ผมเป็นคนโรคจิต+ผมเปล่าโรคจิตนะ!+แฟนผมเป็นคนโรคจิตBYลูกหมู
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมเป็นคนโรคจิต+ผมเปล่าโรคจิตนะ!+แฟนผมเป็นคนโรคจิตBYลูกหมู  (อ่าน 367975 ครั้ง)

playCardPlaYBoy

  • บุคคลทั่วไป
แฟนผมเป็นคนโรคจิต 7
...........................


เช้าวันอาทิตย์แสนสุข เวลาที่หนุ่มโสดทั้งหลายควรจะนอนก่ายหมอนนุ่มๆบนเตียง แต่กรณีของธเนศกลับตรงกันข้าม

ร่างสูงลุกจากเตียงอย่างเบา ที่สุดด้วยกลัวว่าคนที่นอนอยู่ข้างๆจะรู้สึกตัวขึ้นมาซะก่อน เหลือบมองโยตรวจเช็คระดับความรู้สึกแล้วก็นอนใจ...เรื่องที่เขาจะทำวันนี้ ไม่อยากให้เด็กคนนี้เข้ามามีเอี่ยวด้วยเลย

ประตูห้องน้ำถูกปิดอย่างเบา พร้อมๆกับที่เปลือกตาบางลืมขึ้น เผยให้เห็นดวงตาดำใสตื่นเต็มที่ข้างใต้ โยกระโดดลงจากเตียงก่อนจะวิ่งไปที่ห้องน้ำ คว้ากุญแจห้องน้ำที่แอบปั๊มมาได้จัดการไขแบบไร้เสียง อีกมือหนึ่งถือโทรศัพท์มือถือประจำตัว เมื่อแง้มประตูเป็นช่องเล็กๆได้ก็จัดการแนบส่วนเลนส์ยังช่องประตู ก่อนจะร้องชิอย่างขัดใจเล็กน้อยเพราะไอน้ำในห้องน้ำมันดันเกาะเลนส์จนขึ้น ฝ้า

...เอาน่ะ อย่างน้อยก็ยังพอมองเห็น...

ชายหนุ่มใช้เวลาอาบน้ำเพียง ไม่นาน เสียงน้ำกระทบพื้นกระเบื้องเงียบลงพร้อมๆ กับบานประตูที่ปิดล็อคลงดังเดิม...โดยที่ธเนศไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่า ตัวเองกลายเป็นดาราหน้ากล้องในคลิปวาบหวิวสามนาทีเรียบร้อยแล้ว

ธเนศเปิดประตูห้องน้ำออกมา หลังจากที่แต่งตัวเสร็จแล้ว มองไปที่เตียงก็ถอนใจอย่างโล่งอกเมื่อพบว่า โยยังคงไม่มีทีท่าจะตื่นขึ้นมาเห็นว่าเขากำลังจะออกจากห้องไป

คว้ากระเป๋าที่แอบจัดไว้ได้ ก็รีบใส่ร้องเท้าโดยเร็ว ประตูห้องถูกเปิดและปิดลงเงียบๆ ทิ้งโยที่นอนลืมตาแจ๋วมองหน้าจอมือถืออย่างพึงใจ เด็กหนุ่มรีบอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะคว้าเนวิเกเตอร์ที่แอบติดตัวสัญญาณไว้ที่ กระเป๋าเป้ออกมาดู


+++++++++++++++++++++++++++++++++


สวนสยาม ทะเลกรุงเทพ

ธเนศยืนมองป้ายเก่าๆด้านหน้าพลางปาดเหงื่อ ...กรุงเทพนี่มันทั้งรถติดทั้งร้อนจริงๆ ให้ตายสิ

หลังจากคุยโทรศัพท์กับน้องชายเมื่อคืน ได้ความว่าธณัติกับชวนันท์จะออกมาเดทสนุกๆกันในวันหยุด แผนร้ายก็ก่อขึ้นในใจของผู้เป็นพี่

งานนี้มันต้องป่วน!

จะทำยังไงค่อยว่ากัน แต่ยังไงเขาก็ไม่ยอมให้ธณัติได้สวีทวี๊ดวิ้วกับชวนันท์ง่ายๆแน่นอน

เริ่มปฏิบัติการ!!!


+++++++++++++++++++++++++++


สวนสยาม ทะเลกรุงเทพ

โยขมวดคิ้วมองป้ายอย่างงงๆ...ก็อย่างพี่เนศเนี่ยนะ มาเที่ยวสวนสยาม...แถมมาแบบไม่อยากให้เขารู้อีกต่างหาก

...หรือว่าจะแอบนัดใครไว้…

ปากบางแสยะยิ้ม

...งานนี้มันต้องป่วน!!...


+++++++++++++++++++++++++++


...นั่นไง เจอตัวแล้ว...ธเนศยิ้มอย่างพอใจเมื่อหาร่างคุ้นตาของน้องชายเจอ แต่เมื่อเห็นชุดที่ธณัติใส่เต็มตัวก็ต้องกัดฟันกรอด...หนอย ไอ้เจ้าชวนันท์...เอาอะไรมาให้นัทใส่ฟะ!!

ก็ในเมื่อธณัติอยู่ในชุด กางเกงว่างน้ำแบบบิกินี่วาบหวิว อวดสัดส่วนให้ทั้งหญิงและชายได้เชยชมอย่างนี้ ดีหน่อยที่เจ้าตัวดูจะเขินอายอยู่บ้างเลยรีบกระโดดลงน้ำอย่างเร็ว ผิดกับชวนันท์ ที่นอนแขนหนุนหัวถือน้ำปั่นอยู่บนเก้าอี้ข้างสระน้ำ ลวนลามธณัติทางสายตาไม่เว้นซักวินาที

อย่างนี้มันต้องแกล้ง...

ธเนศค่อยๆย่องไปหลบด้านหลังต้นมะพร้าวใกล้ๆเก้าอี้เอน เปิดกระเป๋าเป้ใบใหญ่ คว้ากาวตราช้างเหนียวแน่นหนึบหนับออกมา

...นี่แหละโว้ย!!...


+++++++++++++++++++++++++++++


อยู่นี่นี่เอง...

โยเงยหน้าจากนาวิเกเตอร์ก็พบ ร่างสูงใหญ่ของธเนศที่ตอนนี้เปลี่ยนชุดเป็นกางเกงบ็อกเซอร์สำหรับว่ายน้ำ แล้ว แถมออฟชั่นแว่นกันแดดเรย์แบนดูมาดแมนกว่าเดิมร้อยยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ร่างสูงกำลังนั่งยองๆอยู่หลังต้นไม้ ควักๆล้วงๆอะไรซักอย่างออกมาจากกระเป๋าเป้ส่วนตัว

โยควักกล้องถ่ายวีดีโอตัวจิ๋วจับภาพซูมซะจนเห็นไรหนวด ก่อนจะได้เห็นรอยยิ้มจับใจน่าอัดเก็บไว้มองก่อนนอน

...แกล้งให้ตกใจเล่นดีกว่า...

ด้วยความคิดนี้ทำให้เด็กหนุ่มค่อยๆย่องไปทางด้านหลังร่างสูง ทีละก้าว ทีละก้าว จวบจนถึงตัวก็ทำเซอร์ไพรส์แบบง่ายๆแต่ได้ผลเกินคาด


++++++++++++++++++++++++++++++++


กาวช้างถูกบีบเป็นหยดติดปลายหลอด เป้าหมายคือกางเกงว่ายน้ำของชวนันท์กับเก้าอี้เอนพลาสติก

...เอาล่ะ...กาวพร้อม...ตำแหน่งพร้อม...โอ้เค๋ย์...โก!!!

“แฮ่~~!!!” เสียงร้องกะทันหันกับแรงผลักของสองมือที่วางลงด้านหลังทำให้ธเนศหน้าคว่ำ ก่อนจะหันกลับไปดูตัวการล้มแผน

“โย!!” ตะโกนยังไม่ครบประโยคก็ต้องปิดปากตัวเองไว้ ด้วยกลัวว่าเป้าหมายจะไหวตัวทัน

“พี่เนศมาทำอะไรที่นี่?” โยทักด้วยเสียงและหน้าตาแอ๊บแบ๊วเป็นที่สุด

“นายนั่นแหละมาทำอะไร?” ถามกลับอย่างหัวเสีย...โยไม่ควรมาเห็นภาพบาดตาที่นี่...เหตุผลที่เขาแอบมา โดยไม่ให้เด็กหนุ่มตามมาด้วยก็เพราะอย่างนี้แหละ…ก็พอรู้อยู่ว่าเคยรักชวนัน ท์ มาเห็นเจ้าบ้านั่นกับน้องชายเขาเที่ยวเล่นกันอย่างนี้คงจะปวดใจน่าดู

“พี่เนศนั่นแหละ มาทำอะไร”

“ก็มาเที่ยวนะสิ ถามได้”

“ผมก็มาเที่ยวเหมือนกัน เห็นมั้ย มาว่ายน้ำน่ะ” ยืดอกให้เห็นว่าตนใส่กางเกงว่ายน้ำ พร้อมห่วงยางสีเหลืองแป๋นแหลนคาดอยู่ที่เอว

“แล้วแต่งตัวอย่างนี้ได้ไง! น่าตีจริงๆ” เมื่อพิจารณาการแต่งตัววาบหวิวของโยแล้วก็ต้องตวาดดุก่อนจะเปิดกระเป๋าเป้ คว้าเสื้อยืดของตัวเองคลุมร่างบางไว้ “ใส่ไว้ซะ”

เป็นโอกาสให้เด็กหนุ่มจับเสื้อขึ้นสูดดมเต็มลมหายใจ “กลิ่นพี่เนศหอมดี”

“หยุดเลย เจ้าบ้า! ไปว่ายน้ำไป ว่ายเสร็จก็กลับไปได้แล้ว”

“แล้วพี่เนศไม่ว่ายน้ำเหรอครับ?” ถามพลางสังเกตเห็นมือใหญ่ที่กำกาวตาช้างจนน้ำกาวเยิ้มเลอะเต็มมือ “แล้วเอากาวตราช้างมาทำอะไร?”

คำถามทักทำให้ธเนศนึกขึ้นได้ ก้มลงมองมือตัวเองก็ต้องร้องเหวอ เพราะกาวมันดันแห้งแหงแก๋ติดเหนียวแน่นหนึบการันตียี่ห้องช้างฉุดไม่หลุด จริงๆ มือข้างที่ว่างเตรียมถอดแว่นดำเพื่อจัดการมือกาวก็พบว่า ที่โดนผลักหัวทิ่มเมื่อกี้กาวมันดันเปื้อนจนเรย์แบนสุดหล่อเกาะแน่นกับดั้ง จมูกไม่ยอมหลุดสักมิล


+++++++++++++++++++++++++++++++


“แล้วตกลงพี่เนศมาทำอะไร” หลังจากปล้ำกับกาวช้างสำเร็จอย่างทุลักทุเลจนชาตินี้สาบานว่าจะไม่ซื้อมาใช้อีก โยก็ถามขึ้นอีกครั้ง

“วะ! ก็บอกว่ามาเที่ย...”

“ว้าก! จมแล้ว!!” เสียงของธณัติที่ดังขึ้นมาจากสระน้ำเรียกให้โยหันกลับไปมอง ธเนศกำลังจะออกตัวพุ่งลงน้ำก็ดันโดนคนตัวโตกว่ากระโดดตัดหน้าลงจากอีกฝั่งจน น้ำกระจาย

จนชวนันท์ว่ายไปถึงตัวดีที่ พุ้ยท่าหมาตกน้ำได้ก็โดนกอดคอดำหายไปใต้น้ำ พักใหญ่จึงโผล่มาพร้อมกับหน้าแดงๆของธณัติ และคำพูดร่าเริง “ล้อเล่นน่า ท่านรอง” ก่อนจะว่ายหนีไปอย่างคล่องแคล่ว

ธเนศมองฉากสวีทอย่างเคืองๆ เสียงข้างตัวก็เรียกร้องความสนใจ “หืมม์...มาเที่ยว?”

“เอ่อ...โย...คือ” ยังพูดไม่จบก็ถูกตัดบทจากคนที่ก้มหน้านิ่งแผ่รังสีมาคุเสียก่อน

“ผมพอจะเข้าใจแล้ว ว่าทำไมพี่เนศถึงไม่อยากให้ผมมา...กลัวผมจะยุ่งกับท่านรองของน้องชายพี่สินะ?”

“ไม่ใช่อย่างนั้นซักหน่อย พี่ก็แค่...” ฝ่ามือเล็กยกขึ้นปิดปากก่อนจะได้อธิบาย ธเนศเหลือบมองกิริยาคนก้มหน้านิ่งอย่างหนักใจ

“ไม่ต้องพูดหรอก ผมเคยบอกแล้วไง” โยเงยหน้ามองลึกเข้าไปยังดวงตาสีน้ำตาลเข้มสื่อความหมายลึกซึ้ง “ว่าผมจะมองแต่พี่เนศคนเดียว”

…เข้าตัวอีกจนได้...”พี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น...”

“ช่างเหอะครับ พี่เนศ” ใบหน้าที่ดูเศร้าสร้อยเมื่อครู่กลับเปลี่ยนเป็นเริงร่าอย่างรวดเร็วราวพลิก หน้ากระดาษ มือเล็กฉุดมือใหญ่ให้วิ่งตามไปยังสระน้ำส่วนที่อยู่ไกลออกไป “ไปเล่นน้ำกันดีกว่าน่า อุตส่าห์มาเที่ยวทั้งที จะมัวแต่ไปดูภาพบาดใจทำไม”

“เฮ้ย...” กำลังจะขืนตัวไว้ แต่ภาพใบหน้าเศร้าสร้อยของโยที่เห็นเมื่อกี้ก็แวบเข้ามาในใจ...ให้ตาย...เขา แพ้หน้าแบบนั้นซะด้วย! ว่าแล้วจึงยอมให้เด็กหนุ่มจูงมือวิ่งไปไหนต่อไหน

ที่ที่โยพามาเป็นสระเล็กที่ ทำเป็นน้ำวน ร่างบางผลักธเนศลงน้ำโดยไม่ทันตั้งตัว จนต้องตะพุ้ยน้ำหัวหูเปียกโชกไปหมด เมื่อโผล่พ้นน้ำได้กำลังจะตะโกนด่าก็ต้องชะงักงันกับภาพที่เห็นตรงหน้า

แสงแดดส่องแทรกผ่านร่มเงาไม้ สาดลงยังร่างบางที่กำลังถอดเสื้อเชิ้ตที่เขาสวมให้อยู่ เผยให้เห็นผิวขาวกระจ่างที่ไม่อาจปกปิดไว้ได้ ดวงตาสีราตรีที่หลุบต่ำค่อยๆมองมาทางเขาให้อารมณ์ยากจะบรรยาย ธเนศกลืนน้ำลายเอื้อกยืนนิ่งเป็นรูปปั้น จนโยลงมาในสระได้จึงค่อยลากร่างสูงไปยังส่วนที่จัดให้นั่งนวดตัว

“ผมนวดให้มั้ย” โดยไม่รอคำตอบ มือเล็กก็ลงมือนวดเฟ้นบ่ากว้าง

“อ...อย่าดีกว่า” ธเนศกระซิบตอบ

“ทำไมล่ะ รังเกียจรึเปล่า?” โยกระซิบถามกลับ

“ไม่ใช่...”

“งั้นก็...” ใบหน้าขาวในยื่นเข้าช้าๆ ใกล้ขึ้นทุกทีๆ ...ช้านาน...ขัดกับเสียงหัวใจของธเนศที่เต้นถี่รัวจนน่ารำคาญ ปากแดงฉ่ำเผยอน้อยๆอยู่ห่างจากปากเขาเพียงช่วงฝ่ามือกั้น “...หวั่นไหว?”
 
 ดวงตาหลับลงรับรู้ถึงสัมผัสเนียนนุ่มแตะยังริมฝีปาก เบาบางดุจขนนก ก่อนจะถอยห่างออกไป เมื่อลืมตาก็พบดวงตาคู่สวยจ้องมองมาอยู่แล้ว

“ใช่มั้ยครับ?” โยถามซ้ำ

“หวั่นไหว...” เขาเนี่ยนะ หวั่นไหว? โยเป็นผู้ชาย เขาจะรู้สึกอย่างนั้นกับผู้ชายได้ยังไง? มันเป็นเรื่องที่ผิด! “หวั่นไหวอะไรกัน ไม่ใช่ซักหน่อย” พูดพลางหันหน้าหนีหลบสายตา ก่อนจะผลักร่างบางให้ออกห่าง ตัวเองขึ้นจากสระน้ำสะพายเป้ส่วนตัว “กลับดีกว่า ง่วงนอนแล้ว”

เด็กหนุ่มมองร่างสูงเดินแขน กับขาไปทางเดียวกันยิ้มๆ ...พี่เนศปากช่างไม่ตรงกับใจ...จะเรียกว่าพวกความรู้สึกช้าหรือว่าชอบหลอก ตัวเองดีนะ?...คิดพลางตะโกนตามหลังไป “พี่เนศ ผมเอารถมานะ กลับด้วยกันมั้ย?”

“อย่าดีกว่า จะแวะออฟฟิศก่อน” ธเนศตอบกลับด้วยกลัวว่า หากอยู่กับเด็กหนุ่มคนนี้มากกว่านี้ ตัวเองคงจะถูกรุกรานทางจิตใจมากขึ้นแน่ๆเชียว

“ไหนว่าง่วงนอน? รถผมแอร์เย็นนะ งีบระหว่างทางก็ได้ ไม่ต้องนั่งรถเมล์ร้อนๆ…จะได้แวะร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ้าดังด้วยไง” เสียงตอบกลับมาทำให้คิดหนัก...เอาไงดีวะ? ก๋วยเตี๋ยวเป็ดของโปรดซะด้วย

“ร้านนั้นน้ำมะพร้าวแช่แข็งอร่อยน้า” เสียงดังขัดความคิดเร่งเร้าให้ตอบคำถาม ...ก๋วยเตี๋ยวเป็ด น้ำมะพร้าว...

