แวะมาโพสท์ตอนพิเศษ
+++++++++++++++++++++++
ผมเปล่าโรคจิตนะ! พิเศษ 3
“โธ่เว้ย!!”
ธณัติถอดหมวกกันน็อคสะบัดหัวยิกเพื่อไล่เหงื่อ ปากก็สบถเสียงดังแบบไม่เกรงใจฟ้าดิน มองไปทางไหนก็มีแต่รถ...รถเต็มไปหมด ควันดำโขมงจนมองรอบด้านเป็นฝ้าฟาง...มะเร็งปอดไม่กินคนกรุงก็แปลกแล้ว ชายหนุ่มปาดแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นเพื่อมองเวลาจากนาฬิกาข้อมือ...
“แมร่ง!!!” แล้วก็สบถออกมาอีกรอบ
จะไม่ให้สบถได้ยังไง...ก็ติดแหง่กมา 2 ชั่วโมงเต็มแล้ว!...นี่ขนาดเขาขี่มอเตอร์ไซค์ยังไม่วายถูกกักบนถนนได้ เบี่ยงซ้ายก็เจอท้ายรถ เบี่ยงขวาก็เจอกระบังหน้า ไอ้ครั้นจะถอยหลังเพื่อนมอเตอร์ไซค์ร่วมชะตากรรมก็ดันอุดทางซะแน่นสนิท แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่จะถึงบ้าน ...คิดๆไปก็ชักจะปวดหัวหนับขึ้นมาทุกที ว่าแล้วก็ท่องบทสาปแช่งลูกค้าวีไอพี ที่ดันเอาเวลาวันศุกร์บ่ายแสนสุขของเขาไปซะฉิบ ไม่อย่างนั้นป่านนี้คงได้นั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถตากแอร์เย็นฉ่ำบนเบาะหนังแท้ชั้นดีของรถซีตรองซ์แล้ว...ไอ้เจ้าคิตตี้นี่ก็เหลือเกิน...แฟนกลับบ้านเย็นทั้งที ไม่รู้จักเป็นห่วงโทรตาม ส่งฮ.มารับเหมือนโฆษณาประกันชีวิตซะบ้าง ปล่อยให้สูดควันเหงือกดำอยู่อย่างนี้ได้ไง คอยดูเหอะ กลับบ้านจะเอาหัวโขกให้กระอักเลือดตาย ยิ่งปวดหัวอยู่ โธ่เว้ย!! โธ่เว...
/สาดเนี่ย สาดเนี่ยเนี่ย!!!/
ก่อนที่จะบ่นต่อไปอีกสองหน้ากระดาษ ริงโทนเฉพาะสำหรับคนรักสุดหัวใจก็ดังขึ้นขัดทัพซะก่อน เล่นเอาธณัติตกใจเกือบจะเขวี้ยงหมวกกันน็อคใส่หัวปิงปองตรงสี่แยกไปแล้ว
“ฮ...ฮัลโหล...อ่า...ม...ไม่ได้กำลังด่าอยู่นะ ไม่ได้นินทาด้วย...ซักนิดก็ไม่มี” จะด้วยความร้อนตัวหรือปวดหัวจัดหรืออะไรก็ตาม ธณัติก็ตอบอย่างนี้ออกไปแล้ว จนเมื่อระลึกได้ว่าพูดอะไรออกไป นิ้วโป้งนิ้วชี้ก็บีบหมับเข้าที่จมูก พูดเสียงสูงเป็นคนละคน
“สวัสดีครับ ผมว่าคุณชวนันท์โทรผิดเบอร์นะครับ ที่นี่ไม่มีคนชื่อธณัติหรอกครับ กรุณาโทรใหม่นะครับ ขอบคุณครับ” แล้วก็ตัดสายเอาดื้อๆ
/สาดเนี่ย สาดเนี่ยเนี่ย!!!/
น่าน...เชื่อฟังดีอีกต่างหาก ธณํติคิดพลางกดโทรศัพท์รับสาย ไม่ลืมปรับเสียงให้เป็นผู้เป็นคนเสียก่อน
“ฮัลโหล”
“อยู่ไหน” เสียงทุ้มห้วนวางอำนาจสไตล์ชวนันท์ดังขึ้นให้ปวดขมับจี๊ดๆเล่น
เลยทนไม่ไหว ต้องตอบออกไป... “อยู่บ้านบิดาคุณมั้ง”
ได้ผล...เงียบไปถนัด ก่อนที่เสียงปลายสายส่อบรรยากาศเย็นเยียบชวนขนลุกจะตอบกลับมา “อย่าล้อเล่น ไม่ขำ อยู่ไหน รีบกลับมาเดี๋ยวนี้”
มาว่าล้อเล่นอีก ทางนี้ก็อารมณ์บูดอยู่เหมือนกันนะเฟ้ย “รถติดแหง็กอยู่ที่สี่แยกที่สอง ทำไม จะส่งฮ.มารับหรือไง?”
“สี่แยกที่สองนะ โอเค อีก 5 นาทีเจอกัน” แล้วสายก็ตัดไปดื้อๆ ทำเอาคนหัวเสียแทบจะเขวี้ยงโทรศัพท์ขยี้ให้จมพื้นยางมะตอย “ไอ้คิตตี้บ้าเอ๊ย!! ก็บอกแล้วว่ารถติดๆ”
แต่พระเจ้าช่วยม้วยมอด! ไม่ถึง 3 นาที รถที่เคยติดตังเมมากว่าสองชั่วโมงกลับเริ่มเคลื่อนที่ ไฟแดงที่แดงมานานแสนนานกลับเปลี่ยนเป็นสีเขียวได้ ธณํติใส่หมวกกันน็อคบิดคันเร่งดังบรึ้น พลางงึมงำกับตัวเอง “อิทธิพลสูงส่งจริงๆฟ่ะ”
+++++++++++++++++++++++++++++++++
แล้วในที่สุดก็มาถึงห้องซะที ธณัติค้นกุญแจห้องในกระเป๋ามือเป็นระวิง “ก็ว่าใส่ไว้ช่องนี้นี่หว่า หายไปไหนล่ะเนี่ย”
แกร๊ก
ยังไม่ทันได้ไข ประตูก็เปิดออกมาก่อน ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น หวังจะได้เห็นใบหน้ากวนๆที่แสนคิดถึงมาทั้งวัน แต่ก็เป็นอันต้องหยุดหายใจ เหงื่อกาฬไหลพรากเต็มหลัง
หนุ่มใหญ่ร่างสูงกำยำในชุดเสื้อสูททับเชิ้ตสีพื้น ร่างกายที่น่าจะโรยราตามอายุที่มากขึ้นกลับฟิตเปรี๊ยะราวกับคนวัยหนุ่ม ดวงตาดำคมเหมือนชวนันท์ไม่ผิดเพี้ยน ทำไมธณัติจะไม่รู้จัก...ก็คนในกรอบรูปที่แขวนอยู่ตรงทางเข้าบริษัทของเขาเอง
ท่านประธาน...พ่อของชวนันท์
ร่างผอมพึมพำกับตัวเอง “มิน่า...ถึงว่าอย่าล้อเล่น”
+++++++++++++++++++++++++++++++
เปลวไฟจากไฟแช็คร้อนแรงราวกับจะแผดเผาธณัติที่นั่งจมโซฟาตัวสั่นให้วอดวาย ท่านประธานชยกรค่อยๆจ่อปลายบุหรี่เข้ากับดวงไฟ เมื่อติดดีแล้วจึงโยนไฟแช็คไว้กลางโต๊ะนั่งเล่น นั่งไขว้ขา สองแขนก่ายพนักโซฟา พ่นควันบุหรี่โขมง ชวนันท์เห็นดังนั้น จึงเกล็ดบุหรี่ขึ้นมาสูบบ้าง สองพ่อลูกจึงแข่งกันอัดควันเสียจนธณัติต้องแอบกระแอมไอออกมาเบาๆ
“พ่อมาทำไม?” ชวนันท์ถามก่อนจะดูดบุหรี่อีกเฮือกหนึ่ง
ชยกรพ่นควันขึ้นฟ้า คีบบุหรี่ด้วยท่าที่สาวๆเห็นคงอ่อนระทวยกันเป็นแถบ “ช่วงนี้ได้ข่าวว่ามีคนมาขออาศัยอยู่ด้วย?” ไม่พูดเปล่า ยังอุตส่าห์ปรายตามาทางธณัติที่นั่งเรียบร้อยก้มหน้าวิจัยปลายเท้าตัวเองเสียอีก
...ตายแน่!!! ถ้าท่านประธานรู้ว่า...เขาไม่ใช่แค่มาขออาศัยอยู่ล่ะก็... ธณัติกระพริบตาปริบๆเพราะซองขาวมันมาหลอนดวงตาอยู่ตงิดๆ
“ก็แค่มาขออาศัย แล้วพ่อจะทำไม” ชวนันท์ใช้ดวงตาคมกริบมองบุพการีตัวเอง
ธณัติยิ่งห่อไหล่กว่าเดิม รู้สึกเหมือนทั้งห้องมันมีกระแสไฟฟ้าแล่นแปลบปลาบยังไงก็ไม่รู้
“ไม่คิดจะแนะนำให้พ่อรู้จักหรือไง”
“นัท” ธณัติสะดุ้งโหยงกับเสียงของชวนันท์ที่จู่ๆก็เรียกเขา ชายหนุ่มตบโซฟาข้างตัวเองแปะๆเชิงบังคับให้ย้ายที่นั่งมาอยู่ข้างกาย ซึ่งตอนนี้ลูกหมาไร้เขี้ยวอย่างธณัติจะทำอะไรได้ นอกจากปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย
“ธณัติ ฝ่ายวางแผนระบบฯของบริษัท” คำแนะนำแรกโอเคเยี่ยมกู้ด ธณัติชักเห็นทางรอดอยู่รางๆ หวังว่าท่านรองจะสามารถรักษาความลับและรักษาเก้าอี้ตำแหน่งวางแผนระบบแสนจิ๊บจ้อยของเขาไว้ได้นะ
“...เป็นคนรักของผมเอง”
...เงียบ...
ชยกรอัดควันบุหรี่ต่อ หลับตาหน้าเครียด ปากบางเฉียบพูดเบาๆ “คนรัก?” มือใหญ่คีบบุหรี่บดขยี้ลงกับจานเขี่ยจนแหลกละเอียด กัดฟันกรอดๆ “ลูกไม่รักดี”
ธณัติเริ่มใจเสีย กลัวตกงานก็กลัว...แต่ตอนนี้ที่กลัวมากกว่าคือการต้องแยกจากคนที่รักสุดหัวใจข้างๆนี่ต่างหาก... ร่างผอมหลับตาปี๋พูดท้านรก “คุณพ่อครับ!! ผม...คือ...เรารักกันจริงๆ ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน ถึงจะเป็นลูกน้องกับเจ้านาย หรือถึงแม้ว่าคุณแน็ทจะชอบคิตตี้ ยังไงผมก็รักจริงหวังแต่งนะครับ โปรดอณุญาตให้พวกเราคบกันต่อด้วย อย่าดุด่าคุณแน็ทเลยครับ ผมยินดีรับผิดชอบลูกชายของคุณพ่อเอง!!!”
...เงียบ...
ชยกรพูดลอดไรฟัน “ใครอณุญาตให้เรียกพ่อ?”
ธณัติกำมือแน่นกัดฟันสู้ เขาจะแพ้ไม่ได้!! เขาคงทนไม่ได้ถ้าจะไม่ได้เจอชวนันท์อีก “ขอโทษครับท่านประธาน”
“ท่านประธาน?” เสียงทุ้มทวนคำเบาๆ เย็นเยียบเสียจนขนอ่อนที่คอธณัติลุกชัน
...แม้แต่ท่านประธานเขาก็เรียกไม่ได้หรือ? นี่เขาถูกไล่ออกแล้วใช่มั้ย?... น้ำตาลูกผู้ชายเริ่มเอ่อคลอเบ้า ในใจคิดคำนวณสะระตะ ค่าผ่อนคอนโดอีกหนึ่งปี ค่ากินค่านอน ค่าที่อยู่กรณีที่ถูกไล่ออกจากที่นี่ ค่า....
“อะแฮ่ม!!” ชยกรกระแอมไอ “เราน่ะ ชื่อธณัติใช่มั้ย?” ว่าพลางตบโซฟาบังคับให้ย้ายมานั่งข้างตัวเองแทน
“...ค...ครับผม” ธณัติลุกออกจากข้างกายชวนันท์ เปลี่ยนมานั่งข้างท่านประธานแทน โดยไม่สนใจแรงดึงจากมือใหญ่อบอุ่นของชวนันท์...เขาต้องสู้!!
แต่แล้วก็ต้องเบิกตากว้างอย่างงงงวย เมื่อมือใหญ่ของชยกรจับหมับลงที่ขาอ่อน “เรียกว่าพ่อมันแก่เกินไป เรียกว่าคุณอาดีกว่า ว่าแต่ สนใจจะเปลี่ยนมาอยู่กับอามั้ย?”
พลั่ก!!!
ยังไม่ทันตั้งตัว หมัดลุ่นๆของชวนันท์ก็เหวี่ยงใส่หน้าผู้เป็นพ่อเสียแล้ว ชยกรกุมแก้มตัวเองพลางตะโกนเสียงดัง “กล้าต่อยพ่อเรอะ ไอ้ลูกทรพี!!!”
“คนนี้ของผม พ่อห้ามยุ่ง!!!” แขนผอมๆของธณัติถูกกระชากดึงเข้าอ้อมอกร่างสูง
“หนอย! ไอ้ลูกไม่รักดี มีเด็กน่ารักๆอย่างนี้ในบริษัทก็ไม่รู้จักรายงาน ดันเก็บไว้เองซะนี่” อีกแขนก็ถูกท่านประธานดึงกลับมา
“แล้วคนเก่าของพ่อไปไหนเล่า!?” ชยนันท์ไม่ยอมแพ้ ดึงธณัติกลับมาไว้ข้างตัว
“เด็กบ้าๆพรรค์นั้นฉันเบื่อแล้วเฟ้ย!” ชยกรจะคว้าตัวร่างผอมกลับ แต่ชวนันท์กลับรู้ทัน ซ่อนตัวธณัติไว้หลังตัวเอง
“เขาทนรสนิยมพ่อไม่ไหวล่ะสิ!” ธณัติที่อยู่ด้านหลังเริ่มได้สติ ...ฟังพ่อลูกเถียงกันก็สนุกดีเหมือนกันแฮะ...ว่าแต่รสนิยมอะไรกัน
“แล้วแกล่ะ โตจนป่านนี้ยังบ้าคิตตี้อยู่อีก ไม่เป็นลูกผู้ชายเอาซะเลย ไอ้ลูกไม่รักดี! มันต้องนี่!!!” ว่าพลางล้วงมือเข้าใต้เสื้อสูท
ธณัติที่แอบชะโงกหน้าโผล่พ้นบ่าหนาของชวนันท์มาดูถึงกับอึ้งไปสามวินาที
“เฮอะ!” ชวนันท์สายหัว ส่งเสียงเฮอะเยาะเย้ย “ก็แค่อุลตร้าแมน” ว่าพลางเหล่ตามองตุ๊กตาฮีโร่หัวบากอย่างเหยียดหยาม
โครม!!! เท้าเบอร์เก้ายันโครมเข้าท้องน้อยร่างสูง เล่นซะชวนันท์ทนไม่ไหวต้องคู้ตัวลงกอดท้องตัวเอง “อย่าดูถูกอุลตร้าแมนนะเฟ้ย”
“หนวกหูน่า!! อุลตร้าแมนก็อุลตร้าแมนสิเฟ้ย ฮีโร่เก่าคร่ำครึพรรค์นั้นน่าสนใจตรงไหนกัน!!!” ไม่ว่าเปล่า มือใหญ่จับหมับเข้าที่ขาคุณพ่อ ลากพรืดเดียวก้นชยกรก็เจ้าเบ้าลงกับพื้นพรม
“แล้วไอ้ตุ๊กตาคิกขุน่ารักของแกล่ะฟะ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น” ฝ่ายคุณพ่อก็ไม่ยอมแพ้ ถีบเท้ายิกๆจนอีกฝ่ายต้องปล่อยมือ
“พ่อนั่นแหละ...” ธณัติที่หนีออกมาจากวงต่อสู้ได้หอบหายใจแฮ่กๆหลังพิงประตู นี่เขาจริงจังไปเพื่ออะไรฟะเนี่ย!!...พักยังไม่ทันหายหอบก็ต้องหน้าคว่ำลงกับพื้นเมื่อประตูที่พิงอยู่ดันถูกถีบโครม ธณัติที่แก้มแนบพื้นอยู่ตาเหลือกกับส้นเข็มสูงปรี๊ดที่ปักลงเฉียดจมูกเขาไปเซ็นเดียว
เมื่อเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องเจอกับหญิงสาวเปรี้ยวจี๊ดในชุดแส็กสวยงาม เจ้าหล่อนเดินดุ่มๆฝ่าวงสงครามราวกำลังย่ำอยู่บนแค้ทวอล์ค
“โอ๊ย!!!” ใช้เวลาไม่นาน ใบหูของท่านประธานก็ถูกดึงลากขึ้น
“กลับบ้าน” เสียงใสไพเราะพูดเบาๆก่อนจะลากร่างสูงใหญ่ออกจากห้องไป เหลือเพียงเสียงร้องโหยหวนที่ห่างไกลออกไปเรื่อยๆ
...
“เอ่อ...” ธณัติเอ่ออย่างงงงวย...ทุกอย่างมันผ่านไปเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน
ชวนันท์จุดบุหรี่มวนใหม่พลางอัดควันเข้าปอด “พ่อทะเลาะกับแม่น่ะ”
“บ้านคุณนี่...สุดๆเลยนะ” ...ในหลายๆความหมาย...ธณัติพูดพลางถอนหายใจโล่งอก ในที่สุดพายุก็ผ่านไป ...
“หวา!!!” แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ทั้งตัวก็ถูกยกขึ้นจากพื้นเสียก่อน “เล่นอะไรเนี่ย ไอ้คิตตี้!!”
ริมฝีปากถูกปิดประกบแนบแน่นนาน ก่อนที่ชวนันท์จะถอนปากออก กระซิบเบาๆข้างหูให้ขนลุกเล่น “ฉันดีใจที่เธอบอกว่ารับผิดชอบ บอกว่ารักฉันนะ”
“พูดอะไร จำไม่เห็นได้” ธณัติใบหน้าร้อนผ่าว แสร้งหันไปวิเคราะห์เจ้าเจมส์ในห้องนอนแทน...ว่าแต่ทำไมห้องนอนมันใกล้เข้ามาเรื่อยๆหว่า
ตัวถูกโยนเด้งดึ๋งลงบนเตียงหลังใหญ่ ตามด้วยน้ำหนักกดทับ แน่นหนาแต่อบอุ่น “จำไม่ได้งั้นจะทำให้พูดอีกทีดีมั้ย”
“ว๊ะ...”
ยังร้องไม่ทันจบ ริมฝีปากก็ถูกปิดลงอีกครั้งหนึ่ง ร่างผอมรับรู้ถึงสัมผัสนุ่มนวลของเรียวลิ้น มือบางทั้งสองข้างยกขึ้นเกาะเสื้อร่างหนาจนยับยู่ เป็นเวลาเดียวกับที่ดวงตาสีน้ำตาลเข้มค่อยๆปิดลง
...คืนนี้คงได้บอกรักอีกหลายครา...
+++++++++++++++++++++++++++++++
END