ชีวิตยังคงเหมือนๆเดิมอยู่ ทุกวัน เช้าตื่นขึ้นมา แต่งตัวไปมหาวิทยาลัย จดเล็กเชอร์ยิก บ่ายแก่ๆเลิกเรียน นัดอ่านหนังสือที่หอสมุดกลางกับพี่พล เย็นหน่อยก็ไปทานอาหาร พอตกค่ำชายหนุ่มก็ขับรถมาส่งที่คอนโด จากวันที่ชายหนุ่มพยายามจูบเขา ผ่านมาสัปดาห์หนึ่งแล้ว ชายหนุ่มไม่มีท่าทีจะล่วงเกินเขาอีก สิ่งที่แตกต่างจากปกติไปมีเพียง
ไม่มีโทรศัพท์จากคนโรคจิตอีกเลยนับจากวันนั้น
หึ เขารู้ ว่าพี่พลต้องการให้นักถ้ำมองคนนี้หายไปอย่างเงียบๆ แล้วเรื่องทั้งหมดก็จะลงเอยด้วยดี ยังไงตอนนี้เขาสองคนก็เป็นแฟนกันแล้วนี่
ไม่มีทาง ตราบใดที่ยังไม่ได้ยินคำสารภาพบาปจากปากชายหนุ่มล่ะก็ เขาจะไม่มีวันยอมให้นักถ้ำมองหายไปอย่างไร้ความรับผิดชอบหรอก
++++++++++++++++++++++++++++++++++
รถจอดอยู่ที่ที่ประจำข้างคอน โด ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของค่ำคืน ปอนด์ถอดเข็มขัดนิรภัย บอกลาพลเหมือนทุกๆวัน “ขอบคุณที่มาส่งนะครับพี่พล” แต่ชีวิตมันก็ต้องมีการก้าวหน้าบ้าง ร่างบางเอื้อมตัวเข้าใกล้ที่นั่งคนขับ ริมฝีปากแดงนุ่มประทับจุมพิตอุ่นละมุนลงบนแก้มสาก ถอยออกมาก้มหน้าอย่างเขินอาย “ราตรีสวัสดิ์ครับ” ว่าพลางเปิดประตูรถ แต่ชายหนุ่มเร็วกว่า คว้าแขนเล็กไว้ทัน วงหน้าใสหันกลับมามองสบสายตาปรารถนา
“น้องปอนด์ คือ…” เหมือนลิ้นจุกปาก มันพูดไม่ออก ปอนด์เอียงคอมองอย่างสงสัย
“คือ...ขอพี่...เอ่อ...จูบน้องปอนด์บ้างได้มั้ย แบบ...จูบที่ปากน่ะ”
“อย่าเพิ่งเลยครับพี่ ผมยังไม่พร้อม ขอโทษนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ แต่...เราก็คบกันมานานแล้ว จะชวนพี่ขึ้นไปนั่งดื่มน้ำชาบนห้องซักหน่อยได้มั้ยครับ” เอาเลย! ไม่ให้จูบ เราก็จะจับกดแทน
ปอนด์เงียบไปนาน ท่าทางอึกอักลำบากใจ “พี่พลจำเรื่องที่ผมเคยเล่าได้มั้ยครับ โรคจิตถ้ำมองคนนั้นน่ะ ...เขาเคยขู่ผมไว้ เขาบอกว่า ...ถ้าผมพาใครก็ตามขึ้นไปบนห้องล่ะก็ เขาจะทำให้ผมเสียใจจนตายเลยครับ ผมไม่กล้าให้พี่ขึ้นไปบนห้องครับ ผมขอโทษ”
อยากฆ่าตัวเองจริงๆ เขาเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าขู่อะไรเด็กหนุ่มไป
ไม่น่าเล้ย
ชายหนุ่มแสดงหน้าตาน่ากลัว ปล่อยรังสีอัมหิตออกมาเต็มที่จนร่างบางต้องรีบพูดต่อประโยค “ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากอยู่กับพี่พลตามลำพังนะครับ แต่ผมไม่กล้าจริงๆ เอางี้มั้ยครับ พาผมไปเที่ยวบ้านพี่พลดีกว่า ผมอยากลองไปหมู่บ้านจัดสรรนั้นดูซักครั้ง ได้ยินโฆษณาว่าทะเลสาบในหมู่บ้านตอนกลางคืนเค้าเปิดไฟสวยมากเลยใช่มั้ยครับ” พูดด้วยเสียงตื่นเต้น ดวงตาสีท้องฟ้ายามราตรีเป็นประกายเหมือนมีดาวกำลังส่องแสงวิบวับอยู่ภายใน
อยากฆ่าตัวเองอีกครั้ง จะพาไปได้ไงเล่า นั่นมันบ้านพ่อ! พูดใหม่ให้ถูกกว่าเดิม...บ้านอีหนูพ่อ!
เหงื่อซึมเต็มหลัง กระวนกระวายไม่รู้จะทำยังไงดี
ไม่น่าเล้ย
“ขอโทษนะครับน้องปอนด์ คือ ตอนนี้ไม่สะดวกจะพาไปน่ะครับ คือ ...”
“ไม่เป็นไรครับพี่พล ผมเข้าใจ พี่คงไม่อยากให้คนที่บ้านรู้เรื่องของผมเท่าไหร่หรอก ขนาดผู้หญิงที่พี่เคยคบยังไม่เห็นมีคนไหนเคยไปบ้านพี่เลย แล้วผู้ชายที่ไม่มีอะไรดีอย่างผม ...พี่จะพาไปทำไมให้เสียเวลา ผมขอโทษที่ขอไปโดยไม่ทันคิดนะครับ ลืมเรื่องนี้ไปซะเถอะ ...ราตรีสวัสดิ์ครับ”
ตะลึงจนไม่ทันได้คว้าแขนมา พูดอธิบายกันให้รู้เรื่อง พลมองตามหลังเด็กหนุ่มที่สะพายกระเป๋าวิ่งพลางยกแขนปาดหน้าไปพลางเข้าประตู คอนโดไป
เขาทำให้ปอนด์เจ็บอีกแล้ว
ไม่น่าเลย
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ผ่านไปอีกสองวันโดยที่ไร้เสียงโทรศัพท์จากเบอร์มือถือที่คุ้นเคย ท่าทางนักถ้ำมองคงจะตัดสินใจหายไปจากชีวิตเขาจริงๆ
เรื่องอะไรจะยอม กะอีแค่สารภาพออกมานี่มันยากนักหรือไง แค่แสดงความจริงใจให้เห็นแค่นี้ก็ทำไม่ได้ ทั้งๆที่ปากพร่ำบอกว่าชอบแท้ๆ
นิ้วโป้งป้อนเบอร์ที่จำได้ติดใจลงโทรศัพท์เครื่องจิ๋ว รอสัญญาณให้อีกฟากฝั่งรับสาย
“โทรมาทำไม” เสียงห้วนดังขึ้นทันทีที่รับ
“ทำไมคุณไม่โทรมาหาเลยล่ะครับ”
“เฮอะ คิดถึงรึไง รู้ไว้ซะด้วยนะว่า ฉัน – เบื่อ – เธอ – แล้ว ต่อไปนี้ ฉันจะไม่โทรไปหาอีกแล้ว อยากไประบายออกที่ไหนก็ไป” เน้นย้ำเสียงทีละพยางค์กรอกใส่โทรศัพท์มือถือทำร้ายจิตใจคนฟัง
“เดี๋ยวก่อน” เสียงเด็กหนุ่มดังแทรกขึ้นมาก่อนจะตัดสายทัน “แต่คุณยังมองผมอยู่ไม่ใช่เหรอ ผมรู้นะ ตัวส่งสัญญาณกล้องมันยังทำงานอยู่เลย ทำไม นึกจะเบื่อก็ทิ้งกันง่ายๆอย่างนี้เหรอ ฟังเอาไว้เลยนะ ถ้าคุณไม่โทรมาผมก็ไม่ว่าหรอก เพราะ ผม-จะ-โทร-ไป-หา-เอง!”
“ก็ลองซี่ ลองโทรมาอีกครั้ง รับรอง เธอได้เห็นตัวเองเป็นดาราหน้ากล้องในอินเตอร์เน็ตแน่”
“คุณไม่ทำหรอก ผมมั่นใจ ...แล้วก็นะ ฟังเอาไว้ซะ ถ้าคุณไม่ยอมรับสายหรือทิ้งเบอร์นี้ไปล่ะก็ คุณได้เจอผมนั่งรออยู่ที่หน้าห้องคุณทุกวันแน่นอน ให้มันรู้ไปเลย ว่าคุณเป็นใครกัน!”
+++++++++++++++++++++++++++++++++
จะเอายังไงกับเขาฟะเนี่ย! อุตส่าห์หักห้ามใจไม่โทรไปแทบตาย วันๆได้แต่ดูหนังใบ้ผ่านจอมอนิเตอร์ ได้เห็นแต่ชีวิตประจำวันซ้ำๆซากๆ กลับบ้าน อ่านหนังสือ แล้วก็นอน ชีวิตประจำวันที่ไม่รู้แต่ก่อนพอใจดูไปได้ยังไง อุตส่าห์ปล่อยไปขนาดนี้แล้ว ก็ยังไม่ยอมจากไป แล้วเมื่อไหร่พลในโลกแห่งความเป็นจริงจะได้แตะต้องปอนด์ฟะ ขนาดจูบยังไม่ยอมให้ทำเลย ชิ ทีนักถ้ำมองละยอมให้ ถึงขนาดโทรมาหาอย่างนี้มันจะมากเกินไปแล้ว หึงตัวเองว้อยยยย!
แต่คิดสะระตะกับคำขู่ของเด็ก หนุ่มแล้วมัน....ให้ตายสิ! นั่งรอหน้าห้อง เขามั่นใจว่าปอนด์ทำตามปากพูดจริงๆแน่ แถมคำขู่ที่ใช้มาตั้งนานยังไม่ได้ผลซะอีก จะให้เด็กหนุ่มรู้ได้ยังไงเล่า ว่าชายหนุ่มสุภาพบุรุษแฟนตัวเอง เป็นนักถ้ำมองโรคจิตน่ะ!
“...โอเค เธอชนะ” พูดทั้งๆที่กัดฟันกรอด ไม่น่าโทรไปตั้งแต่แรกเลยตู
“เข้าใจก็ดีแล้ว พรุ่งนี้ผมจะโทรไปหา”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ยามกลางคืนที่ลานจอดรถข้างคอนโด รถดับเครื่องสนิทแล้ว แต่ยังไม่มีท่าทีว่าคนข้างในจะเปิดประตูออกมาเลย
“ปอนด์ เราคบกันมาก็เดือนกว่าๆแล้ว ระหว่างเราทำไมถึงไม่คืบหน้าเลย ปอนด็ไม่พร้อมเพราะอะไรเหรอครับ ปอนด์มีปัญหาอะไรรึเปล่า เราไม่ไว้ใจพี่ใช่มั้ย เราคิดว่าพี่ไม่จริงใจใช่มั้ย ...พี่ดูเป็นคนอย่างนั้นในสายตาปอนด์รึเปล่าครับ”
“แล้วพี่คิดว่าตัวพี่เองจริง ใจรึเปล่าล่ะครับ พี่คบกับผมเพราะต้องการอะไรครับ ต้องการจูบ ต้องการสัมผัสจับต้อง หรือต้องการความรักจากผม”
“...พี่จะต้องทำอะไรพิสูจน์ความจริงใจที่มีให้เราเชื่อล่ะ”
“ผมคิดว่าพี่พลรู้คำตอบอยู่ แล้วครับ วันนี้ขอบคุณมากนะครับ” เอ่ยพลางเอื้อมตัวไปยังที่นั่งคนขับ แนบริมฝีปากนุ่มลงกับแก้มของชายหนุ่มอย่างที่ได้ทำมาหลายวันแล้ว และเหมือนจะรู้ทัน เด็กหนุ่มถอยตัวออกได้เร็วเหลือเชื่อ ...เร็วกว่าที่แขนแกร่งจะยกขึ้นโอบรอบตัวกักขังอิสรภาพได้ทัน “ราตรีสวัสดิ์ครับ”
ประตูปิดลงแล้ว แต่คนที่อยู่ในรถยังจมอยู่กับความคิดของตนเองอยู่นานกว่าจะสตาร์ทเครื่องยนต็
…พี่พลรู้คำตอบอยู่แล้วครับ… คำตอบอะไรล่ะ
หรือว่า ...ปอนด์จะรู้ตัวจริงของนักถ้ำมองแล้ว
... จะรู้ได้ยังไงล่ะ
+++++++++++++++++++++++++++++++++
พลกลับถึงห้องพักได้ไม่นาน โทรศัพท์มือถือที่ทิ้งอยู่ในห้องนอนก็ดังขึ้น
...ปอนด์โทรมาหานักถ้ำมอง…
รับโทรศัพท์ เปิดจอมอนิเตอร์ ปรับหามุมของเด็กหนุ่มก็เจอตัวอยู่ที่ห้องน้ำ
โอย อยากร้องไห้ ตัวจริงแค่จูบยังไม่ได้ ทำไมนักถ้ำมองมันถึงได้ขนาดนี้วะ
ร่างขาวสว่างยืนหันหน้าเข้า หากล้องในห้องอาบน้ำ ทั้งตัวมีเพียงผ้าขนหนูผืนไม่ใหญ่นักเหน็บอยู่ที่เอวแบบจะหลุดมิหลุดแหล่ ฉากหลังเป็นอ่างอาบน้ำที่รองไว้จนเต็ม ผิวน้ำถูกปกคลุมไปด้วยฟองขาวฟอดพองฟูเต็มอ่าง
“ถูกใจฉากที่ผมจัดให้มั้ยครับ”
“ถูกใจสิ ถูกใจมาก” เค้นเสียงแทบไม่ออก ใช่ เขายอมรับตามตรงว่าฉากนี้มันถูกใจเขามาก ...ถ้าจะไม่ใช่ทำได้แค่มองล่ะก็นะ
“งั้นเหรอครับ ผมดีใจนะ ที่พอจะจับทางรสนิยมของคุณได้แล้ว อย่าชักช้าอยู่เลยครับ ผมจะทนไม่ไหวแล้ว ถอดกางเกงออกสิครับ หลับตาลงด้วย ผมจะใช้ปากให้” ทำตามที่ร่างบางสั่งทันที ตาดำเข้มหลับลงจินตนาการถึงปากแดงอิ่มอบอุ่นร้อนรุ่ม
“ผมจะเลียส่วนปลายแล้วนะครับ” มือหนาเคล้นคลึงส่วนปลายตนเองอย่างเสียวซ่าน ถึงฝ่ามือจะไม่ร้อนจัด แต่ก็พอกล้อมแกล้มไปได้
“อา มีอารมณ์แล้วสินะ แข็งแล้วนี่นา” ใช่ ตอนนี้อารมณ์มันพุ่งสูงเกินพิกัดแล้ว ทรมานเหลือเกิน ทำไมได้แต่ฟัง ทำไมไม่ได้ถูกสัมผัสโดยตรงนะ
“เอาล่ะ ต่อไปผมจะอมแล้วนะ ขยับให้เต็มที่เลยครับไม่ต้องเกรงใจ” มือใหญ่ขยับตามเสียงสั่ง ลมหายใจหอบหนัก ความต้องการมันรุนแรงจนแทบระเบิดออกมา จังหวะเร่งขึ้นเรื่อยๆไม่มีหยุด หูก็คอยฟังเสียงหอบของอีกฝั่งสัญญาณ
“อา~ ของคุณทั้งร้อนทั้งใหญ่จนเต็มปากผมเลย ใกล้ถึงแล้วใช่มั้ยครับ กระแทกเข้ามาแรงๆเลยครับ ปลดปล่อยเข้ามาในปากผมเลย” ความปรารถนาระเบิดออกอย่างรุนแรง ...ด้วยมือของเขาเอง เสียงปลายสายครางกระเส่าลากยาวเป็นเวลาเดียวกับที่เขาปลดปล่อย
“อืมม์ อย่าเพิ่งถอนออกนะครับ ขอผมดูดน้ำให้หมดก่อน เห็นรึเปล่า ผมกลืนลงไปไม่เหลือซักหยดเลย ร้อนคอไปหมดแล้ว” เสียงแหบพร่ายังพูดไม่หยุดเรียกอารมณ์ที่ยังไม่สงบดีให้พลุ่งพล่านขึ้นมา ใหม่
“เอาล่ะ...ลืมตาดูผมหน่อยซิ ครับ” เปลือกตาเปิดขึ้น มองปีศาจน้อยในจอมอนิเตอร์ที่ค่อยๆปล่อยผ้าเช็ดตัวเลื่อนหลุดระสะโพกขาว เนียนช้าๆ คราบความปรารถนาของเด็กหนุ่มเปรอะเปื้อนง่ามขาเพรียวทั้งสองข้าง
...แค่เห็น ...แค่ได้ยิน
...ทว่า…
...ไม่ได้สัมผัส ไม่ได้รับรู้ถึงอุณหภูมิที่แตกต่างเลยสักนิด
...ทรมานเหลือเกิน
คืนนั้นทั้งคืน เขาต้องทนกับภาพบาดตา ภาพที่เขาเคยชอบดู ท่าทางน่าอายของเด็กหนุ่มที่เขาเคยสั่งให้ทำด้วยความสนุกสนาน บัดนี้ เขาไม่จำเป็นต้องสั่ง ปอนด์ทำให้เขาเองทุกอย่าง แต่ความสนุกสนานมันกลับไม่เหลือแม้เศษเสี้ยว
และไม่ใช่คืนนั้นคืนเดียว ปีศาจน้อยของเขาไปเรียนรู้มาจากที่ไหนกันนะ วิธียั่วยวนไม่ซ้ำแบบให้ติดกับดักแสนหวานโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยงนี้น่ะ
ตั้งใจจะทรมานเขาไปอีกนานแค่ไหนกัน
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“……”
“………”
“…………”
“ปอนด์”
“ครับ พี่พล?”
“พี่มีเรื่องจะสารภาพ”
“พี่...พี่เองแหละ ที่เป็นคน...แอบดูแอบถ่ายเรามาตลอด”
“…..”
“คุณเป็นใครกันครับ”
“ปอนด์ พี่รู้ว่าพี่ทำผิดแต่...”
“คุณไม่ใช่พี่พลของผมซัก หน่อย คนนี้ต่างหากพี่พลของผม” ทอดสายตามองไปด้านหลังเด็กหนุ่ม สิ่งที่เห็นคือ ...ตัวเขา? ทำไมล่ะ? ก็เขาอยู่ตรงนี้นี่นา แต่...ปฏิเสธไม่ได้ว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงนั้นคือตัวเขาแน่ๆ
“ใช่มั้ยครับ พี่พล พี่พลของผมน่ะ ไม่มีวันทำเรื่องน่ารังเกียจแบบนั้นได้หรอก” เด็กหนุ่มโอบแขนทั้งสองข้างรอบเอว...พี่พล อย่างรักใคร่ ร่างสูงนั้นโอบกลับดูแล้วเหมือนคู่รักที่จะไม่มีวันพรากจากกัน เขาจ้องตรงไปในดวงตาดำเข้มของ...พี่พล ดวงตาที่ฉายแววดูถูกเหยียดหยาม ปากบางยกเหยียดเยาะเย้ย
“ใช่แล้วครับน้องปอนด์...คน ที่ทำเรื่องอย่างนี้ลงไปได้ ช่างเป็นคนที่น่ารังเกียจจริงๆ คนจำพวกนี้ไม่ควรได้เงยหน้าอ้าปากอยู่บนโลกนี้ด้วยซ้ำ”
“อ้าาาาาาาากกกกกก!!!”
ดวงตาสีดำสนิทลืมผึง ปากร้องโวยวายอย่างไร้สติ ตัวเด้งขึ้นจากนอนเป็นนั่ง มือขวายกขึ้นเหมือนจะคว้า...อะไรซักอย่างที่หลุดลอยไปโดยไม่มีวันได้กลับคืน มา เหงื่อเม็ดเล็กไหลจากขมับกลิ้งตามโค้งใบหน้ารวมกันเป็นเม็ดใหญ่อยู่ที่ปลาย คางก่อนจะหยดลงบนผ้านวม
‘เขาฝันร้าย…อีกแล้ว’ ยังหายใจหอบไม่หาย อุ้งมือทั้งสองข้างถูกยกขึ้นกุมใบหน้าอย่างเหนื่อยอ่อน
เขาจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว เขาอยากจบความสัมพันธ์งี่เง่านี้เหลือเกิน นักถ้ำมองคนนี้ไม่ควรจะมีอยู่ในโลกจริงอย่างที่เขาเคยประนาม
เขาเสียใจที่สร้างคนโรคจิตคนนี้ขึ้นมา
จากวันแรกที่เขาได้เจอปอนด์ ...วินาทีแรกที่ได้ยินเสียงร่าเริง วินาทีแรกที่เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าขาวใสกับดวงตากลมโตนั่น เขารู้ตัวทันทีว่า เขาหลงไหลเด็กหนุ่มมาก …มากเหลือเกิน
หลังจากวันที่เกิดอุบัติเหตุ เขามีโอกาสได้รู้จักพูดคุยกับปอนด์เป็นครั้งแรก การทานอาหารสองต่อสองมื้อแรกในวันถัดมา แม้เรื่องที่คุยจะเป็นเพียงเรื่องทั่วไปไม่มีอะไรสลักสำคัญ แต่มันก็ทำให้รู้สึก ...ชอบเด็กหนุ่มมากขึ้นกว่าเดิม
แล้วตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่คำว่า...ชอบ ถูกเปลี่ยนเป็น ...รัก
รัก ...รักมากจนกลัวจะสูญเสียไป
รัก ...รักมากจนไม่กล้าสารภาพความผิดใหญ่หลวงที่เคยก่อไว้กับเด็กหนุ่ม
รัก ...จนไม่รู้จะทำอย่างไรดี
...ตอนนี้เขากำลังถูกลงโทษ เมื่อไหร่ความทรมานนี้จะจบลงเสียทีนะ ถ้าเพียงแต่เขากล้าบอก ถ้าเพียงปอนด์จะไม่โกรธเกลียดเขา ไม่ไปจากเขา...
แต่
มันจะง่ายอย่างนั้นเชียวหรือ?
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

มีคนชอบแนวโรคจิตด้วย :oni3:จงกลับตัวเป็นคนดีของสังคมเตอะๆๆๆ