“เออ! ไปก็ไป...เจอกันหน้าห้องอาบน้ำ” พูดพลางเดินก้าวใหญ่หนีคนที่วิ่งตามหลังมาอย่างกระชั้นชิด ปล่อยให้เด็กหนุ่มได้วิ่งตาม มองแผ่นหลังตึงแน่นอย่างหลงไหล

...หนทางคงอีกไม่ไกล...

...

...



สู้เว้ยย!!!

++++++++++++++++++++++++++++++++++

playCardPlaYBoy

  • บุคคลทั่วไป
แฟนผมเป็นคนโรคจิต 8
..............................
“ฮัลโหล” ระหว่างทำความสะอาดห้องตอนบ่าย ริงโทนโทรศัพท์มือถือของเด็กหนุ่มก็ดังขึ้น โยคว้าหูฟังไร้สายเสียบหูก่อนจะกรอกเสียงตอบกลับไป

“โย เป็นไงบ้าง” เสียงของผู้เป็นพี่ดังขึ้นเรียกให้เด็กหนุ่มแอบถอนหายใจคนเดียว มือบางถือผ้าขี้ริ้วเช็ดอ่างล้างหน้าไปพลาง

“พี่...โทรมาอย่างนี้ไม่มีเรื่องดีหรอก ใช่มั้ย?” แน่นอนล่ะ เวลาดีๆเคยโทรมาซะที่ไหน

“เรื่องไม่ดีน่ะมันสำหรับแก แต่โทษที มันเป็นเรื่องดีสำหรับฉันว่ะ” เสียงตอบกลั้วหัวเราะ

“ตกลงมีอะไรล่ะ?” ถามอย่างไม่ใส่ใจ เพราะตอนนี้สิ่งที่อยู่ข้างหน้านั้นน่าสนใจมากกว่า โยมองผ้าผืนน้อยในตะกร้าทิ้งผ้าข้างประตูห้องน้ำพลางเลียริมฝีปาก เหลือบตาแอบมองคนที่นั่งอยู่ที่ห้องรับแขกแวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าทางสะดวกจึงค่อยผลักประตูปิดอย่างไร้เสียง

“ก็ที่สัญญาไว้เดือนที่แล้ว ยังจำได้รึเปล่า?”

“ไม่ลืมหรอกน่า” มือบางทั้งสองจับชายผ้าคลี่ออก ปรากฏเป็นรูปร่างของกางเกงชั้นในสีฟ้าตัดเทา เด็กหนุ่มบรรจงพับจนขนาดพอดีมือ สอดใส่กระเป๋ากางเกง เมื่อมองกระจกเห็นว่าไม่มีรอยโป่งออกจากกางเกงแล้วจึงจัดการนำผ้าที่เหลือ ใส่ลงในเครื่องซักผ้าต่อไป

“เออ ไม่ลืมก็ดี...จะจัดห้องประจำตำแหน่งไว้รอ อย่าเบี้ยวซะล่ะ…เฮ้อ! อะไรของมันฟะ งานบ้านตัวเองมีให้ทำไม่ทำ ต้องแบกหน้าไปเป็นลูกน้องคนอื่นเค้า แล้วบ้าอะไรขึ้นมา หนีไปอยู่คอนโดคนเดียว...” เสียงบ่นหงุงหงิงของผู้เป็นพี่ดังตบท้ายก่อนจะตัดสายไป แต่ก็ไม่ได้เรียกร้องความสนใจโยมากนัก ด้วยนัยน์ตาสีราตรีกำลังกวาดหาเหยื่อใหม่...มีดโกนหนวดใช้แล้วที่วางแน่นิ่ง อยู่ข้างอ่างล้างหน้า
โยหยิบด้ามมีดขึ้น แนบริมฝีปากจุมพิตตัวมีดพลางสูดกลิ่นน้ำยาโกนหนวดเข้าปอด ใจก็คิดอย่างเบื่อหน่าย

...เรื่องที่น่าหนักใจก็คือ สัญญาที่ให้กับทางบ้านไว้...การลาออกจากงานที่ทำอยู่ตอนนี้กลับไปทำงาน ธุรกิจของครอบครัว แลกกับเอกสิทธิ์ในการเลือกจ้างบริษัทตกแต่งมาแต่งโรงแรมที่กำลังก่อสร้าง...

...เหลือเวลาอีกอาทิตย์เดียว ...เรื่องของพี่เนศช้ากว่าที่คาดไว้เยอะ...คิดอย่างเหนื่อยใจเพราะหลังจาก วันที่ไปสวนสยามก็ไม่มีท่าทีว่าจะรุกคืบได้เลย ธเนศเริ่มชินกับการถูกแตะเนื้อต้องตัวแล้ว และท่าทางห่วงใยของชายหนุ่มก็ออกมาในแนวพี่ชายน้องชายซะมากกว่า ที่เห็นว่าดีขึ้นในตอนนี้ก็คือ ความถี่ในการโทรไปก่อกวนธณัติเริ่มน้อยลงแล้ว ซึ่งก็คงจะเป็นเพราะการทำงานหนักในตอนนี้มากกว่าจะเป็นการเห็นดีเห็นงามใน ความรักของน้องชาย...แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าดีใจสำหรับเด็ก หนุ่มนัก

สายตาแลกวาดตามอ่างล้างหน้า ก่อนจะสะดุดกับขวดใสบรรจุน้ำสีชาที่วางหลบมุม เป็นขวดที่เขาเอามาวางไว้เอง นานซะจนลืมไปว่ามีอยู่ โยแย้มยิ้มอย่างนึกสนุก เก็บมีดโกนหนวดใส่กระเป๋ากางเกงก่อนจะรีบทำความสะอาดต่อให้เสร็จโดยไว


++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

 “เฮ้อ...” แสงแดดช่วงผีตากผ้าอ้อมสาดเข้ามาในห้องนอน อาบกระดาษนิตยาสารตรงหน้าให้กลายเป็นสีส้มอ่อนๆ ธเนศถอนหายใจ หลับตาคิดถึงเรื่องเมื่อตอนบ่าย

...

...

‘เหม่ออะไรอีกแล้ว มีใครให้คิดถึงหรือไง’ กั๊กเพื่อนสนิททักขึ้นขณะนั่งจ้วงเค้กยามบ่าย

‘คิดถึงอะไรกัน ไม่ได้คิดถึงซะหน่อย อย่างกูเนี่ยนะ…’ ว่าพลางตบอกตัวเองดังปึ้กๆ ‘...จะคิดถึงผู้ชาย!!’ แล้วก็เพิ่งรู้ตัวว่ารั่วอีกแล้ว

‘หืม...’ กั๊กเลียเค้กที่ริมฝีปาก ขยับแว่นกึกๆ ‘คิดถึงผู้ชาย…’

‘ก็บอกแล้วไงว่าไม่ใช่!!!’ เธนศสวน

วงเค้กเงียบไปพักหนึ่ง ปล่อยให้เสียงผู้ประกาศข่าวทีวีช่วงบ่ายดังเป็นพื้นหลังกลั้วรสน้ำชา

‘แล้วเค้าเป็นใครล่ะ?’ กั๊กถามขึ้นอีกเมื่อเห็นว่าเพื่อนตัวเองกำลังเหม่อได้ที่

‘โยน่ะเหรอ?’ เมื่อพูดเพ้อๆจบก็ต้องรีบตะครุบปากตัวเองทันที

‘ชื่อโยงั้นเหรอ?’ กั๊กยิ้มเจ้าเล่ห์ ใจไพล่นึกถึงมือดีที่แอบเขียนชื่อไว้ที่หลังคอธเนศเมื่อเดือนที่แล้ว...ที่แท้ก็เป็นผู้ชายนี่เอง

จนเมื่อเห็นว่าคงปิดเป็นความลับต่อไปไม่ได้แล้ว ร่างสูงจึงค่อยผ่อนลมหายใจเปิดปากเล่าเรื่องหนักใจ ‘ฉันโดนรุกอยู่ว่ะ’

‘โดนรุก?’

‘ก็เค้าบอกว่าชอบ แล้วก็มาขออยู่ด้วย...’ ...ตัดเรื่องคืนแรกออกไปคงไม่ว่ากันนะ ไอ้เพื่อนยาก...

‘แล้วนายก็ให้อยู่?’

‘เออ...มันมีเหตุจำเป็น’ ...คิดๆไปก็ชักสงสัย ทำไมซ่อมห้องไม่เสร็จซักที...

‘แล้วรำคาญรึเปล่า?’ ถามอย่างรู้ใจเพื่อน...นอกจากเขาที่เป็นรูมเมทแล้ว ธเนศอยู่กับใครไม่ได้นานนักหรอก โดยเฉพาะเหล่าแฟนสาวทั้งหลาย เผลอแผล็บเดียวก็ต้องหอบผ้าหอบผ่อนหนีตายด้วยเหตุผลว่ารำคาญหม่าม้าคนที่สอง

‘ก็ไม่...คงเพราะเค้าไม่จู้ จี้มั้ง ฉันซะอีก ต้องคอยไปจู้จี้กับเค้า รู้เปล่า อายุก็ตั้งยี่สิบ งานก็ทำแล้ว กลับเพิ่งเคยออกมาอยู่คนเดียว ไม่ใช่แค่ทำอาหารไม่เป็นนะ เปิดแก๊สยังทำไม่เป็นเลย’ …คิดถึงคดีไฟเกือบไหม้ห้องแล้วก็หวาดเสียว

กั๊กนั่งกินเค้กไปพลางมอง เพื่อนที่ร่ายเรื่องวุ่นๆเป็นหางว่าวไม่จบไม่สิ้นไปพลางพร้อมยกยิ้ม เมื่อธเนศเล่าจนจบผู้เป็นเพื่อนจึงค่อยพูดขึ้น ‘...บางทีนายอาจจะเหมาะกับคนคนนี้ที่สุดก็ได้นะ...’





...บางทีนายอาจจะเหมาะกับคนคนนี้ที่สุดก็ได้นะ...

...บางทีนายอาจจะเหมาะกับคนคนนี้ที่สุดก็ได้นะ...

...บางทีนายอาจจะเหมาะกับคนคนนี้ที่สุดก็ได้นะ...

โว้ย! ปวดเฮด!! มือใหญ่กุมขมับตัวเอง สายตาจับจ้องนิตยสารราวกับว่ารูปแมวน้อยคิตตี้ในกระดาษจะสามารถให้คำตอบอะไรได้

เหมาะงั้นเหรอ...จะไปเหมาะได้ยังไง อีกฝ่ายเป็นผู้ชายนะ!

เป็นคำที่ตอบเพื่อนไปในตอนนั้น กั๊กเพียงแค่ยิ้มตอบกลับมาเรียบๆ

‘ถ้านึกจะรักใครสักคน จะไปสนใจเรื่องเพศทำไม รักแล้วมีความสุข ดีกว่าไม่มีสุขเพราะไม่ได้รัก...หรือนายว่าไง’

มันเป็นอย่างนั้นจริงๆเหรอ ...ที่เขาคิดมาทั้งหมดมันไม่ถูกเหรอ ตลอดมาเขาคิดแค่ว่า ผู้ชายกับผู้หญิงเท่านั้นถึงจะรักกันได้ มันเป็นเรื่องธรรมชาติ มันเป็นเรื่องของลูกผู้ชายที่จะต้องคอยปกป้องดูแลให้ความสำคัญกับผู้หญิง เขาจินตนาการคนรักที่เป็นผู้ชายของเขาไม่ออกสักหน่อย...

...จินตนาการไม่ออก...ใช่มั้ย?

...แล้วทำไมหน้าโยมันถึงผุดขึ้นมาซะชัดเจนขนาดนี้ล่ะ?...

“พี่เนศอยากได้มากขนาดนี้เลยเหรอ” ...แถมยังมีเสียงทักกลับมาอีก

...

...

“เฮ้ย!!! โย!!!” สะดุ้งตกใจเมื่อใบหน้าที่คิดว่าจินตนาการเอาเองกลับกลายเป็นของจริง โยก้มหลังต่ำเงยหน้าทักทายเขาที่เหม่อหน้าทิ่มนิตยสารอยู่นานสองนาน เมื่อเขาสะดุ้งลุกขึ้นยืน เด็กหนุ่มจึงค่อยถือหนังสือขึ้นดูชัดๆ

“แค็ตตาล็อกตุ๊กตาคิตตี้รุ่นใหม่จากญี่ปุ่น...พี่เนศชอบของอย่างนี้เหรอเนี่ย เห็นจ้องหน้าเครียดอยู่ตั้งนาน”

ธเนศดึงหนังสือกลับปิดฉับ “เปล่าชอบเฟ้ย ลูกผู้ชายจะชอบของแบบนี้ได้ยังไง” ...ก็แค่หนังสือที่ธณัติทิ้งไว้ที่โต๊ะนั่งเล่น ไม่มีอะไรทำเลยเอามาเปิดดูเท่านั้นเอง

“เหรอ...ช่างเถอะครับ” ปากช่างใจไม่ช่าง พื้นที่เก็บข้อมูลพี่เนศถูกยัดรสนิยมเข้าไปอีกหนึ่งข้อ...ชอบคิตตี้เหมือน กันเลยน้า ทั้งพี่นัทพี่เนศ...

เมื่อหายตกใจจึงนึกคำถามที่ว่าจะถามขึ้นมาได้ “เออ โย ว่าแต่นายเห็นกางเกงในพี่รึเปล่า? หายไปสองตัวน่ะ”

“พอดีผมรีดมันไหม้น่ะครับ ก็เลยทิ้งไป”

“เฮ้อ...นายนี่น้า ก็บอกแล้วว่าไม่ต้องๆ งานบ้านอะไรนั่นด้วย พี่ทำเองได้ ไม่ต้องทำให้เพราะเกรงใจที่มาอยู่ด้วยหรอกน่า”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ พี่เนศตามผมมานี่ดีกว่า” พูดตัดบท มือเล็กฉุดมือใหญ่ให้เดินตามไปยังห้องนอน เมื่อถึงหน้าประตูก็อ้อมมาทางด้านหลัง เขย่งตัวปิดตาร่างสูงเอาไว้

“อะไร?” ธเนศถามอย่างไม่เข้าใจพฤติกรรม

“เปิดประตูสิครับ พี่เนศ ผมมีเซอร์ไพรส์ให้ด้วยนะ”

มือใหญ่บิดลูกบิดเปิดประตูตามที่อีกฝ่ายว่า จมูกสูดกลิ่นฟุดฟิด “ไหว้พระทำไม นี่มันเย็นแล้วนะ”

“ไม่ได้ไหว้พระซะหน่อย นี่มันกลิ่นกำยานหอม” โยพูดเสียงตึงเล็กน้อย...อุตส่าห์สร้างบรรยากาศ พี่เนศนี่บื้อจริงๆ...มือเล็กค่อยๆเปิดตาคนตัวสูง

ธเนศมองบรรยากาศของห้องอย่าง งงๆ แอร์ในห้องนอนเปิดเย็นเฉียบเมื่อเจือกลิ่นกำยานที่โยว่าแล้วหอมติดจมูกดี หน้าต่างบานใหญ่ของห้องตอนนี้ถูกผ้าม่านหนาหนักคลุมจนมิด เหลือเพียงแสงยามเย็นสาดเข้าห้องรางๆเท่านั้นเอง เสียงเพลงบรรเลงเย็นๆจากเครื่องเสียงมุมห้องดังคลอเข้าโสตประสาท ไฟเพดานปิดสนิทเปิดไว้เพียงโคมไฟสีส้มหัวเตียงนอน เมื่อมองไปยังเตียงนอนหลังใหญ่ก็ต้องงงหนักกว่าเดิม เพราะตอนนี้บนเตียงดันมีดอกไม้โรยไว้ประปรายอย่างที่เขาไม่เข้าใจว่า จะโรยให้เลอะทำไม  “เล่นอะไร?”

“พี่เนศนี่! ไม่ได้เล่นครับ!” เสียงตึงขึ้นอีกเล็กน้อย ก่อนจะปรับอารมณ์ให้เย็นลง ...คืนนี้ยังอีกไกล จะรีบอารมณ์เสียไปทำไม “ผมจะนวดให้พี่เนศต่างหาก”

“นวด?”

“ก็พี่เนศบ่นว่าปวดเอวทุกเช้า” เออ...ก็ปวดจริงๆ ไม่รู้ทำไม

“ปวดหนังหัวด้วย ผมร่วงอีกต่างหาก” นี่ก็ไม่รู้เพราะอะไร สงสัยจะเครียดเกินไป

“ก็เลยจะนวดน้ำมันคลายเครียด ให้...ถือว่าเป็นการตอบแทนที่ให้ผมมาอยู่แล้วกัน ยังไงก็จะย้ายกลับห้องเดิมแล้ว” โยพูดพลางลากร่างสูงไปยังเตียงนอน กดบ่าให้นั่งลง

...จะกลับห้องแล้ว...

ไม่รู้ทำไม ตอนแรกที่ร่างบางมาขออยู่ด้วย เขายังรู้สึกแปลกๆอยู่เลย ตอนนี้พอเด็กหนุ่มบอกว่าจะกลับห้อง ในใจมันกลับรู้สึกโหวงๆ...สงสัยจะเป็นห่วงมากเกินไป...ก็ขนาดอยู่ห้องเดียว กับเขายังต้องคอยดูแลไม่ให้ทำอะไรแปลกๆเลยนี่นา...หมายถึงเรื่องงานบ้านที่ ทำไม่ค่อยเป็นน่ะนะ

เมื่อรู้ตัวว่ายังไม่ได้ตอบ คำถาม แถมตอนนี้โยก็นั่งจ้องหน้าอยู่ด้วย ร่างสูงจึงค่อยหัวเราะแหะๆเกาคอแกรกกๆ “ก็นึกว่าเรื่องอะไร ตามใจสิ อยากนวดให้ก็นวด”

“งั้นเริ่มแล้วนะครับ” โยยิ้มกริ่ม ขยับกายเข้าใกล้ มือบางเอื้อมแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตให้

“เฮ้ย! ทำอะไร แกะกระดุมทำไม” ธเนศโวยวายพลางปัดมือออก

“ก็นวดน้ำมันต้องถอดเสื้อ พี่เนศไม่เคยนวดเหรอครับ?”

“ไม่เคยเฟ้ย ถอดเถิดอะไรกัน! ไม่ต้องนวดแล้วก็ได้” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบมองหน้าคนเจ้าเล่ห์อย่างไม่ไว้วางใจ

“หรือว่าพี่เนศอาย?” โยถามพลางหัวเราะคิก

ธเนศหน้าร้อนเมื่อได้ยินคำ ถาม...แบบนี้มันดูถูกกันชัดๆ ลูกผู้ชายมีหรือจะอาย กะอีแค่โชว์กล้ามแค่นี้ อายอะไรกัน “ไม่ได้อายซะหน่อย เอาวะ!! ถอดก็ถอด!!” ว่าพลางลุกขึ้นยืน ถอดเสื้อออกอย่างเร็ว เชิดหน้ายืดอกอย่างอวดเบ่งให้โยมอง หวังจะได้เห็นแววตาอึ้งทึ่งกับความล่ำของตน กลับเจอกับแววตายิ้มหัวเราะที่ส่งมาให้ ทำให้รู้ตัวว่าหลงกลอีกแล้ว

“ข้างล่างด้วยครับ พี่เนศ” โยพูดราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆที่ในใจเต้นตุ้บกับภาพที่เห็นตรงหน้า

...เอาวะ ลูกผู้ชาย พูดคำไหนคำนั้น...ธเนศคิดอย่างห่อเหี่ยวใจ ค่อยๆถอดกางเกงออกช้าๆ หลบสายตาแรงกล้าที่มองตรงมา

“เหลือไว้ซักชิ้นแล้วกันนะ” พูดเสียงอ่อยกับปราการด่านสุดท้ายของท่านชาย ให้โยแอบหัวเราะอย่างเอ็นดูอีกครั้ง

“ครับๆ ทีนี้ก็นอนลงแล้วก็ผ่อนคลายซะนะครับ” ว่าพลางกดให้ร่างสูงนอนคว่ำลง

ธเนศรับรู้ถึงเตียงที่ยวบลง ตามน้ำหนัก เมื่อมองไปก็พบว่า โยกำลังถอดเสื้อของตัวเองออก กำลังจะอ้าปากค้าน เสียงหวานก็ขัดขึ้นมาอย่างรู้ทัน “เดี๋ยวเสื้อผมเลอะน้ำมันครับ” จึงจำต้องยอมก้มหน้าหลับตาไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป

น้ำมันอุ่นอุณหภูมิกำลังพอดี ถูกทาลงบนแผ่นหลัง ตามด้วยแรงกดจากนิ้วโป้งทั้งสองเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่เหนื่อยล้ามาทั้ง วัน แรงลูบเรียบลื่นกำลังพอดีเน้นไล่ตั้งแต่หลังคอ สะบัก ลงมาจนถึงเอว รุกเร้าหนักแน่นก่อนจะถอนแรง เปลี่ยนเป็นลูบไล้ฝ่ามือแผ่วเบาแทน เป็นอย่างนี้ซ้ำไปมา ร่างสูงถอนหายใจผ่อนคลาย ปิดเปลือกตาลงอย่างเคลิ้มในความสบายที่อีกฝ่ายมอบให้ โยค่อยๆลูบน้ำมันนวดไปทั้งตัวอย่างชำนาญ ซึมซับสัมผัสของกล้ามเนื้อตึงแน่นใต้ฝ่ามืออย่างสุขใจ

“หงายด้วยครับ” เสียงแผ่วเบาดังปลุกภวังค์ของชายหนุ่ม ให้ร่างสูงพลิกตัวนอนหงายก่อนจะหลับตาเคลิบเคลิ้มไปกับความสบายของน้ำมัน และเพลงเบาๆที่คลอไปกับกลิ่นหอมของกำยาน

ฝ่ามือเล็กลูบไล้ตั้งแต่ช่วง คอ แผ่นอกตึงแน่นได้รูป เน้นตรงแอ่งไหปลาร้าเล็กน้อย ก่อนจะละไปให้ความสนใจกับท่อนแขนกำยำ ธเนศเคลิ้มหลับโดยไม่ได้สนใจว่า อีกฝ่ายนั้นบัดนี้ถือวิสาสะนั่งคร่อมลงบนต้นขาแกร่งเรียบร้อยแล้ว ขอบกางเกงในถูกรูดลงอย่างเบามือ ก่อนที่แก่นกายภายในจะถูกฝ่ามือน้อยจับเล่นหยอกเย้า

“อือ...” เสียงครางฮือเรียกให้ร่างบางหยุดการกระทำเพียงเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆจรดริมฝีปากลงจุมพิตต่อไป จมูกรั้นสูดกลิ่นกายกระตุ้นเร้า แลบลิ้นเลียไล้ความเป็นชายที่เริ่มจะแข็งแกร่งด้วยสัมผัสของฝ่ามือ

เมื่อธเนศรู้ตัวอีกทีหนึ่ง ก็สายเกินจะหักห้ามได้แล้ว สะโพกแกร่งโถมเข้าหาปากแดงอิ่มอย่างห้ามไม่อยู่ ฝ่ามือหนาแทนที่จะดึงศีรษะอีกฝ่ายให้เงยหน้าออกไป กลับกลายเป็นกดให้ใบหน้าหวานคลุกเคล้าอยู่กับตัวเองไม่ให้ห่างสักวินาที ปากบางเผยอหอบ ดวงตาหลับสนิท โสตประสาทรับรู้ถึงเสียงครางอู้อี้ของร่างบาง ก่อนที่จะเส้นประสาทจะเกร็งเขม็ง ปลดปล่อยห้วงอารมณ์จนหมดสิ้น

...เก่งชะมัด...

เป็นความคิดโดยไม่รู้สึกตัว ของธเนศ ก่อนที่จะสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงแรงสะเทือนที่หน้าท้อง เมื่อลืมตาขึ้นจึงพบเด็กหนุ่มนั่งคร่อมหลับตา กอบกุมสัดส่วน บำเรอความสุขให้แก่ตัวเอง ก่อนจะผวาเฮือกแอ่นกายเกร็งตัว ปลดปล่อยความปรารถนาสิ้น ฟุบลงบนแผ่นอกของชายหนุ่ม เหงื่อของทั้งสองชุ่มโชกจนเปื้อนผ้าปูที่นอน แม้เครื่องปรับอากาศเย็นเฉียบก็ไม่สามารถดับความร้อนนี้ลงได้


+++++++++++++++++++++++++++++++++


...จบกัน!...

ธเนศนั่งกุมขมับอยู่บนเตียงขณะที่โยเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย

...จบแล้ว ชีวิตลูกผู้ชาย ปณิธานที่ตั้งมาซะดิบดีถูกขยี้ไม่เหลือซากก็วันนี้นี่เอง...ทั้งๆที่คิดว่า เรื่องอย่างนี้กับผู้ชาย จะเกิดขึ้นแค่คืนนั้นเป็นคืนสุดท้าย...สุดท้ายจิตใจก็แพ้ให้แก่ร่างกายจนได้ ...แล้วอย่างนี้จะแบกหน้ากลับไปหาหม่าม้าได้ยังไง...

คิดอย่างเครียดจัดโดยไม่ได้ สนใจเสียงเปิดประตูห้องน้ำเลย โยเดินมาหยุดอยู่ที่ด้านหน้าธเนศ เช็ดน้ำที่เกาะพราวบนใบหน้าไปพลาง พูดปลอบใจไปพลาง

“พี่เนศไม่ต้องเสียใจไปนะครับ ผมจะเป็นคนรับผิดชอบให้เอง” …หม่าม้า...ลูกชายหม่าม้ามีคนรับผิดชอบแล้ว...ดีใจมั้ยครับ

“จากนี้ไปเรียกผมว่าดาร์ลิ้งนะครับ” …เหอะ! ดาร์ลิ้ง...

ธเนศเงยหน้า ส่งสายตาแข็งกร้าวให้เด็กหนุ่ม “ดาร์ลิ้งอะไรกัน!! ฉันเนี่ยนะต้องเรียกนายว่าดาร์ลิ้ง” ร่างสูงลุกขึ้นยืน ย่างสามขุมเข้าหาร่างบางที่เดินถอยหลัง

“นายต่างหากเล่า ต้องเรียกฉันว่าดาร์ลิ้ง!!! แล้วนี่อะไรกัน ออกมาจากห้องน้ำไม่รู้จักใส่เสื้อ ตัวก็เปียกอย่างนี้ ไม่สบายขึ้นมาจะว่ายังไง แล้วผมน่ะ!! หัดเช็ดให้มันแห้งหน่อยได้มั้ย บอกตั้งกี่ครั้งแล้วไม่รู้จักจำ เจ้าเด็กบ้านี่!!!” ว่าพลางแย่งผ้าขนหนูจากมือบาง ลงมือขยี้หัวทุยๆอย่างแรง

“โอ๊ย!! พี่เนศ ผมเจ็บนะ” โยหลับตาปี๋ ตะโกนไปพลางหัวเราะไปพลาง ก่อนจะหยุดหัวเราะเมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายนิ่งไป

“พี่เนศเสียใจรึเปล่า?” โยกระซิบถามแผ่วเบา กลัวเหลือเกินว่าคำตอบที่ได้รับจะทำร้ายจิตใจตัวเอง

“…นายล่ะ เสียใจมั้ย...” กลับได้รับคำถามกลับมาแทน

เด็กหนุ่มยิ้มส่ายหน้า “ผมไม่เสียใจหรอก ก็ผมเป็นคนเริ่มเองนี่นา พี่เนศล่ะ เสียใจมั้ย...มีอะไรกับคนที่ไม่ได้รักน่ะ?”

“ไม่รู้สิ” เป็นคำตอบที่ได้รับก่อนที่น้ำหนักที่กดบนหัวจะหายวับไป เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็พบว่า ธเนศหายตัวเข้าห้องน้ำไปแล้ว

…ไม่รู้…ว่าเสียใจรึเปล่า...

...ไม่รู้...ว่ารักรึเปล่า...

คำตอบของพี่เนศหมายความว่ายังไงนะ?

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

playCardPlaYBoy

  • บุคคลทั่วไป
แฟนผมเป็นคนโรคจิต 9
....................
ภาพตู้เย็นที่ว่างเปล่าเหลือ เพียงมายองเนสขวดเดียววางโดดเดี่ยวเดียวดายพาให้โยถอนหายใจอย่างสุดเซ็ง... แม้กระทั่งน้ำซักแก้วยังไม่มีให้ดื่ม

เขาหมกตัวอยู่ในห้องนี้มา ตั้งแต่คืนวันศุกร์ จนนี่บ่ายแก่ๆวันอาทิตย์แล้วก็ยังเคลียร์งานไม่เสร็จ เวลาที่จะเหลืออยู่ก่อนจะกลับบ้านก็แค่สองวันเท่านั้นเอง เขาจะทำให้เพื่อนร่วมงานลำบากไม่ได้ งานสรุปโปรเจ็คส์ต้องทำให้เสร็จก่อนที่จะลาออกไป ความรับผิดชอบมันสั่งให้ทำอย่างนั้น เขาเร่งทำงาน...เร่งซะจนไม่แม้แต่จะกินข้าวหรือขนมเพื่อรองท้อง

แต่ตอนนี้หิวน้ำชะมัด

ร่างบางตัดสินใจเดินออกจาก ห้องส่วนตัว เลยห้องตัวเองไปเคาะประตูยังห้องข้างๆ หวังว่าจะขอน้ำแค่ซักแก้วดื่ม แต่รอจนแล้วจนรอดก็ไม่มีวี่แววว่าเจ้าของห้องจะเปิดประตูออกมารับเลย

พี่เนศคงไม่อยู่

โยถอนใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง หนึ่ง...คิดถึงชะมัด ไม่ได้เจอมาตั้งสามวันแล้ว ตั้งแต่วันที่เขากับพี่เนศเกินเลยกันเป็นครั้งที่สอง หลังจากนั้นพี่เนศก็หลบหน้าหลบตาเขาตลอด จนตอนกลางคืนหลังจากที่เก็บข้าวของส่วนตัวเสร็จก็กลับมาห้องตัวเองโดยไม่ได้ คุยอะไรกันอีกเลย

โยเดินกลับห้องตัวเองอย่างห่อเหี่ยว หิวก็หิว คิดถึงก็คิดถึง

ก็ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า เอาน่ะ เดี๋ยวงานเสร็จอะไรๆก็จะดีขึ้นเอง เหลือแฟ้มที่ต้องสรุปอีกแค่สามแฟ้มเอง หลังจากนั้นก็จะไปหาอะไรอร่อยๆกินปลอบใจ แล้วก็ไปหาพี่เนศให้หายคิดถึงได้ซะที

ร่างบางเปิดตู้เสื้อผ้าชั้น ล่างสุด ปรากฏของจุกจิกมากมาย ทั้งกางเกงในที่พับใส่ถุงพลาสติกเรียบร้อยสามสี่ตัว มีดโกนหนวดอันล่าสุดที่ได้มา ช้อนส้อมใช้แล้ว ไม่เว้นแม้กระทั่งปอยผมสีน้ำตาลเข้มในห่อพลาสติก โยเลือกหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กที่ธเนศใช้เช็ดหน้าหลังโกนหนวดขึ้นแนบจมูก สูดดมกลิ่นอาฟเตอร์เชฟหอมกรุ่นเจือจางที่ติดผ้าขนหนูอย่างชื่นใจ

...กลิ่นของพี่เนศ...

ตอนแรกก็แค่หลง ตอนแรกก็แค่เข้าใจผิด คิดว่าพี่เนศเป็นพี่นัท เรื่องในคืนแรกก็แค่อยากให้ใครสักคนเป็นตัวแทนของพี่นัท คนที่เขาหลงรักมานานเท่านั้นเอง พอรู้ว่าพี่เนศเป็นพี่ชายของพี่นัท ก็ได้แต่บอกตัวเองว่า นี่เป็นโอกาสดีที่ฟ้าส่งมาให้ เขาจะได้พี่นัทมาครอบครองซักที...ถึงจะไม่ใช่พี่นัทตัวจริง แต่มันก็พอจะทดแทนกันได้ หน้าตาก็คล้ายกันออกซะขนาดนั้น นิสัยเล่าก็ยังออกจะคล้ายๆกันซะอีก

แต่พอเอาเข้าจริงๆ ระยะเวลาเกือบเดือนที่ได้อยู่ใกล้ชิดพี่เนศทำให้รู้ว่า พี่เนศกับพี่นัทนั้นเหมือนกันแค่บางส่วนเท่านั้น กลับมีส่วนต่างกันมากมาย พี่เนศติดนิสัยพี่ชาย ชอบที่จะดูแล คอยจู้จี้จุกจิก คอยทำให้ทุกอย่าง ต่างกับพี่นัทที่ติดนิสัยน้องชาย ชินกับการได้รับซะมากกว่า

แล้วเขาก็ตกหลุมรักอีกครั้งหนึ่ง

รักพี่เนศที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของพี่เนศ...ไม่ใช่ตัวแทนของพี่นัท

ภาพชายหนุ่มร่างใหญ่นอนหลับ อุตุเคียงข้างทุกคืน แวบเข้ามาในหัว แม้จะนอนเคียงข้างกันโดยไม่มีอะไรเกินเลย...พูดอีกทีมีนิดหน่อยตอนที่พี่เนศ หลับไปแล้ว...แต่เขาก็มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้

ภาพของพี่นัทที่เคยอยู่ในใจเสมอมา ตอนนี้จึงแทนที่ด้วยใบหน้าหล่อๆ กับสายตาสีน้ำตาลเข้มที่จ้องมองอย่างซื่อตรงของพี่เนศแทน

จากเรื่องเมื่อสามวันก่อนทำ ให้พอจะเข้าข้างตัวเองได้ว่า อาการรังเกียจผู้ชายของพี่เนศคงจะหายไปแล้ว แม้เจ้าตัวจะยังไม่รู้ตัวก็เถอะ แต่จะทำยังไงให้พี่เนศยอมรับออกมาได้เท่านั้น อยากให้พี่เนศยอมรับออกมาเหลือเกินว่า รักเขา อยากให้พี่เนศใจดีกับเขาเพียงคนเดียว...ในฐานะที่เป็นคนรัก ไม่ใช่การใจดีที่เกิดจากนิสัยพี่ชายของพี่เนศ

ผ้าขนหนูผืนน้อยถูกปากแดง อิ่มจูบซับอย่างอาลัยอาวรณ์ราวกับร่างบางต้องการส่งจุมพิตบางเบาไปยังผู้ เป็นเจ้าของ ก่อนที่มือบางจะพับผืนผ้าอย่างเรียบร้อย เก็บกลับเข้ายังตู้สะสมของพี่เนศดังเดิม ไม่ลืมลูบไล้อย่างคิดถึงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปิดตู้ลง

โยยกสองมือขึ้นตบแก้มตัวเอง เบาๆดังแปะ ก่อนจะรวบรวมแรงฮึดอีกครั้ง พยายามไม่สนใจเสียงพยาธิไชท้องดังโครกคราก บอกตัวเองว่า...อีกแค่นิดเดียวจะใกล้ฝันแล้ว รีบๆเคลียร์งานให้เสร็จจะได้ไปหาพี่เนศซะที...จะได้กินข้าวด้วย


+++++++++++++++++++++++++++++++++++

ป๊อก!!

เสียงลูกสักหลาดกระทบเอ็นไม้ แร็กเก็ตก่อนจะเด้งกระทบพื้นข้ามตาข่ายไปยังอีกฟากฝั่งให้ชายหนุ่มหน้าตี๋ กั๊ก ได้ตีโต้กลับมา ธเนศไม่ยอมแพ้ลงทุนเปิดประตูที่สามออกท่าทริปเปิ้ลเคาน์เตอร์นางแอ่นเหินโต้ กลับ ลูกเทนนิสถูกส่งข้ามเน็ตอีกครั้งก่อนจะราบตามพื้นคอร์ดโดยไม่เด้งกระดอนขึ้น สู่อากาศ กั๊กฮึกเหิมลากแร็กเก็ตกับพื้นคอร์ดเปลี่ยนจุดหมุนให้แก่บอลลูกเล็กก่อนจะ งัดขึ้นสู่บรรยากาศ กระโดดสูงสามเมตรส่งท่าสแมชความเร็วสองร้อยสามสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมงโต้กลับ จนลูกเทนนิสแทบลุกเป็นไฟ

ผลัวะ!!!

ผิดคาด แทนที่ธเนศจะโต้กลับได้ ความเหม่อดันกัดกินจิตใจให้ลืมส่งลูกข้ามฝั่ง เจ้าลูกเทนนิสเจ้ากรรมจึงหมุนควงสว่านพุ่งเข้าแก้มสากๆอย่างจัง ส่งผลให้ร่างสูงร้องออกมาหนึ่งแอ้กก่อนจะหงายตึงลงบนพื้นสนาม เรียกให้เพื่อนสนิทผู้ต้องหาพยายามฆ่าต้องลนลานวิ่งข้ามฝั่งมาดูอาการอย่าง เป็นห่วงว่าตัวเองจะโดนจับ

...

...

“เป็นไง ดีขึ้นบ้างรึยัง” กั๊กถามขึ้นหลังจากที่ลากร่างสูงมานั่งประคบเย็นข้างขอบสนามได้พักใหญ่

“อืม โทษที ดันหลับซะได้”

“หลับระหว่างเล่นเทนนิสเนี่ยนะ?!”

หลับก็คือหลับ ธเนศยอมรับว่าตัวเองก๊งถึงขนาดหลับระหว่างเล่นเทนนิส แต่จะไม่ให้หลับได้ยังไง ก็นอนไม่หลับมาตั้งสองคืนแล้วนี่นา

หลังจากที่โยกลับไป ตอนแรกชายหนุ่มล้มตัวลงนอนบนเตียงหลังใหญ่อย่างรื่นเริง ดีจริงๆ ในที่สุดก็ได้ครอบครองเตียงคนเดียวแล้ว ไม่ต้องมีผู้ร่วมเตียงแล้ว แต่หลังจากนั้นอีกครึ่งค่อนคืนกลับต้องลุกขึ้นมาต้มมาม่ากินด้วยเหตุผลว่า ตามันไม่ยอมปิด

ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าการมีคนนอนอยู่ข้างๆทุกคืนเกือบหนึ่งเดือนมันทำให้นิสัยขาดคนนอนข้างๆไม่ ได้ก่อกำเนิดขึ้นมา ธเนศนึกถึงหน้าใสๆที่นอนซุกอยู่ข้างกายทุกคืน เมื่อตื่นขึ้นมาก็ต้องคอยแงะร่างเล็กที่นอนกอดก่ายแน่นเป็นปลิงเสียทุกครั้ง ไป ตอนแรกก็รู้สึกรำคาญว่าร้อนจะตายจะมากอดทำไม แต่หลังๆดันติดใจสัมผัสอบอุ่นนุ่มนิ่ม กับกลิ่นแป้งเด็กหอมๆซะได้

“ก็นอนไม่หลับน่ะสิ” หลังจากเหม่อไปได้สามย่อหน้า ธเนศก็ตอบกลับไป

“ทำไมล่ะ เด็กคนนั้นกวนหรือไง...ชื่ออะไรนะ...โยใช่มั้ย”

“ก็ไม่ได้กวนหรอก ที่จริงก็นอนไม่หลับตั้งแต่ที่เด็กนั้นกลับห้องไปนั่นแหละ”

“เห” กั๊กยิ้มกริ่ม ชี้นิ้วชี้จิ้มแก้มสากล้อๆ “เหงานอนไม่หลับใช่มั้ย ถ้าไงให้เพื่อนคนนี้ไปนอนเป็นเพื่อนดีมั้ยจ๊ะ เนเน่จัง”

ใช่...เพื่อนของเขาคนนี้เดา ได้ไม่ยากหรอก...กั๊กคิด...ก็ตอนที่มันมาอยู่หอใหม่ๆยังต้องมาขอนอนด้วย เพราะนอนคนเดียวไม่หลับเลยนี่นา ใช้เวลาตั้งนานกว่าจะแก้นิสัยนี้หาย ตอนนี้มีคนมานอนข้างๆด้วยตั้งหนึ่งเดือน คงจะติดใจซะแล้วล่ะมั้ง

ธเนศปัดนิ้วของเพื่อนสนิททิ้งฉุนๆ “พอเลย ไอ้บ้า ฉันนอนคนเดียวได้โว้ย”

กั๊กคว้าผ้าขนหนูที่พาดบนกระเป๋าขึ้นเช็ดหน้าพาดบ่า ก่อนจะหยิบขวดน้ำเย็นขึ้นกรอกปาก “วันนี้ร้อนนะ ว่ามั้ย?”

ธเนศพยักหน้าตอบไปแกนๆ “อือ”

“เล่นเทนนิสแล้วเมื่อยแขนด้วย ไม่ได้ออกแรงเยอะๆมาตั้งนาน”

“...อือ”

“เอางี้...ไปนวดกันมั้ย นวดน้ำมันน่ะ นายไม่เคยนวดนี่นา ฉันมีร้านประจำอยู่ ที่นั่นเค้านวดสบายสุดยอดเลยนะเฟ้ย ไปด้วยกันมั้ย?”





“…ไม่ดีกว่าว่ะ...”


+++++++++++++++++++++++++++++++++++


...ประตูห้องคอนโดทุกห้องมัน ก็ครือๆกัน กริ่งมันก็คล้ายๆกัน...แล้วทำไมกดยากกดเย็นอย่างนี้ฟะ…ธเนศคิดอย่างหัวเสีย เดินวนไปมาเป็นเลขแปดอยู่หน้าห้องโยมาเป็นเวลาสิบกว่านาทีแล้ว

...ก็แค่บอกว่าทำข้าวเกิน ให้ไปนั่งกินด้วยกัน แค่นี้เอง เอาเลย! ไอ้เนศ เคาะประตูแล้วก็บอกไป...แค่นี้เอง

คิดวนไปมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ โดยพยายามปัดเหตุผลที่ว่า กินข้าวคนเดียวแล้วเหงาทิ้งไป

จะว่าไปก็ไม่เห็นหน้ามาตั้ง สามวันแล้ว เห็นโยบอกแค่ว่าต้องเคลียร์งานให้เสร็จ แล้วก็หายหน้าไป ไม่รู้จะเป็นยังไงบ้าง ขนาดอยู่สองคนยังมีเรื่องป่วนๆป้ำๆเป๋อๆทุกวัน นี่มาอยู่คนเดียวคงไม่ได้ทำห้องเละไปแล้วหรอกนะ

คิดอย่างเป็นห่วงกลัวว่าถ้า เปิดห้องมาแล้วจะมองเห็นสภาพฉนวนอาก้าอยู่ข้างใน ก่อนจะรู้สึกตัวว่าเพ้อเจ้อเกินไป ส่ายหัวทิ้งพลางกลั้นใจกดกริ่งติ๊งต่อง

...

...

...เงียบ...

หรือว่าไม่อยู่?

ติ๊งต่อง~

….

…เงียบ...

ก็คงจะไม่อยู่ แต่คิดอีกที เจ้าตัวบอกเองว่าจะรีบเคลียร์งานนี่นา...ร่างสูงถือวิสาสะบิดลูกบิดประตูลอง เปิดดู...แล้วก็เปิดได้จริงๆ...เจ้าเด็กนี่น้า บอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ล็อกประตู ไม่รู้จักจำ!

แต่ก็ต้องปัดความคิดที่จะจับ ตีก้นลงโทษทิ้งไป เมื่อสภาพที่เห็นในห้องนั้น เต็มไปด้วยกระดาษเอกสารเกลื่อนพื้นห้อง เมื่อกวาดสายตามองไปยังส่วนกลางของห้องก็ต้องลนลาน เมื่อเห็นร่างบางนอนฟุบหน้าแน่นิ่งอยู่ที่พื้น ไม่มีท่าทีว่าจะลุกขึ้นมาต้อนรับผู้บุกรุกเลย

โดยไม่ต้องคิด ธเนศรีบเขย่งก้าวกระโดดข้ามกองเอกสารไปยังร่างของเด็กหนุ่ม จับนอนหงายก่อนที่มือใหญ่จะตบแปะลงบนแก้มใสที่เริ่มซูบตอบเบาๆ “โย...เฮ้ย!...โย...”

ไร้เสียงตอบรับกลับมา ทำให้หัวใจเต้นถี่รัวด้วยความเป็นห่วง ธเนศจับแขนบอบบางพาดบ่า ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เมื่อเห็นว่าท่านี้ไม่เหมาะจึงค่อยเปลี่ยนเป็นท่าอุ้มเจ้าสาวแทน พลางรับรู้ถึงน้ำหนักแผ่วเบาของร่างในอ้อมแขน

“อย่าเพิ่งเป็นอะไรไปนะ โย” พูดกับร่างไร้สติเบาๆก่อนจะรีบอุ้มออกจากห้อง มุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาล ปล่อยให้กับข้าวที่ทำเผื่อสำหรับสองคนแห้งจืดอยู่ในห้องอย่างเดียวดาย


++++++++++++++++++++++++++++++++


“หิวจนเป็นลม”

เป็นคำที่หมอบอกมา ธเนศฟังด้วยความเซ็งจิต ใจหนึ่งก็โล่งอกที่โยไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่อีกใจก็นึกโมโหว่า เจ้าเด็กนี่ปั่นหัวเขาอีกแล้ว

หลังจากคุยกับหมอเรียบร้อย ร่างสูงก็เปิดประตูเข้าไปยังห้องพิเศษที่เด็กหนุ่มนอนให้น้ำเกลือ เหลือบมองร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงขาวสะอาด...โยยังไม่มีท่าทางว่าจะตื่นเลย ...นี่คงจะอดข้าวอดน้ำแล้วยังอดนอนด้วยสินะ ถึงได้หลับลึกขนาดนี้...

ขาแกร่งก้าวไปยังเตียงนอน พิจารณาใบหน้าขาวใสอย่างเหม่อลอย

มองกี่ทีก็ชอบ...ใบหน้านี้ ...หลงรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นในผับ ถ้าไม่ได้เป็นผู้ชายก็คงจะดี...ไล่ตั้งแต่หน้าผากกลมมน คิ้วเรียวโก่ง แพขนตาหนา จมูกรั้นน้อยๆบ่งความเอาแต่ใจ ไล่ลงมาถึงริมฝีปากแดงอิ่มก็พลันหน้าแดง เมื่อนึกถึงเรื่องในคืนก่อน...ปากน้อยนี้เอง ที่ครอบครองทั้งหมดของเขาเอาไว้ ปากนี้เอง ที่เขาปลดปล่อยห้วงอารมณ์ใส่จนหยาดหยดสุดท้าย

ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงต่ำ ดวงตาจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากราวกับต้องมนตร์ อีกเพียงไม่กี่เซ็นริมฝีปากจะแตะกัน ...อีกแค่นิดเดียว...

แกร็ก!

เสียงประตูห้องเปิดผางอย่าง กะทันหันทำให้ร่างสูงลุกขึ้นเหยียดเต็มความสูงอย่างตกใจ เมื่อหันกลับไปก็พบว่ากั๊กกำลังมองตรงมาด้วยสายตารู้ทัน

“มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะ ก็แค่...” ธเนศเอ่ยแก้ตัวลนลานก่อนจะสะบัดหัวแรงๆทีหนึ่ง “ฝากด้วยละกัน เดี๋ยวจะไปซุปเปอร์ข้างๆซื้อของใช้ส่วนตัวก่อน คงต้องนอนโรงพยาบาลซักคืนนึง...” พูดยังไม่จบดีก็ผลุนผลันออกจากห้องไปทิ้งให้เพื่อนสนิทอยู่กับร่างบางตาม ลำพัง


+++++++++++++++++++++++++++++++++++


หลังจากได้ข่าวเรื่องรุ่น น้องผู้ร่วมงานป่วยเข้าโรงพยาบาล กั๊กจึงเดินทางมาเยี่ยมเพื่อแสดงน้ำใจเล็กๆน้อยๆ...ก็ดีเหมือนกัน จะได้มาเห็นหน้าด้วย ยังไม่รู้จักกันเลย

คิดพลางเดินเข้าไปใกล้เตียงนอนเพื่อดูหน้า ทันทีที่เห็นใบหน้าคุ้นตาก็ต้องเบิกตากว้างไปพักใหญ่ ก่อนจะรวบรวมสติได้ ยกยิ้มอย่างย่ามใจ

“ลืมตาได้แล้วมั้ง?” กั๊กพูดเบาๆ

แพขนตาหนากระตุกนิดๆก่อนที่เปลือกตาบางจะลืมขึ้นเผยให้เห็นดวงตาสีราตรีใสแจ๋วข้างใต้

“ตรงนี้น่ะ” กั๊กว่าพลางทำท่าชี้ขนตา “ไม่เนียนเลย คนหลับเค้าไม่กระตุกกันหรอกนะ” จะว่าไป ไอ้เนศนี่ก็ซื่อบื้อซะจริง แค่นี้ก็ดูไม่ออก

“เรารู้จักกันด้วยเหรอ?” โยถามเรียบๆ ค่อนข้างหัวเสีย...ชิ อีกนิดเดียวพี่เนศก็จะจูบแล้ว ดันมาขัดจังหวะซะได้

กั๊กยิ้ม “จำไม่ได้สินะ เราเคยเจอกันที่ผับครั้งนึง”

“เหรอ?” โยตอบรับแกนๆอย่างไม่สนใจใยดี

“นายชื่อโยใช่รึเปล่า คนที่อยู่กับเนศตอนนี้?” กั๊กเปิดประเด็นอย่างใคร่รู้

โยหันกลับมาให้ความสนใจชาย หนุ่มหน้าตี๋ มองผ่านเลนส์ใสของแว่นตาเข้าไปยังดวงตาดำสนิทข้างใต้...พี่เนศสนิทกับคนคน นี้ขนาดเล่าเรื่องเขาให้ฟังเชียวหรือ? “ถ้าใช่แล้วจะทำไม”

“ก็ไม่ทำไม” ยืดตัวสูงแสร้งให้ความสนใจกับขวดน้ำเกลือที่แขวนอยู่แทน ก่อนจะหันกลับมาสบตาจริงจัง

“แค่จะบอกว่า เลิกตามตื้อเนศอย่างนี้ซะเถอะ มันไม่ได้ผลหรอก”


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ธเนศหิ้วถุงก๊อบแก๊บบรรจุของ ใช้ส่วนตัวห้าหกอย่างไว้ที่แขนข้างหนึ่ง อีกข้างหิ้วตะกร้าผลไม้เยี่ยมไข้ ก่อนจะหายใจเข้าเฮือกใหญ่ เตรียมตัวเปิดประตูเข้าห้องไป…กั๊กคงจะไม่บอกเรื่องเมื่อกี้ให้โยรู้หรอกนะ เสียหน้าแย่ ตัวเองประกาศปาวๆว่าผู้ชายรักกันมันผิด ดันลืมตัวจะไปจูบเค้าซะได้

แต่ยังไม่ทันได้เปิดประตู ประตูดันชิงถูกเปิดจากข้างในก่อน ตามด้วยเสียงของกั๊กที่พูดก่อนจะออกมาจากห้อง “...คิดให้ดีนะ...”

คิดอะไร?

เมื่อกั๊กหันกลับมาจ๊ะเอ๋กับธเนศที่ยืนเอ๋ออยู่ก็เบิกตากว้างเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้ “ฉันกลับก่อนนะ มีงานค้างอยู่น่ะ”

...งานอะไรฟะ นี่มันวันอาทิตย์ กลบเกลื่อนเห็นๆ...

แต่ธเนศก็ไม่ได้ว่าอะไร ในเมื่อเพื่อนเขาไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มมองตามแผ่นหลังของเพื่อนที่ห่างไปทุกทีก่อนจะละกลับมา ให้ความสนใจคนที่อยู่ในห้องแทน

“ตื่นแล้วเหรอ” ...น่าแปลก ดูโยจะเหม่อลอยผิดปกติ คงจะยังเพลียอยู่.... ร่างสูงไม่ว่าอะไร เดินไปวางผลไม้กับถุงของใช้ที่โต๊ะตรงข้ามเตียงแทน





“พี่เนศใจดีกับทุกคนอย่างนี้รึเปล่า?” อยู่ดีๆโยก็ถามขึ้นมา

“อะไรนะ?” ด้วยความว่าคงจะฟังเสียงเบาๆนี้ไม่ชัด ธเนศจึงถามกลับไป แต่น่าเสียดาย ที่คงจะไม่ได้ยินคำถามนี้อีกเป็นครั้งที่สอง

โยล้มตัวลงนอน ดวงตามองหยดน้ำเกลือหยดติ๋งๆอย่างเหม่อลอย


++++++++++++++++++++++++++++++++

playCardPlaYBoy

  • บุคคลทั่วไป
แฟนผมเป็นคนโรคจิต 10
....................
ลมหนาวต้นปีพัดโกรกเข้ามายัง ส่วนของที่จอดรถคอนโด พาให้ร่างบางต้องกระชับเสื้อหนาวเพิ่มความอบอุ่นให้แก่ตัว เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ ใจก็คิดหมกมุ่นอยู่แค่เรื่องเดียว

“เลิกตามตื้อเนศอย่างนี้ซะเถอะ มันไม่ได้ผลหรอก” เป็นคำที่ติดอยู่ในใจมาตั้งแต่วันที่นอนโรงพยาบาล

“ที่เนศมันใจดีอย่างนี้น่ะ เพราะเป็นนิสัยของมันเอง ไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าจะต้องทำดีกับใครเป็นพิเศษ” เป็นอีกคำที่บั่นทอนกำลังใจเด็กหนุ่มทั้งยามหลับยามตื่น

เขาก็พอเข้าใจ...แรกเริ่มที่ ตัดสินใจวางแผนจีบพี่เนศ เขาก็ใช้ความใจดีที่เป็นจุดอ่อนของพี่เนศนี่แหละ ทั้งการขอเข้าไปอยู่ด้วย ทั้งขอให้สอนทำอาหาร ทำงานบ้าน แล้วก็อีกมากมาย จนถึงเดี๋ยวนี้จึงยังไม่แน่ใจสักที ว่าที่พี่เนศปฏิบัติกับเขานั้น ‘เป็นพิเศษ’ หรือว่าแค่ปกติทั่วไป

“เฮ้อ” โยถอนหายใจเฮือกใหญ่ วันที่ในนาฬิกาข้อมือยิ่งทำให้กลุ้มหนักกว่าเดิม

...วันนี้เขาจะต้องกลับบ้านตามสัญญาที่ให้ไว้กับทางครอบครัวแล้ว...

...ทั้งๆที่ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย…

“เหม่ออะไร?”

เสียงเข้มเรียบที่พูดอยู่ ข้างตัวทำให้เด็กหนุ่มสะดุ้งเฮือก เพิ่งรู้ตัวว่ามีคนอยู่ใกล้ๆ เมื่อหันไปมองก็ต้องขำกับภาพที่เห็น ผู้ชายตัวโตหอบตุ๊กตาคิตตี้เต็มไม้เต็มมือนี่มันดูไม่เข้ากันเอาซะเลย

“ขอบคุณครับ ท่านรอง” โยขอบคุณพลางรับตุ๊กตาตัวใหญ่ไว้ในอ้อมแขน ยิ้มอย่างดีใจว่าในที่สุดก็หาได้เสียที...ตุ๊กตาคิตตี้ที่พี่เนศนั่งจ้องใน แคตตาล็อกวันนั้น คิดว่าคงจะอยากได้มาก จึงเพียรหามาเป็นของขวัญก่อนที่จะกลับบ้านไป ตอนแรกจะโทรหาพี่นัท ก็คิดได้ว่าเรื่องนี้ไม่น่าให้พี่นัทรู้ จึงโทรหาท่านรองชวนันท์แทน คิดว่าคงจะพอรู้แหล่งอยู่บ้าง...แล้วก็รู้จริงๆเสียด้วย แถมยังอุตส่าห์ไปซื้อมาให้อีกต่างหาก

“โอ๊ะ!” อุทานออกมาเบาๆเมื่อน้ำหนักของตุ๊กตามากกว่าที่คิดไว้ทำให้เซถอยหลังไปก้าว หนึ่ง พลันรู้สึกถึงมือใหญ่อุ่นที่ดุนแผ่นหลังไม่ให้หงายล้มลงไป เงยหน้าขึ้นก็พบท่านรองมองมาอย่างดุๆ

“ระวังหน่อย” วูบหนึ่งที่โยคิดว่า ท่านรองนี่ก็เป็นคนดีเหมือนกันนะ โดยหารู้ไม่ว่า ชายหนุ่มไม่ได้ห่วงร่างบางเลย ก็แค่ห่วงว่าผลิตภัณฑ์ซานริโอ้®ในดวงใจจะเปื้อนฝุ่นเท่านั้นเอง

“ขอบคุณ” โยตอบกลับอย่างญาติดี ยิ้มหวานส่งให้พร้อมกล่าวคำลา “แล้วจะโอนเงินค่าตุ๊กตาไปให้นะครับ” เมื่อหันหลังกลับเดินไปได้สามก้าวก็ถูกอุ้งมือหนาตะบบบ่าหยุดเอาไว้เรียกให้ หันกลับไปมอง

“รูปถ่ายของนัท” ชิ...นึกว่าลืม...โยคิดอย่างหัวเสีย ควักอัลบั้มรวมรูปพี่นัทตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัยส่งให้ร่างสูง

“ขอบใจ” ท่านรองพูดเพียงสั้นๆก่อนจะขึ้นรถปิดประตูซิ่งออกจากบริเวณลานจอดไป


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++


จากลานจอดรถ ขึ้นลิฟท์มาถึงห้องตัวเองได้ก็เรียกเหงื่อไม่น้อยเหมือนกัน เพราะเจ้าคิตตี้ตัวนี้มันหนักเหลือเกิน แต่ในใจมันเบิกบานจนไม่ได้คิดว่าลำบากอะไร...ในหัวนึกถึงใบหน้าดีใจยามที่ ร่างสูงได้ของขวัญ ยามที่พวกเขากินข้าวเย็นมื้อสุดท้ายด้วยกัน คิดเผื่อถึงว่าจะทำอย่างไรจึงจะขโมยจูบได้ ริมฝีปากแดงอิ่มก็ยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

เด็กหนุ่มรูดการ์ดกุญแจเปิดประตูเก้ๆกังๆ ฉับพลันก็ต้องร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ เมื่อรู้สึกถึงแรงจับที่ต้นแขน

“เคยสัญญากันแล้วไม่ใช่รึไง ว่าอย่าไปยุ่งกับเจ้าชวนันท์อีก” เสียงเครียดๆที่กระซิบข้างหูทำให้ขนอ่อนลุกชันไปหมด

“พี่เนศ!” เมื่อหันกลับไปก็ต้องถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างกริ่งเกรง หน้าตาบึ้งตึงของธเนศนั้นน่ากลัวแบบที่โยไม่เคยเห็นมาก่อน...พี่เนศโกรธ อะไร?

ร่างสูงเหลือบมองตุ๊กตาตัวใหญ่ แค่นเสียงต่ำ “แอบพบกันไม่พอ ยังอุตส่าห์หาตุ๊กตามาเป็นของขวัญกันอีก นี่คงจะคิดถึงกันมากสินะ!”

…เขาจะคิดว่าพี่เนศโกรธเพราะหึงได้รึเปล่า?...

“ถึงขนาดแลกไดอารี่กันอ่าน หึ! น่ารักกันจริงนะ”

...เขาเข้าข้างตัวเองได้มั้ย?...

“เคยบอกแล้วไง ว่าพี่ยอมให้พวกนายทำให้นัทเสียใจไม่ได้!!”

คำพูดบาดลึกจิตใจเหมือนเป็นคำตอบที่บดขยี้ความหวังของเด็กหนุ่มเสียแหลกละเอียด กระบอกตาร้อนผ่าว ก้อนจุกคอจนพูดไม่ออก

“ผู้ชายมีตั้งเยอะแยะ จะไปยุ่งกับคนที่เค้ามีเจ้าของแล้วทำไม!”

ยังไม่ทันตอบกลับไป ริมฝีปากก็ถูกปิดด้วยปากบางของคนตัวสูงกว่า ตามด้วยลิ้นหน้าที่จาบจ้วงเข้ามาอย่างดุดัน ด้วยความคาดไม่ถึงว่าจะเป็นฝ่ายถูกจูบ ทันทีที่ปากแยกจากกัน เด็กหนุ่มจึงถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “พี่เนศทำอะไร?”

คำตอบที่ได้กลับมากลับยิ่งทำให้ใบหน้าที่ร้อนอยู่แล้ว ร้อนฉ่ามากขึ้นกว่าเดิม

“ก็ในเมื่ออยากได้ผู้ชายนัก จะสนองให้ไง จะได้ไม่ต้องไปรบกวนคนอื่นเขา”

…พี่เนศมองเขาในมุมนี้เองเหรอเนี่ย? การที่เขารุกพี่เนศหนักหน่วงทำให้เขาดูเป็นผู้ชายใจง่ายในสายตาพี่เนศใช่มั้ย?...

พี่เนศยอมเป็นของเขาแล้ว... แต่มันไม่ได้ทำให้รู้สึกดีเลยสักนิด...มันต้องไม่ใช่อย่างนี้…พี่เนศควรจะ ตอบรับเขาเพราะความรักไม่ใช่เหรอ?...

…มันต้องไม่ใช่อย่างนี้...

มือใหญ่กำต้นแขนบางไว้แน่น ใบหน้าหล่อเหลาซุกลงกับซอกคอขาว ดูดดุนจนเกิดจ้ำแดงช้ำ อีกมือปลดกระดุมเสื้ออย่างรุนแรง โดยไม่ได้ทันเห็นหยดน้ำอุ่นที่ไหลกลิ้งลงจากหางตาเลย

พลั่ก!!!

โดยไม่ทันตั้งตัว ร่างสูงพลันรู้สึกถึงแรงของกำปั้นที่กระทบข้างแก้มเข้าอย่างจังจนหน้าหัน เมื่อหันกลับมามองก็ต้องตกตะลึงกับภาพของเด็กหนุ่มใบหน้าอาบไปด้วยน้ำตา ทั้งๆที่หน้าใสนี้มักจะยิ้มให้เขาอยู่เสมอๆ

“พอกันที” โยกลั้นใจพูด พยายามไม่ให้เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมา ร่างบางจับมือใหญ่หมับ ลากไปยังส่วนของห้องนอน นั่งคุกเข่าลง เปิดลิ้นชักตู้ ล้วงของที่เก็บอย่างดีโยนใส่ชายหนุ่ม

“นี่ของที่ผมเคยเอามา ผมคืนให้พี่เนศ”

ธเนศก้มลงมองอย่างงงๆ มีทั้งผ้าเช็ดหน้า ผ้าขนหนู ช้อนส้ม ที่โกนหนวด แม้กระทั้งกางเกงในที่หายไป ถูกห่ออยู่ในถุงพลาสติกอย่างดี กองแน่นิ่งอยู่บนพื้นพรม “นี่มัน?”

“ใช่...ของของพี่เนศนั่นแหละ น่ารังเกียจใช่มั้ย ที่ผมเป็นโรคจิต ชอบเก็บของของคนที่ตัวเองรัก!! ของที่หวังว่ามันจะเป็นตัวแทนของคนคนนั้นได้ คนที่อยู่ในใจของผม!!”

“นาย...”

“พี่เนศคงไม่รู้เลย พี่เนศไม่รู้อะไรเลย! ตั้งแต่เรื่องที่ผมได้มาทำงานกับพี่เนศ ผมก็วางแผนกับคุณชวนันท์ไว้ ให้พี่นัทไม่ว่างมา ผมจะได้มาแทน บริษัทที่จ้างพี่เนศออกแบบ ก็บริษัทบ้านผม ห้องห้องนี้ผมก็จงใจย้ายมา เพราะรู้ว่าพี่เนศอยู่ข้างๆนี้ แม้กระทั่งเรื่องทำห้องพัง ก็ผมทำทั้งนั้น ทั้งหมดมันเป็นแผนของผมเอง!!”

“แต่ผมก็ได้รู้แล้ว ว่าที่ลงแรงทำไปทั้งหมดมันสูญเปล่า” แขนบางยกขึ้นปาดน้ำตาที่ไหลริน กลั้นสะอื้นบอกตัวเอง “ใจของพี่เนศไม่ได้มีผมอยู่เลย พี่เนศห่วงแต่น้องชายตัวเองเท่านั้น…พี่เนศไม่เคยชายตามองผมเลย…

“...ผมจะกลับบ้านวันนี้แล้ว ...ตุ๊กตาตัวนี้ผมหามาให้เป็นของขวัญสุดท้ายก่อนจาก ขอบคุณที่คอยดูแล ขอบคุณที่พาไปโรงพยาบาล เรื่องงานที่บริษัทไม่ต้องห่วงหรอก ผมฝากเพื่อนไว้ให้ทำต่อแล้ว”

เด็กหนุ่มเขย่งปลายเท้า แนบริมฝีปากอิ่มยังปากบางของธเนศที่ยืนอึ้งพูดไม่ออก จ้องเข้าไปในดวงตาตกตะลึง เอ่ยคำเบาๆเป็นครั้งสุดท้าย

“ลาก่อนครับ”

+++++++++++++++++++++++++++++++


...โยจากไปแล้ว...

มือใหญ่ยกขึ้น ปลายนิ้วแตะริมฝีปากตัวเอง รู้สึกถึงรสเค็มปร่าของน้ำตาที่อีกฝ่ายส่งมาให้ ใบหน้าเปื้อนน้ำตาบีบคั้นจนเจ็บจี๊ดที่หัวใจ

...ในใจมันรู้สึกโหวงๆบอกไม่ถูก...

...จากนี้จะไม่ได้เจอกันแล้ว...


+++++++++++++++++++++++++++++++


นิ้วเรียวกดปุ่มโทรศัพท์มือถือ ค้นหาชื่อที่ได้บันทึกวันที่นอนโรงพยาบาล รอเสียงสัญญาณสักพักก็มีเสียงตอบกลับมา

“ว่าไง น้องโย?”

เด็กหนุ่มกลั้นใจเฮือกใหญ่ กรอกเสียงที่คิดว่านิ่งที่สุดลงไป “พี่กั๊ก...ผมทำตามที่บอกแล้วนะ”


+++++++++++++++++++++++++++++++

playCardPlaYBoy

  • บุคคลทั่วไป
แฟนผมเป็นคนโรคจิต 11 [end]
.............................
…โยจากไปแล้ว...

ร่างสูงเหลียวมองรอบห้องคอน โด เพิ่งสังเกตเห็นว่า บัดนี้เครื่องเรือนที่เคยอยู่ในห้อง ของใช้ส่วนตัวของร่างบางนั้น ถูกเก็บเรียบแทบจะไม่เหลืออยู่เลย เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า เด็กหนุ่มย้ายออกจากห้องนี้ไปแล้วจริงๆ

ท่อนขาแกร่งย่อตัวลงนั่งคุก เข่ากับพื้น หยิบสิ่งของในห่อพลาสติกขึ้นดู...ของของเขาทั้งนั้น ทั้งของที่เขาคิดว่าหายไป ทั้งของที่ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่าหายไป ดูจากช้อนส้อมใช้แล้ว โยคงจะซื้อของใหม่มาแทนที่…น่าทึ่งในความเนียนของเจ้าตัวแสบนี่จริงๆ

...น่ารังเกียจใช่มั้ย ที่ผมเป็นโรคจิต ชอบเก็บของของคนที่ตัวเองรัก!! ของที่หวังว่ามันจะเป็นตัวแทนของคนคนนั้นได้ คนที่อยู่ในใจของผม!!...

...โยชอบเขาขนาดนี้เลยเชียวหรือ...เขาจับจองพื้นที่ในใจของคนคนหนึ่งได้มากขนาดนี้เชียวหรือ

ขาเรียวยาวพาร่างสูงไปยัง ส่วนของห้องน้ำ มือใหญ่คว้าผ้าขนหนูผืนน้อยที่แขวนนิ่งอยู่ที่ราวขึ้นแนบจมูก สูดดมกลิ่นคุ้นเคยที่อยู่ข้างตัวยามหลับมาถึงหนึ่งเดือนเต็ม

...กลิ่นของโย...

...โยทำอะไรกับของที่แอบเอา มาบ้างนะ จะรู้สึกดีกับกลิ่นของเขา เหมือนกับที่เขารู้สึกดีอยู่ตอนนี้รึเปล่า...หวนคิดถึงน้ำหนักของมือน้อยที่ นวดเฟ้นน้ำมันอุ่นลงบนแผ่นอก มือใหญ่ก็วางทับร่องรอยแห่งความทรงจำ ไล่ตั้งแต่ช่วงคอแกร่ง แผ่นอกตึงแน่น วนเวียนยั่วยวนอยู่บริเวณหน้าท้อง ก่อนจะล้วงเข้าใต้ขอบกางเกง กอบกำแก่นกายตัวเองไว้หลวมๆ หลับตานึกถึงปากแดงอิ่มที่กลืนกินทั้งหมดของเขาเข้าไป ความรุ่มร้อน ความนุ่มนวลที่ได้รับ พลันขนอ่อนที่คอก็ลุกชัน จังหวะของนิ้วแกร่งเร็วขึ้นตามจังหวะของศีรษะทุยที่ผงกขึ้นลงในภาพจินตนาการ เสียวซ่านอย่างยากจะทัดทาน เร็วขึ้นเรื่อยๆจนถึงที่สุดของที่สุด ธเนศกดผ้าขนหนูผืนเล็กเข้ากับจมูกโด่งแนบแน่นกว่าเดิม สูดกลิ่นอายของเจ้าของขณะที่ปลดปล่อยห้วงอารมณ์ปรารถนาจนหมดสิ้น

ระหว่างเผยอปากหอบน้อยๆ สติรับรู้ก็หวนกลับมา

...เขาทำอะไร?...

...เขามีอารมณ์เพียงแค่คิดถึงเจ้าตัวแสบนี่น่ะหรือ?...

...รัก หวง หรือแค่หลงกัน?...

คิดอย่างสับสนไม่เข้าใจตัว เอง เขาไม่พอใจอย่างรุนแรงเมื่อภาพของเด็กหนุ่มหอบตุ๊กตาตัวใหญ่ไว้ในอ้อมแขน เซถลาเข้าสู่อ้อมอกของชวนันท์แทรกเข้ามาในจิตใจ

...ตอนนั้นเขาไม่ชอบเพราะว่าเขาไม่ต้องการให้น้องชายเสียใจ...

...

...

...ใช่มั้ย??...

 

++++++++++++++++++++++++++++++


“ไอ้เนศ เหม่ออีกแล้ว” ฝ่ามือที่ตบปั้บลงบนบ่าหนาเรียกความรู้สึกให้กลับมา ธเนศมองเพื่อนถือกล่องเค้กเจ้าประจำหน้ายิ้มแป้นอย่างหมั่นใส้...เออดี ร่าเริงกันเข้าไป

“อย่ามายุ่งกับกู” ธเนศบอกปัดๆพลางนอนพังพาบลงไปกับโต๊ะสำนักงาน

“อกหักหรือไง?” เสียงยังคงร่าเริง เรียกให้เส้นเลือดข้างขมับมันเต้นตุบๆ

“เออโว้ย!! อกหักแล้วไง!!!”

เงียบไปพักใหญ่

“อกหักจริงๆด้วย” กั๊กพูดเรียบๆ น้ำเสียงจริงจังกว่าเดิม “แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ”

“ก็ไม่ยังไง ช่างดิวะ! คนอะไร นึกจะมาก็มา นึกจะไปก็ไป!!” …ไม่ได้สนใจเล้ย ว่าคนอื่นเค้าจะคิดยังไง

“ฟังดูมันเหมือนเด็กทะเลาะกันมากกว่าว่ะ นายงอนใช่มั้ยเนี่ย?”

“จะงอนอะไรเล่า ไม่ได้ชอบซะหน่อย จะงอนทำไม” …ไม่ได้ชอบเลย จริงๆ...

“เห” เพื่อนสนิทยิ้มยียวน “แสดงว่าชอบล่ะสิ ถึงได้อารมณ์เสียอย่างนี้”

“จะชอบได้ยังไง ผู้ชายทั้งคู่” ธเนศยังคงเถียงไม่เลิก กั๊กไม่สนอะไร แสร้งแกะกล่องเค้ก วางใส่จานอย่างสบายอกสบายใจ

“เคยบอกแล้ว ว่าผู้ชายก็ช่าง รักก็คือรัก หรือนายว่าไม่จริง”

...รักก็คือรัก...ไม่อยากจะยอมรับเลย...

ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นในร้านเหล้า เช้าตรู่บนเตียงที่เกิดจากการเข้าใจผิด พบกันอีกครั้งในร้านกาแฟ จูบดูดดื่มท่ามกลางควันขโมง...

ไม่อยากยอมรับเลยว่าตกหลุม รักเจ้าเด็กตัวป่วนคนนี้ซะจนถอนตัวไม่ขึ้น...ที่ผ่านมาก็แค่ทิฐิของคนหัว ดื้อที่ไม่อยากยอมรับว่าตัวเองชอบผู้ชายเท่านั้นเอง

ธเนศสะอึก พูดไม่ออกเมื่อรู้ใจตัวเอง ฟังเพื่อนที่พูดพล่ามไปเรื่อยก็ยิ่งบาดใจ

“ก็เตือนไว้ก่อนแล้วน้า ว่าหักอกคนอื่นไปเรื่อย ระวังเจอตัวจริงจะถูกทิ้งเอา…”

คำเตือนมันเป็นจริง...เขาถูกโยทิ้งแล้วใช่มั้ย? พวกเขาจะไม่ได้พบกันอีกแล้วใช่มั้ย? โยหนีจากเขาไปแล้ว...

เมื่อเห็นว่าเพื่อนหน้าเสีย นิ่งไป กั๊กจึงไม่รอช้า หยอดใส่อีกดอก “ว่าแต่น้องโยนี่น่ารักดีนะ” ปรายตามองเพื่อนที่ใช้สายตาเอาเรื่องจ้องกลับมา มุมปากยกยิ้ม “ถ้านายอกหักแล้ว ขอต่อเลยได้เปล่า?”

...แค่เพียงนึกภาพโยกับผู้ชายคนอื่น ในอกมันก็ร้อนรุ่มไปหมด...

ร่างสูงกัดฟันกรอด เค้นเสียงลอดไรฟัน “เรื่องอะไร...”

“หา~?” กั๊กลากเสียงยาว ถามซ้ำว่าเพื่อนพึมพำอะไร

“เรื่องอะไรจะยอมวะ!!”

พูดได้เพียงประโยคเดียวก็หุน หันพลันแล่นออกจากออฟฟิศไป ทิ้งเพื่อนสนิทให้นั่งดื่มชากินเค้กอย่างร่าเริง นึกขึ้นได้ก็ต่อโทรศัพท์ไปยังเจ้าตัวยุ่ง

“ฮัลโหล น้องโย...ไอ้เนศมันแล่นไปแล้ว รอรับด้วยล่ะ แล้วก็อย่าลืมนะ อัลบั้มรวมรูปเซ็กซี่ของพี่เราน่ะ” เมื่อได้คำตอบที่พอใจ ก็วางสายไป หันมาสนใจกับเค้กของธเนศที่ไม่ได้รับการแตะต้องต่อไป

…ก็บอกแล้ว กับไอ้เนศน่ะ เอาแต่ไล่ตามเมื่อไหร่จะสำเร็จ ต้องหนีลูกเดียว มันกลัวถูกทิ้งจะตายไป...

หนุ่มแว่นคิดอย่างเป็นสุข เมื่อนึกถึงอัลบั้มรวมรูปของร่างงามสง่าผู้ที่อยู่ในดวงใจตั้งแต่วันแรกเจอ...จากนี้ไปจะได้รู้จักกันเสียที

“ว่าแต่พี่น้องนี่สวยเหมือนกันเลยน้า~” พูดเสียงสูงพร้อมกับอ้าปากงับสตอว์เบอร์รี่ชิ้นแดงเต็มคำ


+++++++++++++++++++++++++++++++++++


...หนีไปแล้วยังไง!!...

ร่างสูงคิดพลางจ่ายเงินให้รถ แท็กซี่ วิ่งตรงไปยังตึกสำนักงานใหญ่ บริษัทที่ธณัติน้องชายทำงานอยู่ ขึ้นลิฟท์ต่อตรงไปยังชั้นบนสุดโดยไม่เสียเวลาติดต่อประชาสัมพันธ์

...เจ้าเด็กนั่นยังลงทุนลงแรงเพื่อเขาไปตั้งเยอะ ทำไมเขาจะเป็นฝ่ายไล่ตามบ้างไม่ได้!!...

เดินเลยส่วนของโต๊ะเลขาสาวไป โดยไม่สนใจเสียงทัดทานที่ดังขึ้นอย่างตกใจ เมื่อเห็นป้ายทองเหลืองสลักชื่อรองประธานแปะอยู่หน้าประตูบานใหญ่ ก็ผลักผลัวะเข้าไปโดยไม่เคาะประตู

“พี่เนศ!!” เสียงคุ้นหูเรียกชื่อเขาอย่างตกตะลึง เมื่อมองเข้าไปก็ต้องอึ้งกับภาพน้องชายนั่งหันหลังเสื้อผ้าหลุดลุ่ยอยู่บน โต๊ะทำงานหลังใหญ่ อารมณ์เริ่มคุกรุ่น

...ไม่! เขาไม่ได้มาเพราะเรื่องนี้ เขามีเรื่องต้องทำ เป็นเรื่องที่สำคัญกว่าการขัดขวางน้องชายเสียอีก...

ธเนศส่ายหัวบอกตัวเอง มองรองประธานอย่างไม่ใคร่จะญาติดี แต่ก็ต้องข่มใจตัวเอง เมื่อคิดว่าคนคนนี้น่าจะเป็นคนที่รู้เรื่องของเจ้าเด็กบ้านั่นดีที่สุด

“นัท ขอพี่คุยกับเจ้าชวนันท์สองคน” พูดจบก็ยืนจ้องหน้าจ้องตาแผ่รังสีกับท่านรองประธาน ปลายสายตาเห็นน้องชายตัวเองแต่งตัวอิหลักอิเหลื่อก่อนจะออกจากห้องปิดประตู บานใหญ่ดังแกร๊กเบาๆ

“มีเรื่องอะไร” เมื่อท่าทางมาไม่ดี ชวนันท์ก็ส่งท่าต้อนรับพร้อมขับสู้กลับไป บรรยากาศให้ห้องราวกับมีเมฆดำเข้าปกคลุม

ธเนศเดินย่างสามขุมเข้าไปยัง ส่วนกลางของห้องรองประธาน เสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นหินอ่อนดังแกร๊ก แกร๊ก บวกกับอุณหภูมิเย็นเฉียบยิ่งทำให้ระหว่างชายร่างสูงสองคนราวกับมีสายฟ้าฟาด ฟันกันอยู่

มือใหญ่กำแน่นจนสั่น เล็บจิกเข้าอุ้งมือจนเจ็บแปล็บ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มหลับสนิท กัดฟันกรอด ก่อนจะพูดด้วยเสียงที่คิดว่า ร้อนรนน้อยที่สุด

“ขอที่อยู่บ้านโยด้วย”

“หา?” ชวนันท์เบิกตากว้าง ถามอย่างเก๊กแตก ไม่นึกว่าพี่ชายของธณัติจะมาหาเขาด้วยเรื่องนี้

ธเนศก้มหน้า ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่ต้องพูดกับเจ้าคนที่เขาเกลียดแสนเกลียดนี้...แต่ เมื่อชั่งน้ำหนักระหว่างได้เจอหน้าใสๆที่หลอกหลอนในใจอยู่ตอนนี้กับการเสีย หน้าให้เจ้าชวนันท์ เขาก็พูดลอดไรฟันออกมาเสียงเบา “ขอร้องล่ะ”

ชวนันท์มองธเนศก้มหน้านิ่ง แก้มแดงเป็นมะเขือเทศ มุมปากก็ยกยิ้ม “แล้วถ้าฉันไม่บอกล่ะ?”

ใบหน้าหล่อเหลาเงยขึ้น จ้องเข้าไปในดวงตาดำสนิทของคู่สนทนาอย่างเว้าวอน ราวกับสุนัขถูกเจ้าของงดอาหาร นั่นทำให้ท่านรองประธานอดรนทนแกล้งต่อไปไม่ได้...ก็หน้าตามันเหมือนธณัติเลย นี่นา แค่เห็นหน้าเศร้าๆก็ปวดจี๊ดที่ใจแล้ว ร่างสูงถอนหายใจ มือล้วงกระเป๋าหยิบบุหรี่ขึ้นคาบจุดสูบ พ่นควันปุ๋ย ก่อนจะพูดออกมาเรียบๆ “…หนึ่งเดือน”

“หา?”

แสร้งหยิบเอกสารขึ้น อ่านอย่างไม่สนใจคู่สนทนา เริ่มกลยุทธการต่อรองเมื่อเห็นว่าอยู่ในสถานการณ์ได้เปรียบ “เลิกโทรหานัทหนึ่งเดือน เลิกขัดขวางพวกเราซะ ยังไงนายก็ตกหลุมรักผู้ชายเหมือนกันแล้ว ไม่มีเหตุผลให้ต้องขัดขวางพวกเราอีก”

ใบหน้าเปื้อนน้ำตาผ่านแวบ เข้ามาทำให้จิตใจอ่อนยวบ...ตอนนี้เจ้าเด็กบ้าที่ป่วนจิตใจเขามันสำคัญกว่า การขัดขวางน้องชายเสียอีก ธเนศเงยหน้าสบสายตามุ่งมั่น พูดตอบกลับไปด้วยเสียงหนักแน่น “...ได้...”


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++


“โห~” ธเนศอุทานยาวเหยียด อ้าปากหวอเมื่อแท็กซี่พามาจอดตามที่อยู่ที่ได้มา “บ้านหรือปราสาทฟะเนี่ย!”

ไหนตอนแรกบอกว่ามีแค่พี่สาว ไม่มีบ้านอยู่จนต้องมาขออาศัยอยู่ตั้งเดือนนึง...เจ้าเด็กบ้านี่หลอกเขากี่ เรื่องกันนะ...มิน่าถึงทำงานบ้านไม่เป็นสักอย่าง ก็บ้านใหญ่โมโหราฬอย่างนี้จะเคยทำเองได้ยังไง

คิดๆไปก็ไม่เข้าใจ คุณชายอย่างโย ทำไมถึงมาสนใจผู้ชายที่ไม่มีอะไรเลยอย่างเขากันนะ พวกเขาเหมาะสมกันจริงๆหรือ?

“มาหาใครครับ?” ยามที่อยู่ในป้อมหน้าบ้านถามขึ้นมาเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างใหญ่ยืนอยู่หน้ารั้วนานสองนาน

ธเนศกลืนน้ำลายลงคอเอื๊อก ก่อนจะตอบกลับอย่างสุภาพ “หาโยครับ เขาอยู่รึเปล่า เรียกมาคุยหน่อยได้มั้ย?”

“คุณธเนศรึเปล่าครับ?”

หัวใจพองโตเมื่อคิดว่า ร่างบางคงจะบอกให้เขาเข้าไปได้ ถึงได้บอกชื่อให้ยามรู้อย่างนี้  หน้าหล่อพยักหงึกหงัก หูตั้งหางกระดิก

“คุณหนูโยสั่งว่า ห้ามให้คุณธเนศเข้าพบครับ” หัวใจดวงโตๆพลันห่อเหี่ยว โยยังโกรธเขาอยู่แน่ๆ

“ขอผมคุยด้วยหน่อยได้มั้ย ผมมีเรื่องสำคัญจะต้องคุยจริงๆ” เมื่อออดอ้อนนานเข้า ยามแก่จึงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ไม่รู้ว่ารำคาญหรือเห็นใจกันแน่

“เอางี้ ผมให้เข้ามารอในป้อมละกัน ผมจะโทรถามคุณหนูอีกที”

...ได้แค่นี้ก็เพียงพอ...ธเนศนั่งรอคอยด้วยความหวังว่า เขาคงจะมีโอกาสได้แก้ตัวอีกสักครั้งหนึ่ง

เมื่อรอไปได้สิบกว่านาที ยามแก่คนเดิมก็เดินเข้ามา ยื่นโทรศัพท์ไร้สายให้ก่อนจะเดินออกไป ธเนศมองอย่างงงๆก่อนจะยกขึ้นแนบหู

“โย?”

เงียบ

“โย ฟังอยู่รึเปล่า?”

เงียบ

ร่างสูงหลับตา ถอนหายใจก่อนจะเปิดปากระบายความในใจ “โย พี่ขอโทษ ที่ทำให้นายต้องร้องไห้ ที่ผ่านมาพี่โง่เองที่ไม่ได้มองเห็นสิ่งดีๆที่อยู่ใกล้ตัวเลย ทำร้ายความรู้สึกนายไปตั้งไม่รู้กี่ครั้ง ตอนนี้พี่สำนึกผิดแล้ว พี่ขอโทษ ยกโทษให้พี่คนนี้ได้มั้ย?”

ปลายสายเงียบไปสักพัก ก่อนจะมีเสียงปวดร้าวตอบกลับมา “พี่เนศก็แค่รู้สึกผิด พี่เนศก็แค่ใจดี…พี่เนศใจดีกับทุกๆคน”

น้ำเสียงสั่นๆเขย่าหัวใจชายหนุ่มจนเจ็บจี๊ด รู้สึกผิดเหลือเกิน “ไม่ ต่อไปนี้จะใจดีกับนายคนเดียว พี่สัญญา”

“ผมมันน่ารังเกียจ ผมเป็นโรคจิต ผมแอบขโมยของของพี่เนศ ผมวางแผนโกหกไปตั้งหลายเรื่อง” ยิ่งพูดเสียงก็ยิ่งสั่น

“พี่ไม่ได้โกรธเลย โยไม่น่ารังเกียจสักนิด ถ้าอยากได้ของของพี่ วันหลังพี่ยกให้เลยก็ได้” ร่างสูงพูดอย่างปลอบประโลม “ขอร้องเถอะ ออกมาให้เห็นหน้าหน่อยได้มั้ย?” พูดพลางมองไปยังกล้องวงจรปิดบนเพดาน หวังเหลือเกินว่าเด็กหนุ่มจะนั่งมองเขาอยู่ตอนนี้

“พี่เนศมองแต่น้องชายตัวเอง ฮึก...พี่เนศไม่เคยสนใจผม” เสียงปนสะอื้นยิ่งทำให้ลนลานยิ่งขึ้น

“พี่สัญญากับคุณชวนันท์แล้ว พี่จะเลิกสนใจนัท ต่อไปนี้จะสนใจแต่นายคนเดียว ออกมาให้พี่เห็นหน่อยได้มั้ย” อยากหายตัวไปอยู่ต่อหน้าเหลือเกิน อยากคว้าร่างบอบบางมาไว้ในอ้อมกอด อยากลูบไปบนหัวทุยเพื่อปลอบประโลม

เสียงสูดจมูกดังมาจากปลายสาย ทำให้ปวดใจเมื่อใบหน้านองน้ำตาหวนกลับมาในใจ “สำหรับพี่เนศ ความรักของผู้ชายด้วยกันมันผิด”

ธเนศหลับตา เสียใจเหลือเกินที่คำพูดของตัวเองมันกลับมาตอกย้ำว่าแต่ก่อน มุมมองของโลกในสายตามันคับแคบเพียงไหน เหมือนอย่างที่กั๊กว่า รักของผู้ชายมันก็คือความรัก เขามัวแต่ใช้เพศเป็นตัวขีดกั้น จนไม่รู้ตัวเลย ว่าตัวเองทั้งทำลายความสุขของน้องชาย ทั้งทำร้ายความรักที่เด็กคนนี้มีให้

ร่างสูงมองไปยังกล้องวงจรปิด สบตาสีน้ำตาลเข้าซื่อตรงหวังให้อีกฟากฝั่งได้เห็นความจริง

“พี่จะไม่คิดอย่างนั้นอีกแล้ว เพราะตอนนี้...พี่รักโย”

แกร๊ก!...

เสียงประตูปิดลงด้านหลัง เรียกให้ธเนศสะดุ้งสุดตัว หันหลังหนีจากกล้องวงจรปิด เผชิญหน้ากับประตูห้องแทน ยังไม่ทันได้เห็นอะไรชัดเจน ก็รู้สึกถึงแรงโหมกอด พร้อมกับร่างบางที่สั่นสะอื้นอยู่ในอ้อมอก

“โย...” แขนแกร่งกอดตอบแน่นหนา ลูบไล้ผมเส้นเล็กเหมือนขนแมวอย่างเบามือ “พี่ขอโทษ...พี่ขอโทษ...”

นิ้วเรียวเล็กนาบลงบนริมฝีปาก ปิดให้สนิท “บอกรักผมหน่อย”

มองจ้องเข้าไปในดวงตาสีราตรีรื้นน้ำแน่วแน่ กระซิบเสียงแผ่วเบา แต่หนักแน่นเหลือเกินทั้งในใจคนพูดและคนฟัง

“พี่รักโย”

ร่างเล็กเขย่งขาขึ้น แขนเรียวบางอ้อมรอบต้นคอร่างสูง เหนี่ยวให้ก้มลงต่ำ ดวงตาที่มองสบกันหรี่ปรือ ก่อนที่ปากแดงอิ่มจะแนบจุมพิตหอมหวานเนิ่นนาน

เมื่อแยกจากกันอย่างอ้อยอิ่งได้ เด็กหนุ่มก็ยิ้มหวานจับใจ เอ่ยเสียงพร่า “ผมก็รักพี่ครับ”

เป็นคำที่หอมหวานกว่าคำให้ อภัยใดๆทั้งสิ้น ธเนศกอดร่างบอบบางไว้แน่น แนบหน้าซุกต้นคอขาวอย่างชื่นใจ สูดกลิ่นกายที่ห่างเพียงวันก็คิดถึงเหลือเกินไว้เต็มปอด พลันรู้สึกถึงมือเล็กซุกซนที่ยุกยิกอยู่แถวกลางลำตัว

“...ที่นี่เลยเหรอ” ถามอย่างไม่แน่ใจเมื่อร่างเล็กลงคุกเข่า ปลดเข็มขัดให้ แต่มันก็สุดจะทานทน เมื่อรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่กระทบผิวเนื้อเปลือยเปล่า ปากบางอ้าหอบอย่างเสียวซ่านเมื่อความร้อนผ่าวเข้าครอบงำร่างกายจนอารมณ์ กระเจิดกระเจิง ลิ้นเล็กไล้เลียอย่างชำนาญ มือน้อยจับขยับรับกับจังหวะที่สะโพกแกร่งดันสวน มือใหญ่สอดสางเส้นผมสีดำอย่างรักใคร่ ก่อนที่จังหวะจะเร่งเร็วกระชั้น

“อือ~” ยิ่งฟังเสียงครางอือที่ลอดออกจากปากแดงอิ่ม มองใบหน้าขาวใสหลับตาพริ้มตั้งใจปรนเปรอความสุขให้ ยิ่งเหมือถูกเร่งเร้าให้ไต่ไปยังจุดหมายเร็วขึ้น ธเนศดันท้ายทอยเด็กหนุ่มไว้แน่น ปลดปล่อยหยาดอารมณ์อย่างห้ามไม่อยู่ จ้องมองลูกกระเดือกอีกฝ่ายเคลื่อนขึ้นลงตามการกลืนอย่างรัญจวนใจ

“ฮ่า...” เมื่อปากเป็นอิสระ โยก็ถอนหายใจแรงยาว ของเหลวขาวขุ่นเยิ้มริมฝีปากไหลเรื่อยลงมายังคาง แค่ได้เห็น อารมณ์ที่เพิ่งปลดปล่อยไปก็หวนกลับมาอีกครา

มือใหญ่ค่อยๆปลดผ้าร่างใน อ้อมแขนออกทีละชิ้นจนเปลือยเปล่า มองสำรวจผิวขาวราวผิวทารก ลมหายใจพลันหนักถี่กว่าที่เคย ยิ่งร่างบางหันหลังโค้งสะโพกให้ยิ่งยากเกินจะห้ามใจ สอดใส่ความปรารถนาตามที่มือเล็กนำทาง ความร้อนนุ่มที่ตอดรัดยิ่งทำให้เสียวซ่านจนต้องร้องครางออกมา ร่างสูงดันสะโพกเข้าจนสุดก่อนจะถอยออกมาตามจังหวะ เด็กหนุ่มก็ให้ความร่วมมืออย่างดี เสียงครางหอบของสองคนดังประสานในห้องเล็กแคบ อุณหภูมิของห้องสูงขึ้นตามลำดับ ใช้เวลาไม่นานในการไปถึงจุดมุ่งหมายปลายทาง ระเบิดพร่างพรายออกมาในเวลาเดียวกัน ร่างสูงดันสะโพกเน้นรุนแรงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะแช่ไว้เนิ่นนาน รู้สึกถึงความร้อนที่ฉีดพุ่งยังร่างกายในอ้อมกอด

เมื่อพักจนแรงหอบเบาบางลง ธเนศจึงค่อยแต่งตัวให้ร่างบาง ลูบไล้บ่าเนียนที่ซุกอยู่กับแผ่นอกกว้างอย่างรักใคร่ ก่อนจะก้มลงกระซิบเรี่ยหู “กลับบ้านกันนะ ไปอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม” ภาพห้องชุดที่มีร่างบางยิ้มต้อนรับอยู่ทุกคืนวันผ่านเข้ามาในใจ

โยเงยหน้าแนบริมฝีปากกับคางสากแวบหนึ่ง ยิ้มมีความสุขก่อนจะพยักหน้า

“...ครับ…”

แล้วเขาก็ได้สมหวังกับพี่ธเนศเสียที

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
END

~แถมท้าย~

‘ต่อไปนี้จะใจดีกับนายคนเดียว พี่สัญญา’

‘จะสนใจแต่นายคนเดียว’

‘พี่จะไม่คิดอย่างนั้นอีก แล้ว เพราะตอนนี้...พี่รักโย’ ภาพใบหน้าหล่อเหลาจ้องตรงมานั้นเรียกให้ปากแดงอิ่มยกยิ้มอย่างพึงใจ กดรีโมทย้อนหลังเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ ฟังคำที่หวังมานานให้เต็มอิ่ม

เทปเล่นต่อไปพร้อมกับใบหน้าหลับตาพริ้ม คิ้วขมวดหักห้ามใจ ยามที่ปากเล็กครอบครอง

‘อา’ เสียงแหบทุ้มในโทรทัศน์ร้องครางปลุกอารมณ์วาบหวาม มือบางยกกางเกงในขึ้นแนบจมูกสูดกลิ่นกายของคนที่ยังไม่กลับจากทำงาน

...พี่เนศจะรู้รึเปล่านะ ว่าถูกแอบอัดวีดีโอเอาไว้...

โยยิ้มตาพราว พร้อมทั้งตัดสินใจอยู่คนเดียว

...เก็บไว้เป็นความลับต่อไปดีกว่า...

แผ่นดีวีดีถูกส่งออกมาจาก เครื่องเล่น เก็บใส่กล่องที่เขียนด้านหน้าไว้ว่า ‘พี่เนศ #3’ ก่อนที่ทั้งกล่องจะถูกเก็บใส่ตู้ล็อคกุญแจอย่างแน่นหนา โดยที่คนถูกแอบถ่ายจะไม่มีวันได้รับรู้เลย


++++++++++++++++++++++++++++++++++
END

playCardPlaYBoy

  • บุคคลทั่วไป
แฟนผมเป็นคนโรคจิต ตอนพิเศษ
...............
"...อา..." เสียงหวานครางกระเส่าดังสอดประสานกับเสียงหอบฮั่กจากการออกแรงหักโหม เหงื่อเย็นๆหยดลงบนที่นอนยับยู่จนเปียกชื้นเป็นวง ตรงข้ามกับไอแห่งความร้อนรุ่มที่แผ่กำจายออกจากสองร่างขับให้อุณหภูมิในห้อง สูงขึ้นเรื่อยๆ

ธเนศหรี่ตามองวงหน้าหวานของ คนข้างบน เลือดสูบฉีดพวกแก้มใสจนแดงระเรื่อน่าเอ็นดู บ่าบางขยับขึ้นลงตามจังหวะการขยับกายสอดประสาน ปากแดงช้ำเผยอรับอากาศราวกับไม่ได้หายใจมานานปี ดวงตาหรี่ปรือ คิ้วเรียวขมวดมุ่น ยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกว่าลำดับขั้นของอารมณ์กำลังไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มออกแรงเสือกสะโพกขึ้นกระแทก มือแกร่งจับเอวบางไว้แน่นอำนวยความสะดวกในการขยับเคลื่อนอีกแรง จนเกือบจะสุดฟากฝั่งฝัน ใบหน้าหวานก็แหงนเงยขึ้น ครางเสียงยาวนาน มือเล็กขยับเร่งจังหวะที่กอบกุมตัวเองอยู่ ปลดปล่อยความต้องการอย่างรุนแรง เป็นเวลาเดียวกับที่เขาปลดปล่อยในร่างบาง

โยหมดสิ้นเรี่ยวแรง ล้มฟุบลงกับแผ่นอกกำยำก่อนจะผล็อยหลับไปอย่างสุขสมอารมณ์หมาย

...

...

...

ท้องฟ้าเริ่มขมุกขมัว อากาศยามเย็นไม่ใคร่จะเย็นนัก แต่ลมแรงๆบนคอนโดชั้น 24 ก็เพียงพอที่จะไล่เหงื่อแฉะๆตามเนื้อตัวให้แห้งได้

ธเนศนั่งขัดสมาธิอยู่ที่ ระเบียงของห้อง กวาดตามองท้องฟ้ายามเย็น สีของมันก็ดูสวยดี แต่จิตใจของชายหนุ่มกลับไม่ได้สวยงามไปตามทิวทัศน์ที่ได้ชมสักเท่าไหร่

...ศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย...

ตั้งแต่เล็กแต่น้อย ทั้งป๊า ทั้งอากงก็คอยฝังความคิด ความทระนงในความเป็นผู้นำแห่งเพศพ่อ เขาก็เชื่ออย่างนั้น ผู้ที่แข็งแกร่ง ควรจะได้เป็นผู้นำ ควรจะเป็นผู้ที่คอยชี้ทิศทางความถูกต้องสมบูรณ์แบบ

...แล้วทำไม...

ทำไมทุกครั้งที่มีอะไรกัน เขากลับรู้สึกเหมือนเขาเป็นผู้ตาม โยกลับเป็นผู้คอยควบคุมความเป็นไปให้สมใจอยาก ทุกจังหวะ ทุกการเคลื่อนไหว เหมือนกับว่าเขาจะตกอยู่ภายใต้มนต์สะกดของเจ้าปีศาจน้อยตนนี้เสียทุกครั้งไป

ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีความสุข ธเนศยอมรับกับตัวเองว่า การได้มีอะไรลึกซึ้งกับเด็กคนนี้ นำพาความสุขสมให้เขาอย่างเต็มที่

แค่มันรู้สึกว่าเสียเชิงชาย

ราวกับมีเสี้ยนชิ้นเล็กๆคอยทิ่มคอยตำเขาอยู่เรื่อยมา ไม่ได้เจ็บ แต่ก็รู้สึกรำคาญ

...เขาควรจะได้เป็นฝ่ายนำบ้างซี่!!!...

“ผมบอกพี่พลกี่ครั้งแล้ว ว่าให้ทิ้งไปซะที!!!” ร่างสูงสะดุ้งสุดตัวเมื่อจู่ๆก็มีเสียงตวาดดังแทรกความคิด ทิศทางของเสียงไม่ใกล้ไม่ไกล อยู่ที่ระเบียงห้องข้างล่างเขาเพียงชั้นเดียว

มือใหญ่เลื่อนประตูกระจก ระหว่างห้องกับระเบียงให้ปิดสนิท ด้วยกลัวว่าเสียงจะไปรบกวนคนที่หลับสงบอยู่ในห้องนอน ธเนศส่ายหัวถอนหายใจพลางคิดในใจ ...ห้องข้างล่างมีเรื่องอีกแล้ว...

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามา นั่งเล่นที่ระเบียงแล้วได้ยินเสียงจากด้านล่าง ระเบียงห้องตรงกันพอดีอย่างนี้ จะหาว่าแอบฟังก็กระไรอยู่ แต่สองหนุ่มผู้อาศัยในห้องข้างล่างนี่มักจะมีเสียงเผื่อแผ่มาถึงห้องของเขา เสมอๆ บางวันก็ต้องสะดุ้งเพราะเสียงถกเถียงกัน...ก็เรื่องเดิมๆ...ฝ่ายหนึ่งให้ ทิ้งอะไรสักอย่าง อีกฝ่ายหัวชนฝาก็ไม่ยอม ทะเลาะกันไป ทะเลาะกันมา สุดท้ายก็จบลงด้วยเสียงครางกระเส่าทุกที

“น้องปอนด์ พี่ก็บอกแล้วว่าขอเก็บไว้แค่ชุดเดียว” เก็บอะไรฟะ?

“ผมก็บอกแล้วไง ว่าให้ทิ้งไป อยากดูผมก็ให้ดูอยู่แล้ว จะถ่ายเก็บไว้ทำไม!!!” คนที่น่าจะเป็นน้องปอนด์เถียงกลับมา

“แต่ชุดนี้พี่ตั้งใจถ่ายมาก นี่นา จะทิ้งไปได้ยังไง ครั้งแรกของเราสองคนเชียวนะ” ธเนศเริ่มหน้าแดงจากประโยคที่พอจะเดาได้เลาๆว่า ครั้งแรก คืออะไร

“ไม่รู้ล่ะ ถ้าไม่ทิ้ง พี่พลก็นอนตรงระเบียงไปเลยก็แล้วกัน!!!” น้องปอนด์ตวาดกลับ ตามด้วยเสียงกระแทกประตูบานเลื่อนดังปัง ตามด้วยเสียงเรียกชื่อ เสียงทุบกระจกวุ่นวาย

สุดท้ายเมื่อคนที่น่าจะเป็นพี่พลเห็นว่าไร้ประโยชน์จะง้อ ธเนศจึงได้ยินเสียงทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นระเบียงพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ขอโทษที่รบกวนนะครับ” เมื่อเงียบไปพักใหญ่ เสียงของคนที่น่าจะเป็นพี่พลก็ดังขึ้นให้พอสะดุ้ง

ธเนศตอบกลับไป “ขอโทษที ไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังนะครับ” …ก็แค่ได้ยิน เขาไม่คิดจะเข้าไปยุ่งเรื่องชาวบ้านอยู่แล้ว

“ก็ไม่ได้ว่าอะไร…” ตอบกลับมา

แล้วชายหนุ่มทั้งสองก็เงียบไปอีกพักใหญ่ เมื่อเหตุการณ์ลุ้นระทึกจบลง ใจจึงกลับมาหมกมุ่นเรื่องเดิมที่น่าห่อเหี่ยวอีกครั้งหนึ่ง

...เขาจะทำยังไงดีนะ เพื่อจะได้เป็นผู้นำอย่างสมบูรณ์แบบ ก็พอเข้าใจอยู่ว่าโยก็ผู้ชาย จะให้ตามเขาตลอดก็คงไม่ได้ แต่มันก็ควรจะได้สลับบทบาทกันบ้าง ไม่ใช่ให้เขายอมให้เด็กหนุ่มควบคุมเสียทุกครั้งไป ปัญหามันก็อยู่ที่ โยเก่งเกินไปนั่นแหละ เขาไม่รู้ว่าโยผ่านประสบการณ์มามากน้อยแค่ไหน เขารู้แต่เพียงว่า เริ่มเล้าโลมทีไร เขาจะเป็นฝ่ายพลาดท่าเสียทีทุกครั้งไป

“...เฮ้อ~!!!...” ธเนศถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก็ต้องแปลกใจที่ได้ยินเสียงประสานมาจากระเบียงด้านล่าง

“ฮะๆ บังเอิญจังนะ” พลเป็นฝ่ายกล่าวทักก่อน

“นั่นสินะ” ธเนศตอบกลับอย่างมีไมตรี

...เงียบ...

“ไม่รู้ทำไมนะครับ” พลเริ่มชวนคุย “ผู้ชายเรา ก่อนหน้าที่จะคบกัน เราก็เป็นฝ่ายนำเขาตลอด ทำไมพออยู่ๆไป ถึงไม่เคยชนะเลยน้า”

บังเอิญจริงๆ อุตส่าห์กลุ้มใจเรื่องเดียวกันซะด้วย

“นั่นสินะครับ ไม่รู้ต้องทำยังไง ถึงจะเป็นฝ่ายนำกับเขาได้บ้าง” ธเนศตอบกลับอย่างเริ่มเห็นอีกฝ่ายเป็นพวกเดียวกัน ...ก็กลุ้มใจเรื่องเดียวกัน มันก็คงจะดีถ้าได้คุยระบายซะบ้าง

“คุณเคยมีของที่หวงมากๆมั้ย ประมาณว่าตัดใจทิ้งไปไม่ได้ แต่คนที่คุณรักก็สั่งให้ทิ้งๆๆอยู่ได้น่ะ ผมทำใจไม่ได้ซะทีแฮะ” เสียงกลั้วหัวเราะมันไม่ได้ทำให้ธเนศรู้สึกขำไปด้วยเลย เพราะมันเจืออารมณ์อาลัยอาวรณ์มาด้วย

“…จะฝากไว้กับผมมั้ยล่ะ อยากได้คืนเมื่อไหร่ค่อยมาเอาคืน ไม่ต้องเอาไปทิ้ง เขาก็ไม่รู้ด้วยว่ายังเก็บไว้อยู่” ด้วยความเป็นคนเผื่อแผ่ทำให้ธเนศยื่นข้อเสนอไป เพราะมันก็ไม่ลำบากอะไร ดีเสียอีกที่ได้ช่วยคนที่กำลังลำบาก

คนข้างล่างเงียบไป ก่อนจะพูดอย่างซาบซึ้ง “ขอบคุณจริงๆ คุณนี่มีน้ำใจดีจัง เอางี้ กลุ้มใจเรื่องอะไรอยู่ ผมช่วยมั้ยล่ะ”

ด้วยรู้สึกถูกชะตา ธเนศจึงเล่าเรื่องคาใจให้อีกฝ่ายฟัง จนเมื่อเล่าจบ เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ

“มันไม่ขำนะคุณ”

“ขอโทษที ไม่ได้ขำคุณหรอก แค่คิดว่ามันน่าจะมีวิธีแก้ง่ายๆ”

ธเนศหูผึ่ง “แก้ง่ายๆเหรอ?”

“เอางี้ ผมให้ยืมของ ยื่นมือลงมาสิ”

ธเนศยื่นมือผ่านรัวเหล็กดัด ลงไปด้านล่าง รู้สึกถึงวัตถุเย็นเยียบ กับของอีกสองสามอย่างถูกส่งเข้ามาในอุ้งมือ เมื่อชักมือกลับมาดู ดวงตาสีน้ำตาลเข้มก็เบิกกว้าง “นี่มัน!!!”

ประโยคสุดท้ายจากคนข้างล่างคือ “ลองเอาไปใช้ดูนะ...”


+++++++++++++++++++++++++++++++++++


“อือ” โยครางงัวเงียเมื่อรู้สึกถึงฝ่ามืออุ่นใหญ่ลูบไล้ไปตามตัว สติรางเลือนเริ่มแจ่มชัด ความทรงจำเร่าร้อนก่อนที่จะสลบไสลไปหวนกลับมา เขาหลับไปนานเท่าไหร่แล้วนะ

“พี่เนศ” เสียงหวานร้องเรียกผะแผ่วเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสวาบหวิวที่ส่วนกลางลำตัว ยกมือขึ้นกำลังจะจับมือใหญ่ ก็ต้องแปลกใจที่มันกลับยกไม่ได้ถนัดนัก เหมือนมีอะไรคล้องข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยกัน

“ตื่นรึยัง?” เสียงทุ้มห้าวน่าฟังดังอยู่ประชิดหู แต่น่าแปลกที่เมื่อลืมตาจะมองดูใบหน้าคนรัก กลับเห็นแต่ภาพดำมืด

เมื่อสติกลับมาครบถ้วนสมบูรณ์ คำตอบทั้งหมดก็กระจ่าง

...เขาถูกใส่กุญแจมือ ร้ายกว่านั้นยังถูกปิดตาอีกต่างหาก...

...พี่เนศเล่นอะไร???...

ยังงุนงงไม่หายก็ต้องสะดุ้ง ตกใจกับสัมผัสเปียกลื่นของนิ้วมือใหญ่ที่วนเวียนอยู่กับช่องทางด้านหลัง กลิ่นแปลกๆไม่คุ้นเคยโชยเข้าจมูก...พี่เนศเอาอะไรมาทาให้เขากัน??...

เมื่อนิ้วอุ่นวนเวียนรอบปาก ทางจนพอใจ ก็ค่อยๆสอดใส่ช่องทางเล็กแคบอย่างเบามือ แต่สัมผัสเบาบางที่ได้รับ ตอนนี้กลับมีความรู้สึกแปลกๆแทรกอยู่ โยรู้สึกกระสับกระส่ายอย่างบอกไม่ถูก เสียวซ่านอย่างที่ไม่เคยเจอ

“พี่เนศทำอะไร?” ถามเสียงสั่นอย่างแปลกใจที่วันนี้ พี่เนศของเขาแปลกไป

ไม่มีเสียงตอบกลับมา ตัวของเขาถูกจับพลิกหงาย รับรู้ถึงปลายลิ้นหนาเปียกไล้เลียอยู่บนยอดอก ขบเม้มเครื่องประดับชิ้นน้อยจนแข็งเป็นไต เมื่อพอใจกับข้างหนึ่งแล้ว ก็หันไปให้ความสนใจกับอีกข้างหนึ่ง ในขณะที่อีกมือก็ยังวุ่นวายกับช่องทางของเขาไม่หยุดหย่อน โยครางเสียงผะแผ่วอย่างห้ามไม่อยู่ กองไฟที่ดับไปเมื่อครู่ถูกพัดโหมให้กระพือแรงอีกครั้งหนึ่ง

“ชู่ว์” เสียงจุ๊ปากดังข้างหู ตามด้วยเสียงทุ้มของคนรัก “พี่จะเป็นคนทำให้เองนะ นายนอนเฉยๆไปเถอะ”

“พี่เนศปล่อยผมก่อนได้มั้ย? เล่นอย่างนี้ผมตกใจ อยากทำเดี๋ยวผมทำให้ก็ได้!!”

“ไม่ได้หรอก ปล่อยนาย เดี๋ยวก็ไม่ได้ทำให้พอดี”

คำตอบอย่างลืมตัวของธเนศทำ ให้โยเริ่มประมวลผลได้ พี่เนศไม่พอใจที่เขาเป็นฝ่ายนำนี่เอง...แต่ไม่ได้แกล้งก็ไม่ใช่โยซะแล้ว... ร่างบางคิดอย่างหมายมาดในใจ พยายามข่มความรู้สึกคันยิบๆตามตัวไว้ ก่อนที่จะเอื้อมสองมือน้อยไปประคองใบหน้าที่มองไม่เห็น

ปากแดงอิ่มแนบสนิทกับเรียว ปากบางของร่างสูง ไล้เลียปลายลิ้นหยอกเย้าอย่างเคยคุ้น ซึ่งธเนศก็คงจะลุ่มหลงกับรสหวานนี้เหมือนกัน ร่างสูงจึงแง้มปากให้โยได้สอดลิ้นเข้าไปรุกรานได้

สงครามปลายลิ้นดำเนินต่อไปได้ไม่นาน ธเนศจึงรู้ตัวว่าเสียท่าแล้ว แขนแกร่งจับบ่าบางไว้ ผลักแยกออกจากกันได้ในที่สุด

“พี่บอกแล้วไง ว่าเดี๋ยวทำให้เอง” …ไม่ไหว เกือบไปแล้ว เจ้าเด็กนี่มันจูบเก่งซะจริง...

“แต่พี่เนศ~ ผม...อา...ผมไม่ไหวแล้ว” ธเนศหน้าแดงแป๊ดกับภาพที่เห็นตรงหน้า ร่างบางผิวขาวผ่องในชุดแรกเกิด ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงเครื่องประดับเป็นสายหนังปิดตากับกุญแจมือ ตัวสั่นน้อยๆ ปากอิ่มเผยอขึ้นร้องอ้อนวอนเสียงหวาน เส้นไหมสีเงินไหลเล็ดจากมุมปากไล่ไปตามคางเรียว หน้าอกมีเครื่องประดับชิ้นน้อยสีสวยแข็งด้วยแรงอารมณ์ เมื่อมองไล่ไปด้านล่างก็ต้องกลืนน้ำลายดังเอื๊อกกับความปรารถนาเปลือยเปล่า ซื่อตรง

มือน้อยไล้ตามตัว ไล่ไปจนถึงแก่นกายเข็งแกร่งของร่างสูง เมื่อเจอจึงค่อยกอบกุมไว้ด้วยสองมือ อุ่นนุ่มจนธเนศเผลอครางอือ “ให้ผมทำให้พี่เนศนะครับ” โดยไม่รอคำตอบ ปากแดงอิ่มก็เข้าครอบครอง ลิ้มรสหอมหวานอย่างเต็มใจ ธเนศขนอ่อนลุกซู่ สูญเสียการควบคุมตัวในบัดดล

...เก่งเป็นบ้า...

เป็นความคิดซ้ำทุกๆครั้งที่ โยใช้ปากให้ มันทำให้สติหลุดลอยได้ไม่ยากนัก เมื่อรู้ตัวอีกครั้ง เขาก็กำลังเสือกเอว ดันแก่นกายเข้าไปยังโพรงปากร้อน ก่อนที่จะปลดปล่อยอารมณ์หฤหรรษ์จนหมดสิ้น

ยังพักไม่หายเหนื่อยดี  ก็ต้องถูกผลักนอนราบ ก่อนที่โยจะลุกขึ้นนั่งคร่อมอย่างชำนิชำนาญ เอวบางขยับโยก ร่อนละเลงเพลงรักอย่างเมามัน ทั้งด้วยอารมณ์ดิบตามสัญชาติญาณ ทั้งด้วยน้ำมันแปลกๆที่ร่างสูงเอามาใช้ ผสมปนเนแยกไม่ออกว่าเกิดจากอะไรกันแน่ ธเนศมองภาพของร่างบางปิดตากับกุญแจมือ นั่งแอ่นกายครางกระเส่าอยู่บนตัว ยิ่งรู้สึกว่าถูกโหมให้ไฟร้อนพัดพระพือแรงขึ้นเรื่อยๆ สะโพกแกร่งช่วยขยับตามลำดับ เมื่อมือใหญ่เข้ากอบกุมแก่นกายของเด็กหนุ่มก็ยิ่งพอใจกับเสียงกรีดร้องหวาน หู ร่างสูงปีนป่ายขึ้นยังจุดสูงสุด ระเบิดพร่างพรายก่อนจะรู้สึกถึงน้ำหนักของร่างบางที่ล้มแผ่ลงบนแผ่นอกชื้น เหงื่อ

+++++++++++++++++++++++++++++

...มีความสุข...

ธเนศยอมรับว่าบทรักที่เพิ่งผ่านพ้นไปนั้น สุดยอดจริงๆ ...แต่...

...สุดท้ายโยก็เป็นฝ่ายนำอยู่ดี...

...แล้วมันต่างจากเดิมตรงไหนฟร๊าาา?...

“คิดอะไรอยู่ครับพี่เนศ” กลิ่นสบู่หอมฟุ้งกระจายเข้าจมูก โยเดินมาจากข้างหลังเมื่อไหร่ไม่รู้ กอดบ่าแกร่งไว้หลวมๆก่อนจะโน้มหน้ามาหอมแก้มสากทีหนึ่ง

“ไม่มีอะไร” ธเนศตอบอย่างงอนๆ

เด็กหนุ่มยิ้มกริ่ม ยกนิ้วชี้ขึ้นจิ้มแก้มป่องๆเล่น “งอนที่ไม่ได้นำเหรอครับ ไม่เห็นเป็นไรนี่นา ยังไงพี่เนศก็มีความสุขไม่ใช่เหรอ?”

…มีความสุข...

...จริงด้วย...ยังไงก็มีความสุขไม่ใช่หรือ?...

ใบหน้าถูกอุ้งมือบอบบางจับหัน รับจุมพิตหอมหวานเนี่นนาน ก่อนที่โยจะถอนปากออกไป “ผมรักพี่เนศนะครับ”

หัวใจเต้นเป็นจังหวะแทงโก้ แก้มแดงก่ำด้วยความเขินอาย ธเนศก้มหน้างุดก่อนจะขอตัวไปอาบน้ำ ทิ้งให้เด็กหนุ่มยิ้มมองตามอยู่คนเดียว


+++++++++++++++++++++++++++++++


เมื่อประตูห้องน้ำปิดสนิท ตามด้วยเสียงน้ำฝักบัวไหลซู่ โยจึงค่อยลุกย่องไปทางตู้เสื้อผ้า เปิดประตูตู้ออก ก่อนที่จะหยิบกล้องวีดีโอเปี่ยมคุณภาพขึ้นมากดปุ่มหยุดถ่าย

…คิดถูกที่ตั้งกล้องไว้วันนี้แฮะ ได้ของดีโดยไม่คิดมาก่อนเลย...

หยิบแผ่นดีวีดีออกมาจากเครื่องอัด หากล่องเปล่าใส่อย่างทะนุถนอม ไม่ลืมคว้าปากกาเขียนซีดี เขียนหน้าแผ่นไว้กันลืม

...พี่เนศ # 5…

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
END

dawa_11

  • บุคคลทั่วไป
มาเป็นกำลังใจให้ทั้งคนแต่ง & คนโพสต์

playCardPlaYBoy

  • บุคคลทั่วไป
ต้องขอโทษที่โพสจบรวดเดียว จะย้ายบ้านวันนี้คับ ยังงัยกะลองโหวตดูน่า ชอบคู่ไหน ส่วนตัวผมชอบคิตตี้กะนัทคร๊าบบบบบบบ ลำเอียงอ่ะปล่าวเรา :m23:  ยังงัยกะลาก่อนเน้อ ไม่รู้เมื่อไหร่จาได้เข้ามาอีก  :m29:ย้ายลบ้านใหม่คงไม่เอาเน็ตเข้าอีกละ  :bye2:

ออฟไลน์ ( = ___ = )

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 605
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1

 :กอด1:คุณเพลย์(ขออนุญาตเรียกงี้)จายยยยดีจัง มาต่อให้จนจบเยย 

ว่าแต่...ย้ายบ้าน เอริ่ม....ย้ายแค่ที่อยู่หรือว่าย้ายไปตจว.อ่ะ

เหอเหอ แต่เรื่องย้ายบ้านนี่มันงานช้างชัดๆ ตอนเราย้ายอ่ะ หลังยอก
ปวดเมื่อยไปหลายวัน  ยังไงก็อย่ายกของเกินกำลังน้า


ต้องขอโทษที่โพสจบรวดเดียว จะย้ายบ้านวันนี้คับ ยังงัยกะลองโหวตดูน่า ชอบคู่ไหน ส่วนตัวผมชอบคิตตี้กะนัทคร๊าบบบบบบบ ลำเอียงอ่ะปล่าวเรา :m23:  ยังงัยกะลาก่อนเน้อ ไม่รู้เมื่อไหร่จาได้เข้ามาอีก  :m29:ย้ายลบ้านใหม่คงไม่เอาเน็ตเข้าอีกละ  :bye2:


แงแง ทามมายยยยอ่า ไงก็อย่าหายไปเลยน้า  :sad4: ใจหายอ่ะ
อุตส่าห์ติดตามอ่านมานาน
นะนะอย่าไปแล้วไปเลย เข้าเล้ามาให้เจอมั่งน้า..


ป๋อหลอ เราชอบคู่โย-พี่เนศอ่ะ เพราะโยน่าร๊ากกกก







Haney

  • บุคคลทั่วไป
สนุกโคดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
พี่เนศน่ารักกก
โยแรงได้จายยยยย ฮ่าๆๆๆๆ

เรื่องต่อไปคาดว่าเป็นเรื่องของกั๊ก กับ นายจุดจุดจุด แหง
จะรออ่านนะฮับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Tsukasa999

  • บุคคลทั่วไป
 :m15:อ๋า...ย้ายบ้านแล้วจะหยุดแล้วหรือคะ เสียดายค่ะ เขียนได้เก่งและสนุกขนาดนี้

อย่างไรก็ตามก็กลับมาทักทายแวะเวียนไปมาให้พอชื้นใจก็ยังดีนะ ขอให้การย้ายบ้านราบรื่น และโชคดีค่ะ :bye2:

totoken

  • บุคคลทั่วไป
นักเขียนในดวงใจเลยนะเนี่ย รักม๊ากมาก :o8: :oni1: :oni2:

ออฟไลน์ Tifa

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1474
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +417/-2
สุดยอดๆ

แต่งมารวมกันได้ดีมากเลย

ชอบจัง อิอิ

สุดท้าย โยก็ชนะเลิศ

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
 :laugh5: โอ๋...ดีใจจังมีคนโรงจิตเหมือนเราแล้ว นึกว่าเป็นคนเดียวซะอีก 5555555

พี่เชื่อว่าน้องโยต้องเอานิยายมาลงอีกแน่นอน เพราะเล้าเป็ดมีอาถรรใครเข้ามาแล้วมักออกไม่ได้ละ จริงๆๆๆๆ

nil

  • บุคคลทั่วไป
 :m1: :m1: :m1: :m1:

จบแล้วเหรอ ขออีกคู่นึงน๊า น๊า น๊า น๊า

 :m4: :m4: คู่กั๊กอ่ะ ท่าทางร้ายไม่เบาเหมือนกัน

ตอนแรกเนี่ย ยังคิดอยู่ว่าถ้าถามตอนไหนหนุกสุด ก็จะตอบว่าคู่นัทกะแน็ท

แต่พออ่านตอนแถมกะตอนพิเศษแล้วเนี่ย ชักเลือกไม่ถูก โยนี่ร้ายจริงๆ ขำอ่ะ แถมมีถ่ายคลิปไว้ตลอด

โรคจิตของจริง แพร่เชื้อไปถึงเนศเลยนะเนี่ย ดูสิเอาผ้าเช็ดตัวไปดมไปทำไป  :m20: :m20: :m20:

VitamiN

  • บุคคลทั่วไป
 o13
สุดยอด สุดยอด สุดยอด
โอววว
บอกไม่ถูก

ชอบหมดเลย :laugh:

ออฟไลน์ sin_no

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
ชอบคู่ โยกับพี่เนส และคู่นัทกับแน็ท มากๆเลย

สนุกมากๆ o13

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
จะมีต่อมั้ยคับ
มีมั้ยคับ
มีเถอะคับ
เพราะอยากอ่าน5555 o13

ชอบคู่แรก
555555555555555555555555555 :laugh:
โรคจิตได้อีก :m13:

ออฟไลน์ Shumi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
อ่า.. เรื่องนี้จะมีภาคต่อรึเปล่าน๊า

หรือมีแค่ 3 ภาค  o2

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
เอาไปหนึ่งบวก  เพื่อเป็นกำลังใจในการย้ายบ้าน

ขออวยพรให้  สรรพทุกข์  สรรพโศก  สรรพโรค สรรพภัย  สรรพเสนียดจัญไร  จงวินาสปราศจากคุณน้องนะเคอะ


ขอให้บ้านใหม่  อยู่ดีมีสุข เฮงๆๆๆๆ  นะเคอะคุณน้องขา



อิเจ้  กระเทยโคนเสาไฟฟ้า   :laugh:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ both^^

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +730/-4
เสียดายอยากให้แต่งอีกหลายๆ คู่เลยค่ะ

แต่งต่อเถอะน้า...


...ชอบสุดคงเป็นคู่ชวนันท์-นัท อ่ะ

ฮาดี :oni2:

ออฟไลน์ duchess

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 153
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-4
 :m4:

ป๋มชอบทุกคู่เรยคับ

แต่ชอบสุดๆก้อคงเปน

คู่พี่พล กะ น้องปอนด์ คับป๋ม

555+

อยากอ่านตอนพิเศษอีกคับ

รออยู่นะคร้าบ  :bye2:


thomaskung

  • บุคคลทั่วไป
พอได้อ่านยาวๆ ก็เหนื่อย

รออ่านเป็นตอนๆ ก็จะขาดใจตาย - -"

ขอบคุณมากฮะ

ที่เขียนงานดีๆ มาฝาก

 :bye2:

InLuSt

  • บุคคลทั่วไป
แง...หมดแล้วเหรอ
อ่านสองวันจบหมดแล้ว...
โรคจิตได้ใจ
ถามว่าชอบคู่ไหนเหรอ...
ต้องคู่พี่พลกะน้องปอนด์ดิ...ติดใจเพราะคู่นี้เลยแหละ

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
้เพิ่งอ่านตอน ๒ จบ ฮากลิ้งอะ ไอ้คิ๊ตตี้  :laugh: :laugh: :laugh:

oong

  • บุคคลทั่วไป
อ่านะ

ชอบภาคแรกอ่ะ น่ารักดี

แต่ภาค3 ก็น่ารักไปอีกแบบ 55+

แต่นิสัยโยนี่แบบว่าขำอ่ะ อ่านแล้วก็ขำไปตั้งหลายรอบ 555+

หนุกดีค่ะ  :m13:

Siri_nan

  • บุคคลทั่วไป
เพิ่งได้อ่านค่ะ น่ารักแบบหื่นๆ ดีค่ะ :laugh:

actionzero

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ the_pooh9

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 941
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-3
 o13 จิตมาก แต่ชอบนัท กะ คิตตี้ที่สู้ดเลยอ่ะ  :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด