอัตโนมัติ จนจมูกเขาไล้ลงบนแก้ม ลมหายใจอุ่นๆ ปะทะแถวปลายคาง นั่นเป็นสัญญาณเตือนถึงอะไรที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นสิ่งถัดไป

   ผมหลับตาลง... กำลังจะปล่อยให้มันเป็นไป...

   ปี๊นนนนนนนนนนนน!

“HOLY CRAP!”

ผมร้องออกมาด้วยความตกใจก่อนที่จะหันขวับไปมองที่ต้นเสียงจากด้านหลัง ในใจกู่ร้องคำว่าชิบหายในใจทันทีเมื่อเห็นว่ารถใครบีบแตร
   
รถคุณปฐพี!
   
ฟ้าครามเองก็ตกใจเช่นกัน เราสองคนผละออกจากกันโดยอัตโนมัติ บ้าเอ๊ย... พ่อน้องพระพายคงไม่เห็นใช่มั้ย!

ผมคว้าของทุกอย่างก่อนที่จะเอื้อมมือไปเปิดประตู “เดี๋ยวโทรหานะ”

“คะ ครับ” ฟ้าครามรับคำงงๆ

“ฝันดี ขอบคุณมากสำหรับวันนี้” ผมเอ่ยแบบนั้นก่อนที่จะคลี่ยิ้มให้อีกฝ่าย ขณะที่มือก็เปิดประตูรถทันที “กลับบ้านดีๆ นะ”

พี่เลี้ยงเด็กทำหน้าเหลอหลา ก่อนที่จะพยักหน้าอย่างงุนงงและค่อยๆ ออกตัวไป

รถคันที่บีบแตรเมื่อกี้เลื่อนขึ้นมาที่ประตูหน้าบ้านแทนรถคันเดิมของฟ้าคราม ผมรู้สึกทำตัวไม่ถูก แตกต่างจากกรณีเมื่อกี้ แม่งเอ๊ย อย่างกับพาชู้เข้าบ้าน คิดอะไรจัญไรจริงๆ พชร แต่ผมยังไม่อยากให้คุณปฐพีรู้จริงๆ ผมทำตัวไม่ถูก

คุณปฐพีจอดรถ และเดินลงมาจากที่นั่งคนขับ อ้อมมาทางอีกฝั่งและอุ้มพระพายลงมาจากที่นั่งข้างๆ คนขับ
   
“เพิ่งกลับเหรอครับ” พ่อของหลานยิ้ม “กลับช้านะ”
   
ผมสูดลมหายใจลึก “ครับ” พยักหน้าและเดินไปไขกุญแจเปิดประตูบ้านตัวเอง ผมเพิ่งรู้สึกว่ารอยยิ้มของคุณปฐพีทำให้ผมอึดอัดได้ขนาดนี้ “พระพายหลับเหรอครับ”
   
“อื้อ ผมพาลูกขับรถเล่นน่ะ”
   
“อ๋อ...” ผมพยักหน้าก่อนที่จะเปิดประตู “เชิญครับ จะกลับเลยมั้ย”
   
“ไม่ล่ะครับ” อีกฝ่ายยิ้ม “คิดว่ามีเรื่องต้องคุยกับคุณเพชรนิดหน่อย”
   
ผมกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างเสียไม่ได้
   
ผมให้คุณปฐพีขึ้นมาในบ้าน อุ้มหลานวางบนเตียงของแก ดูเหมือนสักชั่วโมงนึงผมจะต้องปลุกแกขึ้นมาทานข้าวเย็นและอาบน้ำก่อนที่จะปล่อยแกนอนยาว
   
พอจัดการหลานเสร็จคุณปฐพีก็หันมามองผมด้วยสีหน้าจริงจังที่ทำให้ผมสูดลมหายใจลึก
   
“เอ่อ เดี๋ยวผมลงไปหยิบน้ำให้ละกันนะครับ”
   
“ครับ” คุณปฐพีพยักหน้า “ไปคุยกันที่โซฟาข้างล่างมั้ย”
   
ผมคิดว่านั่นคือคำพูดอ้อมๆ ว่า ‘เรื่องนี้เราต้องคุยกันยาว’ และผมทำได้แค่ภาวนาในใจว่าขออย่าให้เป็นเรื่องที่ผมกังวลเลย เขาคงไม่หยิบเรื่องนั้นมาพูด...ใช่มั้ยนะ
   
คุณปฐพีเป็นผู้ชาย...แน่ๆ เขาคงไม่มีรสนิยมชมชอบผู้ชายด้วยกันหรอกไม่งั้นคงจะไม่มีเมียสองลูกสองแบบนี้ แถมหนึ่งในนั้นคือพี่สาวผมด้วย แต่ประเด็นไม่ใช่เขาชอบหรือไม่ มันอยู่ที่เขารังเกียจมันหรือเปล่า แน่นอน ผมไม่สนใจว่าเขาจะเกลียดผมหรือไม่เพราะผมก็ใช่ว่าจะชอบเขา แต่ว่าผมกังวลเรื่องหลานต่างหาก
   
พระพายคือครอบครัวคนเดียวที่ผมยังเหลืออยู่ ถ้าเกิดเขารังเกียจผมมากจนผมไม่สามารถเจอแกได้ผมต้องอ้างว้างมากแน่ๆ
   
ผมถอนหายใจ เอาน้ำไปวางตรงหน้าคุณปฐพีที่ทำหน้าจริงจังกว่าปกติเล็กน้อย แต่ก็ยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า
   
“ถามตรงๆ นะครับ” อีกฝ่ายเอ่ยเสียงเรียบ “เป็นอะไรกับฟ้าครามหรือครับ”
   
...จนได้สินะ
   
ผมกัดริมฝีปาก ไม่รู้จะตอบอย่างไร แต่คุณปฐพีกลับเลือกที่จะยื่นคำถามที่ดูเหมือนจะง่ายกว่าเดิมให้กับผม
   
“ต้องถามว่ารู้สึกอย่างไรให้กันมากกว่าสินะครับ?”
   
“มันค่อนข้างจะ...” ผมอึกอัก “พูดยาก” ผมเลือกที่จะตอบแบบนั้นไป
   
คุณปฐพีมองผมนิ่งๆ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาเล็กน้อย เขาไม่ได้ว่าอะไรออกมา และเอ่ยปากถามออกมาอีกครา “เคยทำอะไรให้พระพายเห็นหรือเปล่าครับ”

   “ไม่!” ผมเถียงทันควัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมมั่นใจ “ไม่เคย แน่นอน ผมสาบานเลย” ผมรีบเอ่ยปากพูดต่อเมื่ออีกฝ่ายทำสีหน้าเหมือนไม่ไว้ใจ

   สุดท้ายเขาก็ยกมือขึ้นยอมแพ้ “ถ้าคุณยืนยันแบบนั้นก็เชิญเถอะครับ ผมขอแค่นั้นแหละ”

   ผมสูดลมหายใจลึก

   “คุณจะเป็นเกย์ รักผู้ชาย หรือจะอะไรก็แล้วแต่...” คุณปฐพีเอ่ยปากพูดเสียงเรียบ “สิ่งแรก ผมเห็นลูกสำคัญที่สุด และผมเชื่อคุณว่าคุณจะไม่ทำอะไรไม่ดีให้พระพายเห็น ผมกลัวแกโดนล้อ” คำพูดสุดท้ายเจือไปด้วยความเสียใจ “แค่แกไม่ได้อยู่กับพ่อ หรือการที่แกไม่ได้มีแม่อยู่ด้วยแล้ว อาจจะทำให้แกดู... ไม่สมบูรณ์”

   ลมหายใจผมติดขัด แต่อีกฝ่ายยังพูดต่อ

   “ผมมันเป็นพ่อที่แย่พอแล้ว... ผมไม่ได้บอกว่าการที่คุณกับเขารักกันมันไม่ดีนะ แต่ว่าถ้า... ถ้าแกโดนถามว่าทำไมพวกคุณถึงสนิทกันนัก หรือ...”

   “ผมขอโทษครับ” ผมเอ่ยปากออกมาด้วยความเสียใจ “ผมลืมคิดถึงเรื่องนี้จริงๆ”

   ผมคิดมาตลอดว่าตอนที่แกมาอยู่กับผม...ผมจะสามารถเติมเต็มให้แกได้ จนผมลืมมอง ณ จุดนี้ไป ลืมไปว่าประเทศไทยอาจจะยังไม่ยอมรับขนาดนั้น โดยเฉพาะคนรุ่นที่เป็นแม่คนปัจจุบัน ถึงเขาจะยอมรับเรื่องความรักในเพศได้แต่ผมไม่คิดว่ามันจะถูกยอมรับถ้าหากคู่รักเหล่านั้นเลี้ยงเด็กเยี่ยงบุตรแท้ๆ

   “ไม่เป็นไรครับ” คุณปฐพียิ้ม “บางทีมันอาจจะพลาดที่ผมตั้งแต่แรก” ผมสังเกตได้ว่ามือของอีกฝ่ายกำเข้าหากันแน่น “ถ้าตอนนั้น...ผมพยายามรักษาครอบครัวไว้”

   วินาทีนั้นผมเผลอคิดถึงคำพูดของพี่เพลง คำเดียวที่ย้ำเตือนผมตลอดว่าผมไม่ควรเกลียดพ่อของพระพาย...บางทีคุณปฐพีอาจจะไม่ใช่สามีที่ดี แต่เขาเป็นพ่อที่ดี

   ผมเคลือบแคลงใจ ผมไม่คิดว่าคนที่ทิ้งลูกเมียไปแต่งงานใหม่จะเป็นพ่อที่ดีได้ แต่ในวินาทีนี้ผมคิดจริงๆ ว่าเขาเป็นบุคคลที่ห่วงพระพายที่สุด พยายามทุกอย่างเพื่อพระพายมากที่สุด จนสิ่งที่ผมเคยทำมามันเทียบไม่ได้เลย กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ พรรค์นี้ผมยังไม่ใส่ใจ แต่คุณปฐพีกลับใส่ใจทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของลูกที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

   ผมไม่เคยรู้ว่าทำไมเขาถึงเลิกกับพี่เพลง และบางทีเขาอาจจะไม่มีวันบอกผมเลยก็เป็นได้...แต่ลึกๆ ลงไปผมก็รู้สึก เขาไม่ได้ปรารถนาจะทิ้งพี่เพลงไปเลยแม้แต่ครั้งเดียว

   “ขอโทษนะครับ คุณปฐพี”

   ผมย้ำคำนั้นออกมาอีกคราขณะที่เรานั่งด้วยกัน คุณปฐพียิ้ม “และอีกข้อที่ผมถามเรื่องนี้ขึ้น ไม่ใช่เพราะผมอยากรู้...อันที่จริงผมก็อยากรู้แหละ” เขาพูดติดขำเล็กน้อย “แต่ผมอยากให้คุณรู้นะ แม้ว่าคุณจะตั้งแง่เกลียดผม”

   ผมสะดุ้งเล็กน้อย นี่ผมแสดงออกให้เขาเห็นชัดเจนขนาดนี้เลยหรือเนี่ย...

   “คุณเป็นน้องของเพลง” เขาเว้นไปเล็กน้อย “เพราะแบบนั้น... ผมก็ถือว่าคุณเป็นน้องของผม”

   ผมทำหน้าอะไรไม่ถูกเมื่อเขาพูดออกมาแบบนั้น ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรกลับไปเลยได้แต่ยกมือขึ้นเกาหัวแก้เก้อ ไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ยินคำแบบนี้จากปากของอีกฝ่าย

   เขายิ้มเมื่อเห็นปฏิกิริยาของผม “ถึงคุณจะไม่อยากนับผมเป็นพี่เท่าไหร่ก็เถอะ เอาตามจริงเราก็ไม่ได้เป็นพี่น้องกันตามกฎหมายแล้ว” นั่นเป็นเพราะเขาหย่ากับพี่เพลงแล้ว

   “ฮะๆ” ผมเค้นหัวเราะ

   “ผมหวังว่าเราจะเป็นครอบครัวด้วยกันได้ คุณพชร” เขาเอ่ยปากออกมาแบบนั้น “ผมหวังแบบนั้นจริงๆ”

   เรื่องจริงที่ผมต้องยอมรับ ผมตั้งแง่กับคุณปฐพีไว้มาก...เกลียดเขาสุดๆ เพราะเขาทิ้งทั้งพี่ทั้งพระพาย เกลียดกว่าตอนที่เมียใหม่เขาผลักหลานตกบันไดแต่เขากลับเลือกที่จะฝากพระพายไว้กับผมแทนที่จะเลิกกับภรรยา แต่ลึกๆ แล้วผมเองก็รู้ตัวเหมือนกัน

ผมไม่ได้เกลียดคุณปฐพีขนาดนั้น อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นคนแบบนี้ก็ได้ล่ะมั้ง...
   


ผมอาบน้ำก่อนที่จะปลุกพระพาย ไล่หลานไปอาบน้ำและตัวเองลงไปทำอาหารง่ายๆ ให้แกกิน พระพายอิดออดนิดหน่อย แกบอกว่าพ่อพาแกกินขนมจนอิ่มท้องแต่ผมจะยอมตามใจได้ที่ไหน ยังไงแกก็ต้องกินข้าวแต่ให้ปริมาณข้าวน้อยลงกว่าปกติเท่านั้น

“แล้วก็นะ น้องน่ารักกกก... “ ผมนั่งฟังพระพายพูดเรื่องน้องตัวเองไม่หยุด สาบานว่าโตมาแกต้องเห่อน้องมากแน่ๆ

“ทำไมไม่พูดถึงคุณพ่อบ้างล่ะคะ” ผมแกล้งแหย่ “เดี๋ยวคุณพ่อเสียใจนะ”

“โอ๊ย ไม่เป็นไรค่า” หลานแกหัวเราะเอิ้กอ้าก “คุณพ่อไม่เสียใจหรอก คุณพ่อก็ชอบพูดถึงน้องเหมือนกัน”

...อืม ดูท่าจะได้หลงกันทั้งบ้านสินะ น้องภาพพิมพ์เนี่ย
   
จะว่าไปผมก็เคยเห็นแกไม่กี่ครั้ง ตอนนี้คงยังไม่ครบขวบดีด้วยซ้ำ บางทีวันที่ผมพาพระพายย้ายกลับไปอยู่นู่น ผมอาจจะต้องซื้ออะไรให้น้องเขาด้วยสินะ
   
ผมนั่งฟังพระพายพูดเรื่องเดิมๆ จนเกือบสี่ทุ่มผมก็ต้องไล่แกไปนอนเพราะกลัวว่าแกจะนอนดึกไป หลานงอแงบอกว่านอนมาเยอะแล้ว แกก็โดนผมดุอย่างไม่จริงจังอะไรนักว่าแล้วนอนทำไมเยอะๆ
   
“ฝันดีนะคะ” ผมก้มลงจูบหน้าผากแกเบาๆ ขณะที่ดึงผ้าห่มมาห่มให้แก
   
“พระพายยังไม่ง่วง” แกงอแง
   
“อย่าดื้อสิคะ” ผมว่าอย่างขำๆ “น้าไปแล้วนะคนเก่ง”
   
“น้าเพชรเล่าอะไรให้ฟังหน่อยสิคะ” แกดันตัวขึ้น “อย่าง... เรื่องของแม่”
   
ผมชะงักไปก่อนที่จะอมยิ้ม “อยากรู้เรื่องไหนล่ะคะ”

พระพายดูตื่นเต้นตอนผมเล่าเรื่องของพี่เพลง ผมไม่ได้เล่าอะไรมากแค่เรื่องตอนที่ผมโดนแกล้งตอนเด็กๆ แต่พี่เพลงมาช่วย ทั้งๆ ที่ตัวเองก็หาของที่ผมเกลียดมาแกล้งผม ประมาณว่าน้องข้าใครอย่าแกล้ง...ข้าแกล้งได้คนเดียว ไม่นานแกก็หลับ ผมเห็นแกยิ้ม... ไม่รู้ว่าแกฝันถึงแม่ดีๆ อย่างพี่เพลงหรือเปล่า

ผมเดินออกมาเมื่อมั่นใจว่าแกนอนหลับสนิท ก่อนที่จะเดินมาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงตัวเองและคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคนที่สัญญาว่าจะโทรหาตั้งแต่เย็น

[ครับ!] ฟ้าครามรับเสียงร้อนรน [คุณเพชร... เงียบไปเลย นึกว่าเป็นอะไรเสียอีก]

“โทษที” ผมหัวเราะเบาๆ “คุยกับพระพายเพลินน่ะ”

[อ๋อ... ไม่มีอะไรใช่มั้ยครับ]

“อื้อ”

[แล้ววันนี้...]

“ไม่ต้องกังวลน่า” ผมว่าพลางอมยิ้ม “ไม่มีปัญหาหรอก”

[ไม่ใช่ครับ ผมหมายถึง สรุปที่ผมได้ยินวันนี้…เรื่องจริงใช่มั้ยครับ]

ผมไปต่อไม่ถูก ลืมไปเสียแล้วว่าตอนเย็นไปพูดอะไรกับเจ้าฟ้าครามไว้ จริงๆ จะเบี่ยงประเด็นโดยการตัดสายได้แต่ก็ดูแย่ไปหน่อย ผมเลยเลือกที่จะเงียบ

[ผมไม่ขอให้คุณเพชรพูดซ้ำหรอกครับ...] เสียงนุ่มกระซิบข้างหู [แค่อยากจะให้ฟังผมบ้าง]

“…”

[ผมก็รู้สึกเหมือนคุณเพชรนะครับ]

ผมเอามือตะปบใบหน้าตัวเอง พยายามกดที่มุมปากไว้แต่กลับกลายเป็นช่วยอะไรไม่ได้เลย เหมือนมุมปากมันจะยกขึ้นตลอดเวลา  สุดท้ายก็ได้แต่นึกขอบคุณที่เขาอยู่คนละที่ ขืนพูดออกมาตอนอยู่ตรงหน้าผมคงหลุดฟอร์มไปเยอะ ทำไมต้องฟอร์มจัดด้วยวะ... ลำบากตัวเองทำไม

“ขี้โกง” ผมว่าอย่างขุ่นเคือง “ทีงี้ล่ะไม่พูด” ผมบ่นงึมงำ

[ถ้าพูดคุณเพชรตัดสายแน่ๆ ครับ] ผมกลอกตา...เจ้าเด็กนี่รู้วิธีรับมือผมดีเกินไปแล้ว! [หรือคุณเพชรอยากให้ผมพูด?]

“ไม่ล่ะ” ผมปฏิเสธ

ขนาดไม่พูดออกมายังทำให้ผมเป็นขนาดนี้...ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเขาพูดออกมาผมจะเป็นขนาดไหน สงสัยได้ปาโทรศัพท์ออกนอกระเบียงแน่ๆ

ค่อยเป็นค่อยไป...ค่อยๆ เขยิบความสัมพันธ์

อย่าทำอะไรให้ชัดเจนนักเลย แค่นี้ก็มีความสุขจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว!

---------------------------------------------------

น้อมรับทุกข้อกล่าวหา Orz มาช้าเป็นนิจจริงๆ
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการอ่านนะคะ

ส่วนคุณปฐพี... เอาเป็นว่า รอส่วนของนางกันดีกว่าค่ะ! 5555555
ให้ด่ากันไปก่อน ซึ่งจริงๆ นางอาจจะน่าด่าก็ได้นะ ฮึๆ

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
น่ารักจิงคู่นี้ :L1:

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เอาจริงๆ ตอนแรกคิดว่าคุณเพชรกับคุณปฐพีจะคู่กันนะ
บางโมเม้นมันแอบฟิน ฮ่าๆๆๆ
แต่ยังไงก็เชียฟ้าค่าา เพราะคุณเพชรน่ะเหมาะกับคุณหมอมากกว่า หุหุ

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
สารภาพซะที สับสนมาตั้งนานเนอะ
อะไรๆหลังจากนี้คงจะดีขึ้น
รอตอนต่อไปน้าาาา

ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ปฐพีเป็นผู้ชายที่ หึ่มๆ :m16: โลเล ไม่หนักเเน่น มักง่าย เห็นเเก่ตัวที่สุดไม่ชัดเจนอะไรสักอย่าง ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองทำให้คนหลายคนเจ็บเพราะการกระทำของตัวเองแท้ๆแล้ว ที่คุยกับเพชรตอนนี้คือแบบ ที่พูดนะรู้เลยว่าทำไมทำกับหมออัคคีแบบนั้น ได้เค้าแล้วยังจะมานิสัยเสียๆอีกเพลียจริง ก็อยากจะอ่านตอนที่คุณท่านออกมาเเก้ตัวว่าทำแบบนี้ๆๆ ไปทำไมอะนะ ไม่รู้ว่าถ้าได้อ่านแล้วจะขึ้นกว่าเดิมอีกหรอเปล่าเพราะดูทรงแล้วอื่ม ห่วยแตก  :katai1:

เหอะๆ ด่าซะเยอะแต่สมควรแล้ว คุณค่าที่ปฐพีคู่ควร แถม :z6:

ส่วนน้องฟ้ากับพี่เพชรหึหึ หวานนแต่มีมารมาขัด :m16:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ black sakura

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1657
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-8
เพชรเสร็จแน่ๆโดนเด็กดักทางและก็รู้ทันขนาดนั้น

ออฟไลน์ Ali$a฿eth

  • [จิ้น]ตนการ
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
คือบั่บบบบบบบ อ๊ายยยย นึกว่าคุณน้องฟ้าจะอาซาบาเห้ซะละ อรั๊ยย

ออฟไลน์ Mafiaziip

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
ตกใจหมดเลยคุณปฐพี  :ling1: :ling1:

คุณเพชร ฟ้าครามน่ารักตลอด  :mew3:

ฟินนนนนนนนนน  :-[ :impress2:

ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4



CHAPTER 30
“เตรียมบอกลา”


ผมมองข้าวของที่ถูกยกขึ้นท้ายรถของคุณปฐพี “ครบแล้วนะครับ?”

“ครับ” ผมตอบเจ้าของรถไปแบบนั้น คุณปฐพีแกพยักหน้าก่อนที่จะปิดท้ายรถ “เดี๋ยวผมไปตามพระพายก่อน...”

“ผมขอเข้าไปด้วย” คุณปฐพีเอ่ยปากขึ้นโดยที่ผมพูดไม่ทันจบ “ผมอยากไปไหว้...เพลง”

พูดแบบนี้ผมจะปฏิเสธได้ที่ไหน “เชิญครับ” ผมเอ่ยปากเช่นนั้นก่อนที่จะเดินนำเข้าบ้าน

พระพายกำลังนั่งดูการ์ตูนขณะที่ผมกับพ่อของแกช่วยกันยกของพระพายขึ้นรถ อันที่จริงมีแค่สองกล่อง หนึ่งคือการ์ตูนทั้งหลายของเธอที่ผมซื้อให้ ไอ้ลูฟี่ยางยืดที่แกชอบนั่นแหละ ส่วนอีกกล่องเป็นของใช้ส่วนตัวจำพวกหนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียน และมีกระเป๋าเสื้อผ้าของพระพายอีกหนึ่ง

ของพระพายน้อยมาก อาจจะเป็นเพราะเราอยู่ด้วยกันไม่กี่เดือน... ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผมรู้สึกว่าบ้านของผมดูโล่งมากกว่าเดิมเกินควร

“พระพาย”

“ขา” หลานขานรับโดยไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ สายตาจดจ้องอยู่แต่การ์ตูนบนหน้าจอ

เห็นแบบนั้นผมเลยเอ่ยปากขึ้นอีกครั้ง “พระพาย” เสียงเข้มกว่าเดิมหน่อย

หลานหันมาทันที “ขา...น้าเพชร” เสียงแกอ่อยประสาเด็กที่ทำผิด

“พวกน้าเก็บของเสร็จแล้วจ้ะ” ผมว่าพลางจูบกระหม่อมแกเบาๆ “ไปไหว้แม่ก่อนแล้วค่อยไปขึ้นรถเนอะ”

พระพายแกพยักหน้า กดปิดหน้าจอแท็ปเลตในมืออัตโนมัติเมื่อผมพูดจบ แกวางมันไว้ก่อนที่จะเคลื่อนตัวเล็กๆ ลงจากเก้าอี้ วิ่งไปที่บันไดขึ้นไปที่ห้องพระ ซึ่งมีรูปของพี่เพลงวางไว้อยู่

ผมหันไปมองคุณปฐพี ตั้งแต่ผมกลับมาที่นี่และขอยกรูปกับอัฐกระดูกของพี่เพลงย้ายมาที่บ้าน หลังจากตอนแรกผมไม่ได้ย้ายกลับมาอยู่ที่นี่ทันที ทุกอย่างของพี่เพลงเลยอยู่ที่บ้านของคุณปฐพี แม้กระทั่งของใช้ต่างๆ เขาก็มาเก็บให้ที่บ้านนี้อย่างเรียบร้อย พอผมกลับมาเขาก็ไม่เคยขอไหว้พี่เพลงเลยสักครั้งเดียว ผมไม่รู้ว่าทำไม ไม่คิดจะถาม อาจจะเป็นเพราะเขารู้สึกผิด หรืออาจจะยังไม่อยากยอมรับความจริงที่ภรรยาคนแรกจากไปเร็วเหลือเกิน

อดีตพี่เขยยิ้มให้ผมบางๆ ผมได้แต่พ่นลมหายใจออกมาอย่างเสียไม่ได้และเดินขึ้นบันไดไป

ขึ้นไปที่ห้องพระก็เห็นพระพายนั่งยกพนมมือพูดกับรูปของพี่สาวผม “แม่ขา พระพายไปอยู่กับพ่อนะคะ” เหมือนมีก้อนอะไรบางอย่างมาจุกที่ลำคอของผม ผมสูดลมหายใจลึก มองภาพนั้นด้วยความเศร้าระคนรอยยิ้ม “เดี๋ยวพระพายมาหาบ่อยๆ นะคะ”

ผมนึกถึงตอนที่ตัวเองรับข่าวเรื่องการจากไปของพี่สาว ญาติเพียงคนเดียวที่ผมเหลืออยู่ ตอนนั้นผมว่าสภาพผมแย่ หนักหนาสาหัส แต่สาบานว่าผมคิดว่าพระพายแย่กว่าผมหลายเท่า พระพายเป็นผู้ใหญ่กว่าเด็กทั่วไป ไม่รู้ว่าเป็นเพราะการที่พี่เพลงเลี้ยงแกคนเดียวไปด้วย ทำงานไปด้วยหรือเปล่าที่ทำให้พระพายต้องคอยพึ่งพาตัวเองตั้งแต่อายุสามสี่ขวบเช่นนี้ ผมว่าแกเข้าใจความหมายของคำว่า ‘คุณแม่ไปอยู่บนท้องฟ้า’ ที่ผู้มาร่วมงานศพของพี่เพลงกล่าวไว้

ตอนแกเสียแม่ที่เป็นครอบครัวคนเดียวที่คอยดูแลแกอายุน้อยกว่าผมเสียอีก แถมตอนนั้นผมยังมีพี่เพลง มีพ่อ แล้วพระพายล่ะ ตอนนั้นมีใครบ้าง น้าอย่างผมก็กลับมาจากต่างประเทศไม่ได้ ไปอยู่กับพ่อที่แม้จะเอาใจใส่ดีก็ต้องทนกับแม่เลี้ยง... เด็กตัวเล็กๆ เพียงนี้ทนได้อย่างไรกันนะ

พระพายก้มลงกราบภาพของแม่ตนเองอีกทีก่อนที่จะลุกขึ้น หันมายิ้มให้ผมที่ยืนอยู่บริเวณประตู

“คุณไหว้ก่อนเลยครับ” คุณปฐพีเอ่ยปากขึ้น “ผมอาจจะ... คุยกับเพลงยาวเสียหน่อย”

ผมพยักหน้า เดินไปที่รูปภาพนั้นก่อนที่จะก้มลงกราบภาพพี่สาวที่เป็นเหมือนกับแม่คนที่สองของผมทั้งที่อายุมากกว่าผมไม่เท่าไหร่

ในภาพนั้นพี่เพลงเป็นผู้หญิงผิวสองสี ใส่แว่นแต่งหน้าอ่อนๆ สวมชุดสูทของสตรี โครงหน้าของพี่เพลงคล้ายๆ กับผม หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงสวยจัด ดูเป็นผู้หญิงธรรมดา หาได้ตามถนนเดินดินทั่วไป แต่สำหรับผมแล้ว พี่เพลงเป็นคนพิเศษ คนสำคัญ... คนที่ผมไม่อยากให้จากไปและไม่เคยคิดว่าจะจากไปเพราะอุบัติเหตุเช่นนี้

เป็นคนที่ผมจะระลึกถึงตลอดชีวิต

‘เดี๋ยวเพชรจะดูแลพระพายให้ดีๆ นะครับ’

ผมได้แต่คิดเช่นนั้นในใจ ก่อนที่จะโค้งศีรษะลง วินาทีนั้นผมรู้สึกเหมือนภาพนั้นยิ้มให้ผมเหมือนที่เคยได้รับตอนเด็กๆ

ผมดันกายขึ้นเดินไปที่คุณปฐพีที่หอมแก้มพระพายอยู่ “ผมลงไปข้างล่างก่อนนะครับ”

พ่อของหลานพยักหน้าด้วยรอยยิ้มจางๆ ผมจึงอุ้มพระพายไปข้างล่าง ไม่ลืมที่จะปิดประตูห้องพระไว้หากแต่ตอนผมก้าวลงบันได ผมก็ได้ยินเสียงทุ้มสั่นเครือดังออกมาอยู่ดี

“พี่ขอโทษนะเพลง...”

ผมได้แต่ส่ายหัวและหันไปพูดกับหลานในอ้อมกอด “ลงไปหาอะไรกินก่อนนะคะ รอให้คุณพ่อคุยกับคุณแม่ก่อน”



ผมไม่ได้เอ่ยปากพูดกับคุณปฐพีเมื่อเห็นว่าตอนเดินลงมาหลังจากไหว้พี่เพลงเสร็จตาของเขาแดงเล็กน้อย อืม... ผู้ชายวัยสามสิบอย่างเขาจะร้องไห้บ้างก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก มองจากลักษณะแล้วเขาไม่ใช่คนเข้มแข็งขนาดนั้นหรอก

พวกเราสามคนไปทานอาหารที่ห้างกันก่อน ตอนนี้สิบเอ็ดโมงกว่าๆ เร็วไปนิดสำหรับอาหารกลางวัน แต่ก็มีข้อดีเพราะคนยังไม่เยอะเท่าไหร่นัก

“น้าเพชร” พระพายสะกิดมือผมยิกๆ ขณะที่แกโดนคุณพ่อจับมืออีกข้างหนึ่ง “จับมือหน่อยค่ะ”

“คะ?” ผมเลิกคิ้ว

“จับมือ” หลานย้ำอีกครั้งพลางคว้ามือของผมไปจับ “นี่ไงคะ พระพายเหมือนเจ้าหญิงเลย มีองครักษ์สองข้าง”

มั่นหน้ากว่าหลานคนนี้ไม่มีอีกล่ะครับ...

ผมยิ้มขำๆ เหลือบมองพ่อของพระพายที่ยิ้มแบบเดียวกันก็อดตลกไม่ได้ แม้จะรู้สึกแหยงหน่อยๆ ที่ต้องเป็นองครักษ์หลานพร้อมๆ กับคนที่ดูเหมาะจะเป็นพระราชาของเจ้าหญิงมากกว่าอย่างคุณปฐพี

จังหวะนั้นเองที่คุณปฐพีเอ่ยพูดกวนเบื้องล่างด้วยรอยยิ้ม “เอาไปอธิบายให้พี่เลี้ยงเด็กฟังดีๆ ล่ะครับ”

ผมแอบกัดฟันตะโกนขึ้นในใจ แหมะ... ตอนก่อนหน้านี้ใครกันทำตัวเป็นเหมือนพี่ชายที่หวงน้องสาวคนนี้อีกคนเหรอครับ... ทีอย่างนี้ล่ะได้ทีแซวเชียว

พวกเรารอคิวร้านอาหารอยู่สองสามคิวก่อนที่จะมีคนเรียกชื่อคุณปฐพีดังขึ้น

“สามที่นะคะ” ผมพยักหน้า ให้พนักงานพาเราไปนั่ง ก่อนที่เราจะสั่งอาหารจนเสร็จสรรพคุณปฐพีจึงเอ่ยปากถามขึ้น

“วันนี้ไปทานข้าวเย็นด้วยกันนะครับ”

“ครับ” ผมพยักหน้า หยิบแก้วน้ำมาจิบ “อ๋อใช่ ผมซื้อเสื้อให้ลูกสาวคุณด้วย” ผมเอ่ยปากเมื่อนึกขึ้นได้ “แต่อยู่ที่รถน่ะครับ”

“ขอบคุณมากครับ”

ครืด...

โทรศัพท์มือถือในมือของผมสั่นเล็กน้อยจนผมต้องเลิกคิ้ว ตัวอักษรที่ปราฎข้อความให้เห็นชัดเจนว่าใครส่งมาทำให้ผมระบายยิ้มบาง

‘วันนี้ไปส่งพระพายรึเปล่าครับ’

ผมพิมพ์ตอบกลับไปในทันที ‘ไปสิ ตอนนี้อยู่ข้างนอกน่ะ’

ฟ้าครามส่งสติ๊กเกอร์รูปตูดหมามาพร้อมกับข้อความ ‘ผมก็อยากไปด้วยนะ’ ทำให้ผมหัวเราะเบาๆ

“ยิ้มขนาดนี้ไม่ต้องถามแล้วมั้งครับว่าใคร” ผมยิ้มค้าเงยหน้าขึ้นจากจอมือถือ เลิกคิ้วนิดหน่อยแต่ไม่ได้ตอบอะไรไป คุณปฐพีจึงเอ่ยปากต่อ “ทำไมต้องทำหน้าดุด้วยล่ะครับ”

“เปล่านี่” ผมว่าเสียงห้วน

“เห็นทีคุณไม่ชอบหน้าผมนะครับ”

ผมพึมพำเบาๆ ว่ารู้ตัวด้วยเหรอ อืม... เอาจริงๆ ผมไม่ชอบหน้าเขาตั้งแต่รู้ว่าคบกับพี่เพลงแล้ว จะบอกว่าหวงพี่ก็ได้ แต่ไม่ใช่แค่นั้นเสียหน่อย

“เอาเถอะ” ผมพ่นลมหายใจ “ผมรู้สึกว่ายังไงเราก็ต้องเห็นหน้ากันอีกนานครับ” ผมตัดบทยิ้มๆ

“ผมก็ว่างั้นแหละ” คุณปฐพีพยักหน้า

ผมเค้นยิ้ม ก้มลงพิมพ์ข้อความใส่เครื่องมือสื่อสารตอบฟ้าครามไปขณะเห็นพ่อลูกเล่นกันอย่างน่ารักน่าชังจนอาหารมาเสิร์ฟ



หลังจากทานอาหารกลางวันและผมกับพ่อลูกไปซื้อของใช้ต่างๆ ที่ต้องการแล้ว (แม้จะรู้สึกจั๊กจี้นิดๆ เวลาคนมองเห็นผมกับคุณปฐพีซื้อข้าวของเครื่องใช้ด้วยกัน มีลูกด้วยนะ...เก๋สุดๆ) คุณปฐพีก็ขับรถกลับมาบ้านที่ใหญ่โตคล้ายคฤหาสน์ของตัวเอง

แม่บ้านคนหนึ่งมาเปิดประตูให้ก่อนที่จะมาช่วยยกข้าวของของพระพายไปเก็บ สงสัยหลานคงจะได้กลับไปเป็นคุณหนูใหม่เสียแล้ว

พระพายยกมือไหว้ทุกคนในบ้านอย่างมีมารยาท คุณปฐพีเองก็ยกมือไหว้พวกแม่บ้าน พ่อบ้านที่อายุรุ่นราวคราวแม่ของพวกเราเหมือนกัน สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดคือคุณปฐพีแกมีสัมมาคารวะ ไม่ได้เป็นพวกมีเงินแล้วทะนงตนอะไร แม้ว่าหัวจรดเท้าจะแบรนด์แทบทั้งตัว ตามประสาเจ้าของบริษัทใหญ่ที่ร่ำรวยล่ะนะ...

“น้ำค่ะ”

“ขอบคุณครับ” ผมเอ่ยปากเมื่อหญิงวัยคราวแม่เดินเข้ามาส่งแก้วน้ำให้เมื่อเจ้าของบ้านพาเราสองคนมานั่งที่ห้องรับแขก

จู่ๆ หลานก็ร้องขึ้น “พระพายอยากไปหาน้อง”

“อ๊ะ จริงสิ” คุณพ่อลูกสองเอ่ยขึ้นเหมือนกับนึกขึ้นได้ “ไปด้วยมั้ยครับ ตอนนี้คงนอนกลางวันอยู่”

ผมพยักหน้าตกลงพลางควานหาถุงกระดาษที่ใส่เสื้อของเด็กวัยไม่ถึงขวบที่ถือมา แต่นึกขึ้นได้ว่าไม่ได้หยิบลงมาจากรถ

“ผมคิดว่าผมลืมของที่ซื้อมาให้ลูกสาวคุณที่รถน่ะครับ”

“งั้นพระพายไปหาน้องก่อนละกันลูก” คุณปฐพียีหัวลูกสาวตัวเอง “ไปกับป้าเขานะ”

“ค่า” หลานตอบรับเสียงขยันขันแข็ง

คุณป้าที่นำน้ำมาให้ผมเมื่อกี้นี้พยักหน้า จับมือหลานเดินขึ้บันไดที่อยู่ถัดไปจากห้องรับแขกไม่ไกล คุณปฐพีคว้ากุญแจรถที่วางไปแล้วขึ้นมาใหม่ก่อนที่จะเดินนำผมออกไปข้างนอก

“ยังมีปัญหาเรื่องคุณลดาอยู่มั้ยครับ”

อีกฝ่ายยิ้มเจื่อน “ก็มาบ้างครับ”

“หวังว่าปัญหาจะคลายเร็วๆ นะครับ”

คุณปฐพียิ้ม ไม่ได้ตอบอะไร หากแต่เป็นรอยยิ้มเจื่อนๆ เขาเปิดรถแล้วปล่อยให้ผมหยิบถุงกระดาษที่วางไว้ก่อนที่จะกดล็อกรถอย่างรวดเร็ว

เรากำลังจะเดินเข้าบ้าน หากแต่ได้ยินเสียงหวีดร้องแหลมๆ ขึ้นมาก่อน

“คุณชายคะ!” ผมเองก็ตกใจเมื่อเห็นผู้หญิงที่มาเปิดประตูให้คุณปฐพีเอารถเข้าบ้านเมื่อกี้วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาทางเราสองคน “คุณนายเขา... ข้างบน...”

ผมยังไม่ทันเข้าใจอะไรสักอย่าง หญิงสาวคนนั้นไม่อธิบายอะไร คงเป็นเพราะคุณปฐพีก้าวเท้าเข้าไปในบ้าน วิ่งตรงไปที่บันไดด้วยความรวดเร็ว ไม่รอฟังสิ่งใดทั้งนั้น

หล่อนหันมามองผมด้วยสีหน้าที่ตกใจไม่น้อย ก่อนที่จะตะโกนเสียงดังไล่หลังคุณปฐพี “หนูจะไปตามพี่ผู้ชายคนอื่นมานะคะ” แล้วหล่อนก็วิ่งไปอีกทาง

ผมลังเลว่าตัวเองควรจะทำอย่างไรดี สุดท้ายก็เดินเร็วๆ ไล่หลังคุณปฐพีไป พอขึ้นบันไดไปห้องแรกก็มีประตูเปิดอยู่

ภาพที่เห็นทำให้ใจผมตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม คนวัยดึกที่เดินขึ้นมาพร้อมกับพระพายยืนอยู่ข้างๆ คุณปฐพี ผมรู้สึกใจไม่ดี แต่ยิ่งเดินเข้าไปในห้องนั้นทำให้ผมตกใจยิ่งกว่า

ผู้หญิงวัยสามสิบกว่าใบหน้าซูบเซียว ผิวขาวเหลืองยืนอยู่ตรงนั้น ในมือมีมีดปลอกผลไม้ และที่ทำให้ผมยิ่งตกใจกว่าคือมืออีกข้างของเธอล็อกคอหลานวัยสี่ขวบที่ตัวสั่นงกอยู่!

...พระพาย!

ตอนแรกผมแทบจะจำเธอไม่ได้เสียด้วยซ้ำแต่พอเพ่งพินิจดีๆ ถึงได้รู้ว่านั่นคืออดีตภรรยาของคุณปฐพีที่ชื่อคุณลดา หากแต่คุณลดาที่ผมเคยเห็นคือคนที่ถือกระเป๋าราคาแพง เชิดหน้าเดินบนส้นสูง ไม่ใช่ผู้หญิงสภาพแทบดูไม่ได้เช่นนี้ แต่นั่นใช่ประเด็นเสียที่ไหน ประเด็นคือทำไมหล่อนถึงมาอยู่ที่นี่ และจับพระพายไว้แบบนั้นต่างหาก

ผมหายใจหอบถี่ด้วยความตกใจกับสิ่งที่เห็น ไม่นานก็มีชายหญิงเดินขึ้นมาอีกสองสามคน ทุกคนตกใจเหมือนกันหมด

“เอาลูกฉันคืนมา!” คุณลดากรีดร้องเสียงแหลม “ทำไมคุณทำแบบนี้ คุณ!” หล่อนเอามือที่กำมีดปอกผลไม้แรงจนมือสั่นชี้มาทางคุณปฐพี “ทำแบบนี้ทำไม!”

คุณปฐพีไม่เอ่ยปากตอบ ผมคิดว่าคงตอบไม่ออก สถานการณ์ตอนนี้น่ากลัว หากพูดอะไรไปเกรงว่าพระพายจะเป็นอันตรายเสียด้วยซ้ำ

ผมกระซิบถามคนงานข้างกายด้วยเสียงเบาที่สุดว่าแจ้งตำรวจหรือยัง เขาพยักหน้า แต่นั่นไม่ได้ทำให้ผมสบายใจขึ้นเลย ตำรวจไทยคงไม่ได้โผล่มาเร็วนัก แต่สถานการณ์แบบนี้เกรงว่าต้องช่วยพระพายออกมาก่อน หลานตัวสั่นงกแต่ไม่ร้องไห้ ผมทำอะไรไม่ได้สักอย่าง จะวิ่งไปดึงพระพายออกมาก็บ้าบิ่นเกินไป อีกอย่างประเด็นที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นคงต้องให้คุณปฐพีเคลียร์เองเท่านั้น

“ตอนแต่งงานก็ไม่เคยสนใจ พอเมียเก่าตายก็แยกห้อง ขนาดฉันให้เด็กนี่ให้ออกไปแล้วแท้ๆ!” หล่อนหวีดเสียงแหลมจนผมแสบหู “ชีวิตฉันพัง เพราะคุณ! คุณ!” หล่อนตะโกนคล้ายคนไม่มีสติ

“ลดา ใจเย็นๆ” นั่นเป็นคำแรกที่คุณปฐพีพูดขึ้นมา

“หุบปาก!” คุณลดาหวีดเสียงไม่หยุดไม่หย่อน “ฉันพังหมด จากคนที่มีทุกอย่างกลายเป็นไอ้ขี้ยาไม่มีที่ไปเพราะคุณ!”

ผมสูดลมหายใจลึก พยายามตั้งสติ

“เอาลูกสาวฉันมา! เอามา!” หล่อนกรีดร้อง “ยัยนั่นเป็นลูกของฉัน!”

“ลดา ใจเย็นๆ!” คุณปฐพีเสียงแข็งขึ้นเมื่อมีดปอกผลไม้นั่นเลื่อนไปจ่อที่ข้างแก้มของพระพาย หลานหลับตาปี๋ด้วยความหวาดกลัว

“ลูกของฉัน ของของฉัน!” หล่อนตวาดเสียงดัง “มันอาจจะไม่ใช่ลูกคุณด้วยซ้ำ!”

ผมตัวชาดิกกับคำนั้น ก่อนที่จะเหลือบตามองคุณปฐพี สิ่งเดียวที่ผมรับรู้ได้จากแววตาของเขาคือ... เขาไม่มีความแปลกใจอยู่ในแววตานั้นเลย





-------------------------------------------
ขอโทษที่มาต่อช้าค่ะ... แทบจะนิยายรายเดือน Orz
อีกสองตอนเดี๋ยวก็จบแล้ว

ปล. ยังตอบแบบสอบถามเรื่องตีพิมพ์ได้อยู่นะคะ
https://docs.google.com/forms/d/1woUt9Hq9eE4MDfaPEVNcEkgW8g-6shZG7wlBS2-kmA0/viewform

ปลล. อยากทราบว่ากฎของเล้านี่ ถ้าอยู่ในขั้นตอน "สอบถาม" สามารถตั้งกระทู้ในบอร์ดซื้อขายได้ไหมคะ ?

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
อืมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
เรื่องชักจะมีปม :ruready
ริตอนต่อไปน้าาาา

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
อีกสองตอนจบ ไม่น๊าาา
เรื่องคุณปฐพีกะคุณหมอยังไม่เคลียร์เลยยยยย

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
บางทีอ่านไปก็แอบจิ้นเพชรกับคุณปฐพีไปนะ
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ Mafiaziip

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
สงสารคุณปฐพีจัง ผมนี่น้ำตาร่วงเลยครับ  :hao5: :hao5: :hao5:

ใกล้จบแล้วเหรอ เร็วไปมั้ย ฮือออออ

รอตอนหน้า และอีกหลายๆตอนนะ  o13 o13 :katai2-1:

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
ใกล้จะจบแล้วหรอ :hao5:

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
คุณปฐพีมีชีวิตครอบครัวที่น่าสงสารนะ
น้องพระพายของป้า ตกใจแย่เลยลูก

ว่าแต่อีกสองตอบจบ ม้ายยย  :ling1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ boyslover

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 408
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-0
ชะนีคลั่ง :m31: อยากรู้ตอนหน้า นางจะโดนอะไร ตีนหรือลูกปืน  :hao3:

ออฟไลน์ Maxshu

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 858
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
ถ้าไม่ใช่ ปฐพีอาจรู้เรื่องนี้นานแล้วนะ

ออฟไลน์ Ryu_Chise

  • You love me?
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 99
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-0

ออฟไลน์ lnudeel

  • I wanna be a CAT!!
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-5
พระพายยยยยยยยยยยยย  :sad4: จะเป็นอะไรมั้ยยยยยยยยยยยยยยย :o12: o22

ออฟไลน์ Ipatza

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 932
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-7
อยากจิบ้าตาย
หลงเข้ามาอ่าน อ่านไม่มีหยุดนอนสต๊อป
เกือบวัน โอโหอ่านมาถึงตอนนี้ถึงกับทึ้งหัวตัวเอง
อีบ้านี้มาจากรูไหน ทำกับพระพายได้อย่างไร
อยากจิบ้าตาย คุณพี รีบช่วยพระพายด้วยนะ
จะบ้าแล้ว ติดเรื่องนี้งอมแงมชัวร์

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
จิ้มมาอ่านนนนนน ตอนล่าสุดพาค้างงงงงง


พระพายยยยยยลูก อย่าเป็นไรนะค่ะ

ออฟไลน์ NINEWNN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-4


CHAPTER 31
“ความล้มเหลวของคุณปฐพี”



   เขาไม่แปลกใจ เขาไม่ตกใจ...เขารู้อยู่แล้ว

   ผมไม่รู้จะพูดอะไร ไม่เคยรับรู้สักอย่างว่าคุณปฐพีอยู่กับคุณลดาทำไม อยู่กันยังไง แต่ที่ผมมั่นใจคือเขาไม่ได้มีชีวิตครอบครัวที่ดีนัก อาจจะเข้าขั้นห่วยแตกเลยเสียด้วยซ้ำ

   “อยากได้ภาพพิมพ์คืนหรือ?” จู่ๆ คุณปฐพีก็เอ่ยขึ้นมา เสียงเรียบยิ่งกว่าเก่า

   แต่ผมตกใจกว่านั้นเมื่อพ่อของพระพายก้าวเท้าเข้าไปใกล้อดีตภรรยาตัวเองที่คุมสติไม่อยู่ใกล้กว่าเดิม!

   “อย่าเข้ามานะ!” หล่อนหวีดร้อง เอามีดนั่นชี้มาที่ตรงหน้าคุณปฐพี เมื่อเห็นว่ามีดห่างจากตัวหลานสาว ผมก็มองไปทางพระพาย แต่คุณปฐพีทำอะไรที่ร้ายแรงกว่านั้นเสียก่อน

“ไม่ใช่ลูกผม... แล้วมันยังไงหรือ?” คุณปฐพีพูดคำนั้นออกมา มือของเขากำมีดปอกผลไม้ของคุณลดาเสียแน่น ไม่ใช่แค่คุณลดา ผม และลูกจ้างในบ้านคนอื่นๆ ที่เห็นต่างตกใจกันทั้งนั้น ผมไม่รู้ว่าคุณปฐพีกำมันแน่นแค่ไหนแต่ที่แน่นๆ บริเวณฝ่ามือของเขาเริ่มมีเลือดไหลออกมา

ผมรีบตั้งสติ วิ่งไปคว้าตัวหลานออกมาจากแขนคุณลดาที่กำลังตกใจอยู่

“หยุด…!”

หล่อนร้องออกมา เธอทำท่าจะตวัดแขนที่ถือมีดมาทางผมกับหลานในทันควันแต่แขนกลับถูกดึงไว้สุดแรงจากคุณปฐพี ผมรีบถอยกรูด อย่างน้อยๆ ก็ให้พระพายที่ตอนนี้ตัวสั่น พูดอะไรไม่ออกสักคำออกมาจากส่วนที่ดูอันตรายตรงนั้นได้ก่อน

คุณปฐพีปล่อยมีดและเปลี่ยนมาจับบริเวณข้อมือของอีกฝ่าย ดึงแขนของอดีตภรรยาขึ้นเหนือหัว แล้วพลิกมันเป็นวงกลม เสี้ยววินาทีที่มีดปอกผลไม้ที่มีเลือดติดอยู่ตกลงมาที่พื้น เจ้าของบ้านก็ใช้เท้าเตะมันมาทางพวกเราในทันที ลูกจ้างในบ้านที่ยืนข้างๆ ผมรีบหยิบมันขึ้นมาเพื่อให้มันอยู่ห่างมือคนที่ดูกำลังไร้สติมากที่สุด คุณปฐพีใช้จังหวะนั้นเพื่อใช้แขนอีกข้างจับคุณลดาที่กำลังดิ้นเพื่อเอาตัวรอด

“ไปหยิบเทปมา” เขาหันมาทางพวกเราพลางดันกายให้คุณลดาหันหลัง โดยมีมือสองข้างของตนไพล่ไว้ที่หลัง “ไปสิ!”

ใครสักคนวิ่งออกไปนอกห้อง ทั้งห้องมีแต่ความเงียบสงัด คนเดียวที่หวีดร้องคือคุณลดาซึ่งโดนสามีตนเองจัดการอยู่ ไม่นานคนนั้นก็กลับมาพร้อมกับเทปหนังไก่สีดำม้วนใหญ่ คุณปฐพีใช้เข่าเจาะยางอีกฝ่ายแล้วดันคุณลดาราบไปกับพื้น แม้เจ้าหล่อนจะพยายามสะบัดเท้าหรือส่วนลำตัวเพื่อจะหนีแค่ไหนก็ดูไร้ผล

และทุกอย่างก็จบลงเมื่อคุณลดาถูกเทปนั่นพันข้อมือสองข้างไพล่หลังไว้ พร้อมทั้งพันข้อเท้าสองข้างไว้ด้วยกัน

คุณปฐพีสั่งให้ลูกจ้างผู้ชายสองคนเฝ้าหล่อนไว้ ก่อนที่เขาจะออกไปปฐมพยาบาล ส่วนผมก็ต้องออกไปเพื่อไปอยู่ข้างๆ พระพายที่ยังคงตกใจไม่หาย ผมไม่อยากจินตนาการว่าถ้าเมื่อกี้คุณปฐพีไม่ทำอะไรที่บ้าบิ่นเช่นนั้น หรือถ้าคุณลดามีแรงมากกว่านี้สักนิดอะไรจะเกิดขึ้น

แผลของเจ้าของบ้านเหวอะหวะอย่างน่ากลัว เห็นได้ชัดว่าอย่างน้อยๆ ก็ต้องไปเย็บที่โรงพยาบาล จึงรีบปฐมพยาบาลก่อนที่จะเตรียมรถออกไปที่โรงพยาบาลเมื่อตำรวจมาพาคุณลดาที่บุกเข้าที่อยู่อาศัยแห่งนี้ขึ้นรถ

“ปล่อยนะ ปล่อย!” หล่อนยังหวีดร้องไม่หยุด หันมามองคุณปฐพีด้วยความแค้นใจ “คุณทำลายฉัน!”

“ผมเหรอ? ไม่ใช่หรอก... คุณทำลายตัวเองทั้งนั้น” ผมยืนมองภาพคุณปฐพีเอ่ยปากเสียงเรียบกับอดีตภรรยาตัวเอง อะไรบางอย่างบอกผมว่ามีอีกหลายสิ่งที่ผมยังไม่รู้จัก และบางที... อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ผมควรรู้จัก “ถ้าฟ้องหย่าแค่นั้นไม่พอ เห็นทีผมคงต้องขอให้ศาลตัดสินแบบที่ผมขู่ไว้ตอนแรกแล้วคุณลดา”

หล่อนกรีดร้อง ตะโกนด่าเปิดเปิงแบบที่ผมไม่สามารถจับใจความได้เพราะเสียงของหล่อนแหลมเกินไป จนตำรวจนำตัวอดีตภรรยาเจ้าของบ้านออกไป พวกเราจึงได้โผล่ไปที่พยาบาลที่ใกล้ที่สุด

“ขอให้คุณอัคคีช่วยติดต่อแพทย์ให้ได้มั้ยคะ”

คุณป้าที่พาพระพายไปข้างบนจนเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นเอ่ยปากขณะที่ผมขับรถ เห็นว่าเลี้ยงคุณปฐพีมาตั้งแต่เด็กๆ ส่วนหลานผมต้องฝากคนที่นู่นไว้ จะให้ผมรออยู่ที่บ้านก็ดูแปลกๆ ผมเลยอาสาขับรถให้ (แม้จะน่าหวาดเสียงเพราะตัวเองไม่ได้ขับรถมานานมากแล้วก็ตาม)

“ไม่ต้องหรอกครับ” คุณปฐพีพ่นลมหายใจ “เขาไม่อยากช่วยผมหรอก”

“แต่ว่า...”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ”

คุณป้าแกก็ไม่รู้จะเถียงอะไรต่อ ยังดีที่พยาบาลไม่ได้ไกลจากบ้านของคุณปฐพีมากและผ่านการปฐมพยาบาลมาก่อนแล้ว แต่คุณปฐพีแกก็ต้องเย็บร่วมห้าเข็มอยู่ดี

ผมใช้เวลาระหว่างรอให้คุณป้าเล่าเรื่องทั้งหมด แกเล่าว่าพาพระพายไปหาน้องที่นอนแยกห้องอยู่ตามปกติ ตอนนั้นไม่มีใครอยู่ เธอเลยปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำปล่อยให้พระพายเล่นกับภาพพิมพ์ (ที่ยังนอนอยู่) ไป แต่ปรากฏว่าพอออกมากลับเห็นคุณลดาที่ถูกไล่ออกจากบ้านไปแล้วอุ้มภาพพิมพ์ไว้ ตอนแรกเธอไม่สนใจพระพายด้วยซ้ำ แต่พอเห็นว่ามีคนมาเห็นจึงวางภาพพิมพ์ลงและดึงพระพายมาเป็นตัวประกันแทน

“คุณลดาติดยาเหรอครับ”

“ค่ะ” ป้าแกพยักหน้า “ไม่ทราบเหมือนกันตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่คุณท่านแกจัดการทุกอย่างตอนฟ้อง หลักฐานอะไรมีแน่นหนา สุดท้ายเลยได้สิทธิ์เลี้ยงดูคุณหนูเล็ก”

“คุณหนูเล็ก?”

“หนูภาพพิมพ์น่ะค่ะ” ผมขมวดคิ้ว ทำไมถึงเรียกว่าคุณหนูเล็ก แต่ยังไม่ทันถามก็ได้รับคำตอบเสียก่อน “ก็คุณหนูคนโตคือหนูพระพาย ถึงคุณท่านไม่บอกให้เรียกแต่ทุกคนก็รู้ดีค่ะ”

ผมไม่ได้พูดอะไรตอบไป ไม่นานคุณปฐพีก็เดินออกมาไปจ่ายเงินอะไรเองเรียบร้อยพร้อมกับรับยาแก้ปวดมาอีกชุดหนึ่ง

“พอไหวมั้ยครับ” ผมเอ่ยปากถาม

คุณปฐพียิ้มขำ “มือเหวอะเองมัน...” เสียงเขาขาดไป ผมจึงเงยหน้าขึ้นและพบว่าเขามองอะไรสักอย่างอยู่จึงไล่สายตาไปมองตามถึงได้รู้

ไม่ได้มอง ‘อะไร’ หรอก...กำลังมอง ‘ใคร’ อยู่ต่างหาก

อีกฝ่ายเป็นผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งแต่กะจากสายตาคงตัวเล็กกว่าผมเสียเล็กน้อย ผิวขาวจัดติดซีดนิดหน่อย สวมแว่นกรอบเหลี่ยมแบบคลาสสิกสไตล์คุณหมอทั่วไปเดินคุยกับพยาบาลร่างเล็กอีกคนอยู่ก่อนที่อีกฝ่ายจะชะงัก หันมามองคุณปฐพีที่มองอยู่แล้วพยักหน้าให้เล็กน้อย ซึ่งคนเพิ่งเย็บแผลหมาดๆ ก็พยักหน้าให้เช่นกัน

คนรู้จักล่ะมั้ง...

“เมื่อกี้ผมพูดว่าอะไรนะ” คุณปฐพีหันมาคุยกับผมใหม่ “อ๋อ ใช่ ไม่เจ็บ เดี๋ยวเย็นนี้ทานข้าวด้วยกันล่ะกันนะครับ”

ผมพยักหน้า มองรอยยิ้มของอีกฝ่ายที่ระบายบนใบหน้าแล้วก็อดคิดไม่ได้

คนที่ชีวิตครอบครัวล้มเหลวถึงเพียงนี้...ทำไมถึงยังยิ้มได้ตลอดเลยนะ



[คุณเพชรเป็นอะไรมากมั้ยครับ!] ผมหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายโทรมาหาเสียงร้อนรนหลังจากผมไลน์ไปบอกว่าเกิดปัญหานิดหน่อยที่บ้านคุณปฐพีจนต้องพาอีกฝ่ายไปโรงพยาบาลหลังจากทานอาหารเสร็จ
   
“ผมไม่เป็นไรน่า” ผมเอ่ยปากตอบไปตามตรง “แค่ตกใจเท่านั้น”

   [คืนนี้คุณเพชรนอนบ้านนั้นเหรอ]
   
“เปล่า เดี๋ยวผมกลับบ้าน” ผมพูดพลางเดินดูสวนในบ้านคุณปฐพี ต้นมะม่วงต้นใหญ่กับแมกไม้นาๆ ชนิด หลังจากเกิดเรื่องยุ่งๆ ผมเลยเพิ่งได้มาเดินดูสวนของเขาเอาเสียตอนนี้ “ทำไมเหรอ จะมาหาหรือยังไง”
   
[ไปได้เหรอครับ] เสียงฟ้าครามดูระรื่นขึ้นมาทันควัน

   ผมเลิกคิ้วแม้ไม่ได้เห็นหน้าอีกฝ่าย “อยากมาหรือยังไง”

   [แหงล่ะครับ] ปลายสายตอบ [ผมคิดถึงคุณเพชรนี่นา] คำพูดของอีกฝ่ายทำให้ผมระบายยิ้มบางๆ บนใบหน้า แต่อดคิดถึงภาพของเจ้าของบ้านนี้ที่เจอเรื่องห่วยๆ แล้วตั้งคำถามไม่ได้ จนเผลอพูดออกไป

   “คุณโอเคเหรอฟ้าคราม” ผมเอ่ยปากออกไปเสียงแผ่ว “...ผมคงสร้าง ‘ครอบครัว’ ให้คุณไม่ได้หรอกนะ”

   ปลายสายเงียบไปสักครู่ก่อนที่อีกฝ่ายจะตอบกลับมา [ผมสิต้องถามว่าคุณเพชรโอเครึเปล่า ผมเป็นเกย์นะครับ เผื่อคุณเพชรลืม!] เป็นคำพูดที่ทำให้ผมหัวเราะออกมา [คุณเพชรต่างหากล่ะ ผมน่ะ... ดีจริงๆ เหรอครับ]

   “มั่นใจตัวเองหน่อยว่าที่หมอ”

   [ก็แคหมอฟัน]

   “เออน่ะ” ผมตอบปัดๆ “แต่...” ก่อนที่จะแย้งเสียงแผ่ว “เอาจริงๆ เถอะฟ้าคราม คนอย่างผมน่ะ ดีจริงๆ เหรอ?” อีกฝ่ายเงียบ ไม่ได้ตอบอะไรจนผมต้องเอ่ยปากพูดต่อ “ผมอาจจะทำให้คุณเสียเวลาก็ได้นะ ยังไงผมก็ไม่ได้ Born to Be อยู่แล้ว”

   [คุณเพชรก็อย่าทำให้ผมเสียเวลาสิครับ] ฟ้าครามตอบเสียงเรียบเหมือนกับคำถามของผมไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรเลย [คุณเพชรแก่แล้ว ถ้ามันเสียเวลา.. ก็เสียเวลาคุณเพชรด้วยนะ]

   “แก่อะไร!” ผมกัดฟัน ยังไม่ทันขึ้นเลขสามมาพูดว่าแก่ แม้ว่าผมจะแก่กว่าเขามากจริงๆ ก็เถอะ เจ็ดปีเชียวนะ แค่คิดภาพว่าตอนผมเข้าโรงเรียนประถมแล้วเจ็บปวดเบาๆ

   [ถ้าวันไหนเราไปกันไม่ได้จริงๆ ค่อยว่ากันดีกว่าครับ] เสียงทุ้มระรื่นหูพูดออกมาแบบนั้น [เพราะอย่างนั้น ผมอยากจะทำอะไรแบบที่อยากทำ ชอบใครแบบที่อยากชอบ…] เขาเอ่ยปากได้เนิบนาบจนผมแอบรู้สึกจั๊กจี้นิดๆ ทั้งๆ ฟังเสียงเขาจากโทรศัพท์เพียงเท่านั้น [รักใครคนที่ผมอยากรัก...]

   ถ้าไม่ติดว่านี่เป็นสวนคุณปฐพีผมจะก้มลงไปถอนหญ้าให้หมดเลย ให้ตาย!

   มันรู้สึกแปลกๆ เวลาได้ยินผู้ชายเอ่ยคำหวาน ผมไม่เคยได้ยินใครพูดแบบนี้ให้ผมฟังมาก่อน ปกติเสียงที่พูดคำว่ารักให้ได้ยินมักจะเป็นเสียงผู้หญิง แถมครั้งสุดท้ายที่ได้ยินก็นานมาแล้วเสียด้วย

   [ถึงเกิดอะไรขึ้นมาผมก็อยากให้มันเป็น ‘ความทรงจำดีๆ’ ไม่ใช่ ‘เรื่องเสียเวลา’ นะครับ]

   ผมขบริมฝีปาก แอบคิดในใจว่าทำไมเจ้าเด็กนี่ถึงเป็นคนแบบนี้

   แต่ก็จริงอย่างที่ผมคิด มานั่งคิดๆ แล้วผมกับฟ้าครามไม่ได้รู้จักกันมากขนาดนั้น ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นเด็กแบบไหนของอาจารย์ เป็นเพื่อนแบบไหนของเพื่อนของเขา เป็นเด็กแบบไหนในบ้าน... อันที่จริงผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจีบใครเผื่อๆ ไว้มั้ย ไม่ได้ถามเสียด้วย บางทีผมก็คิดเหมือนกันว่าผมเชื่อใจเจ้าเด็กนี้มากไปรึเปล่า

   แต่พอเห็นเขาพูดแบบนี้ผมก็อดคิดไม่ได้ว่า เอาวะ... ลองสักครั้งในชีวิต ลองชอบผู้ชายคนนี้สักครั้ง เสียหายอย่างมากก็คงจะอกหัก!

   ผมถอนหายใจ คิดในใจว่า ตัวเองคงหมดหนทางเยียวยาแล้วจริงๆ “สรุปคืนนี้จะมาจริงๆ เหรอ” เปลี่ยนเรื่องเสียเอง

   [ถ้าไปได้ผมก็อยากไปนะครับ]

   “พรุ่งนี้ดีกว่า วันนี้เจอเรื่องปวดหัวทั้งวันน่ะ” ผมเอ่ยปากเช่นนั้น “ไว้เจอกันนะ”

   ฟ้าครามตอบรับเสียงขันแข็งก่อนที่ผมจะเหลือบไปเห็นเงาของเจ้าของบ้านเดินออกมาจากบ้านทำให้ผมเอ่ยปากกับฟ้าครามว่าเดี๋ยวจะโทรไปทีหลังตอนถึงบ้านแล้ว

   “คุยกับพี่เลี้ยงเด็กเหรอครับ” ผมไม่ได้ตอบอะไรแต่ก็ยิ้มให้ คิดว่าคุณปฐพีคงรู้คำตอบของคำถามนั้นอยู่แล้ว เขามองฟ้า ก่อนที่จะเอ่ยปากขึ้นมา “ผมขอโทษกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น”

   “ครับ?”

   “ผมหมายถึง ‘ทั้งหมด’” เขาย้ำอีกครั้ง “ทั้งเรื่องที่เกิดกับเพลง พระพาย และ... ทุกอย่าง” เขาเอ่ยเสียงแผ่วเบา “ผมขอโทษจริงๆ”

   “ไม่เป็นไรครับ” ผมคิดออกแค่คำนั้น

   “ผมไม่เคยอยากให้มันเป็นแบบนี้” คุณปฐพีพูดพลางมองท้องฟ้า ไร้แสงดาวในกรุงเทพฯ เพราะแสงสีกลบมันจนหมดสิ้น แววตาที่ทอดมองบนฟ้าดูเศร้าสร้อยเสียเหลือเกิน “ผมไม่เคยเลย...แต่ผมทำอะไรไม่ได้ มันเป็นความผิดผมเอง”

   ผมลังเลที่จะเอ่ยปาก “คุณหมายถึงอะไร”

   “ผมมีอะไรกับลดาตอนพระพายเพิ่งคลอด” เขาเอ่ยปากออกมา “ครั้งเดียว ผมไม่ได้ตั้งใจ... มันเป็นข้ออ้างเลวๆ ของคนเลวๆ” เขาพูดเช่นนั้น “วันนั้นไปคุยกับคู่ธุรกิจ ลดาเองก็ไปคุยด้วย ไปกันหลายคน และผมเมา” เขาเอ่ยปากไม่หยุดเมื่อเห็นว่าผมไม่ได้พูดอะไรต่อ “ให้ตาย... ผมเกลียดตัวเอง...”

   ผมจ้องมองหน้าเขาไม่ได้แม้แต่สบตาผม คิดว่าคงละอายแก่ใจเพราะสิ่งที่เขาทำกับพี่สาวของผม

   “เช้าวันต่อมาผมบอกเพลง บอกเธอตรงๆ เธอร้องไห้ แต่เธอก็ให้อภัยผม เธอบอกว่าผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้น” เสียงเขาสั่นเล็กน้อยเมื่อเล่ามาถึงวันนี้ “แต่ว่า... ลดามาบอกเราทีหลังว่าท้อง” คุณปฐพีพูดเสียงแผ่วในท่อนนี้ “ผมไม่เชื่อด้วยซ้ำถ้าไม่มีใบจากโรงพยาบาลมาให้ดู”

“...”

   “ตอนนั้นผมเลวมาก ผมแทบจะให้เงินเธอ ทำอะไรก็ได้ที่ไปจากครอบครัวที่ผมสร้างไว้...” เขาเว้นไปเล็กน้อย “แต่เพลงห้ามไว้ เธอบอกว่าลดาไม่มีทางเป็นแม่ที่ดี... ในขณะที่เธอพร้อมจะเป็นแม่ที่ดี เธอพร้อมจะดูแลพระพาย แต่ลดาไม่พร้อมจะดูแลลูก”

   ผมคิดออก พี่เพลงเป็นผู้หญิงแบบนั้น เธออ่านขาดในทุกเรื่อง เป็นผู้หญิงที่ฉลาดแต่กลับไม่เคยเห็นแก่ตัว ซ้ำยังพร้อมจะให้คนอื่นมากไปเสียด้วยซ้ำ

   “เพลงบอกเพราะเป็นลูกของผม” เขาสะอึกสะอื้นเมื่อพูดถึงจุดนี้ “เพราะเป็นลูกของผม... เธอถึงไม่อยากให้ผมทิ้งลูกไปเจออะไรร้ายๆ”

   ผมไม่รู้จะพูดยังไง จะยื่นมือไปปลอบก็ไม่ใช่ สุดท้ายแล้วเขาก็หันมามองผมและเอ่ยปากถ้อยคำเดิมอย่างชัดเจน

   “ผมขอโทษจริงๆ” เขาเอ่ยปากออกมา “ถ้าผมไม่เลิกกับเพลง ไม่ปล่อยให้เธอทำงานคนเดียว เธออาจจะยังอยู่ตรงนี้ พระพายจะไม่ลำบากแบบนี้ และคุณจะไม่ได้...” คุณปฐพีอึกอัก “เสียพี่สาวคนเดียวไปแบบนี้”

   ผมยอมรับว่าผมเสียใจมากกับการจากไปของพี่เพลง แต่ผมเองก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าถ้าผมทิ้งงานมาอยู่ประเทศไทยกับเธอ เรื่องนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นเหมือนกัน

   ทุกอย่างไม่ใช่ความผิดของคุณปฐพี คุณลดา หรือผมเพียงคนเดียว... เราต่างเป็นสาเหตุที่ทำให้พี่เพลงไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้วเหมือนกันหมด

   “เพลงเคยบอกกับผม...” เขาเอ่ยปากออกมา “ว่าอยากมีลูกสองคน คนหนึ่งชื่อพระพาย คนหนึ่งชื่อภาพพิมพ์” ผมไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนจนถึงวันนี้ คุณปฐพียิ้ม “ที่เธอพูดว่าภาพพิมพ์อาจจะไม่ใช่ลูกของผมน่ะใช่ เพราะลดามีชู้ แต่ผมตรวจแล้ว ภาพพิมพ์เป็นลูกของผมจริงๆ”

   ผมไม่รู้จะพูดอะไร มีเพียงความคิดเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัวสมองของผมตอนนี้หลังจากเขาถ่ายทอดทุกสิ่งอย่างผ่านคำพูดออกมาให้ผมฟัง

   ...คุณปฐพีรักพี่เพลง...

   เขารักเธอมากจริงๆ

   ไม่มีคำใดระหว่างผมกับเขาอีก ผมไม่รู้จะพูดอะไร พอๆ กับที่คิดไม่ออกว่าพูดอะไรแล้วจะไม่ทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงเจื้อยแจ้วดังลั่นมาจากระเบียง

   “คุณพ่อขา!” พวกผมเงยหน้าขึ้น เห็นพระพายกระโดดเหยงๆ แถวๆ ระเบียงในห้องที่เกิดเหตุการณ์น่าตกใจเมื่อกลางวัน “น้องฉี่ค่ะ! พระพายต้องทำยังไง!”

   “เดี๋ยวพ่อตามขึ้นไป รอแป๊บนะลูก!” คุณปฐพีเอ่ยปากสีหน้าตกใจก่อนที่จะรีบกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้าไปในบ้าน ปล่อยให้ผมอยู่ข้างนอกคนเดียว

   ผมมองหลานตัวเอง สลับกับพี่เขย ก่อนที่จะยิ้มจางๆ เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีเข้มจนแทบมองไม่เห็นแสงดาว แต่ผมกลับคิดถึงพี่สาวคนเดียวของตัวเอง   

   “...ครอบครัวพี่ก็น่าจะมีความสุขดีนะครับ”

   ไม่รู้ว่าพี่เพลงได้ยินไหม แต่เหมือนว่าผมจะได้เห็นท้องฟ้ายิ้มให้ผมชอบกล


------------------------------------------------------
ตอนหน้าก็จบแล้วค่ะ
แต่ตอนนี้...ขอไปอ่านหนังสือสอบก่อนนะคะ

ปล. หวังว่าจะได้จบนิยายเรื่องนี้ในปีนี้นะ
ปล.2 ข่าวดีว่ากันหลังคุณเพชรจบนะคะ อิอิ




ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
แล้วที่เพลงต้องยอมเลิก เพราะอะไร
เหมือนเพลงเข้าใจ แล้วเลิกเพราะ มีผู้หญิงมาเกาะเนี่ยนะ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
รักเพลงแต่ก็มีคนอื่นทั้งลดาและก็มีหมออีกคน? รักยังไง? รักลูกแต่ก็ยังมีเมียผู้ชายเพิ่มมาอีกถึงตอนนี้ลูกจะยังไม่รู้ก็เถอะ ไม่ได้บอกให้จมอยู่กับอดีตนะแต่ไม่รู้สิเหมือนปฐพีชอบหาเรื่องยุ่งยากมาเพิ่มในขณะที่เรื่องเดิมยังคาราคาซังอยู่  จะบอกลูกยังไงที่พ่อที่รักแม่มาก ก้ยังมีแม่เลี้ยงใจร้ายแถมมาด้วยเมียพ่อผู้ชายอีกคน

ออฟไลน์ hibarihao

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด