ผมเปล่าโรคจิตนะ! 7
ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก
เสียงนาฬิกาเดินเป็นจังหวะสม่ำเสมอดังเบาๆ แสงไฟรางๆจากภายนอกบวกกับพรายน้ำที่เข็มนาฬิกาทำให้รู้ว่าผ่านวันใหม่มาสามชั่วโมงแล้ว
ธณัตินอนตัวแข็ง มีท่อนแขนกำยำตระกองกอดใต้ความอบอุ่นของผ้าห่มผืนเดียวกัน
...เขาควรจะลุกหนีได้แล้ว...
จากท่าทางที่ผ่านมาของชวนัน ท์ ทำให้ไม่สามารถวางใจในสวัสดิภาพลูกผู้ชายของตัวเองได้ พบกันไม่ถึงสิบนาทีก็จูบแบบดีพเพสคิสได้ ทั้งการพยายามกด ทั้งการลวนลามในห้องทำงานนั่นอีก...หมอนี่มันเสือชัดๆ
เงี่ยหูฟังลมหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอของคนใกล้ตัว...ชวนันท์คงหลับสนิทแล้ว...
มือผอมยกขึ้นพยายามแกะท่อนแขนที่ก่ายตัวออกอย่างเบามือ...ค่อยๆ...ใจเย็นๆ...นั่นแหละ...อีกนิดเดียว...กู้ด~
“อืม...” สะดุ้งเฮือกกับเสียงฮึมฮัมในคอของร่างสูง ท่อนแขนที่เพียรยกพลันตกปั้บลงบนตัวเหมือนดังเดิม ธณัติตั้งสมาธิปฏิบัติโยคะตามที่เคยเรียนมาเมื่อม.ปลาย แขนทั้งสองแนบลำตัว ขาเหยียดตรงแหน๋ว หายใจไม่ให้มดรู้สึก หวังว่าคนข้างกายจะไม่ตื่นขึ้นมาขย้ำเขาไส้ไหลกลางดึกหรอกนะ
ติ๊ก ติ๊ก ติ๊ก
เอาล่ะ...เวลาไม่คอยท่า...นับอีกห้าร้อยติ๊ก ปฏิบัติการหนีจากถ้ำเสือไม่ต้องสนใจลูกเสือจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง!
...หนึ่งติ๊ก...สองติ๊ก...สามติ๊ก...
...สามร้อยห้าสิบสองติ๊ก...สามร้อยห้...
...คร็อกกก...ฟี้...
++++++++++++++++++++++++++++++++
ไอเย็นฉ่ำจนนึกสงสัยว่าเขาปรับแอร์เย็นขนาดนี้เลยเหรอ?
สัมผัสอุ่นสบายแนบแก้มเรียกให้ซุกเข้าหาอย่างงัวเงีย รู้สึกถึงความสากร้อนลูบไล้ไปตามส่วนอก จั๊กจี้จนอยากถอยหนี ร่างผอมครางฮือ เปลือกตาปิดสนิทกระตุกน้อยๆอย่างขัดใจ
“นัท...” เสียงห้าวกระซิบอยู่ข้างหู ตามด้วยอะไรบางอย่างเปียกร้อนแนบริมฝีปาก รู้สึกถึงความอุ่นนุ่มกำลังไล้เลียสอดแทรกให้ต้องเปิดปากตักตวงความหอมหวาน ภายในไป ...มันยาวนาน...รู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออก
“ฮ้า...” เหมือนผุ้บุกรุกจะรู้จึงยอมปล่อยให้ปากช้ำเป็นอิสระ แพขนตากระพริบถี่ๆเผยให้เห็นนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มลึกล้ำมองเหม่ออย่างไร้จุด หมายบ่งว่าผู้เป็นเจ้าของคงยังไม่กลับมาจากโลกแห่งความฝัน
มือหนาสอดแทรกเข้าใต้ของ กางเกงยางยืดหลวมโพรก กอบกุมส่วนอ่อนไหวแห่งอารมณ์ไว้ รู้สึกถึงแรงกระตุกเบาบางของร่างข้างใต้ นิ้วทั้งห้าทำหน้าที่กระตุ้นเร้าอย่างชำนาญจนแก่นกายเริ่มแข็งขึง แผ่นอกเปลือยเคลื่อนไหวขึ้นลงแรงขึ้นกว่าเก่า เป็นจังหวะเดียวกับที่ริมฝีปากเผยอออกรับอากาศ
“อือออ...” เสียงแหบพร่าครางในลำคอ แววแห่งชีวิตค่อยๆกลับคืนสู่ดวงตาทีละนิดๆ ใบหน้าขาวซีดเจือสีเลือดแดงจัดลามไปถึงใบหู ร่างสูงไม่รอช้า ขยับแก่นกายในอุ้งมือหนักหน่วงรวดเร็ว ร่างข้างใต้ดูจะรู้สึกตัวเต็มที่แล้ว มือขาวซีดทั้งสองยกขึ้นจิกต้นแขนแกร่งจนเจ็บแปล๊บ แรงอารมณ์พุ่งสูงเกินจะต่อต้าน ธณัติขยับสะโพกตามจังหวะที่ร่างสูงนำพา ร้องครางยาวปลดปล่อยเปื้อนฝ่ามือหนาจนหมดสิ้น
หอบอย่างเหนื่อยอ่อน เหลือบตาจ้องมองชวนันท์ในชุดทำงานเขม็ง กำปั้นกำแน่นก่อนจะยกขึ้นประเคนหวังเรียกเลือดจากมุมปากเจ้าคนถือสิทธิ์
ปึ้ก!
การลงแรงกลับไม่ได้ผลดังคาดหวัง อุ้งมือใหญ่กว่ายกขึ้นรับกำปั้นไว้ได้ทัน รวบข้อมือผอมบางไว้แน่นก่อนแนบริมฝีปากจุมพิตหลังมือเบาบาง
“แก...” ใบหน้าร้อนผ่าว ไม่รู้ว่ามาจากความโกรธหรือเขินอายกันแน่
ชวนันท์ปล่อยมืออีกฝ่ายเป็น อิสระ ยืดตัวตรงยืนมองธณัติอยู่ข้างเตียง สภาพเสื้อนอนหลวมโพรกไม่ติดกระดุมกับเรียวขายาวเปลือยเปล่าทำให้อดยิ้มมุม ปากไม่ได้
“อย่าไปทำงานสายล่ะ...เดี๋ยว จะถูกตัดเงินเดือนเอา” ผลุบออกจากห้องนอนปิดประตูรวดเร็ว หางตาเห็นคู่กรณีตัวสั่นคว้าหมอนนุ่นใบใหญ่ขว้างตามหลังมา ริมฝีปากยกยิ้มกว้างกว่าเดิมเมื่อได้ยินเสียงทึบๆกระแทกบานประตู
++++++++++++++++++++++++++++
“โอ๊ย!! เหนื่อยโว้ย!!!” เสียงตะโกนระบายอารมณ์ดังขึ้นในห้องพักพนักงานที่ไร้ผู้คน ธณัตินั่งอยู่บนโต๊ะทานอาหาร ด้านหน้าบะหมี่ถ้วยราดน้ำร้อนร้อนส่งกลิ่นหอมฉุยวางรอเวลาสามนาที
วันนี้มันวันมหาวิปโยค!
เมื่อเช้ากว่าจะเก็บที่นอน ให้เข้าที่ กลับไปเปลี่ยนชุดทำงานที่ห้อง ให้อาหารเจ้านกขุนทองที่คึกอะไรไม่รู้ ร้องด่าไอ้โง่ ไอ้โง่ซ้ำเติมไม่หยุดปากจนรู้สึกคันไม้คันมืออยากจับหักคอเอาไปทำอาหารเย็น บึ่งมอเตอร์ไซค์ฝ่ารถติดในช่วงเวลาเร่งด่วน กว่าจะมาถึงบริษัทได้ก็ฉิวเฉียดเลยเวลาตอกบัตรพอดิบพอดี นั่งพักได้ไม่เท่าไหร่ ฝ่ายเทคนิกก็ส่งเรื่องให้ออกไปแนะนำระบบกันขโมยรถยนต์ให้ลูกค้าวีไอพีอีกสอง เจ้า ทั้งแดดร้อนจ้า ทั้งไอรถยนต์บนถนนสายหลัก ทำเอาอ่อนเปลี้ยเพลียแรง กว่าจะกลับถึงบริษัทได้ก็เลยเวลาพักมาครึ่งชั่วโมงแล้ว
เข็มวินาทีชี้เลขสิบสองครบ สามรอบพอดีเป๊ะ มือผอมจับถ้วยมาม่าเปิดฝาเตรียมลงมือสวาปาม รสชาดที่กินติดต่อมาเกือบเดือนทำให้รู้สึกเซ็งจิต...เอาน่า! อดทนอีกไม่นาน ก็จะหลุดพ้นวัฏจักรมาม่าได้แล้ว ...อย่างน้อยตอนนี้ มื้อเย็นก็ได้กินอาหารคนซะที... เผลอคิดถึงกับข้าวแสนอร่อยเมื่อเย็นวาน หน้ากวนๆของพ่อครัวจำเป็นก็แวบขึ้นมาในสมองให้หงุดหงิดเล่น
ไอ้เจ้าบ้านั่น!! ฮึ่ม!! โกรธโว้ย!!!! ชีวิตมันอับโชคเพราะเจอผู้ชายคนนี้แหงๆ!
โกรธจัดพ่วงโมโหหิว ถ้วยมาม่าถูกยกขึ้นซดโฮก ลืมไปว่ามันร้อนจัด “เจรี๊ยก!” แลบลิ้นพองๆมือโบกลมอย่างทรมาณ ความหงุดหงิดยิ่งพอกพูน
เพราะแกคนเดียว!!
+++++++++++++++++++++++++++++
ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงชาย หนุ่มผอมสูงท่าทางหงุดหงิดในชีวิตซดมาม่าเดือดจนต้องกระโดดเหย็งเรียกเสียง หัวเราะเบาๆจากท่านรองประทาน ท่าทางป้ำๆเป๋อจนไม่อยากเชื่อเลยจริงๆ ว่าแก่ปีมากกว่าเขาตั้งสองปี
การได้เฝ้ามองธณัติน่ามันสนุกแปลกใหม่จริงๆ หน้าตาหาเรื่องที่ไม่เข้ากับคำพูดนอบน้อม บางทีก็หมดความอดทนเอาซะง่ายๆ เวลาสู้กลับไม่ได้ก็หางลู่หูตกเหมือนหมาน้อยขนยาว เห็นแล้วยิ่งทำให้รู้สึกอย่างแกล้งมากขึ้นไปอีก…
++++++++++++++++++++++++++++++
“ไอ้คุณธณัติโว้ย มีสาวสวยมาหา” เสียงห่ามๆของเพื่อนร่วมงานดังทำลายสมาธิ ชายหนุ่มละสายตาจากจอคอมพิวเตอร์มองคู่สนทนาอย่างสงสัย
“ใครวะ?”
“ไปดูเองแล้วกัน ไอ้เสือ ...แมร่ง! ไปแอบรู้จักเมื่อไหร่ฟะ น่าอิจฉา~” นั่งฟังมันเพ้อต่อไปคงไม่ได้คำตอบ ธณัติละจากโต๊ะทำงานเดินตรงไปยังห้องรับแขก
ทันทีที่เปิดประตูห้องส่องมองคนข้างใน ในใจก็ร้องคร่ำครวญ...วันนี้มันวันซวยเจรงๆ
พนักงานสาวสวยที่เป็น ท็อปปิกฮ๊อตในวงพนักงานหนุ่ม ดอกฟ้าที่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากคว้ามาครอบครอง ถ้าเป็นเมื่อก่อน พณัติคงดีใจจนเนื้อเต้น แต่ตอนนี้แทนที่เนื้อมันจะเต้นดุบดับ กลับกลายเป็นหนังตาขวากระตุกตุ้บตั้บเต้นเป็นจังหวะแทงโก้แทนซะงั้น
เลขาท่านรองนามแอน...คนที่หวดจระเข้ฟาดหางครั้งเดียวส่งเขาไปเฝ้าพระอินทร์ได้นานสองนานนั่นแหละ!
“หวัดดีครับ” ทักทายอย่างเกรงๆ ยืนตัวลีบแทบจะฝังอยู่ในฝ้าผนังห้อง ไม่รู้แม่จะออกลายศิษย์จาพนมแสดงท่าหักงวงไอยรา ช้างกรูอยู่ไหนเมื่อไหร่ ปลอดภัยไว้ก่อนเป็นดี
“สวัสดีค่ะ คุณธณัติ แผนกวางแผนระบบ” ง่า...ไม่ต้องเรียกเต็มยศก็ได้ครับ สยิว
“นี่ค่ะ ท่านรองฝากมาให้” มือขาวตกแต่งเล็บสวยงามยื่นซองเอกสารให้อีกฝ่ายรับไป
“ขอตัวนะคะ” แอนยกยิ้มมุมปาก เดินเฉี่ยวตัวเขาให้ขนลุกซู่เล่น ก่อนออกจากห้องปิดประตู ปล่อยให้ร่างผอมยืนถือซองมองงงๆอยู่คนเดียว
หน้าซองเอกสารมีชื่อเขาเขียนด้วยลายมือหวัดๆ แกะซองออกดูอย่างอยากรู้อยากเห็น...มันด่วนขนาดเอาให้คืนนี้ไม่ได้เชียวหรือ?
ล้วงอย่างระแวงว่าจะมีปีศาจโผล่ออกมารึเปล่า...ก็ไม่...ในซองมีเพียงหนังสือบางๆสองเล่มกับเครดิตการ์ดหนึ่งใบ
“…เสน่ห์ปลายจวัก...กับข้าว ง่ายๆที่จะมัดใจคุณสามีให้อยู่หมัด?...ขนมหวานเติมน้ำตาลระหว่างสองเรา?... อะไรวะเนี่ย???” พลิกไปมากระดาษแผ่นเล็กก็ปลิวตกลงบนพื้นห้อง
ธณัติ ฝ่ายระบบ…
ของขวัญสำหรับพ่อบ้านมือใหม่ เอาไปศึกษาดูซะ
เครดิตการ์ดที่ให้ไป ใช้สำหรับซื้อพวกเครื่องปรุงวัตถุดิบ
ปล. วันนี้ทำโอทีถึงสามทุ่มครึ่ง ทำข้าวให้เสร็จก่อนเวลาด้วย
ชวนันท์
เออแฮะ...เป็นพ่อบ้านนี่มันต้องมัดใจคุณสามีด้วย เพิ่งรู้นะเนี่ย!
+++++++++++++++++++++++++++++++
“ครับ...ครับ...ได้ครับ...” มือควงปากกาเล่นอย่างเบื่อหน่าย มุมปากกัดปลอกปากกาเล่น พูดกรอกโทรศัพท์ไปตามเรื่องตามราว
“ไม่มีปัญหาครับ...ครับผม...สวัสดีครับ” โชคดีที่วางสายได้ ไม่งั้นน้ำมันหมดคงพูดต่อไม่ได้
ธณัติบิดขี้เกียจยาวนาน สะบัดต้นคอลั่นเสียงดับกร๊อบๆ หันมองรอบข้าง...ไฟที่เคยเปิดเต็มที่ตอนกลางวัน บัดนี้เหลืออยู่เพียงดวงสองดวงให้สว่างในจุดที่นั่งทำงานอยู่...พนักงานส่วน ใหญ่กลับกันหมดแล้ว แน่ล่ะ ใครมันจะคึกจัดทำโอทีถึงสองทุ่มทุกวันๆ
จะมีก็แต่เขา กับเจ้าโยรุ่นน้องอีกคน
โย น้องรหัสสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ห่างชั้นกัน 2 ปี หน้าตาตอนนี้แม้จะเข้าทำงานมาได้หนึ่งปีเต็มแล้วยังเหมาะกับคำว่าเด็กหนุ่ม มากกว่าชายหนุ่มอยู่เลย แถมรูปร่างก็ผอมบาง ส่วนสูงต่ำกว่ามาตรฐานไปมากโข หน้าตาไม่บ่งบอกเพศ นิสัยยังสุภาพเรียบร้อยฉีกแนวเด็กวิดวะซะอีก โยเป็นคนที่เข้าหาใครไม่ค่อยเป็น เพื่อนรุ่นเดียวกันก็มีน้อยจนนับคนได้ เขาเองยังลืมไปด้วยซ้ำว่ามีเจ้าเด็กนี่เป็นน้องรหัส จนวันที่ได้รับโทรศัพท์เบอร์แปลกๆ ขอร้องให้แนะนำงานที่บริษัทนี้ให้นั่นแหละ ถึงจะจำได้
เจ้าตัวคงรู้ว่าถูกมองอยู่จึงเงยหน้าขึ้นมองตอบ “พี่นัท จะกลับแล้วเหรอครับ”
“เออ...เดี๋ยวนั่งพักแป๊บนึง แล้วจะกลับแล้ว นายล่ะ?”
“ใกล้เสร็จแล้วครับ เดี๋ยวก็คงกลับเหมือนกัน” หมดเรื่องคุยห้องก็เงียบลง มีเพียงเสียงเคาะคีย์บอร์ดดังแกร๊กๆ ธณัติเงี่ยหูฟังเพลินๆ ใจคิดถึงงานที่จะต้องทำต่อคืนนี้ ก่อนอื่นคงต้องกลับบ้านให้อาหารเจมส์แล้วก็ขนเสื้อที่จะต้องใช้ใส่กระเป๋า หลังจากนั้นค่อยแวะซื้อของที่ซุปเปอร์ใกล้ๆขึ้นไปทำอาหาร คงเสร็จทันสามทุ่มครึ่งพอดี หลังจากนั้นก็ทำความสะอาด พอร่างสูงเข้าอาบน้ำค่อยชิ่งหนีเอาตัวรอด…
แอร์เย็นๆกับความคิดเพลินๆ พ่วงเสียงเคาะคีย์บอร์ดเป็นจังหวะ สะกดให้หนังตาหล่นลงมาบดบังทัศนวิสัยสิ้น
...เอาน่ะ...งีบซักพักแล้วค่อยไปก็ได้
...
...
ร่างบางของโยเดินย่องเข้าหา ธณัติอย่างเงียบๆ สายตาจับจ้องใบหน้าที่แยกไม่ออกว่าหล่อหรือสวย ท่าทางชายหนุ่มจะเพลียจัด ถึงได้หลับเงียบไปนานสองนานทั้งๆที่อยู่ในท่านั่งกอดอก
โยค่อยๆจับปลายผมสีน้ำตาล เข้มของธณัติอย่างเบามือ ก่อนจะดึงปึ้ดรวดเร็ว ความรู้สึกจี๊ดๆเพียงเล็กน้อยไม่อาจทำให้ธณัติรู้สึกตัวตื่นได้ เส้นผมสั้นๆสองเส้นถูกห่อใส่ผ้าเช็ดหน้าอย่างปราณีต
เด็กหนุ่มเหลือบมองปากกาที่ วางอยู่บนโต๊ะ นึกภาพที่ชายหนุ่มนั่งกัดปลอกเล่นตอนคุยโทรศัพท์เมื่อกี้ มือก็ยื่นออกเพื่อคว้าปากกาหวังจะได้มาครอบครอง
//ไปๆ ไปลงนรกซะเถิดที่รัก ฉันจะลงโทษเธอ~// เสียงริงโทนเก่ากึ้กดังจากโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ สร้างความตกใจให้กับทั้งเจ้าของโทรศัพท์ และคนที่กำลังคิดไม่ซื่อให้หดมือกลับทันที
“สวัสดีครับ” เสียงเรียกเข้าพิเศษมีอยู่คนเดียว ไม่จำเป็นต้องมองชื่อคนโทรเข้าก็ได้
“ลงมาที่ชั้นจอดรถใต้ดินเดี๋ยวนี้เลย”
“หา???” สายตัดไปแล้ว ฮึ่ม! ไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยวนะเฟ้ย จะได้สั่งน้ำได้น้ำสั่งแห้งได้แห้ง งึมงำในใจ เพิ่งรู้สึกถึงการมีอยู่ของรุ่นน้อง ธณัติเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเก้าอี้
“กำลังจะปลุกน่ะครับ ผมกลับก่อนนะ” นี่ก็อีกคน ยังไม่ทันตอบก็วิ่งจู๊ดหายวับไปแล้ว
...
...
ที่ลานจอดรถปรากฏรถซีตรองคัน ใหญ่สีเทาควันบุหรี่จอดโชว์หราอยู่หน้าลิฟท์ ชวนันท์ที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยทำสัญญาณให้ขึ้นรถก่อนจะเหยียบคันเร่งทิ้ง ไว้เพียงควันท่อไอเสีย
“โห…” ภายในตัวรถ ที่นั่งกว้างขวางบุด้วยหนังคุณภาพดี มีที่เท้าแขนเพื่อความสบาย เครื่องยนต์เบาจนแทบไม่ได้ยิน การออกตัวเรียบเชียบไร้สัมผัสกระทบกระเทือน ทำให้ธณัติอดไม่ได้ที่จะอุทานออกมาเบาๆ
“ไหนบอกว่าเลิกสามทุ่มครึ่งไงครับ” นาฬิกาเพิ่งบอกเวลาสองทุ่มครึ่งเอง
“’งานเสร็จก่อนน่ะ”
“…”
“ขอผมกลับไปเอาของที่ห้อง ก่อนได้มั้ยครับ อยู่ใกล้ๆคอนโดเอง ไม่นานหรอก” ต้องขอล่ะ มอเตอร์ไซค์ก็ทิ้งไว้ที่บริษัท ถ้าไม่มีชุดทำงานเปลี่ยนตอนเช้า พรุ่งนี้ต้องมาทำงานสายแน่ๆ
“…ตามใจ...บอกทางมาด้วย”
+++++++++++++++++++++++++++++++++

คอยอ่านจบ3ภาคแล้วมาโหวตกานดู ว่าไครชอบภาคไหน ส่วนตัวชอบภาค2นี้อ่า

ชอบไอ้คิตตี้(คิดได้งัย